ความคิดเห็นที่ 1 วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่ Edinburgh และมุ่งไปยังจุดหมายต่อไปที่ Stratford upon avon โดยวันนี้จะแวะไปเที่ยวที่ York ก่อน วันนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อออกจากที่พัก เนื่องจากต้องไปส่งน้องชายตัวแสบขึ้นรถบัสเพื่อไปขึ้นเครื่องกลับไป Pack ของที่มหา'ลัย ส่วนเรากะพ่อแม่จะต่อรถไฟไปเที่ยว York แต่เนื่องจากเวลาที่ออกจาก Hostel นั้นเร็วเกินไป เพื่อให้ทันน้องชายไปขึ้นรถบัส จึงทำให้เราต้องแกร่วรอที่สถานีรถไฟอยู่อีกประมาณเกือบชม. ระหว่างนั้นเราขอตัวไปเก็บภาพถ่ายในเมืองก่อน ขณะที่ให้พ่อกะแม่ไปรอที่สถานีรถไฟ แล้วจะตามกลับไปสมทบ พอไปถึงสถานีรถไฟ ปรากฎว่าพ่อได้สำเร็จโทษอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากวันนี้เป็นวันทำงาน ร้านอาหารจึงเปิดให้บริการเร็วต่างจากเมื่อวานที่เป็นวันอาทิตย์ (เกือบ 9 โมงแล้วยังไม่มีทีท่าจะเปิดเลย เนื่องจากทางยุโรปถือว่าวันอาทิตย์เป็นวันหยุด) สมัยก่อนวันอาทิตย์บางทีตามห้างสรรพสินค้าแทบจะปิดหมด แต่ปัจจุบันเพื่อให้สมกับเป็นเมืองท่องเที่ยว ก็จะเปิดช้าปิดเร็วแทนในวันอาทิตย์ (ประมาณ 6 โมงเย็น) อาหารเช้าวันนี้ พ่อทาน Bagel กับไข่ดาวในสถานี ส่วนเรากะแม่เสร็จเรียบร้อยตั้งแต่ที่ Hostel แล้ว ด้วยการจัดการกับ Krispy Kreme เจ้าปัญหาพร้อมกับ Yogurt ซึ่งซื้อมาจาก M&S คนละ 1 ถ้วยใหญ่ อร่อยสะใจ ราคาไม่แพงมาก ถ้าเทียบกับคุณภาพและราคาที่บ้านเรา หากนำเข้ามาขาย ระหว่างรอรถไฟ เรามีหน้าที่ต้องเอาแบงค์ที่ได้รับทอนจากการซื้อของซึ่งเป็นแบงค์ของ Scotland ไปขอร้านค้าแลกให้เป็นแบงค์ของ England เนื่องจากถามทางร้านค้าแล้ว พบว่าแบงค์ของ Scotland ถ้าไปซื้อของใน England บางร้านอาจจะไม่รับ (เพราะฉะนั้น ใครที่ไปเที่ยว Scotland เวลาเค้าทอนเงินกลับมา ต้องดูให้ดีๆนะคะ เราก้อเพิ่งเจอร้านสุดท้ายที่ไปซื้อ Magnet มาเป็นของฝาก ที่เค้าทอนเป็นแบงค์ Scotland) ถึงเวลารถไฟมา ก้อขึ้นรถไฟด้วยหลักการเดิม คือ ต้องพยายามหาที่นั่งที่ไม่มีคนจองไว้ หรือมีคนจองแต่จะขึ้นมาหลังสถานีที่เราลงแล้ว นั่งไปประมาณ 3 ชม. ก้อมาถึงเมือง York เนื่องจากเราจะไปเที่ยวกันก่อน แล้วจะกลับมาขึ้นรถไฟกันอีกครั้งเพื่อเดินทางไปเมืองจุดหมาย ก่อนอื่น เราต้องหาที่ฝากกระเป๋าก่อนค่ะ เค้าคิดค่าฝากกระเป๋าค่อนข้างแพงทีเดียว เมื่อเทียบกับบ้านเรา เค้าคิดประมาณ 5 GBP/ชิ้น/วัน โดยให้มารับกระเป๋าคืนก่อน 2 ทุ่ม ตกลงเราฝากไป 2 ชิ้น เป็นราคาตั้งเกือบ 700 บาท แทบจะเป็นลม แล้วก้ออย่างที่บอก ที่อังกฤษค่อนข้างอนุรักษ์นิยมมากๆ การฝากกระเป๋ายังใช้วิธีให้คนมารับฝากอยู่ (ถ้าเป็นยุโรปประเทศอื่นที่เคยไปมา เค้าจะให้ฝากในตู้โดยจะกำหนดไว้ว่า 6 ชม.อัตรานึง นานกว่านั้นอีกอัตรานึง แล้วมีตู้เก็บหลายขนาดให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นตู้ใหญ่ ตู้กลาง หรือตู้เล็ก เสร็จแล้วก้อหยอดเหรียญ ตู้จะ Lock ให้โดยอัตโนมัติ แต่ต้อง Sure เวลาจะกลับมาเอาให้มากๆ เพราะถึงเวลาครบที่เราจ่ายเงินไปปั๊บ ตู้จะปลด Lock โดยอัตโนมัติเหมือนกัน ค่อนข้างเสี่ยง หากใครมีของสำคัญในกระเป๋า) จ่ายเงินฝากกระเป๋าเสร็จ ก่อนที่เค้าจะเอากระเป๋าเราไปเก็บด้านหลัง ต้องผ่านเครื่อง Scan เหมือนที่สนามบินก่อน เชื่อแล้วล่ะว่า อังกฤษเป็นประเทศที่ค่อนข้างกลัวการก่อการร้ายมากจริงๆ (เผลอๆ อาจจะกลัวมากกว่าอเมริกาซะด้วยซ้ำนะเนี่ย ) จากคุณ : nouveaulover (nouveaulover) - [ 1 ส.ค. 51 15:59:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 หลังจากหมดภาระเรื่องกระเป๋า เราก้อต้องหา Tourist Information Center ซึ่งตั้งอยู่ภายในสถานีนั่นหล่ะ เพื่อไปเอาแผนที่ในการเดิน โดยจุดหมายหลักที่เรามาที่นี่ก้อเพราะ York Minster ซึ่งถือเป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดทางส่วนเหนือของทวีปยุโรปกันเลยทีเดียว ได้แผนที่มาแล้ว เริ่มออกเดินทางได้ จริงๆแล้วไม่ต้องคิดอะไรมาก เดินตามฝรั่งไป รับรองถึงมหาวิหารแน่นอน เพราะตอนออกมาเห็นกลุ่มคุณปู่คุณย่ากลุ่มใหญ่เดินออกมา ที่นี่เรามักจะเห็นผู้สูงอายุกลุ่มใหญ่ไปเที่ยวกันเองโดยรถไฟ เดินไปประมาณ 15 นาที ไม่มีการแตกแถว กลุ่มคุณปู่คุณย่าด้านหน้า ก้อพาเรามาถึงมหาวิหารจริงๆ จากคุณ : nouveaulover (nouveaulover) - [ 1 ส.ค. 51 16:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หลังจากนั้น เราก้อเข้าไปชมภายในมหาวิหาร โดยเราเลือกซื้อตั๋วคู่ ที่ดูทั้งภายในมหาวิหารและลงไปชมห้องเก็บสมบัติชั้นใต้ดินของมหาวิหาร แต่จริงๆแล้ว ทางมหาวิหารเค้ามีโปรแกรมให้เลือกเยอะค่ะ โดยมี 3 แห่งให้ดู ได้แก่ ภายในมหาวิหาร ห้องเก็บสมบัติชั้นใต้ดิน (The Undercroft) หรือจะเดินขึ้นหอคอย (The Tower) ไปชมวิวรอบเมืองก็ได้ค่ะ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือก mix เองได้ตามใจชอบ แล้วก้อตามระเบียบสำหรับสถานที่ท่องเที่ยว เค้าจะมี Brochure บอกของสำคัญที่ควรดู ปรากฎว่า คราวนี้เราหาได้ไม่ครบแหะ แต่หลักๆของที่นี่จะเด่นดังเรื่อง กระจกสีรูปกุหลาบ จากคุณ : nouveaulover (nouveaulover) - [ 1 ส.ค. 51 16:03:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กระจกสีบานที่ใหญ่ที่สุดภายในมหาวิหารค่ะ จากคุณ : nouveaulover (nouveaulover) - [ 1 ส.ค. 51 16:04:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ภายในมหาวิหาร จากคุณ : nouveaulover (nouveaulover) - [ 1 ส.ค. 51 16:05:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กระจกสีบานเก่าและสำคัญสุดในมหาวิหารค่ะ จากคุณ : nouveaulover (nouveaulover) - [ 1 ส.ค. 51 16:07:04 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผ้าทอมือสมัยก่อนค่ะ ละเอียดและฝีมือสุดๆ จากคุณ : nouveaulover (nouveaulover) - [ 1 ส.ค. 51 16:08:35 ]

ความคิดเห็นที่ 8 และมีอีกอย่างที่เราชอบ คือ ทางมหาวิหารเค้าจะมีเหมือนรถเข็นแล้วเอากระจกติดตรงชั้นของรถเข็น เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินดูลวดลายบนเพดานได้โดยไม่ต้องแหงนดูให้เมื่อยคอ ซึ่งเท่าที่สังเกตดูภายในโบสถ์ที่ยุโรปเกือบทุกแห่งจะมีเจ้ารถเข็นนี้กันหมด นับถือความคิดของจังค่ะ เดินดูภายในมหาวิหารซักพักไม่เกิน 1 ชม. เราก็เดินลงไปชมห้องเก็บสมบัติใต้ดิน (อันนี้แจก Audio ให้ฟังข้อมูลฟรีค่ะ ไม่คิดตังค์เหมือนที่ Edinburgh Castle) ซึ่งจริงๆแล้วที่เราเลือกโปรแกรมนี้ เนื่องจากพ่อเราชอบดูสมบัติแบบอลังการ แต่ปรากฎว่าไม่เป็นอย่างคิดค่ะ เพราะจริงๆแล้วคล้ายกับไปดูประวัติของมหาวิหารนี้มากกว่า โดยด้านล่างจะปรากฎหลักฐานเสาแบบกรีก โรมัน ซึ่งแสดงว่าเดิมกรีกและโรมันเคยอยู่ที่ตรงนี้มาก่อน นอกจากนี้ก็จะมีการแสดงข้าวของเครื่องใช้ของพระสังฆราชของมหาวิหารแห่งนี้ค่ะ เดินเล่นไปๆมาๆภายในมหาวิหารไม่เกิน 2.5 ชม. ก้อเสร็จสิ้นการทัวร์ เพราะไม่ได้เป็นคริสต์เลยไม่ค่อยซาบซึ้งเท่าไหร่ จากคุณ : nouveaulover (nouveaulover) - [ 1 ส.ค. 51 16:09:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ด้านนอกมหาวิหาร จากคุณ : nouveaulover (nouveaulover) - [ 1 ส.ค. 51 16:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ด้านนอกอีกรูปค่ะ มหาวิหารใหญ่มากจนไม่สามารถเก็บภาพได้หมด (หรือเพราะกล้องเรามันไม่ดีเอง) ต้องเลือกเป็นจุดๆไป จากคุณ : nouveaulover (nouveaulover) - [ 1 ส.ค. 51 16:18:18 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถึงเวลาเที่ยงพอดี เดินข้ามถนนเข้าไปในเมืองไปหาข้าวกินกันดีกว่าค่ะ สำหรับอาหารมื้อนี้ แม่ตั้งโจทย์มาอย่างดีแล้วว่า จะต้องทาน Yorkshire Pudding ให้ได้ เพราะไหนๆก้อมาถึงถิ่นแล้ว ต้องลองซะหน่อย เดินซักพัก ก็เลือกได้ร้านนึงค่ะ พ่อสั่งเป็น Fish & Chips อีกแล้ว (ไปมาทั้งทริป กินปลาไปเกิน 10 ตัวแน่นอน) ส่วนแม่และเราเลือกทาน Yorkshire Pudding กับเนื้ออบ แล้วก้อชาอีก 1 กา เท่าที่ทานเรารู้สึกว่า Yorkshire Pudding ก้อจะประมาณขนมปังแต่แป้งมันจะเหนียวกว่าบ้านเรา ซึ่งของร้านนี้เนื่องจากกินกับหมูอบจะเป็นแบบไม่มีไส้ค่ะ ทานเสร็จแล้วออกมาเดินย่อยอาหารเล่นกันสักพัก แม่ก็อยากทาน Yorkshire Pudding แบบมีไส้ขึ้นมา เลยเข้าไปซื้อในร้าน Bakery ร้านนึง ซึ่งคงเป็น Expert ด้านนี้มั้งค่ะ เพราะทั้งร้านขายแต่ Yorkshire Pudding อย่างเดียวเลย โดยมีไส้ให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ แกะ เนื้อ เลยเลือกมา 1 ชิ้น เป็นไส้เนื้อค่ะ จำได้ว่าอันละประมาณ 0.80 GBP นะ โดยตอนจ่ายเงิน เนื่องจากเรามีเศษสตางค์เก็บเต็มกระเป๋าเลยค่ะ แล้วเศษสตางค์ของอังกฤษเนี่ย มันจะยุบยิบมาก ถ้าไม่ตั้งสติก่อนจ่ายเงินละก้อ จ่ายเป็นแบงค์ไปก็จะได้รับเศษสตางค์กลับมาอีก เป็นอย่างงี้ร่ำไป คราวนี้เลยกะว่าจะเทเศษสตางค์ค่ะ โดยกำเศษสตางค์ทั้งหมดแล้วยื่นให้คนขายเลยค่ะ แล้วเค้าจะนับเท่าราคาขนม แล้วเอาที่เหลือคืนเรา เดินข้ามถนนมาอีกนิดนึง ก็ต้องตาโต เจอแล้วค่ะร้าน 1 GBP ซึ่งมี Concept เหมือนร้าน 100 Yen ค่ะ ของทุกอย่างในร้านราคาเพียง 1 GBP เท่านั้น ได้ขนมมาเยอะแยะเลยค่ะ เผื่อกะเป็นของฝากด้วย เท่าที่สังเกตมีทั้งของกิน ของใช้ มากมาย ร้านนี้เป็นร้านที่น้องชายเราใช้ในการดำรงชีพอยู่ในมหา'ลัย หลังจากนั้นก็เดินเล่นในเมืองไปเรื่อยๆค่ะ จนไปของเด็ดที่อยากเจอมานานค่ะ มันคือ ตลาดสดนั่นเอง ไม่รอช้าเดินปรี่เข้าไปยังร้านผลไม้ทันที กวาดตาหาของที่ชอบสุดๆ แล้วก็เจอ นั่นเอง Cherry ลูกโตๆ แต่จากการสังเกต มันไม่ได้เป็นผลิตภัณฑ์ในประเทศค่ะ เป็นของ Import ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นตุรกี หรืออิตาลี ดังนั้น ราคาเทียบกับบ้านเราไม่ได้ถูกกว่ากันมากเท่าไหร่ แต่ได้ความสด ใหม่กว่า เท่านั้นเอง สำหรับพ่อได้ลูกไหนมาค่ะ ลูกไม่ใหญ่มากแต่รสชาติหวานเจี๊ยบ ซื้อเสร็จก้อเตรียมเดินทางกลับไปขึ้นรถไฟดีกว่า ระหว่างเดิน ก็เกิดข้อข้องใจขึ้นมาว่า เห็นคนเดินกันเต็มเมืองขวักไขว่ไปหมด เลยให้สงสัยว่าคนประเทศนี้เค้าทำงานกันกี่โมง กลับกันกี่โมงเนี่ย เพราะไม่ว่าจะเมืองไหนก็จะเห็นคนวัยกลางคนเดินขวักไขว่กันตลอดเวลา ทำให้อยากไปทำงานที่นั่นมั่งจัง ระหว่างทางกลับ คุณแม่ Request ขอเดินกลับโดยเดินบนกำแพงเมือง เราก็เลยจัดให้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่เดินแค่ช่วงนึงของกำแพงเมืองเสร็จแล้วก็ต้องเดินทางราบต่อไปเพื่อกลับไปยังสถานีรถไฟ อันนี้กำแพงเมืองค่ะ จากคุณ : nouveaulover (nouveaulover) - [ 1 ส.ค. 51 16:19:18 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มองย้อนกลับไปข้างหลังค่ะ จากคุณ : nouveaulover (nouveaulover) - [ 1 ส.ค. 51 16:20:22 ]

ความคิดเห็นที่ 13 กำแพงเมืองอีกที จากคุณ : nouveaulover (nouveaulover) - [ 1 ส.ค. 51 16:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 14 กำแพงเมืองครั้งสุดท้าย ก่อน Bye Bye จากคุณ : nouveaulover (nouveaulover) - [ 1 ส.ค. 51 16:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พอถึงสถานีรถไฟ ก็ไปรับกระเป๋าคืน แล้วก็มายืนรอรถไฟ รถไฟที่นี่ต้องเล็งโบกี้เอาเองค่ะ รถไฟมาแล้วถึงจะรู้ว่าโบกี้ไหนเป็นโบกี้ที่เราขึ้นได้ ไม่เหมือนที่ยุโรป เพราะที่นั่นเค้าจะมีติดไว้เลยว่า ตรงนี้เป็นโบกี้ที่เท่าไหร่ จะได้มายืนเตรียมตัวได้ถูก กลับขึ้นสมรภูมิรถไฟอีกที คราวนี้ดีใจดังได้แก้ว ไม่เห็นใบจองที่นั่งติดตรงเก้าอี้เลยสักตัว สบายเราแน่ๆ ปรากฎว่าไม่ใช่ค่ะ รถไฟขบวนนี้เป็นขบวนสมัยใหม่กว่า เพราะเค้าจะมีตัววิ่งบนชั้นวางของด้านบนว่าที่นั่งตรงนี้คนจองจะขึ้นมาเมื่อไหร่ กลายเป็นว่ากลับดูยากขึ้นไปอีก เพราะมันเป็นตัววิ่ง นั่งไปหลับไปซักพัก แม่ปลุกขึ้นมาให้กิน Cherry กินกันไปจนหมด หลับไปซักพัก ก็ถึงสถานีรถไฟที่เราต้องลงเพื่อไปต่ออีกสถานีนึง โดยเรากะพ่อต้องลากกระเป๋าเพื่อไปยังอีกสถานีนึง ซึ่งไม่ไกลมากนัก แต่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ เดินไปประมาณ 10 นาที ก้อถึง รอรถไฟอีกซักพัก คราวนี้เป็นรถไฟหวานเย็นค่ะ จอดทุกป้าย เป็นรถไฟคันเล็กๆเหมือนวิ่งเข้าไปในหมู่บ้าน จุดหมายเราเป็นป้ายสุดท้ายค่ะ เมือง Stratford upon avon คืนนี้เราพักเป็น Guesthouse เจ้าของอยู่รอต้อนรับเราและพาเราไปห้องพัก ซึ่งเป็นบ้านหลังเล็กๆข้างหลังตึกใหญ่ โดยภายในห้องเหมือนบ้านชั้นเดียวอ่ะค่ะ มีเตียงนอน ทีวี ห้องน้ำครบ ปรากฎว่าที่นี่พ่อกับแม่ชอบที่สุดในทริปนี้เลยค่ะ เพราะด้านหลังบ้านเราก็เป็นสวน ซึ่งเจ้าของปลูกดอกไม้ไว้เยอะเชียว แม่เราเป็นคนชอบดอกไม้อยู่แล้ว เลยชอบมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้เจ้าของบ้านยังแนะนำร้านอาหารให้เราทาน หลังจากเก็บของเสร็จ เรากับแม่ก็อาสาออกไปเดินเล่นสำรวจเมือง ขณะที่พ่อสมัครใจอยู่บ้านเพื่อรอดู  Football Euro โดยเรากับแม่จะซื้ออาหารเข้ามาเลย พ่อจะได้ไม่ต้องออกไปข้างนอกอีก ออกไปนิดนึง เจอร้านขายของประมาณ 7-11 เราเจอคนไทยที่นั่นค่ะ ทำงานเป็น Cashier อยู่ ตอนซื้อของ เค้าตอบกลับมาเป็นภาษาไทย งงเลยค่ะ เพราะจริงๆเมืองนี้มันเป็นเมืองเล็กมากๆ ไม่นึกว่าจะมีคนไทยมาอยู่เลย เดินทัวร์เมืองกันรอบใหญ่ เพื่อไปเที่ยวแบบจริงจังในวันรุ่งขึ้น ขากลับแวะซื้ออาหารเย็น ซึ่งก็คือ Fish & Chips อีกแล้วครับทั่น สำหรับ Chips เค้าให้มาเยอะมากจนกินไม่หมดเลย แต่เราชอบ Chips ของที่นี่มากกว่าของไทยค่ะ เพราะ Chips ที่นี่จะได้รสชาติของมันแบบเน้นๆจริงๆ เค้าจะหั่นแบบหนาๆ แล้วทอดแบบกรอบนอกนุ่มใน ชอบค่ะ ยังไม่เจอว่าที่นี่มี Chips ลักษณะนั้นเลย สมัยก่อนจำได้ว่า ร้าน 13 เหรียญเคยทำ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ส่วนเรากับแม่กลับมาจัดการ Yorkshire Pudding ที่ซื้อไว้ พร้อมกับ Krispy Kreme ที่เหลือจะได้หมดภาระกันซะที หลังจากนั้นก้ออาบน้ำ นอนค่ะ ประมาณ 3 ทุ่ม ด้านนอกยังสว่างอยู่เลย เตรียมกำลังไว้ตะลุยเมืองเล็กที่ยิ่งใหญ่พรุ่งนี้กันค่ะ >> Stratford upon avon ตอนต่อไปนะคะ Stratford upon avon ตอนหน้าเราจะไปตามหาบุคคลผู้นี้กันค่ะ จากคุณ : nouveaulover (nouveaulover) - [ 1 ส.ค. 51 16:34:04 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ดูแล้วมีความสุขจัง สวยมากๆค่ะ อยากไปเดินดูตึกรามบ้านช่องเค้าจัง จากคุณ : Red-Rose-14Feb - [ 1 ส.ค. 51 21:25:52 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ทริปคล้ายๆ กันเลยค่ะ ^___^ ไป york แล้วได้ไปกินชากับขนมร้าน Betty's ป่าวคะ ที่บ้านเราติดใจกันมากๆ จะรอชม stratford-upon-avon นะคะ จากคุณ : MaRiMeKKo - [ 2 ส.ค. 51 02:34:01 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่ได้ไปทานขนมร้าน Betty's ค่ะ เค้าขายเป็น Afternoon Tea เหรอคะ กินชากับ Scone แบบในรูป รึเปล่าเอ่ย? วันหลังหากผ่านไปอีกจะได้ไปลองชิม ท่าจะอร่อยแน่ๆ จากคุณ : nouveaulover (nouveaulover) - [ 2 ส.ค. 51 16:40:17 ]