ความคิดเห็นที่ 1 ผมขอขยายความจากข้างต้นให้ทราบถึงเหตุผลจากเรื่องดังกล่าวเพียงสั้นๆว่า.... ตามเนื้อหาของแผนแม่บทบางตอนที่ยกมาให้อ่านตามข้างต้นและปัญหาที่ต้องเกิดการระดมคนและความคิดสู้นอกตำรา ตามที่ผมได้กล่าวให่ทราบแล้วนั้น ก็เพราะว่าแผนแม่บทได้ถูกกำหนดขอบเขตการทำงานในระยะเวลาเพียง 10ปีเท่านั้น  แต่ในวันนี้เวลาตามระยะที่กำหนดผ่านพ้นไปถึงครึ่งทางแล้ว  ผลของการดำเนินงานกลับไม่มีความคืบหน้าตามที่คาดหวัง จะอ้างด้วยเหตุและผลของความล่าช้าเพราะระบบราชการที่ขาดการทำงานอย่างต่อเนื่องอันสืบเนื่องมาจากปัญหาของเรื่องการเมืองก็ว่าต้องตอบว่าใช่แบบชัดๆ.... ทางเลือกสุดท้ายและเพื่อให้งานดังกล่าวสามารถดำเนินการต่อไปตามแผนที่กำหนดได้ทันกับสภาวะในปัจจุบัน  เรื่องนี้ทางภาครัฐจึงร้องขอให้กลุ่มคนภาคเอกชนเข้ามาช่วยทั้งทุนและแรงโดยปราศจากตำราที่ช้ากว่าปัญหาจริงๆ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 3 มิ.ย. 51 02:40:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอย้อนความหลังก่อนเดินหน้าสู้แบบนอกตำราครับ นับเป็นนิมิตหมายอันดี ที่ปัจจุบันนี้ สังคมไทยหันมาให้ความสำคัญกับ "ป่าไม้" มากขึ้น เห็นได้จากการที่สถาบัน องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงประชาชน ได้เข้ามาให้ความร่วมมือร่วมใจ ทำให้มีโครงการฟื้นฟูสภาพป่าไม้หลายๆแห่งได้เกิดขึ้น คงจะไม่ต้องถามว่าป่าไม้มีประโยชน์อย่างไร เพราะ ณ วันนี้ ชาวไทยทุกคนล้วนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรป่าไม้กันแล้ว การเริ่มเห็นคุณค่า ความสำคัญ และมีจิตสำนึกเกี่ยวกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ จนนำไปสู่การเขียนแผนแม่บทการอนุรักษ์ช้างแห่งชาติ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ดังพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2525 ความตอนหนึ่งว่า "...พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า..." จากคุณ : สหายสาริกา - [ 3 มิ.ย. 51 02:46:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ช้าง เป็นสัตว์ที่มีความผูกพันกับมนุษย์มาแต่โบราณ เป็นสัตว์ใหญ่ที่มนุษย์อาศัยใช้แรงงาน อีกทั้งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองไทยมาช้านาน แต่เมื่อพื้นที่ป่าไม้ลดลง จำนวนช้างก็ลดลงจนเป็นที่น่าวิตก ช้างที่อยู่ในป่าก็มีปัญหากระทบกระทั่งกับคน เริ่มจากที่คนเข้าไปบุกเบิกพื้นที่ทำการเกษตร และตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนในป่าอันเป็นที่อยู่อาศัยของช้าง ซึ่งหากเป็นช่วงฤดูฝน แหล่งน้ำและอาหารในป่ายังมีพอเพียงให้ช้างสามารถดำรงชีพอยู่ได้ แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูแล้ง ช้างป่าเกิดปัญหาขาดน้ำและอาหาร ทำให้ต้องเข้ามาหากินในพื้นที่เกษตรกรรม ประกอบกับผลิตผลทางการเกษตร ได้แก่ สับปะรด ข้าว ข้าวโพด กล้วย อ้อย ขนุน ฯลฯ มีรสชาติเป็นที่ชื่นชอบของช้างมากกว่าอาหารที่คุ้นเคยในป่า เหตุนี้เอง จึงเป็นชนวนปัญหาให้ "คน กับ ช้าง" เกิดขัดแย้งกันขึ้น ดังที่ได้เป็นข่าวเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง  ความขัดแย้งบางพื้นที่ทวีความรุนแรงถึงขั้นช้างได้รับบาดเจ็บและล้ม เช่น กรณีของพื้นที่กุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชดำริให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากช้างป่าและช่วยให้สัตว์ป่ามีแหล่งน้ำ และอาหารเพียงพอสำหรับการดำรงชีวิต ทั้งยังสร้างจิตสำนึกราษฎรให้ร่วมกันอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่า รวมถึงได้มีการส่งเสริมการพัฒนาอาชีพแก่ราษฎรที่อยู่อาศัยรอบพื้นที่ป่า เพื่อให้ทั้งราษฎรและช้างมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและอยู่ร่วมกันอย่างสันติ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 3 มิ.ย. 51 02:52:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยในปัญหาที่เกิดขึ้นกับ คน ช้าง และป่า และมีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะอนุรักษ์ช้างป่าให้อยู่คู่กับผืนแผ่นดินไทยสืบไป ด้วยทรงตระหนักว่า ช้างเป็นสัตว์ประจำชาติไทย มีความผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยมาแต่อดีตกาล ทั้งในยามศึกและยามสงบ เป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์ของป่าเขตร้อน ช่วยในการกระจายพันธุ์ไม้และสร้างแหล่งอาหารให้แก่สัตว์ป่าอื่นๆ ดังนั้น จึงมีพระราชเสาวนีย์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเช่นเดียวกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้วยการปลูกพืชที่เป็นอาหารช้างป่า เช่น สับปะรด ที่ไม่ต้องมีคุณภาพดีนัก เป็นต้น จากคุณ : สหายสาริกา - [ 3 มิ.ย. 51 02:54:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ข้างต้นได้กล่าวถึงช้างจากป่าตะวันตก  ส่วนช้างจากป่าตะวันออกก็มีปัญหาเช่นกัน ป่าตะวันออก ทั้งในอดีตและในปัจจุบัน จัดเป็นพื้นที่ป่าอีกแห่งหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญของช้างป่า หลักฐานต่างๆ ที่ปรากฏมาแต่ครั้งอดีตเช่น ภาพสลักหินรูปข้างที่ปรากฏในพื้นที่เมืองโบราณโคกปีบ บ่งบอกว่าขอมโบราณที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้เคยปฏิบัติสัมพันธ์กับช้างป่า หรือช้างป่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าแถบจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรีและพื้นที่บางส่วนของฉะเชิงเทรา เคยถูกไล่ต้อนเข้าเพนียดที่อยุธยา ในสมัยรัชกาลที่ 5 การจับช้างของคนไทย และพังแต๋น ช้างสำคัญ ก็เป็นลูกช้างที่ได้จากป่าตะวันออก เป็นต้น จะเห็นได้ว่า ป่าภาคตะวันออกเป็นแหล่งที่มีการบันทึกเรื่องราวของช้างมาแต่ในสมัยที่ขอมยังเรืองอำนาจในสุวรรณภูมิ ในปัจจุบันเรื่องราวของช้างจากป่าภาคตะวันออกก็ยังคงเป็นที่กล่าวขานของผู้คนในสังคม  ช้างป่าทำลายพืชไร่ของราษฎรที่อยู่ใกล้แนวชายป่า ช้างทำลายกระจกห้องน้ำเพียงเพื่อจะกินน้ำในอ่างอาบน้ำลูกช้างตกบ่อน้ำ เหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและดำรงอยู่กับช้างป่าภาคตะวันออก กำลังเกิดอะไรขึ้นกับช้างป่าภาคตะวันออก พวกเขามีวิถีชีวิตและอยู่กันอย่างไร พวกเขาต้องการอะไร และอนาคตของพวกเขาจะเป็นอย่างไร คำถามเหล่านี้กำลังจะมีคำตอบแต่ก่อนอื่นต้องทราบข้อมูลพื้นฐานของช้างป่าเป็นอันดับแรกก่อนเพื่อการทำความเข้าใจในธรรมชาติของป่า แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 51 03:10:21 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 3 มิ.ย. 51 03:02:43 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มารู้จักบางเรื่องจากธรรมชาติวิทยาของช้างเอเชียซะหน่อยครับ คือช้างเอเชีย (Elaphas maximus) เป็นสัตว์สังคมที่มีรูปแบบการอยู่รวมกันอย่างเป็นเอกลักษณ์แต่ละฝูงประกอบไปด้วยสมาชิกช้างที่มีช่วงอายุต่างๆ กัน ตั้งแต่ช้างแรกเกิดจนถึงช้างวัยชราภาพ มีความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ของมวลหมู่สมาชิกภายในฝูงประสบการณ์การดำรงชีวิตที่ได้สั่งสมมา จะถูกถ่ายทอดจากรุ่นหนึ่งไปสู่รุ่นแล้วรุ่นเล่า   ช้างแต่ละฝูงประกอบไปด้วยสมาชิก15 - 20 ตัวโดยมีช้างตัวเมียที่มีอายุมากเป็นผู้นำเรียกว่า"แม่แปรก" แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 51 03:12:30 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 3 มิ.ย. 51 03:07:15 ]

ความคิดเห็นที่ 7 " แม่แปรก "  นับว่ามีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางการหากินและความอยู่รอดของฝูง แผนที่การเดินทางที่แม่แปรกได้สั่งสมมาตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นลูกช้างเดินตามฝูง ช่วยในการหากินของช้างครอบคลุมพื้นที่ ครอบครองบรรพบุรุษได้เคยใช้ประโยชน์ภายในฝูง ประกอบไปด้วยช้างเพศเมียหลากหลายอายุและมีประสบการณ์ต่างกัน ในขณะที่ช้างเพศผู้จะถูกกันหรือขับไล่ออกจากฝูงเมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น บางครั้งช้างวัยรุ่นเหล่านี้ได้มีการรวมตัวกันเป็นฝูงอย่างหลวม ๆ ด้วยการเดินหากินไปด้วยกัน แต่จะแยกกันหากินเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ฝูงที่เกิดขึ้นอย่างหลวม ๆ นี้ บางครั้งมักสร้างปัญหาให้กับชาวบ้านเนื่องจากการขาดทิศทางการหากินที่แน่นอน ทั้งนี้เนื่องจากประสบการณ์ชีวิตยังน้อยเมื่อมาเปรียบเทียบกับประสบการณ์ของฝูงช้างที่มีแม่แปรกเป็นผู้นำ แต่ข้อดีที่ช้างเพศผู้แยกตัวออกมาจากฝูง คือ หลีกเลี่ยงการผสมพันธุ์กันเองในหมู่เครือญาติ ช้างตัวผู้จะแวะเวียนไปที่ฝูงเป็นบางครั้งบางคราวเพื่อผสมพันธุ์ ซึ่งการผสมพันธุ์ของช้างไม่มีฤดูกาลที่แน่นอน แต่มีแนวโน้มที่สัมพันธ์กับการเกิดของลูกช้างในช่วงที่ฝูงช้างหากินอยู่บริเวณที่อุดมไปด้วยอาหารและน้ำ ความสัมพันธ์ของสมาชิกในฝูงช้างเริ่ม ตั้งแต่ช้างแรกเกิดจะถูกดูแลช่วยเหลือโดยช้างเพศเมียในฝูงที่มีศักดิ์เป็นป้าและน้า ทำหน้าที่เป็นแม่รับด้วยการช่วยฉีดถุงน้ำคร่ำและทำความสะอาดร่างกายลูกช้างแรกเกิดช่วยเลี้ยงลูกช้างแรกเกิดเมื่อแม่ตัวจริงหากิน นอกจากนี้ลูกช้างรุ่นพี่ยังช่วยดูแลควบคุมช้างรุ่นน้องด้วยการฝึกกินอาหาร และฝึกทักษะในการดำรงชีวิตจนกระทั่งย่างเข้าสู่วัยรุ่น ช้างตัวผู้จะถูกขับไล่ออกจากฝูง จากคุณ : สหายสาริกา - [ 3 มิ.ย. 51 03:16:30 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ช้าง เป็นสัตว์ที่มีอายุยืนถึง 60 - 70 ปี วัยเจริญพันธุ์เริ่มตั้งแต่อายุประมาณ 10 ปี ในเพศเมีย และ 8 ปี สำหรับเพศผู้ ระยะเวลาตั้งท้อง 17 - 24 เดือน หย่านมเมื่ออายุ 8 เดือน - 2 ปี ต้องการการดูแลจากสมาชิกในฝูงเป็นพิเศษ ในช่วง 2 ปีแรก หลังคลอดตลอดช่วงอายุช้างเพศเมียสามารถมีลูกได้ประมาณ 5 - 6 ตัว ช้างแต่ละฝูงครอบครองพื้นที่หากินประมาณ 100 - 300 ตารางกิโลเมตร ซึ่งช้างแต่ละตัวกินอาหารประมาณ 150 - 200 กิโลกรัม สำหรับช้างวัยเจริญพันธุ์ (หรือประมาณ 6 - 10 %ของน้ำหนักตัว) กินน้ำวันละประมาณ 150 - 200 ลิตร นอกจากนี้ยังต้องการดินโปร่ง ช้างเป็นสัตว์ที่ไม่มีศัตรู โดยธรรมชาติเว้นแต่ลูกช้างที่อาจถูกเสือล่ากินเป็นอาหารแต่แม่ช้างจะมีการป้องกันลูกช้างเป็นอย่างดีด้วยความระมัดระวังพิเศษด้วยการให้ลูกช้างเดินอยู่ในกลุ่มช้างใหญ่หรือใต้ขาตัวเอง จากคุณ : สหายสาริกา - [ 3 มิ.ย. 51 03:18:54 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ช้างป่า กับ บทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศป่าไม้...อย่างไร เมื่อลองติดตามดูพฤติกรรมของช้างป่าแล้วพบว่า ช้างป่าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ มีพื้นที่หากินกว้างไกล และกินพืชอาหารชนิดต่างๆอย่างหลากหลาย เช่น หญ้า เถาวัลย์ หน่อไม้ ใบไม้ เปลือกไม้ รวมทั้งผลไม้ต่างๆ เมื่อขับถ่ายออกมา กองมูลของช้างป่าจึงช่วยกระจายเมล็ดพันธุ์พืช หรือ ช่วยปลูกป่าทางอ้อมนั่นเอง และเมื่อย่อยสลายก็คืนแร่ธาตุต่างๆลงสู่ดิน มูลช้างป่ายังเป็นอาหารของสัตว์ชนิดอื่นอีกด้วย เช่น ด้วงปีกแข็ง ปลาบางชนิด และตัวอ่อนของกบ เขียด นอกจากนี้ยังเอื้อประโยชน์แก่สัตว์กินพืชขนาดเล็กกว่า เช่น กระทิง กวางป่า เก้ง ซึ่งมักจะใช้แหล่งอาหาร และหากินร่วมกัน อีกทั้งยังช่วยสร้างทางเดินในป่าที่เรียกว่า ด่านช้าง ให้สัตว์ป่าอื่นๆรวมทั้งคนด้วย จากคุณ : สหายสาริกา - [ 3 มิ.ย. 51 03:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กระจายพันธุ์พืช การที่ช้างป่ากินผลไม้ป่าหลายชนิด เช่น มะม่วงป่า กระท้อนป่า มะเฟืองช้าง มะกอกป่า จันเขา ฯลฯ ช้างจึงช่วยกระจายพันธุ์ให้แก่พันธุ์ไม้เหล่านั้นด้วย เช่นเดียวกับสัตว์ป่าชนิดอื่น ๆ เช่น นก ลิง ชะนี เก้ง กวาง ข้อดีและข้อได้เปรียบของเมล็ดพันธุ์พืชที่มีช้างช่วยกระจายพันธุ์ ได้แก่ เมล็ดพืชขนาดใหญ่ที่สัตว์ป่าชนิดอื่นไม่สามารถกลืนเข้าไปได้ ช้างจึงช่วยฟื้นฟูสภาพป่าได้เป็นอย่างดี คืนแร่ธาตุต่างๆลงสู่ดิน มูลช้างก็คือปุ๋ยสำหรับป่า ในป่าที่มีความหนาแน่นช้าง 1 ตัวต่อตารางกิโลเมตร จะมีอัตราการถ่ายมูลประมาณปีละ 30,000 กิโลกรัมต่อตารางกิโลเมตร มูลช้างเป็นอาหารให้แก่สัตว์อื่นๆ ตัวอ่อนของด้วงปีกแข้งจะมีวงจรชีวิตช่วงหนึ่งอยู่ในมูลช้าง ปลาบางชนิด เช่น ปลาพลวง และตัวอ่อนของกบ เขียด อึ่งอ่าง และคางคก กินมูลของช้างที่ละลายปนอยู่ในแหล่งน้ำในป่า จากคุณ : สหายสาริกา - [ 3 มิ.ย. 51 03:23:40 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เอื้อประโยชน์แก่สัตว์กินพืชขนาดเล็กกว่า นิสัยในการกินอาหารของช้างที่โน้มยอดไม้ และหักกิ่งไม้ลงมากินบางส่วน และเหลือบางส่วน ทำให้สัตว์กินพืชขนาดเล็ก อื่น ๆ เช่น เก้ง กวาง วัวแดง กระทิง ได้กินด้วย บางครั้งส่วนของต้นไม้ที่ช้างหักลงมา จะแตกยอดอ่อน ใบอ่อน ในระดับที่สัตว์ขนาดเล็กกินได้ถึง  ในหน้าแล้ง ช้างสามารถขุดหาแหล่งน้ำกินเอง ซึ่งสัตว์อื่นสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ด้วย สร้างทางเดินในป่า ทางเดินของช้างป่า หรือที่เรียกว่า ด่านช้าง จะเป็นทางเดินของสัตว์ป่าอื่น รวมทั้งมนุษย์ด้วย ในป่าที่รกชัฏ แรงช้างสามารถบุกเบิกเข้าไปใช้ประโยชน์ก่อน สัตว์ขนาดเล็กอื่น ๆ จึงมักเดินหาอาหารตามฝูงช้าง จากคุณ : สหายสาริกา - [ 3 มิ.ย. 51 03:25:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 วิวัฒนาการเพื่อความอยู่รอดของสัตว์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า ช้างป่า ข้อเสียเปรียบของสัตว์ป่าขนาดใหญ่ที่เรียกว่า "ช้าง" ก็คือ ต้องการอาหารมาก ดังนั้น ฟันของช้างจึงมีวิวัฒนาการให้สามารถกินพืชได้ทุกส่วน ตั้งแต่ รากไม้ เปลือกไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ ผลไม้ ฯลฯ และ กินพืชได้หลากหลายชนิด (generalist feeding habit) จากการศึกษาพืชอาหารที่ช้างป่ากินในหลายพื้นที่พบว่า ช้างกินพืชอาหารไม่น้อยกว่า 100-400 ชนิด แต่ส่วนใหญ่เป็นพืชในวงศ์หญ้า (Gramineae) เช่น ไผ่ และหญ้าชนิดต่าง ๆ ซึ่งเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว เช่น พวกอ้อยป่า "wild sugarcane" หรือหญ้าลำต้นสูง ได้แก่ พง (Saccharum spontaneum) และวงศ์พืชตระกูลถั่ว (Leguminosae) จากคุณ : สหายสาริกา - [ 3 มิ.ย. 51 03:27:03 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เนื่องจาก "สัตว์กินพืช" และ "พืช" โดยเฉพาะพืชใบเลี้ยงคู่มีวิวัฒนาการมาด้วยกัน "พืช" ก็ต้องมีกลไก เพื่อป้องกันไม่ให้ "สัตว์กินพืช" กินพวกมันจนสูญพันธุ์ไป เช่น สร้างสารประกอบที่มีพิษ (toxic secondary compound) ทำให้ช้างต้องกินพืชหลากหลายชนิด ทั้งเพื่อให้ได้คุณค่าอาหารครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กินพืชชนิดใดชนิดหนึ่งมากจนสะสมสารพิษของพืชชนิดนั้นถึงระดับที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่สารประกอบดังกล่าวจะไม่มีในพืชใบเลี้ยงเดี่ยว เช่น ไผ่ และหญ้าต่าง ๆ นอกจากนี้ ไผ่ ยังเป็นพืชที่มีโปรตีนสูงตลอดทั้งปี (15-17%) แต่ หญ้า จะมีโปรตีนสูงเฉพาะช่วงฤดูฝน (9-10%) ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของลูกช้าง ทั้งไผ่และหญ้ามีอยู่มากในป่าเบญจพรรณ และป่าประเภทอื่น ๆ ในป่าเขตร้อนของเอเซีย งวงและงาของช้างยังช่วยให้ช้างมีประสิทธิภาพสูงในการหาอาหาร ทั้งพืชอาหารที่ขึ้นอยู่ในระดับพื้นดิน จนถึงส่วนของพืชที่อยู่สูงขึ้นไปกว่า 5 เมตร นอกจากนี้ ร่างกายที่แข็งแรงของช้างสามารถผลัก ดัน ดึง เขย่าต้นไม้ ทำให้ผลไม้ที่ช้างชอบกิน ร่วงหล่นลงมาให้ช้างเก็บกินได้ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 3 มิ.ย. 51 03:29:12 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เราคงอยากจะทราบว่า....สัตว์กินพืชขนาดใหญ่ ที่มีชื่อว่า "ช้างป่า" กินเช่นไร ช้างไม่ใช่สัตว์เคี้ยวเอื้อง แต่เป็นสัตว์กระเพาะตรง (monogastrict system) ทำให้ประสิทธิภาพในการย่อยอาหารของช้างต่ำกว่าพวกเคี้ยวเอื้องมาก เพราะไม่มีกระเพาะพิเศษสำหรับเก็บสำรองอาหาร แล้วสำรอกออกมาเคี้ยวเอื้องยามพักผ่อน ช้างจึงชดเชยเพื่อให้ร่างกายได้คุณค่าทางอาหารเพียงพอกับที่ต้องการ โดยการกินอาหารให้มากเข้าไว้ แม้แต่พืชที่มีคุณค่าอาหารต่ำ (poor quality diet) เช่น มีโปรตีนต่ำ หรือ มีเส้นใยเซลลูโลสสูง และให้อาหารถูกดูดซึมผ่านลำไส้อย่างรวดเร็ว ช้างตัวเต็มวัยจึงกินพืชอาหารถึงวันละ 150-250 กิโลกรัม และใช้เวลาวันละ 70-80 เปอร์เซนต์ หรือ 17-20 ชั่วโมง ต่อวันเพื่อการกินอาหาร แหล่งที่อยู่อาศัยของช้างป่าในแต่ละผืนป่านั้น ยังมีสัตว์ป่าชนิดอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่รวมกันเป็นสังคมของสัตว์ป่า ซึ่งความสัมพันธ์ของสัตว์ป่าเหล่านั้น อาจเป็นอย่างพึ่งพาอาศัยและเกื้อกูลกัน หรือแก่งแย่งกัน หรือ เป็นผู้ล่ากับผู้ถูกล่า เช่น กระทิง วัวแดง กวางป่า เก้ง ในกลุ่มของสัตว์กินพืช และกลุ่มของสัตว์ผู้ล่า เช่น เสือโคร่ง เสือดาว เสือไฟ หมาไน ซึ่งคอยทำหน้าที่ในการควบคุมประชากรของสัตว์กินพืชเพื่อรักษาสมดุลภายในระบบนิเวศนั้น ๆ นี่เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่นำมาให้เพื่อนพ้องชาวบลูและอีกหลายๆท่านได้รับทราบพอประมาณ  จากนี้ไปกลุ่มฅนทำงานนอกตำราก็จะเปิดฉากเริ่มการทำงานในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บทดังกล่าวด้วย จากคุณ : สหายสาริกา - [ 3 มิ.ย. 51 03:38:05 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ความหวังจาก"ฅน นอกตำรา" ขอร่วมมือร้อยประสานเพื่อช้างไทย.... จึงได้จัดตั้งชมรม “ฅนรักษ์ช้างป่า” ที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของคนไทยกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งที่ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับช้างป่า และเห็นความสำคัญของช้างป่าที่มีต่อระบบนิเวศป่าไม้เขตร้อน นอกเหนือจากความสำคัญของช้างที่มีต่อสังคมไทยอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 1,000 ปี ทั้งสถาบันหลัก (ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์) วิถีชีวิต ความเชื่อ ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง การอนุรักษ์ช้างป่าจึงเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนควรจะได้ร่วมมือกันทำให้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้น เพื่อให้ช้างป่าสามารถดำรงเผ่าพันธุ์อยู่บนผืนแผ่นดินไทยนี้ร่วมกับคนไทยตลอดไป กลุ่มฅน นอกตำรา และชมรมฅนรักษ์ช้างป่า(กุยบุรี)ขอเป็นส่วนเล็ก ๆส่วนหนึ่งของสังคมไทยที่จะเป็นศูนย์รวมของคนที่รักและต้องการช่วยเหลือช้างป่า พร้อมร่วมใจดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อการอนุรักษ์ช้างป่าของไทยต่อไป ขอขอบคุณผองเพื่อนทุกๆท่านสำหรับการอนุญาตให้ผมได้บอกกล่าวผ่านทางสื่อสารของโลกไซเบอร์แห่งนี้.... ขอบคุณเพื่อนๆทั้งหมดที่ไม่ขอเอ่ยนาม ทั้งซีกผืนป่าตะวันตกและป่าตะวันออก อีกทั้งเพื่อนๆชมรมฅนรักษ์ช้างป่า(กุยบุรี) รวมทั้งโซนอื่นๆ และยังขอมอบกำลังใจให้หมอสัตว์ป่าจากกรมอุทยานฯหนึ่งเดียวที่มีอยู่ "หมอล๊อต" คนที่ไม่เคยบ่นว่าน้อยใจในชะตากรรมจากวงวนคนรักษ์ช้าง พร้อมทั้งขอขอบคุณแนวทางจากงานวิจัยของพี่สืบ นาคะเสถียร ผู้วายชนม์ไปแล้ว...  และสุดท้ายกำลังใจจากเพื่อนๆซึ่งถือว่าเป็นยาที่รักษาที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ครับผม...... ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 51 01:06:58 จากคุณ : สหายสาริกา - [ 3 มิ.ย. 51 04:05:01 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณครับ....ที่นำเรื่องราวดี ๆ มาให้ชม........... จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว - [ 3 มิ.ย. 51 06:43:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ร่วมเป็นกำลังใจ ต่อลมหายใจสุดท้ายให้ช้างป่า ในวันเวลาที่เหลือครับ จากคุณ : 3KKK - [ 3 มิ.ย. 51 08:06:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เรื่องราวดีๆอีกแล้วสำหรับพี่สาริกา ยอดเยี่ยมมากๆครับ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : แก่ กรุงเก่า - [ 3 มิ.ย. 51 08:18:19 ]

ความคิดเห็นที่ 19 " ขอบคุณครับ " สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความนะครับ ท่านเจ้าถิ่นสาริกา จากคุณ : Draught Beer - [ 3 มิ.ย. 51 08:35:04 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ที่นำมาบอกกล่าวกันค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนเลยนะคะ "โดยเฉพาะหมอล็อต" แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 51 09:22:27 จากคุณ : สันกาลาคีรี - [ 3 มิ.ย. 51 09:21:46 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ อีกครั้งค่ะ . . . จากคุณ : ขออยู่ใกล้..แค่สายลม - [ 3 มิ.ย. 51 09:22:41 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่รู้เป็นอะไรสิคะ เวลาเห็นช้างทีไร น้ำตามันจะไหลออกมาทุกที กลัว ปน ดีใจ กลัว ที่สักวันที่ช้างไทยจะหมดไป ดีใจ ที่ยังมีคนรักษ์และดูแลเค้าแบบนี้ เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^ จากคุณ : GunOey - [ 3 มิ.ย. 51 09:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณ คุณสหายสาริกาที่นำเรื่องดีๆมาเล่าสู่กันฟังค่ะ จากคุณ : หมอกหนาว - [ 3 มิ.ย. 51 09:54:41 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มาชมกระทู้ดีๆ จากพี่สหายสาริกาครับ จากคุณ : Art999. - [ 3 มิ.ย. 51 10:13:15 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มาให้กำลังใจอาก๋งค่ะ   อ้อมไปแซวปร้ากะลา ปร้าๆๆๆ แบบนี้ลุงเค้าก็น้อยใจแย่ดิ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 51 10:33:26 แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 51 10:32:33 จากคุณ : noo_jar - [ 3 มิ.ย. 51 10:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ได้ความรู้เรื่องช้าง มากขึ้นค่ะ ขอบคุณนะค่ะ จากคุณ : ก้อยใจจิ๋ม - [ 3 มิ.ย. 51 10:35:56 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แล้วๆๆ   ชมรมนี้เค้าทำไรกันบ้างอ่ะคะ เผื่ออย่างเรา ๆ จะได้ไปมีส่วรร่วมดูแลพวกเดียวกัน เอ๊ยยย!!!  ดูแลช้างป่ากันได้บ้าง ว่าแล้ว...เดินเช็ดน้ำมันจากไป   จากคุณ : เพื่อนแม่รถถัง (แม่ซากานะ) - [ 3 มิ.ย. 51 10:37:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอชื่มชมครับ จากคุณ : ราชันย์เมฆา - [ 3 มิ.ย. 51 11:06:48 ]

ความคิดเห็นที่ 29 โอ   ขอบคุณมากๆๆเลยไม่เคยเห็นแบบนี้   เยี่ยมค่ะ จากคุณ : heartshape - [ 3 มิ.ย. 51 11:49:00 ]

ความคิดเห็นที่ 30 การที่จะเป็นเจ้าหน้าที่ และทำหน้าที่ดูแลช้างบ้างจะต้องทำยังงัยครับ we.manathep@hotmail.com จากคุณ : raknainong (raknainong) - [ 3 มิ.ย. 51 12:13:15 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณข้อมูลและเรื่องราวดีๆ ครับ คนไทย ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านทั่วไป เกษตรกร หรือนักท่องเที่ยว  ยังขาดความรู้ ความเข้าใจ ถึงการอยู่ร่วมกันของคนกับสัตว์ป่า อย่างมาก การเผยแพร่และปลูกฝังความรู้ ก็เป็นไปอย่างเชื่องช้า อีกทั้งงบประมาณและขั้นตอนในระบบราชการไทย ก็ไม่เอื้ออำนวยกับการแก้ไขปัญหาหลายๆประการ น่าเห็นใจคนที่ทำงานด้านนี้จริงๆครับ   . . . ไม่รู้ว่าต้องรอให้ช้างไทย กลายเป็นเพียงรูปในตำรา และเรื่องเล่าขานก่อนหรือไร จากคุณ : อ.อดุล - [ 3 มิ.ย. 51 12:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เอาใจช่วยคนทำงานค่ะ ขอให้ได้ผลบุญกุศลจากความตั้งใจที่จะอนุรักษ์ช้างไทยของทุกๆท่าน จากคุณ : pornyupa - [ 3 มิ.ย. 51 12:20:48 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตัวใหญ่ จะอยู่จะกินก็ลำบากแล้ว พอคนเยอะก็เริ่มมีการเบียดเบียนกันอีก น่าสงสารมากค่ะ จากคุณ : tonbo2k - [ 3 มิ.ย. 51 12:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เป็นกำลังใจให้ครับ...นับถือครับนับถือ เป็นสมาชิกชมรมต้องทำไงครับ จากคุณ : Pom_OnTour - [ 3 มิ.ย. 51 14:25:51 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ หวังว่าคนรุ่นต่อๆไปจะให้ความสำคัญกับธรรมชาติมากกว่านี้ จากคุณ : FIND_THE_LOVE - [ 3 มิ.ย. 51 16:08:14 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คน 2 กลุ่มแย่งอำนาจการบริหารกัน ช้างป่ายังพลอยเดิอดร้อนไปด้วย "เด็ดดอกไม้สะเทือนดวงดาว" ตามมาหาความรู้ครับ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 51 17:42:37 จากคุณ : yahee - [ 3 มิ.ย. 51 17:39:01 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอมาลงชื่อก่อน..............กลับขึ้นไปอ่านนะค่ะ "คิดถึงเพื่อน"                   "ห่วงใยเพื่อน"     มืดจังเลยนะ  เส้นทางเดินของเพื่อน  ทำไมเค้าไม่จุดแสงสว่างให้ซะทีนะ     แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 51 18:52:20 แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 51 18:46:45 จากคุณ : KRATAIPA - [ 3 มิ.ย. 51 18:39:31 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เดี๋ยวนี้เห็นช้างเดินบนถนนแล้วสงสารจับใจ... พาลยืนน้ำตาซึม จากคุณ : a_o_por - [ 3 มิ.ย. 51 18:53:49 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณเพื่อนพ้องน้องพี่ทุกท่านครับ  สำหรับกำลังใจที่มีให้กันตลอดเวลา  ขอบคุณจากใจจริงครับ ชมรมฅนรักษ์ช้างป่า  ออกบูทเพื่อรณรงค์งานอนุรักษ์ ที่เมืองทอง 5-8 มิ.ย.51 ในงานเทศกาลท่องเที่ยวเมืองไทย ที่ ททท.เป็นผู้จัดงาน ใครที่สนใจจะร่วมสมัครเป็นสมาชิกเชิญพบกันที่งานดังกล่าวได้เลยครับ ขอขอบคุณครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 3 มิ.ย. 51 23:44:55 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ที่เคยไปปลูกป่า ทำฝายชะลอน้ำ แล้วก็โป่งเทียมเมื่อปีก่อน เห็นป่ามีแต่แนวปลูกซ่อมแซม แล้วยังมีโอกาสได้ระทึก วิ่งหนีตายเรียงหนึ่งเพื่อหนีช้างด้วย ถ้ามีโอกาสจะช่วยลงแรง ทั้งกายใจ ทำเท่าที่จะสามารถช่วยได้เต็มที่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกท่านค่ะ จากคุณ : Kaper - [ 4 มิ.ย. 51 12:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างรึเปล่า ช้างมันตัวโตไม่เบา มีจมูกยาวๆเรียกว่างวง มีเขี้ยวใต้งวงเรียกว่างา มีหู มีตา หางยาว :) จากคุณ : TASoccer - [ วันสิ่งแวดล้อมโลก 03:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 42 วันนี้คือวันสิ่งแวดล้อมโลก  ขอให้ช้างทุกตัวในเมืองไทยรอดปลอดภัยนานาด้วยครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ วันสิ่งแวดล้อมโลก 12:11:31 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ตามมาให้กำลังใจพี่ชายคนเก่งนะคะ เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ ทำให้ญ.ได้รู้จัก ช้างป่า มากขึ้นเยอะเลย..ว่าแต่น้าอยู่บุธวันไหนอ่ะจ๊ะ..ไอ้ญ.น้องพี่จะตามไปขอลายเซ็นต์ซะหน่อย..แบบว่าติดตามผลงานมานานและคุยกันมาก็พอสมควรแต่ยังไม่เคยเห็นหน้าน้าเลยค๊า!!...อิอิ ปล. ญ.ขออนุญาตนำ Link บทความนี้ไปเผยแพร่ต่อที่เว็บบอร์ด Lotter FC และเว็บบอร์ดหมอสัตว์ป่า ชมรมสัตวแพทย์สัตว์ป่าและสวนสัตว์แห่งประเทศไทย นะคะ.. เป็นกำลังใจให้น้าและทีมงานทุกคนค่ะ.. จากคุณ : YingeXtreme (jariyyim) - [ วันสิ่งแวดล้อมโลก 13:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 44 มาส่งกำลังใจให้ลุงหมูจ้า... ร่วมด้วยช่วยกันเพื่ออนุรักษ์ช้างป่ากันเถอะค่ะพี่น้องคนไทย... ก่อนที่จะไม่เหลือให้ลูกหลานได้เห็นในอนาคต... นู๋หนึ่งจะยืนเคียงข้างลุงหมูเพื่ออนุรักษ์สรรพชีวิตในป่าใหญ่ตลอดไปค่ะ จากคุณ : นายประภาคาร - [ 6 มิ.ย. 51 00:34:06 ]

ความคิดเห็นที่ 45 หลานหนึ่ง  1 โหวตจ้า.. จากคุณ : นายประภาคาร - [ 6 มิ.ย. 51 00:35:29 ]

ความคิดเห็นที่ 46 โหวตด้วยค่า จากคุณ : สื่อคี่เถียง - [ 6 มิ.ย. 51 13:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณครับ ความรู้ดีๆ จากคุณ : kai natavee - [ 12 มิ.ย. 51 21:37:06 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณพ้องเพื่อนอีกครั้งครับ  เราคงได้ร่วมกันทำงานเพื่อสิ่งที่เหลืออยู่ไม่มากนักของชาติไทย....สู้ครับสู้ ตามดูลิงค์ งานเสวนาที่เมืองทอง เพื่อเยาวชนช้างป่า 7-8 มิย.51ครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6690863/E6690863.html จากคุณ : สหายสาริกา - [ 12 มิ.ย. 51 23:38:30 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุรพี่สาริกากับข้อมูลละเอียดและสิ่งดีๆจากการอนุรักษ์สัตว์ป่าที่ส่งมาให้เราชมทุกกระทู้ในนี้เลยนะครับ จะเป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : อาร์ตตะลอน (Athlons) - [ 19 มิ.ย. 51 23:54:50 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณครับ และเป็นกำลังใจให้ครับ และอยากขอนำลิงค์ ไปเผยแพร่ ที่ http://www.prachuaptown.com นะครับ เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ และอยากให้คนทั่วไปรู้ว่า ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ทำงานเพื่ออนุรักษ์ช้าง ขอขอบคุณครับ จากคุณ : prachuaptown@hotmail.com - [ 15 พ.ค. 52 21:24:24 A:125.24.50.228 X: TicketID:206214 ]

ความคิดเห็นที่ 51 รักษ์ช้าง... จากคุณ : ปลง - [ 1 ธ.ค. 52 13:16:44 A:119.31.13.178 X: TicketID:241652 ]