ความคิดเห็นที่ 1 สำหรับท่านที่สนใจ กระทู้พาเที่ยวตอน มิวเซียมสยาม  ลองเชิญชมได้ที่ลิงค์นี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6533615/E6533615.html แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 51 19:50:06 แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 51 19:36:26 จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 19:05:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แค่รูปเปิดกระทู้ ก้อได้ใจแล้ว   อยากไปเหมือนกัน จากคุณ : sueko - [ 28 เม.ย. 51 19:32:55 ]

ความคิดเห็นที่ 3 และเช่นเคย เพื่อให้การบรรยายประกอบภาพ (ผมมีหน้าที่ถ่ายภาพมาอย่างเดียว อิอิ) มีสีสันขึ้น ผมเลยขอคัดลอกประวัติของวัดแห่งนี้มาจากเวบ http://www.watboromracha.org/index.php  เพื่อให้เพื่อนๆชาว BP ได้ความรู้ไปด้วยนะครับ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ ฯ ตั้งอยู่ที่ตำบลโสนน้อย   อำเภอบางบัวทอง  จังหวัดนนทบุรี จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 19:36:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พื้นที่เดิม ก่อนเคยเป็นโรงเจขนาดเล็ก มีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่เศษ เป็นโรงเจที่ชาวบ้านบางบัวทองให้ความศรัทธามาช้านาน จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 19:37:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต่อมาคณะสงฆ์จีนนิกายมีปณิธานจะพัฒนาที่ส่วนนี้ให้เป็นวัดที่สมบูรณ์   เพื่อสร้างเป็นวัดเฉลิมพระเกียรติ  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  เนื่องในวโรกาสเถลิงถวัลย์ครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี  วัดนี้มีพื้นที่ทั้งหมด ๑๒ ไร่ โดยคณะสงฆ์จีนนิกายมอบให้ พระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์ (พระอาจารย์เย็นเชี้ยว) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างและมีพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร เป็นประธานที่ปรึกษา พร้อมทั้งพุทธบริษัทไทย-จีน  ร่วมกันสร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคลสมัยปีกาญจนาภิเษก จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 19:38:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชานุญาตให้สร้างวัดและพระราชทาน นามว่า  “วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์จีนนิกายรังสรรค์” ท่านแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการสำนักพระราชวัง  เป็นผู้ดำเนินการขออนุญาต สร้าง วัดบรมราชากาญจนาภิเษก อนุสรณ์ฯ   จึงนำมาซึ่งความปิติยินดีของชนชาวไทยเชื้อสายจีน และความซาบซึ้งใน พระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อ คณะ สงฆ์จีนมาโดยตลอด ในภาพ คือ พระอุโบสถ ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด และใหญ่ที่สุดในพระอาราม แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 51 19:57:25 จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 19:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์จีนนิกายรังสรรค์ ได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ตามวัตถุประสงค์ ๓ ประการ ที่ได้ตั้งไว้ คือ ๑. เพื่อเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ ๕๐ ปี  ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและแสดงความจงรักภักดี  กตัญญูกตเวทิตาถวายเป็นพระราชกุศล  แด่พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์ที่คณะสงฆ์จีนนิกาย ได้เข้ามาพึ่ง พระบรมโพธิสมภาร ๒.  เพื่อตั้งเป็นพุทธสถานให้พุทธศาสนิกชนได้ปฏิบัติธรรมและประกอบพิธีกรรมพร้อมทั้งเป็นที่เผยแผ่ พระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานจีนนิกาย ๓. เพื่อตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม ไทย-จีนเป็นที่ศึกษาพระธรรมวินัยของพระภิกษุสามเณรและสร้างศาสน ทายาทของ พระพุทธศาสนาสืบไป จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 19:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สถาปัตยกรรมภายในวัดบรมราชาฯเป็นสถาปัตยกรรมในยุคหมิง-ชิง จำลองมาจากพระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่ง มีลักษณะความสวยงามเป็นสง่าและประณีตอย่างยิ่ง จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 19:42:58 ]

ความคิดเห็นที่ 9 พระประธาน 3 พระองค์คือพระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า เป็น พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน พระอมิตาภพุทธเจ้า และ พระไภษัชยคุรุไวฑูรย์พุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าในอดีต พระพุทธเจ้า ๓ พระองค์นี้เป็น พระประธานในพระอุโบสถ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ฯ พระประธาน ๓ พระองค์นี้เปรียบ เสมือนเป็น ศูนย์กลาง ของพุทธจักรวาล ที่กว้างใหญ่ไพศาลมีเหล่าพระโพธิสัตว์พระอรหันต์และเทพธรรมบาลรายล้อมอยู่เป็นจำนวนอเนกอนันต์ใน พุทธจักรวาลแห่งนี้ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 51 19:56:25 จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 19:45:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โคมไฟใจกลางอุโบสถ งดงามยิ่งครับ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 19:47:11 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สถาปัตยกรรมภายในอุโบสถ ปราณีต งดงามมากมายครับ ในภาพ คือ ตุ้ยเลี้ยง... ตุ้ยเลี้ยง  คือ  เสาขนาดใหญ่  จำนวน ๔  ต้น อยู่ทางด้านข้างของพระประธานทั้งสองด้านเสาด้านละ ๒ ต้น เป็นแผ่นไม้สัก ครึ่งวงกลมขนาดความสูงประมาณ  ๘  เมตร  เสาแต่ละต้นมีกลอนอักษรจีนจำนวนเสาละ ๑๕  ตัวอักษร   แกะสลักปิดทองอย่างงดงาม แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 51 20:27:16 จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 19:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ด้านหลังพระอุโบสถม ี วิหารหมื่นพุทธ วิหารอวโลกิเตศวรวิหารบูรพาจารย์และวิหารด้านซ้ายขวาประกอบกัน จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 19:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ลักษณะตัวอาคารมีทั้งหมด ๔ ชั้น คือ ชั้นที่ ๑ เป็น หอฉันและกุฏิิชั้นที่ ๒ เป็นหอกลอง หอระฆัง  หอธรรมและวิหารบูรพาจารย์ ชั้นที่ ๓ เป็นพระอุโบสถ วิหารอวโลกิเตศวร (พระกวนอิม) และโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ชั้นที่ ๔ เป็น วิหารหมื่นพุทธ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 19:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 14 รอบๆวิหารแต่ละหลังประดับด้วยลวดลายภาพเขียนสีพุทธศิลป์แบบจีนที่มีความวิจิตรงดงามลักษณะภายในภาพมีสี ที่เด่นชัดคือสีน้ำเงินแดงและทอง ตามผนังและเพดานทั้งหมดภายใน พระอารามมีคาถาเป็นตัวอักษรสีทอง คือคาถาโอม มา นี ปะ หมี่ ฮง ซึ่งเป็นคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์ขับไล่สิ่งชั่วร้ายต่างๆได้ลักษณะ หลังคาของ วัดบรมราชาฯ มุงด้วยกระเบื้องเผาแบบจีน สีเหลืองเข้ม ปลายหลังคามีลักษณะโค้งได ้สัดส่วนอ่อนช้อยงดงาม จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 19:54:27 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ที่ตรงมุมหลังคาทั้ง๔ มุม มีสัตว์มงคลเล็กๆเรียกว่า(กิ๊กเสี่ยงสิ่ว))ได้แก่ เทวดาขี่หงส์ มังกร สิงโต ม้าน้ำ ม้าเทวดา แพะเทวดาเขาเดียวกระทิงเทวดา ปลาเทวดาและนกเค้าแมว ซึ่งวังหรือวัดบางแห่งมี ๑๐ ตัวบ้าง ๙ ตัวบ้าง ๘ ตัวบ้าง แต่จำนวนที่มากที่สุดคือทั้งหมด ๑๐  ตัว จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 19:55:02 ]

ความคิดเห็นที่ 16 วิหารหมื่นพุทธสุขาวดีพุทธเกษตร  หรือ บ่วงฮุกไซฮึงเก๊กหลักโต่ย     เป็นวิหารที่อยู่ด้านหลังของพระอุโบสถ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 19:59:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ภายในวิหารแห่งนี้  ประดิษฐานองค์พระอมิตาภพุทธเจ้า   พระอวโลกิเตศวร  และพระมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:00:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 องค์พระอมิตาภพุทธเจ้า   พระอวโลกิเตศวร  และพระมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์  ในอีกมุมมองครับ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:01:03 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ด้านบนของวิหารประดิษฐานรายล้อม พระพุทธรูปหนึ่งหมื่นพระองค์ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:02:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 องค์พระพุทธรูปมากมายจริงๆครับ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:03:35 ]

ความคิดเห็นที่ 21 และยังเป็นเป็นสถานที่บำเพ็ญภาวนา  ซึ่งเป็นวิหารที่สำคัญอีกวิหารหนึ่ง   ที่บุคคลใด  ภาวนาพระนามแห่งพระอมิตาภพุทธเจ้าแล้ว จิตจะไม่เสื่อมถอยจากพระอนุตร สัมมาสัมโพธิญาณ  จักไปจุติ  ณ   ดินแดนสุขาวดี ด้านทิศตะวันตก จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:04:55 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมลองหัดถ่าย องค์พระพุทธรูปในรูปแบบที่ช่างภาพเค้าเรียกว่าการระเบิดซูมดูบ้างนะครับ...ได้มุมมองแปลกใหม่ดีเหมือนกันครับ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 51 22:25:54 จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:06:19 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อีกสักภาพครับ เปลี่ยนบรรยากาศ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:06:59 ]

ความคิดเห็นที่ 24 องค์พระอมิตาภพุทธเจ้า   พระอวโลกิเตศวร  และพระมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์  ภายในวิหารหมื่นพุทธสุขาวดีพุทธเกษตร  ในอีกมุมมองครับ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:09:18 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ภายในตกแต่งได้งดงาม และสวยไปทุกมุมมองจริงๆครับ มุมไหนก็น่าถ่ายรูปไปเสียหมด... จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:10:41 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อีกสักภาพส่งท้าย วิหารหมื่นพุทธสุขาวดีพุทธเกษตร  ครับ เดี๋ยวไปวิหารต่อไปกันครับ... จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:13:13 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ลงจากชั้น 4 มาชั้นที่ 3 เป็นพระอุโบสถ วิหารอวโลกิเตศวร (พระกวนอิม) จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:14:47 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ประวัติโดยย่อ   ท่านเป็นพระมหาโพธิสัตว์ คำว่า พระมหาโพธิสัตว์นี้คือ พระโพธิสัตว์ที่มีปณิธาน ช่วยเหลือสรรพสัตว์อันยิ่งใหญ่ไพศาล ยากหาสิ่งใดมาเปรียบ พระกวนอิมท่านมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่คือ “ท่านจะทรงโปรดสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งมวลให้พ้นจากความทุกข์ และตราบใดที่ยังช่วยสรรพสัตว์ทั้งหลายไม่พ้นจากกองทุกข์ พระองค์จะไม่ขอสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า” การปฏิบัติตามทางแห่งพระโพธิสัตว์นี้เป็นการโปรดสรรพสัตว์กล่าวคือ “การช่วยผู้อื่นก่อนแล้ว จึงค่อยช่วยตนเอง” ซึ่งเป็นแนวทางที่พระสงฆ์นิกายมหายาน ( พระจีน ) ยึดถือปฏิบัติสืบมาพระกวนอิม มี มหาเมตตา มหากรุณา เพราะว่าพระองค์ท่านมีความเมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์ อันหาประมาณมิได้ สมดังพระนามขององค์ท่าน “ กวน ซือ อิม ” “ กวน” แปลว่า มองเห็นด้วยญาณแห่งปัญญา “ ซือ ” แปลว่า โลก “ อิม ” แปลว่า เสียง รวมความหมายของคำว่า “ กวน ซือ อิม ” คือ ผู้สดับเสียงและแลเห็นความเป็นไปของโลก พระองค์สามารถนิรมานกายไปโปรดสัตว์โลกอื่นๆอีก เช่นโปรดนาคที่โลกนาค ( ที่นาคอยู่อาศัย ) โปรดเทพ ณ แดนสวรรค์ เป็นต้น ( ในพระสูตรมหากรุณาธารณีสูตร กล่าวถึง การนิรมานกายปางต่างๆ ของพระกวนอิมในพระสูตร รวม ¬๘๔ ปาง ) พระกวนอิมสามารถให้ การช่วยเหลือ พ้นทุกข์ภัยต่างๆ โดยการตั้งจิตอธิษฐานและสวดภาวนาพระนามของท่าน ( ซึ่งบทสวดหรือพระนามของพระองค์มีอย่างแพร่หลาย ) ตามความศรัทธา รวมถึง การขอพรต่างๆ ให้สมปรารถนาและการขอบุตร ส่วนมากผู้อาวุโสแนะนำให้ไปขอพรและบุตรกับพระองค์ท่าน พระกวนอิมมหาโพธิสัตว์ เป็นพระโพธิสัตว์ที่ชาวจีนและชาวไทยนับถือเป็นอันมาก ทั้งตามวัด วิหารและโรงเจต่างๆ รูปบูชาของพระองค์ที่เราเห็นเป็นรูปเพศหญิง ความจริงรูปนี้เป็นการนิรมานกาย ที่ส่วนใหญ่ปกติมักเคารพบูชากัน แต่จริงแล้วพระองค์หาได้เป็นเพศหญิงไม่ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:15:38 ]

ความคิดเห็นที่ 29 วันที่ผมไป (วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน) ฝนตกหนักมากเลยครับ ภาพที่ได้เลยไม่สวยสดใสเท่าที่ควร... จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:18:21 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ยังไงคงต้องไปถ่ายซ่อมอีกสักรอบครับ ^__^ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:19:15 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ที่เห็นในภาพ คือ ชั้น 3 และ ชั้น 4 นะครับ ชั้น 4 คือ วิหารหมื่นพุทธสุขาวดีพุทธเกษตร   ชั้น 3 คือ พระอุโบสถ วิหารอวโลกิเตศวร (พระกวนอิม) ส่วนชั้น 1 และชั้น 2 จะอยู่ใต้ดินครับ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:21:16 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ทั้ง 4 ชั้น เราสามารถขึ้นลงได้ด้วยลิฟต์ครับ  แต่ลิฟต์จะสงวนไว้สำหรับคนชรา และผู้พิการเท่านั้นนะครับ พวกเรายังเดินขึ้นลงบันไดกันไหว ใช้บันไดดีกว่านะครับ ^__^ ปล.ภายในลิฟต์ยังตกแต่งได้สวยงามจริงๆเลยนะครับ... แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 51 22:23:40 จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 33 โอ้ยๆๆ อยากไป ไม่คิดว่าจะงามได้ขนาดนี้ เหมือนที่ จีนเลยอ่ะ ต้องไปหน่อยวะแล้ว/ ขอบคุณนะคะ สำหรับรูปสวยๆ :) จากคุณ : dark side - [ 28 เม.ย. 51 20:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 34 โอ้ยๆๆ อยากไป ไม่คิดว่าจะงามได้ขนาดนี้ เหมือนที่ จีนเลยอ่ะ ต้องไปหน่อยซะแล้ว/ ขอบคุณนะคะ สำหรับรูปสวยๆ :) จากคุณ : dark side งดงามอย่างที่คุณ dark side ว่าไว้จริงๆครับ ผมไปถึงยังตะลึงในความสวยเลย นี่ขนาดยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดีเลยนะครับเนี่ย... จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:29:31 ]

ความคิดเห็นที่ 35 วัดแห่งนี้สร้างโดยทุนจากวัดเล่งเน่ยยี่ (เจริญกรุง) หากพูดแบบชาวบ้านๆแล้วล่ะก้อ วัดนี้ก็คือวัดสาขาของวัดเล่งเน่ยยี่ นั่นเองครับ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:32:19 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ท่านที่ชมภาพแล้วสนใจก็ไปเที่ยวกันได้นะครับ อาจจะไกลสักนิด..แต่เมื่อได้ชมของจริงแล้วจะพูดได้ว่าคุ้มค่ามากที่ได้มาครับ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:34:29 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สถาปัตยกรรมภายในวัดงดงามไปหมดทุกมุมครับ...วันหยุดสุดสัปดาห์หากไม่รู้จะไปไหนล่ะก้อ ลองมาวัดแห่งนี้กันดูนะครับ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:35:57 ]

ความคิดเห็นที่ 38 วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 2539 กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ก็ใช้เวลาในการก่อสร้างสิบปีเศษเลยทีเดียวครับ ปล.รูปนี้ถ่ายจากชั้นล่างสุด หรือชั้น 1 ครับ ทางวัดจะทำเป็นน้ำตกเล็กๆและมีรูปปั้นพระน่ารักๆตามรูปอยู่รอบๆน้ำตกด้วย น่ารักดีครับ... แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 51 23:07:05 จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:39:16 ]

ความคิดเห็นที่ 39 วัดแห่งนี้ มีเจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเน่ยยี่ รองเจ้าคณะใหญ่คณะสงฆ์จีนนิกาย และเจ้าอาวาสวัดโพธิ์แมนคุณาราม เจ้าคณะใหญ่ คณะสงฆ์จีนนิกาย เป็นคณะผู้ดำเนินการก่อสร้าง เลยมีคนเรียกกันว่า วัดเล่งเน่ยยี่ 2 อย่างที่บอกไปน่ะครับ... แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 51 22:55:27 จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:40:56 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ผมขอทิ้งภาพ  วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์  ไว้ด้วยภาพสวนจีนภายในวัดนะครับ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:42:23 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สำหรับผู้สนใจเดินทางมาวัดแห่งนี้ ลองดูแผนที่ประกอบการเดินทางได้ครับ แต่กระทู้ยังไม่จบครับ เดี๋ยวตามผมไปถ่ายรูปกันต่อที่วัดอีกสักแห่งครับ... จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ก่อนจะไปเที่ยววัดอีกแห่ง ผมขอไปเติมพลังเสียหน่อยครับ เลยเวลาเที่ยงมามากแล้ว ยังไม่ได้ทานอะไรเลยครับ พวกเราไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้าอร่อย ย่านประชาชื่นกันครับ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:45:48 ]

ความคิดเห็นที่ 43 บรรยากาศภายในร้าน น่านั่งทีเดียวครับ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:46:37 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่พูดพล่ามทำเพลง หิวแล้วสั่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อมากินเลยดีกว่าครับ... จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:47:36 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ผมสั่งเกาหลาเนื้อไปครับ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:48:42 ]

ความคิดเห็นที่ 46 และไม่พลาดสำหรับหมูสะเต๊ะ ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้รสชาติดีทีเดียวครับ หากใครชอบกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ และอยู่ย่านประชาชื่น ลองมาชิมกันดูนะครับ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:49:55 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ชื่อร้านครับ "อร่อยแล้วสั่งต่อ" ตั้งชื่อร้านได้เท่ห์ดีครับ... หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้วไปต่อกันอีกวัดครับ... จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:50:57 ]

ความคิดเห็นที่ 48 วัดต่อไปที่จะพาไปเที่ยว คือ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม  ใจกลางเมืองหลวงของเรานี่เองครับ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:52:39 ]

ความคิดเห็นที่ 49 และเช่นเคย ผมขอคัดลอกประวัติของ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม มาประกอบคำบรรยายครับ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เดิมเป็นวัดราษฎร์ ชื่อ “วัดแหลม” เนื่องจากอยู่ปลายแหลมที่สวนต่อกับทุ่งนา และมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดไทรทอง ไม่มีหลักฐานว่าสร้างเมื่อใด จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:54:09 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เกิดกบฏเจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ใน พ.ศ. 2372 จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์ พระนามเดิมพระองค์เจ้าพนาวัน พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และเจ้าจอมมารดาศิลาทรงเป็นแม่ทัพรักษาพระนคร ได้ทรงตั้งกองบัญชาการทัพที่วัดแหลม หลังจากปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์แล้ว กรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์มีพระประสงค์จะปฏิสังขรณ์วัดแหลม พร้อมพระอนุชาและพระขนิษฐาร่วมเจ้าจอมมารดาเดียวกันอีก 4 พระองค์ คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระพิทักษ์เทเวศร์ (พระองค์เจ้าชายกุญชร ต้นราชสกุล กุญชร) พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์ (พระองค์เจ้าชายทินกร ต้นราชสกุล ทินกร) พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอินทนิล และ พระองค์เจ้าหญิงวงศ์ ทรงร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์วัดแหลม ซึ่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “วัดเบญจบพิตร” หมายความว่า “วัดของเจ้านาย 5 พระองค์” จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:55:48 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ใน พ.ศ. 2441 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสวนดุสิต โดยใช้วัดดุสิตเป็นที่สร้างพลับพลา และใช้สถานที่วัดร้างตัดถนน ซึ่งต้องสร้างวัดขึ้นทดแทนตามประเพณี ได้ทรงเลือกวัดเบญจมบพิตรเป็นวัดที่ทรงสถาปนาตามพระราชดำริว่า การสร้างวัดใหม่หลายวัดยากต่อการบำรุงรักษา ถ้ารวมเงินสร้างวัดเดียวให้เป็นวัดใหญ่ และทำโดยฝีมือประณีตจะดีกว่า จึงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เป็นผู้ทรงออกแบบก่อสร้างพระอุโบสถและถาวรวัตถุอื่น ๆ และมีพระยาราชสงคราม (กร หงสกุล) เป็นนายช่างก่อสร้าง เริ่มสถาปนาวัดในราว พ.ศ. 2442 และโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อวัดจาก “วัดเบญจบพิตร” เป็น “วัดเบญจมบพิตร” หมายถึง วัดของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5 และทรงเพิ่มสร้อยนามว่า ดุสิตวนาราม เพื่อให้คล้องกับพระราชวังดุสิตที่ทรงสร้างขึ้นใหม่ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:57:46 ]

ความคิดเห็นที่ 52 วัดเบญจมบพิตรมีสิ่งสำคัญในวัด เช่น พระอุโบสถที่มีสถาปัตยกรรมงดงามมาก และใช้หินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์ในการก่อสร้าง ส่วนพระประธานในพระอุโบสถมีพระพุทธชินราชจำลอง พระที่นั่งทรงผนวชซึ่งรื้อมาจากบริเวณพุทธรัตนสถานในพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยประทับเมื่อทรงพระผนวชใน พ.ศ. 2416 และศาลาสี่สมเด็จซึ่งเป็นศาลาจตุรมุขสร้างด้วยทุนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑล กรมหลวงวิสุทธิกระษัตริย์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงศ์ และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ศาลาบัณณรศภาค เป็นศาลาจตุรมุข สร้างด้วยทุนทรัพย์ของพระมเหสี เจ้าจอม พระราชโอรส พระราชธิดาและพระญาติในรัชกาลที่ 5 รวม 15 พระองค์ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:58:32 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ข้อมูลทั่วไป ชื่อสามัญ วัดเบญจบพิตร ประเภท พระอารามหลวงชั้นเอก นิกาย เถรวาท มหานิกาย ความพิเศษ เป็นวัดประจำพระราชวังดุสิต พระประธาน พระพุทธชินราช(จำลอง) พระพุทธรูปสำคัญ พระหริภุญชัยบรมโพธิสัตว์ พระฝาง จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 20:59:43 ]

ความคิดเห็นที่ 54 สถานที่ตั้ง 69 ถนนพระรามที่ 5 แขวงจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 รถประจำทาง 5 16 23 50 70 72 99 201 503 505 509 เวลาทำการ ทุกวัน 8.30-17.30 จุดที่น่าสนใจ พระอุโบสถ และ พิพิธภัณฑ์ฯวัดเบญจฯ กิจกรรม บวชสามเณรภาคฤดูร้อน(เม.ย.) บวชชาวเขา(ก.ค.) ตานก๋วยสลาก(ต.ค.) สถานที่ใกล้เคียง ทำเนียบรัฐบาล พระราชวังดุสิต ลานพระบรมรูปทรงม้า สวนสัตว์ดุสิต จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:01:12 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ภาพนี้ คือ หอระฆังบวรวงศ์ หอระฆังบวรวงศ์ เป็นหอระฆังทรงไทย หลังคาลดชั้น มุงกระเบื้องเคลือบสี ผนังด้านนอกประกบหินอ่อน สร้างขึ้นด้วยทุนทรัพย์และวัสดุก่อสร้าง เช่นหินอ่อนของผู้เกี่ยวเนื่องกับพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) และโปรดเกล้าฯให้นำ ระฆังมาจากวัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า) ซึ่งเป็นวัดประจำพระราชวังบวรสถานมงคล จึงทรงตั้งชื่อหอระฆังนี้ว่า "หอระฆังบวรวงศ์"          หน้าบันทิศตะวันตก จำหลักลายไทยประกอบภาพ "พระลักษณ์ทรงหนุมาน" ซึ่งเป็นตราประจำตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล องค์เดิม          หน้าบันทิศตะวันออก เป็นภาพ "พระนารายณ์ทรงปืน" ซึ่งเป็นตราประจำตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ซึ่งปรับปรุงขึ้นใหม่          สร้างเสร็จทรงอุทิศถวายพร้อมกับศาลาสะพานน้ำ และสะพานข้ามคลอง เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๔๔๕ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:04:02 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากในวัดแห่งนี้ คือ คลอง ครับ...เพราะมันทำให้บรรยากาศร่มรื่นเอามากๆ คลองนี้โปรดเกล้าฯให้ขุดขึ้นตั้งแต่เริ่มการสถาปนาวัด เพื่อแบ่งเขตเป็นส่วนพุทธาวาสและสังฆาวาส ใช้ดินที่ขุดขึ้นถมพื้นที่วัด เนื่องจากบริเวณวัดเดิม และที่ถวายเพิ่มเติมสำหรับสร้างวัด เป็นที่ต่ำเพราะเป็นที่สวนและที่นา กับเป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคในสมัยนั้น โดยโปรดเกล้าฯให้ขุดคลองเชื่อมต่อจากสวนดุสิต คลองเปรมประชากร  และคลองผดุงกรุงเกษม เพื่อให้น้ำถ่ายเทได้ แล้วโปรดเกล้าฯให้พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจันทรสุเทพ ก่อเขื่อน ๒ ข้าง จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:06:38 ]

ความคิดเห็นที่ 57 สองฝั่งคลองโปรดเกล้าฯให้ปลูกต้นไม้ และฝังเสาศิลายอดบัวตูม สอดเหล็กหล่อลายดอกไม้เป็นรั้วตลอดแนวทั้ง ๒ ข้าง เชิงสะพานตั้งตุ๊กตาจีนประดับ ๑๒ ตัว จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:07:23 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สะพานแดง เป็นอีกสิ่ง ที่สะดุดตามากๆเมื่อมาที่วัดแห่งนี้ครับ ตัวสะพานเป็นสะพานเหล็กหล่อ โดยเสาสะพานละ ๔ ต้น พร้อมโครงเหล็ก สั่งทำจาก "LARINI NATHAN & C MILANO (ITALIA) 1902" ประเทศอิตาลี พื้นคอนกรีต โค้งข้ามคลอง จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ราวสะพานเป็นเหล็กหล่อลายไทยทั้ง ๒ ด้าน บนราวสะพานมีป้ายจารึกสะพานละ ๒ ป้าย จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:11:26 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เปิดภาพแรกมา นึกว่าพาไปเที่ยวเมืองจีน จากคุณ : Zorakun - [ 28 เม.ย. 51 21:12:10 ]

ความคิดเห็นที่ 61 โปรดเกล้าฯให้กรมโยธาธิการดำเนินการสร้างขึ้นทั้ง ๓ แห่งคือ          สะพานพระรูป อยู่ด้านทิศตะวันออก  สร้างขึ้นด้วยทุนทรัพย์ค่าจำหน่ายพระรูปจำหลักแผ่นทองแดงกาไหล่ทอง  ที่พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสรรพศาตรศุภกิจ" ถวายช่วยในการสถาปนาวัดเบญจมบพิตร พ.ศ. ๒๔๔๓          สะพานถ้วย อยู่กลางระหว่างสะพานพระรูปกับสะพานงา สร้างขึ้นด้วยเงินที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานถ้วยชาลายทองที่หายาก ให้จำหน่ายในการออกร้านงานประจำปีวัดเบญจมบพิตร พ.ศ.๒๔๔๓          สะพานงา   อยู่ด้านตะวันตก   สร้างขึ้นด้วยเงินจำหน่ายงาช้างที่ "พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงดำรงราชานุภาพ" ถวายเพื่อจำหน่ายในงานออกร้านประจำปีวัดเบญจมบพิตร พ.ศ.๒๔๔๓          สะพานทั้ง ๓ นี้ สร้างเสร็จทรงพระราชอุทิศถวายในวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๔๔๕ พร้อมกับหอระฆัง และศาลาตรีมุขสะพานน้ำอีก ๒ หลัง จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:12:36 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ศาลาบัณณรศภาค จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:16:29 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ส่วนศาลาแห่งนี้ ชื่อ ศาลาสี่สมเด็จ   ศาลาแห่งนี้เป็นศาลาจตุรมุขโปร่ง ก่ออิฐถือปูน ปูหินอ่อนตลอดบันได มุงกระเบื้องเคลือบสี ช่อฟ้าใบระกาลงรักปิดทองทึบ เชิงบันไดประดับสิงห์ศิลาสลัก          ศาลาหลังนี้ทรงตั้งชื่อว่า "ศาลาสี่สมเด็จ" เพราะเหตุที่สร้างขึ้นด้วยทุนทรัพย์ของ "สมเด็จเจ้าฟ้า ๔ พระองค์" ซึ่งเป็นพระราชโอรสธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔  กับกรมสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์  คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร่วมกับ "พระเจ้าน้องยาเธอ" และ "พระเจ้าน้องนางเธอ" อีก ๓ พระองค์ จึงจำหลักลายไทยประกอบตราประจำของแต่ละพระองค์ไว้ที่หน้าบันทั้ง ๔ ด้าน คือ "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" ตรา "พระเกี้ยว", "สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑลโสภณภควดี กรมหลวงวิสุทธิกษัตริย์" ตรา "จันทรมณฑล", "สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมพระจักรพรรดิพงศ์" ตรา "จักร", "สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระภาณุพันธุวงศ์วรเดช" ตรา "สุริโยทัย"          ปัจจุบันศาลาสี่สมเด็จใช้เป็นหอกลอง ในจำนวนกลองเหล่านี้มีที่น่าสนใจคือกลองยาว ที่ยาวและใหญ่กว่ากลองยาวธรรมดา มีความยาวถึง ๕.๓๒ เมตรทำด้วยไม้ประดู่ทั้งท่อน เป็นของมีประจำทางภาคเหนือเรียกว่า "กองอืด" บ้าง "กลองหลวง" บ้าง ใช้ตีในงานทำบุญตามประเพณีบ้าง ตีแข่งขันประกวดเสียงกันบ้าง ตีประกอบการฟ้อนรำพื้นเมืองบ้าง จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:24:55 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ภายในบริเวณวัดยังมีอาคารสวยๆมากมายครับ... จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:27:22 ]

ความคิดเห็นที่ 65 และที่สำคัญวัดแห่งนี้เงียบสงบเอามากๆครับ เวลาเข้าไปเดินในวัดแห่งนี้รู้สึกสบายอกสบายใจบอกไม่ถูกครับ... จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:28:27 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ดอกไม้สวยๆภายในวัดครับ... จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:29:23 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ส่วนภาพนี้ คือ ศาลาตรีมุขสะพานน้ำ  เป็นศาลาทรงไทยตรีมุข ๒ หลัง มุงกระเบื้องเคลือบสี พื้นคอนกรีต มีบันไดยื่นลงคลอง ๒ ข้าง โปรดเกล้าฯให้กรมโยธาธิการดำเนินการ สร้างเสร็จทรงอุทิศถวายพร้อมกับหอระฆังบวรวงศ์ และสะพานข้ามคลอง เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๔๔๕ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ติดๆกับวัดเบญจมบพิตร ยังเป็นที่ตั้งของ โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร อาคารเรียนภายในโรงเรียนแห่งนี้ เป็นอาคารทรงยุโรป ๒ ชั้น ๘ มุข สวยงามมากๆครับ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:37:33 ]

ความคิดเห็นที่ 69 อาคารหลังนี้เรียกว่า "ตึกพระพุทธเจ้าหลวง" เป็นอาคารอนุรักษ์ของทางราชการ เนื่องจากเป็นอาคารโบราณ แบบสถาปัตยกรรมยุโรปที่แปลก จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:38:42 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ดอกกล้วยไม้ กับฉากหลังตึกพระพุทธเจ้าหลวง สวยดีนะครับ... จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:40:48 ]

ความคิดเห็นที่ 71 จากวัดเบญจมบพิตร พวกเราไปเที่ยวกันต่อที่ ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ผ่านพระที่นั่งอนันตสมาคม ครับ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ เป็นลานกว้าง มีพลับพลาที่ประทับ สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงออกรับแขกบ้านแขกเมือง เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:45:24 ]

ความคิดเห็นที่ 73 บริเวณนี้ เดิมเป็นโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย สร้างในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นโรงภาพยนตร์แห่งแรกของประเทศไทย รื้อทิ้งเมื่อ พ.ศ. 2532 เพื่อเปิดมุมมองให้กับ โลหะปราสาท ที่อยู่ด้านหลัง จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:46:14 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ตั้งอยู่บริเวณมุมถนนราชดำเนินกลางตัดกับถนนมหาไชย เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ซึ่งต่อมาคือ รัชกาลที่ ๓ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:48:13 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ตั้งอยู่บริเวณมุมถนนราชดำเนินกลางตัดกับถนนมหาไชย จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:50:11 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ทัศนียภาพบริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ มีสิ่งปลูกสร้างที่งดงามและสำคัญหลายแห่ง เช่น โลหะปราสาท วัดราชนัดดา ป้อมมหากาฬ และพระบรมบรรพต (ภูเขาทอง-วัดสระเกศ) ในภาพ คือ โลหะปราสาท วัดราชนัดดา จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:52:24 ]

ความคิดเห็นที่ 77 โลหะปราสาท ตั้งอยู่ในบริเวณ วัดราชนัดดา ซึ่งเป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างขึ้น เพื่อพระราชทานพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดี จริงๆแล้วผมตั้งใจไปอีกแห่ง คือ พระบรมบรรพต (ภูเขาทอง-วัดสระเกศ) แต่พอไปถึง ปิดตั้งแต่ 5 โมงเย็นแล้ว เลยต้องยกยอดไปไว้อาทิตย์หน้าแทนครับ สำหรับกระทู้พาเที่ยว อาทิตย์หรรษา ตอนนี้คงจบลงตรงนี้ครับ ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ ไว้อาทิตย์หน้าหากไปตระเวณเที่ยวและถ่ายรูปอีก จะนำมาลงอีกครับ สำหรับตอนนี้หากภาพและเรื่องอาจไม่ถูกใจบ้างก็ขออภัยนะครับ ไว้พบกันใหม่ครับ... จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 21:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 78 วัดรูปร่างแบบจีนเลยน่ะ จากคุณ : สงสัยมีเค้ามา - [ 28 เม.ย. 51 22:15:38 A:202.149.24.129 X: TicketID:130166 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ทำไมเฮียถ่ายรูปเก่งจังอะ จากคุณ : swensen - [ 28 เม.ย. 51 22:40:48 ]

ความคิดเห็นที่ 80 แอบอยากกินเกาเหลากับข้าวร้อน ๆ จัง รูปสวยดีค่ะ... จากคุณ : etaget - [ 28 เม.ย. 51 23:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เปิดภาพแรกมา นึกว่าพาไปเที่ยวเมืองจีน จากคุณ : Zorakun นั่นน่ะสิครับ ผมยังนึกว่าไปเมืองจีนเลย ^__^ จากคุณ : wut3616 - [ 28 เม.ย. 51 23:47:50 ]

ความคิดเห็นที่ 82 แอบอยากกินเกาเหลากับข้าวร้อน ๆ จัง รูปสวยดีค่ะ... จากคุณ : etaget ขอบคุณที่เข้ามาชมนะครับ ^__^ อยากกินเกาเหลาเนื้ออีกสักถ้วยเหมือนกันครับ อิอิ จากคุณ : wut3616 - [ 29 เม.ย. 51 00:01:11 ]

ความคิดเห็นที่ 83 วัดรูปร่างแบบจีนเลยน่ะ จากคุณ : สงสัยมีเค้ามา - เป็นวัดจีนจริงๆครับ... จากคุณ : wut3616 - [ 29 เม.ย. 51 00:04:17 ]

ความคิดเห็นที่ 84 มีแผนที่ไปวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์อีกเวอร์ชันที่ดูได้ง่ายกว่า เลยเอามาฝากครับ ได้มาจากกระทู้นี้ครับhttp://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6538540/E6538540.html จากคุณ : wut3616 - [ 29 เม.ย. 51 08:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 85 สองวัดนั่นไปเป็น  (แต่ยังไปไม่ถึงวัดแรก)   แต่ก๋วยเตี๋ยวเนื้ออ่ะสิ   ดูแล้วกระเทือนต่อมอ้วนเป็นอันมาก  มีโอกาสผ่านแถวนั้นพอควร  พิกัดชัดๆช่วยบอกมาด้วยค่า  ขอบคุณค่า จากคุณ : ป้าเองจ้ะ - [ 29 เม.ย. 51 21:49:46 ]