ความคิดเห็นที่ 1 ....ลงชื่อ...รายแรก..... .....ห้องน้ำ...สกปรก...น้ำไม่ไหล...ถึงไหล..ก็..ไหล..น้อย...ต่างจาก...สองสามปีก่อน..ชัดเจน............. ...เรื่อง ห้องครัว...ตกลง..จะมีแบบเดิม..หรือ..งด..ไปเลย....จะได้เตรียมตัว..เตรียมใจ.....ไม่ใช่..เดี๋ยวมีเดี๋ยว..หยุด.....ถ้ามี...ช่วยทำ..ที่ล้างมือ...ให้ด้วย..ก็จะขอบคุณมาก.....ถ้ามีปัญหาเรื่อง..งบประมาณ..ก็จะได้ช่วยๆ...กันคิด..กับผู้เห็นด้วย....ไม่น่าจะยาก...นะผมว่า.... แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 51 19:02:43 แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 51 18:33:50 จากคุณ : ขอให้เหมือนเดิม-หรือดีกว่าเดิม (mohporn) - [ 4 มี.ค. 51 18:12:25 ]

ความคิดเห็นที่ 2 1.หากไม่ให้จอดที่ลำธาร 1-3 ต่อรองจอดที่ลำธาร 1 ได้เปล่า ไม่ต้องเดินไกล 2.แก้ไขเรื่องคนเก็บพันธุ์ไม้,จับผีเสื้อ ใฃ้วิธีตรวจรถดีกว่า เพราะวิธีใหม่นี่ หากไม่มีการตรวจ ก็ขโมยได้เหมือนกัน จากคุณ : กระจิบดอย (กระจิบดอย) - [ 4 มี.ค. 51 20:43:45 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงห้ามจอดรถระหว่างลำธาร 1 2 3 ถนนระหว่าง บ้านกร่าง ถึง กม.18 ค่อนข้างกว้างมากอยู่แล้ว และยังเป็นถนนช่วงที่อยู่บนที่ราบ ไม่น่ามีปัญหาเรื่องรถที่สวน ขึ้น-ลงนะ  เวลาเราไปดูนกก็จะพยายาม จอดชิดๆทาง และไม่จอด ตรงที่ลับโค้งมากนัก เพื่อรถสวนลงมาจะเห็นแต่ไกล     ปล.เวลาถามถึงเหตุผลเจ้าหน้าที่ว่าเพราะอะไร เขาก็บอกแต่ว่า หัวหน้าสั่งมา จากคุณ : PITTAs - [ 4 มี.ค. 51 21:10:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อย่างนี้ ต้องถามว่าหัวหน้าคนไหน แล้วต้องขอเข้าพบหัวหน้าซะเลยจึงจะแก้ไขปัญหาได้ ยิ่งถ้าบอกว่าผู้ใหญ่สั่งมาก็ต้องไปให้ถึงผู้ใหญ่ที่สั่งคนนั้นให้ได้จึงจะจูนกันได้ละมัง จากคุณ : นกร่าเริง - [ 4 มี.ค. 51 21:23:03 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อยากเห็นการพัฒนาที่เป็นรูปธรรมครับ ในฐานะที่เป็นนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่รักและชอบป่าแก่งกระจาน ชอบดูนก ดูผีเสื้อที่แก่งกระจาน ตามความคิดผมนะครับ 1. อนุญาตให้จอดระหว่างทางได้ช่วงบ้านกร่างถึง กม. 18  หรืออาจจะทำป้ายจอดได้หรือห้ามจอดในบางพื้นที่ (แล้วแต่เหมาะสม)  เพราะทางช่วงดังกล่าวสวนกันได้ ไม่อันตราย 2. กฏหรือกติกาต่างๆ ควรประกาศให้เป็นหลักเป็นฐาน ที่ป้อมเจ้าหน้าที่ หรือป้ายประกาศ เพราะนักท่องเที่ยวต้องจอดรอขึ้นพะเนินทุ่งอยู่แล้ว อย่างน้อยก็ได้อ่าน 3. กม. 27 เป็นจุดดูนกที่นักดูนกชอบแวะชมนก ซึ่งก็มีที่จอดรถให้แวะพัก ไม่เป็นอันตรายต่อรถคันอื่นๆ ก็น่าจะอนุญาตให้จอด 4. ระบบน้ำใช้ที่บ้านกร่างควรโละเสียที สงสารเจ้าหน้าที่ต้องคอยขับมอเตอร์ไซด์ไปสวมท่อน้ำเมื่อช้างถอดออก น่าจะมีระบบที่ดีกว่านี้ (มีแน่นอน ชัวร์) 5. ห้องน้ำผู้ชาย (เพราะผมไม่รุ้ห้องผู้หญิงเป็นอย่างไร)  โถฉี่ ลองนับดูใช้ได้กี่อัน ห้องน้ำทึบไม่มีแสงเลย ห้องใดมีหลอดไฟบ้าง ห้องใดมีราวแขวนผ้าบ้าง ห้องใดมีฝักบัวบ้าง ที่ถามนะเพราะหาไม่เจอสักกะห้อง 6. ตู้บริจาคหน้าห้องน้ำ ต้องดูข้อห้าก่อนว่าดีจริง แล้วจึงจะมี แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 51 22:16:56 แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 51 22:16:20 แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 51 22:15:21 จากคุณ : Jaray - [ 4 มี.ค. 51 21:58:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตอบคุณพิทต้าและพี่ร่าเริง กฎหมายปัจจุบันเราสามารถขอให้เจ้าหน้าที่ที่ออกคำสั่งด้วยวาจาทำคำสั่งเป็นหนังสือได้ครับ เจ้าหน้าที่คนนั้นที่ออกคำสั่งมีหน้าที่ต้องทำคำสั่งนั้นเป็นหนังสือซึ่งต้องระบุข้อกฎหมายระเบียบที่มาของคำสั่ง และชี้แจงเหตุผลในการทำคำสั่งนั้นด้วย เมื่อได้คำสั่งเป็นหนังสือมาเราสามารถมาศึกษาและทำคำอุทธรณ์ตามลำดับขั้นบังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่คนนั้นได้ภายใน 15 วัน ถ้ามีการอุทธรณ์แล้วอาจจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยเจ้าหน้าที่นั้นซึ่งในทางราชการถือว่าหมดอนาคตกันเลยเชียว อันนี้ทราบไว้เผื่อใช้ในยามจำเป็นนะครับ ต่อไปมีเจ้าหน้าที่มาออกคำสั่งเป็นวาจาไม่เข้าท่าเข้าทางของดูบัตรประจำตัว จดชื่อและตำแหน่ง และใช้สิทธิขอให้ทำคำสั่งเป็นหนังสือ ทั้งนี้ ผมก็ไม่เคยและไม่อยากจะใช้ด้วย เมืองไทยคนไทยพูดกันดีๆมีน้ำใจกันก็รู้เรื่อง หมดยุคเจ้าข้าเจ้านายแล้ว เจ้าหน้าที่รัฐต้องพร้อมถูกประชาชนตรวจสอบครับ จะมาอ้างนายสั่งๆ ไม่ได้ครับ เอะอ่ะสั่งไม่ได้แล้วครับ จากคุณ : T* - [ 4 มี.ค. 51 22:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 1.ทางอช.แก่งกระจานควรชี้แจงถึงเหตุผลที่ห้ามจอดรถริมลำธาร 1-3 ทั้งๆที่   1.1ลำธาร1-3 รถยนต์สามารถหลบกันได้อย่างปลอดภัยถ้าควบคุมความเร็วของรถอย่างเข้มงวด   1.2 ลำธาร1-3 มีพื้นที่หลายจุดรถยนต์จอดพักข้างถนนได้ 2.ทางอช. ควรเข้มงวดระเบียบกับนักท่องเที่ยวที่ไม่มีคุณภาพเช่น ส่งเสียงดัง,ขับรถเร็ว,ทิ้งขยะ ฯลฯ แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 51 22:58:49 จากคุณ : ตีทอง (เขาไผ่) - [ 4 มี.ค. 51 22:54:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยทุกประการที่เพื่อนๆ พี่ๆ สมาชิกแนะนำมาครับ ผมอยากให้แก่งกระจานยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ศึกษาธรรมชาติเหมือนที่เคยเป็น รู้สึกดีมากๆ ครับเวลาที่เห็นน้องๆ เด็กๆ นักเรียนได้เดินศึกษาธรรมชาติ เพราะผมไม่ค่อยมีโอกาสเมื่อสมัยเด็กๆ การท่องเที่ยวแบบเปลี่ยนที่กินข้าว เอารถไปออกกำลัง อ. แก่งกระจานไม่ควรสนับสนุนครับ หวังว่าคงได้รับการจัดการบริหารที่ดีนะครับ จากคุณ : กระจอกป่า - [ 5 มี.ค. 51 00:04:21 ]

ความคิดเห็นที่ 9 น้องเร พูดถึงห้องน้ำชาย  พี่เรก็น่าจะพูดถึงห้องน้ำหญิงบ้าง อันที่มีโถชักโครกพอจะให้คนแก่เข่าไม่ดีนั่งได้นั้น ก็ใช้ไม่ได้ ตลอด น้ำท่าไม่ค่อยไหล อ้างว่าท่อหลุดประจำ ยิ่งตอนคนเยอะ ๆ แล้วยังขาดน้ำอีก เข้าไปพักทีไรทุกข์ใจทุกที ไปถามเจ้าหน้าที่ ก็หาคนรับผิดชอบไม่ได้ เรื่องห้องน้ำนั้นขอรับรองว่าสกปรกสุด ๆ  โดยเฉพาะห้องน้ำหญิง ไปเขาใหญ่ ยังพอมีเจ้าหน้าที่ดูแลห้องน้ำบ้าง ที่นี่นอกจากไม่มีแล้ว ยังมีกล่องรับบริจาคอีก ไม่รู้จะใส่กล่องไปเพื่ออะไร เพราะสกปรกสุด ๆ จากคุณ : นกร่าเริง - [ 5 มี.ค. 51 08:15:15 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมไปแก่งกระจานมาครั้งหลังๆรู้สึกว่านกมันน้อยลงไป หลบกันมากขึ้น เหตุผลหลักๆมันก็อาจจะมาจากรถวิ่งกันเยอะด้วย จริงๆผมว่าน่าจะเน้นเรื่องของการจำกัดปริมาณของนักท่องเที่ยวที่พื้นที่สามารถรองรับได้มากกว่านะ จากคุณ : Mesia_82 - [ 5 มี.ค. 51 09:15:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 1) อยากให้ถ้าออกกฏอะไรก็ต้องปฏิบัติให้เท่าเทียมกัน ไม่ใช่พวกใหญ่ๆโตๆมาก็แหกกฏกันซะเอง 2)ถ้าทางอุทยานคิดว่าการจอดรถข้างทางกีดขวางก็ควรกำหนดจุดจอดไว้เลยเราจะได้ปฏิบัติตามดีกว่าห้ามไม่ให้จอดเลย 3)ถ้าอยากตรวจรถเมื่ออกผมก็ยินดีให้ดู เจ้าหน้าที่สบายใจพวกเราก็สบายใจเหมือนกัน นอกนั้นก็ตามเพื่อนคยอื่นๆ จากคุณ : Big Zhow - [ 5 มี.ค. 51 10:56:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วยกับทุกความคิดเห็นของพี่ๆทุกประการ และ ทุกคน อยากบอกให้ทราบถึงปัญหาว่า 1. ห้องน้ำ ที่ไม่มีแสงสว่างเลย ทั้งมืด แม้กระทั้งกลางวัน ซึ่งน่ากลัวมาก ๆ ที่แขวนผ้า ก๊อกน้ำที่ใช้ไม่ได้ ความสะอาด สุดๆทั้งนั้น แล้วท่านยังเอากล่องมารับบริจาค หากว่ามันดีจริง ใครๆก็อยากจะช่วยทั้งนั้นแหละ แต่เมื่อก่อน สะอาด มีน้ำตลอด ไม่เห็นเคยตั้งเลยนะ งงมากๆ ว่าทำอะไรกันอยู่ค่ะ 2. เรื่องความปลอดภัย เดี๋ยวนี้ จนท.ไม่เห็นเลย ไม่รู้หายไปไหนกันหมด ตอนกลางคืนเมื่อก่อนก็มีการเดินตรวจตราตลอดเป็นระยะ ซึ่งรู้สึกดีมากๆ ที่ป้อมยามที่เคยเห็นประจำก็หาย เวลามีอะไรทีก็ต้องเดินไปหาที่เรือนพักด้านหลัง ( ขอโทษนะค่ะ เคยมีคนมาเปิดทู้บ่น เรื่องบ้านกร่างแล้วบอกว่า จนท.เค้าเล่นไฮโลกันด้วยค่ะ ) 3.เรื่องเสียง นักท่องเที่ยวที่เที่ยวแบบฉิงฉับ ทำไมไม่มีการเตือน ส่งเสียงดังบ้างค่ะ การเข้มงวดเรื่องกฏต่างๆ หายไปไหนหมดค่ะ 4. ความสะอาด รอบบริเวณ มีแต่ขยะทั้งนั้น มันเปลี่ยนไปมากจริงๆ  มีแต่คนทิ้ง แล้วไม่มีจนท.มาเตือนเลยหรอ ถ้าจะดี ถ้าจะออกกฎว่า ทุกคันที่ขึ้นไป ตอนลงต้องแสดงขยะของตัวเองให้ดูก่อนจะออกได้  ให้เค้ารู้ว่า คุณเป็นคนสร้างขยะ ก็ต้องรับผิดชอบเอง 5. การนำรถเข้าลำธาร รถที่เข้าไปศีกษษธรรมชาติ ดูนก ดูผีเสือ ก็ทำการจอดรถไม่ได้เป็นการขวางทางเลย ถนนก็กว้าง ไม่เคยได้ยินวามีปัญหาเลยสักครั้ง   6. ถ้าจะบอกว่าเป็นหารป้องกันการลักลอบพันธ์พืช ไม่ทราบว่า เคยตรวจสอบในรถก่อนให้ผ่านบ้างหรือไม่ 7. พวกที่ เป็นเหมา รึ จัดทัวร์ นำนักท่องเที่ยวขึ้นชมดู ที่ต่าง ๆ รวมทั้ง กระโถนฯ ตรง ด่านเสือดาว ไม่เห้นจะมีการดูแลดีๆเลย ให้เหยีบยกัน มาม่าหกใส่ดอกก็มี มันเป็นของที่หาดูไม่ใช่ง่ายๆ ไม่ใช่หรือค่ะ ... อยากจะ ทราบว่า การดูแลรักษาผืนป่า ที่เหลืออันน้อยนิดของประเทศเรา ไม่ใช่ ต้องสนับสนุนการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์หรือค่ะ ทำไม ทำให้รู้สึกว่า ทางจนท.สนับสนุนการท่องเที่ยวฉิงฉับเหลือเกิน  การที่จะตั้งใจไปพักผ่อน ผ่อนคลาย สิ่งที่พวกเราอยากได้รับคือ ธรรมชาติจริงๆ ความสงบ อยากได้ยินเสียงธรรมชาติมากกว่า เสียงวงเหล้า พวกนี้เห็นมีแต่จะทำยทั้งนั้น   อยากให้แก่งกระจานกลับมา เป็นผืนป่าที่ มีธรรมชาติเหมือนที่เคยประทับใจ ทั้งในเรื่องธรรมชาติ และ การดูแลของจนท. ค่ะ ( แก้คำผิด) แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 51 11:07:48 จากคุณ : แอบหลับ - [ 5 มี.ค. 51 10:58:27 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่ได้ไปนานเป็นปีแล้ว จึงไม่รู้ปัญหามากมายนัก แต่ก่อนนั้นก็เห็นรถ จำพวกนักท่องเที่ยว ขับรถซิ่งตลอด ทั้งขาขึ้น และขาลง ไม่มีชะลอความเร็วเลย ฝุ่นฝุ้งตลบไปทั่ว ทั้งคน ทั้งนก สัตว์ป่า ต่างหนีกระเจิง ปัญหาอยู่ที่คนทั้งน๊าน จากคุณ : Bunting - [ 5 มี.ค. 51 10:58:33 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมยังไม่แน่ใจว่าปัญหาของทางอุทยานในเรื่องการห้ามจอดรถนำรถเข้าไปจอดในบริเวณลำธาร 1 2 3 และกม 27 จริงๆ คืออะไร เป็นสิ่งที่อยากรับฟังจากทางหัวหน้าอุทยาน ส่วนผลกระทบที่เกิดกับนักท่องเที่ยวนั้น ผมเชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ที่แก่งกระจานนั้นได้รับรู้แต่จะสนใจหรือป่าวนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง   ผมนั่งคิดข้อเสนอได้ดังนี้ 1. อยากให้ทำบรรดาข้อห้ามต่างๆ แปะไว้ ณ จุดที่ทำการ + ด่านสามยอด เลย เห็นว่ามีเวปไซต์ทางการของทางอุทยานด้วย (www.kkcnp.com) ได้โปรดนำข้อห้ามเหล่านั้นมาแสดงไว้ด้วย ไม่ใช่ปล่อยนักท่องเที่ยวเข้าไปแล้วก็ไปห้ามโน่นห้ามนี่ คนส่วนใหญ่รวมทั้งผมก็หัวเสียกันทั้งนั้น ส่วนใหญ่ผมไปแก่งกระจานแบบเช้าไปเย็นกลับบ่อยมาก คิดดูครับตื่นตั้งแต่ตี 3 ตี 4 ไปถึงบอกห้ามนำรถเข้าไปจอดในบริเวรลำธาร ถ้าได้อ่านได้รับทราบบรรดาข้อห้ามเหล่านี้ก่อนผมจะได้ตัดสินใจว่าควรจะไปหรือควรจะจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าไปดีหรือไม่ อันนี้ขอสอบถามด้วยว่าผมมีสิทธิขอคืนค่าธรรมเนียมด้วยหรือไม่ 2. ช่วงป่าลำธาร 1 - 3 ถนนเป็นพื้นราบและมีที่ให้จอดรถหลบข้างทางได้มากมาย เมื่อก่อนที่ปล่อยให้เข้าไปจอดกันได้ ปริมาณรถที่จอดระหว่างลำธาร 1 - 3 ผมเที่ยวแก่งกระจานมาหลายปีไปมานับสิบๆ ครั้ง ผมว่าผมเห็นรถที่จอดดูนกโดยเฉลี่ยๆ ไม่เคยเห็นเกิน 10 คัน มีเคยเห็นเยอะสุดๆ ครั้งนึงเป็น record ก็ประมาณ 40 กว่าคัน ก็มิได้ทำให้การจราจรติดขัดแต่อย่างใด ส่วนช่วงตั้งแต่ กม 18 - กม 30 (โดยเฉพาะที่กม. 27 นั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงผมเห็นเคยเต็มที่ 3-5 คันเท่านั้นที่จอดดูนกระหว่างทางและแทบไม่เคยเห็นรถนักท่องเที่ยวอื่นๆ เลย ส่วนใหญ่ 99% ดิ่งไปชมทะเลหมอก ณ จุดชมวิวเท่านั้น) จึงไม่ทราบว่าปัญหาของทางแก่งกระจานคืออะไร  เท่าที่ทราบคือ 2.1 หากต้องการป้องกันการลักของป่าจริงท่านสามารถทำบันทึกจดทะเบียนรถที่ขอจอดดูนกระหว่างทางได้และผมยินดีให้ค้นรถในช่วงขากลับออกมา อันนี้หมายว่าว่าท่านต้องมีการตรวจสอบด้วยว่ารถคันไหนบ้างที่ไม่ได้บันทึกไว้แต่นำรถมาจอดระหว่างทาง อย่าให้เป็นมาตรการเฉพาะกลุ่มเพราะจะเกิดความขุ่นข้องใจกันอีก 2.2 หากบอกว่าเป็นการรบกวนนกและสัตว์ป่า อันนี้ผมยอมรับว่าปริมาณนกที่แก่งกระจานลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ผมไม่คิดว่าเป็นเพราะสาเหตุสำคัญมาจากปริมาณรถที่จอดในช่วงเลยด่านบ้านกร่างไปถึงจุดชมวิวพะเนินทุ่ง เพราะปริมาณรถมันน้อยมากและเมื่อไปถึงก็ดับเครื่องจอดกันนานๆ แทบทุกคัน นอกจากผมเคยไปบ้านกร่างหลังจากปิดฟื้นฟูสภาพป่าประจำปีมา 2 ครั้ง ทุกครั้งนกแทบจะไม่มีเลย ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นทั้งที่ช่วงปิดป่าเงียบสงบปราศจากการรบกวนนกและสัตว์ป่าควรจะเยอะมิใช่หรือแต่ก็ไม่ อันที่จริงผมกลับมองว่าตอนนี้บรรดานกในแก่งกระจานช่วงลำธาร 1 2 3 มีการย้ายถิ่นฐานทำกินกันมากตั้งแต่เริ่มมีฝายกั้นน้ำหรือป่าว และนกที่เคยอยู่ในป่าลึกๆ ทางห้วยแม่เพรียง ก็หนีออกมาให้เห็นใกล้บ้านกร่างมากขึ้นเป็นเพราะป่าทางนั้นถูกบุกรุกมากขึ้นหรือป่าว 3. เรื่องความสกปรกของแคมป์บ้านกร่างเป็นเรื่องที่ผมว่าถูกละเลยอย่างมากจากทางเจ้าหน้าที่ทั้งที่เป็นหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงครับ นักท่องเที่ยวบางกลุ่มไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องขนขยะออกมาทิ้งเอง สุดท้ายอยากจะบอกว่าแก่งกระจานเป็นของทุกคน เจ้าหน้าที่โปรดอย่าฟังความแค่คนบางคนบางกลุ่ม ท่านจะทำแบบสอบถามสุ่มสำรวจเอาก็ได้แต่อยากให้ตัดสินใจบนข้อมูลที่เพียงพอและรับฟังผลกระทบบ้างว่าสิ่งที่ท่านคิดและทำมันสมควรไหม ผมเชื่ออย่างสนิทใจว่าเจ้าป่า เจ้าเขา และสิ่งศักด์สิทธิในพื้นป่าแห่งนี้มีจริง คนคิดร้ายหาประโยชน์อันมิควรกับผืนป่าแห่งนี้คงได้รับผลกรรมของเขาแน่ๆ จากคุณ : T* - [ 5 มี.ค. 51 11:26:23 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เพิ่งไปบ้านกร่างมาเมื่อวันจันทร์ที่ 3 นี้เอง  ถึงได้รู้ว่าตอนนี้ทางอช.เข้มงวดเรื่องการนำรถเข้าจอดระหว่าง ลำธาร 1 2 3  ทั้งๆ ที่อาทิตย์ก่อนไปยังสามารถนำรถเข้าได้     พอได้คุยกับเจ้าหน้าที่   ถึงได้ทราบว่า  สาเหตุไม่ได้เกิดจากคนดูนก  แต่เกิดจากนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเก็บผีเสื้อออกมา  ทางอช.จึงมีคำสั่งเด็ดขาด  ห้ามนำรถเข้าไปจอดระหว่าง  ลำธาร 1 2 3   เพราะกลัวจะเกิดเหตุการณ์เดิมซ้ำอีก  ทำให้คนดูนกที่ไม่เคยคิดจะเก็บอะไรออกมาได้รับผลกระทบไปด้วย   เพราะทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถกำหนด 2 มาตรฐานได้  คือ  ถ้าห้ามจอดก็ต้องห้ามจอดหมด   จะให้เฉพาะคนดูนกจอดคงไม่ได้   ส่วนอีกสาเหตุหนึ่ง  คือ  รถแหกด่านขึ้นพะเนินทุ่ง  ทำให้มีปัญหากับรถที่สวนลงมา  เพราะมีนักท่องเที่ยวบางคนขึ้นไม่ทันเวลาที่กำหนด  แล้วไปหลอกเจ้าหน้าที่ว่ามาดูนก  ทำให้สามารถขับรถเข้าลำธารและแหกด่านขึ้นไปได้ นี่เป็นสาเหตุที่รับฟังมาจากทางเจ้าหน้าที่  ซึ่งเจ้าหน้าที่บางคนก็อยากจะช่วย   แต่...ไม่สามารถขัดคำสั่งของหัวหน้าได้   ก็คงได้แต่บอกว่า   ต้องช่วยๆ กันแสดงความคิดเห็นและทางแก้ไข   เพื่อที่ทางอช.จะได้เลิกกฎไร้สาระนี้ซะ   คนดูนก  ดูผีเสื้อจะได้มีความสุขที่แก่งกันต่อไป  ไม่ใช่ไปทีก็ต้อง  หน้าหงิก  หน้างอ  อารมณ์เสียกลับมา จากคุณ : ultraman (ultramanace) - [ 5 มี.ค. 51 11:37:14 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ่านความเห็นของคุณ T* แล้วเห็นด้วยเรื่องจดทะเบียนรถที่จะจอดดูนกระหว่างลำธาร 1 2 3  และการตรวจรถหลังจากออกจากลำธารแล้ว  โดยทำเป็นกฎไปเลย 1. จดทะเทียนรถทุกคันที่จะเข้าจอดระหว่างลำธาร  และขึ้นพะเนินทุ่ง  จากนั้นให้เจ้าหน้าที่วิทยุบอกจำนวนรถและทะเบียนรถที่จะขึ้นพะเนินทุ่ง 2. เพิ่มจุดตรวจอีกแห่งที่ กม. 18  เป็นการตรวจซ้ำอีกครั้ง  เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีรถแหกด่านขึ้นไป   3. ตรวจค้นรถทุกคันที่กลับออกมาจากลำธาร   ถ้าตั้งเป็นกฎแบบนี้มาเลย  คิดว่าทุกคนน่าจะปฏิบัติตามได้  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก้อขึ้นกับความขยันขันแข็งของเจ้าหน้าที่อีกนั่นแหละ จากคุณ : ultraman (ultramanace) - [ 5 มี.ค. 51 12:10:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มีข้อเสนอเพิ่มเติมนิดหน่อยครับ 1. มีป้าย "ห้ามจับผีเสื้อ" ในจุดต่างๆที่สำคัญๆ หรือหลายๆที่ก็ได้ 2. มีป้าย "ห้ามส่งเสียงดัง" ในหลายๆที่ เช่นลานกางเต้นท์ ช่วงริมลำธารโดยเฉพาะลำธารสองเพราะคนแวะดูนก ผีเสื้อและอื่นๆ เยอะมาก จะส่งเสียงดังกันพอสมควร 3. มีด่านกักรถตรง กม. 18 กันรถหนีขึ้นพะเนินทุ่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ทำงานแค่หนึ่งคนก็น่าจะเพียงพอ จากคุณ : Jaray - [ 5 มี.ค. 51 12:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ลงชื่อไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาของทางอุทยานด้วยอีกหนึ่งเสียงนะครับ จากคุณ : ... (lolutayee) - [ 5 มี.ค. 51 13:17:45 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ก่อนอื่น ต้องขอบคุณน้องT* ที่เป็นผู้แตกประเด็นเปิดกระทู้นี้ให้พวกเราได้รับรู้ปัญหาของอช.แก่งกระจานในขณะนี้ จากที่อ่านของเพื่อนๆมา  ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งในเรื่อง 1.การห้ามจอดรถในลำธาร 1-2-3 และ กม.27 2.เรื่องห้องน้ำที่สกปรก 3.เรื่องความปลอดภัย ที่เจ้าหน้าที่ไม่ค่อยมาดูแล 4.เรื่องให้ขึ้นพะเนินทุ่ง ช่วงบ่ายเวลาเดียว 5.พวกรถที่ไปซิ่งขับรบกวนคนอื่นๆ ซึ่งก็เป็นวิธีที่ถูกที่ควรจะแจ้งให้ทางผู้ใหญ่ของอช.ได้รับทราบและถ้าแก้ไขได้ก็คงดีไม่น้อย แต่ไม่เห็นด้วยในประเด็นที่จะจำกัดนักท่องเที่ยว  เพราะพวกดูและถ่ายภาพนกก็จัดอยู่ในนักท่องเที่ยวประเภทหนึ่ง และเขาก็เสียภาษีเหมือนเรา  นักท่องเที่ยวที่ดีๆก็มีเยอะ  และเขาก็มีสิทธ์ที่จะใช้ทรัพยากรของชาติเช่นคนอื่นๆ ผมเห็นด้วยกับคุณตีทอง (เขาไผ่) คคห.7  ที่ว่า "ทางอช. ควรเข้มงวดระเบียบกับนักท่องเที่ยวที่ไม่มีคุณภาพเช่น ส่งเสียงดัง,ขับรถเร็ว,ทิ้งขยะ ฯลฯ "  และของคุณกระจอกป่า คคห.8ที่ว่า "การท่องเที่ยวแบบเอารถไปออกกำลัง อ. แก่งกระจานไม่ควรสนับสนุนครับ " เป็นความคิดเห็นหนึ่งนะครับ จากคุณ : Woodsman - [ 5 มี.ค. 51 13:50:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับด่านกักรถที่กม 18 ครับ ไม่ต้องเฝ้าก็ได้ แต่วิ่งตามรถขาขึ้นคันสุดท้ายมาปิดด่าน แล้วก็รอรถคันแรกลงมาเปิดแค่นั้นเอง คุณจะได้ตรวจสอบ + จดทะเบียนรถที่จอดในระหว่างลำธาร 1 2 3 ได้ด้วย เรื่องรถแอบขึ้นพะเนินทุ่งในช่วงเวลาห้ามส่วนตัวเจอ 3 ครั้ง ครั้งแรกเป็นกลุ่มนักดูนก 1 ครั้งคุ้นหน้าคุ้นตากันดี วิ่งสวนขึ้นไปจ๊ะกะผมแถวๆ กม 27 ประมาณตอน 5 เย็นกว่าๆ โปรดอย่าถามว่าใคร แต่บอกได้ว่าสิ่งที่ทำไปไม่ใช่เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่เพราะความมักง่าย + อยากพาคณะไปดูนกมากกว่า ผมมาเจอคนขับรถขึ้นไปทีหลังก็ได้เตือนกันไปแล้วครับว่าไม่สมควร มันอันตราย ดีนะว่ามาจ๊ะกะผมตรงทางตรงแล้วผมก็ขับไม่เร็วด้วย ในขณะที่คุณรีบบึ่งขึ้นไปให้ทันดูนก ก็ไม่รู้เขาจะฟังที่ผมพูดหรือป่าว ครั้งที่สองคิดว่าเป็นนักท่องเที่ยวธรรมดา ขึ้นไปผมก็แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ แต่ไม่ทราบว่าได้ดำเนินการอะไรบ้างหรือป่าว ครั้งที่สามเป็นเรื่องเจ้าหน้าปล่อยรถลงจากพะเนินทุ่งก่อนเวลา ดีว่าเขา ว. มาบอกที่บ้านกร่างก่อนเขาเลยปิดไม่ให้ขึ้นซะ ทั้งที่ผมถ่อมาจากกรุงเทพแล้วก็มายืนอยู่หน้าด่านบ้านกร่างก่อนเวลาปิด 10 นาที คนที่ขึ้นลงผิดเวลาผมว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิจับปรับอยู่แล้ว แต่กรุณาอย่าใช้วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ ที่เกิดจากคนมักง่ายไม่กี่คนครับ จากคุณ : T* - [ 5 มี.ค. 51 14:03:58 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมเสนอบ้างนะครับ...  ผมเดินป่าแถบนี้ตั้งแต่ยังไม่สามารถเอารถเข้าไปได้...  สมัยก่อนสภาพป่าสมบูรณ์กว่านี้มาก  ผมลาดตระเวณไปยันพม่า  เขาพะเนินทุ่งก็เป็นที่ๆผมพบรอยเท้ากระทิง  และช้างป่า  ตลอดจนกบภูเขาที่สามารถพบได้ตั้งแต่บริเวณที่ตั้งแค้มป์ปัจจุบัน... ผีเสื้อที่พวกเราว่าเยอะ  สมัยผมเข้าไป (มันเป็นทางชักลากไม้เก่าที่ปิดไปแล้ว) มันมีมากกว่านี้เป็นพันเท่า  เกาะกันแบบเต็มๆต้นไม้... ปัจจุบันที่เข้าไปมาล่าสุด  เสื่อมสภาพไปแบบผิดหูผิดตา (ห่างจากหนแรกประมาณ 17-18 ปี)  และปริมาณคนที่เข้าไปรบกวนป่ามีจำนวนมาก  หากการตั้งกฏของเจ้าหน้าที่  จะทำให้คนลดจำนวนลง  เพื่อให้ธรรมชาติกลับมาสูภาวะที่ดีกว่าเดิม  ก็น่าจะเป็นเรื่องน่ายินดี  และผมว่าเมื่อมันเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะเดิม  เขาก็คงจะยอมให้ทำได้เช่นปัจจุบัน...  ให้เวลาธรรมชาติพื้นตัวบ้างเถอะครับ... กรณีนักถ่ายภาพอนุรักษ์  และเพื่อเข้าไปทำการศึกษา  ผมว่าทำหนังสือจากหน่วยงาน  สมาคมเข้าไปอย่างถูกต้องเพื่อจะนำรถวิ่งเข้าได้    ก็น่าจะยินยอมให้ทำได้นะครับ... ยุคผมเดินจากค่ายฝึกรบพิเศษ  กว่าจะถึงตีนพะเนินทุ่งนะ 2-3 วัน  จากตีนพะเนินทุ่งออกกันแปดโมงเช้า  ถึงยอดน่ะ  บ่ายสองเกือบสามครับ จากคุณ : Big Dong - [ 5 มี.ค. 51 15:39:48 ]

ความคิดเห็นที่ 22 พี่ Big Dong ทำงานอะไรเหรอครับ เดินเที่ยวได้ 2-3 วันกว่าจะถึงพะเนินทุ่งครับ ผมแค่ลูกจ้างบริษัทเล็กๆ  หยุดแค่เสาร์อาทิตย์ มีเวลาแค่นี้ ใช้เดินเท้าเอาคงไม่ไหวครับ   ....เวลาน้อยก็อยากพาครอบครัวไปหาความสุข ความสงบเล็กๆน้อยๆ พบเพื่อนฝูงคอเดียวกัน นั่งเล่าสารทุกข์สุกดิบกัน ก่อนที่จะต้องมาผจญกับงานอีกห้าวัน เจอคำตอบพี่ ผมอยากจะเลิกเที่ยวเหมือนกันครับ  รู้สึกตัวเองเป็นมารร้ายเข้าไปทำลายธรรมชาติเยอะเกินไป จากคุณ : Jaray - [ 5 มี.ค. 51 16:07:04 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมเป็นทหารครับ  ลาดตระเวณแถบนั้นตั้งแต่สมัยก่อน  ตอนนั้นไม่มีถนนหรอกครับ  ผมเดินไปถึงชายแดนพม่า  ยุคมีกระเหรี่ยงติดอาวุธในพื้นที่ครับ... ผมก็พอเข้าใจพวกเรา  ขณะเดียวกันก็เข้าใจเจ้าหน้าที่นะ  จนท.ป่าไม้  ลำบาก  เงินเดือนน้อย  คนน้อยจริงๆ (จนท.จริงๆนะครับ)   ถ้ายังไง  ให้ต้น (ปลากระดี่ฯ) ลองเจรจา  เพื่อให้มีจุดระหว่างทางพอที่จะหยุดรถและใช้ระยะในการเดินที่ไม่หนักหนานัก  ผมรู้ว่าเดินไกลๆเป็นไง  เพราะผมเดินมามากกว่า 105 กม.ในแผนที่สำหรับพื้นที่นี้... พยายามหาจุดร่วมที่เหมาะสมเอานะครับ... อย่าลืมว่า  คนเข้าไปมีหลากหลายไม่ใช่แค่พวกเรา  คนที่จ้องจะทำลายมันก็มี  เจ้าหน้าที่ไม่กี่คน  จะต้องรับมือคนที่เข้าไปจำนวนมากๆ  ไม่ใช่เรื่องง่ายครับ...  สุดท้าย  เราทุกคนอยากเห็นธรรมชาติ  อยากเห็นสภาพป่าไม้ที่สมบูรณ์  เห็นสัตว์มีสิทธิ์อยู่ได้ธรรมชาติได้อย่างสันติสุข...  ต้องช่วยกันครับ... แต่ถ้าการปิดของเจ้าหน้าที่  มีเหตุผลแอบแฝง  หรือมีการเลือกปฏิบัติ  ผมก็จะร่วมด้วยในการดำเนินการครับ...  จัดทีมไปพูดคุยหาเหตุผลที่แน่ชัดมาก่อนเถอะครับ จากคุณ : Big Dong - [ 5 มี.ค. 51 16:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณมากครับพี่ Big Dong ผมก็พอทราบมาบ้างครับสำหรับการล่าของป่าที่แก่งกระจาน ทั้งสัตว์ ทั้งของป่า กล้วยไม้ป่า และอีกหลายอย่าง  ซึ่งอาจจะมาในคราบของนักท่องเที่ยว แล้วกลับไปพร้อมสัตว์ป่าแล่เนื้อ แต่เรื่องพวกนี้ผมเองก็ไม่เคยทราบในเชิงลึกครับผม   ส่วนเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะที่แก่งกระจาน ผมว่าผมก็สนิทเกือบทุกคน เข้าใจเขาครับ  ผมมีอะไรก็เผื่อแผ่ ช่วยเหลือกันนะครับ ไปทุกทีก็มีขนมฝากลูกๆพวกเขาตลอดครับ เห็นพวกเขายิ้มแล้วก็มีความสุขครับ  จนเพื่อนแซวว่าลูกเหรอ แต่จริงๆแล้วผมยังไม่มีลูกสักกะคน  ยังไงก็ต้องฝากทุกคนครับ จากคุณ : Jaray - [ 5 มี.ค. 51 16:32:41 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เท่าที่อ่าน ๆ มาก็พอเข้าใจปัญหาของอุทยานนะครับ แต่วิธีแก้ปัญหาแบบเหวี่ยงแหอย่างนี้ผมไม่เห็นด้วยเลยซักนิด - มีคนทำผิดกฎขับรถขึ้นลงนอกรอบ ก็เลยห้ามขึ้นรอบเช้าซะ - มีคนจับผีเสื้อ ก็เลยห้ามรถทุกคันจอดระหว่างทางซะเลย ผมรู้สึกว่า วิธีแบบนี้เหมือนตีขลุมว่านักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเป็นพวกเดียวกันหมด ดังนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งทำผิด นักท่องเที่ยวทั้งหมดก็ต้องร่วมรับผิดชอบ ประมาณว่า เด็กคนหนึ่งมาโรงเรียนสาย ครูก็เลยปล่อยเด็กทั้งชั้นกลับบ้านช้า ทำไมไม่ใช้วิธีที่ตรงจุดกว่านั้นล่ะครับ จัดการคนที่ทำผิดกฎ กำหนดโทษปรับสำหรับคนที่วิ่งนอกรอบ และขอเสนอว่าไม่ใช่แค่ปรับอย่างเดียว แต่ให้ทำ black list ด้วย  คือ black list ทั้งทะเบียนรถและคน ถ้าจงใจทำผิดก็ห้ามเข้าอุทยานไปเลย 1 ปี 2 ปี ไม่ใช่ห้ามที่แก่งกระจานที่เดียว แต่ห้ามเข้าเขตอนุรักษ์ทุกแห่ง และถ้าพ้นโทษแล้วทำผิดซ้ำซาก ก็ห้ามตลอดชีพไปเลย สำหรับเรื่องจับผีเสื้อก็เหมือนกัน ผมเสนอให้ตั้งรางวัลนำจับ ติดประกาศหรือแจกใบปลิวเลยว่า นักท่องเที่ยวคนไหนชี้ตัวพวกจับผีเสื้อได้ หรือมีภาพถ่ายเป็นหลักฐาน จะได้รับเปอร์เซนต์จากเงินค่าปรับนั้น แล้วพวกที่ถูกจับก็เอาชื่อกับทะเบียนรถใส่ไว้ใน black list ถ้าใช้ระบบ black list อย่างมีประสิทธิภาพ จะตรวจบัตรประชาชนก่อนเข้าอุทยาน ผมก็ไม่มีปัญหาครับ และใจจริงผมอยากเห็นการใช้ระบบนี้กับความผิดอื่น ๆ ด้วย อย่างการให้อาหารลิงบนเขาใหญ่ ทิ้งขยะในอุทยาน ย้ายคาราโอเกะไปไว้ในอุทยาน ปล่อยโคมลอย ฯลฯ สำหรับความเห็นของคุณ Big Dong ผมว่าคงยากที่เราจะถอยหลังกลับไปสู่สภาพในอดีต (ซึ่งผมเห็นด้วยว่ามันดีสำหรับสัตว์) แต่ถ้าเกรงว่านักท่องเที่ยวจะเยอะเกินป่าจะรับไหว ผมขอเสนอให้ใช้ระบบโควต้า กำหนดเลยว่าบ้านกร่างกับพะเนินทุ่งรับนักท่องเที่ยวได้กี่คน แล้วก็จัดระบบให้โปร่งใส่ ใครจองก่อนได้ก่อน ไม่มีการใช้เส้นสาย ไม่มีอภิสิทธิ์ และหาวิธีป้องกันการจองกันท่าคนอื่น จากคุณ : จะละเม็ดดำ - [ 5 มี.ค. 51 16:49:39 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อยากให้มีการจำกัด จำนวนนักท่องเที่ยว ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ครับ เรื่องการขับรถขึ้นลง ถ้าเปลี่ยนไปเหมือนสมัยก่อน คือ ขึ้นตอนเช้า และลงตอนเย็น วันละรอบ ก็น่าจะดีกว่า สมัยสิบปีก่อนผมเดินดูนก ก็เดินจากบ้านกร่างไปถึงลำธาร 3 หอบข้าว น้ำ ไปพร้อม ไม่หนักหนาสาหัสมากหรอกครับ เดินดูนก สนุกดี ร้อนนิดก็ทนเอา ในป่ายังไงก็ร้อนน้อยกว่าในเมืองอยู่แล้วครับ เพราะการใช้รถยนต์วิ่งไป วิ่งมา มันก็จะส่งไอน้ำมัน ส่งกลิ่น ส่งเสียง เหมือนกันนะครับ ถ้ามีการจำกัดจำนวนรถยนต์ จำนวนนักท่องเที่ยว (เหมือนอย่างที่ ทางกรมอุทยานฯ เริ่มประกาศใช้กับ เขาใหญ่ อินทนนท์ ก็จะดีมาก) สังเกตเวลาเราไปเที่ยว คินาบาลู หรือที่อื่นๆ ในมาเลย์ หรือในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เขาก็จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับพื้นที่เหมือนกันนะครับ บ้านเมืองเรา ควรพิจารณา เรื่องนี้อย่างละเอียดลึกซึ้ง คนพอเหมาะกับห้องน้ำ ห้องสุขา ก็จะทำให้สะอาด ไม่สกปรกมาก เพราะใช้เกินกำลัง คนดูแลก็สบายใจ เพราะดูแลได้ทั่วถึง เช็คจำนวนคนได้แน่นอน เกิดปัญหาอะไรก็ตามกันได้ง่าย ถึงยุคที่ต้องคิดวางแผน ไปเที่ยวล่วงหน้ากันแล้วละครับ จะได้เที่ยวป่าได้ตลอดทั้งปี และวางแผนการอย่างรอบคอบ ประหยัดทั้งพลังงาน เวลา และจะได้ไม่หัวเสียเวลาคนเยอะเกินไป คนเสียงดังรบกวน ที่สำคัญ อุทยานฯ ทางด้านล่าง น่าจะมีการแนะนำผู้เข้าชมอุทยานฯ ก่อนอนุญาตให้เข้าพื้นที่เปราะบาง ว่าควรปฎิบัติตัวอย่างไรด้วย เพราะถ้าจำกัดจำนวนคนได้ ก็แนะนำได้ คนที่มาเที่ยวเพียงฉาบฉวย ผิวเผิน ก็จะได้รับความรู้ไปด้วยพร้อมกัน จากคุณ : เสือจุ่น - [ 5 มี.ค. 51 17:01:47 ]

ความคิดเห็นที่ 27 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6372064/E6372064.html ฝากกระทู้นี้ด้วยแล้วกันค่ะ ถือเป็นหนึ่งคคห ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ปลาร้าจิ้มแจ่ว - [ 5 มี.ค. 51 17:18:53 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นด้วยกับหลายๆ ท่าน ขอสรุปความเห็นของตัวเองดังนี้ครับ 1. ควรมีระบบโควต้า จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว หลายๆ ที่ในโลกนี้ใช้การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มค่าของแหล่งท่องเที่ยว และยังง่ายต่อการบริหารจัดการ มีประโยชน์ทั้งเจ้าของพื้นที่ 1) ไม่ต้องปวดหัวกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่ในช่วงเทศกาลมีมากอย่างไม่น่าเชื่อ 2) เจ้าของพื้นที่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึงขึ้น คือสามารถประมาณกำลังพลสำหรับในแต่ละที่ได้ นอกจากนั้นหากกำลังพลขาด ยังสามารถมีหลักฐานยื่นต่อหน่วยงาน แสดงความชัดเจน ขอกำลังพลเพิ่มได้ 3) ส่วนทางฝ่ายนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน ก็ยังได้พบกับสภาพของสถานที่ๆ ดี คงสภาพที่ควรจะเป็นได้ 4) การรบกวนของคนจะมีน้อยลง ป่าก็จะไม่เสื่อมโทรม เสมือนการเกื้อกูลกัน แบ่งกัน เรียกว่า Win-Win-Win เห็นแก่ป่าและเห็นแก่ผู้มาเยือน และเห็นแก่เจ้าหน้าที่ 2. ต้องมีความเข้มงวดอย่างมีระบบ อันนี้ตรงกับคุณจาระเม็ดดำครับ - จดทะเบียนรถ จดบัตรประชาชน - ตรวจสอบรถและสิ่งของก่อนออกอย่างละเอียด อย่าให้เหมือนยามตามหมู่บ้านครับ พอรถเข้าออก ก็แค่ยืนตะเบ๊ะและก็ยกที่กั้นขึ้น แล้วจะมีไว้ทำอะไร - เมื่อมีผู้ทำผิด ให้ลงโทษอย่างเต็มที่ ถ้ามีการแบนได้จริง ผมว่าดี อย่างแฟนบอลอังกฤษเข้าไปชมในสนามแล้วก่อเรื่อง เขาแบนห้ามเข้าสนามกันเป็นสิบปี หรือตลอดชีวิตครับ เรียกว่าเชือดไก่ให้ลิงดู - รณรงค์ให้ขับรถไม่เร็วด้วยน่าจะดีนะครับ ผมเห็นหลายครั้ง ขับอย่างกับใครจะตาย ฝุ่นตลบ รบกวนผู้ใช้ป่าคนอื่นและอาจพลาดไปทับหรือชนสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ได้ 3. รณรงค์ กระตุ้นเตือนสติให้รักป่าและสิ่งมีชีวิต ให้มาใช้ป่าอย่างมีคุณค่า และเหมาะสม รวมถึงให้นักท่องเที่ยวช่วยกันสอดส่องคนกระทำผิด มาตรการที่เจ้าหน้าที่ทำอยู่ โดยการจำกัดหรือห้าม อาจเป็นการแก้ในระดับหนึ่งเท่านั้น จะว่าปลายเหตุก็ได้ครับ หรือเป็นการแก้ไขในระยะสั้น เราต้องรู้จักวางแผนในระยะกลางและระยะยาวด้วย ผมไม่ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่มีแผนการอย่างไรบ้าง แต่สิ่งที่ทำได้แน่ๆ ก็เช่น - ป้ายรณรงค์ ติดไปครับ ทำป้ายแบบไม่ให้เด่นเกิน กลมกลืน ไปติดในที่ๆ เหมาะสม - แสดงสิ่งที่ควรและไม่ควรทำในการเข้าใช้พื้นที่ เช่น ถ้าจะร้องเกะ ไปร้องที่บ้าน - สนับสนุนการเข้าใจป่าและธรรมชาติอย่างแท้จริง ประมาณว่า ถ้าท่านทำต่อไปนี้แล้ว การมาของท่านจะคุ้มค่า ให้การอบรม ปลูกจิตสำนึกผ่านกิจกรรมต่างๆ เท่าที่ทางหน่วยงานสามารถทำได้ หรือหากอยากทำอะไร ก็ลองขอลองบอก ผมว่ามีคนอยากช่วยมากมายครับ - เชิดชูผู้กล้าที่บอกกล่าว ชี้เป้าคนทำผิด ให้ช่วยกันมอง ช่วยกันดูแลป่า ให้เรามีป่าไว้นานๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น กฏต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม เสมอภาคกันทุกคนทุกฝ่าย แม้ประเทศไทยเป็นประเทศที่รับเอาระบบอุปถัมภ์ไว้อย่างซึมลึก เราต้องให้กฎเกณฑ์เป็นตัวช่วย หากมีกฎและมีการใช้กฎก็เหมือนมีขอบเขต จำนวนคนทำผิดจะได้ลดลง คนที่ทำตัวเหนือชาวบ้านจะได้คิดขึ้นมาได้ในวันหนึ่ง เราทำเพื่อตัวเราเอง เราก็ต้องทำเพื่อป่าด้วย เพราะป่าก็จะย้อนกลับมาทำให้เรามีความสุขเช่นกัน เป็นหลักเหตุและผลง่ายๆ ที่เราช่วยกันทำได้ ให้ทุกฝ่ายหันมาร่วมมือกัน เอาไว้คิดออกแล้วจะมาร่วมแสดงความเห็นใหม่ครับ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 51 18:01:50 แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 51 17:58:57 จากคุณ : โชคดีที่เกิดมา - [ 5 มี.ค. 51 17:58:19 ]

ความคิดเห็นที่ 29 แล้วแก่ๆอย่างผมจะเดินไหวไหมนี่  เหนื่อยก่อนไปเสยอีกครับ จากคุณ : ไข่นุ้ย...สมุย - [ 5 มี.ค. 51 23:05:18 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตอนนี้ไม่ขออะไรมากไปกว่าความโปร่งใสเรื่องกฎข้อห้ามที่ออกมานั่นละครับ สาเหตุคืออะไรกันแน่ ชี้แจงมาให้ชัดเจน รวมไปถึงการเลือกปฎิบัติ ซึ่งเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมาช้านานของที่นั่น และก็จะยังคงมีอยู่ต่อไป จากที่ไปแก่งกระจานมาหลายๆ ครั้ง ในช่วงๆ หลายๆ ปีที่ผ่านมา ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ป่าบริเวณบ้านกร่างและพะเนินทุ่งหายไปเรื่อยๆ นกและสัตว์ป่าพบเห็นได้ยากขึ้น ในขณะที่ปริมาณนักท่องเที่ยวแบบฉิ่งฉับและขยะเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ แก่งกระจานมีคุณค่ามากกว่าเพียงแค่เป็นจุดชมทะเลหมอกใกล้กรุง (เชื่อไหมว่าผมเคยเจอคนที่ขึ้นมาพะเนินทุ่งตอนเที่ยง ย้ำ ตอนเที่ยง แล้วโวยวายว่าไม่เห็นมีทะเลหมอก ไม่เห็นมีอะไรให้ดูเลย นักท่องเที่ยวประเภทนี้ไม่สมควรปล่อยให้เข้ามาเป็นอย่างยิ่ง) เก็บสถานที่ดีๆ อย่างนี้ไว้ให้กับคนที่รู้คุณค่าของมันดีกว่าที่จะพยายามให้คนเข้าไปเยอะๆ ซึ่งสุดท้ายแล้วปัญหาต่างๆ มันก็จะตามมาอย่างที่เห็นอยู่ครับ จากคุณ : Headbanger - [ 5 มี.ค. 51 23:11:55 ]

ความคิดเห็นที่ 31 นักท่องเที่ยวที่ดีๆก็มีเยอะ ไม่เห็นด้วย กับการแก้ปัญหาของทางอุทยานค่ะ จากคุณ : ดอกเลา - [ 5 มี.ค. 51 23:51:23 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมเพิ่งกลับมาจากแก่งครับ ไปอังคารพุธไปถึงเจอกฏใหม่นี้ทำเอางงเหมือนกัน แต่ก็เห็นใจเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการซึ่งต้องทำตามคำสั่ง ผมก็ต้องรอจนถึง 13.00 น.แล้วค่อยขับรถเข้าไป แต่ผมก็ไปจอดแถวๆลำธารเลยไม่สนใจ เพราะผมคิดว่าผมไม่ได้ก่อความเสียหายอะไร ผมว่ากฏนี้มันเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุด บ้องตื้นจริงๆครับ จากคุณ : Rare bird - [ 6 มี.ค. 51 09:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 33 พี่ Rare bird  ครับ วันอาทิตย์ผมก็ขึ้นไปพะเนินทุ่งก็เจอรถคันหนึ่งจอดที่ กม.25 ใส่เสื้อสีชมพูทั้งครอบครัวเลยครับ นั่งชมธรรมชาติกันสบายใจ ผมก็คิดว่าเขาก็คงไม่รู้ว่าเขาห้ามจอด ก็ไม่มีป้ายนี่นา ส่วนพวกเราคนดูนก อย่างน้อยๆก็ได้พูดคุยกัน บอกกันปากต่อปาก เลยอดจอดซะงั้น  คนไม่รู้ถือว่าไม่ผิดนะครับ จากคุณ : Jaray - [ 6 มี.ค. 51 10:07:24 ]

ความคิดเห็นที่ 34 . . . เรื่องมันมีตื้นลึก...หนาบาง พอสมควร อันที่จริงผมมีความเห็นอย่างนี้ครับ เนื่องจากเรื่องนี้มันละเอียดอ่อน หากเข้าใจกันผิดมันจะเหมือน "น้ำผึ้งหยดเดียว" พูดก็พูดเถอะ...ในเมื่อเรื่องนี้มันเป็นเรื่องร้อนๆของผู้คนที่ชอบดูนก ถ่ายภาพนก ซึ่งจะว่าไปแล้วก็อยู่ใต้ร่มเงาของ "สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย" "หากผมจะโยนหินถามทางกันเลยว่า..." "สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย จะเป็นแกนนำเพื่อหยิบเรื่องนี้เข้าไปปรึกษากับทางหัวหน้าอุทยานฯเพื่อหาแนวทางแก้ไขได้หรือไม่ครับ?" ส่วนตัวผมแล้วมิได้กลัวที่จะต้องพูดคุยกับใคร แต่การคุยหรือต่อลองกันในระดับองค์กร ย่อมมีความชัดเจนมากกว่า "คนธรรมดา" อย่างผม แต่ถ้าสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติปฎิเสธที่จะช่วยเหลือพวกเรา ผมและเพื่อนๆในนี้จะได้เดินหน้าต่อไป (อย่าบอกนะครับว่าเจ้าหน้าที่สมาคมฯไม่ได้อ่านกระทู้นี้ อย่างน้อยกรรมการสมาคมฯท่านหนึ่งก็ได้ออกความคิดเห็นมาแล้ว) ขอความคิดเห็นพี่ๆเพื่อนต่อเลยครับ "เอาสายน้ำและรอยทางของพวกเราคืนมา" . . . แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 51 10:44:37 จากคุณ : ปลากระดี่ได้น้ำ - [ 6 มี.ค. 51 10:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมว่าใจเย็นกันนิดนะครับ เข้าใจว่าทุกคนต้องการให้เกิดความเรียบร้อย ถูกต้องและมีการจัดการอย่างสมเหตุสมผล ลองมองว่าพื้นที่รับนักท่องเที่ยวได้เท่าไหร่หากมากไปก็ต้องจำกัดเพื่อความเหมาะสม ส่วนการจัดการระเบียบการใช้พื้นที่ควรปฏิบัติตามการใช้งานจริง เช่นเปรียบเหมือนหนังสือถ้าไม่เปิดอ่านก็ไม่ได้ความรู้ แต่เราต้องช่วยบอกว่าเปิดอ่านเบามือหน่อย อย่าฉีกหน้าที่ต้องการ(ผีเสื้อ/ดอกไม้/อื่นๆ)ไปเป็นสมบัติส่วนตัว ส่วนบรรณารักษ์(เจ้าหน้าที่)ก็ต้องสอดส่องดูแล รวมถึงพวกเราด้วย ส่วนการจอดรถผมว่า อุทยานไม่น่าตีเหมาอย่างนี้นะครับควรแก้ปัญหาที่ต้นเหตุดีกว่า เข้มงวดกวดขันหน่อย คนรักแก่งกระจานเค้าร่วมมืออยู่แล้วครับ จากคุณ : นายเดินดิน - [ 6 มี.ค. 51 11:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เดี๋ยวนี้อะไรก็เปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม แก่งกระจานที่เคยประทับใจในเมื่อก่อน เดี๋ยวนี้ไม่มีอีกแล้ว กฎระเบียบเพิ่มขึ้นมากมาย แต่ไม่มีการบอกกล่าวที่ชัดเจน ไม่มีประกาศให้ดู (แล้วใครจะรู้) ไม่มีการชี้แจง ทำให้เกิดปัญหาคาใจนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบผืนป่าแก่งกระจานอย่างมาก บ้านกร่างแคมป์ที่นักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคนเคยชื่นชอบ ตอนนี้ไม่เป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว จากที่เคยสะอาด  ก็กลับสกปรก ใบไม้เกลื่อนเต็มไปหมด จากที่เคยได้ชื่อว่าบริการนักท่องเที่ยวได้เยี่ยม ก็ไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว   เมื่อก่อนจะเห็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานกันตั้งแต่เช้ามืด ยืนปฏิบัติงานด้วยความพร้อมเพรียง อันนี้ขอชื่นชมนะ คอยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปพะเนินทุ่ง ...เดี๋ยวนี้ก็มี แต่จำนวนน้อยมาก ซ้ำการบริการก็ไม่ดีเหมือนเดิม แถมไม่ยิ้มแย้มอีกต่างหาก (บางครั้งมีกลิ่นไม่พึงประสงค์จากตัวเจ้าหน้าที่ด้วย ไม่ดีเลยนะ) หรือว่าการปฏิบัติงานต่าง ๆ ที่บ้านกร่าง การดูแลนักท่องเที่ยวได้เปลี่ยนไปตามหัวหน้าหน่วยคนเก่าที่ย้ายไป นโยบายใครนโยบายมันหรือ???? ถ้าอย่างนั้นช่วยทำนโยบายหรือวิธีการทำงานให้เป็นแบบหัวหน้าคนเก่าจะดีกว่าไหม.... เจ้าหน้าที่คนเก่าที่อยู่ตั้งแต่หัวหน้าคนเก่า และยังคงอยู่จนถึงยุคหัวหน้าคนใหม่...อยากจะบอกว่าท่านทำดีแล้ว ท่านยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสมอต้นเสมอปลาย ดูแลนักท่องเที่ยวเสมอ สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยว ขอให้ท่านรักษาความดีที่ได้ทำมาตั้งแต่เมื่อก่อน ให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป อย่างน้อยนักท่องเที่ยวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันก็เป็นกำลังใจให้ เรื่องห้องน้ำที่บ้านกร่าง น่าจะมีการซ่อมแซมให้ดี อะไรชำรุดก็เปลียนซะ ซ่อมซะบ้าง ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟ กลอนประตู ชักโครก ขันน้ำ ห้องน้ำที่นี่เมื่อก่อนเราชอบมากเพราะสะอาด ไม่สกปรก ไม่มีกลิ่นเหม็น ตอนนี้เหรอ ตรงข้ามทุกอย่าง ควรปรับปรุงอย่างแรก เรื่องระบบไฟที่บ้านกร่าง ไม่น่าจะมีให้เฉพาะเสาร์-อาทิตย์นะ เพราะวันธรรมดาบางวันก็มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปพักเหมือนกัน (อย่างเช่นเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งวันศุกร์มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปกางเตนท์ที่บ้านกร่างไม่น้อยกว่า 10 เตนท์ มีทั้งผู้ใหญ่และเด็ก แต่กลับไม่มีไฟให้ใช้ มืดสนิท ) การเปิดไฟน่าจะพิจารณาจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้าพักน่าจะดีกว่านะ อย่างน้อยมีไฟที่ทางเดินและบริเวณห้องน้ำก็ยังดี เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวไง เรื่องระบบประปาที่บ้านกร่าง เข้าใจดีว่าที่นั่นใช้ระบบประปาภูเขา น้ำที่ใช้มาจากลำธาร ปัญหาต่าง ๆ จึงเกิดได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น น้ำน้อย พี่ใหญ่ดึงท่อออก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องไปทำท่อน้ำอยู่บ่อย ๆ แนะนำว่าน่าจะวางระบบประปาใหม่นะ เรื่องที่ว่าห้ามจอดรถตามลำธาร  อันนี้ก็เข้าใจนะว่าเพื่ออป้องกันนักท่องเที่ยวแอบขึ้นไปพะเนินทุ่ง (โดยไม่ดูเวลา) แต่สำหรับนักดูนก และผู้ที่นิยมถ่ายภาพล่ะ การที่จะแบกกล้อง+ขอตั้งกล้องอันโต เดินขึ้นไปมันไม่ง่ายเลยนะ น่าจะหาวิธีการป้องกันแบบอื่นจะดีกว่านะ หรือจะให้ดีนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปเที่ยวแก่งกระจาน ก็ควรจะมีสำนึกที่ดีบ้างนะ มาไม่ทันขึ้นพะเนินทุ่งก็น่าจะรอขึ้นรอบต่อไป ไม่ใช่แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะไปแค่ลำธาร แล้วแอบขึ้นไปพะเนินทุ่งซะงั้น .... ยาวไปนิด แต่ก็เพื่อแก่งกระจาน จากคุณ : Toonkung - [ 6 มี.ค. 51 11:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ลืมอีกเรื่อง... ครัวบ้านกร่าง เดี๋ยวนี้แม่ครัวไปไหนกันหมด ต้องให้เจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่มาทำกับข้าวแทน เจ้าหน้าที่ก็น้อย แถมต้องมาทำกับข้าวอีก แล้วใครจะดูแลนักท่องเที่ยวล่ะ น่าจะมีแม่ครัวแบบเดิมนะ เรื่องความสะอาดของครัวอีก น่าจะดูแลกันบ้างไม่ใช่ปล่อยให้เละเทะ อาหารก็ขายบ้างไม่ขายบ้าง เอาแน่เอานอนไม่ได้ แถมให้อีกกระทู้น่าอ่าน http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6372064/E6372064.html จากคุณ : Toonkung - [ 6 มี.ค. 51 11:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ได้แจ้งทุกๆเรื่องทีพี่ๆทุกท่านได้ให้ความคิดเห็นมา กับหัวหน้าอุทยานไปแล้วครับตอนนี้กำลังตรวจสอบ และแก้ไขอยู่ได้เรื่องอย่างไร จะแจ้งให้ทราบน่ะครับ และทางหัวหน้าได้บอกมาอีกว่า ให้นัดเข้าพบพูดคุยกับหัวหน้าได้เลยครับ หัวหน้ายังฝากขอบคุณมาด้วยว่าที่พวกเราช่วยกันดูแลและแจ้งข่าว จากคุณ : kobtrekking (kobtrekking) - [ 6 มี.ค. 51 13:47:12 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เนื่องจากจะมีการนำปัญหาข้อร้องเรียนในกระทู้นี้พิมพ์ไปให้ทางอุทธยานแห่งชาติแก่งกระจาน จึงขอลบคห. นี้ที่เคยเขียนไว้ออกเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ช่วยกันออกความคิดเห็นกันมา เมื่อเป็นไปในทางที่ถูกที่ควรแล้ว จึงตัดสินใจลบออกดีกว่า เขาว่า " รัก วัว ให้ ผูก รัก ลูก ให้ ตี "  เมื่อลูกทำตัวดีแล้ว ก็ต้องยกโทษให้ แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 51 17:59:34 จากคุณ : นกร่าเริง - [ 6 มี.ค. 51 14:19:54 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณป๋ากบที่ช่วยส่งต่อความคิดเห็นเหล่านี้ให้กับหัวหน้า อช.แก่งกระจาน ได้รับทราบ หวังว่าคงจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นนะคะ จากคุณ : Toonkung - [ 6 มี.ค. 51 14:48:39 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณป๋ากบมากครับ งั้นไว้เดี๋ยวผมขอนัดกับป๋ากบเรื่องวันที่จะไปคุยกับหัวหน้าอุทยานนะครับ ให้ท่านได้มีเวลาตรวจสอบหาข้อมูล คิดว่าเป็นเสาร์ที่ 15 มีนา นะครับ เดี๋ยวหลังไมล์ยืนยันสถานที่เวลาและเวลากันอีกทีครับ จากคุณ : T* - [ 6 มี.ค. 51 15:07:18 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เป็นอีกคนหนึ่งที่ รักแก่งกระจาน เป็นสถานที่ อัันดับต้น ๆ ที่นึกอยากจะไปทุกครั้งที่ว่างจากงาน เป็นที่ ๆ ผมได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเรื่องธรรมชาติ สัตว์ป่า นกหลากหลายชนิด เป็นที่ ๆ อบอุ่น มีมิตรภาพ ความจริงใจ และความช่วยเหลือ จากเจ้าหน้าที่เสมอ ไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้กลายเป็นแค่ “ความทรงจำ..” ผมคิดว่าการออกกฎห้ามจอดรถบริเวณ ลำธาร 1-2-3 และที่ ก.ม 27 (ทั้ง ๆ ที่เจ้าหน้าที่เองเป็นผู้ถางทางเป็นลานเพื่อจอดรถ) เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ การห้ามจอดรถก็ไม่ได้แก้ปัญหาการลักลอบนำเอาของจากป่าออกไปได้หรอกครับ เจ้าหน้าที่มีกำลังแค่ไหนคอยตรวจตรา จับรถที่จะจอดครับ หากมีกำลังมากขนาดนั้น ผมขอสนับสนุนความคิดเห็นเรื่อง;     1. การทำป้ายบอกกฎ เช่นห้ามจับสัตว์ทุกชนิด ห้ามนำของป่าออกนอกเขตป่า โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบ และมีบทลงโทษตามกฎหมาย รวมถึงป้ายจราจรต่าง ๆ เช่น จุดจอดรถ / จุดชมผีเสื้อ / จุดชมนก / ห้ามบีบแตร / ห้ามใช้เสียง / ห้ามจอดรถ / โค้งอันตราย / ทางชัน เป็นต้น 2. รณรงค์จิตสำนึกเชิงอนุรักษ์แก่นักท่องเที่ยว 3. เรื่องการจดบัตร ใบขับขี่ และทะเบียนรถ จริง ๆ แล้วควรมีมานานแล้วครับ 4. ตรวจสอบรถที่จะออกจากอุทยาน ทุกคัน โดยละเอียด เพื่อป้องกันการลักลอบนำของออกไป 5. มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบรถที่ชอบสวนทางขึ้นลงนอกเวลา เพื่อจับและตักเตือนรถพวกนี้ และยังทำหน้าที่ อำนวยความสะดวกกรณีรถเกิดอุบัติเหตุ หรือต้องการความช่วยเหลือ (ดีกว่ามานั่งจับรถที่จอดดูนกดูผีเสื้อนะครับ) 6. เรื่องห้องน้ำ อยากให้มีผู้ดูแลมากกว่านี้ เรื่องความสะอาด เรื่องน้ำ อย่างที่คุณจเรว่า อย่าอ้างว่าช้างมาถอดท่อ ทำไมไม่วางระบบใหม่ให้ดี อย่าแก้ปัญหาแบบผักชีโรยหน้า เพราะตรงนี้เป็นปัญหาเรื้อรังมานานแล้ว 7. เรื่องร้านอาหาร หากคิดว่ายังจะมีอยู่ก็อยากให้มีคนทำด้วยนะครับ หากคิดว่าไม่มีคนทำ ก็ไม่เป็นไร นักท่องเที่ยวจะได้เตรียมอาหารไปเอง ไม่อย่างนั้นนักท่องเที่ยวมานั่งหวังรอน้ำบ่อหน้าแบบนี้คงไม่ไหวเหมือนกันครับ ผมเองขอพอแค่นี้ก่อนแล้วกัน ยิ่งพูดเดี๋ยวเรือ่งจะยิ่งบานปลายนอกประเด็นไปกันใหญ่ ทุกอย่างที่ยื่นข้อเสนอไปนั้น เป็นการติเพื่อก่อ หากผมเห็นแก่งกระจานเป็นเพียงสถานที่พักผ่อนที่หนึ่ง ผมคงไม่เดือดร้อน มานั่งแสดงความคิดเห็นแบบนี้ ผมรักแก่งกระจานจริง ๆ นะ เอาบรรยากาศอบอุ่น คืนมา เอาห้องน้ำ สะอาด มีไฟ มีน้ำคืนมา เอาลำธารคืนมา เอา ก.ม 27 คืนมาด้วย ขอย้ำอีกครั้ง อย่าแก้ปัญหากันที่ปลายเหตุเลยนะครับ และหวังว่าเจ้าหน้าที่ หัวหน้า หรือผู้ใหญ่ พิจารณาจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ เพื่อเป็นการปรับปรุงพัฒนาหน่วยงานของท่านเอง 15 – 16 นี้ผมมีโปรแกรมจะไปแก่งกระจานอยู่พอดี หากเพื่อน ๆ หรือทางสมาคม ฯ มีอะไรให้ผมสนับสนุน ยินดีครับ หลังไมค์มาได้เลย จากคุณ : Byrd - [ 6 มี.ค. 51 15:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ว่าไงว่าตามกันครับ จัดกระบวนให้ดีนะคุณ T* หลายปีมาแล้ว คนดูนกที่นี่เคยจัดแถวจะไปร้องเรียนคล้ายๆกันอย่างนี้แหละที่แก่งกระจาน แต่มีนายหน้าออฟไซต์ทำป่วน เสียกระบวนกันมาแล้ว เมื่อกี้ไปหาข่าวมา หัวหน้าอุทยานบอกว่า เหตุผลจริงๆ ไม่ใช่เพราะมีการขโมยผีเสื้อนะครับ ว่าอย่างนั้น แต่เพราะมักมีการลักลอบแหกเวลาขึ้นกันบ่อย ก็เลยกักรถไว้เลย สิ้นเรื่องสิ้นราว อย่างไรก็ตาม ทางอุทยานกำลังพิจารณาผ่อนผันให้นักดูนกด้วย...จบข่าว จากคุณ : HWAMEI - [ 6 มี.ค. 51 15:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณครับพี่หัวไม้ที่เตือน เริ่มต้นผมตั้งใจทำเรื่องร้องเรียนของผมคนเดียวอยู่แล้ว นั่งอ่านนั่งค้นกฎหมายดูช่องทางอยู่  เดี๋ยวนี้จะเข้าแก่งต้องรู้กฎหมายไว้บ้าง ป้องกันตัวเองจากเจ้าหน้าที่บางที่ลุแก่อำนาจครับ ผมนักท่องเที่ยวเสียเงินค่าธรรมเนียมเต็มนะไม่ใช่ผู้ต้องหาหรือพวกลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ที่นี้เห็นพี่ดี่แกอาสาในกระทู้ท่านจเรว่าจะนำเรื่องไปคุยผมก็เลยตั้งกระทู้นี้ซะเพื่อที่แกจะได้นำพิมพ์หน้ากระทู้นำไปคุย ไปมาพาดพิงไปถึงสมาคมฯ ได้ไงไม่รู้ ขออภัยสมาคมฯ ไว้ด้วยครับ ไม่เป็นไรครับผมว่าไม่ได้ออฟไซด์อะไรหรอกครับ ช่วยกันหลายๆ ทาง เขาจะได้เห็นว่าปัญหามันมีจริงๆ แล้วก็เดือดร้อนกันหลายๆ ฝ่าย แต่ละฝ่ายก็มีวิถีทางวิธีการของตัวเอง ดีนะครับเผื่อเขาเจอหลายๆ ด้านเข้า พาลจำรำคาญ ยกเลิกคำสั่งที่มันเป็นปัญหาไปเลยก็ได้ 555+ จากคุณ : T* - [ 6 มี.ค. 51 15:41:24 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ฝากไว้นิดเรื่องห้องน้ำ นักท่องเที่ยวก็เป็นอีกปัจจัยนึงที่ต้องร่วมแรงช่วยกัน ต่อให้ห้องน้ำสะอาดเพียงใด แต่ท่านยังไม่เปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าห้องน้ำ หรือทำภารกิจเสร็จแล้วไม่ราดน้ำ หรือทิ้งขยะ/ผ้าอนามัยลงในโถส้วม ต่อให้ทำให้สะอาดยังไงก็สกปรกอยู่ดี ทางที่ดีร่วมด้วยช่วยกันดีกว่า จากคุณ : Toonkung - [ 6 มี.ค. 51 15:57:15 ]

ความคิดเห็นที่ 46 น้อง T* ผมไม่ได้พาดพิงถึง "สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติ" แต่ตั้งใจที่จะ "เดินหมาก" ให้เป็นไปตามกลไกของระบบ ก็อย่างที่บอก... "การพูดคุยในระดับองค์กรนั้นย่อมมีความชัดเจนและเป็นทางการมากกว่า" หากทางสมาคมฯไม่ช่วยผมก็มิได้กล่าวโทษแต่อย่างใด เรื่องนี้เป็นเรื่อง "อาสาช่วยกัน" จะอย่างไรก็แล้วแต่ ผมก็จะไม่ทิ้ง T* แน่ เดินหน้าต่อ... จากคุณ : ปลากระดี่ได้น้ำ - [ 6 มี.ค. 51 16:22:46 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณ คุณปริญญา ผดุงถิ่น (HWAMEI) มากสำหรับข้อมูลใน คห.43 ไม่เสียแรงที่คบหากันมานาน แค่เพื่อนยกหูขอความช่วยเหลือก็ไม่เคยอิดออด ... จากคุณ : ปลากระดี่ได้น้ำ - [ 6 มี.ค. 51 16:26:57 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ใน คห. 39 พี่นกร่าเริง ครับ ผมอยากให้พี่ช่วยแก้ไขบางคำพูดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียกับสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติและเจ้าหน้าที่ฯ ด้วยนะครับ ผมเข้าใจพี่ แต่ก็อยากให้พี่เข้าใจด้วยว่า... เรื่องนี้เป็นเรื่องอาสาที่จะมาแก้ไขให้เกิดความพอเหมาะพอควร ที่สำคัญทางสมาคมฯเองก็ยังอาจยังไม่ทราบข้อมูลเรื่องนี้ "ขณะนี้เราต้องร่วมมือกันครับ" ด้วยความเคารพ ปลากระดี่ได้น้ำ จากคุณ : ปลากระดี่ได้น้ำ - [ 6 มี.ค. 51 16:34:52 ]

ความคิดเห็นที่ 49 "จะอย่างไรก็แล้วแต่ ผมก็จะไม่ทิ้ง T* แน่" สัญญาแล้วนะพี่ดี่ (พิมพ์แล้วจั๊กกะดึ๋ยยังไงไม่รู้แฮะ 555++) จากคุณ : T* - [ 6 มี.ค. 51 16:44:22 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ผมเอาความเห็นเพิ่มเติมจากพี่น้องเวปบีเจมานะครับ 1. Notthinghill ทำใจไม่ค่อยได้จะเหมือนกัน   ความสุขที่เคยมี กลับหายไป พวกเราคงไม่ได้ไปคิดลักขโมยของจากป่าหรอกนะ ไม่เข้าใจ ซึ่งกฎนี้ มันก็เคยมีใช้มาแล้ว นะ แต่ก็เห็นอนุโลมได้มิใช่หรือ จะให้เดินไป ลำธาร 1-3  โอมายบุดด้า ได้งัย  แก่แล้วอะ แล้วจะให้ใคร ขับรถไปส่งละ หิวข้าว จะทำงัย ต้องหิ้วข้าวหิ้วน้ำไปกินด้วยปะ แค่เดินไปอย่างเดียว ก็เป็นชั่วโมงๆ แล้ว  เดินกลับอีก  เป็นลมแน่เลยเรา   ที่อื่นไม่เห็นเป็นงี้เลย   เวรกรรมของสัตว์โลกจริงๆ จากคุณ : T* - [ 6 มี.ค. 51 17:16:10 ]

ความคิดเห็นที่ 51 2. Mesia "เป็นความคิดที่ดี แต่คิดแบบง่ายๆไปหน่อย เหมือนตอนที่อยากให้ประหยัดน้ำมันก็เล่นวิธีปิดปั๊มแทน เราไม่ได้กินหญ้านะพี่" จากคุณ : T* - [ 6 มี.ค. 51 17:16:40 ]

ความคิดเห็นที่ 52 3. Wannok "ผมไปเป็นครั้งที่2 ก่อนไปตั้งใจจะเอารถไปจอดดูนกแต่พอเจอแบบนี้ไม่เอาดีกว่าผิดหวังมากๆ อยู่แค่ชั่วโมงเดียวก็กลับ ลาก่อนแก่งกระจาน" จากคุณ : T* - [ 6 มี.ค. 51 17:17:15 ]

ความคิดเห็นที่ 53 4. The Pok Army "กฎข้อที่ 1 ลูกพี่ทำอะไรต้องถูกต้องเสมอ กฎข้อที่ 2 เมื่อลูกพี่ทำผิดให้ไปดู...กฎข้อที่ 1" จากคุณ : T* - [ 6 มี.ค. 51 17:17:54 ]

ความคิดเห็นที่ 54 5. pktk "น่าเสียใจกับความคิดแบบนี้ แก่งกระจานเป็นจุดเริ่มต้นของการดูนกและศึกษาธรรมชาติ คน(เจ้าหน้าที่) ที่นั่นก็รู้ดีว่าคนไปดูนก ส่วนใหญ่จะขับรถไปลำธาร 1-3  และก็ไม่ทุกคนที่จะขับรวดเดียวขึ้นพะเนินทุ่ง ถ้าขับไปเห็นนก ผีเสื้อ แล้วห้ามจอดดูหรือถ่ายรูปก็คงรู้สึกแย่มากๆ อยากทราบเหตุผลของการออกกฏแบบนี้เช่นกัน" จากคุณ : T* - [ 6 มี.ค. 51 17:18:56 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขออภัย ทุกท่านที่ต้องลบความเห็นออกนะคะ เพราะสถานการณ์ดีขึ้นมากแล้ว แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 51 18:03:48 จากคุณ : สมาชิกตลอดชีพ (นกร่าเริง) - [ 6 มี.ค. 51 21:14:49 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ในฐานะนักดูนกและเป็นกรรมการสมาคมฯ คนหนึ่ง ขอเรียนว่าเรื่องนี้เราไม่ได้นิ่งนอนใจนะคะ เราปรึกษาประเด็นปัญหากันกับกรรมการอนุรักษ์ และกรรมการฝ่ายอื่นอีก 2 ท่าน รวมทั้งน้องเจ้าหน้าที่และผู้อำนวยการสมาคมฯ ตั้งแต่อ่านกระทู้น้องจเรเมื่อ 3 วันก่อนแล้วค่ะ และกรรมการอนุรักษ์ก็คุยกับท่านหัวหน้าอภิชาทันทีในวันรุ่งขึ้น คือเมื่อ 2 วันที่แล้ว ท่านหัวหน้าได้รับทราบเรื่องและยินดีจะให้ความกระจ่างแน่นอนค่ะ ดังนั้น ช่วง 3 วันที่ผ่านมา เราเห็นว่าคุณปลากระดี่รับอาสาจะนำเรื่องและรวบรวมกระทู้นี้ไปคุยกับหัวหน้าในวันนับนกแก่งกระจานที่คุณปลากระดี่จะเป็นวิทยากรช่วงค่ำ และนักดูนกก็เสนอความเห็นกันเข้ามามากมายตลอดเวลา เราเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีและเหมาะสมแล้ว ส่วนทางหัวหน้าก็พร้อมให้ความกระจ่างคุณปลากระดี่และท่านอื่นๆ ที่สนใจซักถามได้เต็มที่ ดังนั้น สมาคมฯ จึงประสานทางหัวหน้าต่อเรื่องการเข้าพื้นที่โดยใช้ยานพาหนะเพื่อเตรียมงานนับนกในวันที่ 15-16 นี้ค่ะ แต่เมื่อเช้า คุณปลากระดี่แสดงความประสงค์ในกระทู้นี้ (คห 34) ที่จะให้ทางสมาคมฯ เป็นผู้ดำเนินการต่อ วันนี้ ผู้อำนวการสมาคมฯ จึงได้พยายามประสานติดต่อกับท่านหัวหน้าและนัดวันเวลาเพื่อพูดคุยและชี้แจง รวมทั้งหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน จึงขอเรียนทุกท่านว่าสมาคมฯ ยินดีประสานกับหัวหน้า อช แก่งกระจานในประเด็นปัญหานี้ค่ะ เราจะพูดคุยกับท่านหัวหน้าในคืนวันประชุมนับนกแก่งกระจาน วันเสาร์ที่ 15 มีนาคมนี้  และดำเนินการนับนกกันต่อในวันรุ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่เรานักดูจะไปร่วมแรงกันนับนก กิจกรรมสำคัญที่จะช่วยอนุกรักษ์ป่าแก่งกระจานที่เรารักค่ะ และขอเชิญทุกท่าน ณ ที่นี่ ที่แสดงความรักและห่วงใยคืนสู่ผืนป่าแก่งกระจาน ด้วยการไปร่วมสำรวจประชากรนกแก่งกระจาน ครั้งที่ 1 ในวันที่ 15-16 มีนาคมนี้นะคะ และหากใครมีคำถาม ต้องการคำชี้แจง เราสามารถพูดคุยได้กับท่านหัวหน้า อช. แก่งกระจานได้โดยตรงเลยค่ะ หากประเด็นเป็นที่ถกเถียงนานเกินเวลาที่เราเตรียมไว้ เพราะจริงๆ คืนนั้นเราจะประชุมกันเรื่องการนับนก สมาคมฯ เสนอจะจัดเวทีพูดคุยกันต่อไปในโอกาสต่อไปค่ะ จากคุณ : โป่งวิด - [ 6 มี.ค. 51 21:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เรื่องรถกับแก่งกะจาน จำได้ว่า เมื่อหลายปีก่อนที่จะเคยไปแก่งกะจาน จำได้ว่าเคย อ่าน อนุสาร อสท. มีบทความ โปรโมตเรื่อง ขับรถเที่ยวชมสัตว์แบบซาฟารี  ที่แก่งกะจานด้วย  .... จากคุณ : PITTAs - [ 6 มี.ค. 51 21:17:18 ]

ความคิดเห็นที่ 58 อ้างความคิดเห็นที่ 43   เมื่อกี้ไปหาข่าวมา หัวหน้าอุทยานบอกว่า เหตุผลจริงๆ ไม่ใช่เพราะมีการขโมยผีเสื้อนะครับ ว่าอย่างนั้น แต่เพราะมักมีการลักลอบแหกเวลาขึ้นกันบ่อย ก็เลยกักรถไว้เลย สิ้นเรื่องสิ้นราว จำได้ว่าเมื่อปี พ.ศ 2539 ก่อน เคยเห็นป้อมเก่าๆเล็กๆตรงกม .18 หักชำรุดทรุดโทรมหายไปตามกาลเวลา  ขอป้อมนั้นคืนมา กับ ขอเจ้าหน้าที่อุทยานเพี่ยง 1คน  คงจะลดปัญหาที่ทางอุทยานยกมาปิดทางของพวกเรา   ช่วยๆกันออกความคิดเห็นนะค่ะ  ชอบอ่านมาก  ทุกเหตุผลเพื่อเพื่อนของเราคือนกทุกตัวและป่าแก่งกระจานบ้านของเพื่อนรักของเราค่ะ จากคุณ : pkkk2714 - [ 6 มี.ค. 51 21:41:30 ]

ความคิดเห็นที่ 59 สถานการณ์ดีขึ้นมากแล้วขอลบความเห็นทิ้งค่ะ แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 51 18:02:26 แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 51 18:01:34 จากคุณ : นกร่าเริง - [ 6 มี.ค. 51 22:21:36 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ดีจังครับ คึกคักดี มีพี่ๆหลายๆคนมาช่วยกันแบบนี้ รับรองงานก้าวหน้ารวดเร็วทันใจแน่นอน ขอให้ประสบผลด้วยเทอญ จากคุณ : Jaray - [ 7 มี.ค. 51 08:12:50 ]

ความคิดเห็นที่ 61 . . . ขอบคุณเจ้าหน้าที่และกรรมการสมาคมอนุรักษ์นกทุกท่านที่อาสาเข้ามาร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น สำหรับน้อง T* ผมต้องขอโทษที่ดึงเอา "สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติ" เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพื่อต้องการความเป็นปึกแผ่นและมีอำนาจในการต่อลองมากขึ้น มิได้มีวาระแอบแฝงในสมาคมอนุรักษ์นกครับ อย่างน้อยก็เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าว่า ถึงเวลาคับขันเราก็ไม่ได้โดดเดี่ยว หรือจะพูดให้ถึงที่สุด... "มีชีวิตแบบตัวใครตัวมัน" และจากนี้ไปผมอยากให้ทุกๆความเห็น "ชี้ให้ตรงเป้า เข้าให้ตรงประเด็น" ไม่เอาแบบ "กินคำ ทิ้งคำ" นะครับ (มิได้กล่าวโทษใครนะ) เดี๋ยวผมจะปรึกษากับทางสมาคมอนุรักษ์นกเรื่องหัวข้อที่ผมจะพูด "นกเด็ดในแก่งกระจาน" ว่าอาจจะเปลี่ยนมาเป็นการพูดคุยกับทางหน.อุทยานฯแทนได้หรือไม่ โดยผมจะเป็นคนดำเนินรายการให้ พวกเราจะได้เสนอความคิดเห็นและทาง หน.อุทยานจะได้ตอบข้อสงสัยกันแบบสดๆ อ่อ...พี่นกร่าเริง ครับ เรียก "ตาดี่" มังดู "แกร่" จังงะ รุ่นผมแล้วต้องเรียก "ลุง"     555++ :) จากคุณ : ปลากระดี่ได้น้ำ - [ 7 มี.ค. 51 08:22:39 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คุยกับหัวหน้าจะได้เรื่องเหรอคะ   >>>> ตัวดีเลยหึๆ   พากันเล่นข้ามวันข้ามคืน ขอสนับสนุนทุกความคิดเห็นโดยเฉพาะ คคห 53 แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 51 10:06:32 จากคุณ : ปลาร้าจิ้มแจ่ว - [ 7 มี.ค. 51 10:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เข้ามาให้กำลังใจ....ขอให้ลงเอยกันได้ด้วยดีครับผม!! จากคุณ : mr.jim.. (นายจิม..) - [ 7 มี.ค. 51 13:17:26 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ตามมาให้กำลังใจอีกคนค่ะ ทุกเหตุผลมีความหมายทั้งนั้น หวังว่าคงพบกันได้คนละครึ่งทางนะ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลจากการพบกันครั้งนี้จะทำให้บ้านกร่างพัฒนาขึ้นในเรื่อง "น้ำ" นะคะ เพราะที่ผ่านมาเจอปัญหาขาดน้ำบ่อยที่สุด... จากคุณ : รักบ้านกร่างมาก (คุณหญิงกระแตแต้แว้ด) - [ 7 มี.ค. 51 17:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 65 คุยกับหัวหน้าอุทยานโดยตรงกันเลยดีกว่านะ เพื่อจะได้หาทางแก้ไขได้ตรงประเด็น พรุ่งนี้จะเข้าไปแก่งกระจาน จะไปคุยให้ในเบื้องต้น แต่ตอนนี้หัวหน้ารับทราบข้อมูลในเรื่องนี้แล้ว (ข้อความในกระทู้นี้ถึงมือหัวหน้าแล้วอ่ะ) คงจะหาทางแก้ไขในเรื่องต่าง ๆ อยู่ เราว่านะไอ้เรื่องน้ำที่บ้านกร่างถ้าจะให้มันดีไหลสะดวกคงจะเป็นไปยาก ทั้งนี้ต้องดูที่องค์ประกอบหลาย ๆ ด้านนะ เพราะน้ำที่นั่นเป็นน้ำที่มาจากลำธาร ช่วงหน้าแล้งน้ำก็น้อยเป็นธรรมดา ไหนจะพี่ใหญ่อีก คงต้องทำใจนะ (เมื่อก่อนน้ำก็ไม่สะดวก  ก็ยังไปกันได้เลย) เอาใจช่วยให้เรื่องเหล่านี้ผ่านไปได้ด้วยดี จากคุณ : Toonkung - [ 7 มี.ค. 51 17:40:33 ]

ความคิดเห็นที่ 66 อัพเดทกำหนดการสำรวจประชากรนก อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน วันศุกร์ที่ 14  มีนาคม 2551 ลงทะเบียนเข้าพักได้ทั้งผาด่างแคมป์และบ้านส่องนก (แจ้งล่วงหน้าที่สมาคมอนุรักษ์นกฯ) วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2551 14.00 เปิดลงทะเบียนเข้าพัก สำหรับผู้ที่เดินทางมาในวันนี้ ที่ผาด่างแคมป์ 17.00 รับประทานอาหารเย็นร่วมกัน 18.00 กล่าวต้อนรับอาสาสมัครและแนะนำที่มาของโครงการ โดย คุณกวิน ชุติมา นายกสมาคมอนุรักษ์นก 18.05 กล่าวต้อนรับ และแนะนำอุทยานฯ โดยคุณอภิชา อยู่สมบูรณ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 18.40 ความสำคัญของการสำรวจประชากรนก วิธีการนับและแบ่งเส้นทาง โดย คุณเพชร มโนปวิตร อุปนายก สมาคมอนุรักษ์นกฯ 19.40 ย้อนเวลาแก่งกระจาน โดย คุณสันทนา ปลื้มชูศักดิ์ ที่ปรึกษาสมาคมอนุรักษ์นกฯ และอาจารย์บุญรอด เขียวอยู่ โรงเรียนบ้านลาดวิทยา 20.30 นกเด็ดของแก่งกระจาน พร้อมชมภาพนกสวยงาม โดย คุณชัยวัฒน์ ชินอุปราวัฒน์และคุณนิค-วิชญบูลย์ ลี้สุวรรณ วันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2551 04.30 รับประทานอาหารเช้า และรับข้าวห่อสำหรับมื้อกลางวัน 05.00 ปฏิบัติการนับนก 12.00-17.00 รับผลการสำรวจ ณ ที่ทำการอุทยาน โดยในวันที่ 15 มีนาคม ช่วง "18.05 กล่าวต้อนรับ และแนะนำอุทยานฯ โดยคุณอภิชา อยู่สมบูรณ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน"  ขอเชิญพี่ๆทุกท่าน พบและพูดคุยกับหัวหน้าอุทยานฯ ค่ะ "ร่วมกันนับนก เพื่อจัดทำฐานข้อมูลนกแก่งกระจาน เพื่อรักษาแหล่งดูนกสำคัญของพวกเรา" แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 51 18:16:12 จากคุณ : bcst - [ 7 มี.ค. 51 18:15:33 ]

ความคิดเห็นที่ 67 กระทู้นี้โวตได้มั๊ยเนี่ย จะได้ไม่ได้ก็กดไปแล้ว1จึ๊ก เรื่องนี้ปล่อยผ่านม่ายด้ายคร้าบบบ จากคุณ : ทีเรกซ์ - [ 7 มี.ค. 51 19:02:09 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ผมไม่ได้อ่านทั้งหมดนะคับเพราะเยอะมาก แต่จะแนะนำว่าให้ลองไปร้องเรียนในเวบกรมอุทยานดู ก็อบความคิดเห็นทั้งหมดไปเลยก็ได้คับจะได้มีพลัง เพราะจำนวนคนเดือดร้อนเยอะคับ พอดีผมทำงานอยู่ในกรมอุทยาน และเวลามีคนมาร้องเรียนในเวบก็ต้องปริ้นไปให้ผ.อ. ดู และจะต้องมีการตรวจสอบเรื่องราว อาจจะทำไรไม่ได้มาก แต่อย่างน้อยระดับสูงๆในกรมก็จะได้รู้และสอบถามความเป็นไป เพื่อจะช่วยได้ในอีกระดับนะคับ ต้องเข้าใจระบบประเทศไทยนะคับ จากคุณ : godcila (forestmanage101) - [ 7 มี.ค. 51 22:08:43 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ต้น...(ปลากระดี่)  พี่โด่งนะ... ไปวันไหน  ช่วง 14 พี่ลงไปทำธุระที่ชุมพร  15-16 ขากลับ  จะแวะรายทาง  อาจจะตามไปนั่งคุยด้วย... จากคุณ : Big Dong - [ 8 มี.ค. 51 07:22:38 ]

ความคิดเห็นที่ 70 อยากให้นักดูนกไปกันเยอะ ๆ จะได้มีความคิดหลากหลาย ใครว่างก็ช่วย ๆ กันหน่อยนะคะ จากคุณ : นกร่าเริง - [ 8 มี.ค. 51 16:23:03 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์โปรดคุ้มครอง ให้ประสบผลสำเร็จดังใจหวังนะครับ จากคุณ : กินเปี้ยว - [ 9 มี.ค. 51 17:27:59 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เพิ่งมีโอกาสเข้ามาอ่าน แต่ก็อ่านทุกกระทู้ตั้งแต่ต้น ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากกฏข้อดังกล่าวอย่างมากตั้งแต่ต้นปี 2551 เป็นต้นมา และเห็นด้วยว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ผิดจุดของอุทยานฯ การแก้ปัญหาดังกล่าวได้มีผู้เสนอไว้ดีแล้ว อุทยานฯ น่าจะรับฟังและนำไปพิจารณาแก้ปัญหาให้ถูกจุด อยากได้แก่งกระจานกลับคืนมา เหมือนสมัยที่มีหัวหน้าอุทยานฯ ชื่อ สามารถ ม่วงไหมทอง จากคุณ : เปรี้ยวปิ๊ด - [ 9 มี.ค. 51 22:29:34 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ข่าวดีจ้าข่าวดี ข่าวล่ามาแรง... ตอนนี้สามารถจอดรถตามลำธารได้แล้วนะ พี่ ๆ ทั้งหลายไม่ต้องแบกอุปกรณ์เดินไปแล้วนะจ๊ะ ขับรถไปได้แล้วจ้า จากคุณ : Toonkung - [ 10 มี.ค. 51 08:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ดีครับ ช่วยกันหลายๆ ฝ่าย ช่วยกันติดตามหลายๆ ทาง ส่วนเรื่องความสะอาด + น้ำใช้ได้ข่าวว่าจะปรับปรุงให้ดีขึ้นภายใน 7 วัน ขอบคุณท่านหัวหน้าอุทยาน + เจ้าหน้าที่ทุกท่านที่กรุณายอมรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของนักท่องเที่ยวชมธรรมชาติเต็มขั้นแบบพวกเรา และยินยอม + พยายามแก้ไขให้นะครับ จากคุณ : T* - [ 10 มี.ค. 51 10:11:13 ]

ความคิดเห็นที่ 75 . . . ข อ บ พ ร ะ คุ ณ ทุ ก ๆ เ เ ร ง ค รั บ . . . :) จากคุณ : ปลากระดี่ได้น้ำ - [ 10 มี.ค. 51 10:31:10 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ทุกคนทราบแล้วเปลียน อช.แก่งกระจาน อนุญาตให้รถเข้าไปจอดในพื้นที่ระหว่าง กม.16-18 ได้แล้ว ตั้งแต่วันที่  10 มี.ค.51 ส่วนเรื่องอื่น ๆ นั้นยังไม่ทราบ ระเบียบการจอดคงอยู่ที่จิตสำนึกของแต่ละคนว่าตรงไหน จอดอย่าให้กีดขวางคนอื่นเป็นใช้ได้ ส่วนเรื่องจับผีเสื้อหรือเอาพรรณไม้ออกจากพื้นที่ทุกคนต้องช่วยกันสอดส่องดูแล คนที่ไม่ดีทำให้ส่วนรวมเสียนะคะ จากคุณ : แซวสวรรค์ - [ 10 มี.ค. 51 14:22:00 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ดีจังเลยครับ เดี๋ยวปลายเดือนกลับมาจากกรุงชิงก่อน เจอกัน..แก่งกระจาน จากคุณ : Jaray - [ 10 มี.ค. 51 14:36:59 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ท่านพี่ jaray จะไปช่วงปลายเดือนเหรอ งั้นอย่าลืมหมูผัดพริกแกงของป้าจอยนะ รอชิมอยู่ จากคุณ : Toonkung - [ 10 มี.ค. 51 16:16:26 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เอาใจช่วยมาตลอด ขอบคุณทุกๆท่าน ที่ยกประเด็นขึ้นมาและแตกประเด็น จะได้สะดวกหน่อย แต่ก็พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงถ้าเป็นผลดีกับทุกฝ่าย...."ทรัพยากรธรรมชาติเป็นของเราทุกคน".... จากคุณ : ตีทอง (เขาไผ่) - [ 10 มี.ค. 51 22:04:43 ]

ความคิดเห็นที่ 80 มาช้าไปหน่อย...ขอสักนิดนะครับ...เพื่อแก่งกระจาน แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 51 00:05:12 จากคุณ : Tanon (tanonT) - [ 10 มี.ค. 51 23:54:56 ]

ความคิดเห็นที่ 81 คงไม่ใช่เปิดให้จอดรถที่ลำธาร 1 2 3 แล้ว...ทุกอย่างจบลงหรอกนะครับ ช่วยกันคิดมาตราการเยียวยา...บ้านกร่าง...พะเนินทุ่ง...ให้อย่าทรุดโทรมกว่านี้... จริงๆ แล้วตอนนี้ก็ทรุดโทรมเกินไปแล้วหละครับ.... จากนักท่องเที่ยว...นักดูนก...นักถ่ายภาพ..รวมทั้งเจ้าหน้าที่...ที่ขาดจิตสำนึก...(คงจะส่วนน้อย) ที่ดีๆ ก็มีครับ...(ขอให้เป็นส่วนใหญ่) (ภาพขยะเน่า...ที่ถูกทิ้งไว้เป็นสัปดาห์...ที่บ้านกร่าง) กลาง มค.51 จากคุณ : Tanon (tanonT) - [ 11 มี.ค. 51 00:03:23 ]

ความคิดเห็นที่ 82 อีกเรื่อง....... ไม่ทราบที่พะเนินทุ่ง...กำหนดให้รถที่ขึ้นไปรอบเช้า...ต้องลงภายใน 9.00-10.00 น. เหมาะสมหรือไม่ครับ..... รู้สึกว่าจะเป็นการกำหนดที่ เหมาะสำหรับ ผู้ที่ขึ้นไปชมทะเลหมอก เท่านั้น สองครั้งหลังคือเดือน มค และ กพ 51 ขึ้นไปบนพะเนินทุ่ง เดินดูนก... หลังจากที่นักท่องเที่ยวแห่กันลงไปช่วง 9-10 โมง (เริ่มมีนกให้ดูเนื่องจากเงียบสงบขึ้น) จนกระทั่งเวลา สิบโมงกว่าๆ เลยตัดใจ...จะลงไปที่บ้านกร่าง... แต่เจ้าหน้าที่...บอกว่าห้ามลง...เพราะหมดเวลาลงแล้ว...เลยงง (เมื่อเดือน ตค.50 ยังดูนกที่ กม.27 ได้จนเกือบเที่ยง) ถามเหตุผล...เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า..."คุณมัวแต่โอ้เอ้...นึกถึงอันตรายบ้างซิ" เราก็เลยถามว่า "อันตรายตรงไหน...." ท่านก็ตอบไม่ได้.... ก็ในเมื่อ...รถจะสวนขึ้นมาได้อีกทีก็ บ่ายโมง.... เถียงกันไปมา...ท่านก็เลยปริปากว่า....จะมีคนใหญ่คนโต ขึ้นมาก่อนเวลา.... เออ......ก็บอกกันซะหน่อยก็ได้....ไม่เห็นต้องมาว่าเราโอ้เอ้เลย....พับผ่า สวัสดี...ประเทศไทย.....จริงๆ จากคุณ : tanonT - [ 11 มี.ค. 51 00:22:12 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ปลายเดือน กพ.51 เลยด่านสามยอดไปหน่อย.... น้องเสือผู้โชคร้าย......สังเวยนักท่องเที่ยวตีนผี......(ไม่รู้คันไหน) ขนาดยืนถ่ายรูปอยู่ริมถนน...พวกยังไม่ยอมชะลอรถ..เหยียบจนฝุ่นตลบ... น่าต้อนรับจริงๆ นักท่องเที่ยวแบบนี้.......ทำไงดี......จ้าวนายยยยยย (ที่เมาแอ๋....แล้วขับรถขึ้นจนถึงพะเนินทุ่ง...ก็เจอมาแล้วครับ....จ้าวนายยยย) แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 51 00:33:59 จากคุณ : tanonT - [ 11 มี.ค. 51 00:29:13 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ^ ^ เป็นอีกประเด็นที่คงต้องพูดคุยกันครับ "เรื่องขยะ" ผมเห็นว่าทางเจ้าหน้าที่ฯก็บอกให้นักท่องเที่ยวเก็บใส่ถุงดำแล้วนำลงไปทิ้งที่ถังขยะที่ทาง อช.จัดไว้ให้บริเวณด่านสามยอด แต่ก็มีบางคนที่มักง่าย เพราะฉะนั้น ต้องฝากขอความร่วมมือจากทุกๆคนด้วยครับ "ในเมื่อทางเราขออะไรไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ฯก็ให้ความร่วมมือ มาถึงเรื่องขยะที่ทางเจ้าหน้าที่ฯขอความร่วมมือก็ช่วยๆกันหน่อย ทุกอย่างจะได้เป็นระเบียบเรียบร้อย" "รู้จักรับ ก็ต้องรู้จักให้" ช่วยกันคนละไม้ละมือครับ ส่วนเรื่อง "ตีนผี" ก็ขอให้ "ออมตีน" กันหน่อยครับ หากจะ "แข่งรถ" แนะนำให้ไป "พัทยาเซอร์กิต" แต่หากอยากมาชำเลืองมองธรรมชาติ ลองค่อยๆขับและเหลียวมองสรรพสิ่งรอบๆตัว ผมว่า "รื่นรมย์" กว่าการ "กระทืบคันเร่ง" แน่ๆ "ขอความร่วมมือกันด้วยนะครับ" ขอบคุณครับ ......... จากคุณ : ปลากระดี่ได้น้ำ - [ 11 มี.ค. 51 07:41:02 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง คือ คิดอย่างยุติธรรม คนที่แหกด่านส่วนมาก ก็คงต้องเป็นนักดูนก หรือถ่ายรูปนกนี่แหละ ที่จะต้องช่วยดู ๆ กันด้วย เพราะถ้าเขาเปิดให้เข้าไปจอดรถได้ตามลำธารต่าง ๆ แล้ว ส่วนมากก็เป็นนักดูนก หรือถ่ายภาพนกแทบทั้งนั้น พอได้เข้าไปจอดแล้ว ดูนกติดลม (หรือถ่ายนกติดลม) เลยอยากขึ้นพะเนินทุ่งต่อ ยังไงเสียขอให้ระงับใจไว้หน่อย ต้องคิดว่ามันมีอันตรายต่อรถที่สวนมา และเขาเคยห้ามนำรถเข้ามาจอดอย่างคราวนี้แล้ว พอเขาผ่อนผัน  พวกเราที่เคารพกฏ ก็ต้องช่วย ๆ กันดูด้วยว่าใครบ้างที่ชอบแหกกฏ โดยเฉพาะ นักดูนกเก่า ๆ หรือนักดูนกหน้าใหม่ด้วย ก็ต้องเอามาแฉกันซะให้จะ จะหน่อย นิสัยจะได้ดีขึ้น เลิกคิดแหกกฏซะที เพื่อความสะดวกของส่วนรวม ใครทำดีก็ดีอยู่แล้ว ใครที่นิสัยเสียชอบแหกกฏก็ต้องประจานกันซะให้เข็ด ไม่ควรเกรงใจ จึงต้องวอนพวกเรากันเองด้วยให้ช่วยกันสอดส่องดูว่าเจอใครแหกกฏกลางทางบ้าง เอาชื่อมาเลย ต้องไม่มียกเว้นเห็นแก่หน้ากันแล้ว  ไม่งั้นส่วนรวมเสียหายอย่างที่เป็นอยู่ แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 51 16:18:54 จากคุณ : นกร่าเริง - [ 11 มี.ค. 51 08:33:12 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เรื่องขยะนี่ความจริงแก่งกระจานเป็นอุทยานฯแรก ๆ ที่ใช้ระบบแจกถุงดำให้นักท่องเที่ยวเอาขยะกลับ เป็นระบบที่ผมคิดว่าดีมาก ๆ และดูเหมือนตอนนี้ทางเขาใหญ่ก็เริ่มนำมาใช้แล้ว อุทยานและเขตอนุรักษ์ส่วนใหญ่ไม่มีระบบจัดการขยะที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ เท่าที่ผมเห็นก็มักจะเป็นการขุดหลุมใหญ่ ๆ ไว้ แล้วก็เทขยะลงไป จากนั้นก็เผาเป็นครั้งคราว ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ผมขอใช้โอกาสนี้ขอร้องนักดูนก นักถ่ายภาพนก นักดูผีเสื้อ ชมธรรมชาติ ฯลฯ ทุกท่าน ให้นำขยะทั้งหมดกลับออกจากอุทยานและเขตอนุรักษ์ ไม่ใช่แค่แก่งกระจานที่เดียว แต่รวมถึงเขตอนุรักษ์ทุกแห่ง เพื่อลดมลพิษและลดภาระการกำจัดขยะในเขตเหล่านั้น ผมคิดว่าคงไม่ลำบากเกินไป ถ้าจะนำกลับมาทิ้งถังแถวบ้านเราในเมือง ซึ่งจะมีคนนำขยะบางส่วนไปผ่านกระบวนการรีไซเคิล ก่อให้เกิดมลพิษน้อยกว่า และทำให้การท่องเที่ยวของเราเป็นการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนมากขึ้น จากคุณ : จะละเม็ดดำ - [ 11 มี.ค. 51 09:08:27 ]

ความคิดเห็นที่ 87 โครงการแจกถุงดำเป็นแค่ระยะสั้นๆครับ ช่วงเทศกาลจะแจก แต่โดยปกติไม่ครับ และที่สำคัญ นักท่องเที่ยวทุกคนอาจจะไม่ทราบ จริงๆครับ ก็ไม่มีป้ายประกาศ มีแต่เจ้าหน้าที่ช่วยกันบอกครับ อยากเห็นป้ายรณรงค์ให้เอาขยะกลับกันบ้างก็ดีนะครับ  ส่วนที่เขาใหญ่ผมไปช่วงนี้ก็ไม่ได้แจกทุกดำให้นำขยะกลับหรอกครับ เขาทำโรงเก็บขยะให้เราทิ้ง กันกวางมารื้อ แต่ก็เห็นยังมีนักท่องเที่ยว ทิ้งเพ่นพ่าน วันก่อนเห็นกวางเคี้ยวทิชชูตุ้ยๆ ไม่รู้จะทำยังไง ก็คงยกให้เป็นเรื่องของจิตสำนึกกันละครับ สำหรับบางคนมันก็หายาก จากคุณ : Jaray - [ 14 มี.ค. 51 07:24:43 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ตอนนี้กลับสู่สถานการณ์ปกติแล้วสำหรับบ้านกร่าง เดือนหน้ามีเซอร์ไพรส์แน่นอน จากคุณ : Toonkung - [ 17 มี.ค. 51 09:14:19 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เมื่อเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาได้ไปสัมผัสบรรยากาศบ้านกร่าง ทุกอย่างดีขึ้นเยอะ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีแม่ครัวนะคะ งานนับนกเป็นไปอยางครึกครื้น ห้องน้ำสะอาดขึ้นเยอะ (สงสัยเตรียมรับมือกับคณะนับนก) รถที่ขึ้นไปจอดดูนกก็เป็นระเบียบเรียบร้อยดี ไม่กีดขว้างเส้นทางเดินรถแต่ไปคราวนี้สงสัยคนเยอะไปหน่อยไม่ค่อยได้นกเท่าที่ควร อ๋อ ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไปบ้านกร่างคงมีการพัฒนาขึ้นอย่างแน่นอน ดีใจด้วยกับการกลับมาของหัวหน้าหน่วยที่เคยดูแลรักษาหน่วยบ้านกร่างเป็นอย่างดีมาก่อน และหลังจากเดือนหน้าไปบ้านกร่างจะกลับไปสวยงามอย่างเดิม (ที่ได้คุยกันเมื่อวันเสาร์ที่เจอกัน เห็นโครงการแล้วน่าจะดีกว่าเดิมนะ :) ) แต่ว่าสิ่งนึงที่เห็นตอนที่กำลังขึ้นไปบ้านกร่าง เลยตรงศูนย์ประชาสัมพันธ์มานิด เห็นนักท่องเที่ยวจอดรถให้อาหารลิงอะ ไม่ดีเลยเด๋วจะกลายเป็นปัญหาแบบที่เขาใหญ่นะคะ ให้เค้าได้หากินตามธรรมชาติดีกว่า ช่วยกันจะได้มีธรรม สุดท้ายพูดถึงซะน่อยเด๋วเค้าจะน้อยใจ ต้องขอขอบคุณคนคุ้นเคยที่ขึ้นไปกี่ครั้งก็ดูแล เทคแคร์กันเป็นอย่างดีไม่เคยเปลี่ยนแม้เวลาจะผ่านไปนาน กี่ปีก็ตาม ขอบคุณทุกๆๆคนที่รักแก่งกระจาน หน่วยสามยอด หน่วยบ้านกร่าง สุดท้ายที่พะเนินทุ่ง ร่วมกันเป็นปากเป็นเสียงเพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้น ให้ทุกอย่างเหมือนเดิม Thank you for every thing Jacky and every body. Thank you for make our to smile. จากคุณ : abb@ew :) - [ 17 มี.ค. 51 13:54:15 A:61.47.64.8 X: TicketID:169238 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ป้ายห้ามให้อาหารสัตว์ ดีที่สุด จากคุณ : Jaray - [ 17 มี.ค. 51 21:58:44 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ได้ไปร่วมงานนับนกแก่งกระจานเมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ มีโอกาส พูดคุยกับเพื่อนๆ คอเดียวกัน,เจ้าหน้าที่, ผู้ช่วย,และหัวหน้าอุทยานฯ   สรุปเรื่องที่คุยได้ว่า    เหตุผลที่ไม่ให้จอดรถ ลำธาร1- 3  เพราะมีรถลักไก่ ขับสวนขึ้นไปในเวลาปล่อยรถลง ทำให้อาจเกิดอันตรายได้    จึงมีความเห็นส่วนใหญ่ ที่จะไปนำเสนอหัวหน้าฯ ว่าขอให้ ติดตั้งไม้กั้นที่ กม.16 (อดีตเคยมีไม้กั้นมาก่อน) ในเวลาปล่อย รถลง  เพื่อป้องกันรถลักลอบขับสวนขึ้นไป    ขออนุญาตไปจอดรถบริเวณนั้น เพื่อดูนก,ถ่ายรูปได้ ต้องเดินเข้าไปตามทางลำธาร 1,2,3 (ระยะทาง 100 เมตรถึงลำธาร 1)  โดยแจ้งเจ้าหน้าที่ ด่านหน่วยบ้านกร่างก่อน    ขอให้ทุกคนเคร่งครัด เรื่องเวลาขึ้นลงพะเนินทุ่งด้วย - กม.27 จอดดูนกได้ หัวหน้าไม่ได้ห้าม   - ร้านอาหารสวัสดิการบ้านกร่างช่วงนี้หยุดปรับปรุงชั่วคราว - มีการปรับเปลี่ยนหัวหน้าหน่วย บ้านกร่างใหม่ ที่จะเข้ามาแก้ไข  เรื่อง ร้านอาหาร,ความสะอาดของห้องน้ำ น่าจะดีขื้น - ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯคนใหม่ รับปากจะมาปรับระบบ น้ำปะปา ที่หน่วยบ้านกร่างให้เป็นระบบขึ้น ขอเวลาหน่อย - จะทำป้ายประกาศต่างๆมากขึ้น - ข้อห้ามเรื่องการห้ามนำรถขึ้นพะเนินทุ่งในรอบเช้า หากว่าได้ตีตั๋วค้างแรมที่พะเนินทุ่ง จะขึ้นได้เฉพาะในรอบบ่ายเท่านั้น    ไม่บังคับ -  ถ้ามีอะไรเพิ่มเติม สมาคมฯจะไปนำเสนอกับหัวหน้าอุทยานฯ อีกครั้ง จากคุณ : อมร (NAMOON) - [ 18 มี.ค. 51 00:10:26 ]