ความคิดเห็นที่ 1 กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานเท่าไหร่... สมัยที่เริ่มหาข้อมูลหัดไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองครั้งแรก เพื่อนส่งแผนที่รถไฟ JR ในเขตโตเกียวมาให้ 1 ฉบับ ลมแทบจับ! ตอนเปิดอ่าน... ทางรถไฟหรือใยแมงมุมกันล่ะฮึ้!!! จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 18:30:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความดันทุรังที่อยากจะไป เอาชนะทุกอย่าง... แม้กระทั่งความกลัว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด!!! ต้องไล่ ความกังวล ออกจากหัวให้ได้ก่อน คิดดู... เวลาคนญี่ปุ่น แบกกระเป๋ามาถึงเมืองไทยครั้งแรก จะงุนงงกับระบบการขนส่งบ้านเราขนาดไหน??? ผมว่าน่าจะงงแสนสาหัสกว่าตอนที่เราไปญี่ปุ่นซ่ะอีก ระบบการขนส่งบ้านเรา มันมีเอกลักษณ์และเสน่ห์ของมันเอง ยากที่ประเทศไหนจะเลียนแบบซ่ะด้วย จะไปไหนก็มีทางเลือกในการเดินทางอันหลากหลาย ซึ่งไม่ต้องการการควบคุมและจัดการที่ดีเลย ทั้งรถเมล์ ขสมก. เมล์เล็ก รถร่วมฯ รถ บขส. รถทัวร์สารพัดบริษัท รถตู้ทั้งที่ลงทะเบียน และไม่ปรากฎสัญชาติอีกหลายสาย นี่ยังไม่นับพวก วินมอเตอร์ไซด์ รถตุ๊กตุ๊ก กับ สองแถวตามซอย อีกนะ พอกันนั่นแหล่ะ... จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 18:34:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กระทู้นี้ผมมาคนคนแรกกกก?? จะทันมะเนี่ย จากคุณ : Coffee Blended - [ 23 ก.ย. 51 18:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เมืองไทย วิีธีหลักในการขนส่งผู้คนไปไหนๆ ทั้งในเมืองและต่างจังหวัด คือ รถบัส ส่วนที่ญี่ปุ่น ก็คือ รถไฟ เพราะมันซับซ้อนพอกัน ไม่นับขนาดและความรวยนะ เริ่มต้นคิดแบบนี้ก่อน จะได้หายท้อหายกลัว แล้วค่อยแกะค่อยแงะกันไปทีละเปราะทีละปม อย่าเอารถไฟไทยไปเทียบกับรถไฟญี่ปุ่นเด็ดขาด! มันต่างกันลิบลับหลายสิบปี เราเริ่มสร้างรางรถไฟพร้อมเค้า สมัย รัชกาลที่ 5 ที่ญี่ปุ่น คือ สมัยพระจักรพรรดิเมจิ ตอนนี้ญี่ปุ่นรถไฟ(ฟ้า)จะวิ่งได้เกิน 500 กิโลต่อชั่วโมงอยู่แล้ว! บ้านเราก็ทำนะ... แต่ทำพิพิทธภัณฑ์รถไฟที่ยังใช้งานได้อยู่ในปัจจุบันไง ลองเปรียบเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ -บริษัทหลักในการขนส่งผู้โดยสารข้ามเมืองที่บ้านเรา คือ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. -ส่วนของญี่ปุ่น คือ Japan Railway Group -บ้านเราแต่ละจังหวัดมีบริษัทรถทัวร์มากมาย เช่น สยามเฟิสท์ทัวร์ นิววิริยะฯ นครชัย อินทรา เชิดชัย สมบัติ สุวรรณทที ฯลฯ -ญี่ปุ่นก็มี Private Railway ของแต่ละจังหวัด มากมายพอกัน เช่น Odakyu, Keisei, Meitetsu, Hunkyu, Hanshin, Kintetsu, Nishitetsu และอีกมากมายหลายเจ้าจำไม่ได้แล้ว -ในกรุงเทพ มีทั้งรถเมล์ ขสมก. รถร่วมบริการสารพัดบริษัท และ รถตู้เอกชน -ในโตเกียว ก็มีทั้ง Tokyo Metro, Toei Subway, Yurikamome, Tokyo Monorail, Tsukuba Express, Rinkai ฯลฯ ให้เลือกมากมาย คนที่กำลังจะไปญี่ปุ่น(เอง)ครั้งแรก ก็คงกลัวไม่ต่างจากเด็กต่างจังหวัดที่พึ่งเข้ากรุง ผมยังจำความรู้สึกนั้นได้อยู่เลย... จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 18:40:50 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดีครับ คุณ Coffee Blended ทันครับ มาคนแรกเลย ขอบคุณมากครับที่มาลงชื่อ คนอื่นๆ สงสัยจะไปรุมสหประชาทัณฑ์กันที่กระทู้แนะนำอันดับหนึ่งอยู่ เที่ยวไป... ด่าไป... กำไรชีวิตจริง ๆ ========================================= สำหรับมือใหม่ ก่อนเริ่มต้นบทเรียนที่ 1 ใครยังติดภาพรถไฟไทยอยู่ โปรดเปลี่ยนการรับรู้เกี่ยวกับรถไฟญี่ปุ่นกันก่อน ตามนี้...   -รถไฟญี่ปุ่น เป็น รถที่วิ่งโดยใช้ไฟฟ้า หรือ EMU (ย่อมาจาก Electric Multiple Unit) ไม่ได้ใช้หัวรถจักรดีเซลมาต่อกับโบกี้โดยสารเหมือนกับบ้านเรา อันนั้นที่นั่นเค้าใช้กับรถขนสินค้า ดังนั้นคุณลักษณะ รูปร่างตัวรถ และระบบการจัดการ เลยไปคล้ายกับ BTS หรือ MRT ซ่ะมากกว่า   -รถไฟแต่ละสาย จะมีการผลิตตัวรถที่หน้าตาไม่เหมือนกันมาใช้ให้เป็นเอกลักษณ์ อาจจะเป็น คนละยี่ห้อ หรือ คนละรุ่น ก็ได้   -ถ้าสายไหนใช้รถรุ่นเดียวกัน ก็จะทาสีขบวนรถให้แตกต่าง จนสังเกตได้ง่าย   -รถไฟญี่ปุ่นทุกสายเป็นบริษัทเอกชน แม้แต่ JR (Japan Railway) ที่เมื่อก่อนเป็นรัฐวิสาหกิจ ก็แปรรูปเป็นบริษัทเอกชนไปกว่า 20 ปีมาแล้ว แต่ละเจ้าแข่งขันกันเสรี แต่ JR มีสมบัติเก่าและทุนติดกระเป๋าจากรัฐบาลด้วย จะได้เปรียบชาวบ้านเค้าอยู่หลายก้าว เลยมีเส้นทาง และจำนวนขบวนรถให้บริการเป็นส่วนใหญ่ของประเทศ ครอบคลุมทุกจังหวัด   -บางตำราเค้า ก็เลยแบ่งรถไฟในญี่ปุ่น เป็น 2 พวกใหญ่ ๆ คือ JR กับ Private Railway คือ รถไฟเจ้าอื่นที่เหลือทั้งหมดที่ไม่ใช่ JR   -รถไฟแต่ละเจ้า จะมีการสร้างรางบนเส้นทางของตัวเอง ไม่วิ่งปนกัน ยกเว้นบางรางในเขตเมือง อาจจะมีรถไฟของบริษัทอื่นมาวิ่งแจมด้วย แต่ก็เป็นช่วงสั้นๆ เพราะแถวนั้นอาจมีปัญหาเรื่องไม่สามารถขยายหรือเพิ่มพื้นที่รางได้   -ส่วนที่ไม่เหมือน BTS แต่เหมือนรถไฟบ้านเรา คือ รางรถไฟแต่ละเส้น ไม่ได้มีรถวิ่งอยู่สายเดียวเสมอไป บางรางจะใช้ร่วมกันหลายสายหลายขบวน ต้องดูป้ายที่ชานชลา และ สีหรือแบบของขบวนรถให้แน่ใจก่อนขึ้น ไม่งั้นจะนั่งไปที่อื่นไม่รู้ตัว   -รถใต้ดิน (Subway) อาจไม่ได้วิ่งอยู่ใต้ดินตลอดเวลาสมชื่อ และในบางสายบางช่วง รถใต้ดินจะขึ้นไปวิ่งรางเดียวกับรถบนดินก็ได้   -Shinkansen หรือ รถไฟหัวกระสุน (Bullet Train) หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า Super Express จะมีรางของมันเอง แยกวิ่งต่างหาก ไม่ปนกับรถไฟชนิดอื่น เพราะรางรถชินคันเซง มันกว้างกว่ารถไฟปกติ แบบว่ารถเร็ว ๆ ก็ต้องมีฐานล้อกว้างเป็นเรื่องปกติ ที่ว่ามาทั้งหมด เลยทำให้รถไฟญี่ปุ่นดูหลากหลายมากมายจนลายตาไปหมด ซึ่งแม้แต่คนญี่ปุ่นเอง ก็มีงงกับการเลือกขึ้นรถ หรือนั่งแล้วหลงก็มีให้เห็นบ่อย ไม่ยากครับ ไม่ยาก แต่ต้องค่อยๆ ทำความรู้จักและเข้าใจเธออย่างช้าๆ อย่ารีบ! อย่างในภาพข้างล่างเป็นแค่ 10% ของสายรถไฟที่วิ่งกันอยู่ในเขตโตเกียวและเมืองรอบๆ เองนะ จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 18:51:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ระบบการจัดการและจัดแบ่งเส้นทางของรถไฟญี่ปุ่นทุกเจ้า ถ้าเอาให้เข้าใจง่ายๆ แบบหนุ่มอารมณ์ดี ก็จะมีแค่ 3 พวก คือ 1. รถวิ่งไปไกล ๆ ก็พวก ชินคันเซง , Limited Express (LEX หรือ Tokkyu) หรือ Express (Kyuko) วิ่งกันไกลทีละหลายจังหวัด หรือวิ่งข้ามภาคกันไปเลย 2. รถวิ่งทางใกล้ ๆ เป็นรถไฟที่วิ่งออกชานเมือง เมืองบริวาร หรือ ข้ามไปแค่จังหวัดใกล้ ๆ อย่าง Rapid Train (Kaisoku) หรือ Local Train (Futsu) 3. รถวิ่งอยู่ในเมือง คือ พวกรถไฟขนส่งมวลชนที่ให้บริการเฉพาะในเขตตัวเมือง อย่างเช่น JR สาย Yamanote , รถใต้ดิน (Chikatetsu) , รถไฟลอยฟ้าไร้ราง Yurikamome , รถไฟรางเดี่ยว (Monorail) , รถราง (Tram) ประเภทแรก ท่านพี่ SkyBox อาจารย์ผม จะเป็นคนตั้งกระทู้อธิบายให้ (อย่าลืมนะพี่) งานผมเลยง่ายขึ้น จะเล่าเฉพาะประเภทที่ 2 กับ 3 นะครับ แต่ถ้าใครสงสัยอะไร ถามได้หมดทุกประเภทเลยครับ จะค้นข้อมูลให้ ถ้าตอบไม่ได้ จะจุดธูปเชิญพี่ฟ้ามาตอบอีกที จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 18:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 7 บทที่ 1 เริ่มบรรเทาความงงกันที่สนามบินนาริตะเป็นที่แรก   ใครไปลงเครื่องที่สนามบิน Centair ที่ นาโงย่า หรือ Kansai Inter. ที่ โอซาก้า อย่าพึ่งน้อยใจนะ ถ้าโอกาสเหมาะ ๆ จะเรียบเรียงให้อ่านกันขำขำอีกที คนที่จะเริ่มเที่ยวญี่ปุ่นเอง อาจเคยเห็นรูปข้างล่างนี้มาแล้ว มันคือเส้นทางรถไฟทั้งหมดที่สามารถใช้เดินทางจาก Narita เข้าเมือง Tokyo ได้ มือใหม่แค่เห็นก็อาจเริ่มควักยาดมออกมาทาขมับแล้ว.... ใจร่ม ๆ ครับ จริง ๆ แล้วมันก็มีทางที่สะดวกที่คนญี่ปุ่นนิยมใช้ไม่กี่เส้นทางหรอกครับ แต่นิสัยคนญี่ปุ่นเค้าละเอียด และชอบเน้นข้อมูลข่าวสารให้ครบ แบบว่ามีเท่าไหร่ต้องอัดลงไปหน้าเดียวจบ ก็เลยอุตสาหะยัดลงไปซ่ะเยอะ เคยเห็นหน้าปกนิตยสารหรือการ์ตูนญี่ปุ่นมั้ยครับ มีแต่ตัวหนังสือพาดที่หน้าปกลายพร้อยไปหมด จนแทบไม่เห็นหน้านางแบบ เดี๋ยวจะผ่าพิสูจน์ให้ดูทีละเส้นทาง ใครตามไม่ทัน สะกิดถามได้เลย จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 18:58:03 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เอารูปจากกระทู้เก่าของผม ย้อนอดีตมาให้ดูกันอีกครั้ง (จำกันได้มั้ย?) ผมเคยคิดฟุ้งซ่านจิตนาการเปรียบเทียบ กรุงเทพ กับ โตเกียว เล่น ๆ ให้พี่น้องสามารถนึกภาพระยะทางระหว่างเมืองและย่านสำคัญได้ ว่าแต่ละจุดมันอยู่ห่างกันประมาณไหน สนามบินนาริตะ อยู่ในจังหวัด ชิบะ (Chiba) ซึ่งติดกับ มหานครโตเกียว นั่งรถจากนาริตะเข้าโตเกียว ก็ไกลประมาณนั่งรถจากชลบุรีเข้ากรุงเทพนั่นเอง แต่แค่เปรียบเทียบคร่าว ๆ ให้เห็นภาพ และทิศทางเท่านั้นนะ สัดส่วน และ ระยะทางจริง อาจผิดเพื้ยน และต่างจากนี้หลายอยู่ ดูกันขำขำ ครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 19:00:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ลงเครื่องบิน ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และรับกระเป๋าแล้ว เดินออกมาที่ทางออกที่ชั้น 1 ให้มองหาเคาเตอร์หน้าตาแบบนี้ มันคือเคาเตอร์ Transportation Service รับจองสารพัดตั๋วสำหรับเข้าเมือง ทั้งรถไฟ JR, Keisei และ Limousine Bus รวมถึงซื้อตั๋ววันราคาพิเศษของ Tokyo Metro Subway ด้วย (ตั๋ว Subway พิเศษแบบนี้ ซื้อได้ที่เคาเตอร์นี้ที่เดียวนะครับ) รายละเอียดตัว Tokyo Metro Open Ticket ตามนี้ http://www.tokyometro.jp/e/open_ticket/index.html ถ้าไม่อยากแบกกระเป๋าเดินทางใบยักษ์เข้าเมือง ติดต่อบริการขนกระเป๋าของบริษัท GPA (ช่องซ้ายสุด) ที่เคาเตอร์นี้ก็ได้ บริการขนกระเป๋าเข้าเมืองมีหลายบริษัทให้เลือกนะ ถ้าผมไม่ลืมซ่ะก่อน จะเล่าให้อ่านอีกทีตอนท้ายกระทู้ ตอนนี้ขอเล่าเรื่องรถไฟก่อน เด๋วกระทู้ผิดประเด็น ถ้าจะไปรถไฟ ยังไม่ต้องจองตั๋วที่นี่ก็ได้ ลงไปชั้นใต้ดิน มีเคาเตอร์รับจองตั๋ว ของ JR และ Keisei ให้บริการอยู่ข้างล่างอีก ไม่ต้องห่วง แต่ถ้าอยากคุยกับสาวญี่ปุ่นเป็นประเดิมหลังเตะแผ่นดินญี่ปุ่น แวะซื้อตรงนี้เลย เพราะเคาเตอร์ที่ชั้นใต้ดินมักจะเจอแต่คุณลุงกับคุณน้า เคาเตอร์นี้ไม่รับแลก Exchange Order ของ JR เป็นตั๋ว Japan Rail Pass นะครับ ต้องลงติดต่อซื้อที่ JR Eat Travel Service Center หรือ ที่สำนักงานรับจองที่นั่งหน้าต่างเขียว (Midori-noguchi) ของ JR ที่ชั้นใต้ดิน ลงไปสถานีรถไฟที่ชั้นใต้ดิน ด้วยบันไดเลื่อนที่อยู่แถวนั้นแหละ เข็นรถเข็นกระเป๋าลงบันไดเลื่อนได้เลย บันไดที่นี่มันสามารถ ไม่ต้องลงลิฟท์ก็ได้ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 51 19:13:08 จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 19:04:57 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จะเข้า Tokyo โดยรถไฟ มีทางเลือกอยู่ 2 แนว ตามรูปเลย 1. แนวเส้นสีแดง-ดำ นั่งรถไฟ JR อ้อมเข้าโตเกียวทางทิศใต้ มีให้เลือก 2 แบบ      1.1 JR Narita Express หรือ N’EX ถึงเร็วที่สุดและแพงที่สุด นั่งไปลงสถานีโตเกียว ใช้เวลา 54 นาที แต่ต้องจ่าย 2,940 เยน      1.2 JR Rapid Airport Narita (Sobu Line) หรือ รถด่วนปกติ ใช้เวลานานที่สุดที่ 80 นาที จะถึงสถานีโตเกียว ค่าใช้จ่าย 1,280 เยน 2. แนวเส้นสีน้ำเงิน นั่งรถไฟ Keisei อ้อมเข้าโตเกียวทางทิศเหนือ มีให้เลือก 2 แบบเหมือนกัน      2.1 Keisei Skyliner เป็นรถชั้นพิเศษของ Keisei ปลายทางอยู่ที่ Ueno ใช้เวลา 51 นาที เร็วกว่า JR นิดนึง แต่จ่ายถูกกว่าเยอะที่ 1,920 เยน      2.2 Keisei Limited Express ซึ่งก็คือรถไฟชั้น Rapid นั่นแหละ แต่ Keisei เรียกชื่อให้ดูหรูหน่อย ไว้เรียกลูกค้า จากนาริตะไปถึง Ueno ในเวลา 71 นาที โดยมีค่าใช้จ่ายถูกที่สุด แค่ 1,000 เยนเท่านั้น ทั้งสองเจ้าแข่งขั้นกันแย่งลูกค้าด้วยราคาลดพิเศษ JR เปิดสงครามราคา โดยขายตั๋ว N’EX ควบกับบัตร Suica ในราคา 3500 เยน ส่วน Keisei ก็ไม่น้อยหน้า จับมือกับ Tokyo Metro Subway ขายตั๋วรถด่วน Skyliner ควบกับ Open Ticket ของ Tokyo Metro Subway ด้วยราคา 2100-2480 เยน เดี๋ยวท้ายๆ กระทู้ จะเล่ารายละเอียดเรื่องโปรโมชั่นให้อีกทีนะ จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 19:11:33 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กลับมาที่ชั้นใต้ดินของสนามบิน จะมีร้านค้า / ร้านขายน้ำ-ขนม /  สำนักงานของ JR / เคาเตอร์ขายตั๋ว และ ทางเข้าชานชลา ทั้งของ JR และ Keisei แต่ทางเข้าชานชลาจะแยกกันคนละทาง ลักษณะคล้ายกันทั้งสองเทอร์มินอล ไม่ซับซ้อน เครื่องใครลงเทอร์มินอลไหน เช็คได้ที่ตั๋วของท่านครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 19:16:37 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เอารูปผังอาคารในสนามบินมาให้ดู จะได้นึกภาพออก เทอร์มินอล 1 อยู่ด้านล่าง เทอร์มินอล 2 อยู่ด้านบน มีถนนขั้นกลาง ทางรถไฟซ่อนอยู่ใต้ดิน จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 19:19:09 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ปาดๆๆๆ ว้าว โชคดีจัง กำลังหาข้อมูลแบบด่วนจี๋เลย มารอฟัง เพราะว่ากำลังลังเลอยู่ว่าจะซื้อ JR west pass หรือว่า Surutto Kansai Three Day Ticket คือแบบ 3 วันของทั้งสองอันราคา 5000 เยนเท่ากันเลย อันไหนคุ้มกว่ากันคะ ถ้าต้องอยู่แถวๆ คันไซ 5 วัน จากคุณ : AjN_O - [ 23 ก.ย. 51 19:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 14 กลับมาที่ชั้นใต้ดินอีกครั้ง หลังจากเผลอตัวจะโม้ไปไกลอีกแล้ว.... ถ้าจะแวะแลก Exchange Order เป็น JR Rail Pass หรือซื้อบัตร Suica & N’EX แวะที่นี่เลย... JR East Travel Service Center ในแผนที่ที่ คห. 11 คือ จุดที่ระบายสีแดงเอาไว้ แม้ว่าจะยังไม่เริ่มใช้ JR Rail Pass ในวันนั้น ก็สามารถแลก Pass ไว้ล่วงหน้าได้เลย ได้ JR Pass แล้ว สามารถจองตั๋วรถไฟต่อได้ทันที ที่เดียวกันนี่แหละ จองได้ล่วงหน้าเป็นเดือน และจองได้ทุกสายทั่วประเทศ ไม่ทราบเวลาและสายรถ ปรึกษาเจ้าหน้าที่ JR ที่ Travel Service Center ได้เลย หรือจะให้เจ้าหน้าที่ แนะนำเส้นทาง หรือขบวนรถให้ก็ได้ พูดภาษาอังกฤษกันคล่องทุกคน มีทัวร์ของ JR ขายให้ด้วย มาที่เดียวครบ! JR East Travel Service Center เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด สำนักงานเทอร์มินอล 1 เปิด เก้าโมงครึ่ง ถึง หนึ่งทุ่ม สำนักงานเทอร์มินอล 2 เปิด สิบโมงครึ่ง ถึง สองทุ่ม ปล. JR หรือ Japan Railways Group เค้าแบ่งเป็นบริษัทย่อย ๆ อีก 6 บริษัท ตามเขตพื้นที่ เพื่อสะดวกในการบริหารงาน จะได้รวดเร็วไม่อุ้ยอ้าย คือ JR Hokkaido / JR East / JR Central / JR West / JR Shikoku และ JR Kyushu เขตโตเกียวและเมืองรอบๆ ขึ้นไปจนถึง Nagano Yamagata Sendai Hachinohe สุดปลายเกาะที่ Aomori เป็นเขตรับผิดชอบของ JR East ครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 19:29:17 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มาเกาะกระทู้ต่อค่า (เรื่องรถไฟญี่ปุ่นนี่บางทีปูคิดว่า มีเยอะไปป่าว จะหาวิธีขึ้นทีนึง มันก็มีหลายเส้นเกิน เลือกไม่ถูก 55) ตอนนี้กำลังศึกษาและสับสนเรื่อง Nikko อยู่ 555 เรื่อง pass ต่างๆ ว่าคุ้มไม่คุ้มกับจ่ายแยกรึป่าว เพราะมี JR Pass แล้วอ่ะค่ะ ไว้เดียวทำแผนเที่ยว 16 วันเสร็จจะรบกวนให้พี่ๆน้องๆเพื่อนๆรวมทั้งคุณหนุ่มดูให้ทีว่าดีมั้ย นะคะนะคะ !! จากคุณ : ชิงหมูเกิด - [ 23 ก.ย. 51 19:32:23 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนนี้ยังวนอยู่แถวนาริตะครับ ยังไม่ได้ไปคันไซ ต้องคิวคิวรอก่อนะครับ คุณ AjN_O เอางี้ เดี๋ยวผมจุดธูปเชิญอาจารย์ผมให้ แกถนัดแถวคันไซครับ ส่วนผมถนัดแต่คันอย่างอื่น พี่ฟ้า... พี่ฟ้า.... ได้ยินแล้วช่วยมาตอบคำถามคุณ AjN_O ให้ด้วยเด้อ... =============================================== ถ้าเครื่องไปถึงแต่เช้าตรู่ หรือ หลังสองทุ่ม Travel Service Center ยังไม่เปิด หรือ ปิดกลับบ้านกันหมดแล้ว ให้แวะที่เคาเตอร์สำรองที่นั่งของ JR หรือ สำนักงานหน้าต่างเขียว (Midoriguchi) ได้ครับ อยู่ใกล้ๆ กับ Travel Service Center เลย ให้บริการเหมือนกัน เพียงแต่ต้องยืน และไม่รับปรึกษานาน ๆ เท่านั้นเอง เพราะคิวยาว คนข้างหลังเค้าจะค้อนเอา ที่เคาเตอร์จะมีสัญลักษณ์รูปคนนั่งบนเบาะรถ เป็นสีเขียว ติดอยู่ที่ป้าย หรือ ที่ผนังด้านใน ตัวเบ้อเร่อ แบบนี้.... จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 19:34:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้ารักและอยู่กันนานๆ เด๋วก็เข้าใจกันครับ.... ชะอุ๊ย! ขอโทษ นึกว่าถามปัญหาหัวใจ ใจเย็นๆ ครับ คุณชิงฯ ค่อยๆ ศึกษาไป เด๋วก็ get เอง ลองตั้งประเด็นมาที่นี่ก็ได้นะ รีวิวจบตอนนี้แล้วจะลองวิพากษ์ Nikko กันดู ====================================== เคาเตอร์หน้าต่างเขียว เปิดตั้งแต่ประมาณ หกโมงครึ่ง ถึง สี่ทุ่ม หลังจากนั้น ต้องซื้อตั๋วจากเครื่องขายอัตโนมัติแล้วครับ รถไฟเที่ยวสุดท้าย (Keisei Limited Express) หมดประมาณห้าทุ่มนะ เรื่องจะนั่ง Taxi เข้าโตเกียว ถ้าขนหน้าแข้งท่านไม่หนาและดกดำ อย่าได้ลองเด็ดขาด!!! เพราะต้องจ่ายประมาณเกือบ 30,000 เยน หรือ 9,000 กว่าบาท (คุณพระ!!!) เปิดโรงแรมที่นาริตะนอนซ่ะ 1 คืน บวกค่ารถไฟตอนเช้า ยังประหยัดกว่าเลย... รูปเคาเตอร์หน้าต่างเขียวที่นาริตะ ผมลืมถ่าย ต้องไปเอารูปของ คุณพงศกร ป. มาให้ดูไปก่อน… ขออนุญาตด้วยครับ คราวหน้าไม่ลืมแน่นอน เป็นเคาเตอร์หน้าต่างเขียวที่เทอร์มินอล 2 มุมนี้เห็นหน้าต่างเขียวไม่ชัด เพราะติดอยู่ที่ผนังด้านใน โดนเสาบังไปครึ่งอัน มองเห็นมั้ยเอ่ย.... จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 19:39:37 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ส่วนของรถไฟ Keisei ไม่มีสำนักงาน Travel Service Center เหมือน JR เพราะวิ่งอยู่แค่ระหว่างจังหวัด Chiba กับ Tokyo มีแต่เคาเตอร์ขนาดใหญ่สีฟ้า-ดำ ที่ดูทันสมัยไม่เบา เมื่อ 2 ปีก่อนยังเป็นเคาเตอร์สีฟ้า-ขาว ดูเชยๆ อยู่เลย ออกแบบได้ Hip หลาย นึกว่าบาร์ขายน้ำผลไม้ซ่ะอีก ถ้าจะเข้าโตเกียวด้วยรถไฟ Keisei ติดต่อซื้อตั๋วจากเจ้าหน้าที่ที่เคาเตอร์ได้เลย จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 19:41:32 ]

ความคิดเห็นที่ 19 หรือจะซื้อจากเครื่องขายอัตโนมัติที่อยู่ด้านข้างก็ได้ ตามสะดวก... แต่เครื่องขายของ Keisei เป็นรุ่นโบราณหน่อยนะ แต่มีภาษาอังกฤษบอก แล้วรุ่นนี้ก็ไม่ได้ใช้ยากมากมายอะไร เช่น จะเข้า Nippori หรือ Ueno ที่ตั๋วราคา 1000 เยน กดปุ่มที่เป็นรูปผู้ใหญ่ 1 คน (ตั๋ว 1 ใบ) ถ้ามา 2 คน ก็กดรูปคน 2 คน ซึ่งปกติ ปุ่มนี้ถ้าไม่ได้กด เครื่องจะเลือกเป็นผู้ใหญ่ 1 คน ให้อัตโนมัติอยู่แล้ว ยัดแบงค์ 1000 เยน หรือ หยอดเหรียญลงไปตามจำนวนตั๋วและราคาที่ต้องการ ปุ่มตัวเลขจำนวนเงิน จะส่องแสงตามจำนวนเงินที่ท่าน ยัด หรือ หยอดลงไป แล้วกดปุ่มที่มีเลข 1000 (เยน) ตามราคาตั๋ว ถ้าเงินไม่พอ เครื่องจะร้องขอเงินเพิ่มเอง สุดท้ายเครื่องจะคายตั๋วออกมา 1 หรือ 2 ใบ แล้วแต่จะเลือกไว้ แล้วก็รับเงินทอน (ถ้ามี) ถ้าไม่รู้ว่าตั๋วราคาเท่าไหร่ หยอดตั๋วราคาต่ำสุดไว้ก่อนก็ได้ (น่าจะประมาณ 150-200 เยน) แล้วพอถึงปลายทาง ค่อยเอาตั๋วยัดใส่เครื่อง Fare Adjustment หรือ ให้เจ้าหน้าที่ที่ประตูทางออก คิดเงินเพิ่มอีกที ไม่มีค่าปรับหรอกครับ ระบบเค้าคิดขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในทุกกรณีอยู่แล้ว วิธีการนี้เป็นวิธีมาตรฐาน ใช้ได้กับรถไฟทุกเจ้า ทุกแบบ ทั้งบนดินและใต้ดิน ยกเว้นแต่รถไฟขบวนที่ต้องจองที่นั่ง (Reserved Seat) เท่านั้น ที่ต้องเข้าไปจองในสำนักงานขายตั๋ว ใช้ง่ายกว่าใช้เครื่องซักผ้าที่้บ้านอีก จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 19:43:15 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าเป็นเครื่องขายตั๋วของ JR จะทันสมัยกว่า เพราะเป็นระบบหน้าจอสัมผัส มีขั้นตอนบอกทางหน้าจอตลอด ค่อยสบายหน่อย... ถ้าอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก มีปุ่มเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษให้นะ ตู้นี้ใช้เติมเงินบัตร Suica ได้ด้วย จะหยอดจะแหย่อะไรลงช่องไหน เค้าทำรูปบอกไว้ที่เครื่องหมด ยืนดูคนญี่ปุ่นเค้าใช้ซักรอบสองรอบ เด๋วก็ทำได้ เครื่องสูบน้ำที่บ้านผมยังเอาใจยากกว่าซ่ะอีก จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 19:47:37 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไปชมหน้าตารถไฟที่เราจะนั่งเข้าโตเกียวกัน เริ่มที่ JR ก่อน มี 2 แบบ เป็น Limited Express (Tokkyu) สาย Narita Express กับ Rapid Train (Kaisoku) สาย Sobu แบบแรก Narita Express หรือ N'EX หรูสุด แพงสุด และ เกือบวิ่งเร็วที่สุด ในบรรดารถวิ่งเข้าโตเกียว (130 กม./ชั่วโมง) เป็นผลผลิตของ บริษัท JR East ในรหัส EMUs 253 Series ข้อมูลทางเทคนิคสำหรับ เททจัง และ เททสึโกะ สาขาประเทศไทย ไปอ่านที่นี่ลย http://en.wikipedia.org/wiki/253_series มีออกจากสนามบินนาริตะวันละ 24 ขบวน เที่ยวแรก 7.42 เที่ยวสุดท้าย 21.43 น. สถานีหลักที่แวะจอด คือ Airport-Terminal 2, Tokyo, Shinagawa, Shibuya, Shinjuku, Ikebukuro สุดทางที่ Omiya ทางเหนือของโตเกียว ขบวนก่อนเที่ยง จะแวะจอดเมือง Narita กับ Chiba ด้วย ขบวนที่ออกสายกว่า 9 โมงเช้าเป็นต้นไป พอวิ่งถึง สถานี Tokyo จะแบ่งขบวนเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกวิ่งขึ้นเหนือผ่าน Shinjuku ไป Omiya อีกส่วนวิ่งล่องใต้ไป Yokohama, Totsuka และ Ofuna ใครชักงงทิศ กลับไปดูแผนที่ที่ คห. 7 หรือ 10 ได้นะครับ ใช้เวลาเดินทางจากสนามบิน ถึงสถานีโตเกียว 54 นาที ถ้าลงชินจูกุก็ 1 ชั่วโมง 18 นาที ลงโยโคฮาม่าก็ชั่วโมงครึ่ง ค่าโดยสารแบบเต็มราคา ลงโตเกียว 2,940 เยน / ชินจูกุ หรือ อิเคะบุคุโระ 3,110 เยน / โยโคฮาม่า 4,180 เยน มีราคาโปรโมชั่นพิเศษร่วมกับ Suica สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะบอกรายละเอียดอีกทีตอนท้ายกระทู้ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 51 19:51:43 จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 19:50:56 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามาในตัวรถ ดูเรียบง่าย ทันสมัย เส้นสายไม่เยอะ แต่เท่ห์ เหมือนยานอวกาศมากกว่ารถไฟ เบาะใหญ่นั่งสบายกระชับตัว สีแดงดำเหมือนตัวรถ ให้บรรยากาศแบบสปอร์ต เข้ากับตัวรถที่เน้นความเร็ว ด้านท้ายโบกี้ มีชั้นสำหรับวางกระเป๋าเดินทางใบยักษ์ให้พร้อม ถ้าที่ไม่พอ เอามาวางไว้ข้างที่นั่งก็ได้ เหมือนในรูป เพราะทางเดินกว้างพอ เป็น Reserved Seat ทุกที่นั่ง ต้องจองก่อนทุกครั้ง คิดว่าไม่น่ามีตู้ Non-reserved Seat นะ แต่มี Green Car (รถนั่งชั้น 1) ให้บริการด้วย ที่นั่งในตู้ Green Car จะมีแค่แถวละ 3 ตัว (2+1) เค้าว่ากันว่านั่งสบายเหมือนโซฟาที่บ้านเลย ก็ฟังแต่ที่เค้าเล่ามา เพราะไม่มีโอกาสจะได้นั่งซักกะที... (งก) จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 19:53:41 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พี่หนุ่มฯ ขา.......     นู๋ติดตามกระทู้ของพี่มาตั้งแต่อันแรกเลย..... นี่ถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะราวๆ 5 เดือนแล้ว......   ขอชื่นชมพี่ในความพยายามมารีวิวให้ดู และความพยายามในการหาข้อมูลต่างๆ อย่างแรงค่ะ.......    จะติดตามไปเรื่อยๆนะคะ  อย่าเพิ่งหยุดซะล่ะ   อิอิ   (^ - ^)     นู๋ว่า....  ข้อมูลพี่แน่นอย่างงี้    น่าจะรวมเล่มออกหนังสือขายเลยนะ!!  นู๋จะได้มีหนังสือนำเที่ยวญี่ปุ่น พิมพ์สวยๆ ข้อมูลแน่นๆไว้อ่านอ่ะ จากคุณ : DarHip (Monster_number1) - [ 23 ก.ย. 51 19:53:59 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นว่าตั้งแต่ปีหน้า Narita Express 253 Series จะทยอยเปลี่ยนเป็น 259 Series ใครไปญี่ปุ่น รีบเก็บรูป 253 Series ไว้เถอะครับ อีกไม่นานจะตกรุ่น ทยอยเลิกใช้แล้ว เสียดายยังใหม่อยู่เลย ถ้าเป็นบ้านเรา คงใช้ไปได้อีกหลายชั่วอายุขัย Features ใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นมาใน 259 Series ประกาศออกมาแล้ว ไปแปลจาก wiko มาแบบงูๆ ปลาๆ ด้วยความรู้ระดับวิศวกรรมเครื่องแกงกะหรี่ ตามนี้   1. ปรับปรุงระบบช่วงล่างและระบบซับแรงสั่นสะเทือนระหว่างรอยต่อขบวนรถให้วิ่งนิ่มนวลชวนนอนมากขึ้น   2. ปรับโครงสร้างพื้นห้องโดยสารให้เงียบกริบจนได้ยินเสียงลมหายใจคนข้างๆ (คร่อกกกกกกกก)   3. เพิ่มระยะห่างระหว่างเบาะ.แต่ละแถวให้คนขายาวนั่งเหยียดกันสบายข้อ จาก 98 เป็น 102 ซม. ในชั้นปกติ และ 116 ซม. สำหรับตู้ Green Cars   4. เพิ่มพื้นที่ใต้เบาะไว้ให้สามารถวางกระเป๋าได้สะดวกขึ้น เพราะน่าจะเกิดปัญหาผู้โดยสารเอากระเป๋ามาวางขวางทางเดินบ่อย   5. มีป้ายประกาศในรถหลายภาษามากขึ้น ถ้ามีภาษาไทยด้วยก็ดีนะ (ฝันไปมั้ง)   6. ติดกล้องวงจรปิดไว้ตามห้องน้ำ เอ๊ย! ไม่ใช่ ติดตามทางเดิน และพื้นที่วางกระเป๋าด้านหลัง   7. อันนี้ต่อเนื่องจากข้อ 6. ช่องวางกระเป๋าใบใหญ่ด้านหลังตู้ จากเดิมที่เปิดโล่ง จะสามารถปิดล็อคได้ (เย่!)   8. เพิ่มห้องน้ำสำหรับผู้พิการนั่งรถเข็นด้วย (สุดยอด!)   9. ปรับระดับความสูงของพื้นทางเดินในตัวรถ กับระดับชานชลาให้สูงใกล้เคียงกัน เวลาขึ้นลงจะได้ไม่สะดุด คนนั่งรถเข็นมากก็สามารถเข็นขึ้นด้วยตัวเองได้   10. เพิ่มขนาดโต๊ะพับที่อยู่ด้านหน้า จะได้วาง Notebook ไปด้วย กินข้าวไปด้วยได้   11. เพิ่มปลั๊กไฟ ไม่บอกว่าอยู่ที่ไหน แต่คาดว่าจะอยู่ในห้องน้ำ อ่านแล้วก็ได้แต่โอ้... ญี่ปุ่นนี้ช่างปรับปรุงกันกันไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ ของเดิมก็เจ๋งอยู่แล้ว ยังทำให้ดีขึ้นอีก ไปคุ้ยรูปจำลองของ 259 Series มาให้ดูประกอบด้วย เป็น Type n-1 ตัวจริงออกมาหน้าตาอาจต่างจากนี้ได้นะ ถ้ามีความคืบหน้า จะรายงานให้ทราบอีกครั้ง NumAromDee รายงาน  / skyscrapercity.com ถ่ายภาพ / แม่หนุ่ม ให้กำลังใจ / ท่านสมชาย เป็น นายกฯ จบรายงาน! จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 19:57:41 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มาขอแอบดู เอ้ย!แอบชมด้วยคนนะคะ เป็นน้องใหม่ของห้องนี้ค่ะ เลยยังไม่เคยชมผลงานของคุณหนุ่มมาก่อน ได้อ่านแล้วก็อย่างอึ้งค่ะ น่าสนใจมากๆ เขียนได้ละเอียดและน่าอ่านมากเลยค่ะ ได้มีโอกาสได้ไปญี่ปุ่นมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ไปกับทัวร์ค่ะ ยังไม่โอกาสได้นั่งรถไฟเลย อยากหาโอกาสไปแบบคุณหนุ่มบ้างจัง ขอศึกษาไว้ก่อนนะคะ เผื่อฟลุ๊คมีโอกาสได้ไปอีก อิอิ จากคุณ : pinkyrose - [ 23 ก.ย. 51 20:06:57 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คิดว่าคงไม่หยุดง่ายๆ หรอกครับ เพราะมีผู้ติดตามอย่างเหนียวแน่น (แบบน้องปีศาจสาวหมายเลข 1 งัย...) กะทำสถิติ รีวิวข้ามปีครับ ทำเรื่องเล่นๆ ให้จริงจัง คืองานถนัดของผม! เรื่องรวมเล่ม สนใจเหมือนกัน แต่ยังไม่มีนายทุนเลยจ๊ะ.... นี่แหละสำคัญ เรื่องเวลาก็ด้วย แค่มานั่งรีวิวให้พี่น้องห้องบลูอ่าน กลับบ้านก็สลบเหมือดทุกวันแล้ว แต่ถ้าให้ผมเลือก เขียนขายได้ตังค์แต่คนเกลียด กับ เขียนให้อ่านฟรีแต่คนรัก ผมเลือกอย่างหลังครับ แต่ก็จะพิจารณาคำขอของน้องปีศาจนะจ๊ะ ไม่แน่ อาจมีเซอร์ไพส์... =================================== พูดถึงเรื่องหน้าตารถไฟญี่ปุ่นรุ่นใหม่ จะออกแนวอ้วนกลม หน้าดำๆ กันหมดเลย เหมือนอย่างขบวนนี้ เจอที่อูเอโนะ วิ่งไปไหนก็ไม่รุ เห็นแต่ขึ้นไปทางเหนือ ลืมจดข้อมูลไว้ มัวแต่ถ่ายรูป ใครรู้ช่วยบอกทีนะ จะได้ทำทะเบียนรูปถ่ายไว้ จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 20:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ง่ะ......   พี่เรียกชื่อนู๋ซะ...  อ่านแล้วเขิลล์ๆ แปลกๆ     คราวหน้าเจอกัน  นู๋ชื่อ ดา นะคะพี่..... อีกอย่าง....  ชื่อพี่คุ้นๆ นี่เราอยู่ก๊วนแพ็คปฏิทินด้วยกันป่าวเนี่ย?? จากคุณ : DarHip (Monster_number1) - [ 23 ก.ย. 51 20:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณ pinkyrose เหมือนเห็นกระทู้คุณอยู่แว่บๆ นะ ขออวยให้โอกาสที่ได้นั่งมาถึงไวๆ นะครับ แล้วจะเอาใจช่วย แล้วคุณ pinkyrose จะกลายเป็น เททสึโกะ (สาวกรถไฟญี่ปุ่นที่เป็นผู้หญิง) โดยไม่รู้ตัว.... ==================================== โม้ไปไกลๆ กลับมาที่ขบวนเข้าเมืองที่เป็น JR อีกแบบนึง แบบนี้คนไทย และชาวต่างชาติส่วนมากจะไม่ค่อยเลือกนั่ง เพราะใช้เวลาเดินทางนานที่สุด จอดป้ายบ่อยที่สุด แถมราคายังไม่ถูกอีกตะหาก Sobu Line สาย Rapid Airport Narita จากนาริตะ เข้า โตเกียว ใช้เวลาไปเกือบ 80 นาที กับค่าตั๋ว 1,280 เยน คนงบน้อยเลยไปเลือกนั่ง Keisei Limited Express กันหมด ถ้างบมาก หรือมี JR Pass ก็นั่ง Narita Express ไป ที่จะนั่งคือ คนที่จะไปลงสถานีระหว่างทาง ที่อยู่ทางด้านใต้ของจังหวัด Chiba กันเป็นส่วนมาก รถรุ่นนี้ใช้รถรุ่น E217 series ( http://en.wikipedia.org/wiki/E217_series )พ่วงกันมาทีเกือบ 15 ตู้ จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 20:22:58 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ้าว! ก็คุณน้องปีศาจสาว เคยบอกเองว่าชอบแมนยูมิใช่หรือก๊ะ... ก็เลยตั้งชื่อให้ซ่ะ น่ารักน้า..... แม่นแล้ว คุณหมอโมรา (agate) เธอมาชวนทางหลังบ้าน ว่ากำลังหาคนทำบัญชี แต่ให้ผมทำบัญชีคงบรรลัยวายวอด เลยขอไปช่วยใช้แรงงานซ่ะ กำลังอยากทำอะไรเพื่อสังคมห้องบลูอยู่พอดี แล้วเจอกันนะน้อง... เจอหน้าผมแล้วอย่าตกใจนึกว่าชินจังตอนอายุ 30 ล่ะ... อิอิ จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 20:28:49 ]

ความคิดเห็นที่ 30 K.หนุ่มรวมเล่มเลยค่ะ ป้าออกตังค์ให้ อ่านแล้วหัวเราะทุกตอนเลย แต่ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวไม่ได้เจอกันทุกอาทิตย์..อย่าจบเร็วนะคะ หมดข้อมูลเมื่อไรไปขอตังค์อาหมูไปใหม่ อิ.อิ. จากคุณ : patim - [ 23 ก.ย. 51 20:36:45 A:203.153.173.112 X: TicketID:187612 ]

ความคิดเห็นที่ 31 555    เหมือนชินจังแค่หน้าตา... หรือว่านิสัยด้วยคะพี่หนุ่มฯ     แว้บ.... ไปคุยต่อหลังไมค์   555 จากคุณ : DarHip (Monster_number1) - [ 23 ก.ย. 51 20:37:19 ]

ความคิดเห็นที่ 32 บรรยากาศภายในรถไฟ Sobu Line ก็คล้ายกับ BTS หรือ MRT บ้านเรา เป็นที่นั่ง 2 เที่ยวหันหน้าชนกันพร้อมราวจับ แต่รูปขบวนนี้รู้สึกจะเป็น Chuo-Sobu line สาย Local ที่วิ่งอยู่ในเมือง Tokyo นะ โฆษณาเพียบเลย... เอามาให้ดูสภาพในห้องโดยสารเฉยๆ จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 20:41:50 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อาหมูไปขอได้เฉพาะไวน์ดี ๆ กับเนื้ออร่อย ๆ กินครับ patim (อ่านว่าป้าติ๋มรึเปล่าเนี้ยะ...) ขืนไปขอตังค์ แกจะได้เตะตูดผมกระเด็นออกจากบ้านไม่ทัน ใจอาหมูกว้างเป็นทะเลเลยครับ เป็นทะเลน้ำจืดซ่ะด้วย แต่ไม่ชอบให้ลูกหลานงอมืองอเท้า เก็บครับเก็บเอง... ผมจะไปคันไซปีหน้า ยังต้องเตรียมเก็บเงินซ่ะตั้งแต่เด๋วนี้เลย คิดดูละกันว่าจนขนาดไหน นิสัยก็ไม่ต่างอะไรกับชินจังเลยครับ น้องปีศาจ ออกจะลามกมากกว่าด้วยซ้ำ แว่บ... แอบไปคุยหลังบ้านบ้าง..... ================================= ที่น่าสนใจที่ทำให้รถไฟสาย Rapid Airport Narita แตกต่างจากรถไฟ Sobu ขบวนปกติที่วิ่งชานเมืองขบวนอื่นๆ คือ มันมีตู้ Green car ให้เลือกนั่งด้วยครับ แต่ต้องจ่ายเพิ่มนะ เท่าไหร่ก็ไม่รุ คงจะแพง เลยไม่ได้สนใจถามข้อมูลไว้ เป็นตู้แบบ 2 ชั้น ที่หรูใช้ได้เลย เสียอย่างเดียว ถ้านั่งชั้นล่าง เวลารถวิ่งเข้าชานชลา หน้าเราจะอยู่ตรงเท้าคนที่ยืนรอรถพอดี สัญลักษณ์รูปกลีบดอกไม้เขียวๆ ที่เห็น คือเครื่องหมายที่บอกว่า ตู้นั่นเป็น Green car ครับ พวกรถขบวนที่วิ่งไกลๆ จะีมีตู้อยู่ 1-2 ตู้ ที่ติดเครื่องหมายแบบนี้ จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 20:59:46 ]

ความคิดเห็นที่ 34 Hi K. Num ka, Just passing by to say Hi ka. Sabai dee naka? Got your mail but WHERE IS YOUR PIC KA??? *evil grin* Enjoy your eve naka ; ) จากคุณ : Reema - [ 23 ก.ย. 51 21:02:37 A:217.162.5.125 X: TicketID:185608 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ไปดูทางฝั่งของ Keisei กันบ้าง ว่าเป็นคู่ชกที่สมน้ำสมเนื้อกันมั้ย.... พระเอกของฝั่ง เคเซ ก็คือ Skyliner ครับ เป็น EMU ในซีรีย์ AE100 ที่วิ่งระกว่างสนามบิน กับ Ueno ด้วยเวลาเร็วจี๋แค่ 51 นาที เพราะพอออกจากสถานี Terminal 2 ก็แวะจอดแค่ 3 สถานี คือ Keisei Narita , Keisei Funabashi และ JR Nippori (สถานีนี้ไปใช้ร่วมกับ JR ครับ) เร็วและราคาสบายกระเป๋าที่ 1920 เยน ถูกที่ Narita Express (แบบที่ไม่มี Promotion) มีรถออกจากสนามบินวันละ 22 เที่ยว น้อยกว่า N'EX นิดนึง เที่ยวแรกออกเวลา 9.23 น. เที่ยวสุดท้ายออก 22.00 น. จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 21:12:43 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สวัสดียามบ่ายครับคุณรีม่า (ที่นู่นคงเป็นตอนบ่ายอยู่เนอะ) รูปผมก็ให้ดูที่หน้ากระทู้ไปแล้วงัย..... น่ารักมั้ยล่า..... คริคริ...... ======================================== ภายใน Keisei Skyliner ออกแบบได้ธรรมดามาก เป็นแบบเรียบๆ เหมือนนั่งรถทัวร์บ้านเรา เบาะเป็นสีน้ำเงิน เหมือนลายตัวรถ สีน้ำเงินแดงคงเป็นสีประจำของบริษัทเค้า (ของ JR East เป็นสีเขียวแก่) สภาพภายในรถก็เหมือนรถไฟมาตรฐานญี่ปุ่นทั่วไป คือเรียบร้อยและสะอาดมากถึงมากที่สุด รายละเอียดที่นั่ง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใน Skyliner ดูตามนี้เลย http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/keisei_us/html/skyliner.html ส่วนรายละเอียด และอุปกรณ์ภายใน N'EX ก็ตามนี้ http://www.jreast.co.jp/e/nex/ จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 21:28:16 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เททสึโกะ   เททสึโกะ   เททสึโกะ  ฉานจาเป็นเททสึโกะ  ค่ะ อิอิท่องไว้ก่อนค่ะ ต้องขอขอบคุณ คุณหนุ่มอารมณ์ดี๊ดี ด้วยนะคะที่แนะนำและอวยพรให้ได้ไปอีกรอบ คุณหนุ่มคงเห็นกระทู้ของpinkyroseแว่บๆแล้วมังคะ เป็นรีวิวไปญี่ปุ่นค่ะ ไปมาตั้งแต่เดือนมีนาแล้ว แต่เพิ่งเข้ามาเล่นห้องนี้ เห็นสมาชิกท่านู้นท่านนี้รีวิวกันสนุกสนานเลยอยากร่วมแชร์ประสบการณืด้วยค่ะ อย่างที่คุณหนุ่มว่า การที่เรานำเสนออะไรไปแบบฟรีๆ ขอแค่มีคนรัก เข้ามาอ่าน เข้ามาสนใจเราบ้าง แค่นี้ก็มีความสุขแล้วค่ะ จากคุณ : pinkyrose - [ 23 ก.ย. 51 21:39:43 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ข่าวดี..... สำหรับผู้นิยมใช้ Keisei ทุกท่าน อีก 2 ปี (ปี 2553) ทาง Keisei จะเปิดเส้นทางสำหรับรถ Skyliner เส้นทางใหม่ ให้ชื่อว่า New Skyliner หรือ Narita New Rapid Line ตอนนี่กำลังก่อสร้างมาได้เยอะแล้ว เส้นทางใหม่จะตัดตรงจากสนามบินนาริตะไปยังอูเอโนะ (ในรูปเส้นสีน้ำเงิน) แทนที่จะวิ่งอ้อมเป็นเส้นโค้งเหมือนเส้นทางเดิม (เส้นสีเขียว) รางที่สร้างใหม่ จะทำให้รถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดที่ 160 กิโลต่อชั่วโมง ซึ่งจะทำให้วิ่งจากนาริตะ ถึง นิปโปหริ (ใกล้กับอูเอโนะ) ได้ในเวลาแค่ 36 นาที!! เร็วกว่าเดิมอีก 15 นาที ทาง Keisei หมายมั่นปั่นมือไว้ว่า เส้นทางใหม่นี้จะทำให้ Keisei ได้เปรียบ JR ขึ้นมาอีกบาน ในการแข่งขันอันหนักหน่วงระหว่างผู้ให้บริการรถไฟเข้าเมือง ใครเก็บเงินไปญี่ปุ่นอยู่ แล้วอยากลองนั่งสายใหม่ ไม่ต้องรีบนะครับ อีกหลายอึดใจแม้วกว่าจะเสร็จ รายละเอียดของเส้นทาง และสถานีที่จะจอด ของ New Skyliner ดูตามนี้เลย http://en.wikipedia.org/wiki/Narita_Rapid_Railway จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 21:40:44 ]

ความคิดเห็นที่ 39 Lol @ รูปผมก็ให้ดูที่หน้ากระทู้ไปแล้วงัย..... น่ารักมั้ยล่า... Mmmm... Didn't know that you are a shy guy...! Yep, it's about 16:45 Hrs here ka so another couple of hours to go until hometime ka. This is another useful thread - thanks ka. PS K. Num, don't forget to invite me for book launch party naka ;) จากคุณ : Reema - [ 23 ก.ย. 51 21:48:50 A:217.162.5.125 X: TicketID:185608 ]

ความคิดเห็นที่ 40 บอร์ดนี้คนอ่านเยอะครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องบอร์ดร้างเลย คุณพิงกี้ฯ เข้ามาบ่อยๆ เด๋วคุณจะได้ทั้ง ญาติและเพื่อนพี่น้องไปพร้อมกัน คนห้องนี้น่ารักทั้งนั้น บางทีนึกว่าไม่มีใครมา แต่แอบอ่านกันเงียบๆ อยู่หลังม่านเยอะเลย บางคนโผล่มาทักผมเฉพาะทางหลังบ้านอย่างเดียวก็มีบ่อย.... ยินดีครับ ยินดีที่จะมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ชอบเที่ยวญี่ปุ่น เพิ่มอีก 1 คน ======================================= มาถึงประเภทสุดท้าย รถไฟยอดนิยมของมหาชนผู้รักของถูก Keisei Limited Express ถูกสุดสุด เพียง 1000 เยนต่อเที่ยว ใช้เวลาเดินทางถึง Ueno ภายใน 71 นาที นานนิดนึง เพราะจอดประมาณ 10 สถานี นั่งชมวิวไปเพลินๆ แป๊บเดียวถึง มีรถออกถี่ยิบถึงวันละ 50 เที่ยว ออกทุก ๆ 20 นาที ตั้งแต่หกโมงเช้าจนเกือบห้าทุ่ม (เที่ยวสุดท้าย 22.41 น.) รายละเอียดดูตามนี้เลย http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/keisei_us/html/o_express.html จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 21:55:00 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แหมคุณหนุ่มไม่รู้อะไรเลย ที่นั่งชั้นล่างนี่แหละเด็ด โดยเฉพาะถ้ามีสาวนุ่งสั้นมายืนข้างชานชาลา หุหุ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 23 ก.ย. 51 21:58:08 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นชื่อคุณ NumAromDee เป็นต้องรีบเข้ามาอ่านเลย ข้อมูลแน่นเพียบ แต่เรียบเรียงได้อ่านง่ายมากเลยค่ะ หวังว่าซักวันนึงเราจะได้เอาข้อมูลนี้ไปใช้จริงมั่งน่อ (ตอนนี้ต้องเก็บตังค์ไปก่อน ) จากคุณ : yuki_shimi - [ 23 ก.ย. 51 21:58:37 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าอยากดูจริงๆ เดี๋ยวจะส่งให้ครับคุณรีม่า ไม่เคยขี้อายอยู่แล้ว ชอบโชว์จะตาย.... แต่ไม่ค่อยชอบถ่ายรูปตัวเองครับ อยู่มาจนป่านนี้ เชื่อมั้ยว่า ผมมีรูปถ่ายตัวเองที่ไม่ใช่รูปติดบัตรไม่ถึง 30 ใบ!!! แบบว่าปีนึงมีรูปถ่ายตัวเองแค่ปีละใบ อยากเก็บความทรงจำ และธรรมชาติรอบตัวมากกว่าหน้าตัวเองครับ เห็นหน้าตัวเองทุกวันเบื่อละ แล้วจะส่งความเบื่อไปเผื่อแผ่ครับ.... รูปผมมีประโยชน์มากเวลาท้องผูกครับ ================================= ของดีราคาถูกไม่มีในโลก (ผมเชื่องั้น) ถ้าอยากนั่งของถูกก็ต้องลำบากนิดนึง ภายใน Keisei Limited Express เป็นเบาะแบบ BTS อีกแล้ว แต่เบาะหนาหนุ่มสบายก้นมากเลยครับ นั่งหันหน้าชนกัน มาก่อนได้นั่งก่อน มาทีหลังยืน และมักจะเกือบเต็มตั้งแต่ออกจากสถานี Terminal 1 ซ่ะด้วย จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 22:03:05 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อันนั้นผมก็คิดครับ พี่ลาบราดอร์ แต่ไม่กล้าแนะนำ... เดี๋ยวคนจะเอาไปเลียนแบบกันเยอะ สาวๆ เค้าจะใส่กุงเกงมายืนรอรถกันหมด ได้ใช้แน่ครับ ถ้ามั่นใจ และตั้งใจ ต้องได้ใช้ นะคุณ yuki_shimi ตัวผมถ้าให้ไปเอง (ที่ไม่ได้ไปทำงาน) ยังต้องเก็บตังค์เป็นปีเลยครับ กว่าจะไปได้ ============================================= สี่ทุ่มแล้วครับ ยังเหลือเล่าเรื่อง Promotion ตั๋วราคาพิเศษ กับเรื่องเส้นทางนั่งรถไฟเข้าเมืองแบบทางลัด พรุ่งนี้เย็นค่อยมาต่อแล้วกัน ขอตัวอาบน้ำนอนก่อนนะ จะไปดูตีสิบ ทิ้งท้ายไว้ด้วยรูปชานชลารถไฟ JR ที่สถานี Terminal 2 ครับ พรุ่งนี้เจอกันใหม่ครับ ฝั่นดีราตรีสวัสนะทุกคน แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 51 22:14:29 จากคุณ : NumAromDee - [ 23 ก.ย. 51 22:11:32 ]

ความคิดเห็นที่ 45 Just sent you a mail. Sleep well & have sweet dreams... Good night ka! จากคุณ : Reema - [ 23 ก.ย. 51 22:20:10 A:217.162.5.125 X: TicketID:185608 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ฝากเนื่อฝากตัวกับคุณหนุ่มไว้ก่อนละกันนะคะ แนะนำตัวก่อนค่ะ ชื่อโรสค่ะ ลูกสาวชื่อน้องพิ้งค์กี้ เลยเป็นที่มาของชื่อ "Pinkyrose" เพื่อนๆชาวBPที่เข้าไปอ่านรีวิวหลายท่านแอบเรียก "กุหลาบสีชมพู" ใครถนัดเรียกแบบไหนก็ได้ค่ะ ชอบทุกๆชื่อเลย จากคุณ : pinkyrose - [ 23 ก.ย. 51 22:49:55 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ จากคุณ : ม่านสีม่วง - [ 23 ก.ย. 51 23:59:24 ]

ความคิดเห็นที่ 48 สวัสดีครับพี่หนุ่ม เข้ามาลงชื่อก่อนแล้วค่อยย้อนกลับไปอ่าน แหะๆ แล้วรีวิวเรื่องบ่อน้ำพุร้อน จะเอาไปเขียนตอนหน้าหรอกครับ เห็นพี่บอกไว้ข้างบนว่าจะหยุดรีวิวไป 2-3 สัปดาห์ สงสัยติดงานแหงๆ เลย แต่ไม่เป็นไรครับ จะเข้ามาอ่านเรื่อยๆ คร้าบบ ^^ จากคุณ : NEWESTTSEWEN - [ 24 ก.ย. 51 00:29:33 ]

ความคิดเห็นที่ 49 will come back krab .... :o) จากคุณ : DEKCGN - [ 24 ก.ย. 51 00:40:53 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ตามมาอ่านค่ะ ขอบคุณที่ตั้งกระทู้นี้นะคะ ได้ความรู้อีกเพียบ จากคุณ : I-Za - [ 24 ก.ย. 51 00:45:00 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ตามมาอ่านค่ะ อยากให้รวมเล่มออกขายจัง จะตามไปอุดหนุน ^^ จากคุณ : มะยมมะนาว - [ 24 ก.ย. 51 04:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 52 มาช่วยตอบให้แบบสั้นๆ ก่อนเดี่ยวต้องออกไปเป็นกรรมกรข้างนอกแล้ว *_*' คำถามคุณ AjN_O JR west pass หรือว่า Surutto Kansai Three Day Ticket  คือแบบ 3 วันของทั้งสองอันราคา 5000 เยนเท่ากันเลย อันไหนคุ้มกว่ากันคะ ถ้าต้องอยู่แถวๆ คันไซ 5 วัน ดีเหมือนกันทั้งคู่ แต่ทั้งสองบัตรมีความแตกต่างกันในเรื่องประเภทของรถไฟที่สามารถใช้ได้ อย่างแรกใช้ได้กับรถไฟ jr เท่านั้น อย่างหลังใช้กับรถไฟเอกชนอื่นๆ ยกเว้นของ jr ถ้าถามว่าอะไรดีกกว่ากัน ? ผมต้องถามกลับไปว่า รายการเที่ยวของคุณ AjN_O เป็นยังไง ? สถานที่จะไปนั้นนะ ส่วนใหญ่แล้ว รถไฟ jr หรือรถไฟเอกชน อันไหนให้ความสะดวกมากกว่า คือ ไปถึงได้ใกล้สถานที่นั้นได้กว่ากัน ? ถ้าพิจารณาดูแล้ว สมมุตว่าใน 10 แห่งที่ที่ต้องการไป เส้นทางและสถานีของ jr ใกล้กว่าและสะดวกกว่า 7 แห่ง ก็เลือกใช้ pass ของ jr แต่ถ้ากลับกัน ก็ไปเลือกใช้อีกเจ้าหนึ่ง หรือจะพิจารณาจากที่พักในเป็นหลักก็ได้ ว่าใกล้ที่พักที่สุดคือ สถานีของใคร ? สถานีของ jr หรือของเอกชน ? เพราะยังไงคุณก็ต้องออกจากที่พักและกลับที่พักทุกวัน อันนี้ก็เป็นประเด็นหลักเหมือนกัน เพราะเวลาตอนกลับที่พักที่ เกิดอาการขาลากพื้นเป็นปรกติกันอยู่แล้ว ขืนมีการเดินไกลจากสถานีรถไฟไปที่พักอีก ก็ไม่น่าทำนะครับ ก็ลองพิจารณาดูเองนะครับ เพราะรายการเที่ยวแต่ละท่านไม่เหมือนกัน อาจเหมือนกันโดยส่วนใหญ่ แต่ในรายละเอียดไม่มีใครเหมือนกันแน่นอน หาที่เหมาะสมกับรายการของตัวเราให้มากที่สุดนะ แล้วเลือกใช้อันนั้นนะครับ ปล. ผมตอบคำถามเหมือนไม่ได้ตอบจริงๆ เร้ย  ^_^  แต่ผมก็ตอบแบบนี้ประจำละครับ จากคุณ : SkyBox - [ 24 ก.ย. 51 08:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 53 รวมข้อมูลได้่เยี่ยมมากครับ บางทีเรามักเลือกรถไฟ ที่คิดว่าดีที่สุด แต่บางทีได้ประสบการณ์การนั่งรถไฟแปลก ๆ บ้าง อยากจะจัดทัวร์ เท็ตจัง เท็ตซึโกะ ไปตะลุยรถไฟญี่ปุ่นบ้าง น่าจะสนุกสุดยอด "เรื่องรวมเล่ม สนใจเหมือนกัน แต่ยังไม่มีนายทุนเลยจ๊ะ.... นี่แหละสำคัญ เรื่องเวลาก็ด้วย แค่มานั่งรีวิวให้พี่น้องห้องบลูอ่าน กลับบ้านก็สลบเหมือดทุกวันแล้ว แต่ถ้าให้ผมเลือก เขียนขายได้ตังค์แต่คนเกลียด กับ เขียนให้อ่านฟรีแต่คนรัก ผมเลือกอย่างหลังครับ" นึกถึงว่า ถ้าเรามีเรื่องราวดี ๆ ใน BP ถ้าสามารถรวบรวมพิมพ์ ไว้เป็นคู่มือเดินทางก็ดีไม่น้อยไปกว่า ของที่ระลึกอย่างอื่น จากคุณ : หมอดาริน - [ 24 ก.ย. 51 08:41:16 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อยากนั่งนาริตะเอ๊กเพรสตัวใหม่อ่ะ..........อยากรู้เป็นไงมั่ง............ อิอิ....เอามาให้ทายนี่ขบวนไหน........ จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว - [ 24 ก.ย. 51 09:22:19 ]

ความคิดเห็นที่ 55 โอ้ววว ถูกใจมั่กๆๆๆ ค่า คุณหนุ่มอารมณ์ดี เอาไปเลยห้าคะแนนค่า สมแล้วที่เป็น เททจัง ฉบับเมืองไทย ตัวจริงเสียงจริง เห็นรีวิวแล้วเหนื่อยแทนเลยค่า.. ขออนุญาตเพิ่มเรื่อง Sobu line (Rapid) นะคะ ถ้าจะนั่ง green car ราคาจะเพิ่มขึ้นแล้วแต่ระยะทางนะคะ สมมติจาก narita - kinshichou จะราคาประมาณ 500 กว่าเยน ถ้าซื้อข้างนอกก่อนนั่งรถก็จะราคาถูกกว่า ไปซื้อในรถค่า นอกจากนี้ถ้ามีบัตร Suica ก็จะสบายมากๆ ซื้อตั๋วแยกต่างหากได้ที่ตู้อัตโนมัติข้างๆ platform ได้เลยค่า ซื้อเสร็จแล้วก้อเอาเข้าไปแตะ ปี๊ด ได้ที่ที่นั่งข้างในเลย  ไฮเทค ง่ะ ที่จำได้ก็เพราะว่านั่งสายนี้ตลอดเลย..ไม่มีบุญได้นั่ง NEX กะเขาเสียที..อิอิ อ้อ..ขอเพิ่มอีกอย่างเรื่องแท็กซี่จากสนามบินนะคะ ถ้าจำเป็นต้องใช้จริงๆ ก็มีของ บริษัท MK ที่จองล่วงหน้าได้นะคะ เค้าบอกว่า ราคาของเค้าถูกกว่าราคาจริง 26%   ลดแล้วก็ยังแพงสำหรับชิรันอยู่ดีง่ะ อันนี้ไม่มีบุญได้นั่งอีกเหมือนกัน อิอิ ป.ล. เพิ่งจะทราบนะคะเนี่ย ว่าบ้านเรานี่ก็มี เททจัง เททสึโกะ แยะเหมือนกัน เผื่อวันหลังจะได้เอารถไฟสายแปลกๆที่เคยไปนั่ง มาแนะนำบ้าง อิอิ จากคุณ : teishiran - [ 24 ก.ย. 51 09:27:48 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สวัสดีค่ะ คุณNumAromDee เข้ามาบอกว่า รัก บัตรเจอาร์พาส และนิยมชมชอบ รถไฟญี่ปุ่น พอๆ กับการอ่านรีวิวกระทู้คุณหนุ่ม อีกหนึ่งคนค่ะ ว่าแล้วก็เซฟกระทู้เก็บเข้าคลังไว้อ่าน และเตรียมข้อมูลไว้สำหรับทริปต่อไป อิอิ เอ...ถ้า เททสึโกะ คือสาวกรถไฟญี่ปุ่นที่เป็นผู้หญิง แล้วสาวก กระทู้รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นขำๆ ตามแบบคุณNumAromDee นี่จะเรียกว่าอะไรดี ???   จะได้รายงานตัวถูก เวลาเข้ามาในกระทู้ของคุณหนุ่มค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 51 09:49:32 จากคุณ : sweettea - [ 24 ก.ย. 51 10:09:23 ]

ความคิดเห็นที่ 57 #54 สีเทาเขียว น่าจะเป็น Tsubasa ป่ะครับ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 24 ก.ย. 51 10:41:16 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เข้ามาตามอ่่านเหมือนเดิมค่า ละเอียดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลย เห็นด้วยกับคุณ หมอดาริน ว่าถ้ามีรวมเล่มเป็นคล้ายๆคู่มือท่องเที่ยวก้อน่าจะดีนะคะ สนับสนุนๆๆๆๆๆ จากคุณ : Chubbyjung - [ 24 ก.ย. 51 11:44:56 ]

ความคิดเห็นที่ 59 นับถือคุณ Numฯ   เป็นเจ้ากรมข้อมูลญี่ปุ่นจริงๆ เฮ้อ.. ฝันอยากได้รถไฟฟ้ามาจอดหน้าบ้านจัง เพื่อนเราเป็นคนญี่ปุ่นนั่งรถทัวร์จากเชียงใหม่มากรุงเทพ  ตั้งใจว่าจะมาลงหมอชิต  แต่พนักงาน(ไล่)ให้ลงที่ฟิวเจอร์ฯ ... มาถามเหตุผลที่เราซะงั้น  ว่าทำไม๊มำไม ... ...  ไม่รู้เว้ยยย... แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 51 12:43:06 จากคุณ : หนูน้อยเซบาสเตียน - [ 24 ก.ย. 51 12:42:11 ]

ความคิดเห็นที่ 60 หวัดดีคุณหนุ่ม หลังๆ มานี่รอให้ถึงวันอังคารมากกว่ารอให้ถึงวันศุกร์อีก (เวอร์เปล่า) อ่านรีวิวคุณหนุ่มแล้ว "2. ปรับโครงสร้างพื้นห้องโดยสารให้เงียบกริบจนได้ยินเสียงลมหายใจคนข้างๆ (คร่อกกกกกกกก)" ^ ^ ข้อเนี้ยขอบอก ว่าตอนนั่งนาริตะเอกซ์เพรส โคดหนวกหู คนยิ่งไม่ได้นอนมาทั้งคืน (บินกลางคืน)  เจอพวกพี่สูทดำกรนกันดังมั่กมากกกก T_T เจ๊ไม่ค่อยเชี่ยวชาญด้านรถไฟญี่ปุ่นเท่าไหร่ เพราะไปไหนก็ให้เค้าจูง(มือ) ไป เอ๋อเป็นบ้านนอกเข้ากรุงเลย แต่อาจช่วยเมนต์ได้บ้างนิดหน่อยจ้า สำหรับมือใหม่ ๑. ก่อนขึ้นรถไฟเผื่อเวลาไว้เสมอ เพราะสถานีบางที่ ใหญ่โตอลังการงานสร้าง เดิน ๑๐ นาทีแม้วยังไม่ถึงชานชลาที่จะไปขึ้นรถไฟ อีกอย่างกว่าจะหา ชานชลา-ทางออก-ทางเข้าที่ต้องการเจอ อาจหงิกได้ เพราะมันมีมากเป็นร้อยๆ อัน บางสถานีมีหลายทางเข้า-ทางออก เพราะรถไฟหลายบริษัทใช้ร่วมกัน (โดยเฉพาะสถานีโตเกียว) ๒. เวลาเลือกว่าจะขึ้นรถไฟขบวนไหนดีจากนาริตะ ถ้ามีกระเป๋าเยอะก็ไม่ควรงกขึ้นแบบถูก แต่ต่อหลายที คิดดูว่า มีแต่ตัวยังจะเอาไม่รอด ถ้ามีกระเป๋าอีกจะยิ่งแย่ไปใหญ่ ๓. อย่างที่คุณหนุ่มบอก ว่า ชานชลานึง บางทีมีหลายสายวิ่งผ่าน ไม่เหมือนรถไฟฟ้าบ้านเรามีสายเดียว ให้ดูให้ดีก่อน ว่าใช่สายที่เราจะขึ้นหรือเปล่า รถด่วน-รถธรรมดา ไม่งั้นขึ้นผิดขบวนหรือไม่จอดสถานีนี่มีเฮ ๔. สำหรับผู้พักแถวโตเกียวใต้ๆ ใกล้กินซ่า สึกิจิ อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือรถบัส ไปลงซิตี้แอร์เทอร์มินอล แล้วต่อแท๊กซี่ไป ก็สะดวก (ราคาประมาณ ๓๐๐๐ เยน เท่ากันนาริตะเอ๊กซ์เพรสแหละ) เจ๊ขึ้นบ่อยสุด ๕. รถไฟในญี่ปุ่นขึ้นยากที่สุดในโลก ใครว่าลอนดอน ปารีส ยาก เจอญี่ปุ่นซะก่อน พวกนั้นกลายเป็นคี่ๆ ไปเลย เจ๊ไม่เคยหลง มึน งง รถไฟที่ใดมากเท่าญี่ปุ่นเลยให้ตายสิ เห็นแผนที่ก็จะเป็นลมแล้ว สุดท้าย Life is a journey, not a destination เที่ยวไปหลงไปเนี่ยแหละสนุก เก็บความทรงจำหลงๆ มันส์ๆ มาคุยเล่นได้อีกนานเลย จากคุณ : bangkok dream - [ 24 ก.ย. 51 12:42:11 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ลงชื่อก่อน เด๋วมาอ่านใหม่ค่ะ จากคุณ : MaNgKoOd - [ 24 ก.ย. 51 12:55:00 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ   แต่ยังไง๊  ยังไง ข่อยก็ยังไม่หายงง จากคุณ : สาวดอย - [ 24 ก.ย. 51 13:01:50 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ดูกระทู้นี้แล้วคิดถึงญี่ปุ่นสุดแรง ... และนึกถึงตอนไปNaritaครั้งแรก ตัวคนเดียว ... เหมือนบ้านนอกเข้ากรุง รอก่อนเถอะ! มีแรงไปอีกเมื่อไหร่ ไปแน่ เอกลักษณ์ิอีกอย่างของสถานีรถไฟที่ญี่ปุ่นคือ เสียงmelodyของแต่ละสถานี ตอนเวลารถไฟไปจอด จากคุณ : TK Jr. - [ 24 ก.ย. 51 13:03:35 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ตามมาอ่านอย่างไวค่ะ จดยิกๆ พร้อม save เก็บไว้ รออ่านต่อนะคะ เรื่องอื่นๆหาข้อมูลได้เยอะพอจะเอาตัวรอดบ้างแล้ว เหลือเรื่องรถไฟนี่แหละที่ยังหาข้อมูลแบบละเอียดยิบยังไม่ค่อยได้ ใช้อ่านของหลายๆคนมาปะติดปะต่อกัน บวก จินตนาการของตัวเองเข้าไปบ้าง แต่ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจว่าจะรอด  จบเล็คเชอร์เรื่องรถไฟคราวนี้จะได้ไปเที่ยวอย่างมั่นใจซะที ขอบคุณนะคะ ^_^ จากคุณ : hoorey - [ 24 ก.ย. 51 13:22:22 ]

ความคิดเห็นที่ 65 มาเก็บข้อมูลค่ะ เผื่อว่าจะได้ไปอีก มีคำถามค่ะ  2 day open ticket ของเมโทร นี่ต้องใช้สองวันติดกัน หรือใช้เว้นวันได้คะ จากคุณ : แตงโมลายจุด - [ 24 ก.ย. 51 13:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ทู้ดีมีสาระเพียบ รีบจิ้มเก็บไว้ใส่คลังมหาสมบัติเลยค่ะ จากคุณ : kee20th - [ 24 ก.ย. 51 13:37:51 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เข้าตามมาแอบอ่าน เป็นความรู้ ที่ดีมากๆเลย เดี๋ยวตุลานี้ จะเดินทางแล้ว รู้สึก เริ่มมีเค้ารางของความงง แล้วล่ะครับ ขอบคุณมากครับ ^^ จากคุณ : M O J i (mojizorus) - [ 24 ก.ย. 51 14:30:37 ]

ความคิดเห็นที่ 68 งั้นขอบคุณ คุณ skybox มากๆ แล้วกันนะคะสำหรับคำตอบ จริงๆ แล้วเป็นคำแนะนำที่ดีมากๆ เลยค่ะ ตอนนี้ยังไม่ได้วางแผนเรื่องเที่ยวเลยค่ะ เพราะว่าไปเรื่องงานเป็นหลัก พักอยู่ที่ฮิเมจิ ถ้ามีเวลาคงจะได้ออกเที่ยวบ้าง เลยยังไม่ได้กำหนดเวลาหรือเส้นทางเป็นเรื่องเป็นราว ยังพอมีเวลาอีกอาทิตย์นึงที่จะลองวางแผนดู ที่สับสนคือเวลาเราใช้ hyperdia.com ลองกำหนดระยะทางและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเมืองใหญ่ๆ แล้วมันงงๆ เพราะว่าเน้นรถไฟของ jr เป็นส่วนมากรวมถึงรถชินกันเซนอีก ส่วนคันไซพาส เค้ารวมเอารถบัสไว้สำหรับท้องถิ่นไว้ด้วย เดี๋ยวลองวางแผนและคำนวณค่าใช้จ่ายดูก่อน ถ้ามึนตีบจะแวะเข้ามาถามอีกทีค่ะ จากคุณ : AjN_O - [ 24 ก.ย. 51 15:39:21 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คุณหนุ่ม มาได้แล้ว... นั่งกินไอติมรอ.. ว่าแต่แผนที่รถไฟญี่ปุ่น เห็นตอนแรก อึ้ง..........คิดได้ไงเนี่ย จากคุณ : kiki - [ 24 ก.ย. 51 16:41:32 A:202.12.118.61 X: TicketID:186935 ]

ความคิดเห็นที่ 70 หูยย มาไม่ทันอีกแระ แต่ก็มาติดตามกันเหมือนเคย ข้อมูลแน่นปึ๊กนะจ๊ะ ปล.เห็นว่าจะมีการแจกภาพถ่ายลายเซ็นต์กันด้วย อย่าลืมให้เค้าด้วยนะจ๊ะ ^^ จากคุณ : แฟนอองรี - [ 24 ก.ย. 51 17:57:59 ]

ความคิดเห็นที่ 71 กลับมาอ่านแล้วค่ะ ชอบที่เปรียบเทียบในแผนที่อ่ะ ชอบๆๆ... เห็นแล้วนึกถึงตอนไปญี่ปุ่นครั้งแรก ไปถึงนาริตะแล้วก็งงๆ งกๆ เงิ่นๆ เดินหารถไฟเข้าเมือง... รู้แต่ว่าต้องนั่งสายนี้ไปเปลี่ยนที่สถานีนี้  แต่จำไม่ได้แล้วแฮะว่าตอนซื้อตั๋วนี่ ทำยังไง เห็นรูปที่คุณหนุ่มเอามาให้ดูก็ยังไม่คุ้นอยู่ดี ความจำแฮงค์ไปซะแล้ว แต่แว่บแรกที่รถไฟหลุดออกจากความมืดแล้วเห็นเมืองนาริตะ กับอากาศหนาวๆแล้ว... โอ้.... เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองมาถึงญี่ปุ่นแล้ว... จริงๆ นะ มาอ่านทีไรก็ได้อารมณ์ทุกทีเลยเนอะ กระทู้คุณหนุ่มอารมณ์ดีเนี่ย มีกลิ่นอายของญี่ปุ่นติดมาตุ่ยๆ ทุกที... จากคุณ : MaNgKoOd - [ 24 ก.ย. 51 19:22:52 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ขออนุญาตร่วมแจมคุณNumAromDeeหน่อยนะคับ เจอแล้วๆ ... รูปภาพของแต่ละสถานีรถไฟ melody และคำประกาศต่างๆในสถานีรถไฟ หน้าหลักของweb http://melody.pos.to/page/menu1.htm อันนี้clipภาพของรถไฟเข้า-ออกจากสถานี http://melody.pos.to/movie/index.html อันนี้เป็นmelodyของรถไฟต่างๆ http://melody.pos.to/page/jr.htm (Yamanote Lineอยู่ในEAST JAPAN RAILWAY COMPANY) อันนี้เป็นmelodyของรถไฟเอกชน(พูดอย่างนี้ถูกหรือเปล่าหว่า) http://melody.pos.to/page/private.htm อันนี้เป็นเสียงต่างๆในสถานี หรือเสียงต่างๆที่เกี่ยวกับรถไฟ http://melody.pos.to/page/other/index.htm อันนี้เป็นสถานีที่ผมใช้บริการบ่อยที่สุดตอนไปอยู่ที่นั้น KAWASAKI Sta. และต่อไปใช้ Tsurumi line และไปลงที่ SHITTE Sta. http://melody.pos.to/page/jreast/kawasaki.htm แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 51 21:14:30 แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 51 19:36:36 จากคุณ : TK Jr. - [ 24 ก.ย. 51 19:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 73 กลับมาแล้วจ้า..... ขออภัยวันนี้ประชุมมาราธอนไปหน่อย เลยมาช้า ไม่ให้เสียเวลา ขอตอบกระทู้ก่อนนะ เข้ามากันล้นหลามเหลือเกิน เห็นแล้วหายเหนื่อยเลย คุณรีม่า ณ ซูริค ฮับ 3 อย่างที่ขอมา จะส่งไปให้ใน 3 วัน 7 วันนะ รอนิดนึง.. งั้นต่อไปจะเรียกคุณ pinkyrose เป็น คุณแม่น้องพิ้งค์กี้ ละกัน ดูอบอุ่นน่ารัก Family woman ดี (ชอบป่ะ?) ขอบคุณครับ คุณม่านสีม่วง คุณ I-Za และ คุณ MaNgKoOd ที่เข้ามาลงชื่อทักทาย ยังเขียนกระทู้ให้อ่านกันทุกอาทิตย์เหมือนเดิมแหละครับท่านน้องนิว ไม่ได้กะจะอู้หรือหายไปไหน แต่ขอหยุดพักรีวิวชุดอารมณ์ดีพาเที่ยวญี่ปุ่นไว้ก่อนซัก 2-3 อาทิตย์ ขอมาลุยเขียนเรื่องรถไฟญี่ปุ่น ตามใจพี่น้องห้องบลูกันก่อน ตอนนี้อยู่ที่ไหนล่ะครับท่านเด็กซีจีเอ็น เห็นไปโผล่หลายประเทศเหลือเกิน กลับมาอย่าลืมรีวิวนะ จะรออ่าน ได้เสียงสนับสนุนอีก 1 เสียงแล้ว.... จากคุณมะยมมะนาว อี๊!!! เห็นชื่อ log-in นี้แล้ว รู้สึกน้ำลายสอขึ้นมาทันที ขอบคุณครับพี่ฟ้า ที่มาเป็นตัวช่วย ตอบแบบพี่ฟ้านี่ผมว่าโอแล้วครับ สอนให้จับปลาเอง ดีกว่าหาปลาให้ครับ เพราะเค้าจะไม่หิวโหยอีกตลอดไป เมี้ยว....... แล้วอย่าลืมกระทู้รถไฟญี่ปุ่นนะครับ ผมรออ่านอยู่ อิอิ ได้ทีขี้แพะไหลเลย.... คุณหมอดาริน มารวมเสียงคนห้องบลูฯ ตั้งเป็นสำนักพิมพ์โลกสีน้ำเงิน เลยดีมั้ยครับ.... จะได้ดัง (หรือไม่ก็จน) กันทั้งห้องก็คราวนี้ ส่วนเรื่องทัวร์เท็ตจังปะทะเท็ตสึโกะนี้ก็น่าสนใจ ถ้าพี่ลาบราดอร์แกยอมเป็นหัวหน้าทัวร์ ผมจะเป็นไกด์ให้เอง โหพี่เปรี้ยว..... รูปจี๊ดนึง จะเล่นแฟนพันธ์แท้กันเหรอเนี้ยะ จากหน้าตา ผมก็ขอตอบแบบเดียวกับพี่ลาบราดอร์ว่า เป็น Shinkansen 400 Series ชื่อ สึบาสะ (Tsubasa) หรือ ชื่อเล่น Mini Shinkansen ครับ ที่เห็นน่าจะเป็น สาย Yamakata ตอนแรกมองเร็วๆ กะจะเดาว่าเป็น E3 Series แต่ในรูปมองไม่เห็นรูไฟหน้าที่จมูกรถ เลยเหลือช้อยส์แค่ 400 Series แบบเดียว ที่หน้าแหลมๆ จมูกกลมขาวอย่างนี้ ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง Green car ของ Sobu line จากสาวเททสึโกะ นามว่าชิรันมั่กๆ เจอคนเผ่าเดียวกันอีกแล้ว.... ถ้าทัวร์เททจังปะทะเททสึโกะของคุณหมอดารินสำหรับเร็จเมื่อไหร่ จะมาชวนคุณชิรันไปเป็นไกด์ฝ่ายหญิงนะครับ อิอิ ว่าแต่ชื่อบริษัทรถ taxi ของคุณชิรัน อ่านแล้วหิวสุกี้ชมัด ไม่ขอรับสาวกครับคุณ sweettea เพราะผมไม่ใช่เจ้าลัทธิ เด๋วองค์ลงละก็แย่เลย รับแต่ Fan Club ครับ.... อุ๊ยยยยย ว่าไปนั่น แค่เข้ามาชมก็ดีใจจะแย่อยู่แล้วครับ รักน้อยๆ แต่รักนานๆ ดีกว่าเนอะ (แหว่ะ!!!) ลงเสนอคุณหมอโมรา ให้ทำเป็นของที่ระลึกปีหน้าดีมั้ยครับ คุณ Chubbyjung ทำขายคู่ Tag รุ่น 3 ก็จะเท่ห์ไม่หยอก แล้วไปเชิญอาหมูมาเป็นบรรณาธิการกิตติมศักดิ์ ให้เสี่ยศักดา เป็น หัวหน้ากอง บก. แค่นึกก็มันแล้ว........ หนูน้อยเซบาสเตียน ต้องบอกเพื่อนญี่ปุ่นว่า ฟิวเจอร์พาร์คฯ คือ ซิตี้แอร์เทอร์มินอล ของไทยซิครับ ให้เค้างงเล่นต่อปาย..... ขอบคุณครับเจ๊ดรีมที่มาเสริมให้อย่างยาวเลย เมื่อไหร่จะมีรีวิวฝีมืออาเจ้ออกมาให้อ่านอีกครับ??? ว่าแต่ชอบวลีของเจ๊จัง Life is a journey, not a destination เหมือนกับชอบหนัง Life is a beautiful เลย ของแบบนี้อ่านยังไงก็ยังงง ต้องไปสัมผัสเองครับสาวดอย ขนาดจะสอยดาวยังต้องเข้าโรงเรียนนายร้อยเลย แต่ญี่ปุ่นเข้าง่ายกว่าโรงเรียนนายร้อยนะครับ.... เห็นด้วยอย่างยิ่งยวดครับ คุณ TK Jr. ผมเคยยืนฟังเสียงเพลงเปิดประตูรถบน Yamanote line จนประตูเกือบหนีบมาแล้ว เพลินไปหน่อย และขอบคุณมากกกกกก สำหรับ link เสียงเพลงบนรถไฟที่ให้มา กำลังคิดถึงอยู่พอดี เขียนตามคำขอแล้วนะคุณ hoorey แต่พอเอาไปใช้จริง เผื่อความตื่นเต้นไว้ด้วยนะ 2 Day Open Ticket ต้องใช้ติดกัน 2 วันครับคุณแตงโม อยากใช้แบบเว้นวัน ก็ต้องซื้อแยกแบบ 1 Day 2 ใบ ถ้าไม่ได้ใช้กันทุกวัน ก็งงกันทุกคนนั่นแหละครับ คุณ mojizorus ผมไปทีไรก็ยังปล่อยไก่ตอนขึ้นรถไฟทุกที ไม่รู้เป็นไง วันนี้ช้าหน่อนนะครับคุณ kiki คนมาทักกันเยอะ สวัสดีสาวอองรี สอบเสร็จรึยังจ้ะ ไม่ได้แจกภาพกับลายเซ็นหรอก ยังไม่ดังขนาดนั้น คุณรีม่าเค้าขอดู Pat Degree เฉยๆ เค้ากลัวผมยังไม่ได้ฉีดยา ครั้งแรกของผมกับนาริตะ ตอนรถไฟโผล่พ้นอุโมงค์ขึ้นมา ผมตกใจครับ! คุณ MaNgKoOd ตกใจว่ารถไฟใต้ดิน มันขึ้นมาวิ่งบนดินได้งัย.... (เชยที่ซู๊ดดดดดดด) ว่าแต่กลิ่นญี่ปุ่นตุ่ยๆ นี่ทำให้ผมนึกถึงกลิ่นห้องน้ำญี่ปุ่นขึ้นมาทันทีเลยนะ แฮ่ก... แฮ่ก..... ตอบซ่ะเหนื่อยเลย ขาดใครไป ช่วยท้วงกันด้วยนะ ผมตาลายไปหมดแล้ว..... แต่ตาลายเพราะแบบนี้ รู้สึกดีมั่กๆ เลยครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 24 ก.ย. 51 20:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เมื่อเลือกรถไฟที่ตรงใจ และ ซื้อตั๋วมาได้แล้ว ขั้นตอนต่อไป ก็ไม่ค่อยยากแล้วครับ การขึ้นรถไฟญี่ปุ่นสำหรับมือใหม่ที่กำลังจะไปครั้งแรก ให้นึกถึง BTS หรือ MRT ไว้ ทำอีกแค่ 3 ขั้นเท่านั้น คือ 1. หยิบตั๋วไว้ในมือให้มั่น ด้วยมือข้างที่ถนัดและไม่ได้หิ้วอะไรพะรุงพะรัง จากคุณ : NumAromDee - [ 24 ก.ย. 51 20:37:34 ]

ความคิดเห็นที่ 75 2. เดินผ่านประตูทางเข้าที่มีไฟลูกศรสีเขียวติดอยู่   แล้วเสียบบัตรลงไปในช่องที่อยู่ตรงมุมทางเข้า   ประตูจะเปิด แล้วรอรับบัตรที่ปลายอีกด้าน   จะหันบัตรเอาด้านซ้ายหรือขวาเข้าเครื่องก็ได้ทั้งนั้นครับ เครื่องมันฉลาด มันจะหันหัวบัตรทางที่ถูกคืนออกมาให้ตรงปลายทางเอง   หรือถ้าขึ้นรถทางไกล เช่น ชินคันเซง ที่จะต้องไปเปลี่ยนขบวนรถกลางทาง ถ้าเค้าออกตั๋วมา 2 ใบ(ต่อคน) ให้ยัดลงไปพร้อมกันเลย เครื่องมันจะรู้เอง   ไม่ต้องรีบด้วย เพราะประตูทางเข้ารถไฟที่ญี่ปุ่น เปิดแล้ว จะค้างไว้ประมาณเกือบ 10 วินาที กว่าจะปิด ประมาณว่าหยอดบัตรคนเดียว สามารถวิ่งตามเข้าไปได้อีกหลายคน (แต่ก็ไม่เคยเห็นว่ามีใครจะทำแบบนั้น)   แต่ถ้าเป็น BTS หรือ MRT ผมโดนประตูหนีบช้างน้อยประจำ!!!   มัวดูจอว่าบัตรเหลือเงินกี่บาท จากคุณ : NumAromDee - [ 24 ก.ย. 51 20:48:37 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ถ้าถือบัตร Suica (ซุยก้า) ก็ Touch & Go ได้เลยครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 24 ก.ย. 51 20:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 77 3. แล้วก็มองหาป้ายชานชลา เช็คให้แน่ใจว่าเป็นขบวนที่ต้องการ   ถ้าเห็นเป็นภาษาญี่ปุ่นก็อย่าตกใจนะ ซักพัก ก็จะเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษเอง   ยกเว้นสถานีตามต่างจังหวัด ในเขตรอบนอกของเมือง ของ Private Railway บางสาย เช่นของ Meitetsu นาโงย่า ป้ายจะไม่มีภาษาอังกฤษ ก็ใ้ช้วิธีถามเจ้าหน้าที่เอา ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง เขียนที่หมายและขบวนที่ต้องการเป็นภาษาอังกฤษ ยื่นให้เจ้าหน้าที่ดูก็ได้ เค้าอ่านออกครับ แต่พูดไม่ค่อยได้เท่านั้นเอง เด๋วเค้าก็จูงมือเราไปที่ชานชลาเอง แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 51 21:02:30 จากคุณ : NumAromDee - [ 24 ก.ย. 51 21:01:00 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ตามที่บอกไว้ว่าจะเล่าโปรโมชั่นของ 2 คู่แข่งรถไฟเข้าเมือง JR กับ Keisei ให้ ดูกันซิว่า ทั้ง 2 เจ้า จะแข่งกันแย่งลูกค้า และคืนกำไรให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้ยังไงกันบ้าง สิทธิพิเศษทั้ง 2 แบบ เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้นครับ คนที่ถือ Passport ญี่ปุ่น ไม่มีสิทธิซื้อ ถ้าคนขายเห็นเราหน้าตาเหมือนคนญี่ปุ่น จะขอดู Passport ตอนที่เราไปติดต่อซื้อ ดูโปรโมชั่นของ Keisei กันก่อน เป็นคูปองนั่งรถ Skyliner เฉพาะขาเข้าเมืองเที่ยวเดียว จากสนาบินนาริตะ ถึง สถานีเคเซ-อูเอโนะ กับบัตร Special Open Ticket ของ Tokyo Metro Subway แบบ 1 หรือ 2 วัน แล้วแต่จะเลือก ถ้า Skyliner กับ 1 Day Open Ticket ก็ 2,100 เยน ถ้า Skyliner กับ 2 Day Open Ticket ก็ 2,480 เยน ส่วนขากลับจากในเมืองไปนาริตะ ถ้าจะนั่ง Skyliner ต้องจ่ายราคาเต็ม 1,920 เยน ถ้าซื้อตั๋ว 1 Day Open Ticket อย่างเดียว ก็ 600 เยน ถ้าเป็นตั๋ว 2 Day Open Ticket อย่างเดียว ก็ 980 เยน (ต้องใช้ 2 วันติดกัน) ตั๋ว Open Ticket จะใช้เมื่อไหร่ก็ได้ ภายใน 6 เดือน นับจากวันที่ซื้อ ถ้าไปซื้อตั๋ว Tokyo Metro 1 Day Pass ที่สถานี Tokyo Metro ในโตเกียว จะต้องจ่าย 710 เยน และไม่มีขายแบบ 2 วัน สถานีที่ขายคือที่ Transportation Service Counter ที่ชั้น 1 สนามบินนาริตะทั้ง 2 เทอร์มินอล รายละเอียดอ่านตามนี้เลยครับ http://www.tokyometro.jp/e/open_ticket/index.html แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 51 21:43:31 จากคุณ : NumAromDee - [ 24 ก.ย. 51 21:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ส่วนของ JR น่าสนใจสุดสุดไม่แพ้กัน ด้วยการขายตั๋วรถไฟ Narita Express ควบกับบัตร Suica ปกติจะนั่ง Narita Express เข้าเมือง ต้องจ่ายอย่างน้อย 2,940 เยน ขึ้นไป ยิ่งถ้านั่งไปลง Yokohama ก็ต้องจ่ายแพงหูฉี่ถึง 4,180 เยน เพื่อแลกกับความหรูหราสะดวกสบายรวดเร็วทันใจ เมื่อก่อน N'EX เลยเป็นทางเลือกเฉพาะคนมีกะตังค์ หรือคนที่เบิกค่าเดินทางกับบริษัทฯ ได้ (ผมจะได้นั่งก็เพราะเงื่อนไขหลังนี่แหละ) แต่เมื่อเดือนมีนา ปีที่แล้ว JR East ได้ออกโปรโมชั่นยั่วใจสุดสุดอันนี้ออกมา สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ สร้างความอิจฉาตาร้อนให้คนญี่ปุ่นเป็นอันมาก นั่นคือ ตั๋ว N'EX ไปลงที่ไหนก็ได้เที่ยวเดียว พร้อมบัตร Suica ที่มีเงินบรรจุอยู่ 1,500 + 500 เยน (500 เยน คือ ค่ามัดจำที่จะได้รับเมื่อเราเอาบัตรไปคืน) ขายรวมกันในราคาลดสุดสุด ที่ 3,500 เยนเท่านั้นนนนนน รายละเอียดตามนี้ครับ http://www.jreast.co.jp/e/suica-nex/index.html จากคุณ : NumAromDee - [ 24 ก.ย. 51 21:54:57 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เห็นเจ๊ดรีมแกพูดถึง Limousine Bus ก็เลยแถมข้อมูลให้ สำหรับคนที่มีสัมภาระรุงรัง หิ้วกระเป๋าใบโตไปหลายใบ นั่งรถบัสเข้าเมืองได้เลย ใช้เวลามากหน่อยประมาณ 80 นาที กับค่ารถคนละ 3,000 เยน แต่มีที่วางกระเป๋าใต้ท้องรถเหลือเฟือ และจุดจอดรถก็มีหลายที่ ไม่ต้องแบกกระเป๋าขึ้นลงบันไดสถานีรถไฟให้ลิ้นห้อย สถานีรถไฟญี่ปุ่นหลายสถานี สร้างมานานแล้ว ยิ่งไม่ค่อยมีลิฟท์กับบันไดเลื่อนอยู่ด้วย ซื้อตั๋วได้ที่เคาเตอร์ Transportation Service ตามที่บอกนั่นแหละ แถมยังมีตั๋วเข้าเมืองราคาพิเศษ ขายควบกับ 1 Day Open Ticket ของ Tokyo Metro ในราคา 3,100 เยน ปลายทางของ Limousine Bus มีหลายจุดมาก ดูรายละเอียดตามนี้เลยครับ http://www.limousinebus.co.jp/en/index.html จากคุณ : NumAromDee - [ 24 ก.ย. 51 22:08:12 ]

ความคิดเห็นที่ 81 มาสายตลอด ท่าจะโดนรีไทร์ซะมั้งเรา แหะๆ แต่ให้ give เสมอเลยนะ จากคุณ : salamanka - [ 24 ก.ย. 51 22:09:16 ]

ความคิดเห็นที่ 82 คำแนะนำสำหรับคนที่จะนั่ง Keisei Limited Express ที่มาก่อนได้นั่งก่อน ถ้าเครื่องของท่านลงที่เทอร์มินอล 2 แล้วเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน หรือมีคนรอขึ้นรถเยอะมาก รอรถวิ่งมาจากเทอร์มินอล 1 เห็นมีคนนั่งเต็มขบวน หิ้วกระเป๋ามาใบก็โต อยากนั่งมาก ให้ยืน 71 นาทีถึงอูเอโนะ ไม่ไหวแน่ มีทางลัดดังนี้ หลังจากซื้อตั๋วแล้ว ให้ผ่านเข้าชานชลา แล้วไปรอขึ้นรถไฟขาเข้าจากโตเกียว นั่งย้อนไปลงเทอร์มินอล 1 ซ่ะก่อน แค่ 3 นาทีเอง ถึงสถานีเทอร์มินอล 1 แล้ว เดินข้ามชานชลา มานั่งรถขาออกเที่ยวต่อไป หรือ รถคันที่นั่งมา ก็อาจจะรอออกเป็นขบวนต่อไปเลย ไม่ต้องเปลี่ยนรถ (ดูป้ายประกาศก่อนนะจ๊ะ) มีรถออกทุก 20 นาที พลาดคันไหน รอแป๊ปเดียวเด๋วคันต่อไปก็มา จะได้นั่งสมใจ เสียเวลาแค่นิดเดียว ถือว่านั่งรถเที่ยวละกัน แถมแผนที่ทางเดินใต้ดินจากสถานี Keisei Ueno มาที่สถานี Tokyo Metro Subway สาย Ginza กับ Hibiya ให้ สถานีทั้ง 2 อยู่ใต้สถานี JR Ueno อีกที ทางเดินใต้ดินนี้ ถ้าเป็นหน้าร้อน ออกมาเดินบนเดินดีกว่าครับ อบอ้าวมั่กๆ เดินไปแทบจะหมดลม แต่ถ้าเป็นหน้าหนาว อุ่นสบาย... แทบไม่อยากเดินขึ้นข้างบน แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 51 14:57:03 จากคุณ : NumAromDee - [ 24 ก.ย. 51 22:17:57 ]

ความคิดเห็นที่ 83 แต่วันนี้ก็มาทันนะน้องสาลี่... มาทันเวลาผมจะลานอนพอดี 4 ทุ่มกว่าแล้ว..... ยังไม่จบนะ เหลือ บทแถม แนะนำทางลัดในการนั่งรถไฟ Keisei มาลง Asakusa โดยไม่ต้องอ้อมเข้า Ueno และ บริการขนกระเป๋าเข้าเมืองจากนาริตะ ใครจะเซฟ รอพรุ่งนี้ก่อนนะ กระทู้ยังไม่สมบูรณ์ เด๋วพรุ่งนี้สายๆ จะอู้งานมาต่อให้จบ ฝันดีราตรีสวัสกันทุกคนเหมือนเดิม จากคุณ : NumAromDee - [ 24 ก.ย. 51 22:21:44 ]

ความคิดเห็นที่ 84 กบกัดฟันยาง กระโดดเข้ามาปาดซักกะหน่อยก่อนไปนอน จะมาแจ้งให้ทราบว่า ถ้ากระทู้จบแล้วจะมาต่อในเรื่องต่างๆ ที่น่ารู้และสมควรรู้ ที่เกี่ยวข้องกับรถไฟในเมืองให้นะคร้าบบบบบ  ^_^ สรุปจากสนามบินนาริตะเข้าเมือง มี 4 แบบให้เลือก เป็นของ JR 2 แบบ คือ แบบหรูไฮโซและแบบธรรมดา และของ Keisei 2 แบบ เหมือนกันคือแบบหรูไฮโซและแบบธรรมดา รักใครชอบใคร สะดวกลงป้ายไหนในโตเกียว เลือกกันเอาเอง สะดวกสบายเหมือนๆ กัน ไม่ต่างกันมากมายนัก ผมลองมาหมดทุกแบบแล้วละ แต่สิ่งที่อยากจะให้หลีกเลี่งไปให้ไกลๆ ก็คือเจ้าสาย JR Sobu Line ขบวน Rapid Airport Narita นี่ละ สมัยก่อนมีเจ้าเวปไฮเปอร์เอาไว้เช็คเวลารถวิ่ง เคยลองของนั่งจากสนามบินเข้าเมือง มันวิ่งนานโคตรๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นั่งแต่แต่เริ่มหิวจนหายหิวก็ไม่ถึงโตเกียวซักที่  *_*'  สายนี้คนแน่นอีกต่างหาก เพราะวิ่งผ่านเมือง chiba ซึ่งเป็นเมืองที่พักอาศัย คนที่ทำงานในโตเกียวจะมีบ้านพักอาศัยอยู่เมืองนี้นะครับ จากคุณ : SkyBox - [ 24 ก.ย. 51 22:26:25 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ย่องมาเข้าเรียน(สาย)ด้วยคนค่ะ ติวๆๆ อ่านแล้วนึกภาพตาม อยากลองเร็วๆจังค่ะ ไม่รุ้ลงสนามจริงๆ จะมั่วมึนแค่ไหน ภาพเฮียหนุ่มต้องลอยมาแน่ๆๆเลย รักกระทู้นี้จัง  เฮียหนุ่มสุโก้ยๆๆ บันไซๆๆ คิมุจี้~ ไม่ใช่แระ ติดมาจากกระทุ้ก่อน 555 ซุ่มอ่านต่อ (_ _) ขอบคุณมากๆๆค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 51 22:36:57 จากคุณ : โมกุจัง - [ 24 ก.ย. 51 22:32:35 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เข้ามาแล้วงงมากๆเลยค่ะ แต่กดเซฟไว้ก่อน.. คราวนี้ไปทัวร์....คราวหน้าคงไปเอง...(มั้ง)..... จากคุณ : ป้าหอมนาน (Sak_Suriyan) - [ 24 ก.ย. 51 23:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 87 โหย อย่างงี้ถ้าไปซื้อตั๋วรถไฟเข้าเมืองแบบโปรโมชั่นแล้วเค้าขอดูพาสปอร์ตนี่จะแอบดีใจนะเนี่ย 55+ ตอนนี้กำลังดำเนินโครงการระยะยาว(มากกก)อยู่ค่ะ คาดว่าอีกไม่เกิน 5 ปีน่าจะได้ไป(มั้ง) คือกะว่าถ้าเก็บตังค์ไหวก็อยากจะไปเรียนภาษาญี่ปุ่นซักปีนึงอ่ะค่ะ (เริ่มเพ้อแว้วว) แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 51 00:08:58 จากคุณ : yuki_shimi - [ 25 ก.ย. 51 00:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 88 แหล่มเลยๆๆ กดเข้าคลังกระทู้ เอาไว้ไปเที่ยวรอบหน้าจะได้ลองนั่งหลายๆ แบบ ^^ ตอนผมไปเที่ยวญี่ปุ่น ก่อนไปก็กังวลกับการเดินทางด้วยรถไฟมากๆ โดยเฉพาะในโตเกียว แต่พอไปแล้วก็รู้สึกว่าไม่ยากมากเหมือนที่คิด (แต่ก็มีงงๆ เหมือนกัน เพราะประตูทางเข้าทางออก บันไดขึ้นลง มันเยอะแยะไปหมด) เรื่องที่อาจจะทำให้คนไม่เคยไปงงๆ ได้ก็คือ เวลาไปใช้บริการตอนคนเยอะๆ เพราะจะไม่มีเวลาทำเงอะๆงะๆ หันซ้ายเล็งขวา (เพราะจะโดนเขาเบียดกระเด็น) ก็ต้องพยายามมีสติ ถ้าเดินเอ๋อๆ ซุ่มซ่ามรับรองได้กลิ้งกันบ้างล่ะครับ ตอนผมไปเที่ยวในโตเกียว ลืมสมุดโน๊ตสำคัญไว้ที่โทรศัพท์สาธารณะไว้ที่สถานีโตเกียว (สมุดเล่มนี้สำคัญมากๆ เพราะบันทึกเรื่องราวการเดินทางที่ได้เจอมาแล้วก็มีเบอร์โทรเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่นัดเจอกันที่โตเกียว) มานึกขึ้นได้ว่าลืมเอาไว้ตอนกลับถึงที่พักแล้ว (K's house Tokyo) ด้วยความเสียดายเลยตัดสินใจลุยเดี่ยวกลับไปเอาสมุดโน๊ต ปรากฎว่ายังอยู่ครับ ไม่มีใครหยิบไป (ดีใจสุดๆ) แต่ก็คิดอีกอย่างว่า ถ้าตูเอาระเบิดไปวาง ก็คงไม่มีใครมาสนใจเก็บไปตรวจดูล่ะมั้งเนี่ย แหะๆๆ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 51 01:10:34 จากคุณ : NEWESTTSEWEN - [ 25 ก.ย. 51 01:07:54 ]

ความคิดเห็นที่ 89 มาขอแจมอีก ... อิอิ อันนี้เป็นwebที่ใช้สำหรับหาเส้นทาง คำนวนเวลา ค่าโดยสาร เพื่อเปรียบเทียบว่า.. นั่งรถสายไหน ต่อรถไฟที่สถานีอะไร อย่างไหนถูกสุด ใช้เวลามากหรือน้อยสุด รถไฟที่ญี่ปุ่นมาตรงตามเวลามากๆๆๆๆ http://grace.hyperdia.com/cgi-english/hyperWeb.cgi จากคุณ : TK Jr. - [ 25 ก.ย. 51 08:12:52 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ขำ "  คิมุจี้~ " ของหลายๆคน ฮ่าๆๆๆ ภาษาญี่ปุ่นง่ายนิดเดียว แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 51 09:53:02 จากคุณ : หนูน้อยเซบาสเตียน - [ 25 ก.ย. 51 09:51:21 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ จากคุณ : แตงโมลายจุด - [ 25 ก.ย. 51 10:53:15 ]

ความคิดเห็นที่ 92 มาตอบคุณหนุ่ม........ถูกต้องครับ......... ภาพนี้ถ่ายที่สถานี...OTAWARA-SHI....บ้านนอกโครตเลยอ่ะ... ไปขึ้นรถไฟผิดด้านวิ่งกลับมาอีกฝั่งแทบไม่ทัน.... สนุกจริงๆ...ไปญี่ปุ่นนี่........... จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว - [ 25 ก.ย. 51 15:25:41 ]

ความคิดเห็นที่ 93 มาต่อให้จบตอนแบบสมบูรณ์... ขออภัยนะวันนี้อู้ไม่ได้เลย เลยต้องเข้ามาเย็นๆ ตามปกติ ขอบคุณท่านพี่กบสีฟ้า ที่เข้ามาสรุปปิดท้ายให้เสริมหล่อให้กระทู้ผมนะครับ วันนี้จบแน่นอน ถ้าไม่หลับซ่ะก่อน หมวยโมใจเย็นๆ ผิดเป็นครู นั่งผิดก็นั่งกลับ อย่าคิดมาก แล้วเฮียไม่ใช่ผีญี่ปุ่นนะ จะได้ลอยไปถึงนู่น เอางี้เด๋วเฮียอัดรูปใส่กรอบ(พระ)เลี่ยมทองแดงให้ เอาไว้แขวนคอเวลาจะนั่งรถไฟ รับรองฤทธานุภาพ ไม่หลงก็ก่งก๊งไปเลย... 555 ไปเมื่อไหร่บอกนะป้าหอม จะช่วยทำแผนให้ ปกติไม่(มีปัญหา)ทำแผนให้ใครง่ายๆ นะเนี๊ยะ.... ไปญี่ปุ่นไม่ต้องรู้ภาษาญี่ปุ่นก็ได้นะครับ คุณ yuki_shimi 5 ปีถ้าจะนานไป ระวังไฟมอดก่อนเน้อ เห็นด้วยกับท่านน้องนิว สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงที่สุดสำหรับมือใหม่หัดขึ้นรถไฟ คือการไปสถานีรถไฟตอนเช้าในชั่วโมงเร่งด่วน เหมือนที่พี่ฟ้าแกเคยเตือนเอาไว้ ถ้าไปแล้วทำเงอะๆ งะๆ รับรองโดนชนกระเด็นแน่นอน เดินกันหยั่งกะวิ่งทั้งนั้น ขอบคุณสำหรับ Link นะครับ คุณ TK Jr. ถ้ามีอีก ก็เอามาแปะไว้ได้เรื่อยๆ เลย จะได้รวมทุกอย่างเกี่ยวกับการเข้าเมืองโดยรถไฟไว้ในกระทู้เดียวกัน รถไฟญี่ปุ่นถ้าสาย คนขับจะต้องรับผิดชอบด้วยการฮาราคีรีตัวเองครับ... เลยเป๊ะตลอด (เชื่อก็แมวหล่ะ) สงสัยหนูน้อยเซบาสเตียน จะต้องชอบดูหนังญี่ปุ่นแน่แน่เลย เลยรู้สึกดีกับ คิมูจิ๊... เป็นพิเศษ ถ้าไปเจอ อิไตโยะ แล้วจะขนาดไหนกันเนี๊ยะ.... คริคริ ขอบคุณที่ติดตามเช่นกันครับ คุณแตงโมฯ ว้าว! ดีใจจังที่ทายถูก แล้วพี่เปรี้ยวไปเที่ยวอะไรแถวนั้นหล่ะพี่ แนะนำหน่อยได้มั้ย เผื่อไปบ้าง ออกเดินทางเข้าเมืองกัน... คนขับรถสาธารณะที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟ รถบัส รถเมล์ หรือ แท็กซี่ ต้องใส่เครื่องแบบเต็มยศ ใส่หมวก แล้วก้ต้องมีถุงมือขาวกันทุกคน เปรี๊ยะ! มาก จากคุณ : NumAromDee - [ 25 ก.ย. 51 19:03:04 ]

ความคิดเห็นที่ 94 โอ๊ะ วันนี้มาทันรอบเย็นพอดีเลย ตอนนี้ก็เรียนญี่ปุ่นอยู่ค่ะ แต่ยังงูๆปลาๆอยู่ อยากไปอยู่ที่นู่นซักปีนึงให้ฟิตๆไปเลย เก๊าะเลยต้องเก็บตังค์ขนานใหญ่ ไม่กล้าเอาไปเที่ยวไหนเลย (นอกจากมีสปอนเซอร์ 55+ อีก 5 ปีไฟยังไม่มอดแน่นอนค่ะ เพราะมันลุกมา 4-5 ปีละก็ไม่ดับซะที (ประหนึ่งไฟโอลิมปิคเลย) จากคุณ : yuki_shimi - [ 25 ก.ย. 51 19:32:44 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ขอแนะนำที่ติดค้างเอาไว้ก่อนจะเข้าเมือง บริการขนส่งกระเป๋าถึงที่พัก สำหรับคนที่แบกกระเป๋าใบยักษ์ไปหลายใบ แล้วไม่อยากลากขึ้นรถไฟ แบกขึ้นบันไดสถานีรถไฟในโตเกียว ที่หลายสถานีจะไม่มีบันไดเลื่อนหรือลิฟท์ให้ทุ่นแรง เรียกใช้บริการ Takuhaibin (home delivery services) ที่เคาเตอร์ใกล้ชั้น 1 ของทั้ง 2 เทอร์มินอลได้เลย มีเจ้าใหญ่ๆ ให้เลือก 4 เจ้า คือ -GPA (Sky Porter & Green Port Agency Ltd.)     -JAL ABC Inc.         บริษัทนี้ให้เช่ามือถือใช้ในญี่ปุ่นด้วย วันละ 250 เยน ดูตามนี้เลย          http://www.rental-mobile.com/en/domestic/index.html     -QL Liner (หรือ KLT หรือ บ. คะมะทะกิ อุนยู)     -ANA Air Service Tokyo Co., Ltd. ชอบใจเจ้าไหนก็เลือกได้เลย ค่าบริการ 1 ชิ้นให้หนักไม่เกิน 30 กิโล คิดที่ 2,000 เยน หนักกว่านี้ก็ต้องจ่ายเพิ่มกันไป.... เจ้าแรก GPA จะเป็นขาใหญ่ ให้บริการขนส่งโดย บริษัทขนส่งอันดับ 1 ของญี่ปุ่น บ.แม่แมวดำหิ้วลูกเหมียว Yamato Transport ที่มีรถขนส่ง และตราบริษัทที่น่ารักเป็นเอกลักษณ์ แบบรูปข้างล่าง สนใจเข้าไปอ่านรายละเอียด ตามนี้นะ http://www.kuronekoyamato.co.jp/english/index.html จากคุณ : NumAromDee - [ 25 ก.ย. 51 19:40:03 ]

ความคิดเห็นที่ 96 สวัสดียามเย็น คุณ yuki_shimi เคยได้ยินจากน้องสาลี่ (Salamanka) ว่า หนังสือพิมพ์ที่ญี่ปุ่น (คุ้นๆ ว่าเป็นอา่ซาฮี ชิมบุน) รับคนไทยที่พูดญี่ปุ่นได้ไปทำงานพิเศษส่งหนังสือพิมพ์ 1 ปี เที่ยวด้วยทำงานด้วย ไม่รู้ใช้งานที่คุณยูกิอยากไปกันรึเปล่า ============================= หัวข้อสุดท้าย วันนี้ต้องรีบจบ เด๋วพรุ่งนี้เย็นต้องกลับบ้าน กทม. อู้ไปโพสต่อไม่ได้แล้ว... แนะนำเส้นทางนั่งรถสำหรับคนที่พักแถวๆ ย่านอาซาคุสะ ซึ่งปกติต้องนั่งรถอ้อมไปลงที่ Ueno หรือ Tokyo Station ก่อน แล้วต้องนั่ง Subway มาอีกที มีแนวทางใหม่ๆ ให้ลองครับ เคยแนะนำไปนานแล้วตอนรีวิวรูนอนที่ริมแม่น้ำสุมิดะ (Asakusa Reverside Capsule Hotel) แต่กระทู้หายไปแล้ว ขอฉายซ้ำให้รวมเป็นซีรีย์เดียวกันอีกที... วิธีนี้ต้องเริ่มต้นจากการเลือกนั่ง Keisei Limited Express เข้าเมืองก่อน ถ้าเลือกนั่ง N'EX , Sobu Line หรือ Skyliner หมดสิทธิ์ลอง เพราะต้องไปเปลี่ยนขบวนรถที่สถานี Keisei Aoto ตามแผนที่ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 ก.ย. 51 19:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ตอนซื้อตั๋ว Keisei Limited Express ให้ไปซื้อจากเคาเตอร์ แล้วบอกว่า ลง Asakusa Station แล้วจ่ายตังค์ 1,060 เยน ได้ตั๋วใบเล็กๆ มา 1 ใบ ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีกแล้ว จะซื้อจากตู้ขายอัตโนมัติก็ได้ แต่ต้องกดปุ่มเพิ่มอีกปุ่มนึงจากปุ่มปกติ คือ ปุ่ม Transfer Ticket ซึ่งผมไม่เคย และยังไม่กล้าลอง ซื้อจากเคาเตอร์กับคนเป็นๆ ชัวร์กว่า หมายเหตุ: ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ รับแบงค์ทุกขนาดนะครับ พกใบละหมื่นเยนจากเมืองไทยลงเครื่องไม่ต้องกังวลเรื่องที่แลกเงิน หรือต้องวิ่งไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อให้วุ่น จากสนามบินนาริตะ นั่ง Keisei Limited Express ไป 62 นาที ก็จะถึงสถานี Aoto เปลี่ยนรถไม่ยากเลยครับ แค่เดินข้ามชานชลามาขึ้นรถอีกขบวนนึง มีกระเป๋าลากก็ไม่ลำบากขึ้นลงบันไดครับ ตรงนั้นมีแค่ 2 ชานชลาเอง ไม่หลงแน่นอนครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 25 ก.ย. 51 20:10:03 ]

ความคิดเห็นที่ 98 รางทางขวามือ หรือ ชานชลาฟากตรงข้ามกับ Keisei Main Line (จากนาริตะ) ที่พึ่งจะลงรถมาเมื่อกระทู้ที่แล้ว จะมีรถวิ่งเข้ามาอยู่ 2 สาย คือ 1. Keisei Oshiage Line หน้าตาแบบนี้... จากคุณ : NumAromDee - [ 25 ก.ย. 51 20:15:01 ]

ความคิดเห็นที่ 99 หรือไม่ก็จะเจอ รถใต้ดิน! ใช่แล้ว ผมพิมพ์ไม่ผิดหรอก รถใต้ดิน หรือ Subway นี่แหละ พอวิ่งนอกเมืองมันจะวิ่งอยู่บนดินร่วมกับรางรถไฟสายอื่น คือขบวนแบบที่สองที่จะเจอ เป็น Toei Asakusa Line ที่วิ่งร่วมเส้นทางเดียวกันกับ Keisei Oshiage Line หน้าตาแบบนี้ ใครยังงงให้กลับไปดูเส้นทางสีชมพูที่รูปใน คห. 96 อีกที นั่นแหละคือเส้นทางของ Subway Toei Asakusa Line สายนี้ ต้นทางวิ่งร่วมกับ Keisei มาจาก Aoto วิ่งกันข้ามเมืองกว่า 20 สถานี 18.4 กิโลเมตร ไปสุดทางที่สถานี Nishi-magomo ทางตะวันตกของเมืองโตเกียว จากคุณ : NumAromDee - [ 25 ก.ย. 51 20:25:28 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เลือกนั่งได้ทั้ง 2 แบบครับ ถ้าเป็น Keisei Oshiage Line ก็เลือกคันที่เขียนปลายทางว่า Nishi-Magome แล้วกัน เพราะบางคันไปสุดสายแค่สถานี Oshiage แต่ถ้าเป็น Asakusa Line ก็ไม่ต้องเลือก ขึ้นได้เลย ถ้างงหรืออ่านไม่ทัน คันไหนมาก็ขึ้นไปเหอะ อย่างมากถ้ารถไปไม่ถึง Asakusa ก็แค่ไปแวะต่อรถที่สถานี Oshiage กันอีกที ไม่หลงหรอก แต่เท่าที่เจอ ส่วนมากรถ Keisei ก็จะกลายร่างเป็น Subway สาย Asakusa กันแทบทุกขบวน ถ้าจะหาเวลารถเส้นทางนี้ ใช้ Hyperdia จะหาไม่เจอนะ โปรแกรมมันจะนึกว่าเราจะไปสถานี Asakusabashi ไปนู่น... ต้องใช้ Jorudan หา ตาม link นี้เลย http://world.jorudan.co.jp/norikae/cgi-bin/engkeyin.cgi จากประสบการณ์ของผม Hyperdia มันเหมาะกับการใช้หาเส้นทางรถไฟของ JR ครับ ถ้าหาเส้นทางรถไฟของเอกชนเ้จ้าอื่น หรือหารถไฟที่วิ่งในเมืองใช้ โจรุดัง จะ work กว่า ======================== จาก Aoto นั่งไปแค่ 9 นาที ก็จะถึงสถา่นี Oshiage จากนั้นรถก็จะวิ่งมุดดินกลายเป็น Subway วิ่งไปอีกแค่ 3 นาที ก็จะถึง สถานี Toei Subway-Asakusa Line ที่หมายเลย ตามแผนที่ เดินออกทาง Exit 3 ได้เลย จะมาออกตรงจุดที่ระบายสีเขียวในแผนที่ ตรงนั้นจะมีสถานีชื่อ Asakusa เหมือนกันอยู่ 3 สถานีนะ อ้นล่างเป็นของ Toei Subway ที่นั่งมา ตรงกลางเป็นของ Tokyo Metro ที่มาจาก Ueno ส่วนด้านขวาคือ Tobu Asakusa สถานีที่ใ้ช้นั่งไป Nikko จากคุณ : NumAromDee - [ 25 ก.ย. 51 20:40:10 ]

ความคิดเห็นที่ 101 โผล่จาก Exit หมายเลข 3 ของสถานี Toei Asakusa มองไปทางขวา ก็จะเจอวิวแบบนี้ ตรงนั้นคือห้าง Matsuya สาขา Asakusa ด้านหลังจะเป็นสถานีรถไฟ Tobu Asakusu ส่วนวัดอาซาคุสะ อยู่ด้านซ้ายมือของห้าง สะพานแดงกับตึกอาซาฮีอุนจิ ก็อยู่ทางขวา ใกล้มั้ยครับ? รึว่างง ใช้เวลานั่งทั้งหมดในเส้นทางที่แนะนำนี้ประมาณ 74 นาทีรวมเวลาเปลี่ยนขบวนรถไฟ ถือว่าประหยัดทั้งเงินและเวลา เพราะถ้านั่งมาตาม Route ปกติ ต้องนั่ง Keisei ไปลง Ueno แล้วเดินข้ามฟากอีกเกือบครึ่งกิโลมาต่อรถ Subway สาย Ginza ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณเกือบ 90 นาที รวมเวลาเปลี่ยนรถ กว่าจะถึงอาซาคุสะ แถมค่าเดินทางก็ต้องจ่ายแพงกว่า ที่ 1,160 เยน ใครที่พักแถว Asakusa ในวันแรก และจะเลือกนั่ง Keisei Limited Express เข้าเมือง ลองดูนะครับ... แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 51 20:54:17 จากคุณ : NumAromDee - [ 25 ก.ย. 51 20:47:47 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เอาป้ายในรถไฟมาให้ดูเล่นๆคับ จากคุณ : TK Jr. - [ 25 ก.ย. 51 20:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 103 จบอย่างสมบูรณ์แล้วสำหรับตอนนี้ ใครจะเสริมหรือจะถามอะไร เชิญนะครับ พรุ่งนี้จะมาตอบให้อีกที แล้วพบกันไหมตอนหน้า... น่าจะคุยเรื่องรถไฟในโตเกียวอีกซักตอน หรือไม่ก็วิพากษ์เรื่องรถไฟไป Nikko ขอหาข้อมูลก่อน วันนี้ลาไปก่อนนะครับ สวัสดี..... ฝากไว้ด้วยรูปมากิจังน้องสาวหมวยโม.... น่าร๊ากกกกกกกกกก แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 51 20:58:20 จากคุณ : NumAromDee - [ 25 ก.ย. 51 20:52:24 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ทางขึ้นของ Toei Asakusa จะมีอยู่บางทางออกที่มีลิฟต์ถึงชั้นล่างเลยนะคะ แบกกระเป๋าใหญ่ก็ไม่ลำบากค่ะ  แต่ไม่แน่ใจว่าทางออกเดียวกับที่คุณหนุ่มบอกหรือป่าว  เหมือนว่าจะเดินไกลกว่านี้นิดหน่อย  ตอนนั้นวิ่งตามคนนำทางอย่างเดียวไม่ทันได้สังเกตุหมายเลขทางออก จากคุณ : แตงโมลายจุด - [ 26 ก.ย. 51 10:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 105 พี่หนุ่มค้าบบ ที่ญี่ปุ่นเนี่ย เวลาเราขึ้นรถไฟ ไม่ว่าจะเป็นชินกันเซน ใต้ดิน หรือรถไฟธรรมดาทั่วๆ ไป เราสามารถรับประทานอาหารบนรถได้หรือเปล่าครับ (จำพวกเบนโตะ ข้าวปั้น น้ำอัดลม ขนมปัง อะไรทำนองนั้น) ผิดธรรมเนียมหรือมารยาทอะไรของเขาหรือเปล่าครับ ถ้าเป็นบ้านเรา เอาหมูย่างขึ้นไปกินบนรถเมล์ปรับอากาศก็คงโดนฆ่าตายแน่ๆ -*- จากคุณ : NEWESTTSEWEN - [ 26 ก.ย. 51 11:22:17 ]

ความคิดเห็นที่ 106 เด๋วคราวหน้าไปแล้วจะแวะสำรวจลิฟท์ให้นะครับ คุณแตงโม แต่การเดินระหว่างสถานี Keisei Ueno กับ Subway หรือ JR Ueno นั่นลากกระเป๋ากันลำบากแน่ๆ ที้งบนชานชลา และบนรถไฟทุกขบวน กินได้ทั้งนั้นแหละครับท่านน้องนิว อย่าเอาทุเรียนกวน หรือ แจ่วปลาร้าไปกินก็พอ ระบบระบายกลิ่นของเค้าดีครับ ตามสถานีัดังๆ เค้ายังแข่งกันทำเบนโตะสำหรับไปกินรถไฟเป็นของดังประจำท้องถิ่น มาขายกันมากมายเลือกกันไม่ไหวเลยครับเลยคับ จากคุณ : NumAromDee - [ 26 ก.ย. 51 13:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 107 มาช่วยคุณหนุ่มตอบ คห 105 ค่า ถ้าเป็น ชินคันเซ็น หรือ รถที่มีที่นั่งแบบมีถาดส่วนตัวจะเอา โอเบนโตะ หรือ โอนิกิริ หรืออาหารที่กลิ่นไม่แรงไปกินได้ค่ะ แต่ถ้าตามรถ JRธรรมดา, Subway  ไม่ควรทานอะไรทั้งสิ้นค่ะ คนญี่ปุ่นเค้าจะมองแบบเคืองๆ แต่คงไม่มีใครเดินมาว่าหรอกค่ะ ยกเว้นว่าจะจิบน้ำยังพอโอเค จากคุณ : teishiran - [ 26 ก.ย. 51 20:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 108 เรื่องกินบนรถชิงกันเซน นี่ถือว่าเป็นวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นทีเดียวเรย ^_^ โดยทั่วไปแล้ว รถชิงกันเซน รถด่วนต่างๆ รถไฟท่องเที่ยวที่วิ่งยาวๆ หน่อย กินอาหารกันเป็นปรกติครับ แม้กระทั่งรถ skyliner เช้าๆ วิ่งไปสนามบินก็เห็นกินกันเป็นประจำ แต่เค้ากินกันเป็นเวลานะครับ อาหารเช้า กับอาหารเที่ยง ส่วนอาหารเย็นไม่ค่อยเห็นนัก ที่ห้ามกินก็คือบนรถไฟธรรมดาๆ แบบที่มีที่นั่งด้านข้างสองด้าน แบบเดียวกับ BTS บ้านเรานะ แบบนั้นเค้าห้ามทานอาหารบนรถไฟ แต่ตอนดึกๆ ก็มีบรรดาขี้เมาทั้งหลายดื่มเบียร์กันนะ ปล  พิมพ์นานไปหน่อย ชนกันคุณ teishiran พอดี ความเห็นเหมือนกันยังกะลอกการบ้านเรย 555 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 51 20:18:40 จากคุณ : SkyBox - [ 26 ก.ย. 51 20:13:05 ]

ความคิดเห็นที่ 109 เรื่อง Limousine Bus จากสนามบินนาริตะเข้าเมือง ก็เป็นทางเลือกที่สะดวกทางหนึ่งนะครับ ในกรณีเครื่องลงเช้าๆ แล้วใช้ Limousine Bus ละก็ต้องทำใจกันหน่อยละครับ เรื่องรถติด มันติดแบบไร้สาระเหมือนบ้านเราเช้าๆ เลยละ จากสนามบินเข้าโตเกียวนี่วิ่งทางด่วนตลอดละครับ แต่มันจะติดตรงช่วงก่อนเข้าเมืองนะครับ ใกล้ๆ เคาเตอร์ Transportation Service (ตามรูป #9) จะมีป้ายใหญ่ๆ แสดงสถานะของทางด่วนของโตเกียวว่าเส้นทางไหนรถติดมากน้อยขนาดไหน ช่วงไหนเป้นสีแดง ก็แสดงว่ารถติดมาก ก็จะใช้บริการรถบัสเข้าเมืองก็ลองดูๆ เจ้าป้ายนี้ก่อนก็แล้วกัน ถ้าเห็นเส้นทางมันสีแดงไปหมดก็นั่งรถไฟดีกว่านะครับ จากคุณ : SkyBox - [ 26 ก.ย. 51 20:38:51 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ดูกันชัดๆ เจ้าป้ายบอกสถานะรถติดของกรุงโตเกียว ที่เห็นนี่แสดงเฉพาะทางด่วนนะครับ สนามบินอยู่ด้านขวามือ จุดจอดหลักรถบัสอยู่ที่ shunjuku ตามรูปอยู่ตรงจมูกคนที่ยืนกลางรูปนะครับ จะเห็นว่าวงกลมสีแดงแปร้ดนั่นคือทางด่วนรอบกรุงโตเกียว ติดตลอดสาย ตอนถ่ายรูปนี้ตอนเช้าเวลา 07.33 นะครับ ก็ประมาณเกือบๆ สองชั่วโมงถึง shinjuku นะ *-*' จากคุณ : SkyBox - [ 26 ก.ย. 51 20:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ขอบคุณครับคุณชิรัน กับ พี่ฟ้า ที่มาให้ข้อมูลดีๆ เยอะเลย ทั้งเรื่องกินขนมบนรถในเมือง กับเรื่อง บอร์ดบอกรถติดของลิมูซีนบัส สงสัยผมจะทำผิดธรรมเนียมรถไฟในเมืองซ่ะแล้ว กินตามพวกวัยรุ่นญี่ปุ่นครับ เห็นเค้าซื้อไปกิน ก็ตามแห่เลย แต่น้ำนี่ผมเห็นคนญี่ปุ่นเค้าซื้อไปกินบนรถ(ในเมือง)กันตลอดเลยนะครับ ไม่เห็นพวกอาหารเท่านั้นเอง สงสัยคราวหน้าต้องระวังตัวซ่ะแล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ 27 ก.ย. 51 00:36:23 ]

ความคิดเห็นที่ 112 น้ำดื่มเป็นเรื่องปรกตินะครับ บนรถไฟในเมืองส่วนใหญ่จะเห็นคุณผู้หญิงทั้งหลายมีขวดชาเขียวประจำตัวเอาไว้จิบละครับ โดยเฉพาะหน้าร้อนที่ญี่ปุ่น *_*' สรุปให้อีกครั้ง ทางเลือกจากสนามบินนาริตะเข้าโตเกียว มีให้เลือกสองทางคือ จะไปตามราง หรือ ไปตามถนน ไปตามรางก็มีให้เลือก 2 เจ้า คือ JR กับ Keisei ปัญหาโลกแตก คือจะใช้อะไรดี ? ผมสรุปง่ายๆ นะครับ ถ้าที่พักหรือปลายทางในโตเกียว อยู่ด้านซีกขวาของแผนที่เมืองโตเกียว คือ Ueno และเรื่อยไปด้านขวาของแผนที่ ใช้ keisei จะสะดวก (บางครั้งผมถือ jr pass อยู่ในมือผมยังใช้ keisei เลยครับ เพราะไม่อยากนั่งรถย้อนไปย้อนมา แถมต้องมาเปลี่ยนรถไฟที่สถานี tokyo อีกต่างหาก ผมไม่กลัวเรื่องหลงนะครับ เพราะหลงทุกครั้ง แต่เรื่องแบกกระเป๋าเดินไกลนี่ไม่ค่อยอยากสักเท่าไรนัก) แต่ถ้าที่พักหรือจุดหมายปลายทางเป็นด้านตะวันตกของเมืองโตเกียว หรือสถานี tokyo ก็ใช้ JR จะสะดวกกว่า ส่วนไปทางถนนก็มีให้เลือก 2 แบบเหมือนกัน คือ Limousine Bus กับ Taxi Limousine Bus เหมาะกับปลายทางที่รถบัสไปเกยหน้าประตูโรงแรมนะครับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงแรมห้าดาว หรือ ไปลงที่ shinjuku ด้าน west exit เพื่อข้าวถนนไปขึ้นรถบัสไปต่างจังหวัดอีกที หรือ ปลายทางคือสนามบิน haneda อันนี้ดีเยี่ยม คือสะดวกสุดไม่ต้องเลี่ยนรถไฟหลายต่อให้วุ่นวาย แต่การใช้บริการ Limousine Bus ต้องมีเวลาเหลือเผื่อรถติดไว้ด้วยนะครับ โดยปรกติเอาแบบไม่ตื่นเต้นก็สองชั่วโมง สำหรับการเดินทางเข้าเมือง อีกวิธีที่เหลือก็ taxi ครับ ก็ประมาณหมื่นบาทนะครับ หมื่นบาทนะครับ ไม่ใช่หมื่นเยน เตรียมไว้ได้เรย บวกลบนิดหน่อย *_*' จากคุณ : SkyBox - [ 27 ก.ย. 51 09:11:28 ]

ความคิดเห็นที่ 113 แต่ถ้านั่งออกนอกเมือง  โดยเฉพาะสายออกไปชมธรรมชาติ ถ้าไม่มี Obento ไปด้วยนี่  ถึงขั้นต้องแอบบกลืนน้ำลายเอื้อกก.. อิจฉาป้าๆที่กินไปคุยกันกรี๊ดๆๆไปลั่นรถได้เลยนะคะ ปล.นั่นอะดิคุณหนุ่ม หนังบ้าอะไรไม่รุ  พูดกันอยู่แค่สองประโยคแค่เนี๊ย แล้วเมื่อไรคนเขียนบทจะได้รางวัลเขียนบทยอดเยี่ยมกะเขาสักที  เฮ้อ... จากคุณ : หนูน้อยเซบาสเตียน - [ 27 ก.ย. 51 13:51:20 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆครับ จากคุณ : หัวหอมยิ้มได้ - [ 27 ก.ย. 51 21:51:48 ]

ความคิดเห็นที่ 115 หยึ๋ย  พลาดไปได้ไงเรา  ตามมาอ่านแล้วค่ะ จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด - [ 29 ก.ย. 51 14:26:24 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ข้อมูล ไม่ใช่ ก็ใกล้เคียง กับสารคดี 55+ แจมด้วย  สักรูป นะคะพ่อหนุ่ม ขอบคุณสำหรับหลังไมค์ค่า 555+ จากคุณ : เต้าเม้ง - [ 29 ก.ย. 51 22:37:08 ]

ความคิดเห็นที่ 117 คุณหนุ่มรีวิวไว้ครบถ้วนดีมาก ขยันจริงๆ ขอชมจากใจเลยครับ อาจจะช้าไปหน่อย แต่ขอเข้ามาเพิ่มเติมข้อมูลคุณหนุ่มในคห 97 ที่ว่า "ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ รับแบงค์ทุกขนาดนะครับ พกใบละหมื่นเยนจากเมืองไทยลงเครื่องไม่ต้องกังวลเรื่องที่แลกเงิน หรือต้องวิ่งไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อให้วุ่น" อันนี้คุณหนุ่มน่าจะหมายถึงว่าถึงมีแบงค์หมื่นเยนก็ไม่ต้องกังวล แต่แบงค์ของญี่ปุ่นที่ต้องระวังที่สุดคือแบงค์ 2000 เยนครับ ที่ตู้อัตโนมัติทั่วไปมักจะไม่รับ เป็นธนบัตรชนิดพิเศษที่คนญี่ปุ่นมักจะไม่พกติดตัว ใน Supermarket ร้านค้า หรือร้านอาหาร ทั่วไปก็จะไม่ทอนธนบัตรชนิดนี้ให้กับลูกค้าด้วยเช่นกัน จากคุณ : s7014249 - [ 1 ต.ค. 51 21:29:40 ]