สวัสดีครับ สมาชิกทุกท่าน กระทู้นี้ขออนุญาตแจก Voucher ที่พักแบบ Superior Cabana ของ ปึกเตียน คาบาน่า รีสอร์ต จ.เพชรบุรี ที่ผมได้ซื้อไว้จากงานไทยเที่ยวไทย เพราะผมคงไม่ไปใช้บริการที่นี่อีกต่อไปแล้ว
Voucher มีเหลืออยู่ 1 ใบหมดอายุวันที่ 30 มิถุนายน 2553
ท่านใดอยากได้ เนื่องจากมีเพียงใบเดียว จึงขอตั้งกติกาไว้ว่า จะมอบให้กับคนที่โพสต์บอกเหตุผลที่อยากไป ข้อความไหนโดนใจ ผมจะติดต่อไปครับ
เหตุผลที่ผมไม่กลับไปใช้บริการที่นี่อีก ก็จะเล่าให้รับฟังก็แล้วกันครับ
พอดีผมและครอบครัว (ภรรยา, ลูกชายวัยหนึ่งขวบ และน้องชายผม) มีเวลาว่าง เมื่อวันพุธ และพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประกอบกับ Voucher ที่พักในเขตหัวหิน (Dune) และ ปึกเตียน จะหมดอายุแล้ว เลยถือโอกาสใช้สิทธิซะ ก่อนจะหมดอายุ
คืนแรกเข้าพักกันที่ Dune Huahin ก็แฮปปี้กันดี ทุกคน ไว้จะรีวิวคร่าวๆ ให้ชมกันครับ
คืนต่อมา (คืนวันที่ 30 ตุลาคม 2551) ก็มาเข้าพักที่ ปึกเตียน คาบาน่า ตามที่จองไว้ ซึ่งผมไม่เคยมาพักที่นี่มาก่อน พอดีเห็นบูธในงาน เลยซื้อมาลองใช้บริการ (ก่อนมาจองไว้ ปกติดี อาจจะหาวันที่ทางรีสอร์ตมีห้องว่างยากหน่อย)
พอมาถึงบริเวณรีสอร์ตจริงๆ ได้เจอบรรยาการศจริงๆ และรู้ว่าห้องพักในรีสอร์ตยังมีระดับอื่นด้วย นอกจาก Superior Cabana ผมจึงลองถามดู ว่าถ้าจะอัพเกรดห้องพัก จะมีแบบไหนบ้าง ได้ทราบว่าคืนนั้นมีห้อง Ocean Front Pool ว่างอยู่ และเป็นห้องที่มีสระน้ำส่วนตัว ผมเลยเดินไปดูห้อง กับสระ และตกลงอัพเกรดห้องพักเป็น Ocean Front Pool (ไม่กล้าเรียกว่า Villa เพราะห้องก็เท่าๆ กับห้องอื่น แต่มีสระน้ำส่วนตัว)
พอเช็คอินเสร็จ พนักงานถือกระเป๋ามาส่งที่ห้องให้เรียบร้อย อัธยาศัยดี ดูแล้วน่าจะพักที่นี่ได้อย่างปกติสุข
สักพักพอสำรวจสระน้ำจริงๆ ก็พบว่าน้ำในสระมีเศษฝุ่น ทราย ฯลฯ เรียกว่าดูไม่น่าลงเล่นเลยก็ว่าได้ จึงแจ้งพนักงานทราบ และได้ส่งพนักงานมาปล่อยน้ำออก และทำความสะอาด (โดยการกวาดพื้นสระ) จากนั้นก็เติมน้ำในสระ โดยสายยาง
ปกตินั้นลูกชายผมชอบเล่นน้ำ พอเห็นสระก็อยากจะลงเล่น แต่ตอนนั้น ประมาณ 17.00 น. เพิ่งจะเริ่มปล่อยน้ำเข้าสระได้สักพัก (ทราบภายหลังว่า ประมาณ 1 1/2 ชั่วโมง น้ำจะเต็มสระเล็ก ระหว่างเติมน้ำ มีสาหร่ายมากับน้ำจากสายยางบ้างเป็นระยะ ไม่ซีเรียส เก็บออกไป ก็เท่านั้น) ก็เลยพาเจ้านาโน ลูกชายลงไปเล่นสายยางในสระ ประมาณว่า เล่นแค่นี้ไปก่อนนะลูก พรุ่งนี้เช้า ตื่นมา น้ำเต็มก็ค่อยเล่นสนุกๆ
ตกค่ำก็เลยบอกสมาชิกที่ไปด้วยว่า พรุ่งนี้รีบตื่นกันนะ จะได้พานาโน เล่นน้ำในสระกัน คืนแรกผ่านไปปกติ
เช้าวันที่ 31 ตุลาคม (เมื่อเช้านี่แหละ) ตื่นมา ชวนกันดูน้ำในสระส่วนตัวของห้องที่พัก เย้ๆๆๆ น้ำเต็มแล้ว เดี๋ยวเราออกไปทานอาหารเช้า แล้วกลับมาค่อยเล่นน้ำ สักหน่อย ก่อนเช็คเอาท์นะ
ออกไปทานอาหารเช้า กลับมา น้ำในสระถูกปล่อยออกหมดเกลี้ยงเลย ซะงั้น
ทราบภายหลังว่า ทางรีสอร์ตทำการปล่อยน้ำออก เพื่อจะทำความสะอาด และเปลี่ยนน้ำใหม่ เติมสารปรับสภาพน้ำ เริ่มเปิดน้ำลงสระเล็กประมาณ 10 นาฬิกา จากข้อมูลที่ทราบมา สระเล็กนี่ใช้เวลา 1 1/2 ชั่วโมง ถึงจะเต็ม ส่วนสระใหญ่ (เป็นสระส่วนตัว ติดกันกับสระเล็ก) คงใช้เวลาทั้งคืนกว่าจะเต็ม
เมื่อเป็นแบบนี้ แล้วครอบครัวผม จะได้ใช้สระน้ำส่วนตัวของห้อง เหรอครับเนี่ย เพราะกำหนดคืนห้องคือ 12 นาฬิกา คงจะไม่มีใครอยากลงไปจุ่มๆ ในสระสัก 5 นาที แล้วรีบอาบน้ำ เช็ดตัว เก็บของมาเช็คเอาท์หรอกมั้งครับ
ผมเลยลองสอบถามพนักงานดูว่าเหตุการณ์เป็นแบบนี้แล้ว ทางรีสอร์ตจะมีข้อเสนออะไรบ้างมั้ย .... เงียบ
ผมเลยถามว่า งั้นถ้าขอเช้คเอาท์เลท หน่อยได้ไหม......มีลูกค้าเข้าต่อ จะเลทได้ถึงแค่ 13.00 น.
ผมเลยถามต่อว่า ห้องนี้มีสระส่วนตัว แต่ยังไม่ได้ใช้สระเลยเนี่ย แบบนี้น่าจะลดราคาค่าใช้จ่ายที่อัพเกรดไปนะเนี่ย......เงียบ
ช่วงนั้นผมสังเกตเห็นว่า ผจก. นั่งคุยกับ กลุ่มหนึ่งอยู่ เข้าใจเอาเองว่า อาจจะเป็นกลุ่มผู้บริหารรีสอร์ต ผมก็ไม่อยากไปรบกวนการสนทนาของพวกเขา เลยเดินกลับห้องไป เวลาประมาณ 10.45 น. เพื่อบอกให้สมาชิกทั้งหลายเก็บของ กลับกันดีกว่า อยู่ไปก็เท่านั้น ยังงัยไม่มีทางได้ลงใช้สระน้ำแน่แล้ว
ออกมาเช็คเอาท์ประมาณ 11.00 น. รับบิลค่าใช้จ่าย ก็ตามปกติ ไม่มีการลด หรือเสนออะไร หรือสอบถามอะไร (ขนาดเงิน deposit จำนวน 1000 บาทที่ผมจ่ายไว้ตอนเข้าพัก ยังไม่ถามถึงเลย ว่าได้เอาบิลมาขอคืนเงินไหม...แต่นี่เรื่องเล็กน้อย ไม่มีปัญหา)
ระหว่างชำระเงิน ผมก็จ่ายตามปกติ ไม่มีปัญหา ไม่อยากวุ่นวาย แค่จะจำไว้ และมาบอกกล่าวคนที่รู้จัก คนที่อยากรู้ เท่านั้น อยากรีบๆ ออกจากที่แห่งนั้นเร็วๆ ไม่สนุกแล้ว
อะไรก็ไม่รู้ จ่ายเงินเสร็จ ยื่นบิลรับเงิน deposit ไป แต่พนักงานลืม ไม่ได้คืน deposit ให้ จนผมต้องถาม ถึงจะนึกออก (เฮ่ออออ เอาน่า เรื่องเล็กน้อย)
จากนั้นครอบครัวผม ก็เดินมาถือกระเป๋า แบกกระเป๋ากันเอง เพื่อเอาไปขึ้นรถเอง และเดินทางออกจากรีสอร์ตเพื่อกลับบ้านเอง อย่างหมดสนุกแล้ว
ผมพิมพ์ไม่ผิดครับ ครอบครัวเล็กๆ กับสัมภาระมากโข แค่กระเป๋าใส่กล้อง เลนส์ และโน๊ตบุคของผม ก็หนักร่วมๆ สิบกิโลกรัมแล้ว ยังมีกระเป๋าเสื้อผ้า ผมและภรรยา กระเป๋าสัมภาระเจ้านาโน กระเป๋าของน้องชายผม รวมแล้วผมแบก 3 ใบ น้องชายผม 2 ใบ ภรรยาอุ้มลูก
ช่างเป็นภาพที่ต่างจากตอนเช็คอินอะไรเช่นนี้ครับ
ระหว่างทางจากเคาน์เตอร์ไปที่จอดรถ ก็ผ่านโต๊ะที่ ผจก. และกลุ่มที่ผมเข้าใจว่าเป็นผู้บริหาร นั่งคุยกันอยู่ ผมไม่ได้คาดหวังอะไรอีกแล้วล่ะครับ ว่าจะมีใครมาสนใจ เพราะผมจ่่ายเงินไปแล้ว หน้าที่ของลูกค้าอย่างผมคงจะสิ้นสุดลงหลายวินาทีแล้ว ก็เจียมตัว ขนของขึ้นรถ และเดินทางกลับดีกว่า
เหตุการณ์นี้ผมข้องใจอยู่ สองเรื่อง แค่นั้น
1. ผมจ่ายเงินส่วนเพิ่ม เพราะต้องการใช้บริการในส่วนที่เพิ่มมาของห้องนั้น นั่นคือสระน้ำส่วนตัว แต่ผมไม่ได้ใช้บริการเลย และทางรีสอร์ตเอง ไม่ได้แจ้งผมก่อนด้วยซ้ำว่าจะปล่อยน้ำออกจากสระ หรือจะทำอะไรก็ตามที่ทำให้สระใช้ไม่ได้ แต่ทางรีสอร์ตบอกผมเพียงว่า ห้องนี้มีสระน้ำส่วนตัวค่ะ อยู่หน้าสุดเลย จ่ายเพิ่ม.....บาท ค่ะ
2. ทำไมตอนผมเช็คเอาท์ ไม่มีพนักงานคนไหนมาช่วยยกของบ้างเลยครับ เห็นมีพนักงานอยู่แถวนั้นมากมาย คงจะกำลังง่วนกับการเตรียมจัดโต๊ะต้อนรับใครอยู่มั้ง เลยไม่ว่างมาสนใจลูกค้าที่จ่ายเงินแล้วแบบผม แต่ผมสงสัยนะครับ ว่าทำไมถึงไม่มีระบบการดูแลลูกค้า (ที่เพิ่งสิ้นสุดสภาพการเป็นลูกค้า เพราะจ่ายเงินแล้ว)
ปล. ไม่มีการโต้เถียงใดใด ในการสนทนาตลอดเวลาในรีสอร์ตนั้น ผมไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะไปโมโห หรือเถียงกับใคร (เพราะ ณ เวลานั้น รู้สึกมึนๆ งงๆ ว่าตกลงผมจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อสิ่งใดหรือนี่ และงงซ้ำว่า ทางรีสอร์ต ไม่มีระบบการตัดสินใจ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าบ้างเลยเหรอ)
ผมเข้าใจดีว่า เคสแบบนี้ อาจจะยังไม่เคยเกิดขึ้น ณ รีสอร์ตแห่งนี้ แต่ผมก็ยังสงสัยอยู่ดี ว่ากิจการโรงแรม รีสอร์ต และท่องเที่ยว มักมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอยู่ตลอด ซึ่ง รีสอร์ตนี้ก็น่าจะมีความพร้อมที่จะแก้ไข หรือเสนอทางลดระดับความไม่พึงใจของลูกค้าต่อรีสอร์ตบ้าง ..... แต่ไม่มี
ท้ายสุดนี้ ท่านใดอยากได้ Voucher ที่ผมบอก ก็โพสต์มาแล้วกันครับ ว่าทำไมถึงอยากได้ แล้วผมจะติดต่อกลับไปครับ
แก้คำผิด
แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 51 21:18:43
แจก Voucher...... ครั้งแรก และครั้งสุดท้าย ปึกเตียน คาบาน่า
