ความคิดเห็นที่ 1 เคยอบรม CPR และ first aid  แต่ไม่เคยภาคสนามเหมือนกันครับ จากคุณ : filmcrew - [ 15 ธ.ค. 51 13:27:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เคยแต่ตอนเดิน Trail  ที่เขาใหญ่   ตอนแดดเปรี้ยงๆ  เจอสาวๆ จะเป็นลม  เลยบอกว่าใครจะเป็นลมบ้าง ? " เดี๋ยวน้องจ๋ออาสาผายปอดให้ ! "   แค่นั้นแหละ  สาวๆ รีบจ้ำอ้าวเลย   จากคุณ : Draught Beer - [ 15 ธ.ค. 51 13:31:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ....:D...แนะนำว่าให้ระวังข้อที่ 3, ข้อที่ 4 และข้อที่ 5 นิดนึงนะครับ...:D ....:D...ข้อที่ 3 ระวังตรงจุดที่ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว...ขอให้พยายามดูให้แน่ใจก่อนที่จะล้วงมือลงไปในปากคนที่หมดสติ....เพราะคุณอาจจะถูกกัดนิ้วขาด...:D ....:D...ข้อที่ 4....การทำ Head Tilt และ Chin Lift จริงๆแล้วส่วนหนึ่ง Procedure นี้ถ้าออกแรงมากเกินไปสามารถทำให้เกิดการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังส่วนคอเพิ่มขึ้นได้ ถ้าผู้ป่วยรายนั้นเกิดการบาดเจ็บของกระดูกส่วนคออยู่แล้ว...ซึ่งอันนี้คุณจะตรวจไม่ได้เลยถ้าผู้ป่วยยังหมดสติอยู่...:D ....:D...ข้อที่ 5....นี่ตามข้อที่ 4 ครับ...ว่าการวินิจฉัย ณ จุดที่เกิดเหตุทำได้ยาก...การจะพลิกตะแคงโดยไม่แน่ใจ ขอให้ ละ ขึ้นตอนนี้ไว้ก่อนจะดีกว่าครับ...:D ....:D...ข้อแนะนำอย่างจริงใจในการที่จะช่วยเหลือ....ขอให้ระลึกไว้เสมอว่า...ก่อนที่จะช่วยเหลือใครสักคน คุณต้องปกป้องตัวคุณเองก่อนด้วย...ดังนั้นคุณควรจะมีอุปกรณ์พื้นฐานสักเล็กน้อยติดรถไว้.....เช่น...ถุงมือ ใส่ก่อนที่จะลงมือช่วยเหลือผู้ป่วย....หน้ากากครอบหน้าผู้ป่วยแบบเป่าลมทางเดียว...เพื่อป้องกันการปนเปื้อนระหว่างเป่าปากให้ผู้ป่วย...ปลอกคอแบบพับได้เพื่อสวมให้ผู้ป่วยเพื่อป้องกันกระดูกสันหลังส่วนคอ....ก่อนที่จะทำการพลิกขยับผู้ป่วยแต่ละครั้งต้องระมัดระวังอย่างมากและไม่ควรทำคนเดียว...แผ่นเหล็กแบบไม้ไอศครีมใช้กดดูในปากเพื่อค้นหาว่ามีฟันปลอม เศษอาหารติดในทางเดินหายใจหรือไม่....ในแง่อุปกรณ์ป้องกันอื่นๆที่ควรมีคือหน้ากากสำหรับตัวคุณเองและแว่นตา...อุปกรณ์พวกนี้เป็นแบบใช้แล้วทิ้ง หาได้ไม่ยากตามร้านขายอุปกรณ์ทั่วไป..และพกติดรถได้ง่ายกรณีต้องใช้...:D....คงแนะนำเพิ่มเติมได้นิดหน่อยเท่านี้นะครับ...:D จากคุณ : Death - [ 15 ธ.ค. 51 13:43:53 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ข้อสองสำคัญสุดค่ะ   Call for back up early !! เพราะในที่เกิดเหตุ แค่ช่วยคนเดียวไม่พอค่ะ จากคุณ : blueschizont - [ 15 ธ.ค. 51 15:17:40 ]

ความคิดเห็นที่ 5 กด 1669 สายด่วนแจ้งเหตุ ใช้ได้ทุกจังหวัดทั่วไทย และใช้ได้กับโทรศัพท์ทุกระบบ จากคุณ : nickky_wan - [ 15 ธ.ค. 51 15:31:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมมีประสบการณ์จริงส่วนตัวมาเล่าให้ฟังเป็นข้อเตือนใจ      เหตุเกิดเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม 2550 สถานที่ภูชี้ฟ้า เชียงราย    ช่วงวันหยุดปีใหม่ปีที่แล้วได้มีโอกาสพาน้องของภรรยาจากกรุงเทพมาเที่ยวเชียงใหม่เลยจัดโปรแกรมไปนอนภูชี้ฟ้ากับครอบครัว(ผม ภรรยาและลูกสาวคนโต) โดยผมลางานตั้งแต่พฤหัสบ่ายขับรถจากเชียงใหม่ไปถึงที่บ้านพักด้านล่างของภูชี้ฟ้าเย็นๆ   ตอนเช้าตื่นตั้งแต่ตี 4 กว่า นั่งรถ 2 แถวขึ้นไปบนภู  จากนั้นก็เดินตามทางขึ้นเขาซึ่งมีระยะทางประมาณ 6-700 เมตรจะถึงจุดชมวิวดูพระอาทิตย์ที่ผารูปหัวสิงโต จำได้ว่ามีนักมาท่องเที่ยวปานกลาง ไม่แน่นมากเท่าวันหยุดยาวที่จะเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 29    ขณะเดินตามนักท่องเที่ยวคนอื่นๆไปสักประมาณ 2-300 เมตรจากลานจอดรถ ท้องฟ้ายังมืดอยู่ อาศัยแสงไฟฉายจากนักเที่ยวคนอื่นทำให้พอมองเห็นทางเดิน ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนกลุ่มข้างหน้าร้องตะโกนว่ามีคนเป็นลม ผมกับภรรยาจึงเข้าไปดูพบคุณลุงอายุ 60 กว่าปีกำลังนอนหมดสติอยู่ มีญาติ 2-3 คนกำลังบีบนวด ภรรยาเล่าให้ฟังว่า ขณะเดินมาด้วยกันคุณลุงบ่นให้ฟังคำเดียวว่าเหนื่อยจากนั้นก็ล้มลง เรียกไม่รู้สึกตัว นานประมาณเกือบ 5 นาทีแล้ว     เมื่อจับตัวคุณลุงยังอุ่นอยู่แต่ไม่มีชีพจร หรือหายใจ ผมกับภรรยาจึงบอกญาติว่าหัวใจลุงหยุดเต้น ต้องปั๊มหัวใจและต้องการผู้ช่วยในการผายปอด (ผมกับภรรยาเป็นผู้สลับกันกดทรวงอกผู้ป่วย)            มีหญิงสาวคนหนึ่งรีบเข้ามาผายปอดให้ผู้ป่วย (จำได้ว่าพูดหนึ่งพันหนึ่ง หนึ่งพันสอง หนึ่งพันสาม เป่าปอด ) ตอนนั้นพูดกับภรรยาแล้วว่าต้องนำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ต้องให้คนไปตามเจ้าหน้าที่มารับคนป่วยลงไปข้างล่าง ให้หาคนติดต่อรถเพื่อนำส่งโรงพยาบาล ตอนนั้นได้บอกกับญาติไว้แล้วว่าโอกาสรอดมีน้อยมากถ้าไม่มียา อุปกรณ์ช่วยชีวิต         หลังเริ่ม CPR ไปสักพักมีคนมาแจ้งว่ารถขึ้นมาไม่ได้ ทำให้ต้องมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยด้วยการช่วยกันอุ้ม ผมเองต้องช่วยอุ้มและสลับกับภรรยาช่วยกันกดทรวงอกผู้ป่วยไปด้วย ใช้ผู้ชายช่วยกันอุ้มตั้ง 5 คน เนื่องจากลุงตัวใหญ่ และทางเดินลงเนิน ทำให้หมดแรงไปตามๆกันสัก10-20 เมตรก็ต้องวางเพื่อ CPR         ในขณะนั้นน้องผู้หญิงที่มาช่วยเป่าปากก็แสดงอาการว่าไม่ไหว มาทราบทีหลังว่าไม่ใช่ญาติลุงแต่เป็นพยาบาลที่ผ่านมาพบจึงช่วยเหลือ ผมรู้สึกว่าน้องเขาเป็นคนดีจริงๆ เป็นผมคงไม่กล้าทำเช่นนั้น ก็ได้แต่ขอบคุณน้องเขาไปแล้วหาผู้ช่วยคนใหม่ จะเป็นใครไปไม่ได้ก็ต้องป้าภรรยาลุงนั่นเอง        เมื่อลงมาถึงลานจอดรถ อย่างทุลักทุเลและหมดแรง มีรถ 2 แถวมารอรับซึ่งเป็นรถคันที่นำลุงกับป้ามาส่งนั่นเอง เนื่องจากรถคันที่พาเราขึ้นมาจะให้เบอร์โทรติดต่อไว้เพื่อมารับกลับ ตอนแรกผมคิดว่าเมื่อลงมาจะพบกับเจ้าหน้าที่หรือรถพยาบาลรออยู่ แต่คนที่ติดต่อโรงพยาบาลแจ้งว่าได้ติดต่อหน่วยนเรนทรที่ 1669 กำลังส่งรถฉุกเฉินพร้อมทีมจาก ร.พ. เทิงมาแต่ต้องใช้เวลาอีกประมาณเกือบชั่วโมง ให้ไปสถานีอนามัยที่ใกล้ที่สุดก่อน        ผมกับภรรยาและคุณป้าก็ขึ้นหลังกะบะไปพร้อมกับ CPR บนรถที่วิ่งด้วยความเร็ว บนถนนคดเคี้ยวขึ้นลงเขา จนถึงอนามัยก็ให้เจ้าหน้าที่อนามัยช่วยดูแลต่อ สักพักรถฉุกเฉินจาก ร.พ. เทิงก็มาถึงแล้วนำลุงป้าพร้อมญาติไปส่งร.พ. เทิง  ระหว่างรอได้สอบถามป้า ป้าเล่าว่าสามีป้าปกติแข็งแรงดี มีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูงอย่างเดียว แต่ออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานทุกวัน และเพิ่งตรวจสุขภาพไปไม่นาน        หลังจากนั้นรถ 2 แถวคันเดิมก็พาผมกับภรรยากลับขึ้นไปเพื่อชมวิว ถึงข้างบนก็เกือบ 7 โมงเช้า ไปตามหาลูกที่ฝากไว้กับน้องภรรยา ระหว่างทางก็มีคนที่เห็นเหตุการณ์หลายคนถามว่าเป็นอย่างไร  ในภายหลังมาทราบว่าคุณลุงก็เสียชีวิตตามคาด ขอแสดงความเสียใจด้วยกับครอบครัวผู้สูญเสีย ประสบการณ์นี้ให้บทเรียนที่สำคัญคือ           1. อย่าประมาท ผู้สูงอายุ หรือผู้มีปัญหาสุขภาพ ควรระวังการท่องเที่ยวที่ต้องออกแรง (เดินขึ้นเนิน) ในสภาพอากาศที่เบาบาง (ยอดเขา)            2. เนื่องจากเป็นวันทำงานปกติก่อนวันหยุดยาว จึงไม่มีหน่วยพยาบาลที่ประจำอยู่ข้างบนภูชี้ฟ้า(จากการคุยกับเจ้าหน้าที่อนามัย) ดังนั้นจึงเกิดความไม่พร้อมของการรักษาพยาบาล          เหตุการณ์นี้เกิดก่อนหน้าข่าวคนลื่นตกจากหน้าผาไม่กี่วันครับ จากคุณ : THE GUNNER - [ 15 ธ.ค. 51 16:36:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เคยอบรม ไม่เคยมีประสบการณ์จริงค่ะ แต่ข้อสำคัญก็อย่างที่คุณ Death บอก การป้องกันก็เป็นสิ่งสำคัญ ผู้ที่มาสอนใช้อุปกรณ์ง่ายๆ คือถุงพลาสติกหูหิ้วนั่นเอง (อาจป้องกันได้ไม่ดีนัก แต่ก็คงดีกว่ามือเปล่า) ก่อนประกบปาก ก็เอาถุงเจาะรูวางไว้ก่อนแล้วเราค่อยประกบลงไปค่ะ ทำสำคัญ พบผู้ป่วยประสบอุบัติเหตุจากการกระแทก เช่นรถชน ไม่ควรทำ เพราะเป็นไปได้ว่า อาจบาดเจ็บภายใน โดยเฉพาะ กระดูกอาจเคลื่อนอยู่ ให้โทรเรียกหน่วยกู้ภัยมาก อย่าพยายามเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเอง ยกเว้นอยู่ในภาวะฉุกเฉิน เสี่ยงต่อการเสียชีวิต เช่น ไฟไหม้ ไม่ควรเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเพียงลำพัง เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยบาดเจ็บเพิ่มขึ้นได้ค่ะ จากคุณ : umeboshi - [ 15 ธ.ค. 51 16:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เคยเรียนมาจากวิชาสุขศึกษา แต่ก็ไม่ได้ปฏิบัติจริงจังอ่ะครับ จากคุณ : David_kop - [ 15 ธ.ค. 51 18:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ยินดีจังเลยครับที่ได้รับการแลกเปลี่ยน เรียนรู้จากเพื่อนๆ กัน คุณ Death ครับ ขอบคุณมากเลย  ผมคงต้องหาหน้ากากครอบหน้า แบบเป่าทางเดียว  ติดรถไว้บ้างแล้ว  ถึงไม่ได้ใช้ก็ไม่เป็นไร  ก็เคยหลับตานึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ไว้เหมือนกัน....ซึ่งมันอาจจะเกิดได้ตลอดเวลา  และช่วยเขาได้ทัน เดือนที่แล้วก็เพิ่งซื้อหนังสือการช่วยชีวิตพื้นฐาน  มาวางไว้ที่โต๊ะกินข้าว  แล้วก็บอกทุกคน ไม่เว้นแม้แต่แม่บ้าน กรุณาอ่านกันหน่อยนะ.เพราะอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันกันได้  ถึงแม้แต่อยู่ในบ้านเราเอง ช่วง 4-6 นาทีแรก  มีผลอย่างมากครับ ได้อ่านเรื่องที่คุณ Gunner อย่างตั้งใจ...ขอชื่นชมคุณและภรรยาจริงๆ ว่ามีสติที่ดีมาก รวมถึงคุณพยาบาล นิรนามผู้นั้น  และขอให้คุณลุงผู้นั้นไปสู่สุขคติ สำหรับประเด็นเรื่อง  ก่อนที่จะช่วยผู้ประสพเหตุตามที่คุณ Death และคุณumeboshi ช่วยให้ความเห็น..ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง  ในกรณีที่เราจะช่วยเขา  แต่ตัวเราต้องมีการป้องกันก่อน เพื่อลดความเสี่ยงในทุกกรณี ที่อาจเกิดขึ้นได้  อาจารย์ที่สอน CPR เค้าก็แนะนำอย่างนี้เช่นกัน อาทิ เช่น การผายปอด ผู้ป่วยที่มีเลือดออกเราต้องป้องกันตัวเองอย่างไร, หรือการช่วยคนจากอุบัติเหตุรถชนกัน  หากช่วยออกมาแล้ว แต่ก็ทำการปฐมพยาบาลกันในบริเวณนั้นๆ   อาจจะเกิดอุบัติเหตุซ้อนขึ้นได้อีก แ ล ะ อ ย่ า ลื ม   1 6 6 9 ครับ แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 51 20:23:17 จากคุณ : Art999. - [ 15 ธ.ค. 51 20:21:46 ]

ความคิดเห็นที่ 10 นึกได้อีกหน่อย...ล่าสุดเมื่อกลางปี  มี Refresh CPR  อีกครั้ง อาจาร์ยให้ลืม 15 : 2 ไปเลย ตอนนี้ reset ให้พวกเราเป็น 5 : 1 แทนแล้วน่ะครับ.... มีเพื่อนท่านใดใช้บ้างหรือยังครับ จากคุณ : Art999. - [ 15 ธ.ค. 51 21:19:13 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เคยแต่อบรม กับใช้ที่ ร.พ. ไม่เคยได้ CPR จริงนอกสถานที่เลยค่ะ จากคุณ : Sugarbean - [ 15 ธ.ค. 51 21:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 15 ธ.ค. 51 22:32:22 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เคยคับ กะแม่น้องตะโก้ห้องลุมพินีคับสมัยเรียนปี 2 เลยคับ ประมาณปี 42 คับไปแก่งกระจานกะแม่น้องตะโก้ แล้วก็พ่อน้องตะโก้คับ รถผมมันเก่าคับเราเลยไปช้าๆ สมัยนั้นทางขึ้นยังเป็นลูกลังอยู่เลย รถเราไป 5 คนครับ เราเลยไปแบบไม่รีบร้อนเพราะรถเก่า คนเยอะวิ่งมากเดี๋ยวพังกันพอดี แบบว่าใครอยากแทรงก็แทรงไป ตอนขึ้นไปบ้านกร่างก็มีรถแทรงๆ ไป เราไม่ได้สนใจอาราย แต่ที่จำได้คือมีรถคันนึ่ง ยี่ห้อ Kia สปอร์ดเทรด แทรงหน้าไปแล้วขับเร็วด้วยแทรงไป แต่ก้ไม่ได้พูดอารายมากแค่บอกกันว่าซิ่งดี พวกผมก็ขับกันไปกินขนมกันไป โดยเฉพาะไก่ที่พึ่งซื้อมา กินๆๆๆ ไปเรื่อยๆ ไม่นาน เราก็เห็นรถที่วิ่งแทรงเราไปวิ่งกลับมาเป็นแถว ทุกคนเกิดอาการงง ว่าเกิดอะไรขึ้นคิดกันไปว่าสะพานขาด ช้างมา เลยจอดรถ แล้วโบกถามรถที่วิ่งกลับมา แล้วได้คำตอบว่า รถคว่ำ เจ็บเต็มถนนเลย แม่น้องตะโก้อึ้งคับ ว่าเอาไงดีแต่ทุกคนคิดว่าลองไปดูก่อนว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง เลยรีบไปจุดเกิดเหตุ สิ่งที่เห็นคือสภาพของผู้ประสบเหตุ นอนอยู่บนพื้นถนน เท่าที่นับได้ด้วยสายตาประมาณ 6-7 คน ผมเลยคว้ากระเป๋าพยาบาลที่ติดตัวเป็นประจำวิ่งไปทันที โดยได้ยินเสียงพ่อน้องตะโก้ตะโกนตามหลังผมมาว่าอะไรซะอย่าง แล้วทุกคนก็ให้ผมเข้าไปที่เกิดเหตุ โดยที่มีน้องๆ ที่มาเที่ยวพยายามปฐมพยาบาลอยู่ เท่าที่ผมจำได้ผมคว้าถุงมือยางมาใส่แล้วมองเห็นเจ็บเล็กน้อย 2-3 ราย แขนหักรายนึงแต่ที่ผมจำติดตาจนถึงวันนี้เลยมี 3 คน คนแรกปัญหาที่คอน้องๆ พยาบาลที่มาเที่ยวเค้า block ไว้แล้วรายที่สองหัวแตกและมีหนังศรีษะบางส่วนเปิดแต่ยังมีสติ รายที่ 3 นี้หยุดหายใจแล้วน้องเค้าตะโกนมา ผมเลยวิ่งไปดูก่อนแล้วก็ทำตามที่เรียนมาเลยคับ  จัดท่านอนหงายหน้าขึ้น ให้เงยนิดๆ แล้วล้วงคอดูก่อนกว่ามีอะไรติดหรือไม่คลำหาชายโครง แล้ววัดต่ำลงไป 2 นิ้วมือ แล้วเริ่มเลยคับ สองมือประสานกัน แขนตึงแล้วกดลงไปนับ 1 2 3 4 5 สลับเป่าปาก ตามที่เรียนๆ หลับๆ แบบไม่คิดว่าต้องใช้จริง ทำอยู่ 5-6 รอบเค้าก็สำลักออกมาคับเลยให้เค้านอนนิ่งๆ ก่อนเพราะไม่รู้ว่าบาดเจ๊บที่บริเวนอื่นป่าว แล้วก็รอรถพยาบาลมาคับ ส่วนคนอื่นก็ได้รับการปฐมพยาบาลไปตามอาการและเท่าที่อุปกรณ์ที่ผมพกมามี แต่ก็มีเรื่องที่น่าเสียใจอยู่เพราะมีผู้เสียชีวิตทันทีจากอุบัติเหตุ แต่เราก็ไม่ได้พูดออกไปให้คนเจ็บอื่นๆ ทราบ ทุกคนรอกันประมาณ 20 นาทีหน่วยฉุกเฉินจึงมาถึงที่เกิดเหตุและรับช่วงต่อไป วันนี้เลยไม่ได้ไปต่อเลยคับ พักที่บ้านกร่างเลยทั้งๆ ที่จะขึ้นไปที่พะเนินทุ่ง น้องๆ พยาบาลที่เจอกันเลยได้มาพักมาคุยกันเลยได้รู้ว่าน้องๆ เค้าเรียนพยาบาลปี 1 ครับ เช้าต่อมาผมลงจากที่พักพอถึงที่ทำการข้างล่างเลยถามว่าเป็นอย่างไงบ้าง เจ้าหน้าที่บอกว่าเสียชีวิตแค่คนเดียวตับ จากนั้นจนถึงวันนี้ผมไม่ไปเหยียบ สามร้อยยอดอีกเลย แล้วคงไม่กล้าไปอีกอ่ะคับ ภาพมันจำติดตาเลยครับ จากคุณ : นายปอป่าน - [ 15 ธ.ค. 51 22:35:06 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 15 ธ.ค. 51 22:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พอมีเหมือนกัน มาจองที่ไว้ เด๋วพรุ่งนี้มาเล่า วันนี้เพิ่งเลิกงานเหนื่อย ไปนอนก่อนนะคะ จากคุณ : สบายดีไหม - [ 15 ธ.ค. 51 23:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เคยแต่ทำ CPR น้องแมวกะน้องหมา อยู่บ่อยๆ อ่ะครับ แต่ถ้าคนไม่เคย ปกติก็จะดู mental status คล้ายๆ กัน แต่วิธีการปั๊มคงไม่เหมือนกันแน่ๆ เหอๆๆ ผมคิดว่าให้คนที่มีความรู้ (ถ้าหากมีอยู่แถวนั้น) ทำจะดีกว่า เพราะถ้าทำผิดวิธี แทนที่จะช่วย กลับกลายเป็นฉุดเสียหน่ะครับ .... แต่ถ้าไม่มีใครเลย สัตวแพทย์คนนี้หล่ะจะช่วยเอง อิ อิ อิ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ - [ 16 ธ.ค. 51 00:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^ เอ่อ..  มีเป่าปากด้วยป่าวคับ จากคุณ : นายสัญจร - [ 16 ธ.ค. 51 04:10:47 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อคืน CPR ไป 3 ราย แต่เป็นcase ใน รพ. ไม่เคยได้ CPR ข้างนอก รพ.เลยครับ ประทับใจคุณ THE GUNNER มากครับ จากคุณ : Dr.DJ - [ 16 ธ.ค. 51 11:12:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ...เคยได้รับการอบรมรมเหมือนกันครับ..แต่ยังไม่เคยทำจริงๆเลย แต่มีประโยชน์มากครับ.. จากคุณ : Red Fox - [ 16 ธ.ค. 51 11:23:50 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมเรียน EFR ของ PADI เมื่อกลางปี ครูยังสอน 15:2 อยู่อ่ะ (กด 15 เป่า 2) แล้วจริงๆควรทำตามแบบไหนครับ ? เรียนมา ซ้อมไว้ แต่หวังว่าคงไม่ต้องได้ใช้ เนาะ ^^ จากคุณ : A-bad (zoopod) - [ 16 ธ.ค. 51 12:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ A-bad ครับ  ตอนนี้ใช้ 30:2 แล้วครับ ทั้ง DAN และ PADI ก็แนะนำให้เป็น 30:2  ซึ่งโรงเรียนแพทย์ในประเทศไทยใช้อัตราส่วนนี้มาหลายปีแล้วครับ จากคุณ : Conundrum - [ 16 ธ.ค. 51 15:34:00 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คนไข้อุบัติเหตุต้องระวังเรื่องกระดูกคอหัก เพราะควรเฉยคางขึ้นไม่ให้คอพับ ที่พอทราบมา กดหน้าอก 15 ครั้ง เป่าปาก 2 ครั้ง หากอยู่ในโรงพยาบาลมีเครื่องมือครบก็อาจจะเป็น 30 ต่อ สอง หรือไม่ก็กดหน้าอกให้ได้จำนวนเท่าชีพจรคนไข้ภายหนึ่งนาทีและที่ดีควรให้ได้ 150 ครั้ง ข้อมูลไม่ตรงกัน สงสัยต้องรีบหา คอร์สไปฟื้นฟู เวลาไปเที่ยวเจอคนเป็นลมบ่อยค่ะ แต่ไม่ถึงกับต้อง CPR ขอบคุณ จขกท.และทุกท่าน เป็นกระทู้ที่เป็นประโยชน์มากค่ะ จากคุณ : แป้งแดง - [ 16 ธ.ค. 51 18:43:01 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มาเล่าเรื่องที่ตามที่สัญญาไว้ พอดีเราเป็นพยาบาล แต่ ไม่นับ csae ที่ช่วย CPR ใน Emergency room ของรพ นะ ที่จำไปจนวันตายคงมีสอง case case เเรก ตอนเป็นนักศึกษาพยาบาลปี สอง กลับบ้านวันสิ้นปี ประมาณทุ่มกว่าๆ กำลังนอนอย่างสบายใจ จู่ๆก็มีเสียงคนข้างบ้านร้องกรี๊ด ดังมาก ร้องช่วยด้วยๆๆๆ เราก็วิ่งไปดู ปรากฎว่าเจอลูกชายข้างบ้านนอนไม่รู้สึกตัว จังหวะนั้นมีคนเอาขึ้นรถไป เราก็เห็นเค้านอนนิ่งก็เลยปีนขึ้นรถตามไปดู ทำตามขั้นตอนที่เรียนมาเลยนะ ตอนเเรกก็เขย่าตัวก่อน ว่ารู้สึกตัวไหม >>>> แน่นิ่งค่ะ ไม่รู้สึกไรเลย ต่อไปก็เอาแก้มแนบมาใกล้จมูกดูว่ามีลมหายใรไหม  ดูอกว่าอึ๋มไหม อ๊ะไม่ใช่ ดูว่ามีการกระเพื่อมไหม >>นิ่ง ก็เลยจับชีพจรที่คอ ไม่มีอะไรเลย แม่เด็กหนุ่มคนนั้นก็ร้องให้ๆๆๆๆ เราก็บอกแม่เค้าไปว่า ลูกไม่มีชีพจรนะ จะให้เราปั๊มหัวใจไหม เเม่เด็กหนุ่มก็ยอม เราก็ล้วงปากเค้า เพราะอาจมีฟันปลอมแล้วก็ปั๊มหัวใจไป กดอก15 ครั้ง เป่าปากสอง(สัยนี้ 30ต่อสองนะจ๊ะ) พอจะเป่าปาก กำเวง อีชั้นจะเป่าไงนี้ เลยบอกให้เเม่เค้า เป่าปากลูกเค้า (ไม่เป่าเองเด็ดขาด หุหุ) แล้วอีชั้นก็ปั๊มไป ปั๊มคนเดียวเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเหนื่อยมากๆ ก็คิดเมื่อไหร่จะถึง รพ ฟระ เริ่มสังเกตุว่าทำไมรถมันวิ่งช้าจัง ระยะทางจาก บ้านไป รพ 22 km รถโล่งๆน่าจะเร็วกว่านี้ เงยหน้าจากการปั๊มหัวใจ มองไปรอบรถ พระเจ้าจะบ้าตาย ใครเป็นคนเอาเด็กคนนี้ขึ้นมาบนรถ เค้าเรียกว่าอะไรอ่ะ ที่ไม่ใช่รถกระบะ ที่เห็นในหนัง เอาไว้ขนฟาง นางเอกพระเองหลงทางเเล้วนั่งอยู่ท้ายรถอ่ะแล้วมันวิ่งช้าๆๆๆ มากๆดังแต๊กๆๆๆ อ่ะ แล้วเราใส่กางเกงขาสั้นไง  เข่ากดลงกะพื้นรถนานๆ เริ่มเจ็บเหนื่อยก็เหนื่อย รถก็ช้า เราก็ล้า เพราะปั๊มคนเดียวเเล้วต้องใช้เเรงกดพอสมควร  ก็ปั๊มเเละจับชีพจรมาเป็นระยะๆ ก็ยังไม่มีชีพจร พอใกล้จะถึง รพ ชีพจรมาเเล้ว เราดีใจมากๆ ก็จัดท่าให้เค้านอนเหมือนกอดหมอนข้าง ป้องกันสำลักน้ำลายลงหลอดลม   พอถึง รพ ก้อมีทีมเเล้ว สบายเลยเรา กลับมาบ้านดูเข่าตัวเอง เป็นแผลถลอกทั้งสองข้างเลยอ่ะ เลือดไหลด้วย   แล้วเเม่เด็กก็มาขอบคุณเรา แล้วบอกว่าถ้าไม่ได้เรา ไม่รู้ลูกเค้าจะเป็นยังไง   ปลื้มเลย จากคุณ : สบายดีไหม - [ 16 ธ.ค. 51 19:35:10 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เยี่ยมจริงๆเป็นประโยชน์มากเลย ขอบคุณจ้า จากคุณ : mengnoi - [ 16 ธ.ค. 51 20:44:44 ]

ความคิดเห็นที่ 25 case  2  เกิดขึ้นตอนทำงานเเล้ว พอดี รพ ทีเราทำงานมีหลายสาขา สาขาที่เราทำอยู่ฝั่งธน พาคนไข้ไปตรวจ MRI ที่ สาขาแถวสนามเป้า กำลังกลับจากสนามเป้า ขึ้นทางด่วนจะไปรพ เราฝั่งธน  พอถึงแถวอุรุพงษ์ โดนตำรวจทางด่วนโบกรถพยาบาล เราก็งง โบกทำไม เกิดอะไรขึ้น เปิดประตูลงไปดู เจี๊ยก >>>>>ตำรวจ(อีกคน)ไหงมานอนจมกองเลือดอย่างนี้ เราก็บอกคนไข้ที่พามาตรวจว่า ขอลงไปดูคนไข้หนักหน่อยนะคะ คนไข้เราก็น่ารัก บอกตามสบาย เราก็ไปถึงจับชีพจรที่คอ ไม่มีแล้วอ่ะ  ก็เลยล้วงไปที่ ขาหนีบเพื่อ confirm ว่าไม่มีชีพจรเเน่ๆ ก็เลยบอกคณะตำรวจที่โบกรถ ambulance เรา ว่า หยุดหายใจเเล้วนะ ไม่มีชีพจร เราก็ปั๊มหัวใจ ตามstep  พอจะถึงตอนเป่าปาก เราก็มีเครื่องมือครบ เราบอกคนขับรถว่าเอา ambu bag มา เราจะเอาไปครอบปากและจมูกคนไช้เพื่อให้ออกซิเจน  พอจะครอบไปที่ปาก >>>>>>>>>>  ง่า ปากไปไหนอ่ะ มีแต่ฟัน พี่น้องคะนึกภาพตามนะ ปากcase นี้ฉีกจะไปถึงหู มีแต่ฟันเป็นซี่ๆ ออกมา เราก็ไปปั๊มดีก่า หาปากไม่เจอ พอกดหน้าอกไป เลือดก็กระฉูดออกมา ทางหน้าผาก กระดูกกระโหลกหน้าผากแตกเลือดไหลนองเลย เราก็บอกให้คนขับรถไปเอาก๊อตมาปิดไว้ ก็ปั๊มต่อ ได้ยินเค้าคุยกันว่า ตำรวจคนนี้ขับมอไซค์ขึ้นทางด่วน แต่คนนี้ไม่ใช่ตำรวทางด่วนนะ ขึ้นมาได้ไงมะรู้ ใส่หมวกกันน็อคแบบเปิดหน้าอ่ะ เเล้วขับไปชนรถหกล้อที่มันเสียอยู่ งานเข้าเลยสิคะ อีชั้นก็ปั๊มต่อไป แล้วก็ให้ตำรวจ ว เอา รถพยาบาลมา  อีชั้นรับไปมะได้คนไข้นอนอยู่ ปั๊มไปสักพัก ไม่รู้นักข่าวมาจากไหนรุมถ่ายรูป โอยจะบ้าตาย ปั๊มไปสักพัก ฝนเริ่มปรอยๆ โอย กลิ่นคาวเลือดนี้คลุ้งเลย นาฬิกาอีชั้นหล่นลงบนกองเลือด ไม่เก็บเลยปล่อย รถพยาบาลก็ยังไม่มา คนไข้ก็เสียเลือดเยอะ โชคดีตำรวจไปโบกรถพยาบาลได้อีกคัน มาช่วยกันปั๊มและให้น้ำเกลือ สักพัก รถกู้ชีพก็มา ก็เลยทำการช่วยชีวิตขั้นสูง (ใส่ท่อช่วยหายใจ+ยากระตุ้นหัวใจ)  แล้วนำส่ง รพ พอปั๊มเสร็จ อีชั้นแทบคลานกลับมา รพเลยอ่ะ เพราะตอนนั้นบ่ายสองโมงเเล้ว แต่อีชั้นยังมะทานข้าวเช้าเลย  ตอนปั๊มไม่เหนื่อย มาเหนื่อยตอนปั๊มเสร็จ ชุดพยาบาลขาวๆ เป็นสีเเดงเลยอ่ะ เปื้อนเลือด ตอนเช้าขึ้นมา ขึ้นหน้าหนึ่งค่ะ มีภาพคนไข้ที่เราปั๊มปิดหน้าไว้ เพราะสภาพไม่สวยงามตามข่าวบอกว่าคนไข้เสียชีวิต   เคสนี่ประเมินจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ไม่รอดตั้งเเต่เเรกเเล้ว เเต่เราปั๊มตามหน้าที่ ทำดีที่สุด เพื่อนๆชอบมาเเซว ฝีมือแกอ่ะ หุหุ หัวหน้าเเละรุ่นพี่ซีเนียร์มาพูดกะเราว่า ชั้นทำงานมาเป็นยี่สิบสามสิบปี ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้นะ แกนี่นะ สุดยอดเลย ดวงดีมากกกกกกก ก็ดวงจะไม่ดีได้ไงล่ะ บางวันนั่งรถเมล์อยู่ดีๆ ตรงเเยกอรุณอรินทร์ มีรถแท๊กซี่ ฝ่าไฟแดงมาชนมอไซค์ คนซ้อนและคนขับก็ลอยฟิ้วแล้วหล่นลงมาต่อหน้าต่อตาเลย  ลงไปช่วยไม่ได้ เลยโทรเรียก 1669 ให้ บางทีก็นั่งรถทัวร์อยู่ดีๆ แล้วเจอมอไซค์ล้ม คนซ้อนคนขับนอนเจ็บอยู่ข้างทาง ลงไปช่วยไม่ได้อีกแล้ว เรีบก 1669 ตามเคย หรือไม่ก็นั่งบนเเทกซี่ แล้วก็เจอ รถมาเลนข้างๆ ประสบอุบัติเหตุ อีกครั้งนึงก็ไปส่งคนไข้ที่ รพ จุฬา เจอ มอไซค์แหกโค้ง จะจะเลย แต่ ลงไปช่วยไม่ได้ คนไข้ที่เราไปส่งอาการหนัก เเละตรงนั้นมีตำรวจ และใกล้ รพ อาการของคนไข้ที่แหกโค้งก็ไม่หนักเท่าไหร่ จนปัจจุบันถ้าวันไหนเวรเราออกไปกะ Ambulance  พนักงานขับรถจะทำท่าหนาวๆกลัวๆ  ไปกะพยาบาลทางด่วนเหรอ(ฉายาใหม่) ไม่อยากไปด้วยอ่ะเจี๋ยว  ประมานนี้ทุกคน จากคุณ : สบายดีไหม - [ 16 ธ.ค. 51 20:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 26 :) ที่ทำงานผมจัดอบรมเรื่อย ๆ ครับ แต่ผมไ่ม่เคยได้ทำเลย เพราะส่วนใหญ่คุณพยาบาลเค้าจะทำกัน ถ้าเจอสถานการณ์จริง ๆ ไม่รู้จะำทำถูกไหม ? ปกติได้แต่แอบมอง แอบลุ้น และเตรียมสนับสนุนเวชภัณฑ์ แค่นั้นเอง... ขอบคุณพี่อาร์ตที่ตั้งกระทู้ดี ๆ แบบนี้ด้วยครับ จากคุณ : ThinkMan - [ 16 ธ.ค. 51 21:19:43 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เคยแต่ CPR ในรพ. ค่ะ แต่พอจบ subboard ก็ได้ทำน้อยลง... รับ consult เป็นส่วนใหญ่ จากคุณ : agate - [ 16 ธ.ค. 51 21:42:28 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมเคยปั๊มคนไข้นอกโรงพยาบาล 3 ครั้ง แต่ไปกับรถกู้ชีพอ่ะ มีคนช่วยเยอะ ยังไม่เคยปั๊มโดดเดี่ยวอยู่คนเดียวเหมือนกัน ไม่รู้จะรู้สึกยังไง เห็นเค้าว่าปั๊มอยู่ 1 นาที จะยาวนานเหมือน 1 ชั่วโมง ฝากด้วยว่ายังไงถ้า โทร 1669 ได้ ให้โทรไปก่อนเลย เพราะกว่ารถพยาบาลจะมาอย่างต่ำก็ 8 นาที ซึ่งถ้าไม่มีใครทำ CPR ให้กับเค้า เค้าจะตาย 100% แต่ถ้าช่วยก่อน แล้วรอรถพยาบาล ก็ยังมีโอกาสรอด ถึงแม้จะน้อยก็เถอะ และที่สำคัญ อย่าโทร 191 นะครับ ขอเตือนด้วยความหวังดี โดยเฉพาะ 191 ในกทม.นะครับ กว่าข้อมูลของคุณจะถูกโอนไปที่ศูนย์เอราวัณ กว่าเจ้าหน้าที่เอราวัณจะโทรกลับมาหาคุณเพื่อถามอาการ ขั้นตอนนี้ก็ปาเข้าไป 5 นาทีแล้ว เสียเวลามากๆ จากคุณ : Medic1669 - [ 16 ธ.ค. 51 23:25:21 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เคยเจออุบัติเหตเหมือนกันค่ะ เมื่อสองปีก่อน เป็นคุณลุงโดนรถชนนอนนิ่งค่ะ แต่ยังหายใจ เราเข้าไปแสดงตัวและจะช่วยเหลือ แต่โดนหน่วยกู้ชีพเขี่ยกระเด็นออกมาอะ เค้าบอกว่าไม่ต้องแค่นี้เค้าจัดการเองได้ เราเลยต้องถอยออกมายืนดูห่างๆ เห็นเค้ายกคนไข้แล้วเสียวใส้มาก ไม่แน่ใจว่า มี C-injury หรือเปล่า ไม่มีการใส่ collar หรืออะไรเลย ยกขึ้นเปลทั้งอย่างงั้นอะ ไม่รู้เดี๋ยวนี้เค้ามีการบังคับให้พวกหน่วยกู้ชีพไปเรียนวิธีการกู้ชีพจริงๆแล้วหรือยังนะคะ จากคุณ : meddy - [ 17 ธ.ค. 51 01:08:07 ]

ความคิดเห็นที่ 30 จากคุณ : Art999. - [ 18 ธ.ค. 51 21:02:40 ]