Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    @@@ความแตกต่างในมุมมอง ของคนต่างเชื้อชาติกับคนไทย "คนไทยเป็นอย่างนี้ทุกคนหรือ ??"@@@

    สี่ปีที่มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ "ประเทศญี่ปุ่น"ฉันมีเพื่อนฝูง ญาติมิตร เปลี่ยนหน้าวนเวียนกันมาเยี่ยมเยียนไม่ได้ขาด  
    เพื่อนฝูงและญาติมิตรของฉันไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทำให้ฉันรู้สึกว่า "เขามารบกวน" ฉันรู้สึกยินดี ตื่นเต้น
    ที่จะได้พาพวกเขาเที่ยว พาเขาไปหาของอร่อย ๆ ตามที่เขาอยากลองลิ้มรส จัดหาที่พักในราคาที่พวกเขาบอก
    มาว่าต้องการ ในงบประมาณที่เขามีอยู่ ฉันโชคดี ที่มีเพื่อน ๆ น่ารัก ทั้งจากบลูแพลเนต และจากชีวิตปกติในวัยเรียน
    และวัยทำงาน เรื่องที่จะเล่านี้เพื่อแชร์ประสบการณ์ และ แบ่งปันความรู้สึก ของคนไทยไกลบ้านคนหนึ่ง
    กับการที่ต้องถูกคนญี่ปุ่นถามว่า "คนไทยเป็นอย่างนี้ทุกคนหรือ ?? "

    คนญี่ปุ่นคนนี้ เล่าให้ฉันฟังถึงเรื่องราวก่อนจะจบด้วยคำถามนั้น ขอเล่าเพื่อแบ่งปันตามนี้ค่ะ

    เมื่อปีใหม่ที่ผ่านมา มีเพื่อนของลูกภรรยาเขาห้าคน เดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นโดยไม่จองที่พักเองแต่ขอมาพักที่บ้านเขาซึ่งบ้านเขานั้น เป็นครอบครัวญี่ปุ่นในเมืองใหญ่ ที่ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง เช่าบ้านแบบ สองห้องนอนคือ ห้องนอนของพ่อแม่
    และของเขากับภรรยา ดังนั้น เมื่อมีแขกห้าคนจากเมืองไทยมา สิ่งที่ภรรยาเขาบอกเขาว่า ต้องเตรียมซื้อที่นอนผ้าห่ม รวมทั้งแผ่นรองไฟฟ้าสำหรับหน้าหนาว ห้าชุด ซึ่งเป็นเงินไม่น้อยเลย เขาบอกว่าเขาจ่ายไปทั้งหมด 70,000 yen

    เขาบอกภรรยาเขาว่า หากเป็นญาติสนิทไม่เป็นไรที่ต้องจ่ายเพื่อนการต้อนรับ แต่ญาติคนญี่ปุ่นเขาก็ไม่มารบกวนกันแบบนี้หากต้องมาเยี่ยมญาติหรือธุระใด ๆ ที่มากันมากเกินกำลังจะต้อนรับเช่นนี้เขาจะเช่าโรงแรมกันนะ แต่นี่เป็นแค่เพื่อนของลูก
    แล้วที่นอนที่ซื้อมามากมาย หากเขากลับกันไปแล้ว ที่เก็บก็ไม่มีเพราะบ้านแคบจะเอาไปไว้ไหน (ยืนยันว่าคนญี่ปุ่นในเมืองจะทิ้งของ เสื้อผ้า ที่ไม่ใช้ มากกว่าเก็บไว้โดยไม่ใช้เพราะไม่มีที่เก็บนั่นเอง)

    แต่ภรรยาเขายืนยันว่า คนไทยนั้น ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ เพราะไม่อยากทะเลาะกับภรรยา เขาจึงจัดการตามที่ถรรยาสั่ง 70,000 yen จ่ายไปทั้งที่รู้สึกเสียดายและเป็นเงินไม่น้อยเลยสำหรับครอบครัวชาวญี่ปุ่น เงินจำนวนนี้ สามารถใช้สำหรับอาหารในครอบครัวได้เกือบเดือนทีเดียว(นี่คือคำพูดของสามีผู้ทำหน้าที่หาเงินเข้าบ้าน)

    เมื่อวันที่นักท่องเที่ยวทั้งห้าเดินทางมาถึง และเริ่มท่องเที่ยว ห้องกลางของบ้านที่เคยใช้เป็นที่นั่งดูทีวีและรับประทานอาหารของครอบครัว เปลี่ยนสภาพเป็นที่นอนของคนกลุ่มนั่น พ่อแม่ที่แก่มากแล้วของเขา ต้องอยู่แต่ในห้องนอนแคบ ๆ รวมทั้ง เมื่ออกไปเที่ยว นักท่องเที่ยวกลุ่มนั่นก็ไม่เก็บที่นอน และของที่รื้อจากกระเป๋ากระจายไว้เต็มไปหมด เท่านั้นไม่พอ ทุกเย็นภรรยาของเขาต้องเตรียมอาหารไว้รอด้วยเงินของเขา ด้วยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ไม่ยอมกินอาหารนอกบ้านเลย กลับมากินที่บ้านทุกวัน และภรรยาเขาก็เตรียมอาหารมากมายไว้รอทุกวัน

    เขาบอกฉันว่า เขาไม่เข้าใจเลยว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ประหยัดเงินตัวเอง แต่มารบกวนเงินของเขา ทีแรกเขาเข้าใจว่าจะมรบกวนแค่เรื่องที่พัก และน่าจะทำความสะอาด ที่นอนเก็บจัดให้เรียบร้อยแต่นี่ไม่เลย  เขาบอกว่า เขาโกรธภรรยาเขามากที่ไม่รู้จักปฏิเสธเพื่อนของลูกกลุ่มนั้น ไม่พูดกับภรรยามาหลายวันแล้ว  หากเป็นญาติสนิท หรือลูกของภรรยาเอง เขาจะไม่ว่าเลย แต่นี่ เป็นแค่เพื่อนของลูกเขาถามฉันว่า...

    "คนไทยเป็นอบ่างนี้ทุกคนหรือ"

    ก่อนตอบคำถาม ฉันต้องตั้งสติ กลั่นกรองคำพูด และความคิดต่วเอง อย่างมาก ด้วยเหตถที่ว่า ... ไม่เห็นด้วยนักกับการกระทำของคนกลุ่มนี้ แต่ ... คนไทยเรานั่น

    "ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ" นี่นา

    คำตอบขอบฉัน นั่นยาวมาก และชายญี่ปุ่นคนนั้นก็ตั้งใจฟังอย่างดี มีดังนี้ ....

    "คนไทยในต่างจังหวัด มีบ้านหลังใหญ่ เพราะ พิ้นฐานคือรอบครัวใหญ่
    มีห้องกว้าง ๆ ในบ้าน ที่ไม่ได้กั้นห้องแบบญี่ปุ่น รวมทั้งคนไทยจะจัดเตรียม
    ชุดที่นอนสะอาด ๆ เก็บใส่ตู้ไว้สำหรับรับรองต้อนรับญาติมิตรเพื่อนฝูง ไม่ว่าสนิทหรือไม่ หากมาถึงบ้าน ต้องจัดข้าวปลาอาหาร น้ำท่าต้อนรับ ประเพณีที่สืบต่อกันมาของเราเป็นเช่นนั่น และภรรยาของคุณเกิดและเติบโตมากับประเพณีแบบนั้นรวมทั้ง คนกลุ่มนั้น เขาก็ไม่เคยมาประเทศญี่ปุ่นเลย  ทำให้เขาไม่รู้ว่า บ้านที่ญี่ปุ่นนั่น คิดค่าเช่าเป็นผืนเสื่อ รวมทั้งราคาค่าเช่าแพงมากจนไม่มีใครเช่าบ้านกว้าง ๆ หลังโต ๆ เอาไว้รับรองเพื่อนฝูงเหมือนคนไทย"

    ฉันกลืนคำถาม และทำเป็นลืมคำตอบที่ว่า "ทำไมเขาประหยัดเงินตัวเอง แต่รบกวนเงินคนอื่น" ให้หายไปในใจของตัวเอง

    สุดท้าย ชายญี่ปุ่นคนนั้น ขอบใจฉันที่ทำให้เขาเข้าใจภรรยา และกลับไปด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้นต่อคนไทย

    คุณทั้งหลาย ที่อ่านเรื่องนี้แล้ว คิดอย่างไรคะ ??  ต่อวามแตกต่าง ของวัฒนธรรม ที่อาจทำให้คนที่เกิดในที่ต่างกัน เดิบโตหล่อเลี้ยงมาไม่เหมือนกัน ทำให้มุมมองชีวิตต่างกันอย่างนี้

    ขอเล่าเสริมสักนิด ถึงเรื่องเพื่อนสูงวัยชาวญี่ปุ่นของฉันคนนึง เมื่อฉันมาถึงญี่ปุ่นใหม่ ๆ เพื่อนคนนี้ อายุหกสิบห้าปีแล้ว สามีตายใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในอพาร์ทเมนท์เล็ก ๆ มีรายได้จากเงินสวัสดิการผู้สูงอายุ และมาทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดสัปดาห์ละสามวันที่  ที่ทำงานเดียวกับฉัน เมื่อลูกสาวและลูกเขยรวมทั้งหลานของเธอจากต่างเมืองมาเยี่ยมยาย  ครอบครัวลูกสาวเธอไม่พักที่ห้องเธอ แต่ไปเช่าโรงแรมใกล้ ๆ แม่ ในตอนนั้น ฉันไม่เข้าใจคำว่า "ลูกฉันเขาไม่อยากรบกวนฉัน แต่เขาคิดถึง"ว่า ... ทำไม แม่กับลูก จึงต้องใช้ำว่า "รบกวน"  

    แต่วันนี้ฉันเข้าใจแล้ว



    แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 11:55:22

    แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 11:48:41

     
     

    จากคุณ : หมูน้อยสีชมพู - [ 12 ม.ค. 52 11:44:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com