ความคิดเห็นที่ 9

ขอให้ข้อมูลแค่ 3 เมืองแล้วกัน
โรม
ที่พักไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้ Termini เพราะย่านไม่ค่อยดีและแพง ให้เลือกอยู่ใกล้สถานีรถไฟอื่น เช่น Spagna หรือ Cavour หรือ Babernina ซึ่งมีที่พักระดับ 3 ดาวแถมอาหารเช้าอยู่รอบสถานีเยอะแยะ ในราคาห้องละ 60-70 ยูโรต่อคืน ห้องน้ำในตัว
สิ่งแรกที่ต้องทำหลังจากถึงโรมคือไปที่ข้างชานชลาที่่ 24 ของ Termini ตรงติดไปรษณีย์ จะมีเคาน์เตอร์ขายตั๋ว Roma Pass ราคา 20 ยูโรต่อคน ซึ่งจะได้แพ็กเก็ต มีการ์ดพลาสติกหนึ่งใบเอาไว้เข้าพิพิธภัณฑ์ และตั๋วกระดาษหนึ่งใบเอาไว้โดยสารรถไฟ รถไฟใต้ดิน รถเมล์ และรถราง
ด้วยการ์ดพลาสติค จะเข้าพิพิธภัณฑ์ได้ฟรี 2 แห่งแรกในเวลา 3 วัน (เป็นต้นว่าเลือกเข้า Colosseo กับ Boghese ก่อน) และที่เหลือก็ลดราคาเกือบหมด (ยกเว้นพิพิธภัณฑ์วาติกันที่ไม่ร่วมรายการ) เริ่มนับวันแรกนับจากเสียบการ์ดเข้าชมพิพิธภัณฑ์
นอกจากนั้น ด้วยตั๋วกระดาษ จะนั่งรถไฟใต้ดิน รถเมล์ รถราง รถไฟได้ฟรีในเขตตัวเมืองโรม ในเวลา 3 วันเช่นกัน เริ่มนับวันแรกนับจากเสียบตั๋วสอดเข้าช่องรถไฟใต้ดินหรือรถเมล์
เพราะฉะนั้น Roma Pass นี่คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เพราะค่าเข้า Colosseo กับ Boghese นั้นแห่งละ 12 ยูโรเข้าไปแล้ว สองที่นี่จำเป็นต้องเข้าไปดูเด็ดขาด ที่ Boghese นั้นในหน้าร้อนต้องจองล่วงหน้า เพราะจำกัดคนไว้วันละ 240 คน หน้าหนาวอาจไม่ต้องจอง ลองไปเสี่ยงดวงดู มีเข้าดูวันละ 4 รอบ รอบละ 2 ชั่วโมง รถเมล์จิ๋วสาย 116 วิ่งถึง ผ่านแถวน้ำพรุเทรวี่ด้วย
อย่าคิดเดินมาก ไกลเอาเรื่องเหมือนกัน รถไฟใต้ดินก็พอไปไหนมาไหนได้ รถเมล์สาย 116 117 40 สามสายนี้ผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ของเมือง
สิ่งที่ควรดูในโรมมีเยอะมาก ถ้าจะให้หมดก็ต้องมีสักสัปดาห์ แต่ 3 วันตาม Roma Pass ก็คงดูหลักๆ ได้แล้ว
พิพิธภัณฑ์วาติกัน แนะนำให้ไปตอนบ่าย ซึ่งไม่มีคิว ตอนเช้าคนเยอะ คิวยาวไร้สาระ ไปถึงสัก 13:00 ให้ใช้เวลาดูรูป The Last Judgement ในโบสถ์ซิสทีนนานหน่อย ออกจากพิพิธภัณฑ์ 16:00 ก็เดินไปถ่ายรูปกับโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ ยังพอมีแสง แล้วก็เข้าในโบสถ์ตอนแดดใกล้หมด เพราะไม่จำเป็นต้องมีแดดเพื่อที่จะดูข้างใน คิวคนเข้าโบสถ์ตอนเช้าก็ไร้สาระเช่นกัน รอผ่านเครื่องสแกนเป็นชั่วโมง ตอนเย็นเดินรวดเดียวเข้าไปเลย ไม่มีคิว คนดูรูปปั้น The Petra ก็ไม่เยอะ
อาหารที่โรมแพงมาก อาหารต่างชาติหายากด้วย แถว Termini มีร้านจีนราคาถูกอยู่ร้านหนึ่ง ใช้ฝากท้องได้
ฟลอเรนซ์
ที่พักถูกมาก แต่มักจะเก่า ให้เลือกแบบมีห้องน้ำในตัว มีอาหารเช้าแถม โรงแรมสามดาวห้องละ 40 ยูโรต่อคืนน่าจะมี ให้เปิดแผนที่หาเอาแบบข้างดูโอโม่เลย แบบเดินออกจากโรงแรมแล้วก็เป็นดูโอโม่เลย มีเยอะมาก
ฟลอเรนซ์เดินได้ทั้งเมือง ควรมีเวลา 1.5 วันเป็นอย่างน้อย ถ้ามีแรงก็ไต่ยอดโดมดูโอโม่หรือเดอะแบบทริสตี้
อาหารไม่แพงเท่าที่โรม มีร้านอาหารจีนแบบตักใส่กล่องกลับไปกินโรงแรมไม่แพงด้วย สองคนพออิ่มก็คงประมาณ 7-8 ยูโร เห็นมี 2-3 ร้าน เวลาซื้อน้ำดื่มกับขนม ให้ซื้อร้าน 99 เซ็นต์ หรือร้าน 1 ยูโร
นอกจากดูโอโม่แล้ว สิ่งที่น่าดูก็เช่นพิพิธภัณฑ์แอคคาเดเมีย พิพิธภัณฑ์อุฟฟิซี่ซึ่งคิวยาวมากและต้องจองล่วงหน้า (ถ้าหน้าหนาวไม่ต้องจองล่วงหน้าก็พอได้) และก็โบสถ์ซานตา มาเรีย โนเวลล่า หน้าสถานีรถไฟ
ที่ฟลอเรนซ์ ทุกอย่างต้องเสียเงินหมด เตรียมควักกระเป๋าหรือศึกษาประวัติของแต่ละแห่งดีๆ ว่าเข้าไปดูและเสียเงินแพง เช่นพิพิธภัณฑ์แอคคาเดเมียซึ่งแพง และมีรูปปั้นเดวิดเพียงสิ่งเดียวที่น่าดู ต่างจากอุฟฟิซี่ที่คนทั้งโลกแห่เข้าไปดู แต่จำกัดคนดูไว้แค่วันละ 300 คน ดังนั้นควรจะศึกษาประวัติของแต่ละที่ก่อนเสียเงินเข้าไปดู
นอกจากนี้อาจไปสังเกตการณ์ร้าน Ferragamo สำนักงานใหญ่และร้านแรกของเขา มีพิพิธภัณฑ์ประวัติของยี่ห้อนี้ด้วย (แต่เสียค่าดู 5 ยูโร)
แต่เที่ยวฟลอเรนซ์สนุกที่สุด เพราะศิลปะมากที่สุด คนเยอะที่สุด ใครๆ ก็เดินเที่ยวกันทั้งเมือง เดินไปเดินมาทั้งดูพิพิธภัณฑ์ ทั้งเดินดูคนด้วยกันเอง แถมมีตลาดเครื่องหนังขายเครื่องหนังราคาถูกเปิดแต่เช้ายันดึก
มิลาน
เมืองใหญ่ เดินลำบาก ให้เลือกโรงแรมใกล้สถานีรถไฟย่อยเช่นกัน โรงแรม 3 ดาวคืนละ 60 ยูโรน่าจะมี มีห้องน้ำในตัวมีอาหารเช้าพร้อม ขอแนะนำโรงแรม Sempione ห้องน้ำใหม่ ระบบไฟดี อาหารเช้าหลากหลาย ห่างสถานีรถไฟ Republica แค่ 2-3 นาทีเดิน (สถานีนี้ห่างจากสถานี Centrale สถานีเดียว)
สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อไปถึงมิลาน คือหยอดตู้ซื้อตั๋ววัน ราคา 3 ยูโร นั่งได้ 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นรถไฟใต้ดินหรือรถรางหรือรถเมล์ ด้วยตั๋วนี้ ก็ใช้เดินทางไปโรงแรมได้เลย
สิ่งที่ต้องดูในมิลานมีไม่มาก เช่นดูโอโม่และแกลเลอเรียเอ็มมานูเอลที่อยู่ติดกัน และถัดไปก็มีถนนคนเดินสนุกมาก และให้เดินถนนมอนเตนาโปลีออน ซึ่งมีแบรนด์เนมชั้นยอดของโลกมารวมกันมากที่สุด
ถ้าจะไปดูปราสาทเก่าสำคัญของเมือง ต้องไปแต่เช้าๆ
หอเอนปีซ่า
ไม่รู้จะคุ้มเวลา (รถไฟจากฟลอเรนซ์ใช้เวลา 1.5 ชั่วโมง เพราะมีแต่รถหวานเย็น) กับคุ้มค่ารถ (5.4 ยูโร ไป-กลับ) หรือไม่ แต่ก็ไหนๆ แล้ว ก็ไปหน่อยแล้วกัน
ไปเที่ยวหน้าหนาวต้องบริหารเวลาดีๆ เพราะฟ้าสว่างเจ็ดโมง มืดบ่ายห้าโมงเย็น กว่าอาหารเช้าจะให้บริการก็เจ็ดโมงครึ่ง รับประทานเสร็จแปดโมงครึ่ง มีเวลาเที่ยวจริงๆ ไม่กี่ชั่วโมง
อาหารการกินแพงมาก ขอแนะนำมาม่า เอาแบบถ้วยพลาสติกไปหนึ่งหรือสองถ้วย เก็บถ้วยไว้ใช้กับมาม่าที่เหลือที่เอาแบบซองไปด้วย ไปเปิดน้ำร้อนลวกมาม่ากินจะประหยัดกว่ามาก เอาสารพัดรสมาม่าก็ได้ หมูสับ เกาหลี ต้มยำ เปิดน้ำร้อนลวกหลายๆ รอบเอา เพราะพิซซ่าเอย สปาเก็ตตี้เอย ลาซันย่าเอย รวมน้ำดื่มแล้ว ก็ตกมื้อละ 6-7 ยูโรต่อคน
เรื่องตั๋วรถไฟระหว่างเมือง ซื้อแยกถูกกว่า ไม่ต้องจองล่วงหน้านานๆ ใดๆ อยากไปเมื่อไร ก็เดินไปกดตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ เสียบบัตรเครดิตซื้อตั๋วและเลือกที่นั่งได้เลย รถไฟยูโรสตาร์ระหว่างเมืองใหญ่ๆ ที่ว่า มีชั่วโมงละขบวนสองขบวนอยู่แล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคืออ่านป้ายให้เป็น ว่ารถผ่านเมืองไหนอย่างไร เวลาเท่าไร ป้ายสีเหลืองคือรถออก ป้ายสีขาวคือรถเข้า แต่ชานชลาที่รถไฟจะเข้าจริงๆ นั้นให้ดูในจอคอมพิวเตอร์ข้างบนตอนใกล้ถึงเวลา
อย่าให้การซื้อตั๋วล่วงหน้ามาเป็นข้อจำกัดในการเดินเที่ยว เพราะบางทีจะเดินไปนู่นมานี่ เดินหลงซ้ายหลงขวา และอาจพะวงหรือกังวลจนเที่ยวไม่สนุก เอาแบบเที่ยวให้สนุก พร้อมจะเดินทางก็ไปที่สถานีรถไฟเลย เอาไว้ให้ไปถึงสถานีแล้วค่อยซื้อตั๋ว ถ้าเที่ยวนี้เต็ม ก็ไปเที่ยวหน้าอีกครึ่งชั่วโมงแค่นั้นเอง
โรงแรมส่วนมากรับฝากกระเป๋าหลังจากเช็คเอาท์แล้ว รับประทานอาหารเช้า เช็คเอาท์ ฝากกระเป๋า ไปเที่ยว พอจะไปสถานีรถไฟก็ค่อยแวะมาเอากระเป๋า
ถ้าชอบช็อปปิ้งแบรนด์เนมระดับโลก มีเอาท์เล็ดหลักๆ ใกล้ๆ ฟลอเรนซ์ เข้าไปดูได้ดังนี้ http://www.enjoyflorence.com/english/outlet.html
THE MALL: Agnona, Alexander McQueen, Balenciaga, Bottega Veneta, Emanuel Ungaro, Ermenegildo Zegna, Fendi, Giorgio Armani, Gucci, Hogan, I Pinco Pallino, La Perla, Loro Piana, Marni, Salvatore Ferragamo, Sergio Rossi, Stella McCartney, Tod's, Valentino, Yohji Yamamoto, Y-3 e Yves Saint Laurent、Emilio Pucci .
PRADA: Miu Miu, Helmut Lang, Prada Sport, Jil Sander
DOLCE & GABBANA: D&G, Dolce & Gabbana
VICTORIA: Prada, Miu Miu, Helmut Lang, Fendi, Ruffo, Jil Sander, Geox, Versace, Hugo Boss.
จากคุณ :
vandyman
- [
24 พ.ย. 51 02:57:50
]
|
|
|