ไปนอนให้นกบินมาดูที่เขาใหญ่

8/1/52
ปกติช่วงวันเด็กจะมีนัดกับพี่ชมไพรและพี่เคเค นัดทริปวันเด็กชมพูเขาสีชมพูที่ดอยอินทนนท์
แต่ครั้งนี้สัญญาณการติดต่อสื่อสารขัดข้อง การนัดหมายไม่แน่นอน การลาพักร้อนก็กระท่อนกระแท่น
อย่ากระนั้นเลย...นัดนี้มีอันล้มเลิก แต่การออกเดินทางตามหาลมหนาวไม่เลิกล้ม
ขอทริปใกล้บ้านแทนละกัน “เขาใหญ่ ”
ทริปนี้มีกันแค่สองสาว เตรียมเต็นท์ ถุงนอน เปล เตาแก้ส กระเป๋าคิตตี้ผ้าใบที่ข้างในบรรจุกาแฟ มาม่า จานชามหม้อสนามและไม้1ท่อน เอาไว้เป็นเขียงเป็นฆ้อน เป็นไม้รองเทียน เป็นอาวุธป้องกันตัว..สารพัดประโยชน์จริงๆไม้นี้ได้มาจากน้ำหนาวเมื่อปีก่อนนู่น ท่อนไม้คู่บารมี
เตรียมสัมภาระพร้อม รถพร้อม คนพร้อม ไปโลด

ออกจากบ้านตอนบ่ายโมง ถึงเขาใหญ่หกโมงเย็น คนขับใจเย็น คนนั่งไปด้วยก็ใจเย็น ไม่มีการซื้อเสบียงเพิ่ม มีขนมกับผลไม้นิดหน่อย มาม่าค้างปีจากทริปน่านอีกสี่ถุง ผักกาดกระป๋อง1กระป๋อง
“ ไปกินกระเพราไก่เผ็ดๆกับไข่ดาวข้างบนเนอะ ”

..
ถึงลานกางเต็นท์ผากล้วยไม้ ติดต่อกางเต็นท์ 30 บาท/คน
เจ้าหน้าที่บอกว่ากางตรงไหนก็ได้ที่ไม่มีป้ายจอง แต่ลงสมอบกตรงที่มีป้ายจอง
เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่เป็นไรเพราะที่จองไว้จะมาวันศุกร์เย็นหรือเสาร์เช้า ถ้าเขาไม่มาก็อยู่ได้ถ้าคนที่จองมาก็ต้องย้าย
แต่เจ้าหน้าที่ก็ตอบไม่ได้ว่าจะมาหรือไม่มา ไม่เป็นไร
แผนสอง ถ้าจะให้ย้ายก็มาขนของช่วยละกันไม่งั้นไม่ย้าย( ว้อย! )

สองสาวสวย(ล่ำ) ช่วยกันกางเต็นท์ มีหนึ่งหนุ่มบอกว่า กางใกล้ห้องน้ำสิเวลาปิดไฟจะได้แสงไฟสว่างๆจากห้องน้ำ แล้วหนุ่มนั่นก็เดินจากไป มีส่งสายตามามองห่างๆว่าเรากางแถวไหน แต่ก็ไม่มาช่วยกางเต็นท์ เฮ้อ!

ขณะก้มๆเงยๆก็มีอีกหนึ่งหนุ่มเดินเฉียดเต็นท์อย่างใกล้แล้วก็จากไปเพราะเต็นท์ของหนุ่มนั่นอยู่ถัดเราไปไม่ไกล
ปั้ด!นึกว่าจะมาช่วย หนุ่มๆแถวเขาใหญ่ช่างแล้งน้ำจิตน้ำใจจริงๆเลย ไม่มีใครมาช่วยกางเต็นท์สักคน
กางเองก็ได้ฟระ.. การไม่มี “เก๋ ”มาด้วยมันแย่จริงๆ(เก๋ สาวสวยประจำกลุ่มที่หนุ่มๆมักแสดงน้ำใจต่อเธอเสมอ)
แถมไม่มี “ข้าทาส ”อย่างวิภามาด้วย มันแย่มากจริงๆ ( วิภา เพื่อนรุ่นน้องในกลุ่มที่มีหน้าที่พิเศษในการดูแลพี่ๆป้าๆ..อะจื๋ย! )

กางเต็นท์เสร็จ “กระเพราไก่แซ่บๆไข่ดาวฟูๆ” ..ฝันไปเถอะไม่มีเสียล่ะ ร้านค้าปิดไปตั้งแต่ห้าโมงครึ่ง
แป่ว... มาม่าค้างปีกับผักกาดกระป๋อง ปิดท้ายด้วยส้ม แอปเปิ้ล และขนมปัง

อาบ ไม่อาบ อาบ ไม่อาบ
ถามกันอยู่นั่น อาบน้ำดีหรือไม่อาบดี ในที่สุด “ อาบ”
ว้า! ผิดหวังไม่เย็นอย่างที่คิดกลัว น้ำที่น้ำหนาวกินขาด

..
ทุ่มนิดๆลมแรงอากาศเย็นมาก มุดเต็นท์ นอนเล่นๆ
ในบัดดลมีเสียงนกกระจอกแตกรัง รังใหญ่มาก เพิ่งมาถึงและเดินหาทำเลกางเต็นท์
เรานอนดูกลุ่มที่มาใหม่จากในเต็นท์ ดูเขาวุ่นวายหาที่กางเต็นท์ จุดเตาต้มน้ำทำกับข้าว
สามทุ่มยังไม่เลิกแล้ว เราสองคนมุดถุงนอนฟังเสียงพูดคุยจากเต็นท์รอบด้าน
หลับไปตอนกี่ทุ่มไม่รู้ แต่ตื่นตอนหกทุ่มเพราะเสียงกวางมาเดินข้างเต็นท์หาอาหาร
เชอะ!ไม่มีทางได้กินหรอก เพราะเราก็ไม่มีอะไรจะกินเหมือนกัน 5 5 5


..
9/1/52
ตื่นเช้าจุดเตาต้มน้ำชงกาแฟ
เพื่อนสาวไปซื้อเสบียงจากร้านค้าที่เปิด ได้ไข่เค็ม ไข่สดและโจ๊กกระป๋อง ตุนไว้ก่อน

ขณะนั่งกินกาแฟขนมปัง มีเจ้าลิงเดินวนเวียนใกล้ๆและอาศัยทีเผลอ ฉกมะขามคลุกในกระป๋องพลาสติกไป
แกะกินต่อหน้าต่อตาเรา หนอย.... มาใหม่สิ คราวนี้โดนดีแน่ๆ

เรานั่งๆนอนๆอยู่ในเต็นท์เพราะอากาศเย็นและลมแรง อ่านหนังสือที่ขนติดมาด้วย
จนสายกว่าสิบเอ็ดโมงชวนกันไปหาส้มตำกินแถวน้ำตกเหวสุวัต น้ำตกที่ฉันบอกว่าไม่ใช่เหวสุวัตแต่เป็นผากล้วยไม้ เพื่อนสาวขี้เกียจทะเลาะด้วยเลยชี้ให้ดูป้ายและพาเดินไปดู .. เออ..เหวสุวัตก็เหวสุวัต

ไม่มีส้มตำ เซ็งๆ ขับรถย้อนลงไปที่ทำการฯได้ส้มตำไก่อบ หมูทอด ข้าวเหนียวและกาแฟ
กลับไปที่เต็นท์ กางฟลายชีทกันน้ำค้าง นั่งทานอาหารว่างส้มตำไก่อบกันตอนบ่ายสองโมง

มีป้ากับลุง เพิ่งมาถึงและหาทำเลกางเต็นท์ และมีเจ้าหน้าที่เตือนเหมือนกับที่เตือนเราว่า
“ ถ้าคนที่จองสถานที่กางเต็นท์มาต้องย้ายที่นะครับ”
ไม่มีความชัดเจนอะไรให้ เราเลยบอกลุงกับป้ากางเต็นท์ติดเราเลย เราเตรียมแผนสองไว้แล้ว
ส่วนเพื่อนสาวที่ไปด้วยบอกว่าเธอก็มีแผนสองเหมือนกัน “ไม่ย้าย หน้ามึน มีอะไรหรือเปล่า”

โชคดีที่ไม่มีการไล่ที่เกิดขึ้น แผนสองเลยไม่ต้องใช้

คุยกับลุงกับป้าเต็นท์ข้างๆสนุกดี
อืมม..หอมเนื้อย่างจากเต็นท์เหนือลม

อาหารค่ำมื้อนี้คือ โจ๊กไก่ และไก่อบ ( ไก่อบที่เหลือจากตอนกลางวัน )
และไก่ครึ่งซีกไม่หมดยังมีเหลือเก็บใส่หม้อ ใส่ถุง ปิดฝาอย่างดี กวางหรือลิงจะชิงไปได้ก็ต่อเมื่อ
ยกถุงคิตตี้หนักกว่าสิบกิโลไปได้นั่นแหละ

คืนนี้เข้านอนตอนสองทุ่มกว่า
ถุงนอนศูนย์องศา อุ่นเหลือใจ
...
10/1/52..เย้!..วันนี้วันเด็ก
ตื่นแต่เช้าแต่นอนขดตัวอุ่นๆในเต็นท์ จนเพลงชาติขึ้นเราก็ยังอยู่ในเต็นท์
8.30 น. โผล่หน้าออกนอกเต็นท์อรุณสวัสดิ์ลุงกับป้าเต็นท์ข้างๆ
จุดเตาแก้ส เมนูเช้านี้ ข้าวต้มไก่ ข้าวสารกล้องผสมจมูกข้าว(ค้างปี)กับไก่อบที่เหลือจากเมื่อวาน
มาทริปนี้ “ยาจก”จริงๆเลย
ต้มน้ำให้เดือดใส่กระดูกไก่ ใส่ข้าว ต้มจนข้าวสุก ฉีกเนื้อไก่ใส่ลงไป เติมเกลือ เติมซอส ชิมรส
แซ่บมากๆๆๆๆ แบ่งให้ลุงกับป้าเต็นท์ข้างๆ ลุงกับป้าบอกว่าทานข้าวเช้าแล้วแต่ขัดเราไม่ได้
เลยฝืนทานข้าวต้มไก่จากเราจนเกลี้ยงชาม

กว่าพิธีการทานอาหารเช้าจะจบกว่าจะเก็บเต็นท์กว่าจะอะไรๆ ก็ปาไปสิบโมง

บอกลาลุงกับป้า “อย่าลืมแผนสองนะคะ ถ้าให้ย้ายก็ให้มาขนช่วย ไม่งั้นไม่ย้าย “”

บอกลาเขาใหญ่ ที่เคยมาแล้วสองครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม แต่ไม่รู้สึกคุ้นเคยที่นี่เลย
อาจต้องมาอีกหลายๆครั้งกระมัง

ทริปมานอนให้นกดู ไม่ค่อยมีนกบินมาดูเท่าไหร่ มีแต่ลิงขี้ดื้อมาด้อมๆมองๆ
มองหาหนุ่มๆก็มีแต่หนุ่มไร้น้ำใจ ที่คุยถูกคอก็เป็นลุงกับป้าเต็นท์ข้างๆป่านนี้ไม่รู้โดนไล่ที่หรือเปล่า

ขอบคุณ วิภา ที่ถึงตัวไม่มาก็ส่งเสียงตามสายอัพเดทข้อมูลเรื่อยๆ
ขอบคุณ อั้น คนพิเศษของใครบางคนที่โทร.อัพเดทข่าวสารกระหน่ำพอกันกับวิภา
(พวกอยากมาแต่มาไม่ได้)
ขอบคุณธิดา ที่ขับรถพาไป
…




แวะไปจิบกาแฟที่ primo costo แต่...ร้านปิด แป่ว! แอบมองผ่านรั้ว