ความคิดเห็นที่ 1 “อิฉิเรน กับ ฮิปปุโด้” ทั้งสองเจ้าต่างเป็นราเมงชื่อดังลำดับต้นๆ ของโตเกียว ที่มีสาขาอยู่หลายที่ และที่เคยเห็นเคยได้ยินมา ยังไปเปิดสาขาอยู่ตามเมืองใหญ่ๆ อย่างโอซาก้า นาโงย่า หรือ ฟุกุโอกะ เมืองต้นกำเนิดของ “ฮาคาตะ(Hakata)ราเมง” อยู่หลายสาขา ผมไม่แน่ใจนะว่าต้นกำเนินของร้านทั้งสอง จะเปิดที่โตเกียวก่อนแล้วค่อยขยายไปที่อื่น หรือเปิดที่อื่นก่อนแล้วค่อยขยายมาที่โตเกียว ใครเป็นกูรูราเมงมาช่วยผมทำมาหากินหน่อยนะครับ มันจะเกิด และเติบโตไปที่ไหน ก็ไม่ใช่สาระสำคัญที่จะบอกว่าอะไรอร่อยกว่ากัน จริงป่ะ! ถามมากันก็เยอะ และเห็นใครๆ พูดกันมาหลายครั้งแล้วว่า ชวนไปกิน ทงโคซึราเมง.... โชยุราเมง...ชิโอะราเมง..... ฯลฯ เอ๊ะ! มันคืออารายกาน....?????? แต่ละชามราคาคิดเป็นเงินไทยก็ไม่ใช่ถูกๆ หาเรื่องดั้นด้นไปกินบะหมี่ชามละเกือบ 300 บาท ก็ควรจะมีความละเมียดละไมในการกินกันหน่อยดีไม๊ มาปูพื้นฐานเรื่องราเมงก่อนไปชิมกันสักเล็กน้อยดีกว่า...... จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 19:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไปกินราเมงอีกแล้ว วันนี้ได้กินหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย กำลังนั่งฟังเพลงอยู่ ก็เห็นกระทู้โผล่มา เห็นหิวอะไรนะ หิวโซหรือครับ เอ๊ะ กินได้หรือนั่นน่ะ จากคุณ : xebec - [ 12 พ.ค. 51 19:23:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เท่าที่เคยกินนะ ร้านราเมงดังๆ ในญี่ปุ่นจะปรุงราเมงตามสูตรลับของร้านที่ตกทอดกันมา ซึ่งส่วนประกอบสำคัญก็คือ น้ำซุป (หรือ “ซุป-ปุ” ตามสำเนียงญี่ปุ่น) จะอร่อยไม่อร่อยยังงัย เจ้าซุปปุนี่แหละสำคัญที่สุด              แต่ละร้านส่วนมากก็จะมีน้ำซุปอยู่ประเภทเดียว แต่ที่มีหลายเมนูนั้น จะแตกต่างไปตามเครื่องที่ใส่เข้าไป หรือว่าจะเลือกกินแบบแห้งหรือแบบน้ำเท่านั้น ดังนั้นที่เคยเห็นเค้าก็จะแบ่งราเมงตามประเภทของน้ำซุป ได้ประมาณนี้            1. ทงโคทสึราเมง (Tonkotsu Ramen)  น้ำซุปจะทำโดยการเอากระดูกหมูมาต้มกับน้ำหลายชั่วโมง จนไขกระดูละลายออกมาจนซุปเข้มข้นหอมหวานโดยไม่ต้องง้อผงชูรส หรือซุปก้อนให้เป็นการดูถูกคนปรุง ราเมงทั้ง 2 เจ้าที่ผมจะพาไปชิมวันนี้ ก็อยู่ในประเภทนี้            2. ชิโอะราเมง (Shio Ramen) หรือราเมงซุปเกลือ อันนี้เป็นแบบเบสิคที่สุด น้ำซุปจะเป็นน้ำซุปใสๆ หรือบางเจ้าอาจใช้น้ำเปล่าเลยก็ได้ และจะใช้เกลือเนื้อดีๆ มาใส่ลงไปเพื่อให้มีรสเค็มตามชอบ บางเจ้าเอาเกลือมาจากเขาหิมาลัยนู่น!!!            3. มิโสะราเมง (Miso Ramen) น้ำซุปจะใส่ซอสเต้าเจี้ยวลงไปด้วย ซึ่งแต่ละเจัาก็จะมีสูตรลับของการใช้เต้าเจี้ยวต่างกัน บางเจ้าถึงขั้นลงมือหมักเต้าเจี้ยวเองด้วยซ้ำ ถ้าเป็นเต้าเจี้ยวของทางภาคใต้ รสชาติก็จะเผ็ดร้อนและมีสีออกค่อนข้างแดง ทำให้น้ำซุปเหมือนใส่น้ำพริกเผาลงไปด้วย กลายเป็นซุปต้มยำไปซ่ะงั้น           4. โชยุราเมง (Shouyo Ramen) จะมีการใส่ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น หรือ โชยุ ลงไปในซุป ซึ่งอันนี้ก็จะเหมือนมิโสะราเมง ตรงที่แต่ละเจ้า ก็จะมีสูตรลับในการผสมหรือปรุงซอสต่างกันไป           5. ราเมงซุปผสม (Noukou-gyokai) คือการใช้ซุป 2 แบบมาผสมรวมกันก่อนจะกิน ไม่ใช่มาต้มรวมกันนะครับ แต่จะต้มน้ำซุป 2 แบบแยกหม้อกัน ซึ่งส่วนมาก ก็จะเป็นซุปกระดูกหมูหรือไก่ เอามาผสมรวมกับซุปที่ต้มจากอาหารทะเลและสาหร่าย เวลาจะปรุง ก็ตั้งน้ำซุปทั้ง 2 หม้อ มาผสมกันในชาม ก่อนจะเทเส้นที่ลวกแล้วลงไป เป็นซุปที่พึ่งคิดค้นขึ้นมาไม่นานมานี้เอง เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้คนกิน อย่าง ราเมงเมนโดโคโระ ทาบุชิ ที่พาไปกินมาตอนที่แล้ว ก็น่าจะอยู่ในข่ายราเมงซุปผสมนี้ เท่าที่ชิมมา สรุปว่า น้ำซุปกระดูกหมู หรือ ทงโคทซึซุปปุ (ม่ะใช่ทงคัตซึนะ อันนั้นมันหมูชุบแป้งทอด!!!) ถูกลิ้นถูกปากคนไทยที่สุดแล้วครับ เพราะคนไทยเราจะคุ้นกับการกินก๊วยเตี๊ยวใส่น้ำต้มกระดูกหมูมาแต่ไหนแต่ไร               รองลงมาก็เป็นมิโสะราเมง เพราะรสชาติออกจะเข้มข้น ติดเผ็ดร้อนนิดๆ ก็พอกล่อมแกล้มเข้ากับลิ้นของคนไทยได้บ้าง               ราเมงซุปผสมก็พอใช้ได้ แต่หาเจ้าอร่อยๆ กินยากครับ ถ้าไปเจอบางเจ้า ต้มซุปผสมที่เป็นซุปปลา แล้วต้มไม่ดี มันจะเหม็นกลิ่นคาวปลาติดปากติดคออบอวลตลอดเวลาแม้กินอิ่มแล้ว รู้สึกแย่มากกว่าอร่อยครับ               โชยุ(ซ๊อส)กับชิโอะ(เกลือ) ผมกินแล้วรู้สึกแปลกๆ ออกแนวผะอืดผะอมมากกว่าอร่อยครับ ขนาดว่าผมเป็นคนกินอาหารรสค่อนข้างจืดแล้วนะ คงเพราะผมไม่ชอบกินอาหารรสเค็มล่ะมั๊ง.... แต่อย่างว่าของอร่อย คือ ของที่เราชอบกิน ต่างคนก็ต่างลิ้นครับ อย่าเชื่อกันมากครับ ลิ้นผมไม่มาตรฐาน จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 19:28:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ออกเดินทางกันดีกว่า ท้องใส้ชักปั่นป่วนเป็นเฮลิคอปเตอร์ติดเครื่องแล้ว... เริ่มที่อิชิเรนราเมงนะ เอาที่สาขาอูเอโนะล่ะกัน ไปง่ายและสะดวกที่สุด เพราะมันอยู่ติดกับด้านนอกของอาคารสถานีรถไฟอูเอโนะเลยครับ!!!! ตามรูปตรงจุดที่ผมกากบาทสีแดงไว้นั่นแหละ ด้านซ้ายมือของแผนที่คือสวนสาธารณะอูเอโนะ ด้านล่าง ถ้าเดินตรงมาก็จะเจอตลาดอาเมโยโกะ ส่วนด้านขวา ถ้าเดินตามถนนไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นย่านอาซากุสะ ที่คนชอบญี่ปุ่นทุกท่านรู้จักกันดี ใกล้มากจนเรียกว่า ลงเครื่องบินมา ก็แวะกินก่อนเข้าที่พักได้เลย... และที่สำคัญร้านนี้เปิด 24 ชั่วโมงครับ (รู้สึกจะปิดวันจันทร์วันเดียวนะ) จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 19:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ฮือๆๆคิดถึงราเมงคะ เสียดายได้ไปกินอยู่ร้านเดียวตรงแถวสถานี Harajuku จำได้แต่คุณหนุ่มบอกร้านนี้ แต่อีก 2 ร้านกระดาษจดทำหายอะ เลยอดไปชิมเลย จากคุณ : *พนาหนาว* - [ 12 พ.ค. 51 19:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีครับอาหมู มาคนแรกทุกวันเลยนะครับ.... ดีใจจังเมีผู้ใหญ่มาเจิมหัวกระทู้ให้แทบทุกตอนเลย เจี๊ยก!!!!!!!.... ตั้งกระทู้ไปแล้วพึ่งสังเกตว่ามันมีประเด็น!!!!! ตายหงส์แดงลิเวอร์พูลแล้วหว่า......... ผมลืมคิดไปเลยนะเนี๊ยะ...... เอาล่ะฟร่ะ ปล่อยเลยตามเลยล่ะกัน คือกินไม่ได้หรอกครับ แต่มันทำให้.......โหย.......หา..........ครับ ========================================= คือถ้าเราเดินอยู่ในสถานีรถไฟ JR อูเอโนะ ก็ให้เดินหาทางป้ายออกสถานีที่ชื่อ Yamashita Exit ทางออกยามาชิตะ นี้เป็นทางออกที่จะเดินทะลุไปสวนสาธารณะอูเอโนะได้ มีที่เที่ยวเยอะมากกว่าจะเป็นแค่สวนสาธารณะธรรมดาอย่างที่เราคิดครับ ลองไปดูตามรีวิวกระทู้ของเพื่อนๆ คนอื่นดูก็ได้..... ก่อนจะถึง Yamashita Exit ไม่ต้องแปลกใจว่าจะต้องเดินผ่านห้างขายของเสียก่อน สถานีรถไฟญี่ปุ่นที่เป็นสถานีใหญ่ๆ มีห้างสรรพสินค้าตั้งขนาบ คล่อม หรือ เป็นส่วนหนึ่งของสถานีอยู่แทบทุกที่เลยครับ ตามรูปก็ต้องเดินผ่าน Shopping Street “atr’e” เสียก่อน จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 19:47:55 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ให้ความรู้เพิ่มเติมครับ ว่าราเมงแบบแห้งนั้นเพิ่งได้รับความนิยมเมื่อปีสองปีที่ผ่านมานี่เอง เมื่อก่อนเวลาเข้าร้านราเมงแต่ละที่จะไม่ค่อยเห็น แต่ตอนนี้เข้าร้านไหนมีเมนูราเมงแห้งทุกร้าน หน้าร้อนก็จะเป็นหมี่เย็น(ต้มแล้วล้างน้ำเย็น) ส่วนหน้าหนาวก็จะเป็นหมี่ร้อน (ต้มเสร็จก็สลัดน้ำ) ภาษาญี่ปุ่นเขาเรียกว่า สึเกะเมน ซึ่งก็แปลตามตัวได้ตรง ๆ ว่าราเมงแบบเอาเส้นไปจุ่มน้ำซุป(น้ำจิ้มแบบเข้มข้น) ครับ ใครชอบน้ำซุปแบบเข้มข้น ไม่น่าพลาดเมนูนี้ รสไหนบ้างนั้นก็เหมือนกันกับราเมงน้ำครับ จากคุณ : Tsuwamono - [ 12 พ.ค. 51 19:49:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เดินตรงไปตามป้ายเรื่อยๆ ครับ จะแวะเข้าห้องน้ำห้องท่าซ่ะก่อนก็ได้ หรือถ้าอดใจกับร้านค้าในซอยนี้ไม่ไหว จะแวะชอปปิ้งก่อนก็ตามใจกระเป๋าทุกท่านเลยครับ สำหรับคนกระเป๋าแบนๆ อย่างผม เดินไปร้านเลยครับไม่ต้องว่อกแว่กไปไหน จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 19:52:15 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ว้าว..ขอบคุณ คุณ Tsuwamono มากนะคะ ได้ความรู้เยอะเลย อีกหน่อย ถ้าดิฉันข้องใจเกี่ยวกับญี่ปุ่น จะรบกวนถามคุณนะคะ เห็นความรู้คุณมาจากหลายกระทู้แล้วล่ะ จากชื่อล๊อกอิน ก็คาดว่า น่าจะมีความรู้ทางภาษาญี่ปุ่น ทั้งขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมดีพอสมควรเชียวล่ะ Tsuwamono  แปลว่า " ชายชาติทหาร " คุณเป็นทหารไทยที่ไปอยู่ญี่ปุ่นหรือเปล่าคะ หากเป็นการล่วงเกิน ดิฉันขออภัยค่ะ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 51 19:57:36 จากคุณ : Zorakun - [ 12 พ.ค. 51 19:53:35 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีครับคุณพนา... ร้านที่คุณพนาไปกินมาต้องเป็นร้าน "คิวชูจังหงะระราเมง" (Kyusyu Jangara Raman) แน่ๆ เลย ใช้ร้านหน้าตาแบบนี้รึเปล่าครับ เป็นร้านดังของย่านฮาราจูกุเลยนะครับ ผมไม่เคยกินหรอกครับร้านนี้ ไปยืนดูเมนูให้น้ำลายไหลเล่นเฉยๆ จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 20:03:21 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โชยุราเมง อร่อยๆ ก็อร่อยนะคะ ^^ หนูช๊อบชอบ ต้องมีไข่ต้มปรุงรสด้วย  ตันตันเมง ก็หร่อยนะคะ จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด - [ 12 พ.ค. 51 20:10:40 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณครับคุณพี่ทสึว่ะโมโนะ มาทีไร ผมได้ความรู้เพิ่มทุ๊กที...... ผมลองกินแล้วครับ เจ้าสึเกะเมนเนี๊ย แต่รู้สึกว่ามันไม่ค่อยถูกปากเลยครับ มัน "เข้ม" เกินไปครับ ผมชอบกินโซบะเย็น จุ่มน้ำซอส แกล้มกับกุ้งทอดเทมปุระ หรือ พวกซานุกิอุด้ง มากกว่าครับ ขอบคุณโซจังด้วย...... ที่มาช่วยดูกระทู้ ท้องใส้จะได้เลิกปั่นป่วนซ่ะที....... ==================================== กลับมาเข้าเรื่องดีกว่าครับ ออกนอกสถานีไปไกลแล้ว เดินมาได้พักหนึ่ง จะเจอเสาต้นใหญ่ๆ สีเขียวหน้าเกลียดต้นนี้ วางขวางทางอยู่ต้นเบ่อเร้อ พร้อมป้ายบอกว่าเรามาถูกทางออกแล้ว.... ว่าแต่เสาต้นนี้วางได้น่าเกลียดมาก ว่างซ่ะตรงกลางประตูทางออกเชียว ถ้ามีแผ่นดินไหว หรือไฟไหม้สถานี คนคงวิ่งชนเสากันระเนระนาดแน่ๆ จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 20:15:50 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หวัดดี พี่หนุ่มอารมณ์ราเมน (ก็พี่เล่นพาไปกินแต่ราเมน หน้าอิชั้นขึ้นเป็นเส้น ๆ  แร้วววว  )   ร้านเก่าที่ชินากาวา  ยังไม่มีเวลาไปกินเล้ยยย   (ปล.  น้องโซ  จร๋า  ...  พี่สั่นน่ะ  เขาเป็นตะหาน  ที่หน๊ายยย    เป็นอะไร  เราไม่บอกหร๊อกกก  ป้ารู้แต่  น้องสั่นยังมะมีแควน   ) จากคุณ : หมูน้อยสีชมพู - [ 12 พ.ค. 51 20:32:05 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เอ้า เอาเข้าไป หมูน้อยสีชมพู พี่สั่นยังไม่มีแฟนน่ะ ไม่เป็นไรหรอก ช่างพี่เขาก่อนก็ได้ แต่ไอ้โซมันมีแฟนแล้ว แถมมีแฟนs เสียด้วยนะซีเล่า เห็นไหม ตาหนุ่มอารมณ์ดีหายเงียบไปเลย แหม อยู่ไม่อยู่ มาเสนอปลาให้แมวย่างเสียแล้ว หนูหมูน้อยนี่โว้ยเฮ้ย!! จากคุณ : xebec - [ 12 พ.ค. 51 20:54:59 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขออภัยครับทุกท่าน พักครึ่งไปหาอะไรรองท้อง และหาที่รองหัวใจมา.... (แหว่ะ!!) ฝนตกหนักมากเลยครับ ออกจาก Office ไปหาอะไรกินไม่ได้เลย รีวิวไปหิวไปเนี๊ยะ ทรมานครอต ครอต เลยนะจิบอกหือ..... คุณก๊วย... ถ้าอยากลองเมนูใหม่ๆ แปลก แนะนำให้ไปที่ร้านซานุกิอุด้ง ที่อยู่ในสถานีรถไฟ JR อะกิฮาบาระ ร้านเนี๊ยะ..... แล้วจะมีเมนูในดวงใจมาอีกอย่าง ร้านป้ายสีเขียวทางซ้ายมือครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 21:01:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 พ้อนู๊มมมมมมมมมม  กลับมาก๊อนนน    ป้าล้อเล๊นนนนน !!!   แง๊     อาหมูค๊าบบบ   หนูพลาดด  ไปหน่อยเดียว  ใช่ป่าววว  แหะ แหะ     เฝ้าจอ  รอดูอยู่ จ้า  กลับมาพาไปกินต่อเห้อออ  หิวว แล่วววว  Pleaseeeeeee   จากคุณ : หมูน้อยสีชมพู - [ 12 พ.ค. 51 21:04:16 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ดูเมนูซิเครับ น่ากินไม๊....... ซานุกิอุดง เป็น อุด้งชื่อดังจากจังหวัด คาหงะว่า (Kagawa) เกาะชิโกกุ เส้นจะใหญ่ หนา และ แข็ง กว่าอุด้งทั่วไป เวลากิน ก็จะลวกกินแบบแห้งๆ ราดซอสสูตรลับ ทับหน้าด้วยของชุปแป้งทอด.. และไข่ลวกยางมะตูมซักใบ เบียร์เย็นๆ เป็นวุ้นอีกซักแก้ว...... อูยยยยยยยยยย หิววววววววววววววววว จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 21:09:12 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อาหมูครับ... พี่หมูน้อยแกหวังดีครับ โลกนี้ถ้ารักกันรักกัน ทุกอย่างก็มีแต่ความสุขครับ ไม่ได้หายเรื่องนั้นครับ ไปหาของกินเฉยๆ    หิว.............. ของผมอึดและอด(ทน)เกินกว่าจะคาดเดาได้ครับ.... ไม่ต้องห่วง ================================= เข้าเรื่องดีกว่า เดี๋ยวกระทู้จะเบี่ยงเบน (มันเบี่ยงตั้งแต่ชื่อกระทู้แร๊ว...!!!!!) ================================= พ้นไอ้เจ้าเสาต้นเมื่อกี้ไป ก็เจอทางออกแล้วครับ ถ้าเห็นวิวทางขึ้นสะพานเลยตั้งอยู่ตรงฝั่งตรงข้ามแบบนี้ ก็แน่ใจได้เลยว่ามาถูกทางแล้ว..... ให้ออกมายืนตรงหน้าทางออกแล้วทำขวาหัน!!!!! จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 21:19:34 ]

ความคิดเห็นที่ 19 นั่นซินะ นึกว่าหิวจะกินอะไรของเขา อาก็เลยออกไปทางข้างจะงงงงหน่อย ราเมงทำไม่ยาก แต่เหนื่อยตอนเตรียมน้ำซูปนี่แหละ ขี้เกียจรอเคี่ยวกระดูกหมู เลยทำอย่างอื่นกินดีกว่า ---------นี่เลย นี่เลย--------- เมื่อสองสามวันนี้ ไปซื้อเนื้อสดมาตุนไว้ในตู้อีก 7 กิโลกรัม แล้วก็เลยซื้อเนื้อชาบุชาบุมาครึ่งกิโลกรัมด้วย เอามาทำหน้าเนื้อไว้ราดข้าวกินอีกแล้ว ตาหนุ่ม ทำง่ายง่ายครับ มีซ๊อสอยู่แล้ว ก็เอาน้ำต้มครึ่งหม้อ โรยเกลือลงไปนิดหน่อย หั่นหอมหัวใหญ่สามหัวเป็นเส้น ใส่ลงไปเลย น้ำเดือดไม่เดือดไม่สนใจ ตามด้วยน้ำมันหอยหนึ่งทัพพี น้ำส้มจากไวน์แดง หนึ่งทัพพี เทเข้าไป น้ำใกล้จะเดือดแล้ว รีบเอาซ๊อสถั่วเหลืองใส่ลงไปอีกหนึ่งทัพพี เพื่อให้รสเข้มข้น ทีนี้ น้ำเดือดแล้ว เอาเนื้อใส่ลงไปเลยครับ ทั้งครึ่งกิโลกรัมนั่นแหละ อ้าว ลืมพริกไท เอาเป็นเม็ดนั่นแหละ ใส่ลงไปหยิบมือหนึ่ง ตามด้วยซ๊อสหมูสำหรับราดข้าว แบบญี่ปุ่นอีกสองทัพพี ปิดฝา ให้เดือดสักสองนาที เปิดฝา ราไฟต้มต่อไปอีกห้านาที เสร็จเรียบร้อย เปิดฝาขึ้น ไอฉุยออกมา เด็กที่บ้านร้องว่า หอมจังเลย คุณลุง แค่นี้ ก็อร่อยแล้วละครับ เตรียมขิงดองสีแดง หั่นซอยเอาไว้ แล้วตักข้าวมา ไม่ใช่ข้าวญี่ปุ่นหรอก ข้าวขาวธรรมดา เสาไห้หรือเจ๊กเชย นี่แหละ เอาคีมคีบเนื้อมาวางบนข้าว เต็มแล้วราดน้ำขลุกขลิก ขิงดองหยิบมือวางลงไปข้างชามข้าว คว้าพริกป่นญี่ปุ่นติดมือออกไปจากครัวด้วย แล้วตะเกียบอีกคู่หนึ่ง มานั่งกินไป ฟังเพลงญี่ปุ่นไป โอ มีความสุขโว้ย ตาหนุ่ม ไม่มีใครมาแย่งกินด้วย อากินเนื้ออยู่คนเดียวในบ้าน ฮ่า ฮ่า จากคุณ : xebec - [ 12 พ.ค. 51 21:23:28 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถูกแล้วหละคะคุณหนุ่มไปทานมาสองรอบก็ทานแต่ไอ้เมนูเดิมนั้นแหละ อร่อยสุดๆ เห็นแล้วคิดถึงอะ จากคุณ : *พนาหนาว* - [ 12 พ.ค. 51 21:25:51 ]

ความคิดเห็นที่ 21 พี่หมูน้อยคร๊าบ...... บ่เป็นหยั่งดอกครับ อย่าคิดมากกกกกกกกกกกกกกกกกซิคร๊าบบบบบบบบบบ เห็นผมเป็นหนุ่มขี้น้อยใจไปได้ หายไปชงไมโลมาซดร้อนๆ ตะหากล่ะครับ  หิวววววววววววววว ===================================== จะเห็นร้านอิชิเรน ซ่อนตัวอยู่ทางขวาของเสาต้นนี้ครับ..... ขออภัยที่ทำให้มึนเวลานะ รูปนี้กลับมาถ่ายตอนกลางวัน เพราะตอนกลางคืนอิ่มราเมงจนเบรอ ลืมถ่าย....... จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 21:27:57 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หน้าร้านครับ เป็นร้านขนาด 2 คูหา ตรงนี้เดินเข้าได้อย่างเดียวนะครับ เป็น One-way ครับ ถ้าเดินออกต้องออกประตูอีกคูหานึงทางซ้ายมือ เห็นเสากั้นคิวตรงหน้าร้านไม๊ครับ.... ถ้ามากินตอนช่วงเที่ยง หรือช่วงเย็น จะได้บริหารกล้ามเนื้อน่องกันก่อนสักครึ่งชั่วโมงแน่นอน! จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 21:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าใครพึ่งลงรถไฟ Keisei มา แล้วอยากกินเลย ก็ให้เดินออกจากสถานีแล้วเลี้ยวซ้าย ไปตามทางเท้าเลียบสวนอูเอโนะนี้..... สถานี JR อูเอโนะ อยู่ทางฝั่งขวามือนะครับ ส่วนตลาดอาเมโยโกะอยู่ทางด้านหลัง (เลียบสะพานรถไฟไป) แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 51 20:48:36 จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 21:35:34 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณหนุ่ม ตามไปดูร้านราเม็งแล้ว เที่ยวหน้าต้องแวะตามลายแทง แต่....เดี๋ยวจดสูตรของคุณxebec ก่อน สูตรเด็ดแบบนี้หายาก... จากคุณ : pk12th - [ 12 พ.ค. 51 21:37:43 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พอเดินพ้นหัวโค้งมาหน่อยเดียว ก็ข้ามถนนไฟผั่งตรงข้าม (ข้ามทางม้าลายนะ ที่นู่นเค้าไม่ใช่เหมือนบ้านเรา) ร้านอยู่ตรงที่วงสีเหลืองๆ ไว้นั่นแหละ จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 21:39:40 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อาหมูคร๊าบบบบบบ มายั่วต่อมหิวกันอีกแล้วนะครับ เด๋วใครมาอ่านไม่นึกว่าอยู่ห้องบลูนะสิครับ จะนึกว่าเข้าห้องก้นครัวไปซ่ะแล้ว.... คิดถึงข้าวหน้าเนื้อสูตรยาชิโนยะของอาหมูจัง.....หิวววววววว ================================= เข้าร้านไปก็ไปเจอเครื่องหยอดเหรียญแลกคูปองเหมือนๆ ร้านอื่นๆ นั่นแหละ ก็ใส่ตัง แล้วเลือกกดเมนูที่ชอบที่ชอบ ก็จะได้เป็นคูปองใบเล็กๆ ออกมา ที่ดีกว่าร้านอื่นคือเจ้านี้ที่ปุ่มกดมีภาษาอังกฤษบอกด้วย เลยไม่ต้องเดา สงสัยมีชาวต่างชาติมากินเยอะแฮ่ะ..... ไม่ได้ถ่ายรูปตู้หยอดเหรีญมานะ เพราะบรรยากาศในร้านมันมืดๆ ทึมๆ หยั่งกะเข้าไปโรงหนังชั้นสองแถวชานเมือง ราคาราเมงเจ้านี้ไม่แพงครับ ประมาณเจ็ดร้อยกว่าเยน วันนั้นผมสั่งไข่ต้มยางมะตูมไปด้วย ก็บวกไปอีก 100 เยน ราคามาตรฐานครับ พอได้ตั๋วแล้ว น้องพนักงานในร้านที่รออยู่ใกล้ๆ ก็จะพาเราไปนั่งในคอกทำข้อสอบ!!!!!!! จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 21:47:21 ]

ความคิดเห็นที่ 27 บรรยากาศในคอก ไม่ซิ ผมนึกถึงห้อง Sound Lab สำหรับเรียนฝึกฟังภาษาอังกฤษสมัยเด็กๆ เลยเด้วยซ้ำ!!!! จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 21:50:05 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ pk12th ครับ ซ๊อสหน้าเนื้อที่ผมพูดถึงนั่น ขวดเล็กนะครับ ราว 250-300cc มีขายที่ UFM Fuji หลังวิลล่ามาร์เก็ต สุขุมวิท 33 วางอยู่บนชั้นซ๊อสญี่ปุ่น เลยชั้นซ๊อสธรรมดาที่ตรงกันข้ามกับอาหารสดญี่ปุ่นไปหนึ่งช่องนะครับ ขวดละราว เอ เดี๋ยวไปดูก่อน ขวดละ 121 บาทครับ ชื่อ"ดนบุริ อูอิเตอิ เกียวคน (ตราเอบารา) หน้าขวดเป็นสีม่วง ฝาขวดสีเขียว ที่หน้าขวดมีชามข้าวราดหน้าเนื้อเห็นชัดเจนครับ ถ้าได้เจ้านี่แล้ว ผสมสูตรที่ผมเพิ่มเติม ก็จะทำให้รสเข้มขึ้น แต่กลิ่นยังเหมือนหน้าเนื้อที่ญี่ปุ่นไม่ผิดครับ ขอให้สนุก และอร่อยนะครับ จากคุณ : xebec - [ 12 พ.ค. 51 21:52:22 ]

ความคิดเห็นที่ 29 จะมีพนักงานโผล่แต่แขนมาตรงช่องด้านหน้าเรา ได้ยินแต่เสียงแจ๋วๆ เป็นภาษาญี่ปุ่นยาวเหยีด ฟังไม่รู้เรื่องตามเคย ยื่นคูปองไปให้ มีสองใบ ใบบนคือราเมง 750 เยน ใบล่างเป็นไข่ต้มยางมะตูม 100 เยนครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 21:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 30 โห.....กระทู้เรากลายเป็นกระทู้สอนทำกับข้าวไปซ่ะแล้ว ดีครับ สนุกดี กระทู้ผมไม่ได้คึกคักอย่างนี้มานานแล้ว ช๊อบ ชอบ..... ต้องขอบคุณลูกสาวคนเล็กของอาหมูมากเลย ที่มาเป็นมาสคอตให้..... ^ ^ ====================================== ยังไม่ได้กินง่ายๆ หรอกครับ ต้องทำข้อสอบตามธรรมเนียมก่อน ด้วยใบหน้าญี่ปุ่นลามกอย่างผม พนักงานก็ยื่นเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นให้ตามระเบียบ ต้องส่งภาษาอังกฤษไป ถึงได้แผ่นนี้มา จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 21:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เป็นการเลือกรสชาติราเมงตามแบบที่เราชอบครับ มือใหม่หัดกินเจ้านี้ก็ใส่ตรงกลางๆ ไว้ก่อนดีกว่า ยกเว้นตรงช่อง "Secret sauce" ถ้าชอบกินบะหมี่ต้มยำ เลือกเขียนช่องขวาสุด แล้วใส่ไปเลยครับ 5 ช้อน รสชาติจะกะลังดีสำหรับคนไทย แต่ตาเหลือกสำหรับญี่ปุ่น!!!! น้ำดื่มก็บริการตัวเองนะครับ แก้วอยู่ในชั้นตรงหน้า รินจากก๊อกสีเงินที่เห็นนั่นแหละ แหม๊...... นึกว่าก๊อกเบียร์สด จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 22:06:36 ]

ความคิดเห็นที่ 32 พันทิปอืดเป็นเรือเกลืออีกละ รึว่าเพราะอินเตอร์เน็ตของเราหว่า?...... ผมหนีไปอาบน้ำนอนดื้อๆ หยั่งงี้เลยดีกว่าครับ พรุ่งนี้ค่อยมาต่อล่ะกัน แอบติดนิสัยเสี่ยฯ มาครับ ชอบทำให้ “ค้าง” ครับ พรุ่งนี้มาต่อละกัน ปิดท้ายด้วยรูป คิวชูจังหงะระราเมง ที่ผมไม่ได้กินครับ ยืมรูปชาวบ้านเค้ามา........ จากคุณ : NumAromDee - [ 12 พ.ค. 51 22:08:47 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เน็ตตาหนุ่มนั่นแหละอืด เน็ตบ้านนอกนี่หว่า ที่บ้านอาเร็วจี๋เลย ทุกบ้านด้วย แม้กระทั่ง GPRS ก็เร็วครับ แต่ GPRS มักไม่ค่อยขึ้นรูปให้หรอก เวลากระทู้ยาวยาวนี่ มันจะขึ้นเป็นตรา ว่ามีรูปนะ อยากดูให้คลิ๊กเอาเองอีกที อะไรแบบนี้แหละ ไปเถิด ไปนอน เดี๋ยวอาก็ต้องมอนิเตอร์รายการแล้ว สวัสดีครับ จากคุณ : xebec - [ 12 พ.ค. 51 22:32:24 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เหอ ๆ ป้าอ้อฯ เอาน้องนุ่งมาป่าวประกาศซะแล้ว.... ผมเป็นนักเรียนโข่งอยู่ญี่ปุ่นครับคุณผู้ชมกระทู้คุณหนุ่มอารมณ์ดีทุก ๆ ท่าน ส่วนเรื่องรู้ภาษาญี่ปุ่น ก็พอเอาตัวรอด ไม่อดตายล่ะครับ เพราะไม่ได้เรียนหลักสูตรภาษาญี่ปุ่น บางเรื่อง บางอย่าง ที่ผมอยากรู้ด้วยผมก็จะเรียกเพื่อนมาไขความกระจ่างให้ก่อนพิมพ์ตอบ บอกตามตรงว่าผมชอบเข้ามาดูกระทู้คนไทยเที่ยวญี่ปุ่น เพราะผมอยู่มานานจะครบ 5 ปีแล้ว บางอย่างก็ที่คนไม่เคยมาว่าน่าสนใจ มันก็กลายเป็นเรื่องราว หรือสถานที่ ที่ผมมองข้ามไป ไม่สนใจแล้วก็มีเยอะแยะ ส่วน log in ของผมก็แปลตามชื่อภาษาไทยล่ะครับ เพื่อนคนญี่ปุ่นแปลให้ ไม่ค่อยตรงกับความหมายภาษาไทยเท่าไหร่ แต่ตอนนั้นไม่ค่อยรู้ภาษาญี่ปุ่นดีนัก ก็เลยยอม ๆ กันไป ฟังดูแล้วเหมือนฉายาของนักกีฬาซูโม่มาก ๆ เลย ไว้ใกล้ ๆ เรียนจบ ค่อยนำเที่ยวเมืองที่ผมอยู่ก็แล้วกันครับ เชื่อแน่ว่าคนไทยไม่รู้จัก แต่สถานที่ท่องเที่ยวไม่น้อยหน้าที่อื่นใด เพราะอายุอานามของสถานที่แต่ละที่นั้น ก็เกิดพร้อมกันกับสถานที่ดัง ๆ อีกหลายที่เช่นกัน ปัจฉิมลิขิต - ขออภัยคุณหนุ่มฯ ที่อาศัยกระทู้อธิบายความครับ จากคุณ : Tsuwamono - [ 12 พ.ค. 51 22:37:29 ]

ความคิดเห็นที่ 35 "  หิวโซ  " แล้วไงล่ะครับ  ท่าน ?   แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 51 23:27:28 จากคุณ : Draught Beer - [ 12 พ.ค. 51 23:23:08 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณคร้าบ  อยู่แถวนี้พอดี ไม่พลาดแน่คร้าบ  มีทำข้อสอบด้วย อิ อิ จากคุณ : ละแล้วซึ่งกิเลส - [ 13 พ.ค. 51 06:17:26 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แอบมาอู้ตอบกระทู้แต่เช้า ขอบคุณครับอาหมูที่อยู่ดูจนจบช่วงพักครึ่งครับ ไม่ได้ไปนอนทันทีหรอกครับอา... ต้องไปหาอะไรกินก่อน หิว ไม่เป็นไรครับพี่สั่น(ชื่อเก๋จัง ขออนุญาตเรียกชื่อเล่นตามอาหมู กะ พี่หมูน้อยนะครับ) แค่เข้ากระทู้ผมก็เป็นเกียรติอย่างมากแล้ว คิดแล้วว่าพี่สั่นต้องเป็นนักศึกษาอยู่ที่ญี่ปุ่นแน่ๆ ออกจะถ่ายทอดความรู้ได้แน่นขนาดนี้ ดีเลยครับ! ว่างๆ ขออนุญาตส่ง Mail ขอและเปลี่ยนความรู้เรื่องวัฒนธรรมญี่ปุ่นสักหน่อยนะครับ แบบว่าบางเรื่องของคนญี่ปุ่นนี่ทำเอาผมงงมากๆ เลย แล้วจะคอยตามอ่านกระทู้พาเที่ยวของพี่สั่นนะครับ ท่านถังเบียร์ครับ! "หิว" ก็ต้อง "กิน" ซิครับ เดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะกันพอดี...... ดีใจด้วยครับคุณละแล้วฯ ที่กระทู้ผมมีประโยชน์ แถมแผนที่ทางไปร้าน คิวชูจังหงะระราเมง ที่ฮาราจูกุให้ด้วยครับ เผื่อใครอยากได้ จะไปตามกิน ร้านอยู่ตรงใกล้ทางขึ้นสะพานลอยที่จะข้ามไปศาลเจ้าเมจิพอดี ถ้านั่งรถใต้ดินไป ก็ให้นั่ง Tokyo Metro สาย Chiyoda (สีเขียวแก่) ไปลงที่สถานี Meiji-jigumae เดินออกทางออกที่ 3 พอเดินขึ้นมาตรงทางออกศาลเจ้า Meiji เดินลงมานิดเดียวก็เจอร้านอยู่ทางซ้ายมือแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 51 10:05:50 จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 10:01:23 ]

ความคิดเห็นที่ 38 รูปนี้ยืนยันได้เลยว่าร้านจังหงะระได้รับความนิยมจากคนไทยที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นมั่กๆ มีเมนูภาษาไทยในร้านให้ด้วยครับ ส่วนเรื่องรสชาติ ไม่ได้ชิมครับ ให้ท่านอื่นมาบอกละกัน แต่ยังไงผมก็ยังเชื่อว่า "ของอร่อยคือของที่เราชอบกิน" ครับ ไปทำงานก่อนละครับ เดี๊ยวกลางวันจะมาต่ออีกที จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 10:09:45 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ....ฮ่า....วันนี้ผมว่าง...ผมไปหาราเมงกินได้เองแล้ว....ไม่ต้องเฝ้าบ้านหรือที่ทำงานอีกแล้ว.....:D....จะเอาอะไรมาให้ดูก็เชิญเลยครับ.....:D....ความหิวความอยากของผมวันนี้จะหมดไปเมื่อได้กินอาหารญี่ปุ่นแน่แล้วครับ....:D...:D....วันนี้ต้องเอา Rainbow มาลงเท่านั้นหละถึงจะเรียกความสนใจผมได้....HAHAHAHAHA.....[บ้าไปแล้ว...:D] จากคุณ : Death - [ 13 พ.ค. 51 12:14:57 ]

ความคิดเห็นที่ 40 โผล่มากระปริบกระปรอยมากๆ คุณหนุ่ม หิวมาก เดี๋ยวขอไปซัดมาม่าก่อง เดี๋ยวมาใหม่ จากคุณ : bangkok dream - [ 13 พ.ค. 51 12:36:16 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สวัสดีตอนเกือบบ่าย... ท่านเดท จะไปกินที่ไหนเหรอครับ รอผมกลับกรุงเทพก่อนได้มะ แล้วจะตามไปกินด้วย กะจะเอาหนังญี่ปุ่นไปฝาก... เหอะ เหอะ ไม่มีรูปเรนโบว์นะ มีแต่รูปที่แคปฯ มาจาก TV ญี่ปุ่น เป็นรายการที่จะไปคัดเลือกเด็ดผู้ชายระดับมัธยมหน้าตาหวานๆ มาแต่งตัวเป็นผู้หญิง แล้วเอามาประกวดกัน ดูตัวอย่างความสวยหน่อยมะ..... จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 13:11:16 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เปลี่ยนใจหรือยังท่าน....555555555555555555 จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 13:12:22 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ดูหน้าตากรรมการเวลาผู้เข้าประกวดแต่งตัวออกมาเดินโชว์แล้วสิ จะรู้ว่ามันตะลึงพรึงเพริดขนาดไหน!!!!! จริงๆ มีสวยกว่านี้อีก แต่ถ่ายรูปมาไม่ทัน คนญี่ปุ่นนี่ เวลาบ้าจะทำอะไร เค้าทำจริงจังทุกเรื่องเลยแฮะ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 13:14:49 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เจ๊ดรีมครับ กระปริบกระปรอยมันใช้กะของเหลวนะครับ แต่ผมมันของแข็งนะเจ๊...... ==================================== มาต่อกันดีกว่า กระทู้เกือบกลายพันธุ์หมดแล้ว.... ยื่นข้อสอบให้กรรมการ เอ้ย! เด็กเสิร์พหลังเคาเตอร์ไปแล้ว ก็ได้ไข่ต้มยางมะตูมมาก่อนเลยแฮะ...... จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 13:18:37 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ไม่ได้มาเพียวๆ นะ แถมเกลือป่นมาให้อีก 1 ซอง พร้อมกับ... คู่มือการปอกเปลือกไข่!!!!!!!!! ถ้าปอกตามคู่มือ ไข่จะกลมสวยงาม ไข่แดงไม่แตกเยิ้มออกมา ว่างั้น..... โห.... คนญี่ปุ่นนี่ช่างคิด และให้ข้อมูลลูกค้าอย่างละเอียดยิบ ยิบ ทุกเรื่อง ซู๊ดดดดดยอดการบริการจริงจริง หมายเหตุ: ไข่ไก่ญี่ปุ่นเปลือกจะเป็นสีขาวนะ ไม่ใช่ไข่เป็ด อย่าเข้าใจผิด จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 13:23:26 ]

ความคิดเห็นที่ 46 รอไม่เกิน 10 นาที บะหมี่ร้อนๆ ชามนี้ก็ถูกสอดผ่านช่องด้านหน้าคอกซาวด์แล็ปเข้ามา.... แล้วน้องคนเสิร์พก็จะคลี่ม่านไม้ไผ่ลง ให้ผมและน้องราเมงได้อยู่พลอดรักกันสองต่อสอง..... จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 13:34:10 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เสียดายตาหนุ่มนะ หากได้เรียนมัธยมในญี่ปุ่น และหน้าตาขาวเป็นไข่ปอกอย่างที่ปอกอยู่นี่ละก็ มรึงเอ๋ย รับรองได้ ว่าตาหนุ่มได้รับเลือกไปแต่งหน้าเป็นสาว(ไม่)น้อย เข้าประกวดกับเขาแน่นอน แล้วตาหนุ่ม จะกลายพันธุ์ไปเองแหละ จากหนุ่มอารมณ์ดี เป็นสาวเซ็กซี่ ละม้ายเจ้า JIMMY ของผมเลยทีเดียว ฮ่า ฮ่า จากคุณ : xebec - [ 13 พ.ค. 51 13:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ก็ไข่ต้มฟองนั้น ราคามันเท่าไรล่ะตาหนุ่มฯ 100 เยน เท่ากับ 30+ บาทใช่ไหม มันก็ต้องทนุถนอม กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงควายเฒ่าอย่างเรากันหน่อย จริงไหม จากคุณ : xebec - [ 13 พ.ค. 51 13:36:08 ]

ความคิดเห็นที่ 49 หน้าตาราเมงไม่สวยเลย.... สงสัยจะไปตอนดึกแล้ว เด็กในร้านเลยขี้เกียจตกแต่งหน้าตาให้สวยงาม ขอยืมรูปชาวบ้านมาลงหน่อยนะครับ ของใครก็มะรู้ ส่งต่อๆ มาตามรายแทงกันอีกที รู้สึกว่าจะเป็นของคุณ Skybox แห่ง TrekkingThai นะ ขอโทษด้วยครับหากเอ่ยนามผิดพลาด....... รสชาติ ....... น้ำซุปลื่นคอมาก หอมกระดูกหมูและน้ำมันงาบางๆ ไม่เข้มข้นมาก ซุปยกดื่มได้... เหมือนที่น้องซาร่าห์เคยบอกว่าเมื่อตอนที่แล้วเลย เส้นก็เป็นเส้นเล็กเรียวที่ผมเลือกให้ลวกแบบสุกสู้ฟันกำลังดี (Firm) ความอร่อยมันอยู่ที่ซ๊อสสูตรลับสีแดงๆ ที่โรยมาบางๆ บนหน้าซุปนี่แหละ ถ้าใส่ซัก 5 ช้อน รสจะออกเผ็ดร้อนกำลังดีสำหรับคนไทยที่ชอบอาหารรสจัด กินไปซับเหงื่อไป.... ไม่เผ็ดแต่ร้อนครับ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 51 20:31:30 จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 13:43:15 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ไข่ต้มยางมะตูมก็สุกกำลังดี สำหรับคนชอบไข่แดงเยิ้มๆ แบบผม คนญี่ปุ่นเค้าชอบกินไข่แดงไม่สุกกันครับ อย่างอาหารเช้า เค้าสามารถเอาไข่ไก่ดิบๆ มาตอกใส่ข้าวสวยร้อนๆ ราดด้วยโชยุ แล้วพุ้ยกินกับซุปเต้าหู้ได้อย่างเป็นปกติ ซึ่งก็แปลกตรงที่ไข่ไก่ญี่ปุ่นจะมีความคาวน้อยถึงน้อยมาก ไม่รู้เกี่ยวกับพันธุ์ไก่ หรือว่าอาหารการกินกันแน่??????? สรุป อิชิเรนราเมง เป็นราเมงที่เหมาะจะไปกินคนเดียว และต้องการชื่นชมกับรสชาติของมันอย่างเต็มที่ ไม่ต้องมีใครรบกวน บรรยากาศจะแบบตัวใครตัวมัน ต่างคนต่างกิน ผมชอบรสชาติราเมง และการให้มีทางเลือกที่หลากหลายตามใจลูกค้า แต่ไม่ชอบบรรยากาศของร้านเลย........ ยิ่งกินยิ่งเหงา จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 13:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อย่ามาบ่นว่าเหงา ตาหนุ่มฯ หิวโซ ก็ต้องกินโซคนเดียวซีวะ จากคุณ : xebec - [ 13 พ.ค. 51 13:58:08 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สวัสดีตอนบ่ายครับอาหมู.... ผมยังเป็นควายหนุ่มอยู่เลยนะ (เหอะ เหอะ กลัวพิมพ์ผิดแล้วโดนยึดอมยิ้มจัง) ยังถึกๆ ดุ่ยๆ อยู่เลยครับ แต่ดำๆ อย่างนี้ดีแล้วล่ะครับ มันทนแดดทนฝนดี โลกมันร้อนแดดมันจะแรงขึ้นเรื่อยๆ ดำก่อนได้เปรียบกว่านะคร๊าบบบบบบ ============================ จริงๆ ถ้าพี่ๆ เพื่อนๆ ไปพักแถวๆ ย่านชิบุย่า ไปแวะทานอิฉิเรนสาขา ชิบุย่าได้เลยครับ ตามแผนที่นี้เลย จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 14:07:06 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มันอยู่บนถนน Jingu-Mae ครับ อยู่ทางเหนือของสถานีรถไฟชิบุย่า วิธีเดินทางก็มาเริ่มที่ห้าแยกคลื่นมนุษย์ด้านหน้าสถานี ตรงรูปปั้นหมาน้อยผู้ซื่อสัตย์นั่นแหละครับ (ขออภัยผมจำชื่อน้องหมาไม่ได้แล้ว) มองตรงไปจะเห็นตึก Q-Front อยู่ตรงนี้ ตึกกระจกใหญ่ๆ ที่มีร้านสตาร์บัคอยู่ชั้น 2 นั่นแหละครับ เดินฝ่าฝูงคนไปทางถนนด้านขวาของตึก Q-Front ไปเรื่อยๆ สัก 100 กว่าเมตร ก็จะเจอร้านอิชิเรนอยู่บนตึกทางฝั่งขวามือครับ แต่ผมอยากจะบอกว่า ผมเดินหาหน้าร้านสาขานี้ไม่เจอหรอกครับ เห็นแต่ป้ายหน้าร้าน แล้วก็ไม่รู้ว่ามันต้องขึ้นหรือลงบันไดไปทางไหน ขออภัยด้วยนะครับที่ทำให้ผิดหวัง คราวหน้าถ้าไปอีก จะถ่ายรูปทางขึ้นหน้าร้านมาให้ดูแน่นอน จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 14:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เหงาแค่บรรยากาศในร้านหรอกครับอาหมู ไม่ได้เหงาอย่างน้าน......... ออกมานอกร้านก็เดินหาของกันหูตาเหลือกหายเหงาหมดแล้ว ก็เล่นตามหา "ทัมปง" ซ่ะจนแทบลืมเที่ยวหน่ะซิครับ เหอะ เหอะ ==================================== ยังพอมีเวลาอู้งานอยู่ครับ ไปร้านต่อไปกัน... “ฮิปปุโด้ราเมง” จริงๆ แล้วร้านนี้มีหลายสาขา ที่โอซาก้าก็มี รู้ แต่สาขาเดียวที่ผมรู้จักและไปชิมมาก็คือ สาขาอิบิซึ (Ebisu) ตามแผนที่นี้เลยครับ (ขอบคุณแผนที่ของคุณ skybox อีกครั้งด้วยครับ) ร้านตั้งอยู่ตรงหมายเลข 3 ครับ ไม่ใช่ใกล้ๆ นะครับ เดินจากสถานีไปกิโลกว่าๆ แต่อยากกินของดี ของอร่อย ต้อง "อึดและทน" ครับ เดินไปเหอะ อากาศเย็นๆ เดินไปถึงได้ซดซุปร้อนๆ แล้วจะรู้ว่าความพยายามของคุณ "คุ้มค่าเพียงไหน" เป็นคติส่วนตัวของผมครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 14:22:32 ]

ความคิดเห็นที่ 55 สถานีอิบิซึ ไปง่ายครับ ถ้านั่ง JR ก็เลือกนั่งสายยามาโนเตะ (สีเขียวอ่อน) ถ้าเป็น Tokyo Metro Subway ก็สาย ฮิบิย่า (สีเทา) สถานีนี้อยู่ถัดจากสถานี Shibuya ลงมาทางใต้แค่สถานีเดียวเองครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 14:30:37 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ถ้าไปด้วย JR พอถึงสถานีอิบิซึแล้ว ให้เดินออก West Exit นะครับ ส่วนรถไฟใต้เดิน ไม่ทราบหมายเลขทางออก เพราะไม่เคยนั่งไปลงสถานีนั้นครับ หลงกันไปก่อนนะครับ ขอโทษด้วยอีกที จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 14:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ....โอ้พระเจ้า....ไม่เอา"กระเทียม"นะครับได้โปรด.....กินข้าวไม่ลง...ฮืออออออ.....:D....สายรุ้งเท่านั้นที่ผมต้องการ....:D...ส่วนหนังญี่ปุ่นนี่หลังจากมี Bit...ก็มีหน้าที่โหลดให้เพื่อนจนคอมพังไปตัวนึงแล้วเพราะเปิดติดกันอยู่สิบวัน....:D...:D...:D ....ผมจะไปกินแถวๆ Central World ครับ...ยัยน้องสาวตัวดีของผมที่ทำงานแถวนั้นบอกมีร้านอร่อยจะพาไปกิน...:D....ไม่รู้จะเบี้ยวหรือเปล่า....ถ้าเบี้ยวสงสัยผมได้กินโออิชิอีกแน่[เบื่อ..แพงด้วย]...:D..:D...เมื่อไหรจะเลิกงานเนี่ยจะได้ไปเสียที...:D...:D จากคุณ : Death - [ 13 พ.ค. 51 14:35:24 ]

ความคิดเห็นที่ 58 มาถึงทางออกด้านตะวันตกแล้ว ก็จะมีทางแยกอยู่ 2 แยก คือ West Side กับ East Side เลี้ยวซ้ายไป West เหมือนชื่อทางออกเลยครับ จำง่ายๆ ลง JR ก็ต้อง Double West นะครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 14:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ท่านเดท.... อารมณ์หิวนอกจากจะทำให้ฟุ้งซ่านงุ่นง่านแล้ว ยังทำให้ขี้เกียจทำงานด้วยนะครับ..... ถ้าท่านเดทได้กลับไปญี่ปุ่นอีกครั้ง ลองไปอากิฮาบาระ ตรงถนน Chuo (Electic Town) ฝั่งสถานีรถไฟ JR เดินไปเรื่อยๆ ซัก 200 เมตร จะเจอร้านขายของเล่นร้านนี้ หน้าร้านดูเป็นร้านขายของเล่นธรรมดาทั่วไปใช่ม่ะล่า...... แต่ขายของเล่นแค่ชั้นเดียวนะ อีก 5-6 ชั้นที่เหลือขายหนังเรนโบว์ท้างน้าน......... ดูกันให้เลือดกำเดากระฉูดกันไปข้างนึงเลย มีทุกแนว ตั้งแต่ ปกติ ยันโรคจิต ในร้านจะเปิดซาวด์เอฟแฟ็คไว้ตลอดทาง แถมชั้นบนสุด ยังมีชมรมญี่ปุ่นหื่น มายืนล้อมวงแลกเปลี่ยนรูปภาพในกล้องถ่ายของตัวเองอย่างเมามัน พร้อมมุมเล็กๆ ขายกุงเกงในสาวๆ ใช้แล้วพร้อมรูปเจ้าของประกอบใส่ซองพลาสติคสวยงาม ถ้าผมรู้จักท่านเดทดีๆ ก่อนหน้านี้ ผมซื้อมาฝากท่านแล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 15:05:37 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ไม่ไหวล่ะ ยิ่งนาน กระทู้นี้ยิ่งกลายพันธุ์แฮะ...... รีบไปต่อดีกว่า เดินออกทาง west side ไปนิดนึง ก็จะเจอทางออก ที่มีลานจอด Taxi อยู่ แต่ไม่ต้องตรงไปนะครับ ให้เดินเลี้ยวขวาตามลูกศร จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 15:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 61 จะเจอทางออกเล็กๆ อยู่ข้างบันได(เลื่อนมั๊ง) หน้าตาแบบนี้ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 15:10:10 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เดินออกมาก็จะเจอถนนทอดขวางหน้าอยู่ โดยมีสะพานรถไฟอยู่ทางขวามือ ให้เดินเลี้ยวขวาตรงตึกป้อมตำรวจ ลอดใต้สะพานรถไฟไปครับ ถ้างงหรือหลง ก็ควักแผนที่ร้านถามคุณตำรวจที่ป้อมนี้ได้เลยครับ ตำรวจญี่ปุ่นเป็นมิตรและดูใจดีมากเลยครับ จนสงสัยว่าคงไม่ค่อยมีผู้ร้ายให้วิ่งไล่จับ เลยไม่ต้องทำหน้าเหี้ยมก็ได้ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 15:13:08 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เลี้ยวขวาลอดใต้สะพานรถไฟมา ก็จะเห็นวิวแบบนี้ ขออภัยครับ ตอนนั้น 3 ทุ่มกว่าแล้ว หิวและหนาวมาก แสงก็น้อย ตาก็แทบจะบอด.... ด้วยความรัก (แหว่ะ....) ภาพเลยเบรออย่างที่เห็น จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 15:15:39 ]

ความคิดเห็นที่ 64 พ้นสะพานรถไฟไป ก็เดินชมวิวโต้ลมหนาวไปเรื่อยๆ แหละครับ จนข้ามทางแยกแยกนี้... ครั้งแรกอาจจะดูนานและไกลซ่ะหน่อย แต่ครั้งต่อไปจะสั้นและเร็วเอง...... จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 15:19:03 ]

ความคิดเห็นที่ 65 จากแยกเมื่อกี้ เดินมาได้อีกซัก 100 กว่าเมตร ก็จะสี่แยกใหญ่ ที่มีสะพานลอยอยู่ทุกด้านเป็นรูปสี่เหลี่ยมลอยอยู่ข้างบน ครึ่งทางแล้วครับ!!!! จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 15:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เดินขึ้นบันไดสะพานลอยตรงหน้าร้านสะดวกซื้อร้านนี้.... ขายอะไรก็ไม่ได้เข้าไปดู ชื่ออะไรก็ไม่รุ แต่การ์ตูนโลโก้ร้านน่ารักจัง....... จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 15:24:32 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สะพานลอยญี่ปุ่นไม่มีขอทาน หรือ คนน่าตาน่ากลัวมายืนให้เป็นที่ขวัญผวา ดึกๆ สาวๆ ก็ยังเดินได้ครับ ผมซ่ะอีกที่หน้าตาหน้ากลัวที่สุดบนสะพานนั้น จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 15:27:09 ]

ความคิดเห็นที่ 68 บนสะพานลอย แหงนหน้ามองขึ้นไปบนยอดตึก ก็เจอป้ายชื่อร้าน ฮิปปุโด้ ใหญ่เบ้อเร่อ!!!! อยู่บนนั้น ก็ให้โล่งใจไปหนึ่งเปราะว่า มาได้ถูกทางแล้ว เดินลงสะพานลอย แล้วเลี้ยวไปทางขวาตามลูกศรบนป้ายครับ อีก 120 เมตรก็ถึงแล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 15:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 69 มากินซ่ะค่ำขนาดนี้ (สี่ทุ่ม) ถนนก็เลยโล่งๆ ร้างๆ อย่างที่เห็น อากาศก็หนาวสั่น ได้ใจ อยากทำอะไรแก้หนาวก่อนถึงร้าน อารมณ์คึกขึ้นมาฉับพลัน เลยฮัมเพลง “Raindrops Keep Falling on My Head” แล้วเต้นแทปกระหยองกระแหยงเหมือนชาลี แชปปลิ้น แหกปากร้องตะโกน “Because I’m free. Nothing's worrying me.....................” ไปจนเกือบถึงหน้าร้าน ใครมาเห็นผมตอนนั้นเข้า คงนึกสมเพชไอ้หนุ่มไร้สติคนนี้น่าดู แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 51 18:12:37 จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 15:51:05 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ถึงแล้วครับ!!!! ร้านนี้เปิดตั้งแต่ประมาณ 11 โมงเช้า ถึงตีสามครับ ไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมงเหมือนอิฉิเรนนะ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 15:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ขอยืมรูปหน้าร้านชัดๆ จากกระทู้ของคุณ skybox (อีกแล้วครับท่าน) มาให้ดูชัดๆ เผื่อใครมาตอนกลางวัน ขอบคุณคุณ skybox แห่ง Trekkingthai ที่เป็นแรงบรรดาลใจให้ผมมาชิมที่ร้านนี้ครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 15:56:59 ]

ความคิดเห็นที่ 72 หากว่าชื่อของคุณ Tsuwamono แปลตรงตัวมาจากภาษาไทย งั้นชื่อภาษาไทย ภาษาคงพริ้วไหวน่าอ่านน่าดูเลยนะคะ โจทย์แคบลง แต่ก็ยังเดายากอยู่ดี ไว้จะรอดูรีวิว คุณ Tsuwamono นะคะ คิดว่า รีวิวต้องแฝงสาระ และเกร็ดความรู้ที่คนไทยไม่เคยรู้มาก่อน อยู่มาตั้ง 5 ปี คงมีอะไรดีๆ มาบอกบ้างไม่มากก็น้อยล่ะน๊า... ---------------------- อาหมูขรา ... หนูยังโสดสนิท ศิษย์อาจารย์หมูสวยสยามอยู่เลยนะคะ บอกแบบนี้ หนูขายไม่ออก อดได้ซองแดงงานแต่งพอดีกัน เที่ยงที่ผ่านมา หนูยังแอบไปทานมื้อเที่ยงกับน้าเพียงฯ อยู่เลย และได้ถามไถ่ถึงสารทุกข์สุกดิบ ยังคงระลึกและคิดถึงอาหมู-อาลองเสมอนะคะ ---------------------- พี่หมูน้อยสีชมพูจ๋า.. หากพี่หมูน้อยยินดี ที่จะเป็น nakoodo (นะโคโดะ) ให้โซ โซจะยินดีมิน้อยทีเดียว ที่จะให้มีพิธี OMIAI (โอะมิไอ)   แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่า... คุณ Tsuwamono ต้องเต็มใจด้วยนะคะ พี่หมูน้อยฯ ซองแดงจากหมู เดี๋ยวหนูแบ่งให้ครึ่งนึง   แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 51 17:06:14 จากคุณ : Zorakun - [ 13 พ.ค. 51 17:04:14 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ^ ^ ^ แล้วก็มาจนได้........ =============================== เห็นหน้าร้านนึกว่าจะไม่มีคน พอเปิดประตูเข้าร้านเท่านั้นแหละ..... ไอร้อนจากกลุ่มคนในร้านกระแทกหน้าวาบ วาบ นั่งกินกันเต็มร้าน แน่นไปหมดเลยครับ และยังมีเดินเข้าร้านมาเรื่อยๆ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 51 17:27:14 จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 17:11:28 ]

ความคิดเห็นที่ 74 โต๊ะร้านนี้มีทั้งแบบเป็นม้ากลมหน้าเคาเตอร์ และโต๊ะยาวตัวใหญ่ๆ นั่งได้โต๊ะละ 6 คน อยู่ 4-5 ตัว ถือว่าร้านขนาดปานกลางค่อนข้างใหญ่(ในโตเกียว)แล้วนะเนี๊ยะ ... ร้านนี้ไม่ต้องสั่งกับตู้ขายคูปองเหมือนร้านอื่น เข้าไปยกนิ้วชี้ 1 นิ้ว บอกว่ามาคนเดียว แล้วเด็กในร้านก็จะพาไปนั่งโต๊ะที่ว่างครับ อยากนั่งที่เคาเตอร์ แต่ไม่ว่าง ก็ต้องไปนั่งร่วมโต๊ะยาวกับคนอื่นๆ ที่มาคนเดียวเหมือนกัน นั่งปุ๊ปเด็กพนักงานในร้านก็หยิบน้ำชามาวางพร้อมผ้าร้อนตามสูตร และพูดภาษาญี่ปุ่นกับผมไฟแล่บเช่นเคย จนต้องร้องขอเมนูภาษาอังกฤษ ซึ่งมีอยู่เล่มเดียวในร้าน ไม่ได้ถ่ายไว้ ต้องไปยืมรูปจากกระทู้คุณ skybox อีกแล้วครับท่าน (เห็นมีฝรั่งแบ็คเพ็คมานั่งกินอยู่ 2-3 คน ก็ให้คิดว่าร้านนี้คงมีการแนะนำปากต่อปากกันในหมู่นักท่องเที่ยวแน่) จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 17:12:34 ]

ความคิดเห็นที่ 75 มีราเมงอยู่ 2 แบบ สูตรดั่งเดิม ชิโรมารุ (Shiromaru) เป็น ทงโคทสึราเมง แบบต้นตำหรับ ดูจืดๆ ไม่แต่งเติมอะไร แต่ก็ยังอุตส่าห์ใส่ลูกเล่นแถบสีแดงสดที่ขอบชาม ทำสีแดงเป็นขอบเลอะๆ แตกๆ ให้ตัดกับความขาวข้นของซุปด้วยนะ เรื่องทำงานศิลปจากของธรรมดา พื้นๆ ง่ายๆ เนี๊ยะ ญี่ปุ่นเค้าถนัดนัก จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 17:13:53 ]

ความคิดเห็นที่ 76 สูตรใหม่ อาคะมารุ (Akamaru) ใส่น้ำมันกระเทียมหอมๆ พร้อมซอสสูตรลับ สำหรับคนชอบความมัน...นนนนนนนนน อันนี้จะมาในชามสีแดงสด เน้นความร้อนแรงของรสชาติ เพิ่มความอยากกินขึ้นมาอีกอักโข รูปนี้ขอยืมจากระทู้คุณ Calamity ครับ ของผมถ่ายรูปอาหารได้แย่มาก ไม่น่ากินเลยครับ เลยไม่อยากลงให้เสียความรู้สึก จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 17:15:10 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ราเมงทั้งสองแบบเหมือนพี่สาวคนสวย กะน้องชายจอมซน พี่สาว ชิโระจัง เป็นสาวญี่ปุ่นแท้ๆ ที่แสนจะเรียบร้อย และเปี่ยมไปด้วยกิริยามารยาท ไม่ต้องพูดอะไร แต่ก็รู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไร ส่วนน้องชาย อาคะคุง เป็นเด็กชายจอมแก่นที่ชอบตากแดดตากลมจนตัวแดง... ชอบเล่นสนุกกับคนกิน ชีวิตเต็มไปด้วยรสชาติของการผจญภัย จะเลือกกินแบบไหน ก็แล้วแต่อารมณ์และความสนุกของแต่ละท่านนะครับ..... สำหรับผม... ชิโระจังเท่านั้นครับ! ============================== แต่ของอร่อยของร้านนี้ ไม่ได้มีแค่ราเมงครับ เนื่องจากราเมงแบบทงโคทสึมีรสชาติค่อนข้างจะมัน และเลี่ยน เค้าจะมีผักดองไว้กินแกล้มอยู่ 2-3 ไหเล็กๆ วางไว้ให้บนโต๊ะ พร้อมกระเทียบปอกเปลือกแล้ว แช่อยู่ในน้ำเกลือ ไว้ให้บีบใส่ชามสดๆ (มีเครื่องบีบกระเทียมวางไว้ให้พร้อมเลยครับ) แก้วที่เห็นนั่นเป็นน้ำชาครับ เป็นชาอูหลงครับไม่ใช่ชาเขียว (อย่านึกว่าเหล้านะ ผมไม่ได้ขี้เมาขนาดนั้น) เป็นความแตกต่างเล็กๆ อีกอย่างของร้านนี้ครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 17:17:06 ]

ความคิดเห็นที่ 78 นี่แหละครับ ของอร่อยที่ผมว่า แนะนำให้ท่านโดยคุณ Calamity แห่งห้องก้นครัวครับ เป็นถั่วงอกกรอบๆ เย็น หมักกับน้ำมันรสเผ็ดนิดๆ ขออภัยหิวจนมือสั่น รูปเบลออีกแล้วครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 17:17:49 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ต้องคืบใส่ถ้วยเล็กๆ มาดูกันชัดๆ กินอร่อยมากเลยครับ กรอบๆ กรุบๆ เผ็ดนิดๆ มันหน่อยๆ เหมือนกินกิมจิกรอบๆ ที่ไม่เปรี๊ยวเลย โดยเฉพาะกินกับเบียร์สดเย็นๆ............ เฮ่อ!!!!!! น้ำลายสอ แล้วววววววว ผมคืบกินอยู่คนเดียวจนเกือบหมดโถ จนสาวน้อย(ญี่ปุ่น)ที่นั่งข้างๆ ค้อนใส่ผมเล็กๆ ที่ไปแย่งเธอกินจนหมด ต้องก้มหัวขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ แล้วเรียกพนักงานเสิร์พเอาโถไปเติมถั่วงอกมาใหม่ เห็นเธอแอบยิ้ม (รึว่าขำหน้าตาผมกันแน่?) ด้วย สุขใจแบบงงๆ ครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 17:20:52 ]

ความคิดเห็นที่ 80 สั่งเกี๊ยวซ่ามากินด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ครับ รสชาดใช้ได้ทีเดียว กรอบนอกนุ่มในใส้เยอะ... สรุป.... ราเมงร้านนี้ มีดีที่ความเข้มข้นของน้ำซุป ถั่วงอกหมักน้ำมันรสเผ็ด(บวกเบียร์เย็นๆ) และมารยาทการบริการครับ ร้านดูอบอุ่นกันเอง เหมือนนั่งกินที่ร้านก๊วยเตี๋ยวร้านป้าปากซอยหน้าบ้าน พนักงานก็เต็มใจให้บริการในมาตรฐานคนญี่ปุ่นเป๊ะๆ รับลูกค้าด้วยความเต็มใจและเต็มที่แข็งขันตลอดเวลา แม้ว่าตอนนั้นจะ 4-5 ทุ่มแล้วก็ตาม อยากได้อะไรเพิ่ม แค่ยกแก้วยกโถ พนักงานก็จะรีบถลาเข้ามารับไปเติมทันที อร่อยไม่อร่อยแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล แต่สิ่งที่ทุกคนน่าจะชอบเหมือนกันหมด คือ “ความเต็มที่” ของบริการในร้านนี้ครับ เฮ่อ.... จบไตรภาคราเมงซ่ะที... จะได้ไปต่อเรื่องอื่นบ้าง โดนอาหมูกะพี่หมูน้อยแซวจะแย่อยู่แล้ว ไว้โอกาสดี ว่างๆ หาเวลาอู้งานยาวๆ แบบนี้ได้อีก จะพาเที่ยวพากินที่นาโงย่า แบบห่ามๆ เปลี่ยวๆ แบบนี้กันต่อนะครับ ขอบคุณครับที่ติดตาม ทั้งท่านที่เผยตัวและไม่เผยตัว ทั้งหลังบ้านและหน้าบ้านทุกท่าน อารมณ์ไม่ค้างแล้วนะครับ ............................... แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 51 20:52:35 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 51 20:29:45 จากคุณ : NumAromDee - [ 13 พ.ค. 51 17:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ....เพราะว่าชิโระจังเป็นผู้หญิงนะสิครับ...ส่วนอาคะคุงเป็นผู้ชาย....:D...แบบนี้เข้าทางคุณ NumAromDee เลยนะครับเนี่ย....:D....ถ้าเลือกอาคะคุงก็.....ก็.....ฟ้าผ่าลงกลางร้านราเมงเลยครับ....:D...:D...:D ....ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ...ตอนผมไปไม่มีข้อมูลเรื่องกินเลย...แบบว่าเจอข้างทางร้านไหนน่ากิน...กินเลยครับ..:D...ขอเก็บเป็นข้อมูลไว้คราวหน้าไปจะได้ไปตามรอยบ้างครับ...:D ...ส่วนเรื่อง DVD ต้องห้ามทั้งหลายนั่น....วันนึงผมก็แอบแวบเข้าไปดูเหมือนกันครับว่าเป็นอย่างไร...ในร้านไม่มีคนเลยครับ....และก็มีเปิด Soundtrack ให้ดูเป็นช่วงๆ....แต่ดูได้ไม่นานเพราะโดนแฟนจับได้เลยโดนลากออกมาครับ...:D...:D....อดเลย...ฮืออออออออ.....:D จากคุณ : Death - [ 13 พ.ค. 51 18:49:03 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ตามมาเก็บแผนที่ร้านราเมน  จะบอกอะไรให้มั้ยจ๊ะ  พ่อหนุ่มอารมณ์ดี  คนที่อยูที่นี่แท้ ๆ  กลับโหยหารสชาติอาหารไทย  จนกินข้าวไข่เจียว  แกงต่าง ๆ  (ที่หาเครื่องก็แสนยาก ทำทีนึงเดือดร้อนไปทั้งตึก )  กินได้ทุกวัน   อาหารญี่ปุ่นนั้นเล่า  หากไม่ใช่ออกนอกบ้าน ไปเดินตุหรัดตุเหร่หาถ่ายรูป หรือเพราะเพื่อนมาจากมืองไทยต้องพาไปกินแล้วละก็ ... ขอข้าวไข่เจียวดีกว่านะค๊า แหะ แหะ พ่อหนุ่มอารมณ์ดี และพวกเราที่มาจากเมืองไทยนั้น ข้อมูลเรื่องกินแน่นตึ้บจริง ๆ  ต้องคารวะเลยเชียว ... แต่  ราเมนนั้น เป็นหนึ่งในอาหารนอกบ้านที่แสนสุดพิศวาส รองลงมาจากเนื้อย่าง และชาบุ ชบุ นั่นเชียวละค่ะ แล้วจะตามรอยไปกินเน้อ สุดท้าย >>>  เจ้าโซ  นี่แน่ะ  ป้าไม่เกี่ยวว๊อยยยย จากคุณ : หมูน้อยสีชมพู - [ 13 พ.ค. 51 18:55:52 ]

ความคิดเห็นที่ 83 แสดงว่าแต่ละร้านนี่ราเมงถ้วยเดียว คุณหนุ่มอิ่มใช่รึเปล่าครับ... ปกติแล้วเวลาไปกับเพื่อนคนญี่ปุ่น ถ้าหิวมาก หรือทานเยอะ ก็จะสั่งข้าวสวยมาเพิ่มอีกถ้วยนึง พร้อม ๆ กับเกี๊ยวซ่า เกี๊ยวซ่าทานกับข้าวร้อน ๆ .... ข้าวเหลือ น้ำซุปเหลือก็เทลงไปคลุกให้เข้ากัน ทานเหมือนข้าวต้ม ปรุงรสเพิ่มอีกหน่อย ซดได้จนหยดสุดท้ายเลยครับ ร้านราเมงหรือร้านอาหารดัง ๆ ส่วนใหญ่จะดังจากต่างจังหวัด แล้วก็ไปเปิดสาขาในเมืองใหญ่เพิ่มภายหลัง ซึ่งจะต้องส่งคนมาเรียนรู้ กรรมวิธีการปรุงน้ำซุป ทำเส้น จากต้นตำรับให้ได้ซะก่อน จึงจะเปิดสาขาได้ ไม่งั้นก็อด มีเรื่องเล่าสำหรับร้านราเมงร้านนึงที่เคยออกรายการทีวี น่าสนใจดี ประมาณว่า วันเวลาที่จะเปิดร้านนั้น ขึ้นอยู่กับคนปรุงน้ำซุป ลูกค้าต้องมารอลุ้นที่หน้าร้านเอาเอง เกิดว่าวันไหนทำออกมา รสชาดไม่ผ่าน วันนั้นก็จะเทน้ำซุปทิ้ง และก็ไม่เปิดร้าน รอปรุงใหม่เตรียมพร้อมสำหรับวันต่อไป ร้านนี้อยู่เขตไหนนั้นผมไม่ได้ใส่ใจที่จะจด เพราะว่าคงไม่ไปอดทนยืนเข้าแถวต่อคิวรอได้ขนาดนั้น จากคุณ : Tsuwamono - [ 13 พ.ค. 51 20:04:48 ]

ความคิดเห็นที่ 84 พี่หนุ่ม ขอเจ้าน้องชายหนึ่งชามค่ะ @^v^@ จากคุณ : สาวน้อยสุดน่ารัก - [ 13 พ.ค. 51 23:11:15 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ตอนนี้ Ippudo Ramen เปลี่ยนสูตรแล้วครับ ยังคงน้ำซุปกระดูกหมู Tonkotsu แต่ว่าไม่ข้นเหมือนเดิม คือแทบจะเปลี่ยนเป็นรสชาติใหม่ไปเลยครับ เมนูเดิมๆอย่าง Shiromaru(ชามขาวแดง), Akamaru(ชามแดง) รู้สึกจะไม่มีแล้วครับ ผมเองก็ยังไม่ได้ลองไปกินดูใหม่เลย ที่ได้ยินมาอย่างนี้เพราะว่าเพื่อนที่ญี่ปุ่นบอกต่อมาครับ เพื่อนผมก็บ่นใหญ่บอกว่ามันไม่อร่อยเหมือนเดิม เห็นทีจะต้องไปลองพิสูจน์ดูอีกรอบละครับ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 51 11:45:04 จากคุณ : Calamity - [ 14 พ.ค. 51 11:42:27 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ท่านเดท... ก็บอกแฟนท่านไปซิว่า การดูของพวกนี้เป็นเรื่องปกติของคุณผู้ชาย ถ้าไม่ดูใครไม่ดูก็แปลว่ากำลังจะออกบวช ก็ไม่ก็กำลังจะเบี่ยงเบนแล้ว!!! (บอกแล้วผลจะออกมายังงัย ตัวใครตัวมันนะ ผมไม่เกี่ยว....) ถ้าไปญี่ปุ่นก็แฟน แล้วอยากไป ก็ต้องพาแฟนไปปล่อยไว้ที่ตึกม่วงก่อนซิเครับ แล้วท่านเดทค่อยขอตัวแยกไปอากิฮาบาระ มันอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่หรอก พี่หมูน้อยครับ ต้องแน่นหน่อยหนึ่งครับ เพราะนานๆ ไปที ไปแล้วก็เลยต้องหาร้านดีๆ ดังๆ จะได้ไม่เสียเที่ยว.... แต่ถ้าผมต้องอยู่ที่ญี่ปุ่นนานๆ หลายเดือนเหมือนพี่หมูน้อย ผมก็คงอยากกินอาหารไทยแทบลงแดงเหมือนกันครับ ขนาดไปคราวนี้แค่ 10 วัน กลับมาสิ่งแรกที่ผมทำคือ ไปหากินส้มตำไก่ย่างกับก๊วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นชามโตๆ ครับ ได้สูตรการทานราเมงแบบญี่ปุ่นแท้ๆ จากพี่สั่นเพิ่มอีกแล้ว...... คนญี่ปุ่นกินคาร์โบไฮเดรตกันเก่งจริงๆ นะ ร้านราเมงส่วนมากจะมีชุดอาหารกลางวัน ขายแบบว่า ราเมงชาม เกี๊ยวซ่าหนึ่ที่ (5-6 ตัว) กะข้าวสวยร้อนๆ 1 ถ้วย แต่ผมไม่เคยสั่งเลยครับ ด้วยนิสัยและสภาพร่างกายของผม ที่เป็นคนกินไม่จุ เจอราเมงชามยักษ์ของเค้าไปถ้วยเดียว ก็จุกจนถึงลิ้นปี่แล้วครับ  ยิ่งพวกร้านอาหารแบบบุฟเฟ่ท์เนี่ยะ ถ้าไม่กินฟรี หรือไม่มีของดีๆ ที่ทำให้อยากไปกินจริงๆ ผมจะเลี่ยงเลยครับ เพราะกินได้ไม่เคยคุ้มเลยครับ ยอมจ่ายเป็นจานๆ ดีกว่า น้องสาวน้อย ท่าทางจะชอบอาหารรสจัดแฮะ....... ขอบคุณครับทุกท่านที่เข้ามาชมและทักทาย ช่วงนี้ใครถามอะไรมาทางหลังบ้าน ผมจะตอบช้าสักหน่อยนะ งานเริ่มเยอะแล้ว ส่วนหน้ากระทู้ ถ้าถามมาไม่ยาวมาก จะแอบอู้งานมาตอบให้ จากคุณ : NumAromDee - [ 14 พ.ค. 51 11:45:20 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ^ ^ ^ #85 กูรูอาหารญี่ปุ่นตัวจริงข้ามมาจากก้นครัวแล้ว... สวัสดีครับคุณ Calamity ขอบคุณครับที่มาช่วย Update ข้อมูลให้ ตอนที่ผมไปกินยังมี Akamaru ให้สั่งอยู่นะ แต่รู้สึกว่ามีเมนูใหม่เพิ่มมาอีกอย่าง เป็นราเมงแห้ง ราดหน้าด้วยซอสอะไรซักอย่างที่หน้าตาเหมือนมิโสะซอสข้นๆ เห็นสั่งมากินหลายคนเลย ท่าทางน่าอร่อย เห็นเพื่อนอีกคนไปกินมาที่สาขาโอซาก้า ก็บอกว่ารสชาดของสาขานั้น ยัง OK อยู่นะครับ สงสัยสาขาที่ Ebisu จะมาตรฐานตกซ่ะแล้ว คงชอบเลียนแบบจากเมืองไทย ดังแล้วไม่อร่อย.......... ไปคราวหน้าคงต้องไปพิสูจน์อีกรอบซ่ะแล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ 14 พ.ค. 51 15:13:23 ]

ความคิดเห็นที่ 88 กลับมาจากญี่ปุ่นแล้วครับ ผมจะรอดูรีวิวฟูจิซัง กะ สตูดิโอ จิบลีนะครับ อย่าลืมนะครับผม จากคุณ : DEKCGN - [ 14 พ.ค. 51 15:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ^ ^ ^ #88 คุณ DEKCGN จิบลี่มิวเซียม รีวิวไปตั้งแต่ตอนที่ 1 แล้วครับ กระทู้ตกหมดแล้ว ถ้าอยากอ่านตอนนี้ ลองไปหาในคลังกระทู้เก่าดูนะครับ ถ้ารอได้ วันหลังผมจะไปค้น link กระทู้เก่ามาแปะให้ ขอบคุณที่ติดตามอย่างต่อเนื่องครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 14 พ.ค. 51 16:11:50 ]

ความคิดเห็นที่ 90 โอ้!! รีวิวได้ละเอียดเจงๆ พิมพ์กระทู้คุณหนุ่มพกคู่ไปกับกระทุ้คุณ Calamity ไปญี่ปุ่นนี่ก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว กินอย่างเดียวแหงมๆ ไปงวดก่อนตอนนั้นมีแต่กระทู้คุณ Calamity ตามรอยไปได้ 3 ร้าน งวดนี้ได้ราเมงกับจิ๊บลี่มาเพิ่ม หยอดกระปุกครบเมื่อไหร่ได้เจอกันแน่ๆญี่ปุ่นเอ๋ย อู้งานมาบ่อยๆนะคะ รอเก็บข้อมูลอยู่ค่า จากคุณ : เจ๊มาเองจ้ะ - [ 15 พ.ค. 51 01:01:57 ]

ความคิดเห็นที่ 91 มานั่งยัน นอนยัน ยืนยันว่า เครื่องเคียงที่เป็นถั่วงอกของ อิบปูโด อร่อยสุดๆ ผมกิน หรือจะเรียกว่าฟาด น่าจะใกล้เคียงอาการตอนนั้นมากกว่า ไปทีไรจัดการหมดอย่างน้อยครึ่งโถทุกที อิ่มถั่วงอก มากกว่าอิ่มราเม็งอีก จากคุณ : SkyBox (SkyBox) - [ 15 พ.ค. 51 12:56:10 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ^ ^ ^ โห................ เป็นเกียรติอีกแล้ว คุณ SkyBox ตัวจริง(รึเปล่า?)เสียงจริง ข้ามมาเยี่ยมกระทู้ผมด้วย ไอ้ถั่วงอกแบบนี้ ผมพยายามไปเดินหาซื้อตามร้านที่ขายอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทย ก็ยังไม่เจอเจ้าไหนที่ปรุงได้อร่อยเท่านี้เลย.... เฮ่อ! อยากกินถั่วงอกหมัก!!!!!!~ ขอบคุณนะครับ ================= เจ๊ (#90) ครับ ขอให้เก็บตังค์ได้สมหวังเร็วๆ นะครับ ถ้าโอกาสเหมาะ เวลาตรงกัน จะขอเกาะกระเป๋าไปด้วย..... แล้วร้านปลาหมึกฯ ของผมล่ะ???????? ไหนว่าจะส่งหลังบ้านมางัย..... สงสัยจะลืม ทวงออกอากาศซ่ะเลย จากคุณ : NumAromDee - [ 15 พ.ค. 51 16:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ^_^ มาดูตอนตลาดวายแล้ว จากคุณ : salamanka - [ 17 พ.ค. 51 11:42:29 ]