ผมเที่ยวกับเพื่อนๆอยู่ในภูเก็ต พักที่ Moevenpick Resort หาดกะรน แพลนคือจะบินกลับมากรุงเทพวันที่ 27 สุดท้ายก็ไม่ได้กลับ เราก็เลยอยู่ต่อจนถึงวันจันทร์ ที่จริงจะกลับกับรถทัวร์ก็ำได้ แต่ว่าทั้งคณะมีแพลนจะไปอเมริกาวันที่ 30 ก็เลยไม่ไปกรุงเทพ อยู่ต่อที่ภูเก็ตและพยายามหาทางบินออกจากภูเก็ตแทน วันที่ 27 เราเปลี่ยนตั๋วของแอร์เอเชียโดยใช้เครดิตของไฟล์ที่โดนแคนเซิลบวกกับจ่ายเพิ่มส่วนต่างไปซื้อตั๋วภูเก็ต-สิงคโปร์วันธันวาที่สอง เราก็เปลี่ยนตั๋วของ UA เป็น SQ ออกจากสิงคโปร์ไปอเมริกาวันธันวาที่สองเหมือนกัน (ขอเปลี่ยนสนามบินที่ออก จากสุวรรณภูมิเป็นสิงคโปร์ แต่ต้องหาทางไปสิงคโปร์เอง) เปลี่ยนแผนทุกอย่างก็เรียบร้อยวันที่ 27 เพื่อนที่ไปด้วยผมโชคไม่ค่อยดี เขาเปลี่ยนช้าไปหน่อย ตั๋ววันที่ 2 ธันวาเต็มแล้ว เขาก็เลยต้องไปวันที่ 3 ธันวาแทน ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะเรียบร้อยด้วย ช่วงที่พยายามจะเปลี่ยนตั๋ว ทุกคนเครียดมากเลยครับ แทนที่จะเอนจอยภูเก็ต ก็ต้องมาเครียดกับเรื่องนี้ ครึ่งวันของสองวันหมดไปกับการเปลี่ยนตั๋วเนี่ยละครับ หลังจากที่แพลนใหม่เรียบร้อยแล้ว เราก็เที่ยวต่อในภูเก็ต จนถึงวันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกา เพื่อนผมโทรไปคุยกับแอร์เอเชียจะขอสแตนบายไฟล์ภูเก็ต-สิงคโปร์วันธันวาที่สอง แอร์เอเชียบอกว่าไฟล์นี้ยังไม่รู้จะบินหรือเปล่าเพราะเครื่องยังติดอยู่ที่สุวรรณภูมิ พอพวกเราได้ขุ้อมูลอย่างนี้ ก็อึ้ง ตอนที่เปลี่ยนตั๋ววันที่ 27 ไม่รู้ว่าเครื่องมาจากสุวรรณภูมิ ถ้าบินไปสิงคโปร์ไม่ได้ ก็มีปัญหาละครับ ผมก็คุยกับ UA เพื่อนผมก็คุยกับ EVA (เพื่อนผมบินกับ EVA) ทั้งสองสายการบินไม่สามารถหาไฟล์ให้ออกจากภูเก็ต แต่ช่วยได้ถ้าออกจากประเทศไทยแล้ว ประมาณว่า ให้หาทางออกจากภูเก็ตไปสิงคโปร์หรือกัวลาลัมเปอร์หรือฮ่องกงเอง แล้วสายการบินยินดีรับช่วงต่อไปส่งให้ที่อเมริกา ผมเช็คกับแอร์เอเชียไฟล์ที่ออกจากภูเก็ตหรือออกจากกระบี่ไปกัวลาลัมเปอร์ ก็เต็มไปจนถึงธันวาที่สี่ สายการบินดรากอนแอร์ก็เต็มไปจนถึงวันที่แปด ซิลแอร์ก็เต็ม ไทเกอร์แอร์ก็เต็ม เราหาตั๋วออกจากภูเก็ตวันที่หนึ่งหรือสองไม่ได้เลย สุดท้ายก็เลยตัดสินใจไปสนามบินภูเก็ต เผื่อว่าจะมีไฟล์เสริมหรือฉุกเฉิน โชคดีที่ไป เพราะซิลแอร์เปิดไฟล์เพิ่มสองไฟล์จากภูเก็ตไปสิงคโปร์วันที่หนึ่ง ตอนแรกเราก็ลังเลว่าจะเอาไม่เอาเพราะไฟล์แอร์เชียก็ยังไม่แคนเซิล (วันที่ผมไปสนามบินคือวันที่ 30 พฤศจิกา แอร์เอเชียยังไม่แคนเซิลไฟล์วันที่สองธันวา อ้างว่าต้องดูสถานการณ์วันต่อวัน ซวยพวกผมสิครับ) สุดท้ายก็ตัดสินใจไปกับซิลแอร์ เครื่องออกวันที่หนึ่งธันวาเวลาห้าุทุ่ม สรุปวันที่ 30 ไม่ได้ทำอะไรเลย ได้แต่จัดการเรื่องไฟล์ให้เรียบร้อย วันต่อมา เราก็เช็คอาวท์ออกจาก Moevenpick แล้วบินออกจากภูเก็ตกับซิลแอร์

เทียบกับประสบการณ์ของคนอื่นแล้ว เรื่องของผมเป็นเรื่องเล็กไปเลย ติดเกาะที่ำภูเก็ตยังดีกว่าติดที่กรุงเทพ เพื่อนๆผมว่าอย่างนั้น อย่างน้อยผมก็ยังมีทางไป ไม่ต้องไปแออัดที่อู่ตะเภา และยังได้เอนจอยภูเก็ตต่อด้วย

สรุปค่าเสียหาย
- ค่าห้อง extra หนึ่งคืน
- ค่าตั๋วเครื่องบินซิลแอร์
- ค่าเสียโอกาส ผมมีนัดทานข้าวกับเพื่อนกับญาติที่- กรุงเทพ ก็ต้องแคลเซิล
- ค่่าโทรศัพท์ทางไกล (คงหลายพันอยู่)
- ค่าอดเอนจอยวันหยุดพักผ่อน
- ค่าปวดหัวกับเรื่องวุ่นๆนี้
- ค่าเสียงาน
ไม่มีตัวเลขรวมครับ

เก็บตกจากประสบการณ์ครั้งนี้

- ทางโรงแรมลดราคาค่าห้องให้ทันทีที่ผมขออยู่ต่อเพราะว่าไฟล์แคนเซิล

- อย่าหวังอะไรมากกับแอร์เอเชีย ทุกครั้งที่คุยกับสายการบินนี้ ทำให้หงุดหงิด ไม่ใช่ว่าเอเจนท์พูดไม่สุภาพนะครับ แต่ว่าคำตอบที่ได้เหมือนเอาหุ่นยนต์มาตอบ เป็นคำตอบมาตรฐานมากเลยครับ ไฟล์ยังไม่แคนเซิลเลยคะ ยังรีฟันไม่ได้ แล้วจะบินหรือเปล่าครับ ผมถาม ยังให้คำตอบไม่ได้คะ ต้องรอไปก่อน มีทางออกทางอื่นมั้ยครับ ก็พยายามจะเปลี่ยนไฟล์ให้นะคะ แต่ว่าไฟล์เต็มไปจนถึงวันที่สี่แล้วคะ จะเอามั่ยคะ บลา บลา สุดท้ายแล้วผมก็ได้รีฟันเพราะไฟล์โดยแคนเซิล แต่ต้องรอถึงนาทีสุดท้าย

- โทรเข้าสารบินยากมาก ต้องไปที่ศูนย์อย่างเดียว แถมไม่ได้คำตอบอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน สุดท้ายเราโทรไปที่อเมริกา (จ่ายค่าทางไกล) แต่ได้เรื่องมากกว่า โทรหลายรอบมากครับ แต่เอเจนท์ยินดีช่วยเต็มที่แถมสงสารให้ด้วยว่าต้องติดที่เมืองไทย เอาเป็นว่าผมไม่ได้ฟิลลิ่งนี้จากที่คุยกับศูนย์ที่เมืองไทย แถมสายการบินที่อยู่คนละเนทเวร์ก ก็ยังบินได้ (เพื่อนผมจองไว้กับ EVA แต่ EVA เปลี่ยนให้บินกับ SQ ได้)

- โรงแรมมีอินเทอเนทให้ใช้ัในห้องสมุด มีแค่สองเครื่องแต่มีคนรอใช้เยอะ แถมข้อมูลก็ต้องหาจากหลายแหล่ง ไม่มีเวปเดียวที่มีข้อมูลทุกอย่าง ต้องขอบคุณห้องบลูเนี่ยละครับที่ให้ข้อมูลที่ขาดเหลือให้ผม

- คิดถูกที่ไปที่สนามบินวันหลังๆ (ไปวันแรกๆก็คงยังไม่มีคำตอบเป็นเรื่องเป็นราว) เพราะมีไฟล์เสริมโดยที่ไม่ค่อยมีการประชาสัมพันธ์ หลายคนคงไม่รู้ ตอนหลังแอร์เอเชียก็มีไฟล์เสริมบินจากภูเก็ตไปสิงคโปร์ (มาประกาศหลังจากที่เขาปล่อยเครื่องเปล่าออกจากสุวรรณภูิมิแล้ว)

- ผมได้มีโอกาสคุยกับการบินไทยกับเอเชียน่าที่สนามบิน จนทบอกว่า ดีแล้วที่ผมไม่ได้มาวันแรกๆที่สุวรรณภูมิปิด จนทเล่าว่าที่ภูเก็ตเนี่ยคนตรึม มีคนรอสแตนบายเยอะมาก ลงชื่อกันเป็นร้อยแต่ไปได้แค่สี่ แต่วันหลังๆค่อยดีขึ้นเพราะสายการบินส่งเครื่องบินใหญ่กว่ามาใช้ เอเชียน่าก็รับผดสของการบินไทยไปเยอะเหมือนกัน (ส่งที่โซล) เพราะอยู่ในเนทเวร์กเดียวกัน

- จนทการบินไทยบอกว่าไม่ต้องไปอู่ตะเภา ถ้าออกจากภูเก็ตได้ให้ออกจากภูเก็ตดีกว่า เพราะไปอู่ตะเภาแล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้ไปต่อหรือเปล่า เพราะไฟล์ของการบินไทยที่บินออกจากอู่ตะเภา

- หลังๆแล้ว บางไฟล์ก็มีที่เหลือรวมทั้งไฟล์เสริมด้วย

- เกือบจะได้นั่งรถไปสิงคโปร์แล้ว ที่จริงก็ลองวางแผนกับเพื่อนกันคร่าวๆแล้วครับว่าถ้าจะนั่งรถเมล์ไปสิงคโปร์ ต้องทำอย่างไร

- ถ้าจ้างรถตู้จากภูเก็ตไปหาดใหญ่ ราคา 6000 บาทต่อรถครับ จำไมได้แล้วว่าน้ำมันรถรวมหรือเปล่า หลังจากนั้นต้องหาทางไปสิงคโปร์ต่อจากหาดใหญ่เอง

- ตั๋วซิลแอร์ภูเก็ต-สิงคโปร์ข้างเดียว 8,875 บาทครับ

- ค่าห้อง Moevenpick ที่อยู่ต่อ (Deluxe Ocean View) คืนละ 3,500+++ ตกคืนละเกือนสี่พันสอง ทางโรงแรมก็เข้าใจดี แถมให้เช็คอาว์ทเลทวันที่หนึ่งธันวาด้วย

- ได้คุยกับแขกต่างชาติหลายคนที่โรงแรม มีคนจะไปนาริตะบ้าง โคเปนเฮเกนบ้าง ซิดนี่ย์บ้าง ตุุรกีบ้าง เคสผมยังเบากว่าพวกนี้เยอะ

- โปรแกรมช่วยเหลือสองพันบาทต่อคนเนี่ย ไม่ค่อยดึงดูดเลยครับ ผมไปถามรายละเอียดที่สนามบิน การให้การช่วยเหลือเนี่ยเป็นแบบวันต่อวันครับ จนทบอกว่าถ้าผดสไปไม่ได้วันนี้ ก็ไปพักได้ที่โรงแรมที่ร่วมกับโปรแกรมได้หนึ่งคืน วันต่อก็มาดูว่าไปได้หรือไม่ได้ ถ้ายังไปไม่ได้อีกก็อยู่ต่อไป ว่ากันวันต่อวัน ก็เช็คอินเช็คอาว์ทมาสแตนบายที่สนามบินทุกวันจนกว่าจะไปได้ ประมาณนั้น นอกจากนั้นผดสต้องจ่ายค่าเดินทางไปที่พักเอง ถ้ามีส่วนต่างอย่างเช่นที่พักแพงกว่า ผดสก็ต้องจ่ายเพิ่มด้วย


คนที่ยังติดอยู่ที่ใดที่หนึ่งเพราะสนามบินปิด ขอให้โชคดีครับ ใจเย็นๆค่อยๆหาทางออกนะครับ