ความคิดเห็นที่ 1 กระทู้นี้จะกล่าวถึงการเดินทางเที่ยวขากลับ รวมไปถึงการพักค้างอ้างแรมในสนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นจุดหมายที่น่าสนใจมากๆ และมีผู้คนหลายๆ คนที่อยากจะรู้ว่า จะนอนที่ชางงีได้อย่างไร ถ้าบินมาถึงสิงคโปร์ตอนดึกๆ หรือ ต้องบินกลับตอนเช้าๆ จะนอนที่ไหนได้บ้าง จะใช้ชีวิตแบบ The Terminal ที่นี่ได้อย่างไร จึงเป็นที่มาของชื่อกระทู้ว่า "The Terminal Life @ Singapore Changi Airport" พอเที่ยวเสร็จช๊อปเสร็จ ก็ต้องกลับมาพักค้างอ้างแรมที่สนามบินชางงีเหมือนเดิม เพราะว่าไฟล์ท TR122 กลับเชียงใหม่ ออกตั้งแต่เช้าตรู่เวลา 6.35 น. (เวลาไทยคือ 5.35 น. เช้ามาก !!!! คิดดูจิ เช็คอินแต่ตี 4 หง่ะ) เวลาเช้ามืดขนาดนั้น รถ MRT ก็ยังไม่เปิดหรอกครับ จ่ายค่าแท๊กซี่คงไม่ไหวแน่ นอนสนามบินดีกว่า   มาถึงสถานีธนาเมร่า (Tanah Merah) แระ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 22:39:21 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รถ MRT สายที่ต่อเข้าสู่สนามบินชางงี ผู้คนค่อนข้างน้อยแล้วหล่ะครับ เพราะเป็นเที่ยวรอบดึกๆ แล้ว อย่างในเวลาที่ถ่ายนี่ก็เกือบๆ 5 ทุ่มแล้วหล่ะครับ โดยขบวนรถ MRT เที่ยวสุดท้ายจากสนามบินชางงี ที่สามารถต่อรถไฟเข้าเมืองได้ จะออกจากสนามบินเวลา 23.18 น. ครับ ซึ่งถ้าใครมาช้ากว่านี้ ก็ได้แค่ไปลงที่สถานี Tanah Merah เพราะไม่มีขบวนรถอื่นๆ ต่อเข้าเมืองแล้ว อาจจะต้องเสียค่าแท๊กซี่เข้าเมือง ซึ่งถ้าเดินทางออกจากสนามบินหลังเที่ยงคืนก็จะมีค่าธรรมเนียมพิเศษอีกเพียบเลยหล่ะครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 22:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 3 นั่งไปไม่นานก็ถึงแล้วหล่ะครับสนามบินชางงี ... มีป้ายบอกเที่ยวบินเรียบร้อย เห็นแล้วหล่ะครับไฟล์ท TR122 สิงคโปร์ - เชียงใหม่ ออกซะเช้าเชียว นั่นจึงเป็นที่มา ที่ทำให้ผมต้องมาพักค้างอ้างแรมที่ชางงี (อีกแล้ว) เพราะเครื่องออก 6.35 น. เจ้า MRT ยังไม่เปิดเลย จะนั่งแท๊กซี่มาก็แพง นอนสนามบินคุ้มสุดครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 22:41:28 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ออกจากสถานี MRT ขึ้นไปข้างบนดีกว่า ก็จะไปพบปะกับชั้น departure ของ Terminal 2 (T2) ซึ่งอยากจะบอกว่า ที่ T2 นี้หลังจากที่เที่ยวบินของ Singapore Airlines ย้ายไปอยู่ T3 ซะส่วนหนึ่งแล้ว ที่นี่เลยโล่งเงียบสนิทเลยอ่ะครับ เหมือนที่สิงคโปร์จะมี Terminal มากเกินกว่าจำนวนเที่ยวบินหล่ะมั้งครับ ในทางตรงกันข้ามกับที่กรุงเทพ ที่รู้สึกว่า จะค่อนข้างแออัดใช้ได้ทีเดียวเชียว และจะยิ่งหนักมาก กรณีที่มีการปิดรันเวย์ซักฟากหนึ่ง .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 22:43:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เนื่องด้วย T2 ก็คุ้นเคยกันดีแล้ว ... ผมก็เลยต้องลองไปหาที่ใหม่ๆ สิงสถิต เอี่ยมๆ น่านอนๆ แน่หล่ะครับ คงไม่ใช่ Budget Terminal หรือ เทสโก้โลตัส สาขาชางงี หรอกครับ   การเดินทางระหว่าง 4 Terminal ก็จะเป็นไปดังแผนภาพนี้อ่ะครับ โดยระหว่าง T1, T2, T3 ก็จะมีรถไฟฟ้าวิ่งเชื่อมเข้าหากัน T1 <--> T2, T1 <--> T3, T2 <--> T3 ส่วนการเดินทางไป Budget Terminal (ให้บริการเฉพาะ Tiger Airways และ Cebu Pacific) ต้องขึ้นรถ Shuttle Bus จาก T2 เท่านั้นครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 22:44:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตรงส่วนท่าเทียบ Sky train หรือรถรางไฟฟ้าที่วิ่งเชื่อมระหว่าง Terminal ใหญ่ทั้ง 3 ดูเอี่ยมมากๆ เลยหล่ะครับ ขบวนรถก็ปรับปรุงใหม่ รองรับการเปิดให้บริการของ T3 เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2551 ที่ผ่านมาครับ   อย่างในภาพเป็นท่า Skytrain ที่ T2 โดยถ้าจะไป T3 ก็ต้องขึ้นชานชลาแรกที่เห็นในภาพ ส่วนถ้าจะไป T1 ก็ต้องเดินลึกเข้าไปหน่อย เพราะใช้คนละชานชลากันครับ สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ ... ขบวนรถ T2 <--> T3 จะพ่วง 2 ตู้ โดยตู้แรกสำหรับผู้โดยสาร Public ทั่วๆ ไป และตู้ที่สอง สำหรับผู้โดยสารที่อยู่ในส่วน Transit Area (ผ่าน ตม. ไปแล้ว) โดยทั้ง 2 ตู้จะแค่พ่วงกันแต่ไม่สามารถไปมาหาสู่กันได้ ในขณะที่ ขบวนรถ T1 <--> T2 และ T1 <--> T3 จะมีแค่ตู้เดียววิ่งอยู่ โดยแยกกันชัดเจนระหว่างตู้โดยสาร Public และตู้โดยสารสำหรับ Transit ครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 22:47:16 ]

ความคิดเห็นที่ 7 การประชาสัมพันธ์วิธีการใช้สนามบินถือว่าทำได้ดีมากๆ ครับ เพราะตามจุดต่างๆ ในสนามบินชางงี จะมีโต๊ะพร้อมเจ้าหน้าที่ให้บริการข้อมูลต่างๆ อยู่ครับ เจ้าหน้าที่จะอัธยาศัยดีมากๆ เข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง ถามได้แบบไม่ต้องเกรงใจเลยหล่ะครับ นี่หล่ะครับ Singapore Hospitality ที่ผมเองผมรู้สึกว่า.... งานบริการหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะงานที่เป็นสาธารณะมากๆ (ที่ไม่ใช่การให้บริการแบบเอกชน) ของไทยนี่ บางทีไปถามอาจจะโดนด่าเอาก็ได้ แต่ที่สิงคโปร์ เจ้าหน้าที่ต่างให้บริการดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นที่สถานี MRT หรือที่สนามบิน .... ยิ่งตรง Visitor Center ยิ่งบริการดีมากๆ ครับ   ขอชมจากใจจริง ผมก็เลยเกาะรถไฟจาก T2 ไปยัง T3 ครับ แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว รถไฟสายนี้จะไปวิ่งอ้อมผ่านใกล้ๆ กับหอบังคับการบินพอดิบพอดีครับ .... แบบว่า เอ่อ T3 อลังการจริงๆ ครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 22:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ชำเลืองมองทะลุกระจกไปเห็นส่วน Transit Area โห ... อลังการสุดๆ สนามบินแห่งนี้ออกแบบมาให้ดูเปิดๆ โล่งๆ ดีนะครับ คนนอกก็เห็นคนใน ส่งกันได้ถึงวินาทีสุดท้ายเลยทีเดียว จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 22:49:27 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ส่วน ตม. ที่ไม่มีผู้คน เพราะตอนนี้ไม่มีเที่ยวบินขาเข้าเลย ... ดูกว้างขวางดีครับ ใน T3 นี้ก็จะมีด่าน ตม. อยู่ 2 ฝั่งเหมือนกับที่ T1 และ T2 ครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 22:51:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โอ้ว ... แค่เพดานก็กินขาดแล้ว ดูวัสดุปูพื้นซะก่อน พื้นที่ทั่วไปปูด้วยหินแกรนิต ส่วนบริเวณเคาน์เตอร์เช็คอิน ปูพรมครับ   แบบว่า รู้สึกคนละอย่างกับสนามบินแถวๆ นี้ที่เราคุ้นเคยกันดีเลยนะครับ แต่ก็น่าเสียดายนะ ที่ T3 ก็ถือว่าค่อนข้างใหญ่โต ในระยะแรกมีเพียง Singapore Airlines เที่ยวบินระยะไกลๆ ให้บริการเพียงสายการบินเดียว ต่อไปก็จะมีสายการบินบางสายจาก T1 มาให้บริการที่ T3 ด้วยอาทิเช่น United Airlines, Jet Airways ฯลฯ เป็นต้นครับ (ส่วนการบินไทย ก็ยังเป็นเจ้าพ่อ T1 ไม่ได้ย้ายไปไหนเหมือนเดิม !!!) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 22:52:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนนี้ T3 อาจจะดูร้างๆ หน่อยนะครับ แต่ในภาพนี่คือช่วงก่อนเที่ยงคืนครับ พอช่วงตี 2 นี่ ... อย่างกะป่าช้า เงียบกริบสุดๆ กลัวผีจะหลอกเอา !!! ในภาพนี้ก็เป็นส่วนทางเข้า ตม. หล่ะครับ คนมาส่งก็เยอะนะเนี่ยะ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 22:54:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อีกจุดหนึ่งที่ผมรู้สึกชอบมากๆ ของ T3 นั่นก็คือ ผนังต้นไม้ ที่เป็นต้นไม้จริงๆ นี่หล่ะครับ มองลงไปด้านล่างก็จะเห็นส่วนสายพานรับกระเป๋าตรงส่วน Arrival อยู่ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 22:55:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ชำเลืองไปทางเคาน์เตอร์เช็คอิน ดูว่างๆ แปลกๆ ดี เพราะตอนนี้มีแค่สายการบินเดียว SQ Economy Class ใช้ Row 3 & Row 4 SQ Business Class ใช้ Row 6 ส่วนพวกที่บิน First และ Suite (Class Beyond First) จะมีส่วนเช็คอินเฉพาะอันอลังการล้านแปดอยู่อีกส่วนหนึ่ง (ซึ่งส่วนนึ้คงต้องรอให้ลุงแชส หรือ ลุงวันเดอร์มาทำรีวิวให้ดูแล้วหล่ะครับ -- ก็ต้องลุ้นให้ SQ เปิดไฟล์ท สิงคโปร์-โตเกียว เร็วๆ ละกัน) สังเกตม้านั่งใน T3 นะครับ จะทรงแข็งๆ นั่งเอนได้นิดหน่อย แต่อยากจะบอกว่า ดูท่าทางไม่น่านอนเลย ม้านั่งที่ไหนก็สู้ม้านั่งนุ่มๆ ของสุวรรณภูมิไม่ได้ (ในที่นี้หมายถึง ม้านั่งรุ่นเก่าจากดอนเมือง -- ที่ไม่ใช่รุ่นม้านั่งเหล็กแข็งๆ แห้งๆ นะครับ) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 22:57:08 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตัวอาคาร T3 จะมีทั้งหมดประมาณ 7 ชั้นได้ครับ ชั้น 4 = จุดชมวิวเครื่องบิน ที่มองไม่เห็นอะไรซักกะอย่าง   ชั้น 3 = ร้านอาหารและร้านค้า ชั้น 2 = Departure Hall และส่วนเคาน์เตอร์เช็คอิน ชั้น 1 = Arrival Hall และส่วนสายพานรับกระเป๋า B1 = ออฟฟิศสายการบินต่างๆ B2 = จะมีส่วนที่เป็นร้านค้าต่างๆ และร้านอาหารมากมาย เหมือนจะเป็น 24 ชั่วโมงสำหรับผู้คนทั่วไปครับ B3 = ชั้นจอดรถ อย่างภาพนี้ถ่ายจากชั้น 4 มองลงมาด้านล่างทางฝั่งเคาน์เตอร์เช็คอินครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 22:58:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ที่สำคัญก็คือ จากชั้น 4 ชั้นชมวิว มองลงไปจะเห็นส่วน Transit Area อันอลังการด้วย ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 22:59:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 และนี่ก็คือส่วนชมวิว ชั้น 4 ของ T3 นะครับ ... ใครเคยบอกว่า จุดชมวิวชั้น 7 ของสุวรรณภูมิดูแย่แล้ว ที่นี่แย่กว่าเยอะครับ ... เป็นจุดชมวิวที่มองไม่เห็นเครื่องบินซักกะลำ แปลกดีไหมครับ   เวลาถ่ายภาพนี้คือช่วงก่อนเที่ยงคืนครับ คนเยอะมากๆ ไม่มีใครเค้ามานอนตรงนี้กันหรอกครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มองลงไปข้างล่างในส่วน Transit Area เห็นร้าน Ajisen Ramen อยู่ คิดถึงอดีตอันแสนหวาน นั่งกินราเมนไป ชมวิวเครื่องบินไป (ร้าน Ajisen Ramen ที่ Terminal 1 สนามบินดอนเมืองในอดีต) ว่าด้วยเรื่องห้องน้ำ ... ห้องน้ำของ T3 สะอาดและกว้างมากๆ ครับ มีค่อนข้างเยอะ และไม่ลึกลับ ... (เหมือนจะเอาข้อบกพร่องของสนามบินแถวนั้ไปปรับปรุง) สามารถเอารถเข็นเข้าไปข้างในได้ด้วย ปกติใกล้ๆ ห้องน้ำจะมีจุดให้บริการน้ำดื่มให้กดดื่มฟรีอยู่ บางทีจุดน้ำดื่มอาจจะค่อนข้างหลบมุมหน่อยนะครับ ถ้ามีขวดไปรองน้ำจะดีมากๆ ทีเดียวเชียว (แต่ยังไงก็เอาขึ้นเครื่องไม่ได้นะครับ ตามมาตรการของเหลว) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:02:40 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ด้านหน้าอาคาร เงียบเหงาวังเวง ถ้ามีเสียงหมาหอนด้วยนี่จะได้บรรยากาศมากๆ ครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:04:20 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ลงไปชั้น B2 บ้างดีกว่า ไปเมียงๆ มองๆ หาอะไรกินรอบดึก ชั้น B2 นี่เค้าเหมือนตั้งใจจะให้เป็นห้าง สำหรับผู้คนทั่วๆ ไป ที่ไม่จำเป็นต้องมาบิน ก็มาดื่มกินช๊อป ได้อ่ะครับ เป็นคอนเซปต์ที่ดีมากๆ เลย   ส่วนราคาอาหารนี่ ก็ไม่ถูกหรอกครับ แพงกว่าร้านตาม Food stall ในเมือง ประมาณ 2-3 เท่า จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:05:12 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาสำรวจตรงชั้น 1 ส่วน Arrival Hall กันบ้าง เงียบกริบ ไม่มีผู้คน ไม่มีใครนอน   เอ่อ ใครจะกล้านอนหล่ะครับ สว่างขนาดนี้ ไม่มีคนด้วย แถม คุณ รปภ. หน้าเข้มก็เดินไปเดินมาอยู่นั่นหล่ะ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:06:13 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนใครที่มองหาแหล่งพลังงาน ในการชาร์จแบตโน๊ตบุ๊ค กล้องดิจิตอล หรือ โทรศัพท์มือถือ ตามเสาต่างๆ จะมีปลั๊กไฟติดตั้งอยู่ครับ แต่จะซ่อนไว้ในเสา โดยจะสังเกตว่า เสาบางต้น จะมีช่องสี่เหลียม อยู่เหนือพื้นมานิดหน่อย เราก็เปิดตรงช่องสี่เหลี่ยมออก ก็จะเจอปลั๊กไฟแบบสิงคโปร์อยู่ครับ สะดวกมากๆ เลย (บางทีจะต้องเปิดตรงสวิสต์ด้วยนะครับ) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:07:11 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ว่าด้วยเรื่องสัญญาณ Wireless LAN หรือ wi-fi ใน T3 (และอาคารอื่นๆ) ตามโฆษณาเห็นว่าสามารถใช้เครือข่าย ที่ชื่อว่า Wireless@SG ได้ แต่เอาเข้าจริงๆ เวลาไปเปิดโน๊ตบุ๊คตามส่วนต่างๆ ของสนามบิน จะจับเครือข่ายนี้ได้ แต่ทว่า ต้องอาศัยรหัสผ่านหล่ะครับ แล้วเค้าก็ไม่ได้บอกว่า รหัสผ่านนั่นคืออะไร .... เหมือนจะต้องเสียเงินใช้เลยครับ ดังนั้น ผมก็เลยใช้มุขแบบตามหาสัญญาณ wi-fi ที่สุวรรณภูมิ คือ ที่ไหนมีเล้าจน์ ที่นั่นมีสัญญาณ wi-fi (ฟรี) ซึ่งผมก็ดูแล้วหล่ะ หาเล้าจน์ SilverKris Lounge เจอตรงชั้น3 ฝั่งซ้ายของอาคาร เลยคาดว่าฝั่งซ้ายน่าจะมีสัญญาณด้วย ผมก็เลยไปหามุมที่มีสัญญาณอยู่พักหนึ่ง สัญญาณชื่อว่า Wireless@SKL แล้วก็ขึ้นหน้าจอแบบนี้ครับ เราใส่รหัส username และ password เหมือนกันว่า krisnet แค่นี้หละครับ เราก็ได้ใช้เน็ตฟรีๆ แล้ว อิ อิ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แล้วผมก็นั่งเล่นเน็ตได้สบายบรื๋อ .... แต่ตรงจุดที่ผมนั่งเล่นอยู่ตรงนี้ค่อนข้างลึกลับนะครับ เป็นมุมมุมหนึ่ง บนชั้น 3 ที่แทบไม่มีใครเดินผ่านเลยครับ ถ้ามืดๆ ทึมๆ หน่อยนี่ ผีมาหลอกแหง๋ เลย .... ปล. นี่หล่ะ ที่ผมรู้สึกว่า ผมชอบสุวรรณภูมิ ตรงที่เพราะคนพลุกพล่านมากกว่า จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แล้วก็กลับขึ้นไปตรง ชั้น 4 อีกรอบครับ ตอนนี้เกือบตี 2 แล้ว ไม่มีผู้คนเหลืออยู่เลย ... แล้วก็ไม่มีใครนอนด้วย เหอ เหอ เหอ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:12:59 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อยากจะบอกว่า เงียบสุดๆ เพราะไฟล์ทต่อไปที่จะออกจาก T3 คือเวลา 7.00 น. เอ่อ ... แทบจะไม่มีคนเลยหล่ะครับ (แต่ตามร้านอาหารก็ยังมีคนนั่งอยู่ไม่น้อยนะครับ) เอาหล่ะ ไม่ไหวแล้ว กลัวโดนผีหลอก ไปหาที่ๆ คนน่าจะรวมตัวกันอยู่เยอะๆ ดีกว่า .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:15:34 ]

ความคิดเห็นที่ 26 นั่นก็คือ ผมจะหนีจาก T3 ไป T1 นั่นเองครับ ..... พอดีรถจาก T2 มาถึงก็เลยถ่ายรูปซักกะหน่อยเท่านั้นเอง จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:16:32 ]

ความคิดเห็นที่ 27 รถ skytrain กำลังจะปิดให้บริการแล้วหล่ะครับ รถ skytrain นี้ให้บริการแค่ช่วงเวลา 5.00 - 2.30 น. ของทุกวันเท่านั้นครับ ส่วนช่วงเวลา 2.30 - 5.00 น. จะมีรถ Shuttle Bus ให้บริการเดินทางระหว่าง T1, T2 และ T3 ครับ ออกเดินทางไปเลยดีกว่า (skytrain เป็นรถระบบอัตโนมัติไม่มีคนขับนะครับ) ถึงแล้วจ้า T1 อันคุ้นเคยกันดี .... มองหาที่นอนแล้วหล่ะครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:17:39 ]

ความคิดเห็นที่ 28 พอขึ้นไปถึงจุดชมวิวของ T1 ชั้น 3 แล้ว (ชื่อว่าส่วน Viewing Mall) ก็จะพบเจอกับผู้คนหลายสิบชีวิต กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ อย่างนี้สิครับ อบอุ่น ไม่วังเวง ไม่ต้องกลัวโดนผีหลอก จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:18:31 ]

ความคิดเห็นที่ 29 บริเวณพื้นที่แถวนี้ ถือว่า น่านอน มากๆ ครับ เสาบางต้นจะมีปลั๊กไฟให้ชาร์จแบตเตอรี่ต่างๆ ด้วยหล่ะครับ ผู้คนก็ถือว่ามีคนเดินไปเดินมาตลอดทั้งคืนครับ เหมือนไม่มีใครมาไล่ด้วย นอนยาวได้ตลอดครับ .... แต่พอดีคืนนั้น ผมรำคาญเด็กอินเดียลากส้นสูงมากๆ เธอก็เดินก๊อกแก๊ก ดังลั่น เดินไปเดินมาเสียงดังจริงๆ ก็เลยทนนอนอยู่ตรงนั้นไม่ได้ หนีไปนอนที่อื่นดีกว่า   ด้วยความที่ผมง่วงมาก แล้วกลัวจะไม่ตื่น ... พอดีว่ารถ Skytrain ปิดไปแล้วหล่ะครับ ... ผมก็เลยนอนตรงซอกมุมหนึ่ง สลัวๆ หน้าท่า Skytrain จาก T1 ไป T2 เลยหล่ะครับ นอนสบายดีมากๆ ไม่มีใครเดินผ่านด้วย แถมพอรถ skytrain เที่ยวแรกมา ยังไงก็ต้องสะดุ้งตื่นครับ .... ผมก็เลยได้งีบไปซัก 2 ชั่วโมงกว่า .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:20:41 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เวลาตี 4 กว่าๆ เกือบๆจะ ตี 5 (เวลาสิงคโปร์) รถ skytrain เที่ยวแรกก็มา ผมก็สะดุ้งตื่น เก็บข้าวของแล้วเตรียมออกเดินทางไป Budget Terminal เลยดีกว่า   เอ่อ ที่แย่ก็คือว่า ตอนเวลานี้หน่ะ บันไดเลื่อนลงข้างล่างก็ปิด ลิฟท์ก็ปิดด้วย ... เซ็งเป็ดก้าบๆ เดินลงบันไดเลื่อนซะงั้น แป๊บเดียวก็ถึงแล้วหล่ะครับ ท่ารถ shuttle bus ไป Budget Terminal ขึ้นไปนั่งรอสบายแฮเลย .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:21:51 ]

ความคิดเห็นที่ 31 นั่งรถมาแป๊บเดียวก็ถึงแล้วหล่ะครับ ... บรรยากาศตรง BT หรือ Budget Terminal ก็เหมือนห้างค้าปลีกข้ามชาติตามที่ผมเคยบอกหล่ะครับ ผู้คนค่อนข้างพลุกพล่านมากๆ ทีเดียวเชียว แต่ไม่ค่อยเหมาะแก่การมานอนเท่าไหร่ ถ้าใครคิดว่า นอนในบรรยากาศเหมือนนอนในโลตัส บิ๊กซี คาร์ฟูร์ ได้ก็นอนเถอะครับ แต่ผมไม่เอาอ่ะ แห่ะๆๆ   เฮ่อ .... ไฟล์ท TR122 ไปเชียงใหม่ คิวเช็คอินยาวเฟื้อยอีกแล้ว .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:22:56 ]

ความคิดเห็นที่ 32 วันเดินทาง : 24 กุมภาพันธ์ 2551 เที่ยวบิน : TR122 Singapore - Chiang Mai เครื่องบิน : แอร์บัส A320 ทะเบียน 9V-TAI (ลำใหม่สุดของเสือ ณ เวลานี้) เวลาออกเดินทางตามตาราง : 6.35 - 8.30 น. เวลาออกเดินทางจริง : 8.10 - 10.05 น. (ดีเลย์ 1 ชั่วโมงครึ่ง !!) เวลาเดินทางบนอากาศ : 2 ชั่วโมง 29 นาที (กัปตันเหยียบมิด !!) จำนวนผู้โดยสาร : 180 คนเต็มเอี๊ยดทุกที่นั่ง !!! ราคาค่าโดยสาร : รวมภาษีทุกอย่าง ไป-กลับ 3,940 บาท คือแบบว่า เข้าคิวรอจนผมเริ่มหายง่วงเลยอ่ะครับ รอเธอมานานแส้นนาน.... ดูแถวไฟล์ทที่ไปกรุงเทพ คนน้อยกว่าเชียงใหม่เยอะเลยอ่ะครับ ... คำพูดที่ว่า "นี่เสือโง่ หรือ เสือบ้ากันแน่ ที่ปิดเส้นทางเชียงใหม่" เริ่มผุดขึ้นมาในหัวผมอีกครั้งหนึ่ง ผู้โดยสารเยอะขนาดนี้ก็ยังปิดเส้นทางได้เนอะ ..... ไฟล์ทนี้ผู้โดยสารส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นชาวสิงคโปร์และชาวต่างชาติอื่นๆ ส่วนคนไทยมีประมาณ 20% ครับ มีทั้งที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว และกลุ่มผู้ใช้แรงงานครับ   รอมาแสนนาน ก็ได้บอร์ดดิ้งพาสแบบสลิ๊ปมาแล้วหล่ะครับ ....   วันนี้นั่งที่นั่ง 25F ริมหน้าต่างด้านขวา ท้ายเครื่องอ่ะครับ   ไม่รู้หล่ะ วันนี้ไม่ซีเรียส เพราะยังไงตั้งใจขึ้นไปหลับลูกเดียวอยู่แล้วครับ เหอๆ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:25:01 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ที่แน่ๆ ที่ Budget Terminal มีภาษาไทยเยอะมากๆ ครับ .... บอก destination เป็นภาษาไทยด้วย อิอิ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ส่วน Departure เข้า ตม. ของ Budget Terminal ก็เล็กกระทัดรัด ผู้คนมาส่งก็เพียบอ่ะครับ หุ หุ ถ้าใครหิวก็ฝากท้องไว้ร้านทางด้านซ้ายก่อนได้ ... เข้าไปก็เจอด่าน ตม. ที่นี่เค้าเน้นนโยบาย ให้ผ่านด่าน ตม. โดยใช้เวลาน้อยที่สุด ซึ่งก็แป๊บเดียวจริงๆ ครับ ง่ายมากๆ เลย (เพียงแต่อย่าไปถ่ายรูปคุณ ตม. เค้าหล่ะ) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:28:20 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ก็รู้สึกชื่นชมที่ทาง Budget Terminal พยายามที่จะเพิ่มตัวหนังสือภาษาไทยมากขึ้น แต่ก็ยังมีที่ผิดเยอะๆ ให้อ่านขำๆ อยู่มากมายทีเดียว ดังเช่นภาพนี้ ... มาตรตราการตรวฯลอบ .... (เรายังจำคำว่า "แลกเปลี่ยนเงินพณา" ได้อยู่ -- เอ่อ พี่ คนไทยในสิงคโปร์ก็มีเยอะนะพี่ น่าจะผ่านการตรวจทานมาก่อนอ่ะครับ) ป้ายนี้เป็นป้ายที่อยู่ตรงหน้าด่านตรวจสัมภาระและสแกน ซึ่งตอนที่เราผ่านก็ต้องเอาอุปกรณ์ที่ติดตัวใส่ตระกร้าให้หมด ส่วนถ้าใครใส่โน๊ตบุ๊คในกระเป๋าเป้ ก็ต้องแยกเอาให้เค้าสแกนต่างหากด้วยนะครับ ถ้าเครื่องสแกนร้องตี๊ด ... คนลูบคลำก็ชอบลูบแบบตั้งใจเหลือเกิน ผมเป็นพวกบ้าจี้ด้วยอ่ะ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:29:23 ]

ความคิดเห็นที่ 36 โอ๊ะโอ๋ Boarding แล้ว รีบไปขึ้นเครื่องเลยดีกว่า .... ถ้าไม่รีบร้อน จะนั่งรอตรงนี้ก็ได้ครับ เพราะตรงแถวหน้า Gate จะไม่มีที่นั่งแล้ว แต่ทว่าควรเผื่อเวลาด้วยนะครับ เพราะพี่เสือเค้าไม่รอใคร จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ไฟล์ท TR122 ไปเชียงใหม่ วันนี้ใช้เครื่องแอร์บัส A320 ทะเบียน 9V-TAI ซึ่งถือว่าเป็นตัวใหม่สุดของเสือ ณ เวลานี้เลยหล่ะครับ ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ไปเข้าคิวดีกว่า .....   แม้ว่าจะระบุที่นั่งแล้วก็ตาม .... โดยเจ้าหน้าที่จะเริ่มๆ ฉีกบอร์ดดิ้งพาสให้กับผู้โดยสารที่มาเข้าคิวก่อน พอปล่อยขึ้นเครื่องก็จะเดินขึ้นเครื่องได้เลยครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:33:13 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ผู้โดยสารต่างก็เข้าคิวรอที่จะขึ้นเครื่องไป ... ผ่านไปเกือบๆ 20 นาทีก็ยังไม่มีการประกาศใดๆ ทั้งสิ้น ทุกคนเริ่มมองหน้ากัน เริ่มเดินไปถามเจ้าหน้าที่ที่ตรวจบอร์ดดิ้งพาส แต่เจ้าหน้าที่ดูเหมือนไม่รู้เรื่อง หลายๆ คนเริ่มนั่งลงกับพื้นแล้วหล่ะครับ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็กๆ ซึ่งก็ต้องเข้าคิวอยู่ในแถวด้วยเหมือนกัน ผมเองก็เริ่มยืนได้ไม่อยู่สุขแล้ว เพราะเวลา 6.40 น. ที่เครื่องควรจะออกไปแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เรียกขึ้นเครื่องเลย จนกระทั่งเวลา 6.55 น. เจ้าหน้าที่ได้ประกาศออกไมค์เป็นภาษาอังกฤษ ใจความว่า "เที่ยวบินนี้มีเหตุจำเป็นที่ทำให้เกิดความล่าช้าอันเนื่องมาจาก Technical problem เมื่อเครื่องบินพร้อมแล้วจะประกาศแจ้งให้ทราบอีกครั้ง" (ประมาณว่ายังไม่รู้ว่าจะพร้อมบินเมื่อไหร่ !!!) แว๊ก .. เจอแจ๊กพอตการบินไทยคราวนั้นยังไม่พอ มาเจอแจ๊คพอตเสือน้อยอีกแล้ว... นี่ขนาดเสือลำใหม่ๆ ไม่ใช่ป้าแก่ๆ อย่าง AB6 การบินไทยคราวก่อนนะ ... คราวนี้ Transfer ให้ใครก็ไม่ได้แล้วด้วย หึ หึ จะหวังให้เสือ Transfer ไป Silk Air หน่ะรึ ... ไม่มีวันซะหรอกครับ ทุกคนต่างอยู่ในภาวะที่สับสนมากๆ เพราะสายการบินไม่ได้กำหนดเวลาออกเดินทางใหม่ ไม่รู้ว่าจะได้ออกเดินทางกี่โมงด้วยซ้ำไป ผมก็เลยรีบคว้ามือถือโทรทางไกลหาที่บ้านก่อนเลย ให้ที่บ้านช่วยโทรไปแจ้งที่ทำงานด้วยว่า ... "ยังไงวันนี้ผมไปทำงานสายแน่ๆ แต่จะไปถึงกี่โมงยังไม่รู้ เหตุเนื่องจากเครื่องบินดีเลย์" ผู้โดยสารต่างเดินออกจากแถว ไปนั่งรอกันข้างนอก หลายๆ คนก็หงุดหงิด แต่จะทำอะไรได้ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:35:48 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ผมเองก็เหนื่อยเต็มทีแล้วหล่ะครับ แต่ก็ดี ได้เวลาเข้าไปจัดการธุระในห้องน้ำให้เรียบร้อย (พอเครื่องออกก็จะได้นอนยาว พอถึงเชียงใหม่จะได้ไปทำงานได้เลย) ผู้โดยสารก็นั่งรอกันเต็มดังภาพนี่หล่ะครับ .... เซ็งเป็ดกันเป็นแถบๆ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:37:20 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ใครจะคิดว่า ไฟล์ทเช้าสุดของวันจะดีเลย์ เครื่องบินใหม่เอี่ยมเลย ใครว่าจะมีปัญหาไม่ได้อ่ะครับ เห็นเครื่องบินอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่เครื่องบินงอแงไม่อยากบินซะงั้น ดูดิครับ รอกันจนฟ้าสว่างเลยอ่ะ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:38:10 ]

ความคิดเห็นที่ 42 พอกลับไปมองที่เครื่อง เห็นพนักงานชูนิ้วโป้งขึ้นให้สัญญาณว่า "เครื่องพร้อมแล้ว" เวลาขณะนี้ประมาณเกือบๆ 7 โมงครึ่ง แล้วหล่ะครับ งานนี้ คนที่น่าสงสารที่สุด ก็คงเป็นเจ๊แม่เสือสาว กราวน์คนนี้หล่ะครับ รู้สึกว่าเธอจะรับเละไปเต็มๆ อยู่คนเดียว ... ทีนี้เรียกขึ้นเครื่องแล้วหล่ะครับ 7.30 น. ผู้โดยสารต่างกรูกันขึ้นเครื่อง แน่นอนหล่ะครับ ผมวิ่งขึ้นเป็นคนแรกๆ เลย เหอๆๆ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ยืนยันว่าเสือตัวจริงเสียงจริง .... นังเสือ ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:40:54 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ไฟล์ทนี้เจอคุณแม่เสือสาว แอร์ และ สจ๊วต 2 คนเดิมจากไฟล์ทขามาครับ ... เธอก็จำผมได้ด้วยก็เลยได้คุยกันนิดหน่อยครับ เธอก็เลยขออภัยใหญ่เลยว่ามีปัญหา Technical problem จริงๆ   แล้วก็เข้าประจำที่ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:41:37 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ผมว่า ที่นั่งแอร์บัส A320 ไม่ว่าจะเป็นเสือหรือหางแดง แถวท้ายๆ รู้สึกว่าที่นั่งจะอัดๆ มากกว่าแถวข้างหน้าๆ นะครับ เวลานั่งรู้สึกเข่าติดเหมือนกัน แต่ก็ยังดีกว่าเครื่อง 9V-TAA,TAB,TAC,TAD อันนั้นนี่เข่าติดแบบสุดๆ ครับ ปกติถ้าผมได้นั่งหางแดง A320 ผมมักจะชอบรีบขึ้นเครื่องไปนั่งแถวด้านหน้าๆ จะได้นั่งสบายกว่า seat pitch ไม่แคบเท่าแถวท้ายๆ ครับ พอดีทีนี้หน่ะ บินเสือเลือกไม่ได้ .... เค้ากำหนดให้นั่งไหนก็นั่งไปตามนั้นหล่ะ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:42:58 ]

ความคิดเห็นที่ 46 รอกันไปพักหนึ่งหล่ะครับ ... ยังดีที่ทุกคนนี่ clear immigration มาหมด แถมเป็น Terminal เล็กๆ ตามหาตัวกันได้ไม่ยาก ... นี่ถ้าเป็น Terminal ใหญ่กว่านี้คงจะลำบากแน่ๆ ครับ กว่าจะได้ push back ก็ 8.10 น. (ตามเวลาสิงคโปร์ เข้าไปแล้ว) โหย เสือเอ้ย .... คุณแอร์ และคุณสจ๊วตก็เดโม่ .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:43:53 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ใช้เวลา taxi อยู่พักหนึ่ง ก็ได้เวลาเหินฟ้าแล้วหล่ะครับ .... บ้ายบายสิงคโปร์ ภาพล่างนี่ จะเห็นส่วนพื้นดินที่ยื่นออกไปตรงทะเล (บริเวณใต้ wingtip เหลืองๆ ในภาพ) นั่นคือพื้นที่จัดงาน Singapore Air Show ครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:45:03 ]

ความคิดเห็นที่ 48 บ้ายบาย เดี๋ยวก็ได้เจอกันอีก ทริปหน้าสิงคโปร์ ครั้งแรกของยุ่งชะมัดกับเที่ยวบินระหว่างประเทศของการบินไทย เนื่องด้วยผมเกิดอาการง่วงจัด ก็เลยหลับยาวเลยหล่ะครับ .... จะมีสะดุ้งตื่นเล็กน้อย ตอนที่ลูกเรือออกมาเดินขายอาหารและเครื่องดื่มหน่ะครับ ..... ไม่ซงไม่ซื้ออะไรแล้วอ่ะครับ ... สะดุ้งนิดหน่อยแล้วก็หลับต่อไป คร่อก..... (ง่วง) จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:46:49 ]

ความคิดเห็นที่ 49 หลังจากที่เทคออฟจากสนามบินชางงีมาได้ 2 ชั่วโมงหน่อยๆ สัญญาณเตือนรัดเข็มขัดก็ดังขึ้น เครื่องบินใกล้จะถึงเชียงใหม่แล้วหล่ะครับ ดูเวลาตอนนี้ก็ 9 โมงเกือบจะ 10 โมงเช้าแล้ว ผมเริ่มอยู่ไม่ค่อยสุขเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าตอนนี้ที่ทำงานเคสจะเยอะไหม ยิ่งวันนี้วันอาทิตย์ด้วย ถ้าลูกค้าเยอะ พี่ๆ ก็เหนื่อยกันหน่อยหล่ะครับ กลัวโดนเจ้านายว่าด้วยหล่ะครับ ..... กลัวจะลามปามไปถึงทริปถัดๆ ไป .... ว่าเที่ยวแล้วเสียการเสียงานอ่ะ ... เครื่องลดระดับลง แล้วก็แตะสนามบินเชียงใหม่อย่างนุ่มนวล เวลา 10 โมงเช้าพอดีครับ สิริรวมดีเลย์ไป 1 ชั่วโมงครึ่ง .... จับเวลาดูแล้ว ถือว่ากัปตันทำเวลาบินค่อนข้างเร็วมากๆ คือ สิงคโปร์-เชียงใหม่ นับเวลาที่ล้อพ้นพื้น กับเวลาที่ล้อแตะพื้น เพียงแค่ 2 ชั่วโมง 29 นาทีบนอากาศเท่านั้นครับ !! แล้วก็ไปจอดที่เดิมคือ Gate 8 งวงกระจกนั่นเอง ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:49:09 ]

ความคิดเห็นที่ 50 พนักงานภาคพื้นการบินไทยมาเปิดประตูห้องเก็บสัมภาระแล้วหล่ะครับ ... รีบลงจากเครื่องดีกว่า โทรหาที่ทำงาน คุณการเงินสาว เธอบอกว่า ลูกค้าเยอะมาก ..... ซรวยแล้วดิตรู พี่ๆ รักษากันตัวเป็นลิงอีกแล้ว วันอาทิตย์เคสยิ่งเยอะๆ อยู่ด้วย จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:50:40 ]

ความคิดเห็นที่ 51 บ้ายบายนะเจ้าเสือน้อย .... ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ที่ผมเลือกเดินทางกับ Tiger Airways ครับ เพราะว่า 1. เสือเลิกบินเส้นทาง สิงคโปร์ - เชียงใหม่ - สิงคโปร์ แล้ว 2. ถ้าให้บิน กรุงเทพ - สิงคโปร์ ขอเลือกหางแดง หรือ Jetstar ที่ใช้ T1 ดีกว่า อีกทั้งเสือเองค่าน้ำมันก็ไม่ใช่จะถูกเลยครับ ของหางแดงจะถูกกว่า เว้นแต่กรณี บินกลับจากสิงคโปร์ ค่าธรรมเนียม Budget Terminal อาจจะทำให้ค่าโดยสารของเสือถูกกว่าครับ ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:53:23 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ภาพสุดท้ายแล้วหล่ะครับ ... ด่าน ตม. เชียงใหม่ หุหุ ยังดีครับที่เปิดช่องสำหรับคนไทยให้ อย่างน้อยก็ทำให้การผ่าน ตม. เป็นไปได้เร็วขึ้น แต่ถึงอย่างไร ผมก็ต้องรอเกือบๆ 15 นาทีอ่ะครับ .... คุณพี่ ตม. ก็ใจดีครับ แต่พอผมไปรับกระเป๋า เจอคุณเจ้าหน้าที่ศุลกากร เค้าก็ถามว่าผมซื้ออะไรหิ้วมา ผมตอบว่าน้ำผลไม้ คุณพี่ก็พูดประมาณว่า อุตส่าห์ไปแบกน้ำมาจากสิงคโปร์ เอ่อ... พี่ครับ นั่นเงินผมนะครับ น้ำผลไม้รสนี้ไม่มีขายในเมืองไทยซะด้วย (ที่พูดถึงนี่คือน้ำแอ๊ปเปิ้ลที่ขายบนเครื่องเสือนั่นเอง แต่ผมไปซื้อมาจากห้างใส่กล่องมาเลย อิ อิ) เอาเป็นว่าผมก็ต้องรีบไปที่รถ ไปเอาชุดมาเปลี่ยนที่สนามบิน แล้วก็บึ่งรถไปที่ทำงาน โชคดีที่ไม่ไกลสนามบินเท่าไหร่ (ผมทำงานที่เอกชนนะครับ ไม่ได้อยู่ตรงคันคลองฯ ไม่ต้องเลี้ยวซ้ายด้วย ขับจากสนามบินตรงไปเรื่อยๆ นั่นหล่ะครับ ...) แล้วก็ได้ตอกบัตรทำงาน เวลา 10.36 น. ทำงานสายไปชั่วโมงกว่า โฮ๊ะๆๆ แต่ก็ยังดีที่เจ้านายก็เข้าใจว่า เรื่องไฟล์ทดีเลย์หน่ะ เป็นเรื่องสุดวิสัย กลับมาก็ทำงานตัวเป็นลิงโดยพลัน หุ หุ ... ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ ปล. เงินเดือนเดือนนี้ผมได้รับครบทุกบาททุกสตางค์ครับ ไม่โดนตัด (^___^) ปล.2 ยังคงคอนเซปต์ สัตวแพทย์ผู้ชื่นชอบสนามบินมากกว่าโรงพยาบาลสัตว์ครับ ... สัปดาห์หน้า ไปทะเลกันดีกว่า : เกาะภูเก็ต กับหางแดง 40 บาท กันนะครับ ... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 29 ก.พ. 51 23:57:58 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ตามกลับมาด้วยจ้า... หมอยุ่งพาเที่ยวทั้งร้อนทั้งสนุก   ขอบคุณนะคะ จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 1 มี.ค. 51 00:20:01 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณครับ บางมุม เหมือนภาพกราฟฟิคเลย จากคุณ : I'm FangKrab - [ 1 มี.ค. 51 00:41:16 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ตามหมอยุ่งเที่ยว สนุกที่สุด จากคุณ : scuba734 - [ 1 มี.ค. 51 03:56:46 ]

ความคิดเห็นที่ 56 หมอยุ่งไปถ่ายรูปอยู่ตรงไหนใน Air Show อ่ะ....ไม่เห็นเจอเลยคับ จากคุณ : donatt76 - [ 1 มี.ค. 51 06:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 57 terminal เค้าสวยจริงๆ เนอะ โปร่ง โล่ง สบาย ขอบคุณที่เอามาฝากครับ จากคุณ : หน้าแว่น - [ 1 มี.ค. 51 10:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 58 มาให้กำลังใจครับ จากคุณ : ดับฝันหนุ่มน้อย - [ 1 มี.ค. 51 18:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 59 มาให้กำลังใจน้องยุ่งฯ และรอทริปภูเก็ตทริปหน้านะคะ จากคุณ : oub_ib - [ 2 มี.ค. 51 23:00:20 ]