Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ข้อมูลบางส่วนสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว "สิมิลัน" ครับ

    พอดีเพิ่งกลับจาก "หมู่เกาะสิมิลัน" ถึง กรุงเทพฯ เมื่อเช้าที่ผ่านมา (25 กพ.) เห็นว่า เพื่อนๆ หลายคนกำลังวางแผนไป และก็มีคำถามหลายๆ อย่างเกี่ยวกับ "สิมิลัน" ก็เลยมาเขียนเล่าให้ฟังว่า ที่ไปมาเป็นอย่างไรบ้างครับ

    ผมเดินทางด้วยรถ บขส. VIP 24 ที่นั่ง (ไป 2 คน) เมื่อวันพุธที่ 20 กพ. รถออกที่สายใต้ใหม่ (บรมราชชนนี) เวลา 19.30 น (ค่ารถ 896 บาท ซื้อที่ หมอชิต 2) รถไปจอดที่ท่าเรือทับละมุประมาณ 7.30 น ก็ไปติดต่อที่ แจ๊ค สิมิลัน เพื่อลงทะเบียนรายงานตัวว่ามาแล้วครับ (จริงๆ ผมจองตั๋วเรือไว้กับ คุระบุรี กรีนวิว ในงานท่องเที่ยวเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ คุระบุรี กรีนวิว เค้างดให้บริการเฉพาะ สิมิลัน ชั่วคราว และเค้าก็เลยฝากให้ แจ๊ค สิมิลัน ดูแลแทนครับ) ต่อไปขอเรียก "แจ๊ค สิมิลัน" ว่า "บริษัททัวร์" นะครับ เพราะอ้างอิงไว้เยอะเหมือนกัน

    ขึ้นเรือ Speed Boat ประมาณ 9 โมงเช้า ตอนแรกที่สอบถามก่อนมาได้ความว่า จะแวะดำน้ำที่เกาะ 9 ก่อน แล้วพามาที่เกาะ 8 แล้วตอนบ่ายค่อยไปเกาะ 4 (สำหรับกรณีที่ในเรือมีกรุ๊ป one day trip หรือ ที่ทัวร์จะต้องพาไปเที่ยวด้วย) แต่พอดีว่า คนที่ซื้อเฉพาะเรือไป-กลับ (เช่นเดียวกับผม) มีเยอะพอสมควร ดังนั้นเลยจัดเรือไปส่งเพียงอย่างเดียว (ประมาณ 24 คน) โดยมุ่งหน้าตรงสู่เกาะ 8 ก่อนเลย

    เนื่องจากคืนแรกผมค้างที่เกาะ 8 ก่อน ดังนั้น ก็เก็บของลงเรือมาเลย (ส่วนคนที่พักเกาะ 4 เค้าก็ให้แวะถ่ายรูปก่อน แล้วค่อยนั่งเรือต่อไปเกาะ 4) เช็คกับอุทยานฯ เรื่องที่พักเต๊นท์ ที่จองไว้แล้ว ก็เก็บของเข้าเต๊นท์เลย

    สอบถามเรื่องการดำน้ำตื้นของอุทยานฯ ในตอนบ่าย มีคนไปแค่ 5 คน (รวมกรุ๊ปผมด้วย) เลยได้ไปเรือ "ดิ๊งกี้" หรือ เรือยางติดมอเตอร์ นั่นเอง ในช่วงที่อยู่ที่ "สิมิลัน" ผมว่าคลื่นค่อนข้างแรง (ความรู้สึกส่วนตัว) ไม่รู้ว่าปกติจะแรงขนาดนี้หรือเปล่า เพราะเล่นน้ำที่เกาะคลื่นก็แรงเหมือนกัน การนั่งเรือ "ดิ๊งกี้" ออกไป สนุกมากๆ เหมือนเล่น banana boat เลยทีเดียว เพราะคลื่นแรง นั่งค่อนข้างกระแทก (ส่วนตัวผมสนุก แต่แฟนไม่สนุกด้วย) และจุดดำน้ำคลื่นก็สูง ดำน้ำตื้นได้แป๊บนึงก็เหนื่อย (คลื่นสูงแบบบางลูกมองไม่เห็นหัวคนข้างหน้าเลยอ่ะ) ได้ดำน้ำเพียง 2 จุด ก็ไม่ไหวแล้ว เลยกลับเข้าเกาะ 8 ใช้เวลาไป 1.30 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ปกติรอบละ 200 บาท แต่เนื่องจากไปไม่ครบจำนวน (กลับก่อน) เค้าเลยคิด 150 บาทครับ (ราคานี้เฉพาะค่าเรือและชูชีพ ไม่รวมอุปกรณ์ดำน้ำตื้นอื่นๆ เช่น หน้ากาก, ท่อหายใจและตีนกบครับ)

    ตอนเย็นทานอาหารของอุทยานฯ ระบบโรงอาหารของอุทยานฯ คือ ถ้าคนไม่เยอะ สามารถสั่งอาหารตามสั่งในเมนูของอุทยานฯ ได้ แต่ ถ้าคนเยอะ (ทำอาหารตามสั่งไม่ทัน) ก็จะมีอาหารประมาณ 5-6 อย่างให้เลือก อาหารที่เกาะ 8 จะถูกกว่า เกาะ 4 นิดหน่อย (ข้าวเปล่า เกาะ 8 จานละ 10 บาท เกาะ 4 จานละ 20 บาท) แต่ราคาเครื่องดื่มจะเท่ากัน น้ำเปล่า 600 cc 20 บาท, น้ำเปล่า 1.5 ลิตร 40 บาท, น้ำอัดลมกระป๋อง 30 บาท, เบียร์ช้างกระป๋อง 50 บาท, เบียร์สิงห์กระป๋อง 60 บาท ชา, กาแฟ, โอวัลติน แก้วละ 30 บาท มาม่าคัพก็มีขาย แต่ไม่ได้ถามราคามาครับ เพราะนำไปกินเอง (น้ำร้อนฟรี)

    วันที่ 2 เนื่องจากเห็นว่ามาคราวนี้คลื่นค่อนข้างแรง ก็เลยคิดว่าคงจะไม่ไปดำน้ำอีก เพราะตั้งใจไว้ก่อนหน้านี้ว่า ทริปนี้ไม่เน้นดำน้ำ อยากจะมานั่งๆ นอนๆ บนเกาะเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว ตอนสายจึงขึ้นไปถ่ายรูปที่หินเรือใบ ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 10 นาที ทางขึ้นค่อนข้างลื่น ควรจะใส่รองเท้าที่มีดอกหนาๆ หรือ ใช้เท้าเปล่าเดินขึ้นไปจะสะดวกกว่า จุดอันตรายจะมีเชือกให้จับอยู่แล้ว ถ้าไม่ประมาท สามารถขึ้นได้ทุกคนครับ

    ตอนเที่ยง เตรียมตัวย้ายไปนอนที่เกาะ 4 นัดกับทางบริษัททัวร์ฯ ไว้ประมาณเที่ยง พอสอบถามแล้วเค้าเห็นว่า คนที่จะไปเกาะ 4 (พวกซื้อเฉพาะเรือไป-กลับ) มี 12 คน ไม่สามารถนำไปรวมกับกรุ๊ป one day trip ที่มากับเรือตอนแรกได้ (จำนวนคนเกิน) จึงนำเรือไปส่งที่เกาะ 4 โดยเฉพาะก่อน แล้วค่อยกลับมารับกรุ๊ป one day trip อีกครั้งหนึ่ง (ตอนนั้นพวก one day trip กำลังทานข้าวเที่ยงอยู่บนเกาะ 8)

    หลังจากได้เต๊นท์แล้ว ก็ขนของเข้าเต๊นท์ เล่าเรื่องเต๊นท์ซะหน่อย เต๊นท์ที่เกาะ 4 จะมีขนาดใหญ่กว่าที่เกาะ 8 (เปรียบเทียบหลังที่ผมพักนะ) ที่เกาะ 4 สามารถนอนได้ 4 คน สบายๆ ส่วนเกาะ 8 นอนได้ 3 คน ในเต๊นท์ จะมีที่รองนอน, หมอน, ถุงนอน (เต๊นท์ผมที่เกาะ 4 ไม่มี แต่ไปดูที่เต๊นท์คนอื่นเค้ามีกัน แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะไม่ได้ใช้อยู่แล้ว เนื่องจากอากาศร้อน) ที่คล้ายๆ กันอีกอย่างคือ เศษทราย ภายในเต๊นท์ ใครจะพักเต๊นท์ต้องทำใจนิดหน่อยเพราะคงจะไม่สะอาดเอี่ยมอ่อง (ขอยืมไม้กวาดมากวาดได้ครับ) แต่สามารถนอนได้เพราะมีแผ่นปูรองนอนอยู่แล้ว เข้าใจว่า บางช่วงคนเยอะมาก ทำความสะอาดไม่ทัน บางเต๊นท์ (เต๊นท์ที่ผมนอนที่เกาะ 4 นั่นแหละ) ชั้นมุ้งตาข่ายด้านหน้ามันขาดเป็นรู จะนอนเปิดเต๊นท์ก็ไม่ได้ เพราะยุงมันเข้าได้ ต้องนอนปิดทึบ (เฉพาะด้านหน้า) มันเลยทำให้ร้อนเป็นพิเศษ (ผมนอนได้ แต่แฟนบ่นนิดหน่อย)

    ตอนบ่ายแก่ๆ เดินลัดเลาะไปยังหาดเล็กที่อยู่อีกฝากนึงของเกาะ เดินประมาณ 300 เมตร เป็นทางราบเดินสะดวก คนเยอะเหมือนกัน หาดเล็ก จะมีปลาเยอะกว่าหาดหน้า หลังจากที่ one day trip กลับไป คนจะน้อยมากๆ ครับ

    ตอนเย็น ก็เดินไปจุดชมพระอาทิตย์ตกดิน จากหาดหน้าเดินไปทางบ้านพัก "ปายัง" และ "ปาหยัน" จะมีป้ายเล็กๆ บอกทางไปจุดชมพระอาทิตย์ตกดิน เดินขึ้นๆ ลงๆ ประมาณ 300 เมตร ทางเดินเรื่อยๆ ไม่มีปีนป่ายเท่าไหร่ครับ

    วันที่ 3 เนื่องจากตัดสินใจว่าจะไม่ดำน้ำ ก็เลยไม่ได้ถามเลยว่า อุทยานฯ จะไปดำน้ำที่ไหนบ้าง แต่นั่งดูคนที่ขึ้นเรือไป มีทั้งเรือหางยาว, เรือท้องแบน และเรือ "ดิ๊งกี้" ออกไปทั้ง 3 ลำ

    ตอนบ่าย เดินขึ้น "ลานข้าหลวง" ไปทางเดียวกับทางไปหาดเล็ก แต่แยกขึ้นไปก่อนถึงหาดเล็กประมาณ 50 เมตร ทางเดินขึ้นไปประมาณ 350 เมตร (ตามป้ายบอก) ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ทางขึ้นต้องปีนป่ายบ้าง เหมาะกับคนที่สมบุกสมบันเล็กน้อย (ไม่ต้องมากมาย) เพราะต้องปีนเชือกจริงๆ แต่ไม่อันตรายครับ ถ้าไม่ประมาท เจ้าหน้าที่อุทยานฯ บอกว่า ควรขึ้นเวลาบ่ายๆ แบบนี้ เพราะข้างบนจุดชมวิว จะร่มเย็นพอดี เพราะดวงอาทิตย์จะไปอยู่อีกฟากนึงแล้ว ถ้าขึ้นช่วงเช้าหรือเที่ยงจะร้อน ซึ่งก็จริงอย่างที่เค้าบอก ขึ้นไปถึงเย็นสบายดีจริงๆ มองลงมาเห็นวิวหาดเล็กด้วย

    ตอนค่ำ เจ้าหน้าที่พาไปดู "ปูไก่" แต่ผมไม่ได้ไป เห็นเค้าไปกันประมาณ 20 นาที สอบถามคนที่ไปมา เค้าบอกว่า เจ้าหน้าที่ต้องไปจับมาให้ดู เพราะมันอยู่ลึกเข้าไปในป่าน่ะครับ

    ตอนดึก นั่งดูบอลจาก Truevision ในโรงอาหารบนเกาะ 4 เจ้าหน้าที่เค้าชอบดูอยู่แล้ว ช่วงกลางวัน ถ้าใครต้องการดูอะไร ก็ลองไปนั่งในโรงอาหาร ถ้าไม่มีคนดู ก็ขอรีโมทเค้ามากดดูเอาเลยครับ ที่เกาะ 8 ก็มี เหมือนกัน แต่โทรทัศน์จะอยู่ตรงเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ครับ

    วันที่ 4 ตอนเช้า เล่นน้ำที่หาดหน้า หลังจากนั้นก็เก็บของเตรียมตัวกลับ เรือของ บริษัททัวร์ฯ นัดมารับ บ่าย 2 ครึ่ง กลับถึงฝั่งประมาณ 4 โมงเย็น นั่งรอรถ บขส. VIP 24 ที่นั่ง ซึ่ง โทรมาจองกับทาง คุระบุรี กรีนวิว ตั้งแต่เดือนที่แล้ว และโทรมาเช็คเป็นระยะๆ เพื่อความแน่ใจ เค้าก็บอกว่าจองให้แล้ว และให้ติดต่อกับทาง บริษัททัวร์ฯ ได้เลย ก่อนขึ้นเรือไปเที่ยวก็ถามทาง บริษัททัวร์ฯ แล้ว ก็ยืนยันว่าจองเรียบร้อย (กลัวไม่ได้กลับ) พอรถมา ก็มีเจ้าหน้าที่มาเรียกถึงที่ (รถจอดอยู่ในศูนย์อนุรักษ์ฯ ใกล้ๆ ท่าเรือ) รถออก 17.20 น

    ขึ้นรถมานั่งสบายไปได้ 3 นาที นึกขึ้นได้ว่า ชาร์ทโทรศัพท์มือถือไว้ที่ บริษัททัวร์ฯ เลยบอกเจ้าหน้าที่รถทัวร์ว่าลืมของ เค้าบอกว่า เดี๋ยวไปจอดรอที่จุดจอดรถ (เลี้ยวซ้ายเข้าถนนใหญ่ จะมีจุดจอดรถ ริมถนน) แล้วโทรบอก บริษัททัวร์ฯ ให้เค้าช่วยเอาโทรศัพท์มาให้ ประมาณ 5 นาที เค้าก็ขี่มอเตอร์ไซด์มาให้ ก็เลยขอบคุณและให้ค่าเหนื่อยไปเล็กน้อย (ขอขอบคุณ เจ้าหน้าที่ บริษัททัวร์ฯ มาอีกครั้งครับ) มาถึงกรุงเทพฯ ประมาณ ตี 5 ครึ่งครับ

    สรุปข้อมูลรวมๆ นะครับ

    การเดินทาง
    ถ้าเดินทางด้วยรถ บขส. VIP 24 ที่นั่ง (896 บาท) สามารถซื้อตั๋วได้ทั้งไปและกลับล่วงหน้า 60 วัน ได้ที่ สถานีขนส่งสายใต้ (บรมราชชนนี) (ข้อมูลนี้จากการสอบถามเจ้าหน้าที่นะครับ ลองเช็คอีกครั้งหนึ่ง) ส่วนที่ หมอชิต 2 สามารถซื้อเฉพาะขาไปจากกรุงเทพฯ ได้ (ผมซื้อตั๋วขาไปที่นี่ เพราะสะดวกกว่า และตอนแรกคิดว่า จะซื้อทั้งไปและกลับได้ที่นี่ ปรากฏว่า ซื้อได้เฉพาะขาไป ส่วนขากลับให้ บริษัททัวร์ จองให้แทน) และที่ thaiticketmajor.com สามารถซื้อได้เฉพาะขาไปเช่นกัน โดยเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มที่นั่งละ 20 บาท สามารถจองได้ 7 ที่ ด้านหน้าเท่านั้น ถ้าหมด ก็ต้องไปซื้อตั๋วที่ขนส่งเอง

    การดำน้ำตื้น
    ถ้าต้องการดำน้ำตื้น ผมคิดว่าน่าจะซื้อทัวร์ดีกว่า (ถ้าใครซื้อทัวร์ รบกวนให้ข้อมูลด้วยนะครับว่า ดีกว่ามั๊ย) เพราะ เรือของอุทยานฯ มีไม่เยอะ และเรือค่อนข้างเล็ก สาเหตุส่วนหนึ่งที่มีเรือน้อย คิดว่าน่าจะมาจาก "สิมิลัน" ไม่มีชาวบ้านอาศัยบนเกาะ ทำให้ไม่มีเรือมาให้บริการเหมือนกับที่ "หมู่เกาะสุรินทร์"

    ที่พัก
    เนื่องจากนอนเต๊นท์เพียงอย่างเดียว ไม่ได้เข้าไปดูบ้านพักต่างๆ
    เกาะ 8 มีที่พักเป็นเต๊นท์อย่างเดียว แต่สามารถนำเต๊นท์ไปกางเองได้ เต๊นท์ของอุทยานฯ จะมีขนาดเล็กกว่าที่เกาะ 4 และราคาที่พักก็ถูกกว่าเกาะ 4
    เกาะ 4 มีที่พักทั้งแบบเต๊นท์และบ้านพัก ไม่อนุญาตให้นำเต๊นท์ไปกางเองได้ บ้านพักมีทั้งพัดลมและแอร์ บางส่วนสามารถจองได้ที่เวปของอุทยาน บางส่วนต้องโทรไปจองที่อุทยานฯ เอง
    การจองที่พัก จะต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนก่อน จึงจะได้สิทธิ์ในการจองที่พักครับ

    ห้องน้ำ
    อาจจะไม่สะอาดมาก แต่ก็สามารถอาบได้ครับ

    อาหารและเครื่องดื่ม
    ถ้าคนไม่เยอะ สามารถสั่งอาหารตามสั่งในเมนูของอุทยานฯ ได้ แต่ ถ้าคนเยอะ (ทำอาหารตามสั่งไม่ทัน) ก็จะมีอาหารประมาณ 5-6 อย่างให้เลือก
    เกาะ 8 จะถูกกว่า เกาะ 4 เล็กน้อย อาหารเป็นกับข้าวประเภท ผัดผัก, แกงจืด, ต้มยำ จานหรือชามละ 100 บาท ไข่เจียว (ประมาณ 3 ฟอง) 50 บาท ปลาทอดกระเทียมหรือราดพริก (เป็นตัว) 150-250 บาท ข้าวเปล่า 10-20 บาท
    เครื่องดื่ม น้ำเปล่า 600 cc 20 บาท, น้ำเปล่า 1.5 ลิตร 40 บาท, น้ำอัดลมกระป๋อง 30 บาท, เบียร์ช้างกระป๋อง 50 บาท, เบียร์สิงห์กระป๋อง 60 บาท ชา, กาแฟ, โอวัลติน แก้วละ 30 บาท
    ถ้าสามารถแบกไปเองได้ ก็ติดตัวไปซักหน่อย ถ้าไม่พอค่อยซื้อเพิ่มครับ หรืออยากจะกินแบบเย็นๆ ก็ซื้อเอาครับ เพราะเค้าแช่น้ำแข็งให้ อ้อ...น้ำแข็งก็มีขาย แต่ไม่ได้ถามราคามาครับ
    อาหารสำหรับทัวร์ บนเกาะ 4 ทัวร์ก็ให้อุทยานฯ เป็นคนดูแลครับ ส่วนบนเกาะ 8 เห็นบางส่วนเค้านำมาเอง บางส่วนก็ของอุทยานฯ เหมือนกันครับ

    ขออภัยที่ไม่มีรูปให้ดู ลองดูรูปของเพื่อนๆ ที่รีวิว ไว้แล้วกันครับ ไปในระยะเวลาใกล้เคียงกัน

    ถ้ามีคำถามอะไร ก็ลองถามนะครับ smile

    จากคุณ : basten - [ 25 ก.พ. 51 16:22:38 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom