มีโอกาสได้หยุดยาวรับเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ นึกว่าจะเหงามากมาย แต่ไม่เลย มีผองเพื่อนแวะมาทักทายไม่ขาดสาย ทำให้อารมณ์เหงา เหงาลดลงไปได้เยอะพอควร
วันนี้อารมณ์แม่บ้านเข้าสิง เลยลุกขึ้นมาจัดห้องหับ จัดของให้เข้าที่ เตรียมทำงานชิ้นใหม่ ทำให้ไปเจอหนังสือทำมือที่ไปซื้อมาจากงานหนังสือเมื่อนานมาแล้ว เป็นแบบโปสการ์ด ชอบเรื่องนี้ ชอบคนเขียนคนนี้ เลยเอามาแบ่งปันเพื่อน เพื่อนในวันเงียบ เงียบแต่ไม่เหงา
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
"หยาดฝนแห่งความคิดถึง" โดย รักษิตา
เมื่อท้องฟ้า ทะเล และพื้นดิน ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ๆนั้น ทั้งสามเป็นเพื่อนรักกันและอยู่ใกล้กันเสมอมา แต่เมื่อเวลาผ่านไป พื้นดินและท้องทะเลก่อเกิดสิ่งมีชีวิตมากมาย ทั้งสองต่างวุ่นวายอยู่กับการดูแลเหล่าแมลง ต้นไม้ และสัตว์นานาชนิต จนไม่มีเวลามาสนใจท้องฟ้าเหมือนเคย
ท้องฟ้าน้อยใจมาก เละค่อยๆ ถอยห่างจากทะเลและพื้นดินออกไปทุกที ทุกที แต่เพื่อนทั้งสองก็ยังไม่มีท่าทีจะใส่ใจ ท้องฟ้ามีเรื่องให้ครุ่นคิดมากมาย และยิ่งลอยห่างออกไปเรื่อยโดยไม่รู้ตัว
จนถึงวันที่นกตัวแรกกางปีกออกโบยบิน ทะเลและพื้นดินจึงได้รู้ว่าท้องฟ้าจากไปไกล
พื้นดินและทะเล พยายามส่งเสียงเรียก แต่ท้องฟ้าอยุ่ไกลเกินจะได้ยิน นกตัวแรกอาสาบินไปส่งข่าวถึงท้องฟ้า แต่ทว่าเสียงของมันแผ่วเบาเกินไป
"ไม่เป็นไร พี่น้องของฉันจะบินไปยังท้องฟ้า เราทุกตัวจะช่วยกันบอกเล่าเรื่องราวของทะเลและพื้นดินให้ท้องฟ้าได้รับรู้" นกตัวแรกให้สัญญา
แต่ทะเลและพื้นดินยังเศร้าใจกับความห่างไกลชองท้องฟ้า ทะเลยังคร่ำครวญ และม้วนตัวเป็นเกลียวคลื่นสูงขึ้น สูงขึ้น แต่ก็ยังไปไม่ถึงท้องฟ้า พื้นดินยกตัวสูงขึ้นจนกลายเป็นภูเขาตระหง่าน แต่ก็ยังไม่สูงพอ
"บางทีฉันอาจจะช่วยพวกเจ้าได้" ดวงอาทิตย์ซึ่งเฝ้าดูเหตุการณ์มาโดยตลอดกล่าว และส่องแสงแรงกล้าลงมาแผดเผาให้น้ำทะเลและพื้นดินระเหยเป็นไอ ลอยสูงขึ้นไปถึงท้องฟ้ากลายเป็นก้อนเมฆที่รวบรวมเรื่องราวไว้มากมาย และก่อตัวเป็นรูปร่างต่างๆ ได้ตามสิ่งที่มันพบเจอ
"ทะเลและพื้นดินอยากให้ท่านกลับลงไปอยู่ใกล้ๆกันดังเดิม" ก้อนเมฆเล็กๆ กล่าวหลังจากเล่าเรื่องราวร้อยพันให้ท้องฟ้าได้รับฟัง
แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 51 19:55:22