ความคิดเห็นที่ 1 รอมานานแล้ว รถไฟรางคู่ + ความเร็วสูงน่ะ ประชาชนตาดำๆ จะได้มีทางเลือกนอกจากเครื่องบินซะมั่ง ไม่ใช่ผูกขาดอยู่ทางเดียว จากคุณ : ted_t1987 - [ 26 ก.พ. 51 21:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่าควรให้สัมปทานเอกชนลงมาจับเกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูงเชื่อมระหว่างเมืองน่ะครับ แล้วให้รัฐคอกำกับ ก็คล้ายๆ BTS กับ MRT แล้วเรื่องเงินทุนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ก็ต้องอยู่กับเราเลยว่าจะเล่นค่ายไหน ผมว่าค่ายญี่ปุ่นเหมาะสุด กู้เจบิค แล้วใช้รถไฟชินคังเซ็น น่าจะไปได้เวิร์ค รถไฟความเร็วสูงถ้าเอามาคิดรวมๆแล้วก็ไม่ได้ช้าไปกว่าเครื่องบินเลยนะ (สมมติ กรุงเทพ - เชียงใหม่) เดินทางโดยเครื่องบิน เสียเวลาเดินทางไม่น้อยกว่า 30 นาที ต้องไปถึงก่อนไฟลท์ไม่น้อยกว่า 45 นาที เวลาเดินทางประมาณ 60 นาที รอกระเป๋าประมาณ 30 นาที เดินทางออกจากสนามบินปลายทางไม่น้อยกว่า 30 นาที รวมๆแล้วไม่น่าจะต่ำกว่า 4 ชั่วโมง เดินทางโดยรถไฟความเร็วสูง (คิดความเร็วเฉลี่ย 250-275 km/h) สถานีอยู่ในเมือง เดินทางไม่เกิน 30 นาที (รถไฟฟ้า) ไม่ต้องเช็คดิน รถไฟออกถี่พอสมควร เดินทางประมาณ 3 ชั่งโมง - 3 ชั่วโมงครึ่ง (ตามเส้นทางรถไฟปัจจุบัน กรุงเทพ - เชียงใหม่ ประมาณ 700 กม.) ถึงปุ๊บไปต้องรอรับกระเป๋า ออกจากสถานีรถไฟไม่น่าเกิน 30 นาที (สถานีรถไฟความเร็วสูงไม่จำเป็นต้องเป็นสถานีรถไฟตอนนี้เพราะ รถไฟความเร็วสูงต้องใช้ราง 1.435 m) รวมๆแล้วไม่น่าเกิน 5 ชั่วโมง มาดูค่าใช้จ่ายบ้าง เดินทางโดยเครื่องบิน ค่าแท็กซี่เข้าสนามบิน ไม่ต่ำกว่า 200-300 บาท ค่าเครื่องบินประมาณ 2000 บาท (ราคาประมาณทั่วไปนะ) ค่าแท็กซี่ออกจากสนามบิน ไม่ต่ำกว่า 200-300 บาท รวมๆแล้วประมาณ 2400 บาท เดินทางโดยรถไฟความเร็วสูง ณ ตอนนี้ประเมินราคาไม่ได้ เพราะยังไม่สร้าง แต่ที่แน่ๆแพงกว่าตู้นอนชั้น 1 ของ รฟท. แน่นอน แต่ท่าเทียบราคาแล้ว (ของไต้หวัน) 300 กว่ากี่โล ราคาประมาณ 1500 บาท ซึ่งอาจแพง แต่ต้องมองว่าทุกวันนี้ราคาน้ำมันถีบตัวสูงขึ้นตลอดเวลา แต่ก็ใช่ว่ารถไฟความเร็วสูงไม่ใช้พลังงาน ถ้าหลายท่านตามข่าวจะทราบว่าตอนนี้เมืองไทยกำลังมองพลังงานที่มาทดแทน ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าอาจเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว ราคาค่าไฟฟ้าจะไม่สูงเท่าน้ำมัน แล้วโครงการระดับนี้คงไม่เสร็จภายในปีสองปีแน่ ในอีก 5 ปีข้างหน้าราคาเครื่องบินในประเทศ อาจจะขึ้นเป็น 3000 บาทก็ได้ สำหรับในกรุงเทพแล้วผมว่าที่เหมาะแก่การเป็น Hub คือใต้สวนจตุจักรและบริเวณใกล้เคียง เพราะ ตรงนั้นมีทั้ง BTS กับ MRT มีรถไฟธรรมดาตัดผ่าน ไม่ยากต่อการสร้างรถไฟความเร็วสูงเพราะพื้นส่วนมากเป็นของการรถไฟอยู่แล้ว ตอนนี้ขอออกความเห็นแค่นี้ก่อน ขอไปอ่านหนังสือสอบต่อก่อน... อ้างอิง : http://en.wikipedia.org/wiki/Taiwan_High_Speed_Rail อ้างอิง : http://www.thsrc.com.tw/en/ticketing/fare.asp อ้างอิง : http://www.railway.co.th/line/map.asp จากคุณ : ben_benz - [ 26 ก.พ. 51 21:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อยากให้เอกชนได้สัมปทานและทำดีๆเหมือนบ.รถร่วมอ่ะครับ แต่กล้วว่าจะไปเหมือนตู้เสบียงดิ่ครับ นั่นก็เอกชนนะนั่น จากคุณ : HandsomeManThailandpost - [ 26 ก.พ. 51 21:17:30 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นด้วยกับแนวคิดของ จขกท.ครับ แต่หัวข้อที่คุณให้โหวต มันดูแปลกๆนะครับ ผมอยากโหวต สองตัวเลือกอ่ะ แต่เอาเป็นว่าถ้าเดินทางตอนนี้ ผมนั่งเครื่องบินครับ  ขอบ๊าย บายรถไฟ จนกว่าจะมีโครงการรถไฟความเร็วสูงในบ้านเรานี่แหละ  หวังว่าคงได้เห็นในชั่วชีวิตนี้นา จากคุณ : ppomp2003 - [ 26 ก.พ. 51 21:18:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ท่าทางจะตั้งตัวเลือกไม่เคลียร์ รถไฟ VS เครื่องบิน นั้นหมายถึงรถไฟความเร็วสูงนะครับ ขอโทษด้วยพิมพ์ตกไปน่ะครับ จากคุณ : ben_benz - [ 26 ก.พ. 51 21:33:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นั่งทีไร เหมือนกับ ย้อนยุคจริงๆ ลองไปนั่งของมาเลย์สิ สบายกว่ากันตั้งเยอะ จากคุณ : benzanaz - [ 26 ก.พ. 51 21:38:21 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เอาว่า ถ้าขอขึ้นราคาค่าโดยสารได้ค่อยว่ากัน เรื่องบริการ ก็สมราคาไปละกัน .. เพราะเมื่อ พอขอขึ้นราคาค่าโดยสาร ก็โดนชาวบ้านด่า ตอนนี้รัดเข็มขัดจนตัวกิ๋วแล้ว ใครจะรู้บาง ว่าตอนนี้การรถไฟต้องยกเลิกสัญญาจ้างอะไรไปบาง ค่าน้ำมันขึ้นเอาทุกวันๆ พอยื่นเรื่องขอขึ้นราคา บอกว่าไม่ได้ หนี้ค่าน้ำมันที่ติด ปตท. เนี้ยจะซื้อ กิจการการรถไฟได้แล้ว ถ้าวันไหน ปตท. เกิด บ้าดีเดือด ทวงค่าน้ำมันขึ้นมา คงฮาตรึม แล้วใครอย่ามาบอกว่า งันก็ลดการโกงกินกันลงบาง การรถไฟจะได้มีกำไร งันผมถามกลับว่ามีรัฐวิสาหกิจ ไหนบางที่ไม่มีข่าวโกงกิน ช่วยบอกหน่อยดิ ... เรื่องรถไฟฟ้าความเร็วสูงหรือรถไฟทางคู่ เป็นแผนแม่บท มาตั้งยี่สิบกว่าปีแล้วมั่ง แต่ไม่ทำซักที่ เคยถามพ่อว่าไมไม่ทำ ซักที่ พ่อบอกว่า ... จะเอาเงินที่ไหนมาทำ ... แบบไม่โกงกิน ประมาณการก็เกือบแสนล้าน ... ต้องบวกอีกกี่เปอร์เซ็นต์ ไปจบที่เท่าไร ไม่รู้ ... เปลี่ยนรัฐบาลที่ ก็รื้อใหม่ที่ จนคนที่เขาทำ เบื่อ หรือเกษียรไปหลายรุ่นแล้ว ... เท่าที่จำได้ ผมได้ยินพ่อคุย เรื่องนี้ตั้งแต่ผมอยู่ประถม แล้ว  ตรูไม่อยากเซด ถามเรื่องให้เอกชนเอาไปทำดีไม เห็นมีเอกชนสนใจเยอะ แต่พอเจอเงื่อนไขที่ว่าห้ามไม่ให้ตั้งราคาสูงกว่าที่ การรถไฟวิ่งอยู่ปัจจุบัน เห็นถอยหลังกันเป็นแถว ถามเรื่องแปรรูป ดีครับ แปรเลย ดี ผมชอบ แต่ถ้าแปรแล้ว ค่ารถไฟแพงขึ้น แลกกับการบริการที่ดีขึ้น ใครก็ชอบ แต่ถามประชาชนหาเช้ากินค่ำว่าชอบหรือปล่าวผมไม่สามารถ บอกได้ ไปถามคนรากหญ้าดูกันเอง .... หรือไปถามพวกเอ็นจีโอดู แต่เท่าที่รู้ตอนนี้ใครเห็นโครงสร้างต้นทุนที่การรถไฟให้บริการอยู่ เมื่อเอามาเทียบกับราคาค่าโดยสารที่วิ่งอยู่ปัจจุบัน ทุกคนจะร้อง มันอยู่ได้ยังงัยฟร่ะ จะซื้อหัวรถจักรใหม่ จะซื้อต่อตู้โดยสารใหม่ ก็ไม่ได้ เดี๋ยวหนี้ สาธารณะจะเพิ่ม ไอ้หนี้ค่าหัวรถจักรเก่าที่วิ่งอยู่ใช้หมดหรือยัง ก็ไม่รู้ ... จะเสริมใหม่ก็ลำบาก  ตรูละเซ็ง มัยพ่อตรูไม่ได้โบนัสเหมือนพนักงานรัฐวิสาหกิจอื่นๆ บางฟร่ะ จากคุณ : Airliner - [ 26 ก.พ. 51 22:04:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ปรับเป็นบริษัทมหาชน โดยการควบคุมของกระทรวงคมนาคม ต่างชาติถือหุ้นได้ไม่เกิน 20% ของมุลค่าหุ้นทั้งหมด ปรับปรุงระบบการขนส่งทางรถไฟทั้งหมด โดยอาจทำเพื่มทีละสาย เหนือ ใต้ อีสาน ตะวันออก ตามงบประมาณอาจเป็น2ราง+รถไฟความเร็วสูง+รถไฟโลคอลจอดทุกสถานี ตรงเวลา รวดเร็วประหยัด   แยกรายได้ออกมา2ประเภท 1.บริการผู้โดยสารส่วนนี้ขาดทุนต้องยอม  ราคาต้องผ่านมติ ครม.ในการปรับขึ้น 2. หารายได้เพื่มจากทรัพย์สินที่มีโดยการเพื่มมูลค่า  - ค่าโฆษณา  - ร้านค้าสะดวกซื้อของบริษัทการรถไฟเอง  - โรงแรมราคาประหยัดของแต่ละสถานี  - เพื่มบริการการขนส่งของรถไฟ ข้อ2นี้ดูมาจากญี่ปุ่นเมื่อการขนส่งระบบรางเป็นทางเลือกอันดับ1ได้  แค่รายได้จากตู้น้ำอัดลมก็เป็นรายได้มหาศาล ค่าโฆษณาตามสถานีรถไฟนั้นเก็บกันแพงหูฉี่ ร้านค้าสะดวกซื้อแหล่งทำเงินอันมหาศาลวันนึง6หลักสบายๆครับไปดูเซเว่นที่หมอชิตเอา หนาวสะดือเลยกับยอดขายแต่ละวัน โรงแรมเป็นอีกจุดนึงที่สามารถทำรายได้ให้การรถไฟ ปรับรูปแบบใหม่ราคาประหยัดไม่ต้องแบบแคปซูลของญี่ปุ่นหรอกเรามีเนื้อที่เยอะใหญ่ขึ้นมานิดนึงก็ได้ ยังมีการขนส่งทางรถไฟอีกมากที่ปัจจุบันได้รับการละเลยเพราะรถไฟเอาแน่เอานอนไม่ได้ ถ้าวิ่งตรงเวลาได้เมื่อไหร่รถไฟจะกลับมาเป็นทางเลือกในการขนส่งสินค้าแน่นอน เอารายได้จากข้อ2 มาโปะชดเชยกับข้อที่1  ทำให้คนไทยใช้บริการได้ในราคาถูก การลงทุน ต้องยอมแล้วครับใช้เงินกี่แสนล้านก็ต้องทำแล้ว  ดีกว่าจอดรถเผาน้ำมันเล่นกันบนถนนแบบนี้ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 51 22:11:16 จากคุณ : waphoo - [ 26 ก.พ. 51 22:06:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ประสบการณ์โดยส่วนตัวผม ผมเป็นนักเดินทางคนหนึ่ง พบว่ารายได้ของรถไฟเต็มตลอด เพราะจองยากมาก ตู้นอนเต็มตลอด ไม่รู้ว่าเงินบำรุงหายไปไหนหมด แต่ผมเชื่อว่าพวกเขาไม่ขาดทุนหรอกครับ จากคุณ : รอยัลฟรัดจ์ - [ 26 ก.พ. 51 22:10:47 A:118.172.68.2 X: TicketID:167983 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมมาให้ข้อมูลครับ เห็นพูดกันหลายๆคนว่าเวียดนามจะสร้างรถไฟความเร็วสูง ผมว่าถ้าเวียดนามจะสร้างก่อนไทยก็ไม่แปลก เพราะมันคุ้มค่ากับการลงทุนมากๆ มากกว่าของไทยด้วยซ้ำ เส้นทางฮานอย-โฮจินทร์ เส้นทางเดียวพาดผ่านพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่ร่วมๆ 50 ล้าน (ประชากรเวียดนามทั้งประเทศประมาณ 80 ล้าน) ส่วนของไทย อ่ะ เส้นทางยอดนิยมจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ ผมว่าอย่างมากก็บริการประชากรแถบนั้นได้เพียง 15 ล้านคน ถ้าสร้างจากเชียงใหม่-หาดใหญ่ที่ระยะทางประมาณ 1,800 กม. แต่บริการประชาได้แค่ประมาณ 20 ล้าน สามเส้นทางที่ผมเสนอมา คิดว่าควรสร้างเส้นทางไหนหล่ะครับ แต่เวียดนามสร้างแล้วขาดทุนแน่ เพราะรายได้ประชากรยังน้อย แต่ก็ปัญหาของรัฐบาลเขาที่อยากสร้างของเกินตัว แต่ผมว่า สิ้นปี 2015 เวียดนามก็ยังคงไม่มีรถไฟความเร็วสูงใช้แน่ๆ เพลอๆยังไม่ได้สร้างเลยด้วยซ้ำ จากคุณ : newuno - [ 26 ก.พ. 51 22:12:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ให้เหมือนเดิมทุกประการครับ ผมใช้มา 40 ปีแล้ว  ไม่เปลี่ยนแปลงเลยครับ หาดูที่ไหนในโลกไม่มีอีกแล้ว อนุรักษ์ไว้ รถไฟไทย มรดกไทย  มรดกโลก จากคุณ : thepthaiza - [ 26 ก.พ. 51 23:14:05 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องแรก ทำไมการรถไฟถึงไม่ยอมแปรรูปอะครับ ทั้งการท่า การไฟฟ้า ... ก็แปรรูปแล้วทั้งนั้น ในเรื่องผลประโยชน์ ผมไม่ทราบนะครับ เลยไม่ขอกล่าวถึง   ไม่ทราบและสงสัยเหมือนกัน รออ่านความเห็นท่านอื่นด้วยคน อิอิ เรื่องสอง ถ้าจะให้สัมปทานเอกชนมาลงทุนการเดินรถไฟเชื่อมระหว่างเมืองจะเหมาะไหมครับ คล้ายๆแบบ BTS กับ MRT (เข้าใจว่าเงินลงทุนมันสูง แต่จะทำอะไรหรือพัฒนาอะไรมันก็ต้องลงทุนอยู่แล้วนิครับ)      ผมคิดว่าเหมาะ แต่ไม่รู้จะมีเจ้าไหนสนใจมากน้อยแค่ไหน เรื่องสาม ประเทศไทยถึงเวลาหรือยังที่ควรมีรถไฟความเร็วสูง (High Speed Train)     ถึงเวลาแล้ว แต่ถ้ามันยังเกิดขึ้นไม่ไ่ด้ก็ไม่เป็นไร ขอแค่ปรับปรุงสิ่งที่มีอยู่ในตอนนี้ให้ดีขึ้นก็น่าจะพอแล้ว (จริงๆก็น่าจะขยายทำรางคู่ให้ตลอดเส้นทางระยะยาว จะได้วิ่งปรู๊ดทีเดียวลากยาวถึงปลายทางแบบไม่ต้องจอดแช่อิ่ม ไม่ต้องรอหลีกขบวน แวะจอดเฉพาะสถานีใหญ่ใน กทม.แล้วจอดปลายทางเลยทีเดียว) ( ถึงยังไงก็ต้องไปติดตอนขึ้นลงเขาชันๆ หรือทางที่ต้องอ้อมเขาไปมาโค้งๆอยู่ดีหนิ สรุปว่าช้าอยู่ดีจนได้ อิอิ) เรื่องสี่ ถ้ามีรถไฟความเร็วสูงแล้ว คุณจะเลือกอะไรระหว่างรถไฟกับเครื่องบิน หากราคาใกล้เคียงกัน เวลาเดินทางสุทธิใกล้เคียงกัน      เลือกทั้งคู่แน่นอน แล้วแต่ความเหมาะสมของเวลา เรื่องห้า คุณคิดว่าที่ใดในกรุงเทพเหมาะเป็น Hub ของรถไฟความเร็วสูง      ไม่ใช่คนกรุงเทพตอบยากพอควร แต่ควรจะเป็นที่ๆเชื่อมต่อกับระบบคมนาคมอื่นๆได้สะดวก ส่วนเรื่องมลพิษทางเสียงไม่น่าจะมีปัญหาเหมือนสุวรรณภูมินะ คงจะได้เปรียบเรื่องหาทำเลที่ตั้ง จากคุณ : อดีตชอบรถไฟตอนนี้ชอบเครื่องบิน (o_taro_cmu) - [ 26 ก.พ. 51 23:30:04 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ควรให้สัมปทานเอกชน จากคุณ : My life in Japan. - [ 26 ก.พ. 51 23:31:28 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมไม่ชอบระบบสัมปทาน เพราะจะต้องเลือกคนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด ซึ่งภาระก็จะตกมาที่ผู้ใช้บริการ แต่ควรจะใช้วิธีให้ใบอนุญาตให้เอกชนดำเนินการแข่งกับการรถไฟได้ ให้รัฐเวนคืนที่ดินสำหรับสร้างราง แล้วให้ผู้ได้รับใบอนุญาตจ่ายค่าเช่าแบบเดียวกับท่อกาซของปตท. โดยอัตราค่าเช่าต้องไม่สูงจนเกินไป แล้วผุ้รับใบอนุญาตก็ไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนอื่นๆให้รัฐอีกนอกจาภาษีเงินได้ ส่วนการรถไฟจะแปรรูปหรือไม่ก็ช่างมัน ขอให้มีคนอื่นให้บริการได้ก็พอ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 26 ก.พ. 51 23:39:38 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ู^^ ^^ ^^ ^^ ^^ ^^ เห็นรูปนี้แล้วอยากไปญี่ปุ่นขึ้นมาทันทีเลย เหอๆๆ จากคุณ : o_taro_cmu - [ 26 ก.พ. 51 23:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่าก่อนอื่นเอารางคู่ให้ได้ทั่วประเทศก่อนดีกว่ามั๊ยคับ แล้วปรับความกว้างของรางให้ไดมาตรฐานด้วย เพราะถ้ารางกว้างขึ้นรถไฟก็สามารถทำความเร็วได้เพิ่มขึ้น แล้วก็ถ้าเป็นรางคู่หมด รถก็ไม่ต้องเสียเวลามาจอดหลบกันอยู่อีก จะเพิ่มหรือลดขบวนรถก็ง่าย ส่วนเรื่องรถไฟความเร็วสูงผมว่าคงอีกนาน แต่ถ้าจะทำจริงก็ทำได้นะ เพราะถ้าเรื่องราคาค่าตั๋วก็แยกการให้บริการเป็นสองส่วน ส่วนแรกก็บริการเชิงธุระกิจก็คือรถไฟความเร็วสูงก็เอกสนรับสัมปทานไปทำจะเก็บค่าโดยสารเท่าไรก็ดู้ที่จุดคุ้มทุน ส่วนอีกส่วนคือบริการเชิงสัมคมก็รฟท.ทำเองคือก็เหมือนรถไฟที่ทำอยู่ทุกวันนี้ชึ่งก็เก็บค่าโดยสารราคาถูกให้บริการผูมีรายได้น้อย มันก็เหมือนกับรถเมล์ในกรุงเทพที่มีรถเมล์ครีมแดงให้บริการสำหรับผู้มีรายได้น้อย แล้วก็รถเมล์ปรับอากาศสำหรับบริการผู้ที่มีรายได้ที่ดีกว่า การรถไฟก็มีรายได้จากการให้สัมปทาน ส่วนประชาชนผู้มีรายได้น้อยก็ยังมีรถไฟราคาถูกนั่งเหมือนเดิม ส่วนประชาชนผู้มีอันจะกินก็มีตัวเลือในการใช้รถไฟความเร็วสูงเป็นตัวเลือกในการเดินทางเพิ่มมากขึ้น แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 51 00:54:18 จากคุณ : อ้วนกลม อารมณ์ดี (ny_toto) - [ 27 ก.พ. 51 00:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ให้แปรรูป ให้เอกชนบริหาร ถ้าไม่แปรรูปก็ไม่มีเงินมาปรับปรุง จากคุณ : thampitak 33 - [ 27 ก.พ. 51 07:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 18 หากจะแปรรูปก็ควรไปดูตัวอย่างของอังกฤษกับเยอรมันว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้าง เมื่อรถไฟถูกแปรรูปไปหมด จากคุณ : สัญญาณหางปลา - [ 27 ก.พ. 51 08:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 19 1. ไม่ควรแปรรูป เพราะจะเป็นปัญหาเหมือนที่ยุโรป 2. อาจจะให้ทำแข่งกันเหมือนสายการบินก็ดีนะ 3.ตอนนี้ทำรางคู่ก่อน ราว 5 ปีค่อยทำรถไฟความเร็วสูง 4.รถไฟแหง ๆๆๆ 5.ที่ไหนก็ได้ จากคุณ : คนคิดอนาคต - [ 27 ก.พ. 51 08:44:23 A:124.120.78.68 X: TicketID:166320 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่เห็นด้วยกับรถไฟความเร็วสูงครับ ประเทศไทยไม่ควรมีครับ เพราะไทยไม่มีหัวเมืองใหญ่ให้เชื่อมกันมากขนาดนั้น และค่าโดยสารนี่แพงระยับเลยจริงๆ(พอๆกับเครื่องบิน) มาตรฐานค่าครองชีพของเราไม่อาจเอื้อมครับ ควรทำรางคู่ และปรับปรุงตอนนี้ให้มันดีขึ้นดีกว่า ช้าเร็วไม่ว่า ขอตรงเวลาและสะอาดก็พอ จากคุณ : วาเนอร์ แบ็กซเตอร์ - [ 27 ก.พ. 51 09:17:37 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เอ้า ไปดูกันครับว่าการแปรรูปทำให้เกิดอะไรทำไมทุกประเทศทั่วโลกถึงได้เร่งแปรรูปรัฐวิสาหกิจ แปรรูปเพื่อเข้าตลาดหุ้นแปรเป็นบริษัทมหาชนกันจัง ข้อมูลการแปรรูปจากเว็บไซต์ธนาคารโลก ปี2000-2006 http://rru.worldbank.org/Privatization/Sector.aspx?sectorid=999 ข้อมูลการแปรรูปเก่าๆครับ ปี1988-1999 (สำหรับคนที่ไม่ชอบการแปรรูปไม่ควรอ่านครับ เกรงว่าไล่รายชื่อดูแล้วจะผูกคอตายซะก่อน) http://rru.worldbank.org/Privatization/PrivatizationData_89_99.xls ---------------------------------------------------------------------------------- ส่วนตัวคิดแบบเดิมครับ ยังไงก็ต้องเปลี่ยนแปลงจะเป็นรางคู่จะมีรถไฟความเร็วสูงไม่หรือไม่ แต่ที่แน่ๆพื้นที่อันมหาศาลจุดขนถ่ายคมนาคมที่ดีที่สุดจุดหนึ่ง มีคนพลุกพล่านมากที่สุด ทำเลยอดเยี่ยมสุดๆการรถไฟกับไม่หาประโยชน์จากจุดนี้  หากำไรจากการเดินรถไม่ได้ก็หากำไรจากการค้าที่สภานีเอา เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะชดเชยกัน   แปรรูปไปเถอะจะได้โปร่งใสทำงานกันแบบมืออาชีพหน่อย "เสด็จพ่อ ร.5 เรื่มกิจการรถไฟเกือบจะพร้อมกับที่ญี่ปุ่นเลย"  แล้วทำไมถึงเป็นอย่างนี้ แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 51 09:39:01 จากคุณ : waphoo - [ 27 ก.พ. 51 09:27:54 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยค่ะ...   กับ  คห.20 ขอตรงเวลาและสะอาดก็พอ รักรถไฟ...ชอบนั่งรถไฟ..... แต่กลับจากเชียงใหม่   เค้าว่าเบรคเสีย    ด่วนนครพิงค์เลยดีเลย์ซะ   8 โมง  เพิ่งถึงลพบุรี   จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 27 ก.พ. 51 09:34:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 รางคู่กับ speed train มันต่างกันไงอ่ะ  นึกว่าอันเดียวกันมาตลอด รางคู่มันช่วยประหยัดเวลากว่าแค่ไหน (นึกแต่ speed train ออก) ถ้ารางคู่ยังใช้รถแบบเก่าก็ขอ speed train เถอะ จากคุณ : MoonClock~* - [ 27 ก.พ. 51 09:59:36 ]

ความคิดเห็นที่ 24 Vote แบบไม่ต้องคิด อิ อิ เครือ่งบินโลด ไม่เอาแล้ว รถไฟ จากคุณ : แมวหมีพัฒนา - [ 27 ก.พ. 51 10:45:53 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อยากให้รถสะอาดมากกว่านี้ ใหม่กว่านี้ ไม่ใช่ เน่ายังไงก็ยังงั้น ไม่ต้องความเร็วสูงหรอก เอารถสะอาดให้ได้ก่อน ตรงเวลาก่อน ยังไงเครื่องบินก็สะดวกสุด จากคุณ : Bandung - [ 27 ก.พ. 51 12:13:03 ]

ความคิดเห็นที่ 26 การรถไฟนี่เจ๋งมาก  อยุ่เหนือคำว่าการเปลี่ยนแปลงมาได้ไม่รุ้กี่สิบปีแล้ว  น่าสงสารประชาชนที่ผู้นำประเทศมันกินเป็นอย่างเดียวแต่ไม่รุ้จักพัฒนา  ถ้าไปญี่ปุ่นซักครั้งนี่จะเข้าใจรถไฟอีกเยอะเลยว่ามันพัฒนาได้ขนาดไหน จากคุณ : นกกระจอกตัวอ้วน - [ 27 ก.พ. 51 13:03:34 ]

ความคิดเห็นที่ 27 Scope ของหัวข้อกระทู้และตัวเลือกในการVote น่าจะชัดเจนกว่านี้นะครับ จะได้Vote ให้ถูก จากคุณ : oumbkk - [ 27 ก.พ. 51 13:11:24 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ทำรางคู่ให้ work ก่อนเถอะ ผมเห็นอย่างนี้ครับ  -ทำรางคู่แต่ต้องเป็นรางขนาดความกว้าง 1.4 เมตร หากขนาดรางยังกว้าง 1 เมตรแบบเดิมคงสู้กับการขนส่งทางรถยนต์ไม่ได้เพราะความเร็วต่ำเกินไปจึงทุ่นเวลาได้ไม่มาก  -แปรรูปรถไฟให้เป็นบริษัทมหาชน ทำให้การบริหารงานคล่องตัวขึ้น ไม่ใช่อุ้ยอ้ายเป็น รสก. ปัจจุบันโดยแยก       ก) หน่วยงานก่อสร้าง/บำรุงรักษาราง เป็นหน่วยงานหนึ่งโดยรัฐสนับสนุนเงินงบประมาณหรือจัดหาแหล่งเงินกู้มาใช้ในการก่อสร้างเส้นทางใหม่ ๆ มีรายได้จากการเก็บค่าใช้รางหรือวิธีการอื่นที่เหมาะสม       ข) หน่วยงานเดินรถเพื่อการพาณิชย์ เป็นอีกหน่วยงานหนึ่ง  -กำหนดราคาค่าโดยสารในเชิงงพาณิชย์เพื่อให้รถไฟมีรายได้เพียงพอต่อการดำเนินงาน  -รถไฟที่ให้บริการผู้มีรายได้น้อยให้กำหนดราคาที่เหมาะสม ส่วนที่รถไฟขาดทุนจากบริการนี้ให้รัฐจ่ายเงินอุดหนุน  -ให้สัมปทานการเดินรถไฟแต่ละเส้นทางให้เอกชน (เหมือน บขส.) ผมว่าแค่นี้ก็ยากเย็นแสนเข็ญแล้ว เพราะมีปัญหาว่าพนักงานการรถไฟจะต่อต้านหรือไม่ นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่องงบลงทุนอีกว่าจะมาจากใหนบ้าง เห็นมีการพูดกันมานานมากแล้วเกี่ยวกับรางคู่ยังไม่ต้องพูดถึงการพัฒนากิจการรถไฟซึ่งต้องไปสู้กับพนักงานรถไฟอีก ทราบมาว่าอิทธิพลสูง ดังนั้นการพัฒนารถไฟหากไม่ไปแตะกิจการรถไฟคุณคิดดูใครจะเอาเงินตั้งกว่าแสนล้านมาลงให้ เพราะกลัวว่าลงทุนให้ขนาดนี้แล้วรถไฟขาดทุนอีกจะทำอย่างไร ดอกเบี้ยของเงินที่กู้มาก็ไม่รู้ว่าเท่าไรแล้ว จากคุณ : alien1200 - [ 27 ก.พ. 51 14:17:28 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เอกชนเขาไม่เอา เพราะมันขาดทุน พ่อและน้า+ญาต ที่ทำงานรถไฟ เป็นคนบอก ใช่ว่าจะไม่มีแนวคิดให้เอกชน มีครับ แต่สหภาพรถไหเค้าก็ไม่อยากให้เปนเอกชน มีรถเสบียง หละที่ให้เอกชนทำ (หรืออาจจะมีอย่างอื่นด้วยไม่แน่ใจ) พ่อทำงานมาจนบัดนี้ ไม่เคยมีโบนัส รถไฟเป็นรัฐวิสาหกิจ เมื่อก่อนการบินไทย+ปตทก็เป็นเหมือนกัน โบวนัสบาน... จากคุณ : บ้านนอกทีม - [ 27 ก.พ. 51 18:06:27 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เป็นเหมือนเดิมๆดีแล้วครับ ไม่อยากให้อะไรรวดเร็วไปซะหมด ยังรักการนั่งรถไฟเหมือนเดิมครับถึงแม้ว่าพักหลังไม่ได้ใช้บริการบ่อยก็ตาม จากคุณ : ตาชิโบ - [ 27 ก.พ. 51 21:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าเลือกระหว่างรถไฟ กับ เครื่องบิน เอาแบบราคาเท่ากัน เวลาที่ใช้เท่ากันเลยนะ เลือกเครื่องบินครับ ... ก็ชอบเครื่องบินง่ะ เหอๆ มันมีเสน่ห์ดึงดูดจับใจจริงๆ โดยเฉพาะเสียงเครื่องเนี่ย อ้ากกๆๆๆๆ อีกอย่าง ก็เราอยู่ห้องการเดินทางทางอากาศนิเนอะ จะไปชอบรถไฟมากกว่าเครื่องบินได้อย่างไรกัน แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 51 00:59:38 จากคุณ : THe eFFeCT - [ 28 ก.พ. 51 00:59:05 ]

ความคิดเห็นที่ 32 1 จัดหาล้อเลื่อน รถจักร รถโดยสารให้เพียงพอต่อความต้องการ และเพียงพอต่อการหมุนเวียนรถนำมาซ่อมบำรุงประจำวาระ (ไม่ใช่อย่างทุกวันนี้ อย่างรถดีเซลรางแดวูจะได้พักซะที่ไหน ไปเชียงใหม่ 19:20 ถึงสายๆ ตีกลับกรุงเทพ ถึง 3 ทุ่ม เอาเข้าไปเติมน้ำมัน แล้วก็รอออกตอน 4 ทุ่มกว่าๆ ไปถึงยะลาตอนบ่ายๆวันถัดมา แล้วก็วิ่งกลับมากรุงเทพ ถึงเช้ามืด หรือเช้านิดๆ แล้วก็เติมน้ำมัน เอาไปเชียงใหม่ตอน 8 โมงกว่าๆ แล้วถึงตอน 2 ทุ่มหน่อยๆ ทำกลับกรุงเทพถึง 9 โมงนิดๆ กี่พันกิโลแล้วเนี่ย กี่วัน กี่คืนหว่า) 2. รางมาตรฐานถ้าจะทำ ทำใหม่ไปเลยครับ ไม่ต้องมาเอาของเก่ามาปรับปรุง แล้วของเก่าก็วิ่งต่อไป เพราะถ้าเอาของเก่ามาทำ มันก็เหมือนทำใหม่แต่ยกเลิกของเก่าที่ยังใช้ได้อยู่ ต้องจัดหาล้อเลื่อนใหม่หมด ทางก็ต้องปรับปรุงใหม่หมด สะพานต้องทำใหม่ เพราะไม่สามารถรองรับน้ำหนักกดเพลาเกินกว่า 15 ตันได้ (รถจักรฮิตาชิน้ำหนักกดเพลาประมาณ 15 ตัน) แล้วก็ที่มีคนบอกว่าจะไปสนใจเพื่อนบ้านทำไม ก็ให้ขนถ่ายผู้โดยสารมาขึ้นที่เราสิ แหม!!! พูดง่ายจัง อย่าลืมว่าเรามีรถสินค้าที่ขนถ่ายไปยังมาเลเซียก็หลายขบวนอยู่นะ แถมรถขนเหล็กม้วน เหล็กท่อน ก็มาจากสถานีมาบตาพุด จ.ระยอง แล้วรถที่ใช้วิ่ง ก็เป็นรถ KTM ของมาเลย์ ใช้แต่หัวรถจักรเรา แล้วถ้าทำแบบที่ว่า คงให้ไปขนถ่ายเหล็กหรือคอนเทนเนอร์ที่ปาดังเบซาร์แทน สงสัยผู้ให้บริการขนส่งสินค้าคงขอบาย เอาเรือไปจอดที่มาเลเซียจะดีกว่า ที่ส่งทางรถไฟเพราะว่าลงท่าเรือแล้วส่งต่อไปยังมาเลเซียแล้วสามารถไปยังจุดรับส่งสินค้าของที่นั่นได้เลย แถมวิ่งลงไปก็เร็วกว่าเรืออีก 3. ทางคู่ อาจจะทำไม่ต้องทั่วประเทศก็ได้ เอาทางสายหลักๆที่มีการจราจรหนาแน่น สายอีสานอาจจะเป็นกรุงเทพ-นครราชสีมา, สายเหนือ กรุงเทพ-ศิลาอาสน์, สายใต้ กรุงเทพ-ชุมพร เป็นต้น ไม่ต้องไปทำหรอกสายกรุงเทพสุพรรณบุรี ทั้งวันมีวิ่งแค่ 2 ขบวนทำไปทำไม ทำไปก็ไม่รู้จะหลีกใคร 4. รถประเภทบริการเชิงสังคมที่ยังให้วิ่งอยู่ รัฐต้องสนับสนุน ไม่ใช่สนับสนุนแค่ปาก แจกนโยบายไป แต่คุณขาดทุนก็เรื่องของคุณ แบบนี้ก็ไม่ไหว 5. คนขับรถยนต์ ก่อนข้ามมองซ้ายมองขวาสักนิด ทำตามพรบ.จราจรทางบกหน่อย ไม่ใช่เห็นรถไฟมาก็กระทืบคันเร่งแล้วก็ ตูมมม!!! อยากไปไวก็ไวจริงๆ ตายไว แถมรถไฟพัง บางคันพังก็ยังไม่ได้ซ่อม หรือหนักเกินที่จะซ่อม รถแดวู 2531 ที่ไปชนกระบะที่โคราช ตอนนี้ยังไร้วี่แววที่จะออกมาวิ่ง GE 4526 ที่โดนสิบล้อชนที่บ้านคูบัว ก็โดนหนักเอาการ แบบนี้ไม่รู้จะเอารถที่ไหนมาวิ่ง ชาวบ้านก็บอกว่าไม่มีที่กั้น สงสัยพรบ.จราจรทางบกมีไว้แ-ห-ก แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 51 01:20:53 จากคุณ : Alderwood - [ 28 ก.พ. 51 01:14:59 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตั้งใจไว้ว่าจะอยู่นิ่งๆ ไม่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นในกระทู้รถไฟ เกี่ยวกับเรื่อง “เรือด” คงต้องปล่อยน้องๆ ระบายอารมณ์ที่อัดอั้นกันออกมาก่อน... มีกระทู้เดียวที่ผมเข้าไปเล่าว่า ตัวเรือด เป็นอย่างไร... แต่เรื่องวิเคราะห์วิจารณ์หนักๆ คงไม่ร่วมด้วยในตอนนี้... ก็เหมือนเพื่อนๆ และพี่ๆ อีกหลายท่านที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว... รู้เหตุรู้ผลอยู่ก่อนแล้ว... จะให้ร่วมซ้ำเติมการรถไฟฯ ผมคงทำไม่ได้แน่ (ทั้งๆ ที่อยาก)... แต่น้องๆ ที่อัดอั้นจนระบายออกมาในช่วงนี้... ไม่ผิดนะครับที่จะระบายออกมาตอนนี้... แต่เหมือนพร้อมใจกันจริงๆ ตรงที่ผู้ใหญ่ และผู้เฒ่าหลายท่าน... นิ่งเงียบ ดีจริง... เอาไว้เรื่องนี้เพลาลงแล้วค่อยคุยกันเรื่องรถไฟ... = = = = = แต่สุดท้าย เจอความคิดเห็นที่ 32 คุณ Alderwood น่าสนใจดี... และเหตุ และผล ค่อยคุยกันได้หน่อย แม้บางอย่างไม่ตรงกับผมนัก... ก็ไม่เป็นไรครับ... ทุกอย่างที่รัฐบาลกำลังจะลงมือทำเกี่ยวกับการรถไฟ... เมื่อก่อนได้มีการศึกษามาบ้างแล้ว... แน่นอนว่า ถ้าจะทำจริง ต้องมีการศึกษาแนวเส้นทาง การก่อสร้าง ความเป็นไปได้ และผลกระทบ ขึ้นมาใหม่อย่างเร่งรีบแน่นอน... ตอนนี้ก็กังวลตรงรัฐธรรมนูญฉบับ (อะไรก็ไม่รู้) นี้... ตรงภาคประชาชน ไม่ทราบว่า เราต้องฟังการคัดค้านทุกตำบล หรือทุกอำเภอ หรือทุกจังหวัด หรือกี่องค์กร วิ่งผ่านทั่วประเทศ... ยังไงก็ต้องเจอการอนุรักษ์ เต่าพันธุ์หายาก นกพันธุ์หายาก กบพันธ์หายาก เขียด เย้  กระทิงใกล้สูญพันธุ์ = = = = = ความกังวลการเชื่อมต่อมาเลเซีย... คงไม่ต้องกังวลหรอกครับ... ระบบรางเก่าก็ยังใช้อยู่... และคุณ Alderwood ก็คงทราบว่า... มาเลเซียก็อยากขยายรางรถไฟเหมือนเราเช่นกัน... ระบบขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ผ่านทั้งประเทศ ไม่อยากทำก็ปล่อยมาเลเซียไปเลย... ที่เขาไม่ทำ ก็เพราะของเขาไม่ “คุ้มค่า” เหมือนกัน ถ้าเขาทำแล้วประเทศไทยไม่ทำรางมาเชื่อม... โครงการที่เป็นไปได้ คงต้องเป็น หนองคาย-โคราช-กรุงเทพฯ-หาดใหญ่... ยังไม่มีความจำเป็นต้องบรรจบมาเลเซียตอนนี้... รอเขาพร้อมก่อนได้... ส่วนสายเชียงใหม่คงยาก... และอาจเป็นเส้นสุดท้ายด้วยมั้ง... หลายคน พอพูดรถไฟความเร็วสูงมาก และความเร็วสูงพอประมาณ... ก็มักจะนึกถึงแต่เส้นทางเชียงใหม่... ก็คงไม่ทำทีเดียวทั้งประเทศหรอกครับ... สร้างในระดับคุ้มค่าการขนส่ง ในระยะแรกก็พอก่อน... พอระยะสอง-สาม งานก่อสร้าง ก็คล่องตัวแล้ว.. ขอย้ำคำว่า “คุ้มค่า” อีกครั้งนะครับ ว่าไม่ใช่ “คุ้มทุน” เพราะเรามักจะมองและถามว่าจะ “คุ้มทุน” เหร้อ... รัฐไม่มองเงินที่จะจ่ายคืนรัฐหรอกครับ = = = = = ผมเองก็ไกลเรื่องนี้ไปพอสมควรแล้ว... แต่คุณ Alderwood ก็คงจะนึกภาพออกนะครับว่า จะมีการสร้างนานมาแล้ว... ที่เรารอ เงื้อง่าจะลงมือทำ ไม่ทำ จนถูกด่าไปทั่วประเทศ ก็เพราะเรารอโครงการนอร์ทเทิร์นซีบอร์ดเป็นรูปธรรมมาตั้งแต่สมัยนายกฯชาติชาย สมัยนั้น... โดนทั้งคัดค้าน แถมมาโดนปฎิวัติ ทุกอย่างเลยจบ และเศรษฐกิจถอยหลังลงคลองมาจนทุกวันนี้... คนในยุคนั้น รู้เหตุรู้ผล จึงไม่ด่าว่าอะไรการรถไฟมากนักยังไงล่ะครับ... จะว่าก็ตรงที่มอบงานโครงการใหญ่ๆ ให้ไปทำ ปัดแข้งปัดขากันจนงานไม่คืบหน้า แต่วันนี้ ก็ขอคนไทยร่วมใจ อย่าปัดแข้งปัดขากัน... ทุกอย่างไปด้วยดีครับ... โครงการนี้ คงไม่เสร็จใน 4 ปีนี้หรอก... แต่อาจจะเริ่มตอกหมุดตัวแรกได้ใน 4 ปีนี้ครับ (ถ้าไม่มีอุบัติเหตุอะไรอีก)... บางท่านอาจจะกังวลกับทางรถไฟสายเอกลักษณ์ หรือสายประวัติศาสตร์ อย่าง ดาวคะนอง-มหาชัย ท่าฉลอม-แม่กลอง หรือหนองปลาดุก-ไทรโยค... ตรงนี้อนุรักษ์ได้ครับ... = = = = = รายระเอียดปีกย่อยอื่นๆ... ก็ถูกต้องครับ ในเรื่องสะพาน และเส้นทาง.. สะพานเหล็กโครงสร้างเดิม รับน้ำหนักบรรทุกแบบใหม่ไม่ไหวแน่นอน... แถมมีโครงเหล็กด้านบน ไว้จำกัดความสูงของการบรรทุกเสียอีก... แต่แบบเดิม ก็เป็นการประหยัดและเหมาะสมในสมัยนั้น... ทั้งทนทานต่อการพัดพาของน้ำหลาก... การรับน้ำหนักโดยรวม... ก่อสร้างแบบใหม่ คงไม่ใช้เทคโนโลยีเดิมแล้ว... และที่สำคัญ... แนวเส้นทางรถไฟ ยังไม่แน่ว่า จะวิ่งคู่ไปกับรางรถไฟเดิม... หรือเวนคืนที่ดินใหม่... เวนคืนที่ดินใหม่ จ่ายค่าเวนคืนสูงกว่า... แต่สามารถก่อสร้างได้รวดเร็วกว่า สร้างคู่ไปกับเส้นทางรถไฟเดิม ประหยัดค่าเวนคืน... แต่งานก่อสร้างล่าช้า... เพราะการรถไฟ ไม่เคยเร่งรัดในการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างสักครั้ง... = = = = = ก็ขอขอบคุณ คุณ Alderwood มากครับ... ที่นำข้อมูลใหม่ๆ มาให้เพื่อนๆ ได้ทราบ... ถือเป็นประโยชน์มากทีเดียว... แต่ช่วงนี้ ผมคงไม่เข้ามาคุยในกระทู้การรถไฟบ่อยนัก... เพราะกระแสยังแรงอยู่... เข้าไปร่วมอาศัยลูกชุลมุนตอนนี้ มันไม่เหมาะ... ผมเห็นข้อความคุณ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วหละ... แต่ที่เข้ามาร่วมคุยตอนนี้ เพราะเครียด... เครียดมากๆ แมมโมรี่การ์ด กล้องของผมโดนไวรัส... ผิดพลาดขั้นตอนการฆ่า ภาพหายเกลี้ยง... น้องๆ ที่ทำงานช่วยกู้ก็ไม่ได้อีก... เฮ่อ.. เกือบ พันภาพมั้ง... แต่ที่สำคัญ ภาพการเดินทางเส้นทางยุทธศาสตร์ ทั้งที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก แถมเรื่องงาน ตบท้ายด้วยภาพงานรับรางวัลของลูกสาว... หายเกลี้ยง... เฮ่อ... ดันหันมาถามผมว่า “พี่ทำยังไงอ่ะ ภาพหายหมดเลย” “โธ่... ถ้ารู้แล้วมันจะหายเหรอ... ทำเป็นไม่ให้เอร็ง มากู้ภาพให้หรอก”... เครียดก็เครียด ยังต้องมาอายมันอีก... จากคุณ : หมอนทองแท้ - [ 28 ก.พ. 51 13:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 34 "ระบบขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ผ่านทั้งประเทศ ไม่อยากทำก็ปล่อยมาเลเซียไปเลย... ที่เขาไม่ทำ ก็เพราะของเขาไม่ “คุ้มค่า” เหมือนกัน ถ้าเขาทำแล้วประเทศไทยไม่ทำรางมาเชื่อม..." ตรงหัวข้อนี้ผมไม่ได้มองที่มาเลเซียซะทีเดียวครับ ผมมองที่รายได้ของการรถไฟที่ได้มา ขบวนรถสินค้าที่ทำกำไรให้การรถไฟก็มีหลายขบวนล่ะครับ (แต่ก็ขาดทุนในบางขบวนและรถโดยสาร) อย่างขบวนรถบางซื่อ-ปาดังเบซาร์ ที่ขนส่งสินค้าไปยังมาเลเซีย จะมีขบวน 781, 783 และในเที่ยวกลับก็จะมี 782 และ 784 เป็นรถสินค้าเดินประจำทุกวัน บางครั้งการรถไฟฯต้องเช่าหัวรถจักร Toshiba ของมาเลเซียมาวิ่งเฉพาะขบวนนี้ เพื่อให้สามารถขนส่งสินค้าได้ครับ ผมก็ยังอิจฉารถสินค้าของมาเลเซียอยู่ครับ เขาออกแบบมาดี ล้อเล็ก จุดศูนย์ถ่วงของรถค่อนข้างต่ำ ทำให้ทำความเร็วได้ถึง 90KM/H ผมอาจจะมองไม่ค่อยไกลเท่าไร เพราะผมคิดคงไม่อยากวาดฝันรอมาหลายรัฐบาลที่ไม่เห็นส่งเสริมระบบรางอย่างจริงๆจังๆเท่าไรครับ บอกแต่ปากหรือไม่ก็เอาแค่แผนเศรษฐกิจมาพูดเป็นนโยบายแล้วก็ล่มไป ผมจึงคิดว่าอยากให้ปรับปรุงอะไรที่เป็นไปได้ในระยะเวลาอันใกล้ก่อนครับ จากคุณ : Alderwood - [ 28 ก.พ. 51 18:18:27 ]

ความคิดเห็นที่ 35 แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 51 01:15:30 แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 51 01:14:47 แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 51 01:13:07 จากคุณ : คนที่ยังจำใจต้องใช้บริการ (naipong65) - [ 2 มี.ค. 51 01:11:54 ]