ผมขอเอาข้อคิดที่น่าสนใจ ที่ต่างชาติเค้าได้วิเคราะห์ทาง MSNBC เมื่อวานซืน มาฝากแล้วกัน ผมได้รับอีเมล์ฉบับนี้ เมื่อสักครู่จากคนวิเคราะห์ ซึ่งก็เคยร่วมงานกัน เค้าชื่อ James Wysong ซึ่งก็เป็นคนวิเคราะห์เรื่องท่องเที่ยว และการบินที่มีชื่อเสียง และได้รับการเชื่อถือมากๆ
เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารบานตะเกียง ทั่วโลก จากราคาน้ำมัน ทำให้หลายๆสายการบินก็มีการพูดคุยถึงทางออกเพื่อความอยู่รอด
1. นี่ไม่ใช่ เครื่องบินชั้น
นับตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป ผู้ที่เดินทางโดยเครื่องบิน จะเกิดความฉงน เพราะ เครื่องที่คุณควรจะได้นั่ง อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เห็นตรงหน้า ด้วยปัญหาเครื่องบินที่เกิดขึ้น ค่าน้ำมัน และจำนวนผู้โดยสาร คุณอาจได้เห็นว่าเครื่องนั้นเปลี่ยนไป และสายการบินก็อาจจะเปลี่ยนไปด้วย จะมีการพูดคุยระหว่างสายการบิน เรื่องโอนผู้โดยสารฝากกันไปมากขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางบินที่มีการแข่งขันสูงๆ
2. ตั๋วเหรอ จดเอานะ
ด้วยภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น สายการบินต้องลดภาระเหล่านั้นทิ้งไป และด้วยปัญหา เอเยนต์การขายตั๋ว และทัวร์ ที่ช่วงหลังสร้างปัญหามากๆ ทำให้หลายๆสายการบิน จะเริ่มดำเนินการติดต่อ ไดเร็กต์ ไปที่ผู้โดยสารโดยตรงมากขึ้น โดยจะเป็นการเพิ่มจำนวนตั๋วจากเอเยนต์มาให้การจองผ่านอินเตอร์เน็ต และการจองโดยตรงจากสายการบินมากขึ้น และตั๋วจะค่อยๆหายไป เหลือแค่กระดาษปริ้นต์ หรือสลิปเท่านั้น การปรับเปลี่ยนนี้ ใช้การจองตั๋วของ โลว์ คอร์ส เป็นกรณีศึกษา
3.เวลา คือ ความว่างเปล่า
การล่าช้า จะเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นอย่างมหาศาล ส่วนหนึ่งจากเรื่องเครื่องบิน ส่วนหนึ่งเกิดจากการรอโอนผู้โดยสาร จากข้อ 1. ทำให้ระยะเวลาการ Check-In ให้นานขึ้น ส่วนหนึ่งจะมาจากนโยบายการเพิ่มเวลาบินมากขึ้นเพื่อลดความเร็ว และส่วนสำคัญที่เพิ่มขึ้นมาคือสภาพอากาศ เพราะฉะนั้น ผู้โดยสารจะต้องเผื่อเวลาให้มากๆ
4. หากไปนอก จ่ายเป็นดอลล่าร์นะ
เพราะสกุลเงินดอลล่าร์ เป็นสกุลเงินที่อ่อนแออย่างรุนแรง ดังนั้น หากจะต้องเดินทางไปต่างประเทศ ควรเอาเงินบาทไปแลกดอลล่าร์ แล้วค่อยไปซื้อตั๋ว และควรศึกษาดูว่าวันนี้ค่าเงินเท่าไหร่ เมื่อวานเท่าไหร่ ถ้าบวกลบไม่เกิน 20 สตางค์ ก็ให้รีบไปแลก แล้วค่อยไปซื้อตั๋ว
5. ไปที่ไหน ซื้อตั๋วเจ้าบ้าน
หากต้องเดินทางไปต่างประเทศ ที่อยู่กันคนละทวีป ควรเลือกหาซื้อตั๋วของสายการบินประเทศนั้นๆ ไว้ก่อน เพราะจะต้องมีการทำโปรโมชั่นที่เหมาะสมสำหรับการพาคนเข้าประเทศที่ยอดเยี่ยมกว่าสายการประเทศตัวเองแน่นอน
6. เพียงงีบเดียว ก็ถึงแล้ว แต่นั่นมันเมื่อวันวาน
นับจากนี้ไปจะไม่มีสายการบินไหนในโลกที่จะบินรวดเดียวถึงที่ เพราะจะไม่มีสายการบินไหน ที่บินระหว่างประเทศไกลๆ ด้วยการเติมน้ำมันเต็มถังครั้งเดียว เพราะจะเติมน้ำมันพอไปถึงจุด Stop เท่านั้น แล้วค่อยเติมใหม่ขากลับ การบินในหนึ่ง Stop จะไม่มีเกิน 8-10 ชั่วโมง สำหรับไกลๆ
7. จ่ายทุกเม็ด เก็บของขึ้นเครื่อง
นับจากนี้ไปจะมีการเก็บเงินตอนไป เซ้กอิน เป็นค่าธรรมเนียม รวมถึงการเก็บค่ากระเป๋าตั้งแต่ไปแรกที่เอาไปวางชั่งน้ำหนัก และจะเพิ่มขึ้นหากคุณมีใบที่สอง ใบที่สาม..... แต่จะมีการ Online Check-In อย่างเป้นทางการ และเป็นขั้นตอนหลักของการเดินทาง และพยายามคิดหาวิธีการจัดการสัมภาระ โดยให้สามารถหาบขึ้นเครื่องได้ เช่นเปลี่ยนจากการพับเสื้อผ้า เป้นการม้วนเสื้อผ้า ยอมยับ แล้วค่อยไปรีดใหม่ หรือ ไม่ต้องเอาเครื่องประทินโฉมไปด้วย ไปหาเอาดาบหน้า
8. จองใกล้ๆ อย่าจองไกล
การจองตั๋วล่วงหน้านานๆ อาจได้ราคาถูก แต่ต่อไปนี้ เมื่อใกล้การเดินทาง หากมีการเปลี่ยนตั๋ว ราคาค่าใช้จ่ายจะแพงขึ้นหลายเท่าตัว หากเปรียบกับการจองใกล้ๆ เดินทาง เพราะกำแพงการเลื่อนเที่ยวบินจะถูกปรับใหม่ ให้ทำได้ เพราะที่ผ่านมามีการเปลี่ยนตั๋วเยอะมาก
9. จองซ้อนกัน ไม่ใช่จอดซ้อนคัน
ในทุกครั้งที่จะเดินทาง พยายามจองสองสายการบิน พิจารณารายละเอียดส่วนตัวกับรายละเอียดสายการบินที่เหมาะที่สุดแล้วค่อยจ่ายเงิน คุณจะได้สิ่งที่ดีที่สุดกลับมา
10. ไม่ต้องรอแต้ม เพราะไม่ใช่การแอดมิชชั่น
หากมีการสะสมไมล์ สะสมแต้ม หากสามารถพอใช้ในการซื้อตั๋ว โดยอาจจ่ายเงินเพิ่มนิดหน่อย รีบใช้ซะ เพราะข้อจำกัดเรื่องคะแนนเหล่านี้จะหยุมหยิม และกำหนดระยะเวลาใช้มากขึ้น เอาเงินให้เค้าไปหมุนเหอะ
แถมข่าวสายการบินนิดครับ
- ตั้งแต่ต้นปีนี้เป้นต้นมา มีเครื่องบินเกือย 1.000 ลำทั่วโลกถูกจอดไว้เฉย จากการปิดกิจการ และการปรับลดเที่ยวบิน
- ค่าน้ำมันเพิ่มขึ้น กว่าร้อยเปอร์เซนต์
- จำนวนผู้โดยสารเครื่องบินกลับเพิ่มขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่ โดยเฉพาะการเดินทางภายในภูมิภาค เรื่องธุรกิจเป็นหลัก แต่จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างรุนแรง
- สิงหาคม จับตา แอร์บัส อาจหยุดรับออเดอร์ A380 เพิ่ม หากไม่สามารถเจรจาต้นทุนเพื่อเปลี่ยนไปใช้ดอลล่าร์ ไม่สำเร็จ และนั่นก็จะทำให้ A350 แทบจะแท้งไปเลย และจับตาดูอาจมีการเปลี่ยนคำสั่งซื้อไปซื้อเครื่องขนาดกลางแทน
- ใกล้ๆ กัน โบอิ้ง อาจประกาศ เลื่อนโปรแกรม 747-8 ออกไปอีก รอดูเจ้าข้างบน
- จากสองข้อข้างบน 787 เตรียมโกยเงินจนพุงพลุ้ยได้เลย
- เพราะจำนวนการสั่งซื้อเครื่องบินขนาดกลาง และเล็ก เพิ่มขึ้น Embraer, Dash 8Q-400, ATR 72-600, Sukoi(Russia) แม้แต่ MRJ ของ Mitsubishi
- ประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมามีการร่วมมือกันพัฒนาเครื่องยนต์ และเชื้อเพลิงแบบใหม่ที่เรียกว่า "LiQuid" ระหว่างสายการบินทั้งในยุโรป อเมริกาทั้งหมด แอฟริกา และตะวันออกกลาง และผู้ผลิตเครื่องยนต์ ยกเว้น โรลส์รอยด์ เพราะ Prototype ยังไม่เสร็จ แต่ไม่มีสายการบินในเอเซียเจ้าไหนที่เข้าร่วมเลย ตัดตะวันออกกลางออกไปแล้วนึกเอาว่าเหลือใครบ้าง ในขณะที่ "คุณคะ" เพิ่งยืนยันคำสั่งซื้อ เครื่อง โรลสรอยด์ ไป 17,700 ล้านบาท!!!
อยากให้ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น อย่าไปโกรธสายการบินที่เค้าดีดี หันกลับมาดูความสามารถ และความจำเป็นที่สุดของตนเอง ทุกคนก็ต้องหาทางรอดนะครับ
มีเท่านี้แหละครับ ขอให้ทุกท่านโชคดี พระคุ้มครองครับ
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 51 21:44:47
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 51 21:29:40
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 51 21:23:36
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 51 21:19:17