ความคิดเห็นที่ 1 ตอนที่แล้ว พาไปเดินเล่นที่สถานี เดินดูชินคันเซนทุกรุ่นที่วิ่งอยู่ในเส้นทาง โทะไคโด , ซันโย และ คิวชู ชินคันเซน ไปแล้ว ตอนนี้ถึงคิวเดินดูรถชินคันเซนสายตะวันออกเฉียงเหนือ อย่าง โทโฮะคุ , โจเอทสึ , ยามางาตะ , นางาโน่(โฮะคุริคุ) และ อาคิตะ ชินคันเซน กันบ้าง ทั้ง 5 สายนี้ ดูแลโดย JR East เริ่มต้นเส้นทางที่สถานีโตเกียว สายหลักคือโทโฮะคุ กับ โจเอทสี ราง 2 คู่ ไป-กลับ แล้วค่อยไปแยกเป็นสายรองอีก 4 สายตามเมืองต่าง ๆ อีกที แม้ว่าชินคันเซนสายเหนือกับใต้จะใช้สถานีโตเกียวร่วมกัน แต่ตัวรางของสายโทโฮะคุ ก็ไม่ได้เชื่อมต่อกับรางของสายโทะไคโดนะ รถจอดอยู่ในชานชลาใกล้กันเฉย ๆ แยกวิ่งจากกันโดยเอกเทศครับ แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 51 18:38:19 จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 18:37:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ฮี่!!! แว้บมาปาด!!! รอชมต่อไปค่ะ จากคุณ : ซาลาเปาแก้มป่อง (กุ้งกะแว่น) - [ 20 ต.ค. 51 18:38:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนที่แล้วเล่าเรื่องชินคันเซน Series ที่เป็นเลข 3 ตัว ของ JR Central , JR West และ JR Kyushu ตั้งแต่ 000 ,100 , 200 , 300 , 400 , 500 , 700 , N700 และ 800 Series แล้ว 600 Series มันหายไปไหน??? ใครลักพาตัวไป!!! บางคนอาจสงสัยแบบนี้... แต่ไม่กล้าถาม 600 Series หน้าตาแบบนี้ แต่ไม่ได้ใช้ชื่อนี้ครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 18:40:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โห..... ประทับใจอย่างแรง ขนาดแอบมาโพสวันจันทร์ คุณซาลาเปาแก้มป่อง ยังอุตส่าห์ตามมาเจอ ขอบคุณครับ ============================= เจ้ายักษ์สีหวานเหมือนไอติม มันใช้ชื่อว่า E1 Series Max เริ่มผลิตมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 หลังจากที่ JR East เลิกผลิต 400 Series รุ่นหัวเครื่องบินขับไล่ มาได้ 2 ปี พร้อม ๆ กับที่ JR West กำลังซุ่มผลิต 500 Series รุ่นหนอนอวกาศ สมัยแรกที่ยังเป็นแบบร่าง ใช้ชื่อว่า 600 Series แต่หลังจากการแปรรูปเป็นเอกชนของ JNR เป็น JR เมื่อปี 2530 ทาง JR East ที่มีชินคันเซนอยู่ในมือมากสายที่สุด และไม่ได้พัฒนาตัวรถร่วมกับบริษัทอื่น เลยแอบเท่ห์ ขอเปลี่ยนชื่อรุ่นจาก 600 Series เป็น E1 Series ซ่ะ คงอยากสร้างเอกลักษณ์ให้ต่างจากซีรีย์เลข 3 ตัว ของ JR อีก 3 บริษัท จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 18:44:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คำว่า Max ย่อจากคำว่า Multi Amenity Express คือ ชินคันเซนที่ทำที่นั่ง 2 ชั้นทั้งขบวน เหมือนรถเมล์ที่ลอนดอน คิดขึ้นเพื่อเพิ่มความจุของผู้โดยสารต่อขบวนในช่วงเวลาเร่งด่วน แล้วยังสามารถดัดแปลงตู้ชั้นล่าง เป็นห้องส่วนตัว (Compartment) หรือ ตู้เสบียงก็ได้ แล้วแต่จะทำ สมัยแรก ๆ ชินคันเซนมีตู้นั่ง 2 ชั้นให้บริการเหมือนกัน แต่ไม่ได้เป็น 2 ชั้นทั้งหมด ทั้งขบวนมีแค่ 2-4 ตู้ โดยใช้รถรุ่น 100 Series ต่อตู้ 2 ชั้นเพิ่มเข้าไป แล้วเรียกชื่อขบวนว่า Grand Hikari วิ่งให้บริการระหว่าง โตเกียว กับ ฟุคุโอคะ ตอนนี้คงเก่ามากแล้ว เลยเลิกให้บริการไปเมื่อเดือน พ.ย. 2545 นี่เอง ถ้าหารูปเจอ จะเอามาลงให้ดูกัน ชินคันเซนแบบ Max มีชื่อทางเทคนิคอีกอย่างว่า DDS หรือ Double-Decker Shinkansen โลโก้ E1 Series Max สมัยแรกออกแบบให้ เรียบ ๆ เขียว ๆ ตามสีบริษัท ตั้งใจให้ตัดกับสีพื้นของรถ ที่เป็นสี 2 Tone ขาวสลับเทาคาดด้วยเขียว จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 18:49:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 E1 Series ผลิตออกมาแค่ 6 ขบวน (ขบวนละ 12 ตู้) แค่ 2 ปี ก็หยุดผลิต ตอนนี้เอามาใช้วิ่งเสริมในเส้นทาง Joetsu Shinkansen จาก โตเกียว ไป นิอิงาตะ โดยใช้ชื่อขบวนว่า Max Toki กับ Max Tanigawa แต่ตอนนี้ถ้าไปมองหา E1 หน้าตาแบบนี้ คงจะหาไม่เจอแล้ว เพราะเมื่อปี 2546 ทาง JR East ได้เอา E1 Series มาทำสีและปรับปรุงภายในใหม่หมด ทาสี 2 Tone ขาวนวลตัดกับน้ำเงินเข้ม ให้เหมือนกับชินคันเซนสายอื่น ๆ ของ JR East แล้วแอบหวานด้วยแถบสีชมพูตรงกลาง เบาะนั่ง ก็เปลี่ยนเอาเบาะที่ใช้ในรุ่น E4 มาติดแทน ให้นั่งสบายก้นมากขึ้น จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 18:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อย่างงี้ต้องงัด BTS กับ รฟม. บ้านเราออกมาสู้ซะแล้ว!!! ว่าแต่จาสู้เค้าได้มั้ยน่อ.. จากคุณ : ซาลาเปาแก้มป่อง (กุ้งกะแว่น) - [ 20 ต.ค. 51 18:57:27 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ก็ดูสวยสง่าไปอีกแบบ เพราะสีเดิมดูเหมือนรถของเล่นที่ยังประกอบไม่เสร็จยังไงก็ไม่รุ ลืมบอกข้อมูลทางเทคนิคไป แม้ว่าโครงสร้างจะทำจากเหล็ก และรูปร่างจะใหญ่โตเหมือนตอหม้อทางด่วนขนาดนี้ แต่ก็ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 240 กม./ชม. เชียวนะ แต่วิ่งจริง น่าจะอยู่ที่ 200 นิด ๆ ซ่ะมากกว่า เพราะพอเลย สถานี Takasaki ไป ก็วิ่งขึ้นเขาตลอด สูงจากพื้น 4 เมตรครึ่ง ความยาวประมาณตู้ละ 25 เมตร (ตู้ที่เป็นหัวขบวนยาว 26 เมตร) 1 ขบวนมี 12 ตู้ จุผู้โดยสารได้ 1,235 คน...   แปลกแฮะ ทำไมที่นั่งเป็นเลขคี่??? จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 19:01:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เคยนั่งแต่ Nozomi (N700) กับ Asama..... บอกได้คำเดียวว่า sugooooooooooooooiiiiiiiiiiiiii (แก้ไขข้อความ) แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 51 19:07:55 แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 51 19:03:39 จากคุณ : Tsuwamono - [ 20 ต.ค. 51 19:01:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สงสัยจะแย่ครับ แค่เจอเจ้ายักษ์อีหนึ่ง นี่ ก็ต้องหลบเข้าข้างทางให้แล้วมั้ง คุณซาลาเปา... =========================== ไม่ได้เปลี่ยนแค่สีรถอย่างเดียว โลโก้ Max ก็มีการปรับโฉมใหม่ตามไปด้วย เพิ่มขีดให้เหมือนเงาสะท้อน ดูมีความเคลื่อนไหว พร้อมนกสีชมพูอีก 1 ตัว เพราะรถคันนี้ ช่วงแรกใช้กับขบวน Max Toki ของ โจเอทสึ ชินคันเซน เลยต้องมี นกโทคิ หรือ นกช้อน (Ibis) มาบินร่อนอยู่ด้า่นบนด้วย จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 19:06:11 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ปาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด.... ตัดหน้าชินคันเซ็น หลบเกือบไม่ทัน ...คุณหนุ่ม....ทำไม........รถไฟ....สวยจังเลยยยยยยย จากคุณ : pk12th - [ 20 ต.ค. 51 19:10:44 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาปาดด้วยเหมือนกัน เดี๋ยวปีหน้าจะไปใช้บริการนะ Max Yamabiko รออ่านต่อนนะครับ จิงๆแล้วน่าทำเป็นเรื่องสั้นขายนะเนี่ย เหอๆ จากคุณ : น้องหมอมือใหม่ (น้องหมอมือใหม่) - [ 20 ต.ค. 51 19:12:41 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณครับพี่สั่น... สำหรับคำเฉลย ตะหงิด ๆ อยู่แล้วเชียว ว่าน่าจะเกี่ยวกับจำนวนที่นั่งต่อแถวของรถแน่ ได้คนในพื้นที่มาช่วยยืนยันอีกทีอย่างนี้ ผมก็สบายใจ ไม่ต้องมั่ว =============================== เจอแล้ว++++ รูปตู้ 2 ชั้น ของขบวน Grand Hikari อากู๋เกิ้ลนี่มีให้ได้ทุกอย่างจริงจริง ขอบคุณครับ และขอบคุณ Web Byun Byun Shinkansen ( http://www.h2.dion.ne.jp/~dajf/byunbyun/index.htm ) ด้วยครับ สำหรับภาพสวย ๆ หายากของชินคันเซนรุ่นเก่า ๆ หลายภาพ เห็นมีสัญญลักษณ์ดอกไม้สีเขียวติดอยู่ข้างตู้ บ่งบอกว่าเป็น Green Car (ชั้น 1) แหงม ๆ เค้าบอกว่ามีภัตตาคารอยู่ด้วยที่ชั้นล่างด้วยนะ หะรูหะรา สมชื่อจริงจริง.... ตู้แบบนี้เลิกใช้ไปแล้ว นั่ง E4 Series Max เอา ก็พอกล้อมแกล้มไปได้ แต่ไม่คลาสสิคเท่า จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 19:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีคุณ พีเคที่สิบสอง ก็เพราะมันสวยอย่างนี้ ผมถึงกลายเป็นคนบ้ารถไฟญี่ปุ่นไงล่ะครับ ถ้าทำเป็นเรื่องสั้น คุณหมอมือใหม่ ก็ต้องเสียเงินซื้อซิครับ ข้อมูลผมยังไม่แน่นพอ เขียนไปเด๋วกูรูตัวจริงเค้าจะมาว่าเอา เขียนให้อ่านฟรี ๆ แลกกับคำตำชมจากพี่น้องแบบนี้ดีกว่าครับ สบายใจดี ================================== ขบวนต่อไป E2 Series เป็นรถชั้นเดียวแบบปกติ ผลิตขึ้นมาครั้งแรกเมื่อปี 2538 และมีการปรับปรุงเป็นรุ่นย่อย ๆ ยาวไปอีก 10 ปี จนถึงปี 2548 ถึงจะหยุดผลิต ตอนแรก สร้างขึ้นเพื่อใช้วิ่งขึ้นเขาไปจังหวัดนางาโน่ แทน 200 Series ที่วิ่งขึ้นเขาช่วงต่อขยายจาก Takasaki ถึง Nagano ไม่ค่อยไหว ต้องคิดรุ่นใหม่ มอเตอร์แรงๆ น้ำหนักเบา ๆ ไปสู้ ต่อมาประมาณซักเดือน ธ.ค. ปี 2545 ก็ปรับปรุงเป็นรุ่นย่อย เอามาวิ่งเพิ่มในสาย โทโฮะคุ จาก โตเกียว ไป ฟุคุชิม่า เซนได โมริโอกะ และ ฮาชิโนเฮะ ในชื่อขบวน ฮายาเตะ , ยามาบิโกะ หรือ อาซามะ แล้วแต่จะจัดการกัน E2 Series ที่วิ่งอยู่ในสาย Nagano Shinkansen จะทาสีที่แถบคาดกลางตู้ ด้วยสีแดงเลือดหมู 1 ขบวนมี แค่ 8 ตู้ จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 19:21:37 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เข้ามารอนั่งรถไฟครับ จากคุณ : Coffee Blended - [ 20 ต.ค. 51 19:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ส่วน E2 Series ที่ใช้วิ่งอยู่ใน Tohoku Shinkansen ชื่อขบวน ฮายาเทะ (Hayate) จะทาสีแถบคาดกลางตู้ เป็นสีชมพู 1 ขบวนจะยาวว่าสายนางาโน่ ชินคันเซนหน่อย เพิ่มเป็น 10 ตู้ต่อขบวน เพราะไม่ได้วิ่งขึ้นเขามากเท่า รุ่นล่าสุดก่อนเลิกผลิต คือ E2–1000 Series จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 19:24:42 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีครับคุณ Coffee Blended ขึ้นมาเลยครับ ชินคันเซนมันคันใหญ่ นั่งน้อย ๆ จะเหงาแย่เลย ==================================== โลโก้ แต่ละสายก็จะทำไม่เหมือนกัน ยุคแรก E2 ขบวน Asama (นางาโน่ ชินคันเซน) จะออกแบบเป็นรูปลายเส้นพริ้วไหว สลับสีด้วยเฉดอ่อน ๆ ละมุนละไมละม่อม ราวกับสายลมพริ้วผ่านใบหน้า ไม่ต้องสวย น้อยคือมาก เข้าถึงไม่ยาก มีคุณค่าในตัวเอง นอบน้อมถ่อมตน แต่ไม่อ่อนแอ อะไรก็ตามในโลกที่มีคุณสมบัติแบบนี้ ผมจะรักจนวันตาย... จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 19:31:37 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ส่วน E2 รุ่นหลัง ที่วิ่งในสาย Tohoku Shinkansen (ฮายาเทะ) จะเปลี่ยนโลโก้เป็นรูป แถบวงกลมซ้อนกัน 5 วง ทำเก๋ เฉือนให้เป็นรอยแหว่ง คล้ายโลโก้ แอปเปิ้ลโดนแทะ ของ Mac ไล่เฉดสีจากชมพู มาเหลือง ตบท้ายด้วยเขียวจาง ๆ คงกะให้นึกถึงชินคันเซนตอนวิ่งฉิวฝ่าสายลม เพราะ Hayate แปลว่า ลม แต่ผมเห็นโลโก้อันนี้แล้ว คิดถึงแต่ ตัวแพ็คแมนวิ่งกลับหลัง นะ เคยเล่นกันม่ะ... เกมส์นี้ จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 19:35:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 E2 Series สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 315 กม./ชม. เฉพาะตอนทดสอบ แต่วิ่งจริงในสายนางาโน่ จะไม่เกิน 260 กม./ชม. เด๋วตกเขาตาย ส่วนสายโทโฮะคุ วิ่งเรียบทะเล จะวิ่งได้เร็วกว่านิดหน่อย ให้ไม่เกิน 275 กม./ชม. คงอยากวิ่งเร็วกว่านี้ แต่สภาพราง เทคโนโลยีระบบเบรค และ การทรงตัวคงยังไม่ล้ำพอ กับการใช้งานจริงตอนนี้ รูปหายากจากมุมสูงของ E2 ขบวน อาซามะ จาก Nagano Shinkansen กล้าฟันธงเพราะขบวนนี้มีแค่ 8 ตู้ และ คาดแถบสีแดง จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 19:40:04 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ใครเคยอ่าน และจำชื่อการ์ตูนเรื่องนี้ได้บ้าง??? ผมเคยอ่านนานแล้วสมัยเป็นเด็กน้อย ชอบ แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว เด๋วนี้เป็นอะไรไม่รู้ ชอบ Retro ย้อนอดีตหาของเก่าสมัยเด็กน้อยมาชื่นชมกันใหม่อีกรอบ สงสัยจะเริ่มแก่แล้ว..... จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 19:42:11 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ..........:D.....มาปาดบ้างครับ...:D...:D....อย่าลืมพามากิจังมาแวะกระทู้นี้อีกนะครับคุณหนุ่ม...:D....:D จากคุณ : Death - [ 20 ต.ค. 51 19:45:39 ]

ความคิดเห็นที่ 22 รีวิวบังแอ ข้ามคืน รีวิวตาหนุ่ม ข้ามปี เอาวะ หลงเข้ามาแล้ว ก็มาดูของเขาสักหน่อยก็ได้ เดี๋ยวอีกเดือนหนึ่ง อาก็จะไปญี่ปุ่นอีกแล้วละครับ คราวนี้ ไปอยู่เองสักอาทิตย์หนึ่ง คงอยู่ที่เคโอ พลาซ่า ชินจูกุนั่นแหละ จากคุณ : xebec - [ 20 ต.ค. 51 19:47:31 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คันต่อไป เจ้าหน้าดำ E3 Series โชว์ตัวอย่างให้ดูไปแว้บ ๆ แล้ว ตอนพูดถึง 400 Series เมื่อภาคที่แล้ว เป็น Mini-shinkansen รุ่นใหม่ที่พัฒนาต่อจาก 400 Series รุ่นหัวเครื่องบินขับไล่ ย้อนความกันนิดนึง.... มินิชินคันเซน คือ ชินคันเซน ตัวเล็ก ฐานล้อกว้าง ที่ใช้วิ่งในสาย Yamagata กับ Akita Shinkansen เนื่องจากรางรถไฟทั้ง 2 เส้นทาง สร้างขยายขนาดจากรางรถไฟ(ญี่ปุ่น)สายปกติที่กว้างแค่ 1.067 เมตร มาเป็น 1.435 เมตร ตามมาตรฐานชินคันเซน แต่พวก เสา สะพาน อุโมงค์ ชานชลา ป้ายสัญญาณ ไม่ได้ขยายขนาดตามไปด้วย เพราะไม่อยากลงทุนสร้างสถานี หรือขยายสถานีเพิ่มเหมือนรถสายอื่น แต่ใช้ Facilities พวกนี้ร่วมกับรถไฟสายปกติเหมือนเดิม ก็เลยต้องสร้างเป็นรถไฟชินคันเซนขนาดความกว้างเท่ากับรถไฟปกติ รุ่นแรก ๆ ที่ผลิตช่วงปี 2538 ถึง 40 กว่า ๆ ไฟหน้าจะติดอยู่เหนือกระจกห้องคนขับ เจาะช่องใส่ไฟหรี่ ไว้แค่ช่องเดียว แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 51 09:58:47 จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 19:49:52 ]

ความคิดเห็นที่ 24 .. แวะมาปาดรถไฟ ^^" .. จากคุณ : POGGHI - [ 20 ต.ค. 51 19:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 25 กราบสวัสดีครับอาหมู มีของฝากเป็น Pretty งาม ๆ จากสิงคโปร์บ้างรึเปล่าครับ อิอิ.... ฝนตกบ่อย ๆ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ อาไปญี่ปุ่นช่วงไหนครับ ต้นเดือนหน้าผมอาจโดนใช้ไปขายแรงงานที่นั่นซักแว่บสองแว้บ เผื่อว่าจะได้ไป clear พื้นที่ กวาดใบไม้ ปูเสื่อ อุ่นสาเก ย่างเนื้อ รออาหมูไว้ก่อน ============================= ได้เลยท่านเดท เมื่อขอมาก็จะจัดให้ มากิจังมาแว๊ววววววววววว จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 19:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สวัสดีคุณป๊อกกี้..... ป๊อกกี้รสอะไรเนี้ยะ? หิวจัง.... ============================== รูปเมื่อกี้ อาจดูไม่ชัด ว่าไฟหน้า E3 (รุ่นแรก) อยู่ตรงไหน ต้องดูรูปข้างล่างนี้ ตอนวิ่งเปิดไฟ สมัยแรกมีแค่ 5 ตู้ต่อขบวน แต่ที่เห็นต่อเป็นสายยาวยืดอยู่ด้านหลัง คือ E2 Series ขบวน ฮายาเทะ (โทโฮะคุ ชินคันเซน) ที่ต้องพ่วงกันไปด้วยทุกครั้งก่อนออกจากโตเกียว เพราะอาคิตะ ชินคันเซน (ขบวนโคมาฉิ) ที่ใช้ E3 นี้ จะใช้รางช่วงระหว่างโตเกียว ถึง โมริโอกะ ร่วมกับรางของ โทโฮะคุ ชินคันเซน เลยต้องพ่วงกันไป ปกติโทโฮคุ ชินคันเซน จะมีวิ่งออกจากโตเกียวถี่ยิบถึงวันละร้อยกว่าเที่ยว (10 นาที ออก 1 ขบวน) รางแทบไม่พอใช้อยู่แล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 20:02:41 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เอารูปเส้นทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือของ JR East มาให้ดูอีกที กันงง สายยามางาตะ กับ อาคิตะ ชินคันเซน เป็นเส้นทางสายรอง ที่สร้างจากการขยายรางรถไฟสายปกติ ที่เรียกว่า มินิชินคันเซน แยกแตกแขนงจากรางรถไฟสาย โทโฮะคุ ชินคันเซน แต่สายโจเอะสึ กับ นางาโน่ ชินคันเซน เป็นทางสายหลัก ที่สร้างใหม่ต่างหาก แยกรางจาก โทโฮะคุ ชินคันเซน เลยไม่ต้องพ่วงกับใคร จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 20:05:31 ]

ความคิดเห็นที่ 28 E3 Series รุ่นหลังปี 40 ( E3-1000 กับ E3-2000 ) นอกจากอุปกรณ์และสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น ยังแต่งหน้าตาให้หล่อขึ้นอีกเล็กน้อย ย้ายไฟทั้งไฟหน้า ไฟหรี่ มาไว้ตรงช่องใต้กระจกห้องคนขับ อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม 2 อัน เหมือนรูจมูกเรืองแสง ทำความเร็วสูงสุดได้ 275 กม./ชม. วิ่งเร็วขนาดนี้ได้เฉพาะช่วงที่เกาะอยู่กับ โทโฮะคุ ชินคันเซน แต่พอถึงสถานีที่ต้องแยกร่าง ไปวิ่งจริงในเส้นทางของตัวเอง ทั้ง ยามางาตะ และ อาคิตะ จะเหลือความเร็วสูงสุดแค่ไม่เกิน 130 กม./ชม. เท่ากับความเร็วรถไฟปกติของญี่ปุ่น เพราะสภาพความมั่นคงของสิ่งก่อสร้างและวัสดุที่อยู่รอบราง มันไม่ปลอดภัยพอให้วิ่งเร็วกว่านี้ แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 51 20:09:37 จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 20:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เอารูป E3 Series อาคิตะ ชินคันเซน ขบวน โคมาฉิ (คันทางขวามือ) ที่พ่วงกับ E2 Series โทโฮะคุ ชินคันเซน ขบวน ฮายาเทะ (คันทางซ้าย) จอดจุ๊บกัน มาให้ดูชัดชัด จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 20:11:54 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตาหนุ่ม อาไปญี่ปุ่นวันที่ 18 พฤศจิกายนครับ ส่วนวันกลับ ยังไม่แน่ใจ ว่าจะกลับวันไหน อาจจะราวราว 27 ถึง 30 พฤศจิกายนนั่นแหละ จากคุณ : xebec - [ 20 ต.ค. 51 20:17:37 ]

ความคิดเห็นที่ 31 โลโก้ของ Akita Shinkansen ที่ใช้ E3 Series ชื่อขบวน โคมาฉิ (แปลว่า สาวสวย) จำลอง ลายเส้นปลายภู่กันของตัวอักษรญี่ปุ่น คำว่า โคมาฉิ เล่นกับสี น้ำเงิน แดง และ น้ำตาลอ่อน ง่าย เก๋ แต่ผมว่าเล่นสีมากไปหน่อย คาดว่าคนออกแบบคงอยากให้จิตนาการเห็นเป็นสาวสวยที่เปี่ยมด้วยสีสรรวัยแรกแย้ม ผมชอบโลโก้อักษรสีเดียวของ สึบาเมะ (Kyushu Shinkansen) มากกว่า (ถ้านึกไม่ออก โปรดกลับไปดูรูปในกระทู้ตอนที่แล้ว คห.ที่ 40) มองแล้วเห็นเป็นภาพสาว(บ้านนอก)ญี่ปุ่น สวมยูคาตะสีน้ำเงิน ปล่อยผมยาวสลวย ยืนตากผ้าอยู่หน้าบ้าน แล้วหันมายิ้มพร้อมแสงอาทิตย์ยามอรุณเป็นฉากหลัง คิดเป็นตุเป็นตะไปนู่น..... จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 20:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอตามไปขึ้นรถไฟด้วยคนนะคะ จากคุณ : Chubbyjung - [ 20 ต.ค. 51 20:18:25 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าโชคดีผมขยับตารางเดินทางได้ จะไปร่ำสาเกกะอาหมูที่ชินจูกุครับ แต่สังหรณ์ใจตะหงิด ๆ จากสภาวะการณ์เยี่ยงนี้ มีโอกาสจะโดนยกเลิก Trip อย่างมากเลย จะได้ไปรึเปล่า ยังนั่งลุ้นกันอยู่ทุกวี่ทุกวันเลยครับ (ตึก... ตึก...) น่าจะยืนยันกันภายในวันศุกร์นี้ ถ้าได้ไปจริง แล้วเวลาตรงกัน ผมจะโทรนัดกับอาลองก่อนอาหมูเดินทางอีกทีนะครับ ============================= E3 Series เอาไปใช้กับ Yamakata Shinkansen ด้วย โดยกำลังเริ่มทยอยเปลี่ยนแทน 400 Series ให้ครบภายในปี 2552 นี้ กระทู้ตอนที่แล้วเอาส่วนหัวของ E3 Series คันที่เป็น Tsubasa กับโลโก้ปีกแสนสวย (คห. ที่ ุ65 กับ 66) ให้ดูไปนิดนึงแล้ว ตอนนี้มาดูแบบเต็มคัน ครึ่งบนเป็นสีเงินเมทาลิค ครึ่งล่างเป็นสีเทาอ่อน คาดด้วยแถบสีเขียว พร้อมโลโก้รูปปีก (สึบาสะ) สีเขียว จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 20:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 34 .. รถไฟหัวกระสุนเขาสวย  ดูดีจัง .. อยากเห็นข้างในรถไฟอ่ะครับ รถไฟเขาวิ่งเร็วมาก ๆ เลย  ใช่ป่ะครับ จากคุณ : แมงเม่าติดลมบน - [ 20 ต.ค. 51 20:32:03 ]

ความคิดเห็นที่ 35 กระโดดขึ้นมาเลยครับ คุณ Chubbyjung ที่ว่างเหลือเฟือ ไม่ต้องชิดใน =========================== ที่บอกว่า E3 Series ขนาดจะเล็กกว่าชินคันเซน กว้างแค่ประมาณ 2.9 เมตร เท่าขนาดรถไฟปกติของญี่ปุ่น แต่ชินคันเซนทั่วไป ตู้จะกว้างประมาณ 3.4 เมตร แล้วถ้ามันมาจอดในชานชลาของชินคันเซน จะเกิดอะไรขึ้น??? ก็จะเกิดช่องว่างระหว่างตัวรถ กับชานชลาแบบนี้ครับ.... เอามาเทียบกับ E2 ให้ดู ซึ่ง E2 จอดแล้วแนบกับชานชลาพอดี ไม่ต้องคอย Please mind the gap between train and platform... เหมือนที่ได้ยินบ่อย ๆ จากรถไฟฟ้าบ้านเรา ถ้าปล่อยไว้เฉย ๆ ผู้โดยสารมีเดินตกชานชลาหัวทิ่มแน่ จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 20:32:58 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้.... ครับ คุณแมงเม่าฯ อันนี้เป็นห้องโดยสารชั้นปกติของ 700 Series รุ่นหัวเป็ด สายโทะไคโด ขบวน ฮิคาริ จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 20:36:24 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เข้ามาเพราะ ชินคันเซนนะนี่   ว่าแต่ได้ข้อมูลมาดีจัง จากคุณ : แม่พริกขี้หนู , น้องอ้วนจัง - [ 20 ต.ค. 51 20:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ห้องโดยสารของคันอื่น ๆ ถ้าหารูปเจอ เด๋วจะเอามาโพสให้ดูครับ ================================ เพื่อป้องกันผู้โดยสาร E3 Series เดินตกชานชลา เลยต้องออกแบบให้มีสะพานเหล็กขนาดเล็ก อยู่ใต้ประตูรถ พนักงานขับรถจะเปิดให้กางออกมารับกับปากประตู เฉพาะตอนรถจอดเทียบชานชลาชินคันเซนปกติ ตอนรถวิ่งก็พับเก็บ แนบกับตัวรถไว้ ตามรูป เรื่องคิดมาก คิดลึก เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยของลูกค้า นี่ของถนัดของคนญี่ปุ่นเค้าอยู่แล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 20:40:03 ]

ความคิดเห็นที่ 39 โอ้ยยยย รูปที่ 25 หวาดเสียวน่ากลัวมาก โดยเฉพาะช่วงล่าง อิอิ ไม่กล้าปิด อิอิ  คุณหนุ่มจะไปญี่ปุ่นอีกทีเมื่อไรครับผม จากคุณ : DEKCGN - [ 20 ต.ค. 51 20:48:17 ]

ความคิดเห็นที่ 40 สวัสดีครับคุณแม่พริกขี้หนู.... น้องอ้วนจังนี่ใครครับ ลูกสาวเหรอ?? ชื่อ log-in น่ารักจัง ขอบคุณครับที่เข้ามาติดตามชม ========================== ถึงคิวเจ้ายักษ์ E4 Series Max แล้ว เห็นชื่อ Max ก็แน่นอน ต้องเป็นรถ 2 ชั้น เริ่มผลิตเมื่อปี 2540 หยุดผลิตไปเมื่อปี 2546 นี่เอง รุ่นนี้พัฒนาต่อจาก E1 เพิ่มความทันสมัยของมอเตอร์ และ ระบบการควบคุมรถ รวมถึงการเกลารูปร่างให้มีส่วนโค้งส่วนเว้า ดูลู่ลมมีแอโรไดนามิคเพิ่มขึ้น ความเร็วสูงสุดยังคงทำได้เท่ากับ E1 คือ 240 กม./ชม. แต่อัตราเร่งดีกว่า เพราะตัวยักษ์ขนาดนี้ ทำมาเพื่อใช้บรรทุกคนให้ได้มาก ๆ ระหว่างเมืองใหญ่ 2 เมือง ช่วงเวลาเร่งด่วน ในเส้นทางที่ไกลไม่มาก (สายโทโฮะคุ สุดทางแค่เซนได) เลยไม่จำเป็นต้องวิ่งเร็วปรูดปร๊าดมากนัก มวลมันเยอะ เด๋วจะเบรคไม่อยู่เอา ตอนนี้ใช้วิ่งในหลายเส้นทาง ทั้ง Tohoku , Joetsu และ Nagano Shinkansen ที่มีคนใช้บริการกันหนาแน่ สังเกตง่าย ๆ ว่ารถขบวนไหนเป็นแบบ 2 ชั้น ก็จะมีคำว่า Max นำหน้า เช่น Max Yamabiko , Max Nasuno, Max Toki, Max Tanigawa ล่าสุดที่เปิดตัวเมื่อปี 2544 เป็น Max Asama แต่ขบวนนี้มีวิ่งเป็นบางช่วง เฉพาะฤดูท่องเที่ยวเท่านั้น จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 20:51:29 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มาเข้าเรียนต่อค่ะ ท่านอาจารย์ ใกล้แล้วใกล้แล้ว งิงิ (>v<@) เฮียหนุ่มจะไปญี่ปุ่นหรอคะ วันไหนเอ่ย เผื่อเจอกัน จะได้ (ให้เฮียหนุ่ม) เลี้ยงราเมง คริคริ จากคุณ : โมกุจัง - [ 20 ต.ค. 51 20:54:50 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตามมาเที่ยวทันมั๊ยคะเนี่ย รอด้วยนะคะคุณหนุ่ม จากคุณ : pinkyrose - [ 20 ต.ค. 51 20:56:14 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ลงชื่อไว้ก่อน อาทิตย์นี้มาวันจันทร์เหรอคะ เกือบพลาดมาไม่ทันแหน่ะ จากคุณ : yuki_shimi - [ 20 ต.ค. 51 20:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ข้อมูลผมยังไม่แน่นพอ เขียนไปเด๋วกูรูตัวจริงเค้าจะมาว่าเอา ................................ อยากคนทำหนังสือขายหลายๆคน คิดแบบนี้จัง ฮ่าๆ จะชักศึกเข้าบ้านไหมนี่เรา เฮ่อ ยังไม่มีวาสนานั่งชิงคังเซนซะที ไว้ปีหน้านะตะเอง จากคุณ : salamanka - [ 20 ต.ค. 51 20:58:55 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สวัสดีเด็กซีจีเอ็น ตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่อดีตกาล เจ้านายเค้าเมตตาจะให้ไปต้นเดือน พ.ย. แค่ด้วยพิษแฮมเบอร์เกอร์ ก็ทำให้ลุ้นมาจน ณ บัดเดี๋ยวนี้.... เฮ้อ! อยากเห็นใบไม้แดง....... งงงงงงงงงงงงงงงงง !!! ========================= ดูรูป E4 คห.ที่แล้ว เหมือนว่าจะคันเล็ก ๆ แต่ตัวจริงใหญ่หยั่งกะต่อหม้อทางด่วนเลยครับ ตัวรถสูง 4 เมตรครึ่ง กว้างเกือบ 3 เมตรครึ่ง ยาว 25 เมตร พอจอดเทียบสถานี ชั้นล่างจะอยู่ต่ำกว่าระดับพื้นชานชลา เลยเหมือนรถมันคันไม่ใหญ่ ใครนั่งอยู่ชั้นล่าง พอรถเทียบชานชลา วิวจะเป็นระดับพื้นพอดี สาว ๆ ใส่กระโปรงสั้น ๆ อย่าไปยืนติดขอบชานชลาชินคันเซนนะจ๊ะ ขอเตือน!!! มนุษย์ผู้ชายที่คิดลามกแบบผมได้ มันมีเยอะ เหอะ... เหอะ... จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 21:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สุดยอดค่ะ ยังตามอ่านเรื่อยๆนะคะเนี่ย ได้ความรู้เยอะเลยง่ะ จากคุณ : เด็กชายหัวตะปู - [ 20 ต.ค. 51 21:12:00 ]

ความคิดเห็นที่ 47 สวัสดีหมวยโมน้องรัก.... ถ้ามีวาสนาได้ไปจริง คงบินสวนกับน้องหมวยพอดี ไปเจอกันเหนือน่านฟ้าไต้หวันละกัน เห็นแล้วโบกมือให้ด้วยน้า..... เรื่องราเมง ถ้าอยากกิน เด๋วเฮียกลับมาจะต้มมาม่าเกาหลีให้กินแทน (ได้ป่ะ) ทันถมเถครับ คุณแม่น้องพิงค์กี้ ยังโม้ได้อีกหลาย คห. พรุ่งนี้เย็นผมต้องขับรถเข้า กทม. ครับคุณยูกิ ไปเตรียมประชุม(เพลิง)เช้าวันพุธครับ เลยต้องรีบมาวันนี้ ไม่งั้นก็ยาวเลย.... กว่าจะได้โพสอีกทีคงเป็นสัปดาห์หน้า จะลงแดงคิดถึงทุกคนแย่เลย สวัสดีน้องสาลี่ ว่าแต่ปีหน้าจะไปช่วงสงกรานต์แน่นอนแล้วชิมิค่ะ ว่าง ๆ ก็ส่งแผนมาให้ดูบ้างนะ เผื่อจะช่วยสอนจรเข้ว่ายน้ำได้บ้าง ============================== เบาะให้ห้องโดยสารชั้นปกติ จะเป็นสีม่วง มีแถวละ 5 ตัว ส่วนGreen Car มีแค่แถวละ 2 ตัว แต่ในตู้ที่เป็น Non-reserved Seat ชั้นบน เบาะจะเล็กหน่อย วางอัดกันแถวละ 6 ตัว และปรับเอนไม่ได้ ก็เน้นจุคนให้เยอะ และนั่งกันไม่ไกลนี่ 1 ขบวน จะมี 8 ตู้ จุผู้โดยสารได้ 817 คน ช่วงเวลาเร่งด่วน ถ้าที่นั่งไม่พอกับความต้องการ (แต่ชินคันเซนห้ามตีตั๋วยืน) ก็จะเอา E4 Series 2 ขบวนมาต่อกันได้ กลายเป็น 16 ตู้ จุได้ 2 เท่าเห็นเห็น ถ้าทำตู้เยอะเหมือน E1 ที่มี 12 ตู้ต่อขบวน ช่วงเวลาที่ไม่เร่งด่วน คนนั่งจะโหรงเหรง เปลืองไฟ เปลืองเที่ยว ลืมบอกไปว่า รถไฟญี่ปุ่นเค้าจะล็อคจำนวนตู้ต่อขบวนเอาไว้แน่นอนตายตัว ถ้าจะเพิ่ม ลด จำนวนตู้ ถ้าไม่ประกอบมาจากโรงงาน หรือศูนย์ซ่อม ก็ต้องเอารถอีกขบวนมาต่อกันเพื่อเพิ่มความจุ ไม่ได้ให้ต่อเพิ่มตู้ได้เรื่อย ๆ เหมือนรถไฟแบบที่ใช้หัวรถจักรอย่างบ้านเรา จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 21:14:46 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณมากครับคุณ NumAromDee ตามอ่านตั้งแต่กระทู้ที่แล้ว เวลาขึ้นไม่เคยสังเกตเลยว่า ซีรีย์ไหนบ้าง ตัวก่อนๆว่านิ่มแล้ว ตอนเปิดตัวใหม่ ไปลอง N700 series รู้แค่ว่าไม่เคยนั่งพาหนะอะไรนิ่มเท่านี้มาก่อนในชีวิต จากคุณ : ฝนเหงา - [ 20 ต.ค. 51 21:15:02 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เดี๋ยวนะครับคุณหนุ่ม พิษเบอร์เก้อร์ที่บูดนี่คือเรื่องเศรษฐกิจ หรือว่าอะไรครับ อิอิ ช่วงนี้เข้าป่าบ่อยๆ ตามๆม่ทันครับ อิอิ จากคุณ : DEKCGN - [ 20 ต.ค. 51 21:19:40 ]

ความคิดเห็นที่ 50 สวัสดีเด็กชายหัวตะปู... ช่วงนี้ได้นั่งชินคันเซนบ้างรึเปล่าครับ ตอนผมนั่ง 700 Series ว่านิ่มและเงียบสุดยอดแล้วนะ แล้ว N700 Series จะนิ่มไปถึงขนาดไหนน้า.... นึกตามที่คุณฝนเหงาบรรยายไว้แล้วใจลอยแทบเคลิ้ม =========================== โลโก้ของ E4 ก็ทำคล้ายกับของ E1 เปลี่ยนแต่สี เป็นโทนน้ำเงิน-เหลือง แล้วปล่อยนกโทคิบินเข้าป่าไป เพราะไม่ได้ใช้วิ่งกับขบวน Max Toki อย่างเดียวแล้ว จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 21:23:25 ]

ความคิดเห็นที่ 51 แม่นแล้วเด็กซีจี เป็นเรื่องฟองสบู่แตกของพี่กันนี่แหละ ทำเอาป่วนไปทั้งโลก จะแย่กว่าช่วงต้มยำกุ้งของไทยเมื่อ 10 ปีที่แล้วอีก บริษัทฯ ผมทำรถส่งออก โดนเข้าไปเต็มกกหู แถมเจาะยางด้วย โชคดีผมเป็นหนึ่งในพวก ผู้พิชิตความเจ็บปวด เลยประคองตัวมาได้หวุดหวิด ================================= เอา E1 กับ E4 มาเปรียบเทียบให้ดูหน้าตากัน ถ้าไปเจอที่สถานี จะได้แยกออก ว่าคันไหนเป็นคันไหน สังเกตง่าย ๆ E4 หน้าจะยาวกว่า E1 และไฟหน้าไปห้อยอยู่ตรงปลายจมูกด้านหน้า ระดับของห้องพนักงานขับรถ E4 จะอยู่ต่ำกว่า E1 กระจกหน้าก็แคบกว่า ออกแนวเหมือนกระจกห้องคนขับรุ่น N700 Series และสีที่ทา ของ E1 จะคาดด้วยแถบสีชมพู ส่วน E4 จะเป็นแถบสีเหลือง ผมเห็นเจ้า E4 ทีไร นึกถึงกิ้งก่า พันธ์ที่มันกางครีบที่หัวได้ ทุ้กที... จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 21:29:19 ]

ความคิดเห็นที่ 52 o^O นู๋ตามมาเกาะติดกระทู้ค่ะ จากคุณ : โนอะโกะ (^Lady Noako^@Love conquers all) - [ 20 ต.ค. 51 21:31:05 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ว่าง ๆ ก็ส่งแผนมาให้ดูบ้างนะ เผื่อจะช่วยสอนจรเข้ว่ายน้ำได้บ้าง ..... _/|\_ ขอบคุณมากๆ ค่ะ ดีใจจริงๆ นะ กำลังงมเข็มเลยค่ะ เดี๋ยวจะส่งเมลไปรบกวนนะคะ จากคุณ : salamanka - [ 20 ต.ค. 51 21:32:24 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ช่วงนี้ไม่ได้นั่งเลยค่ะ อยากนั่งอีกมากๆ รู้สึกชอบ ชินคันเซนบอกไม่ถูก แต่ตั๋วราคาไม่ถูกเลย อิอิ เคยนั่งไม่กี่ครั้งเองค่ะ นั่งจากโอซาก้าไปกลับโตเกียวน่ะค่ะ จากคุณ : เด็กชายหัวตะปู - [ 20 ต.ค. 51 21:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 55 55+ จากคุณ : เต้าเม้ง - [ 20 ต.ค. 51 21:41:39 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ..หวัดดีวันฝนตกจ้า... ราคาชินคันเซนแต่ละซีรีย์นี่เท่ากันมั้ย.... ถูกสุดนี่กี่หมื่นเยนอะ จากคุณ : sister - [ 20 ต.ค. 51 21:42:46 A:117.47.216.58 X: TicketID:172531 ]

ความคิดเห็นที่ 57 สวัสดีหนูน้อยโนะอาโกะ ยินดีที่ได้ร่วมทางครับ ถ้าส่งมาตอนนี้ต้องรอนานหน่อยนะน้องสาลี่ ยังไม่หายท้องเสียครับ เห็นด้วยเลยเด็กชายหัวตะปู ถ้าไม่ได้ด้วยอิทธิฤทธิ์ของ JR Rail Pass ผม และนั่งท่องเที่ยวต่างชาติจน ๆ อีกหลายท่าน คงไม่มีวาสนานั่งชินคันเซนร้อก...... แต่ปกติผมชอบนั่งรถทุกประเภทที่วิ่งบนรางอยู่แล้ว จะชิน หรือ ไม่ชิน นั่งได้หมด ชอบ! =============================== รุ่น E4 จะเพิ่มอุปกรณ์ตัวจับยึดอัตโนมัติ สำหรับต่อพ่วงรถ ทั้ง 2 ด้าน หน้าและหลัง เพื่อเพิ่มความจุผู้โดยสารต่อขบวน ซึ่งปกติ ในรุ่น E1 ถ้าจะต่อเชื่อมขบวนรถ ต้องใช้ช่างเทคนิคมาเชื่อมต่อแบบ Manual ให้ แต่ E4 สามารถเปิดฝาหน้า เช้าจุ๊บกัน ด้วยฝีมือคนขับรถแต่ละขบวน ถ้าไปที่สถานีโตเกียว แล้วเจอ E4 Series 2 ขบวน ต่อเชื่อมกัน วิ่งไปด้วยกัน ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เพราะที่จอดไม่พอนะ พอวิ่งไปถึงกลางทาง ก็ปลดออกซ่ะขบวนนึง เหมือนรถไฟไทยสายเหนือ ที่ต้องไปปลดตู้โดยสารออกบางตู้ที่ เด่นชัย ไม่งั้นขึ้นขุนตาลไม่ไหว จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 21:44:39 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สวัสดีเต้าเม้ง... ขำอารายหว่า... บอกกันมั้งสิ จะได้ช่วยขำ สวัสดีพี่แอน ชินคันเซนคิดตามระยะทาง ถูกสุดนั่งแค่สถานีเดียว ก็ประมาณ 160+840 เยน (ค่ารถ+ค่าธรรมเนียม) แพงสุดก็น่าจะเป็นจาก โตเกียว ไป ฟุคุโอคะ ประมาณ สองหมื่นกว่าเยน นี่คิดเฉพาะรถ ฮิคาริ นะ ถ้าเป็นโนโซมิ ก็จะเจอค่าธรรมเนียมพิเศษบวกไปอีกเป็นหลักพันเยน (ตามระยะทางเหมือนกัน) หน่วยเป็นเยน แต่คำนวณเป็นบาทแล้วร้อนเหงื่อตกทุกที... ใช้ JR Rail Pass ประเสริฐที่สุดครับ!!! =============================== เคยเจอการต่อเชื่อมขบวนรถ E4 Series 2 ขบวน แบบจะ ๆ ที่สถานี Takasaki จังหวัด Gunma คันที่เห็นในรูป เป็น โจเอทสี ชินคันเซน ชื่อขบวน Max Tanigawa ต้นทางอยู่สถานีทาคาซาคิ ปลายทางที่โตเกียว จอดรอเชื่อมขบวนอยู่ก่อนแล้ว มีเจ้าหน้าที่สถานี คอยประสานงานดูแลความปลอดภัยอยู่ 2 คน พร้อมแผงกั้นคนเรียบร้อย แล้วผมไปทะลึ่งยืนถ่ายรูปได้ไงเนี้ยะ.... จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 21:57:45 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อีกคันที่กำลังวิ่งเข้าสถานีมา เป็นโจเอทสึ ชินคันเซน เหมือนกันแต่เป็น ขบวน Max Toki วิ่งมาจากจังหวัด Niigata ปลายทางอยู่ที่โตเกียวเหมือนกัน จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 22:00:05 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ตัวเชื่อมต่อขบวนรถ ที่ซ่อนอยู่หลังฝาปิด หน้าตาเหมือนปืนกลต่อสู้อากาศยานเลย.... จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 22:01:58 ]

ความคิดเห็นที่ 61 จุ๊บกันเรียบร้อย พร้อมจูงกันวิ่งไปโตเกียวแล้ว.... จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 22:03:36 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณครับคุณหนุ่ม  ขอให้สถานะการณ์ไม่แย่ไปกว่านี้นะครับ เรื่องที่ผมชอบมากอีกอย่างหนึ่งคือการยืนรอรถไฟชินคันเซ็น ได้ความรู้สึกแปลก ๆ ไม่เหมือนยืนรอรถไฟที่ไหน เวลาบอกว่ามาถึงกี่โมง ก็มาถึงจริงๆ แล้วก็เสียงประกาศบนชานชลาที่ฟังแล้ว ขลังดีครับ อยากไปอีกกกกก จากคุณ : DEKCGN - [ 20 ต.ค. 51 22:03:55 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ยกให้เป็น expert รถไฟญี่ปุ่นดีมั้ยเนี๊ยะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาติดตามใหม่นะค๊า แปะโป้งไว้ก่อน ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ จากคุณ : โนอะโกะ (^Lady Noako^@Love conquers all) - [ 20 ต.ค. 51 22:18:32 ]

ความคิดเห็นที่ 64 แน่นอนเด็กซีจีฯ ผมก็อยากไปอีกกกกก ใจจะขาดแร้วเอ๊ย...... ยยยย ============================= สี่ทุ่มแล้ว กระทู้จบไม่ทันจนได้ เด๋วพรุ่งนี้สาย ๆ หรือ บ่าย ๆ จะแอบอู้งานเข้ามาต่อให้จบนะ เหลืออีก 5-6 รูปเอง กระทู้ชุดชินคันเซนใกล้จบสมบูรณ์แ้ล้ว ทิ้งท้ายด้วย CRH2 ชินคันเซนรุ่นส่งออกไปจีน สีขาวทั้งคัน มีคาดแถบสีน้ำเงินนิดหน่อยตรงกลางลำ เอาต้นแบบและเทคโนโลยีมาจาก E2 Series CRH2 รุ่นแรกประกอบที่ญี่ปุ่น ส่งมอบไปเมื่อปี 2549 จำนวน 3 ขบวน ๆ ละ 8 ตู้ และทางจีนก็ติดใจ ซื้อชิ้นส่วนมาประกอบที่เมืองจีน โรงงานเมือง Sifang อีกกว่า 50 ขบวน เริ่มเปิดเดินรถเส้นทาง เซี่ยงไฮ้-Hangzhou (ชื่ออ่านเป็นไทยไม่ออก) กับ เซี่ยงไฮ้-นานกิง เมื่อ 28 มกราคม 2550 นี่เอง พรุ่งนี้เจอกัน ฝันดีราตรีสวัสครับ แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 51 09:19:20 จากคุณ : NumAromDee - [ 20 ต.ค. 51 22:22:24 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ...Thanks...นะก๊า น้องหนุ่ม ไปละ ง่วงแล้วแหละ วันนี้จะอยู่จนจบปะเนี่ย...?? จากคุณ : sister - [ 20 ต.ค. 51 22:33:19 A:114.128.9.49 X: TicketID:172531 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณหนุ่ม เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาอ่านต่อนะคะ ฝากคำถามนิดนึงว่า นอกจากชินคันเซนแล้วรถไฟธรรมดามีตู้สองชั้นมั้ยคะ ปล. Hangzhou --> หางโจว ค่ะ จากคุณ : yuki_shimi - [ 20 ต.ค. 51 22:36:52 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ตามมาดึกไปหน่อยค่ะ วันศุกร์นี้ไปลัลล้า ทาคายามาแว้วววนะคะ กลับมาจะเล่าให้ฟัง แต่รีวิวไม่เป็น... ตั้งกระทู้ก็ไม่เป็นอ่ะค่ะ...อิ  อิ ที่หายไป เพราะฮาร์ดดิสค์เจ๊งค่ะ ที่เซฟไว้หายเกลี้ยงงงงง จากคุณ : ป้าหอมนาน (Sak_Suriyan) - [ 20 ต.ค. 51 22:55:52 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ถ้าไปเจอกันที่นั่น ก็ขึ้นไปนั่งจิบไวน์ หรือสาเก บนชั้น 40 ของโรงแรมเลยครับ เหมือนตอนเจอกับคุณยอดยิ่งแหละ นั่งดูวิวโตเกียวตอนกลางคืน สวยดี แต่ถ้าเจอกันตอนเย็น ก็ดีนะ จะพาไปกินเนื้ออร่อยอร่อย แถวแถวนั้นแหละ จากคุณ : xebec - [ 20 ต.ค. 51 23:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 69 โอ้ยยยย มันช่างลายตาน่านั่งเสียนี่กะไร ไปคราวนี้จะนั่งชินกังเซนให้ JR Pass ร้องไห้เลยค่า ตื่นเต้นค่า จะไปพฤนี้แล้ว เสื้อผ้าที่ใช้ยังซักอยู่ในเครื่องอยู่เลย ปกติไปเมืองนอกทีไร จะจัดก่อนเครื่องออกแค่ 2 ชม. 555 คราวนี้ไปนานขอจัดล่วงหน้าซัก 1 วันกำลังดี เอาใจช่วยสู้พิษเบอร์เกอร์บูดนะค้าาาคุณหนุ่ม จากคุณ : ชิงหมูเกิด - [ 21 ต.ค. 51 03:46:08 ]

ความคิดเห็นที่ 70 แวะมาลงชื่อว่ายังตามอ่านอยู่ทุกตอนครับ ผมเคยโหลด Financial statement ของ JR east กับ JR west ไปอ่านเล่นดู เพราะอยากรู้ว่าปีนึง JR มีรายได้ซักประมาณเท่าไหร่ เห็นตัวเลขแล้วจะร้อง อู้ฮู้!!!! รายได้แต่ละปีมากกว่า GDP ของไทยซะอีก จากคุณ : s7014249 - [ 21 ต.ค. 51 09:40:12 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เช้านี้เข้า Audit TS16949 กัน ของผมตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีเวลาอู้มาต่อให้จบแล้วฮับ เมื่อคืนทนง่วงไม่ไหว เลยต้องมาต่อตอนเช้าครับพี่แอน ขอบคุณครับสำหรับคำอ่านออกเสียงภาษาจีนของคุณยูกิ เด๋วจะเจอคำที่อ่านไม่ออกอีก จะรบกวนถามอีกนะครับ สวัสดีครับป้าหอม จะรออ่านประสบการณ์สนุก ๆ ของป้านะครับ ขอบคุณนะครับที่ติดตามชมทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน ตอนนี้กำหนดการปัจจุบันของผม เค้าให้ไปและกลับก่อนที่อาหมูกับอารองจะบินนะสิครับ ถ้าไม่เลื่อนหรือโดนยกเลิกซ่ะก่อน ได้ไปนั่งย่างเนื้อกับอาหมูที่ชินจูกุแน่นอนครับ ขอให้สนุกนะครับคุณปู และขอบคุณมากสำหรับกำลังใจ สู้โวร้ย!!!!! ================================ เมื่อวานพูดถึงชินคันเซน CRH2 รุ่นส่งออกไปจีน จริง ๆ แล้ว มันไม่ใช่รุ่นแรกที่ส่งออกครับ รุ่นแรกที่ส่งออก เป็นการส่งออกไปไต้หวัน เรียกว่ารุ่น 700T Series ผลิตและพัฒนาให้กับ Taiwan High Speed Rail หรือ THSR ต้นแบบและเทคโนโลยีเอามาจาก 700 Series รุ่นหัวเป็ด แต่ปรับปรุงพัฒนาหน้าตาให้โฉบเฉี่ยวมากกว่า ทาสี 2 Tone สีส้มแป๊ดกับขาวนวล ชวนให้คึก หน้าจะสั้นกระทัดรัดกว่า 700 Serie เพราะไม่ต้องคำนวณเผื่อผลกระทบของแรงกดอากาศ เวลาวิ่งเข้าอุโมงค์ด้วยความเร็วสูง เนื่องจากอุโมงค์รถไฟที่ไต้หวัน สร้างที่หลัง เลยทำขนาดกว้างตามมาตรฐานยุโรป วิ่งอัดเข้าไปได้เต็มที่ ความเร็วสูงสุดของรถ เลยอนุญาตให้วิ่งได้ถึง 300 กม./ชม. เพราะอุโมงค์ใหญ่และรางใหม่กว่าของญี่ปุ่น ที่ให้วิ่งได้สูงสุดแค่ 285 กม./ชม. รับรถไปก่อนจีน แต่กว่าจะทดสอบวิ่งได้สำเร็จ ก็เลยต้องรีบเปิดใช้บริการตัดหน้า CRH2 นิดเดียว ในวันที่ 5 มกราคม 2550 นี่เอง จากคุณ : NumAromDee - [ 21 ต.ค. 51 10:08:43 ]

ความคิดเห็นที่ 72 สวัสดีครับ คุณ s7014249 เห็นด้วยครับ บริษัทรถไฟของเค้าบริัษัทเดียว ทำรายได้เลี้ยงประเทศยากจนได้สบายๆ เลยนะเนี้ยะ.. ถึงว่าทำไมเค้าถึงได้มีตังค์พัฒนารถไฟรุ่นใหม่ ๆ ออกมาได้เรื่อย ๆ ทุก 4-5 ปี รถไฟ JR ทำธุรกิจครบวงจรเลยครับ ทั้งรถไฟขนส่งผู้โดยสาร ขนส่งสินค้า ผลิตและวิจัยรถเพื่อการส่งออก ให้เช่าและพัฒนาที่ดินรอบสถานี ระบบบัตรสะสมมูลค่า ฯลฯ แถมยังมีแบ็คอัพชั้นดีเป็นรัฐบาลผู้ถือหุ้นหย่าย.... บวกกับความขยัน ช่างคิด และไม่หยุดนิ่งของทีมงานของเค้า ก็เลยรายได้ระเบิดระเบ้อขนาดนั้น ขอบคุณนะครับที่ติดตาม ผมก็แอบติดตามการตอบคำถามเรื่องญี่ปุ่นของคุณ s7014249 อยู่เรื่อยๆ เหมือนกัน ============================= นอกจาก N700 Series ที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดของ JR Central ร่วมมือกับกับ JR West ที่กำลังเดินสายการผลิตแล้ว ของ JR East จะมีรุ่นใหม่ออกมาอีกมั้ย??? มีครับ และเปิดตัวออกมาแล้วด้วย แต่ยังอยู่ในขั้นทดลอง ตั้งชื่อรุ่นของตัวทดสอบว่า Fastech 360 Series ครับ ซึ่งคาดว่า เทคโนโลยีหลายส่วน จากเจ้าตัวทดลองนี้ จะกลายร่างเป็น E5 Series ออกมาให้ยลโฉมในปี 2554 ที่จะถึงนี้แหละ รถทดสอบล้ำยุคคันนี้ เริ่มสร้างมาตั้งแต่ปี 2547 แล้วปรับปรุงมาเรื่อย ๆ ทำความเร็วสูงสุดตอนทดสอบได้ถึง 405 กม./ชม. (จะเร็วกันไปไหน) แต่คาดว่าจะเอามาวิ่งจริงที่ 320 กม./ชม. ซึ่งก็ยังถือว่าเร็วกว่ารุ่นปัจจุบันที่วิ่งกันแค่เฉียด ๆ 300 กม./ชม. อยู่เยอะเลย รถทดสอบเป็นของ JR East โดยตรง ก็เลยทำสีเขียวปีกแมงทับ ให้คล้ายกับสีบริษัทซ่ะ.... คนออกแบบช่างกล้ามาก ไม่รู้ว่าพอออกมาเป็น E5 Series จริง จะยังใช้สีแนว ๆ แบบนี้อยู่รึเปล่า จากคุณ : NumAromDee - [ 21 ต.ค. 51 10:35:25 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เจ้า Fastech 360 ทำออกมาเป็น 2 ประเภทย่อย คือ 360S (E954 Series) เป็นรถทดสอบขนาดปกติ 8 ตู้ต่อขบวน ใช้วิ่งทดสอบในเส้นทาง โทโฮะคุ ชินคันเซน เป็นตัวที่คาดว่าจะกลายมาเป็น E5 Series 360Z (E955 Series) เป็นรถทดสอบขนาด Mini-Shinkansen 6 ตู้ต่อขบวน ใช้วิ่งทดสอบในเส้นทาง Yamagata หรือ Akita sinkansen คาดว่าจะทำไว้เผื่อเป็นเจนเนอเรชั่นถัดไปของ E3 Series (E3 ตอนนี้ยังเดินสายการผลิตอยู่นะ) จุดกิ๊ปเก๋ยูเรก้าของเจ้า FastTech 360 ก็คือ เบรคอากาศฉุกเฉิน รูปหูแมวสีเหลือง อันนี้ ได้แนวคิดมาจากเบรคอากาศของเครื่องบิน เอาไว้จัดการกับความเร็วสูงของรถ FastTech เลยมีชื่อเล่นว่า Nekomimi Shinkansen (Cat-eared Shinkansen) ตามชื่อหูแมวบนหลังคารถ แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 51 11:58:02 จากคุณ : NumAromDee - [ 21 ต.ค. 51 10:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 74 แวะมาเข้าใจด้วยคนจ๊ะ ^^ จากคุณ : แฟนอองรี - [ 21 ต.ค. 51 10:49:56 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เนะโคมิมิ นี่จริงๆ แล้วเป็นไอเดียหื่น ๆ ขำ ๆ ของคนญี่ปุ่น โดยเฉพาะชาวเผ่า Hentai ( http://en.wikipedia.org/wiki/Hentai ) ที่ชอบทำมาเป็นการ์ตูน Anime หรือ ของเล่น หรือไม่เอามาแต่งเป็น cosplay ให้ดูอะฮ่า... กึ๋ย เล่น ๆ ฝรั่งมี Bunny Girl สุดเซ็กซี่ ญี่ปุ่นเลยทำ Nekomimi สุดอินโนเซ็นท์ มาแข่งบ้าง เอามาเรียกเป็นชื่อเล่นรถไฟ ก็เลยดูคิกคุหายเครียดขึ้นเยอะ จากคุณ : NumAromDee - [ 21 ต.ค. 51 11:03:16 ]

ความคิดเห็นที่ 76 จ๊ากกก วันนี้มาเร็วแฮะ แวะมาให้กิ๊ฟก่อน เดี๋ยวมาอ่านต่อ งานเข้าๆๆ จากคุณ : bangkok dream - [ 21 ต.ค. 51 11:13:43 ]

ความคิดเห็นที่ 77 สวัสดีสาวอองรี... วันเสาร์ที่ผ่านมาเกือบหัวใจวายตาย หงส์แดงของผม มันเล่นธรรมดา เหนือ ๆ ไม่เป็นรึไงก็ไม่รู้ ชอบโกงความตาย ยิงชนะหวุดหวิดท้ายเกมส์อยู่เรื่อย 5 รอบแล้ว จะดูหงส์เตะเด๋วนี้ต้องกินยาบำรุงหัวใจก่อนทุกนัด เมื่อไหร่จะเล่นไหลลื่นยิงกระจายเหมือนปืนใหญ่ซ่ะทีก็ไม่รุ ========================= แม้จะเป็นรุ่นทดลอง แต่ก็ยังแอบทำ Logo ประจำรุ่นมาด้วย ใช้ Font ลีบ ๆ เล็ก ๆ เหมือนคนออกแบบ วาดไปหิวข้าวไป Space เยอะชมัด แถมมีการสะบัดสีชมพู ลงไปให้ดูอาร์ต (แต่ผมว่ารก)หน่อย ๆ ด้วย ดีนะที่เป็นแค่โลโก้ของรถทดสอบ น่าจะทำแก้คันไม้คันมือของทีมออกแบบซ่ะมากกว่ามั้ง??? ถ้าเอามาใช้จริง ผมว่าขี้เหร่เนะ เลยนะ เป็นความเห็นและความชอบส่วนตัวของผมคนเดียวนะครับ ถ้าขัดใจใครขออภัยด้วย จากคุณ : NumAromDee - [ 21 ต.ค. 51 11:18:16 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ขบวนของความเห็นที่ 25 มันชื่ออะไรอะไรหรือครับ ขบวนนี้น่านั่งสุดๆ แน่นดีครับกระทู้นี้ จากคุณ : นักบอลหมายเลข 8 - [ 21 ต.ค. 51 11:31:13 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ได้ข่าวว่าเวียตนามก็สั่งเอาเข้าไปวิ่งเหมือนกัน อืมพี่ไทยจะได้มีเมื่อไรเนี่ย ยังชกกันไม่หยุดอยู่เลย จากคุณ : อัลปลั๊ก - [ 21 ต.ค. 51 11:34:47 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ฟาสเทคตอนนี้เป็นเหมียวหูกุดไปแล้วนะครับ เพราะทดสอบแล้วสาารถเบรคได้ในระยะสั้นกว่าที่คาดไว้ เลยไม่จำเป้นต้องมีหูแมวแล้ว ปล.เวียดนามประกาศเลือกที่จะใช้ฟาสเทค360 มาให้บริการในโครงการรถไฟความเร็วสูงด้วย จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 21 ต.ค. 51 11:47:03 ]

ความคิดเห็นที่ 81 สวัสดีอาเจ๊ดรีม รีบมาเพราะเด๋วเย็นนี้ผมต้องขับรถเข้า กทม. ครับ ส่วนพรุ่งนี้คงประชุมทั้งวัน กลัวไม่เจอพี่น้อง เลยแอบอู้งานมาปั่นให้จบ ==================================== ใหม่ของใหม่ที่สุด ณ บัดเดี่ยวนี้ ก็ต้องของ JR Central กำลังทดสอบการวิ่งอยู่ที่ รางทดสอบของ Railway Technical Research Institute ที่จังหวัดยามานาชิ Maglev Train หรือ Magnetic Levitation Train System ครับ แปลเป็นไทยว่า รถไฟพลังแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นรถไฟที่ใช้แรงยกของพลังแม่เหล็กไฟฟ้า ยกรถให้ลอยเหนือราง เมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วมากกว่า 150 กม./ชม. ขึ้นไป ทำให้รถสามารถเร่งความเร็วได้สูงสุดเกินกว่า 500 กม./ชม. เำพราะไม่มีความฝืดจากราง ความเร็วในจิตนาการจากการคำนวนสามารถทำไปได้ถึง 900 กม./ชม. เท่ากับความเร็วเครื่องบินขับไล่เลยนะ ในโลกแห่งความเป็นจริง ญี่ปุ่นสร้างรถต้นแบบเอามาทดสอบวิ่งจริง ได้ความเร็วสูงสุดเป็นสถิติโลกอยู่ที่ 581 กม./ชม. เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2546 ตอนนี้แข่งกันอยู่ 2 เจ้า ญี่ปุ่น กับ เยอรมัน (ประเทศที่แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งคู่!!!) แต่เยอรมันขายเทคโนโลยีไปให้จีน เอาไปสร้างวิ่งทดสอบได้แล้วที่สถิติสูงสุด 501 กม./ชม. แต่วิ่งจริงอยู่ที่ไม่เกิน 431 กม./ชม. จากตัวเมือง Pudong (ใครอ่านชื่อไทยของเมืองนี้ให้ผมทีนะครับ) ไปสนามบิน รายละเอียดของ Maglev ของจีน ดูตามนี้นะครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Shanghai_Maglev_Train Maglev ญี่ปุ่น ตามนี้ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/JR-Maglev ส่วนรายละเอียดของเทคโนโลยี Maglev อ่านเอาตามนี้นะ http://en.wikipedia.org/wiki/Maglev_train จากคุณ : NumAromDee - [ 21 ต.ค. 51 11:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 82 สวัสดีครับคุณนักบอลหมายเลข 8 ขบวน คห. 25 เป็นขวัญใจผม (กับพี่ลาบราดอร์ฯ) ชื่อ โฮริคิตะ มาคิ หรือ มากิจัง ครับ พี่ไทยคงจะยากและอีกนานครับ คุณอัลปลั๊ก เพราะรางรถไฟ กว้างแค่เมตรเดียว เอารถไฟที่วิ่งเร็วกว่า 200 กม./ชม. มาวิ่งไม่ได้ ต้องสร้างรางใหม่ กว้าง 1.435 เมตร ตามมาตรฐานยุโรป ก่อนครับ สงสัยต้องรอให้แปรรูปการรถไฟไทยเป็นเอกชนก่อนมั้งครับ (จะทันได้เห็นรึเปล่าน้า... ) ขอบคุณพี่ลาบราดอร์ เททจังเลเวล 5 ตัวจริง ที่มาให้ความรู้เรื่องหูแมวโดนตัดให้ ว่าแต่เวียดนามนี่เสือปืนไวชมัดเลย ถ้าคนไทยยังทะเลาะกันไม่เลิกแบบนี้ อีกซัก 30 ปีข้างหน้า เวียดนามแซงไทยแน่... ฟันธง!!! รักกันเทอดพี่น้องไท อคติมันกินไม่ได้ แบกไว้ก็หนักนะ... =========================== ตัวทดสอบล่าสุดที่ทำได้ของ Maglev ญี่ปุ่น มีชื่อว่า MLX01 มี 3 ตู้ต่อขบวน แต่ต่อเพิ่มได้อีก 2 ตู้ เริ่มสร้างและทดสอบมาตั้งแต่เมื่อ 30 กว่าปีก่อน แต่ก็ยังไม่ได้ทำออกมาวิ่งจริงซ่ะที เพราะตัวรางและส่วนประกอบของรถต้องใช้ โลหะที่เป็นตัวนำยิ่งยวด (Superconductor) ราคาแพงนรกมาก JR Central พึ่งประกาศออกมาเมื่อ 25 ธันวาคม 2550 ว่า จะสร้างทางรถไฟที่เป็น Maglev และเปิดใช้บริการจริงระหว่าง โตเกียว กับ นาโงย่า ในปี 2568 นู่น.... ตอนนี้กำลังก่อสร้างรางอยู่ หวังว่าแฮมเบอร์เกอร์บูด คงไม่มีผลกระทบไปถึง ปลาดิบตัวนี้นะ จากคุณ : NumAromDee - [ 21 ต.ค. 51 12:23:00 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ไปกินข้าวก่อนนะครับ เด๋วมาต่อ อีกนิดเดียวจะจบละ จากคุณ : NumAromDee - [ 21 ต.ค. 51 12:25:04 ]

ความคิดเห็นที่ 84 มาแปะชื่อไว้ก่อน ช่วงนี้งานยุ่งมากเลย เด๋วกลับมาอ่าน จากคุณ : KaLaMunGG_G - [ 21 ต.ค. 51 12:59:51 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ติดตามชม จากคุณ : Draught Beer - [ 21 ต.ค. 51 13:14:07 ]

ความคิดเห็นที่ 86 สวัสดีคุณกะละมังกิ๊ก... งานยุ่งทำงานก่อนเลยครับ ส่วนผม ตอนนี้แกล้งงานยุ่งครับ... คริ คริ ============================== สุดท้ายแล้ว..... เอาแผนที่เส้นทางในอนาคตของชินคันเซนมาให้ดู เส้นทางในปัจจุบัน คือ เส้นทางที่ใช้สี ส้ม น้ำเงิน เขียว ฟ้า ชมพู ม่วง และ แดง เอาไว้ ส่วนเส้นทางสีเทา เป็นเส้นทางที่กำลังอยู่ในแผน สีเทาแก่ คือ กำลังก่อสร้าง สีเทาอ่อน คือ วางแผนไว้ว่าจะทำ ทางเหนือ ปัจจุบันวิ่งไปสุดแค่ ฮาชิโนเฮะ กำลังสร้างรางต่อไปที่ ฮาโคดาเทะ เริ่มสร้างเมื่อเดือน พ.ค. 2548 คาดว่าจะเสร็จปี 2558 นานหน่อย เพราะต้องขยายอุโมงค์รถไฟ เซคัง (Seikan) ที่เชื่อมระหว่างเกาะฮอนชู กับ ฮอกไกโด ให้สามารถวางรางชินคันเซนเพิ่มได้ และต้องสร้างสถานีรถไฟใหม่ชื่อ Shin-Hakodate กับ Shin-Aomori ด้วย แล้วในอนาคต มีแผนจะขยายรางชินคันเซนให้ยาวไปถึงซัปโปโร่ด้วย ที่นี้จะได้มีรถไฟความเร็วสูงวิ่งไปถึงฮอคไคโดซ่ะที ส่วนทางภาคกลาง ก็กำลังต่อขยายรางชินคันเซน สายนางาโน่ จากจังหวัดนางาโน่ วิ่งเรียบชายฝั่งด้านตะวันตกไปที่จังหวัดคานาซาว่า คาดว่าน่าจะเสร็จไล่ ๆ กับสายเหนือ และในอนาคตจะสร้างเรียบทะเล อ้อมต่อไปบรรจบกับสายโทะไคโด ที่โอซาก้าด้วย ส่วนที่เกาะคิวชู ตอนนี้กำลังสร้างทางเชื่อมระหว่างสถานีฮาคาตะ เมืองฟุคุโอคะ กับ สถานี Shin-Yatsushiro จังหวัด Kumamoto ปี 2554 จะต่อเชื่อมกันเสร็จ และในอนาคตมีแผนจะขยายเส้นทาง แยกออกไปที่นางาซากิอีก ส่วนสายใหม่ที่เกริ่นไปแล้วเรื่อง Maglev ตอนนี้เริ่มก่อสร้างไปแล้ว ระหว่างโตเกียวไปนาโงย่า คาดว่าจะเสร็จให้ใช้งานในอีก 17 ปีข้างหน้า (รอกันไหวป่ะ) นานหน่อย เพราะเป็นรางแม่เหล็กไฟฟ้า สร้างยาก อนาคตทางสาย Maglev ที่ตั้งชื่อไว้แล้วว่า Chou Shinkanen จะยิงยาวไปจนถึง โอซาก้า คาดว่าจะลดเวลาในการวิ่งจากเกือบ 3 ชั่วโมง ลงเหลือแค่ 40 นาที!!! แล้วผมจะตั้งใจรอจนถึงวันนั้นด้วยใจระทึกครับ แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 51 14:34:37 แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 51 13:42:46 จากคุณ : NumAromDee - [ 21 ต.ค. 51 13:40:47 ]

ความคิดเห็นที่ 87 จากความเห็นที่ 45 ขออนุญาตเอารูปมาแปะครับ ถ่ายจากห้องโดยสารชั้นล่างของเจ้าแม๊ก ซักแม๊กนี่แหละ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะนั่งจากเซนไดนะ ตอนเข้าไปนั่งยังเสียวๆครับ มันติดขอบชานชลาจริงๆ ยังกลัวว่าตอนมันเคลื่อนเข้าออกจะครูดกับชานชลาหรือเปล่า จากคุณ : MedicinePath - [ 21 ต.ค. 51 15:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 88 อีกซักรูป แล้วขอชมคุณหนุ่มด้วยว่าเยี่ยมมากๆครับ ขอบคุณมากครับบบบบบบบบบบบบบ ผมเป็นคนหนึ่งที่มีความสุข แล้วก็อึ้งทุกครั้งที่ได้นั่งรถไฟญี่ปุ่น เคยคิดแล้วก็พูดกับเพื่อนญี่ปุ่นเล่นๆว่า ซักวันนะ ไอจะมาญี่ปุ่น แล้วซื้อตั๋วเจอาร์ซักสองสามวีค จะนั่งรถไฟเล่นอย่างเดียว (มันมองผมแปลกๆครับ) แต่คิดจริงๆนะเนี๊ย เพราะเรื่องเที่ยว ค่อนข้างเริ่มอิ่มตัวละ แต่รถไฟเนี๊ยบางสายที่น่าสนใจยังไม่มีโอกาสขึ้นเลย ตอนเรียนที่นางาซากิ อยากขึ้นชินคันเซน ของคิวชูมาก ติดแต่ว่าไม่มีเจอาร์ กลัวกระเป๋าพัง ไว้วันหน้าจะลองไปนั่งให้หน่ำใจ จากคุณ : MedicinePath - [ 21 ต.ค. 51 15:18:39 ]

ความคิดเห็นที่ 89 อีกซักนิด คำถามแฟนพันธ์แท้ ไม่ได้ลองภูมินะครับ แต่อยากรู้จริงๆ ไม่รู้ว่าคุณหนุ่มพูดไปอะยัง ผมอ่านกระทู้ไป ตรวจคนไข้ไปตาชักลาย ตอนนี้ ญี่ปุ่นมีระยะทางรถไฟรวมกันทั้งประเทศยาวประมาณเท่าไหร่แล้วเหรอครับ? แล้วจำนวนเที่ยวของรถไฟ ทั้งชินคันเซน และอื่นๆเนี๊ย รวมแล้วกี่เที่ยวต่อวันเหรอครับ? แค่อยากรู้ อะครับ จากคุณ : MedicinePath - [ 21 ต.ค. 51 15:22:53 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ขออนุญาตอีกซักครั้ง พึ่งรีเพรส หน้าจอ อ่านเจอที่คุณหนุ่มพูดถึงรถไฟ Maglev นึกได้ว่าเคยนั่งที่เซียงไฮ้ เลยไปหารูปแล้วเอามาแชร์ครับ เร็วมากๆ เลยนิ่มด้วย แต่ภายในไม่สวยไม่หรูเท่าชินคันเซน ไม่มีอาหารน้ำดื่มบริการเพราะว่าวิ่งแป๊บเดียวก็ถึงสนามบินแล้วครับ รูปนี้เป็นรูปถ่ายจากด้านนอก ไม่ค่อยชัดเพราะรีบถ่าย กลัวไม่ทัน รูปเลยไม่ค่อยสวย แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 51 16:12:42 จากคุณ : MedicinePath - [ 21 ต.ค. 51 15:39:19 ]

ความคิดเห็นที่ 91 นี่เป็นด้านนอกรถ ขอเอาสีไปทาหน้าเพื่อนนิดหนึ่งนะครับเดี๋ยวเค้าโกรธเอาที่เอารูปมาโพส พอดีไม่มีรูปที่ถ่ายกับตัวรถอย่างเดียว รีบถ่ายกลัวว่าจะตกรถ รถยิ่งวิ่งเร็วๆอยู่ด้วย ถ้าตกรถหละก้อแย่เลย อิๆๆ เพื่อนคนจีนมันบอกว่า รัฐบาลจีนตั้งใจซื้อเทคโนโลยีนี้มาจากเยอรมัน เพราะว่าต้องการความเป็นที่สุดเหนือกว่าประเทศอื่น (ผมไม่เอ่ยนามนะครับ) เป็นการลงทุนที่แพงมากๆ แต่เค้าว่าคุ้มค่า(เหมือนกับที่กำลังสร้างตึกที่สูงที่สุดในโลก ที่เซียงไฮ้เหมือนกัน เพื่อความเป็นที่สุด จีนทุ่มได้ครับ ปล. แอบนอกเรื่องนิดหนึ่งนะครับว่า วิศวกรทีก่อสร้างตึกทีว่าเนี๊ย คนญี่ปุ่นครับ ค่าจ้างแพง แต่ก็ทุ่ม) เพื่อนยังบอกอีกว่า ตัวรางรถไฟเนี๊ย แพงกว่ารถ (ไม่รู้จริงหรือเปล่า) แล้วจีนยังมีแผนที่จะขยายส่วนต่อเพิ่มเอง (เพื่อนพูดติดตลกว่า จีนซื้อมาแล้วศึกษา แล้วจะพัฒนาเอง ไม่เรียกว่าก๊อปปี้นะ แต่ดัดแปลง เอ่อ อันนี้น่ากลัวนิดหนึ่งนะครับ ???) จากคุณ : MedicinePath - [ 21 ต.ค. 51 15:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 92 รูปด้านในตัวรถครับ ดูธรรมดามากๆ ไม่หรูหราสมราคา และความเร็วเท่าไหร่ ยังไงผมก็ชอบชินคันเซนมากกว่า ผมอยากลองนั่งที่เยอรมัน (ออริจินอล) ตอนไปเที่ยวที่นั่น ถามเพื่อน มันบอกว่าไม่มี (จริงหรือเปล่าทุกวันนี้ยังไม่ได้เช็คเลย) มันบอกว่า เยอรมันที่เปิดแบบทดสอบเฉยๆ ไม่เอามาวิ่งจริงๆ มีแพลนว่าจะสร้างที่มิวนิก ไปสนามบิน ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้เงินประมาณ€1.85 billion (US$2.6 billion) แพงสุดๆครับ แล้วถ้าวิ่งจะใช้เวลาประมาณ 10 นาที แทนที่จะเป็น 40 นาที่เหมือนปัจจุบัน แต่โครงการยังไม่เริ่ม เป็นที่ถกเถียงกันอยู่ (ผมอยากให้ญีปุ่นสร้าง จากโตเกียวไปนาริตะจังเลยครับ ผมพึ่งกลับจากญี่ปุ่นมาเมื่อวาน บินสิงคโปร์ ต้องตื่นแต่เช้า เพื่อขึ้นรถไฟรอบ 6.33 ไปนาริตะ ทรมานสุดๆ แถมไม่ได้จองไว้ก่อนเต็ม เลยนั่งๆยืนๆ ตรงระหว่างโบกี้ ทรมานน่าดูชม) จากคุณ : MedicinePath - [ 21 ต.ค. 51 16:00:13 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ส่วนนี้เป็นความเร็วสูงสุดที่ผมนั่งตอนนั้น กะว่าจะวิ่งเร็วกว่านี้ซะอีก แต่ตัวเลขมันหยุดอยู่ที่นี่ แล้วค่อยๆลดลงแล้ว ระยะทางที่วิ่งประมาณ 30 กิโลเมตรครับ ระยะเวลาประมาณ 7 นาทีกว่าๆเอง จำได้ตอนนั่งจากสนามบินเข้าเมืองด้วยรถบัส เกือบครึ่งชั่วโมง เร็วดีแท้ๆ พอได้ยินคุณหนุ่มบอกว่าเจอาร์กำลังสร้าง รถไฟ Maglev เหมือนกัน ก็ดีใจครับ เพราะติดตามมาเหมือนกันลุ้นว่าเมื่อไหร่จะสร้าง ผมเคยถามเพื่อนที่เป็นวิศวกร เมื่อปีที่แล้วหรือปีก่อนก็ไม่รู้(แต่เป็นวิศวกร จราจรการบิน เค้นจากมัน ทั้งๆที่มันก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ว่าเมื่อไหร่จะสร้างซะที) มันบอกว่า เค้ากำลังคิดถึงความคุ้มค่า เพราะว่าค่าก่อสร้างแพงมากๆ ไหนจะรวมไปถึงค่าดูแลรักษารางอีก แล้วถ้าเอามาวิ่งรับส่งคนทั่วไป ค่าตั๋วโดยสารคงแพงมากๆ ไม่รู้ว่าจะขาดทุนหรือเปล่า เค้า(เพื่อนผม)คิดว่า ชินคันเซน น่าจะอำนวยความสะดวกพอแล้ว ผมก็เห็นด้วยกับมันนะ แต่ว่าเราก็อยากเห็นอยากลองนั่งรถไฟที่คิดและผลิตจากคนเอเชียนี่น่า..... แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 51 16:15:59 จากคุณ : MedicinePath - [ 21 ต.ค. 51 16:10:43 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ขอบคุณท่านเบียร์ด้่วยที่มาติดตามทุกครั้ง ขอบคุณรูปวิวคนข้างล่าง จากคุณหมอ MedicinePath ที่มาช่วยยืนยันความเ็ห็นของผมว่า นั่งรถไฟชั้นล่าง วิวมันสยิวกิ้วจริง ๆ และขอบตอบคำถาม ที่คุณหมออยากรู้ ดังฉะนี้ ทางรถไฟในญี่ปุ่นทั้งหมด ณ ข้อมูลที่ผมมีอยู่ตอนนี้เป็นของปี 2549 ยาวทั้งหมดประมาณ 27,268 กม.    JR ทุกบริษัท ดูแลเส้นทางรถไฟอยู่ 20,135 กม.    ที่เหลืออีก 7,133 กม. เป็นของรถไฟเอกชนเจ้าอื่น ๆ    ในปี 49 มีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟทั้งหมดทุกเ้จ้ารวมกันประมาณ สองหมื่นสองพันสองร้อยสี่สิบล้านคน!!!    เยอรมัน ว่าเซียน ๆ เรื่องรถไฟ มีทางรถไฟทั้่งประเทศยาวกว่า 40,000 กม. หรือกว่า 2 เท่าของญี่ปุ่น ยังมีผู้โดยสารต่อปีเฉลี่ยแค่ สองพันสองร้อยล้านคน เอง... น้อยกว่ากัน 10 เท่า     สำหรับจำนวนเที่ยวรถไฟทั้งหมดต่อวัน มีข้อมูลดิบอยู่ แต่ผมยังไม่เคยนับ ถ้าว่างผมจะลองนับดูให้ แต่เอาเป็นว่า...     ที่สถานีรถไฟโตเกียว เฉลี่ยทุก 1 วินาที จะมีรถไฟวิ่งเข้า-ออกจากสถานีอย่างน้อย 1 ขบวน     ชินคันเซนสายโทะไคโด กับ ซันโย มีออกจากสถานีเฉลี่ยทุก 7 นาที     ส่วนชินคันเซนสายโทะโฮะคุ มีออกจากสถานีเฉลี่ยทุก 10 นาที     ชินคันเซนมีออกเที่ยวแรกประมาณ 6 โมงเช้า เที่ยวสุดท้ายประมาณ 5 ทุ่ม เบาะ ๆ ก็ร้อยกว่าเที่ยวต่อสายขึ้นไปแล้วครับ     ยังไม่นับพวกรถไฟธรรมดา (Local) รถด่วน (Rapid) หรือ พวก Limited Express อีกนะ อันนั้นอีกเป็นลายร้อยเที่ยวต่อวัน แล้วไม่ใช่สถานีโตเกียวสถานีเดียวที่เป็นศูนย์กลางการเดินรถ ยังมีรถไฟที่ใช้ต้นทางจากสถานีชินจูกุ อิเคะบุคุโระ ชินะงาว่า อูเอโนะ หรือ ชิบุย่า อีก     ทั้งหมดที่ว่ามา ผมยังไม่ได้นับรวมพวก รถไฟใต้ดิน รถไฟลอยฟ้า หรือ รถราง เลยนะครับ     แล้วยังไม่นับว่า แทบทุกปี จะมีการปรับปรุงสายการเดินรถ เพิ่มขบวน เปิดเส้นทางใหม่ อีกละครับ     ครั้งนึงไฟดับที่สถานี คอมพิวเตอร์ใช้ไม่ได้ ผมเลยเห็นเจ้าหน้าที่ JR สำนักงานหน้าต่างเขียว (Midori-no-madoguchi) เค้าควัก คู่มือเส้นทางการเดินรถทั้งประเทศ ออกมาดู    มันหนาเท่า สมุดโทรศัพท์ของ TOT ครับ!!!      ถือว่าเป็นคำถามที่ท้าทายมากครับ ขอติดไว้ก่อนนะครับ ถ้ามีโอกาส จะลองหาคำตอบให้      ไม่ถือว่าลองภูมิหรอกครับคุณหมอ ยิ่งถามมาก ถามลึก แสดงว่าคนที่อ่านสนใจ และเป็นคนชอบเรื่องจุ๊กจิกซอกแซกเหมือนกัน ซึ่งมันจะยิ่งทำใ้ห้ผมต้องขยันขวนขวายหาความรู้มาตอบคำถามให้ได้ แล้วผมก็จะรู้มากตามไปด้วย ผมถือว่าคุณหมอเป็นคนเผ่าเดียวกันกับผมครับ ถ้าอ่านแล้วงง งง แล้วก็จากไปเงียบ ๆ ผมจะรู้สึกแย่มากกว่า ว่าเราเขียนยังไงให้คนอ่านไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ดังนั้น ฝากบอกถึงพี่น้องท่านอื่นด้วย ถามมาได้ทุกเรื่องครับ ถ้ารู้ก็จะตอบ ไม่รู้ก็จะไปถามรือไปค้นหาข้อมูลมาให้ ถ้าไม่แน่ใจผมก็จะบอกว่าไม่แน่ใจ ถ้าผมมั่ว ก็ติงมาได้เลย จะได้เอาไปปรับปรุง แลกเปลี่ยนกันแบบนี้.... ผมชอบครับ มาบ่อย ๆ นะครับ คุณหมอ MedicinePath จากคุณ : NumAromDee - [ 21 ต.ค. 51 16:33:17 ]

ความคิดเห็นที่ 95 แถมให้คุณหมออีกเรื่อง ๋JR เคยเริ่มต้นก่อสร้างทางรถไฟสาย นาริตะ ชินคันเซน จากโตเกียว ไปสนามบินนาริตะ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี  2515 หรือเมื่อ 36 ปีที่แล้ว แต่ก็ต้องหยุดโครงการในปี 2526 เพราะมีปัญหากับชุมชน เรื่องการเวรคืนที่ดิน เหลือตอหม้อที่สร้างขึ้นมาระยะทาง 9 กม. ใกล้ ๆ กับสนามบินนาริตะ เหมือนโครงการ โฮบเลส เอ๊ย! โฮบเวล ที่บ้านเราเลย ทาง Keisei Electric Railway หรือ รถไฟ Keisei เลยชุบมือเปิบ เอารถ Skyliner ที่เทียบเท่าชินคันเซน มาวิ่งแทนซ่ะเลย โดยขอเช่าตัวสถานีในชั้นใต้ดินของสนามบินจาก JR ใครว่าญี่ปุ่นเนี๊ยบจนไม่มีของแบบนี้..... รูปตอหม้อชินคันเซน แถว ๆ ใกล้สนามบินนาริตะ ที่ยังเหลืออยู่เป็นอนุสรณ์ครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 21 ต.ค. 51 16:47:17 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เดี๋ยวผมจะขับรถกลับกรุงเทพแล้วครับ (ผมทำงานที่ระยอง) ถ้าคุณหมอ หรือ พี่น้องท่านอื่น มีคำถาม หรือ ประเด็นมัน ๆ จะแลกเปลี่ยนแบบนี้ ฝากข้อความไว้ได้เลยครับ ทั้งหน้ากระทู้ หรือ หลังบ้าน หรือ จะอีเมล์ก็ได้ numaromdee@gmail.com ครับ แล้วคืนนี้ ก่อนนอน ผมจะเข้ามาตอบอีกที ขอบคุณมากครัับที่ติดตาม ทักทาย และ ใ้ห้ความเห็น แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 51 17:03:41 จากคุณ : NumAromDee - [ 21 ต.ค. 51 16:57:25 ]

ความคิดเห็นที่ 97 shinkansen มีมากมายหลายสาย แถมยังหน้าตาแปลก ๆ ตอนมีเวลา ก็ไม่มีตังค์เที่ยว ตอนมีตังค์็ไม่มีเวลาเที่ยว อยากจะหาเวลาสักเดือน ซื้อ JR Pass เที่ยวญี่ปุ่นโดยรถไฟให้พรุน แบบให้บริษัท JR เลิกขาย JRpass ไปเลย ขอบคุณคุณหนุ่ม ที่รวบรวมเรื่องราวดี ๆ อย่างนี้ครับ แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 51 20:05:12 จากคุณ : หมอดาริน - [ 21 ต.ค. 51 20:04:52 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ขอบคุณ คุณหนุ่ม สำหรับคำตอบครับ ยอมรับนับถือจริงๆ มีความสุขที่ได้อ่านได้รู้ครับ คงติดตามต่อไปแน่นอนแล้วจะแวะมาทักทายบ่อยๆ ผมเดาเอาไว้ว่าน่าจะประมาณ สองหมื่น แต่เยอะกว่าที่เดาเอาไว้อีกแฮะ ถ้าเทียบกันแล้ว ระหว่างขนาดพื้นที่ประเทศและความชุก ญี่ปุ่นกินขาดเยอรมันเลยครับ แล้วอีกอย่างขอบ่นหน่อยเหอะ จากประสบการณ์ การนั่งรถไฟในเยอรมัน ประมาณวีคกว่าๆ ผมอึดอัดครับ เพราะไม่เคยนั่งเลย อย่างแรก การจองที่นั่ง ต้องเสียเงินเพิ่ม ไม่ถูกรวมในยูเรลพาส แอบแพงด้วยนะครับ เพราะใช้ตั๋วชั้นหนึ่ง(ไม่ได้ตั้งใจหรูหรอก แต่เพื่อนเลิฟอยากนั่ง) อย่างที่สอง ผมคุ้นกับความเที่ยงตรง กับรถไฟญี่ปุ่น พอมาเจอพี่เยอรมัน ผมยอมแพ้เลยครับ รถไฟที่นั่งแล้วเลทที่สุดในญี่ปุ่นของผม คือ สามนาที ที่เยอรมัน สี่สิบห้านาทีครับ จะบ้าตาย เหตุผลที่ประกาศคือ มีรถไฟอีกขบวนอยู่ในชานชลาที่จะจอด แม่เจ้า วางแผนกันยังไงเนี๊ย.... แอบบ่นให้เพื่อนเยอรมันฟัง แถมกัดกลายๆว่า ไอชอบรถญี่ปุ่นมากกว่า มันมองแบบเคืองๆแต่ไม่เถียงแฮะ แล้วเรื่องการวางที่นั่ง แม้จะเป็นที่นั่งชั้นหนึ่ง ผมว่าได้หรูอะไรมากเลยครับ แถมวางที่นั่งแปลกๆ มีโต๊ให้ทำงานได้ แต่ปรับอะไรไม่ได้ เข้าออกลำบาก ที่นั่งหมุนไม่ได้ เพื่อนผมมันเป็นคนเมารถ เมาเรือง่าย มันบ่นมากเวลาต้องนั่งแล้วหันหลังให้ทิศทางรถ ผมบอกว่า ถ้าเป็นญี่ปุ่นนะ จะหมุนที่นั่งได้ สบายกว่าเยอะ บ่นมาซะเยอะเลย จบดีกว่า คุณหนุ่มเดินทางปลอดภัยนะครับ... จากคุณ : MedicinePath - [ 21 ต.ค. 51 22:02:10 ]

ความคิดเห็นที่ 99 มาเรียนต่อค่ะ ถ้ามีวิชารถไฟญี่ปุ่นเปิดสอนจริงๆก็ดีสิน้า^^ อ้อ Pudong --> ผู่ตง ค่ะ ปล. รถไฟสองชั้นนี่ไม่ใช่เฉพาะชินคันเซ็นใช่ัมั้ยคะ รถไฟธรรมดาก็มีสองชั้นด้วยรึเปล่า จากคุณ : yuki_shimi - [ 21 ต.ค. 51 22:12:39 ]

ความคิดเห็นที่ 100 แวะมายิ้มหวานๆ   จากคุณ : sueko - [ 21 ต.ค. 51 22:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 101 จากความเห็นที่ 98 ไปหารูปมา เจอที่ถ่ายเล่นๆไว้อยู่สองสามรูป นี่รถชั้นหนึ่งนะเนี๊ย หมุ่นเบาะก็ไม่ได้ จากคุณ : MedicinePath - [ 21 ต.ค. 51 22:52:54 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ชื่นชม คุณหนุ่มมากๆ ครับ แน่นปึ๊ก ...  อ่านไป ไม่มีเบื่อ เลยครับ ชอบจัง จากคุณ : phopan - [ 22 ต.ค. 51 10:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ไม่เป็นไรมิได้ครับคุณหมอดาริน เป็นความชอบส่วนตัวของผมด้วย เขียนแล้วสนุก เขียนด้วยความอยากจะเขียน มันเขียนได้เรื่อยๆ ครับ ๋ใช้ตั๋ว JR Rail Pass ให้คุ้มสุดสุด ยังไง ขนหน้าแข้ง JR ก็ไม่ร่วงหรอกครับ คุณหมอดาริน ถ้าคุณหมอเห็นรายได้ของบริษัทเค้าแล้ว คุณหมอจะตกกระใจจนแทบตกเก้าอี้ก้นจ้ำเบ้า เหมือนที่ คุณ s7014249 บอกไว้ รายได้แค่ JR East บริษัทเดียว แค่ 6 เดือน ก็ร่วม ๆ สามแสนล้านบาท แล้วครับ!!! ขาดรายได้จากนั่งท่องเที่ยวที่ถือ JR Pass แค่นี้ จิ๊บจิ๊บ... เลยครับ แต่ยังไงก็ขออวยให้โอกาสได้เที่ยวมาถึงมือคุณหมดดารินไวไวนะครับ ดีใจยัง ตอนนี้มีุคุณหมอ 3 คนมาคอยอ่านกระทู้ผมแล้ว..... หมอดาริน หมอโมรา(Agate) และ คุณหมอ MedicinePath เป็นเกียรติมากเลยครับ วิศวกรเครื่องแกง(ฮังเล)อย่างผมต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอบคุณสำหรับยิ้มหวาน ๆ ครับ คุณ Sueko นี่ก็ติดตามกันตลอด ขอบคุณจริงจังอย่างมากมายเลยนะครับ คุณ phopan รถไฟธรรมดาก็มี 2 ชั้นครับ คุณยูกิ แต่ไม่ได้มีเยอะ เพราะรถ 2 ชั้น เท่าที่เ็ห็น จะทำเป็นตู้ Green Car กันหมด จะมีเฉพาะขบวนที่ต้องวิ่งไกล ๆ และมีผู้โดยสารที่ต้องการนั่ง Green Car ที่เคยเห็น รถ 2 ชั้น ก็มี - Sobu Line กับ Yokosuka Line ที่วิ่งจากนาริตะ เข้าโตเกียว (จริง ๆ แล้ว ทั้ง 2 สายนี่ใช้รถคันเดียวกัน แต่มาเปลี่ยนคนขับที่โตเกียว) ๋- Joban Line ที่เป็น Rapid - Narita Line ที่วิ่งอยู่ทางเหนือของโตเกียว ระหว่าง Ueno ไปจังหวัด Chiba มันก็ไม่เชิงจะเป็นตู้ 2 ชั้น สมบูรณ์แบบทั้งขบวนเหมือนขบวน Max ของ ชินคันเซนหรอกนะ แต่จะเป็น 2 ชั้นแค่บางส่วน และทั้งขบวนก็มีตู้ 2 ชั้นพ่วงมาแค่ 1 หรือ 2 ตู้เท่านั้นเอง แถมบางตู้ก็ไม่ได้เป็น 2 ชั้นทั้งหมดด้วย เป็น 2 ชั้นเฉพาะตรงกลางตู้ แบบรูปข้างล่าง ขอบคุณคุณยูกิมากนะครับ สำหรับคำอ่านชื่อเมืองเป็นภาษาไทย ขออภัยด้วยที่ตอบช้า ช่วงนี้งานเข้าครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 22 ต.ค. 51 21:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 104 เข้ามา update ข่าวเรื่องของ Maglev ให้แล้วนะครับ ว่าจะสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้งานในปี 2025 โดยทาง JR ประกาศเรื่องนี้เรียบร้อยแล้วครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7130485/E7130485.html แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 51 08:12:39 จากคุณ : s7014249 - [ วันปิยมหาราช 08:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ตามมาให้กำลังใจ  จขกท. ครับ Fighto! Fighto! จากคุณ : BOMPS - [ วันปิยมหาราช 11:35:17 ]

ความคิดเห็นที่ 106 เรื่องใช้ JRPass นั่งรถไฟญี่ปุ่น จนบริษัท JR ต้องทบทวนการขาย JRpass เป็นเรื่องแซวเล่น ๆ ของบรรดาเท็ตจังในเมืองไทยครับ ว่าถ้าได้ไปคงใช้ JR passนั่งรถไฟกันถล่มทลายแน่ ตอนนี้บรรดาเท็ตจังในเมืองไทยกำลังวางแผน หยอดกระปุก ไปทัวร์็เท็ตจังอยู่เหมือนกันครับ ตอนนี้ก็รับสมัครเท็ตสึโกะไปพลาง ๆ ด้วย ฮ่าฮ่า จากคุณ : หมอดาริน - [ วันปิยมหาราช 11:37:33 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ตามอ่านจนครบทุกตอนแล้วนะคะ  ขอบคุณข้อมูลดีๆ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ มีประโยชน์มากมาย จากคุณ : ลอดช่องแตงไทย - [ วันปิยมหาราช 13:24:44 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ชอบมากๆ เหมือนเดิมครับ จากคุณ : Ko (Essueko) - [ 24 ต.ค. 51 11:25:22 ]

ความคิดเห็นที่ 109 การใช้บริการ JR มีข้อห้าม ข้อจำกัดอะไรบ้างไหมครับ เช่น ห้ามนำอะไรติดตัวขึ้นโดยสารขบวนรถบ้าง หรือให้ขนสัมภาระติดตัวได้กี่ชิ้น ขนาด น้ำหนักสูงสุดเท่าไรครับ อยากทราบข้อมูลครับ เผื่อวันหนึ่งได้ใช้บริการ ขนาด รฟท. ยังจำกัดน้ำหนักสัมภาระติดตัวผู้โดยสารเลย อยากรู้มานานแล้ว ได้มีโอกาสเจอคนรักรถไฟมาร่วมสังสรรค์กัน ขอถามซะเลยแล้วกันนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 51 14:47:54 จากคุณ : BOMPS - [ 24 ต.ค. 51 14:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 110 คำถามของคุณ Bomps รบกวนอ่านรายละเอียดดูตาม link นี้นะครับ http://www.japanrail.com/JR_luggage.html ขออภัยมาตอบให้แบบละเอียด ๆ ไม่ได้ เพราะช่วงนี้งานเ้ข้าครับ สรุปว่า เอาขึ้นได้ 2 ใบใหญ่ ๆ (จริง ๆ จะมากกว่านี้ก็ได้ ถ้าแบกไหว เค้าไม่ห้ามหรอก) เอาขึ้นได้สารพัด แม้กระทั้งอาหาร แต่ขออย่างเดียว ห้ามของมีกลิ่นแรงพวกทุเรียนกวนหรือปลาร้าสับ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่เข้าจะนึกว่าเอาของเน่าขึ้นรถ ของที่ห้ามคือ พวกวัตถุอันตราย สัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้ใส่กล่องใส่กรง จักรยานหรืออุปกรณ์กีฬา(สกี) ที่ไม่ได้ใส่ถุง ชั้นวางของเหนือศีรษะ ของชินคันเซนที่ใหญ่เหลือเฟือเลยครับ ขนาดเอาเป้ใบยักษ์วาง ยังเหลือ ขอตอบแค่นี้นะครับ จากคุณ : NumAromDee - [ 24 ต.ค. 51 19:01:42 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล ปลอดโปร่งเมื่อไร ค่อยกลับมาเขียนให้พวกเราอ่านต่อนะครับ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ จากคุณ : BOMPS - [ 26 ต.ค. 51 13:29:06 ]

ความคิดเห็นที่ 112 หุหุ..........กว่าจะหาทู้พี่ทั่นเจอ..... ชอบมากๆเลยครับ............ จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว - [ 26 ต.ค. 51 14:34:29 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 27 ต.ค. 51 09:57:04 ]