ความคิดเห็นที่ 1 มาอีกแล้วกระทู้แบบนี้...คราวนี้มารอฟัง จากคุณ : กระจ่างชัด - [ 19 ก.พ. 51 13:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รอฟังด้วย คน จากคุณ : หงษ์สู้เว้ย - [ 19 ก.พ. 51 14:25:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รอฟังด้วยอีกคนค่ะ จากคุณ : Mashiboro - [ 19 ก.พ. 51 14:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อเร็วๆ นี้มีคนเคยตั้งกระทู้แบบนี้ค่ะ ไม่รู้ยังอยู่หรือเปล่า เพราะว่าคนมาเล่าเยอะมากๆ ค่ะ รวมทั้งเราด้วยล่ะ จากคุณ : leslie - [ 19 ก.พ. 51 15:09:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เคยนอนคว่ำหน้าที่โรงแรมในมาเลย์ เห็นขาอยู่ข้างเตียงครับ ย้ำว่าเห็นแต่"ขา" แต่จนมาบัดนี้ก็ไม่อยากจะเชื่อตัวเอง คิดว่าสะลึมสะลืออยู่มากกว่า เล่ารวดเร็วไปมั๊ยนี้แต่ผมขี้เกียจเก็บดีเทลมาก 5555 จากคุณ : Lost Lollipop - [ 19 ก.พ. 51 15:09:59 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ ^ ^ ^ ^ ความเห็นที่ 4 คะ search ดูแล้วไม่มีอ่ะ T_T อยากฟังอีกอ่ะ เล่าให้ฟังหน่อยนะคะ จากคุณ : จขกท. (only_pink) - [ 19 ก.พ. 51 15:25:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ความเห็นที่ 5 รวบรัดตัดตอนดีมากอ่ะ - -" แต่ก็น่ากลัวนะ ^ ^ จากคุณ : จขกท (only_pink) - [ 19 ก.พ. 51 15:27:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จะเล่าให้ฟังแต่ก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ เป็นเรื่องขอป้าเราเองแหละ  วันนั้นเมื่อ 3 - 4 เดือนก่อนมาป้าไปผ่าตัดมาและนอนพักฟื้นอยู่  ประมาณตี 3 - ตี 4 ขณะกำลังหลับ ๆ อยู่นั้นก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องพักผู้ป่วยเข้ามา  เผอิญป้านอนหันหลังให้ประตูอยู่ ก็เลยหันไปดู ก็เห็นผู้ชายแต่งตัวคล้ายบุรุษพยาบาล เดินเข้ามา  ก็จะถามว่าหมอมาตรวจดีกจัง  แต่ไม่ทันได้ถามก็ออกอาการอ้าปากค้างเพราะคนที่ป้าเห็นนั้นไม่แม้แต่จะหันหน้ามาที่เตียงแต่เดินผ่านแบบลอย ๆ ไป เลื่อนไปผ่านเตียงออกไปทะลุประตูด้านระเบียงออกไปเลย  เท่านั้นป้าก็รู้แล้วว่าถูกผีหลอก  ป้าบอกอีกว่าเห็นหน้าไม่ถนัดนักเพราะเพิ่งตื่นตอนได้ยินเสียงประตูเปิดแล้วสายตาคนแก่ นะน่ะก็ออกฝ้าฟางไปบ้าง จากคุณ : tigor - [ 19 ก.พ. 51 16:06:36 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เคยอ่านเรื่องของคุณพิม ที่เคยเป็นแอร์โฮสเตส ตอนนี้เธอเขียนเรื่องลงในพลอยแกมเพชรเป็นประจำทุกฉบับ บางตอนเขียนเรื่องผีได้น่ากลัวมากๆ เธอเป็นคนเจอผีบ่อย คงจะมีเซนส์เรื่องนี้มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเวลาไปนอนโรงแรมที่ญี่ปุ่น บางทีลืมตามาเห็นหน้าผีอยู่เกือบติดหน้าเธอประมาณนี้เลยค่ะ แล้วมีน้ำหยดๆลงบนหน้าเธอด้วย จำได้ไม่มาก แต่นั่นไม่ใช่ครั้งเดียวที่เธอเจอ มีเจอบนเครื่องบินด้วย.. ไปหาอ่านดูนะคะ เขียนสนุกด้วยค่ะ จากคุณ : Kinny - [ 19 ก.พ. 51 16:06:57 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ต่อค่ะต่อไม่รู้ไปโดนปุ่มส่งตอนไหน .... ป้าก็เลยปลุกคนนอนเฝ้าให้ตื่นทันที  เพราะแกขวัญเสียมากที่โดนหลอกจัง ๆ แบบนี้ แกเลยใช้ให้คนเฝ้าไปใส่บาตรให้ตอนเช้าเลย  ถามคนเฝ้าก็บอกไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย.... จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง (tigor) - [ 19 ก.พ. 51 16:10:29 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โทร 1900-1900-13 เลยดิ จากคุณ : แมวเบ๊บ - [ 19 ก.พ. 51 17:09:43 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ว้าย!!!!! ผีทะเล (น่ากลัวพอปะ?) จากคุณ : ILoveBP - [ 19 ก.พ. 51 17:28:20 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อันนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแฟนผมนะครับซึ่งผมเองไม่รู้ตัวมาก่อน มีวันหนึ่งไปเที่ยวใน กทม. แล้วหาที่พักกันจากนั้นเจอโรงแรมหนึ่ง (สามดาว) มีห้องว่างอยู่ห้องเดียว ที่เลือกเพราะว่าเคยมาพักที่นี่บ่อย ซึ่งเค้าบอกว่าเป็นห้องดีลัก ผมก็ตกลงเอาห้องนี้จากนั้นก็เดินเข้าห้องตามปกติ (อยู่ชั้นบนเกือบสุด ยี่สิบกว่า) ก็รู้สึกแปลก ๆ ว่าห้องอื่น ๆ ที่เราเคยพักไม่เหมือนห้องนี้ ห้องนี้เป็นห้องที่ตกแต่งใหม่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายเพราะคิดว่าทุกห้องคงเหมือนกัน (ไม่ได้มานาน) หลังจากนั้นก็อาบน้ำนอนตามปกติหลังจากนั้นผมก็ไม่รู้เรื่องแล้วหลับสนิท พอเช้ามาแฟนก็แปลก ๆ บอกว่ากลับเหอะ ผมก็งง ว่าทำไมถึงรีบจัง แต่พอออกมาเท่านั้นแหล่ะ ขนลุกเลย แฟนผมบอกว่าเมื่อคืนรู้สึกยังไงบ้าง ผมบอกว่า "เปล่านี่แต่รู้สึกเมื่อย ๆ ก็เท่านั้น" จากนั้นเค้าบอกว่าเค้านอนไม่ได้เลยเมื่อคืน ผมถามทำไมล่ะ ก็หลับสนิทดีนี่ เค้าบอกว่า "เมื่อคืนนี้อยู่ดี ๆ ผมก็หันมาแล้วก็พูดอะไรไม่รู้ (เสียงไม่เหมือนผมเลย) จากนั้นผมก็เหมือนจะปล้ำเค้าแต่เค้าก็ตกใจ เรียกผมใหญ่เลยแต่ผมเองก็ไม่รู้สึกอะไรจนเค้าตีผมใหญ่เลยจนผมนิ่งไป หลังจากนั้นเค้าก็เปิดไฟนอนทั้งคืน" ผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น จากนั้นก็ไม่ไปที่นั้นอีก แต่มีอีกเรื่องนึง แต่เอาเรื่องรอดู ความนิยมของเรื่องแรกก่อน อีกเรื่องนี่น่ากลัวกว่าอีก จากคุณ : kennyinthai - [ 19 ก.พ. 51 17:47:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขออนุญาตแนะนำบล๊อกของคุณแรมโบ้มัม คนอะไรเจอ ... บ่อยมากค่ะ แต่ไม่อิจฉานะคะ เพราะไม่อยากเจอ 555 http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=rambomom&group=4 จากคุณ : กาแฟขม - [ 19 ก.พ. 51 19:11:17 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ kennyinthai คะ เล่าเรื่องที่ ๒ ต่อเถอะค่ะ เรื่องแรกก็น่ากลัวดี อยากฟังเรื่องที่ ๒ อีกอ่ะค่ะ นะคะนะมาเล่าต่อเถอะค่ะ นะ นะ ^ ^ ส่วนคุณกาแฟขม เคยเข้าไปอ่านแล้วค่ะ น่ากลัวโคตร - -" จากคุณ : จขกท. (only_pink) - [ 19 ก.พ. 51 19:32:38 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องที่สอง อันนี้เป็นเรื่องของเพื่อนซึ่งเค้าไปเที่ยวกับแฟนมาแล้วมาเล่าให้ฟังสด ๆ ร้อน ๆ เค้าไปเที่ยวระยองกันสองคนซึ่งช่วงที่เค้าไปมาเป็นช่วงเทศกาลพอดีซึ่งคนเยอะที่พักเต็ม และแน่นอนจะเหลือแต่ห้องที่ไม่ค่อยมีคนได้เข้าไปพัก และเพื่อนเราก็ไปอยู่เป็นคอนโดฯ แถว ๆ ระยอง (ริมทะเล) จากนั้นเค้าก็พักกันในคืน นั้นเองเค้าก็บอกว่าตอนที่นอนรู้สึกว่าได้ยินเสียกดชักโครก ในห้องน้ำครับ ได้ยินบ่อย ๆ เหมือนมีคนอยู่ในห้องน้ำครับ เค้าก็ไม่สนใจนอนดีกว่า จากนั้นก็เริ่มรู้สึกว่ามคนนั่งที่ปลายเตียง แล้วรู้สึกว่า เตียงมันยวบ ๆ ด้วยครับ (อันนี้เค้าบอกว่ารู้สึกจริง ๆ) จากนั้นเค้าก็เริ่มหลีตาดูที่ปลายเตียง เห็นเป็นผู้หญิงนั่งอยู่ครับ เค้าแบบว่าไม่ไหวแล้วเล่นมานั่งตรงนี้เลย ไม่ไหวแล้วเปิดไฟดีกว่า ก็เลยเปิดไฟนอน แล้วก็เปิดทีวีด้วย จากนั้นก็นอนกัน หลังจากนั้นเค้ารู้สึกว่าจะสว่างแล้วครับ ก็เลยปิดไฟ ปิดทีวี นอนดีกว่าแล้วค่อย check-out แต่มันไม่จบเท่านั้นครับ เจออีกครั้งครับ เค้าบอกว่าเหมือนมีคนมาจับที่ขาของเค้าครับ เค้าตกใจมาแต่ไม่สามารถขยับตัวใด ๆ ได้ แล้วจากนั้นพยายามที่จะดิ้นให้หลุด แต่ทำยังไงก็ไม่สามารถทำได้ครับ แต่แทนที่จะรู้สึกว่าถูกจับขา แต่ดันไม่ใช่แค่จับคือรู้สึกว่าตัวเองถูกดึงอยู่พยายามให้ดึงตกจากเตียงที่เค้านอนอยู่ เค้าถูกลากลงมาเรื่อย ๆ ครับ เค้าตกมาครึ่งตัวแล้วเค้าเลย แผ่เมตตาสวดมนต์ใหญ่เลยเค้าก็ค่อย ๆ ขยับตัวได้ครับ จากนั้นปลุกเพื่อนที่นอนอยู่ด้วยแล้วก็บอกว่ากลับเหอะ เลยออกจากห้องนั้น Check-out ทันทีแล้วไปถามคนข้างล่างเค้าบอกแต่เพียงว่า ที่น้องเล่ามาเหมือนกับคนที่เคยมาพักที่นี่เลย แล้วห้องที่ไปพักคนแถวนั้นบอกว่ามีคนเคยถูกฆ่าตายที่เตียงในห้องนั้น เค้าบอกว่าน้องคนไปนอนทับที่เค้าแน่ ๆ ทางที่ดีแวะไหว้พระก่อนกลับก็ดีนะ โห ขนาดพิมพ์ไปด้วยยังขนลุกเลย ระวังหลังนะครับขณะอ่าน จากคุณ : kennyinthai - [ 19 ก.พ. 51 22:22:52 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เคยไปนอนเฝ้าแม่ที่รพ. หลับๆอยู่ กลางดึก แม่ปลุกเรา บอกว่าให้เรียกพยาบาล น้ำเกลือจะหมด ก็เรียกพยาบาล แล้วก็นอนต่อไป ตื่นมาตอนเช้า แม่บอกให้ไปซื้อพวงมาลัย โดยไม่ได้บอกรายละเอียด เราก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเค้าคงจะเอามาไหว้เจ้าที่เฉยๆ น้องชาย เคยมานอน2-3วัน แล้วก็ไม่มานอนอีก เราก็นอนเฝ้าแม่คนเดียว ทุกคืนจนแม่ออกจากรพ. (ประมาณเดือนนึงค่ะ) มารู้ทีหลัง.....  คืนนั้นมีคนปลุก เหมือนพยาบาล แต่ใส่ชุดคนละสี เค้าเรียกแม่เรา บอกว่าน้ำเกลือจะหมด แม่ลุกมาดู พบว่าน้ำเกลือจะหมดจริงๆ น้องชายเคยมานอน ก็นอนไม่ได้ บอกว่ามีเสียงเด็กเล่นกัน แม่เราก็ได้ยินเหมือนกัน แต่ไม่มีใครเล่าให้เราฟัง เพราะว่ากลัวเราไม่กล้านอน เค้ากะแล้ว ว่าเราไม่เจอแน่ๆ เพราะเรานอนไม่รู้เรื่องอะไรเลยอ่ะ หลับสนิททุกคืนอีกต่างหาก จากคุณ : n_nink - [ 19 ก.พ. 51 22:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ราวปี พ.ศ.2513 ผมทำงานอยู่ที่บริษัทซ่อมเครื่องบินทั้งเครื่องบินรบของอเมริกัน และพาณิชย์ของไทย บ่ายวันหนึ่ง เครื่องเอฟโร่ ของบริษัทเดินอากาศไทย ปัจจุบันไปรวมกันเป็นการบินไทยหมดแล้ว เอฟโร่ลำนั้นถึงเวลาต้องเข้าตรวจเช็กตามระยะเวลาพอดี ก็แท็กซี่เข้ามาที่ลานจอดซ่อม ใครจะเป็นคนแท็กซี่ จำไม่ได้ว่าเป็นนักบินเอง หรือช่าง พอเข้ามาถึง ก็มีช่างลากช็อคเข้าไปเพื่อวางขวางล้อ ไม่ให้เลื่อนได้ แต่ช่างเข้าไปทางลอดใต้ใบพัด เพราะนึกว่า เครื่องยนต์ดับแล้ว อันที่จริง ก็ดับแล้วแหละ แต่ใบพัดยังหมุนอยู่ ใบพัดก็ฟาดศรีษะช่างคนนั้น หัวแบะสมองกระจาย ตายคาที่ต่อหน้าเพื่อนช่าง แล้วเราก็ซ่อมเครื่องบิน เปลี่ยนใบพัด เช็กเครื่องว่าแท่นเครื่องยังดีอยู่ เรียบร้อยแล้วก็ปล่อยเครื่องบินไปบินรับ-ส่งผู้โดยสารต่อ ไม่กี่วันหลังจากนั้น เครื่องก็เข้ามาที่ลานซ่อมอีก แบบไม่มีรายการ แต่นักบินแจ้งว่า ขณะกำลังบินอยู่สองสามเที่ยวบิน รู้สึกแปลกแปลก หันมามองเครื่องยนต์ เห็นคนนั่งอยู่บนโดมใบพัด บินไม่ไหวแล้วโว้ย ต้องทำบุญเครื่องบิน เจิมใหม่กันยกใหญ่ แถมเจ้าใบพัดที่ถอดรอซ่อม ยังไม่ได้ทำความสะอาดล้างเลือด ก็มีใครไม่รู้ไปยกออกจากแท่นมาสองครั้ง ห้องใบพัดแทบไม่มีใครกล้าเข้าไปซ่อม ก็เลยต้องทำบุญกันในโรงซ่อม ต่อหน้าเจ้าใบพัดมหากาฬอันนั้นด้วย เรื่องจริงนะครับนี่ ใครอยู่ไทยแอมตอนนั้น จำได้แน่นอน จากคุณ : xebec - [ 20 ก.พ. 51 00:17:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เปิดมากระทู้นี้ตอนดึำกๆ ซะด้วย ต้องทำใจกล้า อ่านไป ระวังหลังไป เพิ่งไปต่างจังหวัดกลับมา เป็นเมืองเก่าทั้งนั้น โชคดีที่โรงแรมที่พัก ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น ตอนไปพักก็ไม่ได้นึกถึงเรื่องพวกนี้เลยนะเนี่ย แหะๆ ดีนะที่ได้อ่านกระทู้นี้ตอนกลับมาแล้ว ไม่งั้นตอนไปพักต่างจังหวัดต้องนอนระแวงแน่ๆ เลย เพราะทั้งสองโรงแรมที่พัก ไม่เคยไปพักมาก่อนด้วย ไม่รู้ประวัติอ่ะ อ้อ ถึงแม้จะไม่เจอผีโรงแรม แต่ที่ทำงานผมนี่ มีคำเล่ารือเรื่องพวกนี้เหมือนกัน เอาไว้ เจอกับตัว เอ๊ย เจอคนที่มีประสบการณ์เรื่องนี้ แล้วจะเก็บมาเล่า ให้ฟังนะครับ เพราะตัวเองก็ไม่เคยเจอ (และไม่อยากเจอด้วย) บรื๋อ..............อ จากคุณ : ouise - [ 20 ก.พ. 51 00:38:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านนะครับ อันนี้แฟนเจอที่ถนนพระรามที่เก้าก่อนขึ้นสะพานที่จะลงไปแยกตัดกับรามคำแหง ตอนนี้นประมาณสองทุ่มกว่ารถติดมาก แฟนนอนอยู่ จู่ๆก็ก็ลุกขึ้นมาจับตัวเราแล้วบอกว่าเห็นผู้ชายใส่เสื้อสีแดงคนนั้นหรือเปล่า เค้าชะโงกหน้ามาจนชนกระจกรถยืนจ้องแฟนเรา เราก็เลยหันไปดูรอบๆรถแต่ปรากฏว่าไม่เจอใครเลย จากนั้นมาก็มีอยู่ครั้งนึงที่เล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็บอกว่าเคยเห็นผู้ชายใส่เสื้อสีแดงนั่งเล่นอยู่บนขอบราวสะพานตรงที่เดียวกันกับที่แฟนเราเจอเลย พอรถผ่านไปหันไปดูอีกทีก็หายไปแล้ว มันแปลกตรงที่ว่าทั้งสองคนเจอชายใส่เสื้อสีแดงเหมือนกัน ณ จุดเดียวกัน เลยอยากถามว่ามีใครเคยเจอผู้ชายเสื้อแดงคนนี้อีกบ้างหรือเปล่าตรงสะพานถนนพระรามเก้าก่อนถึงแยกรามคำแหง จากคุณ : XYLON - [ 20 ก.พ. 51 08:25:33 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แง๊ ... อยากจับเข้าของกระทู้มาตีนัก ... เข้าใจตั้งกระทู้นะเนี่ยะ อ่านกลางวันๆยังสยอง ... แต่เรื่องของอาหมูน่ากลัวที่สุดอ่ะครับ ... ถ้าผมไปเยี่ยมอาหมูอย่าเล่าเรื่องนี้อีกนะคราบบ .... สยอง จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 20 ก.พ. 51 09:13:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เรื่องนี้ ฉายเก่า-ฉายใหม่ ก็ยังเป็นที่นิยมฟังของสมาชิกประจำ.....เอาเป็นว่าผมขอเล่าเรื่องเก่าที่เคยลงไว้และกัน เพราะเคยลงไว้และมีสมาชิกบอกว่าน่าสนใจดี....เหอออ     ค่ำวันหนึ่ง...... เป็นวันมาฆบูชาเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ผมได้มีความคิดที่จะเที่ยวใกล้ๆ กทม. เนื่องจากอยากพักผ่อนสักนิดหน่อย...จึงได้ม่งหน้าสู่ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา ซึ่งขณะนั้น ยังเป็นอะไรที่นักท่องเที่ยวยังน้อยมาก ยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าใดนัก.....รีสอร์ทต่างๆ น้อยมาก เรือดูหิ่งห้อยมีประมาณ 2 เจ้า แต่คืนวันนั้นเป็นคืนวันพระใหญ่ ทำให้มีพุทธศาสนิกชนรวมถึงนักท่องเที่ยวมากมาย กว่าปรกติ ........    ผมก็ได้เดินเที่ยวชมตลาด ทานอาหาร นั่งเรือชมหิ่งห้อย(สมัยนั้นถ้าในคลองยังเป็นเรือแจวอยู่เลยได้บรรยากาศดีครับ แต่ถ้าจะดูรอบใหญ่จะเป็นเรือหางยาว)   จนถึงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม  ผมจึงแวะไปไหว้พระในโบสถ์ เวียนเทียน จากนั้นก็ถามสมาชิกที่มาด้วย 1 ท่าน ว่ากลับเลยนะ สมาชิกท่านนั้นแจ้งว่า ยังไม่อยากกลับไปนอนที่ชะอำ-หัวหินกันไหม ผมก้เริ่มคิดก็เห็นจะดีเหมือนกัน ระยะทางพอจะสู้ไหวน่า......     ผมจึงออกเดินทางจากอัมพวาประมาณ 3 ทุ่มได้ จึงให้สมาชิกท่านนั้นโทรถามโรงแรมต่างๆ ที่สนใจ แต่แล้วผมก็ได้นึกขึ้นได้ว่า....สมัยเรียน ป. ตรี ผมได้จัดรับน้องที่โรงแรมแห่งหนึ่งแถวๆ....หาดเจ้าสำราญ ซึ่งถ้าพูดง่ายๆ คือ  เข้ามาทางที่จะไปหาดเจ้าฯ ผ่านพระราชวังบ้านปืนตรง มาเรื่อยๆ ก่อนถึงหาดฯ จะพบทางแยก 4 แยก ถ้าตรงไป ไปชายหาด  ซ้ายจะไปรีสอร์ท......  และทางขวา จะเป็นเส้นเลียบหาด ซึ่งไปออก ชะอำได้ ในเวลาทั้งกลางวันและกลางคืนจะเงียบและเปลี่ยวพอสมควร จะมีบ้านและที่พักเป็นช่วง ๆ   สำหรับโรงแรมที่เราจะไปพักนั้น จะต้องเลี้ยวไปทางขวา.....สาเหตุที่มาที่นี่เนื่องจาก ตอนเรียน มารับน้องที่นี่กันเกือบทุกปี ไม่ว่าจะคณะผม หรือคณะอื่นๆ  แทบจะถือว่าคิดไรไม่ออกก็มาที่นี่กัน  แทบจะผูกขาดกับที่นี่ เพระสะดวก ด้วยพื้นที่ จำนวนห้องพัก ทั้งสว่นโณงแรมและรีสอร์ทเป็นหลังติดทะเล และเราสามารถขอจองปิดทั้งโรงแรมได้ ผมจึงคิดว่าก็ดีนะเรามาพักที่นี่เผื่อได้รำลึกถึงบรรยากาศเก่าๆ .....   จากเส้นทางประมาณ 4 ทุ่มกว่า ๆ 5 ทุ่ม ผมเดินทางมาถึงเส้นทางที่จะเข้ามายังหาดเจ้าฯ ซึ่งสมาชิกก็น่าจะทราบว่ายามดึกแถวนั่นเปลี่ยว เงียบ ขนาดไหน.....สองข้างที่ที่เป็นบ้านคน ชุมชน และก็จะเป็นป่าหญ้า ที่รกร้าง พลุน้ำ เป็นต้น จนสมาชิกที่นั่งมาด้วยชักกลัวๆๆ และถามว่าจะมาที่ไหน ผมก็ยืนยันว่าเป็นโรงแรมที่โอเค ประมาณ 2-3 ดาวได้(ในตอนที่ผมเคยมา) จนมาถึง 4 แยกดังกล่าว มีป้อมตำรวจเปิดไฟสว่างแต่ไม่มีตำรวจ เราจึงเลี้ยวขวา ขับไปได้สกัพัก ก็จะเห็นตัวโรงแรมที่เปิดไฟอยู่อย่างเด่นชัดเพราะแถบนั่นไม่มีโรงแรมที่พักอื่นๆ เลย จะมีก็เป็นขนาดเล็ก ๆ แต่ที่แปลกใจว่าทำไมคนพักน้อยจัง (ดูจากไฟห้อง)  ผมก็คิดว่าอาจจะนอนกันหมดแล้วมั้ง..... และแล้วเราก็มาถึงประตูทางเข้าโรงแรมผมก็เลี้ยวซ้ายเข้าไป อึ้งแรก ทางซ้ายมือ จะมีเครื่องมือหนัก พวก รถไถ่ รถบรรทุกน้ำ และอะไรอีกมากมายที่เก่า หักพังจอดอยู่  ถัดไปเป็นพวกต้นไม้ที่ตัดทิ้งไว้ กองสูงมากๆ ซึ่งมองว่า ทำไม่เป็นเช่นนี้ มันคือภาพลักษณ์โรงแรมเลยนะ  ผมจึงขับรถเข้ามาด้วยคิดว่าคงไม่มีอะไร ....พอมาถึงลานกว้าง ๆที่จอดรถ  งงที่2  รถจอดเก๋งประมาณ 3 คัน  ก็คิดต่อไปว่างอาจจะเป็นกรุ๊ปทัวร์ ก็ได้ รถที่จอดกันน้อย......  ด้วยบรรยากาศประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ ติดทะเล มืด ๆด้นไม้สูงใหญ่ ต้นมะพร้าว ต้นสนที่ลู่ลม พระจันทร์ที่เต็มดวง ทำให้บรรยากศในคืนนั้นน่ากลัวแปลกๆ ดีครับ........ผมก็จอดรถ แต่สมาชิกผมกลัวครับว่า ไปพักที่อื่นไหม ผมบอกว่ามาดุก่อนถ้าไม่ดีก็ย้ายเพระไปชะอำอีกหลายสิบกิโล ผมเริ่มๆ เหนื่อยแล้ว และวันนี้โรงแรมหลายๆ ที่เต็มแล้ว เอาเป็นว่าลองดูก่อน เธอก้เลยลงมากับผม ผมก็รอสัก 5 นาทีได้จนมีน้องเจ้าหน้าที่ต้อนรับเดินมา....ที่หอ้ง ผมก็แนะนำตัวพรอ้มทั้งแจ้งความประสงค์จะเข้าพัก ก็ได้คำตอบและการต้อนรับที่ดีจากน้องท่านนั้นทันที น้องเขาบอกว่าหลังๆ นี้ ทาง มหาลัย พี่ไม่มาเลยนะ ผมก็บอกว่าไม่ทราบจริง ๆ ครับ เพราะจบมานานและ และได้ถามน้องเขาว่าระบบน้ำที่นี่ดียัง คือที่นี่จะมีขอ้เสียอย่างว่า ถ้าลูกค้าเยอะๆ และใช้นำพร้อมๆ กันน้ำจะไม่ไหลในชั้นสูงๆ และล่างลงมาจะไหลอ่อนมากๆ จากคุณ : torti - [ 20 ก.พ. 51 09:44:48 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ต่อนะครับ....   น้องเขาบอกว่า ดีขึ้นและค่ะ แต่เดียวนี้คนมาเที่ยวแถวนี้น้อยลงมาก ส่วนใหญ่จะเลยไปชะอำ-หัวหินเลย.......จะได้ก็คงเป็นพวกทัวร์ หรือคณะมากกว่า  ด้วยความที่ผมเริ่มเพลีย ง่วงมากๆ จึงขอดุห้อง แต่ก้ได้ขอทราบและต่อรองราคากับน้องเขา นอ้งเขาลดให้ทันที 40% จากราคาเต็มที่ขาย งงที่ 3 ที่คิดว่าทำไมช่วงวันหยุดยอมลดให้แต่น้องเขาแจ้งว่าเป็นลูกค้าประจำ เลยลดให้......  จากนั่นก็มีแม่บ้าน 2 ท่านมานั่งรอหน้าห้อง น้องเขาก็ได้เรียกให้แม่บ้านพาไปดูห้อง  งงที่ 4 ปรกติ น่าจะเป็นน้องเจ้าหน้าที่ผู้นั่น พาผมไป แต่ก็อืมๆๆไม่ได้คิดไรต่อ ยังคิดบวกต่อไป.....แต่สมาชิกที่มาด้วยเริ่มคิดลบและครับ....และงงที่ 5 แม่บ้าน 2 คนนั่นต่างเกี่ยงกันไปพาผมไปชมห้อง.....ผมก็ อะไรหว่าจะเกี่ยงกันทำไมหว่า.........จนมีแม่บ้านใจกล้าท่าน 1 ยอมเสียสละพาผมไปดูห้อง ชั้น 3  ระหว่างทางเดินไปลิฟท์ซึ่งไม่ไกลมาก แต่เกิดคำถามในใจกันมากมาย...จนขึ้นลิฟท์ตัวเดิม ๆ เล็กๆ ที่มี 2 ตัว  ลิฟท์ก็ช้าซะเหลือเกินเพราะเก่ามากมายและ แม่บ้านก็ถามผมชวนผมคุย ถามว่ารู้จักที่นี่ได้ไง ผมก็ตอบและถามกลับว่าทำไมคนน้อยจัง เขาก็ตอบเหมอืนน้องพนักงานแต่มีสีหน้า ท่าทางแปลก ๆ พอถึงชึ้น 3 ปุ๊ป ประตูเปิดแม่บ้านเดินหันไปทางขวาทันที ไม่มองข้างหน้าและก้มๆๆ หน้า ผมก็งงนิด ๆ แต่ด้วยที่ไม่คิดอะไรมาก แต่สมาชิกผมคิดไปมากขึ้นเรื่อยๆ  ผมแม่บ้านพาผมมาดูห้องที่ 3 ถัดจากห้องแรกที่ประตูลิฟท์เปิด( ลิฟท์จะอยู่กลางตึก จะมีห้องทั้งทางปีกซ้าย-ขวา  ตัวตึก จะหันหน้าเข้าพื้นที๋โรงแรม แต่ด้านประตูห้องจะหันเข้าพื้นทีรกร้างด้านข้าง อากาศขณะนั้นเย็นๆ วังเวงๆๆ พิลึก  เปิดเข้าไปก็อึ้งๆ ครับ ห้องมีขนาดกว้าง กลิ่นพรมที่เหม็นอับ  สภาพหัวเตียงที่มีรอยไม่สมบูรณ์คือ ถลอก หัก พัง ทีวีขนาดเล็กๆ ที่ดูไม่ค่อยจะสมบูรณ์เท่าใด สมาชิกผมเปิดไปทีห้องน้ำ  ฝาถังน้ำชักโครกไม่มี เปิดฝัวบัว ก็มีน้ำรั่ว แถมมีถังน้ำขนาดใหญ่มาให้  งงที่ 6 และครับ  ระเบียงหน้าห้องที่มีฝุ่น สกปรกมากมาย  ก้เริ่มมีคำถามจากผม ผม         :  ห้องอื่นๆ ไหม.. แม่บ้าน    :  เต็มหมดแล้วคะ ผม         :   รถก็ไม่เยอะนี่ครับ ปิดไฟหลายห้อง แม่บ้าน    :  ทัวร์ลงค่ะ    ผมมองหน้าสมาชิก สมาชกผมแจ้งด้วยสายตาที่เย็นชากว่า ว่า ถ้านอนที่นี่ ก็ไม่ต้องมาคุยกันอีกเลย และรีบไปจากที่นี่โดยด่วน ฟรีฉันยังไม่นอนเลย...จนผมเข้าใจสายตาเธอ และบอกว่า ไปก้ได้แต่รักษานำใจและมารยาท แจ้งแม่บ้านว่า โอเคครับและผมก็เดินนำออกมา แต่ งงที่ 7 แม่บ้านรีบๆ ปิดแอร์ ไฟ ทันที และระหว่างผมทีก่ำลังะจเดินออกจากห้อง เขาก็ชวนคุยขึ้นทันที เหมือนจะประวิงเวลาว่า รอฉันด้วย......    ผมก็เลยได้คำถามว่าทำไมสระน้ำไม่มีน้ำและมีแต่ใบไม้ลงและลูกค้าจะเล่นได้ไง เขาบอกว่ากำลังปรับปรุงค่ะ..... ถามต่อว่าบ้านที่เป็นรีสอร์ท อะคับ สภาพโอเคไหม ดีอยู่ไหม เขาบอกว่า ส่วนใหญ่ปรับปรุงค่ะ พักได้บางหลังและเต็มแล้วลูกค้าเข้าเต็มหมด...ก็งงว่าเต็มและไมคนน้อยจังรถก็ไม่มี.... จนเธอปิดประตูห้อง...และเดินมา ถึงลิฟท์ แม่เจ้าตาขึ้นมาไม่ได้สังเกตุ เพราะมืดและมองแต่แม่บ้านที่จะพาไปที่ห้อง ผมเจอสิ่งมหัศจรรย์ครับ ห้งอตรงหน้าลิฟท์ มียันต์สีแดงปิดอยู่ที่ประตูและผนังบนกำแพง  ประตูถูกล๊อกด้วยกุญแจ แม่กุญแจ  กลางประตูมีตะปูตอกอยู่ พร้อมทั้งสายสิจน์พันรอบๆ ตะปู และมีโยงไปบนขื่อประตูไปตามผนังทุกห้องในชั้นนั้น..... ผมก็เริ่มเอะใจและ งงที่ 8 เป็นงงที่สุด ตะลึงที่สุด ด้วยสิ่งที่เห็นตรงหน้ากับบรรยากาศ 5 ทุ่มกว่าๆ มันช่างเข้ากันจริง ๆ อากาศเย็นลมทะเล มืดๆ สลัวๆ กะสิ่งทีเจอที่ประตุห้องนั้น ความคิดเริ่มเตลิดไป จนได้รับการยืนยันอีกครั้งจากสมาชิกด้วยกการหยิกเบาๆ ว่า ไม่เอานะ ที่นี่ไงก็ไม่เอา ....แม่บ้านก็ไม่ยอมมองไปที่ประตูพร้อมทั้งมองแต่ที่ลิฟท์เท่านั้น.........และเป็นลิฟท์ที่มาช้าที่สุดในชีวิตผมเลย.... พอประตูเปิด ผมก็เข้าไปแม่บ้านก็รีบเข้ามาเช่นกัน ผมไม่ตอ้งถามอะไร เพียงมองตาก็เข้าใจตรงกันผมกับแม่บ้าน แจ้งว่า พี่ไม่พูดนะค่ะ แต่น้องคงเห็นและเข้าใจเองว่ามันอะไร......ครับพี่ผมเดาไม่ยากครับ...  พอลงมา แม่บ้านเธอก็กระจายตัวไปหาแม่บ้านอีกคนส่วนน้องเจ้าหน้าที่เดินแยกมาคุยกะผมพร้อมทั้งแจ้งให้ทราบว่า ยอมที่จะลดให้ 50% เลย พรอ้มอาหารเช้าค่ะ ผมและสมาชิกแจ้งแก่ใจและว่า.....ฟรีก็ไม่เอา..........ผมจึวงขอบคุณน้ำใจน้องเขามากและพูดตรงๆ ว่าทำไมเดียวนี้เป็นแบบนี้ เพียงแค่ 4 ปี แต่ทำไมโทรมแย่ได้ขนาดนี้.........นอ้งเขาแจ้งว่ากำลั้งปรับปรุงค่ะ ผมเลยบอกว่างั้นพี่ขอไม่พักและกันนะ เดี่ยวจไปดูที่ ชะอำและกันขอบคุณครับ ผมและสมาชิกจึงเดินมาที่รถ ขณะนั้นห้องรับรองปิดไฟและน้องเจ้าหน้าที่และแม่บ้านได้รีบเดินหายไปจากตรงนั่นทันที ผมก็เลยขับรถออกมา พอออกมาจากรั้วโรงแรมก็งงว่าทำไมไม่มียามรักษาการณ์............พอเลยออกมาตอ้งมาผจญกะทางที่มืดเปลี่ยวอีก ขนหัวลุกกันทั้งทาง ตลอดทางยันที่พักที่ชะอำ พอมาถึงที่พักที่ เมธาวลัย ช่างต่างกันลึบลับ......... อาจจะดูไม่น่ากลัว อาจจะยังไมเจอ แต่สภาพตอนนั้น สุดบรรยายครับ..... จากคุณ : torti - [ 20 ก.พ. 51 10:15:44 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เพิ่งมาอ่านกระทู้อีกทีก็ตอนบ่ายแล้ว net ที่ทำงานใช้ไม่ได้ตั้งแต่เช้า พอได้อ่านแต่ละกระทู้สุดยอดเลยค่ะ น่ากลัวอ่ะ แอร์ก็เย็น น่ากลัวสุดๆ ของคุณ xylon น่ากลัวอ่ะ เห็นภาพเลย ขนลุก มาเล่ากันอีกนะคะ เดี่ยวกลับบ้านจะเข้ามาอ่านอีกค่ะ ^ ^ จากคุณ : จขกท. (only_pink) - [ 20 ก.พ. 51 15:49:13 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เคยเห็นเงาคน บนกำแพงตรงปลายเตียง 2 คน ห้องที่พัก อยู่ชั้นที่23 จะว่าเป็นเงาต้นไม้ ก็ไม่ไหวค่ะ ชั้น23ต้นอะไรจะมาทำเงาให้ดู จบค่ะ จากคุณ : zmint - [ 21 ก.พ. 51 17:38:53 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เคยเจอแต่เสียง กับเงา นะครับ ดึกแล้ว ตี 1 ได้มั้ง ก็ปิดไฟหมดเลยแต่เปิดทีวีเอาไว้ ตั้งปิดอัตโนมัติ ก็กะว่าก่อนนอน จะไปเข้าห้องน้ำแล้วจะเปิดไฟห้องน้ำทิ้งเอาไว้ แต่ก็เผลอหลับไปมาตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียง คล้ายๆคนดันประตู ก็เลยสะดุ้งแล้วก็ตกใจตื่น แต่มันมืดมากๆ ก็เลย เปิดไฟหลี่ที่หัวเตียง (หลี่ได้ใจจริงๆ) แล้วก็เดินไปดูตรงตาแมว ไม่เจออะไรเลย แล้วตอนหันหลังกลับมา เหมือนเงาคนครึ่งท่อน ยืนแอบตรงหลังผ้าม่าน ตรงระเบียง เห็นแต่ท่อนล่างถึงแค่หน้าอก (ถ้าเป็นเงาตัวเองก็ไม่ใช่ เพราะไฟที่เปิดอยู่มันอยู่ตรงหัวเตียง แต่นี่ผมยืนอยุ่หน้าห้องน้ำตรงประตูทางเข้า ) ขาก็เลยเป็นแบบอัตโนมัติเข้าไปอยู่ในห้องน้ำเลย แล้วก้เปิดไฟในห้องน้ำ พยายามรวบรวมความกล้าออกมาดู ก็ไม่มีอะไร คืนนั้นเลยเปิดไฟนอนจนเช้าเลย จากคุณ : คนไม่ดีในสายตาคนดี - [ 22 ก.พ. 51 09:00:30 A:161.246.68.76 X:161.246.1.36 TicketID:149047 ]