 |
แอร์บัส รับสภาพ ปรับ 330 แทน 350...ขณะโบอิ้ง นิ่ง(จึง)เสีย ตำลึงทอง
ว่าจะเขียนหลายวันแล้ว รู้สึกได้ถึง "ภาวะถดถอย" อย่างรุนแรงของอุตสาหกรรมการบิน วันนี้อยากจะเอาเรื่องของสองยักษ์ลักหลับ มาฝากครับ
เป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดทีเดียว
ทราบกันอยู่แล้วว่า วินาทีนี้ ทุกอย่าง "ถึงคราว" รวมไปถึงการบินด้วย และหลายๆ ท่านก็คงทราบกันแล้วว่า ทางสหภาพเจ้าหน้าที่เทคนิคอวกาศและการบินของอเมริกา หรือ International Association of Machinists and Aerospace Workers (IAM) จำนวน 27,000 คน ได้ประท้วงกันมาเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือนแล้ว และแน่นอนครับว่ามันส่งผลกระทบไปทั้งยวง แม้แต่ในยุโรปเอง เพราะมันรวมไปถึง Supplier ทั้งในอเมริกา และภายนอก แม้แต่ใน ญี่ปุ่น การประท้วงครั้งนี้ทำให้ โบอิ้งต้อง "หยุด" กระบวนการการผลิตเครื่องบินเกือบทั้งหมด ยกเว้นเพียง รุ่นเดียว คือ 777 ทำให้การส่งมอบเครื่องบินล่าช้าแบบไม่มีกำหนด และโบอิ้งขาดทุนไปแล้ววันละ 100 ล้านเหรียญ
ยังไม่ต้องพูดถึง นางสาวช่างฝัน 787 Dreamliner ที่ตอนนี้ทุกอย่าง "นิ่ง" 100 เปอร์เซนต์ และการประท้วงของเจ้าหน้าที่เทคนิคในครั้งนี้ เกิดจากการเรียกร้องให้เพิ่มรายได้ ค่ารักษาพยาบาล และเงินสวัสดิการด้านอื่นๆ เพิ่ม แต่.....
ไม่มีการเจรจาจากทางฝ่ายไหนเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้ล่าสุดจะมีเผยออกมาว่า ทางสหภาพอาจเข้าเจรจาในอนาคตอันใกล้ ย้ำนะครับ อนาคตอันใกล้ แต่ไม่มีกำหนดแน่ชัด
เบื้องลึก คาดกันว่า สหภาพอาจหยุดงานประท้วงไปจนถึงหลังเลือกตั้ง ปธน. วันที่ 4 พฤศจิกายน เลยก็เป็นได้ หากเป็นเช่นนั้นจริง สายการบินทั่วโลกจะได้รับผลกระทบอย่าง "รุนแรง" นัยว่า เค้าจะไม่คุยกับใครขณะนี้
เดือดร้อนต่อไปถึงฝั่งยุโรป เพราะ อาจเกิดเหตุการณ์การหยุดงานประท้วงเกิดขึ้นก็ได้ในอนาคต
แต่ โบอิ้ง ก็ยังคงได้รับข่าวดีอยู่ ตรงที่ ยอดการสั่งเครื่อง 787 นั้น ไม่มีการยกเลิกเลยแม้แต่ลำเดียว กลับกัน กลับมีแนวโน้มที่จะได้ยอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 800 ลำ อีกด้วย
พิลึกมั้ยครับ
ข้ามมาที่ฝั่งยุโรปบ้าง แอร์บัส ก็จัดการแก้ลำเรื่องของ "ลิงลม" 350 แล้ว เพราะยอดสะดุดอยู่ที่ 350 ลำ และด้วยสภาวะทางการเงินที่สุดจะบักโกรกของแอร์บัส ก็เลยทำให้ทาง แอร์บัส ประกาศ พัฒนา A330-200 ใหม่ในรุ่น A330-200 V2.0 นี่คือชื่อรุ่นจริงๆ นะครับ ตามที่ Derek Davies ผู้บริหารของแอร์บัส บอก โดยจะเพิ่มพิสัยการบินจากเดิม 6,750 NM. เป็น 6,840 NM. ในขณะที่ 787 จะมีพิสัยการบินระหว่าง 7,650-8,000NM. และจะมีน้ำหนัก MAX Take-Off Weights ที่ 238 ตัน มากกว่ารุ่นปัจจุบัน 5 ตัน รวมทั้งการบริโภคน้ำมันที่น้อยกว่า 787 อยู่ ถึง 2 เปอร์เซนต์ คือแก้ลำ เอามาบดกับ 787 ตรงๆ เลยว่างั้น
ซึ่งเจ้า 330-200 V2.0 ที่ว่านี้ น่าจะเริ่มได้ในปี 2010 นี้ครับ โดยท่านจะสามารถเห็น รายละเอียดของเจ้านี่ได้ใน James Bond 007 ภาคล่าสุด Quantam of Solace นิดหนึ่ง
เท่ากับว่า ในปี 2010 เราจะเริ่มได้เห็นการ Modified เครื่อง 2 รุ่นของ แอร์บัส หนึ่งคือ A320 ที่จะปรับให้เล็กลง มีขนาดความจุที่นั่งเพียง 100 ที่นั่ง และ A330-200 V2.0 ที่จะปรับในส่วนระบบขับเคลื่อน ก็ต้องติดตามครับ
กับอีกด้านหนึ่ง โบอิ้ง ก็ต้องตามดูว่า จะสามารถเข็น 787 ออกมาให้ลืมตาดูโลกตามกำหนด คือ กลางปี 2009 หรือไม่ และ ต้องรอดูว่า การปรับ 777 ให้ขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อแทน 787-10 นั้นจะทำได้หรือไม่ ส่วน 747-8 นั้น จะรู้เรื่องในไม่เกือนสิ้นปีนี้แน่นอน ว่าจะเดินหน้าต่อ หรือเปล่า
ณ วันนี้ ทั้งสองค่ายกำลังเข้าตาจนอย่างหนัก มีปัญหาพอๆ กัน ต้องดูว่าใครแก้ปัญหาได้ดีกว่ากัน ถ้าตามความคิดเห็นส่วนตัวของผม ผมให้ "แพ้" ทั้งคู่
ผมมองว่า แอร์บัส ต้องแก้ที่จุดเดิมของปัญหา คือ อีช้างน้ำ380 ให้มันจบก่อน ไม่ใช่ว่า ไม่แก้ แล้วยังเดินหน้าขายของแบบบ้าระห่ำขนาดที่เป็นอยู่ คือ มันจะได้เริ่ม ลิงลม350 ได้เร็ว ยิ่งเร็ว แอร์บัส ก็จะสามารถอุดเรื่องเงินได้ และยิ่งได้เปรียบ โบอิ้ง
ส่วน โบอิ้ง ผมมองว่า เค้าต้องรู้จักการลด ละ เลิก กฎระเบียบ บ้าๆ บางเรื่องลงบ้าง และก็ต้องเข้าใจ "พนักงาน" มากขึ้น คือ เข้าใจสภาพคนมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมา โบอิ้ง ค่อนข้างใช้คน เหมือน หุ่นยนต์ เกินไป และพอเรื่องเดือดขึ้น ก็ยังคง อิงกับ กฎ ระเบียบ อยู่ นี่ที่สหภาพเค้าไม่คุย เพราะผู้บริหารไม่เจรจานะครับน่ะ
จัดไปครับ......
จากคุณ :
เด็กคน  
- [
10 ต.ค. 51 14:23:51
]
|
|
|
|
|
|
