Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เกือบเอาชีวิตไปทิ้งที่เขื่อนมารดางัด เชียงใหม่

    เป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้หาทางปรับปรุง  รวมทั้งแจ้งเตือนสมาชิกทุกท่านครับ  เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงผู้ประกอบการที่ขาดความรับผิดชอบ  เอาชีวิตของเราไปเสี่ยงกับความเห็นแก่ได้ของพวกมัน

    ปล.ชื่อเขื่อนติดเซนเซอร์นะครับ  แต่น่าจะแปลกันออก
    ----------------------------------------------------

    วันที่ 14 เมษายน 2551

    พ่อผมกลับมาเยี่ยมบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์  ผมจึงคิดว่าน่าจะออกทริปซักที่เพื่อครอบครัวจะได้มีกิจกรรมทำร่วกัน  แต่เนื่องจากทุกคนเล่นน้ำกันมาตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย.
    ทำให้ตื่นสายกันหมด  กว่าจะรวมตัวกันได้ก็ปาเข้าไป 11.00 น.แล้ว  จึงไม่น่าจะมีที่ไหนเหมาะเท่ากับเขื่อนมารดางัด อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  เพราะระยะทางไม่ไกลมากนัก  ค่าใช้จ่ายไม่สูงเกินไป  
    รวมทั้งผมเองเคยไปออกทริปตกปลา  ค้างคืนที่นี่อยู่บ่อยครั้ง  ทำให้มั่นใจในรสชาติอาหารและบริการว่าน่าจะสร้างความประทับใจให้กับครอบครัวได้

    เมื่อไปถึงผมเลือกแพเอกชัยที่เคยไปและประทับใจในรสชาติอาหาร  และความสะอาดของสถานที่  การออกไปแพนั้นจะต้องนั่งเรือยนต์ออกไปกลางเขื่อนใช้เวลาประมาณ 20 นาที  ตอนแรกแม่กับแฟนผมนั้นออกจะกลัวๆอยู่บ้าง  
    เนื่องจากว่ายน้ำไม่แข็ง  แต่ผมก็ให้ความมั่นใจว่าปลอดภัย  เพราะเรือนั้นลำค่อนข้างใหญ่พอสมควร  สามารถนั่งได้ถึง 10-12 คน  แต่เราไปกันเพียง 6 คน คือ ผม  แฟนผม พ่อ  แม่  น้องสาว และเพื่อนน้องสาวอีกคน  รวมทั้งมีเสื้อขูชีพให้ครบทุกคน  ที่สำคัญนายเรือจะไม่ยอมออกเรือจนกว่าทุกคนบนเรือจะสวมชูชีพครบทุกคน

    ขาไปผมได้รอบเรือของแพเอกชัยเอง  ชื่อเรือ "เอกชัย 1"  อธิบายก่อนนะครับว่าการไปเขื่อนนี้หากเราไม่ได้จองแพเพื่อค้างนั้น  ทางผู้ประกอบการเขาจะวนกันเป็นรอบรับนักท่องเที่ยวตามลำดับเพื่อกระจายนักท่องเที่ยวให้ทุกๆแพ    เมื่อถึงคิวของแพใดก็จะได้ขึ้นเรือของแพนั้นๆไป  แต่หากจองไว้ก่อน  ก็แล้วแต่ว่าถึงคิวของเรือใคร (แต่ละแพจะมีเรือหลายลำ ไว้รับนักท่องเที่ยวเข้าแพตนเอง  และเอาไว้วิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้จองไว้ตามคิวไปยังแพอื่นๆ
    ชึ่งขาไปนี้ผมก็พบกับบริการและธรรมเนียมการสวมชูชีพแบบเดิมอย่างทุกครั้งที่ผ่านมา  ทำให้แม่กับแฟนผมคลายความกังวลลงไปได้มากทีเดียว  เมื่อถึงแพผมนัดเรือให้มารับตอน 17.30 น.  แต่คนขับเรือนั้นแจ้งว่าควรจะกลับเวลา 17.00 น จะดีกว่า  เนื่องจากวันนี้นมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก  ส่วนใหญ่จะกลับเวลาเดียวกับที่ผมบอก  ทำให้ต้องขับเรือช้าลงกว่าเดิมมาก    อาจจะมืดเสียก่อนถึงฝั่งชึ่งอันตรายมาก  ผมก็ไม่ขัดข้อง

    หลังจากที่เราขึ้นแพก็ได้รับบริการที่ดีตามที่เคยมา  เพียงแต่วันนี้มีนักท่องเที่ยวมาเยอะมาจริงๆ  และมากันเป็นครอบครัวกลุ่มใหญ่ๆทั้งนั้น  เมื่อถึงเวลากลับเรือก็ทยอยมารับตามคิว  "เรือเอกชัย 1" ที่ผมนั่งเข้ามานั้นรับนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มาก่อนผมออกไปก่อนตอน เกือบๆ 17.00 น. เมื่อถึงเวลา 17.30 น.เรือยังไม่กลับมา  คงเพราะเรืออกจากแพเยอะอย่างที่นายเรือบอกไว้จริงๆ  แม่ผมเริ่มกังวลเพราะกลัวว่าจะมืดเสียก่อน  ขณะนั้นก็มีเรือวนเข้ามารับนักท่องเที่ยวอีกกลุ่ม  ซึ่งเป็นผู้ชายล้วนๆ  และนั่งรอที่หน้าแพด้วยกัน  พี่ๆเค้าคงเห็นว่าแม่ผมเป็นกังวล  ด้วยความมีน้ำใจพี่เค้าจึงบอกให้พวกผมนั่งเรือกันออกไปก่อนเลย  เค้าจะรอรอบต่อไปเอง  ทำให้ผมประทับใจน้ำใจของพวกพี่ๆเค้ามาก

    ตอนผมลงเรือนั้น นายเรือคนนเี้ป็นเด็กครับอายุไม่น่าจะเกิน 16-17 พวกผมลงเรือไม่ทันได้จัดที่จัดทางนั่งให้เรียบร้อย  มันออกเรืออย่างเร็วและแรงจนพวกผมหน้าคะมำกันหมด แม่กับแฟนผมหน้าเสียเลยครับ  ผมจึงบอกให้รีบใส่เสื้อชูชีพกันก่อน  จะว่าเป็นความประมาทของผมก็ได้ที่ไม่ได้อ่านชื่อเรือ  รวมทั้งไม่ได้เช็คจำนวนเสื้อชูชีพ  ปรากฏว่าเสื้อชูชีพมีอยู่เพียง 2 ตัวเท่านั้น  เมื่อถามมันว่า "น้องทำไมเสื้อชูชีพมีแค่นี้ล่ะ"  มันตอบว่า "วันนี้คนเยอะ  ไปหลายที่  เอาไปไหนมั่งแล้วไม่รุ้"  โอ...พระเจ้า  ไอ้เลวเอ๊ยยยยย...ผมต้องเอาชีวิตครอบครัวมาฝากไว้ในมือไอ้เด็กสเปรสนี่รึ  เอาล่ะ...ไม่เป็นไร  ยังพอทนไหวที่แม่กับแฟนยังได้ใส่เสื้อชูชีพ  คนที่เหลือหากมีอะไรก็ยังพอจะเอาตัวรอดได้หรอกน่า...

    นั่งเรือออกมาได้สัก 10 นาทีด้วยความอกสั่นขวัญแขวน  เพราะมันขับเรือเร็วมาก  ผมมาที่นี่หลายสิบครั้งต่อปี  ไม่เคยเจอเรือที่ขับเร็วขนาดนี้มาก่อน  มันชลอเรือลง  ในใจยังคิด เฮ้อ..ค่อยยังชั่ว  แต่แล้วมันก็ดับเครื่องครับ  เอ๊ะ...ยังไงอย่าบอกว่าเรือเสียนะ  ไม่ใช่ครับมันกำลังปล่อยเรือไหลเข้าไปหาเรืออีกลำที่ลอยลำอยู่กลางน้ำ แฟนผมตกใจมากเนื่องจากความเร็วมันก็ไม่ใช่น้อยเลยแม้จะดับเครื่องแล้วก็ตาม  เมื่อเรือเข้มาใกล้ผมเองนึกอยู่ว่ามันจะหยุดยังไงกันวะ  ปรากฏว่ามันเอาหัวเรือมันชนกับด้นข้างของเรืออีกลำแล้วเรือที่ผมนั่งมันก็เบี่ยงออก  ครูดกันไปจนขนานกัน  แต่ช่วงครูดกันนั้น  เรือมันเอียงมากๆ จนกราบเรืออีกด้านปริ่มๆน้ำเลยครับ  นั่งตัวเกร็งกันทั้งลำเรือเลยล่ะครับ  ทั้งเรือผม  และอีกลำที่มีผู้โดยสารอยู่ 3 คน  แล้วมันก็บอกให้พวกผมย้ายไปนั่งเรืออีกลำ  กลางน้ำเนี่ยนะ...ลองคิดดูครับ  เขื่อนกว้างๆ  น้ำสุดลูกหูลูกตา  ขนาดอยู่บนแพ  พวกเรายังก้าวไม่ค่อยจะมั่นคงเลย  แล้วจะให้มาเปลี่ยนเรือกลางน้ำอย่างนี้ 6 คน  มรึงจะบ้าหรือไงวะ  แต่ไอ้นายเรือลำนั้นที่รุ่นๆเดียวกันมันก็ไม่ยอมครับ  บอกให้ผู้โดยสารในลำของมันมาลงเรือผมเช่นกัน  

    เถียงกันสักพัก  ผมเห็นว่าท่าทางไม่ค่อยดีแล้ว  เลยตัดบทบอกผู้โดยสารอีกลำที่มีผู้หญิง 2 คน  ผู้ชาย 1 คน ว่า "น้องครับน้องมีแค่ 3 คน  ย้ายมาลำนี้น่าจะง่ายกว่านะครับ"  น้องๆเค้าก็ไม่ปฏิเสธเพราะทุกคนเวลานั้นอยากจะกลับให้ถึงฝั่งให้เร็วที่สุด  แม้จะมีแค่ 3 คน แต่การย้ายเรือกลางน้ำสำหรับคนที่ไม่ชำนาญก็ทุลักทุเลน่าดูเลยครับ  เรือโคลงน่ากลัวมากๆ  แต่เราก็ช่วยกันจับเรือทั้งสองลำไว้  ช่วยพยุงกันให้ข้ามมาได้  แล้วมันก็ออกตัวแบบเดิมอีกตีโค้งจนกราบเรือปริ่มน้ำ  มรึงจะดริฟเรือหางยาวรึไงฟระ  เวลาเรือสวนมันจะมีคลื่นตามหลังมา  ปกติแล้วนายเรือเค้าจะผ่อนเครื่องลงก่อน  แล้วค่อยเร่งใหม่  แต่ไอ้นี่ไม่ครับ  มันก็เร่งของมันไป  และด้วยความเร็วที่มากกว่าปกติอยู่แล้วเมื่อเจอคลื่นเรือมันก็โยนสิครับ  กระน้ำปังๆ ตลอดทางเลย  จนมาถึงฝั่งน่ะครับ  ถึงได้รู้ว่าพวกกรูรอดแล้ว...

    จากนั้นมันก็เก็บเงินน้องเค้าครับ 500 บาท  เท่ากับที่พวกผมจ่ายไป  ซึ่งผมจ่ายไปแล้วตั้งแต่เช็คบิลที่แพ  แสดงว่ามันแอบบมาเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสาร  แล้ววนกลับไปทำรอบใหม่โดยไม่เข้ามาที่จุดจัดคิว  ทำให้มันกินเปล่าค่าเรือที่มันแอบมาเปลี่ยนถ่ายกลางน้ำรอบละ 500 เลย  ซึ่งก็นับว่าเยอะทีเดียวสำหรับพวกมัน  แต่น้อยมากเมื่อเทียบกับหลายๆชีวิตของนักท่องเที่ยวบนเรือของมัน  ไม่ใช่เฉพาะพวกผมเท่านนั้น  แต่รวมไปถึงชีวิตนักท่องเที่ยวอื่นๆ  ที่โดนมันกระทำเช่นนี้ด้วย

    เมื่อขึ้นฝั่งผมได้ไปติดต่อที่ที่ทำกรอุทธยานแห่งชาติศรีลานนา  ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่  เพื่อทำเรื่องร้องเรียน  แต่เจ้าหน้าที่กลับกันไปหมดแล้ว  เหลือเพียงเจ้าหน้าที่ที่เป็นเวรยามเท่านั้นจึงได้แต่ฝากเรื่องไว้เท่านั้น

    เรื่องนี้  ผมไม่ทราบว่าเจ้าของแพต้นสังกัดของเรือทั้งสองลำนั้นจะรู้เห็นด้วยหรือไม่  แต่ในฐานะที่คุณเป็นนายจ้ง  ความเสียหายใดๆที่ลูกจ้างคุณก่อไว้ในขณะปฏิบัติงาน  คุณเองจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้นะครับ  ผมจึงขอแจ้งเตือนให้เพื่อนสมาชิก  หากท่านจะไปเที่ยวที่นี่แล้วพบว่า

    1.แพที่ท่านจะไปชื่อ "แพริมธาร"

    2.เรือที่ท่านขึ้นชื่อ "ริมธาร 2"

    3.เรือที่ท่านขึ้นชื่อ "ริมธาร 6"

    กรุณาใช้วิจารณญาณอย่างหนักด้วยละกันครับ  จะได้ไม่ต้องมานั่งอกสั่นขวัญแขวนอย่างผม

    จากคุณ : คิดตามประสา - [ วันเถลิงศก (15) 13:52:53 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom