ความคิดเห็นที่ 1 ไปถึงวัดร่องขุน (22) ประมาณ  7 โมงเศษ   คนเพียบ  เดินดูและถ่ายรูปรอบๆ จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 17:41:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 .. จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 17:42:22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ..... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 17:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เข้าโบสถ์ตอน 8 โมงเช้า    เนื่องจากเปิดเวลา 8 โมง  คนเข้าคิวกันก่อนขึ้น จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 17:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 17:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 6 และออกจากวัดเนื่องจากคนเริ่มมาเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ  เดินทางไปจังหวัดแพร่ต่อ จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 17:48:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไปจังหวัดแพร่  เราเดินทางไปจังหวัดแพร่โดยผ่านพะเยา  งาว  สอง  ร้องกวาง   ตัวเมืองแพร่   แล้วไปที่อุทยานแห่งชาติดอยผากลอง   ไปถึงประมาณ 11 โมงกว่า  เข้าไปในส่วนของหินปะการัง   ปรากฎว่ามีรถเราคันเดียว จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 17:51:26 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ลองสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าเดินไปดูหินปะการังไกลมั้ย   พี่เค้าบอกว่าเกือบกิโล    เลยขอพี่เค้าช่วยนำทาง  พี่เค้าบอกได้ครับ ระหว่างทางช่วงแรกจะเป็นทางราบๆ/ขึ้นเนินเล็กน้อย    ช่วงถัดไปเป็นทางบันได/ทางเดินขึ้นเขา   ชันพอประมาณ  พอขึ้นบันไดไปก้อเจอช่องแอร์    มีลมเย็นพัดผ่านออกมา     พี่เค้าบอกว่าถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนจะรู้สึกเย็นชัดเจนมากกว่านี้ จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 17:53:11 ]

ความคิดเห็นที่ 9 .. จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 17:55:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้ำผากลอง   แต่ไม่ได้เข้าไปพี่เค้าบอกทางแคบ  เข้ายาก จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 17:57:13 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 17:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เดินขึ้นไปอีกสุดท้ายก้อมาพบหินปะการัง  มีเยอะมาก    เดินดูรอบ  มีจุดขึ้นไปให้ชมวิวหินปะการังด้วย   แต่อากาศร้อนหน่อย จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 .. จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:01:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 .... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ............ จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:03:59 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เสร็จแล้วพี่เค้าใจดีเดินพาเข้าไปต่อไปยังต้นตะแบกยักษ์  อีก4  ต้น จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 17 .. จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:07:39 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ดูเพิงพักให้ความร่มเย็น ( เวลามีลูกเสือมาเข้าค่ายเค้าจะพามาพักที่นี่ ) จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:11:41 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แวะดูจอมปลวกต่อ    แล้วค่อยเดินกลับ    ระหว่างทางพี่เค้าก้ออธิบายให้ความรู้ดีมาก     และยังแนะนำว่าควรไปอุทยานอีกฟากนึงซึ่งจะมีถ้ำเอราวัณสวย    แก่งหลวง และกิจกรรม  adventure จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:12:51 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ปาดดดดดดดด ตามชมต่อคร้าบบ จากคุณ : [Cha] - [ 15 ม.ค. 52 18:12:56 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ออกมาจากการเดินธรรมชาติ  เราไปแวะผ่านชมที่สวนหินมหาราชซึ่งอยู่ทางมุ่งหน้าไปไปทางอำเภอลอง   ห่างจากทางเข้าหินปะการัง ไปอีกประมาณ 1-2  กิโลเมตร   ก้อเห็นว่าเป็นหินก้อนใหญ่กับต้นไม้ที่ร่มรื่น จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:14:46 ]

ความคิดเห็นที่ 23 หลังจากนั้นเรากลับเข้ามาในตัวเมือง   แวะที่บ้านประทับใจ  (บ้านเสาร้อยต้น)  ตั้งอยู่บริเวณ ทางหลวงสาย  แพร่ – ลอง  ทางกลับของเราพอดี  สร้างสำเร็จเมื่อปี พ.ศ. 2519 เป็นบ้านไม้สักทั้งหลัง โดยใช้ไม้สักท่อนขนาดใหญ่ ตั้งเป็นเสาบ้านรวม 130 ต้น แต่ละเสามีอายุประมาณ 300 ปี แกะสลักอย่างประณีตวิจิตรบรรจง ตัวบ้านเป็นแบบทรงไทยประยุกต์ มีเนื้อที่ถึง 1 ไร่เศษ จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 24 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:17:33 ]

ความคิดเห็นที่ 25 .... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 26 .. จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:20:32 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ..... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:21:45 ]

ความคิดเห็นที่ 28 จากบ้านประทับใจ  เราไปต่อกันที่บ้านวงศ์บุรี    ก่อนเยี่ยมชม  เราแวะกินข้าวซอยกันในบริเวณบ้านวงศ์บุรี  กินไปก้อชื่นชมวิวบ้าน  และต้นไม้โดยรอบไปด้วย    อากาศไม่ร้อนแม้ว่าจาเกือบบ่าย 3 โมงแล้ว  บ้านวงศ์บุรี สร้างเมื่อ พ.ศ. 2450 โดยเจ้าพรหม(พลวงพงษ์พิบูลย์) และ เจ้าสุนันตา วงศ์บุรี ธิดาเจ้าบุรี (พระยาบุรีรัตน์) ช่างที่สร้างบ้านหลังนี้มาจากเมืองกวางตุ้งประเทศจีน และใช้ช่างไม้พื้นถิ่น เป็นบ้านไม้สักสองชั้นแบบยุโรปประยุกต์ ฐานเป็นอิฐและซีเมนต์สูงจากพื้น 1 เมตร หลังคาสองชั้นมีช่องระบายลมระหว่างชั้นทั้งสอง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศเนื่องจากบ้านหันหน้าเข้าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จึงมีลมพัดเย็นในฤดูร้อน บ้านทรงปั้นหยา 2 ชั้น มีเพดานสูง หลังคาสูง จุดเด่นของอาคารนี้คือลวดลายไม้แกะสลักที่หน้าจั่ว ชายคา ระเบียง ช่องลม ชายน้ำ หน้าต่าง และประตู ที่ประตูด้านหน้าเป็นปูนปั้นรูปแพะซึ่งเป็นตัวแทนของหลวงพงษ์พิบูลย์และแม่เจ้าสุนันทาซึ่งเกิดในปีแพะ ต่อมาได้มีการซ่อมแซม แต่ลวดลายแกะสลักยังคงเป็นของเดิม จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 29 .... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:25:30 ]

ความคิดเห็นที่ 30 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เข้ามาชมตอนจบ จากคุณ : The summit - [ 15 ม.ค. 52 18:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:28:43 ]

ความคิดเห็นที่ 33 .... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:30:14 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ภายในบ้านตกแต่งด้วยสิ่งของเครื่องใช้เก่าแก่ของตระกูลที่ถ่ายทอดกันมาหลายชั่วอายุ ได้แก่ เครื่องเรือน เครื่องเงิน เครื่องปั้นดินเผา เอกสารที่สำคัญ เช่น เอกสารการซื้อขายทาส บ้านวงศ์บุรีได้รับรางวัลอนุรักษ์ดีเด่น ปี 2536 ของสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง และตีพิมพ์ในหนังสือต่าง ๆ จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:31:38 ]

ความคิดเห็นที่ 35 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:33:03 ]

ความคิดเห็นที่ 36 วันที่เราไปโชคดีมีทายาทเจ้าของบ้าน  คอยอธิบายให้ฟังอย่างละเอียด  เค้าเล่าให้ฟังว่าสีที่ใช้อยู่ในบ้านเป็นสีชมพูเข้มขนาดนี้  เหมือนสมัยก่อน  แม้ว่าจะมีการทาสีก้อใช้สีเดิมความเข้ม/สว่างใกล้เคียงกับของเดิม จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:37:17 ]

ความคิดเห็นที่ 37 หลังจากนั้นก้อไปวัดพระนอน  (23) ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านวงศ์บุรีประมาณ 50 เมตร  มีพระอุโบสถแบบเชียงแสนคือไม่มีหน้าต่างแต่ทำเป็นช่องรับแสงแทน ส่วนหน้าบันแกะสลักอย่างงดงามเป็นลายก้านขด มีภาพรามเกียรติ์ประกอบ ส่วนวิหารตกแต่งชายคาด้วยไม้ฉลุโดยรอบ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางสีหไสยาสน์ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นยาว 9 เมตร ลงรักปิดทองตลอดองค์ จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:38:55 ]

ความคิดเห็นที่ 38 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:40:14 ]

ความคิดเห็นที่ 39 .. จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แล้วต่อด้วยวัดหลวง (24)   วัดหลวง   เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองแพร่ วัดนี้ได้รับการบูรณะซ่อมแซมหลายยุคหลายสมัย  สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดได้แก่    วิหารหลวงพลนคร วิหารเก่าแก่สร้างพร้อมกับการสร้างเมืองแพร่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ คือพระเจ้าแสนหลวง สร้างโดยเจ้าเมืององค์หนึ่งเมื่อ พ.ศ. 2057        พระธาตุหลวงไชยช้างค้ำ พระเจดีย์ศิลปะเชียงแสน ประดิษฐานพระธาตุที่นำมาจากเมืองหงสาวดี         พิพิธภัณฑ์เมืองแพร่ เป็นสถานที่รวบรวมพระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์ที่มีอายุเกือบ 500 ปี และโบราณวัตถุต่าง ๆ ของเมืองแพร่ นอกจากนี้ยังมี คุ้มพระลอ ซึ่งเป็นการจัดแสดงตัวอย่างบ้านแบบล้านนาโบราณ         หอวัฒนธรรม จังหวัดแพร่ สร้างด้วยไม้สักทอง  อายุ 200 ปี  เป็นที่เก็บรวบรวมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านมากมาย จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:46:59 ]

ความคิดเห็นที่ 41 .. จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:48:17 ]

ความคิดเห็นที่ 42 หลังจากนั้นก้อไปแวะสักการะศาลหลักเมือง จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:50:00 ]

ความคิดเห็นที่ 43 แล้วไปต่อที่วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร  (25) ก่อนไปคุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่เนื่องจากมีเวทีงานกินขนมเส้นเมืองแพร่ขวางอยู่    วัดพระบาทมิ่งเมือง เป็นการรวมวัดโบราณ 2 แห่งเข้าด้วยกัน คือ วัดพระบาท และวัดมิ่งเมือง ปัจจุบันวัดนี้เป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธโกศัยศิริชัยมหาศากยมุนีพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัด และมี พระเจดีย์มิ่งเมืองซึ่งเป็นเจดีย์เก่าแก่มีรอยพระพุทธบาทจำลองอยู่ภายใน และเป็นที่ตั้งของมูลนิธิยาขอบอนุสรณ์เพื่อระลึกถึง ยาขอบหรือนายโชติ แพร่พันธุ์ นักเขียนผู้ล่วงลับไปแล้วซึ่งเป็นทายาทเจ้าเมืองแพร่คนสุดท้าย จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:52:56 ]

ความคิดเห็นที่ 44 .... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:53:56 ]

ความคิดเห็นที่ 45 จากนั้นเราแวะเยี่ยมชมคุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่   สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2435 โดยเจ้าหลวงพิริยะชัยเทพวงศ์  คุ้มแห่งนี้เป็นอาคารโอ่โถง มีประตู หน้าต่างทั้งหมด 72  บาน งดงามด้วยลวดลายฉลุไม้อยู่ด้านบนปั้นลม และชายคาน้ำ รอบตัวอาคารประดับด้วยลวดลายไม้แกะฉลุ ตัวอาคารสร้างด้วยอิฐถือปูนทั้ง 2  ชั้น ไม่มีการฝังเสาเข็มแต่ใช้ไม้ซุงท่อนเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้ประดู่รองรับฐานเสาทั้งหลัง ห้องกลางเป็นห้องทึบแสงสว่างส่องเข้าไปไม่ได้ ใช้เป็นที่คุมขังทาส บริวารที่ทำผิดร้ายแรง ส่วนห้องทางปีกซ้าย และขวามีช่องพอให้แสงส่องเข้าไปได้บ้าง ใช้เป็นที่คุมขังผู้มีความผิดขั้นลหุโทษ    คุ้มเจ้าหลวงเคยใช้เป็นที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เมื่อคราวที่เสด็จมาเยี่ยมเยียนราษฎรจังหวัดแพร่ ในระหว่างวันที่ 15-17 มีนาคม 2501 และได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีให้เป็นสถาปัตยกรรมดีเด่นประเภทอาคารสถาบันและสาธารณะ จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:55:04 ]

ความคิดเห็นที่ 46 .. จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 47 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:57:36 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เราไปเข้าวัดกันอีกที่วัดพระธาตุช่อแฮ  (26)   ช่วงนี้อยู่ระหว่างบูรณะซ่อมแซมองค์พระธาตุอยู่ วัดพระธาตุช่อแฮ  อยู่ที่ตำบลช่อแฮ ห่างจากตัวเมืองแพร่ไปตามถนนช่อแฮ ประมาณ 9 กิโลเมตร (เส้นทางหลวงหมายเลข 1022) เป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแพร่ และเป็นพระธาตุประจำปีขาล ตามตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1879 - 1881 ในสมัยพระมหาธรรมราชาธิราช (ลิไท) โดยขุนลัวะอ้ายก๊อม พระธาตุช่อแฮเป็นเจดีย์ที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุพระศอกซ้ายของพระพุทธเจ้า เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม ย่อมุมไม้สิบสอง ศิลปะเชียงแสน สูง 33 เมตร ฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 11 เมตร สร้างด้วยอิฐโบกปูนหุ้มด้วยแผ่นทองเหลืองลงรักปิดทอง สำหรับชื่อพระธาตุช่อแฮนั้น บ้างว่าได้มาจากชื่อผ้าแพรชั้นดีซึ่งทอจากสิบสองปันนา และชาวบ้านนำมาผูกบูชาพระธาตุ บ้างก็ว่ามาจากผ้าแพรที่ขุนลัวะอ้ายก๊อมนำมาถวาย จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 18:59:10 ]

ความคิดเห็นที่ 49 .. จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 50 .... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:02:03 ]

ความคิดเห็นที่ 51 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:02:59 ]

ความคิดเห็นที่ 52 .... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:04:34 ]

ความคิดเห็นที่ 53 สวยงามได้ความรู้มากมาย ขอบคุณครับ จากคุณ : tumauto - [ 15 ม.ค. 52 19:04:51 ]

ความคิดเห็นที่ 54 .. จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:06:03 ]

ความคิดเห็นที่ 55 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:08:56 ]

ความคิดเห็นที่ 56 แล้วไปต่อกันที่วัดพระธาตุจอมแจ้ง (27)  วัดพระธาตุจอมแจ้ง  อยู่ในท้องที่ตำบลช่อแฮ เลยพระธาตุช่อแฮไป 1 กิโลเมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 1331 ไม่ปรากฏชื่อผู้สร้าง องค์พระธาตุจอมแจ้งสีทอง สูง 29 เมตร ฐานกว้าง 10 เมตร เดิมเรียกว่า พระธาตุจวนแจ้งเนื่องจากสมัยที่พระพุทธองค์เสด็จถึงสถานที่นี้จวนสว่างพอดี ต่อมาเพี้ยนเป็นจอมแจ้ง เชื่อกันว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:10:25 ]

ความคิดเห็นที่ 57 .. จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 58 .... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:13:38 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เราไปแวะเที่ยววนอุทยานแพะเมืองผีกันต่อ  ก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน   แพะเมืองผีอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ เกิดจากสภาพภูมิประเทศซึ่งเป็นดิน และหินทรายถูกกัดเซาะตามธรรมชาติเป็นรูปร่างลักษณะต่างๆ เช่น ดอกเห็ด หน้าผา ดูแล้วแปลกตา ชื่อ แพะเมืองผี น่าจะมาจากภาษาพื้นเมืองแพะ แปลว่า ป่าละเมาะ ส่วนคำว่า เมืองผี แปลว่า เงียบเหงา วังเวงอาจเกิดจากสภาพภูมิประเทศที่ดูเร้นลับน่ากลัว     เรามาช่วงเย็นทำให้ไม่ร้อนมาก  และได้แสงมุมในการถ่านภาพสวยงามนะ    เราเดินกันเป็นวงกลม  เริ่มจากเดินขึ้นไปจุดชมวิว  แล้ว เดินย้อนมาข้างล่างมาดูต่อกันใกล้ๆ จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:15:40 ]

ความคิดเห็นที่ 60 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:17:44 ]

ความคิดเห็นที่ 61 .. จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:20:48 ]

ความคิดเห็นที่ 63 .... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:21:54 ]

ความคิดเห็นที่ 64 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:25:44 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:27:31 ]

ความคิดเห็นที่ 66 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:29:22 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:30:19 ]

ความคิดเห็นที่ 68 อ้อ  ที่แพะเมืองผีก้อมีต้นดิกเดียมด้วย    เราเลยเดินไปดู  และลูบต้นดิกเดียม    ดูเหมือนว่าต้นดิกเดียมที่นี่จะใหญ่กว่าที่วัดปรางค์นะ จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:32:02 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เที่ยวจนเกือบมืดเลย  หลังจากนั้นแวะกินที่ตลาดในเมือง    มีขนมหวานเจ้าอร่อย   เราสั่งลูกชิด ทับทิมกรอบ  พี่คนขายบอกว่าใส่ไอสครีมด้วยมั้ยอร่อยนะ  เราเลยบอกใส่ด้วย  อร่อยจัง  หายเหนื่อยกับการเที่ยวมาทั้งวันเลย    เข้าที่พักต่อ จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:36:04 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ร้านขนมเจ้าอร่อยในเมือง จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:37:55 ]

ความคิดเห็นที่ 71 วันที่ 4 มกราคม 2552 เช้าออกเดินทางประมาณ 7 โมงเศษ  ไปอำเภอเด่นชัย  ไปวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี (28)  ถึงวัดยังไม่ 8 โมงเลย  มีหมอกปกคลุมโดยทั่วไปเลย  สิ่งที่น่าชมภายในวัด คือ ศาลาพิพิธภัณฑ์สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลังรูปทรงล้านนา ภายในจัดแสดงโบราณวัตถุมีค่าของหัวเมืองฝ่ายเหนือไว้มากมาย เช่นพระพุทธรูปต่างๆ เครื่องเขิน เครื่องดนตรีล้านนา อาวุธโบราณ รูปภาพเจ้านายฝ่ายเหนือ และภาพเหตุการณ์ในอดีตต่างๆ จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:40:29 ]

ความคิดเห็นที่ 72 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 73 .... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 74 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:46:56 ]

ความคิดเห็นที่ 75 .. จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:48:19 ]

ความคิดเห็นที่ 76 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:51:09 ]

ความคิดเห็นที่ 77 .. จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 78 .... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:56:48 ]

ความคิดเห็นที่ 79 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 19:58:14 ]

ความคิดเห็นที่ 80 .... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 20:00:17 ]

ความคิดเห็นที่ 81 .......... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 20:02:12 ]

ความคิดเห็นที่ 82 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 20:04:17 ]

ความคิดเห็นที่ 83 .. จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 20:06:35 ]

ความคิดเห็นที่ 84 .... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 20:07:45 ]

ความคิดเห็นที่ 85 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 20:08:51 ]

ความคิดเห็นที่ 86 .... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 20:10:09 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 20:11:12 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เราเดินทางไปแก่งหลวง/ถ้ำเอราวัณ ต่อ      ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่ปาน   อำเภอลอง จ.แพร่ เป็นบริเวณที่มีโขดหินใหญ่น้อยเรียงรายอยู่ในแม่น้ำยม ซึ่งเมื่อน้ำไหลมาปะทะจะเกิดฟองฝอยสาดกระเซ็นสวยงาม เหมาะสำหรับจัดกิจกรรมนั่งแพ และล่องแก่ง   แต่เวลาเราจำกัดเลยไม่ได้เล่นกิจกรรม  adventure  ต่างๆ  ไว้คราวหน้าเจอกันแน่ จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 20:12:51 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ... จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 20:14:11 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ขอบคุณค่ะ สวยมากๆๆๆ อยากไปๆๆๆ จากคุณ : คบคนด้วยใจ - [ 15 ม.ค. 52 20:15:06 ]

ความคิดเห็นที่ 91 . จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 20:16:19 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เดินทางออกจากแก่งหลวง  กลับกรุงเทพฯ  รถติดแถวเด่นชัย-อุตรดิตถ์เล็กน้อย  เนื่องจากเป็นทางถนนไปเลนมาเลน  รถสวนทางมาตลอด  ประกอบกันเป็นทางขึ้นลงเขาตลอด  ทำความเร็วได้ไม่มาก     หลังจากนั้นก้อมาติดแถวนครสวรรค์เล็กน้อย เนื่องจากมีรถชนกัน    แล้วมาติดช่วงสุดท้ายคือแถวบางปลาม้า    ช่วงนี้รถชนกันเยอะมาก  เกือบทุก 2-3 กิโลเมตรมีอุบัติเหตุตลอด  ถึงกรุงเทพด้วยความสวัสดิภาพ  ประมาณ 5 โมงเย็นจ้า ขอบคุณคุณ[Cha]     คุณThe summit  คุณ tumauto   คุณคบคนด้วยใจ ที่แวะมาชม  แค่แวะมาซักนิด   คนpost ก้อชื่นใจมากๆนะ จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 20:24:51 ]

ความคิดเห็นที่ 93 สรุปทริปนี้ ตอนที่ 1 วันที่ 30 -31 ธันวาคม 2551 เดินทางจากกรุงเทพบ่ายวันที่ 30 ธันวาคม ผ่านนครสวรรค์ พิษณุโลก แพร่ และค้างคืนที่น่าน   31 ธันวาคม เที่ยวนาน้อย และอำเภอเมือง http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7413916/E7413916.html ตอนที่ 2 วันที่ 1 มกราคม 2552   เที่ยวท่าวังผา  เชียงกลาง ปัว บ่อเกลือ ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7416993/E7416993.html ตอนที่ 3 วันที่ 2 มกราคม 2552 เที่ยวสองแคว - โครงการหลวงปังค่า -ภูลังกา - เชียงคำ - ภูซาง - จุน -ตัวเมืองพะเยา http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7420666/E7420666.html ตอนที่ 4  วันที่  3 - 4 มกราคม 2552 วันที่ 3 เที่ยวเชียงราย(วัดร่องขุน)  - ลอง - ตัวเมืองแพร่ วันที่ 4 เที่ยวเด่นชัย   กลับกรุงเทพถึงตอนเย็น ขอบคุณทุกท่านที่มาชม   และทุกท่านที่โพสมาเป็นกำลังใจและแนะนำ สุดท้ายนี้อยากให้น่าน แพร่ พะเยา  คงความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเองอย่างนี้ตลอดไป    อยากให้ทุกคนมาชื่นชม ท่องเที่ยว  โดยอนุรักษ์สภาพและวัฒนธรรมไปให้ยาวนาน     ขอขอบคุณ นิตยสาร Trips  ,  เวปการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  http://thai.tourismthailand.org/  , http://www.trekkingthai.com จากคุณ : sanooki - [ 15 ม.ค. 52 20:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ติดตามอยู่ค๊า ^^ ชอบทริปนี้จังค่ะ จากคุณ : น้ำตาลสีทอง - [ 15 ม.ค. 52 20:43:58 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 16 ม.ค. 52 02:18:34 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ชมต่อคร้าบ แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 52 07:27:02 จากคุณ : [Cha] - [ 16 ม.ค. 52 07:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ที่วัดจอมแจ้ง จะมีหุ่นปั้น สวรรค์ นรก และเปรตที่ทำบาปต่างๆด้วย อยู่ข้างหลัง วังเวง ได้บรรยากาศมากๆ พิพิธภัณฑ์ ในโบสถ์วัดมิ่งเมืองก็สวยงามนะครับ หวังว่าคงไม่ลืม ว่ากันว่า ใต้วัดพระบาทมิ่งเมือง มีอุโมงค์ที่ลอดไปได้ถึงพระธาตุช่อแฮเลยทีเดียว จากคุณ : McPhu - [ 16 ม.ค. 52 07:41:22 ]

ความคิดเห็นที่ 98 คุณน้ำตาลสีทอง   ทริปนี้เหนื่อยเอาเรื่องเลยล่ะ  เดินเยอะเหมือนกัน   แต่ค่าใช้จ่ายไม่มากเท่าไหร่นะ   แฮ่ดีใจจังที่ Mr. Fusion   เข้ามาดูด้วย (อยากให้  comment หน่อย  แต่คงยากอ่ะ) คุณ [Cha] แฟนพันธ์แท้เลย  ติดตามต่อเนื่องเลยนะ  ขอบคุณ คุณMcPhu   ข้อมูลอัดแน่น  เต็มที่เลย   อุโมงค์น่าจะยาวมากนะ  จากวัดพระบาทมิ่งเมือง ถึงวัพระธาตุช่อแฮ  ขนาดขับรถยังว่าไกลพอควรเลยอ่ะ ทริปต่อไปจะรีวิวต่อ  อยากได้อารัยเพิ่มเติมกันบ้าง  อาจเป็นเชียงคาน  เลยหนองคาย  นครพนม สกลนคร  หนองบัวลำภู  วันนี้ไปงานเทศกาลท่องเที่ยวอีสาน 2552 : Amazing I-San Fair 2009 วันที่ 15-18 มกราคม 2552 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  มาก้อได้ข้อมูลมาพอควร   กำลังหาวันว่างอยู่ จากคุณ : sanooki - [ 16 ม.ค. 52 17:46:34 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ไม่มีนะครับอุโมงค์ที่ว่า ยืนยันว่าไม่มีนะครับ....คนโบราณไม่สามารถที่จะขุดอุโมงค์ยาวๆ (กว่า 10 กม.) ได้หรอกครับ....เปรียบเทียบกับการก่อสร้างรถใต้ดินในกทม.ดูก็แล้วกัน...มันเป็นเพียงคำเล่าที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลครับ.. จากคุณ : บุญหลง อิสระ - [ 17 ม.ค. 52 09:00:00 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เอ ยังไงกันแน่เนี่ย  เรื่องอุโมงค์  ขอคนน่านหรือผู้รู้ช่วยชี้แจงเพิ่มเติมหน่อยนะ จากคุณ : sanooki - [ 17 ม.ค. 52 23:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 101 รูปทะเลหมอก  อยากทราบว่าที่ไหนครับ ผมจะไป จากคุณ : ~o า ก า ศ ~ (ง.งูเดินย่อง) - [ 20 ม.ค. 52 14:25:15 ]