ความคิดเห็นที่ 1 ฮ่า ฮ่า คนเป็นเจ้าของกิจการและประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง อาจจะมองตัวเองเป็นหลักใหญ่ อะไรที่ตัวเองทำ ตัวเองปฏิบัติ ก็ยืนยันจะปฏิบัติเช่นนั้นตลอดไป เป็นธรรมดาครับ คุณแม่ผมทำโรงเรียนเริ่มไต่จากอนุบาล จนถึงมัธยม 8 หรือเตรียมอุดมปีที่ 2 ก็เหมือนกัน ผมยุให้โฆษณาก็ไม่ยอม บอกว่า ฉันทำของฉันอย่างนี้มาได้ยี่สิบกว่าปีแล้ว จะเป็นอะไรก็ให้มันรู้ไป พอพี่ชายผมเข้าทำแทน ความที่ไม่เคยทำงานที่อื่นเลย ก็บริหารไม่เป็น สู้คุณแม่ไม่ได้ ในที่สุดก็ต้องเลิกกิจการไป ผมก็ต้องระเห็จออกจากบ้านที่เป็นโรงเรียน อยู่อพาร์ทเมนท์บ้าง คอนโดบ้าง จนในที่สุดมาซื้อบ้านสวนสยามอยู่ได้ ก็กัดฟันอยู่มาจนรอดในที่สุด แต่ผมเที่ยวนะครับ เที่ยวหัวหกก้นขวิดเลยทีเดียว แล้วปัจจุบัน ผมก็มีฐานะดีกว่าพี่น้องหลายคน ไม่มีหนี้เลยสักบาทเดียว แต่ผมก็ยังเที่ยวเสมอครับ ทั้งที่เป็นเจ้าของกิจการของตัวเอง มีคนให้ต้องรับผิดชอบอยู่เกือบสิบคน เป็นกิจการเล็กเล็ก ที่ผมปล่อยให้คนของผมไปเที่ยวได้สบายสบาย บางคนทำงานสี่วันต่อสัปดาห์ เหมือนกับผมเสียด้วย ก็ยังอยู่รอดปลอดภัยนี่ครับ คนเรา หากไม่พักผ่อนเสียบ้าง ก็จะมึนงงเวลาทำงานหนักได้ครับ การไปนั่งสมาธิ เข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรม ก็เป็นการพักผ่อนได้อย่างหนึ่งนี่ครับ เราเลือกพักผ่อนได้ตามฐานะของเราครับ หากมีโอกาสลาพักร้อนได้ ก็ลาเถิดครับ ไม่ต้องไปกังวลกับการบ่นให้ฟังของท่านเจ้าของกิจการหรอก ลาตามสิทธิ ก็ไม่ผิดอะไร ท่านก็ว่าอะไรไม่ได้อยู่ดี หากเราเลือกไปทะเล ไม่เลือกเข้าวัดอย่างท่าน เราก็อนุโมทนากับท่านไปอย่างเดียวก็ได้ครับ ลาพักร้อนไม่สะดวกใจระหว่างทั้งคุณและท่านเจ้าของกิจการ ก็เลือกวันหยุดยาว ไปพักผ่อนก็ได้นี่ครับ เดือนหน้าก็ยังมีวันหยุดอยู่ไม่ใช่หรือ จากคุณ : xebec - [ 23 เม.ย. 51 00:16:11 ]

ความคิดเห็นที่ 2 โลกแคบ   เข้าใจว่าการทำบุญเป็นสิ่งที่ดี อันนี้สาธุด้วย! แต่การไปท่องเที่ยว ตจว. หรือ ตปท. มันก็เป็นการเปิดวิสัยทัศน์หรือได้เห็นมุมมองอะไรใหม่ๆเหมือนกัน ไม่ใช่เที่ยวเอาสนุกเฉยๆก็ได้ จริงๆก็ อยู่ที่เราเอง   เราอาจนำสิ่งที่เห็นมาปรับใช้กับการทำงานได้ หรือเวลาที่สมองเราสบายๆ ก็อาจปิ๊งไอเดีย อะไรดีดี ขึ้นมาก็ได้เหมือนกัน   ถ้าให้ทำงาน งกๆๆๆ จนไม่มีเวลาไปเที่ยวพักผ่อน สักพักก็แก่ ไปไหนไม่ไหวอีก เงินมีก็มีก็ต้องเอาไว้รักษาตัวเวลาไม่สบายนอนแบ๊บอยู่บนเตียง โอ้ ชีวิต จากคุณ : _ไม้ป่าเดียวกัน_ - [ 23 เม.ย. 51 00:18:13 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โลกนี้ไม่ได้มีแค่งาน และ งาน ถ้าออกไปเปิดหู เปิดตา เปิดโลกทัศฯให้ตัวเองบ้าง ก็คงดีกว่านี้ เข้าวัดบ่อยๆ   น่าจะเข้าใจเรื่องอัตตาดีกว่านี้เนอะ ว่าไปก็ลาไปเที่ยว   ไปดู F1 ที่สิงคโปร์ดีกว่า แว้บๆๆๆ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 23 เม.ย. 51 00:38:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ประสบความสำเร็จในชีวิตคืออะไร ใช้อะไรมาวัด ยังงัยถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ ถ้าคนเรายังไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองมี หรือเรียกว่าไม่รู้จักพอ ก็หาจุดที่สิ้นสุดไม่ได้ โดยส่วนตัวผมแล้วความสำเร็จก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ผมก็ต้องการความสุขมากกว่า ความสำเร็จที่อยู่บนพื้นฐานของความทุกข์ น่าเศร้าใจยิ่งนัก ในปีหนึ่งผมมีวันหยุดไม่มาก วันหยุดยาวๆ ผมก็จะไปเที่ยวกับครอบครัว เพราะพ่อแม่เรามีเวลาให้กับเราไม่มากเท่ากับเวลาที่เรามีให้กับงาน ความสุขผมก็อยู่ตรงนี้แหล่ะครับ ครอบครัวมาก่อนงานเสมอ ใครจะว่ายังงัยก็ช่าง ผมไม่เคยสนใจ ในเมื่อโลกนี้ยังมีงานให้เราทำเยอะแยะ แต่ครอบครัวของเราไม่ได้มีตัวเลือกให้เหมือนกับงานนี่ครับ จากคุณ : pexengkrub - [ 23 เม.ย. 51 00:39:44 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แนะนำอย่างยิ่งให้รีบลาออกไปเลยครับ ก่อนที่บริษัทของเถ้าแก่คนนี้มันจะเจ๊งกะบ๊งไปซะก่อน เถ้าแก่แกไม่มี Vision เลยจริงๆนะครับนั่นน่ะ ให้ลูกน้องไปเปิดหูเปิดตา ดูโลกภายนอกสิครับ ว่าโลกเขาไปถึงไหนกันแล้ว จะได้เอามาพัฒนาตัวเองให้ทันคนอื่น เถ้าแก่น่าจะคิดงี้เป็นมั่งนะ วันไหนเห็นลูกน้องไม่มีงานยุ่ง แล้วเห็นหน้าลูกน้องอยู่ในออฟฟิต ตัวเองนั่นแหละจะหงุดหงิด งานเอ็งไม่ยุ่ง ก็ไปหาโลกภายนอกดูกันมั่งสิเว๊ย ไปเที่ยวไปเปิดหูเปิดตาแล้วคิดกลับมาด้วย ว่าได้อะไรกลับมาบ้าง ให้ลูกพี่คิด ลูกพี่เที่ยวดูโลกอยู่คนเดียว มันเหนื่อยนะเฟร้ย.... ถ้าไม่ส่งเสริมให้ลูกน้องไปหาความรู้ ไปเปิดหูเปิดตาบ้าง ผมว่าบริษัทคงจะเจริญแน่ๆล่ะครับ เจริญลง เจริญลงล่ะนะ เถ้าแก่ท่านนี้ ไม่ต่างจากกบในกะลา คิดแค่ว่านั่นล่ะสำเร็จของแกแล้ว เพราะเท่าที่ผมเห็นมาของจริง คนที่ประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นไทยหรือต่างชาติ ส่วนตัวเขาเที่ยวกระจายเลยครับ เที่ยวไปด้วย เยี่ยมตลาด ดูตลาดไปด้วย ในทริปเดียวกันนั่นแหละ พอกลับมาไอเดียกระฉูด ลูกน้องมีงานใหม่เข้ามาพลัน ขนาดต้องวิ่งทำงานกันตับแล่บเลยล่ะ แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 51 01:08:05 แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 51 01:02:52 จากคุณ : XOOMER - [ 23 เม.ย. 51 00:50:11 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แกเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลไงครับ น่าเป็นห่วงนะที่มีเจ้านายแบบนี้ เพราะมีทัศนคติที่คับแคบและเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ตัดสินคนอื่นโดยเอาตัวเองเป็นหลัก(ซึ่งแกอาจจะคิดว่าตัวเองเป็นคนดี เนื่องจากเข้าวัด นังสมาธิ) คนที่ทำอะไรซ้ำๆ สิ่งที่พัฒนาคือทักษะ ซึ่งอาจแก้ปัญหาได้ลึก ในเรื่องนั้นๆ แต่โลกก็ไม่ได้มีแค่ด้านเดียว ผมเดานะ ว่าเจ้านายคุณทำงานถ้าไม่ใช่วิศวกร ก็หมอ (ขออภัยไม่ได้ว่า2อาชีพนี้นะครับ แค่ลองวิเคราะห์เล่นๆ) เพราะคนทำงานด้านDesign การเปิดโลกทัศน์ เปิดหู เปิดตา เปิดใจ เป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียว ดังนั้นถ้าไม่ออกไปจากสภาพคุ้นชินเดิมๆ ก็มักจะตีบตันทางความคิดน่ะครับ จากคุณ : -zzz- - [ 23 เม.ย. 51 00:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเป็นผม ผมคงจะอยู่ไม่ได้หรอกครับ วิสัยทัศน์ของผม กะ แกคงจะไปด้วยกันไม่ได้แล้ว เอะอะจะให้เข้าวัดเข้าวาอย่างเดียว ผมว่าลาออกมาบวชเป็นพระไปตลอดชีพเลยดีกว่าไหมครับ ... ผมเองก็อาจจะโชคดีครับ ที่เจ้านายเค้าก็รู้ว่าชอบเที่ยว เค้าก็รู้ว่าผมแอบหนีเที่ยวบ่อยๆ ตามเวลาอันน้อยนิด ยังไปได้ไกลขนาดนั้น คือผมมองว่า ถ้าช่วงไหนเป็นวันหยุด พนักงานมีสิทธิ์ที่จะใช้วันหยุดเพื่อที่จะทำอะไรก็ได้ หน่ะครับ ... ผมคิดว่า ในมุมมองเจ้าของกิจการ ถ้าตนลงมือทำเอง เหนื่อยเท่าไหร่ ผลตอบรับก็เข้าหาตัวเค้าแบบเต็มๆ หล่ะครับ ในขณะที่ลูกจ้าง ทำเท่าไหร่ก็ได้แค่เงินเดือน บางคนอาจจะได้ค่าคอมฯ แถมมาเล้กน้อย (ยิ่งตัวผมเอง ทำงานแบบบุฟเฟต์ครับ -->> เคสเยอะ เคสน้อย รายได้เท่ากันเป๊ะทุกเดือน เหอ เหอ เหอ -->> แรงจูงใจในการทำงานอย่างวัวเลยมีไม่มากเท่าไหร่ ผมยึดหลักว่าทำงานตามหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ให้เค้าว่าเอาได้หน่ะครับ) อย่างที่ผมไปเที่ยวๆ กลับมาก็มีพลังทำงานเยอะครับ เจออะไรหนักก็ไม่ค่อยว่า ไม่ค่อยบ่น เพราะได้ไปปลดปล่อย ได้ทำในสิ่งที่อยากทำมาแล้ว หรือวันไหนที่กำลังจะได้พักร้อนสั้นๆ ได้ไปเที่ยวก็จะมีความสุขเป็นพิเศษ เป็นต้น -- ไม่ใช่ไม่รักงานหรอกครับ ในเวลางานเราก็ทำให้เต็มที่คุ้มค่าจ้าง ... แต่เวลาพักเราก็พักเต็มที่เช่นกัน ... (ไปเที่ยว) การท่องเที่ยว ทำให้คนเราได้แก้ปัญหาจริงๆ นะครับ เราจะทำอย่างไร เมื่อเราอยู่ในต่างแดน ไม่มีใครพูดภาษาไทยได้เลย ภาษาอังกฤษ เราก็กระท่อนกระแท่น เค้าก็กระท่อนกระแท่น ฝนก็ตก ไฟก็ดับ หลงทาง กลับที่พักไม่ถูก .... เงินก็เหลืออยู่ไม่กี่บาท นั่นหล่ะครับประสบการณ์ตรงของผมเลย เหอ เหอ นอกจากนี้ก็ไปเปิดโลกทัศน์ด้วยว่า ประเทศอื่นเมืองอื่นเค้าเป็นยังไง ไปๆ มาๆ อาจจะปิ๊งไอเดียดีๆ อะไรกลับมาก็ได้ .... ปล. ผมคิดว่าสำหรับอาชีพหมอสัตว์ โดยพื้นฐานส่วนใหญ่ชอบเที่ยวกันอยู่แล้วครับ เท่าๆ ที่ผมเห็นรุ่นพี่ เพื่อนๆ น้องๆ ผมนะ เจ้านายเค้าก็มักจะไม่ว่าอะไรหรอก เพราะตนเองก็ชอบเที่ยวเหมือนกัน .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 23 เม.ย. 51 01:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ที่ทำงานผมโหดร้ายชะมัด ช่วงก่อนหยุดสงกรานต์ห้ามพนักงานทุกระดับลาทุกกรณี แม้แต่ลาพักร้อนก็ไม่ได้ทั้งที่เป็นสิทธิส่วนตัว บางคนจองรถกลับต่างจังหวัดไว้ล่วงหน้าแล้วด้วย ใจร้ายจัง.... จากคุณ : pexengkrub - [ 23 เม.ย. 51 01:14:07 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คำว่าชอบเที่ยว อาจจะหมายถึง ชอบเที่ยวกลางคืน หรือเปล่าครับ จากคุณ : ตะพานหิน - [ 23 เม.ย. 51 01:19:08 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ต่างจิตต่างใจกันครับ ผมก็เห็นมีคนประสบความสำเร็จ ด้วยวิธี และสไตล์ที่ต่างกัน บางคนเที่ยวเก่งก็มี บางคนบ้างานสุดๆ ก็มี ทั้งนั้น ถ้าว่ากันตามนิสัย top CEO บางคนก็เฮี้ยบจัด บางคนระเบียบจัด บางคน nice สุดๆ บางคนอะไรก็ได้ ดังนั้นมีทุกแบบครับ แต่เรื่องบอกว่าเที่ยวแล้วจะไม่มีภูมิคุ้มกันปัญหา นี่ไม่รู้พี่แกใช้อะไรคิดนะครับ ชีวิตคนมีหลายด้าน จะบ้างานอย่างเดียว มันก็คงไม่ได้นะครับเจ้านาย จากคุณ : เกย์จิ (เกจิ) - [ 23 เม.ย. 51 01:20:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โอ้ ชีวิต.... จากคุณ : ตะไคร้ ใบมะกรูด - [ 23 เม.ย. 51 02:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นใจครับ แต่ทำงานกับการพักผ่อนต้องมีสัดส่วนที่เหมาะสมครับ ทำแต่งานอย่างเดียวคงไม่ไหว หรือพักผ่อนมากไปก็คงไม่ดี แต่ขอนอกเรื่องนิดหนึ่งเรื่องการใช้ภาษา อยากให้ใช้ให้ถูกๆครับ - เสียอารมณ์ - โอวาท - ปลอดโปร่ง จากคุณ : P u n S i b - [ 23 เม.ย. 51 02:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ครับ...เจ้าของบริษัท ประสบความสำเร็จ ไม่ชอบเที่ยว ทำงานมาตลอดชีวิต ว่างๆ ลองถามท่านดูนะครับ หรือสังเกตเอาก็ได้ว่าชีวิตครอบครัวท่านมีความสุขดีมั้ย สุขภาพท่านดีมั้ย เข้าวัดเข้าวา ทำบุญ นั่งสมาธิก็ดีครับ... แต่ทำไมถึงไม่เข้าใจชีวิต  ว่าคนเรานี่ ชีวิตไม่ได้ยืนยาวกันสักเท่าไหร่... หาความสุขให้กับชีวิตบ้าง สร้างความทรงจำที่ดีๆ ไว้กับครอบครัว และคนที่เรารักบ้าง ท่องเที่ยวด้วยกัน หาประสบการณ์ร่วมกันบ้าง ก็จะดี... คนท่องเที่ยวก็ต้องเป็นคนที่รู้จักวางแผนนะ บางครั้งต้องวางแผนนานเป็นปี ต้องหาข้อมูล และเมื่อเดินทางไปแล้ว เจอกับปัญหา ก็ต้องแก้ปัญหาเช่นกัน เหมือนกันกับการทำธุรกิจนั่นแหละ... ถามจริงๆ เถอะ...เวลาตายไป เอาสตางค์ไปได้ด้วยสักบาทนึงมั้ย...ไม่ได้ครับ ไม่ได้แม้แต่สลึงเดียว ...กายดับ แต่ความทรงจำนั้นจะยังคงอยู่กับเรา อยู่ในจิตวิญญาณของเรา และของคนรอบข้าง ของครอบครัว ของคนที่เรารัก...คนเราเกิดมาต้องทำงาน แต่ งานไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตครับ... ทำงาน ท่องเที่ยว พักผ่อน ฟังเพลง หาอาหารอร่อยกิน ทำบุญ ได้รัก ได้เป็นผู้ให้ ได้เป็นผู้รับ ได้ทุกข์ ได้สุข...และอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ทำ ยังไม่ได้เรียนรู้ โลกมันกว้าง แต่ชีวิตนี้ก็ไม่ได้ยืนยาวนัก ใช้ให้คุ้มครับ.... จากคุณ : กานต์ (jmararoj) - [ 23 เม.ย. 51 03:02:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่า เจ้าของบริษัทที่ จขกท ทำงานอยู่ด้วย ก็คงได้อย่างเสียอย่างละครับ เพียงแต่แกคงมีความสุขที่ได้ทำงาน ทำงาน เข้าวัด แต่แกไม่น่าพูดว่า คนที่เอาแต่เที่ยวจะไม่ประสบความสำเร็จเลยอ่ะครับ ดูเป็นคนมองอะไร ด้านเดียวยังไงไม่รู้ คนที่บริหารเวลา แล้วก็จัดการชีวิตเป็นน่าจะมีความสุขในการทำกิจกรรม หลายๆอย่างนะ แล้วอีกอย่างการท่องเที่ยวมันก็เป็นกำไรให้ชีวิตดีออก จากคุณ : @พันธุ์อาถรรพ์ - [ 23 เม.ย. 51 04:40:04 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับเรา เราว่าทุกอย่างไปด้วยกันได้ อยู่ที่การแบ่งเวลานะ และกำลังทรัพย์ ทุกวันนี้เราทำงานเต็มที่ เที่ยวเต็มที่ และทุกปีก็ยังสามารถมีเวลาไปนั่งสมาธิเข้าวัดด้วย จริง ๆ การปฏิบัติธรรมไม่จำเป็นต้องเข้าวัดเสมอไป ไปเที่ยวบางที่ ยังสงบกว่าวัดเลย สงบ เงียบ จนได้ยินเสียงของความเงียบ ใครเคยได้ยินเสียงของความเงียบเวลาไปเที่ยว ต่างจังหวัดที่ไม่มีแม้แต่รถผ่านมั่งคะ แค่นั้นก็ทำให้เราสงบได้อย่างบอกไม่ถูกเลยหล่ะ เจ้าของกระทู้ก็ทำงานให้เต็มที่ แล้วเดือนหน้าก็จะได้ไปเที่ยวให้เต็มที่ได้ด้วยเหมือนกัน อย่าคิดมาก เอารูปมาฝากด้วยน้า จากคุณ : noiarun - [ 23 เม.ย. 51 07:11:53 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คำว่า "ประสบความสำเร็จในชีวิต" ของแต่ละคนต่างกันนะคะ อ่านแล้วก็ขำๆ ดี ... ต่อให้อธิบดีมาพูดกับเราแบบนี้ ((เราทำงานราชการ)) เราก็ไม่เลิกเที่ยวหรอกค่ะ 555 โลกกว้างใหญ่มากมาย ชีวิตมีตั้งหลายมุมมอง ^^ จากคุณ : Clear Ice - [ 23 เม.ย. 51 07:50:53 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จขกท. ครับ ไม่ต้องไปสนใจ เขาจะพูดดักคออะไรก็ช่างครับ การลาพักร้อนยาวๆ ก็เป็นสิทธิของพนักงานด้วยครับ ผมเห็นหลายคนแล้วครับ ตำแหน่งหน้าที่การงานดี ฉลาด เก่ง แต่ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดมาก็เยอะ ความรู้ที่ได้จากหนังสือ หรือการทำงานมันก็ส่วนนึง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตครับ ยังมีความรู้จากประสบการณ์อื่นอีกเยอะนะครับ อย่างเจ้าของบริษัทเขาเองก็มีวิธีการพักผ่อนในแบบของเขา และแต่ละคนก็มีวิธีการพักผ่อนในแบบที่แตกต่างกันออกไป ว่าแต่ว่า ที่เจ้าของบริษัทพูดแบบนี้อ่ะ... ต้องการไซโคให้พนักงานทำแต่งานเพื่อให้บริษัทเจริญยิ่งขึ้นไปอีกหรือป่าว... ถ้าเป็นแบบนั้น ขอให้ จขกท. อ่าน คห. ลุงซูม ในบรรทัดแรกอีกครั้งครับ จากคุณ : ฝนแปดแดดสี่ - [ 23 เม.ย. 51 08:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ธรรมดาของหัวหน้าค่ะ ยิ่งเจ้าของยิ่งแล้วใหญ่ แต่จริงๆแล้ว คนเราต้องมีพักผ่อนบ้างค่ะ ไม่งั้นมันจะไปก่อนวัยอันควร คริๆๆ การสมาธิก็ดีจริงๆค่ะ แต่มันก็ต้องเปิดหูเปิดตาบ้าง จากคุณ : Proclick28 - [ 23 เม.ย. 51 08:14:00 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านกระทู้จบ ปรี๊ดเลยครับ อยากตอบทันที แต่พออ่านความเห็นเพื่อนๆ ทุกท่านแล้ว อ๋อ... ตอบแทนไปหมดแล้วนี่ งั้นขอตอบว่า เห็นด้วยกับทุกท่านครับ จากคุณ : LekStudio - [ 23 เม.ย. 51 08:18:41 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้ายังไม่เปลี่ยนที่ทำงานไปก่อน   5 5 5 555 5555 ลางาน....ไม่เห็นต้องบอกว่าไปไหนเลยนี่... จากคุณ : Art999. - [ 23 เม.ย. 51 08:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าคุณรักการท่องเที่ยว อนาคตคุณไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต แน่นอนครับ ผม ยืนยัน คุณจะไม่ประสบความสำเร็จ กับ บริษัทนี้หรอกครับ ไปหาบริษัท อื่นเถอะครับ การพักผ่อน การออกไปสู่โลกกว้าง มันทำให้เรามองอะไรในชีวิตได้อีกหลากหลายแง่มุม การทำงานก็คือการทำงาน การพักผ่อนก็คือการพักผ่อน ส่วนที่ท่านเจ้าของกิจการพูดแบบนั้น หมายถึงเขาเครียดมากเกินไป เห็นแก่ตัวมากเกินไป และทุกข์เรื่องงานมากเกินไป อย่าไปถือสาเขาเลยครับ ถ้าบริษัทฯ คุณยังมีวันลาพักร้อน ใช้ไปเถอะครับ ถึงคุณจะเที่ยว จะประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ผมก็คิดว่า คงไม่เกี่ยวกับเจ้าของกิจการคนนี้ซักเท่าไร คุณประสบความสำเร็จในชีวิต ที่บริษัทฯ เขา แสดงว่าเขาย่อมประสบความสำเร็จมากกว่าคุณ จริงไหมครับ อย่าเครียด เที่ยวโลดครับ จากคุณ : จังเกิ้ล - [ 23 เม.ย. 51 08:26:00 ]

ความคิดเห็นที่ 22 รับรองว่าจะต้องเป็นเจ้าของบริษัทแก่ๆ หัวเก่าแน่ๆ นายผมขนครัวไปเที่ยวทุกปีๆละ 2 ครั้ง เมื่อก่อนตอนยังไม่มีน้องตี๋เล็กไปเที่ยวกะภรรยาทุกปีเลย พอมีน้องตี๋เล็กก้อเลยซาๆไปบ้าง ตอนผมไปขอลาพักร้อนไปเที่ยวนายบอกว่า "เที่ยวเผื่อผมด้วยนะ" ... ว่าแต่แว่ .... บอริสัดอาหมูต้องการทนายอ้วนๆซักคนป่ะคราบบบบ อิอิอิ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 23 เม.ย. 51 08:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ทำไมต้องเชื่อ     สิ่งที่ใช้ได้กับคนอื่น กับเราอาจไม่ใช่ เงือนไขมันต่างกัน จากคุณ : suayong - [ 23 เม.ย. 51 08:37:04 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ถามแกหน่อยว่ารู้จัก ดำรงค์ พุฒตาลมั้ย จากคุณ : cantare - [ 23 เม.ย. 51 08:41:47 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เวงกำ   คนเราเลือกวิธีพักผ่อนไม่เหมือนกัน บางคนมีความสุขกับการดูหนัง ฟังเพลง   บางคนมีความสุขกับการเข้าวัด บางคนมีความสุขกับการเที่ยว บางคนมีความสุขกับการได้เลี้ยงสัตว์สัตว์เลี้ยง ฯลฯ จะไปเบรคเขาไว้ทำไม  ถ้าเขาไปพักผ่อนเขาก้อมีความสุขตามแบบของเขา  ถ้าเราเจอหัวหน้าแบบนี้คงเซ็งตายเลย จากคุณ : แก่ กรุงเก่า - [ 23 เม.ย. 51 08:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แกก็พูดถูกของแกนะคะ ................ ในเมื่อวันนี้ยังไม่ประสบความสำเร็จในระดับเจ้าของบริษัทอย่างที่เค้าว่ามา    ก็ต้องพยายามทำให้เค้าเห้นว่าคนชอบเที่ยวอย่างเรานั้น ก็ประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน แหม...พวกชอบเข้าวัด   ก็ไมได้เป็นเจ้าของบริษัทกันทุกคนหรอกคะ ปัญหาเวลาเที่ยวกับปัญหาในการทำงาน  ก็ใช้ทักษะต่างกัน  เที่ยวได้ไม่ว่ากัน   ถ้าไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น  ลาตามสิทธิ์ที่ พนง. มี   ถ้าคุณไปตั้งกระทู้พวกชอบเข้าวัดวา  อาจจะได้คำตอบอีกแบบนึงละคะ ........ ในมุมมมองอิชั้น....ถ้าอิชั้นเป็น เจ้าของบริษัท สงสัยจะเที่ยวทั้งปีอะคะ.....แหะๆ.... จากคุณ : PaNok@BluePlanet - [ 23 เม.ย. 51 08:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แค่บรรทัดแรกก็ผิดแล้ว ผมว่าคนที่ไปเที่ยว ไปเปิดหูเปิดตาสิครับ ถึงได้มีภูมิคุ้มกัน รู้จักแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รู้จัดดัดแปลง เข้ากับสถานการณ์ต่างๆได้ ย่อหน้าที่2- อันนี้ถูกบางส่วนนะครับ ผมเชื่อว่าแกประสบความสำเร็จครับ ไม่งั้นคงไม่กล้ามายืนพูดแบบนี้ (แต่การประสบความสำเร็จของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน บางคนแค่นี้ก็ถือว่าตัวประสบความสำเร็จแล้ว บางคนแค่นี้ก็คิดว่ายังไม่ถึงขั้นประสบความสำเร็จ ยังต้องทำต่อไป) แต่สำหรับผมแล้ว ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ไม่เท่าประสบความสำเร็จในการดำรงชีวิตครับ ที่เราทำงานๆกันนี่ก็เพื่อความสุขในชีวิตมากกว่าความสุขในหน้าที่การงานนะครับ เพราะการงานคือส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ชีวิตคือทั้งหมด ถ้ามัวแต่ทำงานแล้วขาดตกบกพร่องต่อครอบครัว หรือบกพร่องต่อตัวเองคือไม่ให้ตัวเองได้พักผ่อนบ้างเลย ผมถือว่าไม่ประสบความสำเร็จครับ ย่อหน้าที่3- แต่อย่างว่าแหละครับ ความชอบแต่ละคนไม่เหมือนกัน เจ้านายเขาอาจจะชอบเข้าวัด นี่คือความสุขคือการพักผ่อนของเขา แต่ก็ไม่สามารถนำมาตัดสินคนอื่นได้ว่าจะต้องเหมือนตัวเองนะครับ (ที่สำคัญที่สุดคือครอบครัว ลูกเมียครับ ต้องทำเพื่อความสุขพวกเขาด้วยนะครับ) ขอให้ท่าน จขกท ได้ไปเที่ยวอย่างที่ตั้งใจไว้นะครับ แล้วจะได้พิสูจน์ให้ท่านเจ้าของรู้ด้วยว่า คนไปเที่ยวก็ประสบความสำเร็จได้ ทั้งหน้าที่การงาน และ ในชีวิตครับ ^_^ จากคุณ : แฟน not found - [ 23 เม.ย. 51 08:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อยากให้พนงขยันๆ ทำกำไรให้บริษัทเยอะๆ แกจะได้รวยยิ่งๆขึ้นไป ส่วนพวก พนง ก็ เอาโบนัสไปนิดๆหน่อยๆ จากคุณ : babyhoney - [ 23 เม.ย. 51 09:05:22 ]

ความคิดเห็นที่ 29 หัวหน้าคนไหน อยากให้ลูกน้องลาเที่ยวบ่อยๆ มีแต่ไม่อยากให้หยุด จะได้ทำงานเยอะๆ ไปเที่ยวมีแต่เสียเงิน ทำงานสิได้เงิน ต้องหาข้อมูล ต้องจองรถ จองตั๋ว จองโรงแรม เดินทางไกล เหนื่อย กลับมาก็ทำงานได้ไม่เต็มที่ คุยกันแต่เรื่องเที่ยว  วางแผนเที่ยวครั้งต่อไป ไม่เห็นคุยเรื่องงาน  เจ้านายที่ไหนจะชอบ จากคุณ : vespa744 - [ 23 เม.ย. 51 09:07:40 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ชีวิตอิฉันไม่ไม่ต้องการแค่งานกะเงินค่ะ จากคุณ : EmptyMemory - [ 23 เม.ย. 51 09:12:58 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่เห็นยากอะไรเลยครับ น้ำเชี่ยวก็อย่าไปขวางน้ำ ตามน้ำไปเลย คราวหน้าจะหยุดไปเที่ยว ก็ให้เหตุผลกับเจ้านายว่า จะไปนั่งสมาธิที่วัดนี้ๆๆที่จังหวัดนี้ กลับมาจะได้จิตใจสะอาดทำงานได้อย่างเต็มที่ แล้วคุณก็ไปเที่ยวให้กระจาย (อย่าให้ความแตกล่ะ) ดูซิ บอกไปแบบนี้ แกจะขัดไหม? พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสครับ อิๆ --==NICK==-- จากคุณ : NICK (||ic|<) - [ 23 เม.ย. 51 09:17:31 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เคยเจอเจ้านายแบบนี้ค่ะ ตอนนี้ไม่อยู่ด้วยแล้ว ลาพักร้อนไปต่างจังหวัดก็ไปบ่นกับพนักงานคนอื่น ทั้งที่เป็นสิทธิของเราแท้ ๆ ตัวเองไม่ไปแล้วก็ไม่อยากให้คนอื่นไปประมาณนั้น น่าเบื่อค่ะเจ้านายแบบนี้ ขนาดใช้สิทธิของเราเองยังไม่ได้ กลับมาจากเที่ยวน่าจะมีความสุข ต้่องมาฟังเรื่องที่เค้าบ่นเราอีก กลายเป็นว่ากลับมายิ่งเครียดค่ะ จากคุณ : น้องหมูหูม่วง - [ 23 เม.ย. 51 09:45:50 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ชีวิตต้อง"สมดุล"                   งาน เงิน ....มาด้วยกัน                   เพื่อน  การเที่ยว  โลกทัศน์-มุมมองชีวิต ความสุข(ทุกข์)   เกี่ยวร้อยกันมาตามลำดับ                    แฟน  ชีวิตสมรส-ครอบครัว( +กิ๊ก) ลูก  ..  ก็มาเป็นสเต๊ป... คุณโชคไม่ดี  ได้ทำงานกับคนที่มองโลกด้านเดียวที่บูชางานคือชีวิต แต่ คุณจขกท เลือกชีวิตของตัวเองได้นี่คะ มองๆ หางานอื่น / บ.อื่น เถอะ ค่ะ อยู่กับคนใจคอคับแคบ.... ชีวิตเราจะ "แคบ" กระจิ๊ดริด ค่ะ จากคุณ : Talay&Me - [ 23 เม.ย. 51 10:05:40 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เห็นบอกว่า มีหัวหน้าคนไหน ชอบให้ลูกน้องออกไปเที่ยว มีแต่ชอบให้เห็นหน้ามาทำงานทุกวัน แหะ แหะ ผมเนี่ยแหละครับ วันไหนเห็นลูกน้องไม่มีงานยุ่ง แล้วยังมาเสนอหน้านั่งจุ้มปุ๊กให้ผมเห็นหน้า ผมจะโคตะระหงุดหงิดเลยล่ะ คำสอน (หรือเรียกว่าเหน็บแนม) ลูกน้อง ก็มักจะพูดบ่อยๆว่า ทำงานการตลาด มานั่งดูหน้ากันเอง มันจะรอดมั๊ยวะเนี่ย ไปเปิดหูเปิดตาดูโลกข้างนอก ไปดูหน้าดูตา ไปพูดไปคุยกับลูกค้า ข้างนอกโน่นกันซะมั่งดิว๊อยยยย ทำการตลาดนั่งเทียน เดี๋ยวก็ได้เจ๊งกันพอดี.... แบบนี้เรียกว่าบ้าป่าวฮับ แหะ แหะ จากคุณ : XOOMER - [ 23 เม.ย. 51 10:09:13 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุณก็อย่าไปถือสาเจ้านายคุณให้มากในเรื่องนี้ซีจ๊ะ ต่างคนต่างจิต ต่างคิด ต่างมุมมอง ถ้าเอาความคิดทุกอย่างของคนๆ หนึ่งมาใส่ในความคิดเราหมด คุณก็มีแต่ทุกข์กับทุกข์เท่านั้นแหละ คุณก็ทำงานของคุณ เที่ยวของคุณไป ชีวิตคุณ คุณกำหนดเองนา จากคุณ : SEAPATCHA - [ 23 เม.ย. 51 10:13:11 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เป็นเรานะ อยู่ไม่ได้หรอก... โชคดีเจ้านายชอบเที่ยวเหมือนกัน เลยเข้าใจกันดี คุยกับก็ถูกคอ เจ้านายคุณ จขกท นี่ แคบเนอะ สงสารลูกเมียจังเลยอ่ะ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 23 เม.ย. 51 10:29:35 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ทำในสิ่งที่ชอบ และชอบในสิ่งที่ทำ ต่างหากล่ะที่ถือว่าประสบความสำเร็จในชีวิต จากคุณ : yinnerella - [ 23 เม.ย. 51 10:33:40 ]

ความคิดเห็นที่ 38 หุๆๆ ทำงานอย่างเดียว เดี๋ยวก็ไปเปิดบริษัทแข่งกะเจ้านายหรอก ทำไปเที่ยวไป เป็นลูกน้องเจ้านายนี่แหละ ดีแล้ว จากคุณ : น้ำสังข์ - [ 23 เม.ย. 51 10:44:45 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เค้าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานน่ะ น่าจะมองคนอื่น ๆ บ้างนะ เปิดใจกว้างซักนิด การท่องเที่ยว ได้อะไรมากกว่าที่คิด จากคุณ : Matira Point (Travellor) - [ 23 เม.ย. 51 10:56:03 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ในฐานะคนชอบเที่ยว ขอตอบง่ายๆน่ะครับ ว่าเกิดมาทั้งที ถ้ามีโอกาส สุขภาพแข็งแรง ถึงจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ในแง่ของทางวิทยากร แต่สำหรับตัวเราเอง ประสบการณ์ที่ได้รับจากการท่องเที่ยว ทำให้ชีวิตเรามีความสุข มีแรงและกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป นั้นก็เพียงพอแล้วครับ คนที่ประสบความสำเร็จหลายคน ก็ไม่มีความสุขในการใช้ชีวิตน่ะครับ จากคุณ : ไม่หนักหัวใครน่ะเออ (sertfinal) - [ 23 เม.ย. 51 11:17:50 ]

ความคิดเห็นที่ 41 โอ้แม่เจ้า...เครียดแทน จขกท. เลยอ่ะมีนายจ้างแบบนี้ คิดได้ไงเนี่ย   กลุ้มค่ะ จากคุณ : มดสีเพลิง - [ 23 เม.ย. 51 11:38:30 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อิอิ ขัดใจคนทำมาหาเที่ยว อย่างแรง!!!!!!!! จากคุณ : GoYai - [ 23 เม.ย. 51 11:40:57 ]

ความคิดเห็นที่ 43 คนเราต่างกันค่ะ มุมมองคนละมุมกัน ต่อให้ยืนอยู่มุมเดียวกัน ยังมองเห็นต่างกันได้เลยค่ะ บางคนก็อาจจะเป็นอย่างที่เจ้านายคุณพูด เที่ยวแล้วมีแต่เที่ยวแก้ปัญหาเองไม่เป็น เพราะเป็นลูกทัวร์ตลอด เกิดปัญหาอะไรก็รับรู้แต่ไม่ต้องแก้ไข ส่วนคนที่จัดแผนเที่ยวเอง ติดต่อทุกอย่างเอง เมื่อเกิดปัญหาก็ต้องแก้ไขกันไปเอง แก้เองไม่ได้ ก็ถามผู้รู้ ได้ข้อคิด ได้วิธีแก้ปัญหา ได้เรียนรู้ ได้ประสบการณ์ คนเราทำอะไรกันคนละอย่าง ประสบการณ์การที่ได้ก็คนละอย่างค่ะ เราเองไม่ได้เก่งงานอย่างเพื่อน แต่ก็ภูมิใจที่เป็นเราในแบบเรา หาข้อมูลเที่ยวเองได้ไม่ง้อทัวร์ ทำขนมกินเองได้ไม่ต้องซื้อ หาเงินใช้เองได้ไม่ต้องขอใคร ไม่ต้องเป็นใหญ่เป็นโต เป็นคนที่คนอื่นนับหน้าถือตา แต่เราก็พอใจในแบบที่เราเป็น มีความสุขดีด้วยค่ะ  ^^ ถ้าเจ้านายไม่ได้ถึงขั้นออกกฎห้ามเที่ยว ก็ไม่เป็นไรนิคะ อิอิ แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 51 12:03:07 จากคุณ : luvammie - [ 23 เม.ย. 51 11:55:42 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ที่ทำงานก็มีอยู่คนหนึ่งค่ะ ตำแหน่งใหญ่กว่าเรา ไม่เคยหยุดไม่เคยลา เอางานกลับไปทำบ้าน ขนาดป่วยยังไม่หยุด พักร้อนไม่เคยใช้ อะไรจะบ้างานขนาดนั้น นับเป็นลูกน้องในฝันของบรรดาเจ้านาย แต่ แต่ เจ้านายเราไม่เหมือนใคร ยุพี่เคนนี้ให้ไปเที่ยวตลอด ขนาดจะออกตังส์ให้ไปเที่ยวเลยน่ะ ให้ไปต่างประเทศเป็นเดือนๆ พี่แกยังไม่ไปเลย -_-" เจ้านายก็มาแอบบ่นว่าเจอลูกน้องแบบนี้เจ้านายเลยไม่กล้าไปเที่ยวไหนเลย 5555 จากคุณ : ohhioh - [ 23 เม.ย. 51 11:59:00 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ชีวิตใครชีวิตมัน ประสบการณ์ใครประสบการณ์มัน หากสิ่งที่ทำไม่ได้ละเมิดหรือทำร้ายคนอื่น ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร เราแต่ละคนมีการดำเนินชีวิตต่างกัน ผมว่าเจ้าของกิจการก็มีสิทธิ์ที่จะคิดแบบนั้น เพราะเขามีประสบการณ์แบบนั้น แต่ที่ผิดคือมาเหมารวมว่าคนที่ "ต่าง" จากเขาเป็นคนที่ทำไม่ถูก จากคุณ : Lost Lollipop - [ 23 เม.ย. 51 12:08:36 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ก็จริงของแกอ่ะครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะถูกหนิ เป็นธรรมดาที่ใครเดินทางไหนประสบความสำเร็จแล้วก็จะบอกให้คนอื่นเดินตาม มันเป็นอย่างนี้ทุกวงการแหล่ะ ... ------------------ อย่างเซียนหุ้นบางคน ผมก็เห็นแกแนะนำให้ลงทุนตามที่แกเคยๆ ทำได้ หรืออย่าง นักภาษี/นักกฎหมายบางคน ก็ชอบให้ไปออม/ลงทุนกับพวกอสังหาฯ เพราะแกมั่งคั่งมากับเรื่องเหล่านี้ แต่ไม่ไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จแบบนี้สำหรับทุกคนนี่ครับ ... ถ้าอย่างผมเนี่ย ... ผมเลือกไปเที่ยวอ่ะ ... ทุกๆ ครั้งที่(หนีงาน) ไปเที่ยว ยามที่ตัวเองรู้สึกล้าๆ หรือว่าเริ่มคิดอะไรไม่ออก ก็จะไปพักผ่อน หาเรื่องไปอบรมโน่นบ้างนี่บ้าง ... มันจะกลับมาพร้อมความรู้สึก พลัง และ Idea ต่างๆ ที่อยากจะลุยงานต่อ ไม่งั้น Idea และหัวสมองมันไม่แล่น ... คิดงานไม่ออก ... จากคุณ : BO Lovely - [ 23 เม.ย. 51 12:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เคยได้ยินสุภาษิตคำพังพืด เอ๊ย พังเพย ของจีน เกี่ยวกับการเดินทางหาประสบการณ์ ประมาณว่า อ่านหนังสือเป็นตั้ง ไม่เท่ากับ เดินทาง.. อะไร หลี้ ๆ  นี่แหละ แฮ่ะๆ จำไม่ได้อ่ะครับ แต่เค้าเปรียบเที่ยบประมาณว่า ประสบการณ์จากการเดินทาง มีค่ามากมายกว่าการอ่านหนังสือ เฉพาะ เจ้าของบริษัทคงวิสัยทัศน์แคบไปสักนิดนะครับ หรือไม่ก็เห็นแก่ประโยชน์ของบริษัทมากไป แต่สำหรับผม การอ่าน BP มีค่ามากมายกว่า การอ่านหนังสือท่องเที่ยวเป็นตั้งๆ  อิอิ จากคุณ : หมาน้อยคอยเจ้าของ - [ 23 เม.ย. 51 12:19:09 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เห็นใจคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ แต่อย่าไปถือสาเจ้านายคุณเลย ต่างคนก็ต่างความคิด ตัวแกเองไม่เคยไปไหน (หรือถ้าไปกับลูกเมียก็คงเป็นแบบไปช็อปปิ้ง ไม่ใช่เพื่อไปหาประสบการณ์) เพระฉะนั้นถ้าแกจะคิดว่าไปเที่ยวมีแต่เสียเงิน กับไร้สาระ ก็คงจะถูกของแก จากที่บอกว่าแกไปวัด ไปนั่งสมาธิ แล้วเกิดประโยชน์ แก้ปัญหาได้ จิตใจสงบ ก็แสดงว่า แกก็คงไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร เพียงแต่กรรมเก่าของแกคงไม่มากพอ ให้แกเห็นในมุมมองที่แตกต่าง ลองหาบทความของหลวงพี่ ว.วชิรเมธีไปให้แกอ่านซิค่ะ หลวงพี่ท่านเป็นพระที่เขียนหนังสือธรรมะดีมาก ๆ ท่านหนึ่ง และท่านก็เป็นคนชอบเที่ยวด้วย ท่านบอกว่าเป็นการเปิดกว้าง และเป็นโอกาสให้เราได้เรียนรู้ เพราะความรู้ หรือประสบการณ์ไม่ได้มีอยู่แต่ในห้องเรียน ตัวเองนะเป็นคนที่ชอบเที่ยว หรือชอบเดินทางมากถึงมากที่สุด และก็เป็นคนสนใจในธรรมะ และก็เข้าวัดเป็นครั้งคราวค่ะ อย่างที่ท่านพุทธทาสบอก "ในดีมีเสีย ในเสียมีดี" ไม่มีอะไรดีอย่างเดียว เสียด้านเดียว และทุกอย่างต้องทางสายกลาง ทำงานก็ต้องทำเต็มที่ ตามกำลังที่เรามี ไม่ใช่ทำจนตาย การเที่ยวก็เหมือนกัน ไม่ใช่เที่ยวเอาเป็น เอาตายไม่สนใจงานการ (ซึ่งเราคิดว่า คุณคงไม่ใช่คนแบบนั้นแน่นอน) การเข้าวัดก็มีข้อดี คือชำระ และขัดเกลาจิตใจ แต่ถ้าแกไปวัดบ่อย ๆ แต่แกยังคิดได้แค่นี้ ก็คงต้องให้เวลาแกอีกหน่อย (แกถึงคิดได้) เราขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัวค่ะ บริษัทฯ เก่า เค้าให้เราลาหยุดได้ 20 วัน แต่แน่นอน ไม่ค่อยมีคนไทยลาขนาดนั้น (เมื่อประมาณ 8-9 ปีก่อน) เราเป็นคนแรกที่ลาครบ ตั้งแต่บริษัทฯ มาตั้งสาขาที่เมืองไทย นายเราเป็นคนที่ไม่ชอบให้ลางานนาน ๆ (คือมากกว่า 1 อาทิตย์) เพราะด้วยงานของเราแล้วมันอาจจะมีปัญหาได้ เราก็ไม่พูดไม่จา ทำงานไปเรื่อย ๆ ถ้ามีงานเยอะก็อยู่ดึก ทำให้เสร็จ ได้ลูกค้าเพิ่ม แก้ปัญหาให้ลูกค้า เสาร์อาทิตย์ถ้ามีปัญหาเราก็มาทำงาน แล้วเราจะลาไปเที่ยวยุโรปตอนเดือนธันวาคมประมาณ 3 อาทิตย์ เราก็ไปขอนาย ตั้งแต่ เดือนมีนาคมเลย นายก็บอก ทำไมไม่เดือนเมษาฯ ช่วงสงกรานต์ เราก็บอกเราอยากไปฉลองคริสมาสต์มากกว่า นายอึ้งไปพัก แต่บอกว่า ถ้าเพื่อนร่วมงาน รับปากว่าจะช่วยดูแลลูกค้าเราช่วงที่เราไม่อยู่ 3 อาทิตย์ เค้าจะให้ลา เพราะเห็นว่าทำงานขยันขันแข็ง รับผิดชอบดี ซึ่งเราก็คิดว่า พอเราทำงานเต็มที่ เค้าก็คงจะว่าเราได้ไม่เต็มปาก พอหลัง ๆ ตอนนี้ ก็เลยเกิดเทรนด์ใหม่ที่บริษัทฯ คือพนักงาน ลาหยุดกันนาน ๆ และเพื่อน ๆ ก็เต็มใจทำงานให้แทน เพราะตอนเพือนลา เราก็ทำงานให้เค้า ช่วย ๆ กัน ตอนนี้เราย้ายมาอยู่บริษัทที่เค้าให้ลาได้แค่ปีละ 9 วัน เรานะสุดแสนจะเซ้งและเศร้า แต่ท้ายสุดเราก็ทำงานให้สุด ๆ จนนายพอใจ ถามว่า รู้สึกยังไงกับงานที่นี่อะไรประมาณนี้ เราก็บอก เราชอบ แต่เราไม่ชอบเรื่องวันลา เพราะเป็นคนชอบเที่ยว เราจะพยายามทน แต่ถ้าเราไม่ไหว เราอาจจะต้องไปคิดว่าบริษัทฯ เหมาะกับเราหรือเปล่า นายเลยบอกว่า ถ้าเราอยากไปจริง ๆ จำเป็นต้องไปเพื่อชาร์ตแบทฯ เค้าก็จะให้ลาแบบ ลากิจ (หรือลาพิเศษ) แต่สุดท้าย เราขอเค้าลาแบบ Leave without Pay แทน เพราะเราไม่อยากทำให้คนในองค์กรมีปัญหา โดยเฉพาะเราซึ่งมีลูกน้อง (เดี๋ยวมันทำบ้าง ด่าเค้าได้ไม่เต็มปาก) แต่ถ้าเป็นลุกน้องเราที่ทำงานหนักมาขอลา เราให้หมดเลย แบบว่าซื้อใจ เพราะตอนทำงาน เค้าก็ทำให้เราเต็มที่ ลาไปเถอะค่ะ ไปเพื่อเติมเต็มพลังให้กับชีวิตคุณไง แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 51 12:30:55 จากคุณ : Travel Animal - [ 23 เม.ย. 51 12:25:30 ]

ความคิดเห็นที่ 49 รับไม่ได้ค่ะ  คนละแนวความคิดก็คงต้องแยกทางกัน  ชิ การท่องเที่ยวคือการพักผ่อน และให้อาหารสมอง  จิตใจผ่องใส จากคุณ : ดื้อมาตั้งแต่เกิด - [ 23 เม.ย. 51 12:59:14 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ดูเขาพูดแล้วเครียดแทน ไปเที่ยวดีกว่า อิอิ จากคุณ : ไม้ (ไม้หลักปักขี้เลน) - [ 23 เม.ย. 51 13:14:42 ]

ความคิดเห็นที่ 51 แหะๆ เจอเจ้านายอย่างของ จกขท สงสัยได้ลาออก (หรือโดนไล่ออก) แน่ๆ เลย ดีนะเจ้านายเราชอบเที่ยวเหมือนกัน วันหยุดยาวที ออฟฟิสกระจุยกระจาย ไปคนละทางสองทาง เนี่ยเจ้านายหนีไปเกาะช้างเฉยเลย สี่วันแน่ะ หนอย อิจฉาอ่ะ จากคุณ : bangkok dream - [ 23 เม.ย. 51 13:24:23 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ประสบความสำเร็จ ไม่ได้หมายความว่ามีความสุขในชีวิต... เห็นวิชั่นแมวๆแบบนี้พูดได้คำเดียวว่า ทางใครทางมันเหอะ!! ว่าไหม? จากคุณ : กระแช่เปรี้ยว - [ 23 เม.ย. 51 13:36:41 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ประสบความสำเร็จใจชีวิต อย่างไร แค่ไหน ยังไง ?? การมีเงินทองเยอะ ๆ มีบริษัทใหญ่ ๆ ไม่ได้หมายความว่าชีวิตประสบความสำเร็จเสมอไป บางที เจ้าของกิจการคนนั้น มีเงินมาก ๆ จนใช้ไม่หมด ทำงานเก่ง แต่.... "อาจจะ" เอาแต่ทำงาน ไม่มีเวลาให้ครอบครัว เมียมีชู้ ลูกติดยา หมาดุ ลูกน้องเกลียด เพื่อนไม่คบ ศัตรูเยอะ อย่างนี้เรียกว่าประสบความสำเร็จในชีวิตไหมคับ จากคุณ : น้องบอย (hydehalf) - [ 23 เม.ย. 51 13:44:12 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เข้าวัดเข้าวา นั่งสมาธิ มันก็ดีนะครับอย่างที่เจ้าของบริษัทบอก แต่จะมารังเกียจการไปเที่ยวพักผ่อน ผมว่า มันเป็นความคิดที่คับแคบเกินไป และไม่น่าเชื่อว่า คนเข้าวัดเข้าวา นั่งสมาธิ เจริญภาวนา  จะมีจิตใจคับแคบได้ขนาดนี้ จริงอยู่ lifestyle แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แต่จะมาตัดสินคน หรือตัดสินอนาคตของคนอื่น จาก lifestyle มันก็ไม่ถูกเหมือนกัน ถ้าเป็นผม ผมก็อยากจะอธิบายให้กับคุณเจ้าของบริษัท ที่ชอบเข้าวัดเข้าวา ธรรมะธรรโม ว่าแบบนี้ครับ พระพุทธองค์ ทรงสำเร็จพระโพธิญาณ ส่วนหนึ่งก็เพราะทรงออกธุดงค์ จาริกแสวงบุญ ท่องไปในที่ต่างๆ แทนที่จะทรงศึกษาวิชาอยู่แต่ในสำนักของอาฬารดาบส อุทกดาบส การเสด็จธุดงค์ของพระองค์  ก็ไม่ได้แตกต่างจากการไปเที่ยวของเราสักเท่าไหร่ นั่นคือการเดินทางเพื่อเห็นโลกกว้าง เข้าหาความวิเวก เพื่อชำระจิตใจ เพื่อให้ห่างไกลหนีจากกิเลสตัณหาความวุ่นวาย  และหลังจากที่ทรงตรัสรู้แล้ว ก็ยังทรงเสด็จไปโปรดสัตว์ เผยแผ่คำสอน ทรงทอดพระเนตรเห็นผู้คนมากมาย ชนชั้นวรรณะ นิสัยใจคอ พื้นเพปูมหลังที่แตกต่างกัน จึงทรงทราบว่าจะทรงสอนคนเหล่านั้นที่แตกต่างกันได้อย่างไร ถ้าทรงอยู่กับที่เฉยๆ มิได้เสด็จไปยังแห่งหนใดเลย ก็คงมีน้อยคนนักที่จะสำเร็จบรรลุอรหันต์เหมือนพระองค์ท่าน แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 51 14:50:20 จากคุณ : David_kop - [ 23 เม.ย. 51 13:47:20 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เป็นเราถ้าเขาอยากพูดก็ให้เขาพูดไป ไอ้คนประเภทเอาตัวเองเป็นหลักหนะ ส่วนมากโลกแคบ ใจแคบ แต่ถ้าเราลาหยุด ถูกต้องตามกฎบริษัท หรือกฎหมายแรงงานแล้วเขาไม่ให้หยุด นั่นละ เป็นเรื่องแน่ๆ เราจะรีบหางานใหม่โดยพลัน เราว่าการไปเที่ยวดีออก มันได้พักผ่อน ได้ปลดปล่อย หาประสบการณ์ชีวิต พบเห็นสิ่งใหม่ สิ่งที่ไม่เคยเห็น ได้ใช้เวลาอยู่กับคนที่เรารัก ได้เรียนรู้นิสัยเพื่อนเพิ่มเติม ได้ฝ่าฟันอุปสรรคกับคนอื่น ได้รู้จักคนใหม่ๆ ได้เห็นชีวิตแบบอื่นๆ ที่แตกต่างไป ยังไงไปเที่ยวก็มีข้อดีอยู่แล้ว เวลาทำงานเราก็ทำเต็มที่ ไม่เห็นจะไม่ประสบความสำเร็จตรงไหนเลย รู้จักแบ่งเวลาสิ แล้วคนที่เขาไปเที่ยว ทำนิตยสาร ทำรายการท่องเที่ยวออกทีวี ก็ประสบความสำเร็จได้นี่ ไม่เห็นต้องเครียดเหมือนเจ้านายคุณเลย น่าเบื่อเนอะ จากคุณ : wasabi girl - [ 23 เม.ย. 51 16:23:41 ]

ความคิดเห็นที่ 56 อ่านแล้วรู้สึกว่า บุคลิกภาพของ "ทั่น" นี่ขัดแย้งกันเองแฮะ บอกว่าพอว่างก็จะเข้าวัด ทำสมาธิ   แต่ความคิดแก หนักอึ้งไปด้วยเปลือก "อัตตา" แสดงความเป็นตัวกูของกู มนุษย์ที่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ใช้มาตรฐานตัวเอง ไปตัดสินคนอื่น บอกคำเดียวว่า... กลัว ลงไปโกยสี่ขาวิ่งหนีเลยหละ จากคุณ : ริมยมนา - [ 23 เม.ย. 51 17:36:47 ]

ความคิดเห็นที่ 57 -ขำๆดีค่ะ  จขกท ไม่ต้องไปกลัวนายพูด ลาโลดดดดดดดดดดดด อิๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : South East Bangkok - [ 23 เม.ย. 51 18:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 58 โลกกว้างขนาดนี้ ต้องรีบเที่ยวซิคะ หัวหน้า เดี๋ยวไม่ครบค่ะ ว่าแล้ว จขกท หาเวลาจัดกระเป๋านะคะ ไปเที่ยวกันดีกว่า.....^_^ จากคุณ : sky - [ 23 เม.ย. 51 18:57:39 A:124.121.135.106 X: TicketID:131438 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เจ้านายของจขกท...คงได้กำไรแต่ในธุรกิจปีละหลายนะคะ..แต่กำไรชีวิตแกคงจะติดลบเป็นศูนย์........ จากคุณ : น้ำกะฟ้า - [ 23 เม.ย. 51 20:26:10 A:118.173.158.197 X: TicketID:153084 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เป็นถึงเจ้าของบริษัท วิสัยทัศน์น่าจะกว้างกว่านี้นะ จากคุณ : Klimae - [ 23 เม.ย. 51 21:08:59 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ....Don't worry be happy!.... จากคุณ : Red Fox - [ 23 เม.ย. 51 23:22:17 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ความคิดคับแคบจังเลย จากคุณ : กระเทียมเถา - [ 24 เม.ย. 51 00:52:15 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ดีนะที่ทำงานเราชอบเที่ยวตั้งแต่หัวยันหาง จะมีก็แค่บางคน ...ไม่ชอบเที่ยวแถมยังมาแขวะ เก็บตังค์ไว้ให้ลูกกินนมเถอะ ..จะไปเที่ยวทำไม? ก็เลยบอกไปว่า ...ตังค์ซื้อนมอ่ะมี ...ตังค์เที่ยวก็มีด้วย หยุดพักที ...นั้งเจ่าอยู่บ้านแบบพี่ไม่ใหว่หรอก จากคุณ : ทะเลทะเล - [ 24 เม.ย. 51 07:45:46 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ไม่เห็นต้องไปสนใจเขาเลย ก็เฉยๆ ไปสิครับ ยังมีอีกหลายความเห็นในโลกนี้ที่ต่างกับเรา หยุดดู แล้วก็..... วางเฉย แล้วเราก็ไปแพคกระเป๋ากัน . .. ... ฮิ้ววว จากคุณ : รูปเงาะเดินสบาย - [ 24 เม.ย. 51 09:11:34 ]

ความคิดเห็นที่ 65 วิสัยทัศน์แปลกๆนะ เป็นเราไม่ได้ ถ้าไม่ได้เที่ยวคงลงแดงตาย จากคุณ : อยากเป็นไกด์ ใครช่วยที - [ 24 เม.ย. 51 10:47:41 ]

ความคิดเห็นที่ 66 แต่เจ้าของบริษัทผม ไปเที่ยวบ่อยมากๆ สงสัยคงอายุเริ่มเยอะแล้ว แกบอกว่าเป็นกำไรชีวิต ให้พวกผมทำงานเฝ้าบริษัทให้แกครับ 555 คนเราคิดไม่เหมือนกัน จากคุณ : AUNGPAOJAI - [ 24 เม.ย. 51 11:30:48 ]

ความคิดเห็นที่ 67 อ่านแล้วปรี๊ด เลยค่ะ ประสบการณ์ตรงที่รับมาจากเพื่อนร่วมงานอาวุโส ไม่ได้มาจากเจ้านายแม้แต่น้อย อุอุ คือพี่แกเป็นพวกโลกแคบ ไม่มีสังคม เพราะคิดว่า คนรอบข้างไม่จริงใจ และการไปเที่ยวไปว่าจะสังสรรค์ตอนกลางคืน หรือ การท่องเที่ยวต่างจังหวัด เวลาใครจะลางาน ก้อจะเหน็บแนม ไม่รู้มันเป็น 5 อะไร ทั้งที่ความจริงแล้วบริษัทเราทำงานด้านบริการ จะไม่ได้หยุดในวันนักขัตฤกษ์เหมือนชาวบ้านเค้า คือต้องสะสมวันหยุดเอาไว้ แล้วหาโอกาสหยุดกันเอาเอง ถ้าเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ จะ ใช้วันหยุด ไม่ว่าจะวันเดียว หรือ กี่วัน ก้อต้องโดนประชด  เท่านั้นยังไม่พอshe จะต้องเสนอหน้ากับเจ้านายว่าไอ้พวกที่หยุดน่ะขี้เกียจ ส่วนตัวเธอนั้น ขยัน รักการทำงาน บางทีจะแกล้งให้เค้าไม่ได้หยุดกันซะงั้น เลวร้ายมาก (อุอุ แอบระบายในกระทู้เค้าซะงั้น) จากคุณ : ถนนหน้าร้าน - [ 24 เม.ย. 51 17:31:16 ]

ความคิดเห็นที่ 68 คุณถนนหน้าร้านค่ะ พนักงานแบบนี้ที่บริษัทฯ เราก็มี แต่คนนี้เค้าไม่กล้าไปบอกนายฝรั่ง (เพราะแกก็ไม่สนใจอยู่ดี) แต่ she ไปเม้าท์ ทั้งออฟฟิศเลยค่ะ ครั้งหนึ่งเคยให้ลูกน้องลากิจไปงานแต่งงานญาติต่างจังหวัด 3 วัน She ก็โวยวาย ประมาณว่า ทำไมต้องลากิจ แล้วยังอยู่ไม่ครบปีลาไม่ได้ ขี้เกียจ หาเรื่องลา บลา บลา บลา.......... ไม่ค่อยเข้าใจเค้าเหมือนกันว่าบ่นทำไม เราเป็นนาย ซึ่งต้องทำงานแทนลูกน้องที่ลา เรายังไม่เดือดร้อนเลย พูดมากเราก็เลยตอกกลับไปว่า สำหรับเรา ขยันหรือไม่ เราวัดว่ พนักงานได้ทำงานครบถ้วนตามที่ได้มอบหมาย และมีความรับผิดชอบต่องาน (ซึ่งเราและนาย มีวิจารณญานพอที่จะตัดสินเรื่องนี้) ระยะเวลาในการทำงาน สำหรับเรา มันไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันว่า พนักงานทำงานได้มีประสิทธิภาพ หรือทำงานได้เร็ว คนบางคนอยู่ออฟฟิศเยอะ ก็ใช่ว่าผลงานจะเยอะตาม เจอแบบนี้ป้าเลยเงียบไป จากคุณ : Travel Animal - [ 25 เม.ย. 51 09:41:13 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ใช้ชีวิตไม่คุ้มเลยนะ คนเรามีแต่งานด้านเดียวซะที่ไหน เมื่อก่อนพ่อเราก็ไม่ค่อยพาครอบครัวไปเที่ยว ช่วงหลังมานี่เรากับแม่พยายามชวนพ่อไปเที่ยวตามต่างจังหวัด ปรากฏว่าพ่อติดใจ ไม่เอาเรื่องงานที่เครียดมาลงกับที่บ้านเหมือนเมื่อก่อน เที่ยวแล้วมีความทรงจำดีดีร่วมกัน เที่ยวแล้วสบายใจ ปล.แต่ละความเห็นตอบยาวได้ใจกันจริงๆค่ะ จากคุณ : lokanz - [ 26 เม.ย. 51 00:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เรื่องนี้ไม่มีใครถูกผิดครับ เป็นความเห็นของแต่ละคน คนเราชอบไม่เหมือนกัน มุมมองของพนักงานและเจ้าของก็ไม่เหมือนกันด้วยครับ เจ้าของเค้าคงอยากแนะนำครับ แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องทำตามครับ คุณจะทำอะไรก็ทำเถอะครับ แต่อย่าให้เสียงาน เที่ยวแล้วทำเงินให้บริษัทได้เหมือนเดิม หรือมากกว่าเดิม เจ้าของแกคงไม่ว่าอะไรหรอกครับ ผมเองก็เคยเป็นพนักงานมาก่อน ตอนนี้เป็นเจ้าของแล้ว ยอมรับครับว่าความคิดเกี่ยวกับเรื่องงานเปลี่ยนไปครับ ผมคิดในมุมมองของเจ้าของมากขึ้น จนลืมไปว่าเมื่อก่อนที่เคยเป็นพนักงานเราคิดกับเจ้าของยังไง ไม่พอใจอะไรบ้าง ตอนนี้เป็นเจ้าของแล้วผมคิดแต่ในเรื่องที่ตอนผมเป็นพนักงานไม่ชอบ นี่ผมก็ได้แฟนผมคอยช่วยเตือนสติว่าอย่าคิดไรมาก ตอนนั้นเป็นพนักงานเราว่าเจ้าของไว้ยังไง ตอนนี้มาเจอกับตัวเองแล้ว ก็ควรจะเข้าใจพนักงานบ้าง พนักงานกับเจ้าของมองกันคนละด้านครับ บางครั้งผมก็ลืมไปครับว่าพนักงานคิดอย่างไร ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างครับ บรรยายซะยืดยาว ไร้สาระไปหมด เอาเป็นว่า คุณจะทำอะไรก็ทำเถอะครับ อย่าให้เสียงานก็ใช้ได้แล้ว สมัยนี้งานหายากครับ ต้องระวังไว้ ผมเองก็ตั้งใจไว้ว่าถ้างานอยู่ตัว มีเงินมากขึ้น ผมก็จะเที่ยวให้มากขึ้นครับ ตรงข้ามกับเจ้าของของคุณครับ จากคุณ : Naaaa - [ 26 เม.ย. 51 13:31:03 ]

ความคิดเห็นที่ 71 โลกแคบ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง  และคิดแต่ว่าคนอื่นๆ จะต้องชอบเหมือนตัวเอง  ไม่ยอมฟังความคิดเห็นของคนอื่น  คิดเสียว่าคนแบบนี้น่าสงสารก็แล้วกัน เพราะจะเป็นคนไม่มีเพื่อน ลูกน้องก็ไม่รัก แม้แต่ลูกเมียอยู่ด้วยก็ไม่มีความสุข  สุดท้ายก็จะถูกโดดเดี่ยว  ไม่มีใครเข้าใจ  เบื่อคนแบบนี้เหมือนกันเพราะที่ทำงานก็มีอยู่คนนึง ปล. อยากเป็นลูกน้องลุงซูมมั่งจัง จากคุณ : UltraMeo - [ 26 เม.ย. 51 17:09:42 ]