 |
[Italy] เที่ยวไปทำไม [Chapter 00]
เสียวปี๊ดแต่เริ่ม...
ช่วงนี้ทำงานที่ร้านอาหารหลายวัน เลยไม่ค่อยมีเวลาได้เตรียมตัว เลยหยุดวันนึงเพื่อจัดกระเป๋าดูข้อมูล ก็วางแผนไว้ว่าซักผ้าตอนเช้าวันอาทิตย์ เพราะเครื่องออกตอนบ่าย จะได้ไม่มีเสื้อผ้าค้างด้วย และจะได้มี ถุงเท้า กกน. ครบพร้อมสู้ศึก
ที่จั่วหัวว่าเสียวปี๊ดนี่ก็ไม่ใช่อะไร คือคราวนี้ตัดสินใจบินสองต่อ เพราะประหยัด และมีเที่ยวบินที่ต้องการ แต่ช่วงต่อเที่ยวบินนี่ มีเพียงแค่ครึ่งชม.เท่านั้น ถ้าเครื่องดีเลย์ check-in ไม่ทันละก็ งานใหญ่เลย กลายเป็นเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียได้ นอกจากจะลุ้นต้อง check-in ให้ทันเวลาแล้ว ก็ยันต้องลุ้นเรื่องสภาพอากาศอีก เพราะเหมือนต้นเดือน คุ้นๆว่าสนามบินที่จะไป (Frankfurt Hahn) นี่ เคยมีหมอกลงจนเครื่องขึ้นไม่ได้กันเลยทีเดียว จริงๆ ถ้าเป็น EU citizen นี่ก็จะสบายไปสองอย่างคือ check-in online ได้ กับประหยัดค่า check-in ไปได้อีก 5 euro แหม่อยากจะลองเนียนจัง ^_^'
พูดถึงหนามบิน low cost ที่ชื่อ Frankfurt Hahn แล้วก็ตลกดี เพราะจริงๆ อยู่ไกล Frankfurt มากมาย จริงๆน่าจะชื่อ Luxembourg Hahn มากกว่า เพราะอยู่ ใกล้ Luxembourg มากกว่า Frankfurt ซะอีก :-D
วันนี้นี้นอกจากต้องลุ้นเรื่องต่อเครื่องแล้ว ก็ยังมีให้ล่กตั้งแต่เช้าเลย เรื่องของเรื่องคือ ประตูห้องนอนของผมมันไม่ค่อยดี เสียบกุญแจไปแล้วต้องขยับๆ ให้ลงล๊อค คราวก่อนช่างก็มาฉีดน้ำมันไปที แต่นี่มันก็เริ่มฝืดอีกแล้ว
7 โมงเศษเอาผ้าไปซักกลับมาถึงห้อง เสียบกุญแจขยับๆ ลงล๊อค บิดปุ๊บ... อ้าว ลื่นไหลเลย บิดแล้ว มันก็ยังล๊อคอยู่เหมือนเดิม... ชิหายแล้วซิ ต้องไปตามคนมาเปิดประตูแล้ว วันนี้วันอาทิตย์ด้วย สำนักงานก็ไม่น่าจะเปิด เบอร์โทรฉุกเฉินก็ไม่รู้ด้วย
งานนี้กลุ้มอยู่พักนึง แต่ไงก็กินข้าวช้าวก่อนแล้วกัน ระหว่างนั้นก็คิดว่าจะเอายังไงกะชีวิตดี แทนที่จะซ่อมให้ดีๆ ดันมาแค่ฉีดน้ำมันแล้วไป แล้วเอาไงหละทีนี้ นั่งไปนั่งมาก็ปิ๊งออกมาว่า เอ... ลองบิดกุญแจไปอีกทางซิ แล้วก็จริงๆ แค่บิดผิดทางแล้วล่กไปเอง - -" งานนี้ทำให้ผวาไปเลย ว่าจะไม่ล๊อคห้องจนกว่าจะเดินทางเลยดีกว่า คราวนี้สมองสั่งการต่อม Worst case scenario ต่างๆนาๆ ทันที อย่างห้องซักผ้าเคยมีคนดึงสายไฟขาด ก็จะเปิดห้องซักผ้าไม่ได้ งั้นก็ไม่ต้องล๊อคห้องซักผ้าดีกว่า เผื่อไว้ก่อน - -"
พอทุกอย่างเรียบร้อย ก็เดินไปซื้อเสบียงติดตัวไว้นิดหน่อย เพราะคืนนี้กว่าจะไปถึง Milan ก็คง 5 ทุ่มได้ มือเที่ยงก็ยัดให้อิ่มๆ พอได้ฤกษ์ก็ออกตัวทันที เป้ใบ กระเป๋าสะพายข้างเล็กๆ อีกใบ หิ้วกางเกงสกีไปอีกตัว อย่างแรกที่ต้องทำก็คือ แลกเงินเพราะ วันก่อนลองไปกดเงิน euro จากตู้แล้วไม่ได้ แลกเงินแล้วก็เครียด ปีก่อนแลกที่ 9.50 ได้ มาปีนี้ล่อไปถึง 11 กว่า เครียดๆๆๆ จะไปไหนทีไรต้องโดนเรทแพงกว่าปกติทุกทีซิ อย่างว่าข่าวที่นี่ก็ลงว่าเศรษฐกิจแย่ที่สุดในรอบ 30 ปี ค่าเงินเทียบกับ euro แล้วล่วงไปถึง 12 % แต่เอาหน้า ไว้กด ATM ของไทยเอาเห็นเรทยังดีอยู่ (ประมาณ 45 กว่าได้)
แลกเสร็จก็นั่งรถไปสนามบิน จริงๆ ถ้าไม่ใช่วันอาทิตย์จะนั่งรถบัสธรรมดาไปซะหน่อย ต้องเดินหน่อย แต่ก็ประหยัดได้อีกนิด (จาก 6 euro เหลือ 1.5 euro เอง) ถึงแล้วก็เหมือนเดิม สนามบิน low cost ที่ผมว่าน่าจะเล็กที่สุดในโลกแล้ว วันนี้ก่อนเข้า security ดันลืมเทน้ำทิ้งอีก คราวนี้ไม่ให้กินตรงนั้นด้วย ต้องออกเอาไปเทข้างนอก แล้วกลับไปต่อแถวอีกรอบ - -"
ก็นั่งรอตามเคย แถมถึงเวลาแล้วยังเฉื่อยๆอยู่อีก ไม่ได้ boarding ซักที แต่วันนี้มีแอบภูมิใจนิดนึง เพราะคนคุม gate ดูหน้าตา กับสำเนียงแล้ว มั่นใจ 90% ว่าเป็นคนไทยชัวร์ นานๆจะเห็นคนไทยทำงานมี skill ขึ้นมาหน่อย เห็นปกติมีแต่งานทำความสะอาด (ผมไม่ได้ดูถูกงานอื่นๆ นา จริงๆ ถ้ามีโอกาสทำ ก็อยากทำสักพักก่อนกลับเหมือนกัน ก็ได้เดือนนึงคิดเป็นเงินไทยแล้ว ก็ร่วมแสนนิ)
boarding คราวนี้ขอขึ้นเป็นคนท้ายๆ ตามเคย อยากแย่งกันขึ้นก็แย่งไป ขอนั่งชิวๆไปก่อน ขึ้นทีหลังจะได้ออกตัวไป check-in ได้เร็วขึ้น
นั่งเครื่องเที่ยวนี้ก็แปลกหน่อย คู่ข้างๆ นั่งฟัง mp3 ร้องเพลงประสานเสียงกันอย่างไม่สนใจใคร คุณป้าข้างๆก็หันมามองแล้วมองอีก พอเครื่องลงจอดปุ๊บก็รีบออกตัวทันที เพราะเหลือเวลา check-in อีกแค่ 10 นาที check-in เสร็จก็ค่อยยังชั่วหน่อย หมดลุ้นซะที มื้อเย็นวันนี้ก็ฝาดกล้วยไปสองลูก พอถูไถ
ก็บินอีกร่วมชั่วโมงก็ถึง Milan แล้ว ตดแล้วยังไม่หายเหม็นเลย และเนื่องจากขึ้นเครื่องทีหลัง ก็ออกตัวก่อนอีกตามเคย แต่ด้วยความเปรียวไปหน่อย ดันบอกคนขายตั๋วรถบัสว่า 2 tickets จริงๆ ต้องบอกว่า return ยังดีที่เอะใจตังค์ทอนเสียก่อน
ก็นั่งรถอีกร่วมชม. ก็ถึง Central station ลงปุ๊บ ต่อมมั่นทำงานทันที เดินโดนไม่ดู map เลย (จริงๆไมรู้ว่ามีพวกหาเหยื่อแถวนั้นหรือเปล่า เหอๆ ) เดินไป เดินมา เอ๊ะ ทำไมไม่ถึงซะทีหว่า สุดท้ายต้องควักแผนที่ออกมาดู ดูแล้วยังงงๆ อีก เลยต้องถามคนแถวนั้นซึ่งพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อย ได้แต่ก็คุยกันรู้เรื่อง เหอๆ ก่อนแยกยัง Ciao ให้ เลยให้แต้มคน Italy ไปก่อนเลย +1 สุดท้ายถึงได้รู้ว่าเดินผิดไปตี๊ดนึง แต่ในที่สุดก็ถึงที่พักจนได้ ได้เจอเพื่อนที่ไม่ได้เห็นหน้าค่าตากันมาประมาณ 3 ปีได้ กว่าจะจัดการตัวเองแล้วได้นอน ก็เที่ยงคืนเศษและ พรุ่งนี้ก็เป็นการเริ่มผจญภัย อย่างแท้จริงเสียที...
จากคุณ :
ตาแป๊ะหวานเย็น
- [
7 ม.ค. 52 22:50:45
]
|
|
|
|
|