ความคิดเห็นที่ 1 ติดตามตอนเก่าได้ที่นี่ครับ ====สารบัญ==== ตอนที่ 1 : ชิลล์ๆ แถว Tokyo http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7187076/E7187076.html ตอนที่ 2 : Nikko is Nippon http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7189590/E7189590.html ตอนที่ 3 : ยามค่ำคืนที่ Minato Mirai http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7219536/E7219536.html ตอนที่ 4 : เที่ยวหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7235191/E7235191.html ตอนที่ 5 : เก็บตกทาคายามะ, ศาลเจาฟูชิมิอินาริเกียวโต http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7266857/E7266857.html ตอนที่ 6 : ว่างๆไม่มีอะไรทำก็ไปเที่ยวเมืองเกียวโตกันเถอะ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7315589/E7315589.html จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:21:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จาก คห. ที่ 2 ถึง 6 จะเป็นรายละเอียดเล็กๆของเมืองเกียวโต รวมทั้งวิธีการเดินทางในเมือง ท่านไหนทราบแล้วข้ามไป คห. ที่ 7 ได้เลยนะครับ จขกท. อยากทำมาฝาก ====การเดินทางไปเมืองเกียวโต==== - 73 minutes from Kansai Airport by JR "Haruka" Kansai Airport Limited Express   - 2 hours and 22 minutes from Tokyo Station by the Shinkansen (Bullet Train)   - 3 hours and 5 minutes from Hakata Station by the Shinkansen (Bullet Train) ***ดูเพิ่มเติมได้จาก http://www.hyperdia.com จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:24:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:26:49 ]

ความคิดเห็นที่ 4 การเดินทางในตัวเมืองเกียวโตมีหลายวิธีครับ ทั้งรถไฟ รถไฟใต้ดิน รถบัส แท็กซี่ และ...เดิน ที่สะดวกที่สุดก็จะเป็นรถบัส และรองลงมาจะเป็นรถใต้ดินครับ (ไม่นับเดิน ที่ถือเป็นสุดยอดการเดินทางนะครับ ;p) รถไฟใต้ดินในเมืองเกียวโตจะมีเพียง 2 สายที่ให้บริการคือ สายคาราสุมะ (Karasuma Line) ที่วิ่งจากทางทิศเหนือไปทางทิศใต้ของเมือง และสายโทไซ (Tozai Line) ที่วิ่งจากทางทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตกของเมือง แผนที่ทางเดินรถไฟใต้ดินทั้ง 2 สายในเมืองเกียวโต แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 51 01:27:21 จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ลืมรูปอีกแล้ว จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:28:07 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ====การใช้ City Bus==== สำหรับการเดินทางโดยรถ City Bus มีหลายสายและหลายเส้นทางรถให้เลือก อันนี้ต้องแนะนำให้ศึกษาจากแผนที่การเดินรถเอาครับ สามารถขอได้ฟรีจาก Information Center บริเวณสถานีเกียวโต ต้องขอไว้นะครับ เพราะแม้แต่คนเกียวโตยังต้องใช้เวลานั่งรถเลย เพราะมีรถให้บริการหลากหลายมากๆ หากต้องการศึกษาแผนการเดินรถก่อนก็สามารถ Download ได้จาก URL นี้เลยครับ แล้วค่อยไปขอเวอร์ชั่นจริงที่ Information Center เมื่อไปถึงเกียวโต URL: http://www.city.kyoto.lg.jp/kotsu/cmsfiles/contents/0000019/19770/bus_navi_en200801.pdf วิธีการขึ้นรถบัสให้ดูจากรูปที่แถมมาให้เลยครับ ให้ขึ้นจากทางด้านหลังแล้วลงทางด้านหน้ารถนะครับ ดูเพิ่มเติมได้ตามรูปที่แนบมา จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:34:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ====การจ่ายเงินในรถ City Bus==== ให้เตรียมเงินพอดีกับจำนวนค่าโดยสารที่ต้องสีย โดยดูจากบอร์ดข้อมูลภายในรถว่าเท่าไหร่ หรือถ้าขึ้นรถเป็นแบบ Flat fare ก็เตรียมเงินไว้ 220 เยน จากนั้นให้โยนเงินรวมทั้งตั๋วรถบัสไปในช่องหมายเลข 1 ได้เลย แต่ถ้าหากเรามีเงินไม่พอดีกับจำนวนค่าโดยสาร ในกรณีเรามีแบงค์เช่น แบงค์ 1000 เยน ก็แลกเป็นเหรียญย่อยๆ ได้โดยใส่เข้าไปในช่องหมายเลข 2 (ช่องหมายเลข 3 กรณี เหรียญ 500 เยน) จากนั้นเหรียญเศษจะไหลออกมาจากช่องที่ 5 แล้วค่อยนับเงินให้พอดีกับค่าโดยสารแล้วค่อยใส่ลงไปในช่องที่ 1 แต่ถ้าเกิดเราใช้ตั๋ว Pass เช่น City Bus All-day Pass เพียงใส่ตั๋วเข้าไปในช่องที่ 4 ก่อนลงจากรถบัสก็เรียบร้อยครับ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ====ตั๋ว Pass แบบต่างๆ==== 1.  Kyoto Sightseeing One and Two-day Pass Card สำหรับ 1 วันราคา 1200 เยน, สำหรับ 2 วันราคา 2000 เยน ใช้ขึ้นรถบัสในตัวเมืองเกียวโตได้ทุกสายและรถไฟใต้ดินทั้ง 2 สายไม่จำกัดจำนวนเที่ยว 2. City Bus All-day Pass ใช้ได้ 1 วันราคา 500 เยน สามาถใช้ขึ้นรถบัสในตัวเมืองเกียวโตไม่จำกัดจำนวนเที่ยว แต่ถ้านั่งไปไกลเกินกว่าตัวเมืองจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม สามารถดูได้จากรูปที่แนบ ภายในบริเวณพื้นที่สีเขียวในรูปจะใช้ตั๋ว City Bus All-day Pass ฟรี แต่ถ้าออกไปนอกพื้นที่สีเขียวต้องจ่ายเงินส่วนต่างเพิ่ม ตั๋วหาซื้อได้ที่ Information center หรือพนักงานขับรถบัสครับ แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 51 01:37:35 จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ลืมรูปอีกแล้ว จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:38:10 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มาต่อรีวิวกันครับ ภารกิจในวันนี้ทั้งวันคือการท่องเที่ยววัดและโบราณสถานต่างๆในตัวเมืองเกียวโต ดังนั้นเราจึงเลือกใช้บริการรถ City Bus ประจำเมืองนี้เพราะจะสามารถวิ่งเข้าไปถึงสถานที่สำคัญๆได้มาก เราออกจาก Tomato Guesthouse แต่เช้าเพื่อไป Information center ที่สถานีเกียวโต พร้อมซื้อตั๋ว City Bus All-day Pass 2 ใบเพราะเราจะเที่ยวในเมืองเกียวโต 2 วัน (information center เปิด 8.30 นะครับไปเช้าเกินระวังรอเก้อนะ) เนี่ยตั๋วแบบ City Bus All-day Pass ขนาดประมาณบัตรเครดิต เกือบทำหายไปก็หลายครั้ง จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:40:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เป้าหมายแรกของเราในวันนี้คือวัดนินนาจิ (Ninnaji Temple) หรือเรียกได้ว่าวังโอมูโระ (Omuro Palace) วัดนินนาจิถือเป็นวัดที่เก่าแก่มากๆวัดหนึ่งในเกียวโตและได้ถูกองค์กร Unesco ประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2537 วัดนี้ถูกสร้างในปี ค.ศ. 888 โดยจักรพรรดิ Uda ผู้สละราชบัลลังก์แล้ว โดยเปลี่ยนพื้นที่เดิมของวังให้เป็นสำนักงานใหญ่ของวัดพุทธในนิกายชินง่อน (Shingon) และท่านเองก็ได้อาศัยในวัดในฐานะของเจ้าอาวาสองค์แรกตลอด 30 ปีจนสวรรคต จากรูปแบบนี้ทำให้เกิดเป็นประเพณีสืบทอดต่อกันมาว่า จักรพรรดิทุกองค์ จะต้องส่งพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่งมาดำรงแหน่งเจ้าอาวาสของวัดแห่งนี้ เมื่อตำแหน่งเจ้าอาวาสเกิดว่างขึ้น โดยทางวัดจะได้รับการสนับสนุนจากทางราชวงศ์ในทุกๆเรื่อง และประเพณีนี้ถูกสืบทอดมาในทุกราชวงศ์ จนได้ย้ายไปใช้โตเกียวเป็นเมืองหลวงในปี ค.ศ. 1869  ก็เลิกไป จากสถานีเกียวโตนั่งรถสาย 26 มาเพียง 15 นาทีลงที่ป้าย Omuro Ninnaji วัดนี้เปิดให้ชมเวลา 9.00-16.30 ครับ หลังจากลงจากรถบัสก็พบประตูทางเข้าของวัดนินนาจิ ประตูนิโอมอน (Niomon Gate) หรือแปลได้ว่าประตูสองกษัตริย์ (Two Kings Gate) แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 51 01:46:20 จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:45:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ซีเคียวริตี้เฝ้าประตูฝั่งซ้าย (เรียกยามไม่ได้เขาไม่หัน เหมือนยามแถวๆห้างดังๆ ) จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:49:51 ]

ความคิดเห็นที่ 13 และฝั่งขวา จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:50:12 ]

ความคิดเห็นที่ 14 Zoom รายละเอียดของประตูไม้ขนาดยักษ์ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:51:25 ]

ความคิดเห็นที่ 15 บริเวณประตูนิโอมอน จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:52:19 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อเข้ามาแล้วก็ชำระค่าเข้าชม 500 เยนจะได้รับเป็นบัตรเข้าชมพร้อมโบรชัวร์ ที่ทั้งแผ่นมีภาษาอังกฤษอยู่แหมะเดียว (ขอเป็น english version. แล้วนา) จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:53:17 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เดินผ่านเข้ามาเพียงนิดเดียว ทางซ้ายมือจะพบกับประตูตะวันออก เป็นทางเข้าสำหรับพระในวัดสู่บริเวณ Omuro Gosho ที่เป็นที่พำนักของพระและเจ้าอาวาสวัด จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:54:48 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ทางขวามือมีต้นสนสวยงามต้นหนึ่ง จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:55:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ที่แปลกคือกิ่งก้านของต้น ลงมาเรี่ยติดพื้นดินจนต้องใช้ไม้ค้ำกันเลย เท่ดีครับ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:55:53 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ประตูทางเข้าอาคารหลักของบริเวณ Omuro Gosho ก่อนเข้าชมต้องถอดรองเท้าและใส่ถุงพลาสติกหิ้วไปด้วยนะครับ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:56:33 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อีกมุมหนึ่ง จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:57:00 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ลักษณะของสิ่งก่อสร้างใน Omuro Gosho จะเป็นสไตล์ชินเด็น (Shinden style หรือ Shinden zukuri) ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้ในยุคสมัยเฮอัน (Heian-era) ระเบียงที่เห็นในรูปถือเป็นจุดเด่นของสถาปัตยกรรมแบบชินเด็น เพราะเรือนทุกๆเรือนในบริเวณ จะถูกเชื่อมกันด้วยระเบียงยาวทั้งหมด ระเบียงที่เห็นถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี 1911-1914 ระเบียงของเดิมรวมทั้งอาคารต่างๆถูกเผาทำลายด้วยไฟไปในปี 1887 (ปีเมจิที่ 20) จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 01:59:26 ]

ความคิดเห็นที่ 23 บริเวณสวนหินด้านหน้า Shiro-shoin จะเห็นประตูบานใหญ่ชื่อ Chokushi-mon (Chokushi Gate) เป็นประตูสำหรับผู้นำสาสน์จากสมเด็จพระจักพรรดิ (ประตูเดิมถูกไฟเผาทำลายในปี 1887 และถูกสร้างใหม่ในปี 1913 (ปีไทโชที่ 2)) จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:00:51 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ชื่นชมกับสวนหินได้เล็กน้อย หันมาทางซ้ายมือจะพบกับบริเวณ Shiro-shoin ที่ถูกสร้างใหม่ในปี 1890 และมีประตูเลื่อนกระดาษที่มีรูปวาดต้นสนใน 4 ฤดู (หนาว, ร้อน, ใบไม้ผลิ, ใบไม้ร่วง) โดยฝีมือของท่านปรมาจารย์ Fukunaha Seihan และภาพทั้งหมดถูกวาดเสร็จสมบูรณ์ในปี 1937 (ปีโชวะที่ 12) อันนี้ภาพของต้นสนในฤดูหนาว จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:02:09 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อีกภาพต่อกัน จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:02:38 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ฤดูใบไม้ผลิ ที่เหลืออีก 2 ฤดู...ลองไปชมกันนะครับ (ที่จริงรูปที่ถ่ายมามันไม่สวยเลยไม่เอามาลง ) จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:03:18 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มองไปทางขวามือของ Shiro-Shoin จะพบอาคาร ที่ซึ่งถูกสร้างโดยไม้ฮิโนกิทั้งหลัง ได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 1903 แล้วเสร็จในปี 1914 ภายในประกอบด้วยห้อง 3 ห้อง Jodan no-ma, Chudan no-ma, Gedan no-ma และภายในมีภาพวาดของท่านปรมาจารย์ Hara Zaisen อยู่ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:04:31 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เดินไปชมกัน... ข้อพับของบานประตูของอาคาร จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:05:46 ]

ความคิดเห็นที่ 29 วิว... จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:07:21 ]

ความคิดเห็นที่ 30 วิวจากระเบียงจะเห็นเรือนชงชา (Tea house) และเจดีย์ 5 ชั้นไกลๆ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:10:19 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อีกหนึ่งมุม จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:10:40 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ลักษณะของหลังคาแบบลูกคลื่นตามแบบ Shinden style จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:11:31 ]

ความคิดเห็นที่ 33 บริเวณสวนด้านหน้าอาคาร มีสะพานเล็กๆและสระน้ำ มีใบไมเปลี่ยนสีเล็กน้อยพอให้ชื่นใจ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:13:20 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้ามาช่วงปลายเดือนพฤศจิกาคงจะงามจับใจ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:14:14 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ตอนนี้เอาแค่นี้ไปก่อนแล้วกัน จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:15:38 ]

ความคิดเห็นที่ 36 แดงบ้างเหลืองบ้างส้มอีกนิด แต่ เขียวเป็นส่วนใหญ่ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:16:54 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เงียบสงบดี จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:19:23 ]

ความคิดเห็นที่ 38 บริเวณ Reimei-Den จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:21:39 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ถัดจากนั้นเราเดินออกจากบริเวณ Omuro Gosho มุ่งไปสู่บริเวณวัดชั้นใน ระหว่างทางพบขบวนพระภิกษุ ท่านที่ใส่ชุดสีแดงคือ ท่าเนเจ้าอาวาสหรือเปล่า ใครทราบทางด้านนี้รบกวนด้วยนะครับ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:23:11 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เดินมาผ่าน Chokushi-mon อีกครั้งคราวนี้ได้ดูแบบใกล้ๆแล้ว จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:24:29 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เดินผ่านทางเดินยาว เราก็มาถึงประตูหลักของวัดชั้นใน จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:26:56 ]

ความคิดเห็นที่ 42 จุดพักผ่อน มีตู้กดเครื่องดื่มด้วย แอบติดเจดีย์ 5 ชั้นมา จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:27:33 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เจดีย์ 5 ชั้น กลางหมู่ใบไม้หลากสี จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:29:10 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เดินเข้าไปชมรายละเอียดกัน จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:29:33 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ต้นไม้ต้นนี้ก็กำลังเปลี่ยนสีเตรียมต้อนรับฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:31:19 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เดินเข้ามาอีกนิดจะพบหอระฆัง สีแดงเด่นเป็นสง่า จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:33:11 ]

ความคิดเห็นที่ 47 และศาลาหนึ่ง จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:33:40 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ลองมุมด้านข้างกันบ้าง จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:34:59 ]

ความคิดเห็นที่ 49 แมลงบนเสาของศาลา จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:35:27 ]

ความคิดเห็นที่ 50 แล้วเราก็เดินออกจากวัดนินนาจิ จุดหมายต่อไปของเราคือวัดเรียวอันจิ (Ryoan-ji Temple) หรือวัดมังกรสันติ (The Temple of the Peaceful Dragon) และได้บันทึกเป็นมรดกโลกโดยองค์กร Unesco เช่นกัน การเดินทางนั่งรถบัสสาย 59 ไปลงป้าย Ryoanji-mae (2 ป้ายจากป้าย Omuro Ninnaji) วัดนี้เปิดให้ชม 8.00-17.00 วัดเรียวอันจิเป็นวัดพุทธในนิกายเซนที่ซึ่งมีจุดเด่นอย่างที่เราๆทราบกันดีคือ สวนหิน 15 ก้อนที่ซึ่งไม่ว่ามองจากมุมไหนของบริเวณสวนจะนับได้เพียงแค่ 14 ก้อนเท่านั้น เนื่องจากมุมการจัดวางหินที่ชาญฉลาดมากนั่นเอง ก่อนเข้าชมก็ชำระค่าเข้าชม 500 เยนเสียก่อนจะได้ตั๋วมา บางท่านบอกว่าแพงมาก 500 เยน ราวๆร้อยกว่าบาท ได้ชมแค่สวนเล็กๆมีหินอยู่ไม่กี่ก้อน อยากจะขอให้คิดใหม่ลองไปชมและใช้สมาธิไปด้วยจะทำให้เราเข้าใจความหมายของชีวิต และได้อะไรอีกเยอะเลยครับ สำหรับสวนหินสไตล์เซนแห่งนี้ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:38:47 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ใบไม้แดงต้อนรับ ระหว่างทางเดิน จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:40:30 ]

ความคิดเห็นที่ 52 พระพุทธรูประหว่างทาง จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เป็นวัดที่ร่มรื่นมากครับ มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมทางเดินโดยตลอด จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:43:34 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เดินไปเรื่อยๆก็มาถึง บริเวณทางเดินขึ้นบันไดไปชมสวนหิน จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 55 โมเดลจำลองของสวนหิน ก่อนไปชมของจริงกัน จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:45:38 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เดินเข้ามาก็จะพบ...สวนหินนั่นเองงงง สวนหินแบบเซน นี้มีชื่อว่า Hojo Garden สร้างโดย Soami สวนนี้ประกอบด้วยก้อนหินจำนวน 15 ก้อน และล้อมรอบด้วยเม็ดกรวดสีขาว ด้านนอกมีกำแพงดินเหนียวโอบล้อมอยู่บนพื้นที่ขนาด 10 x 25 เมตร การมองสวนหินที่เป็นปริศนาให้นั่งมอง เพื่อทำสมาธิ ให้เกิดความสงบแบบเซน บ้างจะคิดว่าก้อนหินเหล่านี้คือหมู่เกาะ ทรายคือทะเล รอยคราดบนพื้นทรายคือคลื่นน้ำ และลวดลายบนกำแพงดินเหนียวบริเวณสวนหินคือพระอาทิตย์ยามอัสดง ก็แล้วแต่จะเติมแต่งจินตนาการลงไป เมื่อเราเพลิดเพลินไปกับการชมสวนหินแล้วก็จะได้บรรลุถึงความสงบแบบเซนที่แท้จริงครับ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 57 มองอีก 1 มุม อยากให้ลองใช้เวลาสัก 10-15 นาทีนั่งมองดูครับ จะได้อะไรอีกเยอะแยะ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:54:18 ]

ความคิดเห็นที่ 58 จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:55:20 ]

ความคิดเห็นที่ 59 จริงๆวัดเรียวอันจิยังมีสิ่งน่าสนใจอีกมากมาย ไม่เพียงแค่สวนหิน ยังมีทั้งภาพวาดโบราณบนผนัง สวนสน แอ่งน้ำ เจดีย์ หรือ สิ่งก่อสร้างแบบโบราณ ต้องลองไปชมดูครับ คุ้มค่ากับเงิน 500 เยนที่เสียไปแน่ ส่วนนี้เป็นอ่างหินโบราณ รูปทรงเงินโบราณ ไว้สำหรับล้างมือบ้วนปาก และมีสลักคำโบราณอยู่ด้วย โบราณเยอะจัง จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:57:46 ]

ความคิดเห็นที่ 60 มอสที่ขึ้นอยู่ทั่วๆไปในบริเวณวัด ทางวัดอนุรักษ์ไว้ได้ดีจริงๆครับ ชอบมากๆเลย จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:58:13 ]

ความคิดเห็นที่ 61 จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 02:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 62 จากนั้นเราไปวัดคินคาคุจิกัน (Kinkaku-ji Temple) อีกชื่อคือวัด โรคุอนจิ (Rokuon-ji Temple) หรือวัดพลับพลาทอง วัดทอง (Temple of the golden pavilion) แล้วแต่จะเรียกกัน วัดที่กล่าวกันว่าใครมาเที่ยวเกียวโตแล้วไม่แวะชมวัดนี้ถือว่ามาไม่ถึง การไปวัดทองโดยรถบัสให้ลงที่ป้าย Kinkakuji mae หรือ Kinkakuji michi ก็ได้ จากวัดเรียวอันจิเรานั่งสาย 59 มา วัดนี้เปิดให้ชมตั้งแต่ 9.00-17.00 แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง...ก่อนเข้าชมวัดก็ต้องเติมพลังกันด้วยดังโกะ 5 ไม้ 700 เยน บริเวณทางเข้าวัด...อร่อยดีครับ แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 51 03:02:12 จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:01:52 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ร่มสีแดง ถึงจะมีรอยฉีกขาดไปนิด แต่ก็ยังใช้บังแดดได้ดีระหว่างเราจิบชา ดูผู้คนเดินผ่านไปมา และทานดังโกะไปเรื่อยๆ สุขสุดๆ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:04:12 ]

ความคิดเห็นที่ 64 บริเวณทางเดินเข้าวัด จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:06:36 ]

ความคิดเห็นที่ 65 จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:07:06 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ชำระค่าเข้าชม 400 เยนก็จะได้ตั๋วมา ใบบะเริ่มเทิ่มเลย จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ขอตามไปเที่ยวด้วยคนคะ จากคุณ : ม่านสีม่วง - [ 13 ธ.ค. 51 03:08:44 ]

ความคิดเห็นที่ 68 วัดคินคาคุจิถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1398 ตามคำสั่งของท่านโชกุน อาชิคางะ โยชิมิตซึ (Ashikaga Yoshimitsu) ให้เป็นบ้านพักที่ใหญ่โตโอ่อ่า และหลังท่านเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1408 ก็ได้ถูกแปรสภาพมาเป็นวัดในนิกายเซนตามความตั้งใจของท่าน หลังชำระค่าเข้าชม เดินตามทางมาก็ได้พบเสียที กับศาลาทองหลังใหญ่ ท่ามกลางบึงคียวโกะ หรือ บึงกระจก จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:12:56 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ศาลาที่เห็นพึ่งถูกสร้างใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1955 นี่เอง เนื่องจากศาลาหลังเก่าถูกพระสติฟั่นเฟือนรูปหนึ่งเผาทำลายไปใน ค.ศ. 1950 เพราะหลงไหลในความงดงามของวัดนี้ และเชื่อว่าสิ่งที่สวยงามที่สุดจะได้เห็นคุณค่ามากที่สุดก็เมื่อถูกทำลายไปแล้ว จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ศาลาทองนี้มีทั้งหมด 3 ชั้นแต่ละชั้นก็จะสร้างด้วยวัตถุประสงค์และรูปแบบแตกต่างกันไป ชั้นแรก (The Chamber of Dharma Water) สร้างตามแบบในสมัยเฮอัน ลักษณะเป็นห้องกว้างใหญ่ล้อมรอบด้วยระเบียงและสระน้ำ ชั้นที่ 2 (The Tower of Sound Waves) สร้างตามแบบบ้านของซามูไร ใช้ให้เป็นที่อยู่ของซามูไรอารักขาโชกุน ชั้นที่ 3 ชั้นบนสุด สร้างไว้เป็นที่ประทับของโชกุนตามแบบนิกายเซน และบนยอดมีนกฟีนิกซ์ประดับอยู่ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:15:02 ]

ความคิดเห็นที่ 71 สีทองอร่าม จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:16:16 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เดินมาดูทางขวาบ้าง จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:16:44 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ยินดีต้อนรับครับ คุณม่านฯ นอนดึกจังเลยนะครับ ตี 3 แล้ว นอนดึกมากๆระวังไม่สวยนะคร้าบ แต่ถ้ายังไม่ง่วง ไปเที่ยวกันต่อนะครับ แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 51 03:18:38 จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:17:40 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ชมศาลาทองจากอีกมุม จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:19:50 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เดินตามทางขึ้นมาก็จะเจอน้ำตกเล็กๆ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:21:52 ]

ความคิดเห็นที่ 76 และจุดชมศาลาทองอีกจุดหนึ่ง จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:22:15 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ก่อนออกจากวัดทอง ขอรุปสุดท้ายเป็นกลุ่มใบเมเปิ้ลเขียวๆ ตอนเปลี่ยนสีแล้วต้องสวยมากๆแน่เลย จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:22:35 ]

ความคิดเห็นที่ 78 จากวัดทอง เราต้องไปต่อรถแถวๆย่านกิอนเพื่อไปวัดคิโยมิสึ มีรถอยู่หลายสายที่ผ่านไปถึงวัดคิโยมิสึคือ สาย 100,202,206,207 สักครู่เดียวเราก็มาถึงทางเดินเข้าวัดคิโยมิสึ จะเป็นทางเดินขึ้นเขาราวๆ 500 เมตร สองข้างทางก็จะอารมณ์ประมาณซอยละลายทรัพย์นั่นเอง เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกสไตล์ญี่ปุ่น เป็นด่านวัดใจระยะทางยาวครึ่งกิโล มีทุกอย่างให้เลือกสรรเลยครับ แต่ต่อราคาไม่ค่อยได้เล้ย เขี้ยวจริงๆ แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 51 03:26:36 จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:26:25 ]

ความคิดเห็นที่ 79 คนก็มาเที่ยวกันเยอะพอสมควร ถึงคนจะแน่นแต่ได้เดินเบียดๆกับสาวๆญี่ปุ่นก็สนุกแล้วครับ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:27:28 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ทางเข้าวัดก็เจอพระคุณเจ้ายืนขอรับบริจาคปัจจัยจากผู้มีจิตศรัทธา จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:28:05 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เราก็มาถึงประตูนิโอมอน (Niomon Gate) หรืออีกชื่อคือประตูอะคามอนหรือประตูแดง (Akamon Gate, Red Gate) จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 82 มองย้อนกลับไปนิดนึง คนเยอะแยะเลย เป็นกรุ๊ปทัวร์ เราก็แอบมั่วนิ่มไปยืนฟังเขาบรรยายมาด้วย ประหยัดเงินค่าไกด์   แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 51 03:34:16 จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:33:47 ]

ความคิดเห็นที่ 83 มองไปทางขวาก็เจอประตูไซมอน (ไม่ใช่แซลมอนนะ) หรือประตูทิศตะวันตก ถูกสร้างขึ้นในปี 1603 จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:34:52 ]

ความคิดเห็นที่ 84 มองย้อนกลับไปดูประตูแดงกันชัดๆ ยิ่งได้แสงอาทิตย์ตอนเย็นแล้วยิ่งแดง-ส้มได้ใจมาก จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:36:52 ]

ความคิดเห็นที่ 85 Zoom Zoom ชอบครับ แดงได้ใจมากเลย จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 86 วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu-dera) หรือวัดน้ำใส (Kiyo = ใสบริสุทธิ์, Mizu = น้ำ) ถูกพบในปี ค.ศ. 798 ก่อนเมืองหลวงเกียวโตจะถูกสถาปนาขึ้นเสียอีก จุดเด่นที่สุดของวัดนี้ก็คือวิหารไม้ขนาดใหญ่ที่สร้างอยู่บนเนินเขาสูงและถูกรองรับน้ำหนักไว้ด้วยเสาต้นใหญ่ 139 ต้น และก็ทำให้วัดได้ถูกบันทึกเป็นมรดกโลกโดย Unesco ในปี 1994 เดินเข้ามาอีกนิด ถึงบริเวณหอระฆังของวัด (Sho-ro) ตัวระฆังคาดว่าถูกสร้างราวๆปี 1478 และตัวหอได้ถูกสร้างคร่อมลงไปประมาณ ค.ศ. 1700 แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 51 03:40:52 จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 87 หันไปทางขวาก็จะเจอเจดีย์ 3 ชั้น สร้างในปี ค.ศ. 1633 ภายในมีรูปของ Dainichi Nyorai อยู่ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:42:18 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ศาลา Kyodo อีกหลังภายในบรรจุพระพุทธรูปต่างๆ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:43:02 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ถ้าจะเข้าชมบริเวณวิหารไม้ขนาดใหญ่ฮอนโด หรือ วิหารหลักก็ต้องจ่ายค่าเข้าชม 300 เยนเสียก่อน รูปตั๋วครับ แตกต่างกันไปตามแต่ละฤดู กว่าจะสะสมครบทุกแบบ...กระเป๋าแฟบแน่ๆ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:45:07 ]

ความคิดเห็นที่ 90 เข้ามาแล้วก็จะเจอกับวิวเมืองเกียวโต ไกลสุดตา   จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:46:25 ]

ความคิดเห็นที่ 91 มีให้บริการทำบุญหลากหลายภายในวิหาร จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 92 มองลงไปข้างล่างก็จะเจอของขึ้นชื่อของวัดอีกอย่าง สายน้ำศักดิ์สิทธิ์ 3 สาย จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:50:44 ]

ความคิดเห็นที่ 93 มองเห็นเจดีย์ Koyasu-no-to ของวัดค้างเคียง ทะลุขึ้นมากลางป่าสีเขียว Zoom เต็มที่แล้ว ได้แค่นี้ครับ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:51:39 ]

ความคิดเห็นที่ 94 มองไปอีกฝั่ง เจอศาลาวิหาร Oku-no-in สร้างเพื่อเทพคันนอนพันมือ (Kannon) จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:53:49 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เดินออกมาจาก วิหารฮอนโด มองย้อนกลับไปมองสักนิด ย้อนแสงกันเต็มๆ และคนเยอะมากๆเลย จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:55:16 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ถัดจากนั้นเดินเข้าไปยังวัดส่วนใน เพื่อชมของขึ่นชื่อกันในศาลเจ้าจิชู (Jishu-jinja) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อสักการะเทพโอะคุนินุชิโนะ มิโกะโตะ (Okuninushino Mikoto) เทพแห่งความรักและเนื้อคู่ ภายในก็มีหินแห่งความรัก Love Stone แม้ว่าปัจจุบันบริเวณศาลเจ้านี้จะเป็นของวัดคิโยมิสึ แต่อดีตนั้นแยกออกเป็นอีกสถานที่หนึ่งไม่ได้เกียวกับวัดคิโยมิสึแต่อย่างใด และศาลเจ้านี้ก็ได้บันทึกไว้เป็นมรดกโลกด้วยเช่นกัน จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:57:24 ]

ความคิดเห็นที่ 97 แน่นอนสาวๆญี่ปุ่นทุกคนต้องรู้จักกับหินแห่งความรัก โผล่มาในการ์ตูนกันบ่อยๆด้วย วิธีการทำนายคือ ต้องเดินจากหินก้อนนี้ไปอีกก้อนระยะทางประมาณ 20 เมตร โดยปิดตาไป ถ้าไปถึงได้ก็จะสมหวังในรักครับ แต่ถ้าไม่ก็ต้องรอนิดนึงถึงจะเจอเนื้อคู่ แต่ถ้าเป็นคนชอบอยู่ที่สูงๆเช่นบนคาน อาจจะรอนานนนนนนหน่อยนะครับ แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 51 05:25:20 จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 03:59:30 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ก้อนหินปลายทาง เจอสาวๆกลุ่มนึงกำลังมาทดลองพอดี คนนี้ทำสำเร็จก็ดีใจกันใหญ่ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 04:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ถัดจากนั้นเดินไปบริเวณวิหาร Oku-no-in เพื่อมองย้อนกลับไปชมวิหารไม้มรดกโลกกันแบบชัดๆ ว่ากันว่าสามารถกระโดดลงมาจากระเบียงที่เห็นได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ(น้อย) ใครก็ได้ไปทดสอบให้ทีนะครับ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 04:03:56 ]

ความคิดเห็นที่ 100 สาวๆกลุ่มนี้ กำลังถ่ายรุปกันอยู่ มือซนไปแอบถ่ายเขามา เห็นว่าโพสท์ท่าเบสิคสากลดี ผมชอบคนซ้ายบนอะ!!!! จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 04:07:33 ]

ความคิดเห็นที่ 101 เดินมาอีกนิดมองย้อนกลับไปที่วิหารหลักอีกครั้ง จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 04:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 102 และรุปเปิดกระทู้ เจดีย์ 3 ชั้นพร้อมฉากหลังเป็นเมืองเกียวโต จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 04:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 103 เดินลัดเลาะมาตามทางเพื่อจะไปดื่มน้ำจากสายน้ำศักดิ์สิทธิ์ 3 สาย แวะพักเอาแรงกันก่อนด้วยอุด้งสุนัขจิ้งจอก (Kitsune Udon) ชามนี้ 600 เยนได้...แพงไปนิดแต่ก็ถือว่าโอเค เส้นนุ่มๆหนึบๆ น้ำซุปไม่ข้นไม่จาง โปะมาด้วยเต้าหู้แผ่นทอดบางๆ แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 51 19:28:41 จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 04:16:14 ]

ความคิดเห็นที่ 104 และมาถึงสายน้ำศักดิ์สิทธิ์  3 สาย ชื่อว่าน้ำตกโอทาวะ (Otawa-no-taki) ที่เชื่อว่าจะช่วยคืนพลังชีวิตให้กับร่างกาย แหล่งน้ำไหลมาจากบนยอดเขาลัดเลาะมาจนถึงบริเวณวัด เชื่อกันว่าแต่ละสายก็จะหมายถึง ความสำเร็จทางด้านการงาน เนื้อคู่ และสุขภาพ ระหว่างรอคิวครับ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 04:17:54 ]

ความคิดเห็นที่ 105 สายน้ำศักดิ์สิทธิ์ 3 สาย ชัดๆ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 04:19:48 ]

ความคิดเห็นที่ 106 กระบวยที่ใช้รองน้ำ ก็มีระบบฆ่าเชื้อด้วยแสง UV ปลอดภัยหายห่วง แต่ถ้าต้องการใช้ถ้วยส่วนตัวก็จะมีขายบริเวณในคิว ราคา 200 เยนเป็นถ้วยสีเงินและทองให้เลือก ซื้อไว้เป็นของที่ระลึกก็ไม่เลวนะครับ เครื่องฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 04:21:24 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เสร็จแล้วเดินออกจากวัดกันครับ ได้เจอแสงสุดท้ายของวันที่วัดคิโยมิสึ สวยงามมากๆเลยครับ เสียดายถ่ายรูปออกมาเทียบกับของจริงไม่ได้เลย คนญี่ปุ่นรวมถึงนักท่องเที่ยวก็ต่างยกกล้องขึ้นมาถ่ายเก็บไว้ทั้งนั้น จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 04:23:21 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ลากันไปด้วยภาพประตู Niomon อาบแสงสุดท้ายของวันนะครับ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 04:24:01 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ตอนหน้า ไปเที่ยวเมืองหลวงเก่าเกียวโตกันต่ออีกวันครับ ==Highlight== - วัดกินคะคุจิ วัดเงิน - วิหารเจ้าแม่กวนอิมซังจูซังเง็นโดะ - เทศกาลจิได (Jidai Matsuri) 1 ใน 3 เทศกาลใหญ่ของเกียวโต ท่ามกลางสายฝนกระหน่ำ - ศาลเจ้ายาซากะและย่านกิออน ที่นี่ที่เดียว Blue Planet and Trekking Thai !!!! เข้ามาแล้วอย่าลืมเมนท์ เป็นกำลังใจกันบ้างนะครับ นะๆ ;p   แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 51 10:49:16 แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 51 04:40:33 แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 51 04:40:00 จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 04:39:34 ]

ความคิดเห็นที่ 110 คุณ Ichimura Tetsunosuke ชอบมากเลย Reviewของคุณ ข้อมูลแน่นปึก ได้หยุดตั้ง 19 วัน ดีจังเลยคะ ที่ทำงานดิฉัน ขอหยุดแค่ 10 วันทำการติดต่อกัน ก็ไม่อยากจะอนุมัติให้หยุดแล้ว แถม โทรจิกตลอด อันนี้แอบบ่น เพราะถ้าไปเที่ยวไม่มีความสุขแน่ๆ จากคุณ : kittypatty - [ 13 ธ.ค. 51 07:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ขออนุญาตตามมาเป็นแฟนกระทู้ค่ะ อยากไปญี่ปุ่นมานานมาก ตั้งใจว่าสักวันจะไป ตอนนี้ก็ได้แต่น้ำลายหกไปก่อน เกือบลืมบอกไป...ถ่ายรูปสวยมากค่ะ ^^ จากคุณ : agarwaen (agarwaen) - [ 13 ธ.ค. 51 11:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 112 น่าอิจฉาได้หยุดเที่ยวตั้ง 19 วัน เป้นของผมต้องลาออกจากงานก่อน จึงจะไปเที่ยวอย่างนี้ได้ เกียวโต เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ ถ่ายรูปสวย ยิ่งอากาศดี ๆ อย่างนี้งามมาก ๆ ครับ จากคุณ : หมอดาริน - [ 13 ธ.ค. 51 11:16:59 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ติดตามตั้งแต่ตอนแรกเลยค่ะ ทำให้อยากไปมาก -- ขอคำแนะนำนิดได้ไหมคะ จะไปญี่ปุ่นตอนสงกรานต์ กับ ลูกชาย + หลานสาว ( ปีนึงหยุดยาวก็สงกรานต์นี่แหละ ) ไปที่ไหนก่อนดีคะ ดูทัวร์มีหลายโปรแกรม เลยเลือกไม่ถูกค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ ชมก่อนนะ --- ถ่ายรูป + บรรยาย ดีมากๆ ค่ะ จากคุณ : ดงกล้วย - [ 13 ธ.ค. 51 12:42:07 A:58.9.208.42 X: TicketID:194804 ]

ความคิดเห็นที่ 114 คห.ที่100   แฮ่ะๆ............ชอบคนซ้ายบนเหมือนกัน.....อิอิ...น่ารักดีอ่ะ... จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว - [ 13 ธ.ค. 51 16:18:26 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ดูวันนี้กระทู้เงียบๆ จัง...สงสัยจะไม่ได้เข้า net มาดู อิอิ พอดีแอบเห็นกิฟจากคุณถนนฯ คนเดียวเลย (ไม่ค่อยงกเลยเนอะ อิอิ) ตอบกระทู้กันก่อนๆ ก่อนอื่นขอบคุณทุกท่านที่มาเมนท์กันนะครับ กำลังใจมาเป็นร้อยเลย อย่างน้อยรีวิวเราก็ยังมีคนดูบ้าง # คุณ kittypatty  ขอบคุณที่มาชมกันครับ ไปเที่ยวถ้าลาได้...ปิดมือถือโลดเลยครับ สำหรับผม อิอิ ไหนๆก็ได้หยุดแล้วอย่าโทรมาจิกกันเล้ยเนอะครับ ขอไปเที่ยวสงบๆเถอะน่า # คุณ agarwaen ยินดีต้อนรับครับผม! # ชะอ้าวคุณหมอดารินมาแวะกระทู้ผมด้วย ขอบคุณนะครับ ไม่อยากบอกเลยว่าแอบอ่านรีวิวของหมออยู่เงียบๆ อยู่หลายอันเลย # คุณ ดงกล้วย ดูท่าผมจะทำบาป ทำให้คุณดงกล้วยอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นซะแล้วสินะ ไปเที่ยวญี่ปุ่นมีหลากหลายแบบเลยครับ ต้องถามก่อนว่าคุณดงกล้วยเคยไปญี่ปุ่นมาหรือยัง และเป็นคนชอบเที่ยวแบบไหนครับ เช่น Shopping, วัด, ธรรมชาติ, สวนสนุก (อันหลังไม่แน่ใจว่าคุณลูกกับคุณหลานอายุเท่าไหร่อะครับ) อะไรแบบนี้อะครับ ถึงค่อยมาจัดทริปกันเนาะ # คุณ ถนนสายนี้เปรี้ยว ตามมาดูกันทุกกระทู้เลย แถมใจตรงกันอีก ในคห. 100 แบบนี้โดนใจใช่เลย แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 51 20:03:23 แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 51 20:00:29 จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 13 ธ.ค. 51 19:59:53 ]

ความคิดเห็นที่ 116 เข้ามาดูตั้งแต่เช้าแล้วแต่พอดีรีบๆเลยไม่ได้เม้นท์ค่ะ อย่าน้อยใจไปเน้อ ติดตามมาเรื่อยๆ ข้อมูลแน่นมาก รูปก็สวย ชอบค่ะ จากคุณ : yuki_shimi - [ 13 ธ.ค. 51 20:34:14 ]

ความคิดเห็นที่ 117 คอยอ่านของวันถัดไปครับ จากคุณ : กุ้งบก - [ 14 ธ.ค. 51 17:22:47 ]

ความคิดเห็นที่ 118 # คุณ yuki ขอบคุณคร้าบบบ #คุณ กุ้งบก ขอบคุณเช่นกันครับที่แวะมาเยี่ยมเยียน จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 15 ธ.ค. 51 16:17:03 ]

ความคิดเห็นที่ 119 อยากไปดู Jidai matsuri อย่างแรงค่ะ จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด - [ 24 ธ.ค. 51 16:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 120 มาแล้ว .. ค้า ( หายไปหลายวันเลย ) จะบอกว่าไม่เคยไปญี่ปุ่นเลยค่ะ แล้วลูกก็ 20 / หลาน 14 ค่ะ ไม่ชอบช๊อป น่ะค่ะ ( แบบว่า งก น่ะ หุ. หุ. ) อยากไปดิสนี่แลนด์ ( เคยไปที่ฮ่องกง แต่เห็นเขาบอกว่าที่ญี่ปุ่นดีกว่า ? ) คาดว่าจะไปกับทัวร์ @ ^ ^ @ ไม่บาปหรอกค่ะ -- ได้ดูรูป + คำบรรยาย ก็เหมือนได้ไปด้วยเลย เพราะละเอียดดี จริงๆ อยากถามอีกนิดค่ะ คุณ Ichimura Tetsunosuke ได้ไปโอซาก้า ด้วยป่าวคะ ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ ..... จากคุณ : ดงกล้วย - [ 25 ธ.ค. 51 12:42:33 A:58.9.59.212 X: TicketID:194804 ]

ความคิดเห็นที่ 121 # คุณ ก่วยก๊วยฯ รอหน่อยนะครับ ตอนหน้าคงมาปีหน้าละคร้าบ # คุณ ดงกล้วย ไปกับทัวร์ก็ดีเลยครับ ไม่ต้องมาจัดทริปอะไรให้หนักหัว สบายๆ ส่วนเรื่องดิสนีย์แลนด์ ญี่ปุ่นเขาดีกว่าจริงๆละครับ แต่ก็แคบกว่าด้วยนะ :) โอซาก้า...ได้ไปครับในทริปก่อนๆ แต่ทริปนี้ที่เพิ่งไปมาแวะไปชมแค่ปราสาทโอซาก้าครับ จากคุณ : Ichimura Tetsunosuke - [ 27 ธ.ค. 51 12:08:59 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 17 ม.ค. 52 03:11:33 ]

ความคิดเห็นที่ 123 แอบอ่านอยู่เงียบๆ ค่ะ มาเป็นกำลังใจให้ review จนจบนะคะ แอบดูดข้อมูลด้วยค่ะ ปลายปีมีแผนว่าจะไปเหมือนกัน ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี จากคุณ : yorky - [ 25 ม.ค. 52 22:26:19 ]