ความคิดเห็นที่ 11
"วันเวลาไม่เคยคอยใคร"
คำกล่าวนี้ยังคงใช้ได้เสมอครับ ผมใช้เวลาประมาณ 10 นาที ในการสำรวจสะพานประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แห่งนี้ จากนั้นผมก็สตาร์ตเครื่องยนต์รถ แล้วออกเดินทางต่อ
ภาพทิวทัศน์สองข้างทางที่ปรากฎแก่สายตาของผมในขณะนี้ สะท้อนในเห็นว่า ความเจริญๆ ทางด้านวัตถุทั้งหลายกำลังคืบคลานเข้ามายังเมืองแห่งนี้อยู่ทุกขณะเลยครับ และถ้าหากขาดการควบคุมเอาใจใส่อย่างเพียงพอแล้ว ผมคิดว่าไม่นาน มนต์เสน่ห์ของเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ ท่ามกลางขุนเขาและสายน้ำ แห่งนี้ จะต้องสูญสลายไปอย่างแน่แท้
ผมไม่ได้ขัดขวางความเจริญนะครับ แต่เพียงอยากให้รัฐเข้ามาจัดการ ด้วยการจัดแบ่งโซนนิ่ง เกี่ยวกับ สถานที่พักอาศัย สถานที่อนุรักษ์ สถานที่ที่อนุญาตให้สถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งสถานที่จัดตั้งสถานบริการในยามราตรี ให้ชัดเจนไป.....
ก่อนจะเข้าตัวเมืองปาย จะมีทางแยกครับ และบริเวณนั้น จะมีปั้มน้ำมัน ป.ต.ท. ที่ดูมาตรฐานสากลดี เพราะมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 และธนาคาร กรุงศรีอยุธยา ในปั้มด้วยครับ
ผมไม่ลังเลที่จะเติมน้ำมันให้เต็มถังไว้ก่อน เพื่อความชัวร์ แต่ปรากฎว่า ผมเติมน้ำมันไปเพียง 200 บาท ก็เต็มถังแล้วครับ โดยก่อนที่จะออกมาจากเมืองเชียงใหม่ ผมก็เติมเกือบเต็มถังมารอบนึงแล้ว ตั้ง 1,000 บาท อย่างนี้สบายใจได้ครับว่า รถไม่กินน้ำมันซักเท่าไหร่นัก ไปได้ไกลแน่นอนไม่ต้องห่วง แต่สิ่งที่ห่วงคือ เวลาที่ตอนนี้บ่ายโมงเศษๆ เกือบจะบ่ายโมงครึ่งแล้ว เพิ่งจะมาถึง อ.ปาย เอง ดังนั้นเมื่อเติมน้ำมันเสร็จ ผมจึงออกเดินทางต่อทันที โดยมีจุดหมายต่อไปที่ อ.ปางมะผ้า
ข้อสันนิษฐานเรื่องเส้นทางของผมเป็นจริง คือ เมื่อผมออกจากตัว อ.ปาย ได้ไม่ไกลนัก เส้นทางก็ต้องขึ้นภูเขาอีกแล้ว แต่ก็มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ประทับใจ ประกอบกับการใช้รถมอเตอร์ไซต์เป็นยานพาหนะด้วยแล้ว มันทำให้ผมรู้สึกราวกับว่า ผมมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ 360 องศา เลยครับ
ระยะทางที่ขึ้นภูเขา จนก็มาถึงจุดสูงสุดของเส้นทางช่วง ปาย- ปางมะผ้า น่าจะอยู่ที่ประมาณ 15 - 20 กิโลเมตร ได้ครับ จุดสูงสุดแห่งนี้ น่าจะเรียกว่า ดอยกิ่วลม เพราะเห็นตู้ยามตำรวจเขียนไว้อย่างนั้น
ผมเห็นว่า ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวเมืองหนาว ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึง มกราคมนี้ ถ้าได้มากางเต็นท์บนดอยกิ่วลมแห่งนี้ มีโอกาสสูงที่จะหลับไม่ลงเพราะความหนาวแน่ๆ เลยครับ เพราะขนาดตอนบ่ายๆ ยังรู้สึกว่าหนาวเลย
จากคุณ :
EMD-SD90
- [
18 ต.ค. 51 01:53:23
]
|
|
|