ความคิดเห็นที่ 1 เวลาขับขาลงเขา ก็มองเส้นทางและคำนวนดูหน่อยครับ กำหนดไว้ในใจว่า จะขับความเร็วเท่าไร แล้วลงมาเลย ความเร็วสูงก็ปล่อยให้สูงไปราวหนึ่งเท่าตัวหรือเกือบเท่าตัวของที่กำหนดไว้ แล้วเบรกหนักหนัก แรงแรง ให้รถช้าลงกว่าที่กำหนดไว้ หรือที่พอไปไหว ปล่อยเบรก แล้วขับลงมาเรื่อยเรื่อง แตะคันเร่งนิดหน่อยด้วย ถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติ เพราะเกียร์จะได้อยู่แถวเกียร์สาม ไม่ขึ้นไปเกียร์สี่ พอความเร็วสูงเกินไป ก็กดเบรกหนักหนัก แรงแรง ให้ความเร็วลด แล้วปล่อยเบรก เพื่อให้เบรกระบายความร้อน เท่านั้นแหละครับ เป็นวิธีที่ผมใช้มาตลอด แต่หากคุณไม่แน่ใจ จะใช้เกียร์ถ่วงช่วยก็ตามใจ แต่ต้องระลึกไว้เสมอว่า ค่าซ่อมเกียร์ แพงกว่าเบรก และหากเกียร์เสีย ขณะอยู่นอกเมือง คุณไปไหนไม่ได้ เบรกเสีย ซ่อมถูกกว่า และถ้าเบรกเสีย นอกเมือง ก็ยังกลับเข้าเมืองได้ แก้ไขการสะกดผิดครับ แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 51 18:36:44 จากคุณ : xebec - [ 8 ธ.ค. 51 18:35:53 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ด้านเทคนิคไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่ถ้าดอยอ่างขาง  ผมคงเลี่ยงขึ้น-ลง ทางไชยปราการ คงใช้เส้นเชียงดาว อรุโณทัย แทนครับ จากคุณ : ฮิมดอย - [ 8 ธ.ค. 51 18:37:14 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ใช้เกียร์ต่ำ น่าจะสักเกียร์ สอง ก็พอ บางช่วงก็สามก็ได้ ....และใช้วิธีการเลี้ยงเบรค...เป็นช่วงๆๆ เพื่อให้เบรคได้ระบายความร้อนบ้าง เท่านั่นแหละ ไม่ต้องกลัว กล้าๆ หน่อยเป็นพอ...ขอให้โชคดี มีความสุขกับการขับรถ จากคุณ : ronnapob_w - [ 8 ธ.ค. 51 18:45:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มาแชร์ประสบการณ์ค่ะ ตอนนั้นขึ้นทางไชยปราการ ไปครั้งแรกแฟนขับกระบะ 4 ประตู จะมีช่วงนึงที่ชันมากกก แล้วเร่งเครื่องส่งขึ้นไปปรากฎว่าเจอสองแถว ขับช้าอยู่ข้างหน้า รถก็เลยเสียกำลัง เครื่องดับด้วย ก็เสียวๆเหมือนกัน แต่ตรงนั้นช่วงเทศกาลจะมี จนท อปพร คอยให้การช่วยเหลือ ก็ปล่อยรถค่อยๆไหลลงมา พักแป๊บนึง ยังไงจขกท ลองจดเบอร์โทร.ไว้ก็ดีนะคะ ตลอดทางจะเห็นเขาปักป้ายไว้ ว่าถ้ารถเสีย เบรคไหม้ ติดต่อ........ หลังจากนั้นก็ไปทางบ้านอรุโณทัยตลอดเลยค่ะ รู้สึกสบายใจกว่า จากคุณ : ขาหมูแฮม - [ 8 ธ.ค. 51 18:49:58 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หากเป็นช่วงเทศกาลยากครับเพราะว่าต้องขับรถตาม ๆ กันไปทั้งขึ้น และ ลง เขา เบรคใหม่แน่นอนครับ   ผมเองขับเส้นทางแบบนี้มาตลอดมีอยู่ครั้งไปแม่แจ่มโดยลงจากอินทนนท์ไปไม่เท่าไหร่เบรคผมก็ใหม่แล้วเพราะว่าขับตามคันข้างหน้าซึ่งเค้าจะเบรคจะชลอรถตลอด   ทำให้เราเสียจังหวะต้องคอยเบรคเรื่อย ๆ เพราะเอารอบเครื่องเบรคก็เปล่าประโยชน์   สรุปเลยต้องจอดให้คันหน้าไปไกล ๆ ก่อนเลยแล้วค่อยไปไล่แซงเอาช่วงกลาง ๆ เส้นทางซึ่งพอแซงได้ แต่หากรถไม่เยอะก็ใช้เบรคแค่พอประคอง ๆ รถครับอย่าแตะเบรคแช่ยาวให้แตะยก ๆ ไปเรื่อย ๆ ถ้าต้องชลอรถประกอบกับการใช้รอบเครื่องในการเบรคเป็นหลักครับ   แต่ต้องคำนวนและคาดการล่วงหน้าแบบท่าน xebec แนะนำด้วยครับเพราะว่าหากลงมาไวเกินแล้วกะลดเกียร์ก็คงจะดึงรถเสียจังหวะหรือไม่ก็เกียร์พังไปซะครับ   ลงอ่างขางถ้ารถไม่หนักมากช่วงชัน ๆ ลงมาเกียร์ ๒ ก็เอาอยู่ครับแต่ถ้ารถหนักมากก็คงต้องลงมาที่ ๑ จะมีชัน ๆ ก็ ๒ ช่วงครับ คือ ช่วงลงจากด่านทหาร และ ช่วงเนินสุดท้ายก่อนลงมาด้านล่าง นอกนั้นก็ปกติ ๆ ครับ ปล.ทู้นี้ผมพิมพ์ยาวผิดปกติ จากคุณ : พวงแสด... - [ 8 ธ.ค. 51 19:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ของทุกๆท่านครับ จะรับเอาไปพิจารณาและปฎิบัติต่อไป  เอ้อ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เบรคไหม้ มีอาการอย่างไร เช่น มีกลิ่นไหม้ มีเสียงดังผิดปกติ หรือ ต้องเหยียบเบรคมาก แต่รถก็ยังไม่หยุด  เป็นต้น ใช่หรือไม่ จากคุณ : จันทราอาทิตย์ - [ 8 ธ.ค. 51 19:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เพื่อนเราก็เป็นค่ะ ไปคราวที่แล้วเบรคไหม้เลยชันด้วย ดีนะคะรอดกลับมาอันตรายมากนะคะ จะไปต่างจังหวัดไม่ว่าจะชินหรือไม่ชินการเชครถทางไกลดีที่สุดค่ะ เข้าศูนย์ไปเชคดีกว่า จากคุณ : เด็กหญิงไข่มุก - [ 8 ธ.ค. 51 19:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เคยใช้ทั้งเกียร์ออโต้และเกียร์ธรรมดา ไปวงกลมแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ แต่วิธีการขับไม่แตกต่างกันครับ ลงเขา ใช้แตะ(ไม่ใช่เหยียบแค่แตะ ปล่อย แตะปล่อย) สลับกับลากเกียร์ต่ำ เพื่อไม่ให้อย่างใดอย่างนึ่งทำงานมากไป แต่จะหนักทางแตะมากกว่า ราว 70 : 30 ครับ ทำขนาดนี้ ก็ยังพอได้กลิ่นเหม็นไหม้บางๆ หุ หุ จากคุณ : zoopod - [ 8 ธ.ค. 51 19:53:21 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เมือวันที่29ที่ผ่านมา ผมขับรถสวนกับรถตู้ทะเบียนกทมหลายคันมาก สวนกันตรงห้วยน้ำดัง กลิ่นเบรกไหม้ แบบ อื้ออึงมากหนะ็พี่แกอัดซะเร็ว เบรกซะหนักเชียว แต่ละคัน จากคุณ : zong12 - [ 8 ธ.ค. 51 21:28:40 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขึ้นลงทางบ้านอรุโณทัย น่าจะดีที่สุดครับ ส่วนวิธีการขับคงต้องมาจากประสบการณ์ พึงระลึกว่าความร้อนที่เกิดขึ้นที่ผ้าเบรคมาจากการที่เรากดเบรคแช่ไว้นานๆ ดังนั้นควรฝึกการขับลงทางชันโดยใช้engine break ช่วยเยอะๆ จะทำให้บังคับรถได้ง่ายกว่า และอีกปัจจัยหนึ่งก็คือ ควรทำรถให้เบาให้ได้มากที่สุด หากต้องขับรถไปเที่ยวในลักษณะขึ้นลงดอยสูง เพราะรถหนัก ขาขึ้นก็เหนื่อย ขาลงก็เสียว ครับ ผมเคยลงมาทางชัยปราการ แล้ววิ่งตามหลังรถตู้บรรทุกนักท่องเที่ยวเต็มคัน บวกสัมภาระด้วย เบรคไหม้จนลุกออกมาเป็นเปลวไฟเลยครับ ต้องจอดลงไปช่วยกันดับ เล่นเอาอกสั่นขวัญหายกันไปหมด กลัวไฟจะไหม้รถครับ ดังนั้นสำหรับคนชอบเที่ยวตามดอยสูง ถ้าไม่ลำบากติดถังดับเพลิงย่อมๆ ไปด้วยก็ดีครับ ช่วยได้เยอะเวลาฉุกเฉิน กันไว้ดีกว่าแก้ครับ จากคุณ : ชีวิตสัญจร - [ 8 ธ.ค. 51 21:40:58 A:115.67.2.191 X: TicketID:162251 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มีหลากหลายกระทู้ ถามเรื่อง การขับรถขึ้นดอย ดอยอินทนนท์ ดอยอ่างขาง ผมตอบไปทุกครั้งว่า รถอะไรก็ได้ ขาชึ้นไม่มีปัญหา ปัญหา คือขาลง ท่านที่ไม่ชินการขับรถลงเขา มักจะแตะเบรกตามความเคยชิน เพราะ ขับขึ้นห้างลงห้างมา เป็นสิบปีแล้ว กะอีแค่ ขับรถลงดอยบ้านนอกมันจะกระไรนักหนา วันนี้ คงทราบแล้ว ว่า การขับรถลงดอยนั้น ไม่หมูเหมือนที่คิด ญาติผม เกือบสูญเสียแม่ของเขาไป  โชคดีที่มีเพียงเศษแก้วเข้าตาเท่านั้น เพราะ เปลี่ยน คนขับ จากผม เป็นคนอื่น แล้วให้ผม ขับรถอีกคัน ผ่านไป 15 นาที โทรเรียกผมแล้วว่า รถเบรคไหม้ และพลิกลงข้างทางดอยสุเทพ ผมต้องเรียก อปภร ท่านก็มาเร็วมาก และช่วยเหลืออย่างดี ได้ให้ค่าน้ำมันไป 0.5 K ท่านก็ไม่รับ บอกว่า ถ้าจะช่วย ให้ไปที่ office แล้วจ่ายกันที่นั่น เพราะมีใบเสร็จ ทางพวกผม ไม่มีเวลา จึงบอกว่าไม่เป็นไรดอก มาช่วยนีถือว่า ขอบคุณมากๆแล้ว ใบเสร็จไม่สำคัญเท่าที่ท่านเสียสละมา ก็ได้ขอบคุณ และให้เงินไป พร้อมคำลาจาก -------------------------------------- หลักคือ เรา จะต้องใช้เบรกที่เท้าให้น้อย ใช้ engin ช่วยเบรค และใช้เบรกมือช่วย ให้มากๆ ห้ามขับไว ห้ามใจร้อน ห้ามแตะเบรกเกินกว่า 1 นาที ยากมากครับ ต้องใช้ มือเท้าเข้าศอก ตลอดเวลา ยิ่งถ้าเจอรถติด ผมจะใช้เบรคมือ + engin เบรคแทนทันที ถ้าเป็นรถ เกียร์ ออโต ให้ใช้เกียร์ 2D ถ้าไม่ไหว โดยยังเร็วอยู่ คงต้อง เป็น 3D + เบรคมือครับ ลองฝึกดูครับ ช่วยได้มาก จากคุณ : น้าพร - [ 8 ธ.ค. 51 21:45:06 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ยังไม่เคยใช้เกียร์ออโต้ครับ ใช้แต่เกียร์กระปุก... เลยไม่มีปัญหาส่วนตัวใช้ทั้ง Engine Brake และ Brake ธรรมดาครับ คนส่วนใหญ่มักกลัวการขับขึ้นดอยว่าจะขับไม่ไหว หารู้ไม่การขับลงดอยยากและอันตรายกว่ามากครับ... ที่สำคัญจะเกิดอะไรขึ้นขอให้มีสติ และค่อยๆควบคุมรถครับ... จากคุณ : เอ๋อ้อย - [ 8 ธ.ค. 51 23:06:06 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมใช้รถเกียร์ธรรมดา  กรณีลงเส้นทางลาดชันมากๆ ผมแทบจะไม่เหยียบคลัตซ์เลยนะครับ  จะใช้แค่การลากเกียร์ 1 หรือไม่ก็ 2 แล้วเหยียบเบรคแรงๆ ซักครั้ง ประมาณว่าพอลากเกียร์จนความเร็วถึงประมาณ 40 ก็เบรคจนแทบจะหยุดนิ่ง ซักที แล้วปล่อยไหลลงใหม่ ผมเห็นรถคันอื่นแซงรถผมไปมากมาย ก็แน่ล่ะครับ วิธีนี้มันก็ค่อนข้างจะช้าผมจึงชิดซ้ายสุดๆ ให้เค้าแซงไปได้แต่โดยดี ปรากฎว่า พอลงไปถึงเชิงดอย ผมจำได้ว่ารถแซงไปบางคันจอดข้างทาง พร้อมส่งกลิ่นเหม็นไหม้ฟุ้งกระจายไปทั่ว ที่รู้หลักนี้ก็อาศัยอ่านตามหนังสือต่างๆ และถามคนอื่นเค้ามาอีกทีล่ะครับ จากคุณ : unimox - [ 8 ธ.ค. 51 23:45:42 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้ารถมันเยอะ แล้วขับต่อตูดกัน ก็ลำบากนะ จะส่ง จะเร่ง จะเบรค มันติดขัดไปหมด ถ้าขับรถไม่เยอะ คงไปรอด สมัยก่อนรถ แรงม้าไม่เยอะ เวลาขึ้นเขามันดี ต้องไล่เกียร์ ส่ง ให้ถูกจังหวะ ถึงจะขึ้นไหว สมัยนี้ แรงม้ามันเยอะ แค่กดคันเร่ง ก็ขึ้นไหวแล้ว จากคุณ : ZAPPER - [ 9 ธ.ค. 51 01:07:51 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Engine Brake แปลว่าอะไรคะ จากคุณ : galatea - [ 9 ธ.ค. 51 04:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 16 จริงคะ เพิ่งไปมาปลายเดือน พ.ย.51 จริงๆ ที่ขับยากเพราะรถเยอะ ทำให้ต้องเบรค รถเสียจังหวะและเสียกำลั โชคดีช่วงเวลาที่ไป รถน้อยมาก เลยเว้นระยะห่างกันพอสมควร จากคุณ : barali - [ 9 ธ.ค. 51 08:16:24 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตอบความเห็นที่ 15 นะครับ Engine Brake  คือ การใช้เกียร์ต่ำ ๆ ในความเร็วที่ไม่เหมาะสมกับเกียร์นั้น ๆ  เช่น  ความเร็ว 40 กม./ชม. ควรจะเปลี่ยนเป็นเกียร์ 2 ได้แล้ว แต่เราไ่ม่เปลี่ยน  เรายังคงใช้เกียร์ 1 อยู่ครับ ผลคือ จะทำให้อาการรถดูจะ ตื้อๆ อืด ๆ ครับ ใช้ในกรณีเวลาขับรถลงจากทางชัน  รอบของเครื่องยนต์จะทำการหน่วงความเร็วรถ ไม่ให้มีความเร็วเกินกว่าทีเกียร์จะทำได้ครับ  ทำให้เราไม่ต้องแตะเบรกตลอดเวลา  ช่วยลดอาการเบรคไหม้ได้  นักเลงรถเค้าเรียก "เบรคเฟด" ครับ จากคุณ : vodka_viento - [ 9 ธ.ค. 51 08:47:09 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เบรคคันนึงก็ต้องเรคกันทั้งดอยเลย จะไม่ให้ไหม้ได้ไงล่ะ ทางที่ดี ต้องปล่อยที่ละคัน ห่างกัน 30 วินาที น่าจะโอเคกว่า จากคุณ : McPhu - [ 9 ธ.ค. 51 09:45:57 ]

ความคิดเห็นที่ 19 การขับรถลงเขา ต้องใช้เกียร์ต่ำดีที่สุดคือประมาณเกียร์ 2 ถ้าเป็นเกียร์ออโต้เลื่อนลงมาที่ตำแหน่ง 2 หรือ D2 ซึ่งความเร็วที่โหลดได้สูงสุด 50-60กม/ชมรอบเครื่องอาจจะขึ้นไปถึง 4,000 รอบ(แต่ไม่ถึงขีดแดงที่เป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์) การเบรคไม่ควรเบรคแบบชะลอเช่นจากความเร็ว 50 เหลือ 40 เพราะพอปล่อยเบรคความชันขนาดอ่างขางหรือปางอุ๋งไม่เกิน 10 วินาทีความเร็วจะขึ้นมาเท่าเดิมก็ต้องเบรคอีกทำให้ความร้อนสะสม น้ำมันเบรคจะมีอุณหภูมิสูง ผ้าเบรคเริ่มเหม็นไหม้ ควรเบรคทีเดียวให้ความเร็วลดเหลือ 20 คราวนี้จะใช้เวลานานขึ้นกว่าความเร็วจะขึ้นไปสูงพอมีเวลาให้ผ้าเบรคและน้ำมันเบรคลดความร้อนลง แต่ถ้าเบรคเริ่มแข็ง สู้เท้า ต้องรีบหาที่จอดพักให้เบรคเย็นจึงลงเขาต่อ เพราะถ้าฝืนต่อไปลูกยางเบรคอาจจะทนความร้อนไม่ไหวที่เรียกว่าเบรคแตกครับ และการขับลงเขาอย่าขับชิดคันหน้าเพราะคุณจะต้องใช้เบรคมากกว่าเดิม ถ้าคิดว่าอ่อนประสบการณ์ในการขับขึ้นลงเขาชันหรือรถไม่อยู่ในสภาพพร้อม อย่าเสี่ยงดีกว่าครับ ใช้บริการรถท้องถิ่นที่เขาชำนาญกว่าเสียเงินเพิ่มดีกว่ามีอุบัติเหตุ (หลายปีก่อนเคยมีรถที่มาจากภาคใต้ลงอ่างขางแล้วเบรคไม่อยู่กว่าจะหาเจอหลายวันทีเดียว เสียชีวิตหมดทั้งคัน) จากคุณ : cummins - [ 9 ธ.ค. 51 13:18:56 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าชำนาญก็แบบว่าที่คุณXebec แนะนำ และก็แบบน้าพรด้วยเยี่ยมเลยครับแต่ต้องติงนิดหนึ่งเรื่องเบรคมือ หากใช้ไม่ชำนาญเลี่ยงเถอะอย่าใช้เลย เบรคมือสำหรับรถที่เบรคมือดึงล้อหลังหากดึงแรงๆอาจทำให้รถหมุนได้ แบบที่เขาเลี้ยวกลับ 180 องศานั่นนะเขาใช้เบรคมือดึงรถให้ล้อหน้าเร็วกว่าล้อหลัง และผมชอบความเห็นที19ด้วย อ่านดูแล้วนำไปใช้อย่างมีสติก็จะเป็นประโยชน์นะครับ อย่าประมาทตั้งสติให้มั่น และจำไว้ว่าการขับรถลงเขาต้องระวังเพิ่มขึ้น หากเบรคเริ่มเฟดเบรคไม่ค่อยอยู่เริ่มตื้อๆ ให้หาทีหยุดรถสักครึ่งชั่วโมงรอให้เบรคเย็นลงจะปลอดภัยกว่าฝืนลงไปครับ เบรคที่ไหม้ไม่มากเมื่อเย็นลงก็จะเหมือนปรกติครับ อย่ากังวลมาก ขอให้เที่ยวให้สนุกและปลอดภัยครับ สำหรับผมผมเห็นว่าการขึ้นทางอรุโณทัยกับทางฝางนั้นหากมั่นใจว่าขับเป็ ขับได้ก็ไม่แตกต่างกันครับ ที่สำคัญสติต้องมั่น มีปัญหาอย่าตกใจจนทำอะไรไม่ถูก จากคุณ : ลุงเปี๊ยก (kajohnwit) - [ 9 ธ.ค. 51 15:03:08 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ^ ^ ขอบคุณ ลุงเปี๊ยกมากครับ เบรคมือ ที่ผม แนะนำนั้น อาจพูดหวัดไปนิดครับ คือให้ฝึกฝนไว้ ให้สัมผ้ส แบบเบรคจากเท้าครับ คือให้ค่อยๆ ดึงโดยนึกว่าเรากำลังเบรคแบบเท้าอยู่ครับ ต้องฝึกฝนครับ ใช้คู่กันทั้งหมดครับ เอนจิน เบรค เบรคมือ  สลับ เบรคเท้าครับ เบรคมือนั้น ห้ามดึงแบบกระชากครับ ค่อยยกมาช้าๆ นวล ๆ นิ่มๆ ครับ ที่สำคัญ อยู่ที่ความเร็วเริ่มแรกครับ ห้ามเร่งความเร็ว ถ้าเห็นว่าทางชัน และความเร็วเกินกว่า 40 ให้ชะลอ และเบรคไว้ก่อน ครับ ไม่ต้องคอยให้มันสูงถึง 60 แล้วค่อยเบรค อย่างนั้น อะไรก็เอาไม่อยู่ครับ สติ และความใจเย็น สำคัญที่สุดครับ คันหน้า จะเร็วจะแรง ช่างเขา เอาของเราให้รอดไว้ก่อนครับ จากคุณ : น้าพร - [ 9 ธ.ค. 51 15:34:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบ้าง 1 เคยคิดถึงขาขึ้นบ้างหรือเปล่า?? ไปอินทนนท์มาขึ้นทางแม่แจ่ม เจอรถขึ้นไม่ไหวเพราะ ครัชหมด  ดังนั้นรถท่าน ครัชเหลือเท่าไหร่ ลื่นหรือยัง ลองดูหน่อยก็ดี 2 ขาลง ก็ไม่มีอะไร engine break ใช้เข้าไป เบรคแรงๆๆๆ เข้าไว้ อย่าแช่ เกียร์พังมันเรื่องเด็กๆๆ  คนพังมันซ่อมลำบาก จากคุณ : suayong - [ 9 ธ.ค. 51 16:03:33 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เชนเกียแทนการเบรค   ก่อนไปเปลี่ยนน้ำมันเบรคเป็นเอเต้ ครับ  มั่นใจขึ้นเย๊อะ จากคุณ : saurus - [ 9 ธ.ค. 51 17:22:24 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แฟนเราขับใช้วิธีเดียวกะคุณ xebec ค่ะ ถ้าชันปกติ ปล่อยลงเกียร์2-3 แล้วแต่สถานการณ์ แต่ถ้าชันมากสุดๆ หรือมีรถช้าขวาง ถึงจะใช้เกียร์1ลง แล้วพอเห็นว่าเร็วมากเกินไปแล้ว ก็กดเบรคหนักๆทีนึง ให้ความเร็วลดลง แล้วก็ไปต่อ แต่ว่า...วิธีนี้จะแบบหัวทิ่มมากเลยค่ะ ของเบาะหลังนี่เทกระจาดหมดเลย อิอิอิ แต่ก็ดีค่ะวิธีนี้ เราไปเที่ยว 9 วัน ทางแม่สอด แม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน ปาย ปางอุ๋ง แม่สลอง ดอยตุง ขับเจอทางชันเยอะมาก ไม่มีกลิ่นเบรคเลยซักกะนิดค่ะ แต่วิธีนี้ไม่รู้จะใช้ช่วงเทศกาลได้ป่าว เพราะเวลาเจอรถมาขวางหน้า แล้วแซงไม่ได้ ทำให้ต้องเลียเบรคเยอะขึ้นอะ แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 51 19:44:30 จากคุณ : mickey..boyคัมแบ๊ค - [ 11 ธ.ค. 51 19:43:03 ]