PANTIP.COM : E7126905 อธิบดีสั่งรื้อรีสอร์ทหรูเกาะอาดัง กฤษฎีกาชี้ขาดที่ดินกรมอุทยานฯ [ท่องเที่ยวไทย]

อธิบดีสั่งรื้อรีสอร์ทหรูเกาะอาดัง กฤษฎีกาชี้ขาดที่ดินกรมอุทยานฯ

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติเตรียมรื้อถอนรีสอร์ทหรู 5 ไร่บนเกาะอาดัง จ.สตูล หลังคณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยพื้นที่ทับซ้อนกรมธนารักษ์เป็นที่ดินกรมอุทยานแห่งชาติ เผยเปิดโอกาสผู้ประกอบอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วันหากไม่อุทธรณ์กรมอุทยานมีอำนาจสั่งรื้อถอนทันที

นายอุภัย วายุพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า จากกรณีที่ผู้ประกอบเอกชนท้องถิ่นใน จ.สตูล และนักการเมืองจากพรรคชาติไทย ได้เช่าพื้นที่ราชพัสดุกรมธนารักษ์สตูล จำนวน 5 ไร่บนเกาะอาดัง อุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตาเป็นระยะเวลา 25 ปี เพื่อก่อสร้างรีสอร์ท

โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2550 แม้ว่าทางอุทยานตะรุเตา จะได้คัดค้านการเช่าพื้นที่กับธนารักษ์สตูลมาตั้งแต่เริ่มโครงการ ล่าสุดเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ก็นำเรื่องดังกล่าวส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความเกี่ยวกับปัญหาพิพาทเรื่องข้อกฎหมายที่ยังทับซ้อนกันอยู่ ระหว่างกฎหมายอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และกฎหมายที่ดินราชพัสดุ ของกรมธนารักษ์ และทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีคำวินิจฉัยแล้วว่า

เนื่องจากกฎหมาย 2 ฉบับมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน กล่าวคือกรมธนารักษ์มีอำนาจหน้าที่ในการจัดหาประโยชน์ในที่ราชพัสดุ แต่เมื่อที่ดินที่ราชพัสดุตั้งอยู่ในเขตอุทยานตะรุเตา ซึ่งประกาศเป็นอุทยานเมื่อปี 2517 แล้วกรมอุทยานฯ มีหน้าที่โดยตรงในการคุ้มครองดูแลไม่ให้มีการกระทำการใดๆ ที่ขัดต่อมาตรา 16 และ 17 ของ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2504 ดังนั้นกรมธนารักษ์ต้องขอความเห็นชอบจากอุทยานก่อนถึงจะดำเนินการได้ แต่กรณีเกาะอาดัง กรมธนารักษ์ไม่ได้ขออนุญาต และอุทยานฯ ก็คัดค้านมาตลอด

นายอุภัย กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่ 2 กรณีที่กรมธนารักษ์นำที่ราชพัสดุในเขตอุทยานแห่งชาติเปิดให้เอกชนประมูลก่อสร้างรีสอร์ท ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์และฝ่าฝืนมาตรา 16 หลายประเด็น ดังนั้นกรมอุทยานฯ จึงมีอำนาจใช้มาตรา 21 และ มาตรา 22 ให้ประกาศรื้อถอนสิ่งก่อสร้างออกจากพื้นที่ได้ ดังนั้นกรมอุทยานฯ จึงจะดำเนินการตามคำวินิจฉัยของคณะ กรรมการกฤษฎีกาทันที ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ทางผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 เตรียมไปแจ้งความฟ้องร้องกล่าวโทษ และไปดำเนินการจับกุม และรื้อถอนรีสอร์ทตามขั้นตอนต่อไป

“ขณะนี้หลังมีคำวินิจฉัยแล้ว ทางผู้ประกอบการเขาสามารถจะอุทธรณ์ภายใน 30 วัน แต่กรณีที่ไม่อุทธรณ์ ทางอุทยานประกาศรื้อถอน ตาม มาตรา 22 ให้ผู้ก่อสร้างรื้อถอนภายใน 30 วันโดยทางหัวหน้าอุทยานฯ จะเป็นผู้ประกาศรื้อถอน และถ้าครั้งแรกยังไม่ยอมรื้อถอน ก็จะขายเวลาต่อไปอีก 15 วัน จากนั้นถ้ายังไม่ยอมรื้อถอน ทางอุทยานฯ สามารถดำเนินการจะทำการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างได้ อย่างไรก็ตาม ถือว่าคำวินิจฉัยนี้เป็นชัยชนะในการเอาที่ดินของอุทยานคืนมาให้กับส่วนร่วมได้ และจะใช้กรณีเกาะอาดังเป็นกรณีในการดำเนินการข้อพิพาทที่ดินอุทยานกับที่ราชพัสดุในพื้นที่อื่นๆ ต่อไปด้วย” นายอุภัย ระบุ

เมื่อถามว่ารีสอร์ทดังกล่าวมีนักการเมืองเป็นหุ้นส่วนจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ อธิบดีกรมอุทยานฯกล่าวว่า คิดว่าผู้ขอเช่าก็คงคิดว่าเป็นพื้นที่ถูกต้อง และคงไม่มีใครไปเช่าที่ไม่ถูกต้อง ส่วนกรณีที่ นายณัฐพล รัตนพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตา จ.สตูล ที่ถูกย้ายโดย รก.อธิบดีกรมอุทยานฯ ไปประจำที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 จ.นครศรีธรรมราชนั้น กำลังให้มีการตรวจสอบ ถ้าเขาตั้งใจทำงานประวัติดี จะพิจารณากลับมาเป็นหัวหน้าอุทยานตะรุเตาเหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีรีสอร์ทบนเกาะอาดัง ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ตะรุเตา แต่พื้นที่ดังกล่าว ยังอยู่ระหว่างการวินิจฉัยตีความอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ หรือพื้นที่ของกรมธนารักษ์ ซึ่งขณะที่ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน กรมธนารักษ์ได้ให้เช่าพื้นที่ดังกล่าว กระทั่งถูกหยิบยกมานำเสนอ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอนุรักษ์ ไม่ใช่เขตบริการ ซึ่งต้องรักษาให้คงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง โดยนายณัฐพล รัตนพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตา ได้นำเสนอข้อมูลดังกล่าว กระทั่งถูกโยกย้ายกะทันหันเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา

จากคุณ : Kashira - [ 22 ต.ค. 51 08:24:02 ]