หมายเหตุก่อนอ่าน: บันทึกฉบับได้เขียนขึ่นนานมากแล้ว กว่าจะได้มีโอกาสลง สืบเนื่องจากความต้องการที่จะเผยแพร่ให้ผู้อ่านได้รับทราบถึงเรื่องราวพิพิธภัณฑ์จ่าทวีที่เราได้มีโอกาสไปเยือน จึงอยากจะทอดถ่ายออกมาเป็นตัวหนังสือให้ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ได้ไปเยือนพิพิธภัณฑ์ แต่กลับเป็นครั้งแรกที่ได้รู้สึกถึงปัญหา และความท้อแท้ของคนทำพิพิธภัณฑ์ ซึ่งผู้อ่านจะได้อ่านในตอนที่ 2 ขอบคุณค่ะ
ใครมาถามว่าเคยไปลอยกระทงไหม ขอตอบว่าไม่เคย เคยแต่ลอยในบ่อหน้าบ้าน แถมด้วยรำวงรอบบ่อ ร้องเองรำเอง ตอนนั้นยังเด็กนัก อยากไปลอยกระทงมาก เพราะเวลาวันลอยกระทง โรงเรียนจะให้ทำกระทงเองในวิชาหัตถกรรม เราก็ทำไปส่ง หวังว่าจะได้เอากระทงทำเองไปลอยในแม่น้ำ โตขึ้นอีกหน่อย ได้ยินเรื่องพลุ เรื่องคนตกน้ำ คนหาย เรื่องเด็กสาวเต็มใจลอยความบริสุทธิ์ไปกับวันลอยกระทง ฟังแล้วชักไม่อยากไปลอย ได้นั่งอยู่หน้าจอทีวี ดูเขาประกวดเวทีนางนพมาศ ยิ่งหลังๆ มารับรู้เรื่องเกี่ยวกับขยะกระทง ใจก็ยิ่งสลดไม่อยากไปลอย ไม่รู้จะไปลอยทำซากอะไร รู้ทั้งรู้ว่ามันก็กลายเป็นขยะ จะใช้วัสดุธรรมชาติ จะไม่ธรรมชาติ หรือจะใช้กระทงทำจากขนมปัง ยังไง้ยังไงมันก็เป็นขยะ เป็นภาระให้คนเก็บขยะเขาต้องไปเก็บที่รุ่งเช้า วัตถุประสงค์จะไปลอยขอขมาแม่พระคงคา กลายเป็นบาปหนักไปอีก แม่พระคงคาคงไม่อภัยให้
แต่วี่แววนั้นเริ่มจากปีที่แล้วแล้วละมีโอกาสพาคุณหลานๆ เธอไปดูหนัง ตกค่ำพามาสวนสาธารณะเอกชนแห่งหนึ่งแถวพระราม 2 อย่างไรเสียยังคง Concept ของการไม่ทิ้งขยะ พอคุณหลานๆ ร่ำๆ อยากจะลอยกระทงกับเขาบ้าง เราก็ว่ารอสักครู่นะหลานรัก อยากลอยกระทงแบบไหนชี้เอาลูก เดี๋ยวคุณอาจะสอยมาให้ หยิบมาวางบนมือแล้วถ่ายรูปแอ๊คๆ สัก 2 ที ก็เป็นอันเรียบร้อย ไม่ทิ้งขยะเพิ่ม ไม่เสียสตางค์ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 51 20:52:19