ความคิดเห็นที่ 1 ...:D...ส่วนใหญ่เท่าที่ทราบ....เมืองที่ไม่ใหญ่มากก็จะมีสถานีเดียว....จะขึ้นหรือลงก็สถานีนั้นๆเลย...:D....แต่ถ้าเมืองที่ใหญ่ๆมีหลายๆสถานี....ต้องดูว่าจุดหมายของคุณวันนั้นๆอยู่ที่ไหน....เช่นที่พักอยู่ใกล้สถานีไหน...วีธีการก็คงต้องดูแผนที่ของเมืองนั้นๆ.....โดยเข้าเวปไซด์ของแต่ละเมืองแต่ละประเทศ...แล้วดูสถานีที่คุณจะลง....แล้วก็เข้าเวปการรถไฟประเทศนั้นๆ....ดูว่าสายรถไฟจากเมือง A ไปเมือง B มีสายตรงหรือไม่...หรือต้องต่อ...ต้องต่อที่ไหนลงตรงไหนในเวปรถไฟก็จะบอกไว้หมดอยู่แล้วครับ..:D...หลักๆคงต้องมีแผนที่ทุกเมืองและดูให้ละเอียดว่าตรงไหนคือตรงไหน....น่าจะแค่นั้นนะครับ..:D....:D จากคุณ : Death - [ 30 ธ.ค. 51 00:23:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 to be sure, check the routes in advance and print them out.  There might be various of routes that you could take, depending on the traveling time, print all of them.  When ur on the train, there will be announcement to inform you what the next station is.   Also, you can look out of the window, there's always the sign at the stations. As you're only traveling to the big cities, it's easier as you will be noticed that the station is more packed and bigger than the others (except Heidelburg and Graz, the looking of the station when you are on the train platform is not that big) and most of them are terminal stations (they look like Hua Lam Pong in Bangkok.) จากคุณ : The Joy Luck Club - [ 30 ธ.ค. 51 03:31:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 One more thing, at the big stations in Germany, there are machines that you could print all the possible routes for free.  (see example below)  I am not sure if there's such machine in Austria as I always check and print out all the possible routes from home.    No idea for France as well. จากคุณ : The Joy Luck Club - [ 30 ธ.ค. 51 03:37:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 I forgot pix, sorry. จากคุณ : The Joy Luck Club - [ 30 ธ.ค. 51 03:43:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ออกแรงนิดหน่อย ควรศึกษาหาความรู้หน่อย พวกมีสถานีเดียว  ได้แก่  เมืองเล็ก ชื่อสถานี มักใช้ชื่อเมืองนั้นๆเลย เช่น ตามคำถามคุณ คือ  กราซ พวกมีมากกว่า 1 สถานี   เมืองใหญ่  ที่มีสถานีชานเมืองด้วย  สถานีหลัก  มักใช้ชื่อเมืองนั้นๆ  + ระบุ  เช่น Amsterdam Centraal   / นิวยอร์คมีสถานี Central  และ ตามชานเมือง  หรือ มิวนิค จะเป็น Munchen Haupbahnhof   และ ตามชานเมืองไปอีกนับสิบ รวมกระทั่ง สนามบิน คล้ายอย่างกรุงเทพ ก็มีทั้งหัวลำโพง  สามเสน บางซื่อ  บางเขน  ดอนเมือง เชียงราก กระทั่ง รังสิต  คุณควรออกแรงนิดหน่อย ควรศึกษาหาความรู้หน่อยว่าสถานีหลัก  คือ  หัวลำโพง  แม้เมืองไม่ใหญ่  อย่าง Interlaken ในสวิส ก็ยังมีทั้ง Ost และ West เลย เมืองขนาดยักษ์อย่าง ปารีส  ลอนดอน   ที่การรถไฟเจริญก้าวหน้ามากๆๆ จนหากมีสถานีหลักอันเดียวรับไม่ไหว  ต้องมีมากถึง 3-4 ศูนย์   เช่น ปารีส  การ์ดูนอร์ด และ อื่นๆ   ลอนดอนมีทั้ง  วอเตอร์ลู  และ อื่นๆ ที่เป็นชุมทางมุ่งหน้าไปทิศใดภูมิภาคใด  คล้ายที่เรามีหมอชิต  เอกมัย  สายใต้ สรุปว่า ต้องศึกษาหน่อย จากคุณ : พิจารณ์รัฐกิจ - [ 30 ธ.ค. 51 14:14:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 และข้อน่าประทับใจของรถไฟที่ยุโรปอย่างนึงคือ ถ้าเค้าบอกว่า ถึงจุดหมายปลายทางเวลา 09.11 น. ก็คือ เก้าโมง สิบเอ็ด นาที  จริงๆ ไม่เหมือนรถไฟเมืองไทยแน่นอน เช็คจุดหมายของคุณดีๆ ถึงสถานีทันเวลา  หายห่วง จากคุณ : Himalaya - [ 30 ธ.ค. 51 15:29:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมแนะนำได้ครับ ใช้วิธี ของผมได้ครับ ต้องศึกษาให้ดีว่า เราจะลงสถานีใหน โดย ก่อนขึ้นรถให้ ดูข้อมูล หรือ ถามเจ้าหน้าที่ ว่า เราจะไปตรงนี้ เมืองนี้ ต้องลงสถานี้ชื่ออะไร เมื่อรู้ชื่อสถานีแล้ว อย่างนึง เหมือนข้างบน คือ ดูเวลา ครับ ถ้าคุณไม่โชคร้ายจริง ๆ คงไม่เจอการล่าช้า ใช้เวลาเป็นตัววัดได้  แต่วิธีที่ผมใช้คือ ก่อนขึ้นรถไฟ ตามข้างชานชาลา  จะมี ตารางบอกว่า จากสถานีที่คุณอยู่ ไปจนสถานี  ที่คุณไป จะต้องผ่านสถานีอะไรบ้าง เวลาเท่าไร  ซึ่งเป็นเส้นทางมาตรฐาน เวลามาตรฐานของรถไฟขบวนนั้นๆ  ให้ใช้ กล้องดิจิตอล ถ่ายไว้ครับ แล้วคอยเปิดดูเช็คว่า ผ่านสถานีใหน  บ้างแล้ว เวลาตรงหรือไม่  ซักสองสถานี ก่อนถึงสถานีเป้าหมาย ก็ลองถามผู้โดยสารข้างๆ หรือ   การ์ดรถดูครับ ว่าข้างหน้าใช้สถานีที่คุณต้องลงหรือไม่   ผมเคยเกือบลงผิดสถานี้ แต่ก็ใช้วิธีนี้รอดมาได้ครับ  ลองดู และ โชคดีนะครับ จากคุณ : บิ๊กบึ๊ม77 - [ 30 ธ.ค. 51 18:41:35 ]