ความคิดเห็นที่ 1 ในเบื้องต้นของการดำเนินกิจกรรม คณะทำงานได้สำรวจปัญหาต่างๆ พบว่าปัญหาที่เกี่ยวกับป่าไม้และสัตว์ป่ามีอยู่มากมายหลายพื้นที่ และยังพบอีกว่า  ในขณะนี้ปัญหาที่จัดว่าอยู่ในขั้นวิกฤตคือ  การที่ช้างป่าในบริเวณอุทยานแห่งชาติกุยบุรีมีการตกลูกในรอบปีนี้ถึง  20  ตัว     ซึ่งแต่เดิมช้างป่าในพื้นที่กุยบุรีก็ประสบปัญหาเรื่องพื้นที่ทำกินอยู่แล้ว     เนื่องจากการบุกรุกป่าเพื่อทำเป็นพื้นที่เกษตรกรรมจนถึงขั้นวางยาเบื่อช้างเมื่อกลางปี 2540   ประจวบกับในปีนี้  มีลูกช้างเกิดใหม่เป็นจำนวนมาก   จึงยิ่งทำให้ปัญหาการขาดแคลนอาหารทวีความรุนแรงขึ้น    โดยเฉพาะจำนวน “โป่ง” ที่มีไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพของช้าง ตามปกติแล้วในสภาพธรรมชาติ  สัตว์กินพืชเช่นช้าง  กระทิง  กวาง ฯลฯ  รวมทั้งนกหลายชนิด     จะไม่ได้รับปริมาณแร่ธาตุประเภทแคลเซียมซึ่งจำเป็นต่อการเสริมสร้างกระดูกและเขาอย่างเพียงพอจากพืชที่กินเข้าไป     แต่จะรับแร่ธาตุเหล่านั้นด้วยการกิน “ดินโป่ง”  ซึ่งก็คือดินจากแอ่งดินเค็มในป่า   ซึ่งแอ่งดินนี้จะเป็นที่รวมของแร่ธาตุหลายชนิดที่ถูกชะล้างจากดินในระดับสูงลงมาสะสมกัน      ในธรรมชาติสัตว์ป่าที่เป็นตัวเปิดโป่ง มักจะเป็นสัตว์ใหญ่ เช่น ช้าง หรือ กระทิง แต่ด้วยการบุกรุกพื้นที่ป่าดังกล่าว  ส่งผลให้ผืนป่าถูกตัดทอนแบ่งซอยย่อยลง  และทำให้แหล่งน้ำและแอ่งดินโป่งลดจำนวนตามลงไปด้วย    จึงเป็นเหตุให้สัตว์ป่า โดยเฉพาะสัตว์ใหญ่เช่นช้างเกิดการขาดแคลนสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ ทางกลุ่มสมาชิกห้องบลูพลาเน็ท เวบพันทิป ผู้ดำเนิน  โครงการ คืนป่า รักษ์น้ำ เพื่อโลกสีเขียว   จำนวนหนึ่งจึงได้มีการพบปะหารือกับชมรมคนรักษ์ช้างป่า ซึ่งเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับช้างป่า ( http://www.wildelephantlover.com/ )    และเห็นความสำคัญของช้างป่าที่มีต่อระบบนิเวศนิเวศวิทยาป่าไม้เขตร้อน จัดทำโครงการ   “ คืนป่า รักษ์น้ำ เพื่อโลกสีเขียว  ตอน  สร้างโป่งเทียมเพื่อลูกช้างป่ากุยบุรี “   เพื่อจัดหาทุนไปสร้างโป่งเทียมในพื้นที่บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่ายางชุม  อ.กุยบุรี  จ.ประจวบคิรีขันธ์     โดยการทำโป่งเทียมนั้น  จะทำโดยการเข้าไปสำรวจบริเวณที่จะทำโป่ง   ซึ่งจะเลือกบริเวณที่มีลักษณะคล้ายกับดินโป่งธรรมชาติ    เมื่อจัดหาเกลือได้ตามชนิดและปริมาณที่ต้องการแล้ว     จะต้องขนส่งเกลือเหล่านี้เข้าไปในป่า   ซึ่งจะต้องใช้ทั้งยานพาหนะและการเดินเท้าจนถึงจุดที่กำหนดไว้     จากนั้นจึงขุดดินในบริเวณที่เราเลือกไว้ให้เป็นแอ่ง แล้วเอาเกลือ (เกลือแกง) เทลงไปในแอ่งน้ำนั้น    เมื่อมีฝนตกหรือความชื้นจากน้ำค้าง   เกลือก็จะละลายทำให้ดินบริเวณนั้นเค็ม สัตว์ป่าต่าง ๆ ก็จะพากันมากินดินเหล่านี้    อันเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ฯ ที่ประสงค์จะให้ช้างป่าตลอดจนสัตว์อื่น ๆ  มีคุณภาพชีวิตที่ดีตามสภาพธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ต่อไป แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 51 14:43:26 จากคุณ : อ.อดุล - [ 23 มิ.ย. 51 14:07:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อาสาสมัคร - ผมคงไปด้วยไม่ไหว หากต้องเดิน ทุกวันนี้เดินบน Tread Mill ได้แค่ 1/2+ กิโลเมตรก็พอแล้วละครับ มากกว่านั้น ยังไม่ไหว เผยแพร่ความรู้ - พอทำได้ หากทราบข้อมูลที่ต้องการสร้างจิตสำนึก บอกไปได้เลย รายได้สนับสนุน - ยินดีจัดหาทุนมอบให้กับผู้ดำเนินโครงการ เป็นเงิน 10,000.00 บาท(หมึ่งหมื่นบาทถ้วน) จะส่งได้ที่ไหน บอกมาด้วยนะครับ ด้วยความปรารถนาดี จากคุณ : xebec - [ 23 มิ.ย. 51 14:07:23 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ยินดีสนับสนุนโครงการค่ะ จากคุณ : poohying - [ 23 มิ.ย. 51 14:10:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ยินดีสนับสนุนโครงการค่ะ จากคุณ : Kaper - [ 23 มิ.ย. 51 14:16:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แวะมา ร่วมสนับสนุน โครงการ ขอรับ จากคุณ : จังเกิ้ล - [ 23 มิ.ย. 51 14:18:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยินดีค่ะ คงช่วยตามกำลังที่ทำได้นะคะ รอรายละเอียดของโครงการฯ ต่อไปค่ะ จากคุณ : ขออยู่ใกล้..แค่สายลม - [ 23 มิ.ย. 51 14:19:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 งานนี้ช่วยเต็มที่ค่ะ... จากคุณ : a_o_por - [ 23 มิ.ย. 51 14:20:31 ]

ความคิดเห็นที่ 8 การดำเนินกิจกรรม โครงการ “ คืนป่า รักษ์น้ำ เพื่อโลกสีเขียว  ตอน  สร้างโป่งเทียมเพื่อลูกช้างป่ากุยบุรี “ 1.ทริปสำรวจบริเวณที่เหมาะสมที่จะทำโป่งเทียม  บ้านยางชุม  อุทยานแห่งชาติกุยบุรี         จ.ประจวบคิรีขันธ์    ประมาณเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม   2551 2.ทริปทำโป่งเทียม   ประมาณเดือนสิงหาคม -  ตุลาคม  2551 3.การจัดหาทุนผ่านเวบพันทิป 3.1จัดกิจกรรมโรยตัว 4 ผา 5 น้ำตก  ที่น้ำตกธารรัตนา   อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่    ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับรางวัลด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัยจาก ททท.     ทางกลุ่มฯ ได้รับการสนับสนุนจากทาง อช.เขาใหญ่  ในการยกเว้นค่าธรรมเนียม  และบ.สาริกาแอดเวนเจอร์พอยท์ จำกัด ในการจัดทริปอันซีนนี้ในอัตราต่ำกว่าทุน     โดยผู้ร่วมกิจกรรมเสียค่าใช้จ่ายท่านละ  1,200  บาท   จากปกติ  1,950 บาท                                         ในการนี้  เป็นเงินสมทบทุนการทำโป่งเทียม 800 บาท       เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับสหกรณ์ส่งเสริมท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำวังบอน  200  บาท         และค่าใช้จ่ายสำหรับ บ.สาริกา แอดเวนเจอร์พอยท์   200  บาท       จัด 2  ทริป ๆ ละ 25 ท่าน       ครั้งที่ 1 ในวันที่ 27 กรกฎาคม2551     ครั้งที่ 2 ประมาณเดือนตุลาคม               3.2 ตั้งกระทู้ประมูลการกุศล โดยผ่านกระทู้ห้อง blueplanet 3.3 จำหน่ายของที่ระลึกของโครงการ   โดยผ่านกระทู้ห้อง blueplanet และตามชุมชนต่างๆ  โดยจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบผ่านทางกระทู้ 3.4 การบริจาคตามจิตกรุณา ผู้ให้การสนับสนุน 1. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 2. หน่วยพิทักษ์ป่ายางชุม จ.ประจวบคิรีขันธ์ 3. ชมรมฅนรักษ์ช้างป่า 4. น.สพ.สุเมธ  กมลนรนารถ ผู้อำนวยการส่วนวิชาการ องค์การสวนสัตว์ และที่ปรึกษาชมรมหมอสัตว์ป่า 5. ดร.มัทนา ศรีกระจ่าง หน.ฐานข้อมูลสัตว์ป่า กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า   6. นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน (หมอล็อต) 7. คุณจิรภา เพลินหัด (สาริกาแอดเวนเจอร์พอยท์) 8. คุณหญิง (YingExtreme) รายได้จากการจัดกิจกรรมครั้งนี้ จะนำมาทำสร้างโป่งเทียมเพื่อลูกช้างป่ากุยบุรี  และหากมีรายได้เหลือจากกิจกรรมดังกล่าวแล้ว คณะทำงานโครงการฯ จะได้นำมาใช้ประโยชน์ต่อเนื่อง ตามจุดประสงค์ของโครงการ คืนป่า รักษ์น้ำ เพื่อโลกสีเขียว โดยจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป แก้คำผิดครับ   แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 51 16:49:58 แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 51 17:07:59 แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 51 14:37:47 จากคุณ : อ.อดุล - [ 23 มิ.ย. 51 14:29:00 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ร่วมมือ ร่วมใจ ด้วยค่ะ จากคุณ : Zorakun - [ 23 มิ.ย. 51 14:31:53 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนนี้ขอจัดกลุ่มตัวเองไปอยู่กลุ่ม 3 ค่ะ -- แต่เป็นสามจุดเท่าไหร่ยังไม่แน่ใจอ่ะค่ะ.. จากคุณ : เบื้องญวณ - [ 23 มิ.ย. 51 14:42:01 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เข้ามารับแขกแทนจขกท.ค่ะ แบบว่าจขกท.มีเหตุขัดข้องบางประการ รอแป๊ปนะคะ จากคุณ : สันกาลาคีรี - [ 23 มิ.ย. 51 14:53:15 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจและสนับสนุนทีมงานในการทำโครงการนี้นะคะ โครงการนี้จะสำเร็จหรือไม่ และไปได้ไกลแค่ไหน ก็อยู่ที่การสนับสนุนจากเพื่อนๆในห้องนี้ทุกคนค่ะ จากคุณ : สันกาลาคีรี - [ 23 มิ.ย. 51 14:55:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาสนับสนุนโครงการดีดีครับ จากคุณ : แก่ กรุงเก่า - [ 23 มิ.ย. 51 14:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ... น่าสนใจมากๆครับ ... จากคุณ : น้าทู (Patunga) - [ 23 มิ.ย. 51 15:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โครงการดีค่ะ คือว่าอยากไปโรยตัวแต่กลัวอ่ะ ไม่รู้ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ขอเข้าร่วมโครงการด้วยนะคะ มีรายละเอียดยังไงสามารถส่งหลังไมค์มาได้เลยค่ะ อยากช่วยจริงๆ จะติดตามนะคะ เป็นอะไรไม่รู้ เห็นช้างริมถนนทีไร น้ำตามันชอบไหล จากคุณ : vnv - [ 23 มิ.ย. 51 15:03:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มารับไม้ต่อจาก อ.อดุล ค่ะ สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ที่ อ.อดุลได้เล่าไปแล้วนั้น   ตอนนี้มีทีมงานเบื้องต้นที่ร่วมมือร่วมใจกัน คือ ลุง Red Fox .....ที่กรุณาไปพูดคุยกันถึงเมืองทองธานี นังนู๋ฟ้า  และ  kaper   .....ที่จะเป็นผู้ไปเปิดบัญชีธนาคารในนามโครงการ โซระคุง ....   รับหน้าที่ดูแลบัญชีโครงการและประสานงานรายได้ อ.อดุล  ,  สันกาลาคิรี  ,  ฉินเมิ่งเหยา  ,  แม่ซากานะ  ,Draught Beer,     สหายสาริกา รวมทั้งพี่น้องที่ได้ให้คำแนะนำทั้งหน้ากระทู้และหลังบอร์ดในเบื้องต้นค่ะ Nature-blue,  Minora,  จังเกิ้ล  ,  ป๋อหลาง ,   3KKK  ,  นายประภาคาร  ,  a_o_por  ,  บังแอ ,  แก่ กรุงเก่า  ,  จังเกิ้ล  ,  KRATAIPA   และขอขอบคุณพี่น้องที่กรุณาให้ความสนใจกับกิจกรรมนี้นะคะ จากคุณ : แม่พี่มีน (แม่ซากานะ) - [ 23 มิ.ย. 51 15:05:14 ]

ความคิดเห็นที่ 17 รู้สึกดีใจแทนช้างด้วยจริงๆ ปลื้มจัง... ที่คนส่วนใหญ่เห็นด้วย และให้ความสนใจกับโครงการดีๆเช่นนี้.. พวกเราจะทำอย่างโปร่งใสและดีที่สุดนะคะ แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 51 15:08:35 จากคุณ : Zorakun - [ 23 มิ.ย. 51 15:07:38 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เล่านิดนึงนะคะว่า....เป็นไงมาไง   สำหรับโครงการ  "คืนป่า รักษ์น้ำ เพื่อโลกสีเขียว " นี้ เมื่อปลายปี 50  อ.อดุล (จขกท.) ได้มีโอกาสไปออกทริปเดินป่ากับสหายสาริกา 2-3 ครั้ง กลับมาครั้งสุดท้ายคือ  ทริปสมอปูน  อ.อดุล มาบอกกับป้าแป๋ว ..สันกาลาคิรีว่า   " แป๋วๆ  พี่ว่าเราน่าจะทำอะไรดี ๆ ช่วยกันได้บ้างนะ"   จากนั้น  จึงได้มีการคุยกันทีละเล็กละน้อยมาเรื่อยเกี่ยวกับปัญหาของป่าและสิ่งแวดล้อม และมาเป็นรูปเป็นร่างขึ้นในงาน ททท. เมืองทองธานี เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาค่ะ มีพี่น้องหลายท่านแวะเวียนไปคุยกัน ตั้งแต่ลุงเรด Red Fox ,  น้าเบียร์  Draught Beer,  ป้าแป๋ว  สันกาลาคิรี  ,  นังนู๋ฟ้า ,  kaper  ,  แม่พี่มีน มาลงตัวว่า    ปัญหาที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนคือ  ลูกช้างป่าที่กุยบุรี    ซึ่งอยู่ในวัยซุกซนถึง 20 ตัว     จะเติบโตเป็นช้างแคระแกรน   เพราะขาดแร่ธาตุที่เพียงพอ คุยๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 51 23:38:11 จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 23 มิ.ย. 51 15:15:35 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มีอะไรให้ช่วยบอกได้เลยนะคะ ยินดีช่วยค่ะ ทั้ง หน้าไมค์ และหลังบ้าน ^^ จากคุณ : ขออยู่ใกล้..แค่สายลม - [ 23 มิ.ย. 51 15:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ต่อเลยค่ะ พี่อิ๋ม.... กำลังรออ่านอยู่นะคะ จากคุณ : Zorakun - [ 23 มิ.ย. 51 15:20:37 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เราเลยจะเริ่มต้นกันที่การไปทำโป่งเทียมสำหรับสัตว์ป่าที่นั่น   โดยเฉพาะ..ช้างน้อย ๆ เหล่านั้นค่ะ โครงการนี้ได้รับความสนับสนุน  คำแนะนำ  รวมทั้งคำขอบคุณพี่น้องบีพี  ตั้งแต่โครงการยังไม่เริ่ม   จากผู้ที่อยู่หน้างานกับสัตว์ป่าหลายท่าน หมอล็อต  .....เป็นอีกท่านที่ฝากขอบคุณมาค่ะ   และน้องก็จะไปร่วมกิจกรรมกับพวกเราในวันโรยตัว  และวันอื่น ๆ เท่าที่จะเป็นไปได้ อีกท่านคือ  น้ากื๋อซ์ ..คนไทยอีกท่านที่ใกล้จะพิชิตเอเวอร์เรสต์ แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 51 15:22:47 จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 23 มิ.ย. 51 15:20:59 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สนับสนุนโครงการเต็มที่ครับ แสดงความยินดีกับช้างป่าที่มีคนดีๆ ทำอะไรดีๆให้ครับ จากคุณ : pongpath202 - [ 23 มิ.ย. 51 15:23:52 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จากนั้น  เราได้ช่วยกันคิดว่า.....   ในรอบนี้เราควรจะทำอะไรกันบ้าง เราได้   "ฉินเมิ่งเหยา"  สาวมหัศจรรย์ที่มีแรงทำอะไรหลายอย่าง ทั้งทำเองและช่วยเพื่อนทำ เป็นที่ปรึกษาและช่วยคิดช่วยวางแผนงาน และยังเป็นคนที่คิดชื่อโครงการนี้ด้วยค่ะ   เมื่อวาน  (22 มิ.ย.)  เราก็ได้มีการประชุมสังหารกันอีกรอบ ถึงรายละเอียดของงานและการแบ่งความรับผิดชอบ มีความสุขกันดีค่ะ   เพราะทุกคนมาทำงานเพื่อส่วนร่วม มีรูปมาอวดอ่ะ  แต่ขอติดไว้ก่อนนะคะ  ยังไม่ได้โหลด งั้นเอารูปนี้แล้วกันค่ะ     ตัวน้อย ๆ จากกุยบุรี   .....มาสวัสดีลุงป้าน้าอาและพี่น้องค่ะ (ภาพจากชมรมฅนรักษ์ช้างป่า) จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 23 มิ.ย. 51 15:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ภาพบางมุม จากเมื่อวาน   (22 มิ.ย.)   ที่พวกเรานัดไปคุยรายละเอียดและสรุปโครงการค่ะ พี่อิ๋มมาต่อได้เลยนะคะ จากคุณ : Zorakun - [ 23 มิ.ย. 51 15:35:11 ]

ความคิดเห็นที่ 25 วันนี้....พาเด็ก ๆ มาสวัสดีและขอบคุณล่วงหน้าค่ะ ขอขอบพระคุณเวบพันทิปอย่างสูงค่ะ    ที่ได้กรุณาให้ใช้พื้นที่สำหรับกิจกรรม ทางพี่ส่งเอกสารเมล์ไปตอนบ่ายสามโมง ปรากฏว่า...บ่ายสี่โมง  ได้รับตอบกลับมาแล้วค่ะ รับมาด้วยความตื่นเต้นและยินดี พร้อมทั้งบอกมว่า....  เมื่อขึ้นกระทู้แล้ว จะขึ้นเป็น EVENT ให้  หลังจากที่เราส่งหมายเลขกระทู้ไป     รุ่นนี้ทั้งนั้นค่ะ จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 23 มิ.ย. 51 15:36:22 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ยินดีอย่างยิ่งเลยครับ ที่จะได้มีการร่วมกันช่วยเหลือธรรมชาติและฟื้นฟูผ่าอย่างเป็นรูปธรรมขึ้น ผมมีความเห็นเสริมเรื่องโป่งเทียมสำหรับที่ป่ากุยบุรีเล็กน้อยครับ ไม่ได้คัดค้านใด ๆ นะครับ แต่ต้องการให้ทางผู้จัดทำลองศึกษาเพิ่มเติมกันดูครับ เพื่อความรอบด้านของกิจกรรมที่จะเลือก ในช่วง 2-3 ปี ได้มีการจัดการแบบบูรณาการระหว่างเรื่องคนกับช้างมาอย่างต่อเนื่อง  มีการสำรวจ วิจัย และ ระแนวทางแก้ไขปัญหาไว้แล้ว ในแบบรวบรวมจากทุกมุมครับ 1. ต้องคำนึงถึงชนิด ความหลากหลาย ของเกลือ ที่ต้องการสร้าง หรือ เสริมโป่ง คำว่า เกลือ ในความหมายของ เกลือในโป่ง มิได้หมายถึงเกลือแกง และเกลือแกงทุกประเภท มิได้เหมาะสมกับสัตว์ป่า แต่ยังหมายรวมถึงแร่ธาตุอื่น ๆ อีกด้วยครับ พี่ใหญ่(ช้าง) จะเป็นหน่วยหน้าค้นหาโป่งธรรมชาติ ทั้งโป่งดิน โป่งน้ำ และ สัตว์ป่าอื่น ๆ ก็จะตามเข้ามาต่อไป 2. ปริมาณสัตว์ป่าในแต่ละพื้นที่ ย่อมมีจำนวนจำกัดตามพื้นที่ การมีสัตว์ป่าชนิดเดียวกัน มากเกินไป ในแต่ละพื้นที่ อาจส่งผลต่อสัตว์ป่าอื่น ๆ ได้ การจัดการใด ๆ ที่จะอาจทำให้ปริมาณสัตว์ป่าชนิดหนึ่ง เพิ่มขึ้นเร็วกว่าการรองรับของป่า อาจมีผลข้างเคียงตามมา การทำ จึงควรมาจากการ ขาด (เคยมี) หรือ ฟื้นฟู แต่หากทำแล้วเพิ่มจำนวน แน่นอนผลข้างเคียงย่อมเกิด   หมายความว่า ในหลายครั้ง การทำโป่งเทียมที่ไม่เหมาะสม จะทำให้เกิดผลติดตามมาด้วย ส่วนแนวทางการช่วยเหลือนั้น ได้มีการวิจัยไว้แล้ว เป็นการทำงานร่วมกัน ระหง่าง กรมอุทยานฯ และ ชาวบ้านเองก็มีส่วนร่วมให้ความเห็นมาแล้ว ลองใช้แนวทางนั้นดูครับ เมื่อทุกฝ่ายเห็นด้วย และ อยู่บนพื้นฐานการตัดสินใจที่เป็นเหตุและผล ย่อมทำให้การทำโป่งเทียมเพิ่มเติม (ทำใหม่ หรือเสริม ) จะไปทำที่จุดใด เพื่อเป้าหมายอะไร และ จะผลกระทบระยะยาวหรือไม่  ย่อมบรรลุจุดมุ่งหมาย และ เจตนาอันดีของท่านทุกคนอย่างแน่นอน * ลองปรึกษาท่าน หน คนปัจจุบัน และ พี่หิน (หน. ชลธร ชำนาญคิด อดีต หน.อชกุยบุรี ปัจจุบันอยู่ที่ อช ดอยผ้าห่มปก ) หรือ หน. บุญลือ (หน ท่านแรก)  เพิ่มเติมนะครับ ซึ่งพี่ ๆ เขาได้วิจัยไว้แล้ว เพื่อให้การเข้าไปช่วยเหลือกระทำโดยถูกหลักทางวิชาการครับ  ตัวผมเองมิได้มีความรู้ด้านนี้มากนักครับ แค่ได้มีโอกาสเห็นโป่งเทียมใน อช กุยบุรี เห็นความเปลี่ยนแปลงในแบบคนนอกมองเข้าไปในรอบหลายปี เห็นเด็ก ๆ รอบป่าบ้างเล็กน้อย ในช่วงที่ทำค่ายตอนเดือน ตค เห็นรูปแบบการดิ้นรนและดำรงอยู่ของพี่ใหญ่แห่งป่ากุยบุรีอยู่บ้าง ใน คห ของผม จากข้อมูลที่ตนมี  การทำโป่งเทียม (รวมทั้งการทำฝายจากมนุษย์ ) สิ่งเหล่านี้ เป็นการฟื้นฟูธรรมชาติ ด้วยมนุษย์ หลายที่เหมาะสมที่จะทำ และหลายที่ ควรใช้วิธีฟื้นฟู โดยการไม่ทำอะไรเลย เพียงไม่ให้มีการทำลายเพิ่มเติม ป่าจะฟื้นตัวและรักษาสมดุลเองในที่สุด... ต้องอาศัยการพิจารณาอย่างดี มิฉะนั้นสิ่งที่เราทำอาจเป็นบาปบริสุทธิ์ได้ ในกรณีนี้ เรามีที่ปรึกษาเก่ง ๆ จำนวนมาก ลองปรึกษาท่านดูครับ  เชื่อว่า จะทำให้การตัดสินใจใด ๆ เป็นไปอย่างรอบคอบและดีงามแน่นอนครับ เชียร์ครับเชียร์ ..   แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 51 15:53:27 จากคุณ : Mr.OB1 - [ 23 มิ.ย. 51 15:44:53 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ....มาชู  จั๊กกะแร้  หอม  หอม.....สนับสนุน....โครงการดีๆ..... ....เพื่อสิ่งแวดล้อม.............ของลูกหลานเราในอนาคตก๊าบบบ.. ....ช้าง  ช้าง  ช้าง  น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า... ...ช้างมัน   ตัวโตไม่เบา   จมูกยาว  ยาว  เรียกว่า  งวง.. ...2 เขี้ยว  ใต้  งวง เรียกว่า  งา............ ............มี หู  มี ตา หาง  ยาว..........  อีก 10 ปี  100 ปี ลูก  หลานเรา   ยังคงจะได้เห็น  ช้าง  จริง  จริง  ในป่า มากกว่า  จะมานั่ง จินตนาการ จากเพลง หรือ รูปภาพ  ในอดีต จากคุณ : KRATAIPA - [ 23 มิ.ย. 51 15:46:07 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เดี๋ยวขอไปรับน้องมีนก่อนนะคะ **************************** ทีจริงแล้ว    " ดินโป่ง "  เป็นส่วนสำคัญของป่า ไม่ใช่เพียงแค่ "ช้าง"  ที่พึ่งพาดินโป่ง สัตว์ป่าชนิดที่มีเขายังต้องการเกลือแร่ แคลเซียม ไปบำรุงเขาของมันให้งอกงามและแข็งแรงอีกด้วย   แม้แต่ค้างคาวยังกินดินโป่งเพื่อขจัดสารพิษในตัวของมัน หรือผีเสื้อก็ยังชื่นชอบดินโป่งมากมาย แต่ด้วยฝีมือมนุษย์ที่เปลี่ยนป่าเป็นที่ทำกิน    ทำให้ป่าใหญ่หลายผืนถูกแบ่งย่อยเป็นป่าเล็กป่าน้อย แหล่งน้ำและดินโป่งจึงพลอยหดหายตามไป   ทั้งคุณภาพและปริมาณ ********* ช้างลงโป่งที่เขาใหญ่ค่ะ ดินโป่งจะมีหลายสี  ขึ้นกับชนิดของแร่ธาตุที่มีอยู่เป็นสำคัญ เช่น  สีดำ  สีขาว  สีลูกรัง จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 23 มิ.ย. 51 15:48:41 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมขอร่วมส่ง Tag BP รุ่นตาโอบ เข้าเป็นของประมูล 1 ชุดครับ ใครที่อยากได้ อยากมี เก็บเงินไว้ นะครับ แล้วคุณจะได้มันไว้ในครอบครอง ขอยืม รูปมาจาก กระทู้ เจ้โซหน่อยนะคร๊าบบบบ ขอโฆษณา หน่อยนะคร๊าบบบบบบ จากคุณ : จังเกิ้ล - [ 23 มิ.ย. 51 15:52:52 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ^ ^ แป๊ะ แป๊ะ แป๊ะ เข้ามาตบมือให้พี่จังสั้น.... และให้กำลังใจทีมงานทุกๆคนนะคะ จากคุณ : Zorakun - [ 23 มิ.ย. 51 15:55:36 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ...จุ๊บ  จุ๊บ.....จังสั้น......... ...ตะเองใจดีจังเลย.......... ....เค้าว่าคนใจดี.........มักจะมีหน้าตาดี....ด้วย  จิงป่ะ   จากคุณ : KRATAIPA - [ 23 มิ.ย. 51 16:02:14 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ^ ^ ^ ป้ากระเต่ยขรา  กฎทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้น  เจงมะ จังสั้น   จากคุณ : ขออยู่ใกล้..แค่สายลม - [ 23 มิ.ย. 51 16:07:13 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เฮ้ย เจ้ สายเสมอ หมายฟาม ว่างัยฟระ หน้าตามันเป็นส่วนประกอบภายนอก ดีไม่ดีไม่เกี่ยว ใน BP ไม่เคยมีใครเจอผมเลยซักคน ยกเว้น คุณไปตามดวง แต่จิตใจต่างหาก ผมอยากเป็นคนจิตใจดี มากกว่าหน้าตาดีคร๊าบบบบ พี่น้อง ว้าวๆ นี่เราเขียนอะไรลงไปเนี่ย อยากให้ถึงวันประมูลไวไว จังเลย จากคุณ : จังเกิ้ล - [ 23 มิ.ย. 51 16:11:41 ]

ความคิดเห็นที่ 34 จากคุณ : นังนู๋ฟ้า - [ 23 มิ.ย. 51 16:18:25 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ...คิด  คิด  แล้ว  อยาก  สัมผัสทั้ง 6 กับ  คนจิตใจดี  แย้วจิ...     คงเป็นบุญไม่น้อย        หากได้ตักบาตรร่วมขัน   ... อู๊ยยยยยยยยยยย.........อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆจัง  เหมียนกัน จากคุณ : KRATAIPA - [ 23 มิ.ย. 51 16:33:10 ]

ความคิดเห็นที่ 36 พื้นที่จัดกิจกรรม จตุจักรอนุมัติให้เรียบร้อยแล้วเด๊อ ให้เจ้าโซไปประสานงานต่อแล้วนะ เรื่องสถานที่ตามได้ที่เจ้าโซเด๊อ กลัวจริงจริ๊งว่า..... เจ้าโซจะไปหม่ำ ผ.อ. เพื่อนตรูซะหรือเปล่าเนี่ย.... อิ อิ อิ จากคุณ : XOOMER - [ 23 มิ.ย. 51 16:34:58 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ^ ^ ขอบคุณลุงซูมมากๆเลยนะคะ กราบงามๆจากหัวใจใสๆ ขุ่นๆ ของหนู รับรองได้ว่า หนุ่มหล่อเพื่อนลุงซูม ไม่รอดแน่นอน เดี๋ยวหนูขอคุยกับทางทีมงานก่อนนะคะ ในเรื่องวันที่ แล้วจะรีบโทรไปหาเพื่อนลุงซูมทันทีทันใด อ้อ...หรือไม่ก็... หนูไปหาด้วยตนเองถึงถิ่นเลยค่ะ... รายระเอียดการรับบริจาคของเพื่อนำไปจำหน่ายที่สวนจตุจักรนั้น เดี๋ยวรอพี่อิ๋ม มาเขียนต่อนะคะ พร้อมรายละเอียด การตั้งกระทู้ประมูลของด้วยค่ะ โซในฐานะสมาชิกคนหนึ่งที่ทำเกี่ยวกับเรื่องโป่งเทียมนั้น ขอบพระคุณในน้ำใจของลุงซูมมากนะคะ ขอบคุณค่ะ โซระคุง จากคุณ : Zorakun - [ 23 มิ.ย. 51 16:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่เป็นไรน้องเอ๊ย คนละไม้ละมือ ใครช่วยอะไรได้ตรงไหน ก็ช่วยกันไปล่ะเน๊อ..... เพื่อความสัมพันธ์ของน้องโซกะพี่เขียว เอ๊ย... เพื่อน้องช้าง..... แหะ แหะ จากคุณ : XOOMER - [ 23 มิ.ย. 51 16:46:04 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เข้ามา  ก้มหน้า - ก้มตา    กดโหวตกระทู้นี้ไปก่อนเลย ! จากคุณ : Draught Beer - [ 23 มิ.ย. 51 16:48:28 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ตัวไปช่วยไม่ได้ งานมันยุ่งมาก ตังค์ก็ไม่มี ช่วงนี้ต้องรัดเข็มขัด อิ อิ ออกไอเดียให้ก็ได้ ลองคิดกันกรอบนี้ดูนะ คนเราสมัยนี้ ต้องรัดเข็มขัดกันทุกคน แต่ก็ต้องกินต้องใช้ชีวิตกันต่อไป ของอะไรที่เกี่ยวกับการกินการใช้ ในชีวิตประจำวัน ในราคาย่อมเยากว่าท้องตลาด รับรองขายดี ได้ทุนเยอะ แต่อะไรที่เป็นของฟุ่มเฟือย ไม่ใช่ของจำเป็นต้องซื้อตอนนี้ จะขายได้ฝืดมากๆ เพราะใครๆก็รัดเข็มขัด ไม่ซื้อง่ายขายคล่องหรอกนะ แบบนี้ก็จะหาทุนไม่ได้เยอะ จุดขายเวลาออกกิจกรรม ก็ตะโกนกันเข้าไป เช่น.... ซื้อมาม่านู๋มั๊ยฮ๊า..... ซุปเปอร์ไหน ก็หาราคานี้ไม่ได้ฮ่า... ของหมด อดแดร๊ก มาม่าราคาเร้าใจน๊าฮ๊า.... ซื้อมาม่าเหมาแผง แถมน้องโซ..... ไปเป็นมาม่าให้ลูกที่บ้านด้วยก็ได้ฮ่า... อะไรประมาณเนี๊ยะ...... จากคุณ : XOOMER - [ 23 มิ.ย. 51 16:55:13 ]

ความคิดเห็นที่ 41 โหวตค่ะ เพื่อน้องแกร่ที่รักของนุ้ย เอ้ย เพื่อน้องช้างเนอะ... จากคุณ : เบื้องญวณ (เบื้องญวณ) - [ 23 มิ.ย. 51 16:56:14 ]

ความคิดเห็นที่ 42 แวะมาขอบคุณแทน คณะทำงานโครงการฯ ทุกๆคนครับ ที่พี่ๆน้องๆ ให้เสียงตอบรับและยืนยันความพร้อมให้การสนับสนุนกันมาอย่างรวดเร็ว ... ปลื้มใจจริงๆครับ ขอบคุณอาหมู xebec ที่ส่งเสียงตอบรับและยืนยันความช่วยเหลือเป็นเงินบริจาคมาอย่างรวดเร็วครับ ขอบคุณ พี่Mr.OB1 สำหรับคำแนะนำดีๆครับ  มีไรแนะนำเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นทางหน้าบอร์ด หรือหลังบอร์ด ขอบคุณ ลุงซูม สำหรับความช่วยเหลือขอพื้นที่จัดกิจกรรมในตลาดนัดจตุจักร ครับ เดี๋ยวคืนนี้จะทยอยลงรายละเอียด เกี่ยวกับการทำโป่งเทียม เพื่อเป็นความรู้ และความเข้าใจในเบื้องต้นให้ทราบครับ . . . วันนี้บังเอิญ งานเข้านิดหน่อยครับ เลยวุ่นๆ ยังโพสกระทู้ไม่ทันจบ  แต่ผมและทุกๆคนในทีมงาน จะทยอยมาอัพเดทข้อมูลเพิ่มเรื่อยๆครับ ต้องขออภัยด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 51 17:04:23 จากคุณ : อ.อดุล - [ 23 มิ.ย. 51 16:56:32 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ห้อง BP มีแต่คนใจดีทั้งนั้นเลย ขอบคุณลุงซูมด้วยคนครับ โครงการนี้จะสำเร็จได้ก้อต้องเพื่ิอนๆ ชาว bp นี้แหละครับช่วยกันสนับสนุน ทั้งแรงกาย แรงใจ อยากให้ติดตามโครงการนี้เป็นระยะระยะนะครับ เพราะจะมีกิจกรรมให้เพื่อนๆทุกคนเข้าร่วมสนุกกันแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นไปขายโปสการ์ด  ไปสำรวจ ไปทำโป่ง โรยตัวการกุศล การประมูลของ   ธรรมชาติยังต้องการแรงกาย แรงใจ จากเพื่อนๆชาว BP  อีกมาก คืนป่า รักษ์น้ำ เพื่อโลกสีเขียว  พึ่งจะเริ่มต้นขึ้น ช่วยกันนะครับเพื่อนๆ จากคุณ : แก่ กรุงเก่า - [ 23 มิ.ย. 51 16:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ความคิดเห็นที่ 41 โหวตค่ะ เพื่อน้องแกร่ที่รักของนุ้ย เอ้ย เพื่อน้องช้างเนอะ... จากคุณ : เบื้องญวณ ^ ^ ^ พี่เบื้องญวณ    มาเกี่ยวอะไรกับผมอ่ะี่พี่ 55  รู้ได้ไงเนี่ยว่าผมได้รับเกียรติลงไปกินดินโป่งเชือกแรก 555 จากคุณ : ช้างจัมโบ้ (แก่ กรุงเก่า) - [ 23 มิ.ย. 51 17:04:03 ]

ความคิดเห็นที่ 45 จากคุณ : หิ่งห้อย...ในทุ่งข้าว - [ 23 มิ.ย. 51 17:04:16 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ไม่ต้องโหวดหรอกครับ กระทู้นี้ เดี๋ยวก็ขึ้นเป็น EVENT ไปแล้ว จากคุณ : xebec - [ 23 มิ.ย. 51 17:04:59 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เอ๊ะ ช้่างป่าเรียกเป็น"ตัว" ไม่ใช่หรือตาแก่ กรุงเก่า จากคุณ : xebec - [ 23 มิ.ย. 51 17:06:00 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เข้ามาบอกเพิ่มเติมค่ะว่ากระทู้โรยตัวเราจะเปิดรับสมาชิกที่จะไปโรยตัวประมาณวันพุธนี้ เดี๋ยวรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ตามอ่านในกระทู้อีกทีนะคะ ส่วนกระทู้ประมูลของจะเปิดวันจันทร์ที่ 30 นี้ค่ะ เพื่อรอรวบรวมของบริจาคจากเพื่อนๆ มาตั้งกระทู้ประมูลค่ะ ซึ่งตอนนี้เราก็ได้ของมาส่วนหนึ่งแล้ว ต้องขอขอบคุณปร้ากระต่ายป่า ปร้าณ วันหนึ่งเราจะมาพบกัน เทียนนกแก้ว โซระคุง และน้องจังเกิ้ล ที่ได้บริจาคของมาร่วมประมูลบ้างแล้ว เพื่อนๆคนใดประสงค์จะบริจาคของมาร่วมประมูล เชิญส่งรูปของมาที่ mail นี้ได้ เลยค่ะ  preyapa_cmu@hotmail.com ขอบพระคุณเพื่อนๆทุกคนที่ให้กำลังใจและสนับสนุนโครงการนี้ทุกท่านนะคะ จากคุณ : สันกาลาคีรี - [ 23 มิ.ย. 51 17:13:35 ]

ความคิดเห็นที่ 49 แลกเปลี่ยนเพิ่มเติมครับพี่ ๆ  * โดยการทำโป่งเทียมนั้น  จะทำโดยการเข้าไปสำรวจบริเวณที่จะทำโป่ง   ซึ่งจะเลือกบริเวณที่มีลักษณะคล้ายกับดินโป่งธรรมชาติ    เมื่อจัดหาเกลือได้ตามชนิดและปริมาณที่ต้องการแล้ว     จะต้องขนส่งเกลือเหล่านี้เข้าไปในป่า   ซึ่งจะต้องใช้ทั้งยานพาหนะและการเดินเท้าจนถึงจุดที่กำหนดไว้ กรณีศึกษาที่เคยพบ(ล้มเหลว)นะพี่ * เขาจะเลือกเอาจุดที่สะดวก ผู้เข้าร่วมมากที่สุด แทนที่จะเป็น จุดที่เหมาะสมที่สุด (ซึ่งอาจจะลำบากสักหน่อย) ผลจึงได้ไม่เต็มที่ เพราะแทนที่จะทำให้ช้าง อยู่ในป่าเดิม กลับออกมานอกเขตป่าเดิมมากขึ้น ช้างป่าทานอาหารหลายชนิดครับ ใน อช กุยบุรีนั้น ถ้าเป็นไปได้ อยากให้เลือกจุดที่นักวิจัยด้านสัตว์ป่าเห็นชอบด้วยแล้วครับ ลองปรึกษานักวิชาการดูก่อนนะครับ 2. การมีส่วนร่วม แม้ว่าเราจะไปด้วยใจอาสาที่บริสุทธิ์และงดงาม แต่ถ้าจะให้ครบมิติ ในการเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการปัญหาคนกับช้างป่า ทีมงานสำรวจจัดทำโป่ง ลองแวะไปหาท่านเหล่านี้ดูครับ ลุงแอ๊ด สิงห์ สืบสุทธา ผู้ใหญ่สุ่น น้าใจ จนทรุ่นอาวุโส ที่ได้เลือกเป็นคนหาต้นจันทร์ในงานสำคัญ) ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ทั้งสิ้น  คนที่ใกล้ป่า อยู่กับพื้นที่จริงตลอดครับ เชื่อว่าท่านทั้งหลายที่ผมกล่าว ต้องการมีส่วนร่วมสนับสนุนทั้งสิ้นครับ *** 3. โป่งเทียม ในหลายจุดของที่นี่ ไม่ได้เหมาะที่จะทำนะครับ ผมอ้างอิงตามแผนงานฟื้นฟูและจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ข้อ 3.2 ครับ (จัดทำโดย กรมอุทยานฯ / อช กุยบุรี  / WWF ชาวบ้าน สกว และอีกหลายส่วน  2548-2550 ) ซึ่งระบุชัดถึงแนวทางการจัดการว่า -------- 3.2 ขจัดแหล่งอาหาร เช่น โป่งเทียม แหล่งน้ำที่อยู่บริเวณแนวเขตอนุรักษ์ ด้วยการ ปิดโป่งเทียม และฝังกลบแหล่งน้ำบริเวณแนวเขต รวมถึง บริเวณพื้นที่เกษตรที่พบช้างป่าที่ไร้ประโยชน์ ----- *** ขยายความนะครับ ในข้อนี้คือ ตอนนี้จะมีโป่งเทียมอยู่บ้าง แถบป่ายาง (หน่วยพิทักษ์) ก็ทำการปิด- ไม่ควรเพิ่มใหม่ในบริเวณนั้น  ครับ ที่ผมเคยเห็นเองจากการเดินป่าและร่วมทำค่ายเยาวชนที่นั่นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จะเป็นที่หลังที่ทำการ ซึ่งก็ไม่ได้ผล สัตว์ป่าเขาไปเปิดโป่งธรรมชาติใหม่เล็ก ๆ แทนเสียด้วยซ้ำ  และก็คาดว่าปิดไปแล้วเช่นกัน (แม้ไม่ปิดก็ไม่มีสัตว์ป่ามาทานอ่ะ แต่ท่านที่ใจดีมาทำตรงนั้นไว้หากไม่ได้ติดตามต่อเนื่อง ก็จะไม่ทราบว่าผลลัพภ์เป็นอย่างไร)     หากจะมีจุดที่ทำโป่งเทียม หรือแหล่งน้ำ แนวโน้ม จากผลการศึกษาที่น่าจะนับว่าล่าสุด มีการเสนอให้ เน้นไปที่ป่าลึก หรือ การฟื้นฟูย่าน ทุ่งพลายงาม (เราอาจลองมุ่งไปสนับสนุนเป้าหมายที่หน่วยงานต่าง ๆ ผนึกกำลังกันพิจารณาไว้แล้ว) ซึ่งช้างป่าหายไป 10 ปีแล้วให้กลับมา เป็นพื้นที่สำหรับช้างได้อีก แทนที่จะให้แออัดในพื้นที่เดิม นะครับ        จากผลการวิจัย ชี้ว่า ประชากรช้างไม่กระจายตัวตามที่ธรรมชาติจะเป็นแบบนั้น เพราะการรุกล้ำและรบกวนโดยมนุษย์ (แถบทุ่งพลายงาม) และ การวางตำแหน่งโป่งเทียมบางแห่งมีความผิดพลาด ทำให้ช้างออกมาหากินรอบนอกแทน และนำไปสู่การกระทบกับชุมชนและวิถีของช้างเอง (รวมถึงแหล่งน้ำที่ถูกสร้างขึ้นมาเสริมในช่วงต้นของการแก้ปัญหา ระหว่างปี 38-42 ที่ช้างล้มไป 4 ตัวด้วยครับ) ทุกอย่างเกี่ยวพันกันหมด   ** ตำแหน่งการวางโป่งเทียม ถ้าจะมีอีกที่นั่น จึงควรคิดและกระทำอย่างรอบคอบอย่างยิ่ง  (โดยเฉพาะในกรณีเลือกพื้นที่แถบป่ายาง ) **      ผมเองเชื่อมั่นเต็มร้อยว่าทุกท่านมีจิตสำนึกดีงามทุกคน และยินดีด้วยที่ในที่สุดชาว BP ก็ทำได้ครับ ผมเชื่อว่าท่านจะเลือกแนวทางที่เหมาะสมและอยู่ในกำลังของอาสาที่จะทำได้ในที่สุด  และให้สิ่งดี ๆ ให้กับช้างป่าและสรรพชีวิตที่นั่นอย่างแน่นอนไม่ว่ามากหรือน้อย  *_* แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 51 18:54:12 จากคุณ : Mr.OB1 - [ 23 มิ.ย. 51 18:18:53 ]

ความคิดเห็นที่ 50 วามคิดเห็นที่ 47 เอ๊ะ ช้่างป่าเรียกเป็น"ตัว" ไม่ใช่หรือตาแก่ กรุงเก่า จากคุณ : xebec ^ ^ ^ ก้อผมเป็นช้างบ้านอ่ะครับอาหมู แต่บางครั้งชอบแอบไปหาช้างเผือกในป่าอ่ะครับ 55 จากคุณ : แก่ กรุงเก่า - [ 23 มิ.ย. 51 18:24:53 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เอ่อ มันไวมากค่ะ กระทู้นี้ อยากทราบรายละเอียด เที่ยวน้ำตกค่ะ กลัวหากระทู้ไม่เจออ่ะ T____T จะไปทำอะไรกันที่จตุจักร ก็แจ้งด้วยนะคะ อยากช่วยจริงๆ คราวที่แล้วไปเมืองทองมา ไม่เจอ บูทนี้เลยค่ะ จากคุณ : vnv - [ 23 มิ.ย. 51 18:29:04 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ชีวิตของช้างป่าต้องการอะไร ? (อ้างอิงจากหน้า 60 ของข้อมูล คนกับช้างป่าบนสถานการณืใหม่ อช กุยบุรี บทเรียนจากการจัดการบนฐานข้อมูลวิชาการและหลักคิดด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม) ผลการสำรวจยืนยันชัดเจนว่า ป่าธรรมชาติในเขต อช รวมถึงป่าพื้นที่ราบไม่ได้ขาดแคลนแหล่งน้ำในฤดูแล้ง ในส่วนของดินโป่ง ก็พบกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ (ซึ่งตรงข้ามกับสมมุติฐานเดิมก่อนหน้าปี 48 ที่ว่า ช้างป่าขาดน้ำในหน้าแล้งจึงออกมานอกเขต หรือ ขาดแคลนดินโป่ง ) ทำไมช้างป่าจึงออกมากินพืชไร่  - ก็มาจาก 1. พื้นที่ในป่า(หลายส่วนของอช) ไม่มีความปลอดภัย มาจากการลักลอบล่าสัตว์ การเก็บของป่า การบุกรุกของมนุษย์ และการท่องเที่ยวดูช้างป่าที่ขาดมาตรการจัดการ 2. ในป่าขาดอาหารหรือไม่ ไม่แม่ใจเพราะไม่มีข้อมูลเชิงวิชาการรองรับ แต่ที่แน่นอนคือ ในแนวเขตอช มีการปลูกพืชที่ช้างป่ามักจะกิน เช่น สัปปะรด ขนุน มะม่วง นอกจากนี้ยังพบ การทำแหล่งน้ำ การทำโป่งเทียม และการปลุกพืชอาหารสัตว์ รวมถึงการนำอาหารมาเลี้ยงช้างป่า(ในบางช่วง) ที่ล้วนแล้วแต่จูงใจให้ช้างป่าออกมารอบนอกเขตป่าทึบ สิ่งที่ควรทำ (ตามผลการวิจัยนี้ - โดยสรุปนะครับ) ข้อ 2.3 ปรับปรุงแหล่งอาหารของช้างป่า เช่น สร้างความอุดมสมบูรณืให้กับแปลงหญ้า เขตขอบป่าทึบ 2.4 จัดทำโป่งเทียมและเสริมเกลือแร่ในโป่งธรรมชาติ ในป่าลึก 2.5 จัดทำฝายต้นน้ำ เน้นในป่าลึก จะเห็นว่า การทำโป่งเทียม ในเขตแนวเขต อาจให้ผลแตกต่างจากการเข้าไปทำในป่าลึก เพราะจะจูงใจให้ช้างอยู่ในป่า แต่ไม่จำเป็นต้องเสริมโป่งเทียมอีก เพื่อมิให้ช้างขาดแร่ธาตุแต่อย่างใด เพราะช้างมีศักยภาพในการค้นหาโป่งธรรมชาติเอง และ ผลการสำรวจยืนยัน การกระจายตัว และ ศักยภาพอีกมากที่จะมีโป่งธรรมชาติใน อช กุยบุรี เพียงแต่ต้องฟื้นฟูสภาพให้เอื้อต่อการอยู่ในป่าทึบมากกว่าขอบป่า (ที่เป็นแนวทางเดิมก่อนปี 50 ) ครับ .. ลองพิจารณาดูนะครับพี่ ๆ *** จากคุณ : Mr.OB1 - [ 23 มิ.ย. 51 18:37:03 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณคุณMr.OB1 มากค่ะสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ เดี๋ยวจะส่งต่อให้ทีมที่จะเข้าไปสำรวจนะคะ คุณvnv  สำหรับเรื่องการโรยตัว เราจะเปิดกระทู้ให้ลงชื่อในวันพุธนี้ค่ะ คงจะเอากระทู้ขึ้นไปไว้ที่ EVENT ค่ะจะได้หาได้ง่ายๆ   สำหรับรายละเอียดคร่าวๆ ค่าโรยตัวคนละ 1,200 บาท จากปกติ  1,950บาท   แบ่งเป็นเงินสมทบทุนการทำโป่งเทียม 800 บาท    ค่าใช้จ่ายสำหรับสหกรณ์ส่งเสริมท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำวังบอน  200  บาท   และค่าใช้จ่ายสำหรับ บ.สาริกา แอดเวนเจอร์พอยท์   200  บาท ส่วนการโรยตัว โรยยังไง โรยที่ไหน ตามไปดูที่กระทู้นี้เลยค่ะ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6632916/E6632916.html จากคุณ : สันกาลาคีรี - [ 23 มิ.ย. 51 18:37:58 ]

ความคิดเห็นที่ 54 หากแท้จริง หลังการยืนยันโดยนักวิชาการ และ นักวิชาการพื้นที่ (คือ ชาวบ้านที่อยู่กับป่านี้มานานหลายสิบปี) หากการทำโป่งเทียม มีความยุ่งยากในการยืนยันความแน่ชัดว่า ผลกระทบที่เกิดหรือประโยชน์ที่ได้ อาจไม่คุ้มค่าและไม่เหมาะสมกับธรรมชาติในพื้นที่อช กุยบุรี  ที่มีผลการสำรวจระบุแล้วว่า ระบุช้างป่าที่กุยบุรีมิได้ขาดแคลนดินโป่ง ตามสมมุติฐานเดิมแต่อย่างใด (ที่นี่เกิดปัญหามาตั้งแต่ปี 38 และ การระดมสรรพกำลังหลายฝ่ายล่าสุดก็เป็นช่วงปี 48-50 ครับ)    เราอาจจะลองพิจารณาแนวทางอื่น ๆ ดูบ้าง  จะเป็นไปได้ไหมครับ แต่หากทุกฝ่ายทวนสอบแล้วยังยืนยันและเห็นว่าเหมาะสม ก็ลุยโลดต่อเลยครับ *_* จากคุณ : Mr.OB1 - [ 23 มิ.ย. 51 18:47:27 ]

ความคิดเห็นที่ 55 Mr.OB1  -  ขอบคุณมากครับที่มาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เดี๋ยวพี่ๆผู้ชำนาญการด้านนี้คงเข้ามานำเอาข้อมูลที่คุณ Mr.OB1 มาโพสให้ดู ไปศึกษาถึงรายละเอียดอีกทีและคงจะนำเอาข้อมูลนี้ไปทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับช้างป่าของกุยบุรี   ถ้ามีอะไรที่น่าสนใจหรือเป็นประโยชน์กับทางทีมงานรบกวนคุณ Mr.OB1  มาโพสแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอีกนะครับ ^_^ จากคุณ : แก่ กรุงเก่า - [ 23 มิ.ย. 51 18:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เข้ามาชื่นชมโครงการดีๆ ค่ะ แล้วจะตามข้อมูลต่อนะคะ จากคุณ : หมอกหนาว - [ 23 มิ.ย. 51 19:07:02 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เสนอหน้ามาสารภาพว่าช่วงนี้งานยุ่งมากมาย ไม่มีเวลาไปช่วยได้สักเท่าไหร่ ได้แต่ฝากของไว้ให้ประมูล  ซึ่งได้ข่าวว่าจะขึ้นกระทู้อาทิตย์หน้า แต่แว่..ไหนๆ ก็เข้ามาเสนอหน้าแล้ว ขอเสนอภาพของประมูลเรียกลูกค้าไวก่อนได้มะ ชิ้นแรก .. กระเป๋าสะพาย ลายสานต่อด้วยผ้า สีฟ้าสวยงาม ..ถ้าใครประมูลได้ไปก็จะงามเฉกเช่นเดียวกัน จากคุณ : ณ วันหนึ่งเราจะมาพบกัน - [ 23 มิ.ย. 51 19:34:00 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ชิ้นที่ 2 กระเป๋าผ้า น่าจะใช้ถือ เพราะสายมันสั้นสะพายไม่ได้ ภายในบุผ้าสวยงาม สมคุณค่าของยี่ห้อ pasaya หรือที่คุณปร้าอิ๋ม เค้าบอกว่า ต้องอ่าน "แพศยา" เป็นความงามที่คุณคู่ควรจริงๆ นะ   จากคุณ : ณ วันหนึ่งเราจะมาพบกัน - [ 23 มิ.ย. 51 19:37:30 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เพื่อพี่เขียวของน้องโซ... งานนี้โซลงทุนเอาตัวเข้าแลกเลยค่ะ... ลุงซูมขรา... อาจจะมีข่าวดี เกย์กลับใจก็ได้นะคะ   ขอบคุณไอเดียลุงซูมนะคะ ซื้อมาม่าแถมโซ  หนูว่ามาม่าเป็นหมันแหงเลย.... คิดก่อน ขายอะไรดี ขอบคุณไอเดียดีๆจากลุงซูมนะคะ ซื้อของ 1 ชิ้น แจกฟรี 1 จูบดีมั้ยคะ 5555555 หนูขอไปคิดๆๆก่อนว่า จะขายอะไรดี ประกาศโดยทราบให้ทั่วถึงกัน พี่น้องขรา............... เสี่ยบอกว่า จะเอาของร่วมประมูลด้วย 1 ชิ้น พร้อมกลิ่นที่หมักดองมานานกว่า 40 ปี ไว้เรามาคอยลุ้นกันนะคะ ว่า เสี่ยจะส่งอะไรเข้าประกวด ขอบคุณทุกๆคนอีกครั้งที่นะคะ ทั้งที่เอ่ยนามและไม่เอ่ยนาม... ปล.ลุงซูม หนูหักห้ามใจแทบแย่ ที่จะไม่พากระทู้ออกทะเล   จากคุณ : Zorakun - [ 23 มิ.ย. 51 19:39:01 ]

ความคิดเห็นที่ 60 .........กระเป๋า  ปร้า  นะ...1 วัน....น่าประมูลมั่กมาก..... คล้องกับ  แขน  อวบๆ  อิ่มๆ  ของเรา  คงเข้ากันมิใช่น้อย   จากคุณ : KRATAIPA - [ 23 มิ.ย. 51 19:43:16 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อยากเอาของที่จะส่งเข้าประกวดมาอวดบ้างจัง แต่ ให้ลุ้นวันเปิดตัวดีกว่า เริ่มที่ 69 ดีม่ะ เผื่อแกงค์ที่ชอบ 69 จะได้รีบเข้ามาประมูล จากคุณ : Zorakun - [ 23 มิ.ย. 51 19:47:56 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอโทษทีครับ  พอดีวันนี้ติดธุระหลายๆเรื่อง เลยเข้ามาทักทายเพื่อนๆช้าไปหน่อยครับ.... ดีใจมากมายครับสำหรับเพื่อนๆในห้องนี้กับการรวมตัวเพื่อช่วยเหลือให้ธรรมชาติที่เหลืออยู่กลับฟื้นคืนมา ไม่ว่าสัตว์หรือพืชไม้ใบหญ้าในป่าใหญ่ทั้งหลายครับ โครงการดังกล่าวไม่ได้มุ่งเน้นจะทำงานเฉพาะที่หนึ่งที่ใดหรือเพียงโครงการเดียวเท่านั้น  ที่นี่จะรวมกลุ่มเพื่อทำงานกันแบบต่อเนื่องให้กับที่มีปัญหาทั้งจากเรื่องสิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่าทั้งหลาย สำหรับเรื่องแรกที่ทางชมรมฅนรักษ์สัตว์ป่า ซึ่งได้แยกส่วนมาจากหน่วยงานวิจัยสัตว์ป่า ของกรมอุทยานฯที่มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อรณรงค์ให้ผู้คนรู้จักช้างและรักในธรรมชาติที่เหลือน้อยนิดขึ้นมา ในตอนนี้เรื่องของช้างในพื้นที่ป่า อช.กุยบุรีและทุ่งใหญ่  ได้กำเนิดลูกน้อยมากมายหลายตัวทีเดียว สิ่งที่ใครๆอยากหยิบยื่นก็คือเรื่องของการดูแลเพิ่มเติมแร่ธาตุอาหารในบางจุดเสริมเข้าไปเพียงเท่านั้นครับ คงไม่ใช่ในสิ่งที่หลายๆฝ่ายกำลังวิตกในเรื่องบางประเด้นที่เป็นปัญหาจากพื้นที่  ไม่ว่ากรณีที่เกิดความแตกแยกประเด้นของชุมชนและคนรักษาป่าคือเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานบางส่วนที่เคยเกิดมีปัญหามาแล้วเมื่อหลายปีก่อนที่ผ่านมา ก่อนอื่นที่เราจะพูดคุยกันในหลายๆเรื่องนั้น ผมต้องขอทักทายต้า จากแทดกิ้งไทยก่อนนะ  ต้องขอบใจต้ามากๆสำหรับเรืองข้อมูลที่นำมาเสนอให้ทราบจ้า ในปัญหาต้าชี้แจงมาทั้งหมดนั้น ถามพี่เองนะพี่บอกได้เลยว่าทราบเรื่องนี้ดีมาตลอดถึงปัญหาที่มีความเป็นมาและมีปัญหามากกว่าเรื่องของช้างอีกด้วยจ้าสำหรับที่ผืนป่ากุยบุรีแห่งนี้ แต่สื่งที่ง่ายๆสั้นๆเรื่องของเรื่องกับโครงการดังกล่าวเพียงจะเปิดในประเด้นของการรักและช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมที่บ้านป่ายาง ซึ่งกำลังมีการทำแปลงปลูกหญ้าและฝ่ายวิจัยที่เข้าไปทำงานในส่วนตรงนี้ก็คิดเพียงเสริมอาหารให้ช้างน้อยที่กำลังเติบโตเท่านั้นจ้า ตามข้อมูลในขั้นต้นที่ต้าชี้แจงถูกต้องทั้งหมดนะครับและทุกๆคนก็ทราบหมดแล้วเช่นกันครับ  และขอบคุณต้านะที่เพิ่มเติมในบางเรื่องให้สมบูรณ์และทำให้เห็นถึงว่าคนของรัฐและชุมชนกำลังทำงานในด้านใดบ้าง... เดี๋ยวขออนุญาตนิดหนึ่งครับ พอดีมีธุระด่วนจริงๆ เดี่ญวกลับมาเพิ่มเติมในเรื่องที่เราต้องเลือกพื้นดังกล่าวด้วยเหตุใด และการพิจารณาในสิ่งที่เรียกว่าอาหารเสริมใครคือเป็นผู้พิจารณาในหลักการดังกล่าวครับ ขอบคุณเพื่อนพ้องทุกๆท่านครับ..... จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มิ.ย. 51 19:52:14 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณค่ะพี่ Mr.OB1 ได้อ่านข้อมูลก็เลยเข้าใจเลยค่ะ เพราะว่า ปีที่แล้วโจ้ก็เคยไปค่ายอาสา ทำโป่งช้าง สร้างฝาย และวิ่งหนีตายที่กุยบุรีพร้อมเพื่อน ๆ ซึ่งก็ได้มีการแบ่งกลุ่มไป ทำโป่งเทียม 3 กลุ่ม ใน 3 จุด หลังจากลองสอบถามพี่ ๆ ที่จัดค่าย บอกว่ามีบางโป่งล้มเหลว สัตว์ไม่มามากินโป่ง แต่ไม่ได้สอบถามต่อไปว่าเพราะสาเหตุอันใด แต่คราวนี้ ได้วางแผนร่วมกับพี่ ๆ ชมรมฅนรักษ์ช้าง ซึ่งมีทีมวิจัยช้างป่า รวมอยู่ด้วย (ใช่หรือเปล่าคะ พอดีวันที่ประชุมที่เมืองทองแอบงีบไปนิดนึง อิอิ) การวางแผน การขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ รวมถึงพื้นที่ที่เราจะเข้าไปทำโป่ง น่าจะอยู่ในระยะหวังผลได้ค่ะ แต่ที่แน่ ๆ ข้อมูลจากทุก ๆ ท่านในกระทู้นี้ เป็นประโยชน์ต่อ ทุกคนที่เข้ามาติดตาม เหมือนที่โจ้ได้รับไปพร้อม ๆ กันแน่นอนค่ะ ขอบคุณทุก ๆ ท่านค่ะ จากคุณ : Kaper - [ 23 มิ.ย. 51 19:59:10 ]

ความคิดเห็นที่ 64 อ้าว มัวแต่พิมพ์ อาก๋งตัดหน้าหนูเลย 555+ จากคุณ : Kaper - [ 23 มิ.ย. 51 20:02:03 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เมื่อแรกเริ่ม โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สืบมาจนถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังมีการสร้างโป่งเทียมที่กุยบุรีเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ แต่เหมือนจะไม่เพียงพอ เนื่องจากมีบางโป่งล้มเหลว ช้างไม่มากิน แต่ก็มีบางโป่งอีกเช่นกันที่สำเร็จแต่ไม่เพียงพอต่อจำนวนช้างป่าที่เพิ่มขึ้น อืมมมมมม....ช้านต้องการจะสื่อสารอะไรเนี๊ย  เขียนแล้วก็งง เอาเป็นว่า รอพี่สาริกาดีกว่า     ความรู้น้อยนิดเบาปัญญา ขออยู่ฝ่ายเอนเตอร์เทนแล้วกันนะ จากคุณ : ฉินเมิ่งเหยา - [ 23 มิ.ย. 51 20:48:16 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ^ ^ ขึ้นต้นมาเหมือนจะดีมีวิชาการมากมายนะยะ ถ่านหมดซะงั้น คิกๆๆๆ จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 23 มิ.ย. 51 20:59:31 ]

ความคิดเห็นที่ 67 พี่ฉินง่ะ หนูก็ตั้งใจอ่านซะ จากคุณ : Kaper - [ 23 มิ.ย. 51 21:09:58 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เดี๋ยวไปหาของมาช่วยประมูล + ส่งเงินอิๆๆ จากคุณ : bicycle_trend - [ 23 มิ.ย. 51 21:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 69    จะมาเอาอะไรกะช้านย่ะ ยัยปร้าอิ๋ม  ยัยกาเป๋อ.... ขึ้นต้นได้ขนาดนั้นก็เก่งแล้วนะ bicycle_trend  ให้ว่องเลยน้อง อย่าช้า มีเท่าไหร่ส่งมาให้หมด จากคุณ : ฉินเมิ่งเหยา - [ 23 มิ.ย. 51 21:17:19 ]

ความคิดเห็นที่ 70 โจ้ๆๆ   พี่ก็ตั้งใจอ่านมากเลย โอ๊ววววว....  วิชาการ    ตั้งใจๆๆ ผ่านไปสามบรรทัดอย่างมีสมาธิ    พอจบบรรทัดสี่ อ้าวววว  มีการเว้นขึ้นย่อหน้าใหม่ โอ๊ววววว.....  ถึงตอนสำมะคัญ พอบรรทัดที่ 5    โจ้เอ๊ยยยยย   พี่ขำจนน้ำตาไหลเลยอ่ะ มุกแกร้ายจริง ๆ     สวัสดีคุณ bicycle_trend นะจ๊ะ จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 23 มิ.ย. 51 21:21:03 ]

ความคิดเห็นที่ 71 หวัดดีครับน้าสหายสาริกา แจ่มเลยครับน้าครับ ว่าแล้ว ผมขอเสนอแผนเชิงรุก ฟุ้งต่อไปเรื่อย ๆ นะพี่ว่า เนื่องจากชาว BP มีทั้งจิตสำนึกและมีพลัง รวมทั้งยังมีประสบการณืด้านงานอนุรักษ์อย่างมากอีกด้วยครับ (ตรงนี้พิเศษกว่าทั่วไป)  ดังนั้น อาจสามารถข้ามขั้นของกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ขั้นเริ่มต้น (เช่น การระดมแรงไป อาสาทำโป่งเทียม ทำฝาย ปลูก(สวน)ป่าเชิงเดี่ยว บริจาคสิ่งของ ซึ่งเป็นเจตนาดี งดงาม น่าชื่นชมทั้งสิ้น แต่จะเป็นออกแนวเชิงรับ หรือ บางครั้งก็คาบเกี่ยวกับอะไรอีกหลายอย่าง )  ให้ไปได้ไกลและลึกกว่าอีกนิดนึงกับกิจกรรมที่เราจะทำกัน ไหน ๆ ก็เป็นระดับชาว BP แล้ว อิอิ          กรณีนี้ ทาง BP อาจสนับสนุนงานวิจัย ขั้นต่อยอด ให้กับชมรมฅนรักษ์สัตว์ป่า เป็นงานต่อยอดให้สอดคล้องกับศักยภาพแท้จริงที่มี ในส่วนอีกหลายคำถาม ที่มีคำถาม แต่คำตอบไม่ชัดเจนตามหลักวิชาการ และ สนับสนุนนักวิจัยพื้นที่ (ชาวบ้าน) เข้าร่วมในโครงการระยะสั้น เช่น ทำการวิจัยต่อเนื่อง เพื่อตอบคำถาม และหาคำตอบว่า ทำอย่างไร  เป้าหมาย จะดูแลลูกช้างเกิดใหม่ได้ดีที่สุด และเหมาะสมกับพื้นที่ที่สุด  เช่น แนวทางการผลักดันโขลงเข้าสู่แหล่งอาศัยในป่าแบบกระจาย ให้ได้ผลยั่งยืนและถาวร เป็นต้นนะครับ หรือ วิเคราะห์สาเหตุที่สัตว์ไม่เลือกมากินโป่งเทียม เป็นต้น เขารู้สึกว่ามันไม่อร่อย หรือ เขาคิดอย่างไร การรู้ให้แน่ชัดต้องใช้ทุน และทุนเหล่านี้ ในหัวข้อย่อย ๆ เหล่านี้ อาสาและการระดมเงินทุน ทำได้และจบได้ในช่วงสั้น แต่ส่งผลได้ต่อเนื่องในระยะยาว  หรืออื่น ๆ อีกมากมาย หรือคิดค้นกิจกรรมใหม่เสียเลย (ไม่มีความรู้ลึกซึ้งครับ แอ่ะ ๆ)        จากนั้นในวันจบโครงการช่วงแรก (เช่นกำหนดไว้ 3 เดือน)  ชาวเมืองก็ไปเยือนชาวบ้านและนักวิจัย รับฟังและท่องเที่ยวเชิงนิเวศด้วยกัน พูดคุยกัน   ชมช้างแบบไม่จำเป็นต้องเห็นช้างก็ได้เป็นต้น หรือถ้าต้องการออกแรง หรือกระทำกิจกรรมอนุรักษ์เชิงสัญญลักษณ์ ลองดีไซน์กิจกรรมบางอย่างขึ้นมาก็ได้ครับ ให้อาสาได้ชื่นใจและตอบสนองความต้องการได้ไปพร้อม ๆ กับโครงการด้วย และแนวทางใหม่นี้ต่อไปอาจเป็นต้นแบบให้  บริษัท หน่วยงานอื่น นำไปปฏิบัติต่อไปอีกนะคร๊าบ   ก็ขอชูจั๊กกะแร้เชียร์ให้เราทำสิ่งที่ลึกไปได้อีกขั้นหนึ่ง เรื่องความรู้นั้นดูจากรายนามท่านที่ปรึกษาแล้วหายห่วงครับ สุดยอด .. แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 51 21:47:30 จากคุณ : Mr.OB1 - [ 23 มิ.ย. 51 21:45:14 ]

ความคิดเห็นที่ 72 พี่ต้าร์ Mr.OB1  โจ้ชอบตรงนี้อ่ะค่ะ วิเคราะห์สาเหตุที่สัตว์ไม่เลือกมากินโป่งเทียม เป็นต้น เขารู้สึกว่ามันไม่อร่อย หรือ เขาคิดอย่างไร เคยแอบชิมโป่งที่ทำเหมือนกันค่ะ แต่ ... กินข้าวเหมือนเดิมดีกว่า เจอ คห. พี่ฉิน เข้าไป ฮาซะจนต้องหายาดม   ไปต่อไม่ถืกเลยจริง ๆ จากคุณ : Kaper - [ 23 มิ.ย. 51 22:14:13 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เรียนคุณ Mr.OB1 ครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลและสาระดีๆ ที่นำมาร่วมแสดงความคิดเห็นครับ ทุกสาระข้อมูล ที่นำเสนอมานั้น เราจะนำมาร่วมในการพิจารณากำหนดกิจกรรมครับ แต่อยากจะอธิบาย จุดมุ่งหมายของการดำเนินโครงการเพิ่มเติมสักเล็กน้อยครับ การกำหนด หรือเลือกกิจกรรมต่างๆ เราไม่อยากมองข้ามกิจกรรม ที่คุณMr.OB1 เรียกว่าเป็นกิจกรรมสัญลักษณ์  แต่เรามองว่าทุกกิจกรรม ที่เอื้อประโยชน์ ต่อธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และเราสามารถปฏิบัติได้จริง ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญที่เราขอคำปรึกษา  ทุกอย่างล้วนมีประโยชน์ทั้งสิ้น นั่นไม่ได้หมายความว่า กิจกรรมในเชิงลึก อย่างเช่นการสนับสนุนงานวิจัย หรืออื่นๆ เราจะมองข้ามไป  เพียงแต่ว่า กิจกรรมที่เราเลือกนั้น ส่วนหนึ่ง เราจะพิจารณา โดยเหตุผลประการหนึ่งด้วยว่า เพื่อนๆ ชาว BP ซึ่งมีความหลากหลาย ทั้งในด้านวิชาชีพ และประสบการณ์ แต่มีความรักใรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เหมือนกัน  สามารถสัมผัส เข้าใจ รับรู้ และเข้าร่วมได้โดยไม่ยากนัก และเราก็พร้อมที่จะต่อยอดในกิจกรรมเชิงลึก ด้านการอนุรักษ์ ถ้าเพื่อนชาว BP และคณะที่ปรึกษา เห็นสมควร หรือมีการร้องขอจากหน่วยงานที่ต้องการความร่วมมือ หรือช่วยเหลือ และการระดมพลังของเพื่อนชาว BP ตามจุดประสงค์ของโครงการนี้นั้น ก็จะไม่ได้จบที่การไปทำโป่งเทียม ที่กุยบุรี เพียงอย่างเดียว จะสังเกตุ ได้จากการใช้ชื่อโครงการ ต่อด้วย ตอน ... สร้างโป่งเทียมเพื่อลูกช้างป่ากุยบุรี ซึ่งเมื่อมีการระดมทุนจากกิจกรรมต่างๆ ที่ผมได้ชี้แจงไปแล้วนั้น ดำเนินไปเป็นขั้นตอนตามที่เรากำหนดแผนกิจกรรมไปแล้วนั้น เราก็จะมีการแจกแจง รายรับ รายจ่ายที่เกิดขึ้น จากการดำเนินกิจกรรมอย่างโปร่งใส  พร้อมทั้งเปิดให้มีการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ จนถึงขั้นตอน การนำเงินกองทุนดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ ให้ชาว BP ได้มีโอกาสเข้าร่วมอย่างอิสระ ชัดเจน และสัมผัสได้จริง โดยความคิดเห็นส่วนตัว ผมมองว่ากิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ถึงคนที่คลุกคลี อยู่กับการอนุรักษ์ในเชิงลึก อาจจะมองว่า มันเป็นเรื่องง่าย   แต่สำหรับบุคคลทั่วไป มันคือการหยิบยื่นโอกาส ให้เค้าได้เข้ามาสัมผัสกับงานอนุรักษ์โดยตรง มันคือ "สัญลักษณ์" ของการแสดงออกถึงน้ำใจ ที่เค้าสามารถจะหยิบยื่นให้กับธรรมชาติ และยังเป็นการเสริมสร้างจิตสำนึกในการดูแลรักษาธรรมชาติ ต่อยอดขยายผลไปจนถึงการทำงานเชิงอนุรักษ์ ที่ยั่งยืนต่อไปได้ครับ . . . ในฐานะที่เป็นคนหนึ่งของคณะทำงานโครงการนี้ ขอขอบคุณข้อมูลและแนวทางดีๆ ที่คุณMr.OB1 ได้สละเวลาอันมีค่ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่งก็ทำให้ผมและเพื่อนๆ ได้รับความรู้เพิ่มเติมอีกมากมาย และขอรับปากว่า เราจะดำเนินกิจกรรมโครงการ คืนป่า รักษ์น้ำ เพื่อโลกสีเขียว   ด้วยความละเอียดรอบคอบ ทั้งทางด้านการความร่วมมือของเหล่าเพื่อนพ้อง น้องพี่ ชาว BP และกิจกรรมภาคสนาม ที่จะคืนสู่ป่า อย่างจริงจัง และพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกท่าน  เพื่อประโยชน์สูงสุดของโครงการฯต่อไปครับ **แก้คำผิดครับ แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 51 23:20:03 จากคุณ : อ.อดุล - [ 23 มิ.ย. 51 23:15:24 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เข้าแสดงเสียงสนับสนุนด้วยคนค่ะ จากคุณ : dekdkrab - [ 23 มิ.ย. 51 23:17:24 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ...ขอสนับสนุนและเป็นกำลังใจด้วยครับ จากคุณ : Red Fox - [ 23 มิ.ย. 51 23:31:43 ]

ความคิดเห็นที่ 76 พอดีแอบๆหลบหนีภาระกิจบางประการกลับมาถึงบ้านแล้วครับ.... หวัดดีจ้าต้า....มาต่อยอดความคิดของต้าเลยนะ  จากการเดินงานของฝ่ายวิจัยและกลุ่มสัตว์แพทย์ก็คือการศึกษาเรื่องถิ่นอาศัยและการโยกย้ายที่หากินของช้างป่าที่กุยบุรี  เมื่อราวปี2548 ได้เริ่มทำงานวิจัยเพื่อช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ในระยะยาวๆจึงได้ตั้งคณะทำงานชุดหนึ่งเดินเข้าพื้นที่มาเก็บข้อมูลทั้งเรื่องของช้างและคนที่อาศัยรอบๆข้างป่า ครั้นเมื่อปีที่แล้วผลของการศึกษายังไม่มีบทสรุปอะไรได้ทั้งหมดจ้า  ฝ่ายวิจัยจึงเล็งผลอีกแนวทางเพื่อให้ต่อเนื่องไม่อยากให้เกิดการขาดตอนของแผนพัฒนา ด้วยการจะพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นแหล่งที่มีการส่งเสริมชาวบ้านในเรื่องของการท่องเที่ยวร่วมกับทางหน่วยงานรัฐ เช่นนำนักท่องเที่ยวเข้ามาชมพื้นที่ดังกล่าวโดยที่ฝ่ายวิจัยจากกรมฯกำลังพัฒนาปลูกหญ้าและเสริมโป่งที่ร้างกลับฟื้นคืนมา เพื่อให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่สนใจได้เรียนรู้และศึกษาจากหลายๆเรื่องสำหรับวงจรชีวิตของช้างและสัตว์อื่นๆรวมถึงคนชายขอบป่าอีกด้วย ตรงนี้แหละที่ผมจะบอกหลายๆคนว่า  มันก็ตรงกับใจที่ทางต้าได้คิดเช่นกันคือการทำงานในเชิงรุกครับ แต่ในขณะเดียวกันทางชมรมฅนรักษ์ช้างป่าก็กำลังดำเนินการศึกษาเรื่องของอาหารเสริมที่เราอาจจะเรียกว่าไม่ค่อยประสพผลสำเร็จนักต่อช้าง ซึ่งจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อผลการศึกษาจากหลายๆฝ่ายทั้งหน่วยวิจัยและสมาคมสัตว์แพทย์สรุปเรื่องดังกล่าวส่งมาให้ทราบจ้า และนี่แหละคือโครงการแรกของกลุ่มเพื่อนๆจากBP ที่กำลังรอการพิจารณาจากฝ่ายวิจัยของกรมอุทยานฯจะแจ้งให้ทางเราทราบว่า อาหารเสริมที่ต้องนำมาใช้ในครั้งนี้เป็นประเภทอะไรบ้าง โดยมีคณะทำงานฝ่ายวิจัยเป็นผู้สรุปและแจ้งให้ทางเพื่อนๆของBPทราบเพื่อดำเนินการไปตามผลวิจัยดังกล่าวที่หน่วยฯป่ายาง ส่วนในความคิดของกลุ่มเพื่อนๆจากBPที่ได้จัดทำโครงการครั้งนี้เป็นโครงการที่จะทำในระยะยาวๆ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของช้างป่ากุยบุรีเท่านั้นครับ การรวมตัวกันเพื่อดำเนินงานภายใต้โครงการช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมของบ้านเรา แต่การจัดทำครั้งนี้เป็นตอนแรกเท่านั้น ที่ไปสอดคล้องจากทางฝ่ายวิจัยที่ต้องการให้มีผู้สนับสนุนช่วยเหลือการทำงานที่ต้องเปลี่ยนแปลงธาตุสารชนิดใหม่ให้กับโป่งท้ายแปลงหญ้าหน่วยป่ายางในครั้งนี้ สำหรับตอนแรกในครั้งนี้นั้นเป็นหนึ่งในสิบจากโครงการ“ คืนป่า รักษ์น้ำ เพื่อโลกสีเขียว " ของชาวBP ที่ได้รับการร้องขอมาจากทางกลุ่มชมรมฅนรักษ์ช้างป่า(หรือฝ่ายวิจัยของกรมฯนั่นเอง)ผ่านมาทางกลุ่มเพื่อนๆซึ่งได้ขอความอนุเคราะห์ให้ช่วยสนับสนุนเพื่องานวิจัยในครั้งนี้  ส่วนตอนที่สองอาจจะพิจารณาร่วมงานกับหน่วยวิจัยฯ อช.เขาใหญ่กับโครงการพี่ปันน้องสำหรับงานด้านสื่อความหมายต่อไป ตรงนี้ผมอาจจะสรุปสั้นๆนะ ตามข้อความข้างต้นก็ด้วยเหตุและผลที่ต้องพิจารณาและรับจัดทำในเรื่องดังกล่าวสำหรับตอนแรกในครั้งนี้ครับ  หลังจากนั้นจะมีการสรุปผลและร่วมทำงานในแนวทางเหมือนๆกับที่ทางคุณต้าได้เสนอความคิดเห็นมานั่นแหละครับถูกต้องแล้ว  ผมได้เห็นแผนงานจากฝ่ายวิจัยของกรมทั้งหมดแล้ว เพียงแต่ว่าการทำงานในระบบของรัฐอาจจะทำงานแบบลัดขั้นตอนไม่ได้ จะด้วยระเบียบของกรมหรือเหตุผลใดๆก็ตาม ผมเองก็ยังเคารพและยอมรับกับการทำงานหรือแนวทางแผนพัฒนาตามระบบกับหน่วยงานของรัฐที่เรียกว่าว่า"ทำไปตามขั้นตอน"ในระยะแรกเท่านั้นครับ  ส่วนตัวโครงการ“ คืนป่า รักษ์น้ำ เพื่อโลกสีเขียว "ของเพื่อนๆชาวBPก็คงดำเนินงานต่อไปเรื่อยๆอีกหลายๆครั้ง ซึ่งจะเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของเพื่อนๆที่ต้องการเข้าไปมีส่วนช่วยเหลือดูแลสิ่งแวดล้อมหลายๆด้านครับ โดยปราศจากเงื่อนไขใดๆที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาทีหลังจ้า ขอบคุณต้ามากมายครับกับแนวทางที่นำเสนอมาและก็เป็นแนวทางที่ไปสอดคล้องมากๆกับทางฝ่ายวิจัยของกรมฯ  ซึ่งท่านผู้รู้ทั้งหลายที่เป็นคณะปรึกษาของเราก็กำลังศึกษาเรื่องนี้กันอย่างหนักกับการวางแผนและการแก้ไขปัญหาไม่ว่าทั้งเรื่องของคนที่ปะปนกับเรื่องช้าง  ผมเองก็ยังจะบอกว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขกันไปอีกนานมากๆทีเดียว  แต่ครั้งนี้ที่เราจัดทำก็เพื่อช่วยเหลือในระดับหนึ่งก่อนเท่านั้น เพราะอยากให้ฝ่ายงานวิจัยฯได้ทำงานอย่างต่อเนื่องได้รับอุปกรณ์เพิ่มเติมและพิสูจน์ผลในการวิจัยกับครั้งนี้ต่อไปครับ ผมขอชี้แจงสั้นๆเพียงแค่นี้ก่อนนะครับ  แต่ในทางที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหาจริงๆขังๆนั้น เราก็คงต้องร่วมกันหลายๆฝ่ายรวมแล้วล่ะครับทั้งภาครัฐที่ถือว่ามาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่เช่นนั้นไม่ว่าจะโครงการอะไรๆก็ตาม ถ้าหากว่ารัฐไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ยากมากๆสำหรับเรื่องราวที่จะมีผลเกิดขึ้นดีเช่นนี้แน่นอนครับ ตอนนี้ผมเองก็อยากจะขอให้คนไทยทุกๆคน ช่วยกันสร้างและกระทำอะไรๆก็ตามที่เราเรียกว่า"ทำดี"เถอะครับ...รวมถึงคิดดีและลงมือทำให้ดีก็เพียงพอต่อการปกป้องสิ่งแวดล้อมที่เหลืออยู่น้อยนิดต่อไปได้แน่นอนครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 23 มิ.ย. 51 23:50:22 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ข้อมูลเยอะมาก ยังไม่มีเวลาอ่านเลยค่ะ..........แต่ชอบโครงการมากค่ะ น้องสาวส้มกำลังจะทำโครงการเกี่ยวกับช้างอยู่พอดีเลย  เพิ่งเอาข้อมูลที่มีอยู่ให้น้องอ่านก่อนเพื่อสร้างพื้นฐานความเข้าใจ เดี๋ยวต้องไปชวนมาอ่านกระทู้นี้ ฝากมาให้อ่านเล่นๆสร้างพื้นฐานสำหรับคนที่ยังไม่มีข้อมูลนะคะ http://assets.panda.org/downloads/elephant_book2_web_5122007.pdf http://www.wwf.or.th/th/about/new_and_information/articles/index.cfm?uNewsID=130201 เคลียร์งานเสร็จแล้วจะรีบมาอ่านค่ะ  ลงชื่อไว้ก่อนนะคะ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 51 01:33:52 จากคุณ : iamchula - [ 24 มิ.ย. 51 01:22:22 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ดีใจจังที่ห้อง BP มีโครงการดีๆ อีกแย้ววววววว..... \\(*v*O)// ... มองซ้าย \\(O*v*)// ... มองขวา \\(O*v*O)// ... เสนอหน้า คือ อยากมีส่วนร่วมอะคับ แต่... เวลา ... ไม่รู้จะมีว่างป่าว ความรู้ ... ก็ไม่ค่อยจะมี ทุนทรัพย์ ... อันนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง มีแต่ตัวกะหัวใจ งั้นช่วยเม้นท์ดีฝ่า ว่าแต่ ... เม้นท์ไรดีหว่า ความรู้เกี่ยวกับกุยบุรี ไม่มี รู้แต่ว่า ที่กุยบุรีมีปั๊มน้ำมัน ที่คน BP ชอบแวะกินกาแฟ เวลาลงใต้ ความรู้เกี่ยวกับช้าง ไม่มี รู้แต่ว่า ช้างมันตัวโตไม่เบา จมูกยาวๆ เรียกว่างวง สองเขี้ยวใต้งวง เรียกว่างา มีหูมีตา หางยาววววววว ความรู้เกี่ยวกับป่า ป่าแถวกุยบุรี นี่ผมไม่รู้อะคับ รู้แต่ป่าแถบอื่น ไม่งั้นเด๋วเค้าจะหาว่า ผมเป็นพวกไม้ป่าเดียวกัน ความรู้เกี่ยวกับโป่งดิน ไม่มี รู้จักแต่ โป่ง หิน เหล็ก ไฟ กรำ ..... ไร้สาระ พาทู้ออกทะเลอีกแล้วตรู ... \\(OTvTO)// ว่าแล้วก็เปลี่ยนโหมดเป็นพวกมีสาระมั่งดีฝ่า ... \\[O*_*O]// <--- (มันดูมีสาระมากขึ้นตรงไหนฟระเนี่ย) เม้นท์เรื่องที่พอรู้แล้วกันนะคับ เรื่องวัตถุประสงค์ของโครงการ ขอปรบมือดังๆ ให้กับทั้ง ความตั้งใจอันดีงามของ จานอับดุล อาก๋ง และคณะ และกับทั้งข้อห่วงใยของ พี่ต้า OB1 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจถึงผลกระทบของการจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ซึ่งอาจส่งผลในด้านลบต่อพื้นที่เป้าหมายได้เช่นกัน เพราะมีหลายครั้งที่ ความตั้งใจอันดีงาม+การขาดซึ่งความรู้ความเข้าใจและความระมัดระวังอย่างเพียงพอ หรือความสับสนไม่ชัดเจนในเป้าหมาย กลับก่อให้เกิดผลลัพธ์ในทางตรงกันข้าม ก็ขอเอาใจช่วยให้กิจกรรมครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และมีกิจกรรมต่อเนื่องที่เป็นประโยชน์มากขึ้นๆ นะคับ แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมก็ยังเชื่อมั่นว่า โครงการนี้ต้องออกมาดีแน่ๆ เพราะนอกจากผมจะฝากเพื่อน ส.ส. สอดสมาร์ทการ์ดลงมติไว้วางใจรายชื่อ ครม. ของทีมผู้จัดทำแล้ว ผมยังเชื่อว่า ห้อง BP ยังเต็มไปด้วยฝ่ายค้านที่คอยท้วงติง คอยให้ความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งจะทำให้ทีมผู้จัดทำ สามารถดำเนินการไปสู่เป้าหมาย ได้อย่างละเอียดรอบคอบมากยิ่งขึ้น ก็แค่อยากจะฝากไว้นิด (ซึ่งไม่ได้หมายความว่าที่ผมทำมันถูกหรือมันผิด) ว่า ทุกครั้งที่ผมมีโอกาสได้เป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดกิจกรรมสาธารณะ ตั้งแต่สมัยก่อน เมื่อตอนที่ยังนั่งเขียน proposal เสนอของบโครงงานค่ายอาสาพัฒนา จนถึงการทำงานทุกวันนี้ ผมไม่เคยเขียนวัตถุประสงค์ว่า ข้อ 1.1 เพื่อสร้างจิตสำนึกให้เกิดกับ ........ เพราะผมเชื่อว่า "จิตสำนึก" เป็นเรื่องของ "สำนึก" ที่เกิดขึ้นใน "จิตใจ" ของแต่ละปัจเจกบุคคล "กระบวนการ" เพียงสั้นๆ ไม่กี่วัน ไม่สามารถช่วยหล่อหลอม "จิตใจ" ของคนได้ "กิจกรรม" เป็นเพียงการช่วย "เปิดโอกาส" "โอกาส" คือ "จุดเริ่มต้น" ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆๆๆๆๆ แต่ไม่ได้หมายความว่า จะส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่พึงปรารถนา ทุกครั้งที่ผมทำงานอะไรทำนองนี้ ผมจึงถือคติที่ว่า ยึดมั่นใน "เป้าหมาย" แล้วปล่อยให้ "จิตสำนึก" คือ "ผลผลอยได้" ที่เกิดขึ้นระหว่าง "กระบวนการ" อีกเรื่องที่พอจะมีส่วนร่วมได้ คงเป็นประเด็นที่แตกออกมาจากเม้นท์ของพี่ต้า คือเรื่อง การสนับสนุนงานวิจัย ในฐานะคนอยู่ในกลกาม เอ้ย! ในวงการ จะบอกว่า ดีใจมากๆ เลยคับ ที่มีคนเห็นความสำคัญของการศึกษาวิจัย งานเข้าแล้วตรู แต่เวลาหนับหนุนก็คงต้องเลือกหน่อย จะหนับหนุนไปที่ถาบันไหนหรือนักวิจัยกลุ่มใด ก็ยอมเสียเวลาอ่านผลงานเค้าสักนิดก็ดีนะฮับ นักวิจัยดีๆ ทำงานคุ้มๆ ฐานวิชาการแน่นๆ ทำงานขลุกอยู่ในพื้นที่ ก็มีมากอยู่ แต่ไอ้พวกมั่วๆ เนียนๆ ก็มีเยอะ ประเภท สาดจานด็อก อ่านหนังสือมาหมดโลกแล้ว แต่ไม่เคยสัมผัสพื้นที่ ก็มีมาก บางทีเขียนรายงานวิจัยออกมาได้พันกว่าหน้า แต่คิดว่า กุยบุรี เป็นจังหวัดเกิดใหม่อยู่ใกล้ๆ ลพบุรี กะ สระบุรี หนับหนุนพวกนี้ให้ทำวิจัยเรื่องช้าง ศึกษาช้าง 1 ตัว คุณอาจได้เทียนติดมาด้วยหลายเล่ม อีกพวกก็เป็นประเภท ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้สันทัดกรณี ผู้มีประสบการณ์ ผู้เชี่ยวชาญทำงานในพื้นที่ (บางคน) พวกนี้จริงๆ ก็ดี ข้อมูลแน่นปึ้ก ประสบการณ์บานเบอะ แต่บางที บางคน ก็ไม่มีฐานทางวิชาการเลย ระเบียบวิธีวิจัยไม่เคยใช้ ตอบอะไรได้โดยใช้ sense และการสังเกตเอาเอง หนับหนุนพวกนี้ (ผมหมายถึงแค่บางคนนะคับ) ให้ทำการศึกษาวิจัยเรื่องช้าง คุณก็จะได้เทียนพรรษาติดมาด้วย การอยู่ติดพื้นที่ รู้ตื้นลึกหนาบางมากๆ บางทีก็ส่งผลในทางตรงกันข้ามต่อคุณภาพของงานวิจัย บางทีก็มีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือ บางที "คนดี" ก็มี "อคติ" กับสิ่งที่ตนเองเชื่อเสมอว่า "เลว" ซึ่งส่งผลทำให้ "ความจริง" ถูกเบี่ยงเบน บิดเบือน ทั้งโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ เช่น พวกนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (บางจำพวก) เวลาทำงานวิจัยก็มักจะตั้งสมมุติฐานว่า ปัญหาเกิดจาก โรง... โรง... โรง... บางทีก็พุ่งเป้าฟันธงไปแล้วตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำงานวิจัย ทำให้หลายครั้ง ในงานวิจัยหลายชิ้น แม้งานจะถูกผลิตขึ้นด้วย ความจริงใจ ซื่อสัตย์ โปร่งใส ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง และ (คิดว่าตัวเอง)ไร้ซึ่งอคติ แต่เมื่อคำถามถูกกำหนดกรอบ แล้วคำตอบจะหลุดกรอบไปได้อย่างไร ??? พูดงี้ ไม่ได้หมายฟามว่า ผมมองข้ามความสำคัญของประสบการณ์ ไม่ได้บอกว่าหลักการทางวิชาการสำคัญกว่า แต่บอกว่า ฐานทางวิชาการ และ ระเบียบวิธีวิจัย มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความรู้ความเชี่ยวชาญและความใกล้ชิดพื้นที่ เพราะมันช่วย frame กรอบการทำงาน กำหนดวิธีการตั้งคำถาม คัดสรรตัวแปรที่ควรค่าพอแก่การที่จะไม่ถูกตัดทิ้ง ซึ่งทั้งหมด ส่งผลต่อ "คำตอบ" ของงานวิจัย เช่น นักวิจัยบางคนทำวิจัยเรื่องช้าง ก็กำหนดตัวแปรมากมาย ทั้งเรื่อง พื้นที่ อาหาร อากาศ ความหนาแน่นประชากร สภาวะแวดล้อม การบุกรุกพื้นที่ป่า บลาๆๆๆๆ ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้เพราะกำลัง intrend คือตั้งสมมุติฐานว่า ช้างได้รับผลกระทบจาก ภาวะโลกร้อน น้ำมันขึ้นราคา ม็อบหน้าทำเนียบ และ บอลยูโร 2008 บางคนก็สอบถามข้อมูลจากทุกคนที่เกี่ยวข้อง ผู้เชี่ยวชาญทุกฝ่าย stakeholder ทุกภาคส่วน แต่ดันลืมถามบุคคลสำคัญที่สุด คือ ............. ช้าง ก็เลยไม่ได้คำตอบว่า ... แปร๊น แปร๊น ... แปลเป็นภาษาคนว่า กินสับรดมันหร่อยกว่ากินเกลือง่ะ แปร๊น หลายครั้ง การตั้งคำถามที่ถูกต้อง ถูกจุด การคัดเลือกตัวแปรที่เหมาะสม อาจทำให้เราได้แนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งอาจเป็นวิธีที่ดูแล้วออกแนว บ้าๆ บอๆ แต่ได้ผล เช่น เอาหัวเชื้อน้ำสับปะรดสังเคราะห์ ผสมน้ำผักผลไม้รวม (จ๋าขอ) ไปเทใส่ดินแทนที่จะใช้เกลือ เป็นต้น ซึ่งเผลอๆ เราอาจได้รับการสนับสนุนหัวเชื้อฟรีๆ จากโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในพื้นที่ ที่เป็นต้นเหตุให้เกษตรกรแผ้วถางพื้นที่ป่า เพื่อทำไร่สับปะรดส่งโรงงาน เป็นต้น ไอ้ที่พูดข้างบนนี่ ผมยกตัวอย่างเพ้อเจ้อเล่นๆ นะคับ อย่าเอาไปเป็นสาระ ก็แค่อยากมีส่วนร่วมอะคับ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว ไม่ได้ห่วงไรเลย เพราะเห็นชื่อทีมคนทำแต่ละท่านแล้ว โฟว์เอสสร้างสรรค์น่าจะรับประกันคุณภาพได้ ว่าแต่... เขียนไปเขียนมา ไหงมันถึงได้เข้าอีหรอบเดิม กลับมาไร้สาระตั้งแต่เมื่อไหร่ บรรทัดไหนฟระเนี่ยตรู \\(OTvTO)// เผ่นหนีไปนั่งอ่านหนังสือหาข้อมูลเกี่ยวกับช้างกุยบุรี เขียน proposal ส่ง สกว. ดีฝ่า เผื่องานเข้า แว่บ... \\(O*v*O)// จากคุณ : I love หมอหญิงซินปี - [ 24 มิ.ย. 51 03:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 79 การปฏิบัติจริงกับงานวิจัยมักจะเดินสวนทางกันเสมอ โดยมีการเสียผลประโยชน์มาเป็นตัวแปลสำคัญ ครับก็ให้กำลังใจเพื่อนๆทุกคนที่พยายามทำดีในครั้งนี้ ถึงจะไม่ประสพความสำเร็จในอุทยานแห่งนี้ แต่เราก็ไม่ได้คาดหวังว่าเราจะต้องทำที่เดียว เมื่อทุกคนมุ่งมั้นและเดินมาในทางเดียวกันแล้ว ก็ขอให้ทำกิจกรรมอันนี้ให้ลุล่วงต่อไป อย่างที่ผมเคยโดนมาแล้วไง ทำไมต้องสร้างส้วมให้หน่วยในเขาใหญ่ด้วย เขาใหญ่รวยจะตาย ผมบอกไว้เลย ผมไม่ได้สร้างให้เขาใหญ่ แต่ผมสร้างให้พนักงานที่ปกป้องป่าบนเขาใหญ่ ที่มีความเป็นอยู่แล้งแค้น สวนทางกับอุทยานที่มีรายได้อันดับหนึ่งเสียเหลือเกิน จำไว้เสมอ ถ้าเราไปใช้ประโยชน์และมีธุรกิจในอุทยานมากเท่าไร เราต้องพยายามคืนกำไรกับคืนให้กับธรรมชาติมากขึ้นเท่านั้น เพราะจะได้เป็นทุนให้กับเราในอนาคตไง ครับทุกคนทำดีแล้วให้กำลังใจต่อไป แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 51 04:45:19 จากคุณ : เด้าลมหลังเทา - [ 24 มิ.ย. 51 03:57:39 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ยังมีอีกหลายที่ๆต้องการโป่งเทียมนะครับ จากคุณ : เด้าลมหลังเทา - [ 24 มิ.ย. 51 04:47:05 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งความฮา หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว นอกจาก BP แห่งนี้ จากคุณ : Zorakun - [ 24 มิ.ย. 51 07:54:14 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ท่าน " เด้าลมหลังเทา "   วันเสาร์ที่ผ่านมา  นึกว่าท่านจะพาผมไปล่องเรือจิบเบียร์     เอ้ย... !  ล่องแก่งซะอีก   คงมันส์พิลึก จากคุณ : Draught Beer - [ 24 มิ.ย. 51 08:56:32 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ....เห็นด้วยกับ เด้าลมหลังเทา ...กั๊บ... ..ยังมีอีกมุมหนึ่ง ที่หลายคนไม่เคยมอง หรือรับรู้ .... ...เราทำดี....ไม่ได้หวัง โล่ ....หรือ ประกาศเกียรติคุณ .. เราทำเท่าที่เราทำได้   ดีกว่าไม่ได้ทำนะ..............จ๊ะ จากคุณ : KRATAIPA - [ 24 มิ.ย. 51 09:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ทำดี...อย่าคิดมาก.... อยากให้มีกิจกรรมดีๆ  เกิดขึ้นในสังคมค่ะ กิจกรรมที่สร้างความสามัคคี.... จากคุณ : a_o_por - [ 24 มิ.ย. 51 09:26:19 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ดีใจที่มีกิจกรรมดี ๆ กลับคืนสู่ธรรมชาติค่ะ จากคุณ : มาดามนิบง - [ 24 มิ.ย. 51 09:43:19 ]

ความคิดเห็นที่ 86 คุณเบียร์ผมต้องขอโทษด้วยที่วันเสาร์ไปถึงช้า ไว้มีโอกาสคงได้รวมวงกันครับ พอดีติดหนังสังข์ทองอะ จากคุณ : เด้าลมหลังเทา - [ 24 มิ.ย. 51 09:43:26 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบคุณพี่น้องห้อง  blueplanet  ที่สนใจร่วมกิจกรรมดี ๆ นะคะ แม้แต่แค่กำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆ   ก็น่ายินดีสำหรับคนทำงานทุกคนค่ะ    วันนี้....   จะขึ้นกระทู้รายละเอียดของการร่วมทำกิจกรรมในส่วนของ....... การประมูล การบริจาคทรัพย์ การบริจาคของมือสอง     กำลังรอหมายเลขบัญชีธนาคารอยู่ค่ะ รูปนี้เป็นการไถพื้นที่กุยบุรี   เพื่อให้เกิดหญ้าระบัดสำหรับสัตว์ค่ะ เป็นอีกงานที่ชมรมฅนรักษ์ช้างป่าดำเนินอยู่ v v จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 24 มิ.ย. 51 09:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 88 น้าเด้าลมจร๋า.... ติดเรื่องเดียวกะน้องมีนเรยยยย   ...สังข์ทอง จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 24 มิ.ย. 51 09:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ....หอยสังข์  ตี คลี  มา 2 อาทิตย์แระ.... ...อีกกี่อาทิตย์  พระหอยสังข์ของช้านนน....จาได้ตีละเนี่ย.... เฮ้อ.........เลยต้อง...............ดู โคนัน กะโดเรมอน ไปพลางๆก่อน         เรื่องเดียวกะ  กระทู้ไหมเนี่ย   จากคุณ : KRATAIPA - [ 24 มิ.ย. 51 10:14:01 ]

ความคิดเห็นที่ 90 อ่ะช่ายยยยยย....    เรื่องเดียวกานนนน   นาตาลี ถามลูกทุกเสาร์และอาทิตย์ พระสังข์จะได้ตีคลีแล้วยังลูก จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 24 มิ.ย. 51 10:23:52 ]

ความคิดเห็นที่ 91 มาเฝ้ากระทู้จ้า   เอาข้าวมาเสริฟด้วยนะ จากคุณ : สันกาลาคีรี - [ 24 มิ.ย. 51 10:56:55 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ปะ ไปกินส้มตำกันก่อนนะ เที่ยงแล้ว จากคุณ : จังเกิ้ล - [ 24 มิ.ย. 51 11:38:11 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เอาจ๊างเขาใหญ่มาเสริฟมั่งค่ะ ล็อคอินกะเป๋อ เป็นเจ้าของเดียวกันกับ โทน๊า... เอ๊ย เกงเลก้นโหว่ค่ะ จากคุณ : Kaper - [ 24 มิ.ย. 51 11:40:45 ]

ความคิดเห็นที่ 94 รอกระทู้พี่อิ๋มอยู่นะคะ เห็นส้มตำตาจังสั้น แล้วอยากกินสปาเก็ตตี้อีกแย้ว... ไม่อยากเข้าเมืองเลย.. อดใจ อดใจ จากคุณ : Zorakun - [ 24 มิ.ย. 51 11:58:55 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ^ ^ ^ อ่ะ เห็นน้องโซ อยากกินสปาเก็ตตี้ เลยเอามาเสริฟ มื้อเที่ยงให้จ้า จากคุณ : อ.อดุล - [ 24 มิ.ย. 51 12:04:13 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ^ ^ สปาเก็ตตี้....หอยสังข์..........น่ากินจัง   จากคุณ : KRATAIPA - [ 24 มิ.ย. 51 12:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ^ ^ ^ สงสัยปร้ากาเต่ยจะดูหอยทาก เอ๊ยยยย หอยสังข์มากไปนิ๊ดดดดด จากคุณ : สันกาลาคีรี - [ 24 มิ.ย. 51 12:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ขอบคุณอ.อดุล ค่ะ สปาเก็ตตี้เส้นดำ อุ้ย ของโปรด หนูชื่นชอบอาหารอิลาเลี่ยนเป็นพิเศษ ถ้าอาสาจะพาไปเลี้ยง โซยินดีค่ะ 55555555 จากคุณ : Zorakun - [ 24 มิ.ย. 51 12:50:10 ]

ความคิดเห็นที่ 99 เอาไข่ตุ๋นมาตอบแทน อ.อดุล นะคะ จากคุณ : Zorakun - [ 24 มิ.ย. 51 12:54:37 ]

ความคิดเห็นที่ 100 งั้นผมจัด " Bento Set "    มาสำรองให้ครับ  เผื่อท่านใดยังไม่ได้ทานข้าวกลางวัน   จากคุณ : Draught Beer - [ 24 มิ.ย. 51 13:30:08 ]

ความคิดเห็นที่ 101 เย้ ... ขึ้น event แล้วก๊าบบบพี่น้อง จากคุณ : อ.อดุล - [ 24 มิ.ย. 51 14:03:17 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ร่วมแรงร่วมใจกันครับ // จากคุณ : น้าเน (Nature-blue) - [ 24 มิ.ย. 51 14:08:48 ]

ความคิดเห็นที่ 103 มากมายจากเพื่อนพ้องดูอบอุ่นจริงๆครับ  ขอบพระคุณอาหมูและอาXOOMERกับเจตนารมณ์ที่งดงาม  และท่านอื่นๆที่เข้ามาเพื่อช่วยเหลือกันและกัน และขอขอบคุณคณะทำงานทุกๆท่านด้วยครับ จากคุณ : สหายสาริกา - [ 24 มิ.ย. 51 14:36:37 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ตามมาช้างานเยอะ ยินดีสนับสนุนโครงการค่ะ จากคุณ : Minora - [ 24 มิ.ย. 51 14:50:10 ]

ความคิดเห็นที่ 105 สนใจทริปจังคะ เด๋วกลับบ้านไปดูของประมูลให้นะคะ จากคุณ : Daijobudai - [ 24 มิ.ย. 51 15:16:38 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ^V^ **** ^v^ กิจกรรมโป่งเทียมกุยบุรี ---- การประมูล / การบริจาคทรัพย์ & สิ่งของ *** ^V^ *** http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6735293/E6735293.html จากคุณ : แก่ กรุงเก่า - [ 24 มิ.ย. 51 15:32:45 ]

ความคิดเห็นที่ 107 มารับทราบกิจกรรมครับ จากคุณ : Art999. - [ 24 มิ.ย. 51 15:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 108 แปร๋น  ๆ ๆ จากคุณ : Kaper - [ 24 มิ.ย. 51 15:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 109 โห...พี่เด้าลม  ติดสังข์ทอง   ป้านาต๊ะลี  ก็โดมอน  กะโคนัน   เห็นรูปอาหารแล้วหิวจังเลย กินมาม่าดีกว่า  เก็บตังค์ไว้ซื้อเกลือให้จ๊างงงงงงงงงงงงงง จ๊างงงงงงงง   ของเกงโหว่...น่ารักๆ จากคุณ : a_o_por - [ 24 มิ.ย. 51 16:26:31 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ครอปเจ้าตัวเล็กมาให้ดู แตกไปหน่อยจ้ะ เอาใจผู้สูงอายุ 55+ จากคุณ : Kaper - [ 24 มิ.ย. 51 16:29:03 ]

ความคิดเห็นที่ 111 พ่นดินใส่ตัวกัน น่ารัก ๆ จากคุณ : Kaper - [ 24 มิ.ย. 51 16:30:05 ]

ความคิดเห็นที่ 112 จากคุณ : Kaper - [ 24 มิ.ย. 51 16:30:54 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ถ้าจำข้อมูลไม่ผิด โป่งที่เห็นก็มีการไปเสริมแร่ธาตุด้วยมนุษย์...ใช่หรือเปล่าคะอาก๋ง จากคุณ : Kaper - [ 24 มิ.ย. 51 16:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 114 คห.111 มองไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร.... แต่ไม่มีเราแน่ๆ เน๊อะโจ้... จากคุณ : a_o_por - [ 24 มิ.ย. 51 16:40:07 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ไม่มี ๆๆ เห็นหางช้ำ ๆ ตัวนั้น พี่แก่หรือเปล่าก็ไม่รู้ คิคิคิ จากคุณ : Kaper - [ 24 มิ.ย. 51 16:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ภาพบรรยากาศการทำโป่งค่ะ จากคุณ : Kaper - [ 24 มิ.ย. 51 17:02:18 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ใกล้ ๆ มีแหล่งน้ำ และ รอยเท้าช้าง รวมถึง กระทิง จากคุณ : Kaper - [ 24 มิ.ย. 51 17:03:08 ]

ความคิดเห็นที่ 118 คลุกเคล้าให้เข้ากับของเดิม ก็ได้ออกมารูปร่างหน้าตาเช่นนี้ ที่เรียกกันว่า โป่งเทียม เอียม เอียม เอียม ค่า จากคุณ : Kaper - [ 24 มิ.ย. 51 17:08:17 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ส่วนนี่คือโป่งธรรมชาติค่ะ ทำไมถึงเว้าไปแบบนี้ ? จากคุณ : Kaper - [ 24 มิ.ย. 51 17:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 120 เพราะจ๊างเค้าใช้ทั้งงวง และ งา ขุด ๆ เอาดินโป่งออกมากิน ไม่เฉพาะช้างเท่านั้น เก้ง กวาง กระทิง หรือ แม้กระทั่งเสือ (ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า) ก็แวะเวียนมาเยี่ยมโป่งธรรมชาติแห่งนี้อยู่เสมอค่ะ จากคุณ : Kaper - [ 24 มิ.ย. 51 17:12:00 ]

ความคิดเห็นที่ 121 และนี่คือ 1 ในฝูงจ๊าง กุยบุรี ค่ะ ไกลไปหน่อย เลยทั้งซูม ทั้ง ครอป มาฝาก ดูแนวป่าด้านหลังสิ่คะ.... ทำไมถึงโล่งอย่างน๊านนนน จากคุณ : Kaper - [ 24 มิ.ย. 51 17:13:24 ]

ความคิดเห็นที่ 122 เห็นตัวน้อย ๆ อยู่ด้วย จากคุณ : Kaper - [ 24 มิ.ย. 51 17:15:42 ]

ความคิดเห็นที่ 123 และสุดท้าย ครอปสุด ๆ ค่า จากคุณ : Kaper - [ 24 มิ.ย. 51 17:16:28 ]

ความคิดเห็นที่ 124 เมื่อกี่เห็นใครคุ้นๆอยู่ใน คห.112 ด้วยอ่ะ โอ๋ กะ โจ้ เห็นป่ะ .. จากคุณ : Nature-blue - [ 24 มิ.ย. 51 17:29:26 ]

ความคิดเห็นที่ 125 จะฟ้องอ้อด้วยล่ะน้าเนฯ 555+ จากคุณ : Kaper - [ 24 มิ.ย. 51 17:43:55 ]

ความคิดเห็นที่ 126 รูปช้างแจ่มจริงๆ โจ้เอ้ยยยยย จากคุณ : อ.อดุล - [ 24 มิ.ย. 51 18:19:21 ]

ความคิดเห็นที่ 127 เข้ามาโหวตครับ จากคุณ : ยุง บิน ชุม - [ 24 มิ.ย. 51 19:50:41 ]

ความคิดเห็นที่ 128 มาช้ามากมาย ช่วงนี้ยุงเป็นยุงตีกันเลยค่ะ ถึงมาช้า ก็จะมาบอกว่า อยากช่วยงานด้วยคนค่ะ มีอะไรให้ทำก็บอกมาได้เลย จากคุณ : scuba734 - [ 24 มิ.ย. 51 20:16:48 ]

ความคิดเห็นที่ 129 เมื่อค่ำ ได้รับอีเมลล์จากทาง ตัวแทนชมรมคนรักษ์ช้างป่า  ซึ่งได้รับทราบและติดตามดูกิจกรรมของพวกเราอยู่ ข้อความเป็นดังนี้ครับ ................................................. เรียน พี่หมู(สหายสาริกา) อ.อดุล และกลุ่มสมาชิกBP จากการที่หลายคนพูดถึงกิจกรรมการเสริมโป่งที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีนะคะ  เห็นแล้วน่าดีใจที่มีคนสนใจ และใส่ใจกับกิจกรรมการอนุรักษ์ในครั้งนี้อย่างอุ่นหนาฝาครั่งค่ะ จึงขออนุญาตชี้แจงซักเล็กน้อยเกี่ยวกับการทำโป่งเทียมเสริมให้กับสัตว์ป่า  สิ่งที่ควรต้องคำนึงถึงในการเสริมโป่งแต่ละครั้งนั้นก็คือ 1) การเสริมโป่งเทียมให้สัตว์ป่า ผู้จัดกิจกรรมจะไม่ไปแตะต้องโป่งธรรมชาติที่มีอยู่แต่เดิม   2) ต้องมีการปรึกษาหารือกับทางเจ้าหน้าที่ของทางอุทยานทุกครั้ง รวมถึงครั้งนี้ด้วยนั้นทางชมรมก็ได้มีการปรึกษากับนักวิชาการ และทางอุทยานอยู่ตลอดเวลาก่อนจะดำเนินการใด ๆ   3) การทำโป่งเทียมในครั้งนี้เป็นการทำในพื้นที่ภายในผืนป่า ที่มีนักวิจัยเข้าไปดำเนินการเก็บข้อมูลทุกเดือน อยู่ใกล้หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ป่ายาง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้แก่สัตว์ป่า ประกอบกับพื้นที่ที่จะดำเนินการนั้นเป็นพื้นที่ทำงานของนักวิจัยจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  จึงเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูงมิใช่พื้นที่ชายขอบป่าแต่อย่างใด โดยมีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อเป็นการเสริมแร่ธาตุให้กับสัตว์ป่าต่างๆ ไม่เจาะจงเฉพาะช้างป่าที่อาศัยอยู่ในผืนป่ากุยบุรี 2. เพื่อดึงดูดให้สัตว์ออกมากินโป่งในตำแหน่งที่จะทำให้พบเห็นช้างป่าและสัตว์ป่าได้ชัดเจนขึ้น ช่วยให้นักวิจัยและเจ้าหน้าที่ของอุทยาน ที่กำลังดำเนินการเฝ้าติดตามศึกษาพฤติกรรม และจำแนกสมาชิกช้างป่าเพื่อให้ทราบจำนวน และโครงสร้างประชากรได้ถูกต้องแม่นยำ เป็นที่น่าเชื่อถือทางวิชาการ 3. เพื่อเป็นส่วนส่งเสริมในการดำเนินกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ของทางชุมชนบ้านรวมไทยที่มีการจัดกิจกรรมดูช้างป่าที่บริเวณหน้าผาเหนือแปลงหญ้า หลังจาการที่ได้มีการศึกษาจากงานวิจัยเรื่องแร่ธาตุในโป่งธรรมชาติ และโป่งเทียมในพื้นที่ต่างๆ แล้วนั้น ก็ได้มาซึ่งรายชื่อแร่ธาตุหลักๆ ข้อมูลจาก (รองลาภ สุขมาสรวง. 2536. นิเวศวิทยาของช้างป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี และตาก / อนุชยา ทรัพย์มี. 2529. การใช้ประโยชน์โป่งธรรมชาติและโป่งเทียมของสัตว์ป่า ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ) ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการแสวงหาตัวแร่ธาตุต่างๆ ให้ได้ครบมากที่สุดเท่าที่จะหาได้ เนื่องจากเราไม่อยากใช้เกลืออย่างเดียวในการเสริมโป่ง ขอบคุณค่ะ พังป๊ะ; ชมรมฅนรักช้างป่า ------------------------------------- ต้องขอขอบคุณที่ทางชมรมคนรักษ์ช้างป่า ติดตามกิจกรรมของเราอย่างใกล้ชิดครับ และตอนนี้ เรากำลังนัดหมายกัน เพื่อที่จะเข้าไปสำรวจในพื้นที่จริง ร่วมกับทางชมรมคนรักษ์ช้างป่า ภายในไม่กี่วันนี้ครับ แล้วจะรีบกลับมาแจ้งให้ทราบอีกทีนึงครับ จากคุณ : อ.อดุล - [ 24 มิ.ย. 51 20:54:57 ]

ความคิดเห็นที่ 130 ถึงพี่ ๆ ทีมงานคร๊าบ ตามวัตถุประสงค์ในข้อ 1 ชัดเจนอยู่แล้วครับ ถ้าหากช้างน้อยขาดแคลนตรงนั้นจริง การช่วยเหลือตรงนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ดีงามแน่นอน   ผมจะมีความเป็นห่วงอยู่บ้าง  ใน 2 วัตถุประสงค์หลัง อ่ะครับพี่ ๆ ฝากช่วยรับไว้พิจารณาด้วย   2 ข้อหลังนี่อ่ะครับ   ดูจะเป็นกรอบที่ เสี่ยงต่อการเกิดผลกระทบและจะเป็นกรอบส่งผลให้การกำหนดจุดทำโป่งเทียมอาจผิดพลาดได้ง่าย (เพราะต้องส่งผลต่อสองข้อหลังด้วยนั่นเอง  )  และอาจส่งผลกระทบต่อวิถีช้างได้ทั้งในระยะสั้นและยาวครับ ในเมื่อเราต่างก็รักช้าง ควรหลีกเลี่ยงการกระทำใดที่ส่งผลต่อเขาได้ในแง่ลบ         และปัญหาที่จะเกิด อาจรวมไปถึงปัญหาการจัดการในอนาคตอีกด้วย (โดยไม่ได้เจตนา ทั้งที่เราต่างทำด้วยความรักนี่แหล่ะครับ)  เพราะการทำเช่นนี้ก็เหมือนเรากำลังสร้าง โป่ง ล่อ ช้าง ให้ช้างออกมาใกล้มนุษย์มากขึ้น ใกล้ผู้ชมมากขึ้น ซึ่งแท้จริงเราคงไม่ได้อยากให้ที่นี่เป็นสวนสัตว์เปิดนะครับ เราคงต้องการให้ที่นี่เป็นที่อยู่ของช้างที่มีความสุขมากกว่าใช่ไหมครับ   และตอนนี้จะว่าไปพื้นที่ในโครงการพระราชดำริก็เริ่มใกล้จะแคบไปเสียแล้วสำหรับปริมาณช้างขนาดนี้  และที่นี่ยังมีปัญหาซ้อนทับทั้งช้างกับคน และ คนกับคน และอยู่ในช่วง สงบสุขแบบพร้อมจะไม่สงบสุขอีกได้   ซึ่งถ้าไม่เกิดก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าในอีก 1-2 ปีเกิดขึ้นซ้ำอีก หากมีส่วนมาจากการกระทำส่วนหนึ่งส่วนใดของเรา  เราทุกคนซึ่งล้วนรักช้าง พี่น้องที่อาสากันไปก็คงจะเสียใจอย่างแน่นอน จึงเสนอว่า ถ้าเป็นวัตถุประสงค์ในข้อแรกก็น่าจะเพียงพอแล้วล่ะครับ  แล้วก็พอสำหรับการที่จะดึงอาสาหรือระดมทุนมาช่วยกันด้วย เพราะพี่ช้างเขาก็จะได้มีที่หม่ำอาหารเสริมมากขึ้น ชัดเจนว่าเป็นประโยชน์ต่อการอนุรักษ์ช้าง          ดังนั้น เมื่อกรอบชัดเจนแค่ตรงนี้ การกำหนดจุดก็จะเป็นไปโดยคำนึงถึงช้างเป็นหลักโดยไม่มีปัจจัยอื่นมาด้วยเลยครับ เพราะนี่จะเป็นกิจกรรมอาสาที่มีคนเข้าร่วมทั้งทางตรงและทางอ้อมจำนวนมาก        ทั้งนี้หากแท้จริงแล้ว  โป่งธรรมชาติที่ อช กุยบุรี ในพื้นที่ป่ามีเพียงพอ เพียงแต่กระจายอยู่ในป่า (ช้างจะย้ายไปหาเองเมื่อพวกเขาต้องการ)  และหากโป่งเก่าไม่เค็มแล้ว  ช้างก็มีความสามารถในการหาโป่งใหม่ของเขาเองได้   นั่นคือ หากลูกช้างน้อยทั้ง 20 เกิดใหม่ มิได้ขาดแคลนธาตุอาหารแต่อย่างใด  จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่อาจลองพิจารณาปรับเปลี่ยนเป็นกิจกรรมอื่น ๆ ได้หรือไม่ครับ พี่ ๆ ที่อาสาไปแจมกันได้ สนุกสนาน และ ไม่กระทบวิถีช้าง  เพื่อประโยชน์แท้จริงต่อช้างป่าที่ท่านรักและต้องการให้เขาดำรงพันธุ์ต่อไปนานเท่านานนะครับ .... จริง ๆ โครงการลักษณะนี้มีมากมายในเมืองไทยหลายปีแล้วด้วย  แต่ที่ผมห่วงก็เพราะโครงการนี้แตกต่างจากโครงการอื่น ๆ อยู่บ้างตรงที่ มีการคิดและทำด้วยพี่ ๆ เพื่อน นักวิจัยและคนที่รักช้าง และทีมงานใน BP หลายท่านก็ล้วนทำงานเสียสละให้สังคมมายาวนาน ทุกคนรักช้างมาก รักป่ามาก ไม่ใช่คนที่ทำงานแบบฉาบฉวยหรือมือใหม่แน่นอน       จึงยิ่งเป็นห่วงมากครับ กลัวพลาดไปน่ะจ้ะ ถ้าเรารอบคอบกันลองมองแบบใช้หมวกดำ (การมองทางลบ) ผสม หมวกขาว (ข้อเท็จจริง)   ตอนนี้ ก็ยุ่งนิดนึงเท่านั้นเอง แต่ตอนทำ หรือ อนาคตก็ไม่ต้องกังวลแล้วล่ะครับ         นอกจากการเสนอแนวคิดต่าง ๆ แล้ว ผมก็ขอช่วยสนับสนุนด้านปัจจัยนะคร๊าบ  เพราะทางทีมงานเองได้เริ่มเปิดบัญชีแล้ว คงได้ร่วมสมทบทุนตามกำลังของตนแน่นอนจ้า  ในภาพรวมนั้นดีใจมาก ๆ ครับ ที่มีโครงการนี้เกิดขึ้นและ พี่ ๆ แกนนำ คงสามารถต่อยอดออกไปอีกไกลได้อย่างแน่นอน  เชียร์ครับเชียร์ ๆๆๆ   *_*   - -  - -- - - -- - - -- - จากคุณ : Mr.OB1 - [ 24 มิ.ย. 51 22:53:59 ]

ความคิดเห็นที่ 131 เขียนแบบที่ไม่มีเวลาอ่านความเห็นของใครเลยนะคะ เขียนแบบที่เป็นความรู้สึกส่วนตัวค่ะ ถ้าไม่ถูกใจก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ ตามความรู้สึกของฉินคือ  เราช่วยตามกำลัง ตามความสามารถที่เรา ๆ ท่าน ๆ จะพึงช่วยได้ การที่เรามีจุดประสงค์ที่จะเข้าไปสร้างโป่งเทียมที่กุยบุรี  เพราะเราแลเห็นปัญหาเฉพาะหน้า ในเรื่องของจำนวนลูกช้างที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และสารอาหารที่มีอยู่ ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกช้างเหล่านั้น นั่นเป็นจุดประสงค์หลักที่ว่า ทำไมเราถึงต้องไปสร้างโป่งเทียมเพื่อลูกช้างเหล่านั้น นี่คือปัญหาเฉพาะหน้า ที่เราต้องการจะแก้ไข ส่วนเรื่องการวิจัย หรือการต่อยอดที่มันจะก้าวไปมากกว่านี้ มันเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลาย ๆ ฝ่าย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ต้องมีงบประมาณสนับสนุนอย่างจิงจัง มีเงินงบประมาณที่จะรองรับงานวิจัยอยู่แล้ว เพราะลำพังสิ่งที่พวกเราทำอยู่ มันคงไม่ได้เงินมากมายมหาศาล พอที่จะสร้างทีมวิจัยขึ้นมาได้ด้วยตัวของพวกเราชาว บีพี ดังนั้นเรื่องของงานวิจัย ฉินคิดว่า ให้ภาครัฐเป็นผู้ดูแลและหาทีมวิจัย รวมถึงหาผู้สนับสนุนหลัก น่าจะเป็นอะไรที่ง่ายกว่า ส่วนพวกเรา ก็ทำในแบบของเรา ทำในสิ่งที่พอเพียง ทำตามกำลัง และความสามารถในตอนนี้...... นั่นคือ การสร้างโป่งเทียม จากการหาข้อมูล การสร้างโป่งเทียมที่กุยบุรี ยังมีขึ้นเป็นระยะ ๆ นั่นเป็นสัญญาณบอกเหตุว่า โป่งเทียมที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของช้าง ซึ่งถ้าเพียงพอแล้ว คงไม่มีการเข้าไปสร้างกันเป็นระยะ ๆ อย่างนี้แน่นอน และเจ้าหน้าที่ ที่กุยบุรี คงจะต้องประชาสัมพันธ์ ให้พวกเราทำอย่างอื่นทดแทนการสร้างโป่งเทียมไปแล้ว การสร้างโป่งเทียม ก็เป็นส่วนหนึ่งของโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ดังนั้น น่าจะมีการศึกษาถึงผลดีและผลเสียกันมาในระดับนึงแล้ว และจากที่มีการเข้าไปสร้างโป่งเทียมเป็นระยะ ๆ นั่นก็น่าจะเป็นขอพิสูจน์อย่างหนี่งแล้วว่า โป่งแท้และโป่งเทียมที่มีอยู่ในกุยบุรี ไม่เพียงพอต่อจำนวนช้างที่อยู่ในพื้นที่กุยบุรี ด้วยความเคารพ การสร้างโป่งเทียมของพวกเราในครั้งนี้ เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ เหมือนองค์กรอื่น ๆ ที่เข้าไปสร้างกันตลอดมา ส่วนเสียงพวกเราจะดังไปถึงภาครัฐจนถึงกับมีการตั้งทีมวิจัยหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องนึง และเมื่อเราสร้างโป่งเทียมเสร็จ  เราก็มีโครงการอื่น ๆ ที่เป็นปัญหาเร่งด่วน ปัญหาเฉพาะหน้า ให้เราได้แก้ไขกันต่อไป  ( ระหว่างที่รอภาครัฐเหลือบตาลงมาเห็น ) สรุปคือ เราเน้นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า สำหรับพื้นที่ที่มีปัญหา ส่วนการแก้ไขในระดับลึกหรือเชิงลุก คงต้องให้ภาครัฐหรือองค์กรที่มีศักยภาพมากกว่านี้เป็นผู้ดูแล ด้วยความเคารพค่ะ ลป.  ด้วยระดับความสนิทสนม ด้วยว่าต่างคนต่างมีกลุ่ม มีเพื่อน มีแนวทางเป็นของตัวเอง ดังนั้น การทำความดี บางครั้ง ก็ไม่จำเป็นต้องเอากลุ่มเราไปผูกติดกับอีกกลุ่มก็ได้ แค่ขอให้ เป็นการทำความดีเหมือนกัน เท่านี้ เราก็จะไปเจอกันเอง  ณ.ที่ใดที่หนึ่ง ของปลายทางแห่งชีวิต อย่าลืม !!! นี่เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ ผิดถูกอย่างไร ขออภัยไว้ ณ. ที่นี้ด้วยค่ะ จากคุณ : ฉินเมิ่งเหยา - [ 24 มิ.ย. 51 23:48:18 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ......."จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่อาจลองพิจารณาปรับเปลี่ยนเป็นกิจกรรมอื่น ๆ ได้หรือไม่ครับ พี่ ๆ ที่อาสาไปแจมกันได้ สนุกสนาน และ ไม่กระทบวิถีช้าง  เพื่อประโยชน์แท้จริงต่อช้างป่าที่ท่านรักและต้องการให้เขาดำรงพันธุ์ต่อไปนานเท่านานนะครับ"  ....... ------------------------------ ขออนุญาตโค้ดข้อความของคุณMr.OB1  มาตอบสักเรื่องนะครับ การที่เราจะกำหนดกิจกรรมอื่นๆนอกเหนือจากนี้ หรือง่ายๆ ก็คือ เบี่ยงประเด็นกิจกรรมที่กำหนดแล้ว ออกไป  ตามที่คุณMr.OB1  พยายามที่จะให้ข้อมูลเพื่อชี้นำอะไรบางอย่างนั้น  ผมเข้าใจดีครับ และก็มีเพื่อนๆ อีกหลายๆคน โดยเฉพาะคนที่อยู่ในคณะทำงาน ก็เข้าใจเช่นกันครับ ผมพอจะทราบถึงกิจกรรมในเชิงอนุรักษ์ ว่ามีหลากหลายรูปแบบ รวมถึงรูปแบบที่คุณMr.OB1  กำลังดำเนินการอยู่  ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ด้วยกันทั้งสิ้น และการที่เราจะลงมือปฏิบัติกิจกรรมลงไปนั้น เราก็ได้ไตร่ตรองแล้วจากคำแนะนำในหลายๆด้าน จากหลายๆองค์กร ที่เชื่อถือได้   การเลือกที่จะทำ หรือไม่ทำกิจกรรมใดๆ ก็ตามของโครงการฯ นั้น จะต้องมีการประชุม อย่างถี่ถ้วนทั้งทางด้านวิชาการ ภาคปฏิบัติ รวมไปถึงเรื่องของผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับผู้รับการปฏิบัติ ว่าเหมาะสมหรือไม่ ที่สำคัญ เราทำกันด้วยใจ ... ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ตอบแทน นอกจากความรักในธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และต้องการที่จะตอบแทนสิ่งดีๆ ด้วยใจที่บริสุทธ์ คืนแก่ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เช่นกันครับ จากคุณ : อ.อดุล - [ 25 มิ.ย. 51 01:02:33 ]

ความคิดเห็นที่ 133 รับทราบและเห็นด้วยครับพี่  ทั้งพี่ ๆ BP ก็ล้วนแต่เป็นคนจิตใจดี ทีมงานฅนรักษ์ช้างป่าที่อยู่ในพื้นที่ หลายคนก็ทำงานกับพี่มัทนาด้วยเรื่องประสบการณ์หายห่วง  ข้อมูลเราก็น่าจะเป็นข้อมูลเดียวกันนะครับ หากวิเคราะห์แล้วเห็นว่าเหมาะสมที่จะทำก็คิดว่าทุกคนจะทำสิ่งที่ดีที่สุดต่อลูกช้างทั้งระยะสั้นและยาวแน่นอนโดยมีช้างและสรรพชีวิตเป็นศูนย์กลาง  ผมกังวลในเรื่องผลกระทบน่ะครับ  และความเห็นที่ให้ไป คิดว่าเพียงพอแล้วต่อการนำไปพิจารณาของทีมนักวิชาการในพื้นที่ซึ่งมีความเชี่ยวชาญมากกว่า  เพื่อเลือกจุดที่เหมาะสมเท่าที่เรามีฐานข้อมูลอยู่   ก็ขอยุติการนำเสนอความเห็นไว้เพียงเท่านี้ ถือว่าพี่ อ. อดุล ใช้สิทธิหมวกฟ้าสรุปและเลือกทางที่เหมาะของทีมโดยส่วนใหญ่แล้ว   ยินดีสนับสนุนโครงการนะพี่ ๆ และจะสนับสนุนโครงการต่อ ๆ ไป ด้วยจ้ะ  ในฐานะผู้อาสาสนับสนุนกิจกรรมและมั่นใจว่าต้องออกมาดีครับ ขอชื่นชมนะคร๊าบ *_* จากคุณ : Mr.OB1 - [ 25 มิ.ย. 51 07:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 134 .....................................หม่ำอาหารเช้า กันนะ....                        แล้วค่อยทำงานกันต่อ . . . . จากคุณ : KRATAIPA - [ 25 มิ.ย. 51 08:09:21 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ขอบคุณ คุณ Mr.OB1  มาก ๆ ค่ะ   การทำโป่งเทียม ก็อย่างที่บอกว่า เป็นส่วนหนึ่งของโครงการในพระราชดำริ ดังนั้น เรื่องผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม ต้องมีการศึกษามาเป็นอย่างดีแล้ว จากข้าราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องค่ะ   เชื่อว่า ไม่น่ามีผลกระทบอะไรมากอย่างที่คุณMr.OB1 ห่วงใย ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ จากคุณ : ฉินเมิ่งเหยา - [ 25 มิ.ย. 51 08:49:37 ]

ความคิดเห็นที่ 136 .......รู้สึกหายใจไม่สะดวก........ เหมือนขึ้นรถเมล์เบียดๆแน่นๆ อยู่คันนึง... หายใจไม่สะดวก อยากได้อากาศหายใจบ้าง ช่องว่างบางที ก็ทำให้เรามีเวลาคิดมากขึ้น... ถอยมาอีกนิด...เขยิบไปอีกหน่อย... ขออากาศหายใจบ้างนะค๊า............ เพราะอากาศบริสุทธิ์ ทำให้สมองปลอดโปร่ง จากคุณ : Zorakun - [ 25 มิ.ย. 51 08:58:02 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ........นู๋ฉิน  นู๋โซ   ตีหัวให้หน่อยจิ....555  หม่ำอาหารเช้า...แล้วหัวสมอง ปร้า..ก็ยังไม่ทำงาน มึน    งง   คิดงานไม่ออก   คิดได้  แต่เรื่อง......เชิญยิ้ม   **ดีใจนะค่ะ  ที่สมาชิก  บีพี  หลายท่าน  คิดดี  ทำดี  หวังดี  ตั้งใจดี   กับธรรมชาติของเรา**            มาให้  กำลังใจ  คนทำงานกันดีกว่า.....สู้  สู้  เย้ๆๆๆ จากคุณ : KRATAIPA - [ 25 มิ.ย. 51 09:28:53 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ก็ขอขอบคุณ คุณ Mr.OB1 มากน๊ะครับที่มีแนวคิดดีดี มาให้เราได้ศึกษากัน ส่วนในโครงการนี้ พวกเราจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด จากข้อมูลที่พวกเราตั้งใจ ศึกษาหาข้อมูลและค้นคว้ามา อีกทั้งยังมีคำแนะนำจากหลายๆองค์กร ตามที่ พี่เอ๋ (อ.อดุล) ได้ชี้แจงเอาไว้แล้ว เราคงไม่อยากให้ไปมีผลกระทบอะไรกับ สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ ที่เรารักหรอกครับ ขอยืนยันด้วยใจบริสุทธ์ จากคุณ : Nature-blue - [ 25 มิ.ย. 51 09:30:12 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ผมตีให้ครับ ปร้ากระต่าย .  KRATAIPA<---- จากคุณ : Nature-blue - [ 25 มิ.ย. 51 09:33:36 ]

ความคิดเห็นที่ 140 ...เอ่อ..............ปู้ชาย...ตีได้เฉพาะ  กง นี้.......ก๊าบบ  น้องเน มาม๊ะ.....มารับ  ออเดิฟ ก่อน  ตี..... จากคุณ : KRATAIPA - [ 25 มิ.ย. 51 09:37:36 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ขอบคุณค่ะพี่เอ๋ แจ่มเหมือนคนถ่ายชิป่ะ เด๋วไว้มีโครงการทำฝายชะลอน้ำ จะเอาภาพมาประกอบอีกค่ะ จากคุณ : Kaper - [ 25 มิ.ย. 51 10:19:01 ]