ความคิดเห็นที่ 1 วันที่หก มิวนิค - ซัลส์บวร์ก วันนี้ก็ตื่นแต่เช้าเช่นเคยเพราะต้องรีบเก็บมิวนิคให้ครบดังใจก่อนจะนั่งรถไฟไปซัลส์บวร์ก ได้มีเวลาละเลียดอาหารเช้าแสนอร่อยของโรงแรมมากกว่าเดิมหน่อยนึง ฟ้าฝนก็ไม่เป็นใจเท่าไหร่ ยังคงตกปรอยๆได้อย่างเสมอค้นเสมอปลาย วันนี้เราเริ่มด้วยการกลับไปที่มาเรียนปลาซที่เมื่อวานเย็นไปเดิน เพราะเมื่อวานโบสถ์หลายอันปิดแล้วเลยอดเข้า ปรากฏว่าไปเช้าไป มันยังไม่เปิดกันอยู่ดี แป่ววว มีแต่ burgersaal ที่เปิดโบสถ์ชั้นล่าง แต่ชั้นบนที่สวยๆก็ยังไม่เปิดอยู่ดี รูปชั้นล่างของโบสถ์ จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 20:58:27 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เราก็เลยนั่งรถใต้ดินไปลงที่ Odeonsplatz ขึ้นมาก็จะเจอกับ Feldherrnhalle หรือ Field Marshall's Hall อาคารนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่กองทัพบาวาเรีย ด้านหน้ามีรูปจำลองของJohann Tilly และ Karl Phillip von Wrede แม่ทัพผู้กล้าหาญ จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 20:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ข้างๆ Feldherrnhalle นั้นก็คือ Residenz ซึ่งเป็นวังเก่าของกษัตริย์แห่งบาวาเรีย ปัจจุบันคอมเพล็กซ์นี้ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในจัดแสดงวัตถุล้ำค่ามากมาย น่าเศร้าที่เราไปวันจันทร์ พิพิธภัณฑ์เลยปิด ได้แต่ไปชะเง้อชะแง้ชมความยิ่งใหญ่และถ่ายรูปเก็บไว้ตามระเบียบ รูปมุมหนึ่งของ Residenz เก้าอี้ที่เห็นวางเต็มอาจจะจัดไว้เพื่อการเแสดงอะไรสักอย่าง อันนี้ก็เดาๆเอา แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 51 21:03:03 จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 20:59:42 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไปหารูปภายในอาคารจากเวปมาให้ชมกัน จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ไกลจาก Residenz นักเป็นที่ตั้งของโบสถ์ Theatinerkirche (St Cajetan's Church) โบสถ์นี้สร้างแด่พระนาง Henrietta Adelaide of Savoy ในคราที่มีพระประสูติกาลแม็กซิมิลเลียนรัชทายาทองค์แรกให้แก่ Ferdinand ซึ่งเป็นผู้ปกครองบาวาเรียในขณะนั้น แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 51 21:05:16 จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:04:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จากนั้นก็รีบวิ่งฝ่าฝนไปที่ Alianz Arena สนามฟุตบอลที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับบอลโลก 2006 งานนี้แฟนบาเยิร์นมิวนิคไม่ควรพลาด ที่ต้องวิ่งเพราะมันมีทัวร์เป็นรอบๆ ที่โรงแรมก็ดี๊ดี จดรอบมาให้เสร็จสรรพ เรากะใจไปให้ทันรอบแรก จะได้ไปที่อื่นต่อ แต่ละรอบห่างกันเป็นชั่วโมง สนามก็ไกล้ไกล ถ่าถ่อไปแล้วเข้ามันทันคงต้องแกร่วอยู่นาน เราไปถึงทันแบบเฉียดฉิวสุดฤทธิ์ โล่งอกโล่งใจไปตามๆกัน ปรากฏว่า คุณไกด์พ่นภาษาเยอรมันมาล้วนๆเลยครับท่าน ช็อกซีนีแมกซ์ครับงานนี้ ถามเค้าดูกลายเป็นว่าอังกฤษมีรอบบ่ายโมงรอบเดียว โอ้ว พระเจ้าจอร์จ ทำไมคุณรีเชฟชั่นโรงแรมน่ารักอย่างนี้ ตกข่าวหรือคิดว่ากะเหรี่ยงฟังเยอรมันออกเจ้าค้า แต่แบบว่าเข้ามาแล้วก็ต้องเลยตามเลย คงไม่อยู่โยงแช่ที่สนามรอรอบสองชั่วโมงถัดไป วิดีทัศน์เค้าน่าสนใจใช้ได้ ถึงฟังไม่ออกแต่ก็ดูรูปเป็น แบบว่าเป็นหนังการก่อสร้างสนาม เอากล้องตั้งไว้แล้วก็ฟาสฟอร์เวิร์ดเร็วๆให้เห็นว่าจากพื้นโล่งๆขึ้นเป็นสนามใหญ่โตมโหฬารได้อย่างไร น่าทึ่งใช่ย่อย ทัวร์นี้นี่ละเอียดคุ้มเงินมากๆ (ถ้าฟังออก) สนามก็ออกจะใหญ่ยังพาเดินซะเกือบทั่ว ขาลากเลย การจ่ายตังค์ค่าชมทัวร์มีข้อดีคือจะได้อภิสิทธิ์เข้าชมห้องส่วนตัวนักกีฬา แฟนตัวยงคงชอบใจ แต่เราฟังเยอรมันหลับทั้งยืนไปเลย จบออกมาดูเวลาแล้วอยากจะเป็นลม เราเดินตามไกด์ฟังอะไรไม่เป็นภาษาไปตั้งเกือบสองชั่วโมง เวลาดิฉันมีค่านะเจ้าคะ อยากร้องไห้ รู้งี้ไปพระราชวัง Nymphenburg ก่อนแต่เช้าแล้วกลับมาคงทันมาฟังรอบอังกฤษตอนบ่ายพอดี งื้อ เจ็บจาย แต่อย่างว่านะ ไอ้รู้งี้ก็นี่เป็นอะไรที่แก้ไขไม่ได้ ท่องไว้ ปล่อยวางๆๆๆ จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:04:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 นั่งรถไฟกลับไปกลางเมืองแล้วก็นั่งรถรางกลับมานอกเมืองเพื่อไปชมพระราชวัง Nymphenburg รถรางที่นี่วิ่งเร็วกว่าที่คิด ไม่นานเกินรอเราก็ได้มาเดินเฉิดฉายอยู่หน้า Nymphenburg กัน Nymphenburg สร้างขึ้นโดยคำสั่งของ Ferdinand Maria และ Henriette Adelaide of Savoy เพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเจ้าแม็กซิมิลเลียนที่สองพระโอรสของทั้งสอง โดยธีมแล้วเป็นพระราชวังที่อุทิศให้กับเทพธิดาฟลอร่าและเหล่าพรายน้ำหรือที่เรียกกันว่านิมฟ์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อปราสาท ซื้อบัตรเข้าชมและ audio guide ได้เราก็ไม่รอช้าปีนกะไดขึ้นไปชมวังทันที ขึ้นมาถึงก็ได้มาชม Festsaal ห้องโถงใหญ่ตกแต่งสไตล์ร็อคโคโค หรูหรา ทองระยิบระยับ น่าตื่นตาตื่นใจเป็นยิ่งนัก เราถึงกับยืนคว้างอยู่พักหนึ่งเลยทีเดียว บนเพดานนั้นเป็นภาพวาดเทพธิดาฟลอร่ารวมถึงเทพองค์อื่นๆจากเทพกรณัมกรีกอีกมากมาย ที่ดูออกก็มี อพอลโล เซเฟอร์ มิเนอรว่า ถัดจากห้องโถงลึกเข้ามาเป็น Gallery of Beauties แมกซิมิลเลียนได้สั่งให้รวบรวมรูปวาดสาวงามทั่วทุกสารทิศมาไว้ ณ ที่นี้ แต่ละคนก็สวยจริงๆซะด้วยสิ ถัดจากปราสาทหลัก เราก็เดินไปชม Marstallmuseum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวมรถทรงไว้ รถม้าแต่ละคันนี่ทองวิบวับมาก สลักเสลาลวดลายวิจิตรพิสดาร สงสารม้าเพราะท่าทางจะหนักใช่ย่อย จบจากรถม้าก็มาดูพิพิธภัณฑ์กระเบื้องเคลือบ มีวัตถุทำจากกระเบื้องเคลือบต่างๆนานามาวางอวดโฉม ไม่ว่าจะเป็นถ้วยโถโอชามธรรมดาแต่มี่ลวดลายปราณีตหรือแม้กระทั่งกระเบื้องเคลือบรูปเทพธิดา นางฟ้า และสัตว์น้อยใหญ่ จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:07:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ออกมาก็มาชมสวนด้านหลังกันบ้าง สวนของ Nymphenburg นี่ยาวสุดลูกหูลูกตา ด้วยความขยัน เราก็เดินไปที่ Amalienburg ซึ่งเป็นปราสาทหลังเล็กที่ไว้พักยามออกล่าสัตว์ Amalienburg เป็นปราสาทแบบร็อคโคโคเช่นกัน มี Hall of Mirror (อีกแล้ว) ซึ่งเราก็ไม่พลาดที่จะเก็บรูปมาให้ชม นอกจาก Hall of Mirror แล้ว Amalienburg ก็ยังมีห้องที่ตกแต่งด้วยลวดลายแบบจีนซึ่งถือว่าพิเศษในสมัยนั้นอีกด้วย จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จาก Amalienburg เราก็รีบรุดกลับโรงแรมไปเอากระเป๋าแล้ววิ่งไปขึ้นรถไฟกัน ที่ต้องรีบเพราะสายแล้ว แล้วก็จองคอนเสิร์ตรอบเย็นไว้ที่พระราชวังในซัลส์บวร์ก ไปไม่ทันล่ะแย่เลย ไม่น่าเชื่อว่ามิวนิคกับซัลส์บวร์กจะใกล้กันมาก นั่งรถไฟชั่วโมงกว่าก็ถึงแล้ว ไปถึงก็ไปซื้อซัลส์บวร์กการ์ด ถึงจะเจ็บมาหลายครั้งแต่อ่านอันนี้แล้วรู้สึกว่าคุ้มที่สุด แล้วเราก็ไม่รู้ระบบของออสเตรียว่าเดินทางไปมายากง่ายแค่ไหน เลยซื้อไว้ก่อน จะได้เซฟๆ กระโดดขึ้นรถลงเรือได้โดยสะดวก เราไปเก็บกระเป๋าที่โรงแรมก่อน นั่งรถบัสไป บัสที่นี่ดีมากๆ มีป้ายอิเลกทรอนิกส์บอกว่าอีกกี่นาทีรถจะมา บัสไฮเทคจริงๆ ว่ากันแล้วระบบรถไฟของเยอรมันก็คล้ายๆกัน คือจะมีป้ายบอกเลย ว่ารถไฟใต้ดินคันไหนจะมาในอีกกี่นาที รถรางก็เหมือนกัน แต่นี่บัสง่ะ แล้วมีทุกป้ายเลย เริ่ดมากๆค่ะ จากนั้นก็ดิ่งไปที่ Mirabel Palace เราจอง คอนเสิร์ตในปราสาทนี้ไว้ก่อนล่วหน้าตั้งเดือนนึงตื่นเต้นมากๆ ตอนแรกคิดอยู่ตั้งนานว่าจะเอาอันนี้หรือ Mozart Candle Light Dinner อันนั้นจะเป็นคนแสดงใส่วิกแต่งชุดเหมือนสมัยโมสาร์ท แล้วก็มีอาหารน่ากิน ก่อนมาคุณปิ่นโตเถาเล็กถ่ายออกรายการแล้วป๊ะป๋าเราส่งลิงค์มาให้ดูออนไลน์ ก็ดูดีไม่หยอก แต่คิดไปคิดมา อยากได้แบบที่เป็นคอนเสิร์ตจริงจังหน่อย ไม่ใช่แค่เล่นเคล้าข้าวเย็น เลยตัดสินใจเลือกอันนี้ ของอันที่ Mirabel นี่ จริงๆก็มีทั้งแบบรวมดินเนอร์กับไม่รวม แต่เราเลือกไม่รวมไว้ก่อน เผื่อมาสายแล้วเดินดูปราสาทไม่ทันหรือเผื่ออยากเลือกเมนูเอง มาถึงก็เข้าไปถามๆเจ้าหน้าที่ รู้สึกว่าจะไม่ได้มีห้องๆให้เข้าชมแต่ที่ดังคือสวน ตอนที่เรามาถึงฝนตกลมแรงหนาวซ่ก เราเลยกะกันว่าไปกินข้าวก่อนดีกว่า แล้วค่อยกลับมาเดินดู ถามเจ้าหน้าที่ถึงร้านอาหาร(ร้านเดียวกับที่จะได้กินถ้าซื้อรวมกะคอนเสิร์ต) ได้ความว่าเดินไปอีกสองสามบล็อก แล้วเลี้ยวซ้าย อยู่ฝั่งตรงข้าม ด้วยความรอบคอบ เราก็ถามห้องที่แสดงคอนเสิร์ตไว้ด้วย กลับมาจะได้หาเจอเลย ทราบทางแล้วก็เดินไปตามหาร้านอาหารที่ว่า ด้วยความไซค์จัด เราถึงกับเปิดหาเมนูแนะนำของร้านมาล่วงหน้า หารีวิวอะไรต่อมิอะไรอ่านมาก่อนมากมาย เดินหานานมากมายก็ไม่เจอสักที คนบอกทางมั่วป่าวหว่า ว่าแล้วก็ควักที่อยู่มาเปิด (แน่นอน ถ้าถึงขั้นมีเมนู ที่อยู่ต้องมีอยู่แล้ว) แล้วก็ได้เห็นว่า โอ้วแม่เจ้า ร้านเลขที่สี่ ตอนนี้เราก็อยู่ที่สี่เหมือนก๊าน...สี่...สี่สิบเก้าเท่านั้นเอง ว่าแล้วก็เดินลุยฝนกลับไป ร่มก็คันเล็กนิดเดียวกางก็เกือบเหมือนไปกาง เฮ้อ ... หิวก็หิวหนาวก็หนาว จากนั้นก็เริ่มมีความหวัง เลขมันลดลงเรื่อยๆ กะว่าได้กินแน่ล่ะทีนี้ ที่น่ากลัวก็คือ จะมีเวลากินทันคอนเสิร์ตอ๊ะป่าว กลัวได้ไม่นาก็ได้หายกลัวเพราะเดินมาจนถึงเลขที่ห้า แล้วอันถัดไปมันเป็นเลขที่สาม เลขสี่หายไปหนายยยยยย โน๊วววววววว ดูเวลากะฟังเสียงพยาธิในท้องแล้วจึงจำต้องยุติปฏิบัติการตามล่าหาร้านอาหาร โซซัดโซเซกลับไปร้านญี่ปุ่นร้านนึงที่เดินผ่าน มาเยอรมันมากินญี่ปุ่น โอ๊ยเจ็บปวดหัวจาย หนายล่ะ pork loin, Ox Tail, veal dumplings ของดิฉัน เง้อออออ รีวิวบอกว่าร้านนั้น มี schnitzel อาหารประจำชาติหลายชนิดจนแทบเป็นพิพิธภัณฑ์เลยนะนั่น โหมะก๊าน ว่าแล้วก็ไปกระเดือกซูซิ แบบแด๊กด่วนซะด้วยเพราะเป็นร้านฟาสฟู้ด เออหนอ จะว่าตกต่ำก็ไม่ได้ ใครล่ะจะได้มีบุญมากินซูชิเซ็ตละแปดเก้ายูโรอย่างเรา กลัวไม่อิ่มเลยตามด้วยราเม็งราดซอสเพสโตไปอีกชาม หน้าตาก็เป็นอย่างที่เห็นนี่ล่ะค่ะท่านผู้ชม อย่าให้เซด ดีนะนี่ไม่ได้จ่ายตังค์รวมกะคอนเสิร์ต ไม่งั้นคงเจ็บหนักกว่านี้ เหอๆ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 51 22:04:32 จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:08:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ซดราเม็งเสร็จตะกายกลับมาวังได้ก็เจอสวนสวยๆ เราก็แวะเข้าไปถ่ายรูปแล้วก็ แล้วก็ เจ๊อะเข้ากับ.... ...เดาได้ช่ายม้า ... ไอ้ร้านบ้าที่เรางมหานานสองนานนั่นแหละ มันอยู่ทางขวา ห่างปราสาทประมาณสองก้าว ซุกอยู่ในมุมมืดของสวน ข้ามถนนแล้วอยู่ฝั่งซ้ายบ้านใครฟะ อีตาอินฟอร์เมชั่นบ้า หรือมันบอกทางเป็นมิเรอร์อิมเมจ เป็น enantiomer  (เฮ้ยใจเย็นลูกอย่าเพิ่งเนิร์ด มีโกรธแล้วพ่นศัพท์เคมี) อย่างไรก็ตามเอาเป็นว่าช้าไปแล้วต๋อยคร้าบทั่นผู้ชม ซูชิน้อยๆก็ไปลอยอยู่ในพุงแล้ว แถมเวลาก็ไม่คอยท่า แอบเอาห้านาทีสุดท้ายวิ่งถ่ายรูปสวนก่อนจะหมดแสงอาทิตย์แล้วค่อยเข้าชมคอนเสิร์ตกัน จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:09:17 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เอาใบที่จองออนไลน์ไปโชว์เสร็จ เราก็นึกได้ว่า ซัลส์บวร์กการ์ดมันบอกว่าลดราคาคอนเสิร์ได้สิบเปอร์เซนต์นี่นา แต่จองล่วงหน้าจ่ายตังค์ไปแล้วนี่ทำไงดีล่ะเนี่ย เราก็เลยลองควักบัตรออกมาเบ่งแล้วถามเค้าดู ปรากฏว่าเค้ายื่นเงินสดคืนมาอย่างรวดเร็ว โอ้วดีอะไรเช่นนี้ เป็นครั้งแรกที่ภูมิใจในการ์ดชมเมือง และเงินที่ได้คืนมา ครึ่งนึงเราก็เอาไปซื้อโปรแกรม กะว่าจะมีประวัติเพลงประวัติคนแต่งมาให้อ่านเรียกน้ำย่อย (เคยตัวกับ BSO มากไป) มาเปิดออกจึงพบว่า มันเป็นแค่ปกกระดาษมันที่หนีบรายชื่อเพลงไว้ตรงกลางแผ่นเดียว ฮ่วย เสียดายตังงงงง เข้าไปถึงก็ต้องตื่นตะลึงกับความงาม ห้องเป็นสีชมพู๊ขลิบทอง ตรงคอนเส็ปท์เรา จริงๆมีรองเท้าคู่สวยติดมาเผื่อเปลี่ยน เพราะยังไงก็เป็นคอนเสิร์ตเพลงคลาสสิก ชุดที่ใส่ก็เป็นเดรสลำลองพอไปวัดไปวาได้ แต่เห็นคนแถบข้างหน้าเราใส่แตะมาชมกันเป็นแพ เราก็เลยคงมาดสาวโจ๋ ใส่เดรสแต่ล่อผ้าใบมันต่อไปนั่นแล คอนเสิร์ตที่นึกว่าจะยิ่งใหญ่อลังการ โผล่มาเป็นควอเต็ท แปลกใจนิดหน่อยเพราะตอนจองไม่ได้เขียนแต่เค้าบรรยายอย่างกับเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ กะเอาเองว่าคงเป็นซักออเคสคตร้า อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ผิดหวัง เค้าเล่นได้ดีกันจริงๆ มีตอนเพลงช้าเราแอบสัปหงกไปเพลง ก็เหนื่อยนี่นา เสียดายเล็กน้อยแต่ก็ทำใจ เล่นจบนี่คนดูแสนประทับใจปรบมือกันไม่หยุดหย่อน คนเล่นต้องออกมาโค้งแล้วโค้งอีกตั้งสามสี่รอบแน่ะ และแล้ว ค่ำคืนนี้ก็จบลงอย่างประทับใจ เนื่องด้วยราเมนไม่อยู่ท้องก่อนกลับโรงแรมเราเลยซื้อไส้กรอกข้างทางมาสองแท่งผลัดกันจิ้มกิน และแล้วก็เอวังจบซัลส์บวร์กวันแรกด้วยประการฉะนี้ จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 12 วันที่เจ็ด ซัลส์บวร์ก (ครึ่งวัน) เอาซัลส์บวร์กมาให้ครึ่งวันนะคะ เพราะตอนบ่ายเราไปเวียนนา เดี๋ยวไว้จะรวมเวียนนาสามวันเป็นกระทู้เดียว ตื่นเช้ามาก็เช็คเอาท์แล้วเอากระเป๋าฝากไว้ที่โรงแรมตามเคย ทริปนี้สะดวกได้ใจเพราะโรงแรมให้เช็คเอาท์แล้วฝากกระเป๋าได้ทุกที เมืองไหนที่ไปกลางวันสถานีรถไฟก็มีล็อกเกอร์ให้เช่า เวิร์คมากๆ วันนี้นั่งบัสหน้าโรงแรมเข้ากลางเมือง ใช้บัตรซัลส์บวร์กการ์ดโชว์ไปตามสิทธิ์ งานนี้เที่ยวเจ๋งมากเพราะซัลส์บวร์กเราไม่มีหนังสือ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่รายละเอียดของซัลส์บวร์กการ์ดว่าลดอะไรบ้าง กับแผนที่หนึ่งแผ่นถ้วน สนุกล่ะครับ บัสลงจอดหน้า Festival House ถ่ายมาได้หนึ่งรูปถ้วน จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:10:45 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เดินไปหยุดแถว  Altermarkt ชะเง้อหาของกิน มีไส้กรอก มีเพรสเซลอันยักษ์ แต่ยังไม่ถูกใจเท่าไหร่ จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:11:38 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จนเดินไปถึงโบสถ์ Universitatskirche เค้าเปิดให้เข้าแล้ว เลยได้ประเดิมเป็นโบสถ์แรกของวัน จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เดินไปเดินมาก็เจอกับร้าน Furst เข้า ร้านนี้มะคืนเจอ่านรีวิวมาว่าอร่อย เราก็เลยรีบเข้าไปนั่งกัน สั่งเค้ก Esterhazytorte ที่แนะนำไว้ใน Eyewitness Vienna มาชิมกัน (เค้กขาวๆขวาล่าง - ที่ต้องไปก็อปเวปมาเพราะกินหมดก่อนนึกได้ว่ายังไม่ได้ถ่ายรูป แหะๆ) ช็อกโกแลตร้อนที่นี่เค้าเข้มข้นมาก เหมือนซดน้ำดาร์กช็อกโกแลต  ส่วนเค้กเขียวๆนั่นเคลือบน้ำตาลทั้งก้อน หวานแสบไส้ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 51 21:24:22 จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:12:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อิ่มอร่อยกันแล้วก็ออกเดินต่อ ได้ไปเดินผ่านหน้า Residenz ข่าวว่าแกลเลอรี่ข้างในสวยมาก แต่มากันเช้าเกินเลยยังไม่เปิดตามเคย จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:13:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 รูปนี้แสงสวยดีเลยเอามาแปะ จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แล้วเราก็เข้า Salzburg Dom (Salzburg Cathedral) กัน สวยมากๆเลย จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เก้าโมงแล้วรถรางเปิดให้ขึ้น เราก็เลยนั่งขึ้นไปบนยอดเขาไปดูป้อมปราสาท Hohensalzburg กัน วิวจากข้างล่าง จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 20 งานนี้ รถรางขึ้นฟรีด้วยบัตรเบ่ง ถึงจะเป็นบัตรเบ่งเค้าก็ยังต้องเอาไปรูดๆ คล้ายๆรูดเครดิตการ์ด เค้ารูดเสร็จรถรางก็วิ่งไปพอดี เกลียดการรอรถจัง ขึ้นมาถึงยอด โห วิวข้างบนสวยขาดใจเลย ถ้าไม่กลัวกระทู้ยาวจะเอาวิวมาแปะให้ดูกันสักสิบรูป เอาป้อมใหญ่ๆไปดูก่อน จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:15:06 ]

ความคิดเห็นที่ 21 งานนี้มีทัวร์เหมือนกัน เป็นออดิโอแปดภาษา (แน่นอนว่าต้องมีญี่ปุ่น) แล้วก็มีคนคอยเดินตามเปิดห้องให้ดูทีละห้อง ซัลส์บวร์กได้ชื่อเมืองมาเพราะมีเหมืองเกลือมากมาย แต่ก่อนเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะเกลือใช้เก็บรักษาอาหาร (ประมาณสารกันบูด) เมืองที่มีเกลือเลยจะมีเสบียงคลังทำให้ได้เปรียบในการรบ ตัวปราสาทโฮเฮนซัลส์บวร์กนี้ต่อเติมกันมาเรื่อยๆหลายชั่วอายุคน จนในที่สุดออกมาเป็นอย่างที่เห็นในโมเดล ที่แอบเอามาแปะเล็กๆคือออร์แกนที่มีกลไกคล้ายๆกล่องดนตรี เล่นในคีย์ เอฟเมเจอร์ สมัยโบราณนั้นจะดังทุกเช้าก้องกังวาลไปทั่วเมืองปลุกชาวเมืองซัลส์บวร์กจากนิทรา จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:15:36 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ห้องในปราสาทไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ พิพิธภัณฑ์มีไว้ให้วิ่งผ่าน มีปืนใหญ่วางๆให้ชมตามทางเดิน ที่ไฮไลท์เห็นจะเป็นวิวบนยอดปราสาทที่เห็นเมืองซัลส์บวร์กได้ทั้งเมือง สวยงามมาก รอบทัวร์ที่เราไปปรากฏว่ามีกลุ่มอะแคปเปลล่าเค้ามาเที่ยวกัน เพราะขึ้นถึงยอด เค้าก็ร้องเพลง Top of the world ประสานเสียงกัน (ภาษาอะไรก็ไม่รู้) เพราะมากๆ ได้บรรยากาศ เพลงเพราะๆคลอไปกับวิวสวยๆ หัวใจเราก็ละลายกองอยู่บนยอดปราสาทนั่นเอง (ร้องนานจนคนนำทัวร์ต้องมาไล่ต้อนลงแน่ะ แต่ได้ใจเราไปเต็มๆ) วิวจากด้านบนนี่จะเป็นยอดเขียวๆซ้ายสุดคือยอดของ โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ ส่วนโบสถ์ตรงกลางที่หน้าตาหลายเหลี่ยมหลังคาน้ำตาลคือโบสถ์ฟรานซิสกัน จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:16:56 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ลงมาได้ก็รีบวิ่งไปโบสถ์ St Peter ที่นี่โด่งดังด้วยมี catacomb เป็นหลุมฝังศพบุคคลสำคัญมากมาย จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:18:43 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ที่ต้องวิ่งเพราะเราเล็งเรือที่จะล่องไป Hellbrunn Palace ไว้ เรืออกสิบสี่สิบห้า ที่อยากไป๊อยากไปก็ไม่ใช้เพราะวิวสวย (ถึงคงจะสวยก็เถอะ) แต่เพราะว่ามันฟรีถ้าใช้การ์ด (งกอีกล่ะ) การ์ดสองวัน (มีแต่สองวันให้ซื้อ)ราคายี่สิบสี่ ราคาเต็มล่องเรือนี่มันสิบหก นั่งเรือรอบเดียวการ์ดก็เกือบคุ้มแล้ว เราก็อุตส่าห์วิ่งปอดบานไปจนทัน ดั๊น มันปอปปูลาร์มากเต็มซะอีก เฮ้อ เราก็เลยกลับไปขึ้นบัสไปอย่างคนสามัญ ไปถึงเค้าก็มีนำทัวร์เหมือนกัน ใช้บัตรเบ่งได้ฟรี Hellbrunn นั้น มีความหมายว่า Healing Fountain จึงไม่แปลกเลยที่น้ำพุจะเป็นจุดเด่นของปราสาท น้ำพุนี้มีชื่อเสียงมาก และเป็นฉากหนึ่งของเรื่อง The Sound of Music อีกด้วย และถ้าใครจำเพลง I am sixteen going on seventeen ได้ Gazeboหลังนั้นก็อยู่ในบริเวณวังนี้เช่นกันค่ะ แต่มันไกลเลยไม่ได้ไปเดินหา แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 51 21:27:26 จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 25 งานนี้ไกด์พูดสองภาษาเสียงดังฟังชัด ถ้าใครไปแล้วเค้าขออาสาสมัครอย่าไปหลงกลเชียวค่ะ ขึ้นชื่อว่าราชวังแห่งน้ำพุ มีค่ายกลน้ำพุหลอกอยู่เพียบ เชื่อไกด์นี่คงได้เปียกปอนกันไป เดินตามสวนด้านนอกนั้นจะเจอกับกลไกต่างๆมากมาย มีทั้งหน้ากากที่แลบลิ้นได้ ถ้ำเล็กถ้ำน้อย ตุ๊กตาตามทางเดินก็ขยับได้ เหล่านี้ใช้พลังจากแรงดันน้ำทั้งหมด ช่างคิดจริงๆเลยค่ะ ที่เจ๋งสุดๆคือบ้านตุ๊กตาขนาดใหญ่ มีตุ๊กตาถึงสองร้อยตัว ข้างในขยับได้ทุกตัวค่ะ แต่ละตัวอยู่ในอิริยาบถต่างๆกันดูน่าขัน แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 51 21:28:20 จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:23:02 ]

ความคิดเห็นที่ 26 และที่ขาดไม่ได้ก็คือหัวฉีกน้ำที่ซ่อนไว้ ณ จุดต่างๆ พอหลอกเราดูจนเพลินคุณไกด์ก็กดฉีดน้ำจนก้นแฉะกันไปตามๆกัน (แบบว่าวางหัวไว้ให้ฉีดระยะประมาณกางเกงพอดี๊ อารมณ์ขันเหลือร้าย) แถมมีน้ำพุอันใหญ่ ทั้งคุณป้า ทั้งเด็กตัวเล็กตัวน้อยก็วี๊ดว้ายไปตามๆกัน จากนั้นก็เข้าชมในปราสาท อาคารเรียบๆสีเหลืองๆธรรมดาเลยไม่ใส่รูปเพื่อเป็นการประหยัดที่ จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:28:55 ]

ความคิดเห็นที่ 27 จบจากเฮลบรูนก็ไปบ้านเกิดโมสาร์ท จริงๆเวลาไม่ค่อยเหลือแต่มาถึงซัลส์บวร์กแล้วไม่ไปก็กระไรอยู่ เราก็แฟนโมสาร์ทด้วย บนหลังคาบ้านโมสาร์ถเจอนกจุ๊บกัน แบบว่าตัวเทาก็ไซ้ๆ ตัวน้ำตาลอ่อนก็เขินๆเอียงคอหลบแต่ไม่เดินหนีไปไหน น่ารักน่าชังจนต้องเก็บรูปมาฝาก จบจากพิพิธภัณฑ์ลงมาก็มีร้ายไอติมรออยู่ข้างล่าง คุณๆก็รู้ว่าเราคงไม่รอช้า จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:30:43 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สรุปแล้ว ซัลส์บวร์กเป็นเมืองที่ซื้อการ์ดแล้วคุ้มที่สุด ขนาดมาวันเดียว ซื้อบัตรสองวัน นับๆรวมที่ๆเข้าฟรีได้ทั้งหมดแล้วค่อนข้างมั่นใจว่าคุ้ม ใครจะมาเที่ยวแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ซื้อนะคะ โดยเฉพาะไอ้ที่ล่องเรือ มีทั้งล่องชมเมืองไปกลับ หรือจะนั่งแค่ไปเฮลบรูน อันนั้นถ้าได้ลงก็สิบหกเหรียญเข้าไปแล้ว ถ้าอยากนั่งแนะนำให้ไปจองที่เช้าหน่อย จะได้ไม่ตกเรื่อเหมือนเรา จากนั้นก็ขึ้นรถไฟไปเวียนนากัน ห้องบนรถไฟมีปลั๊กสองขาแบบที่คอมเราเสียบได้ (ปกติปลั๊กยุโรปขากลม) คอมเราแบตหมดเพราะคอนเวิร์ตเตอร์ที่ซื้อมามันขากลมแต่ปักไม่ลงวงกลมด้านนอก เราเลยไปเสียบต่อลมหายใจได้อีกห้านาที ทันเปิดมาก็อปรูปออกจากกล้องได้อย่างเฉียดฉิว จบซัลส์บวร์กไปอย่างสุดแสนประทับใจ เดี๋ยวกระทู้หน้าลงรถไปแล้วมาต่อเวียนนากันนะคะ ของกินใดที่ใครว่าขึ้นชื่อของเวียนนา เราตามไปกินมาหมด มีรูปด้วยนะเออ เราจะเริ่มกันที่พระราชวัง Schonbrunn กันค่ะ พลาดไม่ได้นะคะงานนี้ จากคุณ : Mnemosyne - [ 24 ก.ค. 51 21:30:57 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มาแปะชื่อก่อน แล้วจะมาตามเก็บนะคะ จากคุณ : pajan (pajan) - [ 24 ก.ค. 51 22:05:14 ]