ความคิดเห็นที่ 1 ปาดก่อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน แล้วหนีไปทำงานต่อ  เดี๋ยวมาดูใหม่ 555 จากคุณ : coccinelle - [ 2 ก.ย. 51 19:01:14 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พอเข้ามารอในเกท ก็ไม่มีอะไรจะทำ เดินไป เดินมา หันไปเจอเขากำลังเติมน้ำมันเครื่องบินอยู่ก็ตื่นเต้น เพราะเพิ่งจะรู้ว่าเขาเติมทางปีกอ่ะ แล้วก็ตอนหลังมีรถมาส่งอาหาร ก็ตื่นเต้นอีก เพราะมันสามารถยกไอ้กล่องๆ หลังรถให้ขึ้นไปสูงเท่ากับประตูแล้วก็มีที่เลื่อนๆ เป็นทางสำหรับเข็นของใส่ในเครื่องบินได้ อาจจะเฉิ่มๆ เชยๆ หน่อยนะคะ แต่ว่าไม่เคยเห็นอ่ะ มันเลยดูน่าสนใจ เช้าวันนี้ท้องฟ้าไม่แจ่มใส มีฝนตกเป็นหย่อมๆ ทำให้พื้นเปียก... แอบกลัวในใจแบบไม่กล้าบอกใคร ว่ากลัวล้อเครื่องบินจะลื่นเวลาเทคออฟ แล้วจะเสียการทรงตัว -*- แบบว่าจินตนาการกว้างไกลมากค่ะ แต่ก็เก็บอาการ... อ้อ... ลืมบอกไปว่า ทริปนี้เราเป็นคนเดียวที่ไปจากเมืองไทยนะคะ คนอื่นๆ อยู่สิงคโปร์กันหมด (มีอีก 5 คน) ก็เลยได้ฉายเดี่ยวเสียวสยิวบนเครื่องคนเดียว... แล้วก็ได้ยืนยันกับตัวเองว่า แอร์เอเชีย ระหว่างประเทศ เขาก็เล่นเก้าอี้ดนตรีกันเหมือนกันเน้อ.... แต่ในที่สุดก็ได้นั่งติดหน้าต่างแบบที่อยากได้ เย้ๆๆๆๆๆๆ ชอบดูเครื่องบินตอนขึ้น ตอนลง (จริงๆ กะว่า ถ้ามันจะตก ก็จะได้รู้ตัวว่าตกท่าไหน หุหุหุ) จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 19:02:47 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เวลาสาวๆ เดินทางคนเดียว (หรือหลายคนก็เหอะ) คิดอะไรคะ???? ต้องคิดแบบนี้แน่เลย... "จะมีหนุ่มรูปงาม โสดสนิท มีสเน่ห์มานั่งข้างๆ เรามั้ยน้ออออออออออ?????" ใช่ค่ะ เราก็คิดแบบนั้นแหละ แอบลุ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตัวโก่ง และแล้ว!!!!!!!!!!!!!!! เราก็ได้มีชายหนุ่มมานั่งข้างๆ เราจริงๆ ด้วยค่ะ ถึงจะมีเก้าอี้ว่างกั้นอีกที่นึงก็ตามที... เอาวะ ไม่ตัวเหม็นเป็นใช้ได้ แอบลั้นลากับตัวเองอยู่ในใจ... หุหุหุหุ อาจจะฟลุ๊คเจอเนื้อคู่ก็งานนี้ละว้า.... หุหุหุ (ยังหัวเราะแบบตัวร้ายในใจ) จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 19:05:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 นั่นประไร.... โดนสาวปารีสปาดซะแล้ว รีบๆ กลับมาอ่านนะจ๊ะ จุ๊บๆ ----------------------------- นั่งมองหนุ่มข้างๆ มาเรื่อยๆ ก็เห็นเขาฟังเพลง เขียนอะไนสมุดโน้ตไปเรื่อย แล้วก็สังเกตการแต่งตัว... เริ่มได้กลิ่นแปลกๆ.... มันไม่ใช่กลิ่นที่สัมผัสได้ทางรูจมูกหรอกนะคะ.... ฮือๆๆๆๆ มันคือกลิ่นที่ได้จาก sense....  โอ้แม่เจ้า... วิธีจับปากกา อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ และกระเป๋า Prada สุดหรู.... หนุ่มของเรา.... ไม่แมน@!!@!!   ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่จริงนะ ไม่จริง....  มันต้องไม่ใช่อย่างนี้..... ความสุขเพียงสิ่งเดียวบนเครื่องบินของฉ้านนนนนนน พอใกล้ๆ จะถึงสิงคโปร์ แอร์สาวก็เอากระดาษมาให้เรากรอก มันก็คือใบ ตม นั่นเองค่ะ ไอ้เราก็ดันลืมเอาปากกาไป ก็เลยยืมพ่อหนุ่มข้างๆ เราซะ (ฮือๆๆๆ ถ้าพี่แกแมนนะ คงได้สานสัมพันธ์กันด้วยปากกาแล้ว) อ้อ... คิดว่าพ่อหนุ่มเป็นคนสิงคโปร์ค่ะ จีน-สิงคโปร์ ... ไปรู้เขาอีกแหนะ ยัยนี่ แล้วเราก็ถึงสนามบิน Changi International Airport โดยสวัสดิภาพโดยที่ล้อเครื่องบินไม่ลื่นเสียหลักใดๆ ทั้งสิ้น... อากาศที่สิงคโปร์ก็ขมุกขมัว มอมแมมเหมือนหัวใจของเราที่สลายเพราะหนุ่มที่นั่งข้างๆ เรา.... แต่เราจะมามัวเสียอกเสียใจไม่ได้!!! เมื่อคิดได้ดังนั้น ก็รีบเดินดุ่มๆๆๆ ไปผ่าน ตม และรับน้อง Deuter 38-10L ของเราจากสายพาน... และเดินออกมาด้วยความมั่นใจ... หญิงไทย ชนะเลิศ.... แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 51 19:12:40 จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 19:08:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เวลาสาวๆ เดินทางคนเดียว (หรือหลายคนก็เหอะ) คิดอะไรคะ???? ต้องคิดแบบนี้แน่เลย... "จะมีหนุ่มรูปงาม โสดสนิท มีสเน่ห์มานั่งข้างๆ เรามั้ยน้ออออออออออ?????" . . . . . คิดค่ะ  แต่ ไม่เคยสำเร็จ ..... ส่วนใหญ่จะเป็นชาย  ไม่หนุ่ม  มาพร้อมพุงขนาด 8 คนโอบ นั่งแล้วพุงเกยที่วางแขน  เบียดเราอีกซะงั้น -*- //ไปล่ะ  แวะมาเฉยๆ ไปถอนฟันต่อดีกว่า 55++ จากคุณ : coccinelle - [ 2 ก.ย. 51 19:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 55555555555......มาปาด...และขออนุญาต...ขำด้วยครับ....ฮา.. จากคุณ : ผู้ช่วยตัวโกง - [ 2 ก.ย. 51 19:16:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ด้วยความที่เพื่อนต้องการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ก็เลยบอกว่า มาถึงแล้วจะพาไปเลี้ยงข้าวกลางวันเป็นการต้อนรับ  โอ้ว.... เพื่อนที่แสนดี... แต่มีข้อแม้ว่าต้องไปหาเขาที่ทำงานนะ... อืมๆๆ ได้ไม่เป็นไร พอไปได้... และจากเวลาที่เราไปถึง กับเวลากินข้าวกลางวันเขา เพื่อนก็บอกว่า ให้ตรงมาจากสนามบินเลย ไม่ต้องไปที่พักก่อน จะได้ไม่เสียเวลา... เราก็เป็นคนว่าง่าย จะได้โตไวๆ ก็เลยโอเชจ้ะเพื่อน... เพื่อนบอกว่าไปถึงแล้วให้โทรหา เขาจะได้กะเวลาถูก...  ฉะนั้นเมื่อเรารับกระเป๋าจากสายพานแล้วก็เดินออกมาหาโทรศัพท์.... อ่ะ... ว่าแต่.... จะโทรได้ไงเนี่ย เศษเหรียญไม่มีสักกะบาท คิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ และเดินๆๆๆ เป็นยัยบ้า ไปชั้นนู้น ขึ้นชั้นนี้ แล้วก็ได้เจอร้านขายของ และเพื่อเป็นการไม่เสียมารยาท เราก็เลยได้เจ้านี่มา เพื่อแลกกับเหรียญโทรศัพท์ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้หิวน้ำเลยแม้แต่นิดเดียว กระซิกๆๆๆ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 19:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เชิญปาดตามสบายเลยจ้า คุณผู้ช่วยตัวโกง... เอ๊ะ คนไม่ดีนี่นา ----------------------- เพื่อนเรายังคงแสดงความเป็นเจ้าบ้านที่ดีอยู่ค่ะ พอโทรไปเขาก็บอกว่า อ้าว ถึงเร็วจัง -*- พี่คะ.... เวลาไฟลท์เดี๊ยนพี่ก็รู้ ทำไมพี่พูดงี้อ่ะ... ไม่เป็นไร มาถึงแล้วก็ดี... แล้วเราก็ถามเพื่อนว่า เราจะไปไงดี และเพื่อนสุดที่รักก็บอกว่า นั่งรถเมล์มาสิ เนี่ยมันอยู่ที่ Terminal 2 อ่ะ แล้วตอนนี้อยู่ Terminal ไหน.. เออฟะ.... อยู่ตรงไหนเนี่ย... ไม่รู้เหมือนกัน -*- แต่ไม่เอาได้มั้ย นั่งรถเมล์อ่ะ ลงรถไม่ถูก กระเป๋าก็หนัก รถไฟละกัน.... สรุปเพื่อนก็บอกว่า งั้นก็นั่งรถไฟไปหาที่สถานี Yio Chu Kang ละกัน... เราก็ดูจากแผนที่แล้วว่ามันก็ไม่น่าจะอะไรมาก ก็เลยโอเช... วางหู ว่าแต่.... เราอยู่ที่ไหนเนี่ย???? ก็ต้องเดินหาๆ ป้ายว่าตอนนี้เราอยู่ไหน สุดท้ายก็รู้ว่าอยู่ที T1 ค่ะ ก็เลยเดินไปหา Singapore Visitor Centre ถามหาแผนที่ และเส้นทางว่าจะไปหาเพื่อนได้ไง เจ้าหน้าที่ก็น่ารักดีค่ะ ให้ความร่วมมือดีมาก ด้วยรอยยิ้ม... เราก็เลยถามต่อว่ามีบัตรลดอะไรมั้ย ด้วยความโชคดีของเรา... ไม่มีอะไรเลย -*- ... ฮือๆๆๆ T^T  ไม่เป็นไร ให้คะแนนความใจดี แล้วเราก็ไปขึ้นสกายเทรนไปที่ T2 เพื่อหา City Train ค่ะ สถานที่ SkyTrain ก็หน้าตาแบบนี้... แต่ขอบอกความเปิ่นอีกอย่าง... ด้วยความที่คาดหวังว่ามันจะหน้าตาเหมือน BTS พอเดินไปถึงก็งงๆ ทั้งๆ ที่ยืนอยู่หน้าประตูแล้ว ก็ดันถามคนแถวนั้นว่า ฉันจะไปขึ้น SkyTrain ได้ที่ไหน... และเขาก็ชี้ที่ประตูให้แบบงงๆ ว่า มันอยู่ตรงนั้นอ่ะ ไม่เกิน 2 เมตรจากที่ยูยืน(อันนี้ต่อเอง) แอบโง่อีกแหนะ ดีนะ ไม่ได้บอกว่าคนไทย อิอิ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 19:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รถ SkyTrain เป็นแบบออโต้ ไม่มีคนขับ โล่งโปร่งสบาย สะอาด สวยงาม น่าประทับใจมากๆ ค่ะ และที่สำคัญตรงเวลา มันจะมีป้ายบอกว่าอีกกี่นาทีจะมา มันก็มาจริงๆ ด้วย.... เรื่องตรงต่อเวลา ยังมีอีกค่ะ สิงคโปร์เนี่ย ช้อบ ชอบ ด้วยความที่เราไม่ได้ออกนอกประเทศมาประมาณ 3 ปีแล้ว ก็แอบตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย แอบฟังชาวบ้านเขาคุยกันก็ฝึกฟังสำเนียงสิงคโปร์ไปพลางๆ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 19:27:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 พอมาถึง T2 หรือ Terminal 2 ก็เดินตามๆ เขาออกมาค่ะ แล้วก็มองหาป้ายเอา... ตามป้ายไปไม่มีหลง แล้วก็เดินไปหา CityTrain ค่ะ ผ่านเบอเกอร์คิงแล้วอยู่ข้างหลัง ลงบันไดไป แล้วก็ลงอีกที... ก็จะเจอสถานีรถไฟเข้าเมืองค่ะ... จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 19:29:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มาแระ  ให้ไวๆ  เดี๋ยวจะหนีกลับบ้านซะก่อน จากคุณ : coccinelle - [ 2 ก.ย. 51 19:29:44 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แต่.... คนอย่างเรา มีรึจะทำอะไรแบบตรงไป ตรงมา... เดินไปก็สังเกตนู่นนี่ไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอน้องเด็กเหลือง ที่เตือนภัย.. น่ารักดีก็เลยแชะมาหนึ่งรูป จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 19:30:15 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ลงบันไดไปกี่ขั้นอ่ะเจ๊ ......บอกไม่ละเอียดเดี๋ยวเราไปเองแล้วหลงนะ 555 ++ จากคุณ : coccinelle - [ 2 ก.ย. 51 19:31:04 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พอลงบันไดเลื่อนที่สอง ก็จะมีป้ายชี้ว่า Ticket Office ไปทางขวา เราก็ตามป้ายไป... แต่เอ๊ะ ไหนอ่ะ ออฟฟิศ... ไหนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่เห็นมีสักกะออฟฟิศ..... พอเดินเข้าไปก็ไปเจอเจ้านี่ค่ะ... เครื่องออกตั๋ว... โถ หลอกหนูได้ ถึงหนูจะโง่ แต่หนูก็ฉลาดนะ!!!! จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 19:31:26 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ลงไปเรื่อยๆ เลยนาน่า จนกว่าจะหาบันไดไม่เจออีก โฮ่ะๆๆๆๆ ------------------------ บอกความดีความชอบของเพื่อนอีกอย่างนึง ก็คือเขาเอา EazyLink มาให้ยืม แต่เราต้องไปเอากับเขาเอง... เนี่ยแหละ ถึงต้องถ่อไปหาถึงแถวๆ ออฟฟิศ เพื่อไปเอาไอ้บัตรนี่ ตอนนี้เราก็เลยต้องซื้อตั๋วเที่ยวเดียวก่อนไปพลางๆ เป็น standard ticket ราคา... 1.9ดอลล์ บวก 1 ดอลล์ค่าประกัน ไม่งั้นตั๋วอาจจะโดนแฮบได้ วิธิใช้เครื่องก็คือ............. อ่านค่ะ อ่านไปตามที่เขาบอก ค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ แล้วเราก็จะบรรลุเอง แต่ก็ถือว่าใช้ง่าย เข้าใจง่ายนะคะ ไม่ยุ่งยาก ก็คล้ายๆ ตั๋วรถใต้ดินบ้านเราประมาณนั้น แต่พอผ่านที่ตรวจตั๋วเข้าไปข้างใน ก็จะมีประตูรถไฟสองข้าง ป้ายเขียนเหมือนกันเดี๊ยะ... ก็ไม่รู้ต้องรอฝั่งไหน.. แต่สาวไทยซะอย่าง หุหุหุ รอตามๆ คนอื่นไปละกัน ก็เลยนั่งใกล้ๆ คนอื่น แบบกลางๆ สถานีหน่อย ระหว่างรอก็มีคนที่ดูป้ายเดินเข้ามาถามว่า ต้องขึ้นฝั่งไหนเหรอ -*- หน้าตาไม่ได้เหมือนคนสิงคโปร์เลยนะคะ อย่ามาถามหนูเลย หนูไม่รู้......... น่าจะเป็นคนมาเลย์ หรือ อินโด เพื่อนบ้านกับสิงคโปร์นี่แหละ มาเที่ยวกันทั้งครอบครัว... ขอโทษค่า... พอดีมือใหม่เหมือนกัน เลยช่วยไม่ได้เลยอ่ะ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 19:36:25 ]

ความคิดเห็นที่ 16 พอรถไฟมาก็รีบขึ้นไปหาที่นั่ง กระเป๋าก็หนักจังเลย เกือบๆ สิบโลได้ ขนอะไรมานักหนาก็ไม่รู้... จริงๆ ไม่เยอะหรอกค่ะ แต่ตัวใหญ่ ของเลยเยอะตามไปด้วยอ่ะ -*- อันนี้เป็นหน้าตาด้านหน้า ด้านหลังของตั๋วธรรมดา เที่ยวเดียวที่เราซื้อมาค่ะ กับบรรยากาศในรถไฟ ระยะช่วง สนามบินไป Tanah Merah ซึ่งเป็นสถานีที่ต้องเปลี่ยนรถไฟจะเป็นใต้ดิน และรถจะวิ่งเร็วมาก มึนหัวเลย จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 19:38:38 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ระหว่างนั่งรถก็สอดส่ายสายตาไปเรื่อย แบบว่าไม่รู้จะทำอะไรแก้เขินดี ก็เลยเจอป้ายนี้... เราว่าน่ารักดี ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ช้อบ ชอบป้ายนี้ค่ะ ใช้คำถูกใจ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 19:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แล้วก็มีป้ายห้ามต่างๆ ... บอกราคาไว้เสร็จสรรพ ก็ดีเหมือนกันค่ะ จะได้รู้กันไปเลย ว่าอยากทำนักก็ต้องเสียเท่านี้... จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 19:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 19 พอเปลี่ยนรถไฟแล้ว หลังจากนั้นก็จะมีแบบบนดินด้วย ลอยฟ้านิดหน่อยด้วย... ก็เลยได้เห็นวิวทิวทัศน์บ้าง First impression ที่มีกับสิงคโปร์ก็คือ... "กล่อง" ตั้งแต่อยู่บนเครื่องแล้วค่ะ มองลงมาเหมือนมีกล่องนมหลายๆ ยี่ห้อตั้งวางเต็มไปหมด เพราะบ้านเมืองจะเป็นตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เนื่องจากว่าเขามีที่จำกัด แล้วก็บังเอิญไปเห็นธงติดตามระเบียงห้อง... ด้วยความที่ศึกษาข้อมูลมาอย่างดี ก็ไม่รู้ว่าธงสิงคโปร์หน้าตาเป็นยังไง ก็คิดว่า เอ... ธงตุรกีเหรอเปล่า??? ทำไมต้องแปะเยอะขนาดนี้ หรือแถวนี้จะเป็นที่อยู่คนต่างชาติเหรอ?...   แต่เราฉลาด.. บอกแล้วว่าฉลาด.. ตอนถามเพือ่นตอนมาเจอกันว่า ทำไมถึงมีธงติดเต็มเลยหละ เพื่อนก็เลยบอกว่า อ๋อ ธงชาตินะเหรอ... เพราะจถึงวันชาตินะสิ ก็เลยติดธงกัน... เลยถึงบ้างอ้อแบบไม่ได้ปล่อยไก่ด้วยแหละ อิอิ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 19:43:46 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ใช้เวลานานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เปลี่ยนรถที่สถานี CityHall แล้วก็ขึ้นเส้นสีแดงมาต่อ.... ประมาณชั่วโมงนึงถึงมาถึงสถานี Yio Chu Kang จนได้ แถมหลังๆ ก็ไม่ได้นั่งอีกต่างหาก กระเป๋าก็เกะกะชาวบ้านเขาอีก... หิวก็หิว...   พอมาถึงก็โทรหาเพื่อน เพื่อนก็บอกให้ออกมาข้างนอกสถานี แล้วมารอที่ใต้สะพานลอย เดี๋ยวจะนั่งแท๊กซี่มารับ....   บรรยากาศแถวนี้ดีค่ะ มีต้นไม้ ค่อนข้างร่มรื่น เมื่อเทียบกับในตัวเมือง เราชอบแถวนี้มากกว่า เพิ่งรู้ทีหลังว่าเพื่อนก็พักไอ้ตึกที่อยู่ทางซ้ายนั่นแหละค่ะ แล้วก็ทำงานแถวๆ นี้ แต่ว่าเขาเช่าห้องในบ้านของคนอื่นอีกทีนะ บอกว่าทำได้แค่มาม่าเท่านั้น อย่างอื่นทำไม่ได้เลย คิดภาพชีวิตตัวเองแบบนั้นไม่ออกจริงๆ แล้วเพื่อนก็มารับด้วยแท๊กซี่ค่ะ ตอนแรกไม่แน่ใจ เพราะคิดว่าเพื่อนจะมาคนเดียว แต่ปรากฎว่าพาสาวมาอีกหนึ่งคน เป็นเพื่อนเขาที่เคยมาไทย แล้วเราเคยเทคแคร์พาเที่ยว... ฮึ... ไม่รู้จักบอกล่วงหน้าว่าจะพามาด้วย ไม่ได้เตรียมของฝากมาให้อ่ะ เพื่อนนะเพื่อน ทำกะเราอย่างนี้ได้ไง.... จริงๆ เราเอารองเท้าแตะ กับ ที่แขวนโทรศัพท์ไปให้เพื่อนเป็นของฝาก เพราะชอบเที่ยวเหมือนกัน เพื่อนคนนี้เป็นคน Thai-Malaysian เป็นเหมือน Travel buddy ของเราคนนึงทีเดียว ... เราก็เลยเอาที่ห้อยโทรศัพท์ให้สาวน้อยไป... สมน้ำหน้าเพื่อน หุหุหุ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 19:48:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 จะสองทุ่มแล้ว กลับบ้านก่อนนะคะ... เดี๋ยวจะไปรีวิวต่อที่บ้าน... ไม่รู้จะได้สักแค่ไหนวันนี้ เดี๋ยวมาค่ะ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 19:49:30 ]

ความคิดเห็นที่ 22 รอ อยู่ ครับ มาต่อ ด่วน จากคุณ : gre_t2w - [ 2 ก.ย. 51 19:53:26 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อดเลยไปกับ MaNgKoOd เลย อิอิ.... จากคุณ : Jook^Ka^Jick - [ 2 ก.ย. 51 20:24:01 ]

ความคิดเห็นที่ 24 กลับมาแล้วค่า..... ต่อ ต่อ --------------- พอเพื่อนรับขึ้นแท๊กซี่ก็คุยๆ กันไปเรื่อยๆ ตามประสาคนไม่ค่อยได้เจอกัน เราก็ตื่นเต้นเนอะ คนพื้นที่จะพากินข้าวมือ้แรกในสิงคโปร์ หุหุหุ อยากรู้ละสิว่าจะได้กินอะไร... แต่ก่อนจะถึงไปว่าจะได้กินอะไร ขอนิดส์นึงค่ะ... เราต้องนั่งรถไฟมาถึง Yio Chu Kang ใช่มั้ยคะ แต่คุณเพื่อนก็แสนจะน่ารักพาไปกินที่สถานี Bishan ซึ่งย้อนกลับไปสองสถานี้แบบไกลๆ ใช้ได้อยู่ เหอๆ.... หลอกให้อิฉันทรมานมาทำไมตั้งไกลเนี่ย แต่ว่า... มันก็มีประโยชน์ค่ะ เพราะการได้มารู้จักสถานีนี้ ทำให้ตอนหลังสะดวกทีเดียว เดี๋ยวถึงแล้วจะบอกค่ะ แล้วก็กลับมาที่ร้านอาหารมื้อแรกที่สิงคโปร์... คือร้านนี้ค่ะ... เพื่อนพาไปกินร้านลักษณะ Franchise ขายอาหารยุโรป(มั้ง) เป็นร้านที่อยู่ในสถานี Bishan เนี่ยแหละค่ะ สถานีนี้คึกคักมาก คนเยอะเชียว โดยเฉพาะเราไปช่วงพักทานข้าว คนจากออฟฟิศก็ออกมาทานกันเพียบเลย ก็ถือว่าได้ดูความเป็นท้องถิ่นเนอะ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 20:45:01 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พอตอนสั่งอาหาร ไอ้เรามันก็คนมาใหม่เนอะ ไม่รู้จะสั่งอะไร ก็เลยให้เพื่อนสั่งให้ สรุปแล้วเราก็สั่งมาคนละอย่างแล้วเอามาแชร์กัน เราเองก็หิวนะ แต่ว่าเหนื่อยๆ อ่ะ  เพื่อนบอกว่าจานนี้เนี่ย อร่อยที่สุดในร้านแล้ว เราก็เลยเชื่อค่ะ เรามันคนหัวอ่อนอยู่แล้ว....  เป็นซี่โครงหมูอบซอส ประมาณนั้น รสชาด(สะกดไงเนี่ย) ไม่ค่อยจะผ่านค่ะ หวานเชียว แต่เพื่อนก็ยืนยันว่าเคยกินมันอร่อยนะ สงสัยสาขานี้ทำไม่อร่อย เราก็อืมๆๆๆ ไม่เป็นไร ของฟรี เรากินได้เสมออออออออออออ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 20:47:39 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อีกสองคนสั่งสปาเก็ตตี้ ที่มีไข่ดิบตอกมาให้ตรงกลาง แปลกชะมัดเลย แล้วก็อีกคนสั่ง สลัดไก่ย่าง ความอร่อยไม่ต้องบอก... เพราะไม่ค่อยมีเช่นเดียวกันค่ะ เอ่อ... เรานี่แย่ไปป่าว เขาอุตส่าห์เลี้ยงแล้วยังวิจารณ์ซะเสียหายอีก อิอิอิ ไม่เป็นไร เพราะเพื่อนเราเองก็บ่นกระจุยเหมือนกันค่ะ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 20:49:47 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ส่วนเครื่องดื่มก็เป็นชาพีช... ก็ใช้ได้ค่ะ ระหว่างทานก็คุยกันไปเรื่อยๆ โดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสื่อสาร จริงๆ เพื่อนเราก็พูดไทยด้วย เพราะบ้านอยู่ติดกับชายแดนไทยเลย แล้วก็ยืนยันเสมอว่าตัวเองเป็นคนไทย แม้แต่ตอนเข้าวัดพระแก้ว ก็ยังเนียนๆ เป็นคนไทยเลย อ้อ... ความใจดีอีกอย่างของเพื่อนคือ เขาไปหายืมซิมการ์ดมือถือมาให้เรายืมด้วยค่ะ เราเอาไปแต่โทรศัพท์...  ถามว่าเติมเงินยังไงก็บอกว่าไม่เป็นไร เราก็เลยแบบว่า โอเค.. ใช้น้อยๆ ส่วนใหญ่ก็ใช้ส่งข้อความหาเพื่อนเรา เพราะส่งฟรี แล้วก็ใช้รับสายจากเพื่อนเวลานัดเจอกัน... แต่เพื่อนก็แสบค่ะ... ไม่บอกว่าของใคร เรามารู้ทีหลังตอนคืนไปแล้วนั่นแหละ ว่าเป็นของพระ แป่วๆๆๆๆ เป็นพระไทยที่อยู่สิงคโปร์ ที่รู้เนี่ยเพราะว่าท่านถามหาซิมวันที่สองที่เราไปถึง... แบบนี้บาปมั้ยเนี่ย -_-' จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 20:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ่าว รอๆๆ จากคุณ : ไม้ (ไม้หลักปักขี้เลน) - [ 2 ก.ย. 51 21:00:20 ]

ความคิดเห็นที่ 29 พอกินข้าวเสร็จ ก็แยกกับเพื่อน เพราะเพื่อนต้องกลับไปทำงานกันต่อ เราก็แบกน้องดอยต์ของเราไปต่อ โดยนั่งสายสีแดงย้อนกลับเข้าเมืองไปจนถึงสถานี Dhoby Ghaut ซึ่งจะลิงค์ไปสายสีม่วงต่อ และไปลงที่สถานี Ferrer Park ซึ่งจะเป็นที่พักของเราค่ะ สำหรับที่พักเราก็หาทางอินเตอร์เน็ตนี่แหละค่ะ เป็นโฮสเตล... จริงๆ ก็มีที่อื่นที่มีคนแนะนำ แล้วก็ได้คะแนน และรีวิวจากชาวแบ็คแพ็คเยอะอยู่ แต่ว่าเต็มในช่วงที่เราจะไป แล้วเราก็อยากลองที่ใหม่ๆ ด้วย ก็เลยไปลองที่นี่ค่ะ เพราะดูจากเวบแล้วดูใหม่ สวยดี(รูปกราฟฟิคแท้ๆ) Tresor Tavern (http://www.tresortavern.com/) จากสถานี Ferrer ก็เดินผ่านไซต์ก่อสร้างที่กำลังจะเป็นห้างใหญ่โตในอนาคต ประมาณ 200 เมตรมั้งคะ แต่เมื่อบวกกับน้ำหนักกระเป๋าที่เราแบกอยู่ มันรู้สึกไกลจัง แล้วแผนที่ก็ไม่ค่อยชัดเจนด้วย พอเดินมาถึงแยกที่ใกล้ๆ กับที่พัก ก็ต้องมองหาว่าอยู่ตรงไหน... และ ๆๆๆๆๆๆ ที่พักนี้จะไม่มีป้ายบอกนะคะ ว่าเป็นที่นี่ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่บังเอิญด้วยความฉลาด(อีกแล้ว) ของเราก็เลยจ๊ะเอ๋พอดี แล้วก็เคยเห็นรูป(กราฟฟิค) มาก่อน ก็เลยพอเดาได้ อันนี้เป็นด้านหน้าค่ะ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 21:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อ่าวกรรม มัวแต่เม้าท์ ลืมใส่รูป จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 21:01:26 ]

ความคิดเห็นที่ 31 รูปข้างบนเป็นมุมจากข้างหน้า ที่มองขึ้นไปชั้นสองนะคะ ถ้ามองกลับลงมาจะเป็นกระจกทั้งบาน พอเข้าไปข้างใน ซ้ายมือก็จะเป็นรีเซฟชั่นแบบนี้ จริงๆ คนนี้เขาก็ยิ้มให้กล้องรูปแรกนะคะ แต่พอดีเราทำรูปเสีย พอถ่ายอีกทีเลยหน้าบึ้ง เราว่าเจ๊คนนี้อ่ะ ใช้ได้ที่สุดในนี้เลยค่ะ ช่วยเหลือดี พูดจาดี ข้อดีข้อนึงของที่นี่ก็คือ รีเซฟชั่นจะเปิดตลอด 24 ชม. ไม่ว่าจะมาถึงกี่โมงก็จะไม่มีปัญหา และสำหรับคนที่พัก หลังสี่ทุ่มประตูหน้าจะล๊อค แต่ว่ามีคีย์การ์ดให้ สามารถเข้ามาได้ตลอดเวลาค่ะ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 21:05:03 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ทางซ้ายรีเซฟชั่นไปแล้ว ทางขวา ซึ่งจริงๆ ก็คือตรงกับประตูนั่นแหลค่ะ ก็จะเป็นแบบนี้ เป็นที่รักแขก เป็นโซฟานุ่มๆ เราไม่มีโอกาสมาใช้บริการหรอกค่ะ รูปเบลอไปหน่อยนะคะ แสงไม่พอ ฝีมือไม่ดีอ่ะ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 21:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เห็นม่านๆ หลังโซฟาใช่มั้ยคะ ก็คือแบบนี้ เป็นที่ทานอาหารค่ะ เช้าๆ จะมีกาแฟ ขนมปัง แยม เนย สังขยา ซึ่งคนที่นี่เรียก Kaya ก็เหมือนสังขยาบ้านเรานี่แหละค่ะ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 21:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สิ่งที่กั้นด้านซ้าย กับขวาอยู่ก็คือชั้นหนังสืออันนี้ค่ะ มีข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับที่ท่องเที่ยวให้ดู แล้วก็มีนิตยสารด้วย แต่เราก็ไม่ได้ใช้สักอย่างค่ะ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 21:13:42 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ด้านซ้ายต่อจากรีเซฟชั่นจะเป็น ที่เล่นอินเตอร์เน็ต ซึ่งจะได้รับคูปองเล่นฟรีสิบห้านาทีต่อวั้น เราพักสองวันก็ได้มาสองใบ เป็นระบบพาสเวิร์ด... จำไม่ได้ว่าถ้าเล่นนอกเหนือจากนั้นจะเท่าไหร่ แต่เราก็ใช้ไม่เกิน แถมมีคนขอใบของเราไปใบนึงด้วย ตู้แดงๆ ด้านหลังเป็นเครื่องดื่มที่ซื้อได้ อย่างน้ำเปล่าก็เหรียญนึง จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 21:17:50 ]

ความคิดเห็นที่ 36 แล้วก็ขึ้นมาชั้นสองกันดีกว่า ที่นี่มีลิฟต์นะคะ ไปห้องพักของเรากัน เราพักห้อง Female Dorm 8 Bed ค่ะ ที่นอนเราคือตรงกลางข้างล่างนั่นแหละค่ะ แต่ละเตียงจะมีตู้เก็บของให้ ก็ใหญ่พอสมควรแต่เราก็เอาเป้วางไว้ข้างๆ ที่นอนแหละค่ะ ส่วนของที่ดูรกๆ นั่นก็ของเราหมดเลยค่ะ ตอนมาถึงมีคนอยู่อยู่แล้วสองเตียง แต่ไม่อยู่ทั้งคู่ เพราะว่าบ่ายแล้ว คงออกไปข้างนอก ที่นี่จะมีผ้าขนหนูให้ด้วยหนึ่งผืน แต่ผ้าห่มบ๊าง บางแถมไม่เต็มตัวอีกต่างหากแหนะ แต่ก็ไม่เป็นไร เรามีเสือ้หนาว พอหนาวมากก็ใส่เสื้อเอา นอนข้างล่างค่อนข้างสบาย นอนข้างบนจะหนาว แล้วก็ลำบากเวลาขึ้นลง จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 21:22:16 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ส่วนห้องน้ำจะเป็นห้องรวม มีประมาณ 4 ห้อง ในนั้นก็มีสุขา ฝักบัว น้ำร้อน(ที่ต้องเปิดสวิตช์ข้างนอก) อ่างล้างหน้า... ข้อเสียคือมันเล็ก และทุกอย่างอยู่ด้วยกัน เลยเปียกไปหมด แล้วก็น้ำขัง พื้นเป้นปูนเปลือย ให้ความรู้สึกไม่ค่อยสะอาด บางทีก็มีทิชชุ่ตกอยู่ เรื่องความสะอาดห้องน้ำต้องปรับปรุง... จริงๆ ผิดตั้งแต่ออกแบบแล้วค่ะ ส่วนด้านนอกก็มีอ่างล้างหน้า ที่เป่าผม แม้แต่ที่รีดผมให้ด้วย.. แล้วก็มีมุมรีดผ้า พร้อมเตารีดและที่รองรีดเตรียมไว้ให้.. แต่เราก็ไม่ใช้อยู่ดีแหละ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 21:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ถ้าถามความประทับใจ เราก็ค่อนข้างไม่ประทับใจนะ เพราะว่าห้องน้ำหละหนึ่ง... แล้วก็มีสตาฟคนนึง ผู้ชายมีอายุหน่อย ชอบเดินเข้ามาในห้องโดยไม่เคาะประตู บางทีคนในห้องใส่ผ้าขนหนูเดินไปเดินมา ก็เข้ามาเฉย ไม่เกรงใจ จนกระทั่งคนนึงบอกว่า จะแต่งตัว ก็ยังม่หน้าบอกว่า ก็แต่งไปสิ... เอ่อ... ไม่ชอบจริงๆ แต่สิ่งที่สนุกก็คือเพื่อนร่วมห้อง... พอถ่ายรูปเสร็จ ก็จัดการอาบน้ำล้างเหงื่อหน่อย (เพราะเมื่อเช้าไม่ได้อาบ มันรีบบบบบ) พออาบเสร็จกลับเข้ามาอีกที ก็มีสาวน้อยน่ารักเข้ามาสองคนพร้อมกระเป๋าใบใหญ่ๆ คนละใบสองใบ... คุยไปคุยมาก็เลยได้รู้ว่าคนนึงเป็นคนจีน อีกคนไต้หวัน แต่เกิดแล้วก็โตที่ลอนดอน... ภาษาอังกฤษสำเนียงบอกสุดๆ ว่ามาจากอังกฤษ แต่หน้าหมวยมากๆ  หนึ่งในสองคนนี้พูดเก่งสุดๆ พูดไม่หยุดเลย เราก็เลยได้ฝึกภาษาอังกฤษไปด้วยในตัว สองสาวเพิ่งมาสิงคโปร์ครั้งแรก จะมาเรียนต่อด้านบริหาร โดยตอนที่จะมาเนี่ย ก็คาดหวังว่าสิงคโปร์มันต้องเมืองสุดๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ก็ท่าทางจะผิดหวังกัน หุหุหุ เขาต้องมาพักที่นี่ก่อนชั่วคราวประมาณอาทิตย์นึง ระหว่างที่จัดการเรื่องหาที่พักแล้วก็เรื่องที่วิทยาลัย ตอนแรกก็ว่าจะหาเวลา hang out ด้วย แต่ว่าก็นะ เราก็มีเพื่อนที่จะไปไหนมาไหนด้วยเหมือนกัน ก็เลยสุดท้ายก็ไม่ได้ไปไหนกัน นอกจากสองสาวนี้ก็มีสาว Ghana แล้วก็สาว African อีกคนที่มาจากนิวยอร์ค คนนี้แฟชั่นสุดๆ ใส่เดรสสีสันสดใสมากๆ แล้วก็ชอบเครื่องประดับ ส่วนสาวอีกคนที่อยู่ก่อนเราเป็นสาวอังกฤษเหมือนกัน แต่ได้คุยกันนิดเดียวตอนเขาจะไป เพราะไม่ได้เจอกัน... นี่คือเพื่อนร่วมห้อง ที่เราได้คุยกันพอหอมปากหอมคอ หลังจากอาบน้ำ แต่งตัวและพักผ่อนพอสมควรแล้วก็สำนึกได้ว่านี่มันสี่โมงกว่าแล้วนี่นา... โปรแกรมที่เราคิดไว้คร่าวๆ ก็คือจะไป Sentosa .. ก็เลยขุดตัวเองจากที่นอน ขึ้นรถไฟไป VivoCity เพื่อจะไปเซนโตซ่า... บน Vivo City มีสวนลอยฟ้าด้วย... มีพวกศิลปะอะไรแปลกๆ ให้ดู ให้ถ่ายรูปเล่นเรื่อยๆ... จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 21:39:19 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มัวแต่ชมสวนอยู่ ก็นึกได้ว่านี่มันห้าโมงเย็นแล้ว ก็เลยคิดได้ว่าต้องหา monorail ไป Sentosa แต่หาอยู่นานก็หาไม่เจอ เพราะด้วยความที่มีสวนก็เลยมีหลายประตู จะเดินไปทางนี้ก็ไม่ได้ ติดอันนั้น กว่าจะหาเจอเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน... อันนี้โมโนเรลกำลังสวนกัน อาศัยเดินไปทิศทางที่มีรางนี่แหละ ถึงได้เจอ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 21:42:49 ]

ความคิดเห็นที่ 40 มาแว้ววววววววว จากคุณ : coccinelle - [ 2 ก.ย. 51 21:46:12 ]

ความคิดเห็นที่ 41 พอหาเจอก็ต้องซื้อตั๋ว สำหรับตั๋วค่าเข้า รวม monorail และ tram ที่เกาะแล้วก็อยู่ที่ 3 เหรียญ... เรากะจะดู Songs of the Sea ด้วย  พอดีหันไปเห็นโปรโมชั่นอะไรสักอย่างประมาณว่า ฉลองวันชาติ คนที่เกิดเดือนนี้เข้าฟรี แล้วก็มีส่วนลดอะไรบางอย่าง ก็เลยเดินไปถามดู ตอนถามก็แบบว่า นี่ๆ ไอ้นั่นอ่ะ อะไรเหรอ พนักงานก็บอกๆๆๆ เราก็เลยถามว่า ใช้ยังไง เขาก็ว่ายื่น passport พอดีเราก็เกิดสิงหาเหมือนกัน ก็เลยทำท่าจะยื่นให้.. เขาก็ถามว่า ยูเกิดเดือนนี้เหรอ เราก็ใช่ๆๆๆ (ดีใจสุดๆ)  เขาก็ถามว่ามากับใคร เราก็ว่ามาคนเดียว..... แล้วก็ได้ยินคำที่ช้ำใจมาก คนเดียวใช้โปรนี้ไม่ได้นะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฉันต้องมาเที่ยวคนเดียวนี่ยังไม่น่าสงสารพออีกเหรอ ยังต้องมาพลาดโปรสุดแสนจะดีเพราะอย่างนี้อีก แอบบ่นๆๆๆ ไปว่ามันไม่ยุติธรรมเลย เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ~>_<~  เศร้าจริงๆ สุดท้ายก็ต้องจ่ายราคาเต็มไป อ้อ Songs of the Sea มีสองรอบ ไอ้เรามาถึงก็เย็นแล้วกลัวว่าจะรีบไป ก็เลยซื้อรอบสองทุ่มสี่สิบ... อันนี้เป็นป้ายบนสวนลอยฟ้า ชอบอ่ะ ก็เลยเอามาให้ดูกัน จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 21:49:25 ]

ความคิดเห็นที่ 42 โอ้ว ถึงบ้านแล้วเหรอจ๊ะ คุณหมอ -------------- สำหรับรถ monorail ที่จะไป Sentosa นี่ก็จะมีระบบเหมือนๆ กับรถไฟที่สนามบิน คือไม่มีคนขับแต่จะมีเสียงอัตโนมัติแจ้งเวลาถึงแต่ละสถานี สำหรับสถานีแรกต่อจาก Sentosa Staion ที่ VivoCity กำลังทำการก่อสร้างอยู่ เราไปตอนเย็นแล้ว คนกลับมาเยอะกว่าคนไป จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 21:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ด้วยความที่สิงคโปร์คงจะเป็นคนรักษาเวลามากๆ และเคร่งครัด...  เจ้าน้องรถไฟนี่ก็เลยหยุดที่สถานที่สอง Future Development ประหนึ่งว่าตรงนั้นมีสถานีอยู่... ไอ้เราก็ลุ้นๆๆๆๆๆๆ มันจะเปิดประตูมั้ยเนี่ย เพราะถ้าเปิดไป มันก็คือความว่างเปล่า ที่สูงจากพื้นดินเป็นสิบๆ เมตรและมีเหล็กอะไรมากมายอยู่ข้างล่าง สยองนะเนี่ย... แต่น้องรถไฟก็ไม่ได้เปิด จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 21:58:06 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ถึงนานแล้วล่ะ ......... คงจะถึงก่อนมังคุดอีก  555+ บ้านอยู่ไกล๊   ไกล  ขับรถ 5  นาทีถึง จากคุณ : coccinelle - [ 2 ก.ย. 51 22:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 45 พอไปถึงก็อารมณ์แบบว่า... อ๋อ แบบนี้เอง...  ผิดหวังเล็กน้อย เพราะคิดว่ามันจะอลังการณ์กว่านี้ แต่ก็ไม่เป็นไร ลองไปดูรอบๆ ซิ อันนี้เป็นรถที่พาเราไป จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 22:01:05 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ด้วยความที่ไม่ได้มีแผนการณ์อะไร ก็เลยคิดว่า สำรวจก่อนดีกว่า พอลงจากสถานีก็เห็นคนรอคิวย๊าว ยาว เพื่อจะขึ้นรถ Tram ... สายไหน ไม่รู้หรอก ขึ้นๆ ไป... ก็ไปทางฝั่ง Sisolo ก่อน แล้วก็กลับมาขึ้นอีกคันนึงไปทาง Tanjong beach ระหว่างทางก็เห็นกลุ่มเด็กๆ มาทำกิจกรรมกันสองกลุ่มใหญ่ๆ สงสัยจะรับน้อง จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 22:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 47 โอ๊ย เริ่มเหนื่อยแล้วค่ะ จะไปได้สักกี่น้ำเนี่ย --------------------- สำรวจจนสุดทั้งสองด้าน ก็ตัดสินใจได้ว่า ลงมาเดิน palawan beach ดีกว่า เพราะมันมีสะพานเดินไปที่เกาะเล็กๆ ที่เราเคยเห็นใครบางคนเคยรีวิวมาก่อน จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 22:09:57 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ตอนที่ถ่ายรูปนี้ประมาณหกโมงได้ เริ่มคิดว่า เอ... เราจะต้องอยู่จนถึงสองทุ่มครึ่งเพื่อจะรอดูโชว์ แล้วเราจะทำอะไรเนี่ย มันไม่มีอะไรให้ทำเลยอ่ะ แงๆๆๆ อยู่คนเดียวอีกต่างหาก เดี๋ยวไม่นานก็จะมืดแล้วด้วย เริ่มสับสนว่าควรจะไปขอเปลี่ยนตั๋วเขาดีมั้ย แต่ก็หิวมากเลย ถ้าจะดูรอบแรกก็จไม่มีเวลากินข้าว... สุดท้าย.. เรื่องกินต้องมาก่อนค่ะ ก็เลยตัดสินใจว่าดูธรอบสองทุ่มนั่นแหละ แล้วก็ไปเดินที่เกาะเล็กๆ ก่อน ก่อนที่พระอาทิตย์จะตกน้ำไปก่อน กลัวจะไม่ได้ถ่ายรูป -_-' หิวจะตายอยู่แล้วนะเนี่ย จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 22:14:40 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สู้ต่อปายยยยยยยยยยยยย  ทาเคชิ  55++ จากคุณ : coccinelle - [ 2 ก.ย. 51 22:16:51 ]

ความคิดเห็นที่ 50 พระอาทิตย์ตกที่ Sentosa ก็สวยใช้ได้เลย สีส้มสดๆๆๆๆ มาก แล้วแถมกว่าจะมืดก็ทุ่มครึ่งแล้วอ่ะ รู้สึกเหมือนเขามีเวลามากกว่าเราเลยเนอะ เวลากลางวันยาวนานเนี่ย มันก็รุ้สักอยากทำนู่นทำนี่มากกว่า พอมืดทีไร ก็คิดถึงที่นอนทุกทีเลยอ่ะ เหมือนตอนนี้อ่ะ เริ่มเลื้อยอยู่บนที่นอนตัวเองอีกแล้ว... สำหรับเซนโตซ่าเนี่ย เราว่ามันเหมาะกับคนท้องถิ่นไปพักผ่อนช่วงเสาร์อาทิตย์นะ แต่ถามว่าสำหรับเรา ในฐานะที่เป็นนักท่องเที่ยว(กระเป๋าแห้งเนี่ย) เราว่ามันไม่ค่อยน่าพิศมัยเลย เพราะถ้าอยากจะเข้าที่ไหนก็ต้องเสียเงินเพิ่มตลอดเลย ไอ้เราก็ไม่ค่อยจะมีตังคืก็เลยไม่มีอะไรทำ... เอ๊ะ ตกลงเป็นความผิดของเราหรือของเซนโตซ่าเนี่ย อิอิอิ เอาเป็นว่าไม่มีตังค์ทำอะไรเลยอ่ะ ฮือ... จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 22:21:52 ]

ความคิดเห็นที่ 51 หาดที่นี่จะเป็นหาดปลอม หรือหาด man-made ที่เล่นน้ำก็จะเป็นเวิ้งๆ เข้ามาที่ทุ่นกั้นว่าเล่นได้แค่ไหน มียามชายฝั่งคอยเฝ้าดู แล้วก็มีป้ายเตือนวิธีการปฎิบัติตัวด้วย... ก็โอเคนะ แต่เราแอบเห็นว่ามันไม่ค่อยสะอาดด้วยแหละ มีขยะอยู่ตามหาดทราย ปกติ สิงคโปร์จะมีชื่อเสียงมากๆ เรื่อง ความสะอาด แต่ว่างานนี้ สงสัยจะหลุดอ่ะ ป.ล. เริ่มเหนื่อย จะเห็นว่าทำรูปอยู่ด้วยกัน แล้วก็เริ่มเนือยๆ -_- จะหมดแรงมาม่าก่อนมั้ยเนี่ย จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 22:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 52 พอถ่ายรูปเสร็จ พระอาทิตย์ตกดิน ท้องก็เริ่มทำงานทันที.... ที่นี่ก็มีร้านอาหารหลายร้าน มีผับด้วย ฝรั่งเยอะเชียว่ที่ผับอ่ะ แต่เราต้องการแค่อาหาร ก็เลยไปที่ Food court มีร้านอยู่หลายร้านทีเดียว เลือกไม่ถูกเลยว่าจะกินอะไร มื้อนี้เป็นมื้อที่ต้องดูแลตัวเอง ไม่มีใครคอยแนะนำให้ว่าอะไรดีไม่ดี เราก็อาศัยดูรูป แล้วคิดว่าคงจะอร่อย แล้วก็สั่ง คืนนี้เรากินข้าวหน้าไก่... หน้าตามันน่ากินมากกกกกกกก แต่... มันโกหก!!!!!!!!! เราเอาซอสมาครบทุกซอสที่มีอยู่ในร้านก็ยังไม่ช่วยให้มันอร่อยขึ้นได้เลย เป็นมื้อที่ทรมานมากมาย T^T วันนี้กินข้าวที่สิงคโปร์มาสองมื้อ ยังไม่มีมื้อไหนที่จะทำให้เราสุโขสโมสรกับการกินเลย เศร้ามากๆ  ตอนนั้นคิดในใจว่าสงสัยจะได้ผอมแล้วมั้ยเนี่ย เพราะถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป เราคงจะกินอะไรไม่ได้แน่ๆ เลย แต่เพื่อความอยู่รอด... ก็ต้องจำยอมกินไป... อย่างน้อยก็กินไก่ให้หมด.. ตั้ง 5 เหรียญแหนะ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 22:32:29 ]

ความคิดเห็นที่ 53 กินข้าวเสร็จก็ต้องกินน้ำ.... อืม มันก็มีอะไรแปลกๆ มากมายให้เลือก แต่เราก็ไม่กล้า กลัวสั่งมาแล้วจะกินไม่ได้ ก็เลยเลือกสั่ง เซเว่นอัพ... แต่ให้ตายเถอะโรบิ้น........ แม้แต่เซเว่นอัพ ยังไม่อร่อยเลย... สงสัยจะโดนสาปแน่ๆ สำหรับเราเนี่ย การกินแล้วไม่อร่อย มันคือความทุกข์อย่างแสนสาหัสเลย คิดถึงบ้านขึ้นมาจับใจ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 22:35:01 ]

ความคิดเห็นที่ 54 และแล้วก็ถึงเวลาดู Songs of the Sea ที่เราตั้งใจมาโดยเฉพาะสำหรับการมาเซนโตซ่าครั้งนี้ เพราะมีคนบอกว่า เป็นการแสดงที่น่าดู... เราก็มาพร้อมความคาดหวังเต็มที่... ถามว่าดีมั้ย??? เรื่องเทคนิคอะไร ถือว่าดีเลย แต่สำหรับเนื้อเรื่อง... เราว่ามันเฉยๆ ไป ดูไม่ค่อยน่าสนใจ... แล้วที่สำคัญ.. เจ้าหญิงอ่ะ... เคยมีคนพูดว่า สวยกว่านี้มีอีกมั้ย..... เราก็เห็นด้วยนะ เหอๆๆๆๆ.... แต่เรื่องเทคนิคตู้มต้ามนี่ มากมายค่ะ ไฟลุกจนเรานั่งอยู่บนๆ ยังรู้สึกร้อนได้เลย จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 22:39:04 ]

ความคิดเห็นที่ 55 แวะมาชมครับ ทริปนี้ คุณ MaNgKoOd ได้ไปเกนติ้งด้วยไหมครับ คุ้นๆว่าเคยโพสต์ถามเรื่องเครื่องเล่น คุณ coccinelle เป็นหมอฟันเหรอครับ เลิกงานดึกจัง ผมชอบแหย่เพื่อนทันตแพทย์ว่าเป็นผู้ใช้แรงงาน ค่าแรงสูง อยู่บ่อยๆ จากคุณ : Born in Thai - [ 2 ก.ย. 51 22:39:47 ]

ความคิดเห็นที่ 56 คุณ Born in Thai คะ ไม่ได้ไปค่ะ... ไปเรื่อยๆ แล้วจะบอกว่าทำไมไม่ได้ไปนะคะ -------------------------- บางส่วนจากการแสดงนะคะที่เราใช้ขาตัวเองแทนขาตั้งกล้อง... ถ่ายยากมากมาย อ้อ... เวลาแสดงเขาให้งดใช้แฟลชในการถ่ายรูปนะคะ เราไม่กล้าแม้แต่จะเปิดหน้าจอ เพราะมันจะส่ว่างรบกวนคนอื่นที่นั่งข้างหลังอ่ะ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 22:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 57 แต่สิ่งที่เราชอบที่สุด กลับไม่ใช่การแสดง ไม่ใช่เวที ไม่ใช่แสงสีเสียงใดๆ เลย... แต่เป็นที่นั่งคนดูค่ะ.... แสงสวยมากเลย จะบอกว่าโรแมนติกก็ใช่นะคะ มืดๆ แสงสวยๆ สำหรับการดูรอบสองเนี่ย จะมีข้อดีคือ จบการแสดงแล้วเขาไม่รีบไล่เราออก มีเวลาถ่ายรูปมากมายค่ะ แต่ว่าดึกแล้ว... เรามาคนเดียวด้วยไม่รู้จะสวีทกับใคร กระซิกๆ ก็เลยเดินออกมา แล้วก็หาทางกลับดีกว่า ตอนแรกคิดว่าจะกลับยากเพราะคนเยอะ แต่ผิดถนัดค่ะ ได้ไปกับ monorail คันแรกที่มา ไม่เบียดมากด้วย สงสัยคนจะน้อยจริงๆ นะ วันนั้น จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 22:48:29 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอส่งท้าย Sentosa ด้วยรูปนี้ค่ะ ตัวแสดงที่สำคัญตัวนึงใน Songs of the Sea ชื่อ Oscar รึเปล่านะ ไม่แน่ใจ เขาวาดไว้ใต้โคมไฟค่ะ อันนี้เราถ่ายย้อนขึ้นไป ก็สีสันสดใสน่ารักดี จะมีตุ๊กตาวางขายที่ร้านขายของที่ระลึกด้วย...  พูดถึงของที่ระลึก ด้วยความที่ราคามันค่อนข้างระทึกเมื่อเทียบกับเงินในกระเป๋า เราก็เลยไม่ได้ซื้ออะไรเลยค่ะ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 22:51:17 ]

ความคิดเห็นที่ 59 คิดว่าหนึ่งวันของเราจะจบแค่นี้เหรอคะ??? ไม่มีทางค่ะ... มันยังไม่จบง่ายๆ แบบนั้นแน่... พอเราข้ามกลับมาที่ VivoCity ก็ได้คุยกับเพื่อนไว้แล้วว่า จะเจอกันหลังจากที่เขาแข่งแบดมินตันเสร็จ จริงๆ พอมาถึงจังหวะนี้ เราก็อยากยกเลิกนัดจริงๆ เลยนะคะ เพราะเหนื่อยมากแล้ว แต่ก็ไหนๆ ก็นัดแล้วก็เอาวะ.. ส่งข้อความไปคอนเฟิร์มกับเพื่อนอีกทีว่าจะเจอกันที่ไหนยังไง เพื่อนก็บอกให้ไปเจอกันที่ สถานี Marina Bay ตอนสี่ทุ่มครึ่ง เราก็ไปถึงก็ยืนรอๆๆๆ สักพักก็โทรไปถามว่าอยู่ไหนแล้ว เพื่อนก็บอกว่าออกจากบ้าน(แถวๆ Yio Chu Kang) แล้ว เราก็อืม.... เพื่อนเลยบอกว่าให้เดินไปที่ Melionh park ก่อน กว่าจะหาทางไปได้ ก็ดมๆ มั่วๆ อยู่พอควรเลย ฉันผู้หญิงคนเดียวนะยะ... ไม่ห่วงฉันเลย พอออกจากสถานีก็เดินออกมามั่วๆ ไม่รู้ว่าอันนี้เรียกอะไร Boat Quay or Clark Quey ... พูดถึงชื่อนี้ ไอ้คำว่า Quay เนี่ย เราก็ไม่เข้าใจว่าอ่านว่าคีย์ได้ไง แต่เขาก็อ่านกันอย่างนั้นอ่ะนะ แต่มันไม่ make sense สำหรับเราเลยอ่ะ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 22:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เดินเลาะๆ มาทางข้างๆ โรงแรม Fullerton ผ่านสะพานอะไนสักอย่าง (แบบว่าข้อมูลแน่นปึ๊ก)  เห็นตึกทุเรียนอยู่ไกลๆ แต่ตอนแรกงงๆ ว่าจะไปทางไหนดี ในที่สุดก็เดินเลาะผ่านหน้าร้านอาหารของโรงแรม แล้วก็เดินข้ามถนนอีก 2-3 ทอดเพื่อจะไป Melion Park ใช้จมูกดมๆ เอาว่าอยู่ฝั่งไหน เพราะแผนที่ก็ไม่ได้เอามา หุหุหุ มั่นขนาดหนัก จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 23:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 61 แต่น แต๊นนนนนนนนนนนนนน แล้วในที่สุด... เราก็ได้เจอพี่สิงโต กำลังพ่นน้ำ โต้ลม ตัวส้ม หางปลา หันหน้าหาทะเล... วันนั้นลมแรงพอสมควร อากาศเย็นๆ  จากตรงนี้มองเห็นตึกทุเรียน Singapore Flyer แล้วก็ตึกออฟฟิศต่างๆ ของสิงคโปร์ (รวมทั้งตึกที่ทำงานเพื่อนเราด้วย) ด้วยความที่ใกล้จะถึงวันชาติ ก็เลยมีไฟวิ่งประดับประดามากมาย จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 23:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คุณ coccinelle เป็นหมอฟันเหรอครับ เลิกงานดึกจัง ผมชอบแหย่เพื่อนทันตแพทย์ว่าเป็นผู้ใช้แรงงาน ค่าแรงสูง อยู่บ่อยๆ . . . . . ถูกโต้งงงงงงงงงแร้วคร่า  คุณ Born in Thai อันว่าหมอฟันนี้เป็นชนชั้นผู้ใช้แรงงานระดับไฮโซเจ้าค่ะ   ทุกบาททุกสตางค์แลกมาด้วยหยาดเหงื่อ ..... และกล้ามแขน (จากการถอนฟัน)  อิอิ จากคุณ : coccinelle - [ 2 ก.ย. 51 23:04:57 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ไม่รู้ทำไม หลังจากถ่ายพี่สิงโตหลายๆ มุม กลับรู้สึกว่ามุมที่สวยที่สุด คือมุมที่มองไม่เห็นหน้า ดูคลาสสสสสิคดีอ่ะ ส่วน Singapore Flyer มองจากมุมนี้ ดูไม่โดนเด่น อาจจะไกล หรือเพราะโดนไฟส่องกระทบตาจนมองไม่เห็นความงาม  แต่ตึกต่างๆ ที่อยู่หลังตึกทุเรียนแสงสีสวย แต่ถ่านยออกมาไม่เป็น อิอิอิ ส่วนคุณเพื่อน..... บอกว่าสี่ทุ่มครึ่ง มาถึงก็ห้าทุ่มกว่าเข้าไปละ เราก็ทั้งง่วง ทั้งงอน แต่ก็เอาวะ รอมาตั้งนาน ไปไหนก็ไป...  อ้อ... เจอคนไทยด้วยแหละ พอดีเขาคุยโทรศัพท์ก็เลยรู้ แล้วก็มีกล่มสาวๆ จากไต้หวันสามคน เจอหนุ่มสิงคโปร์สองคน แล้วก็มีการแลกกันถ่ายรูปแล้วก็แลกุเบอร์ติดต่อกันเล็กน้อย หุหุหุหุ แอบดูเด็กๆ จีบกันอ่ะ ไอ้เราอุตส่าห์นั่งทำมิวสิคตั้งนาน ไม่ยักกะมีใครสนใจมั่ง เฮ้อ.... จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 23:10:16 ]

ความคิดเห็นที่ 64 พอเพื่อนมาถึง ก็พาเดินย้อนกลับไปทางไอ้คีย์สักคีย์นึง ซึ่งเราจำไม่ได้ว่าอันไหนคีย์ไหน... เอาเป็นว่าแปะรวมๆ ละกันค่ะ  ตรงนี้จะอยู่ติดน้ำ มีร้านเหล้า ผับ บาร์เรียงกันเยอะแยะมากมาย... เท่าที่ดูจะเป็นฝรั่งทั้งน้านนนนนนนน จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 23:12:57 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เดินมาเรื่อยๆ ก็ถ่ายรูปตึกอะไร ไปตามประสา แต่ก็เพลียมากๆ เลย เพื่อนเราก็เพิ่งแข่งแบดมาก็เหนื่อยๆ เหมือนกัน แต่ก็ยังเดินกันไม่มียั้ง จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 23:14:39 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เดินผ่านเครื่องเล่นอะไรสักอย่าง บันจี้ๆ เนี่ยแหละค่ะ มีคนเล่นด้วยนะ แต่ถ่ายรูปไม่ติด มันเด้งๆ ตลอดเวลา แล้วแสงก็ไม่พอ... น่าสนุก แต่ก็แพงมากๆ เลย คนที่เล่นก็เป็นฝรั่งที่มาเที่ยวแถวๆ นั้นแหละ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 23:17:34 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เดินมาเรื่อยๆ จนถึงคีย์อีกคีย์ ที่มีผับที่เป็นคลินิคด้วยอ่ะ แถวนี้คนเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนทำให้เราเกิดอยาก....... อยากกินไอติมขึ้นมาซะงั้นอ่ะ... ก็เลยซื้อไอติมกินกันคนละโคน... แล้วก็เดินดูคนอื่นกินเหล้า... อิอิอิ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 23:23:05 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เดินไป เดินมา ขาเริ่มลาก... ไม่รู้เดินยังไงมาโผล่ที่ไชน่าทาวน์ เขากำลังเอาโคมแดงแขวนเต็มถนนเลย เสียดายไม่ได้กลับไปดูตอนเสร็จแล้ว แต่ก็คงแดงๆๆๆๆๆๆๆๆ ดีสีไม่ตก... เพื่อนเราเริ่มหิว แต่เราไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกชีวิตไม่ complete เพราะอาหารเย็นไม่ได้เรื่อง ก็เลยตกลงว่าไปกินข้าวต้มกัน พอดีร้านเปิดอยู่เลยเข้าไป เพื่อนก็สั่งกบหม้อดิน กับเต้าหู้อะไรสักอย่าง แล้วก็โจก.... เราก็บอกว่า เออกินไม่เยอะนะ เพราะอิ่มแล้ว สรุป.... ไอ้น้องกบหม้อดินมันอร่อยมากเลยนะ เป็นของที่อร่อยที่สุดของวันเลยทีเดียว เราก็เลยต้องกินเยอะหน่อย แต่เน้นกินกบ... เต้าหู้ไม่สน เค็มๆ ไม่ชอบ  แต่กบเนี่ย เราก็กินได้แตขานะ ส่วนอื่นก็กินไม่ได้ ให้เพื่อนกิน ฮ่าๆๆๆๆๆๆ มื้อนี่เราก็อิ่มอย่างมีความสุข และไม่ต้องเสียตังค์ เพราะเจ้าบ้านเลี้ยงอีกแล้ว เย้ๆๆๆๆ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 23:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 69 หลังจากกินเสร็จ ก็หมดแรง ตกลงกันว่ากลับบ้านดีกว่าเนอะ แล้วเพื่อนก็เรียกแท๊กซี่แล้วแวะไปส่งเราที่โฮสเตลก่อน ตอนนั้นก็ตีหนึ่งกว่าๆ แล้ว เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกก กลับไปถึงสาวๆ ในห้องก็นอนกันเกือบหมดแล้ว เราก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง น้ำเนิ้มไม่อาบ ฟันไม่แปรงอะไรแล้ว.. .นอนดีกว่า เหอๆๆๆๆๆ และก็ขอจบการรีวิวสำหรับวันแรก ด้วยน้องกบหม้อดิน อาหารที่อร่อยที่สุดของวันจ้ะ.... จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 23:28:39 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ในที่สุดก็ทำสำเร็จ... แรกๆ พล่ามเยอะมาก ไปไม่ถึงไหน หลังๆ เริ่มเหนื่อย ใส่เกียร์หมาสุดฤทธิ์.... อาจจะไร้สาระไปหน่อยนะคะ แต่อยากเอามาแบ่งปันกัน เนื้อหาส่วนใหญ่ ก็จะเป็นความคิดเห็นของเราซะมากกว่า ไม่ค่อยได้สาระความรู้ หรือข้อมูลอะไรเท่าไหร่ ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ.. ราตรีสวัสดิ์นะคะ แล้วจะรีบๆ มาต่อวันที่สองค่ะ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 2 ก.ย. 51 23:30:35 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ราตรีสวัสดิ์เช่นกันครับ คุณ MaNgKoOd คุณ coccinelle แต่น่าจะเตือนกันหน่อยน้าว่าลงท้ายด้วยอาหาร เฮ้อ ทำเอาหิวรอบดึกเลย จากคุณ : Born in Thai - [ 2 ก.ย. 51 23:45:21 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ข้อมูลละเอียดดีค่ะคุณมังคุด ชอบจัง.. ยังไงจะรอชมตอน 2 พรุ่งนี้นะคะ.. จากคุณ : ColaGirl - [ 3 ก.ย. 51 00:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เล่าเรื่องได้น่ารักจังค่ะ จากคุณ : flintflight - [ 3 ก.ย. 51 05:05:58 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เล่าเรื่องได้ละเอียด และสนุกดีครับ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 51 10:06:30 จากคุณ : thai_ohho - [ 3 ก.ย. 51 10:05:45 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ไปดู Songs of the Sea เลือกที่นั่งยากมากเลย ตอนเราไปอะ ตรงนี้มุมมองดี ได้ภาพสวย แต่ "เหม็น" อ่า.....คนข้างๆเหม็นมั่ก จนต้องเปลี่ยนมุม   จากคุณ : Jook^Ka^Jick - [ 3 ก.ย. 51 10:38:45 ]

ความคิดเห็นที่ 76 Jook^Ka^Jick : มันบอกยากนะว่าตรงไหนมุมดีที่สุด ขนาดว่า ตรงกลางอยู่ตรงไหน ยังบอกไม่ถูกเลย นั่งบนๆ ก็จะมองเห็นไกล แต่นั่งใกล้ๆ ก็จะมองเห็นชัด(ร้อนดีด้วยแหละ) คุณ ColaGir กับ คุณ thai_ohho : ละเอียดนี่ ตรงที่ไม่ค่อยจะมีสาระใช่มั้ยคะ -*- ขอบคุณค่ะ คุณ flintflight : ขอบคุณค่ะ คุณ Born in Thai : แล้วมาติดตามต่อนะคะ ยังไม่รู้ว่าวันนี้จะได้ีรีวิวต่อรึเปล่า เพราะยังไม่ได้ทำรูปอีกเช่นเคยค่ะ แต่จะรีบๆๆ นะคะ เดี๋ยวอารมณ์ไม่ต่อเนื่อง จากคุณ : MaNgKoOd - [ 3 ก.ย. 51 11:39:28 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ติดตามวันที่ 2 ได้ที่นี่ค่ะ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6960972/E6960972.html จากคุณ : MaNgKoOd - [ 4 ก.ย. 51 08:42:09 ]

ความคิดเห็นที่ 78 สนุกมากกกค่ะ เล่าได้น่ารักจังงง ตามติดไปวันที่ 2 อย่างรวดเร้วค่ะ จากคุณ : Chubbyjung - [ 4 ก.ย. 51 16:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ท่าทางสนุก+ทรหดดีครับ ตามไปเที่ยวด้วยคนนะครับ จากคุณ : กระดาษเช็ดหน้าสีขาว - [ 4 ก.ย. 51 23:11:20 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ตามมาปาดเจ้าค่ะ จากคุณ : นินา (nina_s) - [ 8 ก.ย. 51 22:14:38 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ตามมาดูค่า เก่งจัง นั่งเครื่องไปลงสิงคโปร์คนเดียวเลย เด๋วจะตามไปดูทู้สองนะคะ   จากคุณ : สาวหน้าใส - [ 9 ก.ย. 51 11:05:48 ]