Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ระวัง!บ้านพักในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด

    เราเป็นคนที่ชอบธรรมชาติ และชอบเที่ยวอุทยานแห่งชาติมาก สมัยเรียนก็มักจะไปกางเต๊นท์ที่อช.ต่างๆกับเพื่อนบ่อยๆ แต่พอโตมาทำงานมีรถก็อยากพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยว ซึ่งท่านคงนอนเต๊นท์ไม่สะดวกก็เลยเปลี่ยนเป็นพักบ้านพักที่อุทยานแทน ซึ่งก็ไปพักมาแล้วหลายที่ทั้ง อช.เขื่อนศรีนครินทร์ , อช.เขื่อนเขาแหลม, อช.เอราวัณ, อช.น้ำหนาว  ซึ่งบ้านพักก็ OK มีความสุขสะดวกตามอรรถภาพ  สำหรับบ้านพักอุทยานนั้นท่านที่เคยพักจะทราบว่าไม่ได้ตกแต่งสวยงาม เหมือนรีสอร์ทบ้านพักเอกชนทั่วไป แต่ความรู้สึกที่ได้รับจากความสวยงามที่ธรรมชาติเป็นผู้สร้างรอบบ้านพักนั้นมันเป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากความสวยงามที่มนุษย์เป็นผู้สร้างของรีสอร์ททั่วไป   ก่อนจะเล่ารื่องขอชี้แจงวัตถุประสงค์ในการนำเสนอเรื่องราว มี 2 ประเด็น คือ<br><br>

    1. เพื่อบอกข้อมูลให้นักท่องเที่ยวที่กำลังจะเดินทางไป และอาจจะตัดสินใจพักบ้านพักอุทยาน ได้วางแผนในการป้องกันตัวไว้ก่อน<br>
    2. เพื่อหวังให้ข้อมูลเหล่านี้ส่งถึงผู้เกี่ยวข้อง กับอุทยานแห่งชาติ ได้หาทางปรับปรุง และพัฒนาอุทยานแห่งชาติให้ดีขึ้น <br>

    เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อช่วงหยุดวันเข้าพรรษาที่ผ่านมาเราและครอบครัวได้จองบ้านพักอช.เขาสามร้อยยอดไว้ 2 คืน ชื่อบ้านกาหลง ลักษณะบ้านก็คล้าย อช.อื่นๆทั่วไป โดยบริเวณที่เราพัก จะมีบ้านพักอยู่ 3 บ้าน  ตำแหน่งบ้านพักจะอยู่เป็นลักษณะ สามเหลี่ยม คือ บ้านพักกาหลงจะอยู่ตรงมุมบนสามเหลี่ยม  และอีก2บ้านจะอยู่ปลายมุมสามเหลี่ยมทั้ง 2ข้าง ตรงหลังบ้านพักกาหลงจะชนกับภูเขาหินปูน  (ซึ่งเป็นที่มาของความเลวร้ายทั้งหมด)  ตอนที่เราเลี้ยวรถเข้าบ้านพักครั้งแรกนั้น  เราเห็นบ้านพักอีก 2 หลังมีลิงเต็มไปหมดแต่ก็ยังไม่ได้เอ๊ะใจอะไร   จนมาถึงบ้านพักเราก็ไม่เห็นมีลิง  เจ้าหน้าที่ก็พาเราเข้าบ้านพัก  และเมื่อเราขนของเข้าบ้าน เจ้าหน้าที่ก็พูดเปรยๆว่าให้ระวังลิงด้วย  แต่ก็ไม่ได้ย้ำอะไรมาก   เราก็เข้าใจว่าให้ระวังอย่าเอาข้าวของออกนอกบ้าน เดี๋ยวลิงมันจะมาฉกไป หรืออย่าเปิดประตูทิ้งไว้เดี๋ยวลิงเข้าบ้าน  ก็นึกในใจว่าเออต้องเก็บของในบ้านแล้วรีบปิดประตู จากนั้นเราก็สำรวจบ้านพบว่า กระจกเหนือหน้าต่างแตกไปและมีการซ่อมแซมโดยเอากระดาษหน้าทักษิณมาแปะปิดรูไว้แทน  ห้องนอนใหญ่ประตูปิดจากโถงด้านนอกไม่ได้ เพราะไม่มีกลอน ใช้เชือกฟางดึงงับไว้เฉยๆ  ห้องน้ำตรงชักโครกน้ำก็รั่ว  ก๊อกน้ำตรงอ่างล้างมือก็หัก ,  ฝักบัวน้ำก็รั่ว ตลอดเวลา , มุ้งลวดก็ขาด เต็มไปหมด เราเลยให้น้องชายไปร้านสวัสดิการซื้อยากันยุงกับโลชั่นกันยุงมาก็พอถูไถไปได้ระดับหนึ่ง   พี่สาวเราบอกว่าข้อปฏิบัติการใช้บ้านพักเขียนไว้ว่า ให้ประหยัดน้ำเพราะวันนักขัตฤกษ์จะไม่มีน้ำประปาส่งมา ถ้าน้ำหมดก็จะไม่มีน้ำใช้  พวกเราก็เห็นน้ำรั่วเยอะหลายจุดก็กลัวมีปัญหา เลยไปแจ้งเจ้าหน้าที่ที่ด่านซึ่งห่างจากบ้านพักประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่ก็มาดู แต่ก็ไม่ได้ซ่อมอะไร บอกให้เราใช้วิธีปิดวาล์วน้ำเข้าตรงฝักบัว และชักโครกที่รั่ว แทน พอจะใช้ก็ไปเปิดวาล์ว ซึ่งตอนใช้มันก็จะรั่วอยู่ดี  แต่ก็ OK เพราะก็เข้าใจสภาพบ้านพัก อช อยู่แล้ว  (แต่บอกจริงๆตั้งแต่พักบ้านพัก อช มา ที่นี่สภาพแย่ๆสุดๆๆๆๆ ไม่เคยเจอมาก่อน)<br><br>

    คืนนั้นก็นอนหลับผ่านไปไม่มีปัญหา (แต่ว่าแม่เราบอกว่าได้ยินเสียงลิงร้องตลอดเวลา)  ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น เรา พี่เขย และน้องชายก็ออกจากบ้านไปขึ้นเขาแดง พอถึงยอดเขา พี่สาวก็โทรมาบอกด้วยเสียงหวาดกลัว ว่าให้รีบกลับ ลิงล้อมบ้านไปหมดเลย  เราก็ OK แต่ยังไม่คิดอะไรมาก  ก็ลงจากเขา  ระหว่างที่ลง พี่สาวก็โทรมาอีกบอกว่าลิงมันเขย่าหลังคาใหญ่เลย  แล้วตรงมุ้งลวดหน้าต่างที่มันขาดเป็นแนวยาวก็มีลิงฉกมือเข้ามา ร้องยิงฟันและพยายามจะเอาหัวมุดเข้ามาด้วย เราฟังแล้วนึกถึงพวกหนังเอเลี่ยนอะไรทำนองนั้นเลย  เราชักใจไม่ดีรีบกลับโดยไม่ลืมติด ท่อนไม้ ไปด้วย พอถึงหน้าบ้านพัก โอ้โห้ ลิงสัก 20-30 ตัวได้ ล้อมบ้านเราจริงๆด้วย  พี่เขยกับน้องชายก็เลยเอาไม้ไล่มันอยู่นาน จนมันค่อยๆหายไป  เราก็เตรียมเก็บของเพื่อออกไปเที่ยวทุ่งสามร้อยยอด  ก่อนออกจากบ้านก็ชักใจไม่ดี เลยงับปิดหน้าต่างรอบบ้าน(ซึ่งมีเยอะมาก) แต่หน้าต่างบางบานก็งับได้ไม่สนิทนักก็พยายามงับสุดๆเท่าที่ทำได้ เราก็คิดว่าถ้ามันมีสภาพแบบนี้แล้วเคยมีคนพักมาก่อนแสดงว่ามันก็คงจะไม่มีปัญหา ก็เลยไม่ได้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาซ่อม เพราะคิดว่ามาเขาก็คงไม่ซ่อม เพราะเห็นวิธีการแก้ปัญหาจากชักโครกและฝักบัวที่รั่วเมื่อวานมาแล้ว   แต่ก็พยายามเก็บข้าวของใส่ลิ้นชัก หรือลงกระเป๋าให้เรียบร้อย (เหมือนมีลางสังหรณ์ยังไงชอบกล)  จากนั้นก็ออกไปเที่ยวกันจนเย็น<br><br>

    พอตกเย็นขับรถกลับถึงบ้านพักเท่านั้นแหละ ก็เห็นว่าลิงล้อมบ้านพักเราเต็มไปหมด  หน้าต่างที่เราปิดงับสนิท เปิดอ้าอยู่  และมีมุ้งลวดบานนึงห้อยต่องแต่ง พวกเราทั้งหมดก็เริ่มตัวเย็นใจไม่ดีแล้ว  พี่เขยก็ลงไปก่อนไปสังเกตการณ์ทางหน้าต่างเข้าไปในบ้าน จากนั้นก็หันมาเรียกน้องชายเราลงไปเปิดประตูบ้านพัก เท่านั้นแหละ ภาพที่เห็นทำเอาตัวชาเลย    ยิ่งพอเดินเข้าไปบ้านไปกลิ่นขี้ลิง ฉี่ลิงที่เต็มเตียงนอน คละคลุ้งไปหมด ข้าวของกระจัดกระจาย เหลือห้องนอนเล็กรอดอยู่ที่เดียว เพราะประตูล็อกได้ เราก็เลยไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ที่ด่าน พอเล่าเรื่องราวให้ฟัง เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นไปไม่ได้ หาว่าเราไม่ปิดหน้าต่าง และบอกว่ามันต้องมีคนเฝ้าบ้าน โห เราเชื่อเลยมาเที่ยว แต่ต้องให้มีคนเฝ้าบ้าน   เราก็ไม่ว่าอะไรบอกว่าขอยืม อุปกรณ์ทำความสะอาดได้ไหม  เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่มี  ที่บ้านพักมีอยู่แล้ว ไม่ใช่เหรอ เราก็บอกมีอันเดียวไม่มีที่โกยเลย   เขาก็ทำหน้าเฉย และบอกว่าไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน  ให้เราไปแจ้งที่ที่ทำการอุทยาน  เราก็เลยไปแจ้งที่ที่ทำการอุทยาน เจ้าหน้าที่ฟังเรื่องราวเราแล้ว ก็บอกว่าไม่รู้ทำไง อุปกรณ์ไม่มี พนักงานทำความสะอาดกลับบ้านไปหมดแล้ว เราขอเปลี่ยนบ้านพัก  เขาก็บอกว่าเต็มหมดแล้ว ผมเป็นแค่คนเฝ้าอุทยาน   เราซึ่งอยู่ในสภาพอดทนสุดขีด  เพราะพ่อแม่ พี่น้องหลานอยู่ในสภาพตกใจอย่างมากกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ และมาเจอกับเจ้าหน้าที่ ที่ปิดหนทางความช่วยเหลือเราทุกรูปแบบ ก็เลยสติแตกบอกว่า OK เราประทับใจในความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ที่นี่มาก  เราคงจะต้องไปบอกต่อตามเว็บไซต์ต่างๆ   ให้นักท่องเที่ยวรุ่นหลังที่จะมาเที่ยวที่นี่ ได้ระวังตัว ตั้งแต่ไปอช.ไหนๆมาเจอ อช.นี้แหละแย่ที่สุด พอดีมีคุณลุงคนนึงอยู่ที่นั่น ชื่อลุงลมัย เขามีบ้านพักให้เช่า  เราก็เลยตกลงจะไปบ้านพักเค้า  และขับรถกลับไปที่บ้านพักคุมสติ ปลอบพ่อแม่ และเก็บของ โดยโทรตามคุณลุงให้เอารถกระบะมาช่วยขนของหน่อย  ลุงแกก็บอกว่าเจ้าหน้าที่เขาตกลงจะมาเคลียร์บ้านให้แล้ว จะอยู่ต่อก็ได้นะ  แต่เราว่าไม่เอาแล้ว จะไปอยู่บ้านลุงนั่นแหละ  เพราะเคลียร์บ้านได้ แต่เคลียร์ความรู้สึกไม่ได้อ่ะ ลุงบอกว่าปัญหาลิงพวกนี้มีมานาน มีการจะหาทางอพยพลิงไปที่อื่นแต่ก็ไม่ได้ทำ  ตรงที่กางเต๊นท์ใกล้กับบ้านพักกาหลง แกก็จะแนะนำนักท่องเทียวเลยว่าอย่าไปพัก ให้ไปพักที่หาดสามพระยาแทน  (เราว่าคงอพยพลิงได้ยากเพราะตอนไปเที่ยว ห่างจากบ้านพักไม่กี่ร้อยเมตรก็มีรถนักท่องเที่ยวซื้ออาหารมาโปรยให้ลิิงกิน  จริงๆเราว่าต้องติดป้ายแบบ อช.เขาใหญ่ห้ามนักท่องเที่ยวให้อาหารลิงไปเลย เพราะอย่างนี้ลิงก็จะมาเป็นประจำ และแถมตอนขับรถ ลิงอยู่กลางถนน อาจทับตายก็ได้)   สุดท้ายก็เลยได้ไปพักบ้านคุณลุงอยู่ริมหาดใกล้ถ้ำไทร  วิวดี  พ่อแม่ก็ค่อยคลายตกใจลงหน่อย  หลานเรา 4 ขวบ พูดตลอดเลยว่าทำไมพวกปังคุงใจร้ายจัง เราก็บอกว่าพวกนี้ไม่ใช่ปังคุง  เป็นคนละชนิดกัน ปังคุงเป็นลิงชิมแปนซีตัวดำๆ ไม่เหมือนลิงพวกนี้<br><br>

    ก็หวังว่าเรื่องที่เราเล่ามาจะเป็นประโยชน์สำหรับนักท่องเที่ยวรุ่นหลังต่อไป  และขอให้ทางสำนักอุทยานแห่งชาติ หรือผู้เกี่ยวข้องหากได้เห็นกระทู้นี้ โปรดพิจารณาในการเข้าไปตรวจสอบและปรับปรุงบ้านพักอุทยานต่างๆบ้าง   ธรรมดาสรรพสิ่งย่อมมีเสื่อมโทรมและหมดอายุขัยไปตามเวลา  ไม่ใช่สร้างแล้วก็ปล่อยตามสภาพไปเรื่อยไม่เหลียวแล  แล้วเงินค่าบำรุงอุทยานที่เก็บไปไหนหมด (ปัจจุบันยังขึ้นราคาจากคนละ 20 เป็น 40 บาทอีกด้วย)  และโปรดปรับปรุงการช่วยเหลือ และให้คำแนะนำ และคำเตือนในการป้องกันลิงแก่นักท่องเที่ยวให้ชัดเจน (ไม่ใช่แค่บอกสั้นๆว่าระวังลิงด้วยนะ และให้นักท่องเที่ยวเดาเอาเองว่าต้องระวังยังไง)  เช่น บรรจุลงในข้อปฏิบัติการใช้บ้านพัก  หรือ ติดป้ายให้ระวังลิงอย่างเป็นกิจจะลักษณะมากกว่านี้ด้วย ขอขอบคุณ

    แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 51 23:44:38

    แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 51 23:30:15

    จากคุณ : l_link - [ 21 ก.ค. 51 23:26:24 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom