ความคิดเห็นที่ 1 ทั้งห้าเรียงลำดับเข้าช่องเดียว  มีคุณสามีนำหน้า   ตามด้วยละอ่อนตัวปัญหา  เจ้าสองหนุ่มที่เคยมาแล้ว และปิดท้ายด้วยคิม  ตม. ซักถามคุณสามีอยู่สองสามคำ ก็ผ่านฉลุยเข้าไป  พอมาถึงน้องน้อยละอ่อนของเรา   เขาก็ซักแล้วโบกมือชี้เข้าห้องไป  คิมเห็นท่าไม่ดี ก็ผละออกจากลำดับหลังสุดเดินตามเจ้าตัวปัญหาไป โดยไม่สนใจว่าจนท. ตม. เค้ายังไม่ได้ไล่คิมเข้าไป (เพราะยังไม่ถึงคิวคิมตรวจเลย)  ในใจนึกบ่นว่า กะแล้วเชียวต้องไม่ราบรื่นแน่ๆ   พอเดินเข้าไปบริเวณที่นั่งชั้นนอกก็เจออาเจ๊หน้าโหด ที่ยึดพาสปอร์ตเราทั้งคู่ไปแล้วโบกมือไล่เราไปนั่งรอ   คิมแอบทำหน้าเซ็งๆ เล็กน้อยด้วยความง่วง   อุตส่าห์วาดฝันว่าพอถึงที่พักแล้วจะรีบชิ่งไปนอนซะหน่อย อดเลย  เจ้าตัวปัญหาทำหน้าแตกตื่นโดยคิมไม่รู้สาเหตุ   มารู้ที่หลังว่าเจ้าพวกรุ่นพี่สองตัวแสบมันแอบไปหลอกน้องไว้ว่า ถ้าเค้าเรียกเข้าห้อง  เค้าจะจกตูด (ศัพท์ของเจ้าสองตัวแสบไม่ใช่ของคิม) เพื่อตรวจหายาเสพติด   เจ้าน้องน้อยนอกจากจะกลัวโดนส่งกลับแล้ว ยังกลัวเสียความบริสุทธิ์ทางด้านหลังอีกต่างหาก   จากดำขำกลายเป็นขาวซีดด้วยความกลัวสุดฤทธิ์   ตอนนั้นคิมก็ยังไม่รู้นึกว่ากลัวไม่ได้เข้าเกาหลีอย่างเดียว คิมก็เลยปลอบๆ เค้าไปว่าไม่เป็นไรหรอก   เดี๋ยวพี่ช่วยคุยให้แล้วคิมก็นั่งทำท่าสบายๆ เพื่อโชว์ให้ตม. เห็นว่า ฉันไม่ได้กลัวนะ  ไม่ได้ทำผิด  ไม่มีเจตนาร้าย  ไม่มีอะไรต้องกลัว แต่ก็ไม่ได้แอ็คจนน่าหมั่นไส้ จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 13:31:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แต่ตม. เค้าให้เรารอน๊าน  นานมาก  จนคิมก็เริ่มวิตกว่าจะมีปัญหา   ระหว่างที่รอ  อาเจ๊หน้าโหดก็หยิบพาสปอร์ตของเราสองคนขึ้นมา   มีเพื่อนร่วมงานมาถามเป็นภาษาเกาหลี  คิมเดาเอาว่าคงถามว่าเคสนี้ เป็นยังไงเหรอหรืออะไรประมาณนั้น  เจ๊เธอก็ตอบเป็นภาษาเกาหลี ที่คิมพอฟังออกเป็นบางคำว่าอีตาเนี่ยไม่น่าเป็นครูสอนเทควันโด เพราะหุ่นไม่ให้   อุ๊ย  เอาแล้วสิ  คิมก็เลยแกล้งแซวน้องเค้าว่า   บอกแล้วให้ทำหน้าตาไฮโซหน่อย  ฟิตหุ่นให้มันมีกล้ามกับเค้าบ้าง   ไม่ใช่ผอมเป็นจิ้งจกแบบนี้  น้องมันก็หัวเราะออกมาได้นิดหน่อย ทำให้บรรยากาศใสการนั่งรอของเราดีขึ้น  คิมก็บ่นไปว่า เธอเป็นถึงนักกีฬามหาวิทยาลัย (รุ่นเล็กสุด) แต่ราศีไม่จับเลย   เราสองคนก็เลยนั่งสนทนาเรื่องงานกันไปพลางๆ เพื่อฆ่าเวลา จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 13:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ห้องตม. เค้าจะมีสามชั้น  ห้องแรกสุดเป็นเหมือนห้องแรกรับ คือตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น  ถ้าใครมีข้อสงสัยน้อยๆ เค้าก็จะซักถามในห้องนี้แล้วปล่อยไป  แต่ถ้าซักแล้วยังมีปัญหาอยู่ หรือคิดว่ามีปัญหาแน่เค้าก็จะไล่เข้าไปข้างใน   ห้องที่สองเป็นห้องสัมภาษณ์  มีโต๊ะยาวเรียงกันเป็นแถวๆ   ด้านในสุดเป็นห้องกระจกติดป้ายว่า interview room แต่จริงๆ เป็นห้องนั่งรอสัมภาษณ์  ตกแต่งเหมือนห้องพักผ่อนใน ward จิตเวชของรพ. รัฐ  คือเป็นห้องขาวครีม (ยังดีไม่ขาวจั๊วะ) มีเก้าอี้ให้นั่ง  โทรทัศน์ 1 เครื่อง  เปิดรายการหนัง soundtrack มีโทรศัพท์สาธารณะไว้หนึ่งเครื่อง  ซึ่งพี่ไทยและคนชาติอื่นๆ ที่มานั้นมักใช้ประโยชน์ไม่ได้เพราะไม่มีเหรียญเกาหลีมาหยอด   ดังนั้นถ้าท่านใดคิดจะไปเที่ยวไปเยี่ยมญาติ   ก็ลองหาเตรียมเหรียญเกาหลีไปนะคะ  เผื่อได้ใช้โทรติดต่อเพื่อน หรือญาติให้มารับรอง จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 13:35:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 รอเป็นชม. แล้วเค้าก็ไล่เราเข้าไปรอทางด้านใน ที่มีห้องอารมณ์เหมือนห้องกักตัว  ในนั้นก็จะมีคนไทยอยู่เป็นสิบคน   และคนชาติอื่นอีกบ้างประปรายเพราะเที่ยวบิน ที่ไปถึงตอนเช้าตรู่นั้นส่วนใหญ่เป็นเครื่องที่ออกจากเมืองไทย   รอสักพัก  คิมก็เดินออกไปถามตม. เสียงใส “May I use the restroom, please” (สังเกตว่าคนเกาหลีจะเข้าใจคำว่า restroom ดีกว่าคำว่า toilet ตม. หนุ่มก็ชี้ทางสว่างไปห้องน้ำให้   ที่จริงก็ไม่ได้ปวดเท่าไหร่แต่กะสร้างเครดิตว่าชั้นเป็นมิตรนะจ๊ะ   สุภาพอ่อนโยน  ภาษาอังกฤษชั้นก็ดีนะจ๊ะ เพื่อทำให้ตม. เกิดความรู้สึกดีกะเราไว้ก่อน   เข้าห้องน้ำเสร็จก็มาเริ่มมหกรรมรอต่อไป จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 13:37:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ระหว่างนั่งรอคิมก็เอาคอมออกมาเล่นบ้าง   เอามือถือ (เกาหลี) ออกมาโทรหาอาจารย์ชาวเกาหลีของเราบ้าง   ญาติของสามีที่แต่งงานกับสาวชาวเกาหลี และมาอาศัยอยู่ที่เกาหลีได้หลายปีแล้วและเพื่อนๆ คนอื่นๆ ของสามีบ้าง  ปรากฎว่าคงยังเช้าไปไม่มีใครรับโทรศัพท์   แง่มๆๆ  เซ็งเลย  นั่งคุยกับน้องเค้าบ้าง  คิดไปคิดมาเกิดคิดได้ว่า เค้าต้องแยกสัมภาษณ์แน่  คิมก็เลยจัดแจงเอา นามบัตรของคุณสามีขึ้นมานั่งท่องที่อยู่ของโรงเรียนต่างๆ ในสังกัดของเรา  แล้วก็บอกให้น้องท่องไว้ด้วย แต่ไม่ได้บอกเรื่องแยกสัมภาษณ์เดี๋ยวน้องจะยิ่งซีดไปใหญ่   คุยกับคุณน้องเธอเรื่องตารางอบรม และสิ่งที่เราจะทำหลังจากอบรมเสร็จแล้ว จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 13:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จากนั้นก็มองคนรอบๆ ตัวด้วยท่าทีสบายๆ   ปรากฏว่าคนไทยที่โดนกักไว้ก็มาขอยืมมือถือคิมโทร   บอกตามตรงว่าไม่ค่อยอยากให้โทร   ไม่ใช่แล้งน้ำใจแต่เป็นเพราะว่าแบตมือถือมีจำกัด ตอนนั้นแบตเหลือแค่สองขีด  คิมเองก็ต้องใช้ติดต่อกับ อาจารย์หรือคนรู้จักคนอื่นๆ เผื่อต้องการให้เขามาช่วยรับรอง   แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของคนที่ติดอยู่ตรงนั้น   ในที่สุดก็ให้พี่ผู้หญิงคนหนึ่งยืมโทร   ปรากฎว่าแทนที่เธอจะพูดแค่ธุระแจ้งว่าเธอโดนกักตัวอยู่   เธอกลับเมาท์ต่อกับคุณแฟนของเธอ   คิมพยายามเก็บอาการหงุดหงิดไว้แล้วบอกกับเธอว่า   ขอโทษนะคะ  ดิฉันกลัวแบตหมด  เธอจึงยอมวางสายไป   แล้วคิมก็เก็บมือถือไปเลยไม่ให้ใครใช้อีก   ใครจะว่าเห็นแก่ตัวก็ยอมละค่ะ  คิมมีหน้าที่เหมือนกัน คือต้องเอาน้องเค้าเข้าเกาหลีให้ได้เพื่อร่วมอบรม จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 13:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 รอฟังต่อค่ะ จากคุณ : ToonyBerri - [ 23 ก.ค. 51 14:00:16 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ระหว่างการรอคอยอันแสนนาน  คิมก็ปลอบใจน้องให้ใจเย็น   คิมสำรวจการทำงานของตม. สังเกตว่าเค้าค่อนข้างจะพูดจาดุดันขึงขัง   คิมก็ปลอบน้องไม่ให้กลัว   ระหว่างนั้นมีตม. มาพูดกับเราบ้าง   สังเกตว่าเวลาเค้าพูดกับคิมจะพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ   แต่พอพูดกับน้องจะตะคอกเสียงดัง  น้องนั่งมองดูเค้าสัมภาษณ์คนอื่น   เค้าเปิดประตูเข้ามาตวาดเลยว่า มองอะไร  มีปัญหาเหรอ   น้องเค้าก็กล่าวคำขอโทษอย่างสุภาพแล้วบอกว่าจะไม่มองแล้ว   แต่ก่อนหน้านั้น  คิมนั่งมองตั้งนานเค้าก็ไม่ว่าอะไร   คิมก็เลยคิดว่าเค้าคงพยายามขู่ให้คนที่เค้าเห็นว่าอาจจะมีปัญหากลัว   คิมก็บอกน้องไปว่าไม่เป็นไรใจเย็นๆ  ตอนนั้นดูออกเลยว่า เจ้าตัวปัญหามันโมโหแล้วหล่ะ  คิมก็ลูบแขนเค้าบอกว่าใจเย็นๆ นะ   จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 14:01:18 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โพสต์เรื่อยๆ ค่ะ คุณ ToonyBerri ขอบคุณนะคะ นึกว่าจะไม่มีคนอ่านซะแล้ว :) จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 14:02:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 นั่งรอไปชม. กว่าเจ้าหน้าที่เรียกเราสองคนไปนั่ง   เราก็นั่งรออยู่ 15 นาทีเค้าก็ไม่สัมภาษณ์   สุดท้ายก็โบกมือไล่เรากลับเข้าห้องนั่งรอต่อไป   จนสองชม. กว่า  เค้าจึงเรียกคิมออกไปคนเดียว   ก่อนออกคิมก็ปลอบใจน้องว่าไม่เป็นไรหรอก   ใจเย็นๆ ได้เข้าแน่  เพราะเราไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอะไร   แล้วคิมก็เดินออกไป จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 14:02:40 ]

ความคิดเห็นที่ 11 บทสนทนาระหว่างคิมกับตม. ชายเท่าที่จะได้เป็นดังนี้ ตม.: คุณมาเกาหลีหลายครั้งแล้ว  มาทำไม คิม: มาติดต่อธุระเรื่องเทควันโดค่ะ  สามีเปิดสอนเทควันโด  เป็นเจ้าของโรงเรียนหลายแห่ง (ตอนสัมภาษณ์บอกจำนวนจริง)   ตม.: เวลาคุณมาเรื่องเทควันโด  คุณไปติดต่อที่ไหน คิม: ที่คุกคิวอน (สนง. ใหญ่ เทควันโดโลก) ค่ะ ตม.: คุกคิวอนอยู่ที่ไหน คิม: อยู่ที่สถานี AAA สายสีเขียว เวลาลงจากรถไฟใต้ดินออกทางออกที่ แล้วเดินผ่านร้าน ผ่านห้องสมุดเด็กขึ้นเขาไปค่ะ  (ตอบละเอียดมากเพราะเป็นประสบการณ์จำฝังใจจริงๆ เวลาไปเนี่ย  กว่าจะเดินขึ้นเขาไปถึงตึกของเค้า  คิมก็แทบเป็นลม  เดินจนแทบจะจำต้นไม้แถวนั้นได้หมดแล้ว  มีเรอะจะตอบไม่ถูก) แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 51 14:06:25 จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 14:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณตม. เธอถามเรื่องเกี่ยวกับคิมแค่นี้เองค่ะ   แล้วตลอดเวลาสัมภาษณ์เค้าก็ใช้น้ำเสียงสุภาพแบบธรรมดา   ไม่เห็นโหดเข้มเหมือนที่ใช้กับคนอื่นก่อนหน้านี้เลย   เค้าคงเห็นว่าคิมไม่เป็นพิษเป็นภัยอะไร เพราะเคยเข้าประเทศเค้าหลายครั้งแล้ว และก็กลับก่อนวีซ่าหมดตั้งนาน   ต่อจากนั้นที่โดนซักนานก็เป็นเรื่องของคุณน้อง จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 14:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตม. :   คุณเป็นอะไรกับเขา คิม:   เป็นนายจ้างค่ะ  เขาทำงานให้กับฉันและสามีอยู่   ตม.:   คุณรู้จักเขามากี่ปีแล้ว คิม: (อมยิ้มน้อยๆ) 7 ปีค่ะ คุณตม. เธออาจจะไม่รู้ว่าคิมอมยิ้มทำไม   คิมอมยิ้มเพราะว่าเมื่อคืนอยู่ดีๆ คุณสามีก็ถามเจ้าน้องคนนี้ว่าเรารู้จักกันได้กี่ปีแล้ว   แล้วเค้านั่งนับแล้วตอบว่า 7 ปี  คือถ้าเมื่อคืนคุณสามีไม่บังเอิญถามนะ   คิมก็จำไม่ได้หรอกเพราะคิมเป็นพวกไม่ค่อยจำตัวเลขค่ะ   ทะเบียนรถสามีกับคุณแม่  คิมยังจำไม่ได้เลย แถมน้องๆ ที่ทำงานกับคิมก็มีเยอะมาก   คิมจำไม่ได้หรอกว่ารู้จักใครมากี่ปี   แต่ถ้าเป็นเหตุการณ์เรื่องราวจะจำแม่น ตม.: คุณรู้จักเขาได้อย่างไร คิม: ตอนนั้น เรากำลังมีโครงการให้ทุน สำหรับคนที่สนใจจะฝึกเทควันโด น้องคนนี้รู้จักกับนักเรียนคนหนึ่งของเรา   เขาเดินเข้ามาหาเราและบอกว่าเขาอยากเป็นครูฝึกกีฬา  เราจึงให้ทุนเขาเรียน  เขาก็เรียนกับเราเรื่อยมา   ไม่เคยจ่ายค่าเรียนเลย จนต่อมาเราก็บรรจุเขาเข้าเป็นครูฝึก   ปัจจุบันเขาทำงานอยู่กับเราที่โรงเรียนชื่อ XXX จังหวัดเชียงราย   ตำแหน่งเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ตม.: (ทำหน้าไม่ค่อยเชื่อเพราะหุ่นเจ้านี่มันผอมๆ ดำๆ ไม่ค่อยมีราศี)  หัวหน้าผู้ฝึกสอนหรือ คิม: ค่ะ  หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนเก่าของเราลาออกไป เมื่อหลายเดือนก่อน  เราจึงลองโปรโมทเขาขึ้นมาดู   เขาก็ทำงานได้ดี  นักเรียนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ   เขาเป็นคนตั้งใจทำงานและเล่นกับเด็กๆ ได้ดี   โรงเรียนของเรามีนักเรียนที่เป็นเด็กประถมมาก   เด็กๆ รักเขาค่ะ ตม.: คุณมีนามบัตรไหม คิม: มีแต่ของสามีนะคะ  อยู่กับน้องเขา   ของฉัน  ฉันไม่ได้เอามา  และเป็นบัตรที่ค่อนข้างเก่าหน่อย   บัตรใหม่ๆ อยู่กับสามีข้างนอก ตม.: ขอผมดูหน่อย (คิมก็รีบเดินไปเอานามบัตรมาให้คุณตม. ดู) จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 14:10:34 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตม.: สามีคุณชื่ออะไร คิม: (แหมฉันไม่ได้ความจำเสื่อมนะยะ)  ชื่อ XXX  YYY  ค่ะ ตม.: สำนักงานใหญ่ของคุณอยู่ที่ไหน คิม: (หวานหมูเพราะสำนักงานใหญ่ของเรา ก็หมายถึงบ้านคิมน่ะแหละ  เป็นที่ที่เราใช้ติดต่อประสานงานและประชุม)  บ้านเลขที่ XX/XX ม. X ม. XXX ต. XXX อ. XXX จ. เชียงใหม่ รหัสไปรษณีย์ 5XXXX ค่ะ (แอบนึกในใจอย่าถามที่อยู่ของยิมอื่นๆ นะ ท่องยังไม่ค่อยได้เลย) จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 14:11:26 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คิมคิดได้ว่าเราควรจะ volunteer ข้อมูลอื่นๆ บ้าง   เพื่อจะได้ดูน่าเชื่อถือและควรเลือกข้อมูลที่น้องจะจำได้ และตอบได้เหมือนกันด้วย   คิม: ฉันรู้จักกับน้องคนนี้ดีมากค่ะ   เพราะเขาเคยไปอยู่บ้านของฉันกับสามีเป็นเวลา 6 เดือน   เราให้ทุนเขาศึกษาพระคัมภีร์ ตม.: พระคัมภีร์เหรอ? คิม: ใช่ค่ะ  สามีและฉัน และน้องเขาเป็นคริสเตียนค่ะ   (คนเกาหลีส่วนใหญ่เป็นคริสเตียน) ตม.: คริสตจักรคุณชื่ออะไร คิม: คริสตจักรที่ฉันอยู่และเรียนพระคัมภีร์ ชื่อคริสตจักร HHH เชียงใหม่ค่ะ  แต่พอย้ายไปทำงานที่เชียงรายแล้ว   น้องเขาไปเข้าคริสตจักรลูกชื่อคริสตจักร HHH เชียงรายค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 14:12:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณตม. คงได้ข้อมูลไปพอแล้ว เค้ายึดนามบัตรไว้   บอกคิมว่า “คุณออกไปรอด้านนอก”   คิมขอเธอว่า “ขอเข้าไปเอากระเป๋าถือได้ไหมคะ?”   ทีแรกเธอทำท่าเหมือนไม่อนุญาต แล้วก็เปลี่ยนใจเดินไปที่ห้องนั่งรอกับคิม   คงกันไม่ให้คิมส่งซิกกับน้อง   คิมก็เพียงแต่เดินไปหยิบกระเป๋าถือออกมาแล้วไปรอที่ห้องชั้นนอกสุด   ส่วนน้องก็โดนสัมภาษณ์เป็นรายต่อไป จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 14:13:19 ]

ความคิดเห็นที่ 17 น้องเล่าว่าคุณตม. ถามเหมือนๆ กับที่ถามคิม คือถามว่ารู้จักกันมากี่ปีแล้ว  รู้จักกันได้อย่างไร   สำนักงานใหญ่อยู่ที่ไหน  คุณทำงานที่ไหน   แล้วก็ขอให้น้องทำโคเรียล  (แพตเทริ์นเทควันโดสำหรับสายดำ) ให้ดู   คนเกาหลีส่วนใหญ่เคยเรียนเทควันโดมาก่อน   ดังนั้น  พอทำปุ๊บเค้าก็รู้เลยว่าคนนี้ได้มาตรฐานหรือไม่   น้องก็ตั้งอกตั้งใจทำ  คิมเตือนเขาแล้วว่าอาจจะโดนขอให้ทำพุมเซ (แพตเทิร์น) ให้ดู  ขอให้ทำให้เข้มแข็งสมเป็นครู  ไม่ต้องอาย   เรื่องทำพุมเซนี้คิมไม่ค่อยห่วงเพราะพวกครูฝึก จะได้รับการกวดขันมาแล้วอย่างดี  จากทั้งคุณสามี   จากผู้จัดการของเราซึ่งเป็นลูกศิษย์ของแชมป์โลกพุมเซหญิง ชาวเกาหลี   อ. แชมป์โลกพุมเซหญิงท่านนี้ เคยเดินทางมาอบรมให้ครูฝึกและนักเรียนของเราที่เมืองไทยด้วย ดังนั้นมาตรฐานครูฝึกของเราจึงถือว่าดีพอ จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 14:14:34 ]

ความคิดเห็นที่ 18 น้องก็ทำโคเรียลท่ามกลางสายตาของตม. คนไทย และคนต่างชาติที่อยู่แถวนั้น  สุดท้ายตม. ชายท่านนั้นก็บอกว่า “พอแล้ว”  ตม. หญิงที่มาดูอยู่ด้วยก็เดินมาชมว่า “Very good” เล่นเอาพ่อน้องชายเป็นปลื้ม  แล้วคุณตม. ก็บอกว่า “คุณโอเคนะ  เราเชื่อคุณว่าคุณไม่มีปัญหา”   แล้วพาน้องออกมาห้องด้านนอกที่คิมนั่งรออยู่   จากนั้นก็เดินมาส่งเราสองคนข้างนอก   ก่อนจากกันคุณตม. บอกเป็นเชิงขอโทษว่า “It’s my job” เราสองคนก็ตอบไปว่า “Don’t worry. We do understand. Thank you very much.” เขาโค้งให้   เราก็โค้งตอบแล้วก็จากกันไปเพียงเท่านี้ จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 14:15:27 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอตัวไปทำธุระสักครู่ก่อนนะคะ  เรื่องยังไม่จบ เดี๋ยวจะเล่าเรื่องขอคนไทยที่อยู่ในห้องนั่งรอ ทั้งที่โดนส่งกลับและรอดเข้าแผ่นดินเกาหลีได้ให้ฟัง รวมทั้งสรุปข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการเตรียมตัว สัมภาษณ์ให้ด้วย  สักประมาณ 1 - 2 ชม. จะกลับมาค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 14:16:57 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามารออ่านอย่างใจจดใจจ่อค่ะ จากคุณ : pook_poggy - [ 23 ก.ค. 51 14:21:09 ]

ความคิดเห็นที่ 21 รอครับรอ.....กำลังสนุกเชียว... จากคุณ : Empowering Of Love - [ 23 ก.ค. 51 14:22:44 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าเค้าเรียกเข้าห้อง  เค้าจะจกตูด   (ศัพท์ของเจ้าสองตัวแสบไม่ใช่ของคิม) เพื่อตรวจหายาเสพติด   เจ้าน้องน้อยนอกจากจะกลัวโดนส่งกลับแล้ว ยังกลัวเสียความบริสุทธิ์ทางด้านหลังอีกต่างหาก   จากดำขำกลายเป็นขาวซีดด้วยความกลัวสุดฤทธิ์   *อันนี้ตลกมากเลยครับ คิดมาได้ไงเนี่ยมุกอันนี้ จากคุณ : john_ - [ 23 ก.ค. 51 14:28:04 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มารอด้วย จากคุณ : jesada9191 - [ 23 ก.ค. 51 14:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อ่านจบภาค 1 แล้ว สนุกจังเลย ไม่เคยไปเกาหลีครับ จากคุณ : sickboy_1983 - [ 23 ก.ค. 51 14:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เข้ามาต่อคิวด้วยค่ะ จากคุณ : โดนัลดั๊ก - [ 23 ก.ค. 51 14:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เคยเข้าไปรอในนั้นเหมือนกันค่ะ   เข้าไปแป้บเดียวเลยไม่ทันสังเกตุบรรยากาศ จากคุณ : ป้าทุยบ้านทุ่ง - [ 23 ก.ค. 51 14:50:28 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตามอ่านค่ะ ^_^ จากคุณ : coccinelle - [ 23 ก.ค. 51 14:53:52 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านซะเพลินเลย จากคุณ : twist_t - [ 23 ก.ค. 51 15:02:56 ]

ความคิดเห็นที่ 29 รอๆๆๆๆๆ อยู่นะครับ จากคุณ : redPoTatO - [ 23 ก.ค. 51 15:03:03 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตามต่อไปครับ... จากคุณ : taro_ks - [ 23 ก.ค. 51 15:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สนุกดีค่ะ รออ่านต่อนะคะ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 23 ก.ค. 51 15:17:02 ]

ความคิดเห็นที่ 32 . . . ถ้าไปกับทัวส์ จะเจอแบบนี้ไหมครับ ? . . . จากคุณ : d4b - [ 23 ก.ค. 51 15:21:03 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณครับ ทำไมเขาโหดจัง ปีหน้าต้องไปเกาหลีซะด้วย จากคุณ : fqmm1974 - [ 23 ก.ค. 51 15:29:37 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เห็นภาพเลยครับ...นึกถึงตอนเข้าไปดูลูกทัวร์ที่โดนเข้าห้องเย็นล่ะครับ.... สุดท้ายเหมือนๆกับคุณเจ้าของกระทู้เลย...คือเค้าให้เราการันตี ว่าลูกทัวร์คนนั้นมาเที่ยวจริง และเดินทางกลับเมืองไทยแน่นอน.....ถามว่าเรากล้าการันตีมั้ย? ผมก็ตอบอย่างเต็มปากเลยครับว่า...."ไม่กล้า"....เพราะถ้าเกิดเค้้าหลีล่ะก็ ความซวยจะตกอยู่กับเราทีเดียว คือ เราจะเข้าเกาหลีไม่ได้เลยทั้งชีวิต!!!! จากคุณ : donatt76 - [ 23 ก.ค. 51 15:37:02 ]

ความคิดเห็นที่ 35 รออ่านต่อค่า จากคุณ : like 2 hear from u - [ 23 ก.ค. 51 15:49:23 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เป็นประสบการณ์ที่มีประโยชน์มากค่ะ เรื่องที่คุณเล่ามองเห็นภาพ และ สนุกดีด้วยค่ะ ป้าซิ่งเข้าประเทศเกาหลีใต้คนเดียวมา 5 ครั้งได้แล้ว ยังไม่เคยโดนกักสักที มาอ่านเตรียมตัวไว้ เผื่อโดนเรียกตัวสัมภาษณ์ดีกว่า ไว้จะมาอ่านต่อนะคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ป้าซิ่ง (Naomichan) - [ 23 ก.ค. 51 15:49:24 ]

ความคิดเห็นที่ 37 โอ้  หายไปเติมมือถือ + ซื้อข้าวแป๊บเดียว   มีหลายท่านเข้ามาตอบกระทู้  แอบปลื้มใจค่ะ   ขอเล่าเรื่องแทรกนิดหนึ่ง  เราเพิ่งซื้อมือถือที่เกาหลี ได้ไม่กี่เดือน  เป็นแบบ prepaid วันเพิ่งหมดไปเมื่อวาน เมื่อวานตอนทุ่มกว่าเราก็ไปหาร้านเติมเงินมือถือ ได้ความว่าต้องเติมที่ร้านของผู้ให้บริการคือ LG telecom เท่านั้น  และต้องเติมก่อน 6 โมงเย็น   จะไปซื้อบัตรมาขูดๆ และเติมเองตามมินิมาร์ทไม่ได้ วันนี้ คิมเลยต้องรีบไปเติมเงินก่อน 6 โมง เติมเงินมือถือที่นี่ยุ่งยากพอสมควร   เค้าขอดูพาสปอร์ตด้วย  ตอนจ่ายเงิน  คิมเปลี่ยน เครดิตการ์ด  ทีแรกเค้าก็ทำท่าเหมือนจะไม่ยอม แต่เค้าคุยกันเองเสร็จแล้วก็ยอมรับการ์ดใหม่ ไปแต่โดยดี  คุยกันก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เกาหลีเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ภาษาอังกฤษไม่ค่อยมีประโยชน์   คิมก็เลยกำลังจะโดนคุณสามีบังคับไปเรียนภาษาเกาหลี เติมเงินเสร็จสรรพก็ไปซื้อข้าวมาให้คุณสามีที่กำลังนอนป่วย เป็นไข้หวัดอยู่  ตอนนี้เกาหลีเป็นฤดูฝนค่ะ   ฝนตกตลอด  คุณสามีโดนฝนรอบแรกเข้าไปก็ป่วยมาสองสามวันแล้ว   ทิ้งให้อิฉันวิ่งวุ่นเป็นลิงอยู่นางเดียว จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 15:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 38 จขกท.เล่าสนุกมากค่ะ มาเกาะกระทู้รอฟังต่อนะคะ จากคุณ : Mr.Cosmetics - [ 23 ก.ค. 51 15:59:44 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณ คุณ pook_poggy คุณ Empowering Of Love คุณ jesada9191 คุณ sickboy_1983 คุณ โดนัลดั๊ก คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง คุณ coccinelle คุณ twist_t คุณ redPoTatO คุณ taro_ks คุณ MaNgKoOd และคุณ like 2 hear from u ที่กรุณาแวะเข้ามาอ่าน และฝากหลักฐานไว้นะคะ :) จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 16:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ตอบคุณ john_ เป็นมุกที่ไม่ได้คิดค่ะ   ม้นเกิดจากสถานการณ์จริง จะเรียกว่า improvise ก็ได้ แต่ ณ เหตุการณ์ตอนนั้น บอกได้ว่าเจ้าตัวยุ่งไม่ขำเลย จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 16:06:46 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ตอบคุณ d4b มีสิทธิ์เจอเหมือนกันค่ะ แต่ไปกับทัวร์จะมีคุณไกด์ ช่วยเข้าไปเคลียร์ให้  ส่วนจะรอดไม่รอดนั้นก็ต้อง ตามแต่ตม. เค้าน่ะค่ะ  คุณ donatt76 มืออาชีพตัวจริง ได้มาแชร์ไว้แล้วในคคห. ที่ 34 จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 16:09:13 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตอบคุณ fqmm1974 ส่วนตัวคิมคิดว่าเขาไม่ได้โหดนะคะ อย่างที่คุณตม. เขาชี้แจง  เขาทำตามหน้าที่ คนไทยเราแอบหลบหนีอยู่ในประเทศของเขาหลายแสนคน   เขาก็ต้องเพ่งเล็งเป็นธรรมดา จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 16:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ตอบคุณ donatt76 ถ้าคิมเป็นคุณ donatt76 คิมก็คงไม่กล้า การันตี  เพราะเราไม่รู้จักลูกทัวร์ดีมากมายปานนั้น จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 16:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ตอบคุณป้าซิ่ง  ถ้าคุณป้าซิ่งเข้าเกาหลีมาหลายรอบแล้ว ก็คงไม่โดนแล้วละค่ะ  เว้นแต่พาสปอร์ตใกล้หมดอายุ หรือเข้าไปเป็นอัศวินขี่ม้าขาวช่วยผู้ร่วมคณะแบบคิมนี่ละค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 16:12:52 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สวัสดีครับป้าซิ่ง:) ถ้าต.ม.เขาเรียก ป้าก็เตรียม มวยไทยไปโชว์ให้เขาดูซิครับป้า รับรองผ่านฉลุย อยู่แล้ว อิอิ ------------------------------------- ขอบคุณครับสำหรับประสบการณ์สนุกๆครับ คุณคิ้มรออ่านต่อครับ จากคุณ : เชียงชุน - [ 23 ก.ค. 51 16:15:23 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ตอบคุณ Mr.Cosmetics โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ กำลังพิมพ์อยู่ค่ะ ค่อยๆ พิมพ์ ค่อยๆ โพสต์ :) จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 16:18:08 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เรื่องวุ่นๆ ของคนในห้องเย็น ตอนที่เราสองคนถูกไล่ไปนั่งในห้องนั่งรอนั้น  มีคนไทยอยู่ในนั้นแล้วราวๆ 10 คน   บ้างก็บินเดี่ยว  บ้างก็มาเป็นกลุ่มสองสามคน  มีทั้งชายและหญิง   ได้ข่าวว่าช่วงนี้ตม. เกาหลีเข้มงวด  ใครพาสปอร์ตหน้าขาวมา ไม่ว่าจะเป็นไฮซ้อไฮโซดูดีมีชาติตระกูลพี่แกเป็นกัก   จะพูดถึงที่โดนส่งกลับก่อนนะคะ คนแรก ในห้องนั้นมีอนงค์นางหนึ่งอายุราวๆ สามสิบ  แต่งหน้าค่อนข้างจัด แต่งตัวด้วย ชุดแซคสั้น  สีม่วงเข้มตัดด้วยผ้าซาตินเป็นมันวับ สวมรองเท้าส้นเข็ม  คนที่ตอนที่คิมเข้ามา  เค้าก็เสร็จสิ้นการสัมภาษณ์แล้ว เธอนั่งทำหน้าเซ็งๆ อยู่ภายในห้องและสักพักก็โดนเจ้าหน้าที่พาตัวออกไป พร้อมๆ กับคนอื่นๆ ที่ต้องส่งกลับ   คิมสันนิษฐานว่าคงจะโดนส่งกลับเพราะเกรงว่าจะมาประกอบอาชีพ ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกในประเทศของเค้า  คิมคิดว่าคุณผู้หญิงคนนี้ อาจจะแค่มาเที่ยวก็ได้  แต่อาจจะตัดสินใจแต่งตัวผิดไปนิดหนึ่ง แต่ตอนนี้เค้าติด blacklist ในการเข้าประเทศเกาหลีไปเรียบร้อยแล้ว คุณสาวๆ ที่คิดจะมาเกาหลีหากเลือกแต่งตัวเรียบร้อยแบบคอนเซอร์เวทีฟ คิมคิดว่าจะปลอดภัยกว่านะคะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 16:22:38 ]

ความคิดเห็นที่ 48 หญิงสาวคนที่สอง   พี่คนนี้แต่งตัวธรรมดาๆ  แต่ก็โดนส่งกลับ   เหตุผลในการมาเกาหลีของเธอคือ มาเยี่ยมแฟนคนไทยที่มาทำงานอยู่ที่เกาหลี แฟนของพี่เค้ารออยู่ข้างนอกพร้อมด้วย นายจ้างชาวเกาหลีของแฟนที่ยินดีจะมารับรองให้ แต่ทั้งแฟนและนายจ้างไม่มีโอกาสหลุดเข้ามาในห้องตม. เพราะทางตม. เค้าส่งกลับเสียก่อน  หลังสัมภาษณ์เสร็จ จนท. ตม. บอกเค้าว่าเสียใจด้วย  คุณต้องกลับประเทศไทย พี่เค้าก็เดินเศร้าซึมกลับมาในห้องและขอให้คิมออกไปช่วย คุยกับตม. ให้  จริงๆ แล้วคิมไม่อยากไปเลย อยากเป็นคนแล้งน้ำใจเพราะว่าคิมไม่อยากดึงดูดความสนใจ มาสู่ตัวเอง  ไม่อยากทำตัวเป็นพวกรู้มาก หรือทำท่าว่าข้าเก๋า  ถ้าคิมโดนกักอยู่คนเดียว   คิมจะยินดีช่วย  แต่คิมมีหน้าที่หลักคือเจ้าน้องตัวยุ่งที่นั่ง หน้าซีดอยู่ข้างๆ  โดยไม่ยอมบอกว่ากลัวกระสือเกาหลี ล้วงก้น  คิมจึงตั้งใจจะทำตัวเป็นมิตร  ไม่กลัว  แต่ไม่จุ้น สุดท้ายก็อดใจอ่อนไม่ได้  ยอมเดินออกไปสู่สายตาตม. พร้อมกับพี่เค้า  ยังไม่ทันพูดอะไรพี่ตม. ก็พูดด้วยเสียงดุๆ ว่า เกาหลีไม่อนุญาตให้คนที่มาทำงานเชิญแฟน ญาติหรือเพื่อน มาเยี่ยม คุณบอกเขาด้วยว่าเขาเข้าไม่ได้  ต้องกลับประเทศไทย คิมก็เลยบอกพี่เค้าไปตามนั้น  เธอก็เดินคอตกกลับห้องนั่งรอ และถูกเชิญตัวออกไปในภายหลัง จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 16:29:10 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เคยเข้าไปเหมือนกันค่ะตอนคัร้งแรกที่ไป แต่เข้าไปอยู่10นาทีเองมั้ง จากคุณ : อะจึ๋ยเคี้ยก - [ 23 ก.ค. 51 16:30:08 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เดี๋ยวมาต่อนะคะ  ขอไปซื้อยาให้คุณสามีก่อน จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 16:38:56 ]

ความคิดเห็นที่ 51 มันส์มากเลยค่ะ..ต่อเลยค่ะ ต่อเลย.. จากคุณ : Jook^Ka^Jick - [ 23 ก.ค. 51 16:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สงสารคนที่มาแล้วไม่ได้เข้าจังค่ะ ค่าตั๋วเครื่องบินก็เสียแล้ว ไม่ได้เจอคนรักก็ตั้งใจ คนเรา เวลาไม่ได้เจอกันนานๆ แล้วรู้ว่าต้องมาเจอกัน มันนับวันรอเลย แล้วสุดท้ายก็ต้องมา เสียใจ ที่จริงน่าจะเตรียมหลักฐานการทำงานหรือ อื่นๆมา ด้วย มาณว่า ศึกษามานิดนึง จากคุณ : คิม (KheMai) - [ 23 ก.ค. 51 17:02:58 ]

ความคิดเห็นที่ 53 สนุกมากมาย ได้ความรู้ด้วยค่ะ แต่..... จะไม่ไปหรอก ไอ้เกาหลีเนีี่ยะ!!!!! จากคุณ : *Cookies* - [ 23 ก.ค. 51 17:17:40 ]

ความคิดเห็นที่ 54 กลับมาอ่านต่อค่ะ สงสารความเห็นที่ 48 หญิงคนที่สอง น่ะค่ะ ไม่น่าเลยนะ มีคนมารับรองได้ตั้ง 2 คนแล้ว โชคไม่เอื้ออำนวยให้เลยหรือนี่ จากคุณ : ป้าซิ่ง (Naomichan) - [ 23 ก.ค. 51 17:24:57 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เล่นได้สนุกจัง ผม ติดตามอยู่นะครับ จากคุณ : Hola_Hola - [ 23 ก.ค. 51 17:31:12 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ไม่เคยไปเกาหลีค่ะ เวลานึกอยากจะไปก็จะคิดถึงเรื่องของการตรวจคนเข้าเมืองทุกที  ทำให้กลัวๆ กล้าๆ ยิ่งอ่านประสบการณ์ของคุณคิมแล้วใจเสีย เสียดายเงินค่าตั๋วเครื่องบินน่ะค่ะ จากคุณ : ไก่แก่แม่ปลาช่อน - [ 23 ก.ค. 51 17:35:09 ]

ความคิดเห็นที่ 57 รออ่านต่อนะคะ... สงสารคนที่สองที่เค้ามาหาแฟนจังอะ T^T จากคุณ : zyleth - [ 23 ก.ค. 51 17:36:58 ]

ความคิดเห็นที่ 58 บัตรผ่าน แต่ก็ขอเข้ามาเก็บความรู้ด้วยครับ เคยได้ยินกิตติศัพท์การเข้าประเทศเกาหลีมาเยอะมาก เป็นอย่างนี้นี่เอง จากคุณ : J - [ 23 ก.ค. 51 17:40:40 A:202.28.62.245 X: TicketID:001257 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เป็นประเทศที่เราไม่คิดจะไป แม้ว่าประเทศจะน่าเที่ยว แต่นโยบายแบบนี้ ทำเหมือนเราไปขอข้าวกินฟรีๆ เราเลยไม่ไป ^_^ ปล. เพื่อนรุ่นน้อง เพิ่งไปเที่ยวมากับทัวร์ ก็โดนกักตัวเหมือนกัน ทั้งๆ ที่เป็นข้าราชการ ก็โดน จากคุณ : Hermy - [ 23 ก.ค. 51 17:45:09 ]

ความคิดเห็นที่ 60 รออ่านด้วยคนค่ะ จากคุณ : n_nink - [ 23 ก.ค. 51 17:51:09 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เป็นประเทศที่น่าสนใจ แต่ว่า คงไม่ไปหรอก...เกาหลี..... จากคุณ : ดาวเดินดิน - [ 23 ก.ค. 51 17:51:12 ]

ความคิดเห็นที่ 62 มารับฟังไว้ครับ ทำให้มั่นใจได้ยิ่งขึ้นไปอีกว่า ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ จะไม่ไปประเทศนี้เลย เดี๋ยวได้เสียค่าตั๋วเครื่องบินฟรีๆ จากคุณ : bank147 - [ 23 ก.ค. 51 17:51:55 ]

ความคิดเห็นที่ 63 มาเล่าต่อแล้วค่ะ  เล่าก่อนแล้วกัน  เดี๋ยวจะตอบคคห. ของเพื่อนๆ นะคะ อีกสองสามคนที่โดนส่งกลับเป็นผู้ชายค่ะ  คิมก็ไม่ทันฟังสัมภาษณ์   แต่เข้าใจว่าถูกส่งกลับเพราะเกรงว่าจะหลบหนีมาทำงาน บางคนก็แต่งตัวดี  ใส่เชื้อเชิ้ตกางเกงสแล็ค  ยังโดนมองว่าเป็นแรงงาน เข้าใจว่าความสำคัญอยู่ที่ท่าทางการตอบคำถามและข้อมูลที่ให้ ว่าน่าเชื่อถือเพียงไร ต่อมาจะเล่าเคสที่หลุดรอดเข้าไปได้บ้างนะคะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 18:05:34 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เคสแรกเป็นเคสของสาวไทยที่มีแฟนเป็นคนเกาหลีค่ะ คุณพี่คนนี้ดูท่าทางอายุประมาณสามสิบกลางๆ   ดูจากลักษณะแล้วพี่เค้าคงเป็นสาวออฟฟิศ   ตม. ที่ซักถามเป็นชายวัยกลางคน  การซักถามทำกันที่ห้องด้านหน้า   ทำให้คิมคิดว่าคงมีปัญหาไม่มากเท่าไหร่   ตม. จะถามเรื่องความสัมพันธ์ว่ารู้จักกันมากี่ปีแล้ว   พบกันได้อย่างไร  ที่ไหน  เมื่อไหร่ ซักละเอียดยิบราวกับพี่ผู้หญิงคนนั้นจะไปขอลูกชายเค้าก็ไม่ปาน ถามที่อยู่ของชายหนุ่มคนนั้น  ถามเบอร์โทร เห็นโทรไปส่งภาษาเกาหลีกับฝ่ายชายอยู่พักหนึ่ง แล้วก็โบกมือปล่อยคุณพี่หญิงไทยของเราเข้าประเทศไป สัมภาษณ์อยู่ประมาณ 10 นาทีเองค่ะ คิดว่าเค้าคงเชื่อถือที่คนชาติเค้ารับรองน่ะค่ะ   พี่หญิงไทยของเราเลยผ่านเข้าประเทศเขาไปอย่างสบายๆ จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 18:10:06 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เคสที่สองเป็นหนุ่มไทยสองคน  เจ้าของร้านอาหารเล็กๆ ในประเทศไทยที่มาเยี่ยมเพื่อนชาวเกาหลีของเขา ตม. เค้าถามเรื่องอาชีพ  ที่อยู่ของร้าน   และถามว่ารู้จักเพื่อนคนเกาหลีได้อย่างไร หนุ่มไทยคนนั้นก็ตอบอย่างคล่องแคล่ว เล่าว่าเค้าพบกับเพื่อนเมื่อตอนที่เพื่อนไปเที่ยวเมืองไทย และไปทานอาหารที่ร้านเค้าก็เลยรู้จักกัน แล้วก็ตามฟอร์มขอเบอร์เพื่อนชาวเกาหลีคนดังกล่าว โทรไปคอนเฟิร์มเรื่องราวแล้วก็ปล่อยเข้าประเทศไป จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 18:14:10 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เคสสุดท้ายที่จะเล่านี้เป็นเคสที่ถ้าคิมเป็นตม. เกาหลี คิมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะปล่อย 1 ชาย 2 หญิง คนไทยเข้าประเทศหรือเปล่า   เพราะเรื่องราว ของพวกเค้าสามคนนั้นฟังดูแปลกๆ ค่ะ ฝ่ายชายมีประสบการณ์เข้าเกาหลีมาอย่างโชกโชน คิมได้รู้เรื่องราวของเค้าตั้งแต่ก่อนโดนเรียกสัมภาษณ์ เพราะเขาเห็นคิมโทรศัพท์อยู่  เค้าก็เข้ามาถามว่า โทรศัพท์ของเกาหลีหรือ  คิมก็พยักหน้า บอกตามตรงไม่ค่อยอยากเป็นมิตรกับใคร   แล้วเค้าก็ถามว่ามาบ่อยเหรอ  คิมก็บอกว่าบ่อยพอสมควรค่ะ กลายเป็นรายการร้อยคำถามไปเลย  แต่เป็นการยิงคำถามฝ่ายเดียวจากเค้า คิมไม่ถามกลับและไม่อยากตอบด้วย บอกตรงๆ ว่ารู้สึกไม่ไว้ใจค่ะ  ดูคล่องจนคล่อก จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 18:29:06 ]

ความคิดเห็นที่ 67 น่ากลัวจริงจริง จากคุณ : borabora - [ 23 ก.ค. 51 18:30:29 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เค้าเล่าเรื่องของตัวเองแบบคลุมเครือว่ามีธุรกิจเกี่ยวกับมวยไทย ถามว่ามาทำอะไร  มีคนรู้จักอยู่ที่นี่เยอะเหรอ คิมตอบไปว่าก็พอมี  เค้ากลับบอกคิมว่า เหรอ  ดี  ขอเบอร์คนที่คิมรู้จักได้มั้ย เผื่อคราวหน้าเค้ามาเกาหลีต้องการคนช่วยรับรอง จะได้โทรขอให้คนที่คิมรู้จักมาช่วยการันตีให้เค้า คิมก็นั่งเหวอเลยค่ะ  ยอมรับว่างงมากๆ   คิดได้ไงเนี่ย  คิมไม่รู้จักเค้ามาก่อน ญาติๆ เพื่อนๆ คนรู้จักของคิมก็ไม่รู้จักเค้ามาก่อน เค้าจะให้มารับรองเนี่ยนะ  แหม   ทำไปด้าย   คิมก็เลยนิ่งๆ ไม่ให้เบอร์ไม่พูดอะไร คิดว่าเค้าจะหยุดจะไปเสียที  แต่ he ก็ยังอยู่ต่อค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 18:34:03 ]

ความคิดเห็นที่ 69 มาอ่านจ๊า   ไม่แน่ใจว่าจะเข้าเกาหลีคนเดียวได้ไหม ถ้าไม่มีสามีไปด้วย กลุ้มมากๆ จากคุณ : ต้องพึ่งสามี (meaw_1985) - [ 23 ก.ค. 51 18:35:33 ]

ความคิดเห็นที่ 70 รอฟังต่อคะ..... จากคุณ : ดาวเดินดิน - [ 23 ก.ค. 51 18:50:40 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เข้ามาอ่านเจอพอดี ตอนแรกอยากไปเที่ยวถ่ายรูป..ตอนนี้ชักแหยงๆแล้วสินะคะ จากคุณ : amykittenish - [ 23 ก.ค. 51 18:54:09 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ตม.น่ากลัวจัง เราชอบไปเที่ยวคนเดียวด้วยอ่ะ ผู้หญิงไปคนเดียวสงสัยจะโดนส่งกลับแหงม จากคุณ : มะอึกน้องมะดัน - [ 23 ก.ค. 51 19:06:39 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ติดตามอ่านอยู่ค่ะ กำลังตื่นเต้นเลย จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด - [ 23 ก.ค. 51 19:15:42 ]

ความคิดเห็นที่ 74 มาเล่าต่อตามสัญญาค่ะ  แอบนั่งเล่นเกมมา อิๆ ไม่ว่ากันนะคะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 19:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 75 คราวนี้เอ่ยปากขอยืมมือถือบอกว่าจะโทรหา เพื่อนชาวเกาหลีของเขาเพื่อจะขอให้ช่วยรับรอง ว่าแล้วก็หยิบสมุด  ลักษณะเป็นกระดาษ A 4 มีรายชื่อชาวเกาหลีพิมพ์อยู่เต็มหน้า กะประมาณคร่าวๆ ด้วยสายตาว่ามีประมาณ 10 แผ่น 20 หน้าเห็นจะได้  หน้าทีคิมบังเอิญเหลือบไปเห็นนั้น สังเกตได้ว่ามีแต่ชื่อผู้ชายทั้งนั้นเพราะว่ามีการพิมพ์ คำนำหน้าไว้ด้วยว่า Mr. นั่น Mr. นี่ (ยอมรับว่าตาไวจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะจับผิดเขาเลย) ถ้าคิดในแง่ดีก็ต้องบอกว่าคนๆ นี้เค้าทำงานเกี่ยวกับมวยไทย คนที่เค้าติดต่อส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นผู้ชาย ถ้าคิดในแง่ร้าย  คิมว่าเค้าแปลกๆ ค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 19:24:36 ]

ความคิดเห็นที่ 76 คิมยอมให้เขาใช้โทรศัพท์โทรไปหาคนรู้จักของเขาได้   แต่ปรากฎว่าโทรไปแล้วฝ่ายโน้นเค้าก็ไม่รับสาย กระทาชายคนนี้เค้าก็เลยนั่งแห้วรอต่อไป เขาขอเบอร์มือถือคิมไปพร้อมกับบอกว่า เผื่อจะชวนไปดูการแข่งขันมวยไทยที่เค้าจัด คิมก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรที่จะให้เบอร์ แต่เห็นจะไม่ไปหรอกค่ะ  ไม่กลัวแต่ไม่ค่อยชอบ คนนิสัยแบบนี้ค่ะ บังเอิญตอนที่เค้าสัมภาษณ์ผู้ชายคนนี้นั้น คิมกับเจ้าเส  น้องตัวปัญหาก็นั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่แถวนั้นด้วย เพราะคุณตม. เธอเรียกเราออกไปนั่งรอแล้วรอเล่าอยู่น่ะค่ะ คิมก็เลยได้ฟังบทสนทนาระหว่างอาเจ๊ตม. หน้าโหด กับผู้ชายคนนี้แบบเต็มๆ เรียกว่าตีตั๋วนั่งแถวหน้าเลยละค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 19:28:56 ]

ความคิดเห็นที่ 77 อาเจ๊ตม. หน้าโหดเธอถามว่าเขามาเกาหลีบ่อยมาทำไม กระทาชายนายนี้ก็ตอบว่าเขาทำธุรกิจค้าขายอุปกรณ์มวยไทย มาติดต่อลูกค้า  อาเจ๊เธอก็พยักหน้าว่ารับรู้ เธอคงไม่ติดใจผู้ชายคนนี้เพราะมี record เข้าออกเกาหลีบ่อย แต่เธอติดใจผู้ติดตามสองอนงค์นางวัยรุ่น คิมดูท่าทางแล้วเดาว่าอายุประมาณยี่สิบต้นๆ นางหนึ่งดำ นางหนึ่งขาว  ทั้งสองรูปร่างเพรียวค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 19:36:25 ]

ความคิดเห็นที่ 78 อาเจ๊เธอถามว่าแล้วสองคนที่มาด้วยน่ะเป็นใคร มีความสัมพันธ์กันยังไง  ผู้ชายคนนี้ก็ตอบว่า ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเพื่อนกับเพื่อนของเขาอีกที (เอ่อ ความสัมพันธ์มันซับซ้อนอย่างไรก็ไม่รู้) อาเจ๊คงงงเหมือนคิมก็เลยถามว่าแล้วรู้จักกันได้อย่างไร อาเฮีย (คนไทย) แกเลยตอบว่ารู้จักผ่านทางเพื่อนของแก อาเจ๊ก็ถามว่าแล้วสองหญิงนี่มีอาชีพอะไร อาเฮียแกก็อ้ำอึ้งนิดหน่อยแล้วตอบไปว่าเป็นนักศึกษา อาเจ๊ถามชื่อมหาวิทยาลัย  อาเฮีย ตอบไปว่าศรีปทุม แต่แล้วก็กลับลำบอกว่าไม่แน่ใจ  จำไม่ได้ อาเจ๊ตม. ก็เลยซักต่อว่าแล้วสองคนนี้จะมาเกาหลีทำไม อาเฮียตอบว่าเขาเป็นผู้พามาเอง  สองคนนี้เป็นนักมวย เผื่อจะหาลู่ทางมาชกมวยโชว์ งานนี้อาเฮียชาวไทยพลาดอย่างแรง   อาเจ๊ตม. ได้ทีเห็นทางจะปฏิเสธไม่ให้สาวไทยสองคนเข้าประเทศ เธอรีบบอกว่า ไม่มีวีซ่า มาทำงานที่เกาหลีไม่ได้ อาเฮียรีบแก้ตัวเป็นพัลวันว่าไม่ได้มาทำงาน   อาเจ๊บอกว่ามาชกมวยนั่นแหละถ้าได้รับเงินค่าตอบแทน ก็ถือว่าเป็นการมาทำงาน จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 19:38:35 ]

ความคิดเห็นที่ 79 อาเฮียก็บอกว่ายังไม่ได้มาชก  มาลองดูเฉยๆ สองสาวอยากมาเที่ยวด้วย   สุดท้ายเจ๊ตม. ก็เลยถามอาเฮียว่า เขากล้ารับประกันไหมว่าสองสาวจะเดินทางกลับประเทศไทย อาเฮียยืนยันอย่างหนักแน่นว่ากล้ารับรอง อาเจ๊ตม. ก็เลยปล่อยสองสาวกับอาเฮียผ่านไป ทั้งๆ ที่คิมเชื่อว่าในใจเธอก็แอบสงสัยเหมือนๆ กับ คิมและน้องเสว่าสามคนนี้เค้ามาทำอะไรกันแน่ มันถึงได้ดูแปลกๆ มีลับลมคมนัยชอบกล จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 19:41:55 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เล่าละเอียดจังค่ะ ได้รับรู้ประสบการณ์อีกแบบ เคยไปแล้วครั้งนึงค่ะกับทัวร์ ท่องจำแทบตาย  สุดท้ายเค้าไม่ถามไรเลย คือภาษาอังกฤษไม่ได้เลยอะค่ะ ใช้การแต่งตัวและมีจดหมายเชิญจากการไปดูงาน ท่องชื่อโรงแรม  ชื่อที่จะเที่ยว คิดว่าถ้าโดนเรียกจริงๆ คงจะนึกอะไรไม่ออกเลยหล่ะค่ะ ตอนแรกจะถอดใจไม่ไปแล้ว  ประเทศอะไรเข้ายากชะมัด ทีประเทศเราใครมาก็ได้อ้าแขนรับ แต่ที่ทำงานให้ไปฟรีค่ะ  ในชิวิตไม่รู้ว่าจะได้ไปกะเขาหรือเปล่า ไหนๆ โอกาสมาแล้วก็เลยตัดสินใจไปค่ะ รับรู้ถึงความรู้สึกคนโดนส่งกลับเลย   โดยเฉพาะรายที่มาเยี่ยมแฟน อุตส่าห์บินข้ามขอบฟ้าเพื่อจะมาเจอกัน  เพียงแค่นิดเดียวก็จะได้เจอกันแล้ว ขอบคุณ คุณคิมที่มาเล่าสู่กันฟังค่ะ จากคุณ : ก้อยใจจิ๋ม - [ 23 ก.ค. 51 19:49:23 ]

ความคิดเห็นที่ 81 อยากไป แต่กลัว จากคุณ : Miss K,O - [ 23 ก.ค. 51 20:06:17 ]

ความคิดเห็นที่ 82 โชคดีจัง  ไป 2 ครั้งไม่เคยโดนสัมภาษณ์เลย คนสุดท้ายนี่น่าสงสัยจริงๆด้วยค่ะ  คุณคิมเล่าละเอียดมากๆ  ดีค่ะ จากคุณ : เลขาว่างงาน - [ 23 ก.ค. 51 20:16:16 ]

ความคิดเห็นที่ 83 สุดท้ายจากประสบการณ์ที่ได้มาคิดว่าครั้งหน้าถ้าจะพาน้องๆ มาอีก ก็จะเตรียมตัวอย่างนี้ค่ะ  อันนี้เป็นความคิดของคิมนะคะ   อาจจะมีประโยชน์กับท่านอื่นๆ ที่ต้องการเดินทางไปเกาหลีบ้างก็ได้ 1. คนที่มาจะต้องรู้จุดประสงค์และรายละเอียดของการเดินทางอย่างชัดเจน   เช่น  มาทำไม  มาเป็นเวลากี่วัน  ตารางการเดินทางเป็นอย่างไร   ถ้ามาอบรมต้องรู้ว่าจะมาอบรมคอร์สอะไร  ที่ไหน  จะอบรมเป็นเวลากี่วัน   จะเดินทางกลับวันที่เท่าไหร่  ถ้าจะเดินทางมาท่องเที่ยว   มีสถานที่ไหนที่อยากไปเที่ยวบ้าง  มีอะไรดึงดูดความสนใจ 2. ที่พัก  พักที่ไหน  ถ้าต้องจองโรงแรมก็ควรจองให้เรียบร้อย   เตรียมเบอร์โทรศัพท์ของโรงแรมหรือสถานที่พักให้เรียบร้อย   ทุกคนต้องรู้ที่อยู่ของตัวเอง  และมีพกติดตัวไว้   เผื่อโดนเรียกตรวจจะได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าจะพักที่ไหน 3. ติดต่อคนที่เราจะไปพักด้วยหรือคนที่จะดูแลเรา   แจ้งว่าเราจะเดินทางมาถึงเวลาประมาณนี้   ขอให้เขาเปิดมือถือหรือรับโทรศัพท์ด้วยเพื่อถ้าตม. ต้องการโทรไปสอบถามจะได้มีคนรับสาย จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 20:16:51 ]

ความคิดเห็นที่ 84 4. การแต่งตัว  ควรแต่งตัวให้ดูสุภาพเรียบร้อย   คงไม่ถึงกับใส่สูทหรือใส่ไหมไทยเพื่อโชว์ความมีกะตังค์   เสื้อคอปก  กางเกงผ้าหรือกางเกงยีนส์ที่ดูดี  ไม่ขาดปุปะ   หรือซีดจนเกินงาม รองเท้ากีฬาที่ดูสะอาดก็พอแล้ว   ถ้าเป็นผู้หญิงไม่ควรนุ่งกระโปรงสั้นหรือแต่งกายแนวเซ็กซี่ เพราะนอกจากจะไม่สะดวกในการเดินทางแล้วยังเป็นที่เพ่งเล็งของตม. อีก 5. เตรียมเอกสารยืนยันให้เรียบร้อย  ถ้าจะมีอบรมหรือได้รับการเชิญ ให้มาดูงานควรเตรียมใบตอบรับหรือจดหมายเชิญให้เรียบร้อย   ถ้ามาเป็นการส่วนตัวควรเตรียมเอกสารที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ ในการยืนยันว่าเราจะเดินทางกลับประเทศอย่างแน่นอน เช่น ถ้าเป็นนักศึกษา  ให้เตรียมบัตรนักศึกษา  ใบลงทะเบียนของเทอมนั้นๆ ถ้าทำงานแล้วก็เตรียมบัตรพนักงาน  ใบรับรองสถานภาพการทำงาน   ใบอนุญาตให้ลางานระบุไปเลยว่าลาวันไหนถึงวันไหน จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 20:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ถ้าโดนกักตัว  สิ่งที่คิมคิดว่าจะทำก็คือ 1. ทำตัวสุภาพและเป็นมิตร  อย่าแสดงออกว่าเรากลัวเพราะอาจจะทำให้ เจ้าหน้าที่เข้าใจผิดได้ว่าเรามีพิรุธ 2. ให้ความเคารพตม. อย่าไปด่า  พยายามยกตนข่มท่าน   เราไม่ต้องการให้เขาเกลียดเรา 3. ตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา  หนักแน่น  ไม่อ้ำอึ้ง 4. ถ้าโดนด้วยกันหลายคน  พยายามทบทวนข้อมูลเกี่ยวกับคนในกลุ่ม   และเวลาให้ข้อมูลให้พยายามให้ข้อมูลที่คิดว่าคนอื่นๆ จะจำได้ เช่น ถ้าเป็นเพื่อนกัน  ตม. ถามว่ารู้จักกันมากี่ปีแล้ว   แต่จำเวลาที่แน่นอนไม่ได้อาจจะตอบว่าประมาณ 5 – 6 ปี หรือตอบว่าจำไม่ได้ว่ากี่ปีแล้ว  แต่จำได้ว่ารู้จักกันตอนอยู่ปีหนึ่ง จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 20:22:38 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ปวดตามากค่ะ  ขอพักก่อนแล้วจะมาเล่าเหตุการณ์หลังออกจากตม. และตอบคคห. ของเพื่อนๆ นะคะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 23 ก.ค. 51 20:25:00 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เป็นคำแนะนำที่ดีเยี่ยมเลยคะ.... ขอบคุณ จขกท. ที่มาแบ่งปันประสบการณ์คะ จากคุณ : ดาวเดินดิน - [ 23 ก.ค. 51 20:48:12 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ได้รับประสบการณ์จากการอ่านกระทู้นี้ได้เยอะเลย เผื่อได้ไปเที่ยวจะได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์จริง ขอบคุณที่ถ่ายทอดเรื่องราวให้ได้รับรู้ จากคุณ : nuiorji - [ 23 ก.ค. 51 21:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 89 คุณคิมเล่่าเรื่องได้สนุกตามเคย เพิ่งทราบว่าเป็นคริสเตียน อยุ่เชียงใหม่ด้วย มีเพื่อนคนหนึ่งอยุ่เชียงใหม่เหมือนกันค่ะ เป็นศิษยาภิบาล ตม เกาหลีีนี่น่ากลััวแฮะ จากคุณ : jeji o - [ 23 ก.ค. 51 22:23:12 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ประสบการ์ของผม ผมไปเกาหลีเมื่อต้นเดือน โดยไปในนามทัวร์ มี 10 คน สองครอบครัว ครอบครัวผมมี สามคน คือพี่ผู้หญิง แล้วก็คุณแม่ ตอนไปถึงสนามบินอินชอน ก็วางแผนกันแล้วว่ากรุ๊ปเราจะต้องอยู่แถวเดียวกัน(รวมกันเราอยู่ เหอๆ) แต่พลาด เพราะไปถึง แถว ตม.ไม่เต็ม เค้าก็เลยให้กระจายแยกกัน ครอบครัวพี่ที่มาด้วยกันผ่านหมด เพราะ passport ผ่านมาหลายประเทศ แต่ตอนถึงคิวพี่ผม ที่เป็นผู้หญิง เนื่องด้วย passport ยังขาว ตม. ก็ถามโน่นถามนี่ "มาทำไม" "มาอยู่นานมั๊ย" "จะไปเที่ยวที่ไหน" แต่ก็ผ่านมาได้ เพราะยื่นใบรับรอง จากโรงพยาบาลให้เค้าดู (พี่ผมเป็นพยาบาลครับ) รอด! ของคุณแม่ passportโล่ง ขาวสะอาดเหมือนกัน แต่ที่แจ๊คผอร์ต เกือบเข้าห้องเย็น ก็เพราะ ตอนที่ตม.เอาpassport ไปสแกนกับเครื่อง ความซวยก็เกิดขึ้น คิดในใจ:-)านเข้าแร้ววว ตม.ก็ดูหน้าคุณแม่นานสองนาน เทียบกัยในรูป ดู profile เทียบกับ passport ถึงตอนนี้ทุกคนก็ผ่านด่านมาหมด ยกเว้นคุณแม่ ผ่านไปประมาณ 15 นาที ตม.คนนี้ก็เรียกคนอื่นๆ มาปรึกษา นาทีนั้น ก็เลยรวบรวมความกล้า เดินเข้าไป ยอกว่านี่คือแม่ของผม แล้วก็เอาใบรับรอง (ผมอยู่สายการบินหนึ่ง)ออกมาให้เค้าดู มีชื่อแม่ด้วย เค้าก็ถามว่าแม่คุณจริงๆหรอ แล้วเค้าก็หัน จอmonitor มาให้ดู ตอนที่เห็นยอมรับว่าตกใจมาก เพราะทั้งหน้าตา วันเดือนปีเกิด จังหวัดที่เกิด เหมือนของแม่ผมทุกอย่าง ผมนิ่งไปสักพักแล้วก็พูดมา คนไทยส่วนใหญ่หน้าเหมือนๆกัน เหอๆ คืดได้ไงตอนนั้น แล้วก็บอกให้แม่เอาเครดิตการ์ด มาเทกระจาดให้ดู รวมทั้งของผมด้วย บอกว่าเนี่ย ขนเงินมาซื้อ etude กับ skinfood หลังจากนั้น ตม.เค้าก็ให้ผมออกมายืนข้างนอก แล้วก็มองแม่ แกล้งกดจอ นานเหมือนกัน ประมาณ ครึ่งชั่วโมง นานทีนั้นก็คิดว่าคงไม่รอดแน่ๆ ทั้งหน้าตา ทั้ง ข้อมูลเหมือนกันหมด แต่โชคก็ช่วย เพราะเค้าติดต่อกับสายการบิน ตรวจข้อมูลว่าผมทำงานอยู่ที่นี่จริงรึเปล่า พอเค้าวางหู เค้าก็หยิบตาป๊ม ประทับตราในpassport โล่งใจมากๆ ความใฝ่ฝันของแม่ที่จะได้ เหมา etude ก็เป็นจริงแล้ว จากประสบการณ์สอนให้รู้ว่า 1.กระเป๋า หลุยส์ในละเจ็ดหมื่นไม่ช่วยอะไร แต่งตัวให้เหมือนนักท่องเที่ยว สะพายกล้องถ่ายรูป ควรพก โปรแกรมทัวร์ และ ชื่อโรงแรมที่จะไปพักไว้ในกระเป๋าอยู่เสมอ 2.พกเอกสารต่างๆไม่ว่าจะเป็น พาสพอร์ตเล่มเก่า หนังสือรับรองการทำงาน รูปถ่าย แม่ลูกอะไรแบบนี้ไว้ดด้วย 3.เอกสารต่างๆ ต้องเซนต์ สำเนาสลักทุกครั้งว่าใช้ทำอะไร เพราะจากที่แม่ผมโดน ผมคิดว่าแม่ค้าที่โดนส่งกลับคนนั้น คงตั้งใจที่จะปลอมเป็นแม่ของผมแน่นอน (โกรธมากๆ๗ 4.ถ้าใครหวาดกลัวว่าจะโดนส่งกลับ ไปประเทศอื่นดีกว่า เพราะ ถึงแม้ว่าจะได้เข้าไป แต่ความรู้สึกที่เสียไปมันอาจมำให้ เที่ยวไม่สนุก เหมือนแม่ของผมที่บอกว่าจะไม่มาีอีกแล้ว เอาเงินไปเที่ยวที่อื่นดีกว่า 5.ผมคิดว่าที่ตม.เค้าทำก็ไม่ผิดหรอก เค้ามีสิทธิที่จะปกป้องประเทศของเค้า เพราะจากที่ผมทำงาน เกือบทุกไฟล์ ที่บินกลับมาจากอินชอน ต้องมีคนไทยโดนส่งกลับ ส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานไทยที่ลักลอบเข้าไปทำงานอย่างผิดกดหมาย ทั้งภาคเกษตรกรรม เป็นกรรมกรบ้าง หมอนวด ขายตัว มีหมด อยากประณามคนพวกนี้มาก ที่ทำให้คนไทยเสื่อมเสีย ชื่อเสียง ยังไงก็ขอให้เพื่อนๆที่คิดจะไปเกาหลีก็ต้องเตรียมตัว เตรียมใจไว้บ้างก็ดีน่ะครับ ส่วนผมก็จะไปเล่น สกี ตอนwinter อีกที ติดใจเซาน่าน้ำร้อนครับ เหอๆ จากคุณ : pizza_heart (pizzaheart) - [ 23 ก.ค. 51 23:06:57 ]

ความคิดเห็นที่ 91 อ่านแล้วอยู่เฉยๆไม่ไหว ขอจิ้มโหวตให้ทีนึงก่อนเลย จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 24 ก.ค. 51 00:13:14 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ขอบคุณที่เล่าประสบการณ์ห้องเย็นเกาหลีให้ฟังนะค่ะ จากคุณ : ม่านสีม่วง - [ 24 ก.ค. 51 04:40:06 ]

ความคิดเห็นที่ 93 มาฟังประสบการณ์ครับ จากคุณ : Sky - [ 24 ก.ค. 51 05:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 94 มาอ่านต่อจากที่ค้างไว้เมื่อวาน... อ่านแล้วก็ให้รู้สึกโกรธคนที่ไปทำไม่ดีไว้กับประเทศเขาจัง... จะรู้กันบ้างมั้ยเนี่ยว่าทำให้เพื่อนร่วมชาติอีกหลายพันหลายหมื่นคนต้องลำบากแค่ไหน T^T จากคุณ : zyleth - [ 24 ก.ค. 51 08:56:57 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ขอบคุณที่มาเล่าประสบการณ์ให้ฟังค่ะ ส่วนเราก็เคยไปสัมนาของมหาวิทยาลัยแต่จัดไปกับทัวร์ มีหนังสือรับรองจากมหาลัย เลยผ่านมาได้สบาย ไม่มีใครติดเลยค่ะ แต่ไฟท์ตอนเราไปเท่าที่ลองมองๆนี่  ไม่เห็นคนไทยหรือใครติดในห้องเย็นเลยนะ แล้วแต่รมณ์พี่ ตม + ดวง จริงๆ  ==" จากคุณ : รุ้งกินน้ำตัวอ้วน - [ 24 ก.ค. 51 09:14:46 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ไปดูงานที่เกาหลีกับทางมหาลัย มีคนโดนกักตัวไว้ประมาณ 4-5 คน แต่ในที่สุดก็ออกมาได้ ตอนผ่านด่านต้องมองสบตาเข้าไว้อย่าหลบตาเป็นเด็ดขาด(เกี่ยวไมเนี้ยะ) ไกด์แนะนำมา จากคุณ : sassy_girl - [ 24 ก.ค. 51 12:28:48 A:58.10.68.245 X: TicketID:026343 ]

ความคิดเห็นที่ 97 รู้สึกว่าคนที่มีปัญหาคือ คนที่หน้า passport โล่ง ๆ นะคะ ดังนั้น ถ้ายังไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศที่ไหน ควรเลือกไปประเทศอื่นก่อน ไว้ให้หน้า passport ประวัติดี ๆ ค่อยไปเกาหลีดีกว่าค่ะ แต่ถ้าต้องไปจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยไปไหนเลยก็ต้องมีเอกสารรับรองที่ดี ก็ไม่น่ามีปัญหาเหมือนกัน จากคุณ : ^^ (BoMuChan) - [ 24 ก.ค. 51 17:38:37 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ต้องขอโทษทุกท่านด้วยที่หายไปทั้งวันเลย   และขอติดเรื่องเล่าและการตอบคคห. ของเพื่อนๆ ไปก่อน เพราะวันนี้คิมเหนื่อยมากๆ เลยค่ะ   เมื่อคืนต้องคอยเช็ดตัวและหาหยูกยาให้คุณสามีทาน   เมื่อเช้าคิมตื่นแต่เช้าเดินทางไปที่คุกคิวอน เพื่อช่วยแปลบทเรียนให้น้องๆ   เนื่องจากบทเรียนของคุกคิวอนนั้นมีทั้งเรื่องประวัติศาสตร์   วิทยาศาสตร์การกีฬา  และการบริหาร   น้องๆ จึงขอให้คิมไปช่วยเป็นล่ามให้เพราะมีศัพท์เทคนิคอยู่มาก   เขาไม่ค่อยเข้าใจกัน จากคุณ : Ms. Kim - [ 24 ก.ค. 51 22:33:01 ]

ความคิดเห็นที่ 99 เอาเป็นว่าขอเล่าเรื่องเปิ่นๆ ของตัวเองให้เพื่อนๆ ฟัง เล็กน้อยก่อนไปนอนสลบก็แล้วกันนะคะ   คือวันนี้ช่วงบ่ายหลังทานข้าวกลางวันเสร็จ   คิมก็เกิดอาการง่วงนอนแบบลืมตาไม่ขึ้น   แปลๆ ไปคิมก็เริ่มปิดตาแปล  แต่ก็ยังแปลอยู่   น้องๆ ก็นั่งฟัง  อยู่ทั้งสามคน  ได้แก่นายเส   นายรุงรังและนายกุ๊กกู   เจ้าเสกับเจ้ารุงรังก็ออกอาการง่วงเหมือนกันเลยฟังแบบผ่านๆ   เจ้ากุ๊กกูกำลังสนใจกับบทเรียนเรื่องทฤษฏี การทำทีมโชว์เทควันโดที่คิมกำลังหลับตาแปล ด้วยสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น   จู่ๆ เจ้ากุ๊กกูก็เขย่าแขนคิมแล้วก็ถามว่า   พี่คิมครับ  ต้องให้ใส่หน้ากากด้วยหรือครับ   คิมงงๆ แล้วก็ตอบกุ๊กกูไปว่า   เอ่อ พี่พูดอะไรไปเหรอ พี่เผลอหลับไปอ่ะ   เจ้ากุ๊กกูรายงานว่า  พี่คิมกำลังแปล เรื่องการนำนักเรียนใหม่มาเข้าร่วมทีมโชว์ที่มีอยู่แล้ว   แล้วพี่คิมก็บอกว่า “ถ้ามีคนใหม่เข้ามาให้จับใส่หน้ากาก แล้วเอาเขาเข้ากลุ่มให้ได้  ต้องทำให้เนียนจะได้รวมกลุ่มกันได้”   คิมได้ฟังดังนั้นก็พยายามกลั้นหัวเราะตอบไปว่า   พี่คงละเมอน่ะกุ๊กกู  พี่จำไม่ได้เลยว่าพูดอะไรออกไป   แต่คุกคิวอนเค้าคงไม่สอนให้เรา จับนักเรียนใส่หน้ากากไปแสดงโชว์หรอก   เจ้ากุ๊กกูกลั้นหัวเราะจนหน้าแดง   รอจนพักเราสองคนก็นั่งหัวเราะกันลั่น จากคุณ : Ms. Kim - [ 24 ก.ค. 51 22:35:15 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เจ้ารุงรังก็ทำเรื่องฮาๆ ไม่แพ้กัน   เจ้ารุงรังกำลังแอบหลับอย่างสบาย   กฎของการอบรมมีอยู่ว่าถ้าหัวหน้าห้องหรืออ. ถามอะไร   ผู้ร่วมอบรมต้องตอบอย่างขึงขังว่า yes, sir หรือ no, sir ขณะที่เจ้ารุงรังกำลังฝันหวาน   ทั้งชั้นก็ตะเบ็งเสียงตอบ yes, sir กันใหญ่   เจ้ารุงรังที่รู้สึกตัวขึ้นมาเพราะเสียงตะโกน yes, sir ของคนประมาณ 100 คนก็รีบตะโกนขึ้นมาบ้างว่า yes, sir ด้วยเสียงอันดังก้อง   แต่ว่ามันเป็น yes, sir ที่ช้ากว่าชาวบ้านเค้า   เล่นเอาทุกสายตาจับจ้องมาที่พ่อรุงรังของเราด้วยความแปลกใจ   ถึงเวลาพักพอดี  คิม นายกุ๊กกู และนายเสได้แต่นั่งหัวเราะกุมท้องอยู่ตรงนั้น   ปล่อยให้นายรุงรังนั่งทำหน้าแตกตื่น เพราะไม่รู้ว่าตัวเองตอบรับอะไรไป จากคุณ : Ms. Kim - [ 24 ก.ค. 51 22:36:41 ]

ความคิดเห็นที่ 101 พรุ่งนี้คิมต้องตื่นหกโมงเช้าเหมือนเดิมเพื่อไปแปลให้น้องอีกวันหนึ่ง   หวังว่าจะไม่กลับดึกเหมือนวันนี้  แล้วจะมาเล่าเรื่องต่อนะคะ ก่อนไปนอนขออนุญาตขอบพระคุณลุงเหมียวที่มากดโหวตให้ค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 24 ก.ค. 51 22:38:17 ]

ความคิดเห็นที่ 102 คุณคิมและแฟนเก่งจังครับ มีปฏิภาณไหวพริบดี เตรียมตัวเยี่ยม จากคุณ : I-Kant - [ 24 ก.ค. 51 22:45:27 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ขอบคุณครับ สำหรับประสบการณ์ และ วิธีการวางตัวดีๆที่มาแนะนำกันครับ โหวตเข้าคลังกระทู้ไปแย้วววว  เพราะมีประโยชน์ดีมาก อยากไปเกาหลีมากๆๆๆๆๆ   คือว่า วิวสวยดี แต่พออ่านเสร็จแล้ว ตัดสินใจ  ถอยดีกว่า !!! ไม่กล้าไปแว้วววว จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 24 ก.ค. 51 23:29:12 ]

ความคิดเห็นที่ 104 โหวตค่าาาาาาา มีสาระ และฮา   อิฉันชอบบบบบบ จากคุณ : letsgokrabi - [ 25 ก.ค. 51 01:12:23 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ตามมาจากห้องไกลบ้านค่ะ จากคุณ : ศรีธนา - [ 25 ก.ค. 51 07:56:15 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ขอตอบคคห. ของเพื่อนๆ นะคะ  นั่งตอบโดยใช้ notebook อยู่ในห้องเลคเชอร์ของคุกคิวอนค่ะ มี WiFi ให้ใช้ด้วย  ดีจัง จากคุณ : Ms. Kim - [ 25 ก.ค. 51 08:19:11 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ตอบคุณ เชียงชุน ขอบคุณ คุณเชียงชุนเหมือนกันค่ะ  ที่กรุณาแวะมาอ่าน ตอบคุณอะจึ๋ยเคี้ยก แปลว่าเคสของคุณมีปัญหาไม่มาก  เลยอยู่ไม่นาน ตอบคุณ Jook^Ka^Jick ยังไม่จบนะคะ  ยังเหลืออีกนิดนึง  เดี๋ยวจะเล่าต่อค่ะ ตอบคุณคิม  (KheMai)  เห็นใจเค้าเหมือนกันค่ะ   จริงๆ ถ้าหาข้อมูลมาล่วงหน้าก่อนเดินทางเค้าก็จะทราบว่า ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง  แล้วถ้าโดนส่งกลับแล้วครั้งหนึ่ง เข้าใจว่าครั้งต่อไปนี่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยละค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 25 ก.ค. 51 08:19:31 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ตอบคุณ *Cookies* อย่าอคติกับประเทศเค้าเลยค่ะ   ตม. เค้าก็ทำไปตามหน้าที่ ตอบคุณป้าซิ่ง  คุณตม. เค้าบอกว่าถ้ามีแฟนหรือญาติทำงานในเกาหลี ไม่อนุญาตให้เข้าประเทศค่ะ  เพราะงั้นไม่ว่ามารับรองกี่คนก็หมดหวังค่ะ ตอบคุณ Hola_Hola ขอบคุณค่ะ  ดีใจนะเนี่ยเวลามีคนชม อิๆ ตอบคุณ ไก่แก่แม่ปลาช่อน ถ้าไปมาหลายประเทศแล้ว ประกอบกับมีหลักฐานให้เขาเชื่อถือได้ว่าเราจะกลับแน่ คิมว่าคงไม่มีปัญหาหรอกค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 25 ก.ค. 51 08:23:11 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ตอบคุณ zyleth สงสารเหมือนกันค่ะ  แต่คิมก็แอบๆ สงสัยนะว่าถ้าเค้าเข้าได้แล้ว เค้าจะหนีอยู่กับแฟนเลยหรือเปล่า ตอบคุณ J  บัตรผ่านหรือสมาชิกก็ยินดีต้อนรับค่ะ   ตอบคุณ Hermy ต้องยอมรับว่าเกาหลีให้ VISA on arrival คือเราไม่ต้องไปเสียเงิน   เสียเวลาขอวีซ่าที่สถานทูต  ดังนั้น เมื่อเรามาถึง  เขาอาจจะให้ VISA หรือไม่ให้ก็ได้ ตอบคุณ n_nink ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ /\ ตอบคุณ ดาวเดินดิน  แต่เป็นประเทศในฝันของหลายคนนะคะ   รวมทั้งนายเสพระเอกของเรื่องนี้ด้วย   จากคุณ : Ms. Kim - [ 25 ก.ค. 51 08:31:58 ]

ความคิดเห็นที่ 110 อยู่ติดกันแค่นี้ แต่ยังไม่เคยไปเลยค่ะ(เราอยู่ญี่ปุ่นค่ะ) ไม่รู้ถ้าหนีแฟนไปเที่ยวจะโดนกักตัวหรือเปล่า 555 จากคุณ : Hergest - [ 25 ก.ค. 51 09:05:38 ]

ความคิดเห็นที่ 111 มาแชร์ประสบการณ์โดนกักตัวเหมือนกันค่ะ ตอนที่ไปเกาหลี เป็นพาสปอร์ตใหม่เอี่ยม เนื่องจากเล่มเก่าหมดอายุ แล้วก็มาหมดในช่วงที่เปลี่ยนกฎว่าไม่มีการต่ออายุพาสปอร์ตซะงั้น ... ท่าทางจะมีปัญหา เพราะเท่าที่อ่านๆจากพันทิบ เค้าก็บอกเช่นนั้น จากข้อมูลที่ได้จากพันทิบ กับ Trekkingthai   พบว่า มันน่ากลัวจริงๆค่ะ สำหรับผู้ที่เข้าข่ายดังต่อไปนี้ น่ากลัวที่ 1. พาสปอร์ตเล่มใหม่เอี่ยม เรียมแร้ เรไร ... เข้าข่ายวุ้ย   ก็เล่มเก่า วีซ่า มันหมดอายุไปแล้ว ตอนไปขอเล่มใหม่ก็ไม่รู้จะให้เย็บรวมเล่มเพื่ออะไร   ถ้ามี วีซ่า อเมริกา10 ปีก็ไปอย่าง น่ากลัวที่ 2.  สาว .. โสด ...  เข้าข่ายอีกวุ้ยยยย ไอ้ครั้นจะหาใครมาเป็นสามีรับจ้างเพื่อเที่ยวเกาหลีก็ออกจะนิยายเกินไป   แถมเวลามันกระชั้น หาม่ายทัน อุ อุ น่ากลัวที่ 3.  ภาษาอังกฤษอ่อนแอ ... ตอนแรกกลัวมาก   แต่จริงๆไม่ค่อยน่ากลัว เพราะ เกาหลี อ่อนแอก่าเราอีก 5555 น่ากลัวที่ 4. ผู้ที่ไม่มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง ... โห รอดตัวไปหวุดหวิด .. ทีนี้ เข้าข่ายถึงสามข้อ ก็ต้องเอา ข้อสี่เป็นยันต์ป้องกันสิคะ ไม่ยากค่ะ ก็พกไปทั้ง พาสปอร์ตเล่มเก่า เราไปแค่เมืองจีน อิ อิ สอง ก็หนังสือรับรองที่ทำงานว่า สาวโสดอย่างเรา มีหน้าที่การงานที่ต้องกลับมาปฏิบัติ หลังจากไปเที่ยวพักผ่อน รวมทั้งนามบัตร  บัตรประจำตัวพนักงาน และบัตรเครดิต <<<--- เพื่ออะไรไม่เข้าใจ แต่ที่อ่านมาเค้าว่าควรพกไป แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 51 10:04:57 แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 51 10:01:16 แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 51 10:00:32 จากคุณ : ตื่นเต้น - [ 25 ก.ค. 51 09:58:52 ]

ความคิดเห็นที่ 112 แล้วก็มีปัญหาจริงๆค่ะ .. ถึงเกาหลี เหอ เหอ เข้าแถวรอคนที่สาม แต่ตะหงิด ตะหงิดยังไงไม่รู้ ก็คนที่ตรวจไปๆก็หันมามองเรา .. มองทำไมว๊า พอถึงคิวเรา พี่แกก็เปิดดูพาสปอร์ตเล่มใหม่เอี่ยมอ่องของเรา แล้วพูดว่า @$#T%$%^% """ ??? เอ่อ... ไม่เข้าใจ ก็พยายามแสดงความเป็นมิตรส่งยิ้มสยามและบอกว่า Again Pleaseeee ............ and slow ? คุณ ตม. " You come Korea first time? (ฟังได้ประมาณนี้) เรา  " Yes," พร้อมยิ้มหวานให้ ... แต่  ยิ้มสยามช่วยเราไม่ได้  พี่แกชี้เราเข้าห้องเย็น -_-" ตูจะโดนส่งกลับหรืออย่างไร ก็บอกว่า อิชั้นเคยไปจีนนะ พร้อมทั้งควักพาสปอร์ตเล่มเก่าขึ้นมาโชว์ แต่ ตม. เกาหลี ที่นอกจากหน้าตาไม่หล่อแล้ว ใจยังร้ายอีก T_T  ชี้ให้เราเดินไปในห้องเย็น เราก็ยังงง งง สงสัย พี่แกเลยบอกประมาณว่า   ยูมาเกาหลีครั้งแรก ดังนั้นเข้าห้องไป -_-# เข้าก็เข้าวะ (ก็ทำอย่างอื่นไม่ได้แล้วนี่หว่า) โชคดีที่เราโดนเรียกเข้าไปเป็นคนแรก  ก็ไม่ต้องรอใคร   ตะแรกจะเดินไปคุยกะ จนท ผู้หญิง แต่... จนท ผู้ชาย(ดูท่าทางจะปิ๊งเรา ... ม่ายช่ายยยย) ดูท่าทางเป็นหัวหน้าเรียกเราไปนั่งตรงหน้า ยังไม่ได้เริ่มถาม เราก็ ยื่นไปเลยค่ะ ทั้งนามบัตร  บัตรประจำตัวพนักงาน และหนังสือรับรองว่ามีงานทำนะเฟ้ย มาเที่ยวเดี๋ยวเดียวก็จะกลับไปทำงานต่อแล้ว และพาสปอร์ตเล่มเก่า ฮี ก็เปิดๆ ดู แล้วถามว่า เคยไปไหนมามั่ง .... เอ้า ก็อ่านสิยะ ... แค่คิดค่ะ   ก็ตอบไป Chiana two times  bla bla bla... อืม ทีนี้ฮีก็ดู จดหมายรับรอง นามบัตร และบัตรพนักงาน แต่ดูผ่านๆ แล้วถามว่า ทำงานที่ไหน ........ เฮ้ยยยยยย  อ่านมะออกหรือยะ เอาเถอะ ตอบก็ได้  ... เอ้า ท่าทางไม่รู้จักแฮะ   (ออกจะงง งง เพราะ บริษัทอิชั้นก็ออกจะอินเตอร์ แต่ .. ช่างมันเถอะ) ถามกลับว่าเป็นบริษัทเกี่ยวกับอะไร เราก็บอก .... ฟังไม่ออกอีกแนะ ถามย้ำอีกสองครั้ง เราก็ตอบไปอีกสองครั้ง  .... ... แล้วนี่เมื่อไหร่จะรู้เรื่องล่ะเนี่ย .. อ๊ะ  พี่แกฉลาดค่ะ ยื่นปากกา กับกระดาษมาให้ เราก็เขียนไป _ _ _ _ เขียนแค่ 4 ตัวอักษร พวกฮี ก็ร้องอ๋อ   (ลืมบอกไปว่าระหว่างคุยๆอยู่ก็มีอีกสองหนุ่มตม. มามุงดู .. ดูไรฟระ เห็นเรียกคนไทยอีกสอง สามคนเข้ามา ทำไมไม่แยกย้ายไป สัมภาษณ์ยะ  ) พอฮีร้อง อ๋อออออ เราก็เลยบอกว่าขอโทษ ที่สำเนียงภาษาอังกฤษเราไม่ดี   พวกฮี ก็พร้อมเพรียงกันตอบว่า Me too แล้วหัวเราะ เออ บรรยากาศผ่อนคลาย   แต่ยังไม่ยอมปล่อยเราแฮะ คราวนี้ถามว่า มากันกี่คน   อันนี้ตอบได้แต่คำถามต่อมา ตอบไม่ได้ ฮีถามว่า หัวหน้าทัวร์ชื่อไร แป่วววววววว ไม่ได้จำอ่ะ ก็บอกไป  ไอ ดอนท์ โนว  เพราะ ไอมากับบริษัทไอ  ไม่รู้ ถามว่ามากี่วัน  อันนี้ตอบได้ แต่ขอตั๋วกลับ ไม่มีอ่ะ เค้าไม่ได้ให้ไว้นี่ เอาล่ะสิ ตู .. อ๊ะ เดี๋ยวค่ะเฮีย  มีจดเที่ยวบินไว้ค่ะ  ก็บอกไป ถามต่อว่าพักที่ไหน กรี๊ดดดดดดดดด ไม่รู้  ไอ ดอนท์ โนว อีกแล้ว   แต่... ลืมไปค่ะ พกโปรแกรมทั่วร์มาด้วย  เปิดให้ดูเลยค่ะ ว่าโรงแรมนี้น๊า พร้อมยื่น โปรแกรมทัวร์พิมพ์ด้วยภาษาไทยให้พี่กิมจิอ่าน พี่แกทำหน้าหน่ายโลก ไม่คุยกะเรา แล้วก็ แตมป์ และเซ็นต์พาสปอร์ตให้อย่างรวดเร็ว พร้อมโบกมือไล่เราเข้าเมือง เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้แล จากคุณ : ตื่นเต้น - [ 25 ก.ค. 51 10:00:02 ]

ความคิดเห็นที่ 113 มีเรื่องสงสัยรบกวนอยากถามคุณคิมน่ะคะ (ตามมาจากห้องไกลบ้าน) แล้วถ้าเราแค่ไป Stop Over เครื่องที่เกาหลีเพื่ออยู่เที่ยวสัก 2-3 วันก่อนไปอเมริกา นี่จะมีปัญหาหรือปล่าวคะ อีกอย่างมีน้องไปเรียนหนังสืออยู่ที่นู่นด้วย พาสปอร์ตก็หน้าขาวจั๊วะเพราะเพิ่งทำเล่มใหม่เล่มเก่าหมดอายุ คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใช่มั้ยคะ รบกวนด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ ปล.อยู่เชียงใหม่เหมือนกันค่ะ รร.สอนเทควันโดของคุณคิมอยู่แถวไหนเอ่ย เผื่อจะส่งน้องไปเรียนมั่งน่ะค่ะ หุหุ ขอให้เที่ยว+ทำงานที่เกาหลีให้สนุกนะคะ *แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 51 10:07:13 จากคุณ : amp_joe - [ 25 ก.ค. 51 10:06:08 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ขอบคุณทุกประสบการณ์นะคะ โดยเฉพาะคุณคิม ขอชื่นชมว่าเป็นผู้มีความสามารถด้านการถ่ายทอดเรื่องราว อ่านแล้วนึกเห็นภาพทุกประเด็นเลยค่ะ และก็สนุกน่าติดตามด้วยค่ะ อย่างนี้ควรจะเขียนหนังสือขายนะคะ น่าจะขายดี ในฐานะที่เป็นตำรวจด้านปราบปรามยาเสพติด ขอแชร์ประสบการณ์ในกรณีนี้ด้วยคนนะคะ เราได้รับรายงานว่าจากกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีข้อมูลที่ส่งมาจากเจ้าหน้าที่เกาหลีว่า ระยะ 1-3 ปีมานี้ มีแรงงานชาวไทยร่วมกับนายทุนเกาหลี ผลิต นำเข้า ส่งออก และจำหน่ายยาบ้าให้แก่แรงงานชาวต่างชาติที่ทำงานในเกาหลี และประเทศใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเมืองปูซานและซูวอน ทางการเกาหลีจึงเข้มงวดกับคนไทยมาก (ซวยอีกแล้วครับท่าน) นอกจากนี้ยังมีการลักลอบนำหญิงเข้าไปค้าประเวณีอีกเป็นจำนวนมากด้วยค่ะ ก็น่าเห็นใจเขาเหมือนกันนะคะ บ้านใคร ๆ ก็รักและต้องปกป้อง เราพยายามดูแลตัวเองให้ดีแล้วกันค่ะ ขอให้ทุกท่านที่จะไปเกาหลีโชคดีนะคะ จากคุณ : ตะละแม่จันทรา - [ 25 ก.ค. 51 16:19:25 A:202.47.228.249 X: TicketID:161827 ]

ความคิดเห็นที่ 115 คห.78 อาเจ๊เค้าไม่ให้สองสาวลองชกมวยให้ดูหน่อยเหรอ จากคุณ : snaily - [ 25 ก.ค. 51 20:46:08 A:124.120.101.152 X: TicketID:110579 ]

ความคิดเห็นที่ 116 มาตอบคคห. ต่อค่ะ  พอดีช่วงบ่ายไม่ได้ตอบต่อ เพราะว่าติดต้องถ่ายรูปให้นายเส นายกุ๊กกู และนายรุงรังน่ะค่ะ   วันนี้พวกน้องๆ เค้ามีสอบกัน  ทั้งภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ เค้าก็เลยบังคับให้คิมเป็นตากล้องเก็บภาพประทับใจ สอบเสร็จก็มีพิธีรับใบประกาศอีก  รับเสร็จก็ถ่ายรูป   สนุกกันใหญ่เลยค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 25 ก.ค. 51 21:28:39 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ตอบคุณ bank147 คุณ amykittenish  คุณ มะอึกน้องมะดัน คิมว่าถ้าเตรียมตัวมาดีๆ และมีหลักฐานดีพอก็ไม่น่ามีปัญหานะคะ ตอบคุณ borabora ตอนอยู่ในห้องก็แอบใจไม่ดีนิดนึงค่ะ ตอบคุณ meaw_1985 คิมว่าสามีมาด้วยหรือไม่มาไม่น่ามีปัญหานะคะ   เพราะสองสามปีก่อน  เพื่อนของคุณสามีของคิม  อายุสามสิบกลางๆ เป็นผู้หญิงก็เดินทางมาคนเดียวโดยที่สามีไม่ได้มาด้วย   มาทำธุระเรื่องเทควันโดนี่ละค่ะ  ไม่มีปัญหาอะไรเลย คิมว่าอยู่ที่หลักฐานที่เราแสดงและความน่าเชื่อถือมากกว่าค่ะ อย่ากลุ้มไปเลยค่ะ   ตอบคุณ ก่วยก๊วยตาลสด หลายวันแล้วไม่จบซักที   หวังว่าจะยังตามอ่านอยู่  ไม่ทิ้งกันไปนะคะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 25 ก.ค. 51 21:52:31 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ตอบ คุณ ก้อยใจจิ๋ม ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์นะคะ   หลายๆ ท่านจะได้เห็นว่าจริงๆ ถ้าหลักฐานพร้อม ถึงเป็นผู้หญิงก็ใช่ว่าจะมีปัญหา ตอบ คุณ Miss K,O  อย่าเพิ่งกลัวค่ะ  เตรียมตัวดีๆ ไม่น่าจะมีปัญหา ตอบ คุณ เลขาว่างงาน ถ้ามาสองครั้งแล้ว ต่อๆ ไปคงไม่เป็นปัญหาหรอกค่ะ   ขอบคุณนะคะ  คิมพยายามเล่าละเอียด เพื่อทุกท่านจะได้เห็นภาพค่ะ ตอบ คุณ nuiorji และคุณ ดาวเดินดิน (อีกครั้ง) ขอบคุณเช่นกันที่ติดตามค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 25 ก.ค. 51 22:03:09 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ตอบคุณ jeji o  ขอบคุณค่ะ  เชียงใหม่มีคริสตจักรเยอะค่ะ เพราะเป็นที่แรกๆ ในการทำพันธกิจในประเทศไทยด้วยค่ะ ตอบคุณ pizzaheart ถ้าคิมเป็นคุณแม่ของคุณ  คิมคงตกใจแย่เลย   คิมเห็นด้วยว่าตม. เค้าไม่ผิดนะคะ เค้าทำตามหน้าที่  และคิมก็ติดใจเกาหลีหน้าหนาวเหมือนคุณเลยค่ะ ขอบคุณ คุณ ม่านสีม่วง คุณ sky ที่แวะเข้ามาค่ะ ตอบคุณ zyleth เป็นเพราะคนของเราจริงๆ ค่ะ  ที่ทำคนไทยเดือดร้อน ตอบคุณ รุ้งกินน้ำตัวอ้วน  ถ้าไปเป็นคณะและมีจม. รับรอง ส่วนใหญ่จะไม่เป็นปัญหาค่ะ  ของเราครั้งนี้มีปัญหา เพราะจดหมายตอบรับการสมัครที่เราขอให้อ. ชาวเกาหลี ของเราส่งมาให้นั้น  มาถึงไม่ทันค่ะ  เลยยุ่งเลย   ตอบคุณ sassy_girl คิดว่าเกี่ยวนะคะ  เป็นการแสดงความมั่นใจเหมือนว่าเราไม่มีพิรุธนะ เห็นด้วยกับคุณ BoMuChan ทุกประการค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 25 ก.ค. 51 22:16:38 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ตอบคุณ I-Kant น้อมรับคำชมค่ะ  (อิๆ เราบ้ายอค่ะ  ไม่มีปฏิเสธ) ตอบคุณ โอ๊ตครับผม  อย่าเพิ่งถอยสิคะ  หรือถอยแค่ไปตั้งหลัก เตรียมตัวมาดีๆ  ก็พอ  อย่าเพิ่งถอดใจเลยค่ะ ตอบคุณ letsgokrabi ขอบคุณค่ะ   พยายามเล่าให้ขำๆ คนอ่านจะได้ไม่เบื่อ ตอบคุณ ศรีธนา  ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 25 ก.ค. 51 22:22:00 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ตอบคุณ Hergest ถ้ามีวีซ่าหรือพาสปอร์ตญี่ปุ่นอยู่แล้วเชื่อว่า ไม่มีปัญหาค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 25 ก.ค. 51 22:23:15 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ตอบคุณ ตื่นเต้น  ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์มันๆ ให้ฟังค่ะ   กว่าจะหลุดเข้ามาได้นี่น่าดูเหมือนกันนะคะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 25 ก.ค. 51 22:30:41 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ตอบคุณ amp_joe ถ้ามีวีซาอเมริกา  ไม่น่ามีปัญหาค่ะ พกพาสปอร์ตเก่าไปด้วยเพื่อไปโชว์   พูดภาษาอังกฤษดี  ยิ่งมีภาษีนะคะ ยิมของคิมที่เชียงใหม่มีสองที่ค่ะ  TMC Rimping กับ TMC สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 25 ก.ค. 51 22:35:38 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ขอบคุณ คุณตะละแม่จันทราค่ะ  คิมขอบขีดๆ เขียนๆ ค่ะ ช่างเล่า  ดีใจที่หลายๆ ท่านชอบนะคะ เพิ่งทราบว่ายาบ้าระบาดในหมู่คนไทยที่นี่ด้วย   จริงๆ ขามา มีคนรู้จักจะฝากขนของมาที่เกาหลี บอกว่าเป็นเครื่องปรุงอาหารไทย  ให้ขนมาให้ ร้านไทยที่เกาหลี  โดยจะจ่ายค่าขนให้ แต่คิมบอกไปเลยว่าถ้าให้เงินมาซื้อไปให้ แล้วให้ค่าขนเอา  แต่ถ้าเอาของมาส่งให้ ไม่เอาค่ะ  เพราะกลัวเป็นของผิดกม. นี่ละค่ะ เรื่องรับฝากของนี่ไม่กล้าจริงๆ ค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 25 ก.ค. 51 22:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ตอบคุณ snaily เค้าคงคิดว่าชกไปก็ใช่จะบอกได้ว่านักมวยจริงหรือเปล่า   เพราะเค้าไม่มีความรู้เรื่องมวยไทย  แต่ถ้าบอกว่าเป็นเทควันโด ตม. เค้าดูออกค่ะ  ว่าของจริงหรือของไม่จริง จากคุณ : Ms. Kim - [ 25 ก.ค. 51 22:42:21 ]

ความคิดเห็นที่ 126 เล่าต่อตอนจบค่ะ พอเจ้าเสกับคิมโซซัดโซเซออกมาข้างนอกด้วยความง่วงได้   เราก็พบนายกุ๊กกูนั่งพิงเสาหลับรออยู่ด้านหน้าด่านตม.   จากนั้นเราสามคนก็เดินลงไปที่บริเวณรับกระเป๋า   พบนายรุงรังและเจ้าชายสายเสมอ (คุณสามี)   นอนเหยียดยาวอยู่บนเก้าอี้แถวๆ สายพานนั่นหล่ะค่ะ   สิ่งแรกที่กุ๊กกูและรุงรังพูดกับเจ้าเสคือ  เส  พี่ขอโทษว่ะ   (ขอโทษเค้าแล้วยังมีวะอีก)   ถ้าพี่รู้ว่าแกจะโดนจับเข้าห้องจริงๆ พี่คงไม่หลอกแกหรอกว่าเค้าจะจกตูด   คิมทำหน้าเซ็งๆ แล้วบ่นเจ้าสองตัวนั้นไปว่า   แกหลอกน้องเหรอว่าจะโดนจกตูด  มิน่ามันถึงได้ซีดขนาดนั้น พวกนี้นี่  ไปแกล้งน้อง  ไม่เข้าท่า เจ้าเสก็บ่นว่า  พี่กุ๊กกูกับรุงรังทำผมเสียวไปหมดเลย   ผมนึกว่าโดนแน่ๆ แล้วเชียว เห็นภาพตม. ใส่ถุงมือรอเลยด้วย   สุดท้าย เจ้าสองคนตกลงใจเลี้ยงข้าวรับขวัญน้องไปหนึ่งมื้อ   เรื่องเลยจบลงได้ด้วยดีค่ะ สำหรับเจ้าพวกนี้   ถ้ามีของกิน  อะไรๆ ก็ตกลงกันได้ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 51 22:55:51 จากคุณ : Ms. Kim - [ 25 ก.ค. 51 22:52:46 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ส่วนคุณสามีก็กอดรับขวัญภรรยาหนึ่งที ที่พาเจ้าตัวยุ่งหลุดรอดเข้าแดนกิมจิมาได้ จากนั้นเราทั้งห้าก็เดินทางฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนาม ด้วยรถไฟใต้ดินเข้ามาในเมือง   คิมกำลังคิดจะเล่าเรื่องวิธีการขึ้นรถไฟใต้ดิน หรือ Seoul Metro อยู่ค่ะ แต่ขอเวลาไปเที่ยวสักสองสามวันก่อนนะคะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 25 ก.ค. 51 22:56:37 ]

ความคิดเห็นที่ 128 สุดท้าย  อยากบอกว่าที่มาเล่าเรื่องนี้ไม่ได้คิดจะทำให้ ทุกท่านกลัวหรือเกลียดขี้หน้าตม. เกาหลีเค้านะคะ ตม. เกาหลีเขาก็พยายามปฏิบัติหน้าที่ของเขา เขาถูกจ้างมาเพื่อดูแลปกป้องประเทศของเขา จากอาชญากร  แรงงานเถื่อนและบุคคลไม่พึงประสงค์ ประเภทต่างๆ  เราต้องยอมรับว่าคนไทยจำนวนมาก หลบหนีแอบทำงานอยู่ที่นี่  ทำให้ตม. ต้องเพ่งเล็งคนไทยเป็นพิเศษ ตม. เกาหลีไม่ได้มีอคติกับเราเป็นการส่วนตัว เขาไม่รู้จักเรา  ไม่ได้โกรธเคืองเรามาแต่ครั้งไหน และไม่ได้ดูถูกเราด้วย  แต่เขามีหน้าที่ต้องพยายามแยกแยะ ว่าใครจะมาเที่ยวหรือมาติดต่อธุระอย่างบริสุทธิ์ใจ ใครที่คิดจะมาหลบทำงานหรือประกอบมิจฉาชีพ ในประเทศของเขา  เขาไม่รู้จักเราเป็นการส่วนตัว เขาจึงบอกไม่ได้ว่าใครดีใครร้าย เขาต้องพิจารณาจากหลักฐานและบุคลิกลักษณะของเรา ซึ่งการพิจารณาของเขาอาจจะไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมาเกาหลีโดยใช้วีซ่าแบบ on arrival คุณควรทราบว่าสายการบิน  บริษัททัวร์ และรัฐบาลเกาหลีจะไม่รับผิดชอบ  หากคุณมาแล้ว ไม่ได้วีซ่าให้เข้าประเทศ  ปรกติบริษัททัวร์และสายการบิน จะมีเอกสารให้เซ็นต์เลยว่าถ้าไม่ได้เข้าประเทศ จะมาเรียกร้องค่าเสียหายไม่ได้ เจ้าเสก็ต้องเซ็นต์ใบนี้ให้การบินไทยไว้เช่นกัน คุณสามีมักบอกกับลูกศิษย์เวลาพาลูกศิษย์ไปแข่งว่า ในการแข่งขันเทควันโดนั้น  คำตัดสินของคณะกรรมการ ถือเป็นเด็ดขาด  ถ้าหากคาใจ  เราสามารถประท้วงได้ อย่างสุภาพ  แต่หากกรรมการยังยืนยันคำตัดสิน เราเองต้องยอมรับอย่างมีน้ำใจนักกีฬา ในเมื่อเราตกลงจะมาร่วมแข่งขัน  นั่นหมายถึงเรายอมรับ ให้เขาตัดสินเรา  แม้ว่าเขาจะมีข้อผิดพลาด   เราก็ต้องยอมรับ  หากเรายอมรับไม่ได้ เราก็ไม่ควรจะมาร่วมแข่งขันกับเขา   คิมคิดว่าแนวคิดนี้ก็นำมาใช้กับการขอวีซ่าเข้าประเทศต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน  ทุกประเทศมีอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดน ของเขา  เขามีสิทธิ์ที่จะให้หรือไม่ให้เราเข้าประเทศก็ได้ ดังนั้น  หากเราตัดสินใจจะมา  เราก็ต้องเตรียมตัวอย่างดี แต่สุดท้ายเราต้องยอมรับคำตัดสินของผู้มีอำนาจ ในการตัดสินใจค่ะ  ต้องเรียนว่านี่เป็นเพียงความคิดเห็น ส่วนบุคคลนะคะ  ท่านอื่นๆ อาจจะไม่คิดอย่างนี้ก็ได้   ที่นี่ตีหนึ่งแล้ว ราตรีสวัสดิ์ค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 25 ก.ค. 51 23:07:57 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ได้อ่านกระทู้ของคุณคิมทำให้กลัวการเข้าเกาหลีเลย เพราะใจจริงอยากจะไปเที่ยวที่เกาหลีซะครั้ง เพราะได้ยินว่าที่นั้นสวยแต่ก็ต้องมานึกอีกทีว่าจะอยากไปอยู่หรือเปล่า ขอบคุณที่มาเล่าประสบการณ์ให้ฟังค่ะ จากคุณ : malibule (malibule) - [ 27 ก.ค. 51 17:41:53 ]

ความคิดเห็นที่ 130 มันส์และก็น่าสนุกดีครับ .. ได้อ่านแล้วอยากลองเข้าห้องเย็นดูเหมือนกันนะ่ท่าน จากคุณ : ผีพัดลม - [ 28 ก.ค. 51 00:08:05 ]

ความคิดเห็นที่ 131 อ่านๆ ไป เพิ่งจะรู้นะคะว่า เกาหลีเข้าประเทศยากขนาดนี้ ตอนแรกนึกว่า สบายๆ ไม่ต้องนั่งขอวีซ่าซะอีก อย่างงี้ตอนจะไปอังกฤษ (กำลังจะไป) ว่าจะแวะช็อปเสื้อหนาวที่เกาหลีก่อน จะเข้าได้มั้ยคะเนี้ย ถ้าไปแล้วเข้าไม่ได้คงเซ็งน่าดูนะคะ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 51 17:13:36 จากคุณ : Specialmiyu - [ 29 ก.ค. 51 17:12:42 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ได้เวลาแจมจากตม.แล้ว ฮะๆๆ ทุกวันนี้ทำเคสคนไทย โดนส่งกลับ จากเกาหลี ทุกๆวัน มีทั้งไปปุ๊บกลับปั๊บ มีทั้งโดนจับคาโรงงาน อยู่กันตั้งแต่สองเดือนกว่า จนถึงสิบปี เคยไปเขีัยนแจมกระทู้คนไทยไปเกาหลีหลายกระทู้ได้ แต่เราคิดว่า คนที่เล่นในห้องนี้ส่วนใหญ่แล้ว น่าจะเชื่อได้ว่า เป็นผู้มีเจตนาดีในการเข้าเกาหลีเป็นส่วนใหญ่ เข้ามาอ่านเพื่อเตรียมการณ์ก่อนไป เรื่องของตม.เกาหลีเตุผลที่ส่งกลับมาก็คือ imm reason เดี๋ยวนี้ดีขึ้นหน่อย มีเอกสารปฏิเสธการเข้าเมืองให้ถือติดตัวมา เมื่อก่อนไม่มีเลย ส่วนพวกที่โดนจับ ก็ กลับมายิ้มระรื่นกันทุกคน เหอ เหอ ตม.เซ็งด่วน ชาวบ้านล้านแปดเค้าอยากเข้าไปเที่ยวกันใจจะขาด กลับโดนดูถูกกลัวโดดไปทำงานเหมือนพวกลุงๆป้าๆวัยแรงงานกัน ตอนนี้เกาหลีกำลังกวาดล้างแรงงานเถื่อนอยู่ พี่ไทยก็ติดโพล อันดับต้นๆ ส่วนพวกสาวไทยที่จะไปเยียมแฟนนั้น เวลาสอบปากคำก็ไม่ค่อยยอมตอบ อ้างว่าไปเที่ยว แต่เราก็รู้กันอยู่นัยๆ ถามจนได้คำตอบแหละ ..โกหกไปก็เท่านั้น เพราะถึงยังไงคุณก็ไปเกาหลีอีกไม่ได้ โดนปฏิเสธแล้วก็โดนยาวเลย ..สาวเจ้าก็เลยยอมบอกความจริง ว่าไปเยี่ยมแฟน ถามว่าแฟนคนไทยหรือเกาหลี ..แฟนคนไทย...ทำอะไอยู่ล่ะ...ทำงาน..ทำแบบถูกกฎหมายหรือว่าโดด...บางคนแฟนไปกับกรมแรงงาน บางคนแฟนก้โดด..อืม..ตามความคิดเรานะ...ก็ไม่แปลกหรอกที่เค้าไม่ยอมให้เข้า เพราะพวกสาวไทยที่ไปหนะ..แทบทุกคนเลย..ไม่มีงานทำ เป็นแม่บ้าน ไม่ก็ทำงาน คือ รับจ้างทั่วไป เกษตรกร หรือ มีงานทำแต่ลาออกแล้วเพราะจะไปหาแฟนหรือสามี...เออ...เป็นเราก็ไม่อยากให้เข้าถ้าเราเป็นตม.เกาหลีเพราะดูท่าแล้วจะกลับไปยาก เกิดไปอยู่ด้วยกันวันดีคืนดี เกิดท้องขึ้นมา ไม่ยอมกลับไทย ก็ต้องคลอดลูกเพิ่มประชากรให้ประเทศเค้าอีก...ปัญหามันตามมาเยอะ..กันไว้ดีก่าแก้...ไม่ให้เข้าดีกว่า... ทุกวันนี้พี่ไทยก็ยังคงพยายามเข้าไปเกาหลีอยู่เสมอ  พยายามเข้าไปสองครั้งสามครั้ง ลงทุนเปลี่ยนชื่อ เปลียนนามสกุล  พวกเข้าไปทำงานก็ต้องจ่ายเงินค่านายหน้าหรือค่าทัวร์เพิ่มมากกว่าคนอื่น ทั้งๆที่พวกนั้นก็ไม่ได้ช่วยรับรองอะไร เสียดายตังค์แทน ตั้งหลายหมื่น น้อยครังนะที่ตม.เกาหลีจะพลาดส่งกลับคนปกติมา เพราะถ้าคุณมีเจตนาไปเที่ยวจริงๆก็ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไร หลักฐานอะไรที่เชื่อถือได้ หอบไปให้หมด อย่างเราทำงาน เราก็ดูออกนะ ว่าใครเป็นใคร ไปทำงานหรือไปเที่ยว .... เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัว..ขอให้คุณไปเที่ยวจริงๆเหอะ เราว่าไกด์เค้าก็น่าจะดูคนออกนะ ว่าลูกค้าเค้าเป้นคนประเภทไหน..เคสไหนน่ารับรอง เคสไหนไม่น่าเสี่ยง...แต่ก็อย่างว่า เราก็ต้องช่วยตัวเองก่อน เตรียมตัวไว้ดีกว่า          แต่ที่ปวดใจที่สุดคือ คนที่มีการศึกษา มีหน้าที่การงานมั่นคงอยู่เมืองไทย แต่อยากได้เงิน ทำงานง่าย โดยอาศัยการมีเครดิตดูดีจากคุณสมบัติต่างๆ ใช้สิ่งที่ตัวเองมีอยู่ เป็นผู้รับจ้างนำพา คนไทยที่กระหายอยากไปเกาหลีเพื่ออนาคตที่ดีกว่า(จริงเหรอ) อันนี้เนี๊ยะ เราเซ็งมาก เพราะการทำแบบนี้ คือธุรกิจอย่างหนึ่งที่ค้าขายบนความอยากของคน พวกนี้ได้เงินเยอะนะ ค่าตั๋วก็ไม่ต้องจ่าย นั่งเครื่องไปเป็นเพื่อน อาจจะช่วยคุยกับตม. แต่พฤติการณืพวกนี้ไม่ค่อยออกหน้าซํกเท่าไหร่ พวกคนที่อยากไปก็ยินดีจ่าย และแม้ว่าจะเข้าไม่ได้ ก็เห็นเป็นเรื่อง บุญกรรมไปซะ เออ..ดีจริงๆ .. อยากไปทำงานที่เกาหลี แต่เข้าไม่ได้ เสียเงินเสียทอง กู้เงินมาตั้งเท่าไหร่ แถมจ่ายเงินค่านายหน้าไปตั้งเยอะ เข้าได้ เป็นบุญ เข้าไม่ได้ เป็นกรรม แถม ตม.เกาหลี..เลว ..ไม่ยอมให้เข้า...เหอ เหอ...ตม.ไทย ... เป็นเครื่องมือของคนพวกนี้ไป ..ก็อยากไป...ใครจะห้ามได้ ต่อหน้าเราก็บอกไปเที่ยว ไปเที่ยว สุดท้าย..โดนจับคาโรงงาน ร้านนวด ...ไปเที่ยว... เล่าให้อ่านพอเป็นกระสัย และกระแส...            เพิ่มเติมเจ้าของกระทู้นะคะ เรื่องการเข้าเกาหลี การอนุญาตเข้านั้น ไม่ได้เรียก visa on arrival ค่ะ เป็นการอนุญาตให้เข้าประเทศโดยเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับเกาหลี อนุญาตให้อยู่ได้ 90 วัน เรียกว่า การผ่อนผัน 90 วัน คนเกาหลีมาบ้านเรา เราก็ให้เค้าอยู่ 90 วัน ไทยไปเกาหลี ไทยก็ได้ 90 วัน เป็นการแลกเปลี่ยนกัน ส่วนvisa on arrival คือ ต้องมีการทำเรื่องขอวีซ่า ณ ด่านตม.ที่เราไปหา  แต่การไปเกาหลีเราไม่ต้องทำเรื่องเพื่อขอเข้า จึงไม่ใช้คำว่า visa on arrival แต่เกาหลี เข้าไปเลย แต่ตม.จะให้เข้าหรือเปล่า เป็นอีกเรื่องนึง         ก็เพราะการให้ต่างคนต่างอยู่ได้ 90 วันนี่แหละค่ะ ที่พี่ไทยใช้ความผ่อนผันของมิตรภาพทั้งสองประเทศเพื่อกอบโกยผลประโยชน์เข้าตัว เห็นเค้าให้อยู่นาน วีซ่่าก็ไม่ต้องขอ ..ก็ทำงานซะเลย คิดกันง่ายๆ...คุณบอกไปเทียวเกาหลี ถามว่าไปอยู่กี่วัน ตอบว่า ก็ตามวีซ่าที่เค้าให้ ถามว่าเค้าให้ 90 วัน ก็จะอยู่ยาวเลยหรอ ตอบใช่ ..คิดง่ายๆนะ ..ถ้าให้อยู่เมืองไทยตลอด 90 วันโดยไม่ต้องทำงาน ให้เที่ยวอย่างเลยทั้ง 90 วัน คุณทำได้ไหม (ใจหนะ..อยากทำ แต่คิดถึงหลักความเป็นจริง งานการไม่ทำแล้วหรอ เงินที่ใช้เที่ยวอีกเท่าไหร่ จริงป่ะ)        เราละ่กลัวว่าวันดีคืนดี เกาหลีเ้ค้าอาจจะไม่อยากเชื่อมสัมพันธ์กับคนไทยต่อไป ลดวันให้เหลือ 30 วัน ไม่ก็ให้ขอวีซ่าเข้าประเทศทุกครั้งซะก็ไไม่รู้ จะได้ไม่ต้องมีคนไทยซื้อตั๋วนั่งเครื่องไปกลับเป็นว่าเล่น จะได้ัคัดคนเข้าเมืองก่อนไปถึง ... เราก็จะได้รอรับแต่คนไทยโดนจับในเกาหลีอย่างเดียว..ฮะๆๆ..จะได้ไม่ต้องมาคอยตอบคำถาม ว่าทำไมตม.เกาหลีไม่ยอมให้เข้าประเทศ ..(พี่ไม่ถามตัวเองกลับหรือคร๊าบ ว่าจริงๆแล้วพี่ไปทำอะไร กล้าสาบานป่าว..ไ้ด้แต่ิคิดในใจ ฮะๆๆ) ไม่รู้เป็นโรคอะไรกัน เจอตม.เกาหลีปฏิเสธ แต่ต้องมาอารมณ์เสีย ลงกับตม.ไทยอยู่้เรื่อย ทั้งๆทีเราไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย...แอบเซ็ง..อยากรู้จริงๆว่าเวลาอยู่ต่อหน้าตม.เกาหลีจะปากดีเหมือนตอนกลับมาประเทศไทยหรือเปล่า...ฮะๆๆๆ (ขอบ่นหน่อยนะ) แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 51 01:18:04 จากคุณ : เมืองไทยดีที่สุด (IAM-IAM) - [ 31 ก.ค. 51 01:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 133 ถามคุณคิมค่ะ บัตรพนักงานมีแต่ภาษาไทย ไม่มีภาษาอังกฤษกำกับเลย ตม.เกาหลีต้องอ่านไม่ออกแน่ๆ จะใช้ได้ไม๊คะเนี่ย แต่ก็คิดว่า จะใช้หนังสือรับรองจากที่ทำงานเป็นภาษาอังกฤษประกอบไปด้วยคงใช้ได้ จากคุณ : ไข่นุ้ย - [ 1 ส.ค. 51 23:12:24 A:118.172.56.156 X: TicketID:183285 ]