ความคิดเห็นที่ 1 นั่นนะสิครับ จากคุณ : Issara - [ 3 พ.ย. 51 15:11:13 A:222.123.23.25 X: TicketID:115055 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วเมื่อไหร่จะปรับลดค่าภาษีน้ำมันซะทีคะ สายการบินแห่งชาติ จากคุณ : อะไรสบายง่ายดีก็ดูไม่สะใจ - [ 3 พ.ย. 51 15:14:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก็ตลกดีนะครับ ราคาน้ำมันลดลงมากว่า6เดือนแล้ว เคยลดลงกว่าครึ่งของราคาที่ขึ้นไปสูงสุดด้วยซ้ำ แต่แทบจะไม่มีสายการบินไหนเลยที่ลด Fuel surcharge แบบเป็นชิ้นเป็นอัน ประมาณว่าความจำเสื่อมกันหมด...ไม่รู้ไม่เห็น...มึน...แป๊ว..อะไรที่ไหนอย่างไร... จากคุณ : กล้าที่จะรัก - [ 3 พ.ย. 51 15:42:52 ]

ความคิดเห็นที่ 4 นั่นสิตอนนี้ค่าน้ำมันลดลงมาแล้ว น่าจะลดค่าภาษีน้ำมันด้วยนะ จะได้หาโอกาสไปเที่ยวอีก จากคุณ : jadinm - [ 3 พ.ย. 51 15:55:29 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สายการบิน ไม่ใช่รถนะ น้ำมันหมดก็เข้าปั๊มเติม เขาต้องทำ future ราคาน้ำมันไว้ หรือหมายถึงเขาคงยังขาดทุน เพราะซื้อล้วงหน้าไว้แพงน่ะ จากคุณ : winnie20f - [ 3 พ.ย. 51 16:11:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สงสัยว่า สคบ ใช้อำนาจอะไรถึงเข้ามาดูแลได้หรือครับ (ไม่ทราบเรื่องนี้เลย) จากคุณ : john_ - [ 3 พ.ย. 51 16:26:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เท่าที่รู้และเข้าใจบ้างเกี่ยวกับขอบอำนาจของ สคบ อ่ะครับ สคบ จะดูแลให้ในเรื่องซื้อขายของกันแล้ว ไม่มีการปฏิบัติให้ถูกต้องตามสัญญา ตามที่ได้เสนอขาย และผู้ซื้อตกลงซื้อ แต่ถ้าเป็นกรณีเสนอซื้อ แล้วราคาแพง ผู้ซื้อไม่ชอบใจ ก็มีตัวเลือกอื่นให้ซื้อได้ ในราคาเสนอขายที่ผู้ซื้อชอบใจกว่า อันนี้ สคบ เค้าไม่เกี่ยวครับ ถ้าเป็นข้าว น้ำปลา น้ำตาล ของบริโภคหลักที่ต้องมีการควบคุมราคา อันนี้กระทรวงพาณิชย์ มีกฏหทายควบคุมได้ครับ มาม่าจะขึ้นบาทนึง โค๊กจะขึ้นบาทนึง ยังต้องไปขอเขาก่อนเลย เรื่องสายการบินเป็นไปตามนโยบายการค้าเสรีครับ อาจมีการควบคุมเรื่อง Fare โดย IATA ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศ แต่ Fuel Surcharge IATA ก็ไม่ได้ควบคุมครับ ในยุโรปและ US กฏหมาย Antitrust Law นั่นยิ่งแรงด้วยซ้ำ หากสายการบินรวมหัวกันลดหรือเพิ่ม Fuel Surcharge เจอปรับกันเป็นร้อยๆล้านยูโร ไม่จ่ายค่าปรับ ห้ามบินผ่าน่านฟ้าเขาเลยนะ ก็คงต้องว่าไปตามการแข่งขันเสรีของระบบตลาดโลกเน๊อะ ชอบก็ซื้อ ไม่ชอบก็ไปซื้อคนอื่นแทน ส่วนข้อมูลช่วยตอบมากกว่านี้ ให้ผู้รู้มาตอบต่อดีกว่าอ่ะ จากคุณ : XOOMER - [ 3 พ.ย. 51 17:49:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่พิจารณาไปถึงไหนกันแล้ว จากคุณ : อาตี๋อินเตอร์ - [ 3 พ.ย. 51 18:14:23 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมากครับลุงซูมได้ความรู้ใหม่ ปกติทราบแต่เรื่อง Fare ที่ต้องส่งขออนุมัติ เรื่อง ค่าน้ำมันกับ สคบ นี่ไม่ทราบมาก่อนเลย จากคุณ : john_ - [ 3 พ.ย. 51 19:36:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แพงจริงยอมรับเลยค่ะ สายการบินลื่นเหมือนผ้าไหม สายการบินอื่นบริการดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพ่อดอกจำปีนี่เลย บางทีอาจจะดีกว่าซะด้วยซ้ำ ที่นั่งเอย ทีวีเอย สารพัดสายการบินอื่นเค้าก็ดีไม่น้อยหน้าสายการบินนี้นะ ไม่แพงน่าหมั่นไส้แบบนี้ด้วย ไม่เข้าใจค่ะ ไม่เข้าใจจริงๆ ไม่ได้ใช้บริการเจ้าดอกจำปีหลายปีแล้ว จากคุณ : gone4good - [ 3 พ.ย. 51 20:18:17 ]

ความคิดเห็นที่ 11 "เรื่องสายการบินเป็นไปตามนโยบายการค้าเสรีครับ อาจมีการควบคุมเรื่อง Fare โดย IATA ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศ แต่ Fuel Surcharge IATA ก็ไม่ได้ควบคุมครับ ในยุโรปและ US กฏหมาย Antitrust Law นั่นยิ่งแรงด้วยซ้ำ หากสายการบินรวมหัวกันลดหรือเพิ่ม Fuel Surcharge เจอปรับกันเป็นร้อยๆล้านยูโร ไม่จ่ายค่าปรับ ห้ามบินผ่าน่านฟ้าเขาเลยนะ" แสดงว่า EU Commission ยังไม่ทราบเรื่องนี้หรือเปล่า จะแจ้งเค้าต้องทำไงบ้างละ อยากรู้ มี email address หรือเปล่า รบกวนโพสต์บอกด้วยนะ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง จากคุณ : 2 many story - [ 3 พ.ย. 51 20:47:02 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ได้มีปัญหากับเจ้าจำปีจริงๆ ปีครึ่งที่ผ่านมาใช้คะแนนสะสมแลกตั๋วไปลอนดอน จ่ายค่าธรรมเนียมและภาษีต่างๆ 9000+ ไม่เกินหมื่นนึง ตอนนี้เกือบสองหมื่น เลยโทรไปสอบถาม BA กะ EVA เพราะบินตรงเหมือนกัน ตกใจมาก ทำไมราคาของภาษีและค่าธรรมเนียมเรื่องน้ำมันแตกต่างกันมากมาย รึว่า คนทำ future ของการบินไทย .... ไม่เจ๋งพอ เทียบเท่ากับ BA และ EVA ไม่ได้ชอบของนอก เพราะชอบการบินไทย มีเพื่อนเป็นพนักงานเยอะที่นี่ แต่ถามไม่เคยได้คำตอบ เพราะฉันไม่รู้ เลยมีข้อสงสัยจริงๆ จากคุณ : 2 many story - [ 3 พ.ย. 51 20:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ้าว จะไปแจ้ง EU ทำไมล่ะครับ Antitrust Law เค้าคุมการฮั้วกันทำ Monoply อ่ะครับ แต่เรื่องนี้ ไม่ได้มีสายไหนฮั้วกันนี่ครับ ถ้าฮั้วกัน แสดงว่า fuel surcharge ต้องเท่ากันหมด ขึ้นลงพร้อมๆกัน และมีข้อสงสัยว่าไปตกลงอะไรกันมา EU กะ สคบ ไม่ได้คุมราคาสายการบินครับ แต่คุ้มครองผู้บริโภคด้านการถูกเอาเปรียบ และไม่ตรงไปตรงมาต่างหาก การแข่งขันทางราคา คนนั้นแพงกว่า คนนี้ถูกกว่า ก็เป็นไปตามหลักการค้าเสรีครับ ชอบก็ซื้อ ไม่ชอบก็ไปซื้อคนอื่น หรือเดินทางด้วยวิธีอื่น หรือไม่ก็ชอบ แต่แพงก็ยังยอมซื้อ ซื้อไปบ่นไปส่วนตัวก็ไม่ผิดกติกา ไม่มีใครว่าอะไรใครได้ แต่ไปเรียกร้องเอาผิดคนขายเขาไม่ได้ครับ "เพราะเขาไม่ได้มัดมือชก หรือบังคับให้ซื้อ และตัวเลือกอื่นยังมีให้เลือกได้ แต่เลือกซื้อเขาเองนี่ครับ" กระทู้นี้เป็นประเด็นว่า อันนั้นแพงกว่าอันนี้ อันนี้แพงกว่าอันนั้น คนซื้อเป็นคนเลือก ตามราคาที่เสนอขายต่างกัน ก็เป็นการค้าเสรี ตามหลักของ EU ถูกต้องนี่แล้วครับ ร้องไป EU ก็ไม่สนใจหรอกครับ ก็ไม่ใช่กรอบอำนาจหน้าที่เขานี่นา....จิงป่าวครับ...? จากคุณ : XOOMER - [ 3 พ.ย. 51 21:50:41 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แพงก็อย่าไปใช้บริการครับ ง่ายดี จากคุณ : ponlll744 - [ 3 พ.ย. 51 21:57:30 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เอ่อ ขออธิบายหน่อยละกัน ในฐานะที่ซื้อตั๋วเดินทางเองบ่อย ค่าชาร์จน้ำมันของการบินไทยและสายการบินหลายแห่งคิดตามไตรมาสครับ ปีละสี่ครั้ง เดือนมกรา เมษา กรกฏา และตุลา เดือนตุลาจะตัดสินเมื่อสิงหา คิดราคาเฉลี่ยสามเดือนจากพฤษภา-กรกฏา และจะมีใช้ไปจนถึงสิ้นเดือนธันวา ถัดไปอีกไตรมาสคือเดือนมกรา เดี๋ยวช่วงปลายเดือนนี้ก็จะประกาศราคาให้ทราบกัน คิดราคาเฉลี่ยสามเดือนจากสิงหาถึงตุลา รับรองว่าถ้าออกตั๋วหลัง 1 มกราคมนี่ ค่าชาร์จตรงนี้จะต่ำลงไปเกือบ 70% ทีเดียว แต่ตามกลไกลทางการตลาดแล้ว คิดว่าัยังไงราคาตั๋ว(ก่อนรวมค่าชาร์จ)หลัง 1 มกราก็คงเพิ่มขึ้นมาอีกแน่นอน เพื่อถ่วงดุลย์กำไรส่วนที่ขาดหายไป แต่ยังไงโดยรวมก็น่าจะถูกกว่าปัจจุบันประมาณ 20-30% ส่วนที่สายการบินบางแห่งอย่างสิงคโปร์กับคาเธ่ย์ที่ค่อนข้างถูกกว่าเพื่อนขณะนี้เพราะแบ่งย่อยเฉลี่ยค่าน้ำมันต่อเดือน(หรือต่อสองเดือน) สิงคโปร์แอร์ที่ชาร์จเดือนตุลา ใช้ค่าน้ำมันเฉลี่ยของเดือนสิงหา ซึ่งค่าชาร์จตรงนี้ระยะทางเท่ากันจะถูกกว่าการบินไทยเกือบครึ่ง อยากให้สังเกตุช่วงระยะเวลาแรกเริ่มที่มีการชาร์จค่าน้ำมัน สิงคโปร์แอร์จะชาร์จแพงมาก ในขณะที่การบินไทยชาร์จต่ำมากเกือบจะอยู่ในระดับล่างๆด้วยซ้ำไป ใครที่ได้ซื้อตั๋วเดินทางช่วงนั้นก็ถือว่าได้กำไรไป PS> เท่าที่เช็คดูไปลอนดอนค่าภาษีน้ำมันรวมประกันภัยต่อเซคเตอร์ไปกลับก็ 440 ดอลล์ สูงหรือเปล่าตอบยาก ยอมรับว่าจะสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็ถูกกว่าบางประเทศคือญี่ปุ่นซึ่งคิดไปถึง 637 ดอลล์ในขณะนี้ การกำหนดราคาตรงนี้พูดยาก ขึ้นอยู่กับสภาพบ้านเมือง ค่าครองชีพ และปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย อาจจะค่อนข้างแพงแต่ก็ยังเรียกได้ว่าโอเคในระดับกลางๆเท่ากับสารการบินเมกา และยุโรปส่วนใหญ่ อีกอย่างถ้าเดินทางเข้าออกลอนดอนค่าภาษีสนามบินที่นั่นก็แพงกว่าที่อื่นทั่วโลก ยิ่งถ้าหากเดินทางเข้าออกชั้นพรีเมียร์ด้วยแล้ว ผู้โดยสารต้องจ่ายค่าฟาสท์แทรกส์ตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัตเพิ่มไปอีกสองสามพันบาท แก้ไขเพิ่มเติม 2 ครั้ง แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 51 03:57:01 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 51 03:22:43 จากคุณ : WONDERFUL_DAY - [ 4 พ.ย. 51 03:06:28 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ เข้าใจละ ใสแจ๋ว อย่างที่ว่าแหละ เปรียบเทียบกันไม่ได้หรอก ของญี่ปุ่นกะของไทย เพราะแตกต่างกันเป็นอย่างมากในเรื่องของ GDP หรือ PPP per capita มองยังไง ก็คิดว่าคนดูแลเรื่องน้ำมันท่านตามโลกไม่ค่อยทัน เลยทำให้คนไทยที่อยากนั่งสายการบินแห่งชาติ ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆ แพงกว่าชาวชาติอื่นๆ เค้า เฮ้อ ไม่นั่งก้อได้ จากคุณ : 2 many story - [ 4 พ.ย. 51 09:36:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มีอีกมุมมองครับ เท่าที่เห็นมาบ่อยๆ สายการบินแห่งชาติอื่น ก็ขายออกจากชาติตัวเองแพงกว่าขายเข้ามาครับ เช่น คนอังกฤษจะบิน BA LHR-BKK ก็ซื้อ BA แพงกว่าซื่อ TG มา มันก็เรื่องเดยวกันล่ะมั๊งครับ เหตุคงเป็นเพราะกลไกตลาดและ Demand Supply ล่ะครับ คนชาติไหน ก็เลือกสายการบินของตัวเองก่อน Demand มันเลยสูงกว่า ราคาก็สูงตาม หลักการก็ประมาณนั้น ลองมองอีกมุมสิครับ สายการบินชาติอื่น กับตนชาติอื่น ก็ไม่ได้ต่างกันกับเรื่องนี้เลย จากคุณ : XOOMER - [ 4 พ.ย. 51 13:29:34 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เรื่องค่าธรรมเนียมต่างๆ เค้าคงต้องทำเป็นขั้นเป็นตอน ทีจีก็คงรู้ว่าทำให้ไม่สามารถแข่งกับสายการบินคู่แข่งได้ ถึงพยายามลดราคาตั๋วลงมาเยอะเหมือนกัน ลองเช็คโปรโมชั่นดูนะคะ จากคุณ : mingkwan - [ 4 พ.ย. 51 14:36:40 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยกับคุณ XOOMER ค่ะ ว่าทุกอย่างน่าจะเป็นไปตามกลไกการตลาด เสรีที่ลูกค้าจะเป็นคนเลือก หากถ้าราคาแพง ไม่มีคุณภาพ ลูกค้าก็ไม่เลือกที่จะเดินทาง และเมื่อวานก็อ่านข่าวในหนังสือกรุงเทพธุรกิจ เห็นว่าฝ่ายบริหารมีแผนจะลด ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างพิจารณา คงต้องรอดูกันก่อนค่ะ ใจเย็นๆ ค่ะพี่น้อง จากคุณ : BABYBOM - [ 5 พ.ย. 51 07:50:02 ]