ความคิดเห็นที่ 1 06.00 น. ของวันที่ 6 เมษายน 2551 ผมออกมาเดินอยู่ที่สนามบิน Kingford Smith ของมหานครซิดนีย์ สิ่งแรกที่ทำคือมองหาหนังสือคู่มือการท่องเที่ยว Sydney ที่เป็นหนังสือแจกฟรี พร้อมคูปองส่วนลดต่างๆ ผมหยิบมา 2 เล่ม (ต้องขอโทษที่ไม่สามารถหยิบมาเผื่อได้นะครับเนื่องจากมันสิ้นสุดเดือนเมษาครับ แต่ถ้าใครไปถึง Sydney แล้วก้อมองหาไม่ยากครับจะมีอยู่ตามจุดทั่วๆไปครับ วันนี้คนเยอะเป็นพิเศษครับ อาจจะเป็นเพราะเป็นช่วงเวลาที่มีเครื่องลงหลายเที่ยวบิน ได้ยินเสียงกลุ่มคนไทยคุยกันจ๊อกแจ๊ก ผมผ่านการตรวจหนังสือเดินทางมาอย่างง่ายดายโดยที่ไม่โดนเจ้าหน้าที่ถามคำถามซักคำ .. เอาเป็นว่ายิ้มป้าแกยังไม่ยิ้มเลยเอ้า ... แล้วมารอรับกระเป๋าซึ่งก้อนานเป็นพิเศษ จนพี่ปลาทูไปหยิบเอาขาตั้งกล้องที่โหลดเป็น oversize bag มาจากอีกสายพานนึงแล้วกระเป๋าผมก้อยังไม่มา ... นั่นแน่ ... กระเป๋าผมมาแล้ว แต่เอ๊ะ .. เข็มขัดรัดกระเป๋าหายไปครับ โธ่ ... ตอนนี้กระเป๋าผมก้อเลยเหลือแต่ตัวกระเป๋าเปลือยๆ พอรับกระเป๋าเสร็จสรรพก้อมาต่อคิวผ่านด่านกักกัน หรือ Quarantine ถ้าท่านใดได้เคยดูรายการ Border Security ซึ่งเป็นรายการ reality show ของออสเตรเลียที่มาฉายในช่องยูบีซีบ้านเราก้ออาจจะเคยได้เห็นถึงความเข้มงวดและเอาจริงเอาจังของเจ้าหน้าที่ในส่วนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ที่สนามบินซิดนีย์ ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร เป็นประชาชนชาวออสเตรเลียหรือไม่ถ้าเดินทางมาจากนอกราชอาณาจักรเป็นต้องโดนตรวจทุกรายไป มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่สมควร ผมก้อยืนหนาวๆร้อนๆอยู่ในแถว ... ให้ตายเถอะที่เมลเบิร์นยังไม่ตรวจเยอะขนาดนี้เลย ยิ่งผมเห็นคนเอเชียเรียกได้ว่าแทบจะทุกคนโดนเจ้าหน้าที่ให้เปิดกระเป๋าหัวใจผมยิ่งเต้นแรงขึ้น .... แต่ให้ตายเถอะครับ ความกลัวของผมมันช่างประโยชน์จริงๆ อยู่ๆก้อมีเจ้าหน้าที่หญิงเดินไล่ถามคนที่ยืนต่อแถวพร้อมขอดูเอกสารเข้าเมือง บางคนเธอก้อปล่อยให้ออกจากแถวไปง่ายๆ บางคนเธอก้อบอกให้ยืนต่อคิวต่อไป ... และแล้วก้อมาถึงตาของผม ... มีอะไรต้องดีแคลร์มั๊ยคะ มีอะไรที่ทำจากไม้ ชิ้นส่วนของสัตว์ พืช หรืออาหารมาด้วยมั๊ยคะ ? เธอถาม ผมกับพี่ปลาทูหยิบถุงใส่ที่ใส่ยาสารพัดชนิดมาให้เธอดู พร้อมกับบอกว่า ไม่มีอะไรดีแคลร์ครับ มีแต่ยาประจำตัวนี่ต้องดีแคลร์หรือเปล่าครับ ? เธอถามย้ำอีกว่าไม่มีไม้ ชิ้นส่วนของสัตว์ พืช หรืออาหารมาด้วยแน่นะ แน่ครับ ... ผมตอบ เธอเอื้อมมือไปปลดสายกั้นแล้วบอกให้ผมออกจากแถวได้ เหมือนยกภูเขาออกจากออก ในใจนึกว่า .... ฮ่าๆๆๆ ผมผ่าน ตอมอที่ Sydney โดยไม่โดนเปิดกระเป๋า ... เดี๋ยวจะเอามาเล่าให้พี่ตุ้มฟัง อ่ะๆๆๆๆ หลังจาก 1 ชั่วโมงเต็มๆในสนามบินผมก้อออกมายืนอยู่ด้านนอก ผมตัดสินใจที่จะใช้บริการ taxi เพราะเนื่องจากไปดูราคาของ Airport Express ซึ่งเป็นบริการรถไฟด่วนขากสนามบิน ถึง สถานีรถไฟเซ็นทรัลของ Sydney แล้วราคา 1 เที่ยวต่อคน ตก 13 เหรียญ 2 คนก้อ 24 เหรียญ แล้วผมยังต้องเดินจากสถานี Central มาโรงแรมอีก และเท่าที่ได้อ่านจากระทู้ที่หลายๆท่านมาโพสถ้านั่งแท็กซี่เข้าเมืองราคาไม่เกิน 30 เหรียญ ผมจึงตัดสินใจใช้บริการพี่ taxi ดีกว่า ถึงคิวพี่แท็กซี่จะยาวมากแต่ก้อใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงผมก้อขึ้นมานั่งอยู่บนแท็กซี่บอกชื่อ – เลขที่และถนนที่ตั้งของโรงแรมเสร็จก้อออกรถกันเลยครับ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก้อมาจอดอยู่ที่หน้าโรงแรม Quality Cambridge Hotel ครับ (ต้องบอกก่อนครับว่า รูปถ่ายโรงแรมและห้องพักเกิดต่างกรรมต่างวาระกันครับ มันเลยดูแตกต่างกันครับผม) จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 24 เม.ย. 51 23:54:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Quality Cambridge Hotel ตั้งอยู่เลขที่ 212 Riley Street , Surry Hill (อ่านว่าเซอร์เร่ ฮิลล์ ครับ) จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 24 เม.ย. 51 23:56:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เป็นโรงแรมที่เพิ่งจะปรับปรุงใหม่และบริหารงานโดยเครือ Quality และ Quest ซึ่งเป็น Hotel Chain ระดับสามดาวที่มีชื่อเสียงมากๆ ถ้ามองออกไปด้านขวาย้อนขึ้นไปจะเป็น Oxford Street ที่มีชื่อเสียงของ Sydney และสามารถเดินต่อไปถึง Hyde Park – สถานีรถไฟ Museum – และรถเมล์ที่วิ่งผ่าน Oxford Street นี้แทบทุกสายจะไปจอดที่ Circular Quay ครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 24 เม.ย. 51 23:59:24 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้ามองออกไปทางด้านซ้ายจะเป็นถนน Campbell Street ซึ่งสามารถเดินไปถึงสถานีรถไฟ Central ได้ และถนนเส้นนี้จะมีรถเมล์ผ่านไปถึง Circular Quay ได้ครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 00:02:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไปครับ เราไป Check in กันครับ ... จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 00:04:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนรูป lobby เล็กๆนี่เพิ่งถ่ายเมื่อวันกลับเองครับผม จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 00:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อ้าว ตาทนายอ้วนไม่ได้พัก YHA หรือครับ เห็นว่า ถูกดี และดีด้วย สะอาด สะดวก สบาย ได้เพื่อน อายังคิดว่า เวลาไปนิวซีแลนด์ จะไปพักที่นั่นแหละ ไม่เอาแล้วรถบ้าน เช่ารถเก๋งขับดีกว่า แล้วไปพักที่ YHA เพราะถูกกว่าเช่ารถบ้าน ที่ต้องเสียค่าจอดพักแรมเข้าไปอีก ถึงจะไม่ต้องเก็บกระเป๋าทุกวันที่ย้ายเมืองก็เถิด เอ หรือนึกถึงเรื่องเก็บกระเป๋า จะเอารถบ้านดีล่ะหว่า ยังมีเวลาคิดครับ ยังมีเวลา ตอนนี้ ไป Sydney กับคุณทนายอ้วนก่อนดีกว่า จากคุณ : xebec - [ 25 เม.ย. 51 00:18:03 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อีกรูปครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 00:18:40 ]

ความคิดเห็นที่ 9 หวัดดีครับอาหมูหัวหน้าชมรมคนนอนดึก อิอิอิ ผมไม่ได้นอน YHA อ่ะครับ พอดีลองดูจาก Octopustravel เจอโรงแรมนี้อยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟด้วย จอง 9 คืน แถม 1 คืน รวมๆแล้วผมจ่ายไปประมาณ 35000 บาท ทั้งหมด 10 คืนนะครับ หาร 2 เหลือคนละ 17000 กว่าๆเห็นว่าอยู่ในงบประมาณก้อเลยจองครับ ท้ายๆกระทู้มีรูปห้องมาให้ดูด้วยนะครับผม จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 00:23:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอ๊ะ ไอ้ถนนที่ไปสถานีรถไฟ ๅCentral ได้นี่ อาไปเดินมาแทบตายห่านี่หว่า มันเดินขึ้น เดินลง แล้วเดินขึ้น เดินลง สลับกันอยู่อย่างนั้นแหละ เราก็เกือบแย่มันทีเดียว แต่อาลองเขาเดินสบาย ออกมาเดินคนเดียวเสียอีกด้วย อาพักที่เมอร์เคียว ตรงสถานีรถไฟนั่นแหละ เดินลงมาที่ชอปปิ้งเซนเตอร์ข้างล่าง ใหญ่มากมายนะ แต่แทบไม่ได้ซื้ออะไร เพราะหนักเวลาขนกลับไปโรงแรม อาลองซี เขาซื้อขนมกับผลไม้แห้งวุ่นไปหมด ดีที่หลานสาวไปรับไปเที่ยว ไม่อย่างนั้น ก็คงแย่เหมือนกันนะ จากคุณ : xebec - [ 25 เม.ย. 51 00:24:25 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตรงส่วนนี้จะเป็นส่วนให้ใช้อินเตอร์เนทครับ ไม่ได้ลองซักที จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 00:24:59 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เข้ามาแวะดู เผื่อจะตามรอย เดี๋ยวเช้าๆมาอ่านใหม่ครับ ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆครับ จากคุณ : TheohM-39 - [ 25 เม.ย. 51 00:27:19 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แวะมาลงชื่อก่อนไปนอนค่ะ.....อยากเห็นตลาดนัดที่ the Rock จำได้ว่ามีแต่ของน่ารัก น่าเสียตังค์ทั้งนั้นเลยค่ะ จากคุณ : Snoopy in BKK - [ 25 เม.ย. 51 00:37:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อยู่เป็นเพื่อนคะ จากคุณ : marzo คนชอบเที่ยว (marzo) - [ 25 เม.ย. 51 00:38:05 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ช่ายยยยครับอาหมู ก้อตอนแรกผมไม่รู้อ่ะครับก้อเลยเดินไปทางถนนเส้นนั้นเพื่อที่จะมา Hyde Park โห้ อ้อมก้ออ้อม ไกลก้อไกล แถมยังต้องเดินขึ้นเนิน ลงเนิน แล้วก้อขึ้นเนินไปอีกครับ กว่าจะถึง Hyde Park เล่นเอาเหงื่อซึมเลยครับ วันหลังถึงได้มารู้ว่าถ้าเดินออกจากโรงแรมออกไปทาง Oxford Street แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายอีกไม่กี่บล็อกถนน ก้อจะถึง Hyde Park แล้วครับ ผมเดินผ่านโรงแรมที่อาหมูพักทุกวันเลยครับ เช้า - เย็น มันจะมีอีกที่นึงที่ Circular Quay ช่ายป่ะครับ พี่ปลาทูเค้านึกว่าที่เดียวกันกะที่นี่ อ่ะๆๆ มารู้ทีหลังเค้าก้อบอกมิน่าเห็นใกล้ๆ นึกว่าเดินแป๊บเดียวถึง ที่ไหนได้คนละที่นี่เอง อ่ะๆๆๆ หวัดดีครับคุณ TheohM-39 กับคุณSnoopy in BKK หวัดดีครับคุณ marzo คนนอนดึก อิอิ อยู่เป็นเพื่อนจนจบกระทู้นะครับผม อิอิอิ โรงแรมนี้มีห้องอาหารด้วยนะครับ ชื่อ 212 สามารถเดินเข้าจากในตัวโรงแรมเอง หรือจะเดินเข้าจากด้านนอกก้อได้ครับ แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 51 00:47:18 จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 00:46:36 ]

ความคิดเห็นที่ 16 จะเข้านอนอยู่แล้ว ไม่น่ากด รีเฟรช หน้าหลักเลย เจอทู้นี้ เลยต้องเข้ามาทักทายก่อน  .. แปะ โป้ง ไว้ก่อนนะ ง่วงแล้ว พรุ่งนี้จะเข้ามาชมโดยละเอียดจร้า.. จากคุณ : prettyguide - [ 25 เม.ย. 51 01:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 น่าจะใช่นะครับ ที่มีอีกที่หนึ่งนะ เพราะมันเป็นเชนโรงแรม ที่เมอร์เคียวในเมือง ตรงที่อาพักนี่ มีร้านอาหารไทยด้วยนะ อร่อยด้วย เจ้าของทำเอง มีฝีมือทีเดียวครับ รสเผ็ดได้แบบไทยไทย หากเจ้าของเห็นเราและเชื่อว่าเป็นคนไทย ก็จะทำของเผ็ดออกมาให้เผ็ดได้ใจ ไข่เจียวหมูสับก็ทำแบบไทยเป๊ะเลยครับ อาไปกินที่นั่นสามมื้อ สามคืน จนรู้จักกับเจ้าของ เป็นตำรวจเก่าในบ้านเราครับ เสียดาย ไม่รู้ ไม่อย่างนั้นจะแนะนำให้ไปแวะชิม และจะได้รู้จักกันด้วย ร้านเขาอยู่ชั้นล่างของโรงแรมนั่นแหละ จากคุณ : xebec - [ 25 เม.ย. 51 01:19:48 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ท่าน xebec ครับ ผมขอทายว่าถ้าได้ลองไปนอน YHA - Dunedin, NZ สักครั้ง แล้วจะไม่คิดไปอีกเลย ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับ จริงๆ แล้วมันก็ดีใช้ได้อย่างที่รู้ๆ กันน่ะแหละ แต่ตอนกลางคืนเนี่ยะสิ (เด็กไทยเจอกันมาแล้วถ้วนหน้า) บรึ๋ยยยยย......บรู๊ววววว...... (ป๋มเตือนไว้แล้วนะคร้าบ 555+) จากคุณ : Piggie MM - [ 25 เม.ย. 51 02:09:56 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รอดูต่อคะ จากคุณ : หัวโต๊ะโต่ะ~ - [ 25 เม.ย. 51 07:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 20 รออ่านวันที่ 2 จนจะงอนอยู่แล้ว ดีใจด้วยค่ะ ที่ไม่โดนค้น ที่โดนค้นนะเข้าใจ แต่กิริยาคนที่ค้นนี่ซิ อธิบายไม่ถูกเลย ที่แค้นสุด ๆ คือถูกด่าว่า You lie อะ คือเค้าถามว่ามี food ไหม เราก็ตอบว่า no ก็ no จริง ๆ แต่เจอยาอมแก้ไอในกระเป๋าสพาย มันบอกว่านี่ไง food, you lie นะ โฮ เกิดมายังไมใ่เคยมีใครมาด่าเราแบบนี้เลย อยากจับยายคนนั้นเหวี่ยงจริง ๆ (แต่ไม่กล้า) ร้านที่อาหมูบอก (น่าจะใข่นะ) ร้านที่อดีตนายตำรวจเป็นเจ้าของ เคยไปทานแล้วค่ะ หลายหนเหมือนกัน เพราะเคยมีกิ๊กเก่าเป็นตำรวจที่รู้จักกับเจ้าของร้าน แถมเคยเจอคนไทยที่ทำงานที่เดียวกัน พักร้อน พากิ๊กไปเที่ยว แล้วไปกินข้าวร้านนั้น เลยโดนทำตาเขียว บอกว่า เราไม่เจอกันที่นี่นะ เข้าใจไหม   จากคุณ : scuba734 - [ 25 เม.ย. 51 08:04:44 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตามไกด์กิตติมศักดิ์ ไปด้วยนะครับ จากคุณ : Draught Beer - [ 25 เม.ย. 51 08:13:59 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขออำไพอย่างแรงครับลูกทัวร์กิตติมศักดิ์ทุกท่านที่หายไปเฉยๆ เครื่องคอมที่บ้านมีปัญหาครับก้อเลยเอามาโพสที่ทำงานแทน ... ถ้าใครเอาไปฟ้องนายผม ... จะงอนทีเดียว อิอิอิ หวัดดีจ้าพี่หมูน้อย เดี๋ยวมาชมต่อนะครับ อ้อๆๆ ร้านนี้เองเนอะที่อาหมูเคยบอกว่าเจ้าของร้านเป็นตำรวจ เห็นเหมือนกันครับว่ามีร้านอาหารไทยแต่ไม่ได้ไปลองครับ อิอิอิ หวัดดีครับคุณหัวโต๊ะโต่ะ เด๋วเถอะคุณPiggie MM กระทู้นี้ห้ามคุยเรื่อง "เทพ" คับ เจ้าของกระทู้กลัววว อ่ะๆๆๆ พี่ตุ้มจ๋า ... บางทีฝรั่งมันก้อ "มึน" นะครับ อะไรเป็นอาหาร อะไรไม่เป็นอาหารก้อแยกแยะไม่ได้ ผมเคยหิ้วหมูหยองผ่านเข้าทางเมลเบิร์น อีคนแรกจะไม่ให้เอาเข้า อธิบายแล้วอธิบายอีกว่ามันสุกมา 2 ขั้นตอนเฟ้ย ก้อทำมึนซะงั้น พอดีอีกคนเดินมาบอกว่าเป็น Shreded Prok มันร้องอ้อๆๆๆ แล้วบอกว่า tasty ซะงั้น วุ๊ย ... พี่ตุ้มแอบไปมีกิ๊กอยู่เมืองนอกเมืองนา เดี๋ยวเซฟกระทู้ไว้แบลกเมล์ดีก่า อิอิอิ หวัดดีคับคุณพ่อเบียร์ - - ลูกทัวร์กิตติมศักดิ์ อิอิอิ จริงๆแล้วโรงแรมนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้มากมายครับเช่น สระว่ายน้ำ และ ฟิตเนส แต่ผมไม่มีโอกาสโผล่เข้าไปดูเลย อิอิอิ และเนื่องจากปกติโรงแรมจะให้ Check in ประมาณ บ่ายสอง ตอนนี้เพิ่งจะ 8 โมง เราจึงต้องฝากกระเป๋าไว้กับทางโรงแรมก่อนซึ่งทางโรงแรมได้จัดที่ฝากกระเป๋าที่ชั้นใต้ดินโดยเราจะต้องทำการมัดจำกุญแจเป็นเงิน 5 เหรียญแล้วก้อเอากระเป๋าไปใส่ไว้ในห้องที่จะผ่านเข้าออกด้วย key card เท่านั้น ตอนแรกผมก้องงๆว่าจะให้กุญแจมาอีกทำไม มาอ๋อเอาตอนที่เข้าไปในห้องแล้วเห็นโซ่พลาสติกวางเกลื่อนกลาด กุญแจที่ให้มาเอาไว้ล็อกโซ่เพื่อล่ามกระเป๋าไว้กับราวเหล็กอีกทีนี่เอง ... เราจัดการล่ามโซ่กระเป๋าเสร็จสรรพก้อเริ่มออกตะลุย Sydney กันครับ ตามโปรแกรมที่ผมตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกวันนี้จะเป็นวันที่เราทำความรู้จักกับ Sydney กันแบบคร่าวๆก่อน เพราะฉะนั้นผมตั้งใจที่จะไป The Rocks และ Circular Quay แล้วมาเดิน City Centre เย็นๆไปจบที่ China Town และ Darling Habour มาลองดูกันครับว่าผมกับพี่ปลาทูจะไปกันได้ถึงไหน อย่างแรกที่เราทำเมื่อเดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ เราจะเดินเล่นบริเวณรอบๆโรงแรมเพื่อดูลาดเลาให้คุ้นเคยกับสถานที่เล็กน้อยแล้วก้อตัดสินใจเริ่มทริปกันทันทีโดยไม่ปล่อยให้เสียเวลาไปเปล่าๆ เรากางแผนที่เดินมาถึงสถานีรถไฟ Museum ที่ตั้งอยู่ตรงปลายๆ Hyde Park (มารู้เอาทีหลังว่าทางที่เราเดินมาน่ะทั้งอ้อมทั้งชัน ถ้าออกจากโรงแรมแล้วเดินขึ้นมาหา Oxford Street แล้วเดินมาที่ Hyde Park จะใกล้กว่าเยอะเลย ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเท่านั้นเอง) จากนั้นก้อลองซื้อตั๋วรถไฟจากตู้อัตโนมัติมาลงที่สถานี Circular Quay ครับ (มารู้เอาทีหลังอีกเหมือนกันว่า ซื้อเอาจากพนักงานที่ช่องขายตั๋วจะเร็วกว่า อิอิอิ) นั่งรถไฟมา 2 สถานีเราก้อมาเจอไอ้นี่เปรี้ยงเข้าให้ครับ เย้ๆๆๆๆๆๆ ช้านมาถึง Sydney แล้วววววววววววว จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 08:47:03 ]

ความคิดเห็นที่ 23 วันนี้ผมจะพาทุกท่านมาเที่ยว The Rock และ Circular Quay กันครับ การเดินทางมา Circular Quay นั้นก้อแสนจะง่ายดายมากๆครับ รถไฟสุกสาย รถเมล์เกือบจะทุกสายจะต้องวิ่งผ่าน Circular Quay และที่นี่ยังเป็นท่าเรือ Ferry ที่ใหญ่ที่สุดสามารถไปได้ทั่ว Sydney ทีเดียว เรียกว่าเป็น “ชุมทาง” ก็ว่าได้ครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 08:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 24 Circular Quay หรือจริงๆควรที่จะเรียกว่า Semi Circular Quay ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ Sydney Cove และ Walsh Bay ว่ากันว่าในสมัยที่มีการก่อตั้งอาณานิคมนั้นบริเวณนี้ประกอบด้วยเกาะแก่งเล็กๆรวมกันถึง 13 เกาะ เมื่อมีการขนายอาณานิคมออกไปและมีการสร้างเมืองจนมาถึงในช่วงที่มีการพัฒนาที่ดินขนานใหญ่ในช่วงปี ค.ศ. 1840 อสังหาริมทรัพย์ ตึกรามบ้านช่องได้ถูกสร้างขึ้น เกาะแก่งเล็กๆเหล่านั้นได้หายไปเกือบหมดเหลือเพียง 8 เกาะเท่านั้น จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 08:48:52 ]

ความคิดเห็นที่ 25 บริเวณที่เรียกว่า The Rocks นั้นมีชื่อมาจากลักษณะทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่แถบนี้ที่มีลักษณะเป็นหน้าผาหินทรายสูงชันในสมัยเมื่อมีการตั้งอาณานิคมใหม่ๆ และบริเวณแถบ The Rocks นี้เองที่เรียกได้ว่าเป็น “สถานที่ก่อกำเนิดประเทศออสเตรเลีย”  เนื่องจากในเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 1788 ภายใต้การนำของกัปตัน Arthur Phillip กองเรือของทหารเรืออังกฤษพร้อมทหาร พลเรือน และนักโทษจำนวน 1,485 ที่มากับเรือจำนวน 11 ลำ ได้เดินทางมาถึงแผ่นหลังจากที่ได้รอนแรมในทะเลมาเป็นเวลาแรมเดือน และได้มีการก่อตั้งอาณานิคมอังกฤษโพ้นทะเลขึ้นเป็นครั้งแรกโดยใช้ชื่อว่า The British Colony of New South Wales บริเวณ The Rocks ได้กลายเป็นท่าเรือที่มีความสำคัญที่ทำให้อาณานิคมสามารถติดต่อกับประเทศแม่ นำสิ่งของที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตมาจากประเทศแม่ นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งชุมนุมชนแห่งแรก และต่อมาก็กลายเป็นที่จัดงานเฉลิมฉลองต่างๆ จนมาถึงปัจจุบัน จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 08:49:32 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สิ่งแรกที่เราจะเห็นได้ชัดเจนในบริเวณนี้ก้อคือ Museum of Contemporary Art จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 08:50:05 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตัวอาคารเป็นแบบ Art – Deco เคยเป็นที่ทำการของ Maritime Services Board มาก่อนครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 08:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 จุดนี้เป็นจุดถือว่าเป็นจุดหนึ่งที่สามารถถ่ายรูป Opera House ได้สวยครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 08:51:01 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ใกล้ๆกันนั้นคือ Cadman’s Cottage เป็นกระท่อมที่สร้างขึ้นด้วยหินทรายหลังเล็กๆ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1816  ตั้งอยู่ใกล้ๆกับ Sailor’s Home เดิมใช้เป็นคุกสำหรับกักขังลูกเรือของของผู้ว่าการอาณานิคม หรือ Governor อาคารหลังนี้ถูกตั้งชื่อตาม John Cadman อดีตนักโทษที่เดินทางมาถึง Sydney ในปี ค.ศ. 1798 ด้วยข้อหา ขโมยม้า  ต่อมาภายหลัง เนื่องจากปฏิบัติตัวเป็นนักโทษชั้นดีจึงได้รับการอภัยโทษให้เหลือแค่โทษกักบริเวณ ทำหน้าที่ดูแลเรือของ Governor และต่อมาในปี ค.ศ. 1821 จึงได้รับการอภัยโทษ และได้รับที่ทำกินพร้อมกระท่อม 4 ห้องหลังนี้ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 08:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ในปี ค.ศ. 1830  John Cadman ได้สมรสกับ Elizabeth Montimor ซึ่งเป็นอดีตนักโทษหญิงในข้อหาขโมยหวี  ครอบครัว Cadman และ ลูกสาวของ Elizabeth ได้อาศัยอยู่ที่กระท่อมแห่งนี้จนถึงปี ค.ศ. 1846 ถือได้ว่าเป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของ Sydney ก็ว่าได้ครับ ปัจจุบันใช้เป็นส่วนหนึ่งของที่ทำการ Information Centre ของ Sydney Harbour National Park ติดๆกันกับ Cadman’s Cottage ที่เป็นตึกสีเหลืองอ่อนๆคือ Sailor’s House สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1864 เดิมทีเดียวใช้เป็นที่พักชั่วคราวของกลาสีเรือสินค้าที่เดินทางมาถึง Sydney มาถึงช่วงปี ค.ศ. 1980 ต่อมาได้กลายเป็นโรงละครหุ่น และได้จัดตั้งขึ้นเป็น information center และ visitor center ในปี ค.ศ. 2005 จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 08:53:16 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ส่วนฝั่งตรงกันข้ามกับ Sailor’s House ด้านที่ติดกับน้ำก็คือ the Overseas Passenger Terminal จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 09:07:22 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ เผื่อมีโอกาสจะได้ตามรอยคุณทนายอ้วนถูก เกาะติดขากางเกงไปเลย จากคุณ : แมงโม้ไม่โม้ - [ 25 เม.ย. 51 09:09:00 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ที่นี่เป็นท่าเรือใช้จอดเรือสำราญใหญ่ๆทั้งหลาย ตัวอาคารมี 2 ชั้น มีทั้งร้านอาหารและ ร้านขายของที่ระลึก โดยเฉพาะร้านอาหารที่ตั้งอยู่ที่นี่จะเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงแทบทั้งนั้น ปัจจุบันนี้ก้อยังใช้เป็นท่าจอดเรือสำราญอยู่ครับ แต่วันหลังๆได้คุยกะพี่ไกด์เค้าบอกว่าตอนนี้ การท่าเรือของซิดนีย์ได้ทำการขยับขยายท่าเรือออกไปอีก ให้เรือสำราญไปจอดแถวๆ Wharf 8 และ 9 ที่อยู่ทางฝั่ง Darliing Harboure ด้วยครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 09:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เนื่องจากบริเวณ The Rocks นี้เป็นบริเวณที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งชุมชนแห่งแรกของ ออสเตรเลีย ดังนั้นบริเวณนี้จึงมีอาคารเก่าๆที่สร้างขึ้นด้วยหินทรายเป็นจำนวนมาก และอาคารส่วนใหญ่ก้อยังคงอยู่ในสภาพเดิมเหมือนเมื่อแรกสร้าง จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 09:10:33 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ที่ตั้งอยู่ที่เลขที่ 100 ตรงนี้เป็น  Mariner’s Church เก่า จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 09:11:09 ]

ความคิดเห็นที่ 36 จะมีจิงโจ้สักภาพมาอวดไหมครับ คุณทนายอ้วน 10 วัน ท่าทางจะสนุก แต่ผมว่าก็ คงเหนื่อยไม่ใช่น้อยนะครับ ดูต่อๆๆๆๆๆ จากคุณ : redPoTatO - [ 25 เม.ย. 51 09:18:29 ]

ความคิดเห็นที่ 37 หวัดดีครับคุณมันฝรั่งสีแดง (ผมเคยเห็นว่ามันมีสีแดงจริงๆนะครับ เคยกินด้วยละ รสชาตเหมือนมันฝรั่งธรรมดาครับ ไม่หวานเหมือนมันเทศครับ อิอิอิ) จิงโจ้อ่ะ มีครับ ไปออสเตรเลียทั้งทีไม่มีจิงโจ้มาฝากได้ยังไงครับ วันต่อไปผมจะพาไปเที่ยวสวนสัตว์ครับ รับรองว่ามีมาอวดเพียบเลย อิอิอิ ตอนนี้ Mariner’s Church  กำลังจะได้รับการปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง เค้ามีป้ายมาติดไว้ด้วยว่าจะทำอะไร จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 09:33:01 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เราเดินมาจนสุดถนนทางด้านซ้ายมือคือ Campbell’s Storeshouses ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1861 โดยพ่อค้าชาวสก๊อตชื่อ Robert Campbell  อีตา Robert Campbell  นี่ก้อเป็นอีกคนนึงครับที่มาแสวงโชคในอาณานิคมใหม่นี้ แล้วโชคดีจับพลัดจับผลูรวยเป็นเศรษฐีก้อเพราะไอเดียในการสร้างโกดังให้เช่านี่เองครับ โกดังเหล่านี้ใช้เป็นคลังสินค้าเพื่อเก็บสินค้าที่จะส่งไปจำหน่ายยังต่างเมือง และเพื่อใช้เป็นคลังสินค้าที่ได้นำเข้ามาอีกด้วย ตอนนั้นเส้นทางการค้าจากซิดนีย์ ไป กัลกัตตา เพิ่งจะเปิดทำการค้าใหม่ๆ เลยเป็นผลให้อีตา Robert Campbell รวยอื้อซ่าเลยครับ Campbell’s Storeshouses นี้เดิมเป็นอาคารชั้นเดียวมีทั้งหมด 12 ห้อง สร้างขึ้นจากหินทรายซึ่งเป็นวัสดุที่หาง่ายที่สุด ชั้น 2 ของอาคารได้ถูกต่อเติมขึ้นในปี ค.ศ. 1890 ปัจจุบัน Campbell’s Storeshouses แต่ละห้องได้กลายเป็นร้านอาหารชื่อดังหลายร้าน จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 09:37:08 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ย่องตามมาเงียบๆ.... รออยู่ว่าเมื่อไหร่น๊าขบวนนี้เค้าจาหยุดหม่ำข้าว เย้ยย ไม่ใช่ รอตามไปเที่ยวรอบซิดนีย์จ้า อิอิ.... ปีนี้เบี้ยน้อยหอยน้อย อาจจะอดไปเมืองฝรั่งเมืองนี้ปีนึง แต่เห็นพี่ทนายอ้วนเอามาล่องี้ ชักหวั่นไหว กั่กๆๆๆ จากคุณ : NiToRiA - [ 25 เม.ย. 51 09:51:05 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ตรงด้านข้างของ Campbell's Storehouses เราเดินขึ้นบันไดที่อยู่ทางซ้านมือมาที่ Hickson Street แล้ว ก้อเดินทะลุเข้าไปยัง Gorge Street ซึ่งเป็นถนนเล็กๆที่อยู่ติดกัน ก้อจะพบกับตลาดนัดที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกครับ The Rock Market The Rock Market เป็นตลาดที่มีขนาดเล็กๆ ขายสินค้าประเภท home made โดยชาว Sydneysider เองเพราะฉะนั้นสินค้าราคาไม่ถูกครับ ติดจะแพงๆซะหน่อยด้วย เพราะส่วนมากจะเป็นสินค้าที่เป็นสินค้าไอเดียแปลกๆครับ ด้วยมารยาท (และเพราะกลัวถูกด่าด้วยละครับ) เราขอไม่นำภาพสินค้ามาโชว์นะครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 09:51:10 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เราเดินชมตลาด The Rock Market จนทั่ว ซึ่งก้อใช้เวลาไม่นานหรอคกรับ เดินขึ้นไปจนสุด แล้วเดินย้อนลงมา แล้วเดินขึ้นไปอีกทียังใช้เวล่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยครับ ตอนนี้เรามาอยู่ใต้ Sydney Harbour Bridge ครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 09:53:27 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เดี๋ยวนาครับ ปวดชิ้งฉ่อง ขอแวะแปร๊บบบครับ อิอิอิ เสร็จแล้วครับผม ไปครับไปเดินเที่ยวกันต่อครับ .. จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 09:54:15 ]

ความคิดเห็นที่ 43 แล้วเราก้อเดินลอดใต้ Sydney Harbour Bridge แล้วเลี้ยวซ้ายลงไปตาม Lower Fort Street ลงไปจนสุด ลงบันใดไป 1 ช่วง จะเห็นมีท่าเรืออยู่ 1 ท่า คือ Pier 1 จากตรงนี้สามารถถ่ายรูป Sydney Harbour ได้มุมกว้างมากๆครับ เราแวะถ่ายรูป Opera House 1 รูป จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 09:57:06 ]

ความคิดเห็นที่ 44 มองมุมเงยขึ้นมาก้อจะเห็น Sydney Harbour Bridge ในมุมนี้ครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 09:58:01 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้ามองตรงไปฝั่งตรงกันข้ามก้อจะเป็น Suburb ที่เรียกว่าเป็น เขต Northern Sydney เคยมีคนบอกว่าเป็นแหล่งธุรกิจ หรือ เขตเมืองใหม่ของ Sydney ครับผม ตรงริมน้ำเชิง Sydney Harbour Bridge จะมีสวนสนุกอยู่ 1 แห่งชื่อ Luna Park ครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 10:00:14 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ถ่ายรูป แวะพักเหนื่อย ดื่มน้ำกันเสร็จสรรพ เราก้อเดินย้อนขึ้นมาตาม Hickson Road ครับ บริเวณนี้ก็จะเป็นท่าเรือยาวๆเ หรือที่เค้าเรียกว่า Finger Wharf เหมือนกับที่ Circular Quay นั่นแหละครับ มีทั้งหมด 8 ท่า เพียงแต่ว่าปัจจุบันนี้ท่าเรือทั้ง 8 ไม่ได้เป็นท่าเทียบเรือแล้วแต่บางแห่งได้ถูกปรับปรุงให้เป็น apartment ราคาแพง ร้านอาหารหรู โรงแรมเก๋ๆ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 10:02:04 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ส่วน Wharf ที่ 4 และ 5 ได้ถูกปรับปรุงให้เป็น Theater Wharf เป็นที่ทำการของ Sydney Theater Company ครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 10:02:51 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ตัวโรงละครจริงๆจะตั้งอยู่ในอาคารอีกฟากนึงของถนนครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 10:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เราเดินมาเรี่อย โผล่หัวเข้าไปแอบดู Apartment ที่สร้างขึ้นใหม่แทนที่ท่าเรือเดิมบ้าง จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 10:08:04 ]

ความคิดเห็นที่ 50 หันหลังกลับไปถ่ายรูป Sydney Harbour Bridge ในมุมที่แปลกๆบ้าง จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 10:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เอาจิงโจมาอวดแทนค่ะ ถ่ายที่wild life ดีมากค่ะลูกชอบมากกว่า ทาลองก้า จากคุณ : puppuppy - [ 25 เม.ย. 51 10:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 52 น้องนิเอ๊ย ... ทัวร์นี้รับรอง ว่าไม่มีหิวเด็ดขาด เดี๋ยวกิน เดี๋ยวกิน เลยละน้อง อิอิอิอิ จนมาสุด Hickson Road  ... เราเดินข้ามถนนมาอีกฝั่งหนึ่ง แล้วเดินขึ้นบันไดที่มีอยู่ทั่วไปในบริเวณ The Rocks ขึ้นมาที่ Windmill Street ซึ่งอยู่บนระดับที่สูงกว่า Hickson Street อย่าลืมนะครับว่าสภาพภุมิประเทศของ The Rocks เดิมเป็นหน้าผาสูง เพราะฉะนั้นพื้นที่จะสูงๆต่ำๆ สลับกันไปมาครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 10:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เดินดูโน่นดูนี่มาจนถึงแยกที่ถนน Windmill Street ตัดกับ Lower Fort Street ก้อจะเจอ โรงแรม Hero Of Waterloo ตั้งตระหง่านอยู่ครับ โรงแรมนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1844 ด้วยหินทรายที่ตัดออกมาในการสร้าง Argyle Cut ว่ากันว่าที่โรงแรมแห่งนี้ใช้เป็นที่คัดเลือกกลาสีเรือโดยจับคนที่ดื่มจนเมาแอ๋เข้าไปขังไว้ในกรงที่อยู่ในห้องใต้ดินแล้วหามกรงผ่านทางอุโมงค์ใต้ดินไปลงเรือที่ท่าเรือ อ่ะๆๆๆ น่ากลัวพิลึกครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 10:13:32 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ที่สุดถนน  Lower Fort Street จะมีโบสถ์หลังเล็กๆตั้งอยู่นั่นคือ Garrison Church หรือมีชื่อจริงว่า Holy Trinity Church แต่ที่เรียกกันทั่วไปว่า Garrison Church ก็เพราะเป็นโบสถ์ของทหารแห่งแรก Garrison Church ออกแบบโดย Henry Ginn มีการวงศิลาฤกษ์ในปี ค.ศ. 1840 ในปี ค.ศ. 1855 สถาปนิกชื่อ Edmund Blacket ได้รับมอบหมายให้ขยายขนาดของโบสถ์ จนสามารถรองรับคนได้ถึง 600 คน จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 10:20:20 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ตอนนี้เราเริ่มหาทางที่จะเดินข้าม Sydney Harboure Bridge กันครับ ในหนังสือบอกว่าจะมีทางเท้าเดินข้ามไปได้บริเวณ Cumberland Street เราก้อต้องเดินตัดขึ้นไปครับ เดินผ่าน Argyle Cut ซึ่งเป็นถนนที่เจาะทะลุภูเขาหินทั้งลูก ที่ Argyle Cut นี้เองที่สมัยก่อนเป็นที่ที่เกิดเหตุการณ์สยองขวัญหลายครั้งเนื่องจากเป็นที่เปลี่ยว และมืดมากๆ ผมว่าเดี๋ยวนี้ก้อยังเปลี่ยวและมืดนะครับ ตรงนี้จะมีช่องทางเดินลอดถนนที่จะขึ้น Sydney Harboure Bridge ไปฝั่ง Cumberland Street พอออกจากช่องทางเดินนี้ให้เลี้ยวขวาแบบ 180 องศาทันทีครับ ถ้าเดินหันไปทางซ้ายจะไปสุดที่ตรง Lower Fort Park ที่เราเดินผ่านมาเมื่อกี๊ครับ ผมกะพี่ปลาทูก้อเดินหลงรอบนึงครับขาเดินลงไปไม่เท่าไหร่ครับ ขาที่จะตะกายกลับขึ้นมาเล่นเอาเหงื่อซึมๆเลยละครับ พอเราหัน ขวา 180 องศา แล้วเราจะต้องเดินขึ้นบันไดไปอีกประมาณ ตึก 4 ชั้นครับ แล้วถึงจะเห็นทางเดินทอดไปข้างหน้า ได้เดินตรงไปเลยครับ แต่ “ทนายอ้วน” นะเหรอ จะไปแบบง่ายๆ เราเดินขึ้นบันไดต่อไปอีก 1 ชั้น ขึ้นมาถ่ายรูปวิวนี้กันก่อนครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 10:22:14 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ตรงนี้มีแผ่นจารึกเมื่อตอนเปิดสะพานติดไว้ครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 10:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 57 อ้าวกรำ ลืมใส่รูป Argyle Cut ให้ดูครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 10:24:34 ]

ความคิดเห็นที่ 58 นี่ไงครับทางเดินข้าม Sydney Harbour Bridge จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 10:37:41 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ผมหวั่นใจอยู่หน่อยๆว่ามันจะเป็นยังไงบ้างน๊า ... มันจะน่ากลัวหรือเปล่าหว่า ... ผมยิ่งเป็นโรคแพ้ความสูงแบบที่เรียกว่าขั้นโคม่าอยู่ด้วย ผมจะไปรอดหรือเปล่าน๊า ผมเดินไปก้อคิดไป ... ตอนแรกๆทางเท้ายังอยู่ต่ำกว่าระดับพื้นถนนมากก้อยังไม่น่ากลัวเท่าไหร่ครับเพราะเหมือนเดินเลียบสะพาน พอทางเท้าเริ่มลาดเอียงขึ้นจนมีระดับเท่าพื้นถนน สิ่งที่ผมหวั่นใจก้อเริ่มเป็นจริง ... สะพานมันเริ่มสั่นครับ ... ไม่ได้สั่นมากครับ แค่ไหวน้อยๆ แต่ก้อรู้สึกได้เมื่อยืนเฉยๆ ด้วยเป็นเพราะว่า Sydney Harboure Bridge นี้มีทางวิ่งถึง 4 หรือ 5 เลนนี่ละครับ + รางรถไฟอีก 2 ราง การจราจรบนสะพานก้อวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา ผมเลือกที่จะเดินชิดถนนมากกว่าที่จะเดินชิดราวสะพาน ถึงแม้ว่าความปลอดภัยจะเป็น 100% ก็ตามครับ ผมรู้สึกว่าถ้าผมหยุดผมจะหงายหลังตกสะพานทันที ผมค่อยๆก้าวไปทีละก้าว ทีละก้าว พยายามเดินให้ชิดริมถนนมากที่สุด (ไม่ต้องห่วงนะครับไม่มีทางตกลงไปในถนนแน่ๆ เพราะเค้ากั้นทางเท้าและถนนด้วยราวและลูกกรงเหล็กอย่างแน่นหนาทีเดียวครับ เช่นเดียวกับฝั่งราวสะพานครับ มีการกั้นรั้วอย่างแน่นหนาตั้งแต่พื้นจะสูงท่วมหัว จะเอามือยื่นออกไปยังยากเลยครับ เลิกฝันไปเลยครับกับความคิดที่จะไปโดด Sydney Harboure Bridge) จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 10:39:37 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ตามมาตั้งนานแล้ว  เมื่อไหร่จะพาไปดูกลุ่มเป้าหมายซะที ? ภาพนี้ :  English pub in Tasmania, Australia  ครับ จากคุณ : Draught Beer - [ 25 เม.ย. 51 10:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ผมสารภาพว่าไม่ได้ควักกล้องออกมาถ่ายรูปแม้แต่รูปเดียวครับ รูปบน Sydney Harboure Bridge นี้ผมเอามาจากกล้องพี่ปลาทูทั้งหมดครับ Sydney Harboure Bridge หรือที่เค้าเรียกกันเล่นๆว่า “ไม้แขวนเสื้อ” (Coathanger) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1926 และสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1932  ถือว่าเป็นชัยชนะทางวิศวกรรมครั้งยิ่งใหญ่ในสมัยนั้นพร้อมๆกับการนำมาซึ่งความตกต่ำทางเศรษฐกิจของออสเตรเลียในขณะเดียวกัน ก่อนหน้าที่จะมีการสร้าง Sydney Harboure Bridge สิ่งที่เป็นการคมนาคมเชื่อม The Rocks กับ  Northern Suburb ก้อคือเรือ Ferry หรือไม่ก้อถนนวงแหวนที่ห่างออกไป 20 กิโลเมตร  เจ้า Coathanger นี้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นส่วนๆด้วยเหล็กกล้า แล้วนำมาประกอบกัน โดยเริ่มสร้างจากฐานรากของตอม่อสะพานแต่ละด้านแล้วค่อยๆนำชิ้นส่วนของโครงส่วนโค้งของสะพานมาต่อกันจะมาเจอกันตรงกลาง จากนั้นจึงเริ่มสร้างพ้นผิวจราจรจากกลางสะพานออกมาหาแต่ละฝั่ง ใช้เงินสร้างไปทั้งหมด 6.25 ล้านเหรียญ ซึ่งทั้งหมดเป็นเงินที่กู้ยืมมาเพิ่งจะชดใช้คืนครบทั้งต้นทั้งดอกเมื่อปี 1988 นี้เอง ทางเท้าที่ผมเดินอยู่นี้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 59 เมตร แต่สร้างจากตรงกลางสะพานออกมาแต่ละฝั่ง กลับกันกับการสร้างส่วนโค้งที่สร้างจากแต่ละฝั่งแล้วไปเจอกันตรงกลาง จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 10:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 62 อ่ะๆๆ นี่ไงผมเอารูป Hero of Waterloo มาฝากแล้วไง อิอิอิ คุณพ่อเบียร์ระวังนะครับไปเมาไม่รู้เนื้อรู้ตัวแล้วจะโดนลักตัวไปเป็นกลาสีเรือ อิอิอิ ระหว่างทางที่เดินอยู่กลางสะพานผมชำเลืองมอง  Opera House ครับ หูยยยยย น่ากลัวๆๆๆๆๆ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 10:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เอามาฝากอีกรูปครับ ... กว่าจะถ่ายมาได้หัวใจผมแทบหยุดเต้ล เพราะผมต้องไปยืนติดกับราวสะพาน ... หัวใจจะวายยย จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 11:16:12 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ในที่สุด ... หลังจากที่ผ่านไปซักครึ่งชั่วโมงเท่านั้น แต่ผมรู้สึกว่าเหมือนเวลามันนานเป็นชั่วโมงๆ ผมก้อมาถึง ตอม่ออีกด้านนึงครับ เย่ๆๆ ผมทำได้แร๊ววววววว เดินข้าม Sydney Harbour Bridge ครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 11:31:27 ]

ความคิดเห็นที่ 65 จากตรงนี้ต้องเดินไปตามทางเท้าอีก 200-300 เมตรครับจะเจอบันไดลงไปด้านล่าง เดี๋ยวครับผมขอพักเหนื่อยก่อน ... ไอ้เหนื่อยน่ะไม่เท่าไหร่ หัวใจผมจะหยุดเต้นอ่ะดิครับ เห่อ เห่อ เห่อ นั่งพักเหนื่อยซักครู่ท้องเริ่มร้องผมเริ่มสอดส่ายสายตาหาของกินครับ แล้วเราก้อได้ package พิเศษมากินเป็นอาหารกลางวันครับ ไก่ 1 สะโพก + ชิปส์ + สลัด จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 11:35:00 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ผมเพิ่มอีก 6 เหรียญซื้อ ซีซาร์สลัดมาทานคู่กันครับ กล่องเบ้อเร่อ เจ๊แกใส่มาจนล้นกล่องเลยครับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 11:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 67 พอทานเสร็จพักท้องพอให้ย่อยเวลาก้อปาเข้าไปบ่ายกว่าๆ เราเลยคิดว่าจะกลับโรงแรมกันดีกว่า ทั้งง่วง ทั้งเหนื่อย ผมอยากอาบน้ำเต็มแก่แล้ว ออกจากบ้านมาตั้งแต่ 9 โมงเมื่อวานนี่มันบ่ายสองของอีกวันแล้วตัวผมยังไม่โดนน้ำเลยนะเนี่ยะ ... เดินกลับกันมั๊ย ... พี่ปลาทูถามผม เฮ๊ย ... พี่จะบ้าเหรอ ... เอาชีวิตรอดมาได้ก้อบุญแล้วนะเนี่ยะ  เดินข้ามกลับไปอาจจะหัวใจวายตายกลางสะพานได้นะพี่ ... กลับรถไฟเหอะนะๆๆ เราเดินมาเพื่อจะซื้อตั๋วรถไฟที่สถานี Milson Point ซึ่งอยู่ใต้ Sydney Harbour Bridge นั่นเอง แปร่วววววว ..... มีป้ายประกาศครับว่าวันนี้ปิดสถานีเพื่อซ่อมราง กรรม ... ทำไงดีหว่า ... หัวเด็ดทรีนขาดผมก้อไม่เดินกลับแน่ๆ ผมเดินเข้าถามพี่คนขายตั๋วว่าผมจะกลับไป Circular Quay ได้ไง พี่แกบอกว่า มันมีรถ shuttle bus บริการแทนรถไฟ แต่ต้องไปลงที่ Wynyard นะไอ้น้อง ฮ้อๆๆๆ โอเชๆพี่ ขึ้นตรงไหนล่ะพี่ พี่แกชี้ป้ายที่รถจอดแล้วบอกว่าเราต้องซื้อตั๋วรถไฟก่อนแล้วเอาไปโชว์คนขับรถ shuttle bus ได้เลย ซื้อตั๋วเสร็จสรรพ มาขึ้นรถ แล้วรถก้อนำเรากลับมาที่สถานี Wynyard จากสถานีนี้เราขึ้นรถไฟมาลงที่สถานี Museum แล้วเดินกลับโรงแรมเพื่อ check in ครับ เราได้ห้องพักที่ชั้น 7 ครับ ห้อง 706 (ห้องพักที่เป็น apartment suit จะอยู่ตั้งแต่ชั้น 4-14 ครับ) เย้ๆๆ ถึงห้องแล้วววว นี่ห้องรับแขกครับ โซฟาตัวนี้มารู้ทีหลังว่าดึงออกมาเป็นที่นอนได้ กรำ ... ตรูนอนขดอยู่หลายวัน อิอิอิ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 11:45:46 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ด้านในเป็นโต๊ะกินข้าวเล็กๆ มีครัวเล็กๆไว้ทำอาหาร (เยอะๆ ... เดี๋ยวกระทู้ต่อๆไปจะเห็นว่าเจ้าไมโครเวฟอันเท่านี้ผมก้อสามาถทำอาหารได้หลากหลายมากๆ) ตู้เย็นซ่อนอยู่ในตู้อีกที จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 11:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 69 อุปกรณ์ทานอาหารพวกจานช้อน ส้อม ถ้วย แก้วน้ำ แก้ไวน์ แก้วกาแฟ มีพร้อมครับผม ขาดแต่มีดหั่น มีดปอกเท่านั้น กรำจริงๆ อีกวันนึงเลยต้องไปลงทุนซื้อมีดราคา 2 เหรียญทื่ Woolworth มาใช้ ที่นี่เค้ามีอ่างล้างจานพร้อมน้ำยาล้างจานหอมๆ และที่คว่ำชามไว้ให้ด้วยครับ วันไหนที่เราคว่ำจานทิ้งไว้พอแม่บ้านมาทำความสะอาดก้อเจ็บจานเข้าตูให้ด้วย อิอิอิ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 11:49:18 ]

ความคิดเห็นที่ 70 พอเราเห็นไมโครเวฟเราก้อดีใจกันใหญ่เพราะเรากะว่าจะทำอาหารกินเองตลอดเพื่อเป็นการประหยัด แต่ดีใจได้ไม่นาน พอพี่ปลาทูเปิดกระเป๋ารื้อของ ... ก้อพบว่าเราไม่ได้เอาไอ้ภาชนะสำหรับหุงข้าวและทำกับข้าวในไมโครเวฟมาจากเมืองไทยครับท่าน แง๊ๆๆๆๆ เห็นมั๊ยๆๆๆ บอกแล้วให้เตรียมๆๆๆ นี่ๆๆๆๆๆๆ เซ็งครับไปอาบน้ำดีกั่ว โห้ว พระเจ้าจ๊อดดดดด กระจกบานใหญ่เบ้อเร่อเท่อ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 11:50:02 ]

ความคิดเห็นที่ 71 มีอ่างอาบน้ำ และฝักบัวให้เลือกใช้ครับ อ่างอาบน้ำนั่นผมได้ใช้แช่เท้าด้วยน้ำอุ่นทุกวันครับ อ่ะๆๆๆ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 11:50:58 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ดูทีท่า..ว่าหนทางนี้ยังอีกยาวไกล จากคุณ : prettyguide - [ 25 เม.ย. 51 12:17:35 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ที่พักดีจังเลยค่ะ จองยังไงคะ น่าสนใจตัง จากคุณ : แมงโม้ไม่โม้ - [ 25 เม.ย. 51 12:21:30 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ใกล้จบละพี่หมูน้อย กระทู้มาราธอน โพสตั้งแต่เมื่อคืนยันเที่ยง อ่ะๆๆ อย่างงี๊แหละพี่หนีนายมาโพสกระทู้ อ่ะๆๆๆๆๆ หวัดดีครับคุณแมงโม้ ผมจองผ่าน octopustravel ครับผม เล็งอยู่นานหลายเดือนจนได้โปร พัก 9 คืนแถม 1 คืน โป๊ะเชะเลย คับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 12:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ห้องนอนครับ ถ้าเป็นห้อง Delux จะมีแต่ Twin Bed ครับ แต่ไม่ได้ค่อยเข้าไปนอนกันหรอกครับ ไปกลิ้งกันอยู่ที่โซฟา กะห้องรับแขกโน่นแหละครับ มีทีวีจอแบนในห้อง ก้อเหมือนไม่มี เพราะไม่ค่อยได้มาเปิดดู อิอิอิ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 12:56:38 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ตามไปเที่ยวด้วยครับคุณทนาย....... จากคุณ : NumAromDee - [ 25 เม.ย. 51 13:19:08 ]

ความคิดเห็นที่ 77 หวัดดีครับคุณหนุ่มอารมณ์ดี ... แหม มาทันต้องเปิดห้องนอนพอดี อ่ะๆๆ ลืมรูปห้องนอนครับผม จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 13:35:05 ]

ความคิดเห็นที่ 78 นี่ทีวีจอแบนที่อยู่ในห้องนอนครับ ห้องที่นี่ไม่ได้ใช้แอร์รวมนะครับแต่ละห้องมีแอร์แยกกันไป จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 13:36:38 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ห้องรับแขกก้อมีอีกเครื่องนึงครับ ใหญ่กว่าตั้งเยอะหันได้ 180 องศาเลย จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 13:38:30 ]

ความคิดเห็นที่ 80 อาบน้ำอาบท่าเสร็จ ก้อม่อยหลับกันไปหมด ตื่นมาอีกทีก้อบ่ายแก่ๆ จะเย็นอยู่แล้ว ท้องเริ่มร้องอีกแล้วครับท่าน เราชวนกันออกไปเดินเล่นแถวไชน่าทาวน์ พี่ปลาทูได้มาม่ามาต้มยำกุ้งมา 2 ห่อ ผมได้มาม่ากิมจิชิเกะของเกาหลีมา 2 ห่อ มิโกเร็ง ของอินโดอีก 2 ห่อ กินประทังชีวิตไป 1 มื้อก่อน มื้อนี้หมดไป 2 คน 5 เหรียญคับ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 13:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ขากลับแวะซื้อขนมและน้ำขวดที่ซุปเปอร์มาเก็ทใกล้ๆโรงแรม แล้วเลยขอลาวันแรกในซิดนีย์ด้วยรูปซิดนีย์จากระเบียงห้องตอนกลางคืนครับผม จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 13:41:20 ]

ความคิดเห็นที่ 82 คุณทนายรีิวิวได้ละเอียยยยด  ยิบ สมกับสัมมาอาชีพจิง จิง สองภาพสุดท้ายสวยมากๆ ค่า จากคุณ : vic_mom (vic_mom) - [ 25 เม.ย. 51 14:26:45 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ตามเกาะรีวิวน้องทนายอ้วน ตอนพี่ผ่านด่าน ก็ไม่โดนตรวจกระเป๋าเหมือนกัน แต่ตอนยืนรอกระเป๋า ก็มีน้องหมา (น่าจะพันธุ์บีเกิ้ล) มาดมๆ กระเป๋าถือ มีบางคนน้องหมาดมแล้วไม่ยอมไปไหน เจ้าหน้าที่ก็จะขอให้ผู้โดยสารเปิดกระเป๋าให้ตรวจ ส่วนแฟนพี่ ตอนผ่าน ตม. โดนเรียกตัวเข้าห้องไปพร้อมกับผู้โดยสารผู้ชายอีก 2-3 คน เข้าไปแล้วเค้าก็ถามๆ อะไรนิดหน่อยแล้วก็ปล่อยออกมา ไม่รู้เค้าสุ่มยังไง เพราะเลือกแต่ผู้ชายไป ห้องที่ซิดนีย์น่าพักมาก ไปแบบน้องทนายก็ดีนะ ไม่ต้องเก็บของย้ายสัมภาระให้เหนื่อย จากคุณ : กาแฟขม - [ 25 เม.ย. 51 15:59:54 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ตามมาดูซิดนีย์ ค่อนข้างจะคับคั่งไปด้วยตึก   รึว่ายังไม่ได้ไปพาร์ค  เราว่าเราชอบเมลเบิร์นมากกว่า เด๋วตามต่อค่ะ จากคุณ : คุณแม่ติดเน็ต - [ 25 เม.ย. 51 16:11:16 ]

ความคิดเห็นที่ 85 หวัดดีครับคุณvic_mom ขอบคุณมากครับ ไหนก้อเอารูปมาโพสแล้วก้อเอารายละเอียดมาลงไว้หน่อยๆจะได้เที่ยวสนุกขึ้นครับ หวัดดีครับพี่กาแฟขม มีคนแอบอยากขับรถเที่ยวแบบพี่ครับ อ่ะๆๆ ที่พักดีมากๆเลยอ่ะครับ ผมว่าราคากลางๆนะครับ สะดวกด้วยครับใกล้ซูเปอร์มาเก็ท -- "บ้าน" ของผมในกระทู้ก่อนก้อ เมลเบิร์น ไงครับพี่ อิอิอิ หวัดดีครับคุงแม่ ไม่ค่อยประทับใจตัวซิตี้ของซิดนีย์ครับ แต่วันหลังๆได้ออกไปนอกๆเมืองก้อคิดถึงเมลเบิร์นเหมือนกันครับผม อยากกลับบ้านๆๆๆๆๆ อิอิอิ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 25 เม.ย. 51 16:49:41 ]

ความคิดเห็นที่ 86 อ่านไม่ทัน โคตรเยอะ ว่างงจะไปให้นั่งเล่าให้ฟังนะอิๆๆ จากคุณ : bicycle_trend - [ 25 เม.ย. 51 16:57:56 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ต่อวันที่สามเลยค่ะ ทำไมไม่กิน Pancake ที่ The Rock หรือกลับไปกินวันหลังคะ จากคุณ : scuba734 - [ 25 เม.ย. 51 20:21:03 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ตามมาเที่ยวด้วยครับ..น่าสนุกจัง จากคุณ : Red Fox - [ 25 เม.ย. 51 22:23:56 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เปลี่ยนแปลงไปเยอะเนอะ อยากไปปีน Sydney Harbour Bridge งะ...(ยังไม่เคยขึ้นไปปีนสะพานนี้เลย) จากคุณ : marzo คนชอบเที่ยว (marzo) - [ 25 เม.ย. 51 23:06:49 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ผมไม่เห็นจะเหนื่อยจะเหน็ดตรงไหนเลย แค่สะพานซิดนี่ย์บริดจ์เท่านั้น อีตาทนายมาบ่นเหมือนจะไปไม่รอด ฮี่ธ่อ ผมผ่านทั้งไปทั้งกลับ แบบนั่งไปบนรถหลานสาว เขาขับพาข้ามไปที่สวนใต้สะพานฝั่งเหนือ แล้วกลับมาทางเดอะร๊อก มาเดินเล่นอีกตั้งนาน ไม่เห็นเมื่อยขานี่หว่า ทนายอ้วนแพ้อาเสียแล้วหรือนี่ เดินข้ามสะพานแค่เที่ยวเดียวเอง อานั่งรถข้ามไปข้ามกลับ ไม่เห็นบ่น ไม่เห็นเหนื่อยนี่หว่า จากคุณ : xebec - [ 26 เม.ย. 51 01:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 91 อาหมูคราบบบบบบบบบบ .... ไม่ได้เหนื่อยอ่ะ .... แต่ผมแพ้ความขาว เอ๊ย แพ้ความสูงอ่ะครับอาหมู เห็นมั๊ยครับ ผมเดินชิดริมซ้ายมือตลอดเลยอ่ะครับอา ... ผมว่าโรคนี้มันเป็นอุปสรรคในการเที่ยวหน่อยๆอ่ะครับอา ... รักษาที่ไหนดี อ่ะๆๆๆ น้องจักรยาน .. มาเลยๆ มานั่งฟังเราโม้ .. เดี่ยวเลี้ยงข้าว อ่ะๆๆ พี่ตุ้มคราบ วันที่ 3 กะลังปั่นมือเป็นระวิงอยู่ครับผม วันนี้กะพรุ่งนี้ต้องไปสัมมาที่สวิสโอเต็ล ว่าจะหนีไปรีวิว"ทาคูมิ" ก่อน ก้อเกรงว่าลูกทัวร์จะตื๊บเอาอ่ะครับ อิอิอิ ปร๋าเรดครับ ตามมาเวยๆ ครับ คุณmarzo แอบรู้มาว่ามาพบรักที่ออสเหรอคับ ... อิอิอิ โรแมงติกจัง อยากไปพบรักที่ lake como จัง อ่ะๆๆๆๆ จากคุณ : ทนายอ้วน - [ 26 เม.ย. 51 07:47:15 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ว้าว ที่พักดูดีน่าสบายมาก ๆ เลยค่ะ เราไปพัก hostel ที่ Pitt Street ก็ใกล้สถานี Central เหมือนกัน แต่ hostel ก็คือ hostel นะคะ อิอิ คุณทนายอ้วนเที่ยวได้ละเอียดจัง เราไป The Rock เหมือนกันแต่เดินอย่างผิวเผินมาก ๆ เลย เดินไม่ทั่วด้วย เพราะมีเวลาน้อยและมัวแต่หาร้านกินแพนเค้ก แต่ในที่สุดเราก็ได้รูปโอเปร่าเฮ้าส์แบบจุใจที่นี่ล่ะค่ะ แล้วก็เหนื่อยก็เลยหมดแรงไม่ได้เดินขึ้นสะพาน รอชมตอนต่อไปนะคะ น่าสนใจมาก ๆ เพราะเราอยู่ซิดนีย์แค่ 3 วันเองค่ะ และใน 3 วันนี้เราไป blue mountain 1 วันด้วย ถ้านับจริง ๆ ก็เที่ยวในซิดนีย์แค่ 1 วันครึ่งเองค่ะ น้อยเนอะ อยากกลับไปเที่ยวอีกจัง จากคุณ : Susie - [ 27 เม.ย. 51 10:39:40 ]

ความคิดเห็นที่ 93 แวะมากระทู้นี้ไม่ผิดหวัง ได้เที่ยวด้วย ได้ความรู้ด้วย และที่สำคัญ กระทู้หน้า จะได้เรียนทำอาหารโดยไมโครเวฟ แบบไม่มีภาชนะ (ฮ่า) เดาว่า ทริปนี้ น่าจะใช้เวลาในการรีวิวมากกว่า 1 เดือน หุหุหุ จากคุณ : Invisible Angel - [ 27 เม.ย. 51 12:21:26 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ...รูปเปิดมานี่สวยสุดๆ............โดนใจเจ๊กั๊บ... ........  เด๋วอ่านก่องน๊า... จากคุณ : KRATAIPA - [ 27 เม.ย. 51 12:45:12 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ^ l l ขำ  93 แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 51 12:56:12 จากคุณ : skyrocket - [ 27 เม.ย. 51 12:55:32 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ตามไปดูอีกชอบวิวกลางคืนมาก จากคุณ : หมุยจุ๋ย - [ 27 เม.ย. 51 14:53:36 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ภาพสวยดีและได้ความรู้ด้วย ขอบคุณมากครับคุณทนายอ้วน จากคุณ : adial - [ 27 เม.ย. 51 21:37:52 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ไม่ได้ไปเที่ยวกระท่อมกัปตันคุ๊กด้วยหรือค่ะ จะได้เจอกัน ไปช่วงใกล้ๆกันเลย แต่เราไปกับทัวร์ เดินตามกันไปเป็นลูกเป็ดเลย มองไปทางไหนเห็นแต่คนไทยเต็มไปหมด อบอุ่นจนร้อนเลยจริงๆ จากคุณ : sissie - [ 27 เม.ย. 51 21:44:14 ]

ความคิดเห็นที่ 99 มาทีหลัง แต่เอาใจช่วยให้เดินเก่งๆ ไม่แพ้ใครนะคับ จากคุณ : เด็กชายสีฟ้าตาดำๆ - [ 28 เม.ย. 51 17:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 100 รอชมรีวิวตอนต่อไปด้วยคนครับ จะเอาไปเลียนเเบบ อิอ จาไปวันที่ 24 นี้เเล้ว พักที่เดียวกับคุณ ทนายอ้วนเลย เเต่ผมพักห้อง express triple room เเปดคืน โดนไปต้อง 43200 เเนะครับ จากคุณ : watquik - [ 13 พ.ค. 51 02:59:31 ]