Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ผิดหวังกับโรงแรมมณเฑียรพัทยามาก

    เมื่อวาน (1 มี.ค. 51) ผมมีธุระที่พัทยากับเพื่อนอีกคนหนึ่ง  เสร็จธุระก็ปาไปสามทุ่มครึ่งนึกถึงมณเทียรพัทยา  เพราะเคยคิดหลายครั้งแล้วว่าน่าลองพักสักครั้ง เพื่อนผมก็เห็นด้วย

    ตอนขับรถเข้าไปก็เห็นว่ามีรถจอดเยอะมาก  ถามยามที่แจกบัตรผ่านก็บอกให้ปีนฟุตบาทจอดได้เลย  แต่ผมอยากลุ้นเลยขับรถไปวนที่หน้าตัวตึก  สุดท้ายก็เห็นว่าที่ลานจอดรถมีช่องว่างหนึ่งช่องจึงรีบไปจอด

    ตอนจอดรถก็รู้สึกว่าที่จอดรถแคบไปหน่อย   (ลานจอดจะจอดได้สองฝั่งตรงข้ามกันแบบนี้ครับ

    \  \  \  \  \  \  \  \  \

    /  /  /  /  /  /  /  /  /) ผมดูแล้วก็น่าจะโอเคครับ

    พอเข้าไปสอบถาม  ทางโรงแรมก็บอกว่าลดให้ 20%  ราคานี้พร้อมอาหารเช้า  ผมกับเพื่อนก็พอใจราคานี้ครับเลยเช็คอินแล้วเดินกลับมาที่รถด้วยกันเพื่อเอาของ  ทั้งสองครั้งที่ผมและเพื่อนมาที่ลานไม่มีใครยืนอยู่เลย  ยามโบกรถยังไม่มี

    ตอนกลางวันวันนี้ (2 มี.ค. 51) ผมก็เช็คเอาท์  เดินมาที่รถต้องตกใจมาก  เพราะที่มุมกันชนท้ายด้านขวาของผมบุบมาก  ผมรีบไปแจ้ง Bell Captain ซึ่งเขาก็แจ้งรปภ. โรงแรมทันที

    เมื่อ Bell Captain กับรปภ.มาดู ก็เจอกับผู้บริหารระดับสูงของโรงแรมที่ยืนคุยงานกับคนงานแถวนั้นพอดี  รปภจึงเชิญผู้บริหารท่านนั้นมา  เมื่อคุยกันเขาก็ขอรายงานจาก รปภ. มาดู  และในรายงานมีการบอกว่ารถของผมเข้ามาตอนสี่ทุ่ม  และกันชนหลังมีการบุบมาก่อนแล้ว  และมีหลักฐานอีกชิ้นคือสมุดจากยามที่ประจำที่ลานจอดรถ  ตัวนายปกรณ์ก็บอกเองว่าเมื่อคืนมีงานเลี้ยงที่โรงแรมรถเลยเยอะกว่าปกติ

    ตอนแรกผมก็งง  พยายามนึกทบทวนตั้งแต่ออกจากบ้าน  เพราะต้องถอยรถออก  ถ้ามันบุบขนาดนี้ผมต้องเห็นแล้ว  เพื่อนผมเองก็ยืนยันว่าตอนที่เจอกันเพื่อนผมไม่เห็นว่าบุบ  เพราะเขาชอบรถผมมาก  มองตั้งแต่ตอนมาจอดรอและเดินมาขึ้นรถจากด้านหลังรถด้วย

    ตอนมาถึงที่พัทยาผมมีนัดที่ร้านมุมอร่อย  ซึ่งตอนถอยจอดก็มีเด็กโบกรถให้  ซึ่งด้านหลังรถผมเป็นฟุตบาท  เซ็นเซอร์ก็ทำงานปกติ

    ยิ่งตอนมาถึงโรงแรมผมเข้าไปถามราคา ก่อนแล้วค่อยมาเอาของ  ซึ่งผมและเพื่อนเดินมาต้องเห็นด้านที่ถูกชนอย่างแน่นอนเพราะมันเป็นด้านที่หันให้กับทางเดินเข้าโรงแรม

    ตอนนั้นผมมั่นใจมากว่าผมต้องถูกชนที่นี่แน่นอน  แต่ทางโรงแรมก็ยืนยันว่าเขามีหลักฐาน  และต้องเชื่อหลักฐานจากยามที่แจกบัตร   ไม่ว่าผมจะยืนยันเช่นกันว่าไม่เห็นมียามตรงลานจอดรถอย่างที่อ้าง  เขาก็บอกว่ามีแต่คงไม่อยู่ตอนผมมา (น่าแปลกไหมครับตอนที่รถแน่นที่สุด ไม่มียาม)

    แต่จากหลักฐานที่เขาว่าซึ่งเป็นสมุดบันทึก  ทางโรงแรมไม่ให้ผมดู  แต่ยืนดูกันเอง 3 คน  เขาบอกว่าในบันทึกบอกว่าลงตอนแรกเป็นรถฮอนด้า  แต่ตอนหลังมาแก้เป็น Teana ซึ่งเป็นรถผมและเลขทะเบียนตรงกัน เขาอ้างว่าลูกน้องจำผิด

    ทางโรงแรมยืนยันว่าทำอะไรไม่ได้  ถ้ามีคู่กรณีจะช่วยคุยให้  แต่ถ้าไม่มีเขาต้องเชื่อสมุดที่คนเขาลง  ผมอาจจะไปโดนชนที่อื่นก็ได้  (พูดเหมือนผมจะมาหลอกให้เขารับผิดชอบ)  ตอนแรกผมก็คิดว่าเป็นคราวซวยแล้วกัน  เมื่อไม่ได้ก็คือไม่ได้ คุยไปก็เท่านั้นให้เขาหาว่าเรามาหลอกเอาเงินเปล่าๆ

    แต่พอผมขึ้นรถสตาร์ท ผมก็รู้ทันทีเพราะตอนเข้าเกียร์ถอยหลังเสียงเซ็นเซอร์ผมดังถี่ ตัวเลขบอกระยะขึ้น 0  ไฟบอกระยะขึ้นสีแดง  ซึ่งมันคือผมถอยชนแล้วถ้าเป็นในเวลาปกติ  แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรอยู่ด้านหลังผมเลย  3 คนนั่นก็ยืนห่างไปมาก  และเสียงเซ็นเซอร์ก็เป็นเสียงแตกๆไม่ใช่เสียงปรกติ  ซึ่งครั้งล่าสุดผมถอยที่ร้านอาหารอย่างที่เล่าทุกอย่างยังปกติ

    ผมจึงลงไปคุยกับทางโรงแรมอีกครั้ง และบอกเขาว่าผมมั่นใจเช่นกันว่ารถผมถูกชนที่นี่  เขาก็พูดทำนองว่าจะให้ทำยังไงในเมื่อลูกน้องเขาลงแบบนี้  ผมถามว่าพวกคุณลงบันทึกตำหนิรถทุกคนที่เข้ามาโรงแรมเหรอ  เขามั่วไปน้ำขุ่นๆว่า  ก็ถ้าเห็นก็ลง  ได้ฟังแค่นี้ก็รู้แล้วว่าไม่มีประโยชน์  ขนาดผู้บริหารยังตอบแบบนี้  ผมจึงกลับกรุงเทพฯด้วยความเซ็ง คิดเสียว่าเราเลือกโรงแรมกระจอกเอง  

    แต่ระหว่างที่ขับกลับมาผมก็นึกได้ว่า  ตอนผมเข้าโรงแรม  มีรถขับตามผมมาสองคัน  แล้วกันชนผมโดนตรงมุมบุบมาก  ไฟท้ายแตกใกล้ๆกับมุกกันชน  ผมยิ่งมั่นใจว่าต้องเป็นการถอยมาชน  เพราะลานจอดเล็กมาก  ผมจึงโทรศัพท์กลับไปที่โรงแรมถาม Bell Captain ว่าเหตุการณ์แบบนี้มีบ่อยไหม  เขาบอกว่าบ่อย  แต่ส่วนใหญ่จะมีคู่กรณี มีแต่ผมนี่แหล่ะที่ไม่มี  ผมจึงขอสายคุยกับผู้บิรหารคนนั้นอีกครั้ง

    ซึ่งเขาบอกผมว่ากำดูข้อมูลการเข้าพักของผมอยู่  (คงดูว่าเป็นใคร  มาพักประจำไหม  เพราะพวกนี้จะห่วงลูกค้าประจำมาก)  ผมจึงบอกว่ารู้แล้วว่า  โรงแรมจงใจเปลี่ยนข้อมูล  เพราะ
    1. ตอนผมเข้ามามีรถตามมา ผมไม่เห็นยามจะบันทึกอะไรเลย  และถ้าบันทึกบอกผมได้ไหมว่ารถ2คันที่ตามผมมาคือรถอะไร (คำตอบคือเงียบ)
    2.บอกได้ไหมว่ารถคันอื่นมีตำหนิอะไร (คำตอบคือตำหนิต้องชัดเจนเท่านั้น)
    3.หลักฐานก็ไม่ให้ผมดู  (คำตอบคือเงียบ)
    4. แม้แต่ตอนจะออกก็ไม่เห็นมียามที่ลานจอดรถ (คำตอบคือเงียบ)
    5.พนักงานของคุณเองยังบอกว่าเกิดเหตุแบบนี้บ่อย

    พอผมดักต้อนๆมากๆเข้า เขาตอบไม่ได้ก็บอกแต่ไม่รู้จะทำยังไง  แต่ฟังจากผมแล้วก็น่าเชื่อถือ  ผมละงงกับนายคนนี้จริงๆ  

    ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องโกหกกัน  แค่บอกว่ามาเจอว่ารถผมถูกชน  หาคนชนไม่ได้  ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร  เพราะเรื่องแบบนี้เกิดได้ทุกที่  และผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็รู้ว่าที่จอดรถทุกที่จะไม่รับผิดชอบทรัพย์สินหรือการสูญหาย ถ้ามีคู่กรณีผมก็ให้ประกันจัดการ  แต่ถ้าไม่มีผมก็ให้ประกันจัดการอยู่ดี หรือจ่ายเองก็ได้

    แต่การมาพูดเหมือนผมสร้างเรื่องมาหลอกโรงแรมนี่ผมรับไม่ได้ ถ้าพูดความจริงผมก็คงตำหนิว่าโรงแรมน่าจะมีกล้องหรือเปิดไฟให้สว่างมากขึ้นหน่อย

    ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำลายลูกค้ากันแบบนี้  ผมเข้าใจว่าโรงแรมที่รับทัวร์จะง้อชาวต่างชาติและ Travel Agency  แต่งานบริการถ้าทำตัวเป็นปรปักษ์กับลูกค้าคนไทยแบบนี้คงแย่

    เชื่อไหมว่าต้อนจนมุมคุยกันจนวางสาย แต่ก็ไม่มีแม้จะบอกว่าทางโรงแรมรู้สึกเสียใจ หรือเห็นใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น  หรือจะพยายามทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น  เผื่อครั้งหน้ามาพักใหม่  

    สงสัยเขาไม่ต้อนรับคนไทย  ก็ขนาดลานจอดรถยังเล็กนิดเดียว!!!

    แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 51 18:52:57

    จากคุณ : กีรณะ - [ 2 มี.ค. 51 18:30:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom