Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    (มาเก๊า-ฮ่องกง) คำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้กำลังจะไป

    เพิ่งกลับมาไม่กี่วัน  มีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆมาฝาก

    1. การแลกเงินก่อนไป

    การแลกเงินในไทยก่อนไป
    อย่าแลกเงินโดยเอาเงินบาท เป็นตัวตั้ง

    เพราะเขาไม่มีเงินฮ่องกงหน่วยย่อยๆ ให้
    ถ้ายื่นแบงค์พัน ไป 5 ใบหรือ 5 พันบาท
    แล้วรอว่าจะแลกได้เท่าไหร่
    หากคิดอัตราแลกเปลี่ยน
    ที่ 1 ดอลลาร์ฮ่องกงเทากับ 4.21 บาท
    จะได้เท่ากับ 1,187 ดอลลาร์ฮ่องกง
    แต่คุณจะได้เงินแค่ 1180 ดอลลาร์ฮ่องกง
    เพราะสถานที่รับแลก เขาไม่มีเศษให้
    ขาดทุนไป 7 ดอลลาร์ฮ่องกงเชียวนะ

    แต่ถ้าเอาเงินฮ่องกง เป็นตัวตั้ง
    ว่าจะแลก 1,180 ดอลลาร์ฮ่องกง
    คิดอัตราแลกเปลี่ยน
    ที่ 1 ดอลลาร์ฮ่องกงเท่ากับ 4.21 บาท
    เท่ากับ 4,967.80 บาท
    คุณจะจ่ายแค่ 4,968 บาท
    ขาดทุนไม่เกิน 20 สตางค์

    2. ใบตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกง

    พอเรือเทอร์โบเจ็ตออกจากท่าที่มาเก๊า
    ไปได้สักพัก  เจ้าหน้าที่จะมายืนพูดเป็นภาษาจีน
    ถือกระดาษใบเล็กๆ  ว่าใครจะเอามั่ง
    นั่นแหละ คือ ใบตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกง
    ถ้าเจ้าหน้าที่บนเรือ ไม่ทันเห็นคุณยกมือขอ
    ให้คุณรีบไปขอ Honkong Arrival Card มาเลย

    ในทางกลับกัน ถ้าคุณจะนั่งเรืออกจากฮ่องกงไปมาเก๊า
    เจ้าหน้าที่บนเรือ ก็จะทำแบบเดียวกัน
    ให้คุณรีบไปขอ Macau Arrival Card ได้เลย

    บนเรือ มีห้องน้ำ  แต่ไม่ค่อยสะอาดนัก

    3. MTR และล็อกเกอร์ฝากของที่ฮ่องกง

    จากท่าเรือเทอร์โบเจ็ตที่ฮ่องกง จะลงไปรถไฟฟ้าใต้ดิน
    ถ้าเจอสตาบัคส์แล้ว ให้ลงบันไดเลื่อนไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นพื้นดิน  เห็นถนน
    จะมีบันไดเลื่อนลงไปอีก (แต่ไม่บอกว่าไปไหน)
    ข้างๆ จะมีบันไดธรรมดา เขียนว่าไป  MTR
    ไม่ต้องไปสนใจ ให้ลงบันเลื่อนตามเขาไปเลย
    แล้วก็จะเห็นล็อคเกอร์หยอดเหรียญ
    อยู่ใต้บันไดเลื่อน หลังซุ้มขายหนังสือ
    (แบบซุ้มขายของเดอะมอลล์ หรือ มาบุญครองอ่ะ)
    ถ้าหาล็อคเกอร์ไม่เจอ ให้ลงไป MTR ให้ได้ก่อน
    หาทางออก D แล้วขึ้นบันไดเลื่อมา ก็จะเห็น
    แต่กระเป๋าต้องใบไม่ใหญ่เกินไป จึงจะใส่ได้

    4. ห้องพัก Hongkong Budget Hostel ของ Jacky

    นอกจากจะมีห้องพักที่ชั้น 7 ชั้นเดียวกะที่ Jacky อยู่แล้ว
    พอผมยื่น E-mail จองห้อง ให้ดู  
    Jacky กลับพาพวกผมลงลิฟต์มาชั้น 5 เลี้ยวซ้าย
    แล้วก็ไขกุญแจ เปิดประตูห้องให้เข้าไป
    (เข้าใจว่า คนพักเยอะ เลยขยายกิจการ มาชั้น 5 ด้วย
    แต่ ที่หน้าห้อง จะไม่มีป้ายอะไรบอกเลย ว่า ห้องนี้ เป็นของใคร ยังไง

    อ้อ  ถ้าออกจากลิฟต์เลี้ยวขวา
    ก็จะเจอ Free walker ไทยเกสต์ฮาส์
    (เขาเขียนอย่างงี้นะ)

    ถ้า Jacky บอกราคาห้องเป็น US Dollar
    ให้แลกเงินไปจ่ายค่าห้องเป็น US Dollar จะได้ถูกกว่านิดหน่อย
    เช่น ถ้า Jacky บอกว่า ค่าห้อง คืนละ 40 ดอลลาร์สหรัฐ
    ก็จะเท่ากับ 40 x 33 = 1,320 บาท (คิดอัตรา 1 ดอลลาร์สหรัฐ=33 บาท)

    แต่ถ้าคิดเป็น ดอลลาร์ฮ่องกง  jacky บอกว่า
    1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 7.8 ดอลลาร์ฮ่องกง

    ดังนั้น 40 ดอลลาร์สหรัฐ
    คือ 40 x 7.8 = 312 ดอลลาร์ฮ่องกง
    เทียบเป็นเงินไทย เท่ากับ 312 x 4.3 = 1,341  บาท
    เหมาะกับทริปที่จองสองห้องขึ้นไป  
    และพักห้องละหลายๆคืน
    ก็ประหยัดได้หลายสิบบาทอยู่นะ

    แถมตอนนั้น Jacky ยังบอกประมาณว่า
    อัตรแลกเปลี่ยนเท่าเนี้ย คุณก็คูณเอาเองเองสิ
    (ไหนมีคนบอกว่า ตานี่ ใจดีไง)


    ผมขอบรรยายห้องพักชั้น 5 ที่ผมพัก แล้วกันนะ

    พอเข้าไปก็จะเจอเคาน์เตอร์
    มีลุงสูงอายุ คนหนึ่งอยู่  
    (จะเจอเฉพาะ ตอนเช้า กับหัวค่ำ เท่านั้น  
    เอ  หรือเพราะเราอยู่ห้องแค่ตอนนั้น)

    มีกระติกน้ำร้อนไฟฟ้าใบใหญ่  ต้มน้ำร้อนไว้ให้
    (อ้อ  ถ้าคุณเห็นว่า น้ำในกระติกไฟฟ้าเหลือน้อย  
    ช่วยเติมน้ำให้ด้วยนะ  บางทีลุงคนเฝ้าเขาไม่อยู่)

    ห้องพัก ก็แคบๆ ตามสไตล์ห้องพักในตึกซินเซียร์  
    แต่ก็สะอาด  มีเตียงสองชั้น สองเตียง  
    ถ้าพักไม่ถึง 4 คน เขาอาจจะถอดเตียงเหลือชั้นเดียว
    สวิตช์แอร์ จะอยู่ด้านหน้าห้องพัก  
    พอเปิดแอร์แล้วก็ให้เข้าไปดูแอร์อีกที
    บางทีเขาเปิด Fan ก็ต้องไปเปลี่ยนเป็น Cool
    ในห้องมีเหยือกน้ำเปล่าใหญ่ๆ 1 เหยือก  
    กับแก้วเซรามิค ตามจำนวนคนพัก

    -ห้องน้ำขนาดๆ พอๆ กับห้องน้ำบนรถไฟ
    ประตู เป็นบานพับเลื่อน  
    ใส่เสื้อผ้าทีแขนขากระทบประตูปึงปัง (ก็มันแคบ)
    มีสบู่เหลว แชมพู ขวดยักษ์(แบบที่ขายตามวัตสัน) ไว้ให้
    พร้อมผ้าเช็ดตัวจิ๋ว
    และเครื่องทำน้ำอุ่นที่ต้องเปิดเครื่องล่วงหน้า 20 นาที

    พวกเราพกโจ๊กคนอร์กระป๋องไป คนละ 1 กระป๋อง
    และโจ๊กซอง อีกคนละ 2 – 3 ซอง ด้วย
    พอกินโจ๊กกระป๋องแรก เสร็จ
    ก็ล้างกระป๋องเก็บไว้ใช้กับโจ๊กซอง วันต่อๆ ไป  ได้อีก
                   
    กาแฟ ทรี อิน วัน  เราเอาไปกันเอง  ที่โน่นไม่มีให้  
    พร้อมกับเอาแก้วกระดาษที่ใส่น้ำร้อนได้
    (แบบที่เขาขายกาแฟสดร้อน )  ไปด้วย  
    คำเตือน  แก้วกระดาษใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
    ทีแรก งก  เอามาใช้อีกรอบ ปรากฏว่า  มันยุ่ยหมดเลย  
    เกือบโดนน้ำร้อนลวกซะแล้ว
    (ดีนะ ตอนนั้น ลุงคนเฝ้าไม่อยู่)

    เนื่องจากยังเขิน ที่พกอาหารมามากมายก่ายกอง
    ทั้งหมูหยอง หมูแผ่น ปลาเส้น โจ๊ก กาแฟ
    เวลาที่ลุงคนเฝ้าอยู่  เราเลยเอาแก้วเซรามิค
    ไปกดน้ำร้อนจากหน้าห้องเข้ามาเติมในห้องพักอีกที
    แต่พอลุงไม่อยู่  กดใส่กระป๋องโจ๊ก หน้าตาเฉย ฮ่า ฮ่า

    5. จะไปขึ้นกระเช้านองปิงให้โทรเช็คก่อน
       ที่ ตุงชุงเคเบิลคาร์ฮอตไลน์
       เบอร์ 2109-9760

    6. คนฝั่งเกาะฮ่อง พูดภาษาอังกฤษได้ดี  
    แม้แต่คนขับรถเมล์ หรือ รปภ. ก็สามารถ
    แต่ฝั่งเกาลูน จะหาคนพูดได้ยากหน่อย
    ยิ่งที่มาเก๊า นี่ยิ่งหาได้ยากมากๆ

    7. เลือกโรงแรมที่มาเก๊า ให้ดูความถี่รถรับจากท่าเรือด้วย

    การเลือกโรงแรมที่มาเก๊า  นอกจากจะเลือกทำเล คุณภาพ ราคาแล้ว
    ให้สอบถามโรงแรม  เกี่ยวกับความถี่ของรถรับส่งจากท่าเรือด้วย
    อย่างรถ Star world Hotel ของเฮียเหลียงเฉาเหว่ย    
    นี่มาถี่มากๆ  จนรำคาญ
    (เริ่มพาลเพราะหารถโรงแรมตัวเอง ไม่เจอ  อิอิ)

    8.  สำหรับคนพักโรงแรมไทปาสแควร์

    สำหรับคนที่พัก โรงแรม ไทปา สแควร์  
    โรงแรมจะอยู่ใกล้พระพรหมบนเกาะไทปา
    (พระพรหม เหมือนสี่แยกเอราวัณ  
    มีคาถาบูชาภาษาไทยกำกับด้วย
    แต่ที่นั้นเขากลับเขียนภาษาอังกฤษว่า
    Four Face Bhuda ซึ่งมันไม่ใช่ มันม่ายช่ายอ่ากิ๊ฟ)

    ตรงข้าม macau Jokey Club หรือสนามม้ามาเก๊า

    สายรถเมล์ ที่วิ่งจากคาสิโนลิสบัว ฝั่งมาเก๊า
    ตรงดิ่งถึงโรงแรมเร็วที่สุดคือสาย 11
    (ลิสบัว นี่ก็ประมาณอนุสารีย์ชัยอ่ะ
    อยู่กลางเมืองพอดี)

    สายรถเมล์จากท่าเรือมาโรงแรม คือ 28A (วิ่งอ้อมโลกมากๆ)
    แต่โรงแรมนี้ มีรถตู้รับจากท่าเรือด้วยนะ  ชั่วโมงละรอบ
    ทุกเวลา .30  เช่น  13.30 /14.30/15.30/16.30
    ซึ่งรถที่ใช้ จะรับส่งแขกของสองโรงแรมคือไทปาสแควร์
    กับ Golden Dragon แต่ไม่มีจุดจอดถาวรที่ท่าเรือ
    มาวนๆ แล้วก็ออกไป ทำให้หารถยากมาก
    (พวกผมหาไม่เจอ)
     
    ดังนั้น วิธีที่ง่ายกว่า  คือ
    พอถึงท่าเรือ  ขึ้นบันไดไปชั้นสองแล้วหาทางเดินลอยฟ้า
    ไปห้างนิวเยาฮัน  
    พอถึงห้างนิวเยาฮัน  
    แล้วถามหาโรงแรม Golden Dragon
    พอไปถึง โรงแรม Golden dragon
    ยื่น โวเชอร์ของไทปาแสควร์ให้ยามเฝ้าประตูดู  
    เขาจะพามาจุดรอรถรับส่ง  
    ซึ่งรถจะขับเป็นวงกลม  เช่น

    เวลา 16.00 ออกจากไทปาแสควร์  
    เวลา 16.15 มาถึงโกลเด้นดราก้อน
    เวลา 16.30 ไปที่ท่าเรือ
    เวลา  16.35 กลับมาโกลเด้นดราก้อน
    เวลา  16.45 กลับถึงไทปาแสควร์
    เป็นเช่นนี้แหละ

    9. เงินประกันที่โรงแรม

    พอเช็คอินที่โรงแรม ไทปาแสควร์  
    ทางโรงแรมจะขอเงินประกันห้องละ 300 ปาตากาส์
    (อ่า เริ่มมี Hidden agenda ก่อนมาไม่มีบอกล่วงหน้านิ)
    ถ้าใครมีบัตรเครดิต ก็รูดได้เลย  แต่ไม่ต้องเซ็นสลิปนะ


    10. ไปวัดอาม่าจากไทปาแสควร์

    ถ้าจะไปวัดอาม่า จากโรงแรมไทปาแสควร์
    ให้เลือกรถเมล์สายที่ขึ้นสะพาน SaiVan จะเร็วที่สุด
    ลงสะพานแล้ว  วัดอาม่าจะอยู่ขวามือ

    แค่นี้ก่อน เด๋ยวนึกไรได้ จะมาเพิ่มเติม

    แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 51 22:24:10

    แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 51 22:08:28

    จากคุณ : taoru - [ 14 มิ.ย. 51 21:21:36 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom