ความคิดเห็นที่ 1 นี่เป็นโรงแรมที่ผมมาพักครับ  โรงแรมนี้สร้างสมัยเมื่อผมเรียน อยู่ รร.ตะพานหิน ใหม่ๆ เลยนะครับ  ตอนนั้นเลิศหรูนำสมัยมาก ในแถบนี้  (ที่จริง ตะพานหินนี้ยังมีโรงแรมอื่นๆ อยู่ เช่น นิวหัวหิน กับ เลิศดิลก)    ผมได้มาพักที่นี้ 2 ครั้งมาแล้ว เมื่อ 3 - 4 ปีก่อน มาเที่ยวนี้ ได้เข้าพักในห้องที่ปรับปรุงแล้ว สวยงามกว่าเดิมมาก เหมือน โรงแรมในกรุงเทพฯ แต่ ราคาประหยัดมากครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 14:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตามไปเที่ยวบ้านเกิดน้า "ตระกูลวิลัยทอง" เข้ามาแก้ใหม่.....นึกว่าชื่อครับ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 51 15:15:38 จากคุณ : บังแอ - [ 18 ธ.ค. 51 14:53:07 ]

ความคิดเห็นที่ 3 นี่เป็น ภาพภายในห้อง หลังจาก ผมได้พักแล้ว 2 คืนนะครับ  (ก่อนเช็คเอาท์ ก็ขอเก็บภาพไว้หน่อย เป็นที่ระลึกครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 14:57:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีครับ คุณบังแอ ครับ ยินดีต้อนรับครับ  นามล๊อคอินของผมเป็นนามสกุลของผมเอง เป็นชื่อเฉพาะ เขียนว่า วิลัยทอง ครับ  คอยติดตามต่อไปนะครับ ยังอยู่ในห้องโรงแรมครับ  แหม...เกือบลืม เอารูปที่นอนให้ดูครับ ดูอบอุ่นน่านอนจริงๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 15:01:50 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตอนเข้าไปใหม่ๆ รู้สึกตะลึงในความทันสมัยของ ห้องน้ำจริงๆ เพราะมาคราวก่อนๆ ได้เข้าพัก ในช่วงที่ยังไม่มีการปรับปรุงห้อง ครับ  สวยสะอาดอย่างนี้ คืนละ 600 บาทเท่านั้นครับ (ไม่ได้ค่าโฆษณานะครับ) เพียงแต่ประทับใจเลยบอกต่อ อ้อ..ตอนเช้ามี เมนู Breakfast ให้ฟรี ด้วยนะครับ ห้องละ 2 ที่ ครับ (เชิญที่ล๊อบบี้)  และมี คู่สาย Lan  ให้บริการ Internet ฟรีด้วยครับ  (ทีแรกผมเห็นคนมานั่ง ยังนึกสงสัยว่าทำไมต้องมานั่งตรง ล๊อบบี้  นึกว่า สถานที่ฝึกอบรม อะไรอีก  แต่บังเอิญผมไม่มี โน๊ตบุ๊ค เลยไม่ได้ใช้บริการนี้ครับ ทันสมัยเหมือนกันนะครับ กับ โรงแรมติดสถานีรถไฟ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 15:09:01 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตรงนี้เป็นหน้าโรงแรม ที่อยู่ติดกับ สถานทีรถไฟตะพานหินเลย เมื่อเลี้ยวซ้ายเข้าไปแล้วจะเป็น ถนนระหว่าง ตึกแถวขนาบสองข้าง (สมัยเมื่อสร้างใหม่ๆ จะคึกคักมาก คล้ายกับ ในจังหวัดใหญ่ๆเลย แต่ช่วงนี้ เงียบมาก) ผมไม่ลืมแอ๊คท่าถ่ายภาพ หน้าโรงแรม มาด้วยครับ เทห์ไหม.. เหมือนอาแป๊ะ เลย (แฟนผมแซว มานะครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 15:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เลี้ยวเข้าไป ก็จะเห็นภาพหน้าโรงแรมอย่างนี้ เป็นภาพที่ผมประทับใจเหมือนกัน เพราะสมัยก่อน ตอนเปิดโรงแรมใหม่ๆ ไม่คิดจะย่างกรายมาแถวนี้ เพราะคิดว่าแพงมาก เมื่อเทียบกับโรงแรมอื่นๆ ใกล้เคียง ในระดับ คืนละ 200 กว่าบาท ครับ อ้อ..ที่จอดรถของโรงแรม จะอยู่ด้านข้าง (ซ้ายมือ) นะครับ  ที่เห็นโล่งๆ หน้าโรงแรมนั้น ก็จอดได้ แต่มักจะเต็มตอนกลางคืน  เป็นที่จอดของผู้ที่มาติดต่อ อาคารพาณิชย์ และเจ้าของอาคารพาณิชย์สองข้างครับ (ผมก็เพิ่งทราบ เพราะมาพัก สองครั้งก่อนก็จอดหน้าโรงแรมนี่แหละ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 15:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 8 หลังจาก เช๊คเอาท์แล้ว ผมก็มารำลึกความหลังเก่า ของตะพานหินกันเลย วันนี้ คิดถึงสถานีรถไฟ นะครับ  นับเป็นสิ่งที่ผูกพันคนที่นี่มาก เพราะสมัยก่อน เรายังไม่มีรถส่วนตัวกัน ต้องเดินทางไปไหนๆ ขึ้นเหนือล่องใต้ ก็ต้องมาที่สถานีรถไฟตะพานหิน แม้ว่าบ้านผมจะอยู่ไกลจาก ตะพานหินไปอีก 34 กม.ก็ตาม แต่ทางรถยนต์ นั้นล้วนลำบาก ไม่สะดวกสบายในการขับถ่าย ระหว่างเดินทางครับ ออกจาก โรงแรม ก็เลี้ยวซ้าย ถึงหน้า สถานีรถไฟกันเลย  ตัวสถานทียังคงสภาพเดิม เหมือนเมื่อ 30 ปีก่อนเปี๊ยบ  จะเปลี่ยนไป ก็ตรงที่มีป้อมยามขนาดใหญ่ มาอยู่ตรงเชิงบันไดขึ้นสถานี และสมัยก่อน คิวรถแท๊กซี่ประจำทาง ก็จอดรอผู้โดยสารตรงนี้ (ที่เรียกว่า แท๊กซี่ประจำทาง ก็เพราะ เป็นรถที่วิ่งเป็นเส้นทางเฉพาะ คล้ายกับ รถสองแถว หรือ รถซูบารุฝั่งธนบุรี นั่นแหละ  เต็มออกๆ  และจะรับส่งผู้โดยสารรายทาง ตลอด ไม่ใช่ แท๊กซี่เหมือนในกรุงเทพฯ ที่ถือว่า เป็นแท๊กซี่เหมา) อ้อ..มองเข้าไป จะสะดุดตา หม้อสีดำใหญ่ๆ อยู่เหนือหลังคาสถานี นั่นคือ ถังเก็บน้ำไว้ใช้สำหรับเติมหัวจักรรถไอน้ำ ที่เลิกใช้มานานแล้ว แต่ยังอนุรักษ์ไว้ ครับ(มีให้เห็นไม่กี่สถานี นะครับในประเทศไทย) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 15:40:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไปยืนตรงบันไดขึ้นหน้าสถานี แล้วหันกลับมามองถนน ที่มุ่งหน้าไปยังบ้านเกิดผม ต.ดงขุย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ครับ  จะเห็นคิวท่าจอดรถเมล์ (ตอนนี้ไม่มีรถมาจอด)  และทางเข้า โรงแรมโรสอินน์ ครับ  ใกล้ๆ เดินกันง่ายๆ อย่างนี้ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 15:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เดินเข้าไปในชานชาลาสถานี รถไฟกำลังเข้าพอดี ภาพแบบนี้ ต้องยอมรับว่า ผมไม่ได้เห็นนานแล้วครับ ตั้งแต่ มีรถยนต์ส่วนตัวเมื่อปี 2536 ครับ  ดูจากสภาพหัวรถจักร ผมคิดว่า คงจะวิ่งมาก่อนที่ผมจะมีรถด้วยซ้ำไป เผลอๆ อาจเกิน 30 ปีแล้วก็ได้  เมื่อไหร่ การรถไฟของไทยเราจะปรับปรุงเสียทีนะ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 15:58:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนนี้รถไฟออกไปแล้วครับ เลยเห็นสภาพเดิมๆของสถานี  มาแล้วไม่ผิดหวังเลยครับ  ยังอยู่ครบทุกองค์ประกอบครับ  สถานีรถไฟตะพานหินประกอบด้วย ตัวสถานี สะพานไม้ข้ามรถไฟ ถังเก็บน้ำเก่า ต้นมะขาม และทางเดินข้ามราง ครับ  หลายคนที่นี่ คงจำกันได้ดีนะครับ คิดถึงกันบ้างหรือเปล่า.....ฮิฮิ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 16:06:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมจะเดินข้ามรางรถไฟไปแล้วนะ... จะมองเห็นสิ่งแปลกปลอมขึ้นมา คือ เสาสะพานแขวน ข้ามแม่น้ำน่าน หน้าวัดเทวประสาท  ซึ่งแต่เดิมไม่มี สะพานนี้ ใช้นั่งเรือข้ามฟากแทน ยกเว้นช่วงน้ำลด จะมีการทำแพชั่วคราว ผูกต่อๆ กันไปจนถึงหน้าวัดครับ ผมรู้สึกว่าเป็นการทำลายทัศนียภาพเดิม ที่จะมองเห็นองค์พระขนาดใหญ่ ของวัด ทันที ที่ลงรถไฟครับ   น่าจะขยับสะพานไปทางซ้าย หรือขวาให้พ้นจากแนวองค์พระนะครับ หรือไม่ก็ใช้สะพานแบบอื่น ที่ไม่มีเสาสูงแบบนี้ ครับ ไม่รู้ว่า ทาง เทศบาล เขาคำนึงถึงเรื่องนี้หรือเปล่าครับ กับคุณค่าทางจิตใจ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 16:12:08 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ระหว่างเดินข้ามราง ก็ลองส่องกล้องมุมต่ำ ขึ้นไปมองสะพานไม้ข้ามรถไฟดูเก๋ไปอีกแบบ ง่ายๆ หาเอาแถวนี้แหละ ไม่ต้องไปเที่ยวไกลๆ เมืองไทย มีอะไรน่าดูอีกเยอะ....ว่าเข้านั่น จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 16:16:36 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เดินข้ามมาพ้นแล้ว หันกลับไปมองสถานีอีกที  ก็คงเป็นภาพในอดีตที่คุ้นตาหลายคนนะครับ เพราะสถานีแห่งนี้ รถไฟสายเหนือทุกขบวนต้องจอดครับ มีระดับความสำคัญสูงมาก แม้จะเป็นอำเภอ แต่ ก็เป็นสถานีใหญ่ระดับชุมทางเหมือนกันนะครับ  อาจเป็นเพราะเป็นจุดต่อรถยนต์ไปได้หลายจังหวัด และ ทางเรือ ด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 16:23:47 ]

ความคิดเห็นที่ 15 หันมาเดินเข้าตลาดตะพานหินต่อ ตรงใต้ต้นมะขาม แต่เดิมจะมีคนพลุกพล่านมาก อาจเป็นเพราะเป็นวันหยุดยาวก็ได้เลยเงียบ  พื้นตรงหน้านี้ แต่เดิมทำด้วยไม้ ต่อเป็นสะพานขนาดใหญ่ เต็มพื้นที่ ใช้เป็นถนนหน้าบ้านคนด้วย   ทราบมาว่า เคยไฟไหม้ครั้งหนึ่ง เขาเลยเปลี่ยนเป็นคอนกรีตเลยครับ ผมยังจำได้ดีว่า เป็นพื้นไม้ที่ต่อกันไม่สนิทนัก เวลารถวิ่งจะมีเสียงดัง ภาพเหล่านี้หายไปในอดีตแล้วครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 16:29:11 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สะพานไม้ในอดีต นั้นได้กลายเป็นคอนกรีต เอกลักษณ์ของที่นี่ คือ เป็นขั้นบันไดใหญ่ๆ เรียงกันนะครับ  ร้านค้าก็ต้องเรียงกันตามขั้นแบบที่เห็นในรูปครับ   นึกถึงแต่ก่อน คนเดินเบียดกันแน่นเลยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 16:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เดินไปเดินมาก็เหลือบเห็นสะพานไม้เก่าดั้งเดิมที่ยังเหลืออยู่  (โอ..ไม่น่าเชื่อเลย)   ตรงหน้าร้านขายยา ชื่อคล้ายชื่อผมเลย(ฮิฮิ..แอบ งงเหมือนกัน)  ตอนไปถ่าย คนแถวนั้นเขาคงงง เหมือนกันว่า มาถ่ายอะไรกันนี่   ก็สะพานไม้ยังเหลือให้เห็นตรงนี้เท่านั้น นับเป็นของเก่า ที่หาชมไม่ได้แล้วครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 16:52:54 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตรงจุดนี้ จะเป็นสี่แยก ซึ่งมีร้านขายหนังสือ อยู่สองฝั่งถนน เป็นร้านที่ผมคุ้นเคยมาตั้งแต่วัยเด็กสมัยอนุบาลโน้น (อยากหาการ์ตูนแบบเก่าๆ เบบี้ หนูจ๋า เล่มใหญ่ๆ บางๆ จะมีหรือไม่ครับ.... แฮ่..คงไม่มีแล้วละ การ์ตูนเดี๋ยวนี้ มีขนาดเล็กลง แบบพ๊อคเก็ตบุ๊ค ต่างจากสมัยก่อน เล่มใหญ่ขนาดกระดาษ A4 เลย เวลาซื้อต้องม้วนห่อกระดาษรัดยางอีกทีครับ)   ร้านด้านขวานี้ ผมเคยรู้จัก เป็นของ นายหิ้ง มีลูกสาว ลูกชายที่สวมแว่นตาหนา  แต่ตอนนี้ไม่เห็นพวกเขาแล้ว คงอาจย้ายไป หรือ จ้างคนมาขายแทนก็ได้ (ไม่ได้เข้าไปสอบถาม) มองเข้าไปไกลๆ ก็จะเห็นเสาสะพานหน้าวัดเทวประสาท ที่บดบังองค์พระสีทอง(มีชื่อเรียกว่า พระพุทธเกตุมงคล) แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 51 20:25:57 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 17:05:35 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เดินเข้าไปอีกนิด ก็จะเห็นร้านขายยาเก่าแก่ชื่อ ฮุยก๊กฟาร์มาซี เป็นร้านเพื่อนผมเองนั่นแหละ ตอนนี้เขาได้ปรับปรุงใหม่ ดูโอ่อ่า ทันสมัยมาก คุณแม่ผมชอบซื้อยาร้านนี้เป็นประจำตั้งแต่ผมเกิด และใกล้กัน เป็นร้านขายผ้าเจ้าเก่า ซึ่งคุณแม่ผมเป็นขาประจำ ตอนนี้ได้แปรสภาพกลายเป็นร้านเซเว่นไปแล้ว..... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 17:14:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เดินเลยสี่แยกหน้าร้านขายยาเพื่อนผมไปแล้ว ก็จะเห็นวัดเทวปราสาท ชัดเจนขึ้น ก็อย่างที่บอกไว้แล้วว่า เสียทัศนียภาพเดิมๆ ขององค์พระไปมากเลยครับ ลำพังเสาสะพานก็เกาะกะตาแล้วยังมีสายสลิงขึงวุ่นวายอีก อยากให้ทางท่านนายอำเภอมาเห็นรีวิวผมจังเลย จะได้หาวิธีแก้ไข พัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่อไป จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 17:19:28 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แวะไปซื้อเครื่องดื่มที่ร้านเซเว่น แล้วก็กลับมาที่สถานี รถไฟ คราวนี้มีรถไฟขนสินค้าจอดขวางทางอยู่ เลยต้องเดินขึ้นสะพานไม้ข้ามรถไฟกันล่ะ  แต่ก่อนขึ้น ตรงเชิงบันไดจะเห็นถังเก็บน้ำเก่าใบใหญ่ ของรถจักรไอน้ำเก่า ตั้งตระหง่านอยู่  (คงเป็นมาแบบนี้ประมาณ 100 ปีแล้วนะครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 17:31:44 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถังน้ำยักษ์ใบนี้ สูงตระหง่านจริงๆ แต่คงรั่วไปแล้ว มิฉะนั้น การรถไฟก็น่าจะนำมาปรับใช้ในงานอื่นๆบ้าง นะครับ เช่น ใช้สำรองน้ำในสุขา หรือ รดต้นไม้ ถังสูงขนาดนี้ น้ำคงแรงไม่น้อยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 17:34:49 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เดินขึ้นมาบนสะพานแล้ว (ท่านจะสัมผัสกับความเก่า ลายครามจริงๆ)  แหงนไปมองบนถังน้ำสีดำ แล้วก็จะพบ แท่งโลหะปลายกลมมน ดูคล้ายกับ ไม้คนเหล้าไวน์  แต่เท่าที่สังเกตุดู น่าจะเป็นตัวบอกระดับน้ำนะครับ (คิดเอาเอง ไม่ได้สอบถามใคร) แบบว่า ถ้าหากระดับน้ำสูงขึ้นมากๆ ก้านนี้อาจกระดกลงมาต่ำ แต่ถ้าหากน้ำลด ก้านก็จะตั้งขึ้นไปข้างบน เพราะอีกปลายหนึ่งของก้านน่าจะเป็นลูกลอยครับ  นับเป็นเทคนิคของคนสมัยก่อน ที่ยังไม่มีระบบไฟฟ้า หรือ อีเลคทรอนิคส์มาใช้ ตรวจสอบระดับน้ำ  ใช้สายตาของคนนี่แหละ (จะเห็นได้จาก อุปกรณ์เตือนรถไฟให้หยุด สมัยก่อนจะเป็นคันโยกไปปิด ตะเกียงเหนือเสา  สมัยนี้ได้เปลี่ยนเป็นหลอดไฟสัญญาณ นานแล้วครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 17:43:48 ]

ความคิดเห็นที่ 24 โรงแรมข้างนอกดูสยองมาก ๆ ค่ะ แต่ข้างในหรูดีค่ะ (ในระดับหนี่ง) จากคุณ : มนชิ - [ 18 ธ.ค. 51 17:44:14 A:90.38.85.47 X: TicketID:169393 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขึ้นมากลางสะพาน หันไปมองทางเหนือ จะเห็นวัดตะพานหินอยู่ไม่ไกล และถัดมาก็เป็นโรงแรม ชื่อ นิวหัวหินเดิม ที่มีมานานแล้วครับ  ราคาค่าที่พักประหยัดดีครับ  (แปลกดีที่ชื่อ นิวหัวหิน สงสัยเจ้าของคงอยากให้ลูกค้าที่มาพัก นึกถึงบรรยากาศชายหาดริมทะเลนะครับ....ผมเองยังรู้สึกอย่างนั้นเลย โดยสังเกตุหินก้อนโตๆ รอบๆ สถานีรถไฟ..ฮิฮิ) แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 51 17:52:01 แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 51 17:51:03 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 17:49:23 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เอาภาพเสียวๆ บนสะพานมาให้ดู นึกกลัวเหมือนกันว่า ยังแข็งแรงทนทานมาได้ถึงบัดนี้  จะยิ่งเสียวกว่านี้ ถ้าหากมีคนอื่นๆ ขึ้นมาเดินกันเยอะ แบบสมัยก่อน จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 17:54:14 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตรงนี้เป็นทางลงไปยังท่าคิวรถครับ ผมยังจำได้ดีว่า ต้องเดินลงไปข้างล่างก่อนแล้วก้าวขึ้นบันไดไปยังสถานี ครับ ทำไมเขาไม่สร้างให้ทางลงตรงพื้นสถานีนะครับ   ตรงจุดนี้จะเห็นท่าคิวรถเมล์ไปบ้านเกิดผม(เพชรบูรณ์)  และยังแอบเห็นหิน แบบชายหาด ที่ผมคิดไปว่าเป็นบรรยากาศริมทะเลหัวหินนะครับ (มีมานานแล้วตั้งแต่ผมเกิด) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 18:02:18 ]

ความคิดเห็นที่ 28 บรรยายมามาก แต่ไม่มีแผนที่ประกอบเลยอาจงง เพราะต่อไปผมจะพาไปชิมกาแฟรสเด็ด ร้านเฉินหลง นิยมเรียกว่า กาแฟเฉินหลง ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 19:29:59 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ออกจากสถานีรถไฟตะพานหิน ก็วิ่งมาทาง จ.เพชรบูรณ์ ประมาณกม.เดียว ก็ถึงทางแยกเลี้ยวเข้า ตลาดตะพานหินด้านขวามือ เข้าไปไม่กี่ร้อยเมตรก็จะเห็นร้านกาแฟอยู่ฝั่งตรงข้ามครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 19:33:19 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตัวร้านอาจมองไม่ถนัด ถ้าหากไม่คอยสังเกตุป้ายชื่อร้าน ที่โดนกันสาดบดบัง แต่ ถ้าดูจากรูปแล้วจะสังเกตุไม่ยาก อาคารสีเขียวสองชั้น มีกันสาดสีขาวแดงเขียวสลับลาย ก็ให้หาที่จอดรถได้เลย รสเด็ดจริงๆ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 19:40:39 ]

ความคิดเห็นที่ 31 นี่เป็นภาพหน้าร้าน ชัดๆ ถ้าหากสังเกตุป้ายชื่อร้านดีๆ ก็จะเห็นได้ไม่ยาก (ลูกชายผมเป็นคนบอกเองว่า เจอแล้วป้ายชื่อร้านเฉินหลง)  ผมได้มีโอกาสแก้ความสงสัยว่าทำไมถึงชื่อ กาแฟเฉินหลง ทีแรกคิดว่า ด้วยความที่รสชาติ และขนาดถุงกาแฟใหญ่ เหมือนนิสัยเฉินหลงที่เล่นหนังแล้วต้อง โอเวอร์ เกินความจริงๆมากๆ แต่ที่จริง คือ ร้านชื่อเฉินหลง ครับ  ใครผ่านไปแถวนั้นลงไปซดก็ได้ครับ (ผมไม่ได้ค่าโฆษณาเหมือนเดิมนะครับ แต่ในใจถือว่า ช่วยสนับสนุนคนท้องที่ให้มีรายได้นะครับ....) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 19:45:59 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ออกจากร้านกาแฟเฉินหลงก็ขับตรงมาทางจ.เพชรบูรณ์ เพื่อผ่านหน้า ร.ร.ตะพานหิน ที่ผมจบมัธยมศึกษาตอนปลายที่นี่ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 19:48:45 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ถึงแล้วหน้าโรงเรียนตะพานหินของข้าพเจ้า  ยังมีต้นสนหน้าโรงเรียนพริ้มลมเหมือนเดิม จำได้ว่า ตอนแรกๆ ที่ผมเห็นโรงเรียนนี้ ก็รู้สึกอยากมาเรียน ตอนนั้นมีทิวสนแบบนี้ แต่ไม่มีรั้วกำแพงโรงเรียน  จนผมได้มาเรียน ก็มีการตัดต้นสนออกหลายต้น สร้างกำแพงโรงเรียนแทน จนดูโล่ง โกร๋นไปเยอะ  แต่ปัจจุบัน ผ่านไป 20 กว่าปี ความร่มรื่นได้กลับมาเหมือนเดิมแล้วครับ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปเยอะ ตั้งแต่ผมจบไม่นาน ก็คือ ถนนหน้าโรงเรียนได้ขยายออกหลายช่องทาง มีเครื่องกั้นรถสีขาว ตลอดแนวยาว   สมัยก่อน เป็นแค่ถนน 2 ช่องทางรถวิ่งสวนกันไปมาเท่านั้นครับ  เลิกเรียนก็ต้องเดินไปยังสถานีรถไฟ เพื่อไปขึ้นรถเมล์กลับบ้าน ระยะทางประมาณ 2 กม. ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 19:53:51 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ครั้งนี้ ผมไม่ได้เข้าไปเยี่ยมชมโรงเรียน เพราะไม่มีเวลา และไม่ทันมองเห็นประตูเข้าหน้าโรงเรียนว่าเปิดอยู่ด้านเดียว  ทีแรกนึกว่าปิด เลยไม่ได้คิดจะเลี้ยวรถเข้าไป เลยถ่ายภาพเอาข้างนอก วันหลังค่อยเข้าไปแวะดู  แต่เมื่อคืนได้ลอง ค้นหาในกูเกิ้ล ก็พบเว็บไซต์ของโรงเรียน http://www.taphanhin.ac.th/ ก็เลยได้ทราบข้อมูลประวัติของโรงเรียน แบบที่ผมเองก็ไม่เคยทราบมาก่อนครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 19:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 35 จากนั้นผมก็ขับรถเลย โรงเรียนมาเล็กน้อย ก็มีทางแยกขวามือตรงไปยัง ท่าเรือตะพานหิน  เชื่อหรือไม่ว่าผมผ่านมาทางนี้เลย ทั้งๆ ที่ถนนเส้นนี้ ก็ได้สร้างเสร็จตอนที่ผมอยู่ มัธยมตอนปลาย ด้วยซ้ำไปครับ  วันนี้เลยขอเข้าไปเที่ยวดูสักวัน ว่า ท่าเรือตะพานหิน จะเป็นอย่างไร  แต่พอดี เหลือบเห็น ชื่อวัดในแผนที่ GPS ของผมว่า มีวัดหาดแตงโม ที่เป็นวัด พระราชทานเพลิงศพแก่นักร้องดัง ยอดรัก สลักใจ ไปไม่นานมานี้เอง เลยต้องลองแวะเข้าไปดูสักเล็กน้อยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 20:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เข้ามาในวัดอย่าง งงๆ เพราะไม่มีซุ้มประตู ตรงถนนที่ผมเข้ามา?   แต่พอขับเข้าไปในวัด เลยออกไปทาง ถนนติดแม่น้ำ จึงพบซุ้มประตูเก่า ที่ไม่ได้สร้างให้คร่อมถนนรถยนต์วิ่งเลย แต่ไปตั้งอยู่ตรงพงหญ้าข้างทาง คาดว่า ไม่มีใครเดินผ่านแล้ว อาจเหมาะสำหรับ การเดินทางด้วยเรือ คือขึ้นจากท่าน้ำก็เข้าวัดเลย ดูทั่วๆ บริเวณก็ไม่เห็นมีอะไรโดดเด่นเกี่ยวกับ อดีตนักร้อง ยอดรัก สลักใจ ผมก็เลยกลับออกมา (แต่สังเกตุเห็นว่า บนศาลาใหญ่ ของวัด จะมีการแสดงอะไรของ คุณยอดรัก สลักใจ อยู่เหมือนกันครับ) เพื่อไปชม ท่าเรือตะพานหิน ที่อยู่ใกล้กับวัดหาดแตงโมแห่งนี้ครับ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 51 20:19:25 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 20:12:03 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ผมได้ขับรถผ่านท่าเรือไปอย่าง ฉงน สนเท่ห์.... ทีแรกนึกว่า จะมีเรือสินค้าจอดให้ดู มีแพเทียบเรือ หรือมีการขนส่งสินค้าอย่างที่เข้าใจ  แต่ที่ไหนได้ มีเพียงโกดังเก่าๆ ร้างๆ พร้อมด้วยรั้วตระแกรงเหล็กปิดล้อม  ไว้  ไม่มีอะไรน่าสนใจ ผมเลยไม่ได้ถ่ายภาพ  คาดว่า การขนส่งทางเรือ ในปัจจุบันอาจไม่เป็นที่นิยมแล้ว ท่าเรือเลยเงียบครับ  ขับรถเลยมานิดนึงก็ต้องตะลึง กับกองขยะ ส่งกลิ่นเหม็น เป็นขยะทางอุตสาหกรรมครับ  ไม่ได้ถ่ายมาให้ดู เพราะต้องรีบขับรถออกไปจากแถวนั้นโดยเร็วครับ เส้นทางขรุขระประมาณ กิโลหนึ่ง แล้วถึงจะเป็นเส้นทางลาดยางมะตอยเล็กๆ ทอดยาวขนานไปกับ แม่น้ำน่านครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 20:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 38 จากภาพข้างล่างนี้เป็นถนนที่ผ่านจาก ท่าเรือตะพานหินมาเล็กน้อย  แทบไม่น่าเชื่อว่าจะดูเหมือนป่าขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ห่างจาก ตัวอำเภอตะพานหินประมาณ 2 กิโลเมตรเองครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 20:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขับรถเลียบแม่น้ำน่านมาตลอด ลอดสะพานข้ามแม่น้ำน่านไปยัง อ.โพธิ์ประทับช้างแล้ว  ตอนนี้กำลังผ่านตลาดริมแม่น้ำ ใกล้ๆ กับเชิงสะพานข้ามไปยัง วัดเทวประสาท  แต่ก่อนสมัยผมยังไม่ได้เข้ามาเรียนที่ ร.ร.ตะพานหิน  แถวนี้ยังไม่มีตลาด มีร้านขายเกี๊ยว ที่ผมชอบ พลาดไม่ได้เมื่อมาที่นี่ และจะทานทีละ 3 ชามเป็นประจำ  ทั้งๆ ที่ร้านอยู่ติดกับร้านขายลูกเป็ด มีกลิ่นมูลเป็ดตลอดเวลา  ตอนหลัง ช่วงที่ผมเริ่มมาเรียน ที่ ร.ร. ร้านนี้ก็ได้เปลี่ยนมาให้ลูกสาวขาย รสชาติก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย  จนผมใกล้จบการศึกษา พื้นที่แถบนี้จึงถูกเปลี่ยนเป็นตลาดไป ร้านนี้ก็เลยหายไปด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 51 20:40:36 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 20:35:25 ]

ความคิดเห็นที่ 40 .......... โอ้.เราก้อเด็กตะพานหินน่ะ....แต่บ้านเราอยู่ฝั่งแม่น้ำด้านโน้น.....น่ะ คิดถึงบ้านจังเรย.... จากคุณ : เหมือนกัน - [ 18 ธ.ค. 51 20:49:45 A:125.25.252.71 X: TicketID:125994 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ตอนนี้ ผมอยากพิสูจน์ ประวัติที่มาของ ชื่อตะพานหิน กันบ้างแล้ว ทราบมาสมัยเมื่อเรียน ที่ ร.ร.ตะพานหินนี้  ที่มาของชื่อนี้ ก็คือ มี หินดานใต้น้ำ ยื่นมาจากฝั่งตลาดตะพานหิน ไปจนเกือบถึงอีกฝั่งหนึ่ง เว้นช่องว่างน้ำลึกให้เรือแล่นได้เล็กน้อยเท่านั้น   เลยเรียกกันแบบภาษาชาวบ้าน ว่า ตะพานหิน (ถ้าเป็นภาษาที่ถูกต้องก็คือ สะพานหิน นั่นเอง)  หินดานนี้สามารถสังเกตุเห็นได้ด้วยตาเปล่า ในฤดูแล้ง ครับ แต่น่าเสียดาย ที่หินดานนี้ได้ถูกระเบิดทิ้งไป เมื่อปีพ.ศ.2530 เพื่อเปิดทางให้ การคมนาคมทางน้ำ ได้สะดวกขึ้น และจุดที่หินดานเคยโผล่นั้น เขาเล่าว่า อยู่แถวๆ ประปาตะพานหิน พอดี  ซึ่งผมลองเปิดแผนที่ GPS ดู ก็พบว่า ฝั่งตรงข้ามนั้นมีศาลเจ้าพ่อหัวดาล  ซึ่งน่าจะใช่จุดที่ มีหินดาลใต้น้ำนะครับ  แหม....ทาง อำเภอน่าจะทำประวัติ รูปถ่ายหินดาลตอนหน้าแล้งที่ยังไม่ถูกระเบิดให้ดูเป็นประวัติศาสตร์บ้างนะครับ ในรูป ผมได้จอดรถตรงประปาตะพานหินพอดี (รู้สึกว่าจะเป็น ประปาร้างด้วยนะครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 20:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ถึงว่าซีครับ มองอย่างไรก็ไม่เห็น แนวโขดหินดาน อะไรเลย  ไม่เป็นไร ย้อนไปถ่ายรูปสะพานข้ามไปยังวัดเทวประสาท ก็ได้ สวยดีไม่น้อยครับ  (คงจำได้ว่า เป็นรูปเปิดกระทู้ ตอนสองนะครับ) แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 51 21:06:46 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 21:03:43 ]

ความคิดเห็นที่ 43 แพนกล้องในรูปบน ไปทางขวามืออีกนิด ก็จะเห็นองค์พระพุทธเกตุมงคล ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 21:28:39 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ชมความงามระยะไกล เสร็จแล้วก็รีบออกเดินทางทันที  ถ้ามีโอกาสหน้าจะเข้าไปชมใกล้ๆ ในวัดเลย (ตอนเด็กๆ ผมเคยมาครั้งหนึ่งเหมือนกัน ได้ขึ้นไปบนองค์พระ ตรงบริเวณแขนด้วย ถ้าหากจำไม่ผิดครับ ตอนนั้นยังเรียนชั้น ประถมศึกษาที่บ้านเกิดอยู่เลย) จากแผนที่ข้างล่าง ผมใช้เส้นทางเดิม เลียบแม่น้ำน่านไปเรื่อยๆ  เส้นทางนี้เล็กมาก เวลารถสวนมา จะหลีกกันลำบากไม่น้อยครับ เพราะฝั่งผมก็ติดกับแม่น้ำพอดี ยิ่งพอใกล้จะถึงหน้าวัดงิ้วราย เส้นทางด้านซ้ายทรุดพังลงไปในน้ำอีก แล้วบังเอิญมีรถสวนมา ก็เลยต้องถอยหลังให้ห่างจากจุดที่ถนนพัง เล่นเอาคณะที่ไปรู้สึกเสียวไปตามๆ กัน จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 21:35:02 ]

ความคิดเห็นที่ 45 มาถึงแล้ว วัดงิ้วราย ซุ้มประตูสวยงามจริงๆ ครับ  ตอนนี้ คณะที่ไปรู้สึกกลัว ถนนพัง ตลิ่งถล่ม เลยแนะนำให้เลี้ยวเข้าไปจอดในวัดแทนครับ แล้วผมก็ลงเดินไปพิสูจน์ดูว่า ตรงหน้าวัดนี้แหละที่มีกระเช้าข้ามแม่น้ำน่านครับ ตาม รีวิว ที่ผมเคยทำไว้ตอนเมื่อเดือน สค. 51 นี้เอง http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6902643/E6902643.html#13 แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 51 21:50:34 แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 51 21:49:24 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 21:41:38 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ผมลงรถมาดูหน้าวัด สังเกตุเห็น สถานีกระเช้าไฟฟ้า ครับ ใช่แน่นอนครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 21:53:32 ]

ความคิดเห็นที่ 47 มองลงไปในแม่น้ำ ที่เวิ้งกว้าง แลเห็น สายเคเบิ้ลโยงไปฝั่งโน้น แทบจะมองไม่เห็น กระเช้า ที่เคยมาขึ้น  โอ้โฮ...กว้างอย่างนี้ ไม่รู้ว่าตอนนั้นขึ้นไปได้อย่างไร กันครับ เสียวจริงๆ... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 22:00:16 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ผมมุ่งขึ้นเหนือ ใช้เส้นทางเลียบแม่น้ำน่านต่อไป เพราะดูจากแผนที่ GPS แล้วบอกว่า จะมีสะพานข้ามแม่น้ำน่าน อยู่ข้างหน้า  (มาคราวที่แล้ว ปี พ.ศ.2547 ตอนนั้นยังไม่มีแผนที่ GPS เลยไม่กล้าลุยครับ ตอนนี้กล้าลุยแล้วไม่กลัวหลงครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 22:14:15 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ถนนที่เลยจากวัดงิ้วราย มาเป็นคอนกรีตอย่างดี แต่ กลับเล็กมาก และมีป่ารกเต็มไปหมด  ไม่น่าเชื่อว่าจะมีป่าอยู่แถวนี้ มีคนอยู่อย่างเบาบาง    ที่จริงแล้วก็มีถนนอีกเส้นหนึ่งที่กว้างกว่าขนานกันไปกับเส้นเลียบแม่น้ำนี้ โดยผมสามารถวิ่งทะลุวัดงิ้วรายออกไปยังถนนเส้นนั้นได้  แต่ก็ไม่น่าสนุกตื่นเต้นเท่าเส้นนี้ครับ แต่ในที่สุด ถนนทั้งสองเส้นก็มีพบกันที่ รร.วัดต้นชุมแสง  ผมเลี้ยวซ้าย ขึ้นสะพานปูนขนาดใหญ่ ข้ามแม่น้ำน่าน มุ่งไปยัง จ.พิจิตรทันที  (ความจริง เราสามารถวิ่งรถฝั่งนี้ไปเรื่อยๆ จนถึง จ.พิจิตร (โดยผ่าน ต.หัวดง) ได้เหมือนกันครับ  แต่ผมต้องการจะผ่าน วัดเขารูปช้างสักหน่อยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 22:19:56 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ตอนนี้ มาวิ่งบนถนนหมายเลข 113 ที่มุ่งไปสู่จ.พิจิตร (ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นถนนหมายเลขเดียวกับที่ผ่านบ้านเดิมของผม)  ถนนกว้าง ทางโล่งดี มองเห็น เจดีย์วัดเขารูปช้างสีขาวอยู่ไกลๆ บนยอดเขาโน่นครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 22:25:04 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ตอนนี้มาใกล้วัดเขารูปช้างแล้วครับ การเข้าไปวัดเขารูปช้างจะต้องเลี้ยวขวา เข้าไปในหมู่บ้านหน้าวัดก่อน ตามทริปครั้งที่แล้วที่ผมไปมา http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6902643/E6902643.html#3 ดังนั้นทริปนี้ ผมจึงไม่ได้แวะเข้าไปเที่ยวอีก (แต่ในใจก็อยากไป ทบทวนความจำ เนื่องจากเป็นการเที่ยวครั้งแรกกับแฟนผมครับ แต่ไม่มีเวลาแวะ เลยขอวิ่งผ่านไปก่อน เอาไว้คราวหน้า มีเวลาก็จะเข้าไปเที่ยวอีกครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 22:32:19 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ในที่สุดก็มาถึงหน้าวัด จอดถ่ายรูป ตัดใจไม่แวะ ครับ วันนี้ยังไปไม่ถึงน้ำตกอยู่ดี  เอาไว้มาต่อตอนหน้านะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 18 ธ.ค. 51 22:37:09 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เป็นกระทู้เปี่ยมสาระ และเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ที่ดีครับ โหวตเก็บกระทู้แล้วครับ ชื่นชมในความพยายามและตั้งใจจริงครับ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 18 ธ.ค. 51 23:28:08 ]

ความคิดเห็นที่ 54 สวัสดีครับ ผมเด็กบางมูลนากภูมิครับ ได้เดินทางไปตะพานหินบ่อยๆ ดูแล้วคิดถึงสมัยเรียนมัธยม บางวันผมกับเพื่อนก็ขี่มอไซค์หรือนั่งรถไฟไปซื้อของที่นั่น มันส์ดี ดูแล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากมาย เป็นเมืองที่คลาสสิคเมืองนึงเลยน่ะผมว่า จากคุณ : Ashitaka - [ 19 ธ.ค. 51 00:29:19 ]

ความคิดเห็นที่ 55 สวัสดีครับ คุณ มนชิ  โอ้โฮ..ดูสยองเลยหรือครับ ขนาดเป็นโรงแรมหรูที่สุดของที่นี่นะครับ เพราะถ้าเป็นโรงแรมอื่น จะเป็นแบบตึกแถวอาคารพาณิชย์ ด้วยซ้ำไป...   ก็แบบนี้แหละครับ โรงแรมประจำอำเภอ... สวัสดีคุณ เหมือนกัน - ครับ   ถ้าคิดถึงก็กลับบ้านมาเที่ยวปีใหม่ เลยนะครับ  รู้สึกว่าเวลาช่วงหยุดยาว ที่นั่นจะเงียบ เพราะผู้คนล้วนไปเที่ยวที่อื่นหมด  แต่ความเงียบ ก็ทำให้เกิดความสุขได้เหมือนกันนะครับ (ตรงกันข้ามกับความแออัด ที่ก่อให้เกิดความทุกข์เช่นกันครับ) สวัสดีคุณ โอ๊ต-ครับ-ผม  ครับ ต้องขอขอบคุณที่ชมครับ นับเป็นกำลังใจให้ผมช่วยทำกระทู้แบบนี้ขึ้นมาครับ  นอกจากจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจ แล้ว ตัวผมเองก็ได้ประโยชน์เช่นกันครับ เพราะเมื่อผ่านไปนานๆ หลายปี ผมก็คงลืมเลือน ข้อมูลเหล่านี้ไปเหมือนกันครับ สวัสดีคุณ Ashitaka ครับ ใช่ครับ ตะพานหิน เป็นอำเภอที่หลายคนรู้จัก และมีประสบการณ์ประทับใจที่นั่น  อาจเป็นเพราะชื่อเป็นคำเขียนผิดไปจาก ปกติ ที่ควรจะเป็น สะพานหิน (เคยได้ยินชื่อ สะพานหิน ที่ภูเก็ต แต่ กลับไม่เกี่ยวกับสะพานข้ามใดๆ กลายเป็น เครื่องขุดเจาะแร่ไปเสียอีก) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ธ.ค. 51 15:52:45 ]

ความคิดเห็นที่ 56 มาแล้วครับ ตอนสี่ (สุดท้าย) พาไปเที่ยว น้ำตกสกุโณทยาน น้ำตกเมืองพิษณุโลก ตามลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7339138/E7339138.html จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 19 ธ.ค. 51 16:16:54 ]

ความคิดเห็นที่ 57 นั่งดูแล้วคิดถึงมากๆค่ะ เห็นด้วยว่าไม่ค่อยเปลี่ยนไปเลย  จากที่ได้อ่านคำบรรยาย  คิดว่าทันช่วงที่พี่เรียนอยู่ค่ะ  เพียงแต่ตอนนั้นน่าจะยังอยู่นรบุตร  (แต่อยู่ในต.พ.นะคะ ไม่แน่เราอาจเคยเดินสวนกันนะเนี่ย  อิอิ) ***ร้านก๋วยเตี๋ยวที่ว่านี่  หมายถึงร้านที่อยู่ใต้สะพาน ริมแม่น้ำรึเปล่าคะ  ถ้าใช่ก็ต้องบอกว่าเป็นร้านโปรดตอนเด็กๆเลยค่ะ *** กาแฟเฉินหลง  อร่อยจริงๆค่ะ คอนเฟิร์ม!!! ดูรีวิวแล้วมีความสุขค่ะ จากคุณ : SaGitt@riuS GiRL - [ 22 ธ.ค. 51 04:36:52 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สวัสดีคุณ SaGitt@riuS GiRL ยินดีที่รู้จักคนตะพานหิน ครับ สงสัยช่วงนี้คุณคงไม่ค่อยได้กลับไปนะครับ ผมเรียน ตพ. ช่วงปี 2521 - 2525 พอดีกับตัวเลขชั้นเรียนด้วย และที่สำคัญเป็น ม.ศ.รุ่นสุดท้ายครับ อ้อ..ร้านเกี๊ยวนะครับ ไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยว อยู่ตรงข้ามกับวัดเทวประสาท ใกล้กับทางลงโป๊ะ พอดี (ตอนนั้นยังไม่มีสะพานข้ามครับ)  ไม่รู้ว่าในปัจจุบันนี้เขาได้ย้ายไปขายที่ไหนแล้วครับ คิดถึงเหมือนกัน (คิดถึงรสชาติ ครับ) ขอบคุณที่รู้สึกเช่นเดียวกับผมครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 24 ธ.ค. 51 20:57:48 ]

ความคิดเห็นที่ 59 แวะเข้ามาดู unseen ค่ะ ^^ จากคุณ : แรบบิทแบน - [ 30 ธ.ค. 51 23:38:00 ]