ความคิดเห็นที่ 1 คำว่า Shinkansen ไม่ได้แปลว่ารถไฟหัวกระสุน แต่แปลว่า ทางรถไฟสายใหม่ (Shin แปลว่า ใหม่ ส่วน Sen แปลว่าเส้นทาง) ในญี่ปุ่น คำนี้ใช้เรียกรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นชั้นสูงที่สุดของรถไฟญี่ปุ่น ที่เรียกเป็นทางการว่า Super Express กันจนติดปาก เหมือนบ้านเราเรียกผงซักฟอกว่า แฟ้บ หรือ เรียกผ้าอนามัยว่า โกเต็ก ประมาณนั้น แล้วด้วยความที่ หน้าตาชินคันเซนรุ่นแรก มันกลมมนเหมือนหัวกระสุนปืน และวิ่งเร็วสุดสุด (ในสมัยนั้น) ชินคันเซ็นเลยมีชื่อเล่นว่า Bullet Train แล้วบ้านเราก็แปลตรงตัวไปเลยว่า รถไฟหัวกระสุน คนญี่ปุ่นเริ่มคิดสร้างชินคันเซนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2499 ยุคที่เมืองไทยอันพาลกำลังครองเมือง ตอนนั้นที่ญี่ปุ่นรถไฟกำลังจะครองใจคนทั้งประเทศ เค้าฝันอยากจะมี Dream Super Express ที่สามารถวิ่งจาก โตเกียว ถึง โอซาก้า ระยะทางกว่า 500 กิโลเมตร ได้ภายใน 3 ชั่วโมง โอ้ว! ยามาโมโต้.... มันขี้โม้มาก สมัยเมื่อ 50 ปีก่อน ใครมาพูดเรื่องนี้คงขำก๊าก และอุทานแบบนี้กันไปทั้งบาง สมัยนั้นรถไฟญี่ปุ่นใช้ความเร็วไม่ต่างจากรถไฟไทย ที่วิ่งจากกรุงเทพถึงลำปางในเวลาสิบกว่าชั่วโมง (ตอนนี้ก็ยังวิ่งเท่านี้อยู่) ดูแผนที่ญี่ปุ่นประกอบไปด้วยนะ จะได้นึกภาพออก โตเกียวอยู่ในเขตคันโต ตรงกลางประเทศ ส่วนโอซาก้าอยู่ในเขตคินคิ (หรือคันไซ) อยู่ถัดมาทางใต้ของเกาะฮอนชู ห่างกันประมาณ 500 กม. จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 18:31:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มาปาดคุณหนุ่มทันด้วย  อิอิ จากคุณ : แฟนอองรี - [ วันออกพรรษา 18:34:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ญี่ปุ่นเป็นชาติที่ตั้งใจทำอะไรแล้ว ต้อง(บ้าคลั่ง)ทำจนสำเร็จ 2 ปีต่อมาหลังจากคิดฝันโครงการใหญ่ พ.ศ. 2502 ก็เริ่มลงมือสร้างทางรถไฟจากโตเกียว ไป โอซาก้า ทันที และ เริ่มวิจัยพัฒนา กับ สร้างรถทดสอบ (Class 1000) ทดลองวิ่งไปพร้อม ๆ กัน เรียกเส้นทางรถไฟชินคันเซนสายแรกนี้ว่า Tokaido Shinkansen (โทะไคโด ชินคันเซน) ได้ชื่อมาจาก ชื่อถนนโบราณระหว่างเมืองเกียวโต กับเอโดะ (หรือโตเกียวในปัจจุบัน) เปิดตัววิ่งรถเที่ยวแรกเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2507 ด้วย 000 Series (ศูนย์สามตัว) วิ่งระหว่างโตเกียว กับ โอซาก้า มีรถวิ่งเข้าวิ่งออก ณ ปีที่เปิดตัว วันละ 60 เที่ยว!! ปัจจุบันสายโทะไคโด มีชินคันเซนวิ่งเข้า-ออก 200 กว่าเที่ยวต่อวัน เกือบทุก 7 นาทีจะมีรถออกขบวนนึง สมัยนั้นแบ่งขบวนรถเป็น 2 แบบ คือ 1. Hikari (ฮิคาริ แปลว่า แสง) วิ่ง Tokyo-Osaka ในเวลา 4 ชั่วโมง จอดแต่สถานีหลัก 2. Kodama (โคดามะ แปลว่า เสียงสะท้อน) ถึงโอซาก้าในเวลา 5 ชั่วโมง เพราะจอดดะทุกสถานี เป็นชินคันเซนหวานเย็น ส่วนขบวนที่ชื่อ Nozomi (โนโซมิ) กว่าจะเกิดก็ต้องรอไปจนถึงปี 2535 นู่น รูปนี้เป็น 000 Series ถ่ายเมื่อ พ.ศ. 2509 ไม่ได้บอกว่าถ่ายที่ไหน วิวคุ้น ๆ เหมือนจะเป็นเกียวโต จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 18:37:30 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เข้ามาสวัสดียามค่ำค่ะ ชินคันเซนนี่เป็นหนึ่งในสุดยอดปรารถนาของเราเลย แต่ยังไม่รู้จะได้มีโอกาสเมื่อไหร่ ขอเกาะท้ายขบวนคุณหนุ่มไปก่อนละกัน ปล. ในฐานะของคนชอบกิน ยังคิดถึงรีวิวของกินในญี่ปุ่นตามสไตล์หนุ่มอารมณ์ดีอยู่นะ !!! แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 51 19:05:09 จากคุณ : ณ วันหนึ่งเราจะมาพบกัน - [ วันออกพรรษา 18:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดีสาวอองรี.... มาคนแรกเลย ขอตีมือให้ 3 ที แป่ะ.. แป่ะ.. แป่ะ.. เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาไม่มีบอลอังกฤษดูเลย เหมือนขาดอะไรไปอย่าง ============================= รุ่นแรก ชื่อรหัส 000 Series เริ่มผลิตมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507 ผลิตกันต่อเนื่องยาวนานมาถึง 22 ปี หยุดผลิตไปเมื่อปี 2529 หน้าตาอ้วนกลมน่ารัก และคลาสสิคซ่ะ... ตรงหัวรถเห็นว่าลอกแบบมาจากเครื่องบินรุ่น DC-8 ที่ใช้บินส่งคนสมัยนั้น เพราะคนออกแบบคงอยากสื่อให้เห็นว่า การเดินทางด้วยชินคันเซ็นสะดวกรวดเร็วเหมือนนั่งเครื่องบิน ความเร็วสูงสุดทำได้ถึง 220 กม./ชม. แต่วิ่งจริงเฉลี่ยจะไม่ถึง 200 เพราะเทคโนโลยียังไม่ดี ทำเสียงดังหนวกหูชาวบ้าน รถแรงต้องฐานล้อกว้าง ๆ ด้วยความเร็วขนาดนี้เลยทำให้ต้องสร้างรางของใหม่หมด ให้เป็นมาตรฐาน European Standard Gauge ที่ 1.435 เมตร ซึ่งรางรถไฟของ JR แบบปกติ จะเป็น Caps Gauge กว้าง 1.067 เมตร เลยเอารถไฟความเร็วสูงกว่า 200 กม./ชม. มาวิ่งไม่ได้ ส่วนรถไฟไทยรางเป็นแบบประหยัดต้นทุน เป็น Meter Gauge กว้าง 1 เมตร เพื่อให้เข้ากับรางรถไฟเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 000 Series แบบมาตรฐาน 1 ขบวนจะมีตู้โดยสารประมาณ 12 หรือ 16 ตู้ แล้วแต่รุ่น จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 18:45:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดียามค่ำมืดเช่นกันครับ คุณ ณ วันหนึ่ง... ขออวยให้โอกาสนั้นของ คุณนะ มาถึงไวไว แล้วอาจจะติดใจ หรืออาจบ้ารถไฟตามผมไปอีกคนก็ได้ เรื่องของกิน ยังมีข้อมูลเหลือให้รีวิวได้อีก 1 ตอน เดี๋ยวจบกระทู้ชุดรถไฟญี่ปุ่นแล้ว ผมจะเขียนให้อ่านตามคำขอเลยครับ สัญญา ======================= ตอนนี้ 000 Series ที่ยังเหลืออยู่นอกพิพิธภัณฑ์ ถูกเอามาปรับปรุง และลดชั้นลงมาเป็นรถด่วน (Limited Express) วิ่งอยู่ที่ Fukuoka โดยตัดตู้ออก เหลือ 6 ตู้ต่อขบวน ใช้วิ่งระยะทางสั้น ๆ แค่ 8.5 กม. ใช้เวลาวิ่ง 10 นาที จากสถานี Hakata ไปสถานี Minami-hakata ใช้ชื่อสายว่า Hakata Minami line บริหารโดย JR West กลายเป็นสายอนุรักษ์ให้นั่งชื่นชมบรรยากาศเก่า ๆ ไปซ่ะงั้น ถ้าใครอยากนั่ง 000 Series ต้องรีบแล้ว เพราะเดือนพฤศจิกายน ปีนี้ JR จะยกเลิกการใช้งาน 000 Series ทั้งหมด หลังจากคุณปู่ 000 Series ถูกปลุกชีพปั๊มหัวใจอยู่ให้บริการมายาวนานกว่า 40 ปี สมควรแก่เวลาต้องเชิญแกไปนั่งดูหลาน ๆ ในพิพิธภัณฑ์ได้แล้ว หลังจากนี้คนที่อยากย้อนอดีตใช้บริการนั่ง ฮาคาตะ มินามิไลน์ จะได้นั่ง 100 Series รุ่นปัดฝุ่น แทน ได้ข่าวมาว่า 30 พ.ย. 51 ทาง JR West จะจัดงานซาโยนาระ 000 Series กันที่ Hakata อย่างเป็นทางการ ใครอยู่ที่ฟุคุโอกะช่วงนั้น ฝากไปนั่งสั่งลาคุณปู่ 000 Series แทนผมด้วย จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 18:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หลังจากประสบความสำเร็จด้วยดีกับทางรถไฟสาย Tokaido (ตามรูปหมายเลข 1 สีแดง) เดือนมีนา ปี 2510 ทาง Japanese National Railways (JNR) หรือ การรถไฟญี่ปุ่น สมัยยังไม่แปรรูปเป็นเอกชน ก็เริ่มก่อสร้างต่อรางชินคันเซนจากโอซาก้า ลงใต้ไปเป็นช่วง ๆ ไปที่ Okayama, Hiroshima จนสุดทางที่ Fukuoka เมื่อปี 2518 สร้างนานหน่อย เพราะต้องทำ Shin-Kanmon Tunnel อุโมงค์ลอดใต้ทะเลยาว 18.7 กม. ระหว่างเกาะฮอนชูกับคิวชู ก่อน JNR ตั้งชื่อทางรถไฟสายใหม่นี้ว่า Sanyo Shinkansen (ซันโย ชินคันเซน ตามรูปเส้นทางหมายเลข 2 สีน้ำเงิน) รถที่วิ่งเส้นทางใหม่นี้ ยังใช้ชื่อว่า ฮิคาริ กับ โคดามะ เหมือนกับสายโทะไคโด เพียงแต่โคดามะของสายโทะไคโด จะวิ่งจากโตเกียวไปสุดสายที่โอซาก้า ไม่ได้ปนกับโคดามะของซันโย ที่เริ่มวิ่งจากโอซาก้าลงไป ชื่อเหมือนกันแต่ต่างคนต่างวิ่งในเส้นทางของตัวเอง จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 18:58:35 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รุ่นต่อไป ต้องรออะไรหลายอย่าง จนถึงปี 2527 หลังจากผลิต 000 Series ออกมากว่า 20 ปี JNR ถึงจะเปิดตัว 100 Series ขึ้นมาแทน 100 Series ใช้วิ่งในเส้นทาง โทะไคโด และ ซันโย เป็นขบวนฮิคาริ ส่วน 000 Series ก็ให้เป็น โคดามะ อย่างเดียว คันไหนเก่ามาก ก็ก็ปลดระวาง รูปทรงหัวรถ 100 Series ลดความอ้วนกลม และเหลามุมให้เป็นทรงรี กลมกลืนกับตัวรถ ลดแรงต้านอากาศ ไฟหน้าจากทรงกลม ก็เปลี่ยนเป็นทรงรีให้เข้ากับหน้ารถ คนญี่ปุ่นเค้าบอกว่า ดูแล้วเหมือนจมูกฉลาม รุ่นนี้ช่วงล่างดีขึ้น และมอเตอร์ไฟฟ้าแรงกว่าเดิม จนทำความเร็วสูงสุดในการทดสอบได้ถึง 270 กม./ชม. ไม่มีเสียงดังรบกวนชาวบ้านแล้ว แต่วิ่งจริงสูงสุดจะให้ไม่เกิน 220 กม./ชม. เพราะเทคโนโลยีระบบเบรคและการทรงตัวยังดีไม่พอให้เอาไปบรรทุกผู้โดยสารไปวิ่งเร็วเท่านั้น 1 ขบวนจะมีตู้โดยสาร 16 ตู้ แต่ความกว้างของตู้โดยสารยังไม่มาก 1 แถวยังมีที่นั่งได้ 2+2 เหมือน 000 Series รุ่นนี้ผลิตมาค่อนข้างยาวนาน จนถึงปี 2534 ก็เลิก ไปเริ่มผลิต 300 Series แทน จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 19:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาเช็คชื่อไว้ก่อนค่ะ ขอแว้บไปกินข้าวแล้วเดี๋ยวจะกลับมาอ่านต่อ^^ จากคุณ : yuki_shimi - [ วันออกพรรษา 19:09:00 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนนี้ 100 Series เหลือวิ่งเป็นขบวนหวานเย็น Kodama เฉพาะเส้นทาง Sanyo Shinkansen โดยตัดเหลือ 6 ตู้ ที่เหลืออีกนิดหน่อย เอาไปวิ่งเป็นรถ LEX (Limited Express) อยู่ที่ Hakata Minami line บนเกาะคิวชู บางคันก็กลายร่างเป็นของตั้งโชว์แล้ว รูปนี้เป็น 100 Series ที่เอามาปรับปรุงเป็นขบวน โคดามะ รู้สึกจะวิ่งอยู่แถว ฮิโรชิม่า ถ้าใครเที่ยวอยู่ทางแถบคันไซ หรือ จูโหงะคุ (Chugoku) แล้วเลือกนั่งขบวนโคดามะ อาจไปจ๊ะเอ๋กับ 100 Series รุ่นปัดฝุ่น กันบ้างก็ได้ แล้วอย่าลืมถ่ายรูปมาฝากผมด้วยนะ จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 19:10:03 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีครับคุณยูกิ ไม่ต้องรีบครับ กระทู้นี้ยังอีกยาว.... เผลอ ๆ อาจมีภาค 2 รักหัวปักหัวปำก็งี้แหละครับ ============================= 200 Series หายไปไหน!!! คือขอข้าม 200 Series ไปก่อนนะครับ เพราะรุ่นนี้ผลิตขึ้นมาพร้อม ๆ กับ 100 Series แต่ใช้วิ่งขึ้นเขาฝ่าหิมะ ในเส้นทาง Tohoku กับ Joetsu Shinkansen ซึ่งรถจะมีคุณสมบัติที่ อึด ทน และแรง มากกว่ารุ่นปกติ แต่ตอนนี้อยากเล่าให้จบทีละเส้นทาง จะได้ไม่งง ก่อนจะเล่าถึง 300 Series ขอปูพื้น เล่าเหตุการณ์สำคัญอย่างนึงก่อน จะได้ไม่มึนเวลาพูดถึง ตัวย่อ JNR , JR East หรือ JR West อย่างที่บอกไปแล้ว รถไฟญี่ปุ่นตอนแรกเป็นรัฐวิสาหกิจ ชื่อว่า Japan National Railways หรือ JNR ต่อมารถไฟชักเยอะ ระบบชักซับซ้อน แถมรถไฟเอกชนเจ้าอื่นๆ ก็พัฒนาไล่บี้มาติด ๆ ทางรัฐบาลเลยให้แปรรูปเป็นเอกชนซ่ะ เพื่อความคล่องตัวและรวดเร็วในการบริหารและพัฒนาการเดินรถ เดือนเมษายน ปี 2530 JNR เลยถูกแปรรูปเป็นเอกชน ตั้งเป็น JR Group มี 9 บริษัทย่อย คือ 1. Hokkaido Railway Company หรือ JR Hokkaido (สีเขียวอ่อน) รับผิดชอบเขตเกาะฮอคไคโดทั้งหมด สำนักงานอยู่ที่ ซัปโปโร่ 2. East Japan Railway Company หรือ JR East (สีเขียวแก่) รับผิดชอบงตอนบนของเกาะฮอนชู สำนักงานอยู่ที่โตเกียว 3. Central Japan Railway Company หรือ JR Central (สีส้ม) รับผิดชอบเขตภาคกลาง (Chubu) ของเกาะฮอนชู อยู่ที่นาโงย่า 4. West Japan Railway Company หรือ JR West (สีน้ำเงิน) รับผิดชอบตอนล่างของเกาะฮอนชูทั้งหมด สำนักงานอยู่ที่โอซาก้า 5. Shikoku Railway Company หรือ JR Shikoku (สีฟ้า) รับผิดชอบเขตเกาะชิโคะคุทั้งหมด สำนักงานไม่แน่ใจว่าอยู่ที่ไหน เพราะ website เป็นภาษาญี่ปุ่น อ่านม่ะออก 6. Kyushu Railway Company หรือ JR Kyushu (สีแดง) รับผิดชอบเขตเกาะคิวชูทั้งหมด สำนักงานอยู่ที่ฟุคุโอคะ 7. Railway Technical Research Institute หรือ RTRI รับผิดชอบการวิจัยและพัฒนารถไฟทุกประเภทของ JR 8. JR Freight Railway Company หรือ JR Freight ดูแลรถ และการขนส่งสินค้าทางรางทั้งหมดทั่วประเทศ 9. Railway Information Systems Company ดูแลระบบข้อมูลการจองตั๋วรถ และการเดินรถทั้งหมดทั่วประเทศ พอแบ่งเป็นบริษัทย่อย ๆ ก็ต้องมีการแบ่งสมบัติกัน Tokai Shinkansen ให้ JR Central ดูแล ส่วน Sanyo Shinkansen ก็ให้ JR West ดูแล จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 19:16:34 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เครียดกันรึเปล่า?? หยุดพัก เอารูปมากิจังไปดูแก้เครียดซักรูปนะ (รึอาจจะเครียดกว่าเก่า!) จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 19:19:19 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พอ JNR แปลรูปเป็นเอกชนแล้ว การพัฒนาชินคันเซนก็เริ่มว่องและถี่ราวกับโด๊ปยา ปี 2532 JR Central กับ JR West ก็ร่วมกันพัฒนาและสร้าง 300 Series ออกมาให้บริการ ในสาย โทะไคโด และ ซันโย เปิดตัวเมื่อ 8 มีนา 2533 ประกาศตัวอย่างกึกก้องว่า นี่คือ Super Hikari (ตอนนั้น Nozomi ยังไม่เกิด) ความเร็วสูงสุดตอนทดสอบ ทำไปได้ถึง 300 กม./ชม. เท่าชื่อรุ่น แต่วิ่งจริงสูงสุดไม่เกิน 270 กม./ชม. เฉลี่ยอยู่ที่ 225 กม./ชม. เร็วพอที่จะทำให้วิ่งจากโตเกียวถึงโอซาก้าได้ในเวลา 3 ชั่วโมงนิด ๆ จากรุ่นแรก ๆ ที่ต้องนั่งกันก้นด้านถึง 4 ชั่วโมง หน้าตาดูหล่อและทันสมัย หน้าสั้นกระทัดรัดรูป ไม่ยาวยื่นจนคนขับชะโงกมองไม่เห็นหน้ารถ ดูไปคล้ายหน้านินจาใส่ชุดสีขาวคาดหน้ากากสีเทาเหมือนกันเนอะ 1 ขบวนแบบมาตรฐาน จะมี 16 ตู้ ยกเว้นจะเอาไปดัดแปลงตัดต่อให้สั้นลงเพื่อวิ่งระยะใกล้ มอเตอร์แรงขึ้น ตัวรถเบาขึ้น เพราะเปลี่ยนตัวถังจากเหล็ก เป็น อลูมินัมอัลลอยด์ พร้อมระบบช่วงล่างสมัยใหม่ และเบรค ที่นิ่มและสนิทกว่าเดิมหลายขุม เห็นเค้าบอกว่าเป็น AC Regenerative Break System อยากรู้ก็ลองไปหาข้อมูลอ่านกันเพิ่มกันเองเน้อ ผมเป็นวิศวะเครื่องแกงไม่ใช่เครื่องกล จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 19:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตัวรถที่กว้างขึ้น เลยสามารถจัดที่นั่งในชั้นปกติเป็น 5 ตัวต่อแถว แบบ 2+3 ได้โดยไม่อึดอัด มีระยะห่างระหว่างเบาะเหลือเฟือสำหรับคนขายาว ที่ 1.04 เมตร ระยะห่างระหว่างเบาะขนาดนี้ ขนาดฝรั่งตัวโต ๆ สูงเกิน 175 เซ็นแถมลงพุงด้วย ยังนั่งสบาย แถมเอนเบาะแล้วไม่รบกวนคนข้างหลังด้วย ใครเคยนั่งรถตู้ร่วมบริการในเขต กทม. จะรู้ซึ้งถึงรสชาดของการกลัวที่แคบ ๆ ได้ดี หมายเหตุ: รูปนี้เป็นห้องโดยสารของ 700 Series นะ เอามาให้ดูระยะห่างระหว่างเบาะเฉย ๆ ของ 300 Series เบาจะเป็นสีม่วง และผ้าหุ้มเบาะเนื้อจะดูเป็นกำมะหยี่มากกว่านี้ ขออภัยที่ไม่ได้เก็บรูปมาให้ดู จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 19:28:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เดือนมีนา 2535 JR Central กับ JR West ก็ประกาศชื่อขบวนรถใหม่ แทน Super Hikari ที่ฟังแล้วดูไม่เป็นญี่ปุ่นเท่าไหร่ Nozomi (แปลว่า ความหวัง) เกิดมาตั้งแต่ตอนนั้นครับ Nozomi เป็นชื่อขบวนรถซุปเปอร์ด่วน ที่จะวิ่งรวดเดียวจาก โตเกียว ไปถึง ฟุคุโอคะ ควบสองเส้นทางจาก โทะไคโด ถึง ซันโย ไม่ต้องแวะเปลี่ยนรถที่โอซาก้าอีก (เฉพาะช่วงเวลาเร่วด่วนอาจมีขบวนเสริมวิ่งระยะสั้น) ส่วน ฮิคาริ กับ โคดามะ ยังคงแบ่งวิ่งช่วงใครช่วงมัน Tokaido / Sanyo ไม่ปนกัน (แต่อาจมีแถมนิดหน่อย) มาจนถึงเดี๋ยวนี้ ดังนั้นถ้าใครใช้ JR Rail Pass แล้วจะนั่งชินคันเซนจากโตเกียว ไป ฟุคุโอคะ ต้องแวะเปลี่ยนรถที่ สถานีชินโอซาก้าก่อนนะจ๊ะ เพราะ JR Rail Pass ใช้นั่งรถ โนโซมิ ม่ะได้ รถที่ทันสมัยต้องวิ่งในระดับที่ดีที่สุด 300 Series ยุคแรกทั้งหมด เลยเอามาวิ่งเป็น Nozomi แต่รุ่นนี้หยุดผลิตไปแล้วเมื่อปี 2541 ตอนนี้เลยถูกลดชั้นลงมาวิ่งเป็น Kodama กับ Hikari จนเกือบหมดแล้ว เหลือวิ่งเป็น Nozomi เฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนที่รถไม่พอเท่านั้น ชินคันเซ็น 1 คัน เพื่อความปลอดภัย เค้าจะใช้งานแค่ประมาณ 15-20 ปี เท่านั้น เลยต้องมีการผลิตรุ่นใหม่ออกมาเรื่อย ๆ จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 19:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อแยกเป็นบริษัทย่อย แต่ละบริษัทก็อยากจะสร้างผลงานเป็นของตัวเอง JR West เลยไปซุ่มผลิต 500 Series ขึ้นมาเมื่อปี 2538 กะจะเอามาใช้เป็นรถ Nozomi ประจำสายซันโย หน้าตาล้ำสมัยสุดสุด เหมือนไม่ไช่รถไฟ เหมือนหนอนอวกาศ ไม่ได้สวยแต่รูป แต่ปราดเปรียวเซี้ยวสุดขีดที่ความเร็วสุงสุดตอนทดสอบร่วม 320 กม./ชม. เอามาวิ่งจริง ถ้าเป็นสายโทะไคโด รางมันเก่า จะวิ่งได้แค่ไม่เกิน 270 กม./ชม. แต่พอเอาไปวิ่งบนสายซันโย รางสร้างทีหลัง ระหว่างฮิโรชิม่า กับ ฟุคุโอคะ พุ่งไปได้ถึง 300 กม./ชม. แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ลดเวลาวิ่งจากโตเกียว ถึง ฮาคาตะ (ฟุคุโอคะ) จาก 5.40 ชั่วโมง ที่เคยทำได้โดย 300 Series ลงเหลือแค่ 4.49 ชั่วโมงกับเจ้าหนอนอวกาศตัวนี้ เป็นความเร็วสูงที่สุดของชินคันเซน ที่ให้บริการเชิงพาณิชย์อยู่ในญี่ปุ่นตอนนี้ ความที่จมูกมันยาว เลยทำให้ความยาวของรถตู้แรก งอกออกมาเป็น 27 เมตร ยาวกว่าชินคันเซนรุ่นอื่น ที่โดยเฉลี่ยวจะยาวแค่ 25 เมตร พนักงานขับรถรุ่นนี้เลยต้องไปฝึกจอดรถกันใหม่หมด! จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 19:35:34 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มารอนั่ง N700 จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ วันออกพรรษา 19:37:49 ]

ความคิดเห็นที่ 18 500 Series อาจจะหานั่งยากซักหน่อย เพราะผลิตออกมาแค่ 9 ขบวน (ขบวนละ 16 ตู้) เนื่องจากต้นทุนการสร้างแพงนรกมาก ขบวนละ 5 พันล้านเยน!!! คิดเป็นเงินไทยก็จิ๊บ... คร่อก ที่ หนึ่งพันหกร้อยกว่าล้านบาท++++ (อ้าก!) ด้วยเพราะมันเป็นรถทันสมัย และ สมรรถนะสูงส่งเกินยุคมาก เดินสายการผลิตแค่ 4 ปี ก็เลยเลิกเมื่อ พ.ศ. 2541 พร้อมกับการเลิกผลิต 300 Series มาทีหลัง แต่ม้วยไปพร้อมกัน สงสัยคนออกแบบจะไม่ได้ดูฮวงจุ้ยก่อนทำ ถ้าใครโชดดี มีโอกาสไปนั่งชินคันเซนสายซันโย ในช่วงปีนี้เป็นต้นไป อาจได้นั่ง 500 Series เพราะมีการลดชั้น 500 Sereis ลงจากการเป็น โนโซมิ เหลือแค่โคดามะ โดยตัดตู้ออกจาก 16 ตู้ เหลือครึ่งเดียวที่ 8 ตู้ เป็นหนอนน้อยที่คอยรับส่งผู้คน ระหว่าง ชินโอซาก้า กับ ฮาคาตะ (ฟุคุโอคะ) จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 19:39:13 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีวันออกพรรษาครับพี่ลาบราดอร์ ได้ดู N700 จุใจแน่ครับ แต่รอแป๊ปนึงนะ ให้ 500 กับ 700 Series ไปก่อนนะคร๊าบ.... =========================== ชินคันเซนทุกรุ่นที่เริ่มผลิตตั้งแต่ปี 2533 เป็นต้นมา จะมีการทำ Logo หรือ ตราสัญลักษณ์ประจำรถแต่ละรุ่น ติดไว้ที่ด้านข้าง ให้ใหญ่โตเห็นเด่นชัด เป็นอิมเมจประจำรุ่นเอาไว้ทำการตลาดว่างั้น เรื่องใช้สัญลักษณ์ หรือ ตัวมาสคอต ญี่ปุ่นเค้าถนัดนัก ของ 500 Series เป็นยุคแรกที่เริ่มคิดทำโลโก้ข้างรถ คนออกแบบเลยยังเกร็งๆ อยู่ จะทำให้เฟี้ยวๆ แนวๆ ชะโจ กับ ชิโจ คงจะเบิดกระโหลกเอา (ญี่ปุ่นเวลาลูกน้องทำงานไม่ถูกใจ เอาจะตบหัวกันเลยนะ) เลยออกมาเรียบ ๆ แข็ง ๆ ไม่มีลูกเล่นอะไรมาก ช่างขัดกับภาพลักษณ์อันทันสมัยของตัวรถเหลือเกิน! จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 19:45:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จากความแพงโค-รตของ 500 Series ทำให้ JR West ต้องหันกลับมาจับมือกับ JR Central อีกครั้ง ไปพัฒนาชินคันเซ็นรุ่นต่อไป เอาไว้ใช้เป็นขบวนโนโซมิแทน 300 Series ได้ออกมาเป็น 700 Series เปิดสายการผลิตในปี 2540 ต้นทุนถูกกว่า 500 Series อยู่ที่ 4 พันล้านเยน เท่านั้น..... !!! โทรสั่งตอนนี้แถม 000 Series ให้ทำแปลงสะระแหน่ด้วย 700 Series สมรรถนะ จะต่ำกว่า 500 Series ความเร็วจะพอ ๆ กับ 300 Series แต่ปรับปรุงเรื่องความนุ่มนวลในการขับขี่ และการยึดเกาะรางเวลาเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ทำให้นั่งแล้วนุ่มเหมือนขี่เมฆสีทองของโงกุนนั่นเชียว ระบบเก็บเสียงในห้องโดยสารทำได้ดีถึงดีมาก เงียบกริบ ไม่มีเสียงลมข้างนอกเล็ดลอดเข้ามาได้ เหลือแต่เสียงลมจากโรงสีของคนในรถ หน้ารถจะออกแบบให้ยื่นออกเหมือน 500 Series แต่ตีโป่งให้ป้อม ๆ บาน ๆ ดูยังไงก็เหมือนเป็ด ผมเลยเรียก เจ้าหัวเป็ด จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 19:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 21 Just a short note to say Hi. And, once again, thanks soooo much for the book naka... Have a good one! จากคุณ : Reema - [ วันออกพรรษา 19:50:45 A:217.162.5.125 X: TicketID:185608 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีครับพี่รี ไม่เป็นไรมิได้ เรื่องเล็กน้อย หนุ่มอารมณ์ดี ยินดีให้บริการทุกท่านอย่างเสมอภาคไม่เกี่ยงอายุ เพศ และวัยอยู่แล้วครับ แต่อาจจะมีลำเอียงลัดคิวให้สาว ๆ นิดหน่อยนะ... อิอิ ======================== ใครมีโอกาสนั่งชินคันเซนสายโทะไคโดตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป จะมีโอกาสได้สัมผัสกับ 700 Series ค่อนข้างแน่นอน เพราะผลิตออกมาแล้วมากถึง 91 ขบวน ก่อนนี้จะใช้เฉพาะขบวน โนโซมิ แต่ตอนนี้ถูกทยอยปรับชั้นลงมาเป็นฮิคาริเกือบหมดแล้ว เพราะมีรุ่นใหม่กว่าออกมาวิ่งเป็น โนโซมิ แทนเมื่อ 3 ปีก่อนนี่เอง 700 Series เลยพึ่งหยุดผลิตไปเมื่อปี 2548 นี่เอง ต่อไป ฮิคาริ ทั้งหมด ก็จะใช้ 700 Series ส่วน โคดามะ ก็จะใช้ 300 Series ตกทอดกันไปเรื่อย ๆ ส่วนรุ่นใหม่ N700 Series ที่จะมาใช้เป็น โนโซมิ แทน เด๋วจะเล่าใหัฟัง อดใจรอซักนิดนะพี่ลาบราดอร์ฯ แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 51 19:59:45 จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 19:56:46 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ดีค่า คุณหนุ่ม!!!!! ก็ว่าทำไมหายไปนาน ซุ่มเก็บตัวเพื่อกระทู้นี้นี่เอง 555 จากคุณ : ชิงหมูเกิด - [ วันออกพรรษา 20:00:08 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาเชียร์คุณหนุ่มตามเคย..พร้อมกับแอบดูคนรักรถไฟเค้าคุยกัน อิอิ ..  คุณหนุ่ม สู้สู้ ! จากคุณ : teishiran - [ วันออกพรรษา 20:04:31 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พาไปเยี่ยมชมห้องคนขับชินคันเซนซ่ะหน่อย ไม่เหมือนห้องขับรถไฟเลย เหมือนห้องบังคับหุ่นกันดั้มมากว่า ขอบอกว่า พนักงานขับรถไฟญี่ปุ่น ทำงานด้วยวินัยสูงสุด ตามขั้นตอนเปรี๊ยะ ราวกับเป็นหุ่นยนต์ เคยไปยืนดูพนักงานขับรถไฟสายฮิดะ แล้วถึงกับทึ่ง และ อึ้ง นั่งตัวตรง ตั้งใจจับคันบังคับ ไม่เล่น ไม่เหม่อ ทุกขั้นตอนการทำงานจะมีการบันทึก และรายงานทางวิทยุถึงศูนย์ควบคุมรถตลอด การประกาศ หรือ ทำอะไรเพิ่มทุกครั้ง จะมีคู่มือเป็นแฟ้ม ให้พนักงานเลือกใช้เป็นเพทเทิร์นทุกอย่าง ทุกสถานการณ์ พร้อมตลอด ถึงว่า... ตั้งแต่เปิดดำเนินการมา ชินคันเซนเคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงแค่ครั้งเดียว (มีเด็กนักเรียนตกลงไปในชานชลาที่สถาีนี Mishima) และ แทบไม่เคยมาช้า เคยมีบันทึกไว้ว่า ชินคันเซนสายโทะไคโด เมื่อปี 2546 มีค่าเฉลี่ยการเข้าสถานีเกินเวลา หรือ มาสาย แค่ 12 วินาทีต่อขบวน แม่เจ้า!!!! พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ ย่อมมาพร้อมความรับผิดชอบอันมหาศาลเสมอ สู้ต่อไป! คนขับรถไฟ(ญี่ปุ่น) จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 20:08:10 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ทานข้าวยังคะ..คุณหนุ่ม.. ป้าเอาชามข้าวมานั่งทานเป็นเพื่อนแล้วค่ะ จากคุณ : patim - [ วันออกพรรษา 20:20:17 A:203.153.173.24 X: TicketID:187612 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สวัสดีคุณปู... หายไปเพราะงานหลวงเยอะครับ ตั้งแต่พิษแฮมเบอร์เกอร์บูดเริ่มเล่นงาน ต้องทำการล้างท้องกันตลอดเลย ต้องช่วยบริษัทฯ รีดหุ่นลดไขมันกันยกใหญ่ สวัสดีเททสึโกะสาวนามว่าชิรัน... คุยพร้อมกัน 3 คนก็ได้ครับ อ่อ ขอแปะลิ๊งตอนก่อน ๆ ของชุดคนรักรถไฟญี่ปุ่นหน่อยนึง มีคนทวงมา ตอนที่ 1: รถไฟ จากนาริตะเข้าโตเกียว (แถม Limousine Bus) http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7027040/E7027040.html ตอนที่ 2: รถไฟ JR (ในเขตเมืองโตเกียว) กับ Tokyo Metro Subway http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7049329/E7049329.html ตอนที่ 3 : Toei Suway กับ สารพัดสายที่วิ่งริมทะเลฝั่งใต้ของโตเกียว http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7052803/E7052803.html ตอนที่ 4 : ตั๋วรถไฟ เอาใจไม่ยากหรอก http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7073951/E7073951.html ============================== โลโก้ของ 700 Series เริ่มมีสีสันและลูกเล่นแล้ว แต่ Hard Sales เหลือเกิน ให้อารมณ์แล้วเหมือนดูโฆษณาโทนาฟเลย ตึก.. ตึก... ตึกกะหลึก.... ไฟไหม้ น้ำร้อนลวง แผลผุพอง มีหนอง ใช้โทนาฟ.... ฟฟฟฟฟฟ จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 20:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีขอรับป้าติ๋ม..... ช่วงนี้ลดความอ้วนครับ งดข้าวเย็น พึ่งไปตรวจร่างกายประจำปีมา โดนหมอบ่นใหญ่เลยว่า น้ำหนักคุณเกินกว่ามาตรฐานไป 10 โลเร้ว!!!! ซดน้ำปาณะเอา.... โฮกกกกกกกก ==================== ถึงแม้ว่า 700 Series จะเป็นความร่วมมือกันระหว่าง JR West กับ JR Central แต่ภาพที่ออกมาก็ยังดูเหมือนเป็นรถของ JR Central อยู่ดี ทาง JR West ยังไม่หายซ่าส์จากกรณี 500 Series รุ่นแพงโค-รตเศรษฐี และด้วยความที่รถชั้นฮิคาริ ที่ใช้วิ่งสายซันโย ซึ่งใช้ 100 กับ 300 Series มีไม่พอใช้ ก็เลยไปสั่งทำ 700 Series รุ่นดัดแปลงมาใช้ เพื่อไม่ให้ล่มจม เลยสั่งทำแค่ 8-12 ตู้ต่อขบวน จากปกติชินคันเซนจะมี 16 ตู้ต่อขบวน ทาสีดำที่รอบกระจกหน้า เหมือนเป็ดหัวดำปากขาว ตัวรถเป็นสีออกเทาๆ ไม่ขาวมุกเหมือนกับ 700 Series รุ่นปกติ ด้านข้างทาสีดำคาดเหลือง แล้วตกแต่งภายในใหม่ ตั้งชื่อว่า Hikari Rail Star จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 20:28:06 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มีโลโก้คำว่า Rail Star พร้อมดาวหางสีเหลือง คาดอยู่ข้างตัวรถ อันนี้ผมชอบแฮะ ค่อยดูเข้าทีมีสไตล์หน่อย จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 20:34:42 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ก่อนพาไปชมชินคันเซนรุ่นใหม่ล่าสุด พักชมมากิจังกันซักครู่ กระทู้นี้มีแต่เหล็กวิ่งได้ เด๋วมันจะห้าวเกินไป.... ปลายฝนต้นหนาวแล้ว รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับทุกคน จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 20:37:19 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ชินคันเซนตัวใหม่ล่าสุดของสาย โทะไคโด และ ซันโยชินคันเซน มาแว๊วววววววว ด้วยความร่วมมือจาก JR Central และ JR West เหมือนเดิม แยกกันพัฒนาเดี๋ยวจะพากันเจ๊งอีก เริ่มเปิดสายการผลิตเมื่อ พ.ศ. 2548 ณ วันหนึ่ง เอ๊ย! ณ ตอนนี้ผลิตรถและส่งมอบไปได้แล้วประมาณ 40 กว่าขบวน จากยอดสั่งจองทั้งหมด 97 ขบวนที่จะต้องส่งมอบให้เสร็จภายในปี 2554 JR Central กับ JR West มีแผนกะเอาไปใช้เป็นขบวนโนโซมิ วิ่งระหว่าง โตเกียว กับ ฟุคุโอคะ แทน 700 Series ทั้งหมด ให้ได้ภายในปี 2552 เป็นต้นไป ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนไปแล้วประมาณ 40% ผลิตและคิดออกมาได้เร็ว เพราะรุ่นนี้พัฒนาต่อยอดจาก 700 Series เลยได้ชื่อว่า New หรือ N700 Series ความเร็วสูงสุดเท่ากับ 500 Series แต่ปรับปรุงระบบการควบคุม ช่วงล่างและกำลังมอเตอร์ใหม่หมด ตัวรถจะสวย เริ่ด เชิดหน้าขึ้นอีก 1 องศา เพื่อให้รับกับระบบซับแรงสั่นสะเทือนแบบถุงลม สามารถเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงได้แบบชิวชิว.. ระบบการควบคุมรถมีความแม่นยำมากขึ้น จนสามารถลดเวลาวิ่งจาก โตเกียว ถึง ฟุคุโอคะ ได้อีก 13 นาทีจาก 700 Series รุ่นเดิม ทำเวลาได้เท่ากับ 500 Series รุ่นสุดแพงที่เลิกผลิตไปแล้ว วิ่งจาก โตเกียว ถึง โอซาก้า ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมง 25 นาที! หน้าตาก็ยังเป็นพี่น้องตระกูลเป็ดอยู่ดี... จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 20:43:37 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ดูด้านข้างจะคล้ายกับ 700 Series มั่กๆ จนหลายคนสับสน (ผมก็ด้วย) จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 20:44:57 ]

ความคิดเห็นที่ 33 พอมองเห็นโลโก้ข้างตัวรถ แล้วถึงจะรู้ว่าไม่ใช่ 700 Series รุ่นเก่า รุ่นนี้ออกแบบได้เข้าทีดีแล้ว เส้นสายทันสมัยตามตัวรถ แถมมีลูกเล่น เอารูปรถไฟเข้าไปวิ่งในตัวอักษร N700 ด้วย จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 20:47:13 ]

ความคิดเห็นที่ 34 วิธีสังเกตง่ายๆ ว่าคันไหนเป็น 700 หรือ N700 ให้ดูจาก 1. ไฟหน้า 700 Series ไฟหน้าจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมอยู่ใต้กระจกหน้า ตรงกลางตัวรถ ส่วน N700 จะย้อนยุค กลับไปใช้ไฟรูปวงกลม ติดอยู่ที่ปลายปากเป็ด ที่หัวขบวนรถ 2. กระจกห้องคนขับ ของ 700 แนวกระจกจะยาวแต่แคบกว่า N700 3. หน้ารถ 700 จะกลมป่องเป็นเป็ดการ์ตูน ส่วน N700 จะเหลาให้ตรงแก้มเว้าเหมือนหัวลูกศร ลดแรงเสียดทานอากาศ หน้าตาดูเป็นเป็ดนักบู๊มากขึ้น รุ่นนี้คนที่ใช้ JR Rail Pass คงจะไม่มีโอกาสได้ลองนั่งกันง่าย ๆ เพราะกว่ารถจะเก่าจนเริ่มลดชั้นจาก โนโซมิ เป็น ฮิคาริ ได้ ก็อาจต้องร้องเพลงรอไปจนหลังปี 2554 นู่นแหละมั้ง จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 20:50:21 ]

ความคิดเห็นที่ 35 พักกันอีกแล้ว พิเศษให้หนุ่มเบียร์ พี่ลาบราดอร์ เจ๊ดรีม กับเด็กซีจีเอ็นโดยเฉพาะ กับน้ำมีฟองของคิริน รุ่น N700 Limited Edition ทำพิเศษฉลองเปิดตัว N700 หากินได้บนรถชินคันเซนเท่านั้นนะจ๊า..... คัมไป!!! เอิ๊ก+++++++ จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 20:54:04 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ท่านผู้โดยสารโปรดซาบ..... บบบบ ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นไป เที่ยววิ่งชินคันเซนโนโซมิ N700 จะเปลี่ยนเป็นเที่ยววิ่งปลอดบุหรี่.... หากผู้โดยสารท่านดาย รู้สึกหงุดหงิดหาวเรอคล้ายจะอยากยา โปรดใช้บริการห้องดูดควันได้ ที่ตู้หมายเลข 10 และ 15 และเพื่อสุขภาพที่ดีของคนรอบข้างและตัวท่านเอง โปรดดูดวันละไม่เกิน 2 ซอง มิฉะนั้นจะเปลืองเงิน.... นะค่ะ น้องจ๋าขอ.... จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 20:57:26 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ข้ามไปคิวชู เกาะใหญ่ทางใต้ของญี่ปุ่น ไปดู 800 Series กัน เป็นของ JR Kyushu เป็นชินคันเซนรุ่นแรก และรุ่นเดียวของเกาะ ในเส้นทาง Kyushu Shinkansen เริ่มผลิตเมื่อปี 2546 ออกมาแค่ 6 ขบวน (ขบวนละ 6 ตู้) แค่ 3 ปีก็หยุดผลิต เพราะพอกับการใช้งาน(ตอนนี้)แล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 20:59:09 ]

ความคิดเห็นที่ 38 Kyushu Shinkansen เป็นสายสั้น ๆ แค่ 137.6 กิโลเมตร จากสถานี Shin-Yatsushiro จังหวัด Kumamoto ถึง สถานี Kagoshima-Chuo จังหวัด Kagoshima เปิดเดินรถเมื่อเดือนมีนา ปี 2547 จริง ๆ แล้วเส้นทางนี้มีแผนจะต่อเชื่อมกับชินคันเซนสายซันโย จาก จังหวัดฟุคุโอคะ จนถึง จังหวัดคาโงชิม่า แต่ตอนนี้เปิดใช้งานแค่ช่วงเดียว จากเมืองยาสึชิโระ จังหวัดคุมาโมโต้ มาสุดทางที่ จังหวัดคาโงชิม่า (เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่อง หมูดำคุโรบูตะ ที่อร่อยขั้นเทพ) เส้นทางส่วนที่เหลือจาก สถานีฮาคาตะ มาที่ สถานีชินยาสึชิโระ กำลังก่อสร้างอยู่ คาดว่าจะเสร็จในปี 2554 หมายเหตุอารมณ์ดี: ใครไปเที่ยวคิวชู อย่าลืมแวะไปเที่ยว ปราสาทคุมาโมโต้ ( http://www.japan-guide.com/e/e4501.html ) ที่ได้รับยกย่องเป็น 1 ใน 3 สุดยอดปราสาทของญี่ปุ่น เทียบชั้นกับ ปราสาทนกกระสาขาว-ฮิเมจิ จังหวัดเฮียวหงะ กับปราสาทอีกาดำ-มัตซึโมโต้ จังหวัดหวัดนางาโน่ กันนะคร๊าบ... จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 21:02:03 ]

ความคิดเห็นที่ 39 800 Series มีชื่อขบวนว่า Tsubame ที่แปลว่า นกนางแอ่น แต่หน้าตาดูไปผมว่าคล้ายเป็ดมากกว่านกนางแอ่นนะ ไฟหน้าทำเป็นรูปวงรีแนวตั้ง เหมือนจมูกเป็ด หัวก็มน ๆ แบน ๆ เหมือนปากเป็ด คงเพราะพื้นฐานและเทคโนโลยีที่ใช้ในรถ 800 Series ถอดมาจาก 700 Series ปากเป็ด ที่ผลิตในช่วงเวลาใกล้ ๆ กัน ความเร็วสุงสุดที่ทดสอบไว้ ทำได้ถึง 285 กม./ชม. แต่วิ่งจริงแค่ 260 กม./ชม. ก็พอแล้ว ใช้เวลาวิ่งทั้งสายแค่ 35 นาทีเอง เร็วมากจะบินถลาตกทะเลเอา แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 51 09:24:05 จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 21:04:45 ]

ความคิดเห็นที่ 40 โลโก้ประจำขบวนซึบาเมะ มี 2 ส่วน ส่วนแรกทางซ้ายมือ เป็นตัวอักษรญี่ปุ่นสีดำตัวโต ที่ออกแบบ Font ได้เก๋มั่ก ๆ ชอบ... ส่วนที่สองทางขวามือ เป็นโลโก้รูปวงกลม มีนกนางแอ่น 2 ตัวบินวนรอบคำว่าซึบาเมะ ขาวหมวย เอ๊ย! ขาวสะอาด เรียบง่าย แต่ดูดีมีสกุลที่ซู๊ด... จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 21:06:02 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ยิ่งเข้าไปดูการตกแต่งภายในห้องโดยสาร ก็แทบจะอยากกรีดร้อง.... โอ้ว! อกคุณหญิงกีรติจะแตก มันช่าง OTOP ซ่ะนี่กระไร เห็นแล้วอยากลงนั่งคุกเข่าจิบชาเชียวแกล้มโมจิไปด้วยจังเลย เป็นเบาะผ้าขนาดใหญ่ แบบ 2+2 ที่นั่งต่อแถว กว้างและนุ่มเหลือเฟือ ไม่ว่าคุณจะเพรียวบางร่างเล็ก หรือ Big Buttock แค่ไหน ก็นั่งได้สบายตรู๊ด จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 21:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มาดูคนบ้า.....รถไฟ(ญี่ปุ่น) อ๊ะ!!!ล้อเล่น ชอบขาวหมวยแบบ^-^ข้างบน นี้จังค่ะ จากคุณ : pinkyrose - [ วันออกพรรษา 21:10:14 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ระหว่างที่เส้นทางชินคันเซ็น จาก สถานีฮาคาตะ (ฟุคุโอคะ) กับ สถานีชินยาซึชิโระ ยังสร้างไม่เสร็จ JR Kyushu ได้จัดรถไฟ Limited Express ไว้คอยบริการรับส่งผู้โดยสาร เชื่อมระหว่างทั้ง 2 สถานีไปก่อน เรียกชื่อว่าขบวน Relay Tsubame ใช้เวลาวิ่งนานหน่อย ประมาณชั่วโมงครึ่ง เพราะเป็นรถไฟแบบปกติ ที่จะวิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ยไม่เกิน 140 กม./ชม. จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 21:11:18 ]

ความคิดเห็นที่ 44 โอ้วววว สีเบาะเหมือนอยู่ในดงซากุระก็ไม่ปาน...ถูกใจหญิงเล็กเป็นอย่างยิ่ง 555 เพิ่งรู้ว่าที่แท้ชาติก่อนคุณหนุ่มเป็นคุณหญิงกีรตินี่เอง 555 จากคุณ : ชิงหมูเกิด - [ วันออกพรรษา 21:13:04 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สวัสดีคุณแม่น้องพิงค์กี้..... แล้วดำดำแบบข้างล่างนี้ล่ะ ชอบมั้ยครับ??? =================== หน้าตา LEX Relay Tsubame ดุดันสะใจคนรักความบึกมาก ดำสนิททั้งคัน ให้มันล้อกับสีขาวมุกของ Tsubame ซ่ะงั้น ช่างขี้เล่นกันเหลือเกินนะ คนออกแบบรถไฟญี่ปุ่นเนี๊ยะ และสงสัยคนออกแบบถ้าจะเป็นแฟนพันธุ์แท้สตาร์วอร์ เพราะมองเผิน ๆ หน้ารถเหมือนกับหน้ากาก Darth Vader ( http://en.wikipedia.org/wiki/Darth_vader ) ไม่มีผิด แต่มาคิดดูอีกที หน้ากากของ Darth Vader เค้าได้แรงบันดาลใจมาจากหมวกของชุดเกาะนักรบซามูไรนี่หว่า..... ใครเลียนแบบใครกันแน่เนี๊ยะ.... หมายเหตุอารมณ์ดี: จอร์จ ลูคัส ผู้สร้าง Star War แกคงแอบหลงไหลความเป็นตะวันออกมากเหลือเกิน เพราะในไตรภาคที่ 1-3 แกสอดแทรกความเป็นเอเชียเข้าไปเต็มไปหมด ทั้งแบบเสื้อผ้า ของใช้ การตกแต่งฉาก จนแม้กระทั้งชื่อนางเอก (แพทเม่) ก็มาจากภาษาแขกว่า ปัทมะ (ดอกบัว) จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 21:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ วันออกพรรษา 21:24:32 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ไม่ได้เป็นคุณหญิงกีรติหรอกครับคุณปู เป็น (หมอ)นพพร ต่างหาก ชอบวลีนี้ของคุณหญิงจัง...... จะเป็นอะไรก็ตาม จงเป็นเสียอย่างหนึ่ง จะเป็นอะไรมิใช่ปัญหา สำคัญอยู่ที่ว่าจงเป็นอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ฟังตอนแรกต้องควักเซียงเพียวอิ๊วมาสูดซ่ะ 2 ปื๊ด... แก้โง่ แต่พอดูจบไป 3 เวอร์ชั่น ถึงจะเริ่ม get =============================== โลโก้ของ Relay Tsubame จะออกแนว Retro ดูมะกันยุคซิกตี้จ๋า.... แค่เรื่องการออกแบบโลโก้รถไฟ ก็ทำเอาผมบ้าได้เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว ใครก็ได้ ช่วยหยุดผมที!!! จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 21:26:42 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เกาะจอรอดูอยูค่า แควนใหม่ เอ๊ยแฟนเวปคนใหม่ฝากตั๋ว เอ๊ยฝากตัวด้วยค่า จากคุณ : หนูมาซอย3 - [ วันออกพรรษา 21:28:40 ]

ความคิดเห็นที่ 49  ... ขอบคุณครับ Mr.Fusion จากคุณ : Mr.FungSan (NumAromDee) - [ วันออกพรรษา 21:30:26 ]

ความคิดเห็นที่ 50 สวัสดีครับ หนูมาซอย3 ยินดีและขอบคุณมากมาย ซึ้งใจให้ 2 แป่ะเลยนะ..... รับได้ทุกตั๋วเลยครับ ยกเว้นตั๋วจำนำ มีเยอะแล้ว ========================== ข้างใน LEX Relay Tsubame ตกแต่งด้วยโทนสีม่วงดำ หน้าต่างกว้าง เบาะใหญ่ นั่งเหยียดแข้งเหยียดขาสบาย ระยะห่างระหว่างเบาะเหลือเฟือตามมาตรฐานญี่ปุ่นที่ 1 เมตร กะอีก 4 เซ็นฯ ใครไปคิวชู รีบเก็บภาพไว้นะ เพราะถ้าเส้นทางคิวชูชินคันเซ็น เชื่อมกับ ซันโย ชินคันเซ็น ในปี 2554 เมื่อไหร่ JR Kyushu เค้าจะยกเลิกเจ้าดำบึ้ก Relay Tsubame ทันที จากคุณ : ผมไป(รัชดา)ซอย4 (NumAromDee) - [ วันออกพรรษา 21:38:23 ]

ความคิดเห็นที่ 51 จบไปแล้ว 3 เส้นทาง ขอสรุปกันอีกที เพราะบางคนท่าทางจะตาลอยด้วยความงงกันไปใหญ่แล้ว เล่าไปแล้ว 3 สาย... 1. Tokaido Shinkansen จาก โตเกียว ไป (ชิน)โอซาก้า 2. Sanyo Shinkansen จาก (ชิน)โอซาก้า ไป ฟุคุโอคะ 3. Kyushu Shinkansen จาก ฟุคุโอคะ ไป คาโงชิม่า สายโทะไคโด (552 กม.) กับ ซันโย (623 กม.) มีรถอยู่ 3 ประเภท คือ Nozomi เร็วสุด จอดน้อยที่สุด เฉพาะสถานีสำคัญ วิ่งจาก โตเกียว รวดเดียวไม่ต้องต่อรถ ยาวถึง ฟุคุโอคะ ใช้ N700 Series กับ 700 Series ปนกัน (เป็นรถชินคันเซนชนิดเดียว ที่ใช้ JR Rail Pass ไม่ได้นะครับ) Hikari เร็วปานกลาง จอดบ้างตามสถานีที่สมควร แบ่งวิ่งเป็น 2 ส่วน        -ฮิคาริ ของ JR Central วิ่งจากโตเกียว ไป (ชิน)โอซาก้า         ใช้ 700 Series ปนกับ 300 Series อีกนิดหน่อย        -ฮิคาริ ของ JR West วิ่งจาก (ชิน)โอซาก้า ไป ฟุคุโอคะ         ใช้ 700 Series รุ่น Hikari Rail Star ปนกับ 500 Series Kodama รถหวานเย็น ช้าที่สุดในบรรดาชินคันเซนสายนี้ทั้งหมด เพราะจอดแวะทุกสถานี แบ่งวิ่งเป็น 2 ส่วนเหมือนฮิคาริ        -โคดามะ ของ JR Central วิ่งจากโตเกียว ไป (ชิน)โอซาก้า          ใช้ 300 Series        -โคดามะ ของ JR West วิ่งจาก (ชิน)โอซาก้า ไป ฟุคุโอคะ          ใช้ 500 Series รุ่นตัดเหลือ 8 ตู้ ปนกับ 100 Series รุ่นปัดฝุ่น ส่วนสายคิวชู (137 กม.) บนเกาะคิวชู ตอนนี้เปิดใช้แค่ช่วงสั้นร้อยกว่ากิโลเมตร มีรถประเภทเดียว คือ Tsubame เป็นรุ่น 800 Series แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 51 21:43:04 จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 21:42:12 ]

ความคิดเห็นที่ 52 หวัดดีดึกๆอะ น้องหนุ่ม ิิิแฮ่มๆ ....นึกว่ามาไม่ทันซะละวันนี้... เอ.. แล้วรถ(ไฟ)ด่วนขบวนนี้สุดท้ายยัง 55... จากคุณ : sister - [ วันออกพรรษา 21:46:04 A:172.17.41.0 X:61.19.199.147 TicketID:172531 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ไปต่อกันที่ชินคันเซนสายเหนือกันบ้าง สายนี้ซับซ้อนเยอะแยะที่สุด อยู่ในความดูแลของ JR East ขาใหญ่ของชินคันเซนญี่ปุ่นเค้า บริษัทเดียว บริหารชินคันเซน 5 สาย กับ ขบวนรถทั้งหมด 12 ชนิด แล้วยังออกแบบตัวรถชินคันเซนออกมาตั้ง 5 รุ่น ตั้งแต่ 200 Series , 400 Series Mini-Shinkansen , E1 Series Max , E2 Sereis , E3 Mini-Shinkansen และ E4 Series Max แถมยังมีรถทดสอบสุดไฮเทค ความเร็วสูงสุดถึง 400 กม./ชม. อย่างเจ้าเมวหูเหลือง Fastech 360Z ด้วย เดี๋ยวเราไปแงะดูทีละสายทีละรุ่นกัน ปล. จากรูปจากซ้ายไปขวา E3 Series , 400 Series , 200 Series โฉมเก่า , 200 Series โฉมขัดใหม่ , E2 Series , E4 Series Max และสุดท้าย E1 Series Max โฉมเก่าก่อนเปลี่ยนสี แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 51 22:40:25 จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 21:46:10 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ไม่ต้องห่วง เลยอีกหลายขบวนวิ่งตลอดคืนนะพี่แอน...... ===================== JR East รับผิดชอบการเดินรถชินคันเซน 5 สาย สายแรก Tohoku (โทโฮะคุ) Shinkansen วิ่งจาก โตเกียว ไป ฮาชิโนเฮะ (632 กม.) มีรถอยู่ 3 แบบ   -Hayate (ฮายาเทะ) วิ่งตรงยาวจากโตเกียว ไปถึง ฮาชิโนเฮะ   -Yamabiko วิ่งจากโตเกียว ไปถึง เซนได หรือ โมริโอคะ     แยกย่อยเป็น รถชั้นเดียว ชื่อ ยามะบิโกะ กับ รถ 2 ชั้น ชื่อ Max Yamabiko   -Nasuno วิ่งจากโตเกียว ไปแค่ไม่เกินสถานี Koriyama ก่อนถึงเมือง Fukushima    แยกย่อยเป็น รถชั้นเดียว ชื่อ นาซุโนะ กับ รถ 2 ชั้น ชื่อ Max Nasuno สายที่สอง Joetsu (โจเอะซึ) Shinkansen วิ่งจาก โตเกียว ไป นิอิงาตะ (334 กม.) มีรถอยู่ 2 แบบ   -Toki วิ่งจากโตเกียว ไป นิอิงาตะ     แยกย่อยเป็น รถชั้นเดียว ชื่อ โทคิ กับ รถ 2 ชั้น ชื่อ Max Toki   -Tanigawa วิ่งจากโตเกียว ไปสุดแค่เมืองตากอากาศเล่นสกี Yuzawa     แยกย่อยเป็น รถชั้นเดียว ชื่อ ทานิงาว่า กับ รถ 2 ชั้น ชื่อ Max Tanigawa สายที่สาม Hokuriku หรือ เรียกอีกชื่อว่า Nagano Shinkansen วิ่งจาก โตเกียว ไป นางาโน่ (222 กม.) มีรถประเภทเดียว ชื่อ Asama (อาซามะ) สายที่สี่ Yamagata Shinkansen วิ่งจาก โตเกียว ผ่าน ยามางาตะ สุดสายที่ Shinjo (421 กม.) มีรถวิ่งประเภทเดียว ชื่อ Tsubasa (สึบาสะ) สายที่ห้า Akita Shinkansen วิ่งจาก โตเกียว ไป อาคิตะ (662 กม.) มีรถวิ่งประเภทเดียวเหมือนกัน ชื่อ Komachi (โคมะฉิ) จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 21:49:21 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ไปแอบลักจำมาว่า...      -Tohoku แปลว่า ตะวันออกเฉียงเหนือ      -Yamabiko แปลว่า เสียงสะท้อนจากหุบเขา      -Nasuno มาจากชื่อของเทือกเขา Nasunohara จังหวัด Tochigi      -Toki เป็น ชื่อนกชนิดนึงของญี่ปุ่น เป็นพวกนก Ibis แปลเป็นไทยว่า นกช้อน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหน้าตาเป็นไง     -Tanigawa เป็นชื่อภูเขาที่ทอดยาวระหว่าจังหวัด Gunma กับ Niigata     -Asama เป็น ชื่อของภูเขาไฟ ใกล้กับเมือง Karuizawa จังหวัด Nagano ( http://en.wikipedia.org/wiki/Mount_Asama )     -Tsubasa แปลว่า ปีก (ได้ยินชื่อแล้วนึกถึง กัปตันสึบาสะจัง)     -Komachi แปลว่า สาวสวย ดีเลย! วันหลังเจอสาวญี่ปุ่นแถวสุขุมวิท จะได้บอกว่า You are so Komachi ..... to me อิอิ แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 51 21:54:36 จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 21:52:06 ]

ความคิดเห็นที่ 56 กลับไปดูชินคันเซนกันต่อ ยังค้างไม่ได้เล่า Series 200 กับ 400 สมัยที่ JR East ยังไม่เกิด การรถไฟญี่ปุ่น พัฒนา 000 Series กับ 100 Series ไว้สำหรับสายโทะไคโดและซันโย เป็นรุ่นที่เหมาะใช้วิ่งตามที่ราบ แต่เมื่อ JNR เปิดเส้นทางใหม่ ที่วิ่งผ่านหุบเขาสูงและอาจเจอหิมะตกหนักในหน้าหนาว อย่างสาย Tohoku และ Joetsu Shinkansen เมื่อปี 2525 รถไฟที่จะใช้วิ่งได้ ต้องสร้างให้อึดกว่าปกติ 200 Series จึงเกิดขึ้นมา สำหรับใช้งานหนัก ไต่เขา ลุยอากาศหนาวโดยเฉพาะ เริ่มเปิดสายการผลิตตั้งแต่ปี 2523 จนถึง 2529 ผลิตออกมาจำนวนพอ ๆ กับ 100 Series ที่ใช้วิ่งพื้นราบถึง 66 ขบวน แต่ขบวนนึงมีแค่ 12 ตู้ ไม่ใช่ 16 ตู้ เหมือนกับรุ่นปกติ เดี๋ยวไต่เขาไม่ไหว รุ่นแรก ๆ ก็เอาโครงสร้างและรูปแบบก็มาจาก 000 Series นั่นแหละ หน้าตาเลยคล้ายกันอย่างกับฝาแฝด แต่เปลี่ยนตัวถังจากเหล็ก เป็น อลูมินัม อัลลอย เพื่อให้ตัวเบาขึ้น เปลี่ยนมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังแรง ๆ ใส่เข้าไปแทนลูกเดิม เพิ่มฉนวนป้องกันอากาศหนาวและหิมะให้กับอุปกรณ์ที่ติดอยู่ใต้ท้องรถ และ อุปกรณ์ป้องกันหิมะตกใส่ช่องดูดอากาศที่หลังคารถ ภายนอกก็ทาสีเขียวคาดเอาไว้ ให้ดูต่างจาก 000 Series ที่ทาลายคาดเป็นสีน้ำเงิน ความเร็วสุงสุดทำได้ถึง 240 กม./ชม. แต่วิ่งจริง ต้องไต่เขาเป็นระยะ ๆ แค่ 200 เท่าชื่อรุ่น ก็หรูแล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 21:58:04 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ความแตกต่างที่เห็นได้ชัด ๆ ของชินคันเซนแบบปกติ กับแบบไต่เขา นอกจากสีที่ทาไม่เหมือนกันแล้ว เค้าให้สังเกตตรงชายขอบด้านล่างที่บริเวณหน้ารถครับ 000 Series จะเรียบ ๆ แต่ 200 Series จะดัดเหล็กจับจีบเป็นครีบรูปโค้ง เหมือนพานไถ เอาไว้กวาดหิมะบนรางรถไฟ จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 22:00:00 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เมื่อมีการผลิต 100 Series ออกมาแล้ว ก็เลยผลิต 200 Series รุ่นปรับปรุง โดยไม่เปลี่ยนชื่อรุ่นตามมาบ้าง ใช้โครงสร้างตาม 100 Series อีกนั่นแหละ ข้อแตกต่างให้สังเกตยังเหมือนเดิม คือ ตรงชายชอบหน้ารถ จะทำเป็นครีบพานไถ ไว้กวาดหิมะเหมือนกัน 200 Series ยุคแรก เลยมีหน้าตาหลากหลายมาก มีทั้งที่เป็นฝาแฝดของ 000 และ 100 Series ยังมีเหลือใช้มาถึงตอนนี้เลยนะ พี่ฟ้าแกเคยเจอ และเอารูปมาอวดไปแล้ว 1 คัน ผมเห็นเข้ายังตกใจเลย ว่ามันยังไม่เก็บเข้าพิพิธภัณฑ์กันอีกเหรอ??? รบกวนพี่ฟ้าช่วยเอามาโพสลงอีกครั้งได้มั้ยครับจะได้เป็น Series เดียวกัน จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 22:02:43 ]

ความคิดเห็นที่ 59 คุณหนุ่มสุดยอดมากๆเลย ขยันจริงๆครับ ถ้ามีประกวดบุคคลดีเด่นแห่งห้องบลู ผมขออนุญาตส่งคุณหนุ่มเข้าประกวดนะครับ นับถือในความตั้งใจและความมีน้ำใจ จากคุณ : Coffee Blended - [ วันออกพรรษา 22:06:14 ]

ความคิดเห็นที่ 60 แม้ว่าสายการผลิต 200 Series จะหยุดลงไปเมื่อปี 2529 แต่ทาง JR East ก็ยังใช้มาเรื่อย ๆ จนเมื่อปี 2540 ทาง JR East เห็นว่าสภาพ 200 Series ดูจะเก่าเกินกระป๋องนมผุแล้ว เลยจับมาแต่งหน้าทาปากใหม่ ปรับตัวถัง เปลี่ยนอุปกรณ์บางตัว เปลี่ยนสี ไปเป็น 2 Tone ขาว-น้ำเงิน เหมือนกับขบวนรถสกุล E Series ตัวอื่นๆ ของ JR East แล้วเรียกว่า 200 Series รุ่นขัดใหม่ (Refurbishment) หรือ K Sets ตอนนี้ตามข้อมูลที่มี เห็นว่าใช้วิ่งในสายโทโฮะคุ ขบวนยามาบิโกะ และ นาซุโนะ กับสายโจเอะซึ ขบวนโทคิ และ ทานิงาว่า หน้าตาอ้วนกลมหน้ารักเหมือนโดราเอมอน แบบนี้... จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 22:06:23 ]

ความคิดเห็นที่ 61 สวัสดีคุณ Coffee Blended... ไ่ม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกครับ การได้คุยเรื่องรถไฟ ของกิน ศิลปะ(การแสดง) เป็นงานอดิเรกและความสุขสุดสุด... ของผมครับ ยิ่งถ้าทำแล้วใครใครเอาไปใ้ช้ต่อได้ ผมยิ่งชอบ ชาติก่อนคงเป็นพ่อครัวทำราเมงที่โตเกียวล่ะมั้ง... ปรุงอะไรให้คนกินมีความสุข แล้วตัวเองจะสุขไปด้วย =============================== ตัวนี้เป็น K Sets ที่ใช้งานอยู่ ณ บัดเดี๋ยวนี้ ลองนั่งมาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้เอง เค้าช่างรักษาสภาพให้ดูเหมือนใหม่ได้ตลอด 10 ปีได้ไงเนี้ยะ... ใครอยากนั่ง ต้องรีบหน่อยนะ JR East มีแผนจะปลดระวาง 200 Series ทุกรุ่น ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นขัดใหม่ทั้งหมดภายในในปี 2556 ใครไปญี่ปุ่น แล้วเจอตัวเป็น ๆ รีบถ่ายรูปไว้ก็ดี เพราะอีกไม่นานก็จะตามรุ่นพี่ซีรีย์ 000 เข้าพิพิธภัณฑ์กันหมดแล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 22:10:54 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ส่วน 400 Series เริ่มพัฒนาและผลิตเมื่อปี 2533 ตามแผนการของ JR East ที่กำลังสร้างรางรถไฟสาย Yamagata Shinkansen เป็นชินคันเซนสายรอง ที่แยกจาก Tohoku Shinkansen ตรงเมืองฟุคุชิม่า ผ่านยามางาตะ ไปสุดสายที่เมืองชินโจ รุ่นนี้เอามาใช้เป็นรถสายยามากาตะ ให้ชื่อขบวนรถว่า Tsubasa หน้าตาเหมือนหัวเครื่องบินขับไล่ไอพ่น ผลิตออกมาแค่ 12 ขบวน โดย 1 ขบวนมี 7 ตู้ ความเร็วสูงสุดทำได้ถึง 240 กม./ชม. บนพื้นราบ แต่วิ่งจริงบนเส้นทางไต่เขาพันโค้ง จากเมืองฟุคุชิม่า ถึง ยามางาตะ ได้แค่ไม่เกิน 130 กม./ชม. จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 22:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 63 400 Series มีชื่อเล่นอีกชื่อว่า Mini-Shinkansen เนื่องจากมีขนาดมิติตัวรถเท่ากับขบวนรถไฟญี่ปุ่นทั่วไปที่ช้ฐานล้อกว้าง 1.067 เมตร แต่ฐานล้อกว้าง 1.435 เมตร ตามมาตรฐานรางรถไฟชินคันเซ็น ดูเผิน ๆ เลยเป็นรถล้อใหญ่ ตัวเล็ก ที่ต้องทำรถให้ตัวเล็กเพราะทางรถไฟชินคันเซนสายนี้ ช่วงที่แยกออกจากเมืองฟุคุชิม่า ถึง ชินโจ ดัดแปลงขยายขนาดรางมาจากรางรถไฟปกติ (รู้สึกจะเป็นรางรถไฟสายโออุ) ซึ่งทำให้เสาไฟ สะพาน ชานชลา อุโมงค์ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ของรางรถไฟ ยังใช้ของรถไฟปกติ ไม่(มีงบจะ)เปลี่ยนแปลง ศัทพ์เทคนิคในวงการรถไฟเค้าเรียกว่า เขตบรรทุก (Loading Gauge) ในสายยามางาตะมันเล็ก ไม่พอให้ชินคันเซนขนาดปกติวิ่งเข้าไปได้ เลยต้องย่อขนาดตัวถังรถลงมาเท่าขนาดรถไฟปกติ หมายเหตุอารมณ์ดี: Loading Gauge ของ ชินคันเซน กว้าง 3.8 เมตร ของรถไฟญี่ปุ่นปกติรู้สึกจะกว้างแค่ประมาณ 3 เมตร รถไฟไทย กว้าง 2.92 เมตร รถไฟฟ้า BTS กว้าง 3.2 เมตร ส่วนรถไฟใต้ดิน จะกว้างน้อยกว่าแค่ 3.12 เมตร เพราะยิ่งกว้างยิ่งต้องเจาะอุโมงค์ขนาดใหญ่ ค่าก่อสร้างจะแพง จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 22:18:15 ]

ความคิดเห็นที่ 64 โลโก้ของ 400 Series รุ่นแรก เหลี่ยม ๆ แข็ง ๆ ชืด ๆ ตามแนวนิยมของหัวหน้าแผนกออกแบบในยุคนั้น จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 22:20:19 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ใครอยากเห็น อยากนั่ง 400 Series ตัวเป็น ๆ ต้องรีบแล้วนะ เพราะตั้งแต่ต้นปีหน้า 2552 เป็นต้นไป JR East จะทยอยปลดระวางรุ่นนี้เสียเร้ว... เพราะใช้มาครบอายุ 15 ปี และยังไม่เห็นมีแผนจะเอามา ปัดฝุ่น หรือ ขัดใหม่ เหมือนกับ 200 Series เสียด้วย รถ Tsubasa สายยามางาตะ ตอนนี้ เริ่มนำรุ่น E3 Series ออกมาใช้แทนแล้วตั้งแต่ปี 2550 และจะทยอยเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ภายในปีหน้า รุ่นใหม่สวยมั้ยครับ? รายละเอียดเดี๋ยวจะเล่าอีกทีนะ ตอนนี้ยังไม่ถึงคิวของ E3 Series จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 22:22:27 ]

ความคิดเห็นที่ 66 Yamagata Shinkansen ออกแบบโลโก้ประจำสายไว้ด้วย เป็นรูปปีก และ คำว่า Tsubasa สีเขียวเหลือง รองพื้นด้วย ดำ-เทา ติดอยู่ข้างตัวรถรุ่น E3 Series ที่เอามาใช้แทน 400 Series ชอบ++++ จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 22:23:45 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เพราะสายยามางาตะ เป็นเส้นทางย่อยที่แตกออกจากสายโทโฮคุ ต้นทางจากโตเกียวมีรางคู่เดียว แต่วิ่งกันหลายสาย เพื่อให้สามารถบริการเส้นทางได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รถไฟสายยามางาตะ เลยต้องเอาไปจุ๊บกับสายโทโฮคุ แล้วควงกันวิ่งออกจากโตเกียว ถึง ฟุคุชิม่า พอถึงสถานีฟุคุชิม่าแล้วค่อยแยกทางกัน ต่างคนต่างไปทางของตัวเอง แล้วเที่ยวกลับค่อยกลับมาจุ๊บกันที่เมืองเดิม รถ แม็กซ์ ยามาบิโกะทุกขบวน เลยถูกกำหนดให้ต้องพ่วงรถ สึบาสะ ติดไปด้วยกันทุกครั้ง เมื่อออกจากโตเกียว รูปนี้เป็น 400 Series ชื่อขบวน สึบาสะ จุ๊บกับ E4 Series ชื่อขบวน แม็กซ์ ยามาบิโกะ จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 22:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ใครไปสถานีโตเกียว ตรงชานชลาชินคันเซน สายโทโฮะคุ จะเห็นภาพแบบนี้เป็นเรื่องปกติ เบิ้ลให้ 2 คู่เลย คู่แรก ทางซ้ายมือ เป็น E3 Series ชื่อ โคมาฉิ (สายอาคิตะ) จุ๊บกันกับ E2 Series ชื่อ ฮายาเตะ (สายโทโฮะคุ) ส่วนคู่ที่สอง ทางขวามือ เป็น 400 Series สายยามางาตะ ชื่อ สึบาสะ จุ๊บกันกับ E4 Series สายโทโฮะคุ ชื่อ แม็คซ์ ยามาบิโกะ จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 22:29:32 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ได้เวลาไปดูตีสิบแล้ว..... พรุ่งนี้เย็นจะมาต่อนะ ยังเหลือรถตระกูล E ของ JR East อีก 4 รุ่น แล้วจะแถมรถทดสอบสุดจ๊าบ กับ รถแม่เหล็กไฟฟ้า ให้ด้วย ลากันไปด้วยรูปงานเปิดตัว N700 Series ที่สถานีโตเกียว ฝันดีราตรีสวัสครับ ทุกคน...... จากคุณ : NumAromDee - [ วันออกพรรษา 22:32:52 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ชะแว่บบบบบ แอบปาดดค่า อ่านข้อมูลรายละเอียดของคุณหนุ่มแล้วรู้สึกว่ามีความรู้เยอะขึ้นมาเป็นกองงงเลยยยยยย ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะค้า จากคุณ : Chubbyjung - [ วันออกพรรษา 22:40:54 ]

ความคิดเห็นที่ 71 น่าจะเสนอคุณหนุ่มเป็นทูตการท่องเที่ยวญี่ปุ่นคู่กับพี่ติ๊ก กัญญารัตน์ 555 จากคุณ : ชิงหมูเกิด - [ วันออกพรรษา 22:56:59 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ...:D...มาปรบมือให้กับข้อมูลที่สุดยอดมากๆครับ...เอา Give มาให้ด้วย....:D....และ..... .....พามากิจังมาเยี่ยมอีกนะครับ...มาสองสามรูปยังไม่พอครับ..ฮืออออ......:D..:D จากคุณ : Death - [ วันออกพรรษา 23:03:29 ]

ความคิดเห็นที่ 73 สุดยอดมากค่ะ จขกท อยากแจกกิฟ แต่่ทำไม่ได้ งั้บปรบมือให้ดังๆเลยนะคะ เคยนั่งแต่ฮายาเตะอ่ะค่ะ ทั้งไปและกลับโตเกียวเลย พูดแล้วอยากไปนั่งอีก 555 คราวหน้าจะไปนั่งโนโซมิให้ได้เล้ยยย จากคุณ : luv_xoxo - [ วันออกพรรษา 23:49:52 A:58.64.81.55 X: TicketID:185040 ]

ความคิดเห็นที่ 74 สวัสดีครับพี่หนุ่ม เข้ามาลงชื่อไว้ก่อน แล้วค่อยย้อนขึ้นไปอ่าน ^^ จากคุณ : NEWESTTSEWEN - [ 15 ต.ค. 51 01:35:13 ]

ความคิดเห็นที่ 75 โห..........มาแต่ละทีนานมากเลยครับ........มิตรรักแฟนเพลงรออยู่......... กว่าจะหาเจอแต่ละทู้นี่นานมากเลย.. จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว - [ 15 ต.ค. 51 07:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 76 คุณหนุ่มฯ นี่เททจัง level 5 ตัวจริงแล้วละครับ ^_^ จัดให้ตามคำขอที่จุดธูปเรียกไว้  *_* จากคุณ : SkyBox - [ 15 ต.ค. 51 08:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ความแตกต่างระหว่าง ซีรีย์ 100 กับ 200 ที่เห็นได้ชัดภายนอกอยู่ตรง บริเวณด้านข้างของหน้าต่างห้องคนขับครับ โดยกระจกด้านข้างห้องคนขับจะมีความโค้งมนมากกว่า และเป็นขอบกระจกระหว่างกระจกหน้ากับกระจกข้างจะเรียบและโค้งต่อเนื่องเป็นทรงลู่ลมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพด้านแอโร่ไดนามิคมากขึ้นครับ รูปภายในห้องคนขับ ^_^ จากคุณ : SkyBox - [ 15 ต.ค. 51 08:28:27 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ติดตามชมต่อครับ   จากคุณ : Draught Beer - [ 15 ต.ค. 51 08:28:57 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เริ่ดมากๆ.... ได้ความรู้ดีคะ ชอบมากๆ จัง ขอบคุณมากๆ คะ จากคุณ : thangthai_ladypink - [ 15 ต.ค. 51 08:40:03 ]

ความคิดเห็นที่ 80 MAX ขบวนนี้มอบให้กับคุณหนุ่มฯ มากิจัง level 9.5  ฮิ ฮิ แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 51 08:46:07 จากคุณ : SkyBox - [ 15 ต.ค. 51 08:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 81 สุดยอดเลย ขอปรบมือให้ค่ะ (อยากให้ GIVE แต่ทำไม่เป็นอ่ะ ขอให้เป็น "ขอบคุณมากค่ะ"  แทนละกัน) เชื่อแล้วว่าคุณหนุ่มรักเค้า(รถไฟญี่ปุ่น)จริงๆ  รู้ลึกซะขนาดนี้ น่าจะส่งไปแข่งแฟนพันธุ์แท้เรื่องรถไฟชินคันเซนเนอะ ไม่รู้ยังมีรายการนี้อยู่รึเปล่า (แหะ แหะ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ดูทีวี)  เคยดูตอนแฟนพันธุ์แท้ รถยี่ห้อต่างๆที่คนเค้าชอบสะสมกัน  ไม่รู้ตอนรถไฟชินคันเซนเคยมีไปรึยัง ถ้ายังคุณหนุ่มเสนอตัวไปเลยนะ จะคอยเชียร์ค่ะ จากคุณ : hoorey - [ 15 ต.ค. 51 09:09:56 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ขอบคุณคุณหนุ่มมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ  สุดยอดจริงๆ แต่ละขบวนเค้าก็มีความน่ารักแต่ละอย่าง ตอนนี้เอารูปที่ชิงกันเซนที่นั่ง มาเปรียบเทียบว่าเรานั่งอะไรบ้างแล้ว เหลือแต่ถ้าไปญี่ปุ่นคราวหน้าใช้เวลาซักครึ่งวันอยู่ตรง Tokyo Station Print Time Table ไปคราวนี้คงได้รูปรุ่นที่ชอบแน่ๆๆ จากคุณ : สามลิง - [ 15 ต.ค. 51 09:54:03 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ลงชื่อไว้ก่อนค่ะ จากคุณ : sueko - [ 15 ต.ค. 51 10:06:07 ]

ความคิดเห็นที่ 84 NumAromDee Fanclub มารายงานตัวค่ะ ตามมาอ่านค่ะ แล้วก็เอารูปมาดูว่านั่งสายไหนมาบ้างแล้วนะ ดูแล้วก็เกิดกิเลส ยิ่งตอนนี้ใบไม้เริ่มแดง อากาศเริ่มหนาว อยากไปอีกกกกกกกกก จากคุณ : sweettea - [ 15 ต.ค. 51 12:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 85 นั่งอ่านตอนพักเที่ยง... อ่านแล้วเพลินดีค่ะ ขอบคุณที่มารีวิวนะคะ จากคุณ : agate - [ 15 ต.ค. 51 12:58:50 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ขอบคุณครับ ชอบมากๆๆๆ บ้าญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปน่ะครับ แล้วจะติดตามไปเรื่อยๆนะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ จากคุณ : ben_benz - [ 15 ต.ค. 51 13:18:42 ]

ความคิดเห็นที่ 87 สุดยอดครับ.......... จากคุณ : Ko (Essueko) - [ 15 ต.ค. 51 14:09:17 ]

ความคิดเห็นที่ 88 แวะมาเอาของฝาก คห ๓๕ และมาเอาความรู้ด้วยซะเลย คุณหนุ่มเนี่ย เท็ทจังเลเวล ๙๙ และม้างงง จากคุณ : bangkok dream - [ 15 ต.ค. 51 15:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ท่าจะรักจริงๆนะเนี่ย ความรู้เยอะมากกกกกกกกกกกกก จากคุณ : KaLaMunGG_G - [ 15 ต.ค. 51 15:20:34 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ความรู้เป็นประโยชน์ดีค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง - [ 15 ต.ค. 51 15:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ขอบคุณทุกท่านอย่างมากมายที่มาให้กำลังใจทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน และต้องขออภัยด้วยที่ยังไม่สามารถเข้ามาต่อให้จบตอนได้ เพราะงานเข้าตรึม ช่วงนี้พิษแฮมเบอร์เกอร์บูดจากอเมริกายังรักษาไม่หาย นอนซมกันเกลื่อนทั้งบริษัท กำลังไปช่วยตั้งทีมปฐมพยาบาล (หรือไม่ก็อาจจะเป็นทีมรดน้ำ) อยู่ครับ ขอไปต่อตอน 2 ของชินคันเซน ในวันอังคารหน้านะ ใครมีคำถามฝากไว้ได้เลย ถ้าอู้งานได้จะแอบมาตอบให้ แต่ถ้าให้ดี ส่งยาโด๊ปมาด้วยก็ได้ ช่วงนี้ต้องการมาก รักนะทุกคน XOXO จากคุณ : NumAromDee - [ 15 ต.ค. 51 19:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 92 รถไฟ น่ารักกกกก น่านอนมากๆๆ เลยค่ะ อยากขึ้นจังงงง เฮียหนุ่ม Sugoiii~ อิอิ สู้ๆๆนะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ เย้ๆ พายาโด้ป มากิจังกะโมจิมานั่งรอเฮียหนุ่มค่าาา ขอบคุณสำหรับรีวิวมากๆๆเลยนะคะ จากคุณ : โมกุจัง - [ 15 ต.ค. 51 20:28:56 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ว๊าว ว ว ว  ชอบๆ มาต่อไวๆนะค๊า จากคุณ : โนอะโกะ (^Lady Noako^@Love conquers all) - [ 15 ต.ค. 51 20:33:44 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ไม่เป็นไรค่ะ รอได้อยู่แล้น สู้ๆนะคะ ใ้ห้ give เป็นกำลังใจแล้วกัน^^ จากคุณ : yuki_shimi - [ 15 ต.ค. 51 20:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ฟอร์ดท่าจะอาการหนักนิ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 15 ต.ค. 51 20:53:40 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เอ ไม่ค่อยได้ดูรูปชินคันเซ็นสักเท่าไหร่ มัวแต่ดูรูปมากิจัง เร็วเหมือนๆ กันครับ อิอิ จากคุณ : DEKCGN - [ 16 ต.ค. 51 02:30:01 ]

ความคิดเห็นที่ 97 มาให้กำลังใจ ต่อสู้ภัยแฮมเบอร์เกอร์บูดค่ะ คุงหนุ่ม เอาไว้มีแรง ยังรอติดตามกระทู้ของหม่ำ น่ากินๆ จากญี่ปุ่นอยู่นะคะ fighting fighting!! จากคุณ : i am (peter pane) - [ 16 ต.ค. 51 14:56:06 ]

ความคิดเห็นที่ 98 นั่งอ่านอยู่หลายรอบยังจำไม่ได้ รถไฟหลายขบวนจริง ๆ แล้วก็นั่งขำตัวเอง อ่านตอนแรกเข้าใจว่าที่ขบวนรถไฟมาจุ๊บกัน เป็นเพราะรางจอดไม่พอ แต่ที่จริงคือเขาจับคู่ไปด้วยกันตะหาก เฮ้อ หายโง่ในทันใด จากคุณ : แตงโมลายจุด - [ 17 ต.ค. 51 14:03:10 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ขึ้นตอนใหม่แล้วครับ ทุกคน ตามไปที่ link นี้เลยนะ จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 18:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เพิ่งอ่านจบ สู้ๆ นะครับคุณหนุ่ม Fighto! Fighto! จากคุณ : BOMPS - [ วันปิยมหาราช 11:05:21 ]

ความคิดเห็นที่ 101 เอารูปมาฝาก เป็นกำลังใจครับ จากคุณ : BOMPS - [ วันปิยมหาราช 11:33:40 ]