ความคิดเห็นที่ 1 หากเราผลิตเครื่องบินออกมาใช้เอง ตั้งแต่สมัยสงครามอินโดจีน และผลิตเรื่อยมา มีหรือที่เราจะไม่พัฒนาทันชาติอื่นเขา ในการผลิตอากาศยาน และอาจจะตามมาถึงการผลิตยานยนต์ทางบก เพราะการลงทุนตั้งแต่แรกแรกนั้น ทำสะสมกันเรื่อยมา ก็ยิ่งใหญ่ได้ ในปัจจุบัน จากคุณ : xebec - [ 15 มี.ค. 51 15:07:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ที่คณะผม มีภาควิชาการบินและอวกาศยาน เท่าที่จำได้คนภาคนี้ มีแต่ได้เกียรตินิยม แตกมาจาก ภาคเครื่องกล อ่ะครับ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 51 16:11:06 จากคุณ : yodying_jung - [ 15 มี.ค. 51 15:15:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มันก็น่าจะเป็นไปได้นะ ครับอา แต่ทำไมไม่มี เพราะ ถ้ามาความสามารถซ่อมได้ ก็น่าจะมี ศักยภาพพอที่จะ ออกแบบ หรือสร้างได้ เช่นกัน แล้วอะไร ที่มา ทำให้ เราต้อง หุด ... ชะงัก  ..ล่ะ   .... .. น่าคิด จากคุณ : otto - [ 15 มี.ค. 51 15:16:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เข้ามาอ่านและกราบสวัสดีอาหมูเฉยๆค่ะ และฝากความระลึกถึงอาลองด้วยค่ะ จากคุณ : ป้าเกษแต้ๆ (น้าตาโต) - [ 15 มี.ค. 51 15:20:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 นั่นสินะ มันเกิดอะไรขึ้น ทุกวันนี้ผมจำได้แค่ว่า นักบินไทย โดยเฉพาะนักบินรบ เคยได้ชื่อว่าเก่งที่สุดในโลก เพียงแต่ เราไม่มีเครื่องบินที่เราผลิตขึ้นเอง ต้องรอเทคโนโลยีจากที่อื่น ส่งผลให้ไม่ทันชาวบ้านเค้าสักที จากคุณ : โอบทะเลไว้ด้วยไอรัก - [ 15 มี.ค. 51 15:51:36 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีครับป๋า คำถามของป๋าเป็นคำถามในใจคนหลายๆคนเช่นกันล่ะครับผมว่า ขอแชร์มุมมองในส่วนที่ทำงานโดยตรงกับการบิน ในอุตสาหกรรมการบินยุคนี้นะครับ ต้องบอกว่าคนไทยมีฝีมือมีมากมายครับ เชื่อหรือไม่ว่าปัจจุบันก็มีคนไทยทำงานอยู่ในส่วนงานต่างๆ ของทั้งโบอิ้งและแอร์บัส เจ้าแห่งอุตสาหกรรมผลิตเครื่องบินของโลก มีหลายคนเป็นมืออัจฉริยะของโลกทำงานร่วมกับฝรั่ง ทั้งส่วนการออกแบบและผลิตเครื่องบินสุดยอดจะไฮเทคเหล่านั้น ปัจจุบันประเทศไทยเราเปิดเสรี มิได้มีการห้ามให้ผลิตเครื่องบินเองครับ แต่เทคโนโลยี่และโนว์ฮาวมันยังไม่ถึง จะมีอยู่ก็แต่ในตัวคนไทยที่กระจายทำงานอยู่ในโบอิ้งและแอร์บัส พรบ. ควบคุมอากาศยาน 2497 ฉบับแก้ไข 2551 นี้ ก็ไม่ได้ระบุห้ามการสร้างเครื่องบินของเราเอง แต่ระบุมาตรฐานให้ตรงตาม FAA ครับ ใครมีทุน มีเทคโนโลยี่ มีโนว์ฮาว มีทีมงานที่เก่ง จะลุกขึ้นมาทำก็ได้ ทุนจดทะเบียนขั้นต่ำต้องมีห้าร้อยล้านบาท แต่ที่ไม่มีการสร้างเครื่องบินเมดอินไทยแลนด์ ก็เพราะเราไม่มีทางสู้การตลาดยักษ์ใหญ่ของโลกได้ครับ ใครบ้าทำคงเจ๊งแน่ๆ เพราะลงทุนขนาดเป็นหมื่นล้าน เครื่องบินเมดอินไทยแลนด์ แต่ขายไม่ออก จะไปสู้โบอิ้ง แอร์บัส เอทีอาร์ แอมเบอร์ เชสน่า ฯลฯ ที่เขามีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกอยู่คงไม่ไหว พวกนี้สายป่านยาว ทุนหนามากกว่า เทียบกันไม่ได้ แบรนด์เครื่องบินเกิดใหม่ในโลกนี้ อย่าว่าแต่ไทยแลนด์เลยครับ พี่ยุ่นที่ว่าวิศวกรรมไม่แพ้อเมริกันหรือยุโรป แถมบางอย่างเจ๋งกว่าด้วยซ้ำ และเงินยุ่นก็มหาศาล ยังไม่กล้าเสนอหน้ามาเข้าวงการผลิตเครื่องบินเลย สายการบินในญี่ปุ่น ชาติที่ชาตินิยมสุดขั้ว ยังใช้แต่โบอิ้ง แอร์บัสเกือบทั้งหมด จีนเองก็เงินมหาศาล เทคโนโลยี่ไม่น้อยหน้าใคร แรงงานถูก ยังไม่กล้าแหยมกับบิ๊กบอยของโลกเลย แต่กลับไปจับมืออเมริกัน เอาชิ้นส่วนสำคัญบางอย่างของโบอิ้ง มาผลิตในจีนแล้ว เช่นปีกเครื่องบินหลายรุ่นของโบอิ้งตอนนี้ ก็ผลิตในจีนแล้วครับ อุตสาหกรรมการบิน การซื้อขายเครื่องบิน เป็นเรื่องการเมืองระดับชาติและระดับโลกครับ ถ้าไม่ซื้อโบอิ้งหรือแอร์บัส กระจายออเดอร์ให้ได้แบ่งๆกันไป จะโดนอีกข้างที่ไม่ได้ขายซักลำ บีบด้วยสิ่งอื่น เช่นไม่ซื้อโบอิ้งเลย ก็ไปโดนจำกัดการนำเข้าข้างและกุ้ง และอื่นๆ หรือไม่ซื้อแอร์บัสเลย ก็โดนจำกัดสินค้าเกษตรต่างๆเข้า EU เหมือนกัน ไม่ใช่ไทยชาติเดียวที่ต้องเจอนะครับ ทุกชาติต้องเจอกับปัญหาซื้อเครื่องบิน ไปเกี่ยวกับการเมืองเช่นนี้เหมือนเรา สายการบินญี่ปุ่น ชาติที่ว่าเจ๋งๆทางเศรษฐกิจ ยังต้องซื้อทั้งโบอิ้งและแอร์บัสใช้ทั้งสองยี่ห้อเลย ฟันธงให้เลยครับ การที่ประเทศไทยจะมีแบรนด์เครื่องบินเป็นของเราเอง ยากกว่าเราจะได้เห็นโอลิมปิคจัดในประเทศไทยด้วยซ้ำไปครับ ลุกขึ้นมาสร้างรถยี่ห้อไทย แข่งกับโตโยต้า ฮอนด้า ยังมีความเป็นไปได้มากกว่าเลยครับ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 51 15:59:18 จากคุณ : XOOMER - [ 15 มี.ค. 51 15:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เพิ่มเติมครับ ถ้าถามว่า ที่ผมบริหารสายการบินอยู่วันนี้ แล้วถ้าผมจะซื้อหรือเช่าเครื่องบินใหม่ ผมก็คงเลือกแค่สองอย่าง คือโบอิ้งและแอร์บัส อยากสนับสนุนของไทยอยู่เต็มอกล่ะครับ แต่ผมทำงานบริหารเงินการลงทุนของคนอื่น ให้เขาอยู่ ก็คงเอาความชอบส่วนตัวมาตัดสินไม่ได้ ต้องบริหารตามความเสี่ยงน้อยสุด คือเลือกใช้ของที่เป็นที่ทั่วโลกใช้เป็นมาตรฐานไว้ก่อน ถึงผมจะลองเสนอเปลี่ยนเครื่องบินเป็นยี่ห้อ ช้างน้อย 737-800 ผู้ถือหุ้นของผมก็คงตอบกลับมาว่า ไม่เอา ต้องโบอิ้งและแอร์บัสเท่านั้น ใช้ช้างน้อย เสี่ยงเกินไป เขาเองก็ไปตอบผู้ถือหุ้นเขาในตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้เหมือนกัน จากคุณ : XOOMER - [ 15 มี.ค. 51 16:05:37 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่ใช่ครับ ลุง XOOMER ผมไม่ได้หมายถึงปัจจุบันเราควรจะมี แต่ผมหมายถึงว่า แต่ก่อนเรามีได้ ทำไมภายหลัง หายไป ทั้งที่ตอนนั้น ยักษ์ใหญ่ของโลก เช่นแอร์บัส และโบอิ้ง ยังไม่เติบโตระดับโลก คอร์ดก็เพิ่งเริ่มสร้างเครื่องบิน แต่ในไทย ทำเครื่องบินรบออกมาแล้ว ใครทำให้เราต้องหยุด ไม่พัฒนามาเป็นเครื่องบินโลหะ ทั้งที่ผมดูในโรงงานซ่อมเครื่องบินแล้ว เราก็ทำได้ทุกส่วน ยกเว้นเครื่องยนต์ หรือจะเป็นญี่ปุ่น ที่ตั้งใจจะบุกเข้าไทย ในสงครามโลกครั้งที่สอง แล้วเลยหยุดส่งเครื่องยนต์ขายไทย ตั้งแต่หลังสงครามอินโดจีน หรือเป็นสหรัฐอเมริกา อังกฤษ หรือฝรั่งเศส ที่ทำสัญญาลับ ห้ามไทยผลิตเครื่องบินออกมาอีก ปล่อยให้บริษัทของเขาเติบโต จนเราก้าวไม่ทันอยู่ในทุกวันนี้ ตรงนี้แหละครับ ข้อสงสัยของผม เพราะผมจำได้ว่า ผมเคยเสนอให้บริษัทซ่อมเครื่องบินที่ผมทำงานอยู่ด้วย ทำเครื่องบินการเกษตรออกมาให้คนไทยใช้กัน ใช้เครื่องยนต์ของ VW ก็ได้ ใช้แบบของอเมริกัน ที่ทำแบบเครื่องบิน Back Yard ก็ได้ เพราะเรามีศักยภาพที่จะทำได้แน่นอนอยู่แล้ว หลังสงครามเวียตนามสงบ แต่กลับได้ยินแต่เสียงหัวเราะ จากผู้อาวุโสกว่า และเป็นผู้ที่รู้เรื่องเกี่ยวกับการไม่เอาไทยไปเป็นประเทศแพ้สงครามด้วย นี่แหละครับ ที่ทำให้ผมสงสัย ไอ้เรื่องที่เราจะทำเดี๋ยวนี้ มัีนหมดปัญหา ไม่มีปัญญาหรอกครับ เรื่องนี้ รู้รู้กันอยู่แล้วครับ แต่เผอิญไม่ใช่เรื่องที่ผมสงสัยน่ะซีลุง XOOMER แต่ก็ขอบคุณครับ ที่แสดงความเห็นยาวเหยียดเชียว ถึงจะเป็นเรื่องปัจจุบัน ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ก็เป็นความรู้ที่ดีครับ และขอบคุณคุณยอดยิ่ง คุณ otto ที่สงสัยเหมือนกัน คุณป้าเกษ ที่อุตส่าห์เอาล็อกอินองเพื่อน เข้ามาสวัสดีผม คุณโอบทะเลไว้ด้วยไอรัก ที่สละเวลาซ้อมเพื่อเป็นโปรกอล์ฟ เข้ามาแสดงความสงสัยด้วย จากคุณ : xebec - [ 15 มี.ค. 51 16:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เข้ามากราบอาหมูอีกคนครับ   ไม่ทราบจะออกความเห็นยังงัย เมืองไทยหาคนรู้จริง เรื่องนี้ น้อยคนเต็มที เรื่องเล่าจากอาหมู ที่เป็นวิศวกรการบินรุ่นแรกๆ ของเมืองไทย สมัยสงครามเวียดนาม..เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับคนรุ่นผม ถ้าไม่มีคนช่วงรอยต่อมาเล่า เรื่องนี้ก็เกินจินตนาการของเด็กรุ่นหลังอย่างผม           อาหมูครับ  รอยกระสุน ..อาหมูได้มาจาก ยังงัยครับ เล่าให้ฟังมั่งได้มั้ย จากคุณ : back room - [ 15 มี.ค. 51 16:13:07 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โอเช...เข้าใจประเด็นป๋าแระ เนี่ยนะ...สื่อกันทางตัวอักษร เข้าใจกันได้ไม่ง่ายนิ... เรื่องข้อตกลงลับ ผมต้องบอกว่าไม่ทราบครับ เกิดไม่ทัน อิ อิ จะมีหรือไม่มีอยู่อันนี้ยากที่จะตอบได้ แต่ผมดูจาก พรบ ของเรา ก็ไม่ได้ห้าม หรือกีดกันเรื่องนี้ ผมก็เห็นว่า มันไม่น่าจะมีข้อตกลงลับนั้นอยู่จริง มิฉะนั้น กฏหมายเราคงไม่เขียนไว้แบบเปิดเสรีให้เช่นนั้น ความเห็นผม ผมว่า การที่จะมีการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องบิน มันเป็นเรื่องระดับชาติ ที่ต้องบรรจุอยู่ในนโยบายรัฐบาลเลย และรัฐบาลต้องลงมาสนับสนุนเต็มตัว ลงทุนเองไม่ได้ ไม่ไหว ก็ต้องผลักดันให้เอกชนเขาทำ ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ รัฐบาลประเทศไทย ไม่เคยมีใครคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนครับ ว่าเมืองไทยก็มีศักยภาพ ความเป็นไปได้ มาถึงวันนี้ ต้องบอกว่าระบบทุนนิยมเสรี มันทำให้ปิดกั้นความเป็นไปได้เหล่านั้นมานานแล้วครับ คือเราเสียโอกาสนั้นไปตั้งนานมาแล้ว เราคิดมาตลอดครับ ว่าเราเป็นชาติเกษตรกรรม จนวันนี้ รัฐบาลทุกชุดของเรา ก็เริ่มไม่แน่ใจว่าเราจะเป็นเกษตรกรรมหรืออุตสาหกรรมดี ก็คงต้องเอาแน่ๆซักอย่านึงให้ได้ก่อนล่ะครับ สรุปคือความเห็นผมว่า ที่เราเคยมีศักยภาพตอนนั้น และปล่อยโอกาสหลุดลอยไปตั้งแต่ตอนนั้น ด้วยการเมืองของเราเอง หรืออะไรต่างๆในวันที่ผ่านมาก็แล้วแต่ ทำให้ถึงวันนี้ การครองตลาดของมหาอำนาจที่มีอยู่ มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยครับ ที่เราจะสร้างเครื่องบินขึ้นมาได้เอง เพราะไม่มีใครกล้าลุกมาลงทุนตอนนี้หรือในช่วงชีวิตเราแน่นอนครับ จากคุณ : XOOMER - [ 15 มี.ค. 51 16:42:12 ]

ความคิดเห็นที่ 11 นี่แหละครับ ปัญหาตัวจริงเลยละ ช่วงท้ายของความคิดเห็นที่ 10 ของลุง XOOMER นี่แหละ คือ เราเคยมีศักยภาพตอนนั้น ตอนสงครามอินโดจีน แล้วเราปล่อยโอกาสหลุดลอยไป ตรงนี้แหละครับ ที่ผมสงสัย เพราะแม่ทัพต่างต่างท่านก็อยากมีศักยภาพในการผลิตอาวุธสงคราม ท่านย่อมไม่ยอมหยุดตัวเองแน่นอน ต้องมีอะไรสักอย่าง มาทำให้ท่านต้องชะงัก หยุดพัฒนาไป อะไรสักอย่างนั้น คืออะไรกันหนอ อะไรที่มีอำนาจเหนือกรมช่างอากาศ เหนือแม่ทัพของไทย สิ่งนั้น น่าจะอยู่เหนือการเมืองไทยเอาด้วยซ้ำ เอ๊ะ หรือว่า การปฏิวัติรัฐประหารบ่อยครั้ง ในช่วงนั้น ทำให้แม่ทัพหยุดพัฒนา แล้วโอกาสก็หลุดลอยไปจากประเทศไทยกันล่ะหว่า แต่อย่างไร ผมก็ยังคิดว่า ไทยแอมน่าจะสร้างเครื่องบินโลหะ ใช้เครื่องยนต์เล็ก เช่นไลน์คันมิ่ง 4 หรือ 6 สูบ เพื่อการเกษตรได้อยู่ดี แต่ทำไม บอร์ดไม่ยอมฟังผม ทั้งที่บอร์ดนั้น เป็นบอร์ดไทย+ฝรั่ง CIA ที่ฝรั่งพยักหน้ารับความเห็น แต่คนไทย ไม่ยอมรับ ไม่ยอมพูดกันต่อเสียอีก เพราะหากเราทำเครื่องบินเล็กเล็กของเราออกมาตั้งแต่นั้น ผมว่า เราก็คงพัฒนามาเป็นเครื่องบินฝึก จนได้แล้วละ ป่านนี้น่ะ และหากเครื่องบินเป็นตัวอย่าง รถยนต์ก็คงถือกำเนิดขึ้นได้แน่นอน นั่น เกือบสี่สิบปีมาแล้วนะครับ Ta Ta ยังมีอายุแค่หกสิบปี ในปัจจุบัน เขากำลังจะบุกตลาดไทย ด้วยรถบรรทุกหนึ่งตันอยู่ในเดือนนี้แล้ว อะไรทำให้ไทยเชื่องช้า ไม่มั่นใจในการก้าวเดินกันหนอ !! จากคุณ : xebec - [ 15 มี.ค. 51 17:01:56 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมว่าคำนี้คำเดียวล่ะครับป๋า ที่เราไม่เคยมีเท่าคนอื่น และเราก็โหยหามันมาตลอด แต่ก็ไม่เคยได้ "นักการเมือง เหล่าผู้บริหารประเทศไทย ที่มี Vision เท่าอเมริกัน ยุโรป จีน และญี่ปุ่น" ระบบการศึกษาของเราไม่ได้สร้างคนมาเหมือนเขาล่ะครับ คนของเรามีศักยภาพไม่แพ้ใครในโลก เพียงแต่เรายังมีผู้บริหารประเทศที่สู้เขาไม่ได้เท่านั้นเอง จริงๆเราก็มีคนเก่ง มี vision ไม่น้อยหน้าเขาอยู่มาก เพียงแต่คนเก่งจริงเหล่านั้น ไม่มีใครสักคนที่จะกล้ามาลงการเมือง มาช่วยบริหารประเทศ ในระบบการเมืองแบบเปลืองตัวของบ้านเราไงครับ ว้าเหว่จังครับ.....ประเทศไทย จากคุณ : XOOMER - [ 15 มี.ค. 51 17:11:10 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อีกคำหนึ่งครับ คือคำว่า "ลงการเมือง" ลุง XOOMER สังเกตหรือไม่ ว่าไม่มีใครยอมพูดเลยสักคน ว่า "ขึ้นไปเล่นการเมือง" ฮ่า ฮ่า เอาแค่เวียตนาม ที่นักการเมืองเขาออกมาพูด เมื่อปลายปีที่แล้ว ราววันฉลองชัยชนะที่มีต่อเครื่องบินทิ้งระเบิดอเมริกัน ว่า...... “Young people need to develop a long-term vision, heighten their sense of self motivation and master technology if they want to embrace globalization and the rise of a knowledge-based economy” แค่นี้ ลุงก็เห็นแล้วว่า วิสัยทัศน์ของนักการเมือง แค่ระดับรองนายกรัฐมนตรีของเวียตนาม ไกลกว่าบรรดารองนายก รวมถึงนายก และรัฐมนตรีของเราเป็นไหนไหน จากคุณ : xebec - [ 15 มี.ค. 51 17:22:54 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ....เดี๋ยวผมจะออกไปหาข้อมูลก่อน ครับ.ไชโย ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ..!! จากคุณ : Red Fox - [ 15 มี.ค. 51 17:24:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ^ ^ ไอ้ลำข้างบนนี่นะ มันติดตรายูแซฟหราเลยนี่นา ตา Red จากคุณ : xebec - [ 15 มี.ค. 51 17:49:12 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เหตุผลง่าย ๆ ครับ ทำเอง ผลิตเอง แล้วจะเอาค่าคอมมิชชั่นจากไหนล่ะ และก็ไม่ได้พึ่งมาเป็นตอนนี้ เป็นมานานตั้งแต่หลังสงครามแล้ว คนไทยไม่เคยคิดอะไรไกล ๆ ถึงลูกถึงหลาน  ไม่ได้ทิ้งอะไรไว้เป็นสมบัติให้ลูกหลานภูมิใจเลย  ยกเว้นลูกหลานตัวเอง จากคุณ : โนแอล - [ 15 มี.ค. 51 19:44:05 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่แน่นะครับ ถึงไทยไม่โดนสกัดดาวรุ่ง อุตสาหกรรมเครื่องบินก็อาจจะยังไม่ไปถึงไหน ผมให้ดูตัวอย่าง รถไฟไทยที่เมื่อสมัยพระพุทธเจ้าหลวงเทียบชั้นกับญี่ปุ่นหรือยุโรป แต่ทุกวันนี้หล่ะครับ สู้ไม่ได้แม้แต่มาเลเซีย จากคุณ : newuno - [ 15 มี.ค. 51 20:59:20 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ลองมองดูแค่ไกล้ๆรอบตัวเราก็พอครับ ผู้บริหารระดับสูงของประเทศรอบบ้านเรา เขามี vision กันอย่างไร แล้วเราเองมีอะไรบ้าง เราคงหลอกตัวเองไม่ยอมรับความจริงไม่ได้ ว่าเราไม่มี เหมือนที่เขามี มาเลเซีย อดีตและประวัติศาสตร์นั้น ห่างไกลเราหลายก้าว วันนี้เขามี Foot Print บนแผนที่โลกมากมาย ตึกเปรโตนาส twin tower สูงที่สุดของโลก น้ำมันเปรโตรนาสที่วันนี้เป็นแบรนด์ระดับโลกไปแล้ว เพราะไปยัดเยียดสายตาคนอยู่ในสนาม F1 เป็นเจ้าของทีมร่วม ประเทศเล็กกว่าเราหลายเท่า ทรัพยากรเราก็ดีกว่าทุกด้าน ยกเว้นน้ำมัน เขายังมีอะไรเป็นที่จดจำของคนทั้งโลก ให้รู้จักเขาได้ สิงคโปร์ไม่ต้องพูดถึง ทามาเสค ซึ่งก็คือ บริษัทประเทศสิงคโปร์จำกัด รัฐบาลเขาคือเจ้าของ ก็กระจายการลงทุนไปทั้งโลก ประเทศเล็กๆ ทรัพยากรไม่มี แต่มี vision ของผู้นำ พาประเทศไปไกลแสนไกล จนกลายเป็นประเทศสำคัญทางเศรษฐกิจของโลก ผมไม่ได้กำลังด่าคนไทยด้วยกันเอง แล้วผมก็ไม่เคยลืมว่าตัวเองก็เป็นคนไทย แต่ที่พูดมาทั้งหมดนั้น ผมยอมรับความจริงว่า เรามีแค่นี้เองล่ะครับ ผมอิจฉาคนสิงคโปร์และมาเลย์ครับ ที่เขาเกิดมามีโอกาสได้ผู้นำผู้บริหารเช่นนั้น ในช่วงชีวิตของเขา ให้เห็นการเปลี่ยนแปลง ก้าวหน้าของประเทศของเขา เราก็ต้องได้แต่จ๋อย มองดูสิ่งต่างๆของเขา เราสู้เขาไม่ได้ เคยนำเขามา ตอนนี้เขาจะไปไกลกว่าเราแล้ว อีกไม่นานเราก็จะตามเวียตนามไปอีกคนครับ ถ้าวันนี้เรายังย่ำอยู่กับที่ หาผู้นำผู้บริหารประเทศ ที่มี vision ยังไม่ได้ ระบบราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือแม้กระทั่งเอกชนหลายแห่ง ยังมีทัศนะคติและวิธีการทำงานกันแบบ รอนายสั่ง ไม่กล้าคิด กลัวทำผิด เลยไม่คิดดีกว่า นายไม่ชอบให้ลูกน้องเสนอความคิด ข้ามหน้าข้ามตากันได้ไง ถูกครับท่าน ดีครับผม เอามือกุมเป้าเช้ายันเย็น หายใจทิ้งกันไปวันๆ รอแต่ระวังเก้าอี้ตัวเองจะหลุด ถ้าแก้สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ อีกไม่กี่สิบปี ผมกลัวว่า เราจะตามแม้แต่ ลาว กัมพูชา พม่า ไปด้วยล่ะสิครับ.... แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 51 21:49:32 จากคุณ : XOOMER - [ 15 มี.ค. 51 21:45:21 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่ต้องเลยไปถึงเครื่องบิน หรอกครับอา เอาแค่รถยนต์นี่เรายังไม่สามารถ ผลิตเป็นยี่ห้อของเราได้เลย ทั้งๆที่ เราสามารถผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ได้ทุกชิ้น เพราะอะไร......... เพราะเราขาดภาวะผู้นำที่ดีทางการเมือง เพราะเราขาดผู้นำที่มี ขาดวิสัยทัศน์ เป้าหมายในบริหารประเทศ เพราะนักการเมืองบ้านเราแต่ทะเลาะกัน โกงกินเมื่อมีโอกาส แย่งชิงอำนาจ คิดแล้วน่าเศร้าจริงๆ ประเทศไทย...... จากคุณ : หนุ่มน้อย คลองรังสิต - [ 15 มี.ค. 51 22:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อืมม์ เป็นคำถามที่ดีป๋าฯ ต้องศึกษาประวัติศาตร์การบิน ต้องเข้าใจธรรมชาติของคนไทย ต้องเข้าใจธรรมชาติของคน เข้าใจสามสี่อย่างแล้วก็น่าจะพอถึงบางอ้อว่าทำไม ตรงนี้น่าจะตอบคำถามป๋าได้พอประมาณไม่มากก็น้อย จากคุณ : นกกระจิบ - [ 15 มี.ค. 51 22:31:08 A:58.8.135.160 X: TicketID:131874 ]

ความคิดเห็นที่ 21 555 กระทู้ดีครับ แต่เดี๋ยวจะกลายเป็นกระทู้ราชดำเนินนะครับ เรื่องความตั้งใจ และมั่นใจของคนไทย   ผมก็เคยสงสัยในหลาย ๆ อย่างว่าน่าจะทำได้  แต่ก็มาเข้าใจมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ธุรกิจจริง ๆ ครับ   เพราะการสร้างได้  กับสร้างแล้วใช้ได้เนี่ยไม่เหมือนกันครับ   มันคงต้องมีอะไร ๆ อีกหลายอย่างที่จะต้องมาช่วยการที่เราจะผลิตหรือทำอะไรเอง   แต่ลึก ๆ ผมก็อยากให้เราทำและพัฒนาเองนะเพราะนั่นจะพลิกที่ยืนของเราเลย   ผู้นำเราไม่มี vision ก็คงยากครับ   สรุป ฟันธง  ว่ามันเป็นเรื่องการเมือง อำนาจ  ผลประโยชน์ ทั้งนั้นแหละ   ถ้าบ้านเรายังใช้ระบบเดิมก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง ต่ออีกสัก 30 -50 ปีคงดีกว่านี้เยอะนะผมว่า จากคุณ : ok3 - [ 15 มี.ค. 51 22:34:49 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เอาเท่าที่พอทราบก็แล้วกันนะครับ   ประเทศไทยไม่เคยสร้างเครื่องบินได้ครับ!   ที่เคยสร้างได้(ออกแบบเอง เช่น บริพัตร หรือซื้อแบบมาสร้าง เช่น คอร์แซร์ ปีกสองชั้น)เป็นเครื่องบินที่สร้างโดยประเทศ สยาม ครับ ไม่ได้กวนนะครับ   หลังสงครามโลกครั้งที่2 สยาม กลายเป็นประเทศไทย   บ.ที่เหลือจากสงคราม ซึ่งเป็นของญี่ปุ่นบ้าง ถูกทำลายโดย ผู้ชนะสงคราม   การบินหลังจากนั้น ได้รับความช่วยเหลือจาก USA.   ประกอบกับ ช่าง ข้อมูล แหล่งความรู้ดานการออกแบบสร้าง บ.   ก็กระจัดกระจาย หายสูญ ไม่มีระบบการจัดการรวบรวม   ชอ.รุ่นหลังก็ถูกฝึกให้ซ่อมบำรุง บ.รุ่นใหม่   เมื่อมีความช่วยเหลือแบบให้เปล่าบ้าง ซื้อเองบ้าง   ประกอบกับวิทยาการด้านการบินก้าวหน้าแบบเราวิ่งตามไม่ทัน   ความสามารถในการออกแบบสร้าง บ.ใช้เองจึงหดหายไป ตามหลักการ   วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต   เหตุอื่นๆก็อย่างลุงซุม และท่านอื่นว่าไว้แหละครับ          เรื่องนี้ถ้าได้ถกกันลึกๆ จะมันมาก          และถ้าไม่มีบรรพบุรุษชาวสยามผู้มีวิสัยทัสน์กว้างใกลแล้ว          วงการบินของไทยคงมาไม่ถึงอย่างที่เห็นในปัจจุบันนี้ จากคุณ : vtct - [ 15 มี.ค. 51 22:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ^ ^   ขอโทษครับ ลืมสวัสดี ป๋าซีเบค จากคุณ : vtct - [ 15 มี.ค. 51 22:42:59 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีครับอาหมู ... เข้ามาช้าไปหน่อย แต่คงไม่เป็นไร เรื่องทำไม่ประเทศไทยจึงหยุดพัฒนาอุตสากรรมการบิน ช่วงหลังสงครามอินโดจีน ... ผมคิดว่า ไม่แค่ประเทศไทยเท่านั้นหรอกครับที่หยุด หลายประเทศก็หยุดเช่นกัน เพราะเป็นช่วงเปลี่ยน เทคโนโลยีการขับเคลื่อนเครื่องบิน จากระบบลูกสูบ ไปเป็นระบบเครื่องเจต มากกว่าครับ ข่วงนั้นเทคโน โลยีด้านนี้น่าจะเป็นความลับ เพราะเป็นเทคโนโลยี ด้านทางทหาร จนสามารถพัฒนามาใช้ในด้านของ พานิชย์ทั่วไปได้มากกว่าครับ อย่าลืมว่า เทคโนลียีและของใช้หลายอย่างที่เราใช้ ในชีวิตประจำวันนั้นพัฒนามาจากการทหารครับ จากคุณ : Airliner - [ 15 มี.ค. 51 23:01:34 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สวัสดีครับอาหมู... เข้ามาสงสัยเหมือนกัน แต่จริงๆ ผมเคยสงสัยแค่เรื่อง แบรนด์รถยนต์ของเราเอง เหมือนกับความเห็นหลายๆท่านข้างบน ส่วนเรื่องเครื่องบินนั้น ผมว่าประเด็นของตาอะไหล่บนหัวผมนั้นน่าสนใจ เรื่องสมัยก่อนที่พวกเราสร้างเครื่องบินนั้น มีวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อการทหาร ส่วนเรื่องเพื่อการพาณิชย์พี่ไทยสมัยนั้นคงยังไม่ได้คิดถึง จากคุณ : หน้าขุนแผน หัวขุนช้าง - [ 16 มี.ค. 51 00:06:20 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ลุงเหม่งจำไม่ได้รึ ตอนเราเด็กๆ มีกระบะชื่อช้างน้อย ตอนนั้นตื่นเต้นกันใหญ่ ว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนาการสร้างรถยนต์ของไทยแท้ ไปๆมาๆช้างน้อยโดนช้างใหญ่ อิซูซุ โตโยต้า ไดฮัทสุ รุมกระทืบเรียบ จนต้องเลิกราไป แต่จะว่าไป รถไทยแท้ส่งออกไปทั่วโลกมานานแล้ว ก็รถตุ๊กๆไง ทำรายได้เข้าประเทศไม่น้อยเลย เรื่องนี้คนไม่ค่อยรู้กันมากนัก ไม่นับยี่ห้อต่างๆเช่นนิสสัน มิตซู ที่ผลิตจากไทยส่งไปทั่วโลกนะ จากคุณ : XOOMER - [ 16 มี.ค. 51 00:27:41 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ....ไปสืบมาแล้ว..สารวัตร บอกว่า "อ้าย ปื๊ด" เป็นคนทำให้ล้าหลังครับ... ...Have a beautiful Sunday ทุกท่านคร๊าบบ....และขอบคุณที่ให้ความรู้ดีๆ จากคุณ : Red Fox - [ 16 มี.ค. 51 00:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คงไม่เกี่ยวกับสนธิสัญญาลับอะไรมังครับ. คนไทยนี้แปลกอยู่อย่าง ชอบดูถูกกันเอง แล้วก็ไม่ค่อยชอบต่อยอดความสำเร็จ ทำ ๆ หยุด ๆ ขาดความต่อเนื่อง อันนี้ไม่รู้จะโทษนโยบายรัฐ หรือโทษนิสัยแบบคนไทยดี. ไม่ใช่แต่เรื่องเครื่องบินครับ สมัยก่อนเราเคยมีทีวีวิทยุธานินทร์ ที่ผลิตได้เองเกือบทุกอย่าง ออกแบบเองด้วย และมีชื่อเสียงว่าทนทาน และรู้ใจคนไทยมาก สร้างแบรนด์จนใกล้เคียงแบรนด์ญี่ปุ่นแล้ว ไม่ต้องพูดถึงทีวีจากเกาหลี ไต้หวัน คนละชั้นกับธานินทร์ของเรากันเลย. แต่ทำไมเดี๋ยวนี้แบรนด์ธานินทร์ ล้าหลังกลับไปผลิตแต่วิทยุ ทรานซิสเตอร์โบราณขายคนต่างจังหวัด ทำไมไม่ต่อยอดขึ้นไปตีตลาดโลก แบรนด์เกาหลีที่มาทีหลังวิ่งแซงไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้. จากคุณ : LittleTiger - [ 16 มี.ค. 51 01:13:56 ]

ความคิดเห็นที่ 29 โอ้โฮ ผมออกไปนั่งกินสเต็กแกล้มไวน์ กัีบหลานชายมาตั้งแต่หัวค่ำ กลับเข้ามานี่ ความเห็นเพียบเลย ดีใจครับ ที่ทุกท่านเข้ามาให้ความคิดเห็นกันอย่างนี้ ------------------ คุณโนแอล เรื่องนายหน้านี่ เป็นเรื่องเจ็บปวดลึกลึกในใจผมเสมอมานะครับ คุณ newuno รถไฟไทย ก็เป็นตัวอย่างที่ดีครับ ขอบคุณครับ คุณ XOOMER ท่าจะจริงครับ โดยเฉพาะท่อนล่าง คนไทยที่เป็นข้าราชการ ทำกันเป็นอยู่เท่านั้น ตั้งแต่ผมยังเด็ก กลับมาว่าจะพัฒนาประเทศ แต่ทำไปทำมา ผมก็ถูกกลืนเข้าไปจนได้เหมือนกัน เลยออกดีกว่า ไปทำงานเอกชนดีกว่า จนมาทำอาชีพนี้และได้คนดูแลที่ดีนี่แหละครับ ถึงอยู่มาได้จนถึงปัจจุบัน คุณ หนุ่มน้อย คลองรังสิต ทุกคนยกที่มาของปัญหา ให้กับผู้นำกันหมดเลยหรือ แล้วใครเลือกผู้นำล่ะครับ ไม่ใช่พวกเราหรือ แต่ก็อย่างที่คนพูดกันทั้งประเทศนั่นแหละ ว่าคนต่างจังหวัดเลือกรัฐบาล คนกรุงเทพฯทำลายรัฐบาล ตกลง เราก็คงมองเห็นแล้วว่า ควรจะพัฒนาอะไรตรงไหน คุณนกกระจิบ ผมว่า ธรรมชาติของคนไทยนี่ ศึกษาไม่ยาก แต่ก็กลับเป็นยากนะครับ เราอยู่ในบ้านเมืองที่ดี ร่มเย็นเป็นสุข แล้วเราก็พอแค่นั้น ต้องการอะไร ก็ให้รัฐบาลจัดซื้อจัดหาเข้ามา ก็เลยไปเจอปัญหาแบบที่คุณโนแอลพูดถึงเข้าไปอีก เป็นเรื่องที่เข้าใจยาก แต่ทำง่ายมาก ขอบคุณท่านนกกระจิบ ที่เข้ามาให้ความคิดเห็นที่ลึกซึ้งในกระทู้ที่ผมตั้งขึ้นมาอย่างจริงใจนะครับ คุณ ok3 ผมว่า เรื่องเครื่องบินนี่ ทหารเราสร้างขึ้นมา แล้วใช้เองเลยนะครับ ซึ่ง ก็ใช้ได้ เก่งกว่าเครื่องของฝรั่งเศสเสียอีก คุณ vtct ประเทศสยาม หรือประเทศไทย ก็ประเทศเดียวกันนั่นแหละครับ เลี่ยงบาลีไม่ไหวหรอก แต่ที่ผมบอกนั่น ก็เอาแบบมาจากอเมริกา เป็นเครื่องบินแบบ Back Yard ที่เขาสร้างกันหลังบ้าน แล้วบินกันได้เหมือนกัน ทำไมถึงไม่ให้ความสนใจกันบ้าง ผมยังแปลกใจอยู่จนทุกวันนี้ คุณ Airliner ผมว่า มีส่วนนะครับ แต่อันที่จริง เราเลิกทำเครื่องบินกันมาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วนี่นะซีครับ ทำไมถึงหยุดทำ เพราะเครื่องยนต์เจท ก็มาถึงเอาช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว ที่เราตามไม่ทันแล้ว แต่ว่ากันตามความจริง เครื่องยนต์เจทง่ายกว่าเครื่องยนต์ลูกสูบเสียอีก สำหรับการบำรุงรักษา แต่การสร้าง คงยากหน่อย เรื่องโลหะวิทยานี่แหละครับ แต่คนไทยก็มีเก่งเก่งกันหลายคนนะครับ อ้อ เหล็กหรืออลูมิเนียม เราไม่มีแฮะ คุณ หน้าขุนแผน หัวขุนช้าง ก็เป็นไปได้ครับ เครื่องยนต์เจท มีส่วนเคลื่อนไหวน้อยกว่าเครื่องยนต์ลูกสูบก็จริง แต่ดูเหมือนจะต้องการความแม่นยำสูงมาก และต้องการโลหะชั้นเยี่ยมอยู่เหมือนกัน คุณ XOOMER รถตุ๊กตุ๊กนี่ ต้นกำเนิดมันมาจากญี่ปุ่นนะลุง เข้ามาโดยคุณสิน พรประภา เจ้าของ SPI ดั้งเดิมนั่นแหละ เอาเข้ามา แล้วก็แพร่หลาย หลงเหลืออยู่ในประเทศเรา ญี่ปุ่นเลิกผลิต เราก็ยังผลิตกันเองจนได้ ฮ่า ฮ่า กระบะนอกจากช้างน้อยแล้ว ยังมีของฟอร์ดอีกตัวหนึ่งนะ ผมจำชื่อไม่ได้ ผมเคยใช้ด้วยคันหนึ่ง ใช้ขนส่งผ้าที่เก็บจากบ้านตามหมู่บ้าน ไปซัก-รีด บริการเก็บเงินรายเดือน เดือนละสามร้อยบาท ไม่จำกัดชิ้น ลูกค้าเกือบร้อยราย แต่ก็เจ๊งไปในที่สุด เพราะไม่มีทุนขยายงาน สมน้ำหน้าตัวเองจังครับ จากคุณ : xebec - [ 16 มี.ค. 51 01:22:40 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุณเสือน้อย ดูดูแล้ว ประกอบกับคำตอบของท่านนกกระจิบ กับอีกบางท่าน รวมถึงของคุณด้วย ผมว่า คงเป็นเพราะธรรมชาติของคนไทยเรานี่เองเสียละกระมัง เฮ้อออออ!!! จากคุณ : xebec - [ 16 มี.ค. 51 01:24:39 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สวัสดีครับ ขอแขร์ประสบการณ์บ้างนะครับ บริษัทที่ผมทำงานอยู่เป็นบริษัท ที่ผลิตชิ้นส่วนเล็กๆ ไม่ซับซ้อน เพื่อไปประกอบในเครื่องตระกูล CFM56 ย้อนไปก่อนเริ่มผลิต ได้รับข้อมูลต่างๆ ในการผลิต วัตถุดิบ รวมถึงข้อกำหนดต่างๆ รวบรวมข้อมูลต่างๆ ไปปรึกษาหน่วยงานรัฐหน่วยนึง คำพูดแรกที่ได้ฟังมาและยังคงจดจำตลอดคือ "จะทำจริงๆหรือ จะทำได้หรือ ไม่ล้มก่อนนะ" นี่คือคำพูดจากบุคคลากรในหน่วยงานที่ไปปรึกษา ถอนทัพออกมาทันใด อะไรฟระ ไม่ข่วย ยังพูดจาดูถูกคนไทยด้วยกันเองอีก เจ้านายสั่งให้ศึกษาข้อมูลทั้งหมด และลุยครับ ลุยกันเอง จากไม่รู้ก็ค้นหาข้อมูลต่างๆ จนรู้และก็สามารถทำได้ในวันนี้ อย่างน้อยก็ภูมใจลึกๆอะครับ เครื่องยนต์ตระกูล CFM56 ใช้กันแพร่หลายก็ยังมีชิ้นส่วนเล็กๆ ที่ทำโดยคนไทย ไปอยู่ในนั้นด้วย แต่... ตอนนี้ เจ้านายพยายามอย่างหนักในการพยายามหาชิ้นส่วนใหม่ๆมาผลิตเพิ่ม แต่มีข้อกำหนดต่างๆมาค้ำคอกันอยู่มากมาย และต้องลงทุนอีกพอสมควร ไม่ท้อครับ เจ้านายสั่งลุย อย่างน้อย ฝรั่งจะได้รู้ว่า คนไทยก็ทำได้เหมือนกัน พอย้อนไปดูอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินในภูมิภาคนี้ สิงค์โปร์ มาเลย์ รัฐบาลของประเขาสนับสนุนเต็มที่กับอุตสาหกรรมอากาศยาน ทุ่มเม็ดเงินเพื่อสร้าง facility สำคัญๆ ในการตรวจสอบ(อันนี้สำคัญครับ ในข้อกำหนดระบุถึงการตรวจสอบต่างๆ เพื่อรับประกันชิ้นส่วน ก่อนนำไปประกอบเข้ากับอากาศยาน ซึ่ง facility เหล่านี้ ราคาสูงมาก) เฮ้อออออ.... เหนื่อยกับหน่วยงานภาครัฐของเรา ไม่รู็ว่ารัฐบาลชุดนี้ จะเอาอย่างไร จากคุณ : ps2001 - [ 16 มี.ค. 51 02:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เหอๆ อาหมู คับ คำถามแบบนี้ อยากรู้จริงๆ สงสัย คงต้องให้ pantip ตั้งห้อง "บางแค" รวมเอาบรรดา เฒ่าชแรแก่ชรา ผู้อาวุโสมีสติปัญญา มาถกกันถึงเรื่องในอดีต เด็กรุ่นผมน่ะ แค่บอกว่า "ไทยเคยรบกับฝรั่งเศส" มานยังทำหน้า อัศ จ. ร. หัน การันต์ ย. ยิ่งกว่าเจอ เอเลี่ยน ซะอีก ยิ่งถ้าพูดถึง จังหวัดลานช้าง จังหวัดนครจำปาศักดิ์ จังหวัดพระตะบอง จังหวัดพิบูลสงคราม มันคงทำหน้าเหมือนเห็นผี นักศึกษารุ่นนี้ (จริงๆ ก็ตั้งแต่รุ่นผมแล้วแหละ) วันๆ มันคิดแต่ว่า จะทำยังไงให้ กิจกรรมเชียร์และแปรอักษร รวมถึงปอมปอมเกิร์ล พัฒนาขึ้นสู่ระดับสากล แต่ผมไม่โทษพวกเค้าหรอกครับ ผมโทษไปที่ระบบการศึกษาและบทเรียนประวัติศาสตร์ซึ่งปิดกั้นการรับรู้ความเป็นไปในอดีต (เพื่อเหตุผลบางประการ) มากกว่า ส่วนเรื่อง การผลิตเครื่องบิน เนี่ย ถ้าให้ผมตอบ คงต้องตอบว่า "ไม่รู้ ตรูเกิดไม่ทัน" แต่ถ้าให้เดา (ย้ำว่า "เดา") จากข้อมูลที่อาหมูให้มาว่า มันมาหยุดลงช่วงหลังสงครามโลกจนถึงเมื่อราวสี่สิบปีมานี่เอง ผมคงไม่แปลกใจอะไรนักครับ เพราะไอ้พวกเศสฝรั่ง หนึ่งในสัมพันธมิตรหัวทอง ที่โดนเราสอยเครื่องบินมันร่วงเป็นว่าเล่น แต่เจือกชนะสงคราม ทั้งที่โดนเราฉวยโอกาส กระหน่ำจนบอบช้ำแสนสาหัส ในช่วงที่มันอ่อนแอ มันคงอยากให้เราผลิตเครื่องบินรบได้เองหรอก อีกอย่างหลังจากนั้น มันก็ตรงกับยุค Americanization ในประเทศไทย พอดี ทีนี้ไอ้การพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องบินในยุคนั้น มันก็คงไม่ได้เน้นเพื่อการพาณิชย์ แต่มันผูกติดอยู่กับสงคราม และงบประมาณกองทัพ ช่วงนั้น กว่า 1 ใน 3 ของงบประมาณกองทัพไทยได้ มาจากเงินอุดหนุน ของ America แล้วธรรมชาติของไอ้เงินอุดหนุนที่ได้มาแบบเปล่าๆ ปลี้ๆ เนี่ย รับรองว่ามันคงไม่ใช่การให้ด้วยความเสน่หา แต่มันย่อมแฝงมากับ การจำกัดอิสระในการดำเนินนโยบาย ซึ่งรวมถึงการกำหนดสเป็คอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จะซื้อหา ขณะเดียวกัน นโยบายต่างประเทศของรัฐบาลอเมริกาเอง มันก็คงไม่ได้เป็นอิสระจากเอกชนรายใหญ่ ด้วยการเดาตาม logic แบบมั่วๆ ของผมนี่ ก็คงทำให้พอเห็นภาพอะไรได้พอสมควร แต่ถ้าอาหมูอยากได้แบบที่เป็น ข้อเท็จจริง หรือ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ หรือ ข้อมูลเชิงลึกทางวิชาการ ว่ามีสนธิสัญญาลับอะไรหรือเปล่า ตามสไตล์นักวิเคราะห์แนว Conspiracy Theory อะไรเทือกนั้น ไว้ผมจะบอกเพื่อนฝูงและครูบาอาจารย์ที่ทำงานวิจัยให้กับ สกว. ในเรื่อง การจัดการความจริงในสังคมไทย ให้ แต่ไม่รู้ว่าใครจะสนใจเอาประเด็นนี้ไปศึกษามั่งรึเปล่านะครับ \\(O*v*O)// แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 51 03:08:31 แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 51 03:06:47 จากคุณ : I love หมอหญิงซินปี - [ 16 มี.ค. 51 03:03:48 ]

ความคิดเห็นที่ 33 สร้างเองทำไม ซื้อเขาถูกกว่า  เอาเงินเอาเวลาไปหาเสียง ตรูจะได้อยู่ในตำแหน่งนาน ๆ ผลิตเองไม่ได้ค่าคอมฯ ทำไม่สำเร็จจะถูกเขาด่าซ้ำอีกต่างหาก ผมเดาว่าพวกเบื้องบนเขาคิดแบบนี้นะครับ จากคุณ : MlCHAEL - [ 16 มี.ค. 51 03:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สวัสดีตอนใกล้เที่ยงครับป๋า xebec   บ้านเราไม่มีศูนย์ความรู้ด้านการบินมาก พอที่ชาวบ้านธรรมดาจะเดินเข้าไปค้นหา ไม่มี EAA. อาจมีบ้างบางคนที่พยายามจะสร้าง บ. แบบ home built นี่หมายถึงออกแบบสร้างเองนะครับ แต่ก็ไม่เห็นความกาวหน้าอย่างที่อยากเห็น มีบ้างที่ซื้อชุด kit มาประกอบเอง ก้พอบินเล่นกันได้เพลินๆแถวหลังบ้านแหละครับ ขอ.(กรมขนส่งทางอากศ)ก็ แหม แบบหน่วยงานราชการแหละครับ เอะ อะ อะไรท่านว่าให้ห้ามไว้ก่อน แล้วมีข้อกำหนดให้ทำโน่น นี่ นั่น ซึ่งถ้ามันส่งเสริม อำนวยความสะดวก อย่างปลอดภัย ก็คงจะดี สารพัดfactor แหละครับ ก็ได้แต่บ่นงึมงำตามประสาคนบ้าเครื่องบิน ที่อยู่เลยหลักสี่ อันที่จริงเลยดอนเมืองแล้วด้วย ดีใจครับที่ป๋ายกเรื่องนี้มาพูดคุยกัน    แต่ไม่ค่อยทันใจแฮะ พิมพ์ได้ช้ามาก จากคุณ : vtct - [ 16 มี.ค. 51 11:58:30 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ ps2001 เครื่อง CFM56 เป็นเครื่องยนต์ Fan Jet ขนาดใหญ่ ใช้กับเครื่องบินทั้ง Airbus และ Boeing เลยทีเดียวนะครับ ผมเพิ่งทราบว่า มีบริษัทผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์บางอย่างอยู่ในประเทศไทยด้วย ก็ต้องถือว่า เป็นข่าวดี และขอแสดงความนิยมด้วย การติดต่อกับราชการไทย ก็เป็นเช่นนี้เรื่อยมา อย่าว่าแต่การผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์เลยครับ เอาแค่ติดต่อขอโอนที่ดิน ก็เป็นเรื่องวุ่นวายแก่ชีวิตประชาชนกันพอสมควรอยู่แล้ว ในบ้านเรานั้น ข้าราชการส่วนหนึ่ง ยังคงเดินตามแนวทางผู้ใหญ่สมัยโบราณอยู่ครับ คุณหมอหญิงยังไม่สิ้นชาติ เหตผลในการศึกษานี่ ผมว่าดีมากทีเดียวนะครับ เพราะเป็นจุดหนึ่ง ที่ทำให้ความเจริญก้าวหน้าของไทย ต้องหยุดชะงักไปเพราะอนาคตของชาติกลุ่มหลังหลังนี่แหละครับ ส่วนเรื่องที่คุณจะให้เพื่อนนักศึกษา และอาจารย์ที่คุณรู้จัก และทำวิจัยอะไรอยู่นั่น หาข้อมูลให้ ก็ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง เสาะหาเข้าไปเถิดครับ เพราะประวัติศาสตร์นั่นแหละ จะเป็นตัวชี้บ่งอนาคตได้ คุณ MICHAEL นั่นซีครับ แต่เบื้องบนที่คุณพูดถึงนี่ น่าจะเป็นเบื้องบนยุคหลังนะ ไม่น่าจะเป็นยุคที่การสร้างเครื่องบินรบได้เอง หลังสงครามอินโดจีนหรอกกระมัง คุณ vtct อีกทีครับ บ้านเรากับบ้านอื่น ก็พอพอกันแหละครับ อย่างโรงเรียนหรือวิทยาลัยการบิน(ไม่ใช่แค่"นักบิน"นะครับ) ที่สหรัฐอเมริกา ก็มีไม่มาก เช่นนอร์ทรอป ในแอลเอ เซ็งหลุยส์ ในมิสซูร่า เอมบรี้-ริดเดิล ในเดยโทนา-บีช สามแหล่งใหญ่ใหญ่ ที่อื่นอื่นก็มีน้อยมาก ของเราเอง ก็มีที่โรงเรียนของกรมการบินพลเรือน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ห้องสมุดนั้น อย่าว่าแต่เครื่องบินเลย ผมเคยบุกเข้าไปที่ AIT เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน หาหนังสือเกี่ยวกับเครื่องยนต์ลูกสูบมาอ่าน ยังหาได้แค่ตำราเล่มโตโตสามถึงสี่เล่มเป็นอย่างมาก เลยทำให้ผมต้องสร้างห้องสมุดเล็กเล็กขึ้นเอง ที่ปัจจุบัน ผมมั่นใจว่า มีหนังสือเกี่ยวกับเครื่องยนต์ ทั้งรุ่นเก่า และรุ่นใหม่ ระบบอีเล็กทรอนิก ทั้งจาก SAE และจากสำนักพิมพ์ต่างต่างที่เป็นภาษาอังกฤษ และหนังสือเกี่ยวกับเครื่องยนต์เครื่องบินระดับนักศึกษา มากกว่าห้องสมุดหลายห้องในประเทศไทยรวมกันเสียอีก ผมยังไม่ทราบเลยว่า หนังสือที่ผมรวบรวมไว้นี่ จะเอาไปทำอะไร ถึงที่มีอยู่จะใช้อยู่ตลอด แต่ว่า ก็เป็นการใช้งานของผมคนเดียว อยากให้คนอื่นได้ประโยชน์ด้วย แต่จะเปิดให้เป็นห้องสมุดสาธารณะ ก็ทำไม่ได้ สถานที่ไม่อำนวย ใครคิดออกช่วยบอกกันหน่อย อย่าบอกว่าบริจาคให้ห้องสมุดใด เพราะผมยังต้องใช้อยู่ ข้อกำหนดของรัฐ ส่วนใหญ่ก็ลอกมาจากต่างประเทศ แต่นิสัยคนไทยนั้น หากอะไรที่ลอกเขามา ก็จะมาแผลงฤทธิให้หนักข้อขึ้นเสมอ ดูอย่างเรื่องของแพทย์ในวันนี้ ที่ตัดสินกับถึงกับจำคุก ในอเมริกา ก็มีเพียงแค่ฟ้องแพ่ง เรียกค่าเสียหาย แต่เราเอากฏหมายเขามาแก้ แล้วพัฒนาให้หนักขึ้น หรือเรื่องบุหรี่ ที่บ้านอื่นเมืองอื่น เขาไม่ได้ห้ามในบาร์ ในไนท์คลับ ในร้านอาหารแบบเปิด ของเราห้ามกันเสียจนคนสูบบุหรี่ไม่มีที่ยืนในประเทศ แค่นี้ ยังน้อยครับ กับอุตสาหกรรม ที่ระบุตอนแรกว่า ให้ผลิตรถยนต์ ECO Car ออกมาให้ได้จำนวนหนึ่งแสนคันต่อปี หลังห้าปีแรก ที่ผมยืนยันว่า ไม่มีทาง แต่เขาก็ว่า เขาสนับสนุนเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ยังยืนยันว่าต้องทำ ผมก็ว่า ทำก็ทำไป แต่ใครที่ทำ จะต้องเตรียมพื้นที่ไว้เก็บรถยนต์จำนวนนับแสนแสนคัน ที่ขายไม่ออกไว้ให้พร้อมก็แล้วกัน ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเขาจะลดราวาศอกกันอย่างไร พูดง่ายง่ายว่า กฏหมายอะไรที่เราไปเอาจากต่างประเทศมา เอามาแค่ที่เขาใช้กันได้ ก็น่าจะพอ ทำไมจะต้องมาทำแบบไทยไทย ใ้ห้หนักข้อขึ้นเสมอก็ไม่ทราบเหมือนกัน ฝรั่งที่เข้ามาเที่ยวประเทศไทย ยังบ่นเข้าหูผมเลย เรื่องบุหรี่กับร้านอาหารเเบบเปิดนี่ จากคุณ : xebec - [ 16 มี.ค. 51 13:17:18 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เข้ามาตามข้อมูลต่อ.... จากคุณ : หน้าขุนแผน หัวขุนช้าง - [ 16 มี.ค. 51 15:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สวัสดีฮะ อาหมู มีนิยายปรัมปราเรื่องหนึ่ง ที่มีเนื้อความว่า เมื่อ 40 ปี ที่แล้วเคยแข่งขันกับประเทศเกาหลี เมื่อ 30 ปี ที่แล้วเคยแข่งขันกับไต้หวัน เมื่อ 20 ปี ที่แล้วเคยแข่งขันกับประเทศสิงค์โปร์ เมื่อ 10 ปี ที่แล้วเคยแข่งขันกับประเทศมาเลเซีย ปัจจุบันประเทศสารขันธ์นี้กำลังแข่งขันกับประเทศเวียดนาม จากคุณ : ไม่รู้ว่าอนาคตจะแข่งกับใคร.... (Giantpig) - [ 16 มี.ค. 51 17:22:41 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เขาหันมาพัฒนา บ้ังไฟ แทนคับป๋า มหาอำนาจนั้น บ่แม่นใครอื่น อ้ายน้องลาว นี่เอง น้องลาวนั้นพัฒนาถึงขั้นวางเชื้อปะทุในแม่น้ำโขง จนมันผุดปุ๋งๆ ทุก 15 ค่ำเดือน 11 จากคุณ : อินป่า - [ 16 มี.ค. 51 18:06:20 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอคิดด้วยคนครับ ถ้าถามว่าใครที่เป็นคน "หยุด" อุตสาหกรรมการบินนั้น ตามประสบการณ์การทำงานและการศึกษาบอกว่าคือ "สิทธิบัตร" หรือลิขสิทธิ์ครับ คือที่ผ่านมาจนบัดนี้ สิทธิบัตรอากาศยานเป็นชื่อของ "โธมัส อัลวา เอดิสัน" รวมไปถึง หลอดไฟ ฟิล์มภาพยนตร์ ฟิล์มถ่ายรูป และอื่นๆอีกมากมายครับ Airbus หรือบริษัทผู้ผลิตอื่นๆก็ต้องซื้อสิทธิบัตรนี้ไปทำครับ ไทยก็สามารถทำได้ โดยไปคุยกับที่ GE ครับ เพราะGE เป็นองคืกรของเอดิสัน และยังคงมีชื่อเป้นเจ้าของบริษัทอยู่ วึ่งคนในตระกูลเอดิสันก็ยังคงได้รับเงินรายได้อยู่ทุกปีครับ ซึ่งถ้าจะให้พูดตรงๆ เอดิสัน วันนี้ก็คืออเมริกาครับ คนอเมริการัก เอดิสันมาก เช่นเดียวกับคนทั่วโลก รวมถึงบริษัท GE แห่งนี้ด้วย องค์กรนี้คือ White House ทางด้านเศรษฐกิจของอเมริกาครับ ไม่เคยมีคนที่ไม่ใช่คนที่มีเชื้อสายอเมริกันโดยกำเนิดเป็นผู้ถือหุ้น หรือเป็นกรรมการบริหารครับ เหมือนกับนาฬิการะบบ Quartz เป้นของโรเลกซ์ และก็รถยนต์เป้นของ Ford นั่นแหละครับ คือถ้าใครจะผลิตของพวกนี้ก็ต้องไปซื้อลิขสิทธิ์มาก่อน ส่วนจะไปสร้างนวัตกรรมอะไรก้เป็นสิทธิของแต่ละเจ้าไป เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องสาธารณะ แต่ที่นี่ไม่ค่อยจะมีให้ได้ทราบกัน ญี่ปุ่น อาจจะเป้นประเทสเดียวที่มี "สนธิสัญญา" สืบเนื่องจากสงคราม คือเค้าจะต้องเป้น R&D ของโลกครับ ทุกวันนี้ยานพาหนะทุกชิ้น ยานอวกาศทุกลำ ดาวเทียมทุกดวง รวมไปถึงไทยคมของเรา หรือ Theos ที่กำลังจะยิงขึ้นไปล้วนผลิตโดย Mitsubihi ทั้งสิ้นครับ อย่างยานอวกาส เราอาจจะพอได้ทราบมาว่า Boeing Lockheed เป้นคนทำ แต่รายละเอียดชิ้นส่วน และเครื่องยนต์มาจาก Mitsu ทั้งหมด ในส่วนของประเทศไทยที่อยู่ดีดีก็หยุดไปนั้น อาจเป็นเรื่องสภาวะทางเสรษฐกิจสมัยนั้นมากที่สุดครับ ในส่วนของความสามารถของคนไทยนั้น ขอยืนยันเลยว่าสูงมากๆ เพราะเรามองเรื่องเล็กๆ แต่จะสะเพร่าในเรื่ององค์รวม เพราะกลัวการรับผิดชอบ มีคนไทยหลายคนทำงานที่ Boeing Lockheed Gulfstream Cessna มีเยอะมาก แต่ตำแหน่งไมโต เพราะไม่กล้ารับผิดชอบ เพราะการบินคือเรื่องที่เกี่ยวเนื่องเรื่องความปลอดภัยของชีวิตมาเป้นอันดับหนึ่ง และที่อเมริกา เราก้ทราบๆกันดีครับว่า กฎหมายที่นั่นประหลาด และโหดขนาดไหน ลุง Xebec ครับข้อมูลที่ลุงมีวันหลังผมอาจจะขอชื้อเพื่อมาทำเนื้อหาในรายการผมจะได้มั้ยครับ จริงๆ อยากให้คนแบบลุงมาเป้นที่ปรึกษาเรื่องข้อมูลมากๆครับ รวมทั้ง ลุงสายลม และคุณพี่ลุง Xoomer เอาไว้ให้รายการผมได้ออกอากาศก่อนผมจะเชิญทุกท่านอย่างเป้นทางการ และไม่ได้ทำฟรีๆด้วยครับ แต่อาจมีตอบแทนไม่ได้มากครับ จะเป็นเกียรติกับผมมากๆครับ ผมตามทุกท่านมากว่า 3 ปีแล้ว ผมPrint ทุกอย่างที่ทุกท่าน Comment เก้บไว้ทั้งหมด ตอนนี้มีอยู่หลายแฟ้มเลยครับ ข้อมูลส่วนอื่นๆผมก้พอมีนะ รวมไปถึงโปรเจ๊กต์ความลับเครื่องบินโดยสารอนาคตที่ Boeing Bombadier GE และ ???เค้ากำลังทำด้วยกัน มันมีชื่อว่า BB-1 !!! คร้าบ จากคุณ : เด็กคน - [ 16 มี.ค. 51 21:05:59 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ถ้าจำไม่ผิด ประเทศไทยเคยเป็นประเทศแรก(หรือแรกๆ)ในเอเชียที่มีรถรางใช้ ในสมัยร.5 ประเทศไทย ถือว่าเป็นชาติที่มีความเจริญก้าวหน้าในทวีปเอเชียเป็นอย่างมาก เรื่องวงการบิน เครื่องบิน เราก็สามารถผลิตเองได้ ทุกวันนี้ยังคงตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศอยู่เลย ทั้งหมดนี้ผมก็เคยสงสัยเหมือนกับท่าน จขกท. ขอบคุณที่ตั้งประเด็นขึ้นมาครับ จากคุณ : ด - [ 16 มี.ค. 51 22:16:47 A:58.8.229.101 X: TicketID:164860 ]

ความคิดเห็นที่ 41 รู้สึกว่าคุณ vtct  จะมีความเข้าใจเหมือนผมเลย ดูจากคำตอบแล้ว อาจจะเคยร่ำเรียนมาจากสำนักเดียวกันหรือเปล่าครับเนี่ย ยังงัยก็ขอ สนับสนุนเหตุผลของคุณ vtct  ครับ จากคุณ : new_เด็กหงส์ - [ 16 มี.ค. 51 22:23:43 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อ่านความเห็นอาหมูใน #35 แล้วโดนใจมากๆ ครับ... เพราะงานที่ทำอยู่ในปัจจุบัน เจอปัญหาจากการ "ทำให้เข้มขึ้น" ของราชการอย่างจัง... เช่น มาตรฐานน้ำทะเล... US EPA กำหนดให้มีสารไฮโดรคาร์บอน 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร (ตัวเลขไม่แน่นะครับ..) ไทยเรา พวกเล่น 0.5 ไมโครกรัม ต่อลิตร... เข้มขึ้นไปอีกเกือบพันเท่า.... แค่หาห้องแล็บก็จะบ้าแล้ว... จากคุณ : Wobbegong - [ 16 มี.ค. 51 23:30:09 ]

ความคิดเห็นที่ 43 นิดนึงนะครับ... เดี๋ยวบางคนอาจสับสนกับ คคห. 39 เอดิสัน ไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์อากาศยานครับ นั่นเป็นพี่น้องตระกูลไรท์ต่างหาก ฟิล์มถ่ายรูป ฟิล์มภาพยนตร์ ก็ยิ่งไม่ใช่ใหญ่ และแม้เอดิสันจะคิดทำภาพยนตร์ขึ้นมา แต่ระบบถ่ายภาพยนตร์ที่คนทั่วโลกยอมรับมาใช้ต่อ ก็ไม่ใช่ระบบของเอดิสัน แต่เป็นของฝรั่งเศส. ฟอร์ด ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์รถยนต์ทั้งหมด รถยนต์มีมาก่อนเฮนรี ฟอร์ด นานมาก ฟอร์ดแค่เป็นคนนำรถยนต์เข้าสู่ระบบ Mass production เพื่อผลิตออกทีละจำนวนมาก ๆ เพื่อให้ราคาถูกเท่านั้น ไม่ได้มีนวตกรรมใหม่อะไรเท่าไร. Mitsubishi ผลิตดาวเทียม และ จรวดทั่วโลก อันนี้ยิ่งไปกันใหญ่ครับ อาจผลิตได้แค่บางชิ้นเท่านั้น ก็เป็นเรื่องปกติเพราะงานสเกลใหญ่อย่างจรวด หรือดาวเทียม มีบริษัทต่าง ๆ เข้าร่วมเยอะมาก แต่พวกระบบขับเคลื่อนจรวดที่เป็นอุปกรณ์ทางการทหารด้วย อเมริกาไม่ยอมให้ชาติแพ้สงครามเข้ามามีส่วนร่วมง่าย ๆ หรอกครับ ทุกวันนี้ญี่ปุ่นยังมีปัญญาส่งได้แค่ดาวเทียมดวงเล็ก  ๆ อยู่เลย ในขณะที่จีนส่งมนุษย์อวกาศได้แล้ว. และสุดท้าย กฏหมายลิขสิทธิ์คุ้มครองแค่ ห้าสิบปีครับ ไม่ได้สืบทอดยาวเหยียดชั่วลูกชั่วหลาน พ้นจากห้าสิบปีหลังจากเจ้าของลิขสิทธิ์เสียชีวิตก็จะเป็นมรดกโลกไป ตอนนี้คุณจะทำหลอดไฟแบบเอดิสันขาย ก็ไม่มีใครจับคุณแล้ว แต่โดยทั่วไปเจ้าของลิขสิทธิ์จะพยายามปรับปรุงเทคโนโลยี แล้วจดทะเบียนใหม่ต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งก็จะเริ่มคุ้มครองลิขสิทธิ์ใหม่เฉพาะส่วนที่เป็นนวตกรรมใหม่จริง ๆ เท่านั้น. แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 51 07:39:05 จากคุณ : LittleTiger - [ 17 มี.ค. 51 07:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อ้าวพิมพ์ซะนานมีคห๔๓ มาไม่เห็นด้วยกะ๓๙ อีกคน จากคุณ : นกกระจิบ - [ 17 มี.ค. 51 07:54:15 A:58.8.133.147 X: TicketID:131874 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อ้าว๔๔ โดนลบเรื่องอะไร อุตส่าห์พิมพ์ซะนาน??? จากคุณ : นกกระจิบ - [ 17 มี.ค. 51 07:55:17 A:58.8.133.147 X: TicketID:131874 ]

ความคิดเห็นที่ 48 แล้วคห ๔๔ ออกมาที่คห ๔๗ ได้ยังไง ??? จากคุณ : นกกระจิบ - [ 17 มี.ค. 51 07:58:32 A:58.8.133.147 X: TicketID:131874 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อ้าว ๔๗ โดนลบอีกแล้ว??? อืมม์จะต้องพิมพ์ยังไงถึงไม่ถูกลบน้า ใครช่วยก๊อปไว้ทีพอดีเซฟไว้อยู่ จากคุณ : นกกระจิบ - [ 17 มี.ค. 51 08:02:51 A:58.8.133.147 X: TicketID:131874 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ผมขออภัยกับข้อมูลความคิดเห็นที่ผมได้วิเคราะห์ไปที่ผิดพลาด และปลิ้นปล้อน ผมก็แค่วิเคราะหืในสิ่งที่ผมได้สัมผัสมาเท่านั้นแหล่ะครับ อย่าถือสาเลยครับ ก็แค่เป้นความคิดเห็นของโปรดิวเซอร์รายการทีวี ธรรมดาคนหนึ่งครับ ลืมๆความคิดเห็นที่ 39 ไปก็แล้วกันนะครับ ขออภัยทุกท่านอย่างสูง ด้วยความเคารพครับ จากคุณ : เด็กคน - [ 17 มี.ค. 51 09:16:12 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อืมม์ ที่ผมทักไปก็เพราะคิดว่าผิดพลาดจากที่รู้มาเท่านั้นนะครับ ไม่ได้บอกว่าปลิ้นปล้อน. ในโลกสังคมยุคข้อมูลข่าวสาร มันหลั่งไหลมาเร็วมาก จนบางครั้งเราเองก็ไม่รู้ว่าอันไหนจริงอันไหนลวง ถ้าไม่ตรวจสอบให้ละเอียด. ตัวอย่างง่าย ๆ ก็พวก Fwd mail ต่าง ๆ ที่หลายอันส่งต่อ ๆ กันไปจนคนคิดว่ามันจริงไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่หลายอันเป็นเรื่องที่แต่งกันขึ้นมา หรือเรื่องที่เชื่อกันผิด ๆ. จากคุณ : LittleTiger - [ 17 มี.ค. 51 12:50:01 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ผมว่าก่อนจะคิดผลิตถึงเครื่องบิน ตอนนี้ผมว่าเราลองมามองตัวเองว่าตอนนี้เราใช้แบรนด์คนไทยกี่ชิ้นครับ อย่างคอมพิวเตอร์ก็มี ATEC Belta ประมาณนั้น แต่เจ้าตลาดตอนนี้กลับเป็น Acer นะครับ ผมไม่ปฏิเสธว่าสินค้าจากแบรนด์ในประเทศอาจจะมีคุณภาพสู้ต่างประเทศไม่ได้ แต่ผมว่าถ้าคนญี่ปุ่นมีนิสัยเหมือนคนไทย Toyota Honda เองก็อาจจะไม่มีวันนี้นะครับ ที่ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องชาิตินิยมมากครับ แบรนด์ไหนไม่ใช่ของเขาเองจะพยายามไม่สนับสนุนเลยครับ แล้วขอยกตัวอย่างเรื่องโทรศัพท์ Nokia ละกันนะครับ มีใครรู้บ้างว่า Nokia เป็นชื่อแม่น้ำและบริํษัทเองก็ไม่ได้เป็นบริษัท IT ตั้งแต่ต้น แต่เคยเป็นบริษัทกระดาษมาก่อน ถ้าวันดีคืนดี ปูนซีเมนต์ไทยมาผลิตโทรศัพท์เอง ผมว่าเขาคงไม่กล้าใช้ชื่อ เจ้าพระยา มาเป็นแบรนด์แน่นอนครับ เพราะคนไืทยติดใจนิยมใช้ของนอก ของอะไรก็ตามที่ผลิตจากนอก คนไทยจะเชื่อว่าจะมีคุณภาพดีกว่าในไทย ทั้งที่ความจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้น ถ้ายังแก้ไขในเรื่องนี้ไม่ได้ ผมว่าเราไม่ต้องคิดไปไกลถึงผลิตเครื่องบินหรอกครับ แต่ตอนนี้ผมว่าที่เรามีศักยภาพสูงมากจริงๆ คือ อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารนะครับ ยังขาดอย่างเดียวคือ แบรนด์ที่เป็นรูปธรรมที่จะทำให้สามารถแสดงศักยภาพได้เต็มที่ เพราะเราตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ ปลาทูน่า หรือข้าว เราก็เป็นผู้ผลิตชั้นนำในโลกแล้วนะครับ ก็ได้แต่ลุ้นว่าแบรนด์อย่าง CP พรานทะเล หรือแบรนด์อื่นๆ จะสามารถตามรอยแบรนด์ หงษ์ทอง ที่ตอนนี้กลายเป็นแบรนด์ข้าวดังในภูมิภาคเอเชียแล้วครับ จากคุณ : BankBD - [ 17 มี.ค. 51 13:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ความคิดเห็นของท่านนกกระจิบ เผอิญผมอยู่ตอนนั้น ก็ได้เซฟเอาไว้ แต่พบว่าหายไป เลยยกเอามาตั้งกระทู้ใหม่ เมื่อใกล้เที่ยงวันนี้เอง แล้วลองผิดลองถูกอยู่พักใหญ่ ก็พบว่า คำว่า สิทธิบัตร กับ ราคา อยู่ติดกัน ไม่มีตัวใดแทรก เลยกลายเป็นคำต้องห้่ามไปครับ ก็แก้เสียหน่อย แล้วลองเอามา Post ให้ท่านนกกระจิบ หากผิดพลั้งไป ในการกระทำด้วยเจตนาดี ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้านะครับ หวังว่า คราวนี้ คงผ่านละครับ ---------ความคิดเห็นที่ 47 ของท่านนกกระจิบ---------- คห๓๙ ไม่ถูกต้องเรื่องสิทธิบัตร สมัยโน้นสิทธิบัตรมีราคาถูกแล้วก็ไม่มีกฎหมายบังคับใช้ในหลายๆประเทศ กฎหมายสิทธิบัตรเพิ่งจะมีผลบังคับใช้เป็นจริงเป็นจังเมื่อไม่นาน ลิขสิทธิของเครื่องบินก็เป็นของพี่น้องตระกูลไรท์ ไม่ใช่ของเอดิสัน (ไปเอาข้อมูลที่ไหนกันว่าเอดิสันเป็นเจ้าของลิขสิทธิเครื่องบิน???) อันนี้ไม่ใช่จะมาเบรคอะไรกันนะครับ ผมเห็นว่าคห๓๙ (ยกเว้นย่อหน้าที่กล่าวถึงป๋า xebec และท่านอื่นๆ และบางส่วนที่กล่าวถึงคนอเมริกันรักเอดิสัน) เป็นความคิดเห็นที่ไม่มีเหตุผลและข้อมูลไม่ถูกต้องแทบทั้งสิ้น คนไทยที่กล้ารับผิดชอบมีเยอะนะครับ ในส่วนการทำงานระดับสูงขึ้นไปที่โน่นเขาต้องมีเหตุผลเรื่องการรักษาความปลอดภัยเข้ามาประกอบ ไม่ใช่ว่าคนไทยไม่กล้ารับผิดชอบ ส่วนเรื่องการสื่อสารและเรื่องสีผิวก็มีผลต่อการทำงานที่ประเทศอเมริกาไม่มากก็น้อย ข้อมูลของโบอิ้งหากคุณคห๓๙ทราบ ก็คงไม่ใช่ความลับของโบอิ้งแล้วหล่ะครับ ถ้าเขา classify ใครจะรู้เพราะโบอิ้งเป็นบริษัทผลิตยุทโธปรกรณ์ต่างๆให้กองทัพสหรัฐ เขามีขั้นตอนต่างๆที่เก็บความลับไม่รั่วไหล โปรเจคเครื่องโดยสารไม่น่าจะเป็นความลับเพราะเขาต้องการจะขายจึงจะต้องปล่อยข่าวออกมาเพื่อจะดูปฏิกริยาของสายการบินและสาธารณะชน ยกตัวอย่างคอนเซฟท์ของเครื่อง Sonic Cruiser เขายังต้องเอาไปเสนอคอนเซพท์ที่ ฟานโบโร่ แอร์โชว์ เล้ย เมื่อไม่มีใครสนใจ (หรือสนใจน้อยไม่พอจะตั้งสายการผลิต) เขาก็จึงไม่ผลิตเครื่องรุ่นนี้ออกมา ในคห๒๐ที่ว่าไว้ ต้องเข้าใจธรรมชาติของคนไทย ต้องเข้าใจธรรมชาติของคน ประเทศไทย คนไทยน่ะเป็นอย่างนี้มานานแล้ว ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ไม่ต้องพยายามอะไรมากก็อยู่ได้ แต่ของยุโรปอเมริกาญี่ปุ่นเกาหลีนะหรือ ลองไม่ขยันทำกินซิ หน้าหนาวอดตาย (หากอยากรู้ชีวิตอเมริกันสมัยก่อน ก็ลองไปหาหนังสือชุดบ้านเล็กในป่าใหญ่ ของสุคนธรส มาอ่านดู) สงครามนะทำให้เทคโนโลยี่ก้าวหน้าอย่างที่ใครๆว่าไว้ข้างบนถูกต้องที่สุด ลองนึกดูว่าถ้าญาติพี่น้องเราไปรบ ส่วนคนที่ไม่ได้ไปรบต้องช่วยกันผลิตอุปกรณ์ต่างๆส่งไปให้ญาติพี่น้องเรารบ หากผลิตไม่ดีสู้ศัตรูไม่ได้ ผลคือความตาย ลองนึกดูซิว่าเยอรมันฆ่ายิวไปกี่ล้านคนตอนสงครามโลกครั้งที่สอง??? ใครแพ้สงครามให้เยอรมันจะเป็นอย่างไร?? คนญี่ปุ่นก็ไม่ต่างจากคนยุโรปอเมริกาเท่าใดเพราะเขาเป็นประเทศหนาว หน้าร้อนไม่ขยันหน้าหนาวจะต้องอดตาย เกาหลีเขาถึงต้องทำกิมจี่ไว้กินไงครับเพราะหน้าหนาวจะไม่มีผักสดกิน ธรรมชาติของคนเมื่อถูกกดดันก็จะมีความต้านทานตามธรรมชาติ คนไทยไม่เคยถูกกดดัน ไม่เคยลำบากอย่างแสนสาหัสมา ไม่เคยเจอถดูหนาวอันแสนนาน ฉนั้นธรรมชาติของคนไทยจึงอยู่สบายๆ อะไรที่จะเหนื่อยจะเดือดร้อน (ต้องใช้กำลังภายในมากๆ) จะไม่เอาดีกว่า ตามคห๓๓ เลยครับ พอจะมองออกหรือยังว่านิสัยของคนไทยจำนวนมาก หากทำอะไรยากๆ แล้ว และผลตอบแทนที่จะได้มองไม่เห็น จะไม่ทำ นอกเหนือจากนี้แล้วคนไทยสมัยก่อนที่มีการศึกษามีน้อยมาก ส่วนของยุโรปและอเมริกานั้นเป็นเจ้าตำรับของความรู้หลายๆแขนงมีนักปราชญ์มากมาย ความรู้ของเขาสั่งสมมานานเป็นต้นแบบของความคิดต่างๆ เขามีข้อมูลเยอะมาก ส่วนของเรามีแต่น้อย ยิ่งในแง่ของสาขาวิทยาการแล้วเราจะมีจะเก่งในเรื่องการเกษตรการประมงมากกว่าเพราะเป็นความชำนาญของเรา อเมริกันที่เก่งๆเพราะสมัยก่อนโน้นคนในยุโรป หรือทวีปอื่นๆ ที่มีหัวก้าวหน้า ที่มีความคิดใหม่ๆ ไม่สามารถจะอยู่ในประเทศของเขาได้จึง (ต่างคนต่างไป) อพยพไปรวมกันอยู่โลกใหม่ (ซึ่งก็คือประเทศอเมริกาในปัจจุบัน) เมื่อคนเก่งไปรวมกัน ก็อย่างที่เห็นนี่แหละครับ มีอะไรใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ ญี่ปุ่นก็เหมือนกันนิสัยหยุดไม่ได้ต้องคิดโน่นคิดนี่ออกมาเรื่อยๆ จะเห็นได้ว่าอุปนิสัยคนไทย ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก ไม่เป็นไร ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ไม่มีหน้าหนาวให้อดตาย หมดก็หาใหม่ ฯลฯ จึงทำให้ความมุ่งมั่น (โดยเฉลี่ย) น้อยกว่าประเทศที่ต้องผ่านความยากลำบากและผ่านความเป็นความตายมา ที่สำคัญความรู้ในทางการบินต้องรู้จริงข้อมูลของอเมริกาและยุโรปมีมากเหลือเกิน ส่วนข้อมูลของเรามีน้อยเหลือเกิน หลายๆอย่างรวมกัน จึงน่าจะเป็นเหตุให้ต้องหยุดไปนะป๋า อีกเหตุผลใหญ่คือรัฐไม่สนับสนุน ผมเคยออกมาคัดค้านการขึ้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ ขอ ร่างประกาศออกมา ป๋าน่าจะจำได้ ลองไปดูกระทู้เก่าดูซิ นอกจากจะไม่ให้การสนับสนุนแล้วยังจะมาตั้งค่าธรรมเนียมต่างๆเหมือนจะเป็นการกีดกัน (เอาสบายตัวเข้าว่า ไม่อยากไปตรวจสอบหรืออะไรประมาณนั้นมั๊ง) ลองรัฐให้เงินสนับสนุนดูซิครับ เชื่อว่าจะมีคนที่มีความรู้ความสามารถออกมาช่วยกันแน่ๆ (รวมทั้งป๋าก็ด้วย) เพราะต้องใช้เงินทุนจำนวนมากและกว่าจะเก็บเกี่ยวได้ก็เป็นเวลานาน และโอกาสที่จะไม่สำเร็จก็มีสูงใครจะไปทำ ใครๆก็ต้องคิดทำอะไรง่ายๆให้ชีวิตมั่นคงไว้ก่อนจริงไม๊ป้าฯ จากคุณ : นกกระจิบ - [ 17 มี.ค. 51 07:56:04 A:58.8.133.147 X: TicketID:131874 ] ------------- เป็นอย่างนี้ครับ ผมขอแสดงความชื่นชม และเชื่อว่า น่าจะเป็นเหตผล ที่อุตสาหกรรมผลิตอากาศยานของเรา ต้องหยุดไปจริงครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ ที่อุตส่าห์พิมพ์เสียตั้งนาน จากคุณ : xebec - [ 17 มี.ค. 51 13:56:18 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุณหน้าขุนแผน หัวขุนช้าง ก็เหมือนกับผมแหละครับ ตามข้อมูลกันต่อไป คุณไม่รู้ว่าอนาคตจะแข่งกับใคร.... (Giantpig) ก็ไม่แข่งกับใคร ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎธรรมชาติ แบบไทยไทยละมังครับ ฮ่า ฮ่า คุณอินป่า บั้งไฟพญานาค ก็สวยดีนะครับ แต่จะให้ผมไปยืนไปนอนเฝ้าดูนี่ ไม่เอาดีกว่าครับ คุณเด็กคน ครับ อย่าไปคิดว่า ท่านที่ไม่เห็นด้วยกับคุณ หรือมีข้อแย้งคุณ มองว่าคุณเป็นคนไม่ดีซีครับ ความคิดเห็น ที่เราแสดงออกมากันในบอร์ดพันทิป เป็นสิ่งที่ดี อย่างน้อยก็สำหรับเราเอง ที่ได้แสดงออกมา หากผิด ก็จะมีผู้แก้ไขให้ เราก็เอาไปปรับปรุงความคิดของเรา โดยไม่ต้องแสดงความเสียใจ หรือน้อยอกน้อยใจอะไรเลยครับ ผมเอง ก็คิดผิดผิดมาตั้งแต่ต้น คือไปคิดว่า เป็นสนธิสัญญาลับ ระหว่างสงครามสงบ แต่เมื่อพิจารณากันดีดีแล้ว ท่านนกกระจิบ และอีกหลายท่าน ก็ให้เหตผลที่ดี น่าเชื่อถือว่าเป็นอย่างนั้น ผมก็เปลี่ยนใจได้เหมือนกัน ขอบคุณ ที่คุณเข้ามาแสดงความคิดเห็นครับ คุณ ด ผมอยากบอกว่า สมัยจอมพลสฤษดิ์นั้นแหละครับ ที่รื้อทางรถรางออกไป โดยให้เหตผลว่า เกะกะถนน แล้วเลยไปรื้อทางรถไฟฟ้าสายแรกของเอเชียออกไปเสียด้วย ซึ่ง เรื่องนี้ คงจะเอามาพูดกันในเร็วเร็วนี้แหละครับ ผมเสียดายรถไฟฟ้าสายแรกของไทย และของเอเชียเอามากมาก คุณ new_เด็กหงส์ ความคิดเริ่มมาในแนวเดียวกันแล้วละครับ คุณ Wobbegong เล่นกันถึงขนาดนั้นเชียวหรือครับ นี่ยังดีนะ เรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงทดแทน ไม่ตรากฎหมายออกมาแบบดุเดือด กลายเป็นน้ำมัน E85 และ B100 กันไปหมด คุณ Little Tiger ผมคลับคล้ายคลับคลาว่าคุณคือเสือน้อย หลานชายผมคนหนึ่งไม่ใช่หรือ ในสมัยพันทิปเพิ่งเริ่มเปิดบอร์ดใหม่ใหม่น่ะ ขอบคุณครับ ที่เอาความจริงมาเล่าสู่กันฟัง เออ กฎหมายลิขสิทธิ์นั่น ไม่ใช่ 23 ปีอย่างที่ผมเคยได้ยินแล้วหรือ กลายมาเป็น 50 ปีตั้งแต่เมื่อไรนี่ ว้า ผมล้าหลังไปจนได้ ขอบคุณอีกทีครับ ท่านนกกระจิบ ผมลองผิดลองถูกกับกระทู้ที่ตั้งของทดสอบเอง แล้วนำข้อมูลที่ท่านเขียน และเผอิญผม Copy ไว้ทันพอดี มาลงให้แล้วนะครับ คุณ BankBD ผมไม่ได้คิดว่า เราควรจะผลิตเครื่องบินตอนนี้หรอกครับ แต่คิดถึงสมัยผมยังไม่เกิด ศึกษาประวัติศาสตร์ พบว่าเราผลิตเครื่องบินรถได้ ก็เลยสงสัยว่า ทำไมเราหยุดไป ที่ตอนนี้ เริ่มกระจ่างแล้ว เป็นเรื่องอุปนิสัยของไทยแท้แท้เลยทีเดียว ที่มีส่วนอย่างมาก ขอบพระคุณทุกท่านครับ ที่แก้ความสงสัยที่มีมานานของผม ให้ผมได้ จากคุณ : xebec - [ 17 มี.ค. 51 14:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 55 แก้คำผิดครับ..... "ผมลองผิดลองถูกกับกระทู้ที่ตั้งของทดสอบเอง" เป็น "ผมลองผิดลองถูกกับกระทู้ที่ตั้งขึ้นทดสอบเอง" อีกอันหนึ่ง "ศึกษาประวัติศาสตร์ พบว่าเราผลิตเครื่องบินรถได้" เป็น "ศึกษาประวัติศาสตร์ พบว่าเราผลิตเครื่องบินรบได้" จากคุณ : xebec - [ 17 มี.ค. 51 14:20:30 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ผมอาจจะเป็นคนที่ไม่ยอมหยุดอยู่กับที่ ก็เลยมองว่า คนรอบข้าง หรือรวมทั้งประเทศ เป็นอย่างผม ซึ่งผิดครับ คนรอบข้าง รวมทั้งประเทศ ก็ยังเป็นคนไทยไทย คิดแบบไทยกันเป็นส่วนมาก ส่วนคนที่ไม่หยุดนิ่ง ก็คนในอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะในเวบบอร์ดพันทิปนี่แหละ เป็นส่วนหนึ่ง หากเรารวมกำลังกันได้ ก็คงทำอะไรดีดี เด่นเด่น ให้กับบ้านเมืองของเราได้ แต่ก็คงเป็นในอนาคต ไกลเกินกว่าที่ผมจะมองเห็นนะครับ เชื่อเพียงว่า ไม่ไกลเกินกว่าอายุขัยของพวกเราบางคน ในที่นี้ครับ จากคุณ : xebec - [ 17 มี.ค. 51 14:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 57 คนเดียวกันน่ะครับอาหมู เพียงแต่หลัง ๆ ไม่ได้แวะไปจิบไวน์แกล้มคาเวียร์ที่บ้านอาเสียตั้งนาน :) กฏหมายลิขสิทธิ์ ที่ว่าห้าสิบปี ผมก็ไปค้นมาจากเว็บของกรมทรัพย์สินทางปัญญาน่ะครับ. จากคุณ : LittleTiger - [ 17 มี.ค. 51 14:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 58 แวะเข้ามาตักตวงความรู้จากผู้อาวุโส แว่บ..... \\(O*v*O)// จากคุณ : I love หมอหญิงซินปี - [ 17 มี.ค. 51 14:45:00 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อืมม์ มันมีเทคนิค อย่างนี้นี่เอง ป๋าช่างสังเกตุจริงๆ ผมก็นึกว่าเป็นเรื่อง เยอรมัน+ยิว ขอบคุณป๋าครับ ความจริงน่าจะมีระบบเตือนเหมือนแต่ก่อน คำไหนผิดกติกา หรือ ติดกันแล้วจะไปอ่านเป็นอย่างอื่น ก็น่าจะมีขีดเส้นใต้ไว้จะได้แก้ไขได้ จากคุณ : นกกระจิบ - [ 17 มี.ค. 51 15:21:26 A:58.8.137.104 X: TicketID:131874 ]

ความคิดเห็นที่ 60 อาหมูขรา..... เรื่องหนักๆแบบนี้ หนูไม่สามารถค่ะ..... จากคุณ : Zorakun - [ 17 มี.ค. 51 15:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 61 สวัสดีครับ อาหมู จากคำถามของอาหมู โดนัทขอเป็นผู้ฟังดีกว่าครับ เพราะนั่งขายตั๋วเครื่องบิน กะขายทัวร์เป็นอย่างเดียว...จะให้ไปรู้ลึกถึงเรื่องการผลิตเครื่องบิน อันนี้เกินความสามารถครับ แต่ขอแสดงความเห็นแค่นิดนึงว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ยาก หากขาดการสนับสนุนจากรัฐ และ สื่อมวลชน ครับ...เพราะลำพังต่อให้เงินหนาสายป่านยาวเพียงใด แต่ประที่ที่ใช้ Teachnical Know Who อย่างประเทศเรา ไม่ใช่ Know how อย่างคนอื่นเค้า...อันนี้ทำให้การคิดริเริ่ม สร้างสรรค์โตยากครับ จากคุณ : donatt76 - [ 17 มี.ค. 51 16:21:55 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เห็นด้วยกับพี่นกกระจิบร้อยเปอร์เซนต์ครับ การที่ไม่ต้องลำบากต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากธรรมชาติ เท่ากับคนในประเทศเมืองหนาว ก็ทำให้เราขาดสัญชาติญาณนี้ไปในสายเลือดของเราเอง แต่ขอเสริมเล็กน้อย พี่นกกระจิบของผมคงจะไม่ว่ากันหรอกนะ ลองเทียบกับประเทศที่ในน้ำมีปลาในนามีข้าวใกล้เคียงกับเรา ประเทศเหล่านี้ ก็ประสบปัญหาพัฒนาล้าหลังกว่าเราด้วยซ้ำ ดังนั้นเรื่องการเมือง ความไม่สงบในประเทศ และภาวะวิสัยทัศน์ผู้นำ การสร้างคนจากระบบการศึกษา หัดให้คิดอย่างไร เรียนอย่างไรมาตั้งแต่เด็ก ก็มีส่วนประกอบด้วยเช่นกันจริงไหมครับ? ผมเรียนโรงเรียนไทย ก็รู้ๆกันอยู่ว่าครูสอนให้ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง ครูจะถามอะไร ก็รีบหลบ กลัวโดนชี้ให้เป็นคนตอบ แต่ลูกผมสมัยนี้ ผมจับไปเรียนอินเตอร์ระบบอังกฤษ ครูถามอะไร ยกมือกันสลอน แย่งกันตอบคำถามครู นกแก้วนกขุนทองไม่มี มีแต่ผมเห็นลูกกลับบ้านมาทำการบ้าน ต้องเปิดเนตค้นหาคำตอบ จากหลายข้อมูล แล้วแถมยังต้องมาวิเคราะห์เรียบเรียงคำตอบเอง พ่อแม่สมัยนี้อย่างผม จำเป็นต้องมีคอมและเนตให้ลูก เพราะลูกต้องใช้เรียนและทำการบ้านแบบนั้น และลูกผมต้องทำการบ้านเป็น Powerpoint ตั้งแต่ Year 6 ก็คือ ป.5 ของระบบเรา ตอนนี้อยู่ Year 8 แล้ว เห็นทำการบ้านแบบมีเทคนิคก้าวหน้ามากขึ้นเยอะ เด็กระบบฝรั่งเรียน จะสอนให้เด็กคิดเอง ครูให้การบ้านมาแค่คำๆเดียว "Japan" ลูกผมต้องค้นหาทางเนต เพื่อนำไป Present หน้าห้อง ว่าคำว่า Japan จะนำเสนอคำตอบอย่างไร และเด็กๆต้องแข่งกันว่า ข้อมูลตัวเอง เริ่ด เจ๋ง ที่สุด นำเสนอได้โดดเด่นที่สุด ระบบการศึกษาของเขาสอนให้เด็กมีจินตนาการ มีวิสัยทัศน์ และมีสัญชาติญาณทางความคิด ทั้ง EQ IQ มาตั้งแต่เด็กๆ เทียบกับลูกเพื่อนผม เรียนโรงเรียนไทย ระบบการศึกษาเดิมๆแบบคนรุ่นเรา บ้านเขาไม่จำเป็นต้องมีคอมมีเนตเหมือนบ้านผม เพราะลูกไม่ต้องใช้ ลูกท่องหนังสือแบบนกแก้วนกขุนทอง เหมือนเดิมๆ เมื่อหลายสิบปีก่อนที่เราเป็นอย่างนั้น จนวันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น ประเทศร่ำรวยเช่นมหาอำนาจน้ำมันตะวันออกกลาง ก็มีคนรวยอยู่แค่คนกลุ่มหนึ่ง เสวยสุขกันอยู่กลุ่มเดียว จึงพัฒนาไปได้แค่นั้น ซึ่งก็ไม่ได้ไกลจากเราไปมากเท่าไหร่ ผมว่ามีหลายองค์ประกอบครับ ที่ทำให้เราย่ำอยู่กับที่ หรือเคลื่อนได้ทีละนิด ไปไม่ถึงไหนซะที.... แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 51 17:06:40 แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 51 17:01:24 จากคุณ : XOOMER - [ 17 มี.ค. 51 16:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ระบบการศึกษาก็มีส่วนครับ ผมเห็นด้วย พ่อผมเคยบอกว่า รัฐบาลสมัยก่อนบอกว่า ต้องให้คนโง่ เพราะปกครองง่าย ผมไปเรียนต่อในสิงคโปร์มาตั้งแต่เด็ก ระบบการศึกษาของเขา ก็ให้เราค้นหาคำตอบ ไม่ได้ท่องจำ เพียงแต่โรงเรียนที่ผมไปเรียน เป็น 7Day Adventist ก็หนักทางศาสนาหน่อย แต่ก็ให้ประโยชน์ไม่น้อยทีเดียว และต่อไปก็ไปเรียนอเมริกา ผมก็ได้รับการเพาะบ่มมาให้ค้นหาข้อมูลเอง และไม่จำเป็นต้องจดจำอะไรไว้ในหัว นอกจากที่มาของสิ่งที่เราจะค้นหาความรู้เอาเอง ชีวิตผมก็เลยไม่ค่อยมีปัญหา ด้วยว่าพอพบปัญหา ผมก็หันเข้าหาแหล่งความรู้ที่มีในมือ และพบว่า แหล่งนั้นแตกแขนงออกไปมากมาย จนค้นได้ไม่มีวันหมดสิ้น แต่บางปัญหา ก็ต้องอาศัยเพื่อนร่วมอุดมการณ์ มาช่วยกันให้ความคิดเห็น แล้วเราเลือกเชื่อ เลือกคิด เลือกปฏิบัติตามด้วยตัวเอง จะได้ไม่ต้องมาเที่ยวโทษใคร เวลาทำเวลาปฏิบัติหรือแม้กระทั่งเวลาคิดแล้ว จะเกิดปัญหาขึ้นอีก ผมมีลูก ผมก็ปล่อยให้ลูกเรียน และสอนให้ลูกไม่ต้องท่องจำ เขาก็เรียน และรู้ เข้าใจ และมั่นใจในตัวเองเรื่อยมา เราถกเถียงกันด้วยเหตผล ตลอดเวลาที่เขาเริ่มโตขึ้น ปัจจุบัน เขาก็ทำงานในตำแหน่ง CTO ของบริษัทใหญ่ทางด้านคอมพิวเตอร์ที่แคนาดา ก็เป็นเพียงสิ่งที่ผมทำได้ หมายถึงกับครอบครัวผม แต่กับคนอื่น เราก็ทำอะไรไม่ได้ ต้่องปล่อยไปกับระบบการศึกษา อย่างที่เขาบอกว่า ไม่รู้อะไรก็ต้องถามซี อย่างนี้ ผมไม่สอนลูก แต่ผมบอกว่า ไม่รู้อะไร ก็ต้องหาความรู้เอาเองก่อน ก็เท่านั้นแหละครับ แต่ก็จริงนะ สำหรับบ้านเรา ที่คนไม่อดตาย ก็เลยขาดความขวนขวาย ผมเองไปอยู่อเมริกา กลับชอบการเดินซูเปอร์มาเก็ต แล้วติดนิสัยตุนอาหารมาจนบัดนี้ อ้าว แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่ผมตั้งปุจฉาขึ้นมาเองนี่เล่า ลุงลองคิดดีดี ก็จะคิดออกเองแหละครับ ผมว่า ไม่เกินสติปัญญาของลุงหรอก จากคุณ : xebec - [ 17 มี.ค. 51 17:38:07 ]

ความคิดเห็นที่ 64 สวัสดีครับ ทุกๆท่าน ไม่ได้เข้ามาดูว่าความเห็นวิ่งถึงใหนจนเย็นนี่แหละ ก็ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมมากมาย ผมว่าถ้าดูความสามารถของคนไทยแล้ว ผมเชื่อว่าเราทำได้แน่   ประเด็นอยู่ที่ ทำได้แล้ว จะอยู่รอดในธุรกิจนี้หรือไม่ ไม่ต้องคิดถึง บ.ขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ เอาแค่ ขนาด 2-4ที่นั่ง นี่แหละ ถ้าทำออกมาแล้ว ขายไม่ได้ เจ้งซิครับ อันที่จริง อุตสาหกรรมที่ใกล้ตัวเราที่สุด ที่น่าจะทำได้ดีที่สุด น่าจะเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร หรืออุตสาหกรรมด้านอาหาร ก็คงไม่มีความเห็นอะไรเพิ่มมากไปกว่านี้ละครับ   สวัสดีครับ คุณ new_เด็กหงส์ เรียนอยู่สำนักใหน เมื่อไรหรือครับ จากคุณ : vtct - [ 17 มี.ค. 51 19:11:47 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ขออนุญาต นำความคิดเห็นในนี้ ไปใช้ในคอลัมน์ของผม ที่มติชน สุดสัปดาห์นะครับ โดยเฉพาะของท่านนกกระจิบ และเพื่อนเพื่อนครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : xebec - [ 17 มี.ค. 51 19:31:10 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ผมคิดว่าผมเดาใจป๋าออก ว่าตั้งปุจฉาขึ้นมา เพื่อนำไปสู่อะไร ก็คงไม่พ้นอะไรบางอย่าง ที่ต่างคนต่างเข้าใจดีกันอยู่ในใจ ก็จะได้พูดออกมากัน ระบายความอัดอั้นตันใจกันเสียบ้าง คนรุ่นเก่า หรือแม้คนรุ่นใหม่บางคน ยินดีที่จะสอนคนรุ่นหลัง หรือแม้กระทั่งลูกหลาน ให้คิดในใจ อย่าพูดมันออกมาดังๆ ซึ่งในโลกความเป็นจริงทุกวันนี้ มันก็เป็นเช่นนั้น ผมพยายามอย่างยิ่ง ที่จะให้ลูกน้องกล้าแสดงออก กล้าแสดงความคิดเห็นออกมา อย่าคิดว่ามันจะถูกหรือผิดเสมอไป Just Speak Up แต่ก็ยังยากอยู่ เพราะเขาก็ยังกล้าๆกลัวๆ ทั้งๆที่ผมยินดีอย่างยิ่งที่จะได้ฟัง สิ่งหนึ่งที่ผมสอนลูกเสมอ คือผมบอกลูกว่า พ่อไม่ต้องการให้ลูกสอบได้ที่หนึ่ง พ่อต้องการเห็นลูกมีทั้ง EQ IQ ผสมผสานกันให้พอดี เอาตัวรอดได้ คิดเองเป็น และจะดีกว่านั้น ถ้าลูกคิดแทนคนอื่น ที่มันคิดไม่เป็น จะได้พาคนอื่นที่เขาคิดไม่เป็น ให้มันรอดได้ด้วย นั่นคือพื้นฐาน การบริหารชีวิตและภาวะผู้นำ และต่อยอดไปเป็นการบริหารงานได้เมื่อเขาโตขึ้น ซึ่งคงต้องสะสมความคิดนี้มาตั้งแต่เด็กก่อน นอกจากระบบการศึกษาแล้ว ทัศนะคติที่ได้รับการปลูกฝังมาจากครอบครัว ผมว่าก็มีส่วนเช่นกันครับ จริงไหมครับป๋า? จากคุณ : XOOMER - [ 17 มี.ค. 51 19:45:19 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ในความคิดผมเองนะ .... เมื่อสิบกว่าปีก่อน ผมหวังว่าเด็กรุ่นหลังจะช่วยมาเป็นแรงผลักดันในการขับเคลื่อนประเทศ แต่ในปัจจุบัน ผมแทบไม่หวังอะไรแล้ว เมื่อเด็กปัจจุบัน โดยกระแสโลกานุวัติถล่มซ่ะไม่เหลือ เด็กสมัยนี้เอะอะก็ต้องมีอิสระ จะทำอะไรก็เรื่องของฉัน ฉันมีความคิดเป็นของตัวเอง แตะต้องไม่ได้ ไม่รู้จักสัมมาคารวะ เอ้อออออ คิดถึงไม้เรียวสมัยเรายังเป็นเด็กๆ จัง เมื่อกลับมาดูผู้ใหญ่ในสังคมไทยแล้วยิ่งกลุ้มเขาไปใหญ่ .... หนีเสือปะจรเข้จริงๆ ผมอยากให้ประเทศไทยเปลี่ยนระบบการปกครองกลับไปเป็นระบบสมบูรณายาสิทธิราชจัง เพราะดูแล้วตอนนี้ระบบประชาธิปไตยยังไม่มีความพร้อมสำหรับคนไทยเลย ... พับผ่าดิ แต่พี่หมูครับ กระทู้พี่คุยเรื่องอุตสาหกรรมเครื่องบินในประเทศไทยไม่ใช่หรือ จากคุณ : Airliner - [ 17 มี.ค. 51 21:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ลุงซูมคับ ในฐานะตัวแทนเด็กรุ่นใหม่ ผมขอบอกว่า ที่ลุงพูด ไม่จริงคับ ผมเรียนระบบไทย ก็คิดเป็นคับ คิดไกลกว่าเด็กฝรั่งอีกคับ ครูให้การบ้านมาแค่คำๆ เดียว "Japan" ผมคิดต่อยอด เข้า google แล้ว search คำว่า "Japan AV" ทันทีเลยคับ ศึกษาไปเรื่อยๆ ยิ่งได้เรียนรู้ข้อมูลเชิงลึก เดี๋ยวนี้มี search คำว่า "Japan AV Moodyz Attackers S1 SOD Cinemagic DasDas IdeaPocket Dogma" และค่ายดังๆ อีกมากมายคับ ถึงผู้ใหญ่หัวโบราณจะพยายามปิดกั้นยังไง เด็กไทยหัวก้าวหน้าอย่างผม ก็ฝ่า Block ดวงตาพญามาร ของ ICT ได้ทุกครั้งไปคับ ไปดีฝ่า เดี๋ยวบรรดาผู้อาวุโสจะรู้ว่า อนาคตของชาติมันเริ่มวิบัติมาตั้งแต่รุ่นใคร แว่บ............... \\(OTvTO)// จากคุณ : I love หมอหญิงซินปี - [ 18 มี.ค. 51 05:16:00 ]

ความคิดเห็นที่ 69 กระทู้นี้หนักจังนะคะ ...เคยได้ยินมาว่า...(ไม่แน่ใจนักนะคะ) มีคนทำเครื่องบินได้...ประกอบเอง...คนไทยค่ะ เป็นเจ้าของร้านอาหาร...ที่น่าจะรู้จักกันดี อยู่แถวๆคลองประปา ที่นักการเมืองชอบไปทานกัน มีใครเคยได้ยินมาบ้างมั้ยคะ... ขออภัย...ถ้าฟังมาผิดไปค่ะ จากคุณ : น่ า น ฟ้ า (Nanfah) - [ 20 มี.ค. 51 01:19:59 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ^ ^ กระทู้ยาวมาก อ่านไม่ไหวอ่ะครับ เสียดายที่ไม่ได้มาตั้งแต่ต้น เพราะแต่ล่ะ คห. ความรู้แน่นมาก ผมมีเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งทำงานเป็นดีไซเนอร์เครื่องบิน ให้กับบริษัทในเครือ Boeing ที่อเมริกาครับ ตอนนี้บริษัทส่งไปเทรนที่ฝรั่งเศส 1 ปี รอต่อ H1-B visa ทำงานในอเมริกาปีหน้า แอบภูมิใจคนไทยด้วยกันเองครับ แถมเป็นคนใกล้ตัวซ่ะด้วย อิอิ (ยังมีคนไทยที่ทำงานใน NASA อีกนะครับ ตอนนี้เป็น US Citizen ไปแล้วมั้ง) ปล. ขออนุญาตคุณ จขกท. นะครับ คุณ yodying_jung คห. 2 จบจากที่ไหน รุ่นอะไรครับ ขอ .... ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Coconut Dance : - [ 20 มี.ค. 51 11:28:09 ]