Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    * * (ไร้)สารคดีชุด I survived in Vietnam ตอนที่ 001* *

    เนื่องจากมีพ่อแม่พี่น้องสอบถามกันมามากมาย (ใครเขาไปถามแก อ้างไปเรื่อย) ถึงวิถีชีวิตในเวียดนาม บางคนอยากจะโบกเครื่องบินมาเที่ยวแบบไม่ง้อทัวร์ บางคนก็โชคดี บริษัทต้นสังกัดเนรเทศออกนอกประเทศ (แบบผม) แล้วก็เลยอยากรู้ว่า มาเที่ยวหรือมาอยู่เวียดนามมันลำบากไหม จะต้องทำพินัยกรรมหรือสั่งเสียอะไรที่บ้านก่อนมาบ้าง (เอ่อ เวียดนาม ไม่ใช่โคโซโวนะครับ)

    เวียดนามมีขนาดพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ..ไม่ใช่ว้อยยยยย... นั่นมันพื้นที่ทับซ้อน หยอกเย้า หยอกเย้า มีขนาดสามแสนกว่าตารางกิโลเมตร เป็นประเทศทรงยาว ความยาวจากเหนือจรดใต้ 1,650 กิโลเมตร มีชายฝั่งทะเลตั้ง 3,440 กิโลเมตร เมืองหลวงคือฮานอย เมืองเศรษฐกิจคือโฮจิมินห์ แต่ก่อนแบ่งออกเป็นสองประเทศคือเวียดนามเหนือกับเวียดนามใต้ ตอนนี้รวมกันแล้วแต่คนเหนือกับคนใต้ก็ยังไม่ชอบขี้หน้ากันอยู่ดี คนเหนือบอกคนใต้ฟุ้งเฟ้อ ชอบเที่ยว คนใต้บอกคนเหนือเห็นแก่ตัว โบราณคร่ำครึ แถมกินหมา (เฉพาะคนเหนือที่กินหมา)

    เอาคร่าวๆ แค่นี้ละกันนะครับ เพราะผมไม่ใช่ครูสอนภูมิศาสตร์ ใครอยากได้รายละเอียดทางภูมิศาสตร์เพิ่มเติมกรุณาไปลงทะเบียนเรียน ม.3 ใหม่ น่าจะได้ครบถ้วนครับ

    การจราจร
    ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มักจะหงุดหงิด เวลาขับรถอยู่ในประเทศไทย (โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรุงเต้บ) คุณควรจะย้ายสำมะโนครัวมาอยู่เวียดนาม (โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮานอยและโฮจิมินห์) สักประมาณหนึ่งเดือน แล้วคุณจะกลับไปขับรถที่เมืองไทยอย่างมีความสุขที่สุด และจากคนที่เกลียดตำรวจจราจรเมืองไทยเข้าไส้ อาจจะเป็นเป็นเกลียดน้อยลง เหลือแค่เพียงเกลียดเข้าปอดหรือม้าม เพราะการจราจรที่เวียดนามเป็นการจราจรที่วุ่นวายขายปลาช่อนเป็นอันดับต้นๆ ของโลก (คำสร้อยนี้ได้รับการประท้วงจากสมาคมแม่ค้าปลาช่อนโลกเพื่อให้ถอดถอนอยู่) แถมตำรวจจราจรวันๆ ไม่ทำอะไร นอกจากหาเรื่องจับแล้วเรียกเงิน (ตำรวจจราจรไทยยังมีโบกรถเหงื่อท่วมตัวบ้าง)

    สิ่งแรกเลยที่คุณจะได้สัมผัสเมื่อคุณมาถึงเวียดนามคือ เสียงแตรรถสารพัดชนิด ไม่ว่าจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์แต๋วตุ๊ดคันเล็กๆ ไปจนกระทั่งเบนซ์เอสคลาสหลังค่อมรุ่นใหม่ (มีเยอะเสียด้วย) ล้วนแล้วแต่บีบแตรกันสนั่นหวั่นไหว ทั้งนี้ การบีบแตรของคนเวียดนาม ไม่ได้หมายความว่า เขาโกรธ โมโห หรือบีบแตรด่าแม่กันเหมือนเมืองไทย (บีบแตรด่าแม่ คำแปล : บีบแตรดังยาวโดยคนที่บีบกล่าวถึงแม่คนขับรถคันอื่นๆ ในทางไม่ดีไม่งามไปด้วย) เพียงแต่อยากจะบอกว่า “กรูอยู่ตรงนี้ ระวังกรูหน่อย” เพราะคนขับรถที่เวียดนามมีกฎที่ถือกันเคร่งครัดอยู่ข้อเดียวคือ ระวังข้างหน้า

    งงกันละสิ งง ระวังข้างหน้าคืออะไร คือถ้าคุณขับรถอยู่ แล้วรถในซอยออกมาตัดหน้าโดยไม่มอง คุณก็ต้องยอมเหยียบเบรคให้มันไป รถมอเตอร์ไซค์ข้างทางจอดซื้อบั๊นหมี่ (ขนมปังฝรั่งเศสทา Pate แล้วใส่หมูยอกับผัก) แล้วจู่ๆ ก็พุ่งออกมาโดยไม่มองหลัง คุณก็ต้องเบรคเหมือนกัน ปล่อยมันไปก่อน จะไปปาดหน้า จิกหัวตบ ฆ่าล้างโคตร เหมือนที่เมืองไทยไม่ได้

    ฉันใดก็ฉันเพล ถ้าคุณขับรถหรือมอเตอร์ไซค์ไปไหนมาไหน จะออกจากซอย –ไม่ต้องมอง เลี้ยวตัดหน้าระยะกระชั้นชิด – ไม่ต้องมอง จอดๆ อยู่นึกจะกลับรถ – ไม่ต้องมอง แค่เหลือบดูว่ามันมาใกล้หรือยัง แม้ว่ารถหลังอยู่ห่างไปแค่ 10 เซ็นต์ก็ไปได้ เดี๋ยวมันก็เบรคเองแหละ

    ด้วยเหตุนี้เองคนเวียดจึงต้องบีบแตรกันเป็นวรรคเป็นเวร เพื่อบอกให้คนอื่นรู้ว่า กรูอยู่นี่นะ กรูอยู่นี่นะ ถึงขนาดว่าวันไหนแตรเสีย แทบจะจอดรถทิ้งไว้ที่บ้านเลยทีเดียว

    เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องจริง (ไม่ได้แสดงว่าเรื่องอื่นๆ ที่พูดมาทั้งหมดโกหก) มาจากบริษัทโปรดักชั่นเฮาส์ทำรายการทีวีที่เป็นญาติกันกับบริษัทผม วันนั้นมีกองถ่าย นัดกองไว้เจ็ดโมงเช้า ปรากฎว่าเจ็ดโมงก็แล้ว แปดโมงก็แล้ว คนขับรถพร้อมรถกองถ่ายก็ยังไม่มา แปดโมงครึ่งโน่นรถถึงได้โผล่มา พร้อมกับรายงานของคนขับว่า “รถแตรเสีย ไปซ่อมแตรอยู่”

    อ่ะ เข้าใจ ทุกคนขึ้นรถกองถ่ายออกไปถ่ายต่างจังหวัด ไกลเกือบสามร้อยกิโลเมตร ตอนไปไม่มีอะไร แต่พอตอนกลับเข้าเมือง พอคนขับเหยียบเบรคทีก็ได้ยินเสียงเหล็กสีกันที โปรดิวเซอร์จึงถามคนขับว่า รถเป็นอะไร

    “อ๋อ เบรคหมด”

    “เพิ่งเป็นวันนี้เหรอ” ก็นึกว่าเพิ่งเป็น เลยไม่ทันได้ซ่อม

    “เปล่า เป็นตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”

    “อ้าว แล้วทำไมไม่ซ่อม”

    “วันนี้ว่าจะทำเบรคก่อนมา พอดีแตรไม่ดัง เลยไปซ่อมแตรก่อน กลับไปแล้วค่อยซ่อมเบรค”

    เออ ครับ เจริญจริงๆ รถแตรเสียกับเบรคเสีย ซ่อมแตรก่อน

    ในเวียดนาม เวลาคุณนั่งรถ คุณจะรู้สึกได้ถึงอะดรีนาลีนที่พุ่งพล่านยังกับเล่นรถไฟเหาะ เพราะรถทุกชนิดบนถนน พร้อมจะพุ่งเข้าใส่รถที่คุณนั่งจากทุกทิศทุกทาง ขี่ย้อนศร กลับรถกลางถนน เลี้ยวตัดหน้ารถลงสะพาน สารพัดสารพันรูปแบบและวิธีการขับรถแบบ “ยอมตาย ไม่ยอมช้า” “ยอมตาย ไม่ยอมเปียก” (อันนี้เวลาฝนตก) “ยอมตาย ไม่ยอมติด (ไฟแดง)” คุณจะได้พบเจออย่างแน่นอน การจราจรที่เวียดนามจึงไม่เหมาะกับสตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคหัวใจ และผู้ที่ไม่ชอบความตื่นเต้นแบบระทึกค่อดๆ

    ส่วนใครชอบซาดิสต์ อยากระทึกกว่านี้ ให้ลองเดินข้ามถนนดู เพราะการข้ามถนนที่เวียดนามคือ เดินไปเรื่อยๆ อย่าหยุด แล้วรถจะพยายามหลบให้พ้นตัวคุณไปเอง..

    การเลี้ยวรถที่เวียดนามก็ไม่น่าจะเหมือนที่ใดในโลก เพราะที่นี่ถนนในเมืองหลวงมักจะเป็นวันเวย์ แบ่งออกเป็น 3 เลน เลนซ้ายสุดเป็นของรถยนต์ส่วนบุคคล เลนกลางเป็นรถปิคอัพ รถตู้ และรถบรรทุก ส่วนเลนขวาสุดเป็นรถมอเตอร์ไซค์ ส่วนใหญ่รถแต่ละประเภทต้องอยู่แต่ในเลนตัวเองเท่านั้นถ้าไม่อยากถูกจับ ดังนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นบ่อยๆ ก็คือ รถยนต์อยากเลี้ยวขวา ก็ต้องตัดไปสองเลน ส่วนมอเตอร์ไซค์ถ้าจะเลี้ยวซ้าย ก็ต้องตัดสองเลนเช่นกัน

    นรก! โค-ตะ-ระวุ่นวายเลยครับ ขอบอก แล้วก็ไม่มีการหยุดให้กันด้วย ถ้าไม่จวนตัวแบบไปไม่ได้จริงๆ

    (อ่านต่อตอนหน้า)

    แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 51 18:38:40

     
     

    จากคุณ : @ฟ้าหม่นไปใกล้ย่ำค่ำ@ - [ 13 ส.ค. 51 15:31:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom