ขอคำชี้แนะโปรแกรมไหว้พระ9วัดที่อยุธยา

สวัสดีค่ะ
วันอาทิตย์ที่ 30 พ.ย. จะไปไหว้ 9 วัดที่อยุธยาค่ะ เช่ารถตู้ไปกันเองค่ มีโปรแกรมให้เพื่อนๆ ให้ห้องนี้ช่วยชี้แนะ และจะรบกวนดังนี้ค่ะ
1. ควรไปวัดไหนก่อน หรือว่า โปรแกรมที่จัดไว้ โอเคแล้ว
2. มีอะไรจะแนะนำ หรือจุดไหนที่ควรแวะเป็นพิเศษ
3. รบกวนแนะนำร้านอาหารสำหรับทานพักเที่ยง
4. รบกวนแนะนำร้านที่จะซื้อของฝาก ของที่ระลึก ติดไม้ติดมือกลับกรุงเทพ

ต่อไปนี้ เป็นตัวอย่างโปรแกรม ที่จัดค่ะ ไม่ทราบว่าใช้ได้หรือไม่ แต่ที่เน้น คือ ต้องไปวัดท่าการ้อง เพราะจะไปทำบุญ เนื่องจากคราวก่อน ซื้อลอตเตอรี่ แล้วถูกรางวัลที่วัดนี้ค่ะ
วัดที่จะแวะไหว้สักการะ มีดังนี้
1. วัดใหญ่ชัยมงคล
2. วัดพนัญเชิงวรวิหาร
3. วัดศรีมหาธาตุ
4. วัดราชประดิษฐาน
5. วัดธรรมิกราช
6. วัดหน้าพระเมรุ
7. วัดมงคลบพิตร
8. วัดกษัตราธิราชวรวิหาร
9. วัดท่าการ้อง

08.00 น.ออกเดินทาง กรุงเทพ สู่ จ.พระนครศรีอยุธยา

09.00-09.45 น. ถึงวัดใหญ่ชัยมงคล (1) มหามงคลด้านชัย – มงคล เมตตามหานิยม วัดนี้สร้างในสมัยพระเจ้าอู่ทอง เมื่อ พ.ศ. 1900 ได้รับพระราชทานนามว่า วัดป่าแก้ว ต่อมาเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าวันรัต พระสังฆราชฝ่ายวิปัสนา ชาวบ้านจึงเรียกวัดนี้ว่า “ วัดเจ้าพระยาไทย ” ( หมายถึงงฆราช) มีเจดีย์องค์ใหญ่ทรงระฆังคว่ำ สูงประมาณ 60 เมตร ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระนเรศวร ว่า “ เจดีย์ชัยมงคล ” สร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติยศ ที่ทรงกระทำยุทธหัตถีชนะสมเด็จพระมหาอุปราชาแห่งพม่า พระศักดิ์สิทธิ์คู่วัดนี้ได้แก่ พระนอนขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวร

09.50 – 10.35 น. แวะจุดที่ 2 คือ (2) วัดพนัญเชิงวรวิหาร  มหามงคล ด้านการค้าพาณิชย์รุ่งเรืองความสำเร็จในงานไหว้พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยลงรักปิดทอง มีขนาดหน้าตักกว้าง 14.10 เมตรและสูง 19 เมตร ฝีมือปั้นงดงามมาก อาจนับได้ว่า เป็นพระพุทธรูปนั่งสมัยอยุธยาตอนต้น

10.40 – 11.30 น. วัดศรีมหาธาตุ (3) ตั้งอยู่เชิงสะพานป่าถ่าน ทางทิศตะวันออกของวัดพระศรีสรรเพชญ์ พงศาวดารบางฉบับกล่าวว่าวัดนี้สร้างในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 ต่อมาสมเด็จพระราเมศวรโปรดเกล้าฯให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ใต้ฐานพระปรางค์ประธานของวัดเมื่อ พ.ศ. 1927

11.35-12.20 น. วัดราชประดิษฐาน (4)ปัจจุบันเป็นวัดราษฎร์ วัดนี้ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีเป็น พระอารามหลวงมีชื่อปรากฏในพระราชพงศาวดารวัดหนึ่งและเป็นวัดโบราณตั้งอยู่ริมปาก คลองประตูข้าวเปลือกฝั่งตะวันตก ภายในกำแพงพระนคร แต่จะสร้างในรัชสมัยใด ใครเป็นผู้สร้างไม่ปรากฏหลักฐาน และมีชื่อว่า “ วัดราชประดิษฐาน ” แต่เดิมมาจนถึงทุกวันนี้

12.20-13.00 น. แวะหาร้านรับประทานอาหารกลางวัน (ใช้งบส่วนตัวนะค่ะ)  

13.00-13.45 น. วัดธรรมิกราช (5) เมตตามหานิยม คุ้มครองรักษาโรคภัยอันตราย เป็นวัดสงฆ์มหานิกาย เดิมชื่อวัดมุขราช ที่วิหารหลวงแห่งนี้ เคยเป็นที่ประดิษฐ์ของเศียรพระพุทธรูปหล่อสัมฤทธิ์ ศิลปะสมัยอู่ทอง ซึ่งปัจจุบัน กรมศิลปากรนำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ด้านทิศเหนือของพระเจดีย์สิงห์ล้อม 52 ตัวที่แตกต่างไปจากเจดีย์ช้างล้อมพระพุทธไสยาสน์มี ความยาว 12 เมตร หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ ที่ฝ่าพระบาทปิดทองประดับกระจก

13.50-14.35 น. วัดหน้าพระเมรุ (6) มหามงคล ความเจริญรุ่งเรือง เมตตามหานิยม มีชื่อเดิมว่า “ วัดพระเมรุราชิการาม ” วัดนี้เป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยา ที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลาย และยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยา อยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระประธาน ในอุโบสถสร้างปลายสมัยอยุธยา เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ทรงเครื่องแบบกษัตราธิราช มีนามว่า “ พระพุทธนิมิตวิชิตมาร โมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ ” จัดเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยอยุธยา ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีปรากฏอยู่ในปัจจุบันและมีความสมบูรณ์งดงามมาก

14.40-15.25 น. วัดมงคลบพิตร (7) พระคู่บ้าน คู่เมืองอยุธยา สิริมงคลทุกด้าน พระมงคลบพิตรเป็นพระพุทธรูปบุสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 9.55 เมตรและสูง 12.45 เมตร นับเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่องค์หนึ่งในประเทศไทย สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระไชยาชาธิราช เดิมประดิษฐานอยู่กลางแจ้งที่วัดชีเชียงสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม โปรดให้ชะลอมาไว้ ณ ที่ปัจจุบัน ต่อมาฟ้าผ่ายอดมณฑปที่สวมไว้ พระเจ้าเสือจึงโปรดให้ก่อสร้าง ใหม่เป็นวิหาร ในคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2

15.30-16.15 น. วัดกษัตราธิราชวรวิหาร (8)วัดนี้เดิมชื่อ “ วัดกษัตรา ” หรือ “ วัดกษัตราราม ” เป็นวัด โบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยามีพระปรางค์ใหญ่เป็นประธานหลักของวัด และยังมีพระอุโบสถ สมัยอยุธยาซึ่งมีลายดาวเพดานจำหลักไม้งดงามมาก ภายในวัดมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัย รัตนโกสินทร์ เป็นวัดที่มีความสวยงามมากวัดหนึ่ง

16.15-16.50 น. วัดท่าการ้อง (9)เป็นวัดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาสักการะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ นามว่า " พระพุทธรัตนมงคล" หรือที่เรียกกันว่า "หลวงพ่อยิ้ม" สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัย อยุธยาตอนต้น ขณะที่บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรืองและสงบสุข ดังจะเห็นได้จากพระพุทธ ลักษณะที่งดงามและพระพักตร์ที่มีความเมตตา

17.00 น. ออกเดินทางจากอยุธยา กลับกรุงเทพ ถึงกรุงเทพ ประมาณ 6 โมงเย็นค่ะ

จากคุณ : อย่าโง่เท่าเดิม - [ 26 พ.ย. 51 11:55:39 ]