ความคิดเห็นที่ 1 บริเวณทั้งสามส่วนที่ดูแตกต่างกันอย่างมากมายประกอบกันขึ้นเป็นอุทยานแห่งชาติโอลิมปิก   ประกอบด้วยส่วนของภูเขา  ส่วนของป่าฝน และส่วนของพื้นที่ริมทะเล  ทั้งสามส่วนก่อให้เกิดระบบนิเวศที่แตกต่างกันอย่างมาก จากคุณ : Cherokee1 - [ 24 เม.ย. 51 00:54:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ที่แห่งนี้เป็นคาบสมุทรขนาดใหญ่เรียกว่าคาบสมุทรโอลิมปิก  แยกจากแผ่นดินใหญ่ (แถบเมืองซีแอตเทิ้ล) โดยธารน้ำแข็งในยุคน้ำแข็ง   เมื่อนักสำรวจเดินทางมาถึงบริเวณนี้แล้วพบเทือกเขาสูงขนาดใหญ่ ปกคลุมด้วยหิมะและธารน้ำแข็ง  จึงเกิดความประทับใจและจินตนาการไปว่าสถานที่แห่งนี้เปรียบดั่งที่ประทับของเทพเจ้า   และได้ขนานนามเทือกเขาแห่งนี้ว่า เทือกเขาโอลิมปิก (Olympic mountains)  ตามที่ประทับของเทพเจ้าในความเชื่อของชาวกรีกโบราณ จากคุณ : Cherokee1 - [ 24 เม.ย. 51 00:55:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ยอดสูงสุดบนเทือกเขาแห่งนี้มีชื่อว่ายอดเขาโอลิมปัส (Mount Olympus)  ซึ่งเป็นชื่อที่ประทับของเทพเจ้าสูงสุดของกรีกนามว่าจูปิเตอร์ อาจจะพอเปรียบได้กับยอดเขาไกรลาศที่ประทับของพระอิศวรตามความเชื่อของศาสนาฮินดู แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 51 09:46:28 จากคุณ : Cherokee1 - [ 24 เม.ย. 51 00:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว (Lake Crescent)  เป็นทะเลสาบที่เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็ง จากคุณ : Cherokee1 - [ 24 เม.ย. 51 00:58:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เทือกเขาสูงแห่งนี้เป็นแนวกั้นลมฝนที่พัดพามาจากมหาสมุทรแปซิฟิก   เมื่อลมตะวันตกจากมหาสมุทรพัดพาความชื้นที่มากับกระแสน้ำเย็นกระทบกับภูเขา  จึงรวมตัวกันเป็นเมฆ และกลั่นตัวตกลงมาเป็นฝนหรือหิมะ   ทำให้ด้านทิศตะวันตกของเทือกเขาโอลิมปิกได้รับความชื้นและฝนมากถึง 140 นิ้วต่อปี จากคุณ : Cherokee1 - [ 24 เม.ย. 51 01:00:14 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ชายป่าด้านตะวันตกของเทือกเขาโอลิมปิกได้รับความชุ่มชื้นเป็นอย่างมาก  มีต้นใม้ใหญ่ตระกูลสนและเมเปิ้ลขึ้นอยู่ทั่วไป  นอกจากต้นไม้ใหญ่เหล่านี้แล้ว ยังมีพวกตะไคร่น้ำและมอสขึ้นกระจายทั่วไปตามลำต้นของไม้ใหญ่ จากคุณ : Cherokee1 - [ 24 เม.ย. 51 01:02:12 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พวกมอสจะห้อยระย้าลงมาจากกิ่งไม้เหมือนใครประดับประดาต้นไม้นั้นด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ไปทั้งต้น จากคุณ : Cherokee1 - [ 24 เม.ย. 51 01:03:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตะไคร่น้ำและมอสเหล่านี้ไม่ได้อาศัยอาหารจากต้นไม้ที่มันขึ้นอยู่ เพราะพวกนี้สามารถสังเคราะห์แสงเองได้   และได้รับสารอาหารจากลมและความชื้นที่มาทางอากาศ   บางครั้งเมื่อมอสเหล่านี้อุ้มน้ำไว้มาก ๆ อาจมีน้ำหนักได้เป็นตันและทำให้กิ่งไม้หักโค่นลงมาได้ จากคุณ : Cherokee1 - [ 24 เม.ย. 51 01:06:27 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ป่าฝนเหล่านี้เป็นป่าฝนแบบเขตอบอุ่น (temperate rainforest)  ซึ่งจะแตกต่างจากป่าฝนเขตศูนย์สูตร (tropical rainforest) แบบเมืองร้อนอย่างบ้านเรา   ป่าฝนที่ชื่อว่า Hoh Rainforest ที่นี่เป็นป่าฝนเขตอบอุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก  เห็นแล้วทำให้อดไม่ได้ที่จะนึกถึงชายป่าหิมพานต์เชิงเขาไกรลาศ  แต่นี่คงเป็นป่าหิมพานต์แบบฝรั่ง จากคุณ : Cherokee1 - [ 24 เม.ย. 51 01:08:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หลังจากเดินเที่ยวป่าแห่งนี้  กลับไม่ยักเจอกินนร กินรี ราชสีห์ คชสีห์ ในตำนาน  เจอแต่เก้งกวางแทน  กวางที่พบมากแถบนี้พบได้ที่เดียวบนโลกคือกวาง Roosevelt elk  กวางชนิดนี้เป็นคนละสับสปีชีส์กับ elk ที่พบได้ทั่วไปบนทวีปอเมริกาเหนือ   กวางที่นี่มีขนาดใหญ่กว่าและนิยมอยู่รวมกันเป็นฝูง แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 51 01:44:55 จากคุณ : Cherokee1 - [ 24 เม.ย. 51 01:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เราย้อนกลับมาชมส่วนที่สามซึ่งอาจนับได้ว่าเป็นจุดกำเนิดของคาบสมุทรแห่งนี้คือส่วนของชายหาดซึ่งมีความยาวกว่า 80 กิโลเมตร  ชายหาดเหล่านี้ไม่ใช่หาดทรายที่เหมาะกับการเล่นน้ำทะเล   แต่เป็นระบบนิเวศอย่างดีสำหรับสัตว์ต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในน้ำหรือใกล้แหล่งน้ำ จากคุณ : Cherokee1 - [ 24 เม.ย. 51 01:14:33 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เกาะแก่งชายฝั่งที่ดูประหนึ่งไม่สะทกสะท้านต่อคลื่นที่โถมเข้าใส่  ครั้งหนึ่งเคยเป็นส่วนของแผ่นดิน  แต่ถูกกระแสน้ำกระแสลมกัดกร่อนจนเหลือเป็นเกาะใหญ่น้อยริมชายหาด  เป็นที่อยู่อาศัยและวางไข่ของสัตว์น้ำนานาชนิด จากคุณ : Cherokee1 - [ 24 เม.ย. 51 01:17:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เวลาเดินเล่นชายหาด  ต้องระวังเรื่องน้ำขึ้นน้ำลงและคลื่นขนาดยักษ์   นอกจากนี้พื้นที่ริมหาดยังเป็นป่าแคบ ๆ ที่ทอดยาวขนานไปกับชายหาด  หาดบางแห่งเข้าถึงได้เฉพาะทางเท้าหรือทางเรือเท่านั้น   กว่าจะเดินจากที่จอดรถไปยังชายหาด  อาจต้องเดินเข้าป่าข้ามเขาเป็นกิโลเลยทีเดียว จากคุณ : Cherokee1 - [ 24 เม.ย. 51 01:19:13 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ที่แห่งนี้มีชุมชนที่อยู่อาศัยมาเป็นเวลานานแล้ว  สังเกตได้จากภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์ที่อยู่ริมทะเล จากคุณ : Cherokee1 - [ 24 เม.ย. 51 01:21:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 องค์การยูเนสโก้ได้กำหนดให้อุทยานแห่งชาติโอลิมปิกเป็น International Biosphere Reserve (แปลเป็นไทยว่าอะไรดีเนี่ย)  เมื่อปี ค.ศ.1976   และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในอีกห้าปีถัดมา เพื่อรักษาไว้ให้เป็นสมบัติของลูกหลานต่อไป จบตอนครับ จากคุณ : Cherokee1 - [ 24 เม.ย. 51 01:25:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แนบแผนที่ Olympic National Park ให้ดูเผื่อเป็นข้อมูลในการท่องเที่ยว ส่วนที่เป็นสีเขียวเข้มจะเป็นส่วนของ National Park ครับ อยู่ไม่ไกลจากเมือง Seattle ขับรถไปประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 51 01:50:19 จากคุณ : Cherokee1 - [ 24 เม.ย. 51 01:48:57 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มาเที่ยวป่าหิมพานต์ฝรั่งค่ะ ภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์ของเค้าดูน่ารักเชียว จากคุณ : ParaZite - [ 24 เม.ย. 51 05:38:46 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แวะมาชมภาพสวยๆยามเช้าครับ สวัสดียามเช้าทุกท่าน จากคุณ : nayroysoydao - [ 24 เม.ย. 51 07:13:44 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สวยๆทั้งนั้นเลย จากคุณ : น้องหนูพันธุ์ดุ - [ 24 เม.ย. 51 07:55:48 ]

ความคิดเห็นที่ 20 นี่ตู... มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ ว่ะเนี่ย จากคุณ : gotland - [ 24 เม.ย. 51 09:27:02 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สวยจัง จากคุณ : ไข่มุกน้อย - [ 24 เม.ย. 51 09:44:40 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตามมาเที่ยวป่าฝรั่งด้วยคนค่ะ สวยจังอ่ะ จากคุณ : ลูกหมูลุย - [ 24 เม.ย. 51 10:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เย็นนี้เลิกงาน ว่าจะขับรถแวะไปเที่ยวสักหน่อย จากคุณ : gotland - [ 24 เม.ย. 51 10:32:53 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สวยอ่ะ หวัดดี ^/|\^ คัฟทุกคน ^^ จากคุณ : tongkaa (Panar) - [ 24 เม.ย. 51 11:30:07 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สวยจัง สวยเหมือนในฝันเลย ชีวิตนี้จะได้มีโอกาสได้ไปบ้างไหมหนออ... จากคุณ : แสนศิริ - [ 24 เม.ย. 51 11:43:11 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สวยมากค่ะ...ทุกภาพเลย....ชอบ......  ^_^ จากคุณ : _iOFFer_ - [ 24 เม.ย. 51 12:11:24 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มาชมป่าหิมพานต์ค่า...สวยๆทั้งน๊าน...ชาตินี้จะได้ไปเห็นด้วยตาตัวเองบ้างมั๊ยเนี่ยะเรา จากคุณ : ไปตามดวง - [ 24 เม.ย. 51 12:22:59 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แต่ละภาพ รู้สึกอลังมากมาก จากคุณ : asp_ash - [ 24 เม.ย. 51 12:29:37 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สวย... ความรู้เพียบ เห็นแล้วอยากไปจัง  แต่คงแค่ความฝัน 55+ จากคุณ : น้องพีวี - [ 24 เม.ย. 51 16:02:36 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อยากไปครับ แต่เดี๋ยวผมไปทำบุญเยอะก่อน ชาติหน้าจะได้ไปป่าวไม่รู้ อิอิ จากคุณ : ตัวเรา - [ 24 เม.ย. 51 16:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 31 โห สวยจัง จากคุณ : โสมรัศมี - [ 24 เม.ย. 51 18:39:50 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ป่าสนของที่นี่ เหมือนป่าที่มีชีวิตเลยนะ..ได้เข้าใกล้ๆ ก็กลัวๆ เหมือนกัน มาท่องโลกกับพี่เชอร์ช้าไปสักนิด เพราะต้องใช้เวลาในการตามชม จากคุณ : ป้าพาฝัน - [ 24 เม.ย. 51 20:10:01 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ว้าววววววว สวยมากค่ะ ชอบภาพเขียนบนผนังหินค่ะ น่ารักจังเลย จากคุณ : สเลเต - [ 24 เม.ย. 51 20:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 34 โปสการ์ดเซ็ตนี้ สวยมากๆหลายใบเลยครับ ปล. ได้รับ map postcard  จากพี่เชอร์แล้ว ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : คนไทยใจดี (คนไทยใจดีจริงๆ) - [ 24 เม.ย. 51 22:57:06 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สวยอลังการมากเลยหงะเจ้า อยากไปมากๆเลย .... หงิงๆๆๆ จากคุณ : amykittenish - [ 24 เม.ย. 51 23:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตามมาเที่ยว Evergreen State ด้วยคนค่า ตกลงพี่เชอร์หนีไปเที่ยวไกลถึง WA เลยเหรอ.... เคยแอบไปใช้ชีวิตพักนึงที่ WA แต่ไม่เคยเข้าป่าเค้าเล้ยยยยยย เสียดายนะเนี่ย จากคุณ : Snoopy in BKK - [ 25 เม.ย. 51 00:20:09 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อยากไปปปปปปปปปปปปปป จากคุณ : เหมือนจะใช่ แต่ก็ไม่ใช่ - [ 25 เม.ย. 51 10:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ตามมาเที่ยวด้วยครับ สวยมากเลย.. จากคุณ : Red Fox - [ 26 เม.ย. 51 11:01:00 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ลูกทัวร์มาลงชื่อแล้วจ้าาา อิอิ มีสถานที่ยังงี้ด้วยเรอะเนี่ยบนโลก สวรรค์แต๊ๆ มีแต่สวยๆทั้งนั้นเลย  ชอบรูปวาดสมัยโบราณ น่าร้ากกกก จากคุณ : ชอบซื้อแต่ไม่ชอบอ่าน - [ 27 เม.ย. 51 11:01:52 ]

ความคิดเห็นที่ 40 สวยจังค่ะ  อยากเห็นบ้างจัง และขอบคุณสำหรับโปสการ์ดจากงานหนังสือค่ะ จากคุณ : AM (AwithM) - [ 28 เม.ย. 51 15:59:43 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อิอิอิ ขอบคุณพี่เชอร์มากเลยที่เชิญมาให้ดูกัน เหมือนป่าในเทพนิยายเลยอ่ะพี่เชอร์ ห้อยๆย้อยๆ อันนี้นอกเรื่องนะค่ะ อ่านหนังสือท่องเที่ยวเกี่ยวกับยุโรปทีไร ก็เจอคำว่า สมัยโรมันเนส ชาวโรมัน ชาวกรีก  อะไรประมาณนี้ ซึ่งอ่านไปแล้วแบบว่างงมากอาจจะไม่ถึงขั้นงงก็ได้ประมาณว่าสงสัยอ่ะค่ะ ชาวโรมคือใครหรือ แล้วชาวกรีกหล่ะ เขาเกี่ยวอะไรกันอ่ะ ? อ่านไปก็เจอแต่กับความสงกะสัย ตอนเปิดเทอมต้องไปค้นตำราเล่มใหญ่มาอ่านให้คลายสงสัยซะกะแล้ว   ขอบคุณน้าค่า ได้ความรู้เพิ่มไปอีกหนึ่ง  ^^ จากคุณ : น้องปา (Tabosan) - [ 29 เม.ย. 51 18:51:13 ]