ความคิดเห็นที่ 1 สามีเราเจอเวบไซต์ของมูลนิธินี้โดยบังเอิญในโลนลี่แพลเน็ตดอทคอม มีฝรั่งกล่าวขานกันมากมายว่าเป็นปางช้างที่ดีที่สุดในเมืองไทย สามีเราเลยอยากจะไปเที่ยวด้วย ทีแรกเข้าไปดูราคาแล้วตกใจค่ะ เพราะมันตั้ง 2500บาท แต่อ่านดูแล้วก็เบาใจไปทีละน้อย เพราะมันเป็นการไปเที่ยวปางช้างทั้งวัน รวมค่าอาหารกลางวัน น้ำดื่ม ชา กาแฟเรียบร้อยแล้ว   2500บาทนี่สำหรับต่างชาตินะคะ คนไทยไม่เสียค่าเข้าชม แต่ทางมูลนิธิขอความกรุณาบริจาคช่วยเหลือช้างตามความสมัครใจ ตรงนี้เลยค่ะ เอามาจากเว็บไซต์ของมูลนิธิที่ว่าคนไทยไม่ต้องเสียค่าเข้าชมค่ะ As a non-profit organization, one of the many goals of Elephant Nature Foundation is to promote awareness about the plight of the Asian elephant in Thailand. To help further this goal, free day visits to Elephant Nature Park can be arranged for Thai citizens, whether for individuals, families, or school groups. Please contact our office for more details. จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:10:46 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ก่อนอื่นต้องติดต่อมูลนิธิก่อน เพราะไม่รับ walk inค่ะ ต้องติดต่อไปก่อนว่าผู้เข้าชมวันไหนๆเต็มแล้วบ้าง ไม่งั้นคนดูมากกว่าจำนวนช้างจะไม่ได้เข้าถึงช้างเต็มที่ ติดต่อตามเบอร์โทรศัพท์ในเวบเลยค่ะ ก่อนวันที่เรานัดไว้สักสองวัน เราเข้าไปที่มูลนิธิในตัวเมืองเชียงใหม่เพื่อจ่ายค่าใช้จ่ายของสามีคือ 2500 บาท บวก เงินบริจาคจากเราอีก 1000 บาท เพราะไปปางช้างธรรมดาก็หลายร้อยแล้วนะคะ นี่มันเป็นโปรแกรมทั้งวันเลยตั้งแต่ แปดโมงเช้าถึง สี่ห้าโมงเย็นค่ะ แถมเลี้ยงข้าวกลางวันด้วย ไทกับปูเปี๊ยะลูกช้างอายุน้อยที่สุดที่นี่ จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:13:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนที่โทรไปถามรายละเอียดนั้น น้องคนที่รับโทรศัพท์เมื่อทราบว่าเราเป็นคนไทยที่อยากไปเที่ยวที่นี่ ย้ำแล้วย้ำอีกกับเราว่า “พี่คะ ที่นี่ไม่มีการแสดงช้างหรือขี่ช้างนะคะ” แล้วจะเล่าให้ฟังที่หลังว่าทำไม ถ้าเอารถไปเอง ค่าเข้าชมสำหรับต่างชาติลดจาก 2500 เป็น2000 บาทค่ะ รู้เวลากิน จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:14:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าคุณจะเข้าชมด้วยรถของมูลนิธิ วันที่เข้าชม รถของทางมูลนิจะมารับที่โรงแรมแต่เช้าประมาณ แปดโมงเช้า เพื่อที่จะพาผู้เข้าชมไปตลาดค่ะ ไปซื้อผลไม้ต่างๆให้ช้าง จากนั้นก็จะพาไปที่ปางช้างเลย แต่เราขับรถไปเองค่ะ ไปถึงปางช้างประมาณ 10 โมงเช้า ไล่ๆกับผู้เข้าชมที่มาด้วยรถของมูลนิธิ ปางช้างนี่กว้างขวางมาก เป็นที่ดินติดน้ำสวยมาก มีเศรษฐีจากเท็กซัสคนหนึ่งผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม (แต่ประสงค์จะออกเงิน) ซื้อให้มูลนิธิค่ะ คุณพระของเราเองกับช้างชื่อบุญมา จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:16:49 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขับรถเข้าไปก็จะเห็นกระท่อมเล็กๆที่สร้างขึ้นสำหรับอาสาสมัครจากทุกมุมโลกหรือผู้เข้าชมที่อยากจะมานอนค้างคืน ตอนที่ไปเห็นฝรั่งมาอาสาสมัครกวาดอึช้างหรือเป็นคนตะพุ่นหญ้าช้างประมาณ 20 คนได้ รวมทั้งอาสาสมัครที่ตอนหลังคุยกันได้ความว่า เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์อีกประมาณ 20คน จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:18:03 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เดินเข้าไปครั้งแรก ทุกคนมองเราด้วยความพิศวง เนื่องจากเป็นคนไทยหนึ่งเดียวคนนี้สำหรับผู้เข้าชม พนักงานต้อนรับเข้ามาถามไถ่เรียกว่าแทบจะอุ้มเลยล่ะค่ะ โดยมีการย้ำอีกครั้งว่า “พี่คะ พี่ทราบหรือเปล่าคะว่าที่นี่ไม่มีการแสดงช้างหรือขี่ช้างนะคะ” เลยต้องถามกันหน่อยว่าทำไมถามจังว่ารู้ไหมว่าไม่มีการแสดงช้าง น้องอาสาสมัครเลยบอกว่า มีกลุ่มนักเรียนไทยและคณะคนไทยติดต่อเข้ามาบ่อยๆ แต่พอรู้ว่าที่นี่ไม่มีการขี่ช้าง ไม่มีการแสดงช้าง ก็ยกเลิกกันไปหมด ไม่อยากให้เราเข้าใจผิดถึงต้องย้ำบ่อยๆ ถามน้องอีกว่า คนไทยมาที่นี่เยอะไหม น้องบอกว่า น้อยมากๆ เดือนนึงจะมีคนสองคนเท่านั้น น้องบอกว่า พี่ช่วยบอกเพื่อนๆพี่คนไทยด้วยนะคะว่าที่นี่อยากให้คนไทยเข้ามาดูค่ะ จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:22:02 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หลังจากผู้เข้าชมทุกคนนั่งพักแป๊ปนึงแล้ว น้องอาสาสมัครก็เริ่มบรรยายว่า ปางช้างนี้จัดตั้งขึ้นจากความจำนงค์อันแรงกล้าของผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งชื่อคุณแสงเดือน ชัยเลิศ หรือคุณเล็ก เพื่อช่วยเหลือช้างที่พิการหรือถูกทารุณกรรมให้มีชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยความสงบสุข แม็กซ์ ช้างพลายตัวใหญ่ที่สุดของปางช้าง กับมูโด๊ะ  ช้างสองเชือกนี้มีชะตากรรมน่าเวทนาอย่างไร อ่านต่อไปค่ะ สังเกตขาหลังของมูโด๊ะนะคะ จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:29:32 ]

ความคิดเห็นที่ 8 *ช้างที่นี่เป็นช้างที่ถูกทารุณกรรมหรือพิการ ทางมูลนิธิต้องซื้อหรือ”เช่า”มาจากเจ้าของด้วยเงินบริจาคของผู้มีใจเมตตา *ช้างที่นี่ไม่มีการล่ามโซ่นอกจากเวลานอน เพื่อความปลอดภัยของช้างเอง และของอาสาสมัครทั้งหลายด้วย *ควาญที่นี่จะไม่มีการใช้ขอสับแหลมๆทิ่มหัวช้างเด็ดขาด เคยเห็นไหม เราเคยเห็นควาญสับหัวช้างครั้งนึงที่ปางช้างแห่งหนึ่ง เลือดไหลเลย ใครจะมาบอกว่าช้างไม่เจ็บ หนังช้างหนา เราไม่เชื่อหรอก ที่ปางช้างนี้ห้ามขาดค่ะ ที่นี่จะให้ช้างทำอะไรมีอยู่วีธีเดียวคือ...เอากล้วยมาล่อ *ควาญที่นี่จะไม่มีการเอาโซ่หนักๆหลายๆทบมาพาดคอช้างเพื่อให้ช้างเดินช้าลง *ช้างที่นี่สามารถเดินไปไหนมาไหนก็ได้ในบริเวณปางช้าง โดยมีควาญเดินตามอย่างใกล้ชิด *ไม่มีการขี่ช้าง การแสดงของช้าง การบังคับให้ช้างวาดรูปใดๆทั้งสิ้น จากนั้นเราก็เดินไปทำความรู้จักกับช้างทั้งหลายที่มายืนรอ(เพราะรู้ว่าจะได้ของกินในเวลาไม่นานนัก) ดูก้นมูโด๊ะชัดๆ จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เราได้ทำความรู้จักกับแม็กซ์ ช้างพลายตัวสูงใหญ่ แม็กซ์นั้นพิการที่ขาหน้าทั้งสองเพราะถูกรถบรรทุก18ล้อชนที่ขาหน้าทั้งสองจนหัก เจ้าของทิ้งไว้ไม่ได้รักษาตามที่ควร ขาหน้าของแม็กซ์จึงโค้งงอ ลางซุงหรือทำงานหนักไม่ได้อีก จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:33:12 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วเราก็ได้รู้จักกับมูโด๊ะ ชื่อภาษากระเหรี่ยงแปลว่าอะไรหาทราบไม่ มูโด๊ะเป็นช้างพังที่พิการที่ขาหลังจนผิดรูปผิดร่างน่าเวทนาเป็นยิ่งนัก เจ้าของคนแรกของมูโด๊ะนั้น ใช้มูโด๊ะลากซุงจนกระดูกหลังหัก ไม่มีการรักษาพยาบาลทั้งขายมูโด๊ะทิ้งไปเมื่อใช้งานหนักแบบลากซุงไม่ได้อีกแล้ว เจ้าของใหม่ของมูโด๊ะนั้น เมื่อซื้อมาทราบว่ามูโด๊ะทำงานหนักไม่ได้ ก็ต้องหาวิธีเรียกทุนคืนจากการซื้อมูโด๊ะมา โดยจับมูโด๊ะผสมพันธุ์ทั้งๆที่ยังไม่ถึงเวลาอันควร เมื่อมูโด๊ะไม่ยอม ก็จับขาหน้าของมูโด๊ะมัดไว้ แล้วให้ช้างพลายขึ้นคร่อม แต่มูโด๊ะยังมีสภาพร่างกายที่ยังไม่พร้อมกับการผสมพันธุ์ บวกกับน้ำหนักของช้างพลายนั้นหนักมาก กระดูกสะโพกของมูโด๊ะเลยหักอีกครั้ง หักแบบหลายท่อนจนเยียวยาไม่ได้ เจ้าของทิ้งมูโด๊ะไว้โดยไม่ได้หาทางรักษาจนกระทั่งคุณเล็กไปเจอ แล้วหาสัตวแพทย์มารักษาตามสถานการณ์ แต่มูโด๊ะก็ยังมีสภาพอย่างนี้ เดินช้ามากๆ และมูโด๊ะก็ไม่สามารถจะผสมพันธุ์หรือมีลูกได้อีกแล้ว ทั้งๆที่มูโด๊ะมีอายเพียง 25 ปีเท่านั้น มูโด๊ะรอกินอาหารว่าง จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ยังมีช้างอีกหลายเชือกที่เราจำชื่อไม่ได้ แต่ประวัติความเป็นมาของแต่ละเชือกนั้นฟังแล้วหดหู่มาก น้ำตาจะร่วงให้ได้ มีเชือกหนึ่งที่ควาญพาไปกรุงเทพเดินหาเงิน แต่เมื่อไม่ได้เงินมากพอประกอบกับความเมาของควาญ ควาญคนนั้นจึงเอาหนังสติ๊กยิงก้อนหินใส่ตาช้างเชือกนั้นตาบอดทั้งสองข้าง ตอนนี้จะไปไหนก็เอางวงจับปลายหางของเพื่อนๆช้างด้วยกันให้พาเดิน จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เปลี่ยนเรื่องค่ะ เศร้ามามากแล้ว ตอนนี้ถึงตอนที่เราจะป้อนอาหารช้างแล้วค่ะ ผู้เข้าชมทุกคนจะได้ป้อนอาหารช้างแบบหนึ่งต่อหนึ่งเลยค่ะ ไม่ต้องแย่งกัน ปางช้างนี้ถึงมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมแต่ละวัน จะได้มีเวลาอยู่กับช้าง เข้าถึงช้างจริงๆ อาหารที่ป้อนช้างคือแตงโม กล้วย แตงกวาค่ะ ไม่ใช่ให้หวีสองหวีนะคะ ช้างแต่ละตัวจะได้กินผลไม้คนละเข่งยักษ์ๆเลยค่ะ เข่งขนาดเดียวกับที่เขาใช้ขนผักที่ตลาดอย่างนั้นล่ะค่ะ ช้างที่นี่บางทีต้องไดเอตค่ะเพราะวันได้แต่เที่ยวเล่น เดินไปเดินมา ไม่ต้องทำงานหนักเหมือนช้างที่ปางช้างอื่น อ้วนกลมกันทุกเชือก ผลไม้คนละเข่งนี่เป็นอาหารว่างเท่านั้นค่ะ ทุกวันจะมีอาสาสมัครไปตะพุ่นหญ้าเอามาให้ช้างกินทุกเช้ามืดและทุกบ่ายเป็นอาหารหลัก จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:37:51 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ช้างกินเสร็จก็ถึงตาคนกินมั่ง อาหารกลางวันที่นี่รวมกับค่าเข้าชมแล้ว เป็นอาหารบุฟเฟ่ห์ที่เราว่าดีพอสมควรเลยล่ะค่ะ มีให้เลือกมากมาย แต่รสชาติออกจะจืดสำหรับคนไทยนะคะเพราะทำให้ฝรั่งกินมากกว่า อาบน้ำช้าง จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:39:30 ]

ความคิดเห็นที่ 14 กินเสร็จแล้วนั่งคุยกันพักนึงก็ถึงเวลาอาบน้ำช้างค่ะ ใครอยากจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ได้เห็นฝรั่งเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำหลายคน เวลาอาบน้ำช้าง ควาญจะบอกว่าให้ยืนตรงไหน เพราะเวลาช้างอยากจะขึ้น มันจะลุกขึ้นเลยไม่ฟังเสียงใคร ควาญกลัวเราโดนช้างเหยียบน่ะค่ะ อาบน้ำให้ช้างนี่มีการถูหลังให้ช้างด้วยนะคะ เอาแปรงทองเหลือง(เห็นแล้วแสบผิวแทน)ถู การอาบน้ำช้างนี่ควรจะอาบเหนือน้ำช้างตัวอื่นเพราะ...ช้างนั้นอาบน้ำไปอึไปค่ะ อาบน้ำช้างไปต้องคอยหลบอึช้างที่อยู่เหนือน้ำไป สนุกดี จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:41:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เปียกปอนกันทั้งช้างทั้งคนแล้ว เราเลยมานั่งผึ่งผ้าให้แห้งที่ศาลาริมน้ำ ถึงตอนนี้จะเป็น group discussion กับคุณเล็ก โดยคุณเล็กจะแนะนำตัวเองและบอกเล่าความเป็นมาของมูลนิธิพร้อมทั้งจุดประสงค์ทั้งปัจจุบันและอนาคต คุณเล็กเป็นคนเชียงใหม่ เกิดเชียงใหม่โตเชียงใหม่ และเป็นคนรักสัตว์ ตอนแรกไม่ได้คิดจะจัดตั้งมูลนิธิช่วยเหลือช้าง แต่คุณเล็กเป็นส่วนหนึ่งของคาราวานคนรักช้างที่เดินทางไปยังจังหวัดต่างๆพร้อมสัตวแพทย์คอยรักษาและช่วยเหลือช้าง แต่คุณเล็กเห็นการทารุณกรรมช้างมากมายหลานหน ทนไม่ได้จึงจัดตั้งมูลนิธินี้ขึ้น ช้างที่อยู่ที่นี่ต้องเอาเงินไปซื้อมาจากเจ้าของ บางตัวที่อยู่ที่นี่เจ้าของก็ไม่ยอมขายให้ ต้องทำการเช่ามา คุณเล็ก ในถุงสีเขียวนั้นใส่ขนมปังเต็มไปหมดเลย ช้างที่ปางช้างนี้ชอบกินขนมปังเป็นแผ่นๆมาก จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:44:09 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณเล็กบอกว่ามูลนิธิไม่ได้คัดค้านการที่เอาช้างมาทำการค้าเช่นเอามาให้นักท่องเที่ยวขี่เล่น เพราะควาญมีงานทำ มีรายได้ ควาญจะไม่ต้องดิ้นรนเอาช้างเข้ากรุง แต่มูลนิธิคัดค้านและต่อต้านการทำทารุณต่อช้าง บางอย่างนั้นคนทั่วไปไม่รู้ว่าช้างต้องได้รับการทารุณกรรมอย่างมากเช่น การให้ช้างวาดภาพ มีการแอบถ่ายวิดีโอจากปางช้างแห่งหนึ่งซึ่งฝึกให้ช้างวาดภาพด้วยการเอาขอสับแหลมๆสับช้างจนเลือดไหลโทรม (เราได้ดูวิดีโอตอนบ่ายนั้น ดูได้สิบนาทีทนไม่ได้ต้องลุกออกมา) คุณเล็กยังบอกว่า ที่นี่ไม่ได้ช่วยเหลือช้างอย่างเดียว แต่ช่วยเหลือวัวควาย หมาแมวที่ถูกนำมาปล่อยอีกด้วย คุณเล็กต้องเดินทางไปยังที่ต่างๆเพื่อหาทุนมาช่วยเหลือช้างต่อไป เรื่องราวของคุณเล็กนั้น ได้รับการถ่ายทอดเป็นสารคดีชุดต่างๆไปเผยแพร่ในต่างประเทศ เช่น National Geographoic Channel, Discovery Channel  และ Animal Planet ลูกความเผือกตัวนี้คุณเล็กช่วยมันออกมาจากโรงฆ่าสัตว์ แม่มันนั้นช่วยไม่ทัน มันเลยคิดว่าคุณเล็กเป็นแม่ค่ะ พอมันเห็นคุณเล็ก มันจะร้องมาแต่ไกลแล้ววิ่งหลุ่นๆเข้ามาหา พลางไซร้เป้ากางเกงคุณเล็กจะกินนมค่ะ ตลกมากๆ จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:47:33 ]

ความคิดเห็นที่ 17 หลังจากพูดคุยกับคุณเล็กแล้ว ก็ตามอัธยาศัยค่ะ ผู้เข้าชมส่วนมากจะเข้าห้องชมวิดีโอเกี่ยวกับการทารุณกรรมของช้างในเมืองไทย สามีนั่งดูตั้งแต่ต้นจนจบบอกโหดมาก เราดูได้สิบนาทีต้องออกมา เพราะทนดูไม่ไหว รับความจริงไม่ได้ แล้วอีกอย่างนึง มันไม่เหมาะกับเด็กอายุขนาดลูกเราด้วย มันดูได้สามนาทีก็วิ่งออกมาร้องไห้ข้างนอก จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:50:07 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ใครที่ไม่อยากดูวิดิโอ จะไปนั่งดูช้างเล่นกันก็ได้ อย่างที่บอกช้างที่นี่ไม่ต้องโดนล่ามโซ่ จะเดินไปไหนมาไหนก็ได้ ทางที่เดินก็ทางเดียวกับคนนี่ล่ะค่ะ เราเดินเล่นอยู่ดีๆมีเสียงบอกว่า”ขอทางช้างด้วยคร้าบ” หันไปดู ว๊ายยย งวงช้างห่างจากตรูดเราไปสองนิ้วเอง จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:50:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 หลังจากนั้นก็ต้องมีการอาบน้ำช้างกันอีกรอบค่ะ รอบสองนี้เป็นช้างคนละชุดกับรอบแรก เปียกปอนกันอีกแต่สนุกมากโดยเฉพาะเด็กๆ ลูกเล็กเด็กแดงสนุกกันมาก จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:52:02 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อีกรูป จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:52:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ลืมรูปค่ะ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 51 04:54:45 จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:54:13 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ลงรูปซ้ำ ขออภัย จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 04:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ปางช้างแห่งนี้อยู่ที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ค่ะ ทางเดียวกับทางไปปางช้างแม่ตะมาน ปางช้างแห่งนี้ต้องเลยปางช้างแม่ตะมานไปอีกประมาณ 3 กิโลนะคะ สำหรับเบอร์โทรศัพท์สำนักงานมูลนิธิในเมืองเชียงใหม่คือ 053-272-855 สำนักงานอยู่ที่ถนนราชมรรคา(สะกดถูกไหม)ค่ะ ประทับใจกับที่นี่มากๆค่ะ ต้องกลับไปอาบน้ำช้างอีกแน่นอน ก่อนกลับเราสามคนพ่อแม่ลูกได้บริจาคเงินสองพันบาทไว้เป็นค่าอุปถัมธ์มูโด๊ะ 1 ปี ถ้าเพื่อนๆมีใจเมตตา เพื่อนๆจะอุปถัมธ์ช้างตัวไหนก็ได้ หรือจะไม่เจาะจงก็ได้ค่ะ รายละเอียดตามอ่านได้ในเวบไซต์ของมูลนิธิ ขอให้สนุกกับการเที่ยวเมืองเหนือหน้าหนาวนี้นะคะ จากคุณ : flymom - [ 10 พ.ย. 51 05:03:23 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ ต้องไปแน่ ๆ เลย จากคุณ : scuba734 - [ 10 พ.ย. 51 05:26:21 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โหหห.. เห็นช้างแล้วน่าสงสาร จากคุณ : MeeMi - [ 10 พ.ย. 51 08:56:51 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เก็บไว้ให้ลิสต์ตัวเองก่อน... ขอบคุณรีวิวดีๆ ครับ จากคุณ : Art999. - [ 10 พ.ย. 51 08:59:19 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อ้าวพี่แอน เที่ยวเมืองไทยอีกแล้ว อิจฉาๆ มูโต๊ะน่าสงสารมากเลย ลูกควายเผือกน่าร๊าก ตัวยังนิดเดียวอยู่เลย น่าสงสารมันจังเลยที่ไม่มีแม่ นมก็ไม่ได้กิน ฮือๆ น้องไทตัวโตมากเลยเนี่ย ยังผอมเช่นเดิมแต่ตัวสูงขึ้นเยอะ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 51 09:08:47 จากคุณ : yinnerella - [ 10 พ.ย. 51 09:08:33 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ต้องหาโอกาสตามไปค่ะ ช่วยกันสนับสนุนและให้กำลังใจคนทำสิ่งดี ๆ ขอบคุณ จขกท.ค่ะ ขอ โหวตกระทู้ดี ๆ  ให้ได้ทราบกันค่ะ จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 10 พ.ย. 51 09:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ดีใจค่ะที่เห็นหน่วยงานที่ทำเพื่อสัตว์พิการ ไม่ว่าจะเป็นแมว สุนัข หรือช้าง การช่วยกันคนละไม้คนละมือตามกำลังของตัวเอง ใครสะดวกรูปแบบไหนก็ทำตามที่ตัวเองสะดวก อย่างน้อยก็ทำให้สังคมของเราน่าอยู่ขึ้น ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกองค์กรที่ทำเพื่อช่วยเหลือกันอย่างจริงใจด้วยค่ะ จากคุณ : SOprapa (deco_mom) - [ 10 พ.ย. 51 09:40:45 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณรีวิวดี ๆ เช่นกันค่ะ อยากให้เป็นกระทู้แนะนำจัง จากคุณ : บัวนลิน - [ 10 พ.ย. 51 09:43:06 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ดูแล้วน้ำตาไหลเลยครับ ผมเองเกิดในจังหวัดสุรินทร์เมืองช้างครับ มีความผูกพันกับช้างมาตั้งแต่เด็กๆ เวลาที่ผมเห็นช้างที่เค้าเอามาเดิน อยู่ในกรุงเทพฯ ผมไม่อยากมองเลยครับ หดหู่จริงๆ น่าจะมีการจัดการที่มันดีกว่านี้นะครับ ฝากให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองช้วยกันดูแลซักหน่อยก็ยังดีครับ จากคุณ : ข้าวเสาไห้ - [ 10 พ.ย. 51 09:54:53 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณที่นำสิ่งดี ๆ มาให้ดูครับ  เห็นเช่นนี้แล้ว อยากไปบ้างจัง อยากเป็น 1 ในคนไทย ที่ไปเที่ยว จากคุณ : รอยยิ้ม ณ ริมเล - [ 10 พ.ย. 51 10:18:11 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ไปปางช้างมาหลายที่ แต่ไม่เคยไปที่นี่เลยค่ะ ปางช้างอีกที่หนึ่งที่ให้การอุปการะช้างคือที่อ.งาว จ.ลำปางค่ะ เราเรียกกันว่าปางหละ เป็นของราชการค่ะ ส่วนมากเป็นช้างที่ยึดมาได้จากที่ใช้ลากไม้เถื่อน (ช้างของกลาง) ที่เหลือก็เป็นช้างแก่ ช้างพิการ ใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้ว แต่หลวงต้องเลี้ยงไว้จนกว่าจะแก่ตายกันไปค่ะ ขอบคุณรีวิวที่น่าสนใจค่ะ ทำให้ได้รู้ว่ายังมีคนใจบุญอย่างเจ้าของปางช้างนี้อยู่ เพราะการเลี้ยงช้างนี้ต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากจริง ๆ ค่ะ เป็นเหตุผลที่ทำให้ปางช้างเอกชนหลาย ๆ แห่งต้องหารายได้จากการขี่ช้าง การแสดงช้าง ฯลฯ นั้นก็เพื่อให้ช้างที่สามารถทำงานได้ หาเงินมาเลี้ยงเพื่อนช้างร่วมปางค่ะ ป.ล.ไม่ได้สนับสนุนปางช้างให้ทรมาณสัตว์มาแสดงนะคะ แต่อยากให้มองอีกด้าน เพราะถ้าเค้าไม่มีนักท่องเที่ยว เจ้าของปางก็อยู่ไม่ได้ ช้างก็อยู่ไม่ได้เช่นกันค่ะ จากคุณ : เมอแรงก์มะนาว - [ 10 พ.ย. 51 10:33:55 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆค่ะ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย สงสัยต้องหาทางพาแม่ไปซะแล้ว แม่ชอบช้างแต่ไม่ชอบไปดูโชว์แบบที่ให้นักท่องเที่ยวดู จากคุณ : ohhioh - [ 10 พ.ย. 51 10:36:04 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เก็บไว้เข้า list ค่ะ... อยากไปมั่งจัง... จะลองเกณฑ์เพื่อนๆไปเที่ยวปางช้างที่นี่สักวันนึงให้ได้ค่ะ จากคุณ : MJ_CHIC - [ 10 พ.ย. 51 12:52:35 ]

ความคิดเห็นที่ 36 จดเบอร์ไว้แล้วคะ จากคุณ : ม่านสีม่วง - [ 10 พ.ย. 51 13:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้ามีโอกาส จะไปแน่นอนคะ อยากให้ช้างทุกตัว ได้อยู่อย่างมีความสุข ไม่ต้องถูกทารุณ หรือนำมาเดินเร่ร่อนในเมืองอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณเล็ก ที่นิธิช่วยเหลือช้างเหล่านี้คะ จากคุณ : การเดินทางของความรัก - [ 10 พ.ย. 51 13:11:31 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณมากๆ คะ เคยได้ดูสารคดีที่คุณเล็กไปออกโดยบังเอิญ แต่ว่าจดรายละเอียดไม่ทันคะ ในที่สุดก็หาเจอแล้ว เพราะกระทู้นี้เลย โหวตกระทู้นี้ด้วยคะ เราว่าคนรักช้างในนี้มีเยอะเลยคะ (น้องช้างน่ากอดมากๆ ^^) จากคุณ : Daijobudai - [ 10 พ.ย. 51 14:53:17 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่รู้เลยค่ะ ว่ามีปางช้างแบบนี้ด้วย ส่วนตัวก็ไม่ชอบไปดูการแสดงช้าง หรือ ขี่ช้างอยู่แล้ว รู้สึกว่าสงสารเค้าอะ เค้าควรจะได้อยู่แบบธรรมชาติที่เค้าควร อยู่มากกว่า save link ไว้แล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวและข้อมูลดี ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจคุณเล็กและเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทุกท่านค่ะ ^^ จากคุณ : ลมหนาวกะดาวอุ่น - [ 10 พ.ย. 51 15:01:05 ]

ความคิดเห็นที่ 40 โหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ อยากให้มีคนเห็นกระทู้ดีๆอย่างนี้เยอะๆ ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับรีวิว จากคุณ : yuki_shimi - [ 10 พ.ย. 51 18:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เจ้าของใจร้ายจังเนอะ ..ไว้ต้องหาโอกาสไปเยี่ยมบ้าง ขอบคุณค่ะ จากคุณ : NATTI นัทตี้ - [ 10 พ.ย. 51 23:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณนะคะสำหรับสถานที่ดีๆแห่งนี้ คนไทยน้อยคนที่รู้จริงๆค่ะ น่าสงสารช้างออกนะคะ มาเดินในกรุงเทพร้อนก็ร้อน ได้กินอิ่มมั้ยก็ไม่รู้ จากคุณ : เด็กหญิงไข่มุก - [ 10 พ.ย. 51 23:43:20 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขออนุญาต จขกท.นะคะ รบกวนเพื่อน ๆ ที่เข้ามากด  "เก็บเข้าคลังกระทู้" ด้วยนะคะ เพราะทู้นี้ตั้งในหมวดท่องเที่ยวไทย   ถ้าไม่กดเก็บ...อีกไม่นานจะหายไป เสียดายทู้ดี ๆ ค่ะ ขอบคุณค่ะ   จากคุณ : แม่ซากานะ - [ 11 พ.ย. 51 00:11:51 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณมากค่ะคุณแม่ซากานะที่ชอบกระทู้นี่ค่ะ จากคุณ : flymom - [ 11 พ.ย. 51 01:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 45 พวกเราต้องไปกันเยอะๆนะครับ จากคุณ : โบริโบริ - [ 11 พ.ย. 51 02:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เข้ามาโหวตให้ค่ะ.. สงสารมูโด๊ะ จากคุณ : หมูน้อยยิ้มแฉ่ง - [ 11 พ.ย. 51 14:20:31 ]

ความคิดเห็นที่ 47 โหวดอีก 1 เสียงเพื่อให้คนไทยได้รู้จักสถานที่แห่งนี้เพิ่มมากขึ้นค่ะ จากคุณ : brastor - [ 19 พ.ย. 51 22:14:27 ]