ความคิดเห็นที่ 1 คำนำของนิ้วกลมอ่านแล้วติดใจ ขอยืมมาเปิดเรื่องหน่อยนะ... ============================ อยากไปญี่ปุ่นมั้ยครับ? กระโดดขึ้นรถไฟไปด้วยกัน ยังไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะพาไปที่ไหน แต่ก็ไม่เห็นต้องสนใจ ตรงนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ว่า คุณเลือกที่จะกระโดดขึ้นมารึเปล่า? ================================ ออกเดินทางกับผมอีกซักตอนนะ แต่ไม่ต้องลำบากลำบนอะไร แค่... Sit back, relax and enjoy แล้วจะได้รู้ไปด้วยกันว่า ทาคายาม่ามันไม่มีแขน จริงมั้ย… ^ ^ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 10:19:40 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขึ้นรถไฟไปคอยแล้วค่ะ จากคุณ : umeboshi - [ 13 ส.ค. 51 10:23:23 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มาขึ้นรถไฟด้วยครับ.........หุหุ..กว่าจะจบตอนนึง...รอ..ร๊อ..รอ.. จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว - [ 13 ส.ค. 51 10:30:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ~ กระโดดเกาะรถไฟมาด้วยค่ะ :) จากคุณ : เมอแรงก์มะนาว - [ 13 ส.ค. 51 10:37:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ก่อนออกเดินทาง ขอทักทายพี่น้องที่เข้ามาทักทายกันตอนท้ายของตอนที่แล้วก่อนนะ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6870876/E6870876.html ================================ เจ๊ดรีม... เซมเบ้รสมาโยกับรสกุ้ง ที่เจ๊ว่า ผมคุ้นมากเลยนะ เหมือนเคยเห็นขายที่นาริตะ แต่มันติดอยู่ที่ปลายปาก นึกยังงัยก็นึกยี่ห้อไม่ออก เจ๊มีรูปมั้ย? เรื่องกินไอติม อย่าไปอายใครเลยเจ๊ ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยเห็นร้านขายไอติมร้านไหนเลยที่ติดป้ายว่าห้ามคนสูงอายุเข้าร้านหรือห้ามซื้อ แล้วใครนะเป็นคนกำหนดว่าไอติมต้องเป็นของกินเฉพาะเด็ก ถ้าเจ๊อยากกิน ก็ Eat 'Em up เลยไม่ต้องเกรงใจใคร ถ้าไม่มีใครไปกินด้วย ชวนผมได้ทุกเมื่อ เรื่องกินขอให้บอก ================================= ไม่เป็นไรมิได้ครับคุณพี่น้อยครับ ผมไม่ได้ช่วยเท่าไหร่เลย ออกจะให้พี่น้อยไปถามเอาเองซ่ะด้วยซ้ำถ้าพี่น้อยจะไปเองคราวหน้า บอกมาอีกทีล่ะกัน ตอนนั้นผมคงว่างตรวจแผนแบบละเีอียดๆ ให้พี่แล้วหล่ะ ================================= ขอบคุณท่านเดทและน้องหมีน้อยมั่กๆ ที่มาแนะนำของกินเล่นหลายขนาน เอาไว้ Trip หน้าผมจะลองไปหาชิมดู แล้วจะมาเล่าให้ฟัง ฝากเตือนน้องหมีด้วย ว่าอย่าน่ารักให้มากนัก ================================ สวัสดีและขอบคุณคุณน้อง chernza007 มาก ที่ติดตามมาตลอด ทักไม่ทักไม่ว่ากันครับ แค่เข้ามาอ่านผมก็ดีใจแล้ว เห็นตรงกันเลยครับ เรื่องพนักงานสาวในร้าน โดยเฉพาะพวกร้านไอครีม กับ เบเกอรี่ในเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกียว หรือ นาโงย่า ช่างไปสรรหาพนักงานกันเหลือเกิน หน้าตาจิ้มลิ้มชวนเชิญให้อยากรี่เข้าไปซื้อของชมัด บางทีขนมไม่อร่อยหรอก แต่ก็ซื้อซ่ะงั้น..... =========================================== ขอบคุณล่วงหน้าเลยครับพี่ skybox แล้วจะรอข้อมูลนะครับ โพสไว้บอร์ดนู้นก็ได้ เด๋วผมตามไปดูเอง =========================================== และขอบคุณมากๆ สำหรับข้อมูลชื่อเรียกของเจ้าโย่งโก๊ะ ของคุณ Kotler Jr.นึกว่าขนมญี่ปุ่นซ่ะอีก มาไกลจากสเปนเลยฮิ... ชูโรส ชูโรส ชูโรส ต้องท่องไว้ คราวหน้าถ้าเจอ จะซื้อกินอีก อร่อยดี..แม้ว่ากินแล้วจะทำให้คอแห้งไปหน่อยก็ตาม ชอบ.... ========================================== ออกเดินทางกันดีกว่าครับ สายแล้ว.... จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 10:43:14 ]

ความคิดเห็นที่ 6 8 โมงครึ่งวันจันทร์เดือนมีนา หนาวและฝนตกพรำ.... แบกเป้ไปยักษ์วิ่งหน้าตั้งไปสถานี JR นาโงย่า ไปขึ้นรถไฟ Limited Express Wide View Hida ขบวนแรกของวัน สถานีมันใหญ่วิ่งหาชานชลาแทบขาดใจกว่าจะเจอ โชคดีที่พักอยู่โรงแรมหลังสถานี ไม่น่าอยู่ดูช่องเรนโบว์จนถึงตี 2 เลย... กระโดดขึ้นรถปุ๊ป ล้อก็หมุนทันที ขอบคุณเจ้าหน้าที่การรถไฟญี่ปุ่นมา ณ ที่นี้ด้วย ที่ช่วยกันส่งสัญญาณให้รถรอผม ทำตัวมีปัญหาอีกแล้ว... ขอโทษคร๊าบ.... ช่วงแรกวิวข้างทางยังไม่มีอะไรให้ดู เลยออกเดินเพ่นพานไปทั่วขบวน ไปสุดทางที่ห้องคนขับ... เจ๋งมาก สมเป็นรถ Wide View ที่ออกแบบให้มองเห็นได้รอบคัน ใช้คนชับ 3 คน อยู่หัวขบวน 2 คน ให้ชวนกันคุยจะได้ไม่หลับ คนที่ 3 อยู่ท้ายขบวน คอยดูไม่ให้ใครโดนประตูหนีบ และประกาศชี้ชวนให้ผู้โดยสารดูวิวสวยๆ ข้างทาง ฟังไม่ออกครับ แต่พอแกประกาศที่ไร ผู้โดยสารก็จะหันไปจ้องที่หน้าต่างกันทุกที จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 10:47:12 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สวัสดียามสายครับคุณพี่อุเมะ พี่เปรี้ยว และคุณเมอแรงก์ วันนี้โรงงานผมหยุดงานยาว 1 สัปดาห์ครับ แต่ผมมีเวรมีกรรม ต้องเข้ามาอยู่โยงเฝ้าคนงานนับ stock เลยมีเวลาอู้มาโพสได้ทั้งวัน รับรองวันนี้จบในตอนแน่นอน ไม่มีอู้และไม่มีภาคสอง แต่อาจขอแตกกระทู้ถ้ารูปมันเยอะจนโหลดกระทู้ช้านะครับ ตามมาเลย.... ================================== ให้ดูหน้าต่างรถกันชัดๆ กว้างงงงงงงงงงงง ดีมั้ย... รถไฟแบบอื่นเค้าจะเจอะเป็นช่องๆ เฉพาะที่นั่ง แต่ขบวนนี้ (หน้า่ต่าง)ใหญ่และยาวไปรอบคันที่เดียว... จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 10:52:20 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โดดเกาะรถไฟด้วยคนค่ะ รถออกหรือยัง จะทันไม๊ จากคุณ : ขนมไทยห่อใบตอง - [ 13 ส.ค. 51 10:58:55 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เข้าสาระกันนิด เด๋วคนชอบเนื้อๆ จะหนีไปอ่านกระทู้อื่นซ่ะก่อน รถด่วนฮิดะ ต้นทางออกจากเมืองนาโงย่า มีรถวิ่งทุกวันๆ ละ 10 เที่ยว เที่ยวแรก 8.43 น. เที่ยวสุดท้าย 19.48 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที อาจนานกว่านี้เล็กน้อยถ้านั่งขบวนสายๆ เพราะจะจอดเยอะสถานีกว่า ค่าโดยสาร ถ้าไม่มี JR Rail Pass ซื้อตั๋วเองไปกลับ ก็คนละประมาณ 12,000 เยน ใครไปญี่ปุ่นและอยากไปทาคายาม่า ขอให้ซื้อเถอะครับ JR Rail Pass แบบ 7 วัน แค่ 28,300 เยน (8 พันกว่าบาท)ถึงแม้ว่าจะใช้ไปทาคายาม่าที่เดียว รวมค่าใช้รถชินคันเซ็งไปกลับจากโตเกียวหรือโอซาก้าเข้าไปด้วยอีกหมื่นกว่าเยน ก็เกือบคุ้มค่าตั๋วแล้วครับ ถ้าอยากทดสอบความอดทน หรือไม่ได้รีบร้อนอะไร นั่งรถไฟธรรมดาไปก็ได้ คุณจะได้เต็มอิ่มกับการนั่งมาราธอนจนก้นด้านนานกว่า 7 ชั่วโมง และได้คลายความเมื่อยล้าเป็นระยะ ด้วยการรอเปลี่ยนขบวนรถอีกกว่า 4 ขบวน แต่ประหยัดไป 50% ... สนใจม่ะ? ถ้ามาจากคันไซ มีขบวนพิเศษ Hida 23 วิ่งออกจากสถานีโอซาก้าทุกเช้า วันละ 1 ขบวน ออกเวลา 7.59 น. ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ถึงทาคายาม่าตอนเที่ยงกว่าๆ มีเวลาเที่ยวอีกครึ่งวันถมเถ แต่ไปทั้งที ขอแนะนำให้นอนค้าง และใช้เวลาอยู่ที่นั่นซัก 2-3 วันครับ ส่วนจะมีอะไรให้น่าเที่ยวกันนักหนา เด๋วจะบอกอีกที อยากรู้เวลารถไฟ JR และค่าใช้จ่าย พิมพ์ชื่อสถานีต้นทาง และปลายทาง กับวันเวลาเดินทางที่ Web นี้ http://www.hyperdia.com/cgi-english/hyperWeb.cgi จะได้คำตอบ มีรถบัสวิ่งตรงดิ่งจากโตเกียว หรือ โอซาก้า ด้วย ใช้เวลา 5 ชั่วโมงครึ่ง แต่ผมชอบนั่งรถไฟมากกว่า มันคลาสสิคและให้อารมณ์การเดินทางและแสวงหาได้ดีกว่าเยอะ เลยไม่ได้สนใจหาข้อมูล ขออภัยด้วยนะครับที่ข้อมูลไม่ครบด้วย จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 10:59:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อิชั้นเกาะด้วยคนคะ น้ำหนักเกินรึยังน้อ.... ตามมาชม กดเก็บทู้แล้วนะค่ะ ขอของกินด้วยนะคะ อิ อิ ของชอบ จากคุณ : agate - [ 13 ส.ค. 51 11:02:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ทันถมเถครับคุณพี่ขนมไทยฯ รถไฟขบวนนี้จอดแวะเรี่ยราดทุกสถานีครับ ============================== ตอนออกจากนาโงย่า รถจะวิ่งถอยหลัง ที่ว่าวิ่งถอยหลัง เพราะเบาะนั่งของทุกคน จะหันหน้าไปทางด้านท้ายขบวนทั้งหมด นึกว่าเจ้าหน้าที่ JR สะเพร่า ลืมหมุนกลับด้านที่นั่ง ยังนั่งนินทาอยู่ในใจเลยว่า จะให้นั่งดูวิวถอยหลังไปตลอดทางเลยรึ! แต่ 18 นาทีต่อมา ถึงสถานีหงิฝุ (Gifu) รถก็หยุดตั้งลำ แล้ววิ่งเดินหน้าออกไปอีกรางนึง กลับสู่ภาวะปกติ ว่าแล้วเชียว.... ชาติที่ละเอียดอ่อนสุดขีดกับลูกค้าอย่างญี่ปุ่น ต้องไม่พลาดกับเรื่องง่ายๆ แบบนี้ แถวนี้ยังไม่มีอะไรให้ดูเท่าไหร่ เป็นเขตชานเมือง มีแต่บ้านคน กับแปลงปลูกพืชเป็นระยะๆ เค้าใช้พื้นที่กันคุ้มค่ามากเลยครับ เหลือที่นิดนึง ก็ทำแปลงปลูกผัก ปลูกดอกไม้ สมแล้วที่อาชีพเกษตรกร เป็นวรรณะลำดับ 2 ของคนญี่ปุ่น(โบราณ) ** ลำดับ 1 คือโชกุนและซามูไร , ลำดับ 3 คือช่างฝีมือ ส่วนลำดับสุดท้าย...คือ พ่อค้า ครับ วรรณะของเค้าช่างแนวสุดขั้วจริงๆ *** จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 11:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ติดตามชมต่อนะครับ  " พ่อหนุ่มอารมณ์ดี "   จากคุณ : Draught Beer - [ 13 ส.ค. 51 11:09:24 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รถไฟขบวนนี้เป็นรุ่นร้อยห้าสิบแรงช้าง รับได้ไม่จำกัดน้ำหนักครับ คุณ agate แต่ของกินยังไม่แน่ใจว่าจะมีให้รึเปล่านะ เพราะรีวิวให้ไปบ้างแล้วตั้งแต่ตอนที่ 9 กับ 12 จะลองค้นดูให้นะครับ ====================================== ยังไม่มีอะไรให้ดู งั้นสำรวจภายในโบกี้กันดีกว่า... ห้องโดยสารรถด่วนฮิดะกว้างขวางนั่งสบาย หน้าหนาวรถจะไม่เปิดแอร์ แต่จะเปิดฮีตเตอร์ซ่ะแรงจนถอดเสื้อกันหนาวแทบไม่ทัน เบาะปูด้วยผ้าหนานุ่มสบายก้น ระยะห่างระหว่างเบาะเหลือเฟือ เอนเบาะนอนได้เยอะ และไม่เดือดร้อนคนนั่งข้างหลัง ถ้าไปกัน 4 คน สามารถหมุนที่นั่งหันมาเม้ากันได้ไม่อยาก แค่เหยียบกระเดื่องด้านข้างเก้าอี้ ขอเตือนว่ารถขบวนนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาก ทั้งพี่ยุ่นเองและคนต่างชาติ เต็มเกือบทั้งปี แนะนำให้แวะจองตั๋วล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันก่อนเดินทาง อย่าไปคาดหวังจะได้ที่นั่งจากตู้แบบ Non-reserved Seat เลย เพราะมีน้อย และมักจะโดนเจ้าถิ่นเค้าแย่งหมด จะเหลือก็แต่ที่นั่งในตู้ Smoking Car ซึ่งถ้าคุณไม่มีภูมิต้านทานควันบุหรี่ กว่าจะถึงทาคายาม่าคงกลายเป็นเซลมอลรมควันกันพอดี จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 11:19:43 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดียามเกือบเที่ยงครับหนุ่มเบียร์ ตอนนี้ชักหิวฟูจิไม่อยากดูแล้ว ขอเป็นวุ้นๆ ซักแก้ว มีมั้ย.. =================================== ด้านท้ายของโบกี้ จะจัดที่นั่งไว้ให้ผู้พิการ หรือคนที่ต้องนั่งรถเข็น ไว้โดยเฉพาะด้วย วิธีคิดของประเทศที่เจริญแล้ว เค้าจะเปิดโอกาส และอำนวยความสะดวกให้คนความสามารถน้อยทุกประเภทได้มีโอกาสช่วยเหลือตัวเอง ให้ไปไหนมาไหนเอง มีชีวิตใกล้เคียงข้างกับคนปกติให้มากที่สุด ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า ไม่ได้เป็นภาระกับคนในครอบครัวหรือสังคม เพราะคิดกันหยั่งงี้แหละ เลยได้เห็น เด็กเล็ก คนชรา และ คนพิการ ของประเทศนี้ ออกท่องเที่ยวด้วยตัวเองกันเป็นเรื่องปกติ ขนาดคนตาบอดเค้ายังออกเดินเที่ยวด้วย "หู" กันเลยนะ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 11:24:40 ]

ความคิดเห็นที่ 15 น้องน้ำในรถสะอาดสุดยอด ตามมาตรฐานญี่ปุ่น ราวกับว่าถ้ามีการตรวจเจอห้องน้ำสกปรกนานเกิน 2 ชั่วโมงเมื่อไหร่ คนดูแลห้องน้ำคงถูกสั่งให้ฮาราคีรีตายอยู่ตรงนั้น ประตูเป็นประตูเลื่อนกึ่งอัตโนมัติ และมีที่กว้างพอให้คนพิการเข็นรถเข้าไปด้วยตัวเองได้ ระบบน้ำทุกอย่างมีเซ็นเซอร์อินฟราเรดควบคุม ไม่ต้องกดปุ่มอะไรทั้งนั้น ทำธุระเสร็จก็แค่โบกมือผ่านตัวรับสัญญาณก็พอ มีเตียงเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็ก และที่นั่งเด็กเล็กไว้จับนั่งรอผู้ปกครองทำธุระด้วย ไม่อยากจะคิดถึงห้องน้ำของรถไฟไทยเลย เฮ่อ.... วิถีแบบญี่ปุ่นคงสอนว่า Duty is God, Work is Worship แน่ เพราะแทบทุกอาชีพ ตั้งแต่ข้าราชการ ชาวนา นายช่าง คนขายบะหมี่ ยันไปถึงคนทำความสะอาด ต่างแข่งกันคิดปรับปรุงสิ่งที่มีอยู่ ให้ดี ดี และดี... และต้องอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่าได้หยุด ฝังลึกกลายเป็นความเครียด คุกรุ่น...คุกรุ่น... จนทำให้คนญี่ปุ่นเครียดและยิ้มยากจนทุกวันนี้ น่าเอามาหารสองกับนิสัยคนไทยคนละครึ่งจัง เราจะได้กลายเป็นคนที่ เข้มงวดกับตัวเองแต่อ่อนโยนกับผู้อื่น ซู้ดยอดไปเร้ย..... วันหลังจะเล่าให้อ่านกันขำขำว่า เค้าช่างคิดเล็กคิดน้อยเรื่องการทำให้ลูกค้ายิ้มได้ยังไง เก็บข้อมูลสะสมได้เยอะพอแ้ล้วครับ ว่าจะพาไปเที่ยว ไหงมาบ่นเรื่องอะไรก็ไม่รู้ล่ะหว่า อย่าเอาอะไรกับผมมากเลยครับ ผมสติไม่ดี...ผมหน่ะเป็นคนบ้าาาาาาาา............   ไปดูวิวสองข้างทางกันเถอะ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 11:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ความคิดเห็นที่ 14   สวัสดียามเกือบเที่ยงครับหนุ่มเบียร์ ตอนนี้ชักหิวฟูจิไม่อยากดูแล้ว ขอเป็นวุ้นๆ ซักแก้ว มีมั้ย.. ================================ จัดให้คร้าบบบ..... จากคุณ : Draught Beer - [ 13 ส.ค. 51 11:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ออกจากหงิฝุได้ครึ่งชั่วโมง รถก็เริ่มไต่ระดับขึ้นเขา ภาพสองข้างทางเปลี่ยนจากบ้านคน เป็นวิวทางรถไฟเลาะริมฝั่งแม่น้ำคิโสะ ที่ไหลเรื่อยเอื่อยเลาะริมเชิงเขา พร้อมแขกรับเชิญพิเศษ เป็นสายหมอกหนาหนักชุ่มเย็น ลอยต่ำละเรี่ย ห่มสันเขาจนมิด น่าเอารถเปิดประทุนมาขับกินลมเล่นชมัด จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 11:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ชอบประโยคนี้มากๆ ค่ะ "เข้มงวดกับตัวเองแต่อ่อนโยนกับผู้อื่น " นึกไปนึกมา ก็เห็นด้วยว่า คนญี่ปุ่น ทุ่มเทเพื่อคนอื่นๆ ในการทำงานจริงๆ จากคุณ : umeboshi - [ 13 ส.ค. 51 11:37:00 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าอยากถ่ายรูปสุดสวยของสองข้างทางช่วงนี้ ต้องตั้งใจและกะจังหวะให้ดี เนื่องจากรถที่นั่งเป็นรถด่วน ถึงแม้จะขึ้นเขา แต่ก็วิ่งฉิวเหมือนม้งดอยปุย วิวงามๆ ที่น่าเก็บภาพไว้ จะปรากฎให้เห็นแค่แว่บเดียว ไม่เกิน 10 วินาที แล้วจะโดนอุโมงค์หรือต้นไม้ลักพาตัวไป กดชัตเตอร์อย่างมันมือจนแทบไม่ได้ดูด้วยสองตา พอเริ่มวิวบรรเทาลงแล้ว เปิดดูในกล้องก็เจอว่า พระเอกของรูปส่วนใหญ่ เป็นคุณปู่ก้อนหิน คุณลุงอุโมงค์ คุณน้าเสาไฟ คุณพี่เสาสะพาน และ คุณน้องต้นไม้ โผล่มายิ้มทักผมกันสลอนไปหมด นั่งรถไฟสายนี้... คุณจะไม่เหงาเลยครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 11:37:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เอ  วันนี้ ทำไม  เข้ามากระทู้คุณ หนุ่ม แล้ว เราง่วงนอนละ  หรือบรรยากาศมันให้ จากคุณ : love-so - [ 13 ส.ค. 51 11:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณครับสำหรับเบียร์เหยือกโตจากท่านเบียร์.... แค่แ่ก้วเดียวก่อนนะ เด๋วติดลมกระทู้ไม่จบ แต่ตอนนี้ ทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่น ทำทั้งสองอย่างพร้อมกันไม่ได้เลยครับคุณพี่อุเมะ คนญีุ่ปุ่นจะเข้มงวดทั้งกับตัวเองและคนอื่น ... อันนี้ก็ยิ่งทำให้เครียด ส่วนคนไทย ก็ใจอ่อนทั้งกับตัวเองและคนอื่น .... อันนี้ก็ยิ่งทำให้เกียจคร้านและละเลย ไม่ค่อยจะอยากทำอะไรเพื่อคนอื่นซักเท่าไหร่ หาทางสายกลางยากจัง.... ========================================= บางช่วงจะเห็นสะพานเหล็กทาสีลูกกวาดตัดกับป่าเขียวๆ บางช่วงจะเห็นเขื่อนกั้นแม่น้ำที่สวยอลังการและมากด้วยประโยชน์กับชาวนา บางช่วงจะเห็นถนนคดเคี้ยวตัดกับภูเขา อวดเทคนิคทางวิศวกรรมที่น่าทึ่งของนายช่างญี่ปุ่น และบางช่วงจะเห็นแม่น้ำสีเขีวมรกต ไหลซอกซอนผ่านโตรกผา ตัดกับความเขียวของภูเขา และความขาวของสายหมอก งามเหลือคำบรรยาย แบบรูปเบรอๆ ข้างล่างนี้ เหมือนเอาความสวยของทางรถไฟเมืองกาญฯ มารวมกับทางรถไฟช่วงถ้ำขุนตาลเลย มันจะสวยกันไปถึงไหน... ถ้ามาช่วงใบไม้แดง คงต้องเตรียมถังออกซิเจนมาด้วย เพราะต้องสำลักความสวยแทบขาดใจแน่นอน จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 11:47:50 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไปโ้ด้ยยยยยย เอาเบนโตะมากินก่อนนะ หิวมั่ก จากคุณ : bangkok dream - [ 13 ส.ค. 51 11:59:07 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ก็ผมตั้งใจให้คนอ่าน Sit back, relax and enjoy ตั้งแต่รถไฟเริ่มออกแล้วนี่ครับคุณเลิฟโซ(มัส) ก็ต้องมีบ้างที่บางคนจะผล่อยหลับไปเลย ไม่ว่ากันครับ อยากให้ตอนนี้อ่านไปฝันไป (แต่ระวังเจ้านายกันให้ดีเน้อ...) ============================================ รถไฟวิ่งไต่เลาะริมเขา สลับฟันปลาข้ามแม่น้ำไปมาตลอดทาง เห็นวิวทั้งสองข้างรถไฟสวย และสวย และสวยต่างจนเลือกไม่ถูก แล้วแต่ว่าจะนั่งฝั่งไหน แต่วิวงามๆ ส่วนมากจะอยู่ทางหน้าต่างด้านขวา ตอนจองตั๋วขาไป แนะนำให้บอกพนักงานเลือกที่นั่งแถว C กับ D ให้นะครับ สิ่งที่อยากเห็นตอนนั้นเป็นที่สุด คือน้องยูกิคนงาม ที่หนุ่มเมืองร้อนตับแล่บอย่างผม จะได้เจอก็เฉพาะเงา ในตู้ไอติม กับ ที่เมืองหิมะ-ดรีมเวิร์ลเท่านั้น 10 โมงเช้าแล้ว รถวิ่งเรียบแม่น้ำฮิดะมาถึงเมืองน้ำพุร้อน เงโระ (Gero) แต่ก็ยังไม่เห็นหิมะซักก้อนเลย น้องยูกิจ๋า.... โดนโลกร้อนรังแกจนหนีไปหมดแล้วเหรอ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 11:59:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24 โห...เจ๊ดรีม เล่นกินยั่วกันขนาดนี้ งั้นผมขอตัวไปกินข้าวก่อนนะครับ วันหยุด โรงอาหารโรงงานเค้าทำกับข้าวมาแจกน้อย (โรงงานผมกินข้าวฟรีครับ...) ไปช้า เด๋วอดกิน ซักครึ่งชั่วโมงจะกลับมาต่อนะครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 12:04:19 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณหนุ่ม กลับมาเร็วๆน้า............ อยากดูค้า...รีวิวแล้วเหมือนไปเที่ยวด้วยเลยค่ะ จากคุณ : pk12th - [ 13 ส.ค. 51 12:20:43 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เกินครึ่งชั่วโมงแล้วโว้ย ตาหนุ่ม ยังไม่กลับมาอีกเล่า ปล่อยให้ผู้ใหญ่รอ ไม่ดีนะ เดี๋ยวถูกตีมือ มาเร็วเร็วเข้า จะนั่งรถไฟเที่ยวบ้าง เพราะไปทีไร โดยมากนั่งรถบัสทั้งนั้น ไม่ค่อยได้นั่งรถไฟ Gifu ก็ไปมาแล้ว นั่งรถบัสเล็กไป ไปดูเขาเอานกมาจับปลา แล้วบีบคอนกเอาปลาออกมากินเอง เอาเปรียบนกชะมัดเลยวะ คนญี่ปุ่นนี่ ทาคายาม่า มีอะไรดี บอกมาเร็วเร็ว จะไปในอีกไม่ช้านี้แล้ว จะได้เตรียมตัวไปเที่ยวบ้างครับ ได้เรื่องนั่งเรือนอนเรือ ไปเที่ยวซับโปโรแล้ว หาเรื่องเที่ยวทางกลางกลางของญี่ปุ่นอีกทีดีกว่า จากคุณ : xebec - [ 13 ส.ค. 51 12:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 27 กลับมาแล้วไม่ต้องรอนาน เพราะกินข้าวโรงงาน ต้องยัดแบบด่วนกระเพาะคราก ไม่ได้เรียกกิน คนงานเยอะ โรงงานกำลังขยาย โรงอาหารไม่พอนั่ง ขืนทำอ้อยอิ่งตีฉิ่ง 3 ชั้นเวลากิน พนักงานจะด่ารับวันแม่เอา สวัสดียามบ่ายครับคุณพีเคฯ กินข้าวแล้วหนังตาหย่อน ผมจะพยายามเล่าไม่ให้ง่วงนะครับ แต่บรรยากาศของตอนนี้มันหนาวๆ และเอื่อยๆ ท่าทางจะดึงยากซักหน่อย ถ้าใครวูบไปซ่ะก่อน ลงเดินไปสบตาเจ้านายดู คงพอช่วยได้บ้าง ==================================== ออกจากเงโระมาได้ไม่นาน ริมฝั่งแม่น้ำก็เริ่มแซมด้วยสีขาว ขาว และ ขาวมากขึ้นเรื่อยๆ โย่ว! ..... เจอน้องยูกิแล้วววววววววววว จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 12:47:00 ]

ความคิดเห็นที่ 28 กราบสวัสดีครับอาหมู... ที่หงิฝุ เค้าใช้นกจับปลากันแถวไหนหรือครับ แปลกดี เหมือนเคยเห็นในสารคดีเที่ยวเมืองจีนเลย สงสัยลอกกันมา ข้อมูลทาคายาม่าวันนี้เป็นแบบเดินเรื่อยเปื่อยนะครับ ไม่รู้จะถูกใจอาหมูรึเปล่า ลองติดตามดูนะครับ แต่ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่ม ถามมาได้เลยครับ เดี๋ยวผมจะไปค้นให้ ผมเอาเอกสารแนะนำที่เที่ยวในทาคายาม่าติดมาด้วยครับ ========================================= ยิ่งใกล้จะถึงทาคายาม่า รถก็ยิ่งเร่งเครื่องไต่ระดับ รถยิ่งไต่ระดับ ก็ยิ่งเจอน้องยูกิมากขึ้น...มากขึ้น สีสันอื่นๆ เริ่มหายไป... ทีละน้อย อากาศภายนอกเย็นจนมีเกร็ดน้ำแข็งเกาะที่ขอบกระจก แม้ในรถจะเปิดฮีตเตอร์สู้ แต่อุณหภูมิที่โชว์ในห้องโดยสาร บอกว่า 23 องศา แล้วข้างนอกล่ะ จะเย็นขนาดไหนกันน้า.... และก็ต้องเพิ่มความสยิวกิ้วยกกำลังสอง เพราะสาวญี่ปุ่นที่หลงมานั่งอยู่ใกล้ๆ ควักเกมส์ PSP ออกมาเล่น เธอไม่ได้เล่นเงียบๆ แบบคนปกติทั่วไปเค้าทำกัน แต่ส่งเสียงแหลมเล็กครวญออกมาเป็นระยะ...ระยะ.... ราวกับเสียงปีศาจสาวช่องเรนโบว์ที่เจอมาเมื่อคืน เอ้.......... เอ๊ะ.......อิ๊......... อ้า.......อี๊ด......... (อิไตโยะ คีมูจิ๊).......... อันนี้ผมเติมให้เองนะ คริ คริ โอ้ว....พระ.......เจ้า.......จอร์ท........ เกมส์อะไรของเธอฟร่ะนั่น ถึงได้ลุ้นกันมันถึงอารมณ์ขนาดนี้ ถ้าคุยกันรู้เรื่อง คงสะกิดถามเธอไปแล้ว แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 51 13:02:16 จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 12:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มองหิมะ เย็น...เย็น... เคล้าเสียงปีศาจสาวกระโปรงเหียด(จุ๊ดลุ้ด) ยุบหนอ.... พองหนอ....... หนาวสะท้านถึงในร่มผ้า...... เลยครับ หันไปถ่ายรูปวิวข้างทางลดความดันกันดีกว่า.... ฮึ่ย! จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 13:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 30 พักโรงแรมริมแม่น้ำที่ Gifu นั่นแหละครับ เขามีเรือพาออกไปกินข้าวเย็น ล่องเรือไปเรื่อยเรื่อย เขาจะแสดงวิธีจับปลาด้วยนกกินปลาของเขาให้ดู เอาเชือกผูกคอนก แล้วปล่อยให้มันพุ่งลงน้ำไปจับปลา พอจับมาได้ นกก็กระเดือกปลาลงคอไปติดเชือก ที่รัดคอเอาไว้ กลืนลงท้องไม่ได้ คนก็ลากนกมา บีบคอให้นกขย้อนปลาที่ยังเป็นเป็นออกมา แล้วคนก็เอาไปล้าง เพื่อเอามากินอย่างหน้าตาเฉย ไม่มีความเกรงอกเกรงใจนกที่ลงทุนลงไปจับมาเลย อาดูแล้วก็สงสารนกเป็นยิ่งนัก :-)กว่าจะได้กินสักตัว ก็ต้องให้คนพอใจเสียก่อน เอาเปรียบสัตว์เหลือเกินแฮะ ตอนนั้นนึกอย่างนี้นะ แต่พอปลาเข้าปากเรา เราก็ลืมคิดถึงนก ก็ปลามันอร่อยนี่หว่า นกเนิกช่างหัวมันเถิด ให้คนกินก่อนนะ นกนะ ฮ่า ฮ่า จากคุณ : xebec - [ 13 ส.ค. 51 13:08:01 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขาว ดำ และ ขาว คือสีของรูป ตอนรถวิ่งผ่านช่วงนี้ หมอกสีขาวที่คลุมบนฟ้า กับหิมะสีขาวที่ห่มบนพื้น ให้ความรู้สึก สวย สงบ เยือกเย็น เหงา และ เวิ้งว้าง ประดังเข้ามาอื้ออึงในหัวเต็มไปหมด คนเมืองหนาวคงจะมีภูมิคุ้มกันความเย็นและความเหงาได้ดีเป็นพิเศษนะ เพราะต้องเจอแบบนี้ปีนึงนานหลายเดือน ถึงว่า.... ฝรั่งหรือญี่ปุ่น จะสามารถออกเที่ยวคนเดียวทั้งหญิงและชาย ไม่ใช้เรื่องแปลก แต่สำหรับคนไทยบางคน แบบผม และ อีกหลายคนในห้องบลูฯ ที่ออกตะลอนลุยเดี่ยวเที่ยวแบบนี้ มักจะกลายเป็นคนประหลาดในสายตาชาวบ้านไปซ่ะงั้น..... เอ่อนะ! จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 13:08:01 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ถ่ายไปหลายรูป ก็ได้แต่วิวแนวอ้างว้างซ้ำซาก ไปตลอดสองข้างทางจนถึงทาคายาม่า ถ้าไม่มีเส้นถนนมาขั้น ต้องนึกว่าที่นี่คือเป็นทะเลน้ำแข็งแน่ คนญี่ปุ่นแถวนี้จะเฉลิมฉลองอย่างบ้าคลั่งกับฤดูใบไม้ผลิ และแสดงความสุดแสนอาลัยกับฤดูใบไม้ร่วง ก็คงเพราะต้องเจอทุ่งหิมะแบบนี้ปีละ 4 เดือนนี่เอง แต่สำหรับคนไทยอย่างผม ที่เกิดมาพึ่งจะเคยเห็นหิมะจำนวนมากมายมหาศาลแบบนี้เป็นครั้งแรก ก็ร้องอยู่ในใจได้คำเดียวเหมือนเดิมว่า.... ซึโก้ย!!! แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 51 13:47:32 จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 13:11:47 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เกือบ 11 โมง ก็มาถึงสถานีทาคายาม่า แถวนี้มีอยู่ยี่ห้อเดียวครับ คือ JR ที่ทุนหนาพอจะทำรางเลาะเลื้อยขอบ Japan Alps ขึ้นมาถึงที่นี่ได้ แต่ผมยังเบรอเพราะมนต์สะกดของนางฟ้ายูกิ และ เสียงปลิดวิญญาณของปีศาจสาวคิมูจิ๊ อยู่เลย   ออกมายืนตั้งสติหน้าสถานี มองขึ้นไปบนฟ้า บรรยากาศชวนให้อยากนอนขดใต้ผ้าห่มไฟฟ้าอุ่นๆ เหลือเกิน แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 51 13:17:43 จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 13:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 34 น่าไปจังเลยครับอาหมู... ดูนกจับปลาเนี้ยะ แต่ก็แปลกนะ ที่นกมันไม่บินหนีเจ้าของไปหากินเอง ซื่อสัตย์พอๆ กับน้องหมาเลย เดี๋ยวทริปคันไซครั้งต่อไป จะลองหาทางแวะไปดูดีกว่า ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ =================================== ตามธรรมเนียม ถึงแล้วต้องไปแวะไปสักการะขอข้อมูลจากศาลเจ้าแม่ TIC ที่หน้าสถานีก่อน ของเค้าแรงและเชื่อถือได้ 100% ครับ อูลา... อูร่า...... จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 13:24:04 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ในศาลมีเ้จ้าแม่ 2 องค์ องค์ที่สูงอายุ ให้ลายแทงมา 2 แผ่น เป็นแผนที่เมืองกับโบรชัวร์แนะนำสถานที่ที่น่าสนใจ องค์ที่สาวกว่า ให้ลายแทงร้านอาหารในเมืองมา แต่อันนี้ต้องขอเพิ่ม ถ้าไม่ขอจะไม่ได้ ที่เที่ยวที่ลายแทงเค้าแนะนำมาว่าเป็น "Must see" ก็คือ   - Old Private House หรือ ซอยบ้านดำ ย่านการค้าโบราณของเมืองที่เหมือนนั่งไทม์แมชชีนย้อนยุคไปร้อยปี   - Morning Markets แผงลอยตลาดสดริมแม่น้ำ ที่ชาวบ้านเอาของป่า ของพื้นเมือง และของที่ระลึกทำมือมานั่งขายตอนเช้าจนถึงเที่ยง   - Shinhotaka Ropeway กระเช้าลอยฟ้าไต่ขึ้นเทือกเขา Northern Japan Alps ดูวิวสุดสวยอลังการที่ผมเคยรีวิวไปแล้วในตอนที่ 4   - Hida no Sato หรือ Hida Folk Village พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่เก็บรวบรวมบ้านโบราณอายุหลายร้อยปีของย่านนั้นกว่า 30 หลัง อันนี้จะรีวิวอีกทีตอนต่อไป   - Takayama Jinya หรือ Historical Government House ศาลาว่าการเมืองในสมัยเอโดะ ที่อนุรักษ์ไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ ทั้งหมดสามารถวางแผนเดินเที่ยวให้ครบภายใน 2 วัน ได้แบบชิวชิวเหลือเหลือ รายละเอียด เข้าไปดูใน Link นี้นะ http://www.hida.jp/english/ ส่วน Shirakawa Go หรือ หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวะ ที่หลายคนในบอร์ดพูดถึงกันบ่อยๆ มันอยู่นอกเขตเมืองทาคายาม่า ผมขอไม่นับรวมนะครับ ถ้าอยากไป ก็ต้องบวกเวลาเพิ่มอีก 1 วัน รายละเอียดเจ๊ครีมเคยรีวิวไว้แล้ว ตามนี้ http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2007/11/E5980269/E5980269.html ตอนนี้จะพาเดินเล่นเรื่อยเปื่อย เฉพาะในเขตตัวเมืองทาคายาม่าเท่านั้น จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 13:34:59 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ทาคายาม่าเป็นเมืองเล็กบนที่ราบท่ามกลางอ้อมกอดขุนเขา Northern Japan Alps มีแม่น้ำมิยากาว่าไหลผ่านกลางเมือง ถ้าดูในแผนที่จะอยู่ตรงกลางประเทศพอดี ไม่มีด้านไหนติดทะเล ให้อารมณ์เหมือนไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนเลย แต่ดูโบราณและหนาวกว่าเยอะ ตัวเมืองชั้นใน ถ้าคุณชอบเดิน จะสามารถเดินเที่ยวได้รอบทั้งหมดภายใน 1 วัน ขอแนะนำความคลาสสิคของคนบ้านนอกอย่างผม.... ปั่นจักรยานเที่ยวครับ ตามโรงแรมเล็กๆ พวก Minshuku (โรงแรมที่ดัดแปลงจากบ้าน) หรือ Ryokan (โรงเตี๊ยม) มักจะมีจักรยานบริการให้ยืมฟรี หรือให้เช่าราคาถูกอยู่แล้ว ถ้าไม่มี ก็ไปเลือกเช่าจากร้านที่มีอยู่ 3 แห่งในเมือง ราคา 300 เยนต่อชั่วโมง มีโซนที่น่าสนใจในเขตเมืองชั้นในอยู่ 3 ส่วน ส่วนที่หนึ่ง เป็นย่านการค้าแบบปกติทั่วไป ส่วนที่สอง เป็นถนนช็อปปิ้งสวยๆ ที่สร้างขึ้นมาใหม่ให้เข้ากับบรรยากาศเมือง ส่วนที่สาม ย่านบ้านดำ ที่ไปแช่แข็งร้านค้าสมัยร้อยปีก่อน มาเปิดโชว์นักท่องเที่ยวในแบบ Real Live-ประวัติศาตร์ที่ยังมีลมหายใจ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 13:45:07 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เอากระเป๋าใบยักษ์ไปฝากไว้ที่ มินชูกุ คุวาตานิยะ โรงแรมที่ผมเลือกพัก (แต่เจ้าหน้าที่ TIC จองให้) แล้วเริ่มกันเลย รอบแรก ขอเดินชมเมืองอุ่นเครื่องกันก่อน รูปถ่ายต่อไปนี้อาจจะมืดบ้าง สว่างบ้าง สลับกันไปนะ เพราะถ่ายปนกันหลายช่วงเวลา ผมแวะไปเที่ยวรอบเมืองมาทั้งหมดสี่รอบใน 2 วันครับ ทั้งเดินและปั่นจักรยาน แต่เพื่อการต่อเนื่องของอารมณ์และอรรถรสของคนอ่าน ขออนุญาตเอามาร้อยเรียงต่อกันเป็นเรื่องเดียวเลยล่ะกัน หน้าโรงแรมเป็นวัดโบราณอายุพันกว่าปี ชื่อ วัดฮิดะ-โคะคุบุนจิ อายุเก่าที่สุดในเมือง สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 1289 นู่น... ของเดิมไฟไหม้ไปหลายร้อยปีแล้ว ที่เห็นอยู่นี่ สร้างใหม่เมื่อซักสองสามร้อยปีก่อนเอง แล้วบูรณะเพิ่มเติมมาเรื่อยๆ ไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยก่อนนะ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 13:54:07 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ของน่าชมของวัดนี้ คือ เจดีย์ไม้ 3 ชั้น ที่ยืนอวดความงามอยู่ข้างประตูวัด เป็นศิลปะญี่ปุ่นโบราณที่แปลกตามาก โดยเฉพาะลายแกะสลักไม้ตรงฐานรองรับชายหลังคาเจดีย์แต่ละชั้น คนที่รักงานสถาปัตกรรมแบบเอเชีย น่าจะชอบ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 13:56:56 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อาหมูได้ไปดูเค้าตกปลาด้วย ดีจังง่ะ เคยอ่านเจอ เค้าตกแบบนี้ให้ดูช่วงสั้นๆ หน้าร้อนต่อหน้าร่วง สิ้นสุดประมาณ ปลายกันยา เนี่ยแหละ อยากไปดูใจจะขาด แต่เวลาไปมันไม่ได้ อีกอย่างคนแห่กันไปมืดฟ้ามัวดิน ที่พักอย่่างแพง อาหมูได้ไปดูกับตา ไฮโซวมั่กมากค่า ปล. หาอ่านได้จากหนังสือเที่ยวญี่ปุ่นที่มีดารา ๕ คนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์น่ะ ที่เล่มละ ๒๐๐ อะ จำชื่อหนังสือไม่ได้เลี้ยว จากคุณ : bangkok dream - [ 13 ส.ค. 51 14:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เดินลัดเลาะเข้าไปในโซนแรก ที่อยู่ถัดจากสถานีรถไฟ ก็เหมือนย่านการค้าตามเมืองอื่นๆ ทั่วไป ไม่น่ามีอะไรแตกต่าง.. ยกเว้นเรื่องเดียวคือ "อากาศ" ที่ช่างเย็นสะอาดบริสุทธิ์ หายใจโล่งปอดอย่างเหลือเชื่อ แม้ว่าจะเดินอยู่ริมถนนที่มีรถวิ่งผ่านตลอดเวลาก็ตาม อเมสซิ่ง....!!! จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 14:03:14 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อากาศดี คงเพราะที่นี่ไม่มีใครใช้รถเก่า ไอ้ประเภทควันดำๆ สภาพเหมือนกระป๋องปลูกสะระแหน่ผุวิ่งได้ ยังไม่เคยเห็น จะด้วยกฎหมายกำหนด หรือรถราคาถูกมากก็แล้วแต่... ใช้ไปซัก 3-4 ปี เด๋วเซียงกงเมืองไทยก็ไปกว่านซื้อเอาเครื่องมือสองมาขายต่อเองล่ะนะ ตามซอยเล็กๆ ที่แยกจากถนนใหญ่เข้าไป จะไม่ลาดยาง แต่ปูด้วยบล็อคปูพื้นถนน เน้นให้ สวย สะอาด สงบ และมีเสน่ห์ น่าเอาเสื่อไปปูนอนขี้เกียจอยู่หน้าบ้านมาก ลงทุนแพงซักหน่อย แต่ทำให้ซอยบ้านคนธรรมดา กลายเป็นสถานที่น่าเดินเล่นไปได้ เอากะเค้าซิ แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 51 14:24:15 จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 14:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อ้าว ดูปลาที่ญี่ปุ่นนี่มันแพงมากเลยรึเจ๊... ว้า... งั้นเก็บตังค์ไปดูีที่เมืองจีนแทนก็ได้ฟร่ะ... ว่าแต่มันอยู่เมืองไหนกันเนี๊ยะ ลืมจดชื่อไว้ เมืองที่มีวิวแม่น้ำกับภูเขาสวยอลังการ ชื่ออะไรจิ๋วๆ เนี๊ยะแหละมั้ง ใครรู้ช่วยบอกที... ช่วงนี้ใช้สมองเยอะ ร่างกายขาดโอเมก้า 3 และมาสด้า 6 ============================================== ร้านค้าและบ้านชาวเมืองที่สร้างขึ้นใหม่ในย่านนี้ จะพยายามออกแบบไม่ให้นอกลู่นอกทาง ต้องเก่าแต่ไม่คร่ำครึ สวย เรียบ และกลมกลืนไปกับบรรยากาศโดยรอบ ช่วยกันรักษา Theme ไว้ได้ดีถึงดีมาก ชุมชนแข็งแรงจริงจริง... จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 14:23:18 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าเดินถนนแล้วเจอบรรยากาศนุ่มนวลชวนฝันหวานแบบนี้ เป็นผู้หญิงคงแทบละลาย เป็นผู้ชายก็คงแต๋วแตก..... กันบ้างหล่ะน่า! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด........... !!! จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 14:26:21 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ถึงโซนที่ 2 - ถนนช็อปปิ้งใจกลางเมือง ตอนรับนักท่องเที่ยวด้วยแมวกวักตัวโต และคงกลัวว่าอิทธิฤทธิ์จะไม่แรงพอ คนสร้างเลยให้แมวกวักถือเบ็ดกับปลาโค่ย ที่เป็นสัญลักษณ์ของเอบิซึ เทพแห่งการประมงและค้าขาย ไปด้วยพร้อมกัน ทั้งกวักทั้งอวยไปพร้อมกันเลยว่างั้น... บ้านเค้ายกย่องให้ แมว กับ อีกา เป็นสัตว์เทพที่ปกป้องสิ่งชั่วร้ายได้ครับ อีกาญี่ปุ่นตัวโตหยั่งกะเป็ดเทศ เห็นแล้วขนลุก จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 14:30:08 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ไปในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั่นแหละครับ รู้สึกจะเป็นปีแรกแรกที่มาสด้า เอา MX-5 ออกมา เพราะหลังจากนั้น ก็ได้ไปขับรถ MX-5 ที่เมืองของมาสด้า ฮิโรชิมา ถ้าจำไม่ผิด ก็น่าจะสิบกว่าปีมาแล้วละครับ ต้องไปพักที่โรงแรม แล้วเปลี่ยนชุดเป็นยูกาตะ ลงมาเพื่อลงเรือ กินอาหารไปในระหว่างเขาล่องเรือ เพื่อไปดูนกจับปลา ดูเหมือนจะค้างที่ Gifu คืนเดียวครับ แล้วนั่งรถบัสเล็ก ต่อลงมาเลย ผมว่า น่าจะราวปี 91-92 อะไรแถวนั้นแหละ ช่วงนั้น ผมไปญี่ปุ่นบ่อยมาก ปีละหลายครั้ง เรียกว่า ไปจนเบื่อเลยละครับ เลยไม่รู้เลยว่า อะไรเป็น Hi-So หรือ Lo-So ฮ่า ฮ่า ตอนนี้ ไปได้ปีละสองครั้ง ก็ถือว่าเก่งแล้วละ ไปแล้วละ อะไรแบบนี้ เพราะค่าเครื่องบินแพงมาก ค่าอาหาร ค่าที่พักในญี่ปุ่นยังคงราคาเป็นเงินเยนเท่าเดิม แต่อัตราแลกเปลี่ยนนี่ แพงขึ้นมากเลยครับ ผมไปญี่ปุ่นตั้งแต่ 100 เยน=5 บาทไทย ค่าเครื่องดื่มบำรุงกำลังขวดละ 100 เยน ปัจจุบัน ก็ยัง 100 เยนอยู่มาก แต่ราคาไม่ใช่ 5 บาทเสียแล้ว กลายเป็น 32 บาทกันหมด ค่าบะหมี่ ใส่ไข่ฟองหนึ่ง เคย 400-500 เยน ปัจจุบันก็ยังเท่านั้นอยู่ ข้าวหน้าปลาไหล จานละ 1000 เยน ตอนนี้ ก็ยัง 1000 เยน แปลกดีนะ เขารักษาอัตราค่าครองชีพได้ดีเหลือเกิน เรานี่ซีเล่า ก๋วยเตี๋ยว จานละ 1-3 บาท ไม่มีเหลือให้ฝันถึงอีกแล้ว จากคุณ : xebec - [ 13 ส.ค. 51 14:31:58 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ตลอดสองข้างทางขนาบด้วยร้านขายของ ทั้งของกิน ของที่ระลึก บูติค ร้านของชำ  และร้านค้าทั่วไป แต่.... ไม่เห็นร้านสะดวกซื้อเชนใหญ่ๆ เลยครับ ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ของเมืองเค้าจะคอยดูแลไม่ให้พวกขาใหญ่มาทำลายบรรยากาศ และสมดุลการแข่งขันในเขตการค้าแถบนี้ ปล่อยให้อาม่า อาเจ๊ อาเฮีย เค้าค้าขายกันอย่างมีความสุข ตรงทางเท้า ทำเป็นแนวชายหลักต่อคาออกมาบังแดด ฝน และหิมะ พร้อมเก้าอี้ให้นักช็อปได้นั่งพักเหนื่อยอยู่ตลอดทางด้วย ผมเองก็ไม่ใช่นักช็อปเสียด้วย เลยไม่ค่อยสนใจจะเดินเข้าไปดูของในร้านแถวนี้ซักเท่าไหร่ ออกแนวเดินมองหน้าร้านแล้วจากไปมากกว่า เลยไม่มีข้อมูลอะไรมาฝาก จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 14:38:56 ]

ความคิดเห็นที่ 47 นั่นหน่ะซิครับอาหมู แปลกใจอยู่เหมือนกัน ไม่ใช่แค่ราคาเท่านั้นนะครับที่ไม่ปรับ คุณภาพของอาหารและการปรุง ยังรักษาไว้เหมือนเดิมเป๊ะ ร้านอาหารดังๆ นี่เค้าขายกันมา 2-3 รุ่น ไม่มีใครเปลี่ยนใจไปทำอย่างอื่น เหมือนเค้าภูมิใจ และเป็นเกียรติที่ได้ทำหน้าที่สืบทอดร้านกันมากเลย รายการชิมอาหาร อย่าง ยุทธการกะทะเหล็ก มากิเรสเทอรองต์ หรือ ศึกตะหลิวผู้พิชิต ก็ชอบนำเสนอร้านอาหารแนวยกย่องเชิดชูซ่ะด้วย ================================== ถนนจะมีรถเยอะเฉพาะเส้นหลัก ส่วนตามซอยย่อย หรือในตรอก นานนานจะเห็นมีวิ่งมาซักคัน มอเตอร์ไซด์ก็มีน้อยจนน่าตกใจว่าประเทศนี้หรือคือเจ้าของยี่ห้อหลักของมอเตอร์ไซด์ในบ้านเรา มีแต่จักรยานที่เยอะหน่อย ปั่นแข่งกับคนเดิน บนทางเท้าเหมือนเมืองอื่นๆ ของญี่ปุ่นนั่นแหละ สบายทั้งตา สบายทั้งสุขภาพ ยิ่งเดินก็ยิ่งเพลิน อิจฉาคนที่นี้จังเร้ย..... จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 15:03:57 ]

ความคิดเห็นที่ 48 มีศาลเจ้าเล็กๆ ซ่อนตัวอยู่อย่างถ่อมตน ในตรอกเล็กๆ แถวนั้น ศาลเจ้ากับคนค้าขาย ไม่ว่าญี่ปุ่น จีน หรือไทย เห็นคู่กันตลอดเนอะ ขนาดซ่อนอยู่ในตรอก ยังทำซ่ะน่ารักเชียว ย่อส่วนไปหมดทั้งเสาโทริ รูปปั้นสิงห์ และตัวศาลเจ้า จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 15:27:40 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เดินไปเจอร้านขายแกงกะหรี่เนื้อตรงกลางซอยเล็กๆ น่ารักหลังนี้ ดูเรียบหรู ดูดี ใช้ได้เลย ยังไม่ได้ลองชิม แต่เห็นมีคนเดินเข้าไปกินอยู่เรื่อย ท่าทางจะใช้ได้ ถ้าคุณพี่คุณน้อง มีโอกาสพาหวานใจไปเที่ยวที่นี่ ลองจูงมือกันไปกินกลางวันที่ร้านนี้ดู น่าจะได้ความทรงจำที่แสนหวานเพิ่มอีกเรื่องนึง แล้วกลับมาเ่ล่าให้ฟังด้วยนะ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 15:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เมืองมันสวย บรรยากาศก็ดี จนไม่อยากจะกะเกณฑ์อะไรกับชีวิตตอนนั้น ปล่อยให้เท้ามันเดินไปเท่าที่ใจอยากสัมผัสก็พอ เดินมาสุดทาง ก่อนข้ามสะพานแดงนาคาบาชิ เจอทาคายาม่า จินยะ ศาลาว่าการเมืองสมัยเอโดะ อยู่ทางขวามือ บูรณะขึ้นใหม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ถ้าพาเด็กเล็กมาด้วย รีบพาเข้าไปเลยครับ สอนเด็กด้วยสิ่งที่เห็นและจับต้องได้ จะสร้างความทรงจำที่ดีให้ลูกของคุณไปตลอดการ เปิดทุกวัน 8.45 ถึง 17.00 น. ค่าเข้า 420 เยนครับ แต่วันนี้ผมยังอยากเดินดูบ้านเืมืองกลางแจ้งมากกว่า... จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 15:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เลยแค่แวะฉี่ครับ.... ห้องน้ำอยู่ข้างประตูจินยะนั่นแหละ อุ๊แม่เจ้า! ห้องน้ำสาธารณะหรือนี่...... ดูดีกว่าน้องนอนผมซ่ะอีก ทุกข์หนักทุกข์เบาเข้าได้เต็มที่ไม่ต้องกลัวสกปรกครับ สะอาดมากตามมาตรฐานญี่ปุ่นเหมือนเดิม การเข้าห้องน้ำที่เมืองจีน กับ ญี่ปุ่น ให้ความรู้สึกต่างกันราวนรก กับ สวรรค์ ถ้าต้องเข้าห้องน้ำที่อยู่นอกเขตเมืองของจีน ขอวิ่งเข้าป่าซ่ะดีกว่า.... ตอนนี้ไม่รู้ว่าพอมีโอลิมปิคแล้ว จะปรับปรุงขึ้นรึเปล่า เห็นแม่บ่นอยากไป... แต่นึกถึงน้องน้ำทีไร หมดอารมณ์ทุกที จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 15:58:04 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ใครอยากนั่งรถลาก(ด้วยคน) เที่ยวรอบย่านบ้านดำ คิวรถลากจะจอดรอนักท่องเที่ยวอยู่หน้าจินยะ ราคา 5,000 เยนต่อครึ่งชั่วโมง นั่งได้สองคน คนลากรถหลายคนพูดภาษาอังกฤษได้ และพร้อมจะเป็นไกด์ที่น่ารักให้นักท่องเที่ยวได้ประทับใจทาคายาม่าได้อย่างเข้าถึงมากขึ้นครับ ส่วนผมก็เดินต่อไป ข้ามสะพานแดงตรงไปย่านเมืองเก่า โซนที่ 3 จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 16:00:36 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ลงสะพานเลี้ยวซ้ายซอยที่สอง เจอแล้วครับ... ซังมาฉิ ซูจิ หรือ Old Private House หรือเอาตามที่พวกเราเรียกกัน ก็ “บ้านดำ” พิพิทธภัณฑ์มีชิวิตของคนแถวนี้ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 16:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 54 บ้านดำ เป็นบ้านส่วนตัวของพวกพ่อค้า และชาวเมืองทาคายาม่าทั่วไป ที่เปิดร้านอยู่ตรงย่านนี้ต่อเนื่องกันมาหลายชั่วอายุคน ตั้งแต่ยุคซามูไรเดินพกดาบเต็มเมือง จนถึงเดี๋ยวนี้ สภาพเมื่อสองร้อยปีก็ยังโดนแช่เย็นไว้ได้เกือบ 100% เปลี่ยนไปไม่มาก มีแต่จะถูกบูรณะให้ใหม่ขึ้น น้ำในคูหน้าบ้านยังใสแจ๋ว... แทบจะวักล้างหน้าได้ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 16:10:58 ]

ความคิดเห็นที่ 55 โรงหมักสาเก ก็ยังหมักเหล้าด้วยถังไม้โบราณ ส่งกลิ่นหอมหวลชวนเมาเหมือนเมื่อสองสามร้อยปีก่อน ลูกกลมๆ เขียวๆ ที่แขวนอยู่ตรงประตูร้าน เค้าบอกว่าเป็นลูกมอส จะแขวนไว้ตั้งแต่ตอนเริ่มหมักสาเก ลูกยังเป็นสีเขียวเข้ม พอลูกมอสเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มทั้งลูก แสดงว่าสาเกรอบปีนั้น ใช้เมาได้แล้ว ให้รีบเข้าไปซื้อมาชิม เอื๊อกกกกกกกกกกกกก ปล. ขอบคุณเจ๊ดรีมที่เือื้อเฟื้อข้อมูลครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 16:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 56 บางบ้านก็เปิดหน้าร้านโชว์ความภาคภูมิใจของบรรพบุรุษ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 16:22:28 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ของจริงครับ ดูใกล้ๆ ยังมีร่องรอยถูกของมีคมเฉือนตามขอบเกราะอยู่เลย ไม่รู้ว่าเจ้าของชุดจะม้วยคาเสื้อเกราะรึเปล่า... เดินผ่านตู้นี้ตอนดึกๆ คงหลอนน่าดู จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 16:24:29 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขาดไม่ได้สำหรับเมืองที่มีหิมะคลุมปีละ 4 เดือน ผักดองครับ สมัยโบราณพอใบไม้เริ่มแดง ชาวบ้านต้องรีบเก็บผักมาถนอมอาหารไว้กิน กลายเป็นภูมิปัญหาสืบมาถึงลูกหลาน ให้เปิดหน้าบ้านขายผักดองสูตรโบราณแบบนี้ คนแถบญี่ปุ่น เกาหลี และจีน เค้าทำผักดองกันเก่งมาก แค่ร้านนี้ร้านเดียวก็มีให้เลือกชิมมากกว่า 50 สูตร ถ้าไปเดินตามตลาดสดแท้ๆ ของญี่ปุ่น จะได้กลิ่นผักดองลอยมาแต่ไกล เหมือนเดินตลาดบ้านเรา แล้วได้กลิ่นปลาร้าโชยตลบประมาณนั้น จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 16:29:49 ]

ความคิดเห็นที่ 59 หลังนี้เป็นร้านทำตุ๊กตาญี่ปุ่นโบราณ มีทั้งแบบที่ทำด้วยกระดาษ กระเบื้อง และผ้า ปราณีตมาก.... ใครอยากได้ตุ๊กตาญี่ปุ่นแท้ๆ เอามาใส่ตู้โชว์ที่บ้าน หรือฝากผู้ใหญ่ เข้าร้านนี้ได้ติดมือมาแน่นอน แต่ราคาน่าขนลุกหน่อยนะ ชุดนึง แบบถูกที่สุด ก็ตกเกือบหมื่นเยน ถ้างบน้อย ซื้อเป็นของที่ระลึกเป็นตัวเล็กๆ ก็ได้ ก็ประมาณ 4-500 เยน จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 16:31:27 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ดูตัวอย่างงานฝีมือของร้านซิครับ ช่างคิดช่างทำมาก เหมือนมีชีวิตเลย จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 16:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ถัดมาเป็นร้านขายพวกถ้วยชามเขียนขายโบราณ ตุ๊กตาเซรามิค ทุกอันเป็น Hand made ฝีมือปราณีตสมราคา สงสัยคนญี่ปุ่นจะมีผีคิกขุสิงอยู่ในตัว ทำอะไรออกมาก็ดูน่ารักไปซ่ะทุกอย่าง แล้วไม่รู้สึกอาย หรือมองว่าเป็นเรื่องเด็กๆ ด้วย เคยเจอ Salary Man อายุเข้าวัยกลางคนแล้ว หน้าจะประมาณหัวหน้าแผนก ใส่สูทผูกเนทไทด์เรียบร้อย ดูน่าเกรงขาม แต่ถือกระเป๋าที่มีสายห้อยรูปการ์ตูนติดอยู่ บางคนหน้าตาโหดเหมือนยากุซ่า แต่พอยกมือถือขึ้นโทร มีตุ้งติ้งรูปโปเกม่อนติดอยู่ซ่ะงั้น จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 16:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 62 บ้านหลังไหน จะซ่อมแซมดัดแปลงต่อเติม จะต้องปรับสีและรูปลักษณ์ให้เข้ากับบ้านไกล้เคียง หลังนี้ไม่รู้ของเดิมเป็นโกดังเก็บของรึเปล่า รูปร่างถึงไม่ค่อยเหมือนชาวบ้าน แต่ตอนนี้เป็นร้านขายของที่ระลึก และสังเกตอะไรได้ไม๊ครับ ทุกบ้านมีไฟฟ้า มีโทรศัพท์ มีแก๊ซทำความร้อน เหมือนบ้านสมัยใหม่ แต่ไม่เห็นสายไฟหรือสายโทรศัพท์ห้อยระโยงระยางอยู่หน้าบ้านให้เสียทัศนียภาพเลย ทุกอย่างถูกร้อยลองท่อ และฝังลงใต้ดินทั้งหมด ทำกันเป็นระบบและเนี๊ยบไปหมด ตลาด 100 ปี 3 ชุก ของบ้านเรา น่าจะเอาอย่างบ้างนะ ไม่เริ่มวันนี้ ก็ไม่มีวันหน้า......... ทุกอย่างยังไม่สาย...... แล้วจะไปบอกใครดีล่ะเนี๊ยะ รอสมัครเป็นกำนันสามชุกก่อนล่ะกัน จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 16:41:09 ]

ความคิดเห็นที่ 63 บางบ้านก็ดัดแปลงเป็นร้านกาแฟ บรรยากาศโบราณๆ ถ้าไม่มีป้ายไฟคำว่า Caf'e ติดอยู่ คงนึกไม่ออกว่าเป็นร้านกาแฟ ไม่รู้ขายกาแฟโบราณด้วยรึเปล่า ไม่ได้เข้าไปชิม ถ้าเข้าไปเจอใช้ถุงชงกาแฟเหมือนร้านอาโกบ้านเรา คงฮา...แตก จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 16:43:35 ]

ความคิดเห็นที่ 64 อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรระหว่าง ร้านอาหาร หรือ เรียวคัง ข้อควรระวัง อย่าเดินเข้าบ้านเค้าซี้ชั้วนะครับ เพราะไม่ใช่ทุกบ้านที่จะเปิดเป็นร้าน บางบ้านเป็นบ้านที่เจ้าของเค้าใช้พักอาศัยอยู่จริงๆ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 16:58:10 ]

ความคิดเห็นที่ 65 แต่หลังนี้ให้เ้ข้าได้แน่นอนครับ เป็นพิพิธภัณฑ์ชื่อ Hida Minzoku Koko Kan เก็บของโบราณ ที่เคยเป็นงานของย่านบ้านดำนี้ เห็นบอกว่าเจ้าของเดิมเป็นนินจาเก่า ในบ้านมีกลไกหรือห้องลับด้วย แต่ไม่ได้เข้าไปพิสูจน์ครับ เพราะค่าเข้า 500 เยน แอบงกเล็กน้อย เก็บเงินไว้กินเนื้อฮิดะครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 17:02:49 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เอาใจคุณ agate นิดส์นึง ของที่ระลึกที่ขายแถวนี้ ร้อยละ 70 ต้องมีรูปร่างเป็นซารุโบโบะ หรือลิงน้อยเฮงเฮง แม้แต่ขนมเซมเบ้พวกนี้ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 17:06:07 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เดินดูจนขาขวิด ได้ซารุโบโบะติดมือมาแค่ตัวเดียว กลับไปโรงแรม ไปยืมจักรยานออกมาปั่นหลังโซนบ้านดำ อยากดูวัดโบราณบนเนินเขาด้านหลังเมือง แถวนั้นมีวัดเรียงติดกันเป็นพืดประมาณ 10 วัด กับศาลเจ้าอีก 2 แห่ง วัดทั้ง 10 อยู่อยู่เรียงรายไปตามเนินเขาที่ชันขึ้นไปเรื่อยๆ ชมได้แค่ 3 วัดแรก เพราะหมดแรงปั่น และตอนนั้นเย็นแล้ว หน้าหนาวฟ้ามืดเร็วมาก ถ้าขืนปั่นต่อไป ขากลับอาจตาลายเผลอปั่นตกดอยเอา ซุ้มประตูวัดนี้สวยดี เลยเอามาฝาก รู้สึกว่าจะชื่อวัดอันเรียวจินะ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 17:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 68 นั่งหนาวๆข้างสาวๆนี่หนาวจนแข็งมั่งป่าวครับ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 13 ส.ค. 51 17:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ไปนั่งดูอาทิตย์ตกข้างหอระฆังในวัด ไม่รู้เป็นไง...... อารมณ์ บรรยากาศ และ ความสงบ พอมาจะเอ๋กับความสวยสุดสุดของธรรมชาติตรงหน้า น้ำตาลูกผู้ชาย ซึมแหม่ะๆ ออกมาโดยไม่รู้ตัว ชายหน้ามึน เคราครึ้ม แต่งตัวเหมือนโจรซอกตึก ยืนเช็ดขอบตาแดงๆ ท่ามกลางแสงอาทิตย์สุดท้ายที่กำลังจะลับขอบฟ้า โรคจิตชมัด! จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 17:14:49 ]

ความคิดเห็นที่ 70 สุดยอดคับ ชอบบรรยากาศโบราณ ๆ แบบนี้ที่สุด จะมีโอกาสได้ไปไม๊เนี่ย จากคุณ : from a fish - [ 13 ส.ค. 51 17:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ยัง... ยังไม่จบโปรแกรมง่ายๆ 8 โมงเช้าวันต่อมา ก่อนไปปืน Japan Alps ที่ชินโฮทาคะ มีเวลาเหลือเฟือก่อนรถออกตอน 9 โมงครึ่ง เลยยืมจักรยานที่โรงแรมออกมาอีกรอบ อยากดูตลาดเช้าริมแม่น้ำ ตลาดเค้าเปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึงเที่ยง วันนี้ลองเปลี่ยนเส้นทาง เลือกข้ามสะพานเขียว ยานางิบาชิ ดูบ้าง จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 17:16:16 ]

ความคิดเห็นที่ 72 หลงทาง!! ต้องขับอ้อมบ้านดำ กลับมาที่เชิงสะพานปูนคาจิบาชิ ตลาดเช้าแห่งที่ 1 Miyagawa Moring Market จะอยู่เรียงรายไปตามริมฝั่งน้ำเชิงสะพานทั้ง 2 ด้านครับ กางเป็นเพิงชั่วคราว คลุมผ้าพลาสติกกันลมง่ายๆ แบบนี้แหละ ตลาดวายแล้วก็พับเก็บกลับบ้านใครบ้านมัน จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 17:17:51 ]

ความคิดเห็นที่ 73 สวัสดียามเย็นครับพี่ลาบราดอร์.... (มือ)แข็งกระโด๊กโป๊กเป๊กเลยครับพี่ ไม่รู้ไปคราวนี้มันเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าผมจะนั่งรถ ลงเรือ ขึ้นรถไฟ มีอันจะต้องได้นั่งข้างสาวญี่ปุ่นตลอดโดยไม่ได้ตั้้งใจทุกครั้ง เจอตั้งแต่รุ่นป้ายันเด็กน้อย แล้วพี่คิดดู สาวญี่ปุ่นไม่นิยมใส่กระโปรงหรือกุงเกงยาวเกินหัวเข่า ไม่ว่าจะหนาวสั่นงันงกแค่ไหนก็ตาม พิสูจน์ด้วยรูปข้างล่างนี้ครับ เหตุเกิดตอน 8 โมงเ้ช้า ริมถนนหน้าสถานีรถไฟทาคายาม่า อากาศหนาว...... จนขาสั่น แต่เธอก็ไม่ยั่นด้วยกุงเกงรัดรูปสั้นแค่คืบ! ยุบหนออออออออ........ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 17:29:28 ]

ความคิดเห็นที่ 74 สวัสดีครับคุณ from a fish ถ้าเราตั้งมั่นว่าอยากจะไป และไม่ละสายตาไปจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซักวันจะสมหวังครับ ผมเชื่ออย่างงั้น.... ขอบคุณครับที่ตามชมและทักทายกัน ================================ แต่วันนั้นเป็นวันธรรมดาต้นเดือนมีนา ที่อากาศกำลังยะเยือกต่ำกว่า 10 องศา พ่อค้าแม่ค้าส่วนมากเลยยังไม่ออกมาตั้งร้าน หรืออาจจะเบี้ยว ไม่ออกมาเลยด้วยซ้ำ ทางต้นๆ ตลาด มีร้านอยู่หน่อยเดียวเอง จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 17:32:26 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ปั่นไปจนสุดตลาด เจอร้านกำลังเริ่มตั้งแผงกันหนาตาหลายร้าน เดินดูไปหลายร้าน แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง ก็เรื่อยเปื่อยมาหยุดที่ร้านนี้ เป็นของสองสามีภรรยา กำลังช่วยกันฝ่าลมหนาวจัดหน้าร้าน ขายอะไรมั่งน้า..... จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 17:35:30 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ซารุโบโบะอีกแล้วครับ แต่คราวนี้เป็นแบบทำมือแบบบ้านๆ โดยฝีมือคุณแม่สามี ตัวภรรยาพูดภาษาอังกฤษได้คล่องปรื๊ด อัธยาศัยดีมาก ชวนคุยซ่ะเลย.... ไม่ได้พูดกับใครเป็นเรื่องเป็นราว(นอกจาก จนท. TIC) มาหลายวันแล้ว เธอบอกว่าเป็นคนทาคายาม่า แต่เคยทำงานที่โตเกียว พอแต่งงานก็กลับมาอยู่บ้านกับสามีที่นี่ ตามธรรมเนียมทั่วไปของศรีภรรยาญี่ปุ่น ที่ไม่ว่าจะจบสูงแ่ค่ไหน ทำงานอะไร พอแต่งงานแล้วก็จะลาออกมาปรนนิบัติสามีอย่างเดียว เลยแซวเ่ล่นๆ ไปว่าออกมาทำอะไร พอกินรึ เธอหันมายิ้ม แล้วให้คำตอบซื่อๆ แบบคนต่างจังหวัดขนาดแท้ ที่ผมฟังแล้วอึ้ง...ไปพักนึงว่า ทำไร่ทำนา เก็บของป่า เป็นแม่้ค้าตลาดเช้า It's enough เธอว่างั้น..... ไม่รู้จะต่อมุขยังไง เลยแก้งงด้วยการถามว่า ไอ้พวงพริกแห้งที่วางอยู่ข้างแผงขายซารุโบโบะนี่มันคืออะไร เครื่องรางไล่ปีศาจรึ? ทั้งๆ ที่เธอยุ่งจัดร้าน แต่ก็รีบกุลีกุจอตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเหมือนเดิมว่า เป็นพริกทำกับข้าวนี่แหละ มัดแบบพื้นบ้านโบราณ จะได้เอาไปแขวนข้างเตาในครัว ให้หยิบใช้ได้ง่าย ตอบไปหันไปสั่งคุณสามีให้จัดร้านไป (ภรรยาทั่วโลก มักมีอำนาจลับหนือสามีเสมอ...) ใครว่าคนญี่ปุ่นชอบหยิ่ง เก็บความรู้สึก และไม่คุยกับคนแปลกหน้า ผมว่าคงเป็นเฉพาะคนในเมืองใหญ่ ที่จะว่าไป ก็เหมือนกันไปหมดแทบทุกประเทศ แต่ถ้าลองไปสัมผัสกับคนบ้านนอก ไม่ว่าตรงไหนของมุมโลก จะเจอความซื่อ สดใส มีน้ำใจ มองโลกในแง่ดี และเผื่อแผ่ความสุขนี้กับทุกคนที่เข้าไปหาพวกเค้า มั่งมีเงินทอง กับ ร่ำรวยความสุข...... ถ้าเลือกได้อย่างเดียว ผมขอเลือกอย่างหลังครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 17:53:46 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เลยอุดหนุนซารุโบโบะของร้านนี้มาตัวนึง 350 เยน เหมือนจะดูแพงไปนิด แต่เห็นความตั้งใจช่วยกันทำมาหากินของทั้ง 2 คนแล้ว ไม่คิดอยากต่อราคาแม้แต่เยนเดียวเลยครับ แค่ซารุโบโบะตัวเดียว ก็เล่าได้เป็นตุเป็นตะเลยเนอะ คนเรา.... ขี้โม้จริงจริงเลย ต่อไปจะไม่โม้อีกแล้วคร๊าบบบบบบบบบ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 17:59:08 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ปั่นกลับมาดูตลาดเช้าแห่งที่สอง ที่หน้าจินยะ-จวนท่านเจ้าเมือง ก็สภาพเดียวกัน มีพ่อค้าแม่ค้ามาขายกันบางตา ถ้าซักเดือนเมษา แม่ค้าคงตรึม จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 18:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เพราะยังเป็นหน้าหนาว พืชผักอะไรก็ไม่ค่อยมีให้เก็บมาขาย ของส่วนมาก ก็เลยเป็นผลไม้อึดๆ พวกส้มญี่ปุ่นหัวปูดๆ (เดกาปอง) กับแอปเปิ้ลลูกยักษ์ หรือไม่ก็ผักดอง และขาดไม่ได้ ซารุโบโบะแฮนด์เมดเหมือนเดิม ไม่ซื้อแล้วครับ ไปต่อดีกว่า จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 18:03:03 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ปั่นย้อนกลับมาที่ถนนบ้านดำ เพราะอยากรูปบ้านดำยามเช้าตอนไร้ผู้คน ชอบนะ.... ให้อารมณ์พิเศษเหมือนใช้โทรศัพท์วิเศษของโดราเอมอน สั่งให้โลกนี้ไม่มีคนเหลืออยู่เลย ทั้งถนนเงียบกริบ.... มีแต่เสียงหอบแฮ่กๆ ของตัวเองกลางสายหมอกอันบางเบายามเช้า อยากลงไปนอนกลางถนน ถ่ายรูปตัวเอง แล้วตั้งชื่อว่า Alone in Takayama แต่ไม่มีขาตั้งกล้อง! จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 18:08:20 ]

ความคิดเห็นที่ 81 มุมนี้เป็นมุมที่หนังสือ และ web ท่องเที่ยวแทบทุกอัน จะต้องถ่ายเอาไปลง ถ้าจะพูดถึงบ้านดำ ดูแล้วหลายท่านอาจจะยังไม่คุ้น... จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 18:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เทียบกับรูปที่เอามาจาก web ท่องเที่ยวเมืองทาคายาม่า ที่ถ่ายตอนช่วงหน้าร้อนดูซิครับ เถาต้นไม้แห้งๆ ที่ห้อยอยู่หน้าร้าน จะกลายเป็นพุ่มดอกไม้สีสวย ตรงนี้ คือ มุมถ่ายรูปมาตรฐานของคนรักทาคายาม่าครับ ขอแนะนำ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 18:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เวลายังเหลืออีกนิดหน่อย เลยอยากทดสอบความอึด ปั่นจักรยานขึ้นเนินด้านหลังถนนบ้านดำอีกซักครั้ง เพราะดูแผนที่แล้วเค้าบอกว่า บนเนินเขาลูกนี้มีซากปราสาททาคายาม่าให้ชม แต่ขึ้นไปได้แค่ครึ่งทาง ลิ้นแทบจุกปาก คุณพระ!.... เนินชัน ชัน และชัน ไม่ยอมหยุดชันซักกะที ปั่นไม่ไหวแล้วครับ ลงจูงสถานเดียว ถึงว่า บ้านแถวนี้เค้าถึงมีแต่รถยนต์... จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 18:16:24 ]

ความคิดเห็นที่ 84 หยุดพักดูวิวมันตรงนี้แหละ จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 18:17:09 ]

ความคิดเห็นที่ 85 บริเวณนั้นเป็นร้านน้ำชา กับร้านอาหาร ให้นั่งจิบน้ำชาไป ชมวิวเมืองทาคายาม่าไป จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 18:17:57 ]

ความคิดเห็นที่ 86 พอหันกลับไปดู ก็เจอทาคายาม่าในสายหมอกยามเช้า แบบนี้... จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 18:21:25 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ถ้าพกวิทยุไปตอนนั้น จะเปิด "Gonna Fly Now" Soundtrack หนัง Rocky ให้กระหึมไปทั้งป่า ยืนหันหลังให้กล้อง ชูมือขวาขึ้นฟ้า แล้วร้อง โยว่ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว สำเร็จแล้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 18:33:03 ]

ความคิดเห็นที่ 88 พอเดากันได้รึยังครับ ว่าทำไมทาคายาม่าของผมมันถึง ไม่มีแขน เพราะไปแล้ว เหมือนออกเดินทางไปเที่ยวตามความฝัน ถึงอากาศจะหนาวเข้าไปถึงกระดูก แต่ผู้คน และบรรยากาศที่ได้สัมผัส อบอุ่นและอิ่มใจมากมายเหลือเกิน ทาคายาม่าไม่มีแขนที่จะโอบกอดคุณไว้ แต่จะอยู่ในใจของทุกคนที่ไปเยือน.... ตลอดกาล ขอส่งท้ายด้วยคำพูดของพี่ปานที่เขียนถึงนิ้วกลม ชอบมาก ขอลอกมาฝากอีกซักเรื่อง ========================================= นิ้วกลมเอ๋ย ไปเที่ยวตอนที่เรายังเล็ก มันสนุกยิ่งกว่าอะไร ถ้าโตกว่านี้ ไปเที่ยวก็ไม่เคยให้ความรู้สึกเหมือนตอนเด็กอีกแล้ว ใครที่รู้สึกอย่างนั้นได้ตลอด ถือว่าโชคดีมากๆ ขอให้เที่ยวให้สนุกนะจ๊ะ ชื่นชม + รักเสมอ พี่ปาน ======================================== จบแล้วกระทู้อู้งานมาราธอน ตามที่สัญญาว่าจะจบภายใน 1 วันและ 1 ตอน กระทู้ยังไม่ปิดนะครับ มีอะไรฝากข้อความไว้ได้ แล้วจะเข้ามาตอบ และทักทายโดยไว ใช้เวลารีวิวมาเกือบ 9 ชั่วโมงแล้ว ถ้าไม่ออกไปไหน หลังชำรุดแน่นอน.... ไปหาข้าวกินก่อนนะครับ ดึกๆ จะเข้ามาทักทายกันใหม่ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 51 18:41:31 จากคุณ : NumAromDee - [ 13 ส.ค. 51 18:39:32 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ไปเลย ไปกินข้าวได้แล้ว อาก็กินแล้ว อิ่มแล้วด้วย กินกับข้าวง่ายง่าย หมูผัดพริก ปลาสลิดทอดกรอบ ซูปเต้าเจี้ยว แกงเหลือง เอาเนื้อออสเตรเลียออกมาวางไว้นอกตู้เย็น ตั้งใจจะปิ้งกิน แต่ไม่ทันแฮะ แม่บ้านเขาจัดกับข้าวมาให้ก่อน แล้วเลยเก็บเนื้อเข้าไปไว้ในตู้เย็นอีกครั้ง แค่คราวนี้แค่ไว้ช่องแช่เย็น ไม่แช่แข็ง เพราะพรุ่งนี้ จะกินมันแต่เช้าเลย ฮ่า ฮ่า ไม่มีเนื้อฮิดะ ก็กินเนื้อโกเบพลัดถิ่นได้วะ จากคุณ : xebec - [ 13 ส.ค. 51 18:56:37 ]

ความคิดเห็นที่ 90 เข้ามาชมรูปสวย และเก็บข้อมูลด้วยค่ะ เผื่อได้โอกาสตามรอยไปสักกกกกวัน จากคุณ : หน้ากลมผมม้า - [ 13 ส.ค. 51 19:26:08 ]

ความคิดเห็นที่ 91 จากสถานีไป Old Private House ใช้เวลานานแค่ไหนครับ แล้วจากสถานีไป Hida no Sato ใช้เวลานานแค่ไหนครับ กำลังจะไปอ่ะ แต่อยากไป Shirakawago ช่วงเที่ยง เห็นว่าจาก Takayama ไป Shirakawago เดี๋ยวนี้เหลือแค่ 50 นาที จริงเท็จอย่างไรรบกวนผู้รู้ชี้แจงครับ จากคุณ : Poirot - [ 13 ส.ค. 51 20:44:30 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ...:D....ยาวจริงๆตอนนี้...:D...ขอเก็บเป็นข้อมูลด้วยนะครับ....เมืองนี้ไม่เคยไป....กะว่าไปคราวหน้า[เมื่อมีตังค์ก่อนนะ]จะไปแน่นอนครับ...:D ....:D...ขอไปปั่นรีวิวของผมต่อ..สัญญาไว้ว่าจะลงเมือวานดันไม่ว่าง....วันนี้ท่าทางผมคงไม่ต้องนอนอีกแล้ว...:D...:D ...:D....สายรุ้ง...:D...[แค่รำพึงรำพันเล็กๆ]...:D จากคุณ : Death - [ 13 ส.ค. 51 21:10:38 ]

ความคิดเห็นที่ 93 มัวแต่ไปดูโอลิมปิค เข้ามาเจอตอนใหม่ซะแล้ว ดีนะเนี่ยที่มาทัน ปล. กระทู้นี้ก็สนุกสนานเช่นเดิมนะคะ แต่ทำไมมันดูเหงาๆยังไงไม่รู้นะ จากคุณ : แฟนอองรี - [ 13 ส.ค. 51 23:11:06 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ซากปราสาทบนเขา ตอนผมไปก็ว่าจะขึ้นไปดูเหมือนกัน คุณหนุ่มขี่รถถีบกางจ้อง แต่ผมเดินอ่ะ ขึ้นไปได้ถึงวัดแรกก็จอดซะแล้ว อิอิ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 14 ส.ค. 51 00:03:23 ]

ความคิดเห็นที่ 95 โถ หนาวเรอะคะ  แวะร้านสาเก ทำไมไม่หาอะไรอุ่นๆทานคะ  อย่าง  สาเกข้าวหอมๆร้อนสักแก้ว ^^ จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด - [ 14 ส.ค. 51 01:05:26 ]

ความคิดเห็นที่ 96 นับถือจริงๆ ทางมันชันขนาดเนี้ยยังสามารถปั่นจักรยานขึ้นไปได้ แค่เดินธรรมดายังจะแย่ จากคุณ : SkyBox - [ 14 ส.ค. 51 09:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ก็ขออนุญาตกระทู้คุณหนุ่มฯ ฝากรูปตลาดเช้าริมแม่น้ำ ช่วงฤดูร้อน(+ฝน) เอาไว้เปรียบเทียบกันนะครับ จากคุณ : SkyBox - [ 14 ส.ค. 51 09:38:52 ]

ความคิดเห็นที่ 98 สะพานแดงกับช่วงต้นไม้เขียวๆ ขออภัย ลืมรูป แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 51 09:45:39 จากคุณ : SkyBox - [ 14 ส.ค. 51 09:41:00 ]

ความคิดเห็นที่ 99 สะพานแดงกับช่วงต้นไม้เขียวๆ เดือนมิถุนายนนะครับ อากาศดีมากๆ ไม่ร้อน ไม่หนาว แต่เปียกฝน จากคุณ : SkyBox - [ 14 ส.ค. 51 09:44:11 ]

ความคิดเห็นที่ 100 สะพายเขียวกับสะพานแดง แล้วก็ตัวเฝ้าสะพานหน้าตลาดเช้า +++++++++++++++++++++++ ขออนุญาตตอบนิดหนึ่ง จาก Takayama ไป Shirakawako ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ เกือบสองชั่วโมงโดยรถบัส ข้อมูลนี้คือที่ผมไปมาเมื่อเดือนมิถุนายนนี้เอง ส่วนที่ถามว่าใช้เวลา 50 นาที ก็เป็นไปได้นะครับถ้าเช่ารถแล้วขับไปเอง สำหรับการไป Shirakawago สามารถเดินทางไปกลับโดยรถบัสจาก Takayama ภายในวันเดียวได้สบายๆ ครับ จากคุณ : SkyBox - [ 14 ส.ค. 51 09:55:57 ]

ความคิดเห็นที่ 101 สวัสดีเช้าวันใหม่ครับ วันนี้กลับมาเฝ้าคนงานนับของในโกดัง และนั่งอู้งานเหมือนเดิม เมื่อคืนว่าจะเข้ามาทักทาย แต่ผลกรรมจาการแอบอู้งานนั่งโพสกระทู้ทั้งวัน ทำให้เมื่อยหลัง จนหลับไปตั้งแต่ห้าทุ่มกว่าๆ ขนาดมีโทรศัพท์เข้ามา งัวเงียกดรับ แต่พูดไม่ออก ทางนู่นก็ไม่ยอมพูดอะไร เลยไม่รู้ว่าใครโทรมา.... ถ้าคนโทรหาผมตอนห้าทุ่มกว่าๆ เป็นพี่น้องในห้องบลูนี้ ก็ขออภัยด้วยนะครับ ที่งัวเงียจนรับสายไม่ได้ ====================== อาหมูครับ... ดีแล้วครับที่อาทานอย่างอื่นไปก่อน กินเนื้อก่อนนอน มันย่อยยาก ท้องจะอืดนะคร๊าบ เป็นห่วงนะครับ.... ====================== ยินดีครับสาวหน้ากลมฯ ถ้าอยากได้ข้อมูลอะไรเพิ่ม ขอมาได้เลย และขออวยให้มีโอกาสได้ไปในเร็ววัน ขอบคุณครับที่ติดตามชมและลงชื่อทักทาย ====================== ตอบคำถามคุณ Poirot ครับ - จากสถานีรถไฟ ไป บ้านดำ ถ้าเดินไปเรื่อยๆ ก็ประมาณ 20 นาทีครับ   - จากตัวเมืองถ้าจะไป Hida no Sato ต้องนั่งรถเมล์จากหน้าสถานีรถไฟไป ประมาณ 15 นาทีถึง จริงๆ ก็ไม่ไกลมาก แต่รถเมล์ญี่ปุ่นขับเรื่อยๆ ไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามมาตรฐานเป๊ะ ไม่เร่งแซง ไม่ปาดหน้า เลยถึงช้านิดนึง เด๋วว่างๆ ผมจะรีวิว Hida no Sato ให้อ่านกันอีกครั้งครับ - หมู่บ้าน Shirakawa ยังไม่เคยไป แต่ไปค้นข้อมูลให้แล้ว ใช่จริงๆ ด้วยครับ เป็นข่าว Update ว่า มีการตัดทางด่วนสายใหม่จาก Takayama ไป Shirakawa เิปิดใช้เมื่อ 6 ก.ค. 51 นี้เอง ช่วยย่นระยะเวลาจาก 2 ชั่้วโมง เหลือแค่ 50 นาทีเอง.... รายละเอียดตามนี้เลยครับ http://www.japan-guide.com/e/e5953.html ตารางเวลารถ Nohi bus มี 8 เที่ยวต่อวัน ค่าโดยสารเที่ยวละ 2400 เยน ตามนี้เลยครับ http://www.japan-guide.com/bus/shirakawago.html ขอบคุณนะครับที่ช่วยแจ้งข่าว เลยขอฝากบอกเพื่อนๆ ท่านอื่นที่กำลังจะเที่ยวแถบนั้นด้วย นี่แหละครับ ข้อดีของห้องบลู... เราจะช่วยกัน update ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอและรวดเร็วทันใจ ================================== สายรุ้งของท่านเดท เด๋วผมส่งเป็น CD ไปให้แทนดีกว่า.... ขอกันเหลือเกินนนนนนน โพสสายรุ้งให้ท่านเมื่อไหร่ อมยิ้มผมหายแน่นอน ให้ยืม log-in ของท่านเดทไม๊หล่ะ แล้วผมจะเขียนเรื่องสายรุ้งให้พร้อมสวดอำลาอมยิ้มของท่านไปพร้อมกันเลย..... แล้วจะตามไปเที่ยวสวิสกับน้องหมีน้อยต่อนะครับ ================================= ขอบคุณครับที่ยังไม่ลืมกัน สาวอองรีอ่านอ่านแล้วรู้สึกเหงาใช่ม่ะ แสดงว่าผมทำสำเร็จแล้ว คือกระทู้ตอนนี้ ผมตั้งเป้าไว้ว่าจะเล่าให้ เหงานำ สาระเล็กน้อย กับขำนิดๆ ดูเหมือนจะได้ผลพอสมควรนะเนี๊ยะ.... พูดไปงั้นแหละครับ จริงๆ แล้วเมืองนี้มันเหงาจริงๆ เพราะผมไปช่วงหน้าหนาว สีสันอะไรก็ไม่มี นักท่องเที่ยวก็น้อย บรรยากาศมันชวนเหงาถึงขีดสุดสำหรับคนปกติเลยครับ เลยพยายามสื่อให้คนอ่านเห็นบรรยากาศด้วยรูปและคำบรรยายหง่อยๆ ไปด้วย สำหรับผมคนไม่ปกติ บรรยากาศแบบนี้ยิ่งทำให้ผมอยากค้นหาว่า คนทาคายาม่าเค้าอยู่กันได้ยังไง? แล้วก็ได้ความอบอุ่นผสมความน่ารักของคนเมืองนี้กลับมาเต็มอิ่มเลยครับ การเดินทางครั้งนี้ ทำให้ความคิดของผมโตขึ้นเยอะเลยครับ แต่ก็ยังชอบนั่งดูการ์ตูนช่อง 9 ตอนเช้าวันหยุดอยู่ดี... ================================= ไม่ใ่ช่เก่ง หรืออึดอะไรหรอกครับ พี่ลาบราดอร์ เพราะบ้ามากกว่า... แถมรถจักรยานที่ยืมจากโรงแรม เป็นจักรยานจ่ายกับข้าวของคุณแม่บ้าน ยางยังอ่อนอีกตะหาก กินแรงชมัด แถมแถวนั้นเป็นที่สูง ความกดอากาศต่ำ ยิ่งเหนื่อยง่ายกว่าปกติอีก ยิ่งปั่นไป ก็ยิ่งเป็นที่อเน็จอนาจแก่ชาวบ้านที่พบเห็นยิ่งนัก ปั่นได้แค่ครึ่งทางหน้ามืด ลิ้นห้อยถึงตาตุ่มเลย.... ตอนลงจากเนินยิ่งมันส์สสส สุดสุดเลยครับ กดเบรคกันจนแทบไหม้ เกือบกลิ้งตกเขาอยู่หลายรอบ แต่สนุกชมัด อารมณ์ตอนนั้นเหมือนเด็ก 10 ขวบเลย =================================== กลัวเ้ข้าไปแล้วมันจะไม่หยุดแค่แก้วเดียวสิครับคุณก๊วย.... เจอหอมๆ หนุ่มๆ ร้อนๆ มึนๆ แบบนี้ ผมคงนั่งรากงอกอยู่ตรงร้านสาเกนั่นแหละ =================================== ขอบคุณรูปสวยๆ ของพี่ skybox มากเลยครับ แจมได้ตลอดเวลาเลยครับพี่ ไม่ต้องขออนุญาิตหรอกครับ เสริมได้ทุกเรื่องเลยครับ ผมจะได้ save เก็บไว้อ้างอิง ว่าแต่ทาคายาม่าหน้าร้อนนี้เขียวสวยและมีสีสรรหน้าดูมากเลยนะครับ ตั้งใจไว้ว่า เด๋วหน้าใบไม้แดงปีต่อไป จะไปอีก คราวนี้จะไป ม.ชิราคาวะด้วย จะได้เจอความสวยขาดใจกันไปข้างนึงเลย =================================== ทำงานก่อนนะครับเดี๋ยว บ่ายๆ เย็นๆ จะเข้ามาใหม่ จากคุณ : NumAromDee - [ 14 ส.ค. 51 11:25:30 ]

ความคิดเห็นที่ 102 คุณหนุ่ม สุดยอดเลยทู้ตอนนี้ เหงาจับจิต เราอะ ชอบสถานที่ท่องเที่ยวตอนเช้าๆ กับเย็นๆ ที่นักท่องเที่ยวกลับไปหมดแล้วมากๆ มันไม่มีคนเลย เวลาเราไปค้างแล้วรู้สึกเหมือนได้เห็นมิติพิเศษของที่นั้นๆ ไอ่เจ้าเนินที่คุณหนุ่มปั่นจักรยานขึ้นไปอะ เจ๊เดินขึ้นไป ตั้งแต่เช้า กว่าจะครบตามที่ไกด์บุ๊คบอกนะ บ่ายสองอะ นึกในใจ ตรูนี่ท่าจะบ้า เดินไปได้ตั้งครึ่งวัน โคดเหนื่อยๆๆๆๆ เลย แต่บรรยากาศที่นั่นก็สุดยอดจริงๆ นะ วัดๆ เงียบๆ ซึ้งอะ วันนั้นเลยซดสาเกไปซะอ่วมเลย แก้เหนื่อย ฮ่าๆๆๆๆ เจ๊เป็นโรคไรไม่รู้อะ เวลาตื่นไปทำงาน นาฬิกาปลุกจนแทบพังทุกวัน ไม่อยากตื่น เวลาไปเที่ยว ตื่นเองตอน  ๖ โมงเช้าทุกวันเลย กินข้าวอาบน้ำออกจากบ้าน เจ็ดโมง (นี่ขนาดญี่ปุ่นเวลาเร็วกว่าบ้านเราด้วยนะ) จากคุณ : bangkok dream - [ 14 ส.ค. 51 11:52:03 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ขอบคุณคุณ NumAromDee มากครับ ... ไว้ไป Shirakawago แล้วจะถ่ายรูปสวย ๆ มาฝากนะครับ ^^ จากคุณ : Poirot - [ 14 ส.ค. 51 20:25:41 ]

ความคิดเห็นที่ 104 มาลงชื่อเที่ยวด้วยคนค่ะ ตอนนี้ดูเหงาๆ แต่แฝงไปด้วยบรรยากาศญี่ปุ่นๆๆ  ชอบจังเลย ไว้ถ้ามีโอกาสจะไปตามรอยที่นี่นะคะ ปั๊มตังค์ก่อน ^v^ ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆ สนุกๆ มากๆเลยค่ะ จากคุณ : โมกุจัง - [ 14 ส.ค. 51 23:51:39 ]

ความคิดเห็นที่ 105 Shirakawa-go ใบไม้เปลี่ยนสีสวยมากค่ะ อย่าลืมไปให้ได้นะคะ (^___^*) ปล. เห็นด้วยว่าแม่ค้าที่ทาคายาม่านี่ ยิ้มแย้มใจดีมากค่ะ เคยไปนั่งคุยกับแม่ค้าขายผักดอง ทั้งๆที่บอกเค้าว่าซื้อไม่ได้นะ เพราะว่าต้องเดินทางอีกหลายที่ ถือไปด้วยจะเสียก่อนกลับถึงบ้าน เค้าก็ยังไม่ว่าอะไร เต็มใจคะยั้นคะยอให้ลองชิมโน่นชิมนี่ต่อไปทั้งๆที่รู้ว่าเราจะไม่ซื้อ 555 ชวนนั่งคุยอยู่นานทีเดียว สนุกดีค่ะ :) ปล.2 ถึกมากเลยนะเนี่ย ปั่นจักรยานหน้าหนาวเนี่ย ช่างทำไปได้ 5555 (ขิมเดินเอายังแทบหอบเลยค่ะ เวลาขึ้นๆเนินอ่ะ -__-) จากคุณ : k i m m i e z - [ 16 ส.ค. 51 11:53:37 ]

ความคิดเห็นที่ 106 สวัสดีค่ะ มาช้าไป 3 วัน ตกรถไฟเลย T_T (นึกว่าน้าปิ๊กเมืองลำปาง ไปหาหม่ามี๊ซะอีก) โอย เห็นแล้วอยากไปๆๆๆ อย่างมาก แต่พอเห็นรูปของคุณ skybox กับของน้องขิม ก็ยิ่งลังเล ว่าจะไปทริปสงกรานต์หน้า เลยดีไหมหนอ... กลัวเจอคนเยอะ เดี๋ยวอดเหงา จะกลายเป็นหงุดหงิดแทน แหะๆ ขอบคุณมากคร๊าบ สำหรับกระทู้ และข้อมูลมากมาย เพราะมีเครื่อข่ายโยงใย ของชาวบลูที่งามน้ำใจ ไม่แพ้ชาวญี่ปุ่นเลยน๊า... (ซาบซึ้งจริงๆ) ........................... ปล.1 แอบเห็นโฆษณาแฝงในกระทู้ด้วย เอ่อ เปลี่ยนไปทำฝ่ายการตลาดแล้วเหรอคะ อิอิ ไปดีกว่า...มาช้ายังปากเสียอีก ปล.2 อ่านกระทู้นี้กันแล้ว ยังมีสาวๆอยากให้น้าหนุ่มนำทริปกันอีกหรืเปล่านะ คงจะรู้กันแล้วมั้ง ว่าน้าเค้าไม่ได้อารมณ์ดีอย่างเดียว ยังมีอารมณ์อื่นด้วย ฮ่าๆ (อารมณ์เหงาไง.. ) ไปจริงๆแล้วจ้า จากคุณ : salamanka - [ 16 ส.ค. 51 15:46:28 ]

ความคิดเห็นที่ 107 -*- แล้วพี่หนุ่ม มีถ่ายรูปสาวๆ เยอะป่าว โชว์บ้างก็ดีนะ อิอิอยากเห็นอะ ตอนผมไปจำได้คนหนึ่งขึ้นใจเลยน่ารักมากๆ เห็นแล้ว บอกได้ คำเดียว ว่า ซึคิ เพราะ คนนี้น่ารักแบบธรรมชาติไม่ต้องแต่ง แถมทำงานเก่งอีก อยากมีแฟนแบบนี้จังเลย ถ้าไปคราวหน้าจีบได้จะจีบเลย 555+ แล้วก็ ถ้าผมไปคราวหน้าจะลองไปแบบพี่มั่ง น่าจะมัน ชอบอยู่แล้วแบบท้าทายนิ เพราะมันเร้าใจ ส่วนตอนนี้ของพี่ก็ยังสุดยอดเหมือนเดิม อ่านมันจริงๆ อิอิ อ่านแล้วอยากไปทาคายาม่า ใจจะขาด ผมชอบมากเลย ประเทศที่ใช้จักรยานเยอะๆ รถน้อยๆเพราะอากาศมันดีสุดๆๆ จากคุณ : chernza007 (chernza007) - [ 20 ส.ค. 51 00:11:09 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ขอบคุณมากเลยค่ะ สำหรับข้อมูล ได้ประโยชน์มากๆ เพราะกำลังจะไปช่วงเดือนพย.พอดี จากคุณ : Yamashiro - [ 21 ส.ค. 51 21:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ไม่ได้เข้าห้องบลูมาหลายวัน เจอทู้คุณหนุ่มอารมณ์ดีเพียบอ่านตาแทบถลน ชอบๆๆๆๆ เห็นสะพานแดงพาลให้ย้อนไปถึงตอนที่ได้ไปเยือนเมื่อคราวซะกุระยังบาน จากคุณ : ยูโรปาย - [ 3 ก.ย. 51 10:22:21 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 3 ก.ย. 51 13:54:15 ]