PANTIP.COM : E6905605 ขอคำแนะนำการไป Las Vegas ช่วงปลายปีนี้ค่ะ [ท่องเที่ยวต่างประเทศ]

ความคิดเห็นที่ 8

มาเพิ่มเติม เวลากลางคืนผมแนะนำให้ออกมาเที่ยวตามโรงแรมต่างๆนะครับ แต่ละที่มีทั้งร้านอาหาร ทั้ง night clubs มากมาย มาถึง Vegas แล้วต้องลองไปเที่ยวดูนะครับ ตอนผมไปคราวที่แล้ว ไปอยู่ 4 วัน 3 คืน ผมว่ายังมีเวลาไม่พอเลยครับ ลองดูตารางที่ผมไปคราวที่แล้วนะครับ

วันแรก
-ขับรถจากแถว L.A.
-แวะ shop ที่ Fashion Outlet ที่เมือง Primm (อยู่ระหว่างทาง)
-มาถึงตอนบ่าย check in ที่โรงแรม NYNY
-ข้ามไปหาอะไรทานที่ Food Center ตรงตึกข้างหน้า MGM Grand
-ไปซื้อตั๋วดูการแสดง Fantasy เป็น topless show ที่ Luxor (งั้นๆไม่ประทับใจเท่าไร)
-พักผ่อนสักเล็กน้อย แล้วก็ไปเดินบน strip แวะตามโรงแรม
-กลับมาอาบน้ำแต่งตัว ข้ามไปทานอาหารเย็นที่ Rain Forest Cafe ที่ MGM (อาหารทั่วๆไป บริการไม่ค่อยประทับใจ อาจจะเป็นเพราะคนเยอะมาก)
-นั่ง tram จาก Excalibur ไปลงที่ Luxor แล้วดู show รอบสองทุ่มครึ่ง เสร็จประมาณเกือบสี่ทุ่ม กลับมานอนที่โรงแรม

วันที่สอง
-ตื่นประมาณสิบโมงเช้า ไปทาน buffet ที่ Bellagio ชอบเค็กของที่นี่มาก มีให้เลือกเยอะและอร่อย
-เดินเล่นที่โรงแรมและข้ามไป Caesars Palace ไปเดินดูของ มีที่ให้ shop ที่ใหญ่มาก อย่าลืมแวะไปทาน cheese cake ที่ The Cheesecake Factory ข้างในนั้น
-เดินข้ามฝั่งไปที่ the Venetian แล้วไปซื้อตั๋วของ the Blue Man Group show รอบดึก
-เดินเล่นถ่ายรูป
-ขับรถกลับ NYNY ไปอาบน้ำแต่งตัว
-ไปทานอาหารเย็นที่ Tao อยู่ใน the Venetian (โทรไปจองที่ไว้ตอนที่มาถึง Vegas ในวันแรก แนะนำให้โทรไปจองไว้ก่อน เพราะแต่ละวันจะมีคิวรอ ถ้าไม่จองก็ต้องไปต่อคิว และเวลาจองให้ request ที่นั่งข้างหน้าพระพุทธรูปยักษ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่) ทานอาหารอย่างเต็มที่ หมดไป $120 (สองคน ก็ตกคนละ $60) บวกทิปไปอีก $25 แนะนำให้สั่ง Taotini หรือไม่ก็ Orange Dragon อร่อยมาก มี alcohol ผสมแต่ไม่แรง
-หลังจากอาหารเย็นก็ไปดู show ที่จองไว้ (อยู่โรงแรมเดียวกัน) the Blue Man Group show ก็สนุกดี แต่พอดูไปนานๆแล้วก็เริ่มเบื่อเหมือนกัน รู้สึกว่าบางช่วงยืดเกินไป
-ดูเสร็จ กลับมาที่ Tao ตอนกลางคืนเขาแปลกส่วนหน้าของร้านเป็น lounge มี D.J. เปิดแผ่น คนเยอะเหมือนกันแต่ว่า มีคนหน้าตาดีๆเยอะ ไปนั่งดูเขาเต้นกัน สั่ง drink เหมือนเดิม
-อยู่แค่ประมาณชั่วโมงนึง แล้วก็ไปต่อที่ the V Bar ที่ข้างล่างโรงแรม คนไม่ค่อยเยอะ เหมาะสำหรับไปนั่งคุย แต่ว่าเงียบเหงามาก เลยอยู่แค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ออก (แต่ต้องสั่ง drink เหมือนเดิม) จากนั้นขับกลับไปที่ NYNY แล้วขึ้นไปลอง the Coyote Ugly Bar ที่ชั้นสอง ไม่ประทับใจเลยเพราะว่า ในนั้นไม่มีแต่ beer ขายไม่มีอย่างอื่น แถมพวกที่ขึ้นไปเต้นบน counter ก็ไม่สวยเหมือนในหนัง 55555 มันเป็นที่สำหรับคนอีกกลุ่มหนึ่งเลยก็ว่าได้ เข้าไปแล้วรู้สึกไม่ค่อยชอบเท่าไร beer แก้วละ $8 จากนี้ก็กลับขึ้นไปนอนแล้ว ประมาณตีสองได้

วันที่สาม
-ตื่นเอาสิบโมงครึ่ง อาบน้ำแต่งตัว ไปทาน buffet ที่ Mandalay Bay ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าธรรมดามากๆ แต่เพื่อนที่ไปด้วยกลับชอบ
-เดินเที่ยวถ่ายรูปในโรงแรม ไล่เก็บไปเรื่อย จากที่นี่ไปต่อที่ Luxor แล้วก็ Excalibur แล้วก็ไปจบที่ MGM เหมือนเดิม คราวนี้ไปซื้อตั๋วดู Ka รอบเย็น
-แค่เดินเล่นก็หมดเวลาแล้ว มื้อเย็นคราวนี้ขับไปที่ Bellagio อีกครั้ง เพราะเห็นมีร้านหรูหลายร้านที่น่าลอง ตอนแรกเดินไปดู Picasso เพราะเคยได้ยินชื่อเสียงมากก่อน ปรากฏว่าดูเมนูแล้ว มีราคาเดียวคือ $90 ต่อคน ไม่มีอย่างอื่นให้เลือกเลย คาดว่าจะเป็น full course คุยกับเพื่อนแล้ว เห็นว่าไหนจะต้องไปเที่ยวตอนกลางคืนอีก เก็บเงินไว้ดีกว่ามั้ง เลยพยายามเดินหาร้านที่ถูกกว่านี้ เดินๆไป เจอ Jasmine เป็นร้านอาหารจีน เลยคิดว่าไม่น่าจะแพงเว่อร์ (อย่างน้อยต้องถูกกว่า Picasso แน่ๆ) เข้าไปนั่ง ตอนแรกพนักงานก็แนะนำ Chef's Choice คือเป็นแบบ full course ราคาเดียวคือ $80 ต่อคน เราก็สองคนก็ไม่เอา เพราะว่าถ้าจะเลือกแบบนี้ งั้นไปที่ Picasso ดีกว่า เพิ่มอีกแค่ $10 ปรากฏว่า สั่งโน่นสั่งนี่ ทั้ง soup ทั้งของหวาน และก็ drink อีก บิลมาตอนท้าย กลายเป็น $215 โอ้โห แทบช็อกเลยจริงๆ ตอนแรกนึกว่าเพื่อนหลอกเล่นเสียอีก ไปๆมาๆกลายเป็นแพงกว่า Picasso อีก แถมเจ็บปวดมากที่ต้องทิป $45 ที่นี่อาหารก็ใช่ได้ แต่ว่าแพงเกินความจำเป็น ส่วนดีของที่นี่คือ ห้องอาหารหันไปทางบึงข้างหน้าโรงแรมพอดี เพราะฉนั้นสามารถดูการแสดงน้ำพุเต้นจากโต๊ะของเราได้เลย ก็สวยไปอีกแบบ
-ทานข้าวเย็นเสร็จ ก็รีบขับกลับไปที่ MGM แล้วไปดู Ka เป็นการแสดงที่ประทับใจมากๆ ทั้ง set ทั้งคนแสดง ขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดเลยจริงๆ
-ดูเสร็จก็ไปต่อที่ Studio 54 ข้างในใหญ่ดี (มีสองชั้น) แต่ที่นั่งไม่ค่อยมีเลย เพราะฉนั้นก็ค่อนข้างลำบากสำหรับผู้ที่จะไป people watch อย่างเราสองคน ผมกับเพื่อนไม่เต้นเลย เต้นไม่เป็น อายชาวบ้านเขา แต่ชอบเข้าไปนั่งเอาบรรยกาศ ไปดูคนอื่นเต้น อยู่แค่ไม่ถึงสองชั่วโมงก็ออก (สั่งแค่ drink เดียวต่อคน) เสร็จแล้วเดินมาข้างหน้าก็ไปต่อที่ the Centrifuge เป็น bar เปิด เล็กๆอยู่ข้างหน้าทางเข้า Studio 54 เข้าไปนั่งพัก ที่เด็ดของที่นี่คือทุกครึ่งชั่วโมง bartenders ทั้งหมดจะขึ้นไปเต้นบน bar ประมาณครึ่งเพลง bartender ที่นี่หน้าตาดีมากๆ สวยทุกคน แถมเต้นแบบมี pattern ด้วย ความจริงแล้วไม่ต้องเข้ามานั่งก็ได้ เพราะมันเป็นเป็นที่เปิด คือยืนอยู่ข้างนอกก็เห็น หลักจากนั้นก็แวะไปเยี่ยมที่ Tabu ที่ไปเพราะเห็นว่ามันเขียนเป็น ultra lounge เลยอยากจะดูว่ามันจะสักขนาดไหน แค่เข้าแพงมากกว่าทุกที่ ($30 ต่อคน ที่อื่นจะ charge ประมาณ $20) ข้างในเล็กมากๆ แถมไม่มีที่ด้วย (นอกจากจะเปิดขวด) ตอนไปสั่ง drink ไม่รู้จะสั่งอะไรเพราะเป็นคนที่ไม่เที่ยวเลย (จริงๆ) ไอ้เพื่อนก็เป็นคนไม่เที่ยว เลยไม่รู้ว่าพวก cocktail เจ๋งๆนี่มีอะไรบ้าง เลยบอก bartender ว่าให้ mix อะไรมาก็ได้ ปรากฏว่าเขาทำมาให้แก้วนึงคงด้วยความสมเพศ (ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร) รสชาติดีมากๆ สุดยอดเลย หนุ่มหอมและก็ไม่แรงด้วย ประทับใจมาก อยู่ที่นี่ชั่วโมงกว่าก็ออกแล้ว (อย่างว่า ไม่ได้เต้นก็ไม่มีอะไรที่จะอยู่นาน) ที่สุดท้ายเลยไปลงที่ the Rum Jungle ที่ Mandalay Bay ประทับใจที่นี่ ใหญ่และมีเครื่องดื่มให้เลือกมากมาย ที่นั่งแถว bar ก็ดีด้วย แสงสีบรรยกาศดีมาก นั่งไปสองชั่วโมงแล้วก็ลากสังขารกลับ NYNY เข้านอนตอนเกือบตีสี่

วันที่สี่
-ตื่นเอาเกือบสิบเอ็ดโมง ตาลีตาเหลือกไป check out
-ไปทาน buffet เมื้อสุดท้ายที่ Wynn เป็น buffet ที่แพงที่สุดแต่ก็ใหญ่ที่สุดเหมือนกัน ของหวานนี่จัดเหมือนกับเป็นร้าน bakery แยกต่างหากเลย เยอะมากๆ เจอพนักงานคนไทยด้วย อยู่ตรงที่ทำก๋วยเตี๋ยว อาหารอลังการและอร่อย ถ้ามีโอกาสไม่ควรพลาดที่นี่เด็ดขาด
-ขับรถออกจาก Vegas ไปเที่ยวที่ Hoover Dam (ประมาณครึ่งชั่วโมง) อากาศร้อนเกินไป เลยไม่ค่อยชอบเท่าไร แค่ไปถ่ายรูปเล็กๆน้อยๆแล้วก็ออก กลับมาถึง L.A. ตอนหัวค่ำ

ที่เขียนมายาวยืด (ขออภัยด้วยนะครับ) เพราะอยากให้จขกทเห็นว่าที่ผมไป ผมทำอะไรบ้าง ไปแต่ละครั้งผมไม่เคยเล่นพนันเลย เพราะเล่นไม่เป็นและก็รู้สึกเสียดายเงิน shopping ก็ไม่เคย ไม่ชอบซื้อของมากมาย ส่วนใหญ่ผมจะใช้เงินไปกับการกินการเที่ยวเสียมากกว่า (ก็ไม่ค่อยดีเหมือนกัน) แต่ผมว่านั่นมันเป็นเสน่ห์ของ Vegas อ่ะครับ คือเขามีชื่อเสียงทางด้านนี้ ร้านอาหารระดับ top มากมายรวมทั้ง show และ entertainment ที่ไม่เป็นรองใคร ถ้าไปถึงที่แล้วไม่ลองไม่สัมผัสสิ่งเหล่านี้ มันเหมือนกับว่าไปไม่ถึงที่อ่ะครับ ไปเดินเล่นไปถ่ายรูปก็ส่วนหนึ่ง แต่ถ้าจะไปสัมผัส the Sin City จริงๆ มันต้องลองเข้าร้านอาหารดู ลองไปเที่ยว night club บ้าง มันถึงจะเหมือนว่าเราได้ไปถึงแล้วจริงๆ ตามความรู้สึกของผมนะ ผมไป 4 วัน 3 คืน ยังรู้สึกว่ามีเวลาไม่พอเลยจริงๆ มีอีกหลายที่ หลายร้านที่อยากจะลอง ใกล้ๆกับ Vegas ก็มีภูเขามีที่ hiking ด้วยนะครับ อย่างที่ Red Rock Canyon และ Mt. Charleston ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณชั่วโมงนึง ผมยังไม่มีเวลาได้ไปเลย ผมว่า Vegas ก็มีที่เที่ยวเยอะไม่แพ้ที่อื่นนะครับ แม้จะเป็นที่เที่ยวคนละแบบกัน ขอให้ไปเที่ยวให้สนุกนะครับ

จากคุณ : Rennis - [ 21 ส.ค. 51 01:45:20 ]