PANTIP.COM : E7228893 กระทู้แก้เซ็ง +++ รถรุ่นไหนมั่ง ขึ้นดอยไม่ไหวครับ +++ [ท่องเที่ยวไทย]

ความคิดเห็นที่ 43

ไม่ได้จะอะไรนะคะ คือคห.ส่วนตัว เราจะคิดว่า ถ้าต้องขึ้นเขา ลงดอย ยังไง ๆ พยายามใช้รถที่มันเหมาะกับการขับขี่แบบโฟรวีลก็ดีนะคะ
และอย่าใช้รถเล็ก โดยเฉพาะถ้าคุณมีสัมภาระและคนนั่งหลายคน

เพราะรถเล็กคุณจะลำบากทั้งตอนขึ้นเขาและลงดอย ลงดอยดาวน์ฮิล/ต้องใช้เกียร์ต่ำเสมอ ถ้าลงเกียร์ต่ำเบรคจะเอาไม่อยู่นะคะ เพราะแรงดึงแรงส่งอะไรนี่แหล่ะ เราอธิบายไม่ถูก แต่มันอันตรายมากถ้าคุณลงเนินด้วยเกียร์ปกติ ต้องเชนไปเกียร์ต่ำเสมอค่ะ

รถเล็กจะลำบากตอนเบรคด้วยค่ะ ถ้าสัมภาระเยอะและคนนั่งหลายคนต้องเผื่อระยะเบรคมากกว่าเดิมด้วยค่ะ /สำหรับทางราบนะ ถ้าบนเขาก็ระวังมันจะเอาไม่อยู่นะถ้าบรรทุกเยอะ

ยังไงรถใหญ่ โฟรวีลที่เห็นรถเล็กขึ้นลงดอย ก็อย่าไปกดดัน หรือไปบีบแตรไล่เลยค่ะ เพราะบางทีเค้าหารถอย่างอื่นไม่ได้แล้ว บางทีก็ต้องใช้รถเล็กเดินทาง ก็มี

แต่ขอแนะนำว่าอย่าใช้รถเล็กค่ะ

เคยไปกับพี่สาวที่เป็นญาติสนิทกัน แบบว่า ต้องออกจากเชียงใหม่เพื่อไปเชียงรายตอนกลางดึก นั่งไปกันสามคน ปรากฏว่ารถไปแหง่กอยู่บนดอยนางแก้ว /น่ากลัวโคด ๆ สมัยนั้นยังไม่มีมือถือเลยนะ
แต่มีแต่พวกโทรศัพท์แบบติดรถน่ะเคยเห็นป่ะ ซึ่งรถคันนี้ก็มิมีแต่อย่างใด/แล้วจะพูดทำไมเนี่ย เหอ ๆ
แต่แล้วเราก็จำได้ว่าก่อนขึ้นดอยมา ดูเหมือนจะเห็นโทรศัพท์ของทางหลวงอยู่ข้างทาง/เคยเห็นป่ะคะ จะสีส้ม ๆ เป็นแท่นขึ้นมา แบบว่าไม่มีตู้ คือเป็นแท่นขึ้นมาเฉย ๆ สีส้ม ๆ อยู่ข้างทาง
ซึ่งเราก้ไม่รู้ว่ามันจะใช้ได้หรือเปล่า ตอนนั้นก็กะว่าจะเดินไปที่โทรศัพท์กันสามคนแล้วล็อครถไว้
แล้วพี่เรามันก็ดันร้องไห้ไม่กล้าเดินไป/ไอ้บ้าเอ้ย แล้วกล้าขับข้ามดอยนางแก้วตอนกลางดึกเนี่ยอ่ะนะ คือเมื่อก่อนไม่เหมือนสมัยนี้นะ แบบว่าเงียบมากกกก
เป็นป่าทึบ เป็นเขา แล้วบรรยากาศก็มืดไปหมด/เล่าไป ๆ แล้ว ชักเหมือนหนังสยองขวัญป่ะ เอาไปเป็นพลอตได้นะ แล้วให้อนันดาเล่นนะ อิอิ

ตอนนั้นเราก็คิดละ จะเดินไปคนเดียวก็.....นะ.....แบ่บว่า นึกภาพตัวเองยืนโทรอยู่คนเดียวที่เจ้าแท่นสีส้มนั่นอ่ะ แล้วรอบตัวมีแต่ป่ากับความมืด เหอ ๆ
ก็นั่งอยู่ในรถ เหงื่อแตกเลยนะ เพราะเถียงกันด้วย เหอ ๆ ทั้งที่ข้างนอกเนี่ยหนาวสุด ๆ ตอนนั้นก็คงประมาณเที่ยงคืนตีหนึ่งได้ อีกนานกว่าจะเช้า
แล้วหน้าหนาวเมื่อสิบกว่าปีก่อนเนี่ย รถก็ไม่ได้เยอะ แบบสมัยนี้ที่คนไปเที่ยวหน้าหนาวกันนะ หรือเค้าอาจจะวิ่งกลางวันกันเราก็ไม่แน่ใจ
ก็มีรถปี๊คอัพที่คนเค้าขนสินค้าเกษตรอ่ะค่ะ ผ่านพวกเราไป ไกลพอสมควร แล้วเค้าก็จอดข้างหน้า มีคนเดินลงมา
จำได้ว่าช่วงเวลาที่คนขับรถคันนั้นเค้าเดินจากรถเค้ามาถึงที่รถพวกเราที่จอดเสียอยู่ มันเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวมากกกก..... แล้วแกเดินจ้ำ ๆๆๆ เข้ามาเลยนะ
ความรู้สึกตอนนั้นคือ เฮ้ย จะลงจากรถแล้ววิ่งหนี ก็ววิ่งหนีไปไหนอ่ะ เข้าป่าเรอะ ตายแน่ ๆ ตรู
หรือว่าจะนั่งอยู่ในรถแล้วหาพวกประแจมาเป็นอาวุธ

จนร่างนั้นเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ....ใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ เราก็เห็นหน้าชายฉกรรค์คนนั้นชัดขึ้น ชัดขึ้น มองตรงมาที่เราที่นั่งกลัวกันอยู่ในรถ
พวกเราได้แต่มองหน้ากันไปมา แต่ทันใดนั้น พี่เรามันก็เปิดกระจกตะโกนออกไปสุดเสียงว่า.....

ลุง ๆ รถเสียเจ๊า..... บ่อฮู้เป็นอะหยังขึ้นดอยแล้วเคี่ยงก็ดับหน้าซื่อ......

5555 คือลุงแกก็ไม่ได้ดูน่ากลัวอะไรหรอกค่ะ เป็นโชคดีที่พวกเราเจอคนดี ลุงใจดีพอดีเลย ลุงเป็นคนเมืองพานหน่ะเจ๊า
สรุปว่า ตกลงรถก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก ลองสตาร์ทอีกทีมันก็ติดแล้ว
คาดว่าคงจะขึ้นดอยสูงแล้วแบบว่าเกินกำลังมัน/มีกลิ่นเหม็นไหม้นิดหน่อย แต่ก็น่ากลัวโคด ๆ
แล้วขึ้นดอยพี่เรามันไม่ได้ใช้เกียร์ต่ำพอที่จะขึ้นได้
คือมันเป็นศาสตร์และศิลปอย่างมากที่เด็กดอยอย่างเราควรจะเรียนรู้การใช้เกียร์ต่ำในขณะรถขึ้นและลงดอย ก็ไม่รู้ไง ขับไม่แข็งแต่ดันซ่าส์ เหอ ๆ

ยังไงก็ขับรถระวัง ๆ และอย่าลืมเช็คสภาพรถให้พร้อมและใช้รถที่เหมาะสมกับการขับขึ้นเขาลงเขาจะดีที่สุดนะคะ ถ้าต้องใช้รถเล็กก็ต้องยิ่งระวังมากขึ้นอ่ะค่ะ
ปล.สมัยนี้มีมือถือใช้กันแพร่หลายแล้ว แต่อย่าลืมเช็คสภาพแบต ทั้งแบตรถ แบตมือถือด้วยและอย่าลืมเม็มเบอร์ตำรวจทางหลวงและบริการรถลาก ซ่อมรถ ฯลฯ ด้วยนะคะ/ปกติน่าจะมีอยู่ในแผนที่น่ะค่ะ

ขอให้ท่องเที่ยวในช่วงหน้าหนาวนี้อย่างมีความสุขและปลอดภัยนะคะ

จากคุณ : เหมียวโหด - [ 21 พ.ย. 51 15:37:17 A:115.129.8.153 X: TicketID:191501 ]