ความคิดเห็นที่ 1 ขอทักทายคุณ DECCGN กะคุณ Chemble จากกระทู้ที่แล้วก่อนนะ คุณเด็กซีจีฯ ครับ ขอบคุณครับที่มาชม แล้วผมจะ รีวิวฟูจิที่มิโฮะ โนะ มัตซึบาระ ให้อ่านกันเร็วๆ นี้นะคร๊าบ..... ใครขอมา ผมจัดให้อยู่แล้ว ว่าแต่ขอถามคนอยู่ญี่ปุ่นซ่ะหน่อยว่า ที่นู่นเค้าถ่ายทอดบอลยูโรครบทุกนัดโดยไม่มีโฆษณาคั่นเหมือนเมืองไทยรึเปล่าครับ อยากรู้จัง โห... คุณ Chemble ครับ รู้จักผลงาน อ.นัตสึมิ ซ่ะด้วย ตอนนี้เรียนหรือเคยไปเรียนที่ญี่ปุ่นเหมือนเด็กซีจีฯ รึเปล่าครับ แล้ว Negima นี่มันเป็นหนังสืออะไรเหรอครับ??? ว่าแล้วก็อยากไปดู “รัก สาม เศร้า” บ้างเหมือนกันแฮ่ะ... ========================================= ไปชมมิวเซี่ยมกันต่อดีกว่า อาคารถัดไป ลำดับที่ 22 เป็นอาคารคอนกรีตโปร่งๆ ไม่มีฝา ที่มีโบกี้รถไฟหน้าตาแแปลกๆ จอดอยู่ข้างใน เห็นว่าเป็นตู้รถไฟล็อตแรกๆ ที่ผลิตโดยโรงงานรถไฟของญี่ปุ่นเอง ตั้งแต่ พ.ศ. 2455 นู่น.... จากคุณ : NumAromDee - [ 24 มิ.ย. 51 20:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไปดูข้างในโบกี้รถ ก็ทึ่งว่ามันมีเครื่องจักรไอน้ำในตัว โดยส่วนนั่งโดยสารจะอยู่ที่ตอนหลัง โดยมีประตูไม้กั้นเอาไว้ แสดงว่าสามารถวิ่งได้เองโดยไม่ต้องใช้หัวรถจักรลาก พิเศษอย่างนี้เองถึงได้เอามาตั้งโชว์ ถ้าผู้โดยสารอยากได้แบบ 2 in 1 เวลารถวิ่งถ้าให้เปิดประตูทิ้งไว้ ปิดหน้าต่างรถให้หมด ให้ไอน้ำจากห้องเครื่องทะลักเข้ามาอบตัวผู้โดยสารไว้ นั่งไปอบซาวน่าไป ลงรถมาถ้าไม่สุกซ่ะก่อน ก็คงสุขภาพดีกันทุกคนเลย... จากคุณ : NumAromDee - [ 24 มิ.ย. 51 20:37:14 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถัดมาข้างๆ โบกี้รถไฟ เป็น ป้อมตำรวจที่สร้างปีเดียว เป็นลำดับที่ 23 - Shichijo Police Box ป้อมตำรวจประจำย่านชิฉิโจ จากเมืองเกียวโต วิธีก่อสร้างแบบก่ออิฐแดงเปลือยสลับกับปูนขาวเป็นช่วงๆ แบบนี้ เป็นแนวนิยมของการก่อสร้างอาคารสมัยนั้นครับ เคยมีคนเล่าให้ฟังว่า สัดส่วนของป้อมตำรวจญี่ปุ่น (Koben) ต่อบ้านประชาชนจะมีเยอะมาก แทบจะเจอป้อมตำรวจคั่นอยู่ทุกหัวมุมสี่แยก ซึ่งแต่ละป้อมจะมีตำรวจมาเฝ้าประจำตลอด 24 ชั่วโมงอีกตะหาก ไม่ใช่หลัง 3 ทุ่มก็กลายเป็นป้อมร้างเหมือนแถวๆ นี้ แถมยังต้องผลัดกันปั่นจักรยานออกไปตรวจความเรียบร้อยทุก 2-3 ชั่วโมงด้วย (เค้าไม่ขี่มอไซด์กันฮะ) พูดแล้วก็น่าเห็นใจ เพราะตำรวจไทยมีหน้าที่สำรองต้องผลัดกันไปเฝ้าม๊อบ... จากคุณ : NumAromDee - [ 24 มิ.ย. 51 20:45:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขออนุญาตตัดหน้านะคะ ^^ koban ค่ะ พิมพ์ผิดจิ๊ดนึงงง จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด - [ 24 มิ.ย. 51 20:48:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เยื้องกับหน้าป้อมตำรวจ เป็นสถานีรถรางโบราณที่เอาโครงรถมาจาก รถรางสายแรกของญี่ปุ่น ที่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2438 เป็นรถรางสาย Fushimi ที่เกียวโต ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังเหลือวิ่งอยู่ในโตเกียวรึเปล่านะ แต่คันนี้นั่งได้จริงครับ เที่ยวละ 300 เยน ใช้นั่งไปมาระหว่างโซนที่ 3 กับโซนที่ 4 ถ้าซื้อตั๋วแบบเหมาจ่ายรวมค่าพาหนะ ก็นั่งฟรีครับ (ค่าตั๋วเข้ามิวเซี่ยม 1600 เยน ถ้าต้องการตั๋วขึ้นรถบัส รถราง รถไฟ แบบเหมาจ่ายต้องเพิ่มเงินอีกประมาณ 800 เยน) ปล. พูดถึงรถรางโบราณ ในโตเกียวมีรถรางเหลือใช้งานอยู่สายนึง ต้นทางอยู่แถวย่าน Minowa (ทางเหนือของย่านอาซาคุสะ) ชื่อรถราง Toden – Arakawa Line วิ่งจาก มิโนว่า ไปสิ้นสุดแถวๆ Waseda ถ้าใครไปพักแถวนั้นจะลองไปนั่งเล่นๆ ดูก็ดีนะ รายละเอียดตามนี้ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Toden_Arakawa_Line จากคุณ : NumAromDee - [ 24 มิ.ย. 51 20:55:22 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมไม่ได้ขึ้นรถราง เดินชมวิวขึ้นเนินมาเรื่อยๆ เข้าสู่โซนที่ 3 แล้วครับ อาคารแต่ละหลัง จะตั้งเรียงรายไปตามเนินเขาแบบนี้ แซมด้วยต้นไม้ดอกไม้สวยๆ ตลอดทาง ยังย้ำอีกครั้งว่า ถ้ามาที่นี่ตอนฤดูใบใม้ผลิ หรือ ตอนใบไม้แดง คงแทบละลายตายไปเลย ด้วยความสวยของสีสันตัดกับอาคารคลาสสิค...แน่แน่ จากคุณ : NumAromDee - [ 24 มิ.ย. 51 20:57:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าคุณเห็นอาคารแบบนี้ตั้งอยู่บนยอดเนิน ท่ามกลางคืนที่ไร้แสงจันทร์อันมืดมิด คุณจะนึกถึงอะไร.......... บรู๊วววววววววววววว จากคุณ : NumAromDee - [ 24 มิ.ย. 51 20:58:27 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เข้าไปดูใกล้ๆ เป็นอาคารไม้สองชั้นที่ทำหลังคาเป็นสไตล์เยอรมัน ผิวภายนอกที่ผ่านกาลเวลามา 100 กว่าปี เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งอตีดเต็มไปหมด แต่โดยรวมก็ยังอยู่ในสภาพดี เค้าช่างอนุรักษ์ได้ใกล้เคียงสภาพเดิมจริงๆ ผมชอบทรงยอดหลังคาเล่นระดับแนวนี้มาก ดูมีเส้นสายส่วนโค้งส่วนเว้า แต่แฝงไปด้วยความทนทานแข็งแรง อ่อ...ลืมบอกชื่อ เป็นอาคารลำดับที่ 25 ชื่อ Kitasato Institute จากเมืองโตเกียว สร้างเมื่อ พ.ศ. 2458 ครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 24 มิ.ย. 51 20:59:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เดาว่าสถาบันคิตะซาโตะนี้คงเป็นสถาบันค้นคว้าทางการชีวะวิทยาหรือเคมีอะไรซักอย่าง เพราะข้างในมีการแสดงประวัตินักวิทยาศาสตร์ และการแสดงอุปกรณ์พวกกล้องจุลทรรศน์ และอุปกรณ์ทดทดลองทางวิทยาศาสตร์เต็มไปหมด จากคุณ : NumAromDee - [ 24 มิ.ย. 51 21:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณครับคุณก๊วยที่มาช่วยแก้ไขคำผิดให้ นี่แหละข้อดีของพันทิป.... มีคนเก่งๆ คอยช่วยกันปรับแก้ให้ตลอดเลย เจอที่พิมพ์ผิดๆ หรือเห็นว่าผมมั่วตรงไหน แย้งกันได้เลยนะทุกคน บางทีผมก็มึนๆ อ่านหลายตำราเกิน ขอบคุณอีกครั้งครับที่ติดตาม ======================= หลังต่อไป เบอร์ 26 จากโตเกียวส่งเข้าประกวด เป็นบ้านของ อ. Koda Rohan ที่มีชื่ออย่างเท่ส์ว่า "Kagyu-an" แปลเป็นฝรั่งว่า "Snail Cottage" หรือพากษ์ไทยได้ว่า "กระท่อมน้อยหอยทาก" อ.โคดะ เป็นนักประพันธ์ชื่อดังของญี่ปุ่น ชื่อจริงของท่านคือ Koda Shigeyuki ส่วน Rohan เป็นนามปากกา เป็นนักประพันธ์คนแรกที่ได้รางวัล "The order of Culture" ไม่รู้ว่ารางวัลนี้สำคัญแค่ไหนนะ คงประมาณศิลปินแห่งชาติมั๊ง....??? จากคุณ : NumAromDee - [ 24 มิ.ย. 51 21:12:50 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หลังถัดมา เบอร์ 27 หน้าตาคล้ายๆ หลังเมื่อกี้ เป็นบ้านคนดังในยุคนั้นเช่นกัน ชื่อบ้านว่า "Zagyo-so" เป็น Villa ของ Prince Saionji Kinmochi อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 12 และ 14 ของญี่ปุ่น เห็นมีคำนำหน้าชื่อว่า “Prince” แต่ท่านคินโมชิ ไม่ได้เป็นเชื้อพระวงศ์นะครับ เพราะ Prince ของญี่ปุ่น เป็นบรรดาศักดิ์ขั้นสูงสุดของ ”ข้ารับใช้ของสมเด็จพระจักรพรรดิ์ญี่ปุ่น” ในยุคนั้นครับ มี 5 ขั้น คือ Prince / Marquis / Count / Viscount และ Baron ประวัติท่านคินโมชิครับ http://en.wikipedia.org/wiki/kinmochi_saionji จากคุณ : NumAromDee - [ 24 มิ.ย. 51 21:22:55 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ่อ! ชื่อบ้าน "Zagyo-so" เค้าแปลอยู่ในคู่มือว่าเป็น Relaxation and Fishing Lodge คงเป็นบ้านสำหรับพักตากอากาศและมาเที่ยวตกปลาของท่านคินโมชิมั๊ง ให้ดูกันใกล้ๆ ว่าบ้านเหล่านี้คือบ้านของจริง ที่ย้ายมาบูรณะไว้ที่นี่ ไม่ใช่ของจำลอง จากคุณ : NumAromDee - [ 24 มิ.ย. 51 21:28:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หลังต่อไปเป็นเรือนสำหรับประกอบพิธีชงชา จากเมืองเกียวโต สร้างเมื่อ พ.ศ. 2420 ชื่อว่า "Ekiraku-an" อันนี้ในคู่มือไม่มีคำแปลมาให้ ใครรู้คำแปลช่วยสงเคราะห์ด้วยล่ะกัน เป็นเรือนไม้ชั้นเดียวหลังคามุงกระเบื้อง ที่เปิดประตูด้านหน้า ก็จะเจอสวนญี่ปุ่นเล็กๆ ดื่มชาไป ชมสวนไป “เซน” จริงจริง จากคุณ : NumAromDee - [ 24 มิ.ย. 51 21:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนก่อนนะ เดี๋ยวยาว........ ทิ้งท้ายไว้ 1 อาคาร เป็นประภาคารทรงตะวันตกยุคแรกหลังเดียวของญี่ปุ่น ที่ยังเหลืออยู่ในสภาพดี จนเค้าจัดให้เป็น "สมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ" เช่นเคย สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2413 เป็นประภาคารจากเขตชายฝั่ง Shinagawa เมืองโตเกียวครับ เด๋วมาต่อนะครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 24 มิ.ย. 51 21:37:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 กรี๊ดดดดด รอมาตั้งหลายวัน ในที่สุดคุณหนุ่มฯ ก็มาพาเที่ยวต่อจนได้ ที่หายไปเนี่ย แอบไปซับน้ำตาชาวสีส้ม(ดีนะไม่ใช่สีม่วง) มาใช่ปะคะ อิอิ ล้อเล่นอย่าโกรธเน้อ จากคุณ : แฟนอองรี - [ 24 มิ.ย. 51 21:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กำลังฟังเพลง Gonna Get Along Without You Now ของ Trini Lopez อยู่พอดี เจอกระทู้ตาหนุ่ม เข้ามาดูพร้อมกันไปเลย อาฟังเพลงจากคอมพิวเตอร์นะ เอาจากแผ่น HD มาไว้ใน iTunes แล้วเปิดผ่านลำโพง BOSE เพราะจริงจริงครับ อ้าวตอนนี้ เพลงนั้นจบไปแล้ว เป็นเพลง Goodbye Jimmy Goodbye ของใครก็ไม่รู้ นึกไม่ออก นักร้องหญิง I see you again but I don't know when, goodbye Jimmy goodbye!! จบไปอีกเพลง แล้วก็ถึงเพลง The Great Pretender โดย The Platters Pretending that you're still around. จากคุณ : xebec - [ 24 มิ.ย. 51 21:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เง้อ เห็นภาพแล้วนึกถึงวันที่ไปเดิน เหมือนเดินเก็บ RC ไล่ตามหมายเลขไปเรื่อยๆ สนุกดีเน้อ จากคุณ : Eswat's Girl - [ 24 มิ.ย. 51 22:09:59 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แว๊บบบบบบบบบบบบบบบบบ  !!!! จากคุณ : หมูน้อยสีชมพู - [ 24 มิ.ย. 51 22:21:30 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่รุอะไรบังตา เข้ามาดูตั้งแต่ก่อน 3 ทุ่ม ก็ไม่เห็น นึกว่าอู้อีกแล้ว.. เลยไปนั่งคุ้ยข้อมูลที่ trekking มาค่ะ ตอนนี้ อยากไป Fujiyoshida มากๆเลย กำลังตีโจทย์ให้แตก ว่าจะทำยังไง ถ้าต้องตะลอนๆ เปลี่ยนเมืองไปเรื่อยๆ (เลยยิ่งรู้สึกว่า ทริปคันไซนั่นเป็นแบบฝึกหัดจริงๆ แต่ทำไมบางคน เค้าไปไม่ถึงซักที..หุๆ) ลป. วางแผนเนิ่นๆ เพื่อศึกษาให้เข้าใจค่ะ ไม่เคยทำตารางเวลาหรอก เพราะทำตามไม่ได้ ถ้าเข้าใจ ถึงเวลา ก็ไปตามสภาพอากาศและอารมณ์ .......... คุยแต่เรื่องตัวเอง ต้องกลับมาเม้นต์ รู้สึกบรรยากาศดี น่าไปเดินเล่นจังค่ะ คิดถึงอากาศเย็นๆ ของฤดูใบไม้ผลิที่ญี่ปุ่นจัง ไม่แน่ ปีหน้าอาจจะได้ไปละลายที่นี่นะคะ อิอิ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 51 23:30:42 จากคุณ : salamanka - [ 24 มิ.ย. 51 23:07:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คอมเจ๊เจ๊งไปหลายวัน พอเข้ามาได้ก็ได้เห็นกระทู้ นี่ต้องตามลงไปอ่านกระทู้ก่อนหน้านี้ก่อน ตามอ่านกระทู้คุณหนุ่ม เหมือนคนเข้าห้องน้ำไม่สุด พอจะสุดๆก็อั้นไว้ซะงั้น ฮี่ๆๆ จากคุณ : เจ๊มาเองจ้ะ - [ 25 มิ.ย. 51 01:30:15 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ............................ ติดตามมาตลอดครับ............. จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว - [ 25 มิ.ย. 51 06:24:59 ]

ความคิดเห็นที่ 22 รถรางใน คห#5 หน้าตาเหมือนรถรางไทยเลยครับ แต่สีไม่เหมือนเท่านั้นเอง จากคุณ : เป้ดำ (chongsky) - [ 25 มิ.ย. 51 11:15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เข้ามาดูต่อครับ ผมไม่เคยไปเรียนหรอกครับ  เพียงแต่แค่สนใจในวรรณกรรมและ วัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นเอง  ( การ์ตูน + เกมส์ ) ส่วน  Negima  เป็นการ์ตูนครับ  เขียนโดย อ.Ken  Akamatsu  ตอนนี้ ออกถึงเล่ม  20  แล้ว จากคุณ : chemble - [ 25 มิ.ย. 51 12:31:57 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีครับทุกคน ต้องขออภัยอย่างแรงที่เมื่อคืนไม่ได้มาตามสัญญา..... แบบว่า เมื่อวันก่อนมีคนใจดี ที่คิดว่าช่วงนี้ผมหน้ามุ่ยเพราะเครียดเรื่องงาน (จริงๆ เพราะดูบอลดึกนอนไม่พอตะหาก) เลยส่งน้ำมันหอมแบบที่ใช้ในสปามาให้ลอง เอามาจุดแบบอโรมาเธอราปี้ในห้องหลังอาบน้ำเสร็จดู หอมระรื่นผ่อนคลายดีมั่กๆ ตอนแรกว่าจะแค่พักสายตา ที่ไหนได้! พักยาวถึง 6 โมงเช้าแบบม้วนเดียวจบไม่มีลุกมาฉี่เลยครับ ใครที่เครียดจากการงาน หรือ นอนไม่หลับ ลองหามาลองนะครับ ใช้ได้ทีเดียว เด๋วเย็นๆ จะมาต่อนะ ขอทำงานก่อน ขอบคุณทุกท่านครับที่มาชมและทักทาย จากคุณ : NumAromDee - [ 25 มิ.ย. 51 13:14:13 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตามมาชมรีวิวมาราธอนต่อคับ ^^ คุณหนุ่มเขียนได้สนุกดีจิงๆ อ่านไปอมยิ้มไปตลอดเลย จากคุณ : ... (mewII) - [ 25 มิ.ย. 51 14:18:02 ]

ความคิดเห็นที่ 26 Aroma  ทำให้หนุ่ม "อารมณ์" ดี  มีข้ออ้างวุ้ย   จากคุณ : หมูน้อยสีชมพู - [ 25 มิ.ย. 51 17:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สวัสดียามเย็นครับ ขอบคุณอีกครั้งที่เข้ามาติดตาม อาหมูที่เคารพ , ป้าอ้อที่น่ารัก , แฟนอองรีคนชอบดูบอล(เหมือนกัล) , สาว ES ที่มาแบบสั้นๆ แต่ได้ใจความ , น้องซาร่าห์ที่กำลังจะหลงรักการตะลอนเที่ยวไม่มีแผนเข้าให้แล้ว , อาเจ๊ที่ติดตามกันเสมอ , พี่เปรี้ยวนี่ก็ตามมาบ่อยๆ เหมือนกัน , เป้ดำที่มาทักทายครั้งแรก (รึเปล่าหว่า? จำม่ะได้) , chemble ผมก็ชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่หลังๆ ไม่มีเวลาอ่านแล้วครับ หันไปดูหนัง(AV)อย่างเดียว , คุณ mewII ดีใจครับที่กระทู้ผมช่วยสร้างรอยยิ้มให้คุณได้ ================================== มาต่อกัน ลำดับที่ 30 อยู่ข้างๆ ประภาคารเมื่อกี้เป็นอาคารที่พักของเจ้าหน้าที่ดูแลประภาคารที่ยกมาอนุรักษ์ไว้ด้วยพร้อมกัน แต่ไม่ใช่อาคารที่พักของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลประภาคารชินะงาว่านะ เป็นบ้านพักของ จนท.ที่ดูแลประภาคาร Sugashima จังหวัด มิเอะนู่น... สร้างเมื่อ พ.ศ. 2416 เป็นอาคารก่ออิฐแดงๆ ไม่ฉาบปูนโชว์ลายอิฐตามสมัยนิยม พร้อมประตูไม้บานใหญ่สไตล์ยุโรป แท่นที่อยู่หน้าอาคาร เป็นเข็มทิศแดดครับ ในบ้านมีการแสดงหลอดไฟในประภาคาร และอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ให้แสงสว่างในชีวิตกับนักเดินเรือสมัยนั้น จากคุณ : NumAromDee - [ 25 มิ.ย. 51 20:17:50 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เดินมาอีกหน่อยเป็นลานกว้างๆ ให้นั่งพัก พร้อมของเล่นคุณหนู “เขาวงกต” ครับ (ก็เห็นมีแต่ผู้ใหญ่มาเดินเล่นนะ) เป็นเขาวงกตที่ก่อด้วยอิฐแดงให้เข้ากับบรรยากาศและสถาปัตกรรมรอบๆ นั้น ซับซ้อนน่างงใช้ได้ทีเดียว เห็นมีบางคนเดินเข้าไปแล้วเกาหัวแกร่กๆ ตลอดทาง วันนั้นเสียดายมาซ่ะบ่าย ยังเหลืออีกตั้ง 30 อาคารให้ไปดู เลยต้องข้ามไป มิสามารถวิพากษ์ความยากของเขาวงกตอันนี้ให้ทุกท่านอ่านได้ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 มิ.ย. 51 20:25:38 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อีก 3 หลังต่อไปนี้ เป็นบ้านของคหบดีต่างชาติที่อพยพมาทำมาหากินอยู่ที่ญี่ปุ่น ก่อนหน้านั้นญี่ปุ่นปิดประเทศ เปิดไว้อยู่แค่ 2 รู คือที่นางาซากิ กับโกเบ จนเกือบเจริญไม่ทันชาวบ้านเค้า พอเปิดประเทศก็เลยเปิดแบบอ้าซ่า ใครเอาอะไรมาก็รับหมด โดยเฉพาะ Made in Germany หลังนี้เบอร์ 31 ยกมาจากนางาซากิ เมืองคลาสสิคที่ตอนนี้ผมอยากไปมั่กๆ รองจากโอตารุ ตามชื่อเค้าบอกว่าเป็น  Nagasaki Foreign Settlement No. 25 แสดงว่ามีอย่างงี้อีกหลายหลังเรียงกันเป็นดง หลังนี้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2432 ครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 มิ.ย. 51 20:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 30 บ้านของฝรั่งหลังเมื่อกี้ ข้างในถูกดัดแปลงเป็น "พิพิธภัณฑ์ส้วมโบราณ" ครับ โชว์ส้วมสมัยเมจิว่าหน้าตาเป็นยังงัย เสียดายไม่มีกลิ่น ไม่งั้นจะได้ฟิลมากก่านี้.... ชักโครกรุ่นแรก ฝารองนั่งเป็นไม้ ถังเก็บน้ำอยู่ด้านบน ถ้าเวลาน้อย อยากทำหลายๆ อย่างพร้อมกันไปด้วย ก็ให้เจาะรูที่ถังเก็บน้ำซัก 5-6 รู จะสามารถอึไปด้วยอาบน้ำไปด้วยได้ น้ำที่อาบเสร็จก็จะไหลลงไปชำระของในส้วมข้างล่างด้วย ประหยัด 2 ต่อ.... จากคุณ : NumAromDee - [ 25 มิ.ย. 51 20:47:56 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ส้วมญี่ปุ่นแบบนั่งยุคแรกๆ ก็มี ถ้าใครยังไม่รู้ว่าส้วมนั่งยองของญี่ปุ่นต่างกับของไทยยังงัย ผมจะเฉลยให้ฟัง ใครกินข้าวอยู่ขออภัยด้วยนะครับ ส้วมไทยนั่งหันหน้าหาประตู  แต่ส้วมญี่ปุ่นนั่งหันก้นหาประตู (ถ้าใครไม่ล็อคห้องน้ำ คนที่เปิดเข้ามาจะได้เห็นก้นแทน กึ๋ย......) ส้วมไทยมีที่วางเท้าให้นั่งแบบสูงเด่น แต่ส้วมญี่ปุ่นเป็นร่องให้นั่งคล่อมตรงๆ และสุดท้าย ส้วมไทยถ้าฉี่แรงจะเลอะเทอะหน้าประตูห้องน้ำ  แต่ส้วมญี่ปุ่นมีกำแพงน้อยกั้นฉี่ให้ (ถ้าฉี่ข้ามได้ก็ให้รู้ไปว่าแรงดี) จะเปรียบเทียบกันทำมาย...เนี๊ยะ++++++++ ใครจะไปอยากรู้กับแกหึ... (ผมด่าตัวเองกันไว้ก่อนเลย อิอิ) จากคุณ : NumAromDee - [ 25 มิ.ย. 51 21:00:04 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เอารูปส้วมนั่งยองของญี่ปุ่นยุคใหม่มาให้ดูให้เห็นกันชัดๆ ส่วนของไทย รบกวนดูบ้านใครบ้านมันเน้อ...... ผะอืดผะอมพอล่ะ ไปบ้านอื่นดีกว่า จากคุณ : NumAromDee - [ 25 มิ.ย. 51 21:02:40 ]

ความคิดเห็นที่ 33 หลังต่อไป อันดับที่ 32 ขึ้นมาที่เมืองโกเบบ้าง เป็น Kobe Foreign Settlement ที่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2430 สังเกตอะไรไม๊... บ้านหรือศาลาทรงฝรั่งในญี่ปุ่นสมัยนั้น ชอบทาสีเขียวกันครับ เป็นเขียวตุ่นๆ ที่ช่างไม่สดใสเสียเหลือเกิน รึว่าเทคโนโลยีการผสมสีสมัยนั้นเค้ายังไม่สามารถผสมสีทาบ้านที่เป็นสีเขียวสดๆ ออกมาขายได้ ก็ให้เดากันไป จากคุณ : NumAromDee - [ 25 มิ.ย. 51 21:08:44 ]

ความคิดเห็นที่ 34 หลังต่อไปนี่จริงๆ แล้วเป็นอันดับที่ 68 ซึ่งพึ่งจะโยกย้ายเข้ามาตั้งอยู่ใน Meiji-mura Museum หมาดๆ เมื่อปีก่อนนี่เอง ความจริงหลังนี้ควรจะสถิตย์อยู่ด้านในสุดของมิวเซี่ยม แต่บรรยากาศของบ้านมันดูไม่เข้ากับอาคารที่อยู่ในโซนที่ 5 ซึ่งมีแต่อาคารหรูเริ่ดอลังการทั้งนั้น ก็เลยมาอยู่ให้เข้าคี่กับบ้านฝรั่งทั้ง 2 หลังที่ให้ชมผ่านไปแล้ว ชื่อว่า “ Villa of Mataemon Shibakawa” ไม่รู้ว่าเป็นใครเหมือนกัน น่าจะเป็นคนดังของญี่ปุ่น หาข้อมูลยังไม่เจอ แต่บ้านสวยถูกใจชะมัด หน้าต่างชั้นบนจะเยอะมาก เหมาะจะไปสร้างอยู่ริมอ่าวสวยๆ เอาไว้นอนดูฝูงดาวตัดกับน้ำที่ขอบทะเลกันทุกคืน จากคุณ : NumAromDee - [ 25 มิ.ย. 51 21:18:40 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ตามริมน้ำด้านที่เห็นวิวสวยๆ จะมีการวางศาลาโบราณเอาไว้ให้นั่งบิวอารมณ์ชมทะเลทะเลสาปอิรุกะกันเพลินๆ หลังนี้ก็สีเขียวอีกแล้ว เป็นซุ้มประตูทางเข้าของ Religious College ที่โตเกียว สร้างเมื่อ พ.ศ. 2451 จากคุณ : NumAromDee - [ 25 มิ.ย. 51 21:24:33 ]

ความคิดเห็นที่ 36 จบโซนที่ 3 แล้วครับ ก็เดินอ้อมเนินเขาลูกน้อยๆ ตัดป่าลงไปยังโซนที่ 4 ลงมาก็ปะทะสายตาเข้ากับอาคารไม้ยาวกว่า 100 เมตรหลังนี้ เป็นโรงยิมสำหรับฝึกวิชาลูกผู้ชายชื่อ “Musei-do” ตั้งอยู่ในโรงเรียนมัธยมลำดับที่ 4 ในจังหวัด Ishikawa ใช้ฝึกวิชาศิลปะป้องกันตัว และใช้ในสนามรบ พวก ยูโด เคนโด้ และ ยิงธนู(ญี่ปุ่น) สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2460 แล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ 25 มิ.ย. 51 21:32:06 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เดินข้าไปชมข้างใน ขนลุกซู่อีกแล้ว เพราะเค้าวางลำโพงไว้รอบอาคาร เปิดเสียงคนกำลังฝึกวิชากันเสียงดังสนั่น ทั้งเสียงโห่ร้อง ตีกลอง(ญี่ปุ่น) เสียงคนถูกเหวี่ยงกระแทกพื้น เสียงดาบไม้กระทบกัน เสียงลูกธนูเสียบเข้าที่เป้า อื้ออึงไปหมด ราวกับมีนักรบบูชิโดกำลังออกกำลังกายบดกระดูกเพื่อนอยู่รอบๆ ตัวเลย แถมยังมีกลิ่นชุดเกราะอับๆ โชยมาให้วังเวงอีกตะหาก บรรยากาศน่าโดนผีญี่ปุ่นเกาหลังอีกแล้วครับท่านผู้ชม...... เดินดูอยู่คนเดียวในยิมนี้ซ่ะด้วย ให้ยิมจะแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน ส่วนที่ปูเสื่อสีน้ำตาลนิ่มๆ เอาไว้ซ้อมยูโด ตรงที่เป็นพื้นไม้เรียบๆ ลื่นๆ ขัดมันๆ เอาไว้ซ้อมเคนโด้ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 มิ.ย. 51 21:38:26 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ส่วนด้านหลังเป็นสนามซ้อมยิงธนู มัดฟางท่อนยักษ์ที่อยู่ทางซ้ายของรูป คือเป้าที่ใช้รับลูกธนูครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 มิ.ย. 51 21:40:09 ]

ความคิดเห็นที่ 39 โซนที่ 4 นี้ มีแต่อาคารใหญ่ๆ ที่เป็นอาคารสาธารณะทั้งนั้น หลังต่อไปไปชมโรงพยาบาลยุคบุกเบิกการแพทย์สมัยใหม่กันบ้าง.... เป็นอาคารลำดับที่ 35 เป็นตึกผู้ป่วยในของ Japan Red Cross Society Central Hospital ของเมืองโตเกียว สร้างเมื่อ พ.ศ. 2433 ครับ สีเขียวอีกแล้ว แต่หน้าต่างเยอะมาก ดูโปร่งโล่งสบาย ไม่ต้องติดแอร์เลย (แต่ผมก็ไม่อยากไปนอนเล่นหรอกนะ) จากคุณ : NumAromDee - [ 25 มิ.ย. 51 21:46:11 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เอ๊ะ.....แล้วเงาๆ อะไรในโรงยิมคะนั่นน่ะ ถ่ายติดใครมาด้วยเหรอ... .... เอ่อ ไม่กลัวผีนี่นา คาราวะ เอ๊ย คมบังวะ ค่ะ จากคุณ : salamanka - [ 25 มิ.ย. 51 21:49:01 ]

ความคิดเห็นที่ 41 บรรยากาศข้างในดูอบอุ่นน่านอนป่วยเสียนี่กระไร เตียงเป็นเตียงไม้กลมๆ สีดำด้าน ดูโปร่งโล่งสบาย เข้ากับอาคารที่มีหน้าต่างกว้างๆ เยอะๆ หลังนี้จริงจริง คนสมัยก่อนนี่เค้าช่างมีสุนทรียะทั้งการออกแบบอาคารและการเลือกข้าวของเครื่องใช้ให้เข้ากันได้เป็นอย่างดีเลยนะ ห้องอื่นๆ ก็โชว์อุปกรณ์เครื่องใช้ และชุดพยาบาลสมัยนั้น แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 51 09:39:56 จากคุณ : NumAromDee - [ 25 มิ.ย. 51 21:50:24 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อะฮ้า  มาต่อแว้ว จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด - [ 25 มิ.ย. 51 21:53:32 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สวัสดีน้องซาร่าห์... มาได้เวลาเหมาะที่ผมจะต้องขอตัวไปอาบน้ำแปรงฟันประแป้งหอมๆ พอดี คืนนี้คงไม่จุดน้ำมันอโรม่าอีกล่ะ เด๋วจะหลับรวดม้วนเดียวจบถึงเช้าอีก ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ ถ้าไม่งัวเงียซ่ะก่อน จะมาต่อ แต่อย่างเอาอะไรแน่นอนกะคนชอบอู้อย่างผมเลย... ทิ้งท้ายไว้ด้วยรูปพยาบาลรุ่นแรกๆ ที่เคยทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 มิ.ย. 51 21:56:46 ]

ความคิดเห็นที่ 44 หลอนมาก เชื่อเหอะพี่ไม่มาหรอก พี่หลับชัวร์ อิอิ จากคุณ : เจ๊มาเองจ้ะ - [ 25 มิ.ย. 51 23:58:28 ]

ความคิดเห็นที่ 45 มาซิเจ้ รู้ได้ยังงัยว่าผมไม่มา แบบว่ามันได้กลิ่นธูปลอยมาจางๆ หง่ะ เลยต้องตามมาหลอนกันต่อ จริงๆ แล้วจะรอดูบอลตะหาก ฮ่ะฮ่า.... ถัดจากโรงพยาบาล ก็เป็นโรงทหารกันต่อ หลังที่ 36 คือ อาคารโรงทหารของกรมทหารราบที่หก จากจังหวัดนาโงย่า เก่าคร่ำคร่ามาตั้งแต่ พ.ศ. 2416 คราวนี้เป็นอาคารแบบฝรั่งเศส ไม่ใช่เยอรมัน จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 00:38:44 ]

ความคิดเห็นที่ 46 พึ่งเห็น คห. คุณก๊วย....สวัสดีวันต่อต้านยาเสพติดโลกครับ ขอบคุณครับที่ติดตาม =============================== ข้างอาคารโรงทหารก็จัดแสดงชุดทหารและอุปกรณ์ของทหารราบสมัยนั้น ชุดทหารสมัยนั้นออกแนวเยอรมันจ๋าเลย... แต่เป็นเยอรมันสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 นะ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 00:46:18 ]

ความคิดเห็นที่ 47 พอเห็นเตียงนอนทหารสมัยนั้นก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคนไทยสมัยก่อนถึงเรียกคนญี่ปุ่นว่า “อ้าย..เตี้ย” ความยาวของเตียงนอนแต่ละเตียงน่าจะไม่เกิน 160 เซ็นฯ ผมว่าผมตัวเล็กแล้วนะ แต่ถ้าได้นอนเตียงนี้ เท้าผมต้องเลยขอบเตียงแน่ๆ ถึงจะตัวเล็ก แต่ “ใจเด็ดเกินตัว” นะอย่าดูถูกเชียว เพื่อนที่ชอบปืนเคยหล่นเกร็ดประวัติศาสตร์ในวงเหล้าให้ฟังว่า สมัยก่อนสงครามโลก นายทหารของอเมริกันจะใช้ปืนพกขนาดเล็กๆ พวก .22 หรืออย่างมากก็ .38 เท่านั้น ด้วยว่าขนาดพกพาสะดวก และอานุภาพก็เหมาะกับการหยุดฝ่ายตรงข้ามให้กองกับพื้นได้ไม่ยาก แต่พออเมริกันเริ่มรบกับญี่ปุ่นทางภาคพื้นดินได้ไม่นาน ก็ต้องรีบขนปืนพกขนาด .45 หรือ 11 มม. ไปแจกให้นายทหารกันแทบไม่ทัน เพราะถ้าเอา .22 ไปยิงทหารลูกพระอาทิตย์ พี่ยุ่นจะไม่ยอมล้มกันง่ายๆ นะสิครับ!!! โดนไป 3 นัด ยังกัดฟันวิ่งถือดาบปลายปืนเข้ามากระซวกพุงทหารอเมริกันได้ตั้งหลายคนก่อนจะขาดใจตาย ต้องขนาดยักษ์ 11 มม. เท่านั้นถึงจะเอาอยู่ คือ ต้องยิงให้ขาขาดแขนขาดกันไปข้างนึงเลย ไม่งั้นโดนซามูไรหรือดาบปลายปืนทิ่มพุงแน่แน่ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 01:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 48 บอลมาแล้ว.... ไม่มีสมาธิเลย หนีไปดูบอลดีกว่า กำลังลุ้นตุรกีอยู่ อยากเห็นคู่ชิงเป็น ตุรกี กะ สเปน ฮอลแลนด์แฟนเก่าจากไปเร็วก่อนเวลาอันควรแล้ว เหลือแต่แฟนใหม่ใสแน๊ว...อย่างสเปน กะกิ๊กคนล่าสุด ตุรกี เท่านั้น ที่พอจะให้ชีวิตการเป็นเพนด้าเชียร์ดึกได้แช่มชื่นกันบ้าง พรุ่งนี้มาต่อครับ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 01:49:47 ]

ความคิดเห็นที่ 49 มาต่อกัน วันนี้น่าจะจบนะ จะได้เล่าเรื่องอื่นบ้าง เดี๋ยวจะเบื่อกันซ่ะก่อน หลังที่ 37 ก็ยังเป็นโรงพยาบาลชื่อ Nagoya Garrison Hospital  จากเมืองนาโงย่า เป็นโรงเรือนยาวๆ  6 หลัง เชื่อมด้วยระเบียงไม้ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2421 ไม่เหมือนกับ คห. 39-41 นะ อันนั้นเป็นเรือนพักผู้ป่วยหลังเดียวโดดๆ ตัวอาคารดูธรรมดา แต่คงมีประวัติศาสตร์อะไรบางอย่าง เพราะอาคารกลุ่มนี้เขามีการยกฐานะเป็น "Aichi Prefecture tangible cultural property" - สมบัติทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของจังหวัดไอชิ เป็น รพ. ที่เหลือรอดจากการโดนทิ้งระเบิดตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 มั๊ง เพราะตอนนั้นเมืองนาโยง่าโดนทิ้งระเบิดซ่ะราบไปทั้งเมือง จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 18:01:06 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ข้างในจัดแสดงพวกอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์สมัยโบราณ มีบรรพบุรุษของเครื่อง X-ray ตั้งโชว์ไว้ 2-3 เครื่อง ด้วย เห็นแล้วนึกถึงหนังเรื่องแฟรงเกนสไตน์เนอะ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 18:04:36 ]

ความคิดเห็นที่ 51 หลังต่อไปเป็นโบสถ์ศาสนาคริตส์นิกาย Evangelism ของคนญี่ปุ่นในรัฐวอชิงตัน USA นู่น ดูใหม่เอี่ยมอย่างนี้ แต่สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2450 แล้ว คงจะบูรณะมาแล้วหลายรอบ เป็นบ้านสไตล์อเมริกันที่ดูทันสมัยมากในยุคนั้น จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 18:11:07 ]

ความคิดเห็นที่ 52 หลังถัดไป ขนย้ายมาจากเมือง Sao Paulo บราซิลนู่น เป็น Japanese Immigrant's House ที่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2462 โดยใช้วัสดุในท้องถิ่น แต่รูปแบบและเทคนิคในการก่อสร้างเป็นของญี่ปุ่น ถึงว่าทรงบ้านออกจะเอเชี้ย..เอเชีย.... เมื่อ 8-90 ปีก่อน ญี่ปุ่นก็เริ่มไปบุกเบิกติดต่อทำมาหากินไกลถึงบราซิลนู่นแล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 18:18:43 ]

ความคิดเห็นที่ 53 หลังถัดมาก็ยังเป็นแนวบ้านญี่ปุ่นในต่างประเทศ หลังนี้ยกมาจากฮาวาย เป็น Japanese Immigrant's Assembly Hall จาก เมือง Hilo สร้างเมื่อ พ.ศ. 2432 สร้างเพื่อใช้เป็นโบสถ์ให้คนญี่ปุ่นที่ไปทำมาหากินอยู่ที่โน่น จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 18:23:42 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อันถัดมาเป็นสะพานรถไฟเหล็กที่เค้าบอกไว้ว่า เป็นสะพานรถไฟเหล็กที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังเหลือรอด(จากการทิ้งระเบิด)มาได้จนถึงปัจจุบันนี้ ชื่อสะพาน Rokugogawa สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2452 ทอดข้ามแม่น้ำทามะ เชื่อมระหว่างเมือง คามาตะของโตเกียว กับเมือง คาวาซากิ ของจังหวัดคานางาว่า บนสะพานเค้าก็เอาของหมายเลข 42 มาโชว์ด้วยพร้อมกัน เป็นหัวรถจักรไอน้ำชื่อ Steam Locomotive No. 1 ของการรถไฟ Bisai หัวรถจักรคันนี้สร้างที่อเมริกาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2440 เป็นหัวรถจักรไอน้ำคันแรกที่นำเข้ามาในใช้ในเชิงพาณิชย์ที่ญี่ปุ่น วิ่งลากโบกี้รับส่งคนและของระหว่างเมือง Yatomi กับเมือง Shin-Ichinomiya ในจังหวัดไอฉิ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 18:37:12 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อันดับที่ 43 นี้ไม่ได้ตั้งอยู่กับที่ครับ เป็นหัวรถจักรและโบกี้รถไฟชั้น 3 นำมาวิ่งให้คนเข้าชมมิวเซี่ยมนั่งได้จริงๆ หัวรถจักรไอน้ำชื่อ  Steam Locomotive No. 9 และ 12 สั่งทำจากประเทศอังกฤษ และ อเมริกา ขบวนนี้ผมไม่ได้ขึ้นไปดูใกล้ๆ เพราะมันตั้งอยู่บนเนินเขาอีกลูก เดินมาเหนื่อยแล้ว ชักขี้เกียจ ได้แต่ฟังเสียงหวูดไอน้ำอยู่แต่ไกลแทน เอารูปรถไฟสวยๆ กับสาวใสๆ จาก web ของมิวเซี่ยมมาให้ดูแทน จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 18:44:42 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เดินลงจากเนินอีกลูก...(แฮ่กๆๆ) ก็เจออันดับที่ 44 เป็นอาคารสีเขียวอีกแล้วครับท่าน หลังยาวๆ แบบนี้ ตอนแรกผมนึกว่าเป็นโรงเก็บหัวรถจักร หรือ โบกี้รถไฟอีก เพราะชื่อมันบอกอย่างงั้น “Shimbashi Factory of the Japan National Railways” เป็นโรงงานของการรถไฟญี่ปุ่นจากย่านชิมบาชิ เมืองโตเกียว สร้างเมื่อ พ.ศ. 2411 จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 18:50:20 ]

ความคิดเห็นที่ 57 แต่พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ กลายเป็นโรงงานเก็บเครื่องปั่นด้าย และทอผ้าไปซ่ะงั้น สงสัยว่าการรถไฟญี่ปุ่นสมัยก่อน คงทำธุรกิจเสริมหลายอย่างแน่เลย วัสดุที่ใช้สร้างโรงงานนี้ กับเครื่องจักร นำเข้ามาจากประเทศอังกฤษล้วนๆ เลยครับ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 18:52:31 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เดินถัดลงมาเป็นร้านกาแฟที่มีเทอเรสกว้างๆ ตั้งโต๊ะกับร่มเล็กๆ ไว้ให้นั่งดื่มกาแฟ โดยมี Shinagawa Glass Factory หลังนี้เป็นฉากหลัง เป็นโรงงานผลิตแก้วที่สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2420 ด้วยว่าในโรงงานใช้เทคโนโลยีการผลิตแก้วของอังกฤษ รูปทรงอาคารก็เลยให้คนอังกฤษออกแบบ เห็นแล้วชวนให้นึกถึงผับ(อังกฤษ)มากกว่าจะเป็นโรงงาน เห็นแล้วอยากกินเบียร์ดำ....เอื๊อกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 18:58:14 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ที่อยู่ข้างๆ โรงงานทำแก้ว ที่เป็นอาคารทรงแปลกๆ จะแขกก็ไม่ใช่ จะฝรั่งก็ไม่เหมือน แถมยังมีลวดลายที่เป็นเอเชียอยู่หน่อยๆ เป็น ที่ทำการไปรษณีย์ Uji-yamada ในจังหวัดมิเอะ ครับ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2452 สวยแบบแปลกๆ ครับ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 19:02:22 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ข้างในเป็นทั้งมิวเซี่ยมย่อย แสดงประวัติการไปรษณีย์ญี่ปุ่นตั้งแต่ยุคเอโดะ ที่เอาจดหมายใส่กล่องไม้แล้วใช้คนถือเดินไปส่งระหว่างเมือง จนถึงยุคเมจิที่มีระบบไปรษณีย์เต็มรูปแบบแล้ว มีส่วนหนึ่งทำเป็นเคาเตอร์ไปรษณีย์จริงๆ ให้ส่งโปสการ์ดจากที่นี่ได้ด้วย มุมนี้เค้าเอาตู้ไปรษณีย์ตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม จนถึงปัจจุบันมาตั้งโชว์ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 19:05:52 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ที่น่าตกใจคือมีรูปตู้ไปรษณีย์ไทยติดอยู่ด้วย !!!???!!!! เห็นติดป้ายไว้ว่า เป็นตู้ไปรษณีย์ที่ใช้ในญี่ปุ่นช่วง พ.ศ. 2414 จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 19:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ให้ดูกันชัดๆ ครับว่าเป็นตู้ไปรษณีย์ของไทยจริงๆ ภาษาไทยพิมพ์ไว้หราเลย..... สงสัยว่าเจ้าของมิวเซี่ยมคงหาตู้ไปรษณีย์รุ่นนี้ในญี่ปุ่นไม่เจอแล้ว แต่มาเจอที่เมืองไทย ก็เลยขอถ่ายรูปมาแปะไว้แทนซ่ะเลย จะบอกว่า แถวบ้านผมยังมีตู้รุ่นนี้ใช้กันอยู่เลยครับ... พึ่งรู้นะเนี๊ยะว่าเป็นตู้โบราณอายุตั้งเป็นร้อยปีแล้ว ไปรษรีย์ไทย....สึโก้ย! จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 19:11:17 ]

ความคิดเห็นที่ 63 มาเดินดูบ้านชาวบ้านธรรมดากันบ้างครับ เป็นร้านตัดผมชื่อ Kinotoko จากโตเกียว เก่าจนไม้ขาวซีดขนาดนี้ เพราะสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2453 เป็นบ้านไม้แบบสมัยเอโดะ แต่ข้างในมีอุปกรณ์ตัดผมแบบตะวันตก ที่ไปยกมาทั้งชุด เรียกว่าเอามาทุกอย่างที่เกียวข้องเลย ไม่ได้เอามาแต่ตัวอาคาร มีรูปเจ้าของยืนพิงระเบียงอยู่บนชั้น 2 ด้วยนะ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 19:22:42 ]

ความคิดเห็นที่ 64 หลังต่อไปลำดับที่ 48 เค้าบอกว่าเป็นเรือนพักผ่อน(ฤดูร้อน) ของ Mr. Lafcadio Hearn เค้าเป็นใครหนอ....????? สำคัญยังงัยถึงเอาบ้านพักมาตั้งไว้ที่นี่ ก็เลยหาใน Wikipedia ดู ก็พบว่า Hearn เป็นคนไอริช ที่มาอาศัยทำงานเป็นนักเขียนและอาจารย์จนได้โอนสัญชาติเป็นญี่ปุ่น ใช้ชื่อในงานประพันธ์ว่า Koizumi Yakumo ถนัดเขียนเรื่องเกี่ยวกับตำนานโบราณ และ ผีญี่ปุ่น ดังกระทั่งว่ามีผู้กำกับชื่อดังเอาหนังสือของแกไปทำเป็นหนัง ใครอยากอ่านประวัติโดยละเอียด ก็ตามนี้นะครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Lafcadio_Hearn ขี้เกียจเล่ายาวแล้วเด๋ววันนี้ไม่จบอีก จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 19:37:13 ]

ความคิดเห็นที่ 65 แต่ข้างในบ้าน อ. Hearn กลับทำเป็นร้านขายขนมและของเล่นโบราณ เห็นแล้วนึกถึงร้านขายของเล่นที่เกาะเกร็ดชมัด... เห็นแล้วอยากวิญญาณแห่งความเป็นเด็กน้อยพุ่งพล่านขึ้นมาทันที จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 19:40:46 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ติดกับบ้าน อ. Hearn เป็นโรงละครโบราณชื่อ Kureha-za ที่ยกมาจากโอซาก้า สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2411 เก่าแก่และทรงคุณค่าระดับ important cultural property อีกแล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 19:43:40 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ข้างในยังคงรักษาสภาพไว้ได้ค่อนข้างสมบูรณ์มาก เห็นเป็นอาคารเตี้ยๆ อย่างนี้ แต่ข้างในเค้าทำเป็น 2 ชั้นครับ พวกซามูไร หรือ พ่อค้ารวยๆ ก็ขึ้นนั่งดูที่ชั้น 2 ไป ตังค์น้อยๆ ก็ต้องนั่งหลังสุดดูใต้ชายคา จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 19:47:07 ]

ความคิดเห็นที่ 68 หลังสุดท้ายของโซนที่ 4 เป็นโรงอาบน้ำ Azuma-yu จากจังหวัดไอฉิครับ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2453 ที่ถึงแม้จะเป็นเรือนหลังเล็กๆ แต่ก็แบ่งเป็นสองฝาก แยกชายหญิง ไม่ได้อาบรวมนะจ้ะ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 19:50:27 ]

ความคิดเห็นที่ 69 แต่ตอนนี้ข้างในโรงอาบน้ำ กลายเป็นที่ให้นั่งแช่เท้า สำหรับคนที่เดินชมมิวเซี่ยมมาเมื่อยๆ ไปแล้ว แช่ฟรี แต่ต้องหาผ้าเช็ดเท้าไปเองนะ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 19:52:08 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เจ้าสู่โซนที่ 5 โซนสุดท้ายแล้ว... เข้าไปก็ปะทะกับความสวยเด่นเป็นสง่าขาวสะอาดตาอยู่บนเนินน้อยๆ เป็นลำดับที่ 51 - St. Francis Xavier's Cathedral ครับ ย้ายมาจากเมืองเกียวโต สร้างโดยสถาปัตยกรรมแบบ Gothic ( http://en.wikipedia.org/wiki/Gothic_architecture ) สไตล์เยอรมัน ที่มีจุดเด่นตรงหน้าต่างกระจกสีรูปวงกลมขนาดใหญ่ที่อยู่เหนือประตูโบสถ์ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 19:58:35 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เวลาเข้าไปดูกระจกสีนี้จากข้างในโบสถ์ตอนกลางวัน แสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านเข้ามา จะทำให้โบสถ์ดูสว่างไสวสวยงามราวกับติดไฟประดับบนภาพวาดสวยๆ ซักรูปนึง เห็นแล้วอยากไปดูโบสถ์สวยๆ ทางยุโรปมั่งจัง ขนาดดูโบสถ์ย่อส่วนของญี่ปุ่นยังประทับใจขนาดนี้ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:01:33 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ออกจากโบสถ์ก็เข้าประตู อย่านึกว่าเป็นประตูโรงเรียนเหมือนที่ทางเข้ามิวเซี่ยมนะ อันนี้เป็นประตู “คุก” ครับ เป็นซุ้มประตูใหญ่ของคุก Kanazawa จากจังหวัด Ishikawa ที่สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2450 นู่น... ดูแล้วได้อารมณ์กำแพงปราสาทเหมือนกันนะ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:06:38 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ที่เห็นยืนโดดเดี่ยวเปลี่ยวอยู่อันเดียวนี่ก็คือประภาคาร Konasami-jima จากชายฝั่งจังหวัดฮิโรชิม่า ไม่รู้ว่าเหลือรอดจากการแรงระเบิดปรมาณูตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 มาได้ยังงัย จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 74 มองกลับมาที่พื้นที่ยืนถ่ายรูปประภาคารหลังน้อยเมื่อกี้ ตอนแรกนึกว่ายืนบนถนนปูด้วยหินทัวไป มันเป็นสะพานหินครับ ชื่อ สะพาน Tendo Arch ทำจากหิน Yamadera ที่สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2430 แต่อย่ามาถามผมนะว่าหินยามาเดระดียังงัย... คงทำสะพานแล้วแข็งแกร่งทนนานล่ะมั๊ง มิวเซี่ยมนี้ไล่เก็บสะสมมาซ่ะทุกอย่างเลยนะ นับถือจริงๆ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ลำดับต่อไปก็ยังเป็นสะพาน แต่เป็นสะพานเหล็กหน้าตาแปลกๆ ชื่อสะพาน Shin-Ohashi จากโตเกียว สร้างเมื่อ พ.ศ. 2455 ไม่ใช่แค่สะพานที่เอาเหล็กมาเชื่อมไขว้กันธรรมดา แต่ถูกออกแบบมาด้วยไอเดียการออกแบบสมัยใหม่แบบ ทำออกมาตอนนั้น ชาวบ้านร้านตลาดคงจะงงน่าดู ว่าทำโครงเทอะทะแบบนี้ทำไมให้เปลืองเหล็ก จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:23:24 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ไปแบบเร็วๆ เลยล่ะกันนะ พอดีผมมีธุระตอนสามทุ่ม ไม่อยากให้กระทู้ค้างคาไปจนถึงสัปดาห์หน้า ลำดับที่ 56 โบสถ์ St.Paul จากจังหวัดนางาซากิ เมืองที่มีคนญี่ปุ่นนับถือศาสนาคริสต์มากที่สุด เป็นโบสถ์ที่ภายนอกดูธรรมดาเหมือนโรงเรือนญี่ปุ่นทั่วไป จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:27:18 ]

ความคิดเห็นที่ 77 แต่ข้างในสวยมากครับ โดยเฉพาะตรงเพดานที่เป็นทรงเหมือนร่ม และการตกแต่งภายในในสไตล์ Gothic จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:28:53 ]

ความคิดเห็นที่ 78 อาคารที่เหลือแต่ซากแค่ส่วนเดียวนี้ คือส่วนที่เหลือจาก อาคารสำนักงานใหญ่ของธนาคาร Kawasaki ที่เมืองโตเกียว ที่สร้างไว้เมื่อ พ.ศ. 2470 ไม่รู้ว่าเอามาได้แค่นี้ หรือว่าอาคารโดนระเบิดบอมด์ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 กันแน่ เป็นสถาปัตยกรรมแบบ Renaissance ( http://en.wikipedia.org/wiki/Renaissance_architecture ) ขนาดเหลืออยู่ซีกเดียวยังสวยมากเลยครับ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:33:10 ]

ความคิดเห็นที่ 79 อาคารทรงโรมันสุดสวยหลังต่อไป เป็นหอสมุดของสภาขุนนาง ที่ตั้งอยู่ในเขตวังอิมพีเรียล จากโตเกียว สร้างเมื่อ พ.ศ. 2454 สวยคลาสสิคสุดสุด จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:36:52 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ป้อมตำรวจอีกหลังจากเมืองโตเกียว จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:37:48 ]

ความคิดเห็นที่ 81 คุกโบราณจากเมือง Maebashi จังหวัด งุนมะ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:39:30 ]

ความคิดเห็นที่ 82 อาคารเรือนจำ Kanazawa ที่ผมพาเดินลอดซุ้มประตูที่ คห. 72 จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:41:42 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ศาลประจำเมือง Miyazu เกียวโต จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:43:07 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ที่ข้างในมีรูปจำลองของการว่าความในศาล ผู้พิพากษา กับเจ้าหน้าที่ในศาลญี่ปุ่น แต่งตัวแปลกไม่เหมือนใครดีแฮ่ะ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:44:56 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ที่เห็นลิบๆ อยู่บนยอดเนิน ให้ต้องปีนกันลิ้นห้อย นั่นก็คือ โรงหมักเบียร์ Kikunoyo จากจังหวัดไอฉิ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:46:30 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เข้าไปดูใกล้ๆ ถึงจะเก่ามีชำรุดบ้างแล้ว แต่ก็สวยมาก ดูสง่า ขลัง อลังการ และคลาสสิค รวมกันในตัว จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:47:56 ]

ความคิดเห็นที่ 87 มีสวนสวยๆ อยู่หน้าโรงเบียร์ ที่มีดอกอะไรไม่รู้ สีชมพูกะสีขาว ให้นั่งพักชมจนชื่นใจ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:49:25 ]

ความคิดเห็นที่ 88 หายเหนื่อยแล้ว ก็ลงมาดูบ้านหลังคาสีสดเหมือนลูกกวาดรูปทรงสวยแปลกตาจากจังหวัดนิอิงาตะหลังนี้ อดีตเป็นร้านถ่ายรูปชื่อ Oguma Photo Studio ครับ ปัจจุบันที่มิวเซี่ยมก็ยังทำเป็นร้านถ่ายรูป พร้อมโชว์กล้องโบราณอยู่ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:52:13 ]

ความคิดเห็นที่ 89 แล้วก็เดินลงมาดูอาคารสับรางรถไฟ Iwakura ของการรถไฟนาโงย่า ของเดิมอยู่ที่จังหวัดไอฉิ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2455 ดูไกลๆ แล้วเหมือนโบสถ์จัง จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:54:29 ]

ความคิดเห็นที่ 90 สุดท้ายแล้วครบ ไฮไลต์ของการชมวันนี้ เป็น Main Entrance Hall and Lobby ของ Imperial Hotel ที่เคยตั้งอยู่แถวหน้าวังอิมพีเรียล สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2466 เจ้าของมิวเซี่ยมไปขอย้ายมาทั้งกระบิ คงต้องลงทุนค่าขนย้ายกันแพงน่าดู เป็นอาคารที่สร้างจากหินภูเขาไฟ กับอิฐสีเหลือง ด้วยสไตล์ที่ผมรู้สึกว่า เหมือนศิลปะบาหลีเลยครับ ไม่รู้เป็นความตั้งใจหรือบังเอิญ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 20:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ดูกันให้ชัดๆ โดยไม่มีน้ำพุมาบัง จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 21:00:26 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ดูลวดลายกันใกล้ๆ กลับไม่เหมือนบาหลีละ กลายเป็นเหมือนศิลปะแบบมายัน ของชาวพื้นเมืองอเมริกาใต้แทน จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 21:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ยิ่งเห็นรูปปั้นกระถางที่วางอยู่ข้างหน้าทางเข้านี่ก็ยิ่งเหมือนใหญ่ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 21:03:34 ]

ความคิดเห็นที่ 94 เข้าไปดูข้างในก็สุดอลังการงานสร้าง คนออกช่างมีจิตนการและความคิดที่ผสมผสานสุดยอด เหมือนเข้าไปอยู่ในปราสาทขอม + ปิรามิดโบราณ + ศาลาบาหลี ยังงัยยังงั้น.... จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 21:05:54 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เดินชมอยู่จนบ่าย 5 โมงเย็น จนถึงเวลาปิด เค้าเปิดเพลงไล่แล้ว ก็ต้องรีบตาลีตาเลือกวิ่งๆ เดินๆ เกือบ 5 กิโล ออกมาขึ้นรถบัสกลับนาโงย่า จบแล้วครับ ตอนที่ 6 รีวิวมาราธอนของผม ขออภัยที่ตอนท้ายรีวิวลวกๆ อยากให้จบวันนี้เลยครับ เด๋วพรุ่งนี้กลางวันต้องสัมมนา ตอนเย็นก็ต้องขับรถกลับ กทม. วันเสาร์ก็ต้องทำนู่นทำนี่อีกหลายอย่าง ทิ้งค้างคาไว้ชาวบ้านเค้าจะว่าเอา พบกันใหม่ตอนหน้า จะพาไปชิมของอร่อยที่นาโงย่ากัน ขอบคุณทุกท่านที่ตามชมถึงตรงนี้..... ไปล่ะครับคืนนี้ ฝันดีราตรีสวัสครับ จากคุณ : NumAromDee - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 21:09:49 ]

ความคิดเห็นที่ 96 โอยาสุมินาไซค่ะ ตอนแรกก็ประมาณนึงนะ แต่ยิ่งดู ยิ่งน่าไปจังค่ะ ขอบคุณที่รีวิวซะละเอียดละออเลย ยาวที่สุดในชีวิตรึยังคะ กระทู้นี้น่ะ (3 คืนรวด เหอๆ จริงๆถ้าไม่อู้ คงเสร็จตั้งแต่เมื่อคืนวาน) จากคุณ : salamanka - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 21:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ขอบคุณนะค้า สนุกมากๆ ค่า จากคุณ : แฟนอองรี - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 22:06:37 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ยิ่งอ่านยิ่งอยากไป เอาน่ะ ต้องไปให้ได้ซักวันล่ะที่นี่ แตว่า่เดินเยอะจัง จะรอดรึเรา จากคุณ : bangkok dream - [ 27 มิ.ย. 51 10:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 99 แบบนี้เวลาก่อนเข้าชมต้องแต่งตัวแบบสมันเมจิไปเดินดู เดินถ่ายรูป น่าจะสนุกเป็น 2 เท่านะคะ จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด - [ 27 มิ.ย. 51 14:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 100 จะรอดูกระทู้ต่อไปครับ จากคุณ : chemble - [ 27 มิ.ย. 51 17:27:51 ]

ความคิดเห็นที่ 101 โชคดีครับกลับมาทันดูรีวิวของคุณหนุ่ม ผมจะรออ่านภาคต่อนะครับ ของผมภาคต่อไป ก็เร็วๆ นี้ครับ ขอบคุณที่เจิมกระทู้ให้ครับ จากคุณ : DEKCGN - [ 28 มิ.ย. 51 22:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เพิ่งได้มาเห็น ขยันทำหน้าดูเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ ชื่นชมค่ะ แต่มีข้อสงสัยเล็กน้อย ที่ไปมาเข้าใจว่าอาคารพวกนี้สร้างใหม่ อย่างMain Entrance Hall and Lobby ของ Imperial Hotel สร้างโดยสุดยอดสถาปนิก Frank Llyod Wright และถล่มไปพร้อมแผ่นดินไหวใหญ่ปี1968 ถ้าข้อมูลผิดขออภัยค่ะ จากคุณ : ยืมloginเพื่อนค่ะ (teenager) - [ 4 ก.ค. 51 00:14:10 ]

ความคิดเห็นที่ 103 โห... เกือบไม่ได้ตอบ คห. คุณ ยืม login เพื่อนฯ ไปค้นข้อมูลมาเพิ่มแล้ว จริงครับ อาคารบางอาคารใน Museum สร้างขึ้นใหม่ โดยมีส่วนประกอบของอาคารเดิมประกอบอยู่ด้วย หลายอาคาร เป็น ของแท้ที่ขนย้ายมาประกอบใหม่ บางอาคารเหลือแต่โครงสร้างบางส่วน ทาง Museum ก็เอามาสร้างเพิ่มเติมให้ครบสมบูรณ์เหมือนเดิม คือมีทั้ง ของดั่งเดิม ของบูรณะ และ ของสร้างใหม่ ปะปนกันไปครับ ขอบคุณครับที่มาให้ข้อมูลเพิ่ม ดีใจครับ ถึงไม่มี log-in ก็ยังติดตามอ่านและให้ความเห็น ขอบคุณมั่กๆ ครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 4 ก.ค. 51 13:59:01 ]